อำเตภำอบพลรไทะแรสขึงง จังหวัดสุราษฎร์ธานี *อ่างเก็บน้ำบางลอ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จัดทำโดย นายนนท์ คมกล้า 6004307001030
พระราชดำรัส “เศรษฐกิจพอเพียงนี้ให้ปฏิบัติเพียงครึ่งเดียว คือไม่ต้องทั้งหมด หรือแม้จะเศษหนึ่งส่วนสี่ก็ พอ ได้ปฏิบัติเกี่ยวกับการพัฒนามาช้านาน แล้ว มาบอกว่าเศรษฐกิจพอเพียงนี่ดีมาก แล้ว ก็เข้าใจว่าปฏิบัติเพียงเศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอนั้น หมายความว่า ถ้าทำได้เศษหนึ่งส่วนสี่ของ ประเทศก็จะพอ ความหมายของเศรษฐกิจพอ เพียงและทำได้เพียงเศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอนั้น ไม่ ได้แปลว่า เศษหนึ่งส่วนสี่ของพื้นที่ แต่เศษ หนึ่งส่วนสี่ของการกระทำ” พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิม พระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2541
คำนำผู้เขียน รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการฝึก ประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่สนใจ ที่จะศึกษาเกี่ยวกับตำบลไทรขึง อำเภอพระแสง จังหวัด สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ผู้สนใจได้อ่านเอกสารเพิ่มเติมต่อไป คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจเกี่ยวกับตำบลไทรขึง อำเภอ พระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งทำให้ทราบถึงเนื้อหา ต่าง ๆ และที่ได้วิเคราะห์ให้ผู้อ่านนำมาใช้ประโยชน์ได้ ต่อไป หากมีข้อบกพร่องประการใด คณะผู้จัดทำขออภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ผู้จัดทำ นาย นนท์ คมกล้า 1 พฤศจิกายน 2564
สารบัญ หน้า 1 ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 2 ประวัติความเป็นมาของตำบล 4 ขนาดและที่ตั้งของตำบล 6 ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ 7 ลักษณะภูมิประเทศ 8 ภูมิอากาศ 9 การเดินทาง/การคมนาคม 10 ส่วนที่ 2 โครงสร้างของชุมชน 11 ด้านการเมืองการปกครอง 16 ข้อมูลประชากร 17 ด้านการศึกษา/ศาสนา/วัฒนธรรม 20 บริบททางสังคม/ความเป็นอยู่ 33 ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม 34 ภาษาถิ่น 35 ภูมิปัญญาชาวบ้าน 36 ส่วนที่ 3 โครงสร้างเศรษฐกิจและอาชีพ 37 แหล่งทุนทางธรรมชาติ 38 แหล่งอาหาร 39 ผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดี ของขึ้นชื่อ 40 สถานภาพทางเศรษฐกิจของประชาชน
สารบัญ หน้า 41 ส่วนที่ 4 สถานที่สำคัญๆ 42 แหล่งท่องเที่ยว 44 แหล่งโบราณสถาน 45 ศาสนสถาน 47 แหล่งเรียนรู้/โรงเรียน/ห้องสมุดชุมชน 49 ส่วนที่ 5 การวิเคราะห์ศักยภาพชุมชน 50 สิ่งที่ชุมชนทำได้ดี (จุดแข็ง) 51 สิ่งที่ชุมชนต้องพัฒนา (จุดอ่อน) 52 โอกาสของชุมชน 54 อุปสรรคและความท้าท้าย 55 บรรณานุกรม / อ้างอิง 56 ภาคผนวก
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน
2 ประวัติความเป็นมา ของตำบล คำว่า”ไทรขึง” มีประวัติมาจากชุมชนดั่งเดิมบ้าน ไทรขึง มีต้นไทรขนาดใหญ่ 1 ต้น ขึ้นอยู่ริมฝั่ งคลอง อิปัน มีลำต้นและกิ่งพาดขึงข้ามลำคลองอิปันซึ่งมี ลักษณะคดเคี้ยวน้ำไหลเชี่ยวมาก เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ใหญ่น้ำล้นฝั่ ง น้ำเซาะเข้าหาต้นไทรที่มีรากใหญ่วัด เส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 1.50 เมตร พาดขวาง ลำคลอง อยู่ในฤดูแล้ง เรือยนต์ เรือบรรทุกสินค้า สิ่งของต่างๆที่สัญจรผ่านบริเวณนั้น ต้องลอดใต้ราก ไทรที่ขึงข้ามคลองอิปันไม่มีใครกล้าตัดต้นไทรเพราะ คนในสมัยโบราณนับถือเซ่นไหว้บูชา มีการแบ่งเขต อำเภอและตั้งชื่อกิ่งอำเภอไทรขึง ตามเอกลักษณ์ดัง กล่าว มีตำบลอิปันกับตำบลสองแพรก ต่อมาได้ตัด แบ่งเขตตำบลใหม่ แยกเอาหมู่ที่ 4 ตำบลอิปันมาเป็น ตำบลไทรขึง โดยเอาชื่อกิ่งอำเภอไทรขึงเป็นชื่อตำบล ไทรขึง
