หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ช่ือหน่วย พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทยรหสั ส 31101 วชิ า ประวตั ิศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรมช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 8 ชวั่ โมงชื่อผู้สอน นางสาวอรอณี คีรีเกรกิ ก้อง โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ****************************************************1. สาระการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัดส 4.1 ป.3/1 ระบุพระนามและพระราชกรณยี กิจโดยสังเขปของพระมหากษตั ริย์ไทยทเี่ ป็นผสู้ ถาปนาอาณาจักรไทย2. สาระสาคัญพ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ สมเด็จพระรามาธบิ ดีท่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง) สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช เปน็ พระมหากษัตรยิ ์ทไี่ ด้กอบกแู้ ผ่นดิน และสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคง จนทาให้มีชาติไทยจนถึงปจั จบุ ัน3. สาระการเรียนรู้- สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ โดยสงั เขปของพอ่ ขุนศรีอินทราทิตย์ สมเด็จพระรามาธบิ ดีท1ี่ (พระเจ้าอู่ทอง) สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้จุฬาโลกมหาราช ผู้สถาปนาอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรตั นโกสินทร์ ตามลาดับ4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน4.1 ความสามารถในการส่อื สาร4.2 ความสามารถในการคิด - ทักษะการสารวจค้นหา - ทักษะการวเิ คราะห์ - ทักษะการสงเคราะห์ - ทกั ษะการสรปุ ลงความเห็น4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต5. คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์1. มีวนิ ยั2. ใฝเ่ รยี นรู้3. มุ่งมน่ั ในการทางาน4.รักความเป็นไทย6. หลกั ฐานการเรยี นรู้- แบบทดสอบก่อนเรยี น7. การวดั และประเมนิ ผล7.1 การประเมินก่อนเรยี น- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร่ือง พระมหากษัตรยิ ผ์ ้สู ถาปนาอาณาจักรไทย
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ 2) ตรวจใบงานท่ี 2.1 เร่ือง สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีที่ 1 3) ตรวจใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช 4) ตรวจแบบบนั ทึกการอา่ น 5) ประเมินการนาเสนอผลงาน 6) สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล 7) สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ 8) สังเกตคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.3 การประเมนิ หลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรื่อง พระมหากษตั รยิ ผ์ ู้สถาปนาอาณาจักรไทย 7.4 การประเมินช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจสมดุ ภาพ เรือ่ ง พระมหากษตั รยิ ผ์ สู้ ถาปนาอาณาจักรไทย8. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เร่ืองที่ 1 พ่อขนุ ศรอี นิ ทราทิตย์ เวลา 2 ชั่วโมงขั้นท่ี 1 ทบทวนความรเู้ ดมิ นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 เรอ่ื ง พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนาอาณาจักรไทยข้นั ท่ี 2 กระต้นุ ความสนใจ ครูนาบัตรภาพมาแสดงให้นักเรยี นดู แลว้ ครตู ้งั ประเด็นคาถามเพื่อเชือ่ มโยงเกย่ี วกับภาพ จากนัน้ ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความเป็นมาของภาพต่างๆ ต้ังแต่สมยั สุโขทยัข้นั ที่ 3 สารวจคน้ หา นักเรียนรวมกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ตามความสมัครใจ จากนั้นร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รื่อง พอ่ ขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ ผสู้ ถาปนากรุงสโุ ขทัย จากหนังสือเรยี น และหอ้ งสมดุ โดยครูกาหนดประเดน็ ในการศึกษาข้ันท่ี 4อธิบายความรู้ สมาชกิ ในแต่ละกลุม่ ผลดั กันอธบิ ายความรูต้ ามที่ศึกษา แลว้ รว่ มกนั อภปิ รายและสรุปความรใู้ นประเดน็ ท่ีกาหนดตามลาดบัครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมาสรปุ พระราชประวัติ และเขยี นลาดับเหตุการณ์แสดงพระราชกรณียกิจทสี่ าคญัของพอ่ ขนุ ศรีอินทราทิตย์ประกอบด้วยขน้ั ท่ี 5 ขยายความเขา้ ใจ ครตู ้ังประเดน็ คาถามใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ อธบิ าย หรือตอบคาถาม แลว้ อธบิ ายเพิ่มเตมิ เพื่อให้นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจมากยิ่งขนึ้นักเรยี นทาใบงานที่ 1.1 เร่ือง พอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทติ ย์ เป็นรายบคุ คลขนั้ ท่ี 6 ตรวจสอบผล นักเรียนแลกเปลยี่ นใบงานกนั ตรวจความถกู ต้องตามท่คี รูเฉลย ครชู มเชยนกั เรียนทีต่ อบถูกทกุ ข้อครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ พระราชประวตั ิ พระราชกรณยี กจิ ทส่ี าคญั ของพ่อขุนศรอี นิ ทราทิตย์ และการสถาปนา อาณาจกั รสโุ ขทัย
เรอื่ งท่ี 2 สมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมงขน้ั ท่ี 1 สังเกต ตระหนกั 1. ครนู าบตั รภาพมาแสดงให้นกั เรยี นดู แล้วใหน้ กั เรียนพิจารณาวา่ บุคคลในภาพคือใคร และเหตุการณ์ทีเ่ กิดขึ้นในภาพมคี วามสาคญั อย่างไร 3. ครเู ลา่ เรอื่ งราวประกอบภาพใหน้ ักเรยี นเข้าใจวา่ ภาพดงั กล่าวเป็นภาพทวี่ าดจากจนิ ตนาการเพ่ือให้เห็นเหตุการณส์ าคัญในสมยั พระเจ้าอู่ทอง 4. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง สมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เพื่อหาคาตอบวา่ พระเจา้ อทู่ อง มีความสาคญั ต่อกรุงศรอี ยธุ ยาอยา่ งไรขั้นท่ี 2 วางแผนปฏิบตั ิ 5. ครกู าหนดวัตถุประสงค์ทีน่ ักเรยี นแต่ละกลุ่มจะต้องร่วมกันปฏิบตั ินกั เรียนรวมกลุม่ เดิมเพ่ือร่วมกันวางแผนคน้ หาข้อมลู และแนวทางคน้ หาขอ้ มูลข้ันท่ี 3 ลงมือปฏบิ ตั ิ 6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั รวบรวมขอ้ มูลเกีย่ วกับพระราชประวตั ิ พระราชกรณียกิจที่สาคัญของสมเดจ็ พระรามาธบิ ดี ที่ 1 (พระเจา้ อู่ทอง) และเรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์พระราชกรณยี กจิ ท่ีสาคัญตามท่ีไดว้ างแผนร่วมกนั แลว้ บนั ทกึ ความร้ลู งในแบบบนั ทึกการอ่านขั้นท่ี 4 พฒั นาความรู้ ความเข้าใจ 7. นกั เรียนตรวจสอบความถูกต้องของพระราชประวตั ิ พระราชกรณยี กจิ ที่สาคัญของสมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี่ 1 (พระเจ้าอทู่ อง) และเรียงลาดบั เหตุการณ์พระราชกรณยี กิจที่สาคญั แลว้ สง่ ตัวแทนนาเสนอผลงานหน้าช้นั เรยี น 8. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันทาใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง สมเด็จพระรามาธิบดที ่ี 1 เมือ่ เสร็จแล้วใหผ้ ลัดกันตรวจสอบและปรบั ปรุงแก้ไขให้ถูกต้องก่อนนาสง่ ครตู รวจขน้ั ท่ี 5 สรุป 9. นกั เรยี นร่วมกันสรุปคุณค่าของพระราชกรณียกจิ ทสี่ าคญั ของสมเดจ็ พระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจา้ อู่ทอง) ท่มี ผี ลต่อการดารงชีวติ ของคนไทยในปัจจุบนัเรื่องที่ 3 สมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช เวลา 2 ชัว่ โมงขั้นที่ 1 สังเกต 10. ครเู ลา่ ถงึ สาเหตุของการเสียกรุงศรีอยุธยาครัง้ ท่ี 2 ให้นักเรยี นฟัง จากนน้ั เปดิ วซี ีดีเพลงพระเจา้ตาก พร้อมแจก เนื้อเพลง แล้วให้นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับการต่อสู้เพื่อกเู้ อกราชของสมเดจ็พระเจา้ ตากสนิ มหาราช 11. ครูใหน้ ักเรียนช่วยกันหาคาตอบว่า เพราะเหตใุ ด สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช จึงขับไล่กองทัพพม่าให้ไปจากกรุงศรีอยธุ ยาไดส้ าเรจ็ข้นั ท่ี 2 วเิ คราะห์วจิ ารณ์ 12. นักเรยี นรวมกลมุ่ เดิม เพ่ือรว่ มกันศึกษาความรเู้ ร่ือง สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช จากหนังสอืเรยี น และห้องสมุด แลว้ บันทกึ ความรู้ลงในแบบบนั ทึกการอ่าน 13. ครกู าหนดประเด็นในการศกึ ษาความรูเ้ รื่อง พระเจา้ ตากสินมหาราชขน้ั ที่ 3
14. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ตรวจสอบความถูกต้องของพระราชประวัติ พระราชกรณียกจิ ที่สาคญั ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเรยี งลาดับเหตุการณ์พระราชกรณียกิจทีส่ าคญัขนั้ ที่ 4 15. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันวเิ คราะหป์ ัจจยั สาคญั ทที่ าให้สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราชขบั ไล่กองทพั พม่าไปจากกรุงศรีอยุธยาไดส้ าเร็จ 16. ครูนาแผนที่แสดงอาณาเขตประเทศไทยในรัชสมยั ของสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช มาแสดงท่ีหน้าช้ันเรียน แล้วอธิบายให้นกั เรียนเข้าใจถึงการขยายอานาจในการปกครอง โดยการทาสงครามกับอาณาจักรเพ่ือนบา้ น 17. นักเรียนยกตวั อยา่ งพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทสี่ มาชกิ กลุ่มประทบั ใจหรอื เห็นคุณคา่ มากที่สดุ มา 1 พระราชกรณยี กิจ แล้ววิเคราะห์ในประเด็นท่ีกาหนด จากนนั้ ตวั แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการวิเคราะห์ท่ีหน้าช้ันเรียน โดยมีครูตรวจสอบความถูกตอ้ งข้ันท่ี 5 18. นกั เรียนทาใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช เม่ือเสร็จแลว้ ให้ตรวจความถกู ต้องก่อนนาส่งครูขัน้ ท่ี 6 สรุป 19. นักเรียนร่วมกันสรุปพระราชประวัติ พระราชกรณียกจิ ท่สี าคัญของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและการสถาปนากรงุ ธนบุรี 20. นกั เรยี นและครูร่วมกนั บอกคุณคา่ ของพระราชกรณียกิจทส่ี าคญั ของสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช ท่มี ผี ลต่อการ ดารงชวี ติ ของคนไทยในปจั จบุ ันเร่ืองที่ 4 พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช เวลา 2 ช่ัวโมงขั้นท่ี 1 กาหนดประเดน็ ปัญหา 21. ครูเปิดซดี เี พลง รกั กนั ไว้เถดิ ให้นกั เรียนฟงั แล้วพดู แสดงความร้สู กึ จากน้นั ครูตั้งประเด็นคาถามให้นกั เรยี นตอบ หรอื แสดงความคดิ เห็น 22. นกั เรียนรวมกลุ่มเดิม เพ่ือรว่ มกันศึกษา สบื คน้ และรวบรวมข้อมลู เกี่ยวกบั พระราชประวัติ และพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผทู้ รงสถาปนากรุงรัตนโกสนิ ทรด์ ว้ ยวธิ ีการทางประวัติศาสตร์ข้ันท่ี 2 รวบรวมหลกั ฐาน 23. นักเรยี นแต่ละกลุ่มศึกษา สืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกบั พระราชประวัติ และพระราชกรณยีกิจของพระบาท สมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช จากหนังสือเรียน ห้องสมดุ และใบความรเู้ ร่ืองเกรด็ ความรู้ประวัติศาสตรก์ รุงรัตนโกสินทร์ แล้วบนั ทกึ ลงในแบบบันทกึ การอ่านขั้นท่ี 3 วเิ คราะห์และประเมินคณุ คา่ ข้อมูล 24. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากการรวบรวมมารว่ มกนั วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของหลกั ฐานตรวจสอบความถูกตอ้ งของหลักฐานและคุณค่าของหลักฐานสมาชกิ กล่มุ ร่วมกันเปรียบเทียบ วิเคราะห์ และประเมนิ ผลจากข้อมลู ท่ีไดร้ วบรวมว่า พระบาทสมเดจ็ พระพุทธ-ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชสถาปนากรงุรัตนโกสินทร์สาเรจ็ ไดอ้ ย่างไรขนั้ ท่ี 4 ตคี วามและสังเคราะห์
25. นกั เรียนแต่ละกลุ่มนาผลสรุปจากการเปรียบเทียบ วิเคราะห์ และประเมนิ ผลจากข้อมลู ท่ไี ด้รวบรวมมาตคี วามและสังเคราะหว์ ่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชสถาปนากรุงรัตนโกสนิ ทรส์ าเร็จไดอ้ ย่างไรขน้ั ท่ี 5 26. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันสรปุ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจท่ีสาคัญ และสรุปผลการตีความและสังเคราะห์ ปจั จยั ท่ีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทรไ์ ดส้ าเรจ็แล้วบันทกึ ลงในแบบบันทกึ ความรู้ขั้นที่ 6 นาเสนอความรู้ 27. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลการตีความและสงั เคราะห์ประเดน็ ความรู้ 28. นักเรียนรว่ มกนั บอกคุณค่าของพระราชกรณยี กิจทสี่ าคัญของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช ทม่ี ีผลตอ่ การสรา้ งความมนั่ คงและพัฒนาชาติไทยใหเ้ จริญรงุ่ เรืองเรอื่ งที่ 5 พระมหากษตั รยิ ์ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย เวลา 1 ชวั่ โมงข้ันท่ี 1 สังเกต 29. ครใู หน้ ักเรียนผลัดกันเล่าผลงาน หรือพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั รยิ ์พระองค์ต่างๆ ที่ประทบั ใจ และแสดงความคดิ เหน็ ถึงคุณคา่ ของผลงาน หรือพระราชกรณียกจิ ดงั กล่าวขนั้ ที่ 2 30. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั บทบาทที่สาคญั ของพระมหากษัตริยต์ ่างๆขั้นที่ 3 วเิ คราะหว์ จิ ารณ์ 31. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม เพื่อร่วมกันรวบรวมข้อมูลเก่ยี วกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจท่ีสาคญั ของพ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ สมเด็จพระรามาธิบดที ่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง) สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช และพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชขัน้ ที่ 4 32. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ วิเคราะห์คุณค่าของพระราชกรณยี กิจของพ่อขนุ ศรีอินทราทิตย์ สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจ้าอทู่ อง) สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช และพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จากนนั้ สง่ ตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลการวิเคราะหท์ ่ีหน้าชนั้ เรียนขัน้ ที่ 5 สรุป 3.3 นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรปุ บทบาทและคุณคา่ ของพระราชกรณียกจิ ของพ่อขนุ ศรีอินทราทิตย์สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ่ี 1 (พระเจ้าอู่ทอง) สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช และพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้จฬุ าโลกมหาราชท่มี ผี ลต่อความเจริญรงุ่ เร่อื งของชาตแิ ละการดารงชีวติ ของคนไทยในปจั จุบันครมู อบหมายใหส้ มาชกิ แต่ละกล่มุ ทาสมดุ ภาพ เร่อื ง พระมหากษตั รยิ ์ผสู้ ถาปนาอาณาจักรไทยตามที่สมาชิกกลุ่มสนใจรว่ มกนั 1 พระองค์ โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กาหนดขัน้ ท่ี 6 34. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร่อื ง พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน ประวัตศิ าสตร์ ป.3
2) ใบความรู้ เร่ือง การปกครองแบบจตุสดมภ์ 3) ใบความรู้ เรื่อง เกรด็ ความรปู้ ระวตั ศิ าสตรก์ รุงรตั นโกสินทร์ 4) บตั รภาพ 5) ซีดเี พลง/ เน้ือเพลง 6) เอกสารประกอบการสอน 7) แผนท่แี สดงอาณาเขตประเทศไทยในรัชสมัยของสมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช 8) แบบบนั ทึกความรู้ 9) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง พ่อขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ 10) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง สมเด็จพระรามาธบิ ดีที่ 1 11) ใบงานที่ 3.1 เรือ่ ง สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ - หอ้ งสมดุ10. การวัดผลและประเมินผลเปา้ หมายการเรยี นรู้ หลักฐานการเรยี นรู้ วธิ ีวดั เครอ่ื งมือวัดฯ ประเดน็ / ช้นิ งาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้ คะแนน- นกั เรยี นสามารถ 1. ใบงานที่ 1.1 เร่ือง 1. ตรวจใบงาน 1.1 1. ใบงาน 8 – 10อธบิ ายความเป็นมา พอ่ ขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ 2. สังเกตพฤติกรรม 2. แบบประเมินการ 5–7ของพระราชประวตั ิ 2.ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง รายบุคคล นาเสนอผลงาน 3–4 สมเด็จพระรามาธบิ ดีท่ี 3. สังเกตพฤติกรรม 3. แบบสังเกต ตา่ กวา่ 3พระราชกรณยี กจิ 1 กลุม่ พฤติกรรมรายกลุ่มโดยสงั เขปของพ่อ 3. ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง 4. ตรวจแบบบนั ทกึ 4. แบบสงั เกตขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ 4. แบบบันทกึ การอา่ น การอา่ น ลักษณะอนั พึงสมเดจ็ พรรามาธบิ ดี 5. แบบทดสอบหลงั 5. ตรวจแบบทดสอบ ประสงค์ หลังเรยี น หนว่ ยการ 5. แบบบันทึกการท่ี 1 (พระเจา้ อ่ทู อง) เรยี น หน่วยการเรยี นรู้ เรยี นรู้ที่ 5 อา่ นสมเดจ็ พระเจา้ ตาก ท่ี 5สนิ มหาราช และ 6. แบบประเมนิ สมุด 6. แบบประเมินสมดุพระบาทสมเดจ็ พระ ภาพ เร่อื ง ภาพ เร่อื งพุทธยอดฟ้าจฬุ า พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์โลกมหาราช ผู้ ผสู้ ถาปนาอาณาจกั ร ผูส้ ถาปนาอาณาจักรสถาปนาอาณาจกั ร ไทย ไทยสุโขทยั อยธุ ยาธนบุรี และรตั นโกสนิ ทร์ตามลาดบั
11. จดุ เนน้ ของโรงเรยี น การบูรณาการปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผู้เรียน1. ความพอประมาณ พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดีดา้ นจติ ใจ รู้จักใช้เทคโนโลยีมาผลิตส่ือท่ี มีจิตสานึกท่ีดี เอ้ืออาทร ประนีประนอม เหมาะสมและสอดคล้องเน้ือหาเป็น นึกถงึ ประโยชนส์ ่วนรวม/กลุ่ม ประโยชน์ต่อผู้เรียนและพัฒนาจากภูมิ ปญั ญาของผเู้ รยี น2. ความมีเหตผุ ล - ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดน่ิงที่หาหนทางในชีวิต หลุดพ้น ถูกต้อง สจุ รติ แมจ้ ะตกอยู่ในภาวะขาด จากความทุกข์ยาก (การค้นหาคาตอบ แคลน ในการดารงชวี ิต เพือ่ ใหห้ ลดุ พน้ จากความไม่ร)ู้ - ปฏิบตั ติ นในแนวทางที่ดี ลด เลิก สิ่ง ยว่ั กิเลสใหห้ มดส้ินไป ไม่ก่อความช่ัวให้ เป็นเคร่ืองทาลายตัวเอง ทาลายผู้อื่น พยายามเพิ่มพนู รกั ษาความดี ที่มีอยู่ให้ งอกงามสมบูรณ์ย่งิ ข้นึ3. มภี มู ิคุมกันในตัวทด่ี ี ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวงั ระมดั ระวงั สร้างสรรค์ ภมู ธิ รรม : ซ่อื สัตย์ สุจรติ ขยันอดทน ภูมิธรรม : ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต ขยนั อดทน ตรงตอ่ เวลาและแบง่ ปนั ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบ่งปนั4. เงอื่ นไขความรู้ ความรอบรู้ เร่ือง งานและกาลัง ความรอบรู้ เร่ือง งานและกาลัง ท่ีเกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบท่ี กรณีที่เกิดงาน ปริมาณที่เก่ียวข้อง การ จะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้ คานวณสูตรที่ต้องใช้ สามารถนาความรู้ เช่ือมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน ใหก้ ับผเู้ รยี น5. เงอื่ นไขคุณธรรม มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มี มีความตระหนักใน คุณธรรม มี ความซ่อื สัตยส์ ุจริตและมีความอดทน ความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มี มคี วามเพียร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการ ความเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนิน ดาเนินชวี ิต ชวี ิต
กิจกรรม ครู ผู้เรียนสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนงานและกาลัง งานและกาลัง งานและกาลัง- การเกดิ งานแต่ละกรณี - ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิด - ระบุปจั จยั ทมี่ ีผลตอ่ การเกิดงาน- การเกิดกาลัง การได้เปรียบ งาน - ทดลองเปรยี บเทยี บการเกดิ งานและเชงิ กล - ปริมาณที่เกี่ยวข้องกับ กาลงั พร้อมคานวณปรมิ าณท่ีเกีย่ วขอ้ ง การเกิดงานและกาลังงานและกาลัง งานและกาลงั งานและกาลัง- การเกิดงานแตล่ ะกรณี - ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิด - ระบุปจั จยั ทีม่ ีผลต่อการเกิดงาน- การเกิดกาลัง การได้เปรียบ งาน - ทดลองเปรยี บเทยี บการเกดิ งานและเชิงกล - ปริมาณท่ีเกี่ยวข้องกับ กาลงั พรอ้ มคานวณปรมิ าณทเี่ ก่ยี วข้อง การเกดิ งานและกาลงั ลงชือ่ ..................................................ผูส้ อน (นางสาวอรอณี คีรีเกรกิ ก้อง) ลงชอ่ื ...................................................ผนู้ ิเทศ (............................................)
