ตำบล ไทรขึง อำเภอพระแสง จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี
ตำบล ไทรขึง อำเภอพระแพง จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี
ก พระราชดำรัส “เศรษฐกจิ พอเพียงน้ีให้ปฏบิ ัตเิ พียงครึ่งเดียว คือไมต่ ้องท้ังหมด หรอื แม้จะเศษหนึง่ สว่ นสก่ี ็พอ ได้ ปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั การพฒั นามาช้านานแล้ว มาบอกว่าเศรษฐกิจพอเพียงน่ีดมี าก แลว้ กเ็ ขา้ ใจวา่ ปฏบิ ตั เิ พยี งเศษ หน่ึงสว่ นส่ีก็พอนน้ั หมายความว่า ถา้ ทำไดเ้ ศษหน่ึงส่วนสี่ของประเทศก็จะพอ ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี งและทำได้เพยี งเศษหน่งึ สว่ นสีก่ พ็ อนน้ั ไม่ไดแ้ ปลว่า เศษหนึง่ สว่ นสข่ี องพ้ืนท่ี แต่เศษหนงึ่ สว่ นสี่ของการ กระทำ” พระราชดำรสั เน่ืองในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธนั วาคม 2541
ข คำนำผูเ้ ขียน รายงานฉบับนเี้ ปน็ ส่วนหนงึ่ ของรายวิชาการฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี เพ่ือเป็นประโยชน์ตอ่ บคุ คลท่สี นใจ ทีจ่ ะศึกษาเกย่ี วกับตำบลไทรขงึ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎรธ์ านี เพอ่ื ให้ผ้สู นใจไดอ้ ่านเอกสารเพมิ่ เติม ต่อไป คณะผ้จู ัดทำหวังเป็นอยา่ งยง่ิ ว่ารายงานฉบบั นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจเก่ียวกับตำบลไทรขงึ อำเภอพระ แสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซ่ึงทำให้ทราบถึงเน้อื หาตา่ ง ๆ และท่ไี ด้วเิ คราะหใ์ หผ้ ู้อา่ นนำมาใช้ประโยชน์ได้ต่อไป หากมขี ้อบกพร่องประการใด คณะผจู้ ดั ทำขออภัยไว้ ณ ท่นี ี้ด้วย คณะผู้จัดทำ นาย นนท์ คมกลา้ 1 พฤศจิกายน 2564
สารบัญ ค พระราชดำรสั หน้า คำนำผเู้ ขียน สารบญั ก ส่วนท1่ี ข้อมูลพ้ืนฐาน ข ค ประวตั ิความเปน็ มาของตำบล 1-2 ขนานและทีต่ ้ังของตำบล 2 ทรพั ยากรธรรมชาติท่ีสำคญั 3 ลกั ษณะภูมิประเทศ ภมู ิอากาศ 3 การเดนิ ทาง/การคมนาคม 3 ส่วนท2ี่ โครงสร้างของชมุ ชน 3-4 ด้านการเมืองการปกครอง 5 ขอ้ มูลประชากร 5-11 ด้านการศกึ ษา/ศาสนา/วฒั นธรรม 12-13 บรบิ ททางสังคม/ความเป็นอยู่ 14-20 ความเช่อื ประเพณี และพิธีกรรม 21-26 ส่วนท3่ี โครงสร้างเศรษฐกิจและอาชีพ 27-30 แหล่งทุนทางธรรมชาติ 31 แหลง่ อาหาร 31 ผลิตภัณฑช์ ุมชน ของดี ของข้นึ ช่ือ 31 สถานภาพทางเศรษฐกิจของประชาชน 31-32 สว่ นท4ี่ สถานทส่ี ำคัญๆ 32 แหลง่ ท่องเที่ยว 33 แหลง่ โบราณสถาน 33-37 ศาสนสถานของทุกศาสนา 37-39 แหล่งเรียนรู/้ โรงเรยี น/หอ้ งสมดุ ชุมชน 40-42 สว่ นท5ี่ การวิเคราะห์ศักยภาพชุมชน 43-46 สง่ิ ที่ชุมชนทำได้ดี(จุดแข็ง) 47 ส่ิงที่ชุมชนต้องพัฒนา(จุดอ่อน) 47 โอกาสของชมุ ชน 47 48
สารบัญตอ่ ง อุปสรรคและความท้าท้าย หนา้ บรรณานุกรม / อ้างอิง ภาคผนวก 48-49 50 51
1 ส่วนท1ี่ ขอ้ มลู พ้ืนฐาน ประวัติความเป็นมาของตำบล “พระแสง” เป็นอำเภอเก่าแก่อำเภอหน่ึงของจงั หวัดสุราษฎรธ์ านี ตั้งมาประมาณ 102 ปีเศษเดิมข้ึนอยู่ กับมณฑลนครศรีธรรมราช ครั้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2449 (ร.ส.124) ทางราชการได้โอนอำเภอพระแสงมา ขึ้นกับเมืองไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี คำว่า “พระแสง” นั้น ตามตำนานโบราณเล่าวา่ ในสมัยที่อำเภอพระแสง ขนึ้ กบั มณฑลนครศรีธรรมราช ทางราชการได้สง่ ผู้ปกครองมาปกครอง เพือ่ ดูแลความทกุ ข์สุขของราษฎรผู้ท่ีส่ง มาในครั้งนั้นคือ “พระแสงภิรมย์” ได้เข้ามาดำเนินการบุกเบิก แผ้วถางเพื่อสร้างทีว่ ่าการอำเภอโดยให้ราษฎร ช่วยกันตัดไม้ ขุดดิน ปรากฏว่าได้ขุดพบดาบเล่มหนึ่ง มีลักษณะไม่เหมือนดาบธรรมดา แต่มีลักษณะเป็นดาบ ของกษัตริย์จึงได้นำดาบเล่มนัน้ มาประดิษฐานไว้บนที่วา่ การอำเภอ และได้ขนานนามอำเภอว่าอำเภอพระแสง แต่นั้นมาต่อมาพระแสงดาบเล่มนี้จะถูกส่งไปอยู่ ณ ที่ใดไม่ปรากฏหลักฐานเนื่องจากสภาพพื้นที่ค่อนข้าง ทุรกันดาร ดังนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 พระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและ สมเด็จพระนางเจา้ สิริกิติ์ ได้เสด็จมาเยี่ยมราษฎรอำเภอพระแสง และได้พระราชทานรถแทรกเตอร์บูโดเซอร์ ดี 4 ไว้ 1 คัน สำหรบั บุกเบิกพัฒนาพื้นทซ่ี ึ่งนับเป็นลำธารแห่งการพฒั นาของอำเภอพระแสง คำว่า”ไทรขึง” มี ประวตั มิ าจากชมุ ชนดงั่ เดมิ บ้านไทรขึง มตี ้นไทรขนาดใหญ่ 1 ตน้ ขน้ึ อยูร่ ิมฝ่ังคลองอิปัน มีลำตน้ และกิ่งพาดขึง ข้ามลำคลองอปิ ันซ่ึงมลี ักษณะคดเค้ยี วน้ำไหลเชี่ยวมาก เม่ือถึงฤดูน้ำหลากใหญ่น้ำล้นฝั่ง นำ้ เซาะเข้าหาต้นไทร ที่มีรากใหญ่วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 1.50 เมตร พาดขวางลำคลอง อยู่ในฤดูแล้ง เรือยนต์ เรือบรรทุก สินคา้ สิ่งของตา่ งๆทส่ี ัญจรผา่ นบรเิ วณนนั้ ต้องลอดใต้รากไทรทขี่ งึ ขา้ มคลองอปิ นั ไม่มีใครกลา้ ตดั ตน้ ไทรเพราะ คนในสมยั โบราณนับถอื เซน่ ไหวบ้ ชู า มกี ารแบง่ เขตอำเภอและตั้งช่ือก่ิงอำเภอไทรขึง ตามเอกลกั ษณด์ ังกล่าว มี ตำบลอิปันกับตำบลสองแพรก ต่อมาได้ตัดแบ่งเขตตำบลใหม่ แยกเอาหมู่ท่ี4 ตำบลอิปันมาเป็นตำบลไทรขึง โดยเอาชอ่ื ก่ิงอำเภอไทรขงึ เปน็ ชื่อตำบลไทรขึง เปล่ยี นชอ่ื เปน็ อำเภอพระแสง จังหวดั สุราษฎร์ธานี เมือ่ วนั ที่ 17 กรกฎาคม 2517 มนี ายสขุ นิ บญุ ศรี เปน็ กำนนั คนแรกเม่ือปี พ.ศ. 2525ตำบลไทรขงึ เดิมคือบา้ นไทรขึง ได้เล่า
2 ต่อ ๆ กันมาว่ามีต้นไทรขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง วัดเส้นรอบวงลำต้นประมาณ 10 เมตร มีรากทอดยาวขวางลำ คลองอิบัน ชาวบ้านสามารถใชเ้ ปน็ สะพานข้ามลำน้ำไปมาได้ เคยเป็นที่ตัง้ ของอำเภอพระแสง ในปี พ.ศ.2442 จงึ เรยี กว่าไทรขงึ ตง้ั แตน่ น้ั เป็นตน้ มา ตง้ั เป็นตำบลไทรขึง ขนาดและท่ีตง้ั ของตำบล ตำบลไทรขงึ มีสภาพภูมิประเทศเปน็ ท่รี าบลุ่มและเนนิ เขา มเี น้อื ท่ี 144 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 90,000ไร่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอพระแสง ระยะทางจากอำเภอประมาณ 15 ก.ม.องค์การ บริหารส่วนตำบลไทรขึง เป็นศูนย์กลางของชุมเส้นทางคมนาคมแยกไปจังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา เป็นที่ต้ัง ของสถานทรี่ าชการในตำบล เช่น โรงเรียน วัด สถานอี นามัย ตัง้ อย่ทู างทศิ ตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอพระแสง 15 กิโลเมตร และอยู่ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี 113 กิโลเมตรมีเนื้อท่ี 144 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 90,000 ไร่ถนนสายหลกั คือ ทางหลวงหมายเลข 4035,4037 ผ่านและมีคลองอิ ปัน คลองโตรม เป็นลำน้ำที่มีความสำคัญในการประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรมและประมง ทิศเหนือติดกับ ตำบลสาคู อำเภอพระแสง และ ตำบลพ่วงพรหมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทิศใต้ ติดกับ ตำบล สองแพรก , ตำบลไทรทอง อำเภอชยั บุรี จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี ทศิ ตะวันออก ติดกับ ตำบลสาคู , ตำบลอปิ ัน , ตำบลสินปนุ อำเภอพระแสง จงั หวัดสุราษฎร์ธานี ทศิ ตะวนั ตก ติดกบั ตำบลไทรโสภา อำเภอพระแสง จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี ทีม่ า (องค์การบรหิ ารส่วนตำบลไทรขึง อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี, 2562)
3 ทรัพยากรธรรมชาตทิ ีส่ ำคัญ องค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึง มงุ่ พัฒนาศกั ยภาพในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและรว่ มรณรงค์ ปลกู ป่าเฉลมิ พระเกียรตแิ ละลักษณะทางกายภาพ ปรับปรุงพ้นื ท่ี และการก่อสร้างสาธารณปู การส่งเสริมใหเ้ กดิ ความสวยงามและเสริมสร้างบรรยากาศการท่องเทีย่ วและให้มีความน่าอยอู่ าศยั เออ้ื อำนวยให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย ทรพั ยากรธรรมชาติในพืน้ ท่ี (แสดงทรัพยากรธรรมชาติทม่ี ีอยู่ใน อบต.) มภี ูเขาควนผู้ และหานมวง ม.2 อ่างเก็บน้ำบางลอ ลกั ษณะภูมิประเทศ ภมู อิ ากาศ องค์การบรหิ ารส่วนตำบลไทรขึงสภาพทัว่ ไปของภูมปิ ระเทศเป็นทร่ี าบริมคลองและเนินภูเขามีคลองอิ ปัน คลองโตรม ไหลผ่าน และมีอ่างเก็บน้ำบางลอ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญต้ังอยู่ที่ ม.5,9,13,12 บริเวณ ชุมชนบ้านสามพัน บ้านควนสว่างวัฒนา บ้านนิคม ซึ่งเป็นย่านชุมชน มีสถานประกอบการต่าง ๆจากลักษณะ ภูมิประเทศดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความเหมาะสมในการจัดให้เป็นย่านชุมชนที่พักอาศัย ของประชาชนให้เป็น สถานทพ่ี ักผ่อนของประชาชน ภูมิอากาศ องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลไทรขงึ ได้รับอทิ ธิพลจากลมมรสมุ แบง่ เป็น 2 ฤดูกาล คือ 1.ฤดฝู น เริ่มต้ังแตเ่ ดือน พฤษภาคม – พฤศจกิ ายน ของทุกปี 2.ฤดูรอ้ น เร่มิ ตัง้ แตเ่ ดือน ธันวาคม - เมษายน ของทุกปี อุณหภูมิสูงสุด ประมาณเดือน เมษายน ของทุกปี อุณหภมู ติ ่ำสุด ประมาณเดอื นมกราคม ของทุกปี การเดนิ ทาง/การคมนาคม ถนนลาดยางทางหลวงจังหวดั ระยะทางจากอำเภอ 15 กม. มรี ถโดยสารประจำทางว่งิ ตลอดทัง้ ปตี าม เส้นทาง บา้ นส้อง-พระแสง-ชัยบรุ ี-กระบี่