3 ประวัติความเป็นมา ของตำบล (ต่อ) และเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2517 นายสุขิน บุญศรี เป็นกำนันคนแรกเมื่อปี พ.ศ. 2525 ตำบลไทรขึง เดิมคือบ้านไทรขึง ได้เล่าต่อ ๆ กัน มาว่ามีต้นไทรขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง วัดเส้นรอบวง ลำต้นประมาณ 10 เมตร มีรากทอดยาวขวางลำ คลองอิบัน ชาวบ้านสามารถใช้เป็นสะพานข้าม ลำน้ำไปมาได้ เคยเป็นที่ตั้งของอำเภอพระแสง ในปี พ.ศ.2442 จึงเรียกว่าไทรขึงตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา ตั้งเป็นตำบลไทรขึง
4 ขนาดและที่ตั้ง ของตำบล ตำบลไทรขึงมีสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม และเนินเขา มีเนื้อที่ 144 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 90,000ไร่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของอำเภอพระแสง ระยะทางจากอำเภอประมาณ 15 ก.ม.องค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึงเป็น ศูนย์กลางของชุมเส้นทางคมนาคมแยกไปจังหวัด กระบี่ จังหวัดพังงา เป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการใน ตำบล เช่น โรงเรียน วัด สถานีอนามัย ตั้งอยู่ทางทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอพระแสง 15 กิโลเมตร และอยู่ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จากจังหวัด สุราษฎร์ธานี 113 กิโลเมตร
5 ขนาดและที่ตั้ง ของตำบล (ต่อ) ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลสาคู อำเภอพระแสง และ ตำบลพ่วงพรหมคร อำเภอเคียนซา ทิศใต้ ติดกับ ตำบลสองแพรก , ตำบล ไทรทอง อำเภอชัยบุรี ทิศตะวันออก ติดกับ ตำบลสาคู , ตำบลอิปัน , ตำบลสินปุน อำเภอพระแสง ทิศตะวันตก ติดกับ ตำบลไทรโสภา อำเภอ พระแสง
6 ทรัพยากร ธรรมชาติ ที่สำคัญ องค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึง มุ่งพัฒนา ศักยภาพในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ ร่วมรณรงค์ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติและลักษณะ ทางกายภาพ ปรับปรุงพื้นที่ และการก่อสร้าง สาธารณูปการส่งเสริมให้เกิดความสวยงามและ เสริมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวและให้มีความ น่าอยู่อาศัยเอื้ออำนวยให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ (แสดง ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ใน อบต.) มีภูเขาควนผู้ และหานมวง ม.2 อ่างเก็บน้ำบางลอ
7 ลักษณะ ภูมิประเทศ องค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึงสภาพทั่วไป ของภูมิประเทศเป็นที่ราบริมคลองและเนินภูเขามี คลองอิปัน คลองโตรม ไหลผ่าน และมีอ่างเก็บน้ำ บางลอ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญตั้งอยู่ที่ ม.5,9,13,12 บริเวณชุมชนบ้านสามพัน บ้านควน สว่างวัฒนา บ้านนิคม ซึ่งเป็นย่านชุมชน มีสถาน ประกอบการต่าง ๆจากลักษณะภูมิประเทศดัง กล่าวชี้ให้เห็นถึงความเหมาะสมในการจัดให้เป็น ย่านชุมชนที่พักอาศัย ของประชาชนให้เป็นสถาน ที่พักผ่อนของประชาชน