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5คาช้ีแจงให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 6. พระมหากษัตริย์พระองค์ใด ทรงสถาปนากรุงธนบรุ ี 1.ผู้ใดเป็นผูส้ ถาปนากรงุ สุโขทยั เป็นเมืองหลวง ก.พ่อขุนศรีอินทราทติ ย์ ก. สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 ข. สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ่ี 1 ข. สมเดจ็ พระนเรศรมหาราช ค. สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช ค. พ่อขุนรามคาแหงมหาราช ง. พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ง. สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช มหาราช 7. สมเดจ็ พระบรมราชาท่ี 4 เป็นผู้สถาปนาอาณาจกั รใด 2. พ่อขุนศรอี ินทราทิตย์ มีพระนามเดิมว่าอะไร ก. สุโขทัย ก. พ่อขนุ เดช ข. อยุธยา ข. พ่อขุนสามชน ค. ธนบรุ ี ค. พ่อขุนบาลเมอื ง ง. รตั นโกสินทร์ ง.พ่อขุน บางกลางหาว 8. วันจกั รเี ก่ยี วขอ้ งกบั กษัตริยอ์ งคใ์ ด 3. พ่อขนุ ศรอี ินทราทิตย์ มีความสาคญั อย่างไร ก. พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลก ก. เป็นผู้ยึดครองอาณาจักรขอม มหาราช ข. เปน็ กษตั รยิ อ์ งค์แรกของอยุธยา ข. สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ค. เป็นผนู้ ากลุม่ คนไทยที่ขับไล่ขอม ค. สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ่ี 1 ง. เป็นกษัตริยท์ ี่นาหลกั ธรรมมาใช้ในการปกครอง ง. พอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทติ ย์ 4. พระเจา้ อูท่ องเปน็ ต้นราชวงศ์ใด 9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่พระราชกรณยี กิจของรัชกาลท่ี 1 ก. พระร่วง ก. สร้างกรุงรัตนโกสนิ ทร์ ข. อทู่ อง ข. สังคายนาพระไตรปิฎก ค. ธนบุรี ค. ทรงนพิ นธว์ รรณกรรมตา่ งๆ ง. สโุ ขทยั ง. ใช้การปกครองแบบจตสุ ดมภ์ 10. รัชกาลท่ี 1 ทรงยา้ ยเมืองหลวงเพราะเหตใุ ด 5. ใครคอื ปฐมกษัตรยิ ์แห่งราชวงศอ์ ูท่ อง ก. ไมอ่ ยากอยูท่ เ่ี มืองเดิม ก. พ่อขุนศรอี ินทราทติ ย์ ข. ขยายเมืองใหใ้ หญ่ได้อีก ข. สมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี 1 ค. ความจาเปน็ ทางยุทธศาสตร์ ค. สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ง. ตอ้ งการสร้างเมืองทมี่ คี วามสวยงาม ง. พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช1.ก 2. ง 3. ค 4. ข 5. ข 6. ง 7. ค 8. ก 9. 10. ง10. ค
บตั รภาพ ภาพวัดมหาธาตุ ภาพพ่อขนุ ศรอี ินทราทติ ย์ ภาพประเพณเี ผาเทยี นเล่นไฟ
บตั รภาพ ภาพวาดจนิ ตนาการพระเจา้ อูท่ องทรงควบคุมการสร้างกรุงศรีอยุธยาเป็นราช ธานี
ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง พอ่ ขุนศรีอินทราทิตย์คาช้ีแจงใหน้ กั เรียนตอบคาถามทีก่ าหนดใหถ้ ูกต้องช่ือเดมิ ของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ คือ…………………………………………………………………………………………………………………………………………..พระราชโอรสที่ร่วมทาสงครามกบั ขุนสามชนเจา้ เมอื งฉอด คอื…………………………………………………………………………………………………………………………………………..ผู้นาชาวไทยกอ่ นสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทัย คือ…………………………………………………………………………………………………………………………………………..พระราชกรณียกิจท่สี าคญั ของพอ่ ขุนศรีอินทราทติ ย์ คอื…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
คาชีแ้ จง ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง พ่อขนุ ศรีอินทราทติ ย์ เฉลย ให้นกั เรยี นตอบคาถามท่ีกาหนดให้ถกู ต้องช่ือเดมิ ของพ่อขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ คอื พ่อขุนบางกลางหาวพระราชโอรสทร่ี ่วมทาสงครามกับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด คอื พระรามคาแหงขอมสบาดโขลญลาพง คือ ขุนนางเขมรที่มายึดเมืองศรสี ชั นาลัยและสโุ ขทยัผนู้ าชาวไทยกอ่ นสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทยั คือ พ่อขนุ ศรีนาวนาถม พอ่ ขนุ ผาเมอื ง พอ่ ขนุ บางกลางหาวพระราชกรณียกจิ ที่สาคญั ของพ่อขุนศรีอินทราทติ ย์ คือ ขับไลอ่ ิทธพิ ลของขอม นาทัพตอ่ สู้กบั ขุนสามชนเจา้ เมอื งฉอดเพื่อรกั ษาดินแดน และสถาปนากรุงสุโขทยั เป็นราชธานี
เอกสารประกอบการสอนพระเจ้าอ่ทู องสร้างกรุงศรอี ยุธยาเปน็ ราชธานี ภาพวาดจนิ ตนาการพระเจา้ อทู่ องทรงควบคมุ การสรา้ งกรงุ ศรอี ยุธยาเป็นราชธานี เมอื่ พ.ศ. 1893ทม่ี าของเหตกุ ารณ์ สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี่ 1 (อูท่ อง) เดิมเปน็ กษัตริยค์ รองเมืองอโยธยาแตเ่ มอ่ื เกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นจานวนมาก พระองคจ์ งึ อพยพผู้คนมาสร้างเมอื งใหมท่ ี่หนองโสนหรอื บึงพระราม และทรงสถาปนากรุงศรอี ยธุ ยาเป็นราชธานขี องคนไทย ซึ่งถือเปน็ การเริม่ ตน้ ราชวงศอ์ ู่ทองใน พ.ศ.1893ผลตอ่ พัฒนาการของกรุงศรีอยุธยา ท่ีตง้ั ของกรงุ ศรีอยธุ ยามีความอดุ มสมบูรณเ์ หมาะแก่การเพาะปลูก และมชี ัยภมู เิ หมาะสมทั้งทางด้านยุทธศาสตร์ และสามารถติดตอ่ ค้าขายทางทะเลกับดินแดนทอี่ ยู่ห่างไกลได้สะดวก ทาใหก้ รุงศรีอยุธยาพัฒนาบ้านเมืองได้อย่างม่ันคง และเป็นศูนยก์ ลางอาณาจักรของคนไทยมาได้ 417 ปี (พ.ศ.1893-2310) โดยมพี ระมหากษตั รยิ ์รวมท้ังสิ้น 33 พระองค์ และมรี าชวงศ์ปกครองถึง 5 ราชวงศ์ ทีม่ า : ณรงค์ พว่ งพิศ และคณะ. ม.ป.ป. ประวัติศาสตร์ไทย ม.4-ม.6. กรุงเทพฯ :บรษิ ัทอักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากัด.