4 การคมนาคมทสี่ ำคญั มอี งค์การบริหารส่วนตำบลไทรขงึ ห่างจากตัวจงั หวัด 113 กิโลเมตร มรี ถประจำ ทางสายสรุ าษฎร์ - กระบี่ ,สายกรุงเทพ - กระบี่ ผ่านพ้ืนทีอ่ บต. นอกจากน้ียงั มรี ถประจำทางขนาดเลก็ ประเภทสองแถว ให้บรกิ ารรบั สง่ ระหวา่ งอำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอชัยบรุ ี ตลอดวนั -ถนนลาดยาง ทางหลวงจังหวดั 2 สาย ระยะทางรวม 11 กม. -สาย 4035 -สาย 4037 -ทางหลวงชนบท สายเมรัย – โตรม -ถนนลาดยาง รพช.1 สาย ระยะทางรวม 22 กม. (สายวดั สามพนั ) -ถนนลาดยาง โยธาธกิ าร 1 สาย ระยะทางรวม 1.0 กม. (สายไสท้อน - ไสดง) -ถนนลาดยาง เขตนิคมสร้างตนเองพระแสง 7 สาย ระยะทางรวม 25 กม. -ถนนลกู รัง 56 สาย ระยะทางรวม 165.6 กม. -ถนนคอนกรตี เสรมิ เหล็ก ระยะทาง 1 กม. (สายบางลอ) (องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลไทรขงึ อำเภอพระแสง จงั หวดั สุราษฎร์ธานี, 2562)
5 ส่วนท2ี่ โครงสร้างของชุมชน ด้านการเมืองการปกครอง โครงสร้างและอัตรากำลังในการบริหารงานขององค์การบรหิ ารสว่ นตำบลไทรขงึ องค์กรทางด้าน การเมือง การบรหิ ารขององค์การบริหารสว่ นตำบลไทรขึง ประกอบด้วยสภาองค์การบริหารสว่ นตำบล คณะ ผู้บริหารองคก์ ารบริหารส่วนตาํ บลไทรขงึ มดี งั นี้ ลําดับ ช่อื – สกลุ ตาํ แหน่ง หมายเลขโทรศัพท์ 1 นายกนั ต์พล เบญจพันธ์ นายกองคการบริหารส่วนตําบล 08-5798-8688 2 นายสัญญา คุ้มชํานาญ รองนายกองคการบริหารส่วนตําบล 089594-7180 3 นายอนันท์ สังขจ์ นั ทร์ รองนายกองคการบรหิ ารส่วนตาํ บล 089875-6376 4 นางสาวทัศนา บาํ เพ็ญ เลขานุการรองนายกองคการบริหารส่วนตําบล 077310715 ทม่ี า ข้อมลู บุคคลากรhttp://www.saikhueng.go.th/manage.php
6 สภาองค์การบริหารส่วนตําบล ประกอบด้วย สมาชิกสภาองคการบริหารส่วนตําบลไทรขึง ที่ราษฎร เลือกตั้งขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาองคการบริหารส่วนตําบล จํานวน 13 หมู่บ้าน (หมู่บ้านละ 2 คน รวม 26 คน) โดยมรี ายชือ่ ต่อไปนี้ ลําดับ ช่อื – สกลุ ตําแหน่ง หมายเลขโทรศพั ท์ 1 นายชอบ พุฒทอง ประธานสภา อบต.ไทรขึง 08-9875-4584 2 นายปิยะพจน์ จรเปลย่ี ว รองประธานสภา อบต.ไทรขึง 08-9725-0389 3 นายสมควร ถิน่ สะท้อน สมาชิกสภาฯ หมู่ที่ 1 08-2271-1020 4 นายสิทธิโชค รักษายศ สมาชกิ สภาฯ หมู่ที่ 1 09-9408-2739 5 นายธงไชย ลิ่มวงศ์ สมาชกิ สภาฯ หมู่ท่ี 2 08-5784-3564 6 นายทศพร ใสหนู สมาชิกสภาฯ หมู่ที่ 3 08-1081-5931 7 นายเจตพงษ์ จินดา สมาชกิ สภาฯ หมู่ที่ 3 08-1079-5547 8 นายประสาน เขียวสวัสดิ์ สมาชกิ สภาฯ หมู่ท่ี 4 08-08841500 9 นายสาคร ด้วงทองกลุ สมาชิกสภาฯ หมู่ท่ี 4 08-0648-9395 10 นายสรุ นิ ทร์ เข็มเพชร สมาชกิ สภาฯ หมู่ที่ 5 08-7273-4534 11 นายสภุ าพ กวมอําไพ สมาชิกสภาฯ หมู่ท่ี 6 09-4039-8266 12 นายนพิ นธ์ ปลอดภยั สมาชกิ สภาฯ หมู่ที่ 6 08-2809-1872 13 นายชํานาญ เพชรกูล สมาชิกสภาฯ หมู่ที่ 7 08-0695-4502
7 ลําดับ ชอื่ – สกลุ ตําแหน่ง หมายเลขโทรศัพท์ 08-7892-0482 14 นายไพทูรย์ ชัยเมือง สมาชิกสภาฯ หมู่ที่ 7 08-7266-8179 08-4769-5989 15 นายณรงค์ชยั บญุ ฤทธิ์ สมาชกิ สภาฯ หมู่ท8่ี 08-0893-5981 08-7265-3675 16 นายศักดิส์ ง่า วงศส์ วสั ด์ิ สมาชิกสภาฯ หมู่ท่ี 8 09-1285-4774 06-2240-1737 17 นายสาคร กมุ ารน้อย สมาชิกสภาฯ หมู่ที่ 9 08-7274-8353 08-7276-3865 18 นายวิรตั น์ ชว่ ยผล สมาชกิ สภาฯ หมู่ที่ 9 08-1607-3705 08-7272-6908 19 นายสมบัติ ช่ืนอารมณ์ สมาชกิ สภาฯ หมู่ท1ี่ 0 08-7098-9531 08-9875-7412 20 นายพิศทุ ธิศักดิ์ เจรญิ สขุ สมาชกิ สภาฯ หมู่ท1่ี 0 21 นายปรดี า ชทู รพั ยทวี สมาชิกสภาฯ หมู่ที่ 11 22 นายสเุ ทพ เพชรชู สมาชกิ สภาฯ หมู่ท่ี 11 23 นายปรีชา มลวิ รรณ สมาชกิ สภาฯ หมู่ท1ี่ 2 24 นายเจรญิ พร ยศถา สมาชกิ สภาฯ หมู่ท1่ี 2 25 นายนกิ ร คงดี สมาชิกสภาฯ หมู่ท1ี่ 3 26 นายอุทิศ สมเขาใหญ่ สมาชกิ สภาฯ หมู่ท1ี่ 3
8 ที่มา ข้อมลู บุคคลากรhttp://www.saikhueng.go.th/manage.php
โดยตําบลไทรขงึ มีพนื้ ที่การปกครอง 13 หมู่บ้าน ดงั ตารางต่อไปนี้ 9 หมบู่ า้ น ช่อื – สกลุ ตําแหน่ง หมายเลข โทรศัพท์ หมู่ที่ 1 บ้านสามพัน นายสมชาย หอมประกอบ ผู้ใหญบ่ ้านหมู่ที่ 1 08-3388-1809 หมู่ท่ี 2 บา้ นขอนพอ นายปิยะรัก ลม้ิ วงศ์ กํานันตาํ บลไทรขงึ 08-9056-0901 หมู่ท่ี 3 บานควนสว่างวัฒนา นายประสทิ ธิ์ หอมประกอบ ผู้ใหญบ่ ้าน หมทู่ ี่ 3 08-282-1443 หมู่ที่ 4 บา้ นควนกอ นายพมิ ล เขยี วสวัสด์ิ ผู้ใหญบ่ ้าน หมทู่ ่ี 4 08-1011-8853 หมู่ท่ี 5 บ้านนิคมสร้าง นายชวน พุฒทอง ผู้ใหญบ่ ้าน หมทู่ ่ี 5 08-1787-2185 ตนเอง พระราชประสงค 1,5 หมู่ที่ 6 บ้านไสท้อน นายจุรยี ์ เพชรพัฒน ผู้ใหญบ่ ้าน หมทู่ ่ี 6 08-1091-2085 หมู่ท่ี 7 บ้านบางน้ำเยน็ นายวิรชั สวนนชุ ผู้ใหญบ่ ้าน หมทู่ ี่ 7 08-7110-9140 หมู่ท่ี 8 บา้ นควนยอ นายมโน เขม็ เพชร ผู้ใหญบ่ ้าน หมทู่ ี่ 8 09-1964-9873 หมทู่ ่ี 9 บา้ นนิคมสร้าง นายสุรสิงห์ รตั นรงั สี ผู้ใหญบ่ ้าน หมทู่ ี่ 9 08-1304-3566 ตนเองพระราชประสงค์ 2 หมทู่ ่ี 10 บ้านหาดเจริญ นายเลอพงษ์ มลิวลั ย์ ผู้ใหญบ่ ้าน หมู่ที่ 10 08-2289-4052 หมทู่ ี่ 11 บ้านไสดง นายคลอง ชูทรัพยทวี ผู้ใหญบ่ ้าน หมู่ที่ 11 08-6282-8900 หมู่ที่ 12 บ้านนิคมสร้าง นายสมใจ จันทร์ชว่ ง ผู้ใหญบ่ ้าน หมู่ท่ี 12 08-9287-5996 ตนเองพระราชประสงค์ 3
10 หมบู่ า้ น ช่อื – สกลุ ตําแหน่ง หมายเลข โทรศพั ท์ หมทู่ ี่ 13 บ้านนคิ มสร้าง นายพรสุริยนั ต์ ทองล้วน ผู้ใหญบ่ ้าน หมู่ท่ี 13 08-7289-4052 ตนเอง พระราชประสงค์ 4 เขตการปกครอง มีเขตการปกครอง พื้นที่ทั้งหมด 144 ตารางกิโลเมตร แบ่งออกเป็น รวม 13 หมู่บ้าน ซึ่งมีอาณาเขต ตดิ ต่อกบั ตาํ บลต่าง ๆดังน้ี ทศิ เหนอื ติดตอ่ ตาํ บลพ่วงพรมคร อาํ เภอเคียนซา จังหวัดเคยี นซา จงั หวัดสุราษฎรธานี ทิศตะวันออก ตดิ ต่อตําบลสาคู อําเภอพระแสง จังหวดั สุราษฎรธานี ทศิ ใต ตดิ ตอ่ ตําบลสองแพรก อําเภอชยั บรุ ี จงั หวดั สุราษฎรธานี ทิศตะวันตก ตดิ ต่อกบั ตําบลคลองน้อย อําเภอชยั บุรี จังหวัดสรุ าษฎรธานี การเลอื กตัง้ องค์การบริหารส่วนตําบลไทรขึง ได้แบ่งเขตการเลือกตั้งนายกองคการบริหารส่วนตําบลไทรขึงสมาชิก สภาองคก์ ารบริหารส่วนตาํ บลไทรขงึ ออกเปน็ 1 เขต 14 หนว่ ยเลือกตงั้ สำนกั งานปลัดองคก์ ารบริหารส่วนตำบล มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับราชการทั่วไปขององค์การบริหารส่วนตำบลและราชการที่มิได้ให้เป็น หน้าที่ของกองหรือส่วนราชการในในองค์การบริหารส่วนตำบลโดยเฉพาะรวมทั้งกำชับและเร่งรัดการปฏิบัติ ราชการของส่วนราชการในองค์การบริหารส่วนตำบล ให้เป็นไปตามนโยบาย แนวทางและแผนการปฏิบัติ ราชการขององคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบล มีหน้าท่รี ับผดิ ชอบเกี่ยวกับงานการจ่าย การรับ การนำสง่ เงิน การเก็บรักษาเงิน และเอกสารทางการเงิน การตรวจสอบใบสำคญั
11 ส่วนการคลัง ฎีกาเกี่ยวกับเงินเดือน ค่าจ้างค่าตอบแทน เงินบำเหน็จบำนาญเงินอื่น ๆ ทะเบียนคุมเงินรายได้และ รายจ่ายต่าง ๆ การควบคุมเบิกเงินงานทำงบทดลองประจำเดือนประจำปีงานเกี่ยวกับการพัสดุขององค์การ บริหารส่วนตำบล และงานอ่นื ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งและทไ่ี ด้รับมอบหมาย ส่วนโยธา มีหน้าทค่ี วามรับผิดชอบเกี่ยวกับการสำรวจ ออกแบบการจัดทำข้อมลู ทางด้านวิศวกรรม การจัดเก็บและ ทดสอบคุณภาพวัสดุ งานออกแบบและเขียนแบบ การตรวจสอบ การก่อสร้างงานควบคุมอาคารตามระเบียบ กฎหมาย งานแผนการปฏิบัติงานการก่อสร้างและซ่อมบำรุง การควบคุมการปฏิบัติงานเครื่องจักรกลการ ควบคมุ การบำรุงรกั ษาเครื่องจักรกลและยานพาหนะงานเกีย่ วกบั แผนงาน ควบคมุ เก็บรักษาการเบิกจ่ายวัสดุ อุปกรณ์ อะไหล่ นำ้ มนั เช้ือเพลงิ และงานอนื่ ท่ีเก่ยี วขอ้ งและทไี่ ดร้ บั มอบหมา
12 ขอ้ มลู ประชากร ข้อมลู เกย่ี วกบั จํานวนประชากรประชากรในเขตองค์การบรหิ ารสว่ นตําบลไทรขงึ หมทู่ ี่ ช่ือหมบู่ ้าน จำนวนประชากร รวมจาํ นวน จำนวน ชาย หญิง ประชากร ครัวเรอื น 1 บ้านสามพนั 578 605 1,183 424 2 บ้านขอนพอ 326 331 657 202 3 บา้ นควนสว่างวัฒนา 335 335 670 387 4 บา้ นควนกอ 302 274 576 195 5 บา้ นนคิ ม1,5 395 388 783 308 6 บา้ นไสทอ้ น 559 574 1,133 322 7 บ้านบางน้ำเย็น 488 480 968 330 8 บ้านควนยอ 428 443 871 312 9 บา้ นนิคม2 185 186 371 160 10 บ้านหาดเจรญิ 373 374 747 245 11 บา้ นไสดง 548 588 1,136 427 12 บา้ นนิคม3 165 162 327 144 13 บา้ นนคิ ม4 147 156 303 105 รวม 4,829 4,896 9,725 3,564 หมายเหตุ รายงานสถิติบ้านจากทะเบยี นและสถิตปิ ระชากรข้อมลู ณ วนั ท่ี 22 พฤษภาคม พ.ศ2564