8 ภูมิอากาศ องค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึง ได้รับอิทธิพล จากลมมรสุม แบ่งเป็น 2 ฤดูกาล คือ 1.ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือน 2. ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ พฤษภาคม – พฤศจิกายน เดือน ธันวาคม - ของทุกปี เมษายน ของทุกปี อุณหภูมิสูงสุดประมาณเดือน เมษายน ของทุกปี อุณหภูมิต่ำสุดประมาณเดือนมกราคม ของทุกปี
9 การเดินทาง/ การคมนาคม ถนนลาดยางทางหลวงจังหวัดระยะทางจาก อำเภอ 15 กม. มีรถโดยสารประจำทางวิ่งตลอดทั้งปี ตามเส้นทาง บ้านส้อง-พระแสง-ชัยบุรี-กระบี่ มีองค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึง ห่างจากตัว จังหวัด 113 กิโลเมตร มีรถประจำ ทางสายสุราษฎร์- กระบี่ ,สายกรุงเทพ - กระบี่ ผ่านพื้นที่อบต. นอกจาก นี้ยังมีรถประจำทางขนาดเล็กประเภทสองแถวให้ บริการรับส่งระหว่างอำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอชัยบุรี ตลอดวัน
ส่วนที่ 2 โครงสร้างของชุมชน
11 ด้านการเมือง การปกครอง โครงสร้างและอัตรากำลังในการบริหารงาน ขององค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึงองค์กรทาง ด้านการเมือง การบริหารขององค์การบริหาร ส่วนตำบลไทรขึง ประกอบด้วยสภาองค์การ บริหารส่วนตำบล คณะผู้บริหารองค์การบริหาร ส่วนตําบลไทรขึง สภาองค์การบริหารส่วนตําบล ประกอบด้วย สมาชิกสภาองคการบริหารส่วนตําบลไทรขึง ที่ ราษฎรเลือกตั้งขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือก ตั้งสมาชิกสภาองคการบริหารส่วนตําบล จํานวน 13 หมู่บ้าน(หมู่บ้านละ 2 คน รวม 26 คน)
12 คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตําบลไทรขึง ลําดับ ชื่อ – สกุล ตําแหน่ง หมายเลขโทรศัพท์ 1 นายกันต์พล เบญจพันธ์ นายกองคการบริหารส่วนตําบล 085-798-8688 2 นายสัญญา คุ้มชํานาญ รองนายกองคการบริหารส่วนตําบล 089-594-7180 3 นายอนันท์ สังข์จันทร์ รองนายกองคการบริหารส่วนตําบล 089-875-6376 4 นางสาวทัศนา บําเพ็ญ เลขานุการรองนายกองคการบริหารส่วนตําบล 077-310715
13 เขตการ ปกครอง มีเขตการปกครอง พื้นที่ทั้งหมด 144 ตาราง กิโลเมตร แบ่งออกเป็น รวม 13 หมู่บ้าน ซึ่งมี อาณาเขตติดต่อกับ ตําบลต่าง ๆดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อตําบลพ่วงพรมคร อําเภอเคียนซา จังหวัดเคียนซา จังหวัดสุราษฎรธานี ทิศตะวันออก ติดต่อตําบลสาคู อําเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎรธานี ทิศใต้ ติดต่อตําบลสองแพรก อําเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎรธานี ทิศตะวันตก ติดต่อกับตําบลคลองน้อย อําเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎรธานี
14 การเลือกตั้ง องค์การบริหารส่วนตําบลไทรขึง ได้แบ่งเขต การเลือกตั้งนายกองคการบริหารส่วนตําบลไทร ขึงสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบลไทรขึง ออกเป็น 1 เขต 14 หน่วยเลือกตั้ง สำนักงานปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับราชการทั่วไป ขององค์การบริหารส่วนตำบลและราชการที่มิได้ให้ เป็นหน้าที่ของกองหรือส่วนราชการในในองค์การ บริหารส่วนตำบลโดยเฉพาะรวมทั้งกำชับและเร่งรัด การปฏิบัติราชการของส่วนราชการในองค์การบริหาร ส่วนตำบล ให้เป็นไปตามนโยบาย แนวทางและ แผนการปฏิบัติราชการขององค์การบริหารส่วนตำบล มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานการจ่าย การรับ การนำส่งเงิน การเก็บรักษาเงิน และเอกสารทางการเงิน การตรวจสอบใบสำคัญ