ใบความรู้การปกครองแบบจตุสดมภ์ ในสมัยกรงุ ศรีอยุธยา สมเด็จพระรามาธบิ ดีที่ 1 (พระเจา้ อูท่ อง) ไดป้ รบั ปรุงระบอบการปกครองในสว่ นกลางใหมเ่ ป็นแบบจตุสดมภต์ ามแบบอย่างของขอม โดยมีกษตั รยิ เ์ ปน็ ผู้อานวยการปกครองประกอบดว้ ย4 กรม ได้แก่ กรมเวยี ง กรมวัง กรมคลงั และกรมนา มีเสนาบดี 4 คน คอื ขนุ เวียง ขนุ วังขุนคลงั และขุนนา พรอ้ มทัง้ ได้ตรากฎหมายลักษณะอาญาหลวงและกฎหมายลักษณะอาญาราษฎร เพื่อเป็นบรรทัดฐานในดา้ นยตุ ธิ รรม การบงั คบั บญั ชาในส่วนกลางแบ่งออกเป็น 4 สว่ น ไดแ้ ก่ขุนเวยี ง ทาหนา้ ทป่ี กครองท้องถ่ิน รักษาความสงบเรยี บร้อย ปราบปรามโจรผรู้ า้ ย และลงโทษผู้ทาผดิ 2. ขนุ วัง ทาหน้าท่ีรกั ษาพระราชมนเทียร และพระราชวงั ช้ันนอก ช้ันใน เปน็ พนักงานจัดการพระราชพธิ ที ้ังปวงทว่ั ไป และบงั คับบัญชาขา้ ราชการฝ่ายหน้า บรรดาข้าราชการ ซึ่งมีตาแหน่งอยู่ในพระบรมมหาราชวงั ชนั้ ในและขา้ ราชการฝ่ายในท่วั ไป มอี านาจทจ่ี ะตัง้ ศาลชาระความซง่ึ เกยี่ วขอ้ งได้ ราชการในกรมวังนี้มีความละเอียดกว่าราชการในกรมเวยี ง ต้องรู้จักวิธปี ฏบิ ตั ิราชการ มีความจาดี มคี วามขยันหมนั่ เพยี ร และต้องใช้ความร้คู วามสามารถ 3. ขุนคลงั ทาหน้าท่ีในการบังคับบัญชาในเรื่องเกี่ยวข้องกับการเงนิ ซ่งึ จะเขา้ ในพระคลังและที่จะจ่ายราชการ บงั คับบญั ชาการภาษอี ากรขนอนตลาดท้งั ปวง และบงั คับศาลซึ่งชาระความเก่ียวข้องดว้ ยพระราชทรพั ยข์ องหลวงทงั้ ปวง 4. ขนุ นา มีหน้าทีด่ ูแลรกั ษานาหลวง เกบ็ ค่าเช่าจากราษฎร เปน็ พนกั งานจัดซื้อขา้ วข้ึนฉางหลวงเปน็ พนักงานทานาตัวอย่าง ชักจงู ราษฎรให้ลงมือทานาดว้ ยตนเอง เปน็ ผูท้ านุบารุงชาวนาทง้ั ปวง นอกจากนนั้ยงั มีอานาจทจี่ ะตั้งศาลพพิ ากษาความที่เกย่ี วข้องด้วยเรอ่ื งนาและโคกระบือทม่ี า : http://www.dopa.go.th/history/politic2.htm
คาชีแ้ จง ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง สมเดจ็ พระรามาธิบดีที่ 1 ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามที่กาหนดใหถ้ ูกต้องผู้สถาปนากรงุ ศรีอยุธยา คือการจดั ระเบยี บการปกครองแบบจตสุ ดมภ์ คือกรงุ ศรีอยุธยาทาสงครามกับอาณาจกั รสุโขทัยและอาณาจักรเขมร เพื่อ…………………………………………………………………………………………………………………………………………..พระราชกรณยี กจิ ทีส่ าคัญด้านการสร้างความมนั่ คงแก่บ้านเมือง คือ…………………………………………………………………………………………………………………………………………..พระราชกรณยี กจิ ทสี่ าคัญดา้ นศิลปวฒั นธรรม คือ…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง สมเด็จพระรามาธิบดที ่ี 1 เฉลยคาชแี้ จงใหน้ กั เรยี นตอบคาถามท่ีกาหนดให้ถูกต้องผสู้ ถาปนากรงุ ศรีอยธุ ยา คือ สมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 (พระเจ้าอู่ทอง)การจดั ระเบยี บการปกครองแบบจตุสดมภ์ คอื การปกครองทีแ่ บ่งออกเป็น 4 กรม ได้แก่ กรมเวียง กรมวังกรมคลัง และกรมนากรงุ ศรีอยุธยาทาสงครามกับอาณาจกั รสุโขทัยและอาณาจักรเขมร เพื่อ ให้กรงุ ศรีอยุธยามีความมัน่ คงเข้มแข็งมากยงิ่ ข้ึนพระราชกรณียกิจท่ีสาคัญดา้ นการสรา้ งความม่ันคงแกบ่ า้ นเมือง คือ การวางระเบียบด้านการปกครอง การประกาศใชก้ ฎหมายปกครองบ้านเมอื ง และการทาสงครามเพอื่ ขยายอาณาเขตพระราชกรณยี กจิ ทีส่ าคญั ดา้ นศิลปวฒั นธรรม คอื การสร้างพระราชวัง และวัด เช่น วดั พุทไธศวรรย์วัดพระราม
แบบบันทึกการอา่ นชอ่ื หนังสอื ชอื่ ผแู้ ต่ง นามปากกา เดือน พ.ศ. เวลาสานกั พมิ พ์ สถานทพี่ ิมพ์ ปที ี่พิมพ์จานวนหนา้ ราคา บาท อา่ นวนั ท่ี1 .สาระสาคัญของเรื่อง…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. วิเคราะหข์ ้อคิด/ประโยชนท์ ไ่ี ด้จากเร่ืองที่อา่ น…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. สงิ่ ทีส่ ามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..4. ข้อเสนอแนะของครู…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..ลงช่ือ นักเรยี น ลงชอ่ื ผปู้ กครอง( )( ) ลงช่อื ครูผ้สู อน ( )
เอกสารประกอบการสอนเพลง พระเจา้ ตาก คาร้อง – ทานอง คาราบาว ยทุ ธศาสตรย์ ง่ิ ใหญ่ ความต้ังใจเด็ดเดยี่ ว ม้ือนเี้ ราจะเค้ยี วขา้ ว และทุบหมอ้ ข้าว ตีแหกฝ่าวงล้อม ลุยพมา่ ข้าศึก นกึ ถงึ ความเปน็ ไทย ดีกว่าไปเปน็ ทาส สองมือถือดาบอย่างมั่นใจ นักรบไทยของพระเจา้ ตาก ฝากฝังกรุงอยุธยา วันข้างหน้าขา้ จะมาทวงคืน แผ่นดินไทยดาลเดือด ทัพข้าศกึ รุมล้อม มวั แตก่ ลอ่ มสตรี เรงิ โลกียเ์ ปน็ หลกั นกั รบกลายเป็น พบกบั ความปราชัย เจ้าตากทนไม่ได้ แผ่นดินไทยเปน็ หลัก นกั รบคือนักรบ นักส้แู ห่งกรุงศรี ตีฝา่ ทัพตองอู ตายหรืออย่ไู ม่สาคัญ คืนน้ีจันทร์หลับไหล แหกวงในวงล้อม ออ้ มออกจากกรุงศรี ไปเข้าตเี มืองจนั ทน์ ยดึ เมอื งจนั ทบรุ ี เปน็ ชุมนุมเจ้าตาก ตชี มุ นุมต่างๆ ตีเจ้าฝางใหแ้ ตก ทบทวนความพ่ายแพ้ แก้ไขยุทธวิธี รวมชุมนมุ ทม่ี ี ก่อนโจมตีเจา้ ฝาง พ่ายแพเ้ ปน็ บทเรยี น ทาจากเลก็ ไปใหญ่ เจ้าฝางชะล่าใจ ในไมน่ านก็แตก จากอยธุ ยา มาเมอื งจันทบุรี มากรงุ ธนบุรี ไทยจึงมเี อกราช จากอยธุ ยา มาเมืองจนั ทบรุ ี มากรงุ ธนบุรี ตากสินมหาราช
เอกสารประกอบการสอนแผนทีแ่ สดงอาณาเขตประเทศไทยในรชั สมยั ของสมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช
ใบงานที่ 3.1 เรื่อง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชคาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นอธบิ ายพระราชกรณียกิจทส่ี าคญั ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชกรณียกิจท่ีสาคญั ของสมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราชดา้ นการสรา้ งความมนั่ คง ดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นศาสนาและศลิ ปวฒั นธรรม แก่บา้ นเมอื ง
ใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราชเฉลยคาชีแ้ จงให้นักเรยี นอธบิ ายพระราชกรณียกจิ ท่สี าคญั ของสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชพระราชกรณียกิจท่ีสาคัญของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ดา้ นการสรา้ งความมนั่ คง ดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นศาสนาและศลิ ปวฒั นธรรม แก่บา้ นเมอื ง 1. ชว่ ยเหลอื ประชาชนโดยการ 1. โปรดใหค้ ดั ลอกพระไตรปิฎก1. รวบรวมผคู้ นทหี่ ลบหนีกองทพั แจกขา้ ว เส้อื ผา้ ข้นึ ใหม่ พมา่ ใหม้ าอย่ทู จี่ นั ทบุรี และขบั ไล่ กองทพั พม่าออกจากกรงุ ศร-ี 2. สง่ เสรมิ ใหท้ านาปีละ 2 ครงั้ 2. บรู ณะวดั เพอื่ ใหเ้ ป็นศนู ยร์ วม อยุธยา เพอื่ แกป้ ญั หาการขาดแคลนขา้ ว จติ ใจของประชาชน2. ตงั้ ราชธานใี หมท่ กี่ รงุ ธนบุรี และ 3. ตดิ ต่อทางการทตู กบั จนี 3. สง่ เสรมิ การประพนั ธว์ รรณกรรม จดั ระเบยี บการปกครองใหม่ เพอื่ คา้ ขาย เช่น รามเกยี รติ์3. ปราบปรามก๊กหรอื ชมุ นุมต่างๆ
เอกสารประกอบการสอนเพลง รักกันไว้เถิด คารอ้ ง – ทานอง นคร ถนอมทรพั ย์ รักกนั ไว้เถิด เราเกดิ รว่ มแดนไทย จะเกิดภาคไหนก็ไทยด้วยกัน เชือ้ สายประเพณีไม่มีกีดก้ัน เกดิ ใต้ธงไทยนน้ั ปวงชนทุกคนคือไทย ท้องถ่ินแหลมทอง เหมือนท้องของแม่ เกิดถ่นิ เดยี วกันแท้เหมือนแม่เดยี วกันใช่ไหม ยามฉนั มองตาคณุ อบอ่นุ ดวงใจเห็นสายเลอื ดไทย ในสายตาบอกสายสมั พันธ์ ทะเลแสนงาม ในน้ามีปลา พชื พันธ์ุเกลอื่ นตาตามไรน่ ารวงทองไสว สินทรัพย์มีเกล่ือนกล่น บรรพชนให้ไวเ้ ราลกู หลานไทยจงรว่ มใจรกั ษาให้ม่ัน รักกนั ไวเ้ ถิด รักกันไวเ้ ถดิ รกั กันไว้เถดิ แหลมทองโสภาดว้ ยบารมี ปกเกล้าเราไทยนรี้ ่มเย็นเปน็ ศรีผ่องใส ใครคิดบงั อาจหมิน่ ถิน่ ทององค์ไท้ เราพร้อมพลีใจป้องหมู่ไทยและองค์ราชนั ย์ จะเกดิ ชาติไหนก็ไทยด้วยกัน เชื้อสายประเพณีไมม่ ีกดั กั้น เกิดใตธ้ งไทยนนั้ ปวงชนทุกคนคอื ไทย
ใบความรู้เกรด็ ความรปู้ ระวตั ศิ าสตรก์ รงุ รตั นโกสนิ ทร์ พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช มพี ระนามเดิมวา่ ดว้ งหรือทองด้วง เสดจ็ พระราชสมภพเมอื่ วนั พุธ เดือน 4 แรม 4 ค่า ปมี ะโรงจุลศักราช 1098 หรือวนั ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2279 ในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั บรมโกศเป็นบุตรของพระอักษรสุนทร (ทองดี) ข้าราชการกรมอาลักษณก์ ับท่านหยกธดิ าเศรษฐี สืบเชื้อสายมาจากเจ้าพระยาโกษาธบิ ดี (ปาน) เสนาบดีกรมพระคลงั ในสมยั พระบาทสมเดจ็พระนารายณม์ หาราช ท่านเขา้ รับราชการคร้งั แรกโดยถวายตัวเขา้ เปน็ มหาดเล็กในสมเด็จเจา้ ฟ้าอุทมุ พรกรมขนุพรพนิ ิต เมอ่ื พระชนมายุ 12 พรรษา ทรงผนวช ณ วดั มหาทลาย เปน็ เวลา 1 พรรษา ทรงกลับเข้ารบั ราชการเปน็ มหาดเลก็ หลวงและได้รบั บรรดาศกั ดเิ์ ป็นหลวงยกกระบตั ร เมืองราชบุรี เม่ือพระชนมายุ 25 พรรษา หลงั เสียกรงุ ศรอี ยุธยาแก่พม่าได้ 1 ปี พระองค์ได้เขา้ มารับราชการในกรงุ ธนบรุ ใี นตาแหน่งพระราชวรินทร์ ในกรมพระตารวจหลวง ทรงเปน็ กาลงั สาคญั ในการกอบกบู้ า้ นเมืองและทาศึกสงครามมากมาย ในปี พ.ศ.2311 พระองค์ไดต้ ามเสดจ็ สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราชไปปราบเจา้ พิมาย ภายหลังสงครามครง้ั นี้ทรงได้รับพระราชทานบรรดาศกั ด์เิ ป็นพระยาอภัยรณฤทธ์ิ ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2312 ทรงเปน็ แมท่ ัพไปตีเมืองเขมร(กมั พูชา) ตไี ด้เมืองพระตะบองและเสยี มราฐ ดว้ ยพระปรชี าสามารถในการทาสงครามอย่างมากมาย จึงไดร้ บัพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชเลอ่ื นยศเป็นพระยายมราช เจ้าพระยาจักรี และสมเดจ็ เจา้ พระยามหากษัตรยิ ์ศึก ตามลาดบั เมื่อถึงปลายรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ราวปพี .ศ. 2324 ขณะสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตรยิ ศ์ ึกกาลงั ไปราชการทัพอยูท่ ่ีเขมร (กัมพูชา) ได้เกิดเหตกุ ารณ์จลาจลข้นึ ในกรงุ ธนบุรี เกดิ ความขดั แยง้ กนัอยา่ งรนุ แรง ระหว่างฝ่ายกบฏทต่ี อ้ งการควบคุมองคส์ มเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แล้วออกวา่ ราชการแทนกับฝา่ ยตอ่ ตา้ นกบฏ ก่อความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอยา่ งมาก สมเดจ็ เจา้ พระยามหากษัตริย์ศกึ จงึ ยกทัพกลับกรุงธนบรุ ีทันที และปราบปรามฝา่ ยกบฏได้สาเร็จ เม่ือปราบปรามฝา่ ยกบฏได้สาเร็จแล้ว ราษฎรและข้าราชการจึงไดอ้ ญั เชญิ พระองค์ปราบดาภิเษกขนึ้ เปน็ พระมหากษตั ริย์ ทรงพระนามวา่ พระบาทสมเดจ็ พระรามาธิบดศี รสี นิ ธร มหาจกั รีบรมนาถพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลก เม่อื วันท่ี 10 มิถุนายน พ.ศ. 2325นบั เป็นองคป์ ฐมกษัตรยิ ์ แห่งราชวงศจ์ กั รี