13 ช่วงอายุและจาํ นวนประชากร ประชากรในองคการบรหิ ารส่วนตาํ บลไทรขึง สามารถแบ่งออกเป็นช่วงอายุต่างๆ ไดด้ ังนี้ จาํ นวนประชากร ชาย หญิง รวม หมายเหตุ จาํ นวนประชากรเยาวชน 1,245 1,152 2,397 (ชว่ งอายตุ ่ำกว่า 18 ปี ) จาํ นวนประชากร 3,081 3,135 6,216 (อายุ 18-60 ปี ) จาํ นวนประชากรผู้สูงอายุ 502 608 1,110 (อายุมากกว่า 60ปี ) รวม 4,828 4,895 9,723 ชว่ งอายุตามกลุ่มวยั แบ่งกลุ่มวยั ทตี่ ้องดแู ล 5 กลุ่ม ดงั นี้ กลมุ่ วัย ชาย หญิง รวม กลมุ่ เด็กปฐมวยั (0-5 ปี) 392 357 749 607 1257 กลมุ่ เดก็ วัยเรยี น (6 -14 ป)ี 650 478 974 กลมุ่ เดก็ วยั รุ่น/นักศึกษา (15-21 ป)ี 496 กลมุ่ วัยทาํ งาน (21-59 ปี) 2,788 2,845 5,633 กลมุ่ ผู้สงู อายุ (60 ปีขน้ึ ไป) 502 608 1,110 รวม 4,828 4,895 9,723 หมายเหตุ รายงานสถิตบิ ้านจากทะเบยี นและสถติ ปิ ระชากรข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ2564
14 ดา้ นการศึกษา/ศาสนา/วัฒนาธรรม การศกึ ษา/การศกึ ษาในพื้นที่ การจัดการศกึ ษาขององคก์ ารบรหิ ารส่วนตําบลไทรขงึ มีศนู ย์พัฒนาเดก็ เล็ก จํานวน 3 ศูนย์ ที่ ครอบคลุมทั้งตาํ บล รายละเอียดปรากฏตามตาราง ต่อไปนี้ ช่ือศยู น์ เดก็ เล็ก รวม พฒั นาเดก็ ทั้งส้ิน เลก็ อายุ 2 ปี รวม อายุ 3 ปี รวม อายุ 4 ปี รวม อายุ 5 ปี รวม ชาย หญงิ ชาย หญงิ ชา หญิ ชาย หญงิ ยง บานควนยอ 8 8 16 5 2 7 0 0 0 0 0 0 23 ไสทอน 22 11 33 13 10 23 0 0 0 0 0 0 56 อบต.ไทรขงึ 19 23 42 16 17 33 15 15 30 5 2 7 112 รวม 49 42 91 34 29 63 15 15 30 5 2 7 191 ทีม่ า : ระบบข้อมลู สารสนเทศทางการศึกษาทอ้ งถิน่ ศนู ย์พัฒนาเดก็ เล็กของ อปท. (ระบบ CCIS) วันท่ี 10 ม.ิ ย. 2562
15 โรงเรียนในขอ้ มลู โรงเรยี นสงั กัด สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) เขต3 จาํ นวน 7 แห่ง ดงั ต่อไปนี้ ชอ่ื โรงเรยี น จาํ นวนนักเรยี นรวมตามลาํ ดบั ชัน้ เรียน (คน) อนบุ าล อนุบาล อนบุ าล ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม. ม. ม.3 123 12 นิคมสร้างตนเอง 0 3 7 8 2 11 5 8 10 พระราชประสงค์ 1 บา้ นควนยอ 12 15 0 12 18 17 10 14 20 บา้ นควนสว่าง 0 3 4 12 8 4 3 6 6 วฒั นา บา้ นบางน้ำเย็น 15 17 15 17 14 13 18 12 13 บา้ นไสดง 0 31 31 37 23 23 32 30 28 บา้ นไสทอ้ น 0 33 39 31 27 30 34 22 27 วัดสามพัน 9 7 8 20 16 17 16 19 11 49 31 12 รวม 36 109 104 137 108 115 118 111 115 49 31 142 ทม่ี า : ฐานข้อมูลโรงเรียนในสังกัด อปท. และสถานศึกษาถ่ายโอน อาหารเสรมิ (นม)/อาหารกลางวนั (SIS:โรงเรียน) วันที่ 12 มิ.ย. 2562
16 สถาบนั และองค์กรทางศาสนา การนบั ถือศาสนา ประชาชนตําบลไทรขึงส่วนใหญ่ นับถือศาสนาพุทธ 99 % ตาํ บลไทรขึง มีศาสนสถานทางพทุ ธศาสนา ให้บริการแก่ประชาชน วดั 4 แห่ง และสํานกั สงฆ์ 1 แห่ง ดังตอ่ ไปนี้ ช่ือวัด/สํานัก อายุ สถานทต่ี ้ัง ชื่อพระภิกษ/ุ ตาํ แหน่ง สงฆ์ 1. วดั สามพนั 264ปี บา้ นสามพนั หมู่ท่ี1ตำบลไทรขึง 2. วัดศรทั ธาวนา 4 บา้ นนคิ มสร้างตนเองพระ พระอิธกิ สน เดชนฤทธ์ธิ รรมโชโต ราม ปี ราช ประสงค์ 1 ดาํ รงตาํ แหน่ง เจ้าอาวาส 3. วดั แสง 27 หมู่ที่ 5 ตําบลไทรขงึ พระสมหุ กาํ พล กิจจสาโร สะทอ้ น ปี ตําแหน่งเจ้าอาวาส บ้านไสท้อน หมู่ท่ี 6 ตําบลไทร 4. วัดธรรมเมธี 5 ขึง พระคมนศุ ร ฐานกโร นฤมิตร ปี รกั ษาการเจ้าอาวาส บ้านควนยอ หมู่ท่ี 8 ตําบลไทร 5. สํานกั สงฆ์ 7 ขึง พระสุชาติ กติ ติสาโร พรหม ปี พระประจําวัด บ้านบางน้ำเย็น หมู่ที่ 7 ตําบล สุวรรณประชา ไทรขึง ราม
17 วัฒนธรรม วัฒนธรรมและประเพณีที่สำคัญ 1.ประเพณีสงกรานต์ สงกรานต์สบื ทอดมาแตโ่ บราณคู่กับตรุษ จงึ เรียกรวมกันว่า ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึงส่งท้ายปี เก่าต้อนรับปีใหม่ เดิมวันที่จัดเทศกาลกำหนดโดยการคำนวณทางดาราศาสตร์ แต่ปัจจุบันระบุแน่นอนว่า 13 ถึง 15 เมษายน วันขึ้นปใี หม่ไทยเป็นวันเริ่มปีปฏทิ ินของไทยจนถึง พ.ศ. 2431จากนั้นวันท่ี 1 เมษายน เป็นวัน ขนึ้ ปีใหมจ่ นถงึ พ.ศ. 2483พิธีสงกรานตเ์ ปน็ พิธีกรรมท่เี กิดข้นึ ในสมาชกิ ครอบครวั หรอื ชุมชนบ้านใกลเ้ รือนเคียง แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปสู่สังคมวงกว้าง ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษเป็นช่วงฤดูร้อน ประเพณี ดั้งเดิมจึงมีการใช้น้ำเป็นองค์ประกอบหลักในพิธี ใช้รดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริ มงคล ทำบุญตักบาตรไหว้พระ และขอพรจากผู้ใหญ่รำลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับ สังคมไทยสมัยใหม่เกิด ประเพณีกลับบ้านในเทศกาลสงกรานต์และนับวันสงกรานต์เป็นวันครอบครัวความสำคัญ ให้ความสำคัญกับ ผู้สูงอายุ สรงน้ำพระ ทำบุญตักบาตร รดน้ำขอพรผู้และมีกิจกรรมวันผู้สูงอายุ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ มอบ ของขวัญใหแ้ กผ่ สู้ ูงอายุทำบญุ ตกั บาตร 2.วนั ขน้ึ ปีใหม่ ประเพณวี นั ขน้ึ ปใี หม่ของไทยนนั้ มมี าตั้งแตส่ มัยโบราณโดยถอื เอาวันแรม ๑ คำ่ เดือนอา้ ยเปน็ วันขึ้นปี ใหมถ่ อื เหมันฤดูเป็นการเรม่ิ ตน้ ปี สมยั โบราณวันขึ้นปีใหม่ ถอื คติพราหมณ์ ใชว้ ันขน้ึ ๑ คำ่ เดือน ๕ เป็นวันขึ้น ปีใหม่และเป็นเชน่ นั้นตลอดมาจนกระท่ังปี พ.ศ.๒๔๓๒ แหง่ รชั กาลที่ ๕ จงึ เปลยี่ นมาเป็นวนั ที่ ๑ เมษายน ท้งั นี้ เน่ืองจากทางราชการนยิ มใช้หลักสุริยคติ แต่ยังคล้องตามคติพราหมณ์อยู่น่นั เอง เพราะเดอื น ๕ ก็ตรงกับเดือน เมษายนเรื่อยมา ต่อมาทางราชการประกาศเปลี่ยนแปลงวันขึ้นปีใหม่ เนื่องจากมีพระบรมราชโองการให้ตรา พระราชบัญญัติปฏิทิน พ.ศ.๒๔๘๓ และเริ่มใช้เมื่อ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๓ รัฐบาลจึงประกาศใช้วันที่ ๑ มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ ดังนั้น ในปี พ.ศ.๒๔๘๓ จึงมีเพียง ๙ เดือนเท่านั้น คือเดือนเมษายน ถึงเดือน ธันวาคม เพื่อให้สอดคล้องกับปฏิทินสากล ประกาศใช้วันที่ ๑ มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่อย่างเป็นทางการ ณ วนั ที่ ๒๔ ธนั วาคม พ.ศ.๒๔๘๓ โดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยน้ันเปน็ ผู้รับสนองพระบรม ราชโองการ การใช้วันที่ ๑ มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ ทำให้เข้าสู่ระดับสากลที่ใช้ในนานาประเทศที่เจริญแล้ว ทัว่ โลก แต่กไ็ ม่สำคญั เท่าท่ีเราได้ฟื้นฟูวัฒนธรรม คตนิ ยิ ม และจารตี ประเพณีไทยแต่โบราณกาล ซงึ่ เราได้ละท้ิง เสียโดยอิทธิพลของพราหมณ์กลับมาใช้ใหม่การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ย่อมเป็นเกียรติแก่ประเทศไทย ทั้งในส่วน เกยี่ วข้องกับชาติของเราเอง และทางสมั พันธ์กับชาติท่ีเจริญแล้วทงั้ หลาย ไทยจึงถือวันท่ี ๑ มกราคม ของทุกปี เปน็ วันขน้ึ ปีใหม่ของไทยจวบจนทุกวนั น้ีมีความเชื่อว่าเมื่อปีใหม่มาถึง ความทุกข์โศกจะถูกทิ้งไว้กบั ปเี ก่า วันข้ึน ปีใหม่มาถึงจะรบั เอาแต่สง่ิ ใหม่ ๆ ความมีโชคและความสุขสำหรับประเพณวี นั ขน้ึ ปีใหม่กจิ กรรมในวันข้ึนปีใหม่ ทำบุญตักบาตรเพื่อเป็นสิริมงคล ส่งการ์ด ปฏิทิน อวยพรในวันขึ้นปีใหม่ให้แก่ประชาชนเป็นการส่งความสุข ความปรารถนาดีให้แกก่ นั อีกท้งั ยังเปน็ การแสดงใหเ้ หน็ ถึงการระลึกถึงกัน
18 3.วันเดก็ แห่งชาติ วันเด็กแห่งชาติ ของประเทศไทย ตรงกับวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปี เป็น วันหยุดราชการที่ไม่ได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป มีการให้คำขวัญวันเดก็ ทุกปีโดยนายกรัฐมนตรไี ทย เริ่มต้นจัด งานวนั เดก็ ครั้งแรกเม่ือวันที่ 3 ตลุ าคม พ.ศ. 2498 โดยได้กำหนดใหเ้ ป็นวันจนั ทร์แรกของเดือนตุลาคม เป็นวัน เด็กแหง่ ชาติจนกระท่ังในปี พ.ศ. 2508 ได้มมี ตเิ ปลี่ยนแปลงเป็นวันเด็กแห่งชาติมาเป็นวนั เสาร์ที่สองของเดือน มกราคม โดยเริ่มจัดงานวันเด็กในปี พ.ศ. 2509 ในปี พ.ศ. 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เนื่องในวนั เด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2563 เพื่อเชิญไปลงพิมพ์ในหนังสอื วนั เดก็ แห่งชาติปี พ.ศ. 2563 โดยมใี จความวา่ \"ความรู้และคณุ ธรรมเป็นรากฐานสำคัญของ ความดีความเจริญทุก อยา่ ง เดก็ ทกุ คนจึงต้องหม่ันศึกษาอบรม ให้ถงึ พร้อมดว้ ยความร้แู ละคุณธรรม เพอื่ จะไดเ้ ตบิ โตข้ึน เป็นผู้ใหญ่ท่ี มีคุณภาพ ผู้สามารถสร้างสรรค์ความดีความเจริญ ให้แก่ตนและแก่ส่วนรวม อบต.สนับสนุนให้โรงเรยี นในเขต องค์การบริหารส่วนตำบล ดำเนินการจัดงาน เพื่อต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของเด็กซึ่งเป็น อนาคตของชาติ และจัดงานสำหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทั้ง 6 แห่งกิจกรรมในวันเด็ก กิจกรรมนันทนาการ เพื่อให้เด็กได้มีส่วนร่วมและมอบของขวัญและเลี้ยงอาหารขนม แก่ผู้มาร่วมงาน เปิดสถานที่สำคัญต่าง ๆ ให้ เด็กเข้าเยีย่ มชม 4.วนั วิสาขบูชา มีขึ้นเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวัน เดียวกันและเดือนเดยี วกันนับว่าเป็นวันสำคญั สากลทางพระพุทธศาสนา สำหรับชาวพทุ ธทุกนิกายทั่วโลกเปน็ วันหยุดราชการในหลายๆ ประเทศ อีกทั้งยังเป็นวันสำคัญในระดับนานาชาติตามข้อมติของสมัชชาใหญ่แห่ง สหประชาชาติ เน่อื งจากเป็นวันคลา้ ยวันทเี่ กิดเหตกุ ารณ์สำคัญทีส่ ุดในพระพทุ ธศาสนา 3 เหตุการณ์ ได้แก่ การ ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธโคดม ซึ่งทัง้ 3 เหตุการณ์นไ้ี ดเ้ กิดขึน้ ตรงกัน ณ วันขน้ึ 15 คำ่ เดือน 6 หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ (ต่างปีกัน) ชาวพุทธจึงถือว่าเป็นวันที่รวมการเกิดเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ยงิ่ และเรยี กการบชู าในวันน้วี ่า วิสาขบชู า ยอ่ มาจาก วสิ าขปรุ ณมีบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพญ็ เดอื นวสิ าขะ ประวัติวันวิสาขบชู าในประเทศไทย กิจกรรมท่ีทำ 1. ตักบาตร กรวดน้ำอุทิศบญุ กศุ ลให้กับญาติผูล้ ว่ งลบั และเจ้ากรรมนายเวร 2. ทำบญุ ถวายภตั ตาหาร ถวายสังฆทานท่ีวัดใกลบ้ า้ น พร้อมตั้งใจฟังธรรมเทศนา 3. สรา้ งบญุ กศุ ลด้วยการปล่อยนกปลอ่ ยปลา 4. รว่ มบำเพญ็ สาธารณประโยชน์ตา่ ง ๆ 5. รว่ มพธิ ีเวยี นเทียนรอบอโุ บสถในเวลาค่ำ 5.วันอาสาฬหบชู า หลังจากพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวันวิสาขบูชา ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้ฟังปฐมเทศนา จากพระสัมมาสัมพุทธเจา้ จนกระทั่ง โกณฑัญญะได้บรรลุดวงตาเห็นธรรมเปน็ พระอริยบคุ คลระดบั โสดาบนั จึง