15 ส่วนการคลัง ฎีกาเกี่ยวกับเงินเดือน ค่าจ้างค่าตอบแทน เงิน บำเหน็จบำนาญเงินอื่น ๆ ทะเบียนคุมเงินรายได้และ รายจ่ายต่าง ๆ การควบคุมเบิกเงินงานทำงบทดลอง ประจำเดือนประจำปีงานเกี่ยวกับการพัสดุของ องค์การบริหารส่วนตำบล และงานอื่นที่เกี่ยวข้องและ ที่ได้รับมอบหมาย ส่วนโยธา มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการสำรวจ ออกแบบการจัดทำข้อมูลทางด้านวิศวกรรม การจัด เก็บและทดสอบคุณภาพวัสดุ งานออกแบบและเขียน แบบ การตรวจสอบ การก่อสร้างงานควบคุมอาคาร ตามระเบียบกฎหมาย งานแผนการปฏิบัติงานการ ก่อสร้างและซ่อมบำรุง การควบคุมการปฏิบัติงาน เครื่องจักรกลการควบคุม การบำรุงรักษาเครื่องจักร กลและยานพาหนะงานเกี่ยวกับแผนงาน ควบคุม เก็บ รักษาการเบิกจ่ายวัสดุ อุปกรณ์ อะไหล่ น้ำมันเชื้อ เพลิง และงานอื่น ที่เกี่ยวข้องและที่ได้รับมอบหมา
16 ข้อมูล ประชากร ข้อมูลเกี่ยวกับจํานวนประชากร ประชากรในเขตองค์การบริหารส่วน ตําบลไทรขึง รวม 13 ตำบล ประชากรชาย จำนวน 4,829 คน ประชากรหญิง จำนวน 4,896 คน รวมประชากร จำนวน 9,725 คน มีครัวเรือน จำนวน 3,564 คน
17 ด้าน การศึกษา การศึกษา/การศึกษาในพื้นที่ การจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตําบล ไทรขึง มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จํานวน 3 ศูนย์ ได้แก่ บ้านควนยอ ไสทอน และ อบต.ไทรขึง โรงเรียนในข้อมูลโรงเรียนสังกัด สํานักงานคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เขต3 จํานวน 7 แห่ง ดังนี้ 1. นิคมสร้างตนเองพระราชประสงค์ 1 2. บ้านควนยอ 3. บ้านควนสว่างวัฒนา 4. บ้านบางน้ำเย็น 5. บ้านไสดง 6. บ้านไสท้อน 7. วัดสามพัน
18 ด้าน ศาสนา *วัดศรัทธาวนาราม สถาบันและองค์กรทางศาสนา การนับถือศาสนา ประชาชนตําบลไทรขึงส่วนใหญ่ นับถือ ศาสนาพุทธ 99 % ตําบลไทรขึง มีศาสนสถาน ทางพุทธศาสนา ให้บริการแก่ประชาชน วัด 4 แห่ง ได้แก่ วัดสามพัน วัดศรัทธาวนาราม วัด แสงสะท้อน วัดธรรมเมธีนฤมิตร และสํานักสงฆ์ 1 แห่ง ได้แก่ สํานักสงฆ์พรหมสุวรรณประชาราม
19 ด้าน วัฒนธรรม วัฒนธรรมและประเพณีที่สำคัญ ตำบลไทรขึง มีวัฒนธรรมและประเพณีที่สืบต่อ กันมาหลายประเพณี ดังนี้ 1.ประเพณีสงกรานต์ 2.วันขึ้นปีใหม่ 3.วันเด็กแห่งชาติ 4.วันวิสาขบูชา 5.วันอาสาฬหบูชา 6.วันแม่แห่งชาติ 7.เทศกาลทอดกฐิน 8.ประเพณีวันลอยกระทง 9.ประเพณีวันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม)
20 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 1 บ้านสามพัน ผู้ให้ข้อมูล นายธีรภัทร บานชื่น ในพุทธศักราชที่ 2300 จัดสร้างวัดสามพัน มี เจ้าอาวาสรูปแรกคือ พระอุปัชฌาย์ ก่อตั้งโรงเรียน วัดสามพัน มีผู้ใหญ่บ้านคนแรก คือนายสุขิน บุญ ศรี และดำรงต่ำแหน่งกำนันตำบลไทรขึง ได้มีการ พัฒนาแหล่งน้ำน้ำหัก และหนองน้ำเกาะโหลนไฟ้ ฟ้าเข้าถึงทุกครัวเรือน เจ้าอาวาสรูปที่สี่ คือ พระครู จรูญ ได้มีการทำถนน ซอยโกหลาและซอยวัดสาม พันได้มีการสร้างศาลาหมู่บ้าน ปัจจุบันผู้ใหญ่คนที่ สาม คือ นายธีรภัทร บานชื่น และพัฒนาหนองน้ำ และโคกหนองนาโมเดล
21 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 2 บ้านขอนพอ ผู้ให้ข้อมูล นายสัญญา ทองรักษ์ พ.ศ. 2520 ก่อตั้งหมู่ที่ 2 บ้านขอนพอ มีผู้ใหญ่ บ้านคนแรก ชื่อ นายรม ชูศรี และได้บุกเบิกถนนโดย ชาวบ้าน ในพ.ศ. 2527 พ.ศ. 2550 ได้มีการจัดเลือก ตั้งและโดยมีนาย ปิยะรักษ์ ลิ้มวงษ์ ได้รับแต่งตั้งให้ เป็นผู้ใหญ่บ้านคนที 3 และดำรงตำแหน่งกำนันจนถึง ปัจจุบันและได้มีการจัดทำน้ำประปาภายในหมู่บ้าน ครั้งแรก พ.ศ. 2554 ได้มีเหตุอุทกตภัยน้ำท่วมใหญ่ ในพื้นทำให้ที่อาศัยเสียหาย มีการมอบถุง พระราชทาน มีถนนยางมะตอยเข้าหมู่บ้านครั้งแรก ปรับปรุงศาลาหมู่บ้าน - ปรับปรุงทางเข้าศาลา หมู่บ้าน ในพ.ศ. 2563 เปิดโครงการ โคกหนองนา โมเดล สนับสนุนงบโดยพัฒนาชุมชนมีการยื่นเสนอ โครงการสะพานแขวงเป็นปัจจุบันที่กำลังจะทำ
22 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 3 บ้านควนสว่าง ผู้ให้ข้อมูล นายประสิทธิ หอมประกอบ พุทธศักราช 2516 เริ่มก่อตั้งหมู่3ตำบลไทร ขึงโดยพระครูโอภาส วิริยะคุณ ตั้งชื่อหมู่บ้าน และตั้งชื่อโรงเรียนบ้านควนสว่างพัฒนา -ก่อตั้ง โรงเรียนบ้านควนสว่างวัฒนา -นายดำ บุญทอง เล็ก เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก พุทธศักราช 2525 เริ่มมีไฟฟ้าใช้ในหมู่บ้านเริ่มสร้างประปาใช้ใน หมู่บ้านและก่อตั้งอนามัยได้รับบริจาคที่ดินจาก นายสนอง คุ้มชำนาญ ในพุทธศักราช 2563 ได้มีการขุดลอกคลองบอดขางลอ โดยได้รับงบ ประมาณจากรัฐบาล 300,000 บาท
23 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 4 บ้านควนกอ ผู้ให้ข้อมูล นายพิมล เขียวสวัสดิ์ พ.ศ. 2474 มีชาวบ้านย้ายถิ่นฐานเข้ามา จับจองที่ดินและมีผู้ใหญ่บ้านคนแรก นาย ขอม ชูศรี ต่อมามีผู้ใหญ่บ้านคนที่2 นาย รม ชูศรีและได้มีการ ทำถนนสายหลัก 4037 รวมทั้งการสร้างที่ทำการ อบต.ไทรขึง โดยโครงการมิยาซาว่า ในพ.ศ. 2540 ได้มีอุทกตภัยน้ำท่วม มีไฟฟ้าใช้ - มีผู้ใหญ่บ้านคนที่ 3 นายอุดม ชูศรี จัดทำเครื่องกรองน้ำในชุมชนโดย โครงการ SME และมีผู้ใหญ่บ้านคนที่ 4 นาย พิมล เขียวสวัสดิ์ ขยายระบบน้ำประปา - น้ำท่วมรัฐบาล สร้างบ้านน๊อคดาวน์ให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำ ท่วม 3 หลัง จัดตั้งกลุ่มสตรีร่วมใจและมีโครงการ สร้างอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีโครงการมอบ อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนจากรัฐ
24 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 5 บ้านนิคม 1 และนิคม 5 ผู้ให้ข้อมูล นายชวน พุฒทอง พ.ศ. 2522 ได้มีการบุกเบิกตามโครงการ พระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ได้ จัดสรรที่ดินให้สมาชิกของนิคมคนละ 20 ไร่ ต่อ มานายถวิลเขียวสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านคนแรก สร้าง สำนักงานนิคมหน้าเขื่อนบางลอ พ.ศ. 2527 ต่อ มาได้สร้างอ่างเก็บน้ำบางลอขี้นในเนื้อที่ ประมาณ 1500 ไร่ สร้างศาลาหอประชุมอนามัย โรงเรียนนิคม สร้างวัดนิคม โครงการแก้ไข ปัญหาความยากจน มีโครงการขุดลอกรอบอ่าง เก็บน้ำบางลอ ปรับปรุงถนนลาดคอนกรีต บริเวณอ่างเก็บน้ำบางลอ
25 *โรงเรียนบ้านไสท้อน บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 6 บ้านไสท้อน ผู้ให้ข้อมูล นายจุรี เพชรพัฒน์ พ.ศ. 2497 สร้างสำนักสงฆ์วัดแสงสะท้อน และสร้างโรงเรียนบ้านไสท้อน เปลี่ยนจากสำนักสงฆ์ มาเป็นวัดมีผู้ใหญ่บ้านคนแรก ชื่อนายชุ่ม ดำไสย ต่อ มาใน พ.ศ. 2526 มีไฟฟ้าใช้ในหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน คนที่ 7 ชื่อนาย จุรีย์ เพชรพัฒน์ มีน้ำประปาเข้าถึง สร้างถนนคอนกรีต สายหน้าโรงเรียนไสท้อนต่อมา ได้สร้างสระน้ำสาธารณะที่วัดแสงสระท้อน เปลี่ยน ถนนลูกรังเป็นถนนดำ สร้างสะพานข้ามคลองไสท้อ นสาคู โครงการขุดลอกคูคลองวัดแสงสะท้อน สร้าง ถนนสีแยกไสท้อน สร้างโบสวัดแสงสะท้อน สร้างหอ ประชุมหมูบ้าน โครงการปลูกป่าให้วัด โครงการถนน คอนกรีตไสท้อน ไสดง โครงการเสาไฟข้างถนนสาย สี่แยกบ้านไสท้อน
26 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 7 บ้านบางน้ำเย็น ผู้ให้ข้อมูล นายวิวัช สวนนุช ในพุทธศักราชที่ 2510 เดิมเป็นชื่อคลองพลุ่งใต้ ม.7 ต.ไทรขึง ผู้ใหญ่บ้านคนแรก ชื่อนาย ขอบ เพชรค้อมสร้างสำนักสงฆ์ สร้างโรงเรียน หม่อม เจ้าวิภาวดีทรงเปลี่ยนชื่อเป็นบ้านบางน้ำเย็น ผู้ใหญ่บ้านคนที่ 2 ชื่อ นายจรัช นาคสุวรรณ์ ได้ มีไฟฟ้าใช้และได้มีประปาตัวแรกที่หน้าโรงเรียน บ้านบางน้ำเย็น สร้างฝ่ายชะลอน้ำพัฒนาถนน ตามซอยต่าง ๆ ผู้ใหญ่บ้านคนที่ 3 ชื่อนาย สะอาด สุขเชา ถนนลาดยางเส้นบางน้ำเย็น ผู้ใหญ่บ้าน คนที่4ชื่อนายวิรัช สวนนุช ต่อเติมหอประชุม สร้าง สนามกีฬาได้เกิดโครงการผักปลอดสาร
27 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 8 บ้านควนยอ ผู้ให้ข้อมูล นายมโน เข็มเพ็ชร ในพุทธศักราช 2503 ก่อตั้งและมีคนอพยพ มาสร้างถิ่นฐาน ผู้ใหญ่คนแรก ชื่อนายจิรา ถิ่น สะท้อนได้จัดตั้งศูนย์เป็นอาคารไม้ไผ่ โดยมีครูต ชด.มาสอนไฟฟ้าได้เข้ามาในพื้นที่ได้มาการแยก โรงเรียนจากโรงเรียนหาดเจริญที่เป็นโรงเรียนแม่ มีสำนักสงฆ์ มีศูนย์ประชุมหมู่บ้านปรับปรุงอาคาร ประชุมและทำถนนลาดยางในหมู่บ้านปะปาได้เข้า มาในหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านคนที่สอง นายมโน เข็ม เพชร โครงการโต๊ะเต้น เริ่มมีโครงการคัดแยกขยะ ต่อยอดโครงการคัดแยกขยะ-ปัจจุบัน เปลี่ยนจาก สำนักสงฆ์เป็นวัดควนยอ
28 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 9 บ้านนิคม 2 ผู้ให้ข้อมูล นายสำเนา แก้วสีใส ในพุทธศักราช 2524 ได้ก่อตั้ง หมู่ 9 ในชื่อ หมู่บ้านนิคม 2 ขึ้นและ ได้ แต่งตั้ง ผู้ใหญ่บ้าน คนแรกเจอ นายขอม เข็มเพชร ได้จัดสร้าง ศาลาให้คนในหมู่บ้านให้คนในหมู่บ้านได้นั่งพัก ผ่อนและมีการจัดสร้างสนามกีฬาภายในหมู่บ้าน อีกทั้งมีการขุดสระน้ำแห่งแรก และในปีเดียวกัน คนในหมู่บ้านได้ใช้ไฟฟ้าหลังคาเรื่องมีการจัดตั้ง กองทุนหมู่บ้านโดยใช้เงินจากโครงการ SML ได้ จัดสรรพื้นที่ทำกินให้กับผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย ผู้ใหญ่บ้านคนที่ 6 ชื่อว่าสำเนา แก้วศรีใส
29 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 10 บ้านหาดเจริญ ผู้ให้ข้อมูล นายเลอพงศ์ มลิวัลย์ ในพุทธศักราชที่ 2511 เปลี่ยนชื่อจาก บ้านหาด ทรวดมาเป็นหาดเจริญโดยหม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิตมี การสร้างโรงเรียนเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยต่อ มามีการเลิกไปในช่วงเวลา ได้มีการจัดตั้งหมู่บ้าน ครั้งแรกโดยแยกจากหมู่ 6 บ้านทรายทองและบาง ส่วนแยกจากหมู่ที่ 8 บ้านควนยอ บางส่วนและได้มี การจัดเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อนาย สิมบุญ แก้วผลึก มีการสร้างหอประชุมหมู่บ้านหลังแรก มี ผู้ใหญ่บ้านคนที่ 2 ชื่อนายเลอพงษ์ มลิวัลย์ ดำรง ตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน มีการจัดตั้งกองทุนผู้สูงอายุ โดยใช้เงินที่ได้กำไรจากกองทุนหมู่บ้าน
30 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 11 บ้านไสดง ผู้ให้ข้อมูล นายคล่อง ชูทรัพย์ทวี ในพุทธศักราช 2520 ก่อตั้งหมู่บ้านไสดง โดยนายอินทร์ นางเทศ ผู้บริจาคที่ดินและได้มี ไฟฟ้าใช้ครั้งแรกในหมู่บ้านและก่อตั้งโรงเรียน ไสดง ผู้ใหญ่บ้านคนแรก นายละเอก อินโตรม ดำรงตำแหน่ง 23 ปี ได้แต่งตั้ง นายปรีชา ทิช ยศึก ผู้อำนวยการโรงเรียนคนแรกและสร้าง ถนนลูกรังในหมู่บ้าน เริ่มโครงการ SML มอบ ระบบสาธารณูปโภคโรงเรียนร่วมออกสลาก การกุศลจัดงานประจำปี ก่อตั้งกลุ่มสตรี ก่อตั้ง คลินิกพอเพียง แต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านคนที่ 2 นาย คล่อง ชูทรัพย์ทวี
31 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 12 บ้านนิคม 3 ผู้ให้ข้อมูล นายสมใจ จันทร์ช่วง ในพุทธศักราชที่ 2524 ได้ก่อตั้งหมู่บ้าน นายสมรส มณีศรี เป็นผู้นำหมู่บ้าน ก่อสร้างศาลา ประจำหมู่บ้านก่อสร้างโรงเรียนประจำหมู่บ้านและ แยกออกเป็นหมู่ที่12 ผู้ใหญ่บ้านคนที่ 2 นาย สมพร มีดี ก่อสร้างหอประชุมต่อจากผู้นำสมรส มณีศรี ทำ ถนนลาดยาง ขุดสระเก็บน้ำ มีการเข้าถึงไฟฟ้าของ ทุกหมู่บ้านในนิคม ผู้ใหญ่บ้านคนที่3นายสมใจ จันทร์ช่วง ต่อเติมหอประชุม เจาะบาดาล โครงการ จัดแหล่งน้ำเพื่อบริโภคและสร้างโรงเรียน ร้านค้า โครงการกองทุนหมู่บ้าน มีการขยายสระน้ำสร้าง แบบน้ำบาดาลและสร้างสนามเอนกประสงค์
32 บริบท ทางสังคม/ ความเป็นอยู่ หมู่ที่ 13 บ้านนิคม 4 ผู้ให้ข้อมูล นายพรสุริยัน ทองล้วน ในพุทธศักราชที่ 2524 ในขณะนั้นยังไม่แยกเป็ น หมู่ 13 ชื่อว่าบ้านนิคม 4 ซึ่งซึ่งขณะนั้นยังเป็นหมู่ ที่ 9 ตำบลไทรขึงและมีการสร้างโรงเรียนอนามัย โดยมีผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อว่านายอรุณ สม ทรัพย์ มีการสร้างหอประชุมหมู่บ้านโดยได้งบ ประมาณจากโครงการมิยาซาว่า -มีการจัดตั้ง กองทุนหมู่บ้าน มีการสร้างศาลาหมู่บ้าน มีการ จัดตั้งผู้ใหญ่บ้านคนที่ 3 ชื่อว่านายพรสุริยันต์ ทองล้วน มีการขุดสระน้ำให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม มีการสร้างสนามกีฬา มีการจัดทำโครงการ หนองนาโมเดล มีการปรับปรุงถนนลาดยาง
33 ความเชื่อ ประเพณี และ *ไทรขึงรำลึก ปี 2562 พิธีกรรม ตำบลไทรขึง มีความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม ดังต่อไปนี้ 1.วันขึ้นบ้านใหม่ 2.วันเด็กแห่งชาติ 3.วันพระแสงรําลึก (เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์) 4.วันมาฆบูชา 5.ประเพณีสงกรานต์ 6.ไทรขึงรําลึก 7.ประเพณีวันผู้สูงอายุ วันจบปีจบเดือน 8. วันวิสาขบูชา 9. วันอาสาฬหบูชา 10. วันเขาพรรษา 11. เทศกาลวันสารทเดือนสิบ 12. วันออกพรรษา 13. ประเพณีทอดกฐิน 14. วันลอยกระทง
34 ภาษาถิ่น ภาษาถิ่นหรือภาษาไทยถิ่นใต้ตะวันตก ได้แก่ ภาษาไทยถิ่นใต้ที่พูดอยู่บริเวณพื้นที่ จังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี และชุมพรภาษาไทยถิ่นใต้ที่พูดอยู่บริเวณพื้นที่ จังหวัดเหล่านี้ จะมีลักษณะเด่นที่คล้ายคลึงกัน เช่นออกเสียงคำว่า แตก เป็น แตะ ดอกไม้ เป็น เดาะไม้ สามแยก เป็น สามแยะ ฯลฯ ประชา กรตําบลไทรขึง ร้อยละ 99 % ใช้ภาษาถิ่นใต้ ในการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจําวัน
35 ภูมิปัญญา ท้องถิ่น ภูมิปัญญาทองถิ่น/ปราชญ์ชาวบ้าน ยกตัวอย่าง เช่น 1.การเผาถ่าน/น้ำส้มควันไม้ 8. นวดแผนโบราณ 2.ผลิตภัณฑ์จากะลามะพร้าว 9. มโนราห์ 3.จักสานไม้ไผ่ 10. อบสมุนไพร 4.เกษตรผสมผสาน 11. เพลงบอก 5.ทําปุ๋ยอินทรียชีวภาพ 12. ตั้งศาลพระภูมิ 6.หมอตําแย 13. ลิเกป่า 7.คณะกลองยาวบ้านสามพัน 14. สานไม้กวาด
ส่วนที่ 3 โครงสร้างเศรษฐกิจ และอาชีพ
37 แหล่งทุน ทางธรรมชาติ การใช้ประโยชน์ในที่ดินในเขตองค์การบริหารส่วน ตำบลไทรขึง ตามลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบริม แม่น้ำและเชิงภูเขา มีแม่น้ำไหลผ่านเหมาะสมแก่การ ทำการเกษตรที่ดินส่วนใหญ่ที่นำมาใช้ประโยชน์ จึง เป็นศูนย์รวมพืชผลทางการเกษตรและเป็นที่ตั้งของ โรงงานผลิตน้ำมันปาล์ม 1 แห่ง สถานที่เก็บกักผลผลิต ทางการเกษตรเช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และบาง ส่วนที่เหลือก็เป็นอาคารบ้านพักอาศัย สถานที่ราชการ ต่าง ๆยังใช้เป็นพื้นที่ในการประกอบอาชีพทำสวนผล ไม้ และยังมีภูมิประเทศเป็นที่ราบบ้างที่สูงบ้างแหล่ง น้ำธรรมชาติลำน้ำ ลำห้วย มี 5 สายลำคลองอิปัน ลำคลองโตรม ลำห้วยคลองโซง ลำห้วยบางจง ลำห้วย ไสท้อน
38 แหล่ง อาหาร ในเขตพื้นที่ไทรขึงได้มีการเลี้ยงสัตวน้ำ เพื่อเป็นอาชีพเสริมในระดับครัวเรือนและได้มี การเลี้ยงปศุสัตว เป็นการประกอบการใน ลักษณะเลี้ยงในครัวเรือนเป็นอาชีพหลักและ อาชีพเสริม เช่น การเลี้ยงไก่ และ โค สุกร กระบือ กุ้ง ปลานิล ปลาดุก และอื่นๆ
39 ผลิตภันฑ์ชุมชน ของดี ของขึ้นชื่อ ทางองค์การส่วนบริหารตำบลไทรขึงได้จัดตั้งให้มี โครงการพัฒนาเศรษฐกิจภายในชุมชนเพื่อทำให้มีได้ ภายในชุมชนดั้งนี้ OTOP หมู่ 2 กลุ่มจักรสานเชือกมัดฟาง OTOP หมู่ 2 บ้านขอนพอ กลุ่มการทำเครื่องแกง OTOP หมู่ 12 บ้านนิคม 3 กลุ่มการทำปลาส้ม
40 สถานภาพ ทางเศรษฐกิจ ของประชาชน องค์การบริหารส่วนตำบลไทรขึง ได้จัด ให้มีโครงการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจตามที่ กำหนดไว้ โดยการส่งเสริมอาชีพและการจัดการ ตลาดโดยตรง ได้แก่ การทำสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา สวนผลไม้ การค้าขายและการ บริการ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นท้องถิ่นที่ประชาชนมีราย ได้อยู่ในระดับที่ดี ในวันที่ 24 กันยายนได้มีการ ปลดล๊อกพืชเศรษกิจตัวใหม่คือต้นกระท่อมและ ได้การเพาะต้นกระท่อมหรือการเสียบชำต้น กระท่อมทำให้เป็นทุระกิจชุมชนที่มาแรง
ส่วนที่ 4 สถานที่สำคัญ
42 แหล่ง ท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำบางลอ ในพุทธศักราชที่ 2524 ได้มีการขุดลอก สร้างอ่างเก็บน้ำโครงการจากกรมชลประทาน ครั้งแรกมีเนื้อที่ประมาณ 1,380 ไร่ ปัจจุบันได้มี โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และสร้างลานกิจกรรม มีการปรับปรุงระดับน้ำอ่างเก็บน้ำบางลอ โดย กรมชลประทานโดยอ่างเก็บน้ำบางลอ ยังเป็น แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศดี เป็นสถานที่ร่มรื่นเหมาะสำหรับท่อง เที่ยว พักผ่อนตกปลา มีห่วงยาง เรือให้เช่า มีที่พัก และอาหารจำหน่าย
43 แหล่ง ท่องเที่ยว วัดสามพัน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปูชนียบุคคล พ่อหลวงหนู พ่อหลวงแดง พ่อหลวงสว่างซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของ พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ตําบลไทรขึงและของอำเภอ อีกด้วยร่วมทั้งบุคคลทั่วไป พระบาทสมเด็จพระปรมิ นทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่9) และสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีเคยเสด็จเยี่ยมที่วัด สามพันแห่งนี้และพระราชทาน พระบรมราชานุญาติ ให้ใช้ตราพระปรมาภิไธยย่อ (ภปร.) ประจำพระองค์ และสมเด็จพระราชินีนาถ (สก.) ไว้ที่หน้าจั่วของ อุโบสถทั้งสองด้าน พร้อมกับทรงปลูกต้นราชพฤกษ ไว้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2516 ซึ่งปัจจุบันต้นราช พฤกษสูงกว่า 15 เมตร
44 สถานที่ โบราณ วัดสามพัน ในพุทธศักราชที่ 2300 ได้มีการสร้างวัด สามพันโดยมีจัดสร้างวัดสามพันมีเจ้าอาวาสรูป แรก คือพระอุปัชฌาย์ และต่อมาในปีพุทธศักราช ที่ 2464 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ต่อมาได้ มีพระครูประจักษ์วรคุณเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 2 ปัจจุบันได้มีการสำรวจจากหน่วยอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจากที่ สำรวจค้นพบ พระพุทธรูปสลักจากหินทรายแดง เป็นพระพุทธรูปสกุงช่างไชยาโดยมีอายุ 264 ปี และมีศิลปวัตถุ ได้แก่ ชามเบญจรงค์ ถ้วยชามจีน สมัยเซ้ง
Search