ใบความรู้ (ต่อ) สาเหตกุ ารย้ายราชธานจี ากกรุงธนบรุ ีมาทีก่ รงุ เทพมหานคร เมอ่ื พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชทรงปราบจลาจลภายในกรงุ ธนบรุ ีและสรา้ งความม่ันคงภายในประเทศแล้ว พระองค์ทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรี ซึง่ อยู่ทางฝง่ั ตะวันตกมายงั ฝ่งัตะวันออกของแมน่ ้าเจ้าพระยา มสี าเหตหุ ลายประการ ดังน้ี 1. พระราชวังเดมิ ของกรงุ ธนบรุ ีคบั แคบ มีวัดขนาบอยู่ทงั้ 2 ด้าน คือ วดั แจง้ (วดั อรณุ ราชวราราม) และวดั ท้ายตลาด (วดั โมลีโลกยาราม) ทาให้ไม่สามารถขยายอาณาเขตของพระราชวังให้กวา้ งขวางขึน้ ได้ 2. พระองค์ไม่ทรงเหน็ ดว้ ยทจี่ ะให้พระนครแบ่งออกเป็น 2 สว่ น โดยมแี มน่ ้าเจ้าพระยาผา่ กลางเปน็ เสมือนเมืองอกแตก เพราะหากขา้ ศึกยกทัพเข้ามาตามลาแม่นา้ กส็ ามารถบุกตีใจกลางเมอื งหลวงได้ ทาให้ยากแก่การเคล่ือนพลจากฝ่ังหนึ่งไปยังอีกฝงั่ หนึ่ง ซ่งึ เปน็ การยากลาบากมาก ดงั นน้ั พระองคจ์ ึงยา้ ยพระนครมาอยทู่ างฝงั่ ตะวนั ออกของแม่น้าเจา้ พระยาเพียงแห่งเดียว โดยมีแม่นา้ เป็นคเู มืองทางด้านตะวนั ตกและใต้ สว่ นทางดา้ นตะวันออกและทางด้านเหนือโปรดเกลา้ ฯ ให้ขดุ คลองขน้ึ เพอ่ื เป็นคูเมืองป้องกันพระนคร 3. พ้ืนทที่ างฝง่ั ตะวนั ออกเป็นทีร่ าบลมุ่ สามารถขยายเมืองให้กว้างออกไปได้เร่ือยๆ เพราะสว่ นทางฝงั่ ตะวนั ออกของพื้นที่เป็นแหลม โดยมแี มน่ า้ เปน็ กาแพงกนั้ อยเู่ กือบครึ่งเมือง 4. ทางฝ่ังตะวันตกของแม่น้าเจ้าพระยา พน้ื ทเ่ี ป็นทอ้ งคุ้ง น้ากัดเซาะตล่ิงพังทลายอยู่เสมอ จงึ ไม่เหมาะ แก่การสร้างอาคารหรอื ถาวรวัตถใุ ดๆ ไวร้ ิมฝัง่ แม่นา้ เมอื่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงให้สรา้ งเมอื งใหม่ทางฝ่ังตะวันออกของแม่นา้ เจา้ พระยา ตั้งแตบ่ ริเวณหวั โค้งแม่นา้ เจ้าพระยา คอื บรเิ วณพระบรมมหาราชวงั ในปจั จุบันและพระราชทานนามเมืองใหมน่ ้วี า่ “กรุงเทพมหานครบวรรตั นโกสนิ ทร์ มหินทราอยุธยามหาดิลก ภพนพรัตน์ราชธานบี รุ ีรมย์ อดุ มราชนเิ วศน์ มหาสถานอมรพิมานอวตารสถติ สกั กทตั ติยวษิ ณุกรรมประสทิ ธ์ิ” ต่อมาในรชั กาลท่ี 3 ทรงเปลยี่ นจากคาวา่ บวรรตั นโกสินทร์ เป็น อมรรตั นโกสนิ ทร์ สงครามเกา้ ทพั เปน็ สงครามระหวา่ งอาณาจกั รพม่ากับอาณาจกั รไทย หลงั จากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ไดส้ ถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เป็นราชธานีแห่งใหม่ เวลานน้ั บา้ นเมอื งอยูใ่ นช่วงผา่ นศึกสงครามมาใหม่ ๆ ประจวบทั้งการสรา้ งบ้านแปลงเมอื ง รวมทั้งปราสาทราชวังตา่ ง ๆ ในปี พ.ศ. 2328 พระเจ้าปดุงกษตั ริย์พม่า หลงั จากบรมราชาภิเษกข้ึนเปน็ กษัตรยิ ์องั วะแล้ว ตอ้ งการประกาศแสนยานุภาพ เผยแผอ่ ทิ ธิพลโดยไดท้ าสงครามรวบรวมเมอื งเล็กเมืองน้อยรวมถึงเมืองประเทศราชใหเ้ ป็นปกึ แผ่น แลว้ กไ็ ด้ยกกองกาลงั เข้ามาตไี ทย โดยมีจุดประสงค์ทาสงครามเพื่อทาลายกรุงรัตนโกสินทรใ์ ห้พินาศย่อยยบั เหมือนเชน่ กรงุ ศรอี ยธุ ยา
ใบความรู้ (ต่อ) สงครามคร้ังน้ีพระเจา้ ปดงุ ไดย้ กทัพมาถงึ 9 ทัพ รวมกาลงั พลมากถงึ 144,000 นาย โดยแบง่ การเข้าโจมตกี รุงรัตนโกสินทรอ์ อกเป็น 5 ทิศทาง ทัพที่ 1 ไดย้ กมาตีหวั เมืองประเทศราชทางปักษใ์ ต้ต้ังแตเ่ มืองระนองจนถึงเมืองนครศรีธรรมราช ทพั ท่ี 2 ยกเขา้ มาทางเมอื งราชบุรเี พื่อทจี่ ะรวบรวมกาลังพลกบั กองทัพทตี่ ีหวั เมืองปักษใ์ ต้แล้วค่อยเขา้โจมตีกรุงรัตนโกสินทร์ ทัพที่ 3 และ 4 เขา้ มาทางดา่ นแมล่ ะเมาแม่สอด ทัพท่ี 5-7 เข้ามาทางหวั เมืองฝา่ ยเหนอื ตงั้ แต่เชยี งแสน เชียงใหม่ ลาพูน ลาปาง ตตี ้ังแตห่ ัวเมอื งฝ่ายเหนอื ลงมาสมทบกบั ทพั ที่ 3 และ 4 ทยี่ กเขา้ มาทางดา่ นแม่ละเมา เพื่อตเี มอื งตาก กาแพงเพชร พษิ ณโุ ลกนครสวรรค์ ทพั ท่ี 8-9 เป็นทพั หลวงพระเจา้ ปดงุ เป็นผ้คู มุ ทัพ โดยมกี าลังพลมากทส่ี ุดถงึ 50,000 นาย ยกเขา้ มาทางดา่ นพระเจดยี ส์ ามองค์เพ่ือรอสมทบกบั ทพั เหนือ และใต้โดยมจี ดุ มุ่งหมายทจ่ี ะเข้ารบกับกรงุ เทพฯ วัดประจารชั กาลที่ 1 วดั โพธ์ิ หรือนามทางราชการว่า วดั พระเชตพุ นวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวหิ าร เปน็ พระอารามหลวงชนั้ เอกและเป็นวัดประจารชั กาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จกั รี เนอ่ื งจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวดั โพธารามวัดเก่าท่ีเมอื งบางกอกคร้งั กรุงศรีอยธุ ยาเป็นวัดหลวงข้างพระบรมมหาราชวงั และท่ใี ต้พระแท่นประดิษฐานพระพทุ ธเทวปฏมิ ากร พระประธานในพระอุโบสถเปน็ ทบ่ี รรจุพระบรมอัฐิของพระองคท์ ่านไว้ดว้ ยพระอารามหลวงแห่งนม้ี ีเน้อื ที่ 50 ไร่ 38 ตารางวาอยดู่ ้านทศิ ใต้ของพระบรมมหาราชวงั ทิศเหนอื จดถนนทา้ ยวัง ทศิ ตะวันออกจดถนนสนามไชย ทศิ ใต้จดถนนเศรษฐการ ทิศตะวนั ตกจดถนนมหาราช มีถนนเชตพุ น ขนาบด้วยกาแพงสงู สีขาวแบง่ เขตพุทธาวาสและสงั ฆาวาสชดั เจน มีหลกั ฐานปรากฏในศิลาจารึกไวว้ า่ หลังจากท่ีพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนาพระบรมมหาราชวงั แลว้ ทรงพระราชดารวิ ่า มีวดั เก่าขนาบพระบรมมหาราชวัง 2 วัด ด้านเหนอื คอืวัดสลกั (วดั มหาธาตุฯ) ดา้ นใต้คอื วดั โพธาราม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ขนุ นางเจ้าทรงกรม ชา่ งสิบหมู่อานวยการบูรณปฏิสังขรณ์ เร่ิมเมือ่ ปี พ.ศ. 2331 ใช้เวลา 7 ปี 5 เดือน 28 วัน จึงแล้วเสรจ็ และโปรดฯ ให้มีการฉลองเม่ือ พ.ศ. 2344 พระราชทานนามใหม่วา่ “วดั พระเชตุพนวิมลมงั คลาวาศ” ตอ่ มารัชกาลที่ 4 ไดโ้ ปรดฯ ใหเ้ ปลย่ี นทา้ ยนามวดั เป็น “วัดพระเชตุพนวิมลมงั คลาราม” ทีม่ า : http://www.watpho.com/, http://www.unigang.com/Article/8641 http://www.thairoyal.prdnorth.in.th/ChakriDynasty/articles/4/ราชวงศ์จกั รี
แบบบนั ทกึ ความรู้คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มสรปุ พระราชประวตั ิ พระราชกรณียกจิ ทสี่ าคัญ และสรุปผลการตคี วามและสังเคราะหป์ จั จยั ที่พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทรไ์ ดส้ าเรจ็ แล้วบนั ทกึ ผลพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช ผู้สถาปนากรงุ รัตนโกสินทร์พระราชประวัติพระราชกรณียกิจด้านการเมืองการปกครองพระราชกรณียกิจด้านศาสนาพระราชกรณียกิจด้านศิลปวัฒนธรรมพระราชกรณียกิจด้านเศรษฐกิจปัจจัยสาคัญท่ีพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช สถาปนากรงุ รตั นโกสินทรไ์ ดส้ าเรจ็
ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มทาสมุดภาพ เรื่อง พระมหากษตั ริยผ์ ู้สถาปนาอาณาจักรไทยตามทส่ี มาชกิ กลมุ่ สนใจร่วมกัน 1 พระองค์ โดยรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณยี กจิแลว้ วเิ คราะห์คุณค่าของพระราชกรณยี กิจต่างๆ (ตดิ ภาตพดิ รวปู ัฒพรนะธมรหรากมษไทตั รยยิ )์พระราชประวตั ิพระราชกรณยี กจิ ทีส่ าคญัคณุ ค่าของพระราชกรณียกจิ
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)แบบประเมนิ สมุดภาพ เรอ่ื ง พระมหากษัตรยิ ผ์ ู้สถาปนาอาณาจกั รไทยลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 321 การสรปุ พระราชประวัติ2 การสรปุ พระราชกรณยี กิจ3 การวเิ คราะห์คุณคา่ ของพระราชกรณยี กิจรวม ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมนิ ............../.................../................
แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทางานรายบุคคลคาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องทีต่ รงกับ ระดบั คะแนน ช่ือ – สกลุ ความมีวนิ ยั ความมีน้าใจ การรับฟงั การแสดง การตรงตอ่ รวมลาดับท่ี ของผรู้ ับการ 321 เอ้ือเฟ้ือ ความ ความ เวลา 15 เสยี สละ คิดเห็น คิดเหน็ คะแนน ประเมนิ 321 321 321 321 ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................
แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทางานกลุม่คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงในช่องทต่ี รงกับ ระดับคะแนน ชอื่ – สกลุ ความ การแสดง การรับฟัง ความตั้งใจ การแกไ้ ข รวมลาดบั ที่ ของผู้รับการ ร่วมมอื กัน ความ ความ ทางาน ปญั หา/หรอื 15 ทากจิ กรรม คดิ เหน็ คดิ เหน็ ปรับปรงุ คะแนน ประเมิน ผลงานกลุม่ 321321321321321 ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับคะแนนคุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1อันพงึ ประสงคด์ ้าน 321. รกั ชาติศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ได้ยินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และบอกความหมายของกษตั รยิ ์ เพลงชาติ2. ซอื่ สตั ย์ สุจริต 1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามสทิ ธแิ ละหนา้ ทีข่ องนักเรียน ให้ความรว่ มมอื ร่วมใจ ใน การทางานกบั สมาชกิ ในห้องเรยี น3. มีวนิ ัย รับผดิ ชอบ 1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อ4. ใฝเ่ รยี นรู้ โรงเรียนและชุมชน 1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏิบัตติ นตามหลกั ของศาสนา และเป็นตัวอยา่ งท่ดี ีของศาสนิกชน 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมทเี่ กี่ยวกับสถาบัน พระมหากษัตริยต์ ามทีโ่ รงเรียนและชมุ ชนจดั ขน้ึ ช่ืนชมในพระราชกรณยี กิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริยแ์ ละพระราชวงศ์ 2.1 ให้ขอ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ ง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัติในส่ิงทถ่ี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลัวทจ่ี ะทาความผิด ทาตาม สญั ญาท่ีตนให้ไว้กับพ่อแม่หรอื ผู้ปกครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ นต่อผ้อู ืน่ ดว้ ยความซื่อตรง และเป็นแบบอยา่ งท่ีดีแกเ่ พอื่ นดา้ น ความซอื่ สตั ย์ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครวั และ โรงเรยี น มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่างๆในชีวติ ประจาวันมี ความรับผิดชอบ 4.1 ตงั้ ใจเรียน 4.2 เอาใจใสใ่ นการเรยี น และมคี วามเพียรพยายามในการเรียน 4.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรตู้ ่างๆ 4.4 ศกึ ษาค้นคว้า หาความรจู้ ากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือเทคโนโลยี ต่างๆแหลง่ การเรยี นรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลือกใชส้ ่อื ได้ อย่างเหมาะสม 4.5 บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางส่ิงที่เรยี นรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ 4.6 แลกเปล่ียนความรู้ ด้วยวิธกี ารต่างๆ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ต่อ)คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดับคะแนนคณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 3215. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ นิ และส่งิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดัพอเพยี ง 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงนิ6. มุ่งม่นั ในการ 6.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทางานท่ไี ด้รับมอบหมายทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพื่อให้งานสาเร็จ7. รักความเป็น 7.1 มีจิตสานึกในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทยไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมไทย8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รูจ้ ักชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบง่ ปันสงิ่ ของใหผ้ ูอ้ ่ืน 8.3 ดูแล รักษาทรัพยส์ มบตั ิและสิง่ แวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้ารว่ มกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชนข์ อง โรงเรยี น ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: