แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นาธรรม โดย นางสาวอรอณี ครี ีเกริกกอ้ ง ตาแหนง่ นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
บนั ทึกข้อความสว่ นราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชียงใหม่ที่ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 วนั ที่ 5/ตุลาคม/2561เรอื่ ง การเสนอแผนการจัดการเรยี นรเู้ พ่ือขออนญุ าตใช้ในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนเรยี น ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ข้าพเจ้า นางสาวอรอณี คีรีเกรกิ กอ้ ง ตาแหน่ง นกั ศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาละวฒั นธรรม ได้จัดทาจัดทาแผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา ส13102 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2561 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 จานวน 1 แผน 6 ชั่วโมงดังรายละเอยี ดท่แี นบมาพร้อมน้ี จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดทราบและพจิ ารณา ลงชอื่ ครูผู้สอนประจาวิชา (นางสาวอรอณี คีรีเกริกกอ้ ง) 29/ตุลาคม/2561ความเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ 1. สว่ นประกอบของเอกสารที่ รายการ มี ไมม่ ี หมายเหตุ ) ควรปรับปรุง1 คาอธิบายรายวชิ า2 ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ (ตารางวเิ คราะห์ KPA)3 โครงการสอน/สาระการเรยี นรู้/จานวน ชม.4 การออกแบบกระบวนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้5 แผนการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้6 รายละเอียดแผนการวดั และประเมินการเรยี นรู้2. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ (3. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่( ) ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมได้อย่างเหมาะสม( ) ท่ยี งั ไมเ่ น้นผ้เู รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป4. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
( ) นาไปใชจ้ ริง ( ) ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้5. ขอ้ เสนอแนะ............................................................................................................................. .......................................................................................................................... ..................................................................... ............... ลงชือ่ ………………………………………………………… (นายนกิ ร ไชยบตุ ร) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้/ผแู้ ทนความเหน็ ของรองผู้อานวยการโรงเรยี นกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ1.เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง2.เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี( ) ท่เี น้นผเู้ รียนเป็นสาคัญมาใช้ในการจัดกิจกรรมได้อยา่ งเหมาะสม( ) ที่ยังไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่( ) นาไปใช้จรงิ ( ) ควรปรบั ปรงุ ก่อนนาไปใช้4. ข้อเสนอแนะ..................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... .............................................. ลงช่ือ ……………………………………………………………. (นายวิเศษ ฟองตา) ตาแหน่ง รองผู้อานวยการ”รงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา ( ) อนุญาตใหใ้ ช้ แผนการเรียนรู้ น้ีได้ ( ) ไมอ่ นุญาต เพราะ................................................................................. ลงชอื่ ……………………………………………………………. ( นางวลิ าวัลย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
การจดั ทาโครงสร้างรายวชิ า รายวิชา ประวตั ิศาสตร์ รหสั วิชา ส 13102 ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จดั ทาโดย นางสาวอรอณี คีรีเกรกิ ก้อง ตาแหนง่ นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลชา่ งเค่ิง อาเภอแม่แจม่ จังหวัดเชยี งใหม่ สานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษสานักงานการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
คาอธบิ ายรายวิชารายวิชา ประวตั ิศาสตร์ 3 รหสั วชิ า ส 13102 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1 หนว่ ยกติ ภาคเรียนที่ 1-2 ศึกษา เปรียบเทียบศักราชที่สาคัญทางปฏิทิน ลาดับเหตุการณ์สาคัญของโรงเรียนและชุมชน ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการต้ังถ่ินฐานและพัฒนาการของชุมชน ลักษณะที่สาคัญของขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชน ความเหมือนและแตกต่างทางวัฒนธรรมชุมชนของตนเองกับชุมชนอื่น ๆ พระนามและพระราชกรณียกิจของกษัตริย์ไทยที่เป็นผู้สถาปนาอาณาจักรไทยและพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบันวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยท่ีมีสว่ นปกป้องประเทศชาติโดยใช้กระบวนการสืบค้น กระบวนการคิดวิเคราะห์ เปรียบเทียบศักราชที่สาคัญทางปฏิทินและกระบวนอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เปรียบเทียบศักราชท่ีสาคัญทางปฏิทิน สรุปความสาคัญของขนบธรรมเนียมประเพณี รวมท้ังอธิบายถึงบทบาทของพระมหากษัตริย์ วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย เห็นคุณค่าของประวัตศิ าสตรไ์ ทย ตลอดจนนาความร้ทู ่ีไดร้ ับไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวันตวั ชีว้ ดัส 4.1 ป.3/1 เทียบศักราชท่ีสาคัญตามปฏิทินท่ีใช้ในชีวิตประจาวนัส 4.1 ป.3/2 แสดงลาดบั เหตกุ ารณส์ าคัญของโรงเรียนและชุมชน โดยระบุหลกั ฐานและแหล่งข้อมลู ที่เก่ยี วข้องส 4.2 ป.3/1 ระบปุ ัจจัยท่มี ีอิทธพิ ลต่อการตั้งถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชนส 4.2 ป.3/2 สรปุ ลกั ษณะทสี่ าคญั ของขนมธรรมเนยี ม ประเพณี และวฒั นธรรมของชุมชนส 4.2 ป.3/3 เปรียบเทียบความเหมือนและความตา่ งทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนอน่ื ๆส 4.3 ป.3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณียกจิ โดยสงั เขปของพระมหากษตั ริยไ์ ทยท่เี ปน็ ผูส้ ถาปนาอาณาจักร ไทยส 4.3 ป.3/2 อธิบายพระราชประวตั แิ ละพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั รยิ ์ในรัชกาลปัจจบุ นั โดยสังเขปส 4.3 ป.3/3 เลา่ วีรกรรมของบรรพบุรษุ ไทยทม่ี สี ่วนปกปอู งประเทศชาติรวม 8 ตัวชวี้ ัด