19 ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้า นับได้ว่าวันอาสาฬหบูชาเป็นวันแรกที่มีพระภิกษุเกิดขึ้นใน พระพุทธศาสนาในประเทศไทยเพงิ่ เริ่มมีพธิ กี รรมในวนั อาสาฬหบชู าเปน็ ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2501 ตามประกาศ ของสงั ฆมนตรี ทไี่ ดก้ ำหนดให้วนั อาสาฬหบูชาเปน็ วันสำคัญในศาสนาพุทธ ออกประกาศในวันท่ี 14 กรกฎาคม 2501 นบั ตง้ั แตว่ ันนัน้ พทุ ธศาสนิกชนในประเทศไทยกก็ ำหนดพิธีข้ึนอย่างเป็นทางการโดยมกี ารปฏิบัติกิจกรรม ทางศาสนาเทียบเท่ากับวันวิสาขบูชา เพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้าซึ่งได้ประกาศศาสนาคร้ังแรก เกิดมีพระ รตั นตรัย คือพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ กิจกรรมที่ทำ 1.ทำบุญตักบาตรในช่วงเชา้ 2.ไปวัดรบั ศลี งดการทำบาปทงั้ ปวง 3.ถวายสังฆทาน หรือใหท้ าน 4.ฟงั ธรรมเทศนา 5.เวียนเทียนรอบอโุ บสถในเวลาเยน็ 6.วนั แมแ่ หง่ ชาติ วนั เฉลมิ พระชนมพรรษา สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ (12 สิงหาคม) เพ่ือระลึกถึงวัน คลา้ ยวนั พระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ ซงึ่ พระองคท์ รงตระหนักถึงหน้าที่อัน พึงมีต่อประเทศชาติและประชาชน และเป็นวันแม่แห่งชาติ มีสัญลักษณ์เป็น ดอกมะลิ เพื่อเป็นการระลึกถึง พระคุณแม่ และส่งเสริมบทบาทของแม่ที่มีต่อลูก ครอบครัวและสังคม กิจกรรมที่ต้องทำ พิธีสดุดีพระเกียรติ สมเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกิติ์ พระบรมราชินีนาถตามสถานทีท่ ไี่ ดก้ ำหนด บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในชุมชน 7.เทศกาลทอดกฐิน เป็นประเพณีการบำเพ็ญกุศลอย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชนไทย และเป็นหน้าที่ที่พุทธศาสนิกชนพึงกระทำ เป็นประเพณนี ำผ้าไปถวายแด่ภิกษุที่อยู่จำพรรษาตลอดพรรษา เพ่อื สงเคราะห์ภิกษุให้ไดผ้ ้าผืนใหม่แทนผืนเก่า ทช่ี ำรดุ กิจกรรมท่ีตอ้ งทำพิธที อดกฐนิ เปน็ โดยมากจึงจดั งานเปน็ 2 วนั วนั ต้นตง้ั องคพ์ ระกฐินทบี่ ้านของเจ้าภาพ ก็ได้ จะไปตั้งที่วัดก็ได้ กลางคืนมีการมหรสพครึกครื้นสนุกสนาน ญาติพี่น้องและมิตรสหายก็มักจะมาร่วม อนุโมทนา รุ่งขึ้นเป็นที่วัดทอด ถ้าไปทางบก ก็มีแห่ทางขบวนรถหรือเดินขบวนกันไป มีแตรวงหรืออื่น ๆ เป็น การครึกครื้น ถ้าไปทางเรือก็มีแห่งทางขบวนเรือสนุกสนาน โดยมากมักแห่ไปตอนเช้า และเลี้ยงพระเพล การ ทอดกฐิน จะทอดในตอนเช้านั้นก็ได้ ทอดเพลแล้วก็ได้ สุดแล้วแต่สะดวก การเลี้ยงพระ ถ้าเป็นอย่างในชนบท ชาวบา้ นจัดภัตตาหารเลยี้ งด้วย เจ้าของงานกฐนิ ก็จดั ไปด้วย อาหารมากมายเหลือเฟือแม้ข้อน้ีก็สุดแต่กาลเทศะ แห่งทอ้ งถ่นิ 8.ประเพณีวันลอยกระทง เป็นประเพณีที่สำคัญ มีความเชื่อว่าได้บูชาพระเกศแก้วจุฬามหาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บูชารอยพระ พุทธบาทที่ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำนันมทานที หรือเป็นการตอบแทนและขอขมาต่อพระแม่คงคาที่ให้มีน้ำ ใช้ในการอุปโภคบริโภคและละเมิดทิ้งสิ่งปฏิกูลไปในแม่น้ำ กิจกรรมที่ต้องทำ(ช่วงเช้า) ทำบุญตักบาตร ลอย
20 กระทงและกิจกรรมนันทนาการ(ช่วงค่ำ) ประกวดนางนพมาศและมีกิจกรรมกิจแสดงบนเวทีต่าง ๆ ของทั้ง13 หม่บู า้ นและมีการแจกของรางวลั แสดงทำให้การประกวดน่นั มีความสนกุ มากย่งิ ขนึ้ 9.ประเพณวี นั พอ่ แห่งชาติ (5 ธันวาคม) วันเฉลมิ พระชนมพรรษาของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ภมู ิพลอดุลยเดช (5 ธันวาคม ) เพ่อื ระลึกวันคล้ายวันพระราชสมภพซง่ึ พระองคท์ รงปฏิบตั ิพระราชกรณียกิจที่ทรงคุณประโยชน์อย่างมากมาย ให้กบั พสกนกิ รชาวไทย เพ่ือใหป้ ระชาชนมคี วามเป็นอยู่ที่ดขี ึน้ เช่น ด้านการศึกษา การพัฒนาอาชีพการพัฒนา สิ่งแวดล้อม การพัฒนาแหล่งน้ำ และเป็นวันพ่อแห่งชาติ ซ่ึงมีสัญลักษณ์เป็น “ดอกพุทธรักษา”กิจกรรมที่ตอ้ ง ทำ พิธีสดุดี ณ สถานที่ราชการกำหนดขึ้น เปิดสถานที่สำคัญ ๆ ขององค์การบริหารส่วนตำบลกิจกรรมการ พัฒนาและกิจกรรมอน่ื ๆ ทส่ี ำคัญ (องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลไทรขึง อำเภอพระแสง จังหวดั สุราษฎร์ธานี, 2562)
21 บรบิ ททางสังคม/ความเป็นอยู่ ไทมไ์ ลน์และเหตุการณ์สำคญั หมู่ที่ 1 บ้านสามพนั ผูใ้ หข้ อ้ มลู นายธีรภทั ร บานชน่ื ในพุทธศักราชที่ 2300 จัดสร้างวัดสามพัน มีเจ้าอาวาสรูปแรกคือ พระอุปัชฌาย์ ก่อตั้งโรงเรียนวัด สามพัน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสัม เจ้าอาวาสรูปที่สอง คือ พระครูประจักรวรคุณเจ้าอาวาสรูปที่สาม คือ พระครูโอภาสวิริยคุณ ได้มีการจัดตั้งหมู่บ้านเป็นหมู่ท่ี 1และได้มีโครงการพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หวั ภูมิพลอดุลยเดช นายหลวงรชั กาลท่9ี และสมเด็จพระนางเจา้ สิริกติ ิ์ พระบรมราชินี ทรงเสด็จประพาส วัดสามพันและปลูกต้นราชพฤกษ์ ได้มีผู้ใหญ่บ้านคนแรก คือนายสุขิน บุญศรี และดำรงต่ำแหน่งกำนันตำบล ไทรขึง ได้มีการพัฒนาแหล่งน้ำน้ำหัก และหนองน้ำเกาะโหลนไฟ้ฟ้าเข้าถึงทุกครัวเรือน เจ้าอาวาสรูปที่สี่ คือ พระครจู รญู ได้มีการทำถนน ซอยโกหลาและซอยวัดสามพนั ได้มีการสร้างศาลาหมู่บ้านและเกิดอุทกภัยน้ำท่วม ครั้งใหญ่ ได้รบั ความเดือดร้อนมีการปรับปรุงผิวจราจรถนนสายสามพัน ร.ต.อ.อนุวรรตน์ รกั ษายศ ถวายต้นศรี มหาโพธ์ิ ในปจั จุบันผใู้ หญ่คนท่สี าม คอื นายธรี ภทั ร บานช่นื และพฒั นาหนองน้ำและโคกหนองนาโมเดล ไทม์ไลน์และเหตุการณ์ท่ีสำคัญ หมู่ที่ 2 บา้ นขอนพอ ผูใ้ ห้ข้อมูล นายสัญญา ทองรกั ษ์ พุทธศักราชที่ 2520 ก่อตั้งหมู่ที่ 2 บ้านขอนพอ มีผู้ใหญ่บ้านคนแรก ชื่อ นายรม ชูศรี และได้บุกเบิก ถนนโดยชาวบ้านพทุ ธศักราช2527 มผี ้ใู หญบ่ ้านคนทสี่ อง ชื่อ นาย สมนึก สุวรรณพงษ์ มกี ารตง้ั กลุ่มออมทรัพย์ ไฟฟ้าเขา้ หม่บู ้านครง้ั แรกโดย ผ.ญ สมนึก สวุ รรณพงษ์ พุทธศกั ราช2538 มีโครงการโครงการแก้ไขปญั หาความ ยากจน(กข.คจ.)โดยมงี บประมาณจาก จงั หวัดสุราษฎร์ธานี (280000)บาทสร้างหอประชุมหมู่บ้าน พทุ ธศกั ราช 2550 ได้มกี ารจัดเลือกต้ังและโดยมีนาย ปยิ ะรักษ์ ลิม้ วงษ์ ได้รับแตง่ ต้ังใหเ้ ป็นผู้ใหญบ่ ้านคนท่ีสาม ผู้ใหญ่บ้าน ได้ สร้างสวนปาล์มพื้นท่ีสาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ปิยะรักษ์ ลิ้มวงษ์ ได้ตำแหน่งกำนันจนถงึ ปัจจุบันและได้มีการจัดทำน้ำประปาภายในหมู่บ้านครั้งแรกขึ้น พุทธศักราช2554 ได้มีเหตุอุทกตภัยน้ำท่วม ใหญ่ในพื้นทำให้ที่อาศัยเสียหายและมีทหารเข้ามาช่วยเหลือโดยได้สร้างที่อยู่อาศัยให้ประชาชน6หลังใด้ โครงการ SML มอบเรือจำนวน 3 ลำ มีการมอบถุงพระราชทาน มีถนนยางมะตอยเข้าหมู่บ้านครั้งแรก ปรับปรุงศาลาหมู่บ้าน - ปรับปรุงทางเข้าศาลาหมู่บ้าน - ให้งบประมาณ 400,000 บาท ในการพัฒนามี โครงการเศรษฐกิจพอเพียงให้งบประมาณสนับสนนุ จาก พัฒนาชุมชน มีกองทุนหมู่สมทบกับกองทุนเงนิ ล้าน - สรา้ งโรงเรือน เล้ียงหมู เล้ียงปลา เลี้ยงไกท่ อดผ้าปา่ ขยะกองทุนแม่ของแผน่ ดิน คดั แยกขยะ ประกวดแฟนตาซี เป็นกิจกรรมของทางหมู่บ้านร่วมกันจัดขึ้นเอง (กิจกรรมภายใน) กองทุนแม่เงิน 800 บาท กลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรง สนับสนุนโดย พัฒนาชุมชน 2561 มีชุด ช.ร.บ เฝ้าระวังเกิดขึ้นและมีการขุดลอกหนองชม่วงร่วมกับหมู่3 และ
22 ได้จดั ตั้งกลุ่มสตรีเครื่องแกงเครื่องจักรสานในพทุ ธศักราช 2563เปดิ โครงการ โคกหนองนาโมเดล สนับสนุนงบ โดยพฒั นาชมุ ชนมีการยนื่ เสนอโครงการสะพานแขวงเป็นปจั จบุ นั ที่กำลังจะทำ ไทม์ไลน์และเหตกุ ารณ์สำคัญ หมู่ที่ 3 บา้ นควนสว่าง ผ้ใู หข้ อ้ มูล นายประสิทธิ หอมประกอบ พุทธศักราช 2516 เริ่มก่อตั้งหมู่3ตำบลไทรขึงโดยพระครูโอภาส วิริยะคุณ ตั้งชื่อหมู่บ้านและตั้งชื่อ โรงเรียนบา้ นควนสว่างพัฒนา -ก่อต้ังโรงเรยี นบ้านควนสว่างวัฒนา -นายดำ บญุ ทองเล็ก เป็นผ้ใู หญบ่ า้ นคนแรก และนายว่นุ สที อง ได้รบั การจัดเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านคนท่ี2 พุทธศักราช 2525เรมิ่ มีไฟฟ้าใช้ในหมู่บ้านเร่ิมสร้าง ประปาใช้ในหมู่บา้ นและก่อต้ังอนามัยได้รับบรจิ าคท่ีดินจาก นายสนอง คุ้มชำนาญ ตอ่ มาได้ก่อตั้งป้อมตำรวจบ ริเวรสามแรกไฟแดงโดยได้รับบริจาคที่ดินจากนาย ประมูล หอมประกอบ นายประสิทธิ หอมประกอบ ได้รับ การคัดเลือกเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2537 สร้างไฟฟ้าจราจรสามแยกควนสว่าง สร้างโครงการกองทุนหมู่บ้าน (กองทนุ แม่ของแผน่ ดิน) สัจจะสจั จะหม่บู ้าน นายประสิทธิ หอมประกอบ ไดร้ ับการคัดเลือกเป็นผใู้ หญ่บ้านน้ำ ท่วมใหญ่ไฟดับทั้งหมูบ้าน ช่อง7สีมอบบ้านจำนวนสีหลัง สร้างท่าน้ำสาธารณะตรงบริเวณสะพานบ้านใหม่ โดยไดร้ ับงบประมาณจากSMLประมาณ400,000บาท ขดุ สระนำ้ สาธารณะไดร้ ับงบประมาณจากรฐั บาลจำนวน 380,000บาท ขุดลอกหนองน้ำสาธารณะหนองชมวง30ไร่ร่วมหมู่ที่2โดยได้งบประมาณจากรัฐบาล จำนวน 500,000 - สรา้ งโครงการโรงผสมปุ๋ยประชารฐั โดยไดร้ ับงบประมาณจากรฐั บาลจำนวน300,000ในพทุ ธศักราช 2563 ไดม้ ีการขุดลอกคลองบอดขางลอ โดยไดร้ ับงบประมาณจากรัฐบาล300,000บาท ไทมไ์ ลน์และเหตกุ ารณ์สำคัญ หมทู่ ี่ 4 บา้ นควนกอ ผ้ใู หข้ อ้ มลู นายพิมล เขียวสวสั ด์ิ พุทธศกั ราชท่ี 2474 มีชาวบา้ นยา้ ยถ่นิ ฐานเขา้ มาจบั จองที่ดินและมีผู้ใหญบ่ ้านคนแรก นาย ขอม ชูศรี ต่อมามีผู้ใหญ่บ้านคนที่2 นาย รม ชูศรีและได้มีการทำถนนสายหลัก4037 รวมทั้งการสร้างทีท่ ำการ อบต.ไทร ขงึ โดยโครงการมิยาซาว่า ในพุทธศักราช2540ได้มอี ุทกตภัยน้ำท่วม มีไฟฟ้าใช้ - มีผู้ใหญ่บ้านคนที่3 นายอุดม ชูศรี จัดทำเครื่องกรองน้ำในชุมชนโดยโครงการSME และมีผู้ใหญ่บ้านคนที่4 นาย พิมล เขียวสวัสดิ์ ขยาย ระบบน้ำประปา - น้ำท่วมรัฐบาลสร้างบ้านน๊อคดาวน์ให้กับชาวบ้านทีป่ ระสบภัยน้ำท่วม3หลงั จัดตั้งกลุม่ สตรี รว่ มใจและมีโครงการสรา้ งอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเลก็ มีโครงการมอบอุปกรณเ์ คร่ืองใช้ในครวั เรอื นจากรัฐ
23 ไทม์ไลน์และเหตกุ ารณ์ท่ีสำคัญ หมู่ท่ี 5 บา้ นนคิ ม1และนิคม5 ผ้ใู หข้ ้อมูล นายชวน พุฒทอง พุทธศักราชท่ี2522ได้มีการบุกเบิกตามโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่9เพื่อให้ได้จัดสรร ที่ดินให้สมาชิกของนิคมคนละ 20 ไร่มีการจัดงบประมาณการสร้างครัวเรือนและอาชีพ 100,000 บาทต่อ ครัวเรือนบุกเบิก120 ครัวเรือน ต่อมานายถวิลเขียวสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านคนแรกต่อมาสำนักงานนิคมหน้าเขื่อน บางลอพุทธศกั ราชท่ี 2527 ต่อมาไดส้ รา้ งอา่ งเกบ็ น้ำบางลอข้นี ในเน้ือทป่ี ระมาณ 1500 ไร่สรา้ งศาลาหอประชุม อนามัยโรงเรียนนิคมสร้างวัดนิคมโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนในชุมชนขุดสระเพื่อนำน้ำไปใช้ในชุมชน งบประมาณจากโครงการมิยาซาว่ามีถนนลาดยางมีไฟฟ้าเข้าถงึ ในหมู่บ้านจัดตัง้ กองเงนิ ทนุ รา้ นจัดตั้งกลุ่มออม ทรัพยส์ ร้างศนู ย์เด็กเล็กตอ่ มานายอรุณ ปจั ฉิม ผู้ใหญบ่ ้านคนทส่ี องสร้างหอประชุมอีกหน่ึงหลังท่ีนิคมผังห้าด้วย งบประมาณรวบรวมจากประชาชนในหมู่บ้านในพุทธศักราช 2552 นายชวนพุฒทองผู้ใหญ่บ้านคนที่สามและ คนปจั จบุ ันได้จัดตงั้ กลุ่มเสรีไดร้ ับรางวลั หมู่บา้ นตน้ แบบเศรษฐกิจพอเพียงและโครงการปลูกปา่ เฉลิมพระเกียรติ มีการรวบรวมตัวเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุที่สำนักงานนิคมก่อตั้งกลุ่มน้ำนมข้าวโพดปัจจุบันได้ทำการปิดกลุ่มแล้ว ก่อตั้งกลุ่มเครื่องจักสานปัจจุบันกลุ่มยังดำเนินอยู่สร้างอาคารอเนกประสงค์ โครงการผลิตน้ำดื่มยอดเหรียญ งบประมาณจากโครงการประชารฐั ปรบั ปรุงศาลาประชุมงบประมาณจากโครงการประชารัฐจดั ตัง้ กล่มุ ผ้าบาติก ปัจจุบันปิดกลุ่มไปแล้วได้มีโครงการขุดลอกรอบอ่างเก็บน้ำบางลอมีงบประมาณจากกรมชลประทานตาม ถนนลาดยางปรับปรุงถนนลาดคอนกรตี บรเิ วณอ่างเก็บน้ำบางลอ ไทมไ์ ลน์และเหตุการณท์ ส่ี ำคญั หมู่ท่ี 6 บา้ นไสทอ้ น ผใู้ ห้ขอ้ มลู นายจรุ ี เพชรพัฒน์ ในพุทธศักราชที่ 2497สร้างสำนักสงฆ์วัดแสงสะท้อนและสร้าโรงเรียบ้านไสท้อน เปลี่ยนจากสำนัก สงฆ์มาเป็นวัดมีผู้ใหญ่บ้านคนแรก ชื่อนายชุ่ม ดำไสย ได้เกิดคอมมิวนสิ ตใ์ นหมูบ่ า้ น มีผู้ใหญ่บ้านคนท่ี2ช่ือนาย ประภาส คอมมวิ นสิ ต์หมดไปเรมิ่ มชี าวบา้ นมาอยอู่ าศยั 4-5หลงั คาเรือน 1.นายเทอื น อินพฒั น์ 2.นายวาส เรอื ง แกว้ 3.นายเลือน เพชรพัฒน์ 4.นาย สถิตย์ อยู่แก้ว 5.นายเรือง ทองคำต่อมาในพุทธศักราชที่ 2526 มีไฟฟา้ ใช้ ในหมู่บ้าน มีผู้ใหญ่บ้านคนที่3 ชื่อนาย ฟอง คำชม มีโครงการน้ำล้น โครงการสร้างเขื่อนเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ใน หมู่บ้านงบประมาณ3ล้านบาท มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่เกิดขึ้น มีผู้ใหญ่คนท่ี5ชื่อนาย นิพนธ์ ปลอดภัย มีน้ำท่วม ไฟดับ10วัน มีกองทุนหมู่บ้านเกิดขึ้น ผู้ใหญ่บ้านคนที่6นาย จำนนท์ ดำชุม เปลี่ยนจากถนนทางเดินเป็นถนน ทางรถมีผู้ใหญ่บ้านคนที่7ชือ่ นาย จุรีย์ เพชรพัฒน์ มีน้ำประปาเข้าถึง สร้างถนนคอนกรีต สายหน้าโรงเรยี นไส ท้อนต่อมาได้สร้างสระน้ำสาธารณะที่วัดแสงสระท้อน งบประมาณ27ล้านบาท เปลี่ยนถนนลูกรังเป็นถนนดำ สายไสทอ้ นควนยอ สร้างสะพานข้ามคลองไสท้อนสาคู โครงการขดุ ลอกคูคลองวัดแสงสะท้อน สร้างถนนสีแยก
24 ไสทอ้ น สร้างโบสวดั แสงสะทอ้ น สร้างหอประชุมหมบู ้าน โครงการปลูกป่าใหว้ ดั โครงการถนนคอนกรีตไสท้อน ไสดง โครงการเสาไฟข้างถนนสายสแี่ ยกบา้ นไสทอ้ น ไทมไ์ ลน์และเหตุการณท์ ่ีสำคญั หมู่ที่ 7 บ้านบางนำ้ เยน็ ผ้ใู ห้ขอ้ มูล นายววิ ัช สวนนชุ ในพุทธศกั ราชที่ 2510 เดมิ เป็นชื่อคลองพล่งุ ใต้ ม.7 ต.ไทรขงึ ผู้ใหญ่บ้านคนแรก ชื่อนาย ขอบ เพชร ค้อมสร้างสำนักสงฆ์ สร้างโรงเรียน หม่อมเจ้าวิภาวดีทรงเปลี่ยนชื่อเป็นบ้านบางน้ำเย็น ผู้ใหญ่บ้านคนที่2ชื่อ นายจรัช นาคสุวรรณ์ ได้มีไฟฟ้าใช้และได้มีประปาตัวแรกที่หน้าโรงเรียนบ้านบางน้ำเย็น สร้างฝ่ายชะลอน้ำ พัฒนาถนนตามซอยต่าง ๆ ผู้ใหญ่บ้านคนที่3 ชื่อนาย สะอาด สุขเชา ถนนลาดยางเส้นบางน้ำเย็น2554 ผู้ใหญ่บ้านคนที่4ชื่อนายวิรัช สวนนุช ต่อเติมหอประชุม งบประมาณ200,000บาทจากโครงการ SML และ สรา้ งสนามกฬี าได้เกิดโครงการผักปลอดสาร มปี ระชากรทง้ั หมด 948 คน 220 ครัวเรือน ไทมไ์ ลน์และเหตกุ ารณท์ ่สี ำคัญ หมู่ท่ี 8 บ้านควนยอ ผใู้ ห้ขอ้ มลู นายมโน เขม็ เพช็ ร ในพุทธศักราช 2503 ก่อตั้งและมีคนอพยพมาสร้างถิ่นฐาน ผู้ใหญ่คนแรก ชื่อนายจิรา ถิ่นสะท้อนได้ จัดตง้ั ศนู ย์เป็นอาคารไมไ้ ผ่ โดยมคี รูตชด.มาสอนไฟฟ้าไดเ้ ข้ามาในพนื้ ท่ีได้มาการแยกโรงเรียนจากโรงเรียนหาด เจริญที่เป็นโรงเรียนแม่ มีสำนักสงฆ์ มีศูนย์ประชุมหมู่บ้านปรับปรุงอาคารประชุมและทำถนนลาดยางใน หมู่บ้านปะปาได้เข้ามาในหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านคนที่สอง นายมโน เข็มเพชร โครงการโต๊ะเต้น เริ่มมีโครงการคดั แยกขยะตอ่ ยอดโครงการคัดแยกขยะ-ปัจจุบัน เปล่ยี นจากสำนกั สงฆ์เป็นวดั ควนยอ ไทม์ไลน์และเหตุการณ์ท่สี ำคัญ หมู่ที่ 9 บ้านนคิ ม2 ผู้ใหข้ อ้ มลู นายสำเนา แกว้ สใี ส ในพุทธศักราช 2524 ได้ก่อตั้ง หมู่ 9 ในชื่อหมู่บ้านนิคม 2 ขึ้นและ ได้ แต่งตั้ง ผู้ใหญ่บ้านคนแรกเจอ นายขอม เข็มเพชร ได้งบประมาณจากโครงการมิยาซาว่าได้พัฒนาถนนภายในหมู่บ้านได้มีโครงการโต๊ะเต็นท์ หมบู่ ้านและได้สร้างถนนเข้าหมู่บา้ นนิคม 2 ต่อมาได้ นายขอม เขม็ เพชรได้จัดสร้างศาลาให้คนในหมู่บ้านให้คน ในหมู่บ้านได้นั่งพักผ่อนและมีการจดั สร้างสนามกีฬาภายในหมู่บา้ นอีกทัง้ มีการขุดสระน้ำแห่งแรกของหม่บู า้ น และในปีเดียวกันคนในหมู่บ้านได้ใช้ไฟฟ้าหลังคาเรื่องมีการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านโดยใช้เงินจากโครงการSML ได้จัดสรรพื้นที่ทำกินให้กับผูท้ ีไ่ ม่มีท่ีอยู่อาศัยและมีการจัดตั้งผู้ใหญบ่ ้านคนที่ 4 ชื่อว่านาย สุรสิงห์ รัตนรังสี ได้ จดั ตัง้ โรงผสมปุ๋ยขน้ึ ในหมู่บ้านโดยได้รบั เงนิ สนบั สนุนจากภาครัฐ 500,000 บาทเกดิ ภัยพิบัตนิ ำ้ ทว่ มครั้งใหญ่ใน
25 รอบหลายสิบปีภายในหมู่บ้าน มีผู้ใหญ่บ้านคนที่ 5 ชื่อว่านายสมชาย พรหมแก้วมีผู้ใหญ่บ้านคนที่ 6 ชื่อว่า สำเนา แก้วศรีใส ไทมไ์ ลน์และมีเหตุการณ์ทส่ี ำคญั หมูท่ ่ี 10 บา้ นหาดเจรญิ ผใู้ หข้ ้อมลู นายเลอพงศ์ มลวิ ลั ย์ ในพุทธศักราชที่ 2511 เปล่ียนชื่อจาก บ้านหาดทรวดมาเป็นหาดเจริญโดยหม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิตมี การสร้างโรงเรยี นเปน็ การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐานโดยต่อมามีการเลกิ ไปในช่วงเวลา ได้มกี ารจดั ตงั้ หม่บู า้ นครั้งแรกโดย แยกจากหมู่ 6 บ้านทรายทองและบางส่วนแยกจากหมู่ที่ 8 บ้านควนยอ บางส่วนและได้มีการจัดเลือกตั้ง ผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อนาย สิมบุญ แก้วผลึก มีการสร้างหอประชุมหมู่บ้านหลังแรกโดยโครงการมิยาซาว่าได้มี ไฟฟ้าใช้ในหมู่บ้าน ได้มีการตั้งกองทุนหมู่บ้าน เงินล้าน ได้มีการก่อตั้งกองทุนชุมชนโดยชุมชนเปิดชุมชน ได้มี การสร้างถนนคอนกรตี เสน้ แรกของหม่บู ้าน ระยะทาง 300 เมตร มผี ้ใู หญบ่ ้านคนที่ 2 ชอ่ื นายเลอพงษ์ มลิวัลย์ ดำรงตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน มีการจัดตั้งกองทุนผู้สูงอายุโดยใช้เงินที่ได้กำไรจากกองทุนหมู่บ้าน โดยกองทุน ชุมชนเปิดชมุ ชนโดยผ้สู ูงอายจุ ะไดร้ ับเงินคนละ 300 บาทต่อเดอื น ได้มกี ารสร้างกลมุ่ ผลิตภณั ฑก์ ลว้ ยฉาบแต่ใน ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว มีการต่อเติมศาลาหมู่บ้านโดยใช้งบประมาณจากโครงการ SML ปัจจุบันมี 160 ครัวเรือน ประชากร 800 คน ไทมไ์ ลน์และมเี หตุการณท์ ่ีสำคญั หมู่ท่ี 11 บา้ นไสดง ผใู้ หข้ ้อมูล นายคล่อง ชทู รัพยท์ วี ในพุทธศักราช 2520 ก่อตั้งหมู่บ้านไสดง โดยนายอินทร์ นางเทศ ผู้บริจาคที่ดินและได้มีไฟฟ้าใช้ครั้ง แรกในหมู่บ้านและก่อตั้งโรงเรียนไสดง ผู้ใหญ่บ้านคนแรก นายละเอก อินโตรม ดำรงตำแหน่ง23ปได้แต่งตั้ง นายปรีชา ทิชยศึก ผู้อำนวยการโรงเรียนคนแรกและสร้างถนนลูกรังในหมู่บ้าน สร้างอาคารเรียนแบบ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ของโรงเรียนไสดงองค์การส่วนบริหารตำบลให้งบขุดบ่อ ปลาในโรงเรียนและสรา้ งโรงอาหารโรงเรียนบา้ นไสดง สร้างอาคารเรียนโรงเรยี นบ้าน ก่อตั้งศูนย์สาธารณะสุข มูลฐานบ้านไสดง สมเด็จพระพี่นางเธอเสด็จมาโรงเรียนพร้อมหน่วยแพทย์เคลื่อนที ก่อสร้างระบบประปา หมู่บ้าน ก่อตั้งกองทุนหมู่บ้าน ก่อสร้างเขื่อนเก็บน้ำหมู่บ้าน เริ่มโครงการSMLมอบระบบสาธารณูปโภค โรงเรียนร่วมออกสลากการกุศลจัดงานประจำปี ก่อตั้งกลุ่มสตรี ก่อตั้งคลินิกพอเพียง แต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านคนที่2 นาย คล่อง ชูทรัพย์ทวี โครงการเศรษฐกิจพอเพียงและโครงการประชารัฐ โครงการส่งเสริมการมสี ว่ นร่วมของ ชุมชนในการคัดแยกขยะตน้ ทาง โครงการเลีย้ งผ้ึงโพรง2564เรม่ิ มีการหาเสียงเลอื กตง้ั ผู้ใหญ่คนที่ 3
26 ไทม์ไลน์และเหตุการณ์ท่สี ำคัญ หมู่ท่ี 12 บ้านนิคม3 ผูใ้ หข้ ้อมลู นายสมใจ จันทร์ช่วง ในพุทธศักราชที่ 2524 ได้ก่อตั้งหมู่บ้าน นายสมรส มณีศรี เป็นผู้นำหมู่บ้าน ก่อสร้างศาลาประจำ หมู่บ้านก่อสร้างโรงเรียนประจำหมู่บ้านและแยกออกเป็นหมู่ท่ี12 ผู้ใหญ่บ้านคนที่2 นาย สมพร มีดี ก่อสร้าง หอประชุมต่อจากผู้นำสมรส มณีศรี ทำถนนลาดยาง ขุดสระเก็บน้ำ มีการเข้าถึงไฟฟ้าของทุกหมู่บ้านในนิคม ผู้ใหญ่บ้านคนที่3นายสมใจ จันทร์ช่วง ต่อเติมหอประชุม เจาะบาดาล โครงการจัดแหล่งน้ำเพื่อบริโภคและ สร้างโรงเรียนร้านค้าโครงการกองทุนหมู่บ้าน มีการขยายสระน้ำสร้างแบบน้ำบาดาลและสร้างสนาม เอนกประสงค์ ต่อเติมหลงั คาประชุม น้ำทว่ มใหญ่ โครงการอบรมกลุ่มแมบ่ ้านและมีโครงการโต๊ะเต้น โครงการ 9101 เสรมิ สรา้ งอาชีพปลาดกุ แดดเดยี วในปัจจุบันประชากร380คน ไทมไ์ ลน์และมเี หตกุ ารณท์ ี่สำคัญ หมู่ท่ี 13 บ้านนคิ ม4 ผู้ใหข้ อ้ มูล นายพรสรุ ิยัน ทองล้วน ในพุทธศักราชท่ี 2524 ในขนาดน้ันยังไมแ่ ยกเป็นหมู่ 13 ช่อื ว่าบา้ นนิคม 4 ซงึ่ ซ่งึ ขนาดนั้นยงั เป็นหมู่ที่ 9 ตำบลไทรขึงและมีการสรา้ งโรงเรียนอนามยั มีการแยกเพื่อจัดตั้งหมู่บ้านเป็นหมู่ที่ 13 ซึ่งแยกออกจากหมู่ที่ 9 ขนาดนั้นมปี ระชากรประมาณ 10 กวา่ หลงั คาเรอื น โดยมีผู้ใหญ่บ้านคนแรกช่ือว่านายอรุณ สมทรัพย์ มีการ สร้างหอประชุมหมู่บ้านโดยได้งบประมาณจากโครงการมิยาซาว่า -มีการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านโดยได้ งบประมาณจากโครงการหมู่บ้านละล้าน มกี ารสรา้ งศาลาหม่บู า้ น มีการพฒั นาถนนเป็นถนนลาดยางชาวบ้านมี ไฟฟ้าใช้ในหมบู่ า้ น ชาวบา้ นมีนำ้ ประปาใชภ้ ายในหมู่บ้าน มผี ใู้ หญบ่ า้ นคนที่ 2 ช่ือวา่ นายอภริ ักษ์ เลื่อนยศ ได้มี การขุดเจาะน้ำบาดาลเปิดใช้ภายในหมู่บ้านโดยใช้เงินจากโครงการ sml 2552 มีการจัดตั้งผู้ใหญ่บ้านคนที่ 3 ช่ือวา่ นายพรสุริยันต์ ทองลว้ น มกี ารขดุ สระนำ้ ใหม้ ีขนาดใหญก่ ว่าเดิม มีการสรา้ งสนามกีฬาภายในหมู่บ้านโดย ได้งบประมาณจากทางอำเภอพระแสงจำนวน 200,000 บาท ได้รับโครงการจาก คทบ.เพื่อสร้างโต๊ะเต็นท์ใน หมู่บ้านและมีโครงการปุ๋ยหมักชีวภาพจากโครงการ 9101 ชาวบ้านได้เข้าอบรมการทำขนมวุ้นเวียดนามจาก สำนักงานนิคมได้จัดทำโครงการถนนกินได้ภายในชุมชนได้จัดทำโครงการร้านค้าชุมชนตัวเองเงินทุนจาก กองทนุ หม่บู ้าน มกี ารจัดทำโครงการหนองนาโมเดล มกี ารปรับปรุงถนนลาดยาง (วศิ วกรสังคมตำบลไทรขงึ อำเภอพระแสงจงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี, 2564)
27 ความเช่อื ประเพณี และพิธีกรรม 1.วนั ขน้ึ บา้ นใหม่ จดั ข้นึ วันทาํ การวนั แรกของปมี ีความเชือ่ ว่าเม่ือปีใหม่ มาถงึ ความทกุ ขโศกจะถกู ท้ิงไวกับปี เป็นวันขนึ้ ปีใหม่ มาถึงจะรับเอาแต่สิง่ ใหมๆ่ ความมีโชคและความสุข กจิ กรรมในวันขนึ้ ปีใหม่ ทำบญุ ตักบาตร เลยี้ งพระ เพือ่ เปน็ สิริมงคล สงกานตป์ ฏิทิน อวยพรในวันข้ึนปีใหม่ ใหแ้ ก่ประชาชนเปน็ การส่งความสุขความปรารถนาดี ใหแ้ ก่กนั อีกทัง้ ยงั เปน็ การแสดงให:เหน็ ถึงการระลึกถึงกนั 2.วันเด็กแห่งชาติ ที่ถูกกําหนดให้ตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปีกิจกรรมมกี ารแสดงบนเวที การเลน่ เกมส์ การแจกของขวัญของรางวลั ต่าง ๆ การบรกิ ารอาหาร เครอ่ื งด่มื 3.วันพระแสงรําลกึ (เดอื นมกราคม – กุมภาพันธ์) นิทรรศการเพื่อรําลึกถึงกระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวรัชกาลที่ 9 ในการ เสด็จพระราช ดําเนินมายังอําเภอพระแสง และการผลผลิตทางการเกษตรของสว่ นราชการและเอกชน การประกวด ผลผลิต ทางการเกษตร การแสดงการจัดลานประเพณีวัฒนธรรมและวิถีชีวติ ของชาวพระแสง กิ่งอําเภอพระแสง และ การแสดงบนเวทขี องนกั เรยี นและกล่มุ แมบ่ ้านจากตําบลต่าง ๆ 4.วันมาฆบูชา (ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3) ทําบุญตักบาตรจัดสํารับคาวหวานไปทําบุญถวายภัตตาหาร ฟังพระแสดงพระธรรมเทศนาเจริญสมาธิภาวนา เมื่อถึงตอนค่ำนําดอกไม้ธูปเทียนไปเวียนเทียน 3 รอบที่พระ อโุ บสถ โดยการเวยี นเทียน 5.ประเพณีสงกรานต์ (12 - 14 เมษายน ของทุกปี) ความสําคัญ ถือเป็นวันปีใหม่ของคนไทยและทําบุญเลี้ยง พระตกั บาตรขา้ วสารอาหาร สรงน้ำพระให้ความสําคัญกับผู้สงู อายุ รดนำ้ ขอพรผ้สู ูงอายุ ผู้ใหญ่ 6.ไทรขงึ ราํ ลกึ (ระหวา่ งประมาณ เมษายน-พฤษภาคม) นิทรรศการเพื่อรําลึกถึงกระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวรัชกาลที่ 9 ในการเสด็จพระราช ดําเนินมายังตําบลไทรขงึ และการแสดงผลผลติ ทางการเกษตรของสว่ นราชการและเอกชนการประกวดผลผลิต ทางการเกษตรการแสดงการจัดลานประเพณีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวพระแสงการออกร้ านนาวากาชาด ก่ิงอาํ เภอพระแสงและการแสดงบนเวทีของนักเรียนและกลุ่มแมบ่ ้านจากแตล่ ะหมู่บ้านและตําบล ต่าง ๆ 7.ประเพณีวันผูส้ ูงอายุ วันจบปจี บเดอื น (แรม 15 คำ่ เดอื น 5 และข้ึน 1 คำ่ เดือน 6) ทําบุญตักบาตรอทุ ศิ ส่วนกุศลให้บรรพบุรษุ รดนำ้ ดาํ หวั ขอพรผ้สู ูงอายุสร้างขวัญและกําลังใจใหแ้ กผ่ ูส้ ูงอายุ
28 8. วนั วสิ าขบชู า (ตรงกับวนั ขนึ้ 15 ค่ำ เดอื น 6) แตล่ ะปีใดมอี ธกิ มาส คือ มเี ดือน 8 สองหน ก็ เล่ือนไปเป็นวัน ขน้ึ 15 ค่ำ กลางเดอื น 7 หรือราวเดอื นมถิ นุ ายน) ทาํ บุญตกั บาตร ปฏิบตั ิธรรม ฟงั พระธรรมเทศนา เวียนเทียน รอบอโุ บสถทีว่ ดั และจดั แสดงนทิ รรศกาลและประดบั ธงชาตติ ามอาคารบ้านเรอื น วดั และสถานทรี่ าชการ 9. วันอาสาฬหบชู า (ตรงกับวนั ข้นึ 15 คำ่ เดือน 8 ของทุกปี) กจิ กรรมการทาํ บญุ ตกั บาตร รกั ษาศลี ฟงั พระ ธรรมเทศนา และสวดมนต์ในตอนคำ่ ก็จะมีการ เวยี นเทียนทีเ่ ปน็ การสืบทอดประเพณอี ันดงี ามของไทย 10. วันเขาพรรษา (ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8) ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็น วัน แรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง) ร่วมกิจกรรมทําเทียนจํานําพรรษา ร่วมกิจกรรมถวายผ้าอาบน้ำฝนและจตุปัจจัยแกภิกษุ สามเณรร่วมทําบุญ ตกั บาตร ฟังธรรมเทศนา รักษาอโุ บสถศลี อธิษฐาน งดเว้นอบายมุขตา่ งๆ 11. เทศกาลวันสารทเดอื นสิบ (ตรงกบั วนั แรม 15 ค่ำ เดือน 10) การจัดหรบั (สาํ รับ) และยกรบั การฉลองหรับ และการบังสุกลุ การต้ังเปรตและการชิงเปรต 12. วันออกพรรษา (ตรงกบั วนั ข้นึ 15 ค่ำ เดอื น 11) ทําบญุ ตกั บาตรอุทศิ สว่ นกุศลให้แก ญาตผิ ลู้ วงลับฟังพระธรรมเทศนา รักษาศีล ถวายสงั ฆทาน ถวายภัตตาหาร หรือจัดดอกไม้ ธปู เทยี น ไปบูชา ทว่ี ดั และฟังพระธรรมเทศนาตกั บาตรเทโว 13. ประเพณีทอดกฐิน ตั้งแต๋แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นประเพณี การบําเพ็ญกุศล อย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชนไทย และเป็นหน้าท่ีที่ทางพุทธศาสนิกชนพึ่งกระทํา เป็นประเพณีนําผ้ากฐินไป ถวายแด่ภิกษุที่อยู่จําพรรษาตลอดพรรษา เพื่อสงเคราะห์ภิกษุให้ได้ผ้าผืนใหม่ แทนผืนเก่าที่ชํารุดและร่วม ทอดกฐินถวายปจั จยั 14. วนั ลอยกระทง คืนวันเพ็ญ เดอื น 12 หรอื วันขนึ้ 15 คำ่ เดอื น 12 เป็นประเพณีทส่ี าํ คัญการตอบแทนและ ขอขมาต่อพระแม่คงคาที่ให้มีนำ้ ใช้ในการอุปโภคบริโภคและละเมิด ทิง้ ส่งิ ปฏิกลู ไป ได้มีการจัดงานเทศกาลข้ึน ทอ่ี า่ งเกบ็ นำ้ บางลอ (หม่ทู ่ี 5) วัดสามพนั (หมทู่ ่ี 1) บา้ นควนสว่างวฒั นา (หม่ทู ่ี 3) วัดแสงสะท้อน (หมูท่ ี่ 6)
29 ภูมิปญั ญาทองถิ่น ภาษาถ่ิน ภาษาถิ่นหรือภาษาไทยถิ่นใต้ตะวันตก ได้แก่ ภาษาไทยถิ่นใตท้ ี่พูดอยู่บริเวณพืน้ ที่จงั หวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี และชุมพรภาษาไทยถิ่นใต้ที่พูดอยู่บริเวณพื้นที่จังหวัดเหล่านี้ จะมีลักษณะเด่นที่ คล้ายคลึงกัน เช่นออกเสียงคำว่า แตก เป็น แตะ ดอกไม้ เป็น เดาะไม้ สามแยก เป็น สามแยะ ฯลฯ (สำเนียง นครศรีธรรมราช กลมุ่ ฉวาง พปิ นู ทงุ่ ใหญ่ ซึ่งอยทู่ างทศิ ตะวันตกของเขาหลวง ก็อยูใ่ นกลุ่มนี้ สว่ นจงั หวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้จะตั้งอยู่ฝั่งทะเลตะวันออก แต่สำเนียงภาษาถือเป็นกลุ่มเดียวกับจังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต คือออกเสียงตัวสะกด ก.ไก่ ไม่ได้)ประชากรตําบลไทรขึง ร้อยละ 99 % ใช้ภาษาถิ่นใต้ในการ ติดตอ่ ส่ือสารในชีวติ ประจําวัน ลําดับ ภมู ิปญั ญาทองถน่ิ /ปราชญ ช่ือ – สกลุ สถานทด่ี ําเนนิ การ ท่ี ชาวบา้ น 1 การเผาถ่าน/น้ำส้มควนั ไม้ นายจรัญ บุญคมรัตน์ บ้านสามพนั หมู่ที่ 1 2 ผลิตภณั ฑ์จากะลามะพร้าว นายสทุ ธิรกั ษ อนิ ทป?น บา้ นสามพนั หมู่ท่ี 1 3 จกั สานไม้ไผ่ นางหอง อินทปาน บา้ นสามพัน หมู่ที่ 1 4 เกษตรผสมผสาน นายณรงค สดุ จิตร บ้านสามพนั หมู่ท่ี 1 5 ทําปุย๋ อินทรียชวี ภาพ นายสมพร ประทุมเพชร บา้ นสามพัน หมู่ท่ี 1 6 หมอตาํ แย นางสมศรี ทองรตั น บ้านสามพนั หมู่ท่ี 1 7 คณะกลองยาวบ้านสามพัน นายประหยดั พรหมแก้ว บา้ นสามพนั หมูที่ 1 8 นวดแผนโบราณ นางพะเยาว มฏั ฐารกั ษ์ บา้ นสามพนั หมู่ท่ี 1
30 9 จักสานไม้ไผ่ นางผ้ัน เวทยา บ้านนคิ มฯ1 หมู่ท5ี่ ลําดับ ภูมิปญั ญาทองถ่นิ /ปราชญ ชอื่ – สกุล สถานท่ีดาํ เนินการ ท่ี ชาวบา้ น 10 มโนราห์ นางพยอม ศิริวงษ์ บ้านนคิ มฯ1 หมู่ที่ 5 11 อบสมุนไพร นายสุบรรณ นุน่ กุล บ้านนคิ มฯ1 หมู่ท่ี 5 12 จักสานไม้ไผ่ นายสมศกั ด์ิ ขานทอง บ้านนคิ มฯ1 หมู่ท5่ี 13 เพลงบอก นายจดั เลศิ ไกร บา้ นนคิ มฯ1 หมู่ท่ี 5 12 ต้ังศาลพระภูมิ นายประหยดั สกลุ เพชร บา้ นนิคมฯ1 หมู่ท่ี 5 13 หมอจับเส้น นายสธุ รรม สกุลเพชร บ้านนิคมฯ1 หมู่ที่ 5 14 คณะกลองยาวบ้านนคิ มฯ สุรนิ ทร เขม็ เพชร บ้านนคิ มฯ1 หมู่ที่ 5 15 คณะกลองยาวบ้านบางนำ้ เย็น นายขอย รักษายศ บา้ นบางน้ำเย็น หมทู่ ี่ 7 16 สานไม้กวาด นายประดบั พุมนุ้ย บา้ นควนยอ หมู่ท่ี 8 17 ลเิ กปา่ นายฉลอง กาศสมทุ ร บา้ นนคิ มฯ2 หมู่ที่ 9 18 จักสานไม้ไผ่ นายสุชาติ มงกุฎแก้ว บา้ นหาดเจรญิ หมู่ท่ี 10
31 ส่วนท่ี3โครงสรา้ งเศรษฐกิจและอาชพี แหลง่ ทุนทางธรรมชาติ การใช้ประโยชน์ในที่ดินในเขตองคก์ ารบริหารส่วนตำบลไทรขงึ ตามลักษณะภูมิประเทศเปน็ ที่ราบรมิ แม่น้ำและเชงิ ภูเขา มีแมน่ ้ำไหลผ่านเหมาะสมแกก่ ารทำการเกษตร ทด่ี ินส่วนใหญ่ที่นำมาใช้ประโยชน์ จึงเป็น ศูนย์รวมพืชผลทางการเกษตรและเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตน้ำมันปาล์ม 1 แห่ง สถานที่เก็บกักผลผลิตทาง การเกษตรเช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และบางส่วนที่เหลือก็เป็นอาคารบ้านพักอาศัย สถานที่ราชการต่าง ๆ ยงั ใช้เป็นพ้นื ท่ีในการประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ และยงั มภี มู ปิ ระเทศเปน็ ทร่ี าบบ้างท่ีสูงบ้างแหล่งนำ้ ธรรมชาติ ลำน้ำ ลำห้วย มี 5 สายลำคลองอิปัน ลำคลองโตรม ลำห้วยคลองโซง ลำห้วยบางจง ลำห้วยไสท้อนในเขตอง คการบริหารส่วนตําบลไทรขึง มีถูเขาควนผู้ ที่อุดมสมบูรณในพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตําบลไทรขึงส่วน ใหญ่เปน็ พืน้ ที่สําหรับเพาะปลกู ที่อย่อู าศยั สถานประกอบการและมพี ืน้ ทีเ่ พยี งเลก็ น้อยทีเ่ ป็นพนื้ ท่สี าธารณะ แหล่งอาหาร ในเขตพื้นที่ไทรขึงได้มีการเลี้ยงสัตวน้ำเพื่อเป็นอาชีพเสริมในระดับครัวเรือนและได้มีการเลี้ยงปศุ สัตว เป็นการประกอบการในลักษณะเล้ียงในครัวเรือนเปน็ อาชีพหลักและอาชีพเสริม เช่น การเลย้ี งไก่ และ โค สุกร กระบือ กุง้ ปลานลิ ปลาดกุ และอื่นๆ ผลติ ภันฑ์ชุมชน ของดี ของขึ้นช่อื ทางองคก์ ารส่วนบริหารตำบลไทรขงึ ไดจ้ ัดต้ังให้มโี ครงการพัฒนาเศรษฐกิจภายในชุมชนเพ่ือทำให้มีได้ ภายในชมุ ชนดั้งน้ี OTOP ม.2 กลุ่มจกั รสานเชอื กมดั ฟาง ชอ่ื ผู้ให้ขอ้ มูล 1.นางเนาวรตั น์ หวานฉ่ำ บา้ นเลขท่ี15/1 ม.2 อายุ 47 อาชีพทำสวน หมายเลขโทรศพั ท์ 080-8898668 OTOPม.2 บ้านขอนพอ กลุ่มการทำเครอื่ งแกง ชื่อผใู้ ห้ข้อมูล 1.นางสมจติ ร ทองสนิ ธ์ บา้ นเลขที่ 2/1 ม.2 อายุ 52 อาชพี ทำสวน หมายเลขโทรศัพท์ 097-9864585
32 OTOPหมู่ 12 บ้านนิคม 3 กลมุ่ การทำปลาส้ม ชอื่ ผใู้ หข้ ้อมลู 1.นางพชั รี เลิศไกรย์ หมู่ 12 อายุ 43 อาชีพทำสวน หมายเลขโทรศพั ท์ 0937177479 ชือ่ ผู้ประกอบการ กลมุ่ สมั มาชีพแปรรปู บา้ นนคิ ม 3 ผลติ ภัณฑ์ : ปลาแดดเดยี ว ปลาส้ม หมู่13 ตำบลไทรขึง อำเภอพระแสง จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี 84210 (วิศวกรสงั คมตำบลไทรขึงอำเภอพระแสงจงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี, 2564) สถานภาพทางเศรษฐกจิ ของประชาชน องค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึง ได้จัดให้มีโครงการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจตามที่กำหนดไว้ใน แผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึง โดยการส่งเสริมอาชีพและการจัดการตลาดโดยตรง เนื่องจาก ประชาชนส่วนใหญ่ในท้องถิ่นมีอาชีพที่มั่นคงถาวรและมีรายได้เลี้ยงชีพตามสมควรซึ่งการประกอบอาชีพของ ประชาชนในทอ้ งถ่นิ ได้แก่ การทำสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา สวนผลไม้ การค้าขายและการบริการ ซึ่งจัด ได้ว่าเป็นท้องถิ่นที่ประชาชนมีรายได้อยู่ในระดับที่ดีแต่อย่า งไรก็ตามองค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึงก็ได้ ส่งเสริมด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชนโดยทางอ้อม ได้แก่ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความ สะดวกในการขนส่งผลผลิตการส่งเสริมและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ในท้องถิ่นอีกทางหนึ่งด้วยและได้มีการทำวิสาหกิจชุมชนในวันที่24กันยายนได้มีการปลดล๊อกพืชเศรษกิจตัว ใหม่คือต้นกระท่อมและได้การเพาะต้นกระท่อมหรือการเสียบชำต้นกระท่อมทำให้เป็นทุระกิจชุมชนที่มาแรง ในน่ะขณะนี้ทำให้เศรษฐกิจในในชมุ ชนไทรขึงไดม้ ีเงินหมุนเวยี นภายในชุมชนเป็นจำนวนมากทำใหส้ ร้างรายได้ ในช่วงโควิค19 ได้ดีมากข้นึ และมีรายได้ในการใช้จ่ายภายในชุมชนดมี ากยิง่ ขึน้ (องคก์ ารบริหารส่วนตาบลไทรขึง อาเภอพระแสง จงั หวดั สุราษฎร์ธานี, 2562)
33 สว่ นท่ี4 สถานทีส่ ำคัญ แหล่งท่องเทย่ี ว แหล่งท่องเทีย่ ว อา่ งเก็บน้ำบางลอ ช่อื ผใู้ หข้ ้อมลู นายชวน พุฒทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ท่ี5 ตำบล ไทรขึง อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เบอร์โทรศัพท์ 081-7872185 ในพุทธศักราชที่ 2524 ได้มีการขุดลอกสร้างอา่ งเก็บน้ำโครงการจากกรมชลประทานคร้ังแรกมีเนือ้ ที่ประมาณ 1,380 ไร่ (มีอาณาเขตครอบคลุมหมู่5,9,12 และ หมู่13) ตําบลไทรขึงต่อมาในพุทธศักราชที่ 2558 ได้มีการ สำรวจเพอื่ ขุดลอก ออกแบบและทำแผนงานขุดลอกอ่าง เพอ่ื บรโิ ภค 5,000 ครวั โครงการจากชลประทานและ ไดส้ รา้ งฝายน้ำลน้ โดยกรมชลประทานและในปัจจุบันได้มีโครงการปรบั ปรุงภูมทิ ัศน์และสรา้ งลานกิจกรรม โดย กรมชลประทานใช้งบ 3,600,000 บาท โครงการปรับปรุงระดับน้ำอ่างเก็บน้ำบางลอ โดยกรมชลประทานโดย อ่างเกบ็ นำ้ บางลอ ยงั เปน็ แหลง่ เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ มสี ัตวน์ ำ้ อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศดี เป็นสถานที่ร่มรื่นเหมาะ สำหรบั ท่องเที่ยว พกั ผอ่ นตกปลา มีห่วงยาง เรอื ให้เชา่ มที ่ีพักและอาหารจำหนา่ ย ทีม่ า สถานท่ีท่องเท่ยี วอา่ งเก็บน้ำบางลอ2564
34 ที่มา สถานท่ีท่องเทย่ี วอา่ งเก็บน้ำบางลอ2564 ทีม่ าสถานที่ท่องเทยี่ วอ่างเก็บนำ้ บางลอ2564
35 ท่ีมา สถานที่ทอ่ งเทย่ี วอา่ งเก็บน้ำบางลอ2564 แหลง่ ท่องเที่ยวทางประวตั ิศาสตร์และศิลป์วัฒนธรรม วัดสามพัน ช่ือผใู้ ห้ข้อมลู นายชูเกยี รติ ทองเฝือ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปูชนียบุคคล พ่อหลวงหนู พ่อหลวงแดง พ่อหลวงสว่างซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของ พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ตําบลไทรขึงและของอำเภออีกด้วยร่วมทั้งบุคคลทั่วไป พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช (รัชกาลท9่ี ) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชนิ ีเคยเสด็จเยี่ยมท่ีวัดสามพันแห่ง นี้และพระราชทาน พระบรมราชานุญาติให้ใช้ตราพระปรมาภิไธยย่อ (ภปร.) ประจำพระองค์ และสมเด็จพระ ราชินีนาถ (สก.) ไว้ที่หน้าจั่วของอุโบสถทั้งสองด้าน พร้อมกับทรงปลูกต้นราชพฤกษไว้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2516 ซงึ่ ปัจจุบันต้นราชพฤกษสูงกว่า 15 เมตร
36 (วัดสามพันตำบลไทรขึงอำเภอพระแสงสรุ าษฏรธ์ านี, 2564) (วดั สามพันตำบลไทรขึงอำเภอพระแสงสรุ าษฏร์ธานี, 2564) (วัดสามพนั ตำบลไทรขงึ อำเภอพระแสงสุราษฏร์ธานี, 2564)
37 แหล่งสถานท่โี บราณ วดั สามพนั มเี ขตพนื้ ท่อี ยูใ่ นหมู่ท่ี 1 ตำบลไทรขงึ อำเภอพระแสง จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี ในพุทธศักราชที่ 2300 ได้มีการสร้างวัดสามพันโดยมีจัดสร้างวัดสามพันมีเจ้าอาวาสรูปแรก คือพระ อุปัชฌาย์ และต่อมาในปีพุทธศักราชท่ี 2464 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาต่อมาได้มีพระครปู ระจักษ์วรคณุ เป็นเจ้า อาวาทรูปที่ 2 พุทธศักราชท่ี 2498 และยังเป็นเป็นเจ้าคณะตำบลอิปันเป็นพระอุปัชฌาย์และต่อมา เปน็ องค์การศกึ ษากรรมการสงฆอ์ ำเภอก่งิ พระแสงเปิดสำนักสอนนักธรรมประจำกง่ิ อำเภอพระแสงที่วัดสามพัน และต่อมาในพุทธศักราชที่ 2499 ไดม้ เี จ้าอาวาสรูปที่สาม คอื พระครูโอภาสวิริยคณุ ตอ่ มาพทุ ธศักราชที่ 2516 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช(รัชกาลท่ี9)และสมเด็จพระนางเจา้ สิริกิติ์ทรงเสด็จประพาส วัดสามพันและปลูกต้นราชพฤกษโดยในปัจจุบันมีความสูงกว่า15เมตร ได้ปัจจุบันได้มีการสำรวจจากหน่วย อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมทอ้ งถิ่นจากที่สำรวจค้นพบ พระพุทธรูปสลักจากหินทรายแดงเปน็ พระพุทธรูปสกุงช่างไชยาโดยมอี ายุ 264 ปี และมีศลิ ปวัตถุ ไดแ้ ก่ ชามเบญจรงค์ ถว้ ยชามจีนสมยั เซ้ง
38 (วัดสามพนั ตำบลไทรขึงอำเภอพระแสงสรุ าษฏรธ์ านี, 2564) (วดั สามพนั ตำบลไทรขึงอำเภอพระแสงสรุ าษฏรธ์ านี, 2564)
39 (วดั สามพนั ตำบลไทรขึงอำเภอพระแสงสุราษฏรธ์ านี, 2564) (วดั สามพนั ตำบลไทรขงึ อำเภอพระแสงสุราษฏร์ธานี, 2564) ศาสนสถานของทุกศาสนา ประวัติความเป็นมาเดิมชื่อสำนักสงฆ์จิตต์ศรัทธาวนารามตั้งอยู่ในเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเองพระแสง หมู่ท่ี5 ตำบลไทรขึง อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นค่ายทหารชื่อฐานปฏิบัติการ บ้านบางลอ โดยกองทัพภาคท่ี4 ได้เสนอโครงการต่อคณะรัฐมนตรีให้จัดตั้งเป็นนิคมเพ่ือแก้ไขปัญหาด้านความ มั่นคงในเขตพื้นที่อำเภอพระแสงและอำเภอชัยบุรี กองทัพภาคท่ี 4 ได้ส่งกองกำลังทหารราบและช่างหน่วย พัฒนาการเคลื่อนที่ ( นพด.ช.9) มาประจำการเพื่อบุกเบิกพื้นที่จัดตั้งนิคมเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นได้มอบพื้นที่ให้ กรมพัฒนาสงั คมและสวัสดิการ(กรมประชาสงเคราะหเ์ ดิม) เปน็ ผู้ดแู ลรบั ผิดชอบ เม่อื ปี 2531 นายจิตต์ ชุมภทู อง ผปู้ กครองนิคมสรา้ งตนเองพระแสงสมัยนัน้ ไดเ้ ลง็ เหน็ ถงึ ความสำคัญ มีความต้องการให้เขตพื้นที่นิคมฯ ได้มีวัดขึ้นสักแห่งเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตต์ใจของสมาชิกนิคมฯ และราษฎร ใกล้เคียง จึงได้ประชุมเจ้าหน้าที่นิคมฯ ผู้นำถ้องถิ่นมีมติว่าให้ใช้พื้นท่ีค่ายทหารเดิมแหง่ น้ีตั้งเป็นสำนกั สงฆใ์ ห้
40 ชื่อวา่ สำนกั สงฆจ์ ติ ตศ์ รัทธาวนาราม ในพน้ื ทป่ี ระมาณ 50 ไร่ ซงึ่ เปน็ ทเ่ี ป็นใกล้อา่ งเกบ็ น้ำบางลอ ใกล้สำนักงาน นิคมและอย่ใู จกลางท้ัง 5 ผงั หมู่บา้ นไดน้ ิมนต์พระจากวัดสมยั สวุ รรณ (วัดโตรม) มาอยจู่ ำพรรษา โดยมีพ่อท่าน ร่านเปน็ เจ้าอาวาสรปู แรก ในปี 2545 นายกิตติศักดิ์ ยุติธรรม ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพระแสงคนท่ี 7 มีความศรัทธาและ ตั้งใจจริงในการพัฒนาพื้นที่และทำนุบำรุงพระศาสนาได้ลางานเพื่ออุปสมบทอยู่สำนักส งฆ์แห่งนี้ซึ่งเป็นความ ภาคภูมิใจอย่างยิ่งของสมาชิกนิคมฯและราษฎรทั่วไป กระทั้งในปี 2554 พระอาจารย์เดชนฤทธิ์ ธมมโชโต ได้รับแต่งตั้งให้มาเป็นหัวหน้าเจ้าสำนักซึ่งท่านเป็นพระที่มีความรู้ความสามารถจึงหารือกับคณะกรรมการ รวบรวมเอกสารเพื่อจัดตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้ให้เป็นวดั ในโอกาสต่อไปโดยมี นายสนั่น พันธ์ทอง เป็นตัวแทนใน การตดิ ต่อประสานงานร่วมกบั นายเชาวลติ พลจร เจา้ หน้าท่ีนิคมฯ เพอ่ื ขออนุญาตจดั ต้ังเปน็ วดั ให้ถูกต้องตาม หลักในทางพระพุทธศาสนา จนกระทงวนั ท่ี 30 สิงหาคม 2556 สำนกั งานพระพทุ ธศาสนาดว้ ยความเห็นชอบ ของมหาเถรสมาประกาศตง้ั เป็นวดั ข้ึนในพระพุทธศาสนามีนานว่า วัดศรัทธาวนาราม สังกัดคณะสงฆม์ หานิกาย จนเป็นท่ีปราบปล้ืมของสมาชิกนิคมและบุคคลทัว่ ไปจวบจนปัจจบุ ัน (worldorgs, 2563)
41 (worldorgs, 2563) (worldorgs, 2563)
42 (worldorgs, 2563)
43 แหล่งเรยี นรแู้ ละห้องสมดุ ประชาชนอำเภอพระแสง สงั กดั ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพระแสง ปรัชญา สรา้ งสงั คมแห่งการเรียนรู้ คู่คณุ ธรรม นำความรูพ้ ัฒนาตนเองและท้องถน่ิ วิสัยทศั น์ จดั การศกึ ษาตลอดชีวติ ท่ีมีคุณภาพ และทวั่ ถงึ ประสานภาคเี ครือข่ายรว่ มจดั อาชพี อยา่ งยง่ั ยนื พันธกิจ - จัดและสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยให้มคี ุณภาพ - สง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มภาคเี ครอื ขา่ ยในการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั - สง่ เสรมิ ให้ชมุ ชนพฒั นาการเรียนรตู้ ลอดชวี ิต - พัฒนาและส่งเสรมิ การนำเทคโนโลยมี าใช้ในการจดั การศกึ ษา - พฒั นาระบบการบริหารจัดการให้มีคุณภาพ - พัฒนาบุคลากรใหม้ ปี ระสภิ าพในการจัดกิจกรรม กศน. เอกลักษณ์ - สรา้ งสงั คมแห่งรอยยิ้มและความสุข บนพน้ื ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง ประวัติความเปน็ มาของห้องสมดุ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพระแสง เดิมใชช้ ือ่ ศูนยบ์ ริการการศึกษา นอกโรงเรียนอำเภอพระแสงไดป้ ระกาศจัดตง้ั เป็นสถานศึกษาสงั กดั ศูนย์การศึกษานอกโรงเรยี นจังหวัดสุราษฎร์ ธานี กรมการศึกษานอกโรงเรียนกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2537โดยใช้ห้องสมุด ประชาชนอำเภอพระแสงเป็นสถานศึกษาต่อมาเมื่อมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารของ กระทรวงศึกษาธิการเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2546 กรมการศึกษานอกโรงเรียนต้องยุบไป เปลี่ยนเป็น สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการเมื่อ วนั ที่ 4 มนี าคม พุทธศกั ราช 2551 ได้มพี ระราชกฤษฎีกา ประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย พุทธศักราช 2551วันท่ี 26 มีนาคม 2551 ได้เปลี่ยนชื่อสถานศึกษาจาก ศูนย์บริการ การศึกษานอกโรงเรียนอำเภอพระแสงเป็น ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพระ แสง มีชื่อย่อว่า \"กศน.อำเภอพระแสง\" ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั พ.ศ.2551 และประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เรอ่ื งบัญชรี ายช่อื สถานศึกษาฯประกาศใน
44 ราชกิจจานุเบกษาเล่ม125 ตอนพิเศษ 60 หน้า 1 ลงวันท่ี 25 มีนาคม 2551 และแนบท้ายประกาศ กระทรวงศึกษาธิการท่ี 234 หน้าที่ 8 และมีอำนาจและหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การกำหนดอำนาจและหน้าที่ของ สถานศึกษา ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 125 ตอนพิเศษ 60 ง หน้า 2 และ หน้า 3 ลงวันท่ี 25 มีนาคม พ.ศ.2551 ปัจจุบันห้องสมุดประชาชนอำเภอพระแสงศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอพระแสงมีผู้บริหารคือ นางภัทรานันท์ นาคบำรุง โดยมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพระแสงห้องสมุดประชาชนอำเภอพระแสง สังกัดศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพระแสง มพี น้ื ทร่ี บั ผิดชอบ จำนวน 7 ตำบล จำนวนหม่บู า้ น ดังน้ี 1. ตำบลอปิ นั มี 12 หมูบ่ ้าน 2. ตำบลสาคู มี 7 หม่บู า้ น 3. ตำบลสนิ ปุน มี 10 หมู่บา้ น 4. ตำบลบางสวรรค์ มี 13 หมู่บ้าน 5. ตำบลสินเจริญ มี 10 หมู่บ้าน 6. ตำบลไทรโสภา มี 8 หม่บู า้ น 7. ตำบลไทรขงึ มี 13 หมู่บา้ น รวมทั้งเขตตดิ ต่อของพื้นทีร่ บั ผิดชอบ ทัง้ 4 ทิศ คอื ทิศเหนือ ตดิ ตอ่ กบั อำเภอเวยี งสระและอำเภอเคยี นซา จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี ทศิ ใต้ติดต่ออำเภอชยั บรุ ี จังหวัดสรุ าษฎร์ธานแี ละอำเภอทงุ่ ใหญจ่ ังหวัดนครศรีธรรมราช ทศิ ตะวนั ออก ติดต่อกบั อำเภอเวียงสระ จงั หวดั สุราษฎร์ธานแี ละอำเภอถำ้ พรรณราจังหวดั นครศรีธรรมราช ทิศตะวันตก ติดต่อกบั อำเภอปลายพระยาและ จังหวัดกระบี่ (หอ้ งสมดุ ประชาชนอำเภอพระแสง, 2563)
Search