ผงั มโนทัศน์ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส 13102กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2ชือ่ หนว่ ยที่ 1 ความเหมอื นและความแตกตา่ งทาง ชอื่ หน่วยที่ 2 สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ่ี 1 วฒั นธรรมของชุมชน จานวน 1 ช่ัวโมง: 3 คะแนน จานวน 2 ชั่วโมง : 3 คะแนน หนว่ ยที่ 5เรอื่ ง พระมหากษตั รยิ ผ์ สู้ ถาปนาอาณาจกั รไทย จานวน 8 ช่ัวโมง 15 คะแนนช่อื หนว่ ยที่ 3 สมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช ชื่อหนว่ ยที่ 4 พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ า จานวน 2 ชว่ั โมง : 3 คะแนน โลกมหาราช จานวน 2 ชัว่ โมง : 3 คะแนนชอื่ หนว่ ยท่ี 5 พระมหากษตั รยิ ์ ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รไทย
ผงั มโนทศั น์ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหสั วิชา ส 13102กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2ช่อื หนว่ ยท่ี 1 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ช่อื หนว่ ยที่ 2 สมเดจ็ พระนางเจา้ ภมู พิ ลอดุลยเดช สริ กิ ติ พิ ์ ระบรมราชนิ ีนาถ หนว่ ยท่ี 6 เรอ่ื ง รม่ เกลา้ ชาวไทยจานวน 3 ชว่ั โมง 10 คะแนนช่อื หนว่ ยท่ี 3 รม่ เกลา้ ชาวไทยจานวน 1 ช่ัวโมง : 3 คะแนน
ผังมโนทศั น์ รายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ รหัสวชิ า ส 13102กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2ชือ่ หน่วยที่ 1 สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ชื่อหนว่ ยที่ 2 ชาวบา้ นบางระจนั จานวน 1 ชว่ั โมง : 4 คะแนน จานวน 1 ช่วั โมง: 4 คะแนน หน่วยที่ 7 เร่ือง บรรพบรุ ุษไทยจานวน 5 ช่วั โมง 15 คะแนนชื่อหน่วยท่ี 3 พระยาพชิ ยั ดาบหกั ช่ือหน่วยท่ี 3 ทา้ วเทพสตรที า้ วศรสี ุนทรจานวน 2 ชั่วโมง : 4 คะแนน จานวน 1 ชว่ั โมง : 3 คะแนน
โครงสร้างรายวชิ รหัสวิชา ส 13102 กลมุ่ สาระการเรีย ช้ันประถมศท่ี ชื่อหน่วย รหสั มฐ.ตวั ชว้ี ดั / การเทียบศักราชตามปฏทิ ินที่ใช ผลการเรียนรู้ เร่อื งราวตา่ งๆ ท่ีเกดิ ข้ึนได้ถูกตอ้1 ศกั ราชใน ชีวติ ประจาวนั ส 4.1 ป.3/12 เรอื่ งราวสาคัญของ ส 4.1 ป.3/2 การสืบคน้ และรวบรวมข้อมูลจ โรงเรียนและชมุ ชน ระบบข้ันตอน ช่วยให้สามารถล ชมุ ชนไดส้ อดคล้องกับความเป็น3 ถ่ินฐานไทย (1) ส 4.2 ป.3/1 ปจั จัยทางภมู ศิ าสตร์และปจั จัย4 ถนิ่ ฐานไทย (2) ส 4.2 ป.3/2 ของชุมชนในภาคตา่ งๆ ของปร ส 4.2 ป.3/3 ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และ5 พระมหากษัตริย์ ส 4.3 ป.3/1 ลักษณ์ของชมุ ชนทีเ่ กิดจากปัจจ ชมุ ชนผูส้ ถาปนาอาณาจักรไทย พอ่ ขนุ ศรีอินทราทติ ย์ สมเด็จพ ตากสินมหาราช และพระบาทส พระมหากษัตริย์ที่ได้กอบกแู้ ผ่น ชาติไทยจนถงึ ปจั จุบนั
ชา ประวัตศิ าสตร์ยนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรมศกึ ษาปีท่ี 3 สาระสาคัญ เวลา คะแนน A (ชม.) รวม KP 5ช้ในชีวติ ประจาวนั จะชว่ ยใหล้ าดบั เหตกุ ารณ์หรือ 10 5อง 4 15จากหลกั ฐาน และแหลง่ ข้อมูลท่ีเก่ยี วขอ้ งอยา่ งมี 5 15 5 5 5ลาดับเหตุการณส์ าคญั ทเี่ กดิ ขึ้นในโรงเรยี นและนจรงิ 10 15 5 5 5 5 15 5 5 5ยทางสงั คมมีผลต่อการตงั้ ถ่นิ ฐานและพัฒนาการระเทศไทยะวฒั นธรรม เปน็ วถิ ีการดาเนินชีวติ อันเป็นเอกจยั ทางภูมศิ าสตรแ์ ละปจั จยั ทางสังคมของแต่ละพระรามาธิบดที ี่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) สมเด็จพระเจา้ 8 15 5 5 5สมเด็จพระพุทธยอดฟาู จุฬาโลกมหาราช เปน็นดนิ และสร้างสรรค์ความเจริญมน่ั คง จนทาให้มี
6 รม่ เกล้าชาวไทย ส 4.3 ป.3/2 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวภ7 บรรพบุรุษไทย ส 4.3 ป.3/3 พระบรมราชินีนาถ ทรงเปน็ ศูน สังคมไทยและประเทศชาติหลา อยู่เยน็ เป็นสุขร่วมมือกนั รักษาส ท้าวเทพสตรี ท้าวศรสี นุ ทร ชาว พระนเรศวรมหาราช เปน็ บรรพ ราช และสร้างความม่นั คงของช ในการปฏบิ ัติตาม รวมท้ังสิน้
ภมู พิ ลอดลุ ยเดช และสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ 3 10 5 2 3นยร์ วมใจของคนไทย ไดท้ รงทาคุณประโยชน์ต่อายประการ เพ่ือประเทศชาติม่ันคงและคนไทยสิ่งดีงามของชมุ ชนให้คงอยู่ตลอดไปวบ้านบางระจัน พระยาพิชัยดาบหัก และสมเด็จ 5 15 5 3 2พบุรุษของไทยท่ีไดป้ กปอู งประเทศชาติใหเ้ ปน็ เอกชาตไิ ทย วีรกรรมของบรรพบุรุษเป็นแบบอย่างทด่ี ี 40 100 40 30 30
การวิเคราะหม์ าต รายวิชา ประวตั ศิ าสต ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท ตัวชว้ี ดั / รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน/ช้ินงานผลการเรยี นรู้ การเทียบศักราชตาม 1. ใบงานท่ี 1.1 เรื่องทม่ี าของศกั ราชส 4.1 ป.3/1 ปฏิทนิ ทใี่ ช้ใน 2. ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื งการเทยี บศักราช ชวี ติ ประจาวนั จะช่วยให้ 3. ใบงานท่ี 2.2 เรื่องการเทยี บศกั ราชแบบตา่ ง ลาดับเหตกุ ารณห์ รือ 4. ใบงานท่ี 3.1 การเทยี บศักราชจากเหตุการ เรือ่ งราวต่างๆ ทีเ่ กดิ ขึ้นได้ 5. แบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น หนว่ ยการเร ถูกต้อง เรอ่ื ง ศกั ราชในชีวิตประจาวนั
ตรฐานและตัวชี้วดั คุณลักษณะ คณุ ลกั ษณะตร์ รหสั วิชา ส 13102 ของวิชา อันพงึ ประสงค์ที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 1. มวี ินัย 1. มีวนิ ัย สมรรถนะสาคญั 2. ใฝุเรียนรู้ 2. ใฝุเรียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 3. ม่งุ ม่ันในการ 1. ความสามารถในการ ทางาน สอ่ื สาร (การอา่ น การพดู 4. รักความเป็นไทยงๆ การเขยี น การฟัง) 5. มจี ติ สาธารณะรณส์ าคญั 2. ความสามารถในการคดิรยี นรู้ที่ 1 วเิ คราะห์ 3. ความสามารถในการ แกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี
การวิเคราะหม์ าต รายวชิ า ประวัติศาสต ชนั้ ประถมศึกษาปีท ตัวชี้วดั / ร้อู ะไร ทาอะไร ภาระงาน/ช้นิ งานผลการเรยี นรู้ การสืบคน้ และรวบรวม 1. ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง โรงเรยี นของเราส 4.1 ป.3/2 ข้อมูลจากหลกั ฐาน และ 2.ใบงานที่2.1เรื่องเหตุการณ์สาคัญในโรงเรียน แหล่งขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วข้อง ของเรา อย่างมีระบบขนั้ ตอน ชว่ ย 3. ทาแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียนหนว่ ยการเร ให้สามารถลาดับเหตุการณ์ เรอ่ื ง เรือ่ งราวสาคัญของโรงเรียนและชมุ ชน สาคญั ทีเ่ กิดข้นึ ในโรงเรยี น และชุมชนได้สอดคลอ้ งกับ ความเปน็ จรงิ
ตรฐานและตัวชี้วดั คณุ ลกั ษณะ คณุ ลกั ษณะตร์ รหสั วชิ า ส 13102 ของวิชา อันพงึ ประสงค์ ท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 1. มวี นิ ยั 1. มีวินัย สมรรถนะสาคัญ 2. ใฝเุ รยี นรู้ 2. ใฝุเรียนรู้ 3. มุง่ มั่นในการทางาน 3. มงุ่ มั่นในการ 1. ความสามารถในการ ทางานน ส่ือสาร (การอา่ น การพดู 4. รักความเป็นไทย 5. มจี ิตสาธารณะ การเขยี น การฟัง) รียนรู้ท่ี 2 2. ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ 3. ความสามารถในการ แกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี
การวเิ คราะห์มาต รายวิชา ประวตั ิศาสต ช้ันประถมศึกษาปีท ตวั ชวี้ ัด/ รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน/ชิ้นงานผลการเรยี นรู้ ปจั จัยทางภูมศิ าสตร์และ 1.ใบงานที่ 1.1เรื่อง ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์และทส 4.2 ป.3/1 ปจั จยั ทางสงั คมมผี ลต่อ สงั คมที่มีอทิ ธิพลต่อชุมชน การต้งั ถิ่นฐานและ 2.ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง อิทธพิ ลของปจั จัยทางภมู พัฒนาการของชุมชนใน 3.ใบงานท่ี 2.2เรอ่ื ง ปัจจัยท่มี ีอทิ ธพิ ลต่อพฒั น ภาคต่างๆ ของประเทศ การของชุมชนภาคเหนอื ไทย 4.ใบงานท่ี 4.1เร่ือง ปัจจยั ท่มี ีอทิ ธิพลต่อพฒั นา การของชมุ ชนภาคใต้ 5.ใบงานที่ 5.1เร่อื ง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ พฒั นาการของชมุ ชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6. แบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น หนว่ ยการเรียน เรอื่ ง ถิน่ ฐานไทย (1)
ตรฐานและตัวช้ีวดัตร์ รหัสวชิ า ส 13102 ที่ 3 ภาคเรียนที่ 1ทาง สมรรถนะสาคัญ คุณลักษณะ คุณลักษณะ ของวิชา อันพึงประสงค์มิศาสตร์ 1. ความสามารถในการนา สือ่ สาร (การอา่ น การพูด 1. มีวนิ ัย 1. มีวนิ ัย การเขยี น การฟงั ) 2. ใฝุเรยี นรู้ 2. ใฝุเรียนรู้า 2. ความสามารถในการคิด 3. มุ่งม่นั ในการทางาน 3. มุง่ มน่ั ในการ วิเคราะห์ ทางานอ 3. ความสามารถในการ 4. รักความเปน็ ไทยนรู้ที่ 3 แกป้ ญั หา 5. มจี ิตสาธารณะ 4. ความสามารถในการใช้ ทักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี
การวิเคราะห์มาต รายวิชา ประวตั ิศาสต ช้ันประถมศกึ ษาปีท ตวั ชว้ี ดั / รู้อะไร ทาอะไร ภาระงาน/ชิ้นงานผลการเรยี นรู้ ขนบธรรมเนียม ประเพณี 1. ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง วฒั นธรรมของชุมชนส 4.2 ป.3/2 และวฒั นธรรม เปน็ วถิ ีการ 2. ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง วฒั นธรรมการกินส 4.2 ป.3/3 ดาเนินชวี ิตอนั เปน็ 3. แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน หนว่ ยการเรยี น เอกลกั ษณ์ของชมุ ชนท่ีเกดิ เรือ่ ง ถน่ิ ฐานไทย (2) จากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ และปจั จัยทางสงั คมของ แตล่ ะชุมชน
ตรฐานและตัวช้วี ัดตร์ รหสั วิชา ส 13102 ที่ 3 ภาคเรียนที่ 1สมรรถนะสาคัญ คุณลกั ษณะ คณุ ลักษณะ ของวชิ า อันพงึ ประสงค์1. ความสามารถในการ 1. มีวินัย 1. มีวนิ ัยส่อื สาร (การอา่ น การพดู 2. ใฝเุ รียนรู้ 2. ใฝุเรียนรู้นรู้ท่ี 4 การเขยี น การฟัง) 3. มุง่ มัน่ ในการทางาน 3. มงุ่ มนั่ ในการ2. ความสามารถในการคดิ ทางานวเิ คราะห์ 4. รกั ความเป็นไทย3. ความสามารถในการ 5. มีจติ สาธารณะแก้ปัญหา4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ตัวช้ีวัด/ การวเิ คราะหม์ าต ผลการ รายวิชา ประวตั ิศาสต เรียนรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีทส 4.3 ป.3/1 รู้อะไร ทาอะไร พ่อขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ สมเด็จพระรามาธบิ ดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินม และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาู จุฬาโลกมหาราช เปน็ พระมหากษัตริย์ทีไ่ ด้กอบกู้แ และสรา้ งสรรคค์ วามเจริญมน่ั คง จนทาให้มีชาติไทยจนถึงปัจจุบัน
ตรฐานและตัวชวี้ ดัตร์ รหัสวิชา ส 13102ท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะ คุณลกั ษณะ คุณลักษณะ สาคัญ ของวิชา อันพงึ ประสงค์มหาราช 1. ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง พอ่ ขุน 1. 1. มวี นิ ยั 1. มวี ินยัแผ่นดิน ศรีอนิ ทราทติ ย์ ความสามารถ 2. ใฝเุ รียนรู้ 2. ใฝุเรียนรู้2. ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง สมเดจ็ ในการคิด 3. 3. มงุ่ ม่นั ในพระรามาธบิ ดที ี่ 1 วเิ คราะห์ มุ่งมน่ั ในการทางาน การทางาน3. ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง 2. 4. รักความสมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช ความสามารถ เปน็ ไทย4. แบบทดสอบก่อน-หลังเรยี น ในการ 5.หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 แก้ปญั หา มจี ิตสาธารณะพระมหากษัตรยิ ผ์ สู้ ถาปนา 3.อาณาจักรไทย ความสามารถ ในการใช้ ทกั ษะชีวติ 4. ความสามารถ ในการใช้ เทคโนโลยี
การวเิ คราะหม์ าต รายวชิ า ประวัติศาสต ช้ันประถมศกึ ษาปที ตวั ชี้วัด/ ร้อู ะไร ทาอะไร ภาระงาน/ชิน้ งานผลการเรยี นรู้ พระบาทสมเด็จพระ 1. ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง พระราชกรณียกิจส 4.3 ป.3/2 เจ้าอยหู่ วั ภมู พิ ลอดุลยเดช 2. ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง พระราชกรณียกิจกบั ควา และสมเดจ็ พระนางเจา้ ของชาวไทย สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ 3. ใบงานที่ 3.1 เรื่อง เมอื งไทยร่มเยน็ ดว้ ยพระ ทรงเปน็ ศนู ยร์ วมใจของคน 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ไทย ได้ทรงทา เรือ่ ง รม่ เกล้าชาวไทย คุณประโยชน์ตอ่ สังคมไทย และประเทศชาติหลาย ประการ เพ่อื ประเทศชาติ มั่นคงและคนไทย อย่เู ยน็ เปน็ สขุ
ตรฐานและตัวชวี้ ัด คุณลักษณะ คุณลกั ษณะตร์ รหัสวิชา ส 13102 ของวชิ า อันพงึ ประสงค์ท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 1. มวี ินัย 1. มีวนิ ัย สมรรถนะสาคญั 2. ใฝุเรียนรู้ 2. ใฝเุ รียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน 3. มงุ่ มั่นในการ 1. ความสามารถในการ ทางาน ามเปน็ อยู่ ส่ือสาร (การอา่ น การพดู 4. รกั ความเป็นไทย 5. มจี ิตสาธารณะ การเขียน การฟัง)ะบารมี 2. ความสามารถในการคิด6 วเิ คราะห์ 3. ความสามารถในการ แกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี
การวเิ คราะห์มาต รายวชิ า ประวัตศิ าสต ชั้นประถมศึกษาปที ตัวช้วี ัด/ รูอ้ ะไร ทาอะไร ภาระงาน/ช้นิ งานผลการเรยี นรู้ ท้าวเทพสตรี ท้าวศรีสนุ ทร 1. ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง สมเด็จพระนเรศวรมหารส 4.3 ป.3/3 ชาวบา้ นบางระจนั พระยา 2. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง วรี ชนค่ายบางระจนั พชิ ยั ดาบหกั และสมเด็จ 3. ใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง วรี กรรมพระยาพิชยั ดาบ พระนเรศวรมหาราช เปน็ 4. แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 บรรพบุรุษของไทยท่ีได้ บรรพบรุ ษุ ไทย ปกปอู งประเทศชาตใิ หเ้ ป็น เอกราช และสร้างความ ม่ันคงของชาติไทย วีรกรรม ของบรรพบุรษุ เปน็ แบบอย่างทด่ี ใี นการปฏิบัติ ตาม
ตรฐานและตัวชวี้ ัดตร์ รหัสวิชา ส 13102ท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะ คณุ ลักษณะ ของวิชา อนั พึงประสงค์ราช 1. ความสามารถในการ 1. มวี นิ ัย 1. มวี นิ ยัส่ือสาร (การอ่าน การพดู การ 2. ใฝุเรยี นรู้ 2. ใฝเุ รียนรู้บหัก เขยี น การฟัง) 3. มงุ่ มั่นในการทางาน 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน7 เร่ือง 2. ความสามารถในการคิด 4. รักความเปน็ ไทยวเิ คราะห์ 5. มจี ิตสาธารณะ3. ความสามารถในการแก้ปัญหา4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชื่อหน่วย ถ่นิ ฐานไทยรหัส ส 31101 วิชา ประวตั ิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 4 ชัว่ โมงชอื่ ผู้สอน นางสาวอรอณี คีรีเกรกิ กอ้ ง โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31****************************************************1. สาระการเรียนรู้ / ตวั ชวี้ ดั ส 4.2 ป.3/2 สรุปลักษณะทีส่ าคญั ของขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของชมุ ชน ส 4.2 ป.3/3 เปรยี บเทียบความเหมือนและความต่างทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนอื่นๆ2. สาระสาคญั ปัจจัยทางภมู ิศาสตร์และปัจจัยทางสังคม เป็นปจั จัยสาคัญทม่ี ีผลทาใหว้ ฒั นธรรมประเพณี การนับถือศาสนา ความเชอ่ื และการประกอบอาชีพของแตล่ ะชมุ ชนมีความแตกตา่ งกนั3. สาระการเรียนรู้ - สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1) ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวัฒนธรรมชมุ ชนของตนที่เกิดจากปจั จยั ทางภมู ิศาสตร์และปัจจัยทางสังคม 2) ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวฒั นธรรมของชมุ ชนใกลเ้ คียงทม่ี ีความเหมือนและความต่างกบั ชมุ ชนของตนเอง - สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลักสูตรสถานศกึ ษา)4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด -ทักษะการให้เหตุผล - ทกั ษะการวเิ คราะห์ -ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็ - ทกั ษะการสังเคราะห์ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - ทกั ษะการสงั เคราะห์5. คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝุเรียนรู้ 3. มุง่ มั่นในการทางาน4.รักความเปน็ ไทย6. หลักฐานการเรียนรู้ - แบบทดสอบก่อนเรียน7. การวัดและประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง ถิน่ ฐานไทยประวตั ิศาสตร์ 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง วัฒนธรรมของชุมชน2. การตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ - ชุมชนของนักเรยี นมีประเพณีอะไรบ้าง และมีความสาคญั อยา่ งไร8. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เรอ่ื งที่ 1วฒั นธรรมของชมุ ชน เวลา 2 ช่ัวโมงขน้ั ที่ 1 ทบทวนความรู้เดมิ นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี นขนั้ ท่ี 2 แสวงหาความรู้ใหม่ 1. ครูนาบัตรภาพมาแสดงที่หนา้ ชัน้ เรยี น แล้วใหน้ กั เรยี นพิจารณาว่า ประเพณดี ังกลา่ วมีความสาคัญอยา่ งไร และเป็นประเพณีของจงั หวัดใด 2. ครชู ้ีแจงถงึ ความสาคญั ของประเพณตี า่ งๆ เพอื่ เชอ่ื มโยงใหน้ ักเรยี นเหน็ ความแตกต่างของประเพณีทางศาสนาของแตล่ ะทอ้ งถนิ่ 3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ -นักเรียนคิดวา่ การทาบญุ ในวนั ออกพรรษาจะมีธรรมเนยี มในการปฏบิ ตั เิ หมือนกนั ทุก ทอ้ งถิ่นหรอื ไม่ จงอธบิ ายเหตุผลข้นั ท่ี 3 4. ครแู บง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นข้างเก่งปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง ความเหมือนและความแตกต่างทางวฒั นธรรมของชุมชน จากหนังสือเรยี น และหอ้ งสมดุ ในประเด็นที่กาหนด ดงั น้ี 1.ความเหมอื นและความแตกต่างทางวัฒนธรรมประเพณี 2.ความเหมอื นและความแตกต่างทางศาสนาและความเช่อื 3.ความเหมือนและความแตกต่างทางการประกอบอาชีพ 4.สมาชิกในแต่ละกลมุ่ ผลดั กันอธิบายความรจู้ ากประเดน็ ท่ีไดศ้ ึกษาขั้นท่ี 4 6. ครสู นทนากบั นักเรียนเก่ยี วกับองคค์ วามรู้ที่ได้จากการศกึ ษาในช่ัวโมงทีแ่ ลว้ จากน้นั ครูตงั้ ประเดน็คาถามให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็น เชน่ 1.เพราะเหตุใด คนทีน่ ับถือศาสนาเดียวกันในแต่ละชมุ ชนจงึ มกี จิ กรรมทางศาสนาแตกต่างกัน 2.เพราะเหตุใด ชุมชนภาคใต้จึงไม่มปี ระเพณีขอฝน 3.การประกอบอาชพี ท่แี ตกต่างกันมีผลตอ่ ประเพณี หรือความเชือ่ ของคนในชุมชนอยา่ งไร 7. ครตู รวจสอบคาตอบ และอธบิ ายเพ่ิมเติมใหน้ ักเรยี นเข้าใจวา่ การประกอบอาชีพตา่ งๆ ในชมุ ชน ก็เป็นปัจจัยสาคัญทที่ าให้เกิดความเช่ือและประเพณที ่สี าคญั 8. นักเรยี นรว่ มกนั ทาใบงานที่ 1.1 เร่ือง วัฒนธรรมของชุมชน โดยใหส้ มาชิกในแต่ละกลมุ่ จับคกู่ ันเป็น 2 คู่ แลว้ ให้แตล่ ะคู่ปฏิบัติกจิ กรรม ดังนี้
-สมาชกิ คนที่ 1 อ่านโจทยค์ าถาม และเขียนคาตอบ -สมาชิกคนที่ 2 เปน็ ฝุายสงั เกต ตรวจสอบคาตอบ 9. ให้สมาชิกแตล่ ะคู่เปลยี่ นบทบาทกันในคาถามข้อต่อไป 10.นักเรยี นรวมกล่มุ เดิม (4 คน) ให้แต่ละค่นู าคาตอบของคู่ตนเองมานาเสนอให้เพื่อนอีกคู่หนึง่ ฟงั เพ่ือชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนนั้ นาใบงานส่งครู 11. นักเรยี นร่วมกันวิเคราะห์และเปรยี บเทียบในประเดน็ ท่ีกาหนด ดังนี้ 1.วิเคราะหป์ จั จยั ทท่ี าใหล้ ักษณะวัฒนธรรมของชุมชนด้านวฒั นธรรมประเพณี ศาสนาแลความเชอื่ และการประกอบอาชพี ในชมุ ชนแตล่ ะภาคมีความแตกตา่ งกัน 2.เปรยี บเทยี บความเหมือนและความตา่ งทางวฒั นธรรมประเพณี ศาสนาและความเชื่อ และการประกอบอาชีพ ในชุมชนแต่ละภาคข้นั ที่ 5 12. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปผลการวเิ คราะหป์ จั จยั ที่ทาให้ลักษณะวัฒนธรรมของชมุ ชนดา้ นวัฒนธรรมประเพณี ศาสนาและความเช่ือ และการประกอบอาชพี ในชมุ ชนแต่ละภาคมีความแตกตา่ งกันและผลการเปรียบเทยี บความเหมือนและความตา่ งทางวฒั นธรรมประเพณี ศาสนาและความเช่อื และการประกอบอาชพี ในชมุ ชน แตล่ ะภาคข้นั ที่ 6 13.นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด - ชมุ ชนของนักเรียนมีประเพณอี ะไรบา้ ง และมคี วามสาคญั อย่างไร เร่ืองท่ี 2 ความเหมือนและความแตกต่างทางวัฒนธรรมของชุมชน เวลา 2 ชว่ั โมงขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ 1. ครสู นทนาเก่ยี วกับการประกอบอาชีพของคนไทย จากนัน้ ให้นกั เรยี นร่วมกันอภิปรายว่า ประเพสูข่ วัญข้าวเกดิ จากปัจจยั ใด และมคี วามสาคัญอย่างไร 2. ครูชีแ้ จงใหน้ กั เรยี นเข้าใจว่า การประกอบอาชพี มีความสัมพันธ์ กบั วฒั นธรรมและวิถีการดาเนิน ชีวติ ของคนในชมุ ชนน้นั ๆ นอกจากการประกอบอาชีพแล้วยังมปี จั จัยสาคัญอ่ืนๆ ท่ีมผี ลต่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของชมุ ชนขั้นท่ี 2 กระตนุ้ ความคดิ 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคิด - นักเรยี นคดิ ว่า ประเพณตี ่างๆ ในชมุ ชนของตนเองเกดิ ขึ้นมาจากสาเหตุใด (เกดิ จากปจั จัยทางภมู ิศาสตร์และปัจจยั ทางสงั คมของชุมชน)ขน้ั ที่ 3 สารวจค้นหา -ครมู อบหมายให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสืบคน้ ขอ้ มูล เร่ือง วัฒนธรรมของชมุ ชน โดยสอบถามพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรอื ผ้รู ู้ ในชุมชนเก่ียวกับลักษณะขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวัฒนธรรมของชมุ ชน เพื่อเปรียบเทยี บความเหมือนและ ความต่างทางวฒั นธรรมของชุมชนตนเองกับชมุ ชนอื่นๆ พรอ้ มกบั บอกแหล่งข้อมูล จากนั้นครูและนกั เรียนร่วมกันกาหนด ระยะเวลาในการนาเสนอผลงาน โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตามทีก่ าหนด ดงั น้ี
1.การอธบิ ายลกั ษณะทสี่ าคัญของขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวฒั นธรรมของชมุ ชนการวเิ คราะหป์ จั จัยทางภูมิศาสตร์และ 2.ปจั จยั ทางสงั คมทีม่ ีผลต่อขนบธรรมเนียม ประเพณี และวฒั นธรรมของชมุ ชน ขัน้ ที่ 4 อธบิ ายความรู้ 4. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ ผลัดกันอธิบายความรทู้ ่ีได้สืบค้นและรวบรวมข้อมลู แลว้ ซักถามข้อสงสัยจนสมาชิกในกล่มุ มี ความรู้ความเข้าใจตรงกัน 5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะหแ์ ละอภิปรายประเด็นท่ีกาหนดตามลาดับ ดังนี้ 6. ลกั ษณะท่สี าคัญของขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวัฒนธรรมของชมุ ชน 7. วิเคราะหป์ จั จยั ทางภมู ิศาสตร์และปจั จัยทางสงั คมท่ีมผี ลต่อขนบธรรมเนียม ประเพณี และวฒั นธรรมของชมุ ชน เปรียบเทยี บความเหมอื นและความต่างทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกับชมุ ชนอื่น ขน้ั ที่ 5 ขยายความเข้าใจ 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการวิเคราะห์ในแต่ละประเด็น แล้วช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของ ผลเปรียบเทียบความเหมอื นและความตา่ งทางวัฒนธรรมของชมุ ชนตนเองกับชุมชนอน่ื 9. นักเรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคิด -หากนักเรียนจะต้องไปอาศยั อย่ใู นชมุ ชนทีม่ ีความแตกต่างกันทางดา้ นวัฒนธรรมประเพณนี ักเรยี นจะปฏบิ ัติ ตนอยา่ งไรเพ่ือให้อยู่ในชุมชนนั้นๆ ไดอ้ ยา่ งมีความสุข ขน้ั ท่ี 6 ตรวจสอบผล 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการสืบค้นและรวบรวมข้อมลู เรื่อง วฒั นธรรมของชมุ ชน 11. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั บอกประโยชน์ท่ไี ด้รับจากการสืบคน้ และรวบรวมข้อมูลของวัฒนธรรมชมุ ชนของตนเอง และแนวทางในการ 12. นาความร้ไู ปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดาเนินชีวติ ประจาวัน นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรอื่ ง ถ่นิ ฐานไทย 13. ให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน 14. ครู และนักเรียนร่วมกนั สรุปความรู้ (นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น)9. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ประวัติศาสตร์ ป.3 2) บัตรภาพ 3) กรณีตัวอยา่ ง 4) แบบบนั ทึกความรู้ 5) ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง วัฒนธรรมของชุมชน 6) ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง วัฒนธรรมการกิน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) พ่อแม่ / ผปู้ กครอง / ผ้รู ู้ในทอ้ งถน่ิ
10. การวดั ผลและประเมนิ ผลเปาู หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ ประเด็น/การเรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน วธิ ีวดั เครื่องมือวดั ฯ เกณฑ์การให้ 1. ตรวจใบงาน คะแนน 2. สงั เกตพฤติกรรม1.อธบิ ายลกั ษณะ 1. ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง การทางานรายบคุ คล 1. ใบงาน 8 – 10วฒั นธรรมประเพณี วฒั นธรรมของชุมชน 3. สังเกตพฤติกรรมศาสนา ความเชอื่ 2.ชน้ิ งาน/ภาระงาน การทางานกลุ่ม 2.สงั เกตพฤตกิ รรม 5 – 7และการประกอบ (รวบยอด) วฒั นธรรม 4.สงั เกตการใฝเุ รยี นรู้อาชีพในชุมชนแต่ละ ของชมุ ชน มีความรบั ผิดชอบและ การทางานรายบคุ คล 3 – 4ภาคได้ มงุ่ ม่นั ในการทางาน2. วเิ คราะหป์ จั จัย 5.ตรวจรายงานกา 3. แบบสงั เกต ต่ากว่า 3ทางภูมศิ าสตรแ์ ละ สืบค้นข้อมลู เรอื่ งปัจจัยทางสังคมทม่ี ี วฒั นธรรมของชุมชน พฤติกรรมรายกลุ่มผลตอ่ วัฒนธรรมประเพณี ศาสนา 4. แบบสงั เกตความเชอ่ื และการประกอบอาชีพใน ลกั ษณะอันพงึชุมชนแตล่ ะภาคได้4.เปรียบเทียบความ ประสงค์เหมอื นและความต่างทางวัฒนธรรม 5.ตรวจรายงานกาประเพณี ศาสนาความเชือ่ และการ สบื ค้นขอ้ มูล เร่อื งประกอบอาชีพในชุมชนแต่ละภาคได้ วัฒนธรรมของชมุ ชน
11. จดุ เนน้ ของโรงเรยี น การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผู้เรียน1. ความพอประมาณ พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดีดา้ นจิตใจ รู้จักใช้เทคโนโลยีมาผลิตส่ือท่ี มีจิตสานึกท่ีดี เอ้ืออาทร ประนีประนอม เหมาะสมและสอดคล้องเน้ือหาเป็น นึกถงึ ประโยชนส์ ่วนรวม/กลุ่ม ประโยชน์ต่อผู้เรียนและพัฒนาจากภูมิ ปญั ญาของผ้เู รยี น2. ความมีเหตผุ ล - ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดน่ิงที่หาหนทางในชีวิต หลุดพ้น ถูกต้อง สุจริต แมจ้ ะตกอย่ใู นภาวะขาด จากความทุกข์ยาก (การค้นหาคาตอบ แคลน ในการดารงชวี ิต เพือ่ ใหห้ ลุดพน้ จากความไม่ร้)ู - ปฏิบตั ติ นในแนวทางท่ีดี ลด เลิก สิ่ง ยว่ั กิเลสใหห้ มดส้ินไป ไม่ก่อความช่ัวให้ เป็นเคร่ืองทาลายตัวเอง ทาลายผู้อื่น พยายามเพม่ิ พนู รกั ษาความดี ที่มีอยู่ให้ งอกงามสมบูรณ์ย่งิ ข้นึ3. มีภูมคิ ุมกันในตัวทด่ี ี ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวงั ระมดั ระวงั สร้างสรรค์ ภมู ธิ รรม : ซ่ือสัตย์ สุจรติ ขยันอดทน ภูมิธรรม : ซือ่ สตั ย์ สจุ รติ ขยนั อดทน ตรงตอ่ เวลาและแบง่ ปนั ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบ่งปนั4. เงอ่ื นไขความรู้ ความรอบรู้ เร่ือง งานและกาลัง ความรอบรู้ เร่ือง งานและกาลัง ท่ีเกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบท่ี กรณีที่เกิดงาน ปริมาณที่เก่ียวข้อง การ จะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้ คานวณสูตรที่ต้องใช้ สามารถนาความรู้ เช่ือมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั ใหก้ ับผเู้ รียน5. เงือ่ นไขคุณธรรม มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มี มีความตระหนักใน คุณธรรม มี ความซ่อื สตั ย์สุจริตและมีความอดทน ความซ่ือสัตย์สุจริตและมีความอดทน มี มคี วามเพยี ร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการ ความเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนิน ดาเนินชวี ิต ชวี ิต
กิจกรรม ครู ผู้เรียนสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนงานและกาลัง งานและกาลัง งานและกาลัง- การเกดิ งานแต่ละกรณี - ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิด - ระบุปจั จยั ทมี่ ีผลตอ่ การเกิดงาน- การเกิดกาลัง การได้เปรียบ งาน - ทดลองเปรยี บเทยี บการเกดิ งานและเชงิ กล - ปริมาณที่เกี่ยวข้องกับ กาลงั พร้อมคานวณปรมิ าณท่ีเกีย่ วขอ้ ง การเกิดงานและกาลังงานและกาลัง งานและกาลงั งานและกาลัง- การเกิดงานแตล่ ะกรณี - ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิด - ระบุปจั จยั ทีม่ ีผลต่อการเกิดงาน- การเกิดกาลัง การได้เปรียบ งาน - ทดลองเปรยี บเทยี บการเกดิ งานและเชิงกล - ปริมาณท่ีเกี่ยวข้องกับ กาลงั พรอ้ มคานวณปรมิ าณทเี่ ก่ยี วข้อง การเกดิ งานและกาลงั ลงชือ่ ..................................................ผูส้ อน (นางสาวอรอณี คีรีเกรกิ ก้อง) ลงชอ่ื ...................................................ผนู้ ิเทศ (............................................)
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การตงั้ ถน่ิ ฐานคาช้ีแจงให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 7. ข้อใดแสดงใหเ้ ห็นความเช่ือของสงั คมไทย 1. ภาคใดไม่มีประเพณีขอฝน ก. การบชู าแม่โพสพ ข. การตกั บาตรนา้ ผง้ึ ก. ภาคใต้ ข. ภาคเหนอื ค. การตักบาตรดอกไม้ ค. ภาคกลาง ง. ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ง. การเซ่นไหวผ้ ีบ้านผีเรอื น 2. พ้ืนฐานของสังคมไทยประกอบอาชพี ใด ก. ค้าขาย ข. ประมง 8. ข้อใดเปน็ ผักประจาทอ้ งถ่ินภาคใต้ ค. เกษตรกรรม ง. อุตสาหกรรม ก. ผักไผ่ ใบบวั บก 3. ขอ้ ใดไม่เก่ยี วขอ้ งกับการประกอบอาชีพทานา ข. ผกั แว่น ผักคราด ก. การทาขวญั ขา้ ว ค. ใบมะกอก ผักเหลยี ง ข. การรอ้ งเพลงเรือ ง. ยอดชะอม มะระขน้ี ก ค. การบูชาแม่โพสพ ง. การละเลน่ เพลงเกีย่ วข้าว 9. เพราะเหตใุ ด วิถีการดารงชวี ิตของแต่ละทอ้ งถน่ิ จึงมี 4. น้าพริกหนมุ่ เปน็ อาหารของภาคใด ความแตกต่างกนั ก. ภาคใต้ ข. ภาคเหนือ ค. ภาคกลาง ง. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก. เพราะมคี วามเช่อื ตา่ งกัน 5. หากต้องการรูว้ ิธีทาขนมลา จะตอ้ งศึกษาวัฒนธรรมการ ข. เพราะมีการประกอบอาชพี ตา่ งกัน กนิ ของภาคใด ค. เพราะมสี ภาพทางภูมิศาสตร์ทีต่ า่ งกนั ก. ภาคใต้ ข. ภาคเหนอื ง. เพราะมีปัจจยั ทางภมู ศิ าสตรแ์ ละปจั จัยทาง ค. ภาคกลาง ง. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สังคมที่ตา่ งกนั 6. การรับประทานแคบหมู เป็นผลมาจากปัจจัยในด้านใด 10. การดาเนินชีวติ ในสังคมท่ีมคี วามแตกตา่ งกนั ทางดา้ น ก. สภาพภมู ปิ ระเทศ ขนบธรรมเนียมประเพณี จะต้องปฏิบตั ิตนอย่างไร ข. สภาพภูมอิ ากาศ ก. ปฏิบตั ติ นเหมอื นที่อยสู่ งั คมเดิม ค. สภาพทางสังคม ข. แสดงการต่อต้านและไมป่ ฏบิ ัติตาม ง. การประกอบอาชพี ค. ทาความเข้าใจและปรบั ตัวให้มีความสอดคลอ้ ง ง. แสดงความเป็นผู้นาในการปฏิบัติตนอย่าง ถูกต้อง1. ก 2. ค 3. ข 4. ข 5. ก6. ข 7. ง 8. ค 9. ง 10. ค
บตั รภาพ ภาพประเพณตี กั บาตรน้าผ้งึ ภาพประเพณีชักพระ ภาพประเพณีไหลเรือไฟ ภาพตกั บาตรดอกไม้
ใบงานที่ 1.1 เร่ือง วฒั นธรรมของชมุ ชนคาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามที่กาหนดใหถ้ กู ต้อง 1. การทาบุญข้นึ บ้านใหม่ มคี วามเกยี่ วข้องกบั ศาสนาและความเชอ่ื อยา่ งไร 2. ประเพณีการสูข่ วัญข้าว เปน็ ประเพณีที่มีความเกยี่ วข้องกับปจั จยั ใด 3. เพราะเหตุใดชุมชนภาคใต้จึงไมม่ กี ารจัดพิธขี อฝน 4. ปจั จยั ใดมผี ลทาให้วัฒนธรรมประเพณี การนับถอื ศาสนา ความเชอื่ และการประกอบอาชพี ของแตล่ ะ ชมุ ชนมคี วามแตกต่างกนั
ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง วฒั นธรรมของชมุ ชน เฉลยคาช้แี จง ให้นกั เรียนตอบคาถามที่กาหนดให้ถกู ต้อง1. การทาบุญขึน้ บ้านใหม่ มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชอ่ื อย่างไรการทาบญุ ตักบาตร และเจริญพระพทุ ธมนต์ เปน็ พิธีสงฆท์ างพระพทุ ธศาสนา สว่ นการเซ่นไหว้ผีบา้ นผีเรอื นและปูุย่าตายายเปน็ ความเชอ่ื ที่ยดึ ถือปฏบิ ตั ิในวันทาบุญขน้ึ บา้ นใหม่2. ประเพณีการสูข่ วัญข้าว เปน็ ประเพณีที่มีความเกยี่ วข้องกบั ปัจจยั ใด เปน็ ประเพณที ี่มีอทิ ธิพลมาจากความเชื่อของชุมชนทปี่ ระกอบอาชีพทานา เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเปน็ สิริมงคลและเกดิ ความอุดมสมบูรณใ์ นการประกอบอาชีพ3. เพราะเหตใุ ดชมุ ชนภาคใต้จึงไม่มีการจดั พิธขี อฝน เพราะชมุ ชนในภาคใต้ เป็นพ้ืนทที่ ม่ี ฝี นตกชุก จงึ ไมจ่ าเป็นจะตอ้ งมีพธิ ีขอฝน4. ปจั จัยใดมผี ลทาใหว้ ฒั นธรรมประเพณี การนับถอื ศาสนา ความเช่ือ และการประกอบอาชีพของแตล่ ะชมุ ชนมีความแตกต่างกัน ปัจจัยทางด้านภูมศิ าสตร์ และปจั จัยทางดา้ นสังคมมผี ลทาใหว้ ฒั นธรรมประเพณี การนับถอื ศาสนาความเชอื่ และการประกอบอาชีพของแต่ละชุมชนมีความแตกตา่ งกัน
ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สืบคน้ ข้อมูล เรอื่ ง วัฒนธรรมของชุมชน โดยสอบถามพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผ้รู ใู้ นชมุ ชนเกี่ยวกับลักษณะขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชน เพ่อื เปรียบเทยี บความเหมือนและความต่างทางวฒั นธรรมของชมุ ชนตนเองกบั ชุมชนอนื่ ๆ พรอ้ มกับบอกแหล่งข้อมลู วัฒนธรรมของชุมชน 1. ลกั ษณะของขนบธรรมเนียม ประเพณี และวฒั นธรรมของชุมชน 2. ปจั จยั ทม่ี ีผลต่อขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชน 1) ปัจจยั ทางภมู ศิ าสตร์ 2) ปัจจัยทางสังคม 3. ผลกระทบของการเปลีย่ นแปลงทม่ี ผี ลต่อวิถีชีวติ ของคนในชมุ ชน
แบบประเมิน การทางานรายบคุ คลคาชี้แจง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงใน ชอ่ งทีต่ รงกบั ระดับคะแนน ชอื่ – สกลุ ความมีวินยั ความมีนา้ ใจ การรับฟัง การแสดง การตรงต่อ รวมลาดบั ที่ ของผรู้ บั การ 321 เอือ้ เฟ้ือ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 15 เสยี สละ คะแนน ประเมนิ 321 321 3 21 321 ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................
แบบประเมนิ การทางานกลุม่ คาชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับ ระดบั คะแนนลาดับที่ ชอ่ื – สกลุ ความรว่ มมือ การแสดง การรบั ฟงั ความตงั้ ใจ การแก้ไข รวม ของผู้รับการ กันทา ความคิดเห็น ความคดิ เหน็ ทางาน ปัญหา/หรอื 15 กิจกรรม ปรบั ปรุง คะแนน ประเมนิ ผลงานกลมุ่ 321321321321321 ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมนิ ............./.................../................
แบบประเมิน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์คาชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงใน ช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนนคุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1อนั พงึ ประสงค์ด้าน 1.1ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ 321.รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏิบตั ิตนตามสทิ ธแิ ละหนา้ ทีข่ องนักเรยี น ให้ความร่วมมือ รว่ มใจ ใน กษัตริย์ การทางานกบั สมาชิกในหอ้ งเรยี น 1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่2. ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ โรงเรียนและชมุ ชน3. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนับถือ ปฏิบตั ติ นตามหลักของศาสนา4. ใฝุเรียนรู้ และเป็นตวั อยา่ งท่ีดีของศาสนิกชน 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมีส่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทีเ่ กี่ยวกับสถาบัน พระมหากษัตริยต์ ามที่โรงเรยี นและชุมชนจัดขึน้ ช่ืนชมในพระราชกรณยี กิจพระปรชี าสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2.1 ให้ข้อมลู ทถ่ี ูกต้อง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวที่จะทาความผิด ทาตาม สญั ญาที่ตนให้ไวก้ ับพ่อแมห่ รอื ผูป้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ัตติ นตอ่ ผ้อู ่นื ดว้ ยความซ่ือตรง และเป็นแบบอย่างที่ดแี กเ่ พอ่ื นดา้ น ความซ่ือสัตย์ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั และ โรงเรยี น มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน มีความรับผดิ ชอบ 4.1 ต้ังใจเรียน 4.2 เอาใจใส่ในการเรียน และมีความเพยี รพยายามในการเรียน 4.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.4 ศึกษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์ ส่ือเทคโนโลยี ต่างๆแหลง่ การเรยี นรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลอื กใชส้ ่ือได้ อยา่ งเหมาะสม 4.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางสิง่ ท่ีเรียนรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ 4.6 แลกเปลยี่ นความรู้ ดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ และนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............./.................../................
การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)แบบประเมินรายงานการสบื ค้นข้อมลู เรื่อง วฒั นธรรมของชมุ ชนลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 3211 การอธิบายลักษณะทส่ี าคัญของขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวฒั นธรรมของชุมชน การวิเคราะห์ปัจจัยทางภมู ิศาสตรแ์ ละปจั จัยทางสงั คม2 ท่ีมีผลต่อขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวัฒนธรรม ของชมุ ชน3 การเปรยี บเทยี บความเหมือนและความต่างทาง วฒั นธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนอื่น รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................
แบบบันทึกความรู้คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ รวบรวมรายชื่ออาหาร ผกั หรอื ขนม ทีแ่ สดงใหเ้ ห็นเอกลกั ษณ์ของวัฒนธรรมการกินของแต่ละภาค อาหารไทย 4 ภาค ภาค อาหาร ผัก ขนม เหนือ กลาง ใต้ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ
12.บนั ทึกหลังการสอน 12.1 ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 12.2 ปญั หา /อุปสรรค……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12.3 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………(ผ้สู อน) (นางสาวอรอณี คีรเี กริกก้อง)13. ขอ้ คิดเหน็ ของครูพเ่ี ลยี้ ง…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอื่ ……………………………..( ครูพเ่ี ลยี้ ง) ( นายศรมี ูล สมบตุ ร ) ตาแหน่ง…………………………… วนั ท่ี……เดือน………………พ.ศ………..14. ข้อคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระสงั คมศกึ ษา…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………… (หวั หนา้ กลุ่มสาระฯ) (นายนกิ ร ไชยบุตร) หัวหน้ากลมุ่ สาระสังคมศึกษา
15. ข้อคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการโรงเรียน…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื ………………………………...(รองผู้อานวยการฝุายวิชาการ) (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อานวยการฝาุ ยวชิ าการ16. ข้อคิดเห็นของผอู้ านวยการโรงเรยี น…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………(ผ้อู านวยการโรงเรยี น) ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: