Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การประเม_นสารสนเทศ2017

การประเม_นสารสนเทศ2017

Published by kwang_mmmmm, 2017-11-30 11:55:45

Description: การประเม_นสารสนเทศ2017

Search

Read the Text Version

การเลือกประเภทสารสนเทศและการวเิ คราะห์ความน่าเชอ่ื ถอื ของสารสนเทศ รววิ รรณ ศรอี าไพ สานักหอสมดุ

สารสนเทศ ความหมายสารสนเทศ คือ ข้อมูล ข่าวสาร ความคิดเห็น หรือประสบการณ์ ในรูปแบบต่างๆ เช่น ตัวอักษร ตัวเลขรูปภาพ ท่ีผ่านกระบวนการประมวลผล และบันทึกไว้อย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการในส่ือประเภทต่างๆเชน่ หนงั สือ วารสาร ฐานข้อมูล

ความสาคัญของสารสนเทศสารสนเทศ มีคุณลักษณะที่สาคัญคือ เป็นข้อมูลท่ีผ่านการประมวลผลแล้ว เป็นรูปแบบท่ีมีประโยชน์นาไปใช้งานได้ และมีคุณค่าสาหรับใช้ในการดาเนนิ งานและการตัดสนิ ใจ (ชยั พจน์ รักงาม. 2542 : 34)

ความสาคญั ของสารสนเทศด้านตวั บคุ คลด้านการศึกษาด้านเศรษฐกจิดา้ นสังคมด้านวฒั นธรรม

ความสาคัญของสารสนเทศความสาคัญด้านตัวบคุ คลสารสนเทศ คือ อานาจ (information is power) หมายถึงผู้ท่ีมีสารสนเทศหรือได้รับสารสนเทศท่ีมีคุณค่าและทันสมัยมีความต่อเนื่องทันเหตุการณ์ และ สามารถใช้สารสนเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผู้น้ันย่อมมีพลังหรือมีอานาจ ได้เปรียบผอู้ น่ื ในทกุ ๆ ดา้ น

ความสาคัญของสารสนเทศความสาคัญดา้ นการศึกษาการจัดการเรียนการสอน ในปัจจุบันมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยครูผู้สอนทาหน้าที่เป็นผู้แนะนาช่วยเหลือและกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองส่งผลให้สารสนเทศมีความสาคัญต่อการเรียนการสอนในทุกระดบั การศกึ ษา

ความสาคญั ของสารสนเทศความสาคัญดา้ นสงั คมสารสนเทศช่วยพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพส่วนบุคคลให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขอีกท้ังช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นามาซ่ึงความสะดวกสบายในการดาเนนิ ชีวติ

ความสาคัญของสารสนเทศความสาคัญดา้ นเศรษฐกิจสารสนเทศมีความสาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เรียกว่า เศรษฐกิจบนฐานความรู้ (knowledge-basedeconomy) องค์กรทัว่ ไปให้ความสาคัญกับ “การจัดการความรู้” (knowledge management) เพ่ือรักษาองค์ความรู้ขององค์กร

ความสาคัญของสารสนเทศความสาคัญด้านวัฒนธรรมสารสนเทศ เป็นรากฐานที่จาเป็นสาหรับความก้าวหน้าของอารยธรรม สารสนเทศช่วยสืบทอด ค่านิยม ทัศนคติ ศิลปะและวัฒนธรรมท่ีเปน็ เอกลกั ษณอ์ ันดงี ามของชาติ

ประเภทของสารสนเทศ แยกประเภทตามที่มา ลาดบั การผลิต/ระดบั เน้อื หา แบ่งเป็น 3 ประเภท1. ปฐมภมู ิ (Primary source)2. ทตุ ยิ ภูมิ (Secondary source)3. ตติยภมู ิ (Tertiary source)

สารสนเทศปฐมภูมิหมายถึง สารสนเทศท่ีเรียบเรียงขึ้นจากประสบการณ์ของผู้เขียนหรือเป็นผลการค้นคว้าวิจัย นาเสนอความรู้ใหม่ๆได้แก่ รายงานการวจิ ัย วิทยานิพนธ์ เอกสารการปฏิบัติงานรายงานการประชุมทางวิชาการ บทความวารสารวิชาการเอกสารสิทธิบัตร เอกสารมาตรฐาน เอกสารจดหมายเหตุ

สารสนเทศทตุ ิยภูมิหมายถึง สารสนเทศท่ีได้จากการนาสารสนเทศปฐมภูมิมาสังเคราะห์และเรียบเรียงข้ึนใหม่เพื่อเสนอแนวคิดหรือแนวโน้มบางประการ ได้แก่ หนังสือทั่วไป หนังสือตารา คู่มือการทางาน บทคัดยอ่ งานวิจัย บทวิจารณ์หนงั สือ

สารสนเทศตติยภมู ิหมายถึง สารสนเทศที่ช้ีแนะแหล่งทอี่ ยขู่ องสารสนเทศปฐมภูมิและทุติยภูมิ จะให้ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสารสนเทศ ได้แก่หนังสือนามานุกรม บรรณานุกรมและดชั นีวารสาร

แนวคดิ การเลอื กประเภทสารสนเทศสอดคลอ้ ง นา่ เชื่อถือ สะดวกต่อ ความทันสมยักับเน้อื หา การใชง้ าน ของเนอ้ื หาทต่ี อ้ งการ

แนวคดิ การเลอื กประเภทสารสนเทศสอดคล้อง ต้องการสารสนเทศเฉพาะวิชา ควรเลือกใช้กบั เนื้อหาที่ตอ้ งการ ทรัพยากรสารสนเทศประเภทหนังสืออ้างอิง ตารา วารสารวชิ าการ มากกว่าหนงั สอื ทัว่ ไปหรือนิตยสาร ต้องการสารสนเทศทแ่ี สดงความสมั พันธ์ของ เรื่องราวอย่างชัดเจน ควรเลือกทรัพยากร สารสนเทศที่เปน็ ภาพเคลอ่ื นไหว เช่น VDO DVD

แนวคดิ การเลอื กประเภทสารสนเทศน่าเชื่อถือ มีความนา่ เชื่อถือ พิจารณาจาก - ช่อื เสียง ประสบการณ์หรือคณุ วุฒิของผ้แู ต่ง - สานกั พิมพ์ หรอื ผผู้ ลติ ทรพั ยากรสารสนเทศ เช่น หนังสืออ้างอิง จะมีความน่าเช่ือถือมากกว่า หนังสือทั่วไป เพราะเขียนและรวบรวมโดย ผู้ทรงคุณวฒุ หิ รือผู้เช่ียวชาญในสาขาวิชา

แนวคดิ การเลอื กประเภทสารสนเทศสะดวกต่อ ความสะดวกในการใช้งาน ทรัพยากรประเภทการใช้งาน ตีพิมพ์จะสามารถนามาใช้งานได้ง่ายกว่าทรัพยากร ประเภทไม่ตีพิมพ์ หรือ ทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์ เพราะสามารถใช้งานได้ทันที ไม่จาเป็นต้องใช้ อุปกรณ์ในการแสดงผล แต่ในปัจจุบันทรัพยากร สารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ใช้งานได้ง่ายกว่า เช่น e-book, e-journal

แนวคดิ การเลอื กประเภทสารสนเทศความทันสมยั ความทันสมัยของเ นื้อหา หากต้องกา รของเน้อื หา สารสนเทศทที่ ันต่อเหตุการณ์แล้ว ควรเลอื กพิจารณา สารสนเทศจากสื่อออนไลน์ ฐานข้อมูล เพราะมีการ เปลี่ยนแปลง ทาให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา หรือ เลือกใช้ทรัพยากรตีพมิ พป์ ระเภทหนังสือพมิ พท์ ี่มีการ ให้ขอ้ มูลท่ีกาลงั เปน็ ที่นา่ สนใจ

Print Sources VS. WWW คุณภาพPrint Sources WWWมกี ารควบคุมคุณภาพของเนื้อหา - ไมม่ กี ารควบคมุ คุณภาพผ่านกระบวนการทางานของ - ใครกเ็ ป็นผู้เขียนได้- ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Reviewer) - เขยี นเสรจ็ เผยแพรท่ ันที ไมม่ ี- บรรณาธิการ (Editor) การตรวจสอบความถูกต้อง- สานกั พมิ พ์ (Publishers)

Print Sources VS. WWW ข้ันตอนการดาเนนิ การ Print Sources WWWงานด้านวิชาการมีการทางาน ไม่เป็นระบบ ทาให้การนาเสนออย่างเปน็ ระบบ ทาให้มีการ เนื้อหาเรยี งลาดบั ของเนื้อหาอยา่ ง - เกดิ ความเอนเอียง (bias)เหมาะสมและสอดคล้องกบั - เนอ้ื หาไมถ่ ูกต้องชื่อเรือ่ ง/หวั ข้อ - มกี ารแทรกโฆษณาสินค้า

Print Sources VS. WWW รูปแบบ (Format) Print Sources WWWมี Format เป็นแบบเส้นตรง ไม่มี Format ตายตัว(linear) และเรียบเรียงอย่างเปน็ ระบบ

การวเิ คราะหค์ วามน่าเชอื่ ถือของสารสนเทศAcควcามuถกูrตa้อcง y Cคuวrามrทeนั nสมcัยyAuthority Objectivity Cขอoบเvขตeขอrงaเนgื้อหeา ผู้แตง่ วตั ถปุ ระสงค์

Authority - ผู้แต่ง• ผูเ้ ขยี นคือใคร• ผู้เขียนนา่ เช่ือถือไหม (พิจารณาจาก คุณวฒุ ิ/ประสบการณ์ การทางาน/สถานที่ทางาน/ผลงานเขยี นก่อนหนา้ น้ี)• มีประวัตผิ เู้ ขียนปรากฏอยสู่ ว่ นใดส่วนหน่งึ ของหนังสอื หรอื ไม่ (ปกหลงั /ด้านในปกหลัง/ดา้ นในปกหน้า/ใบแทรก)• งานของผู้เขียนคนนีเ้ คยถูกนาไปใช้อ้างองิ หรือไม่

Authority – ผแู้ ตง่ (ตอ่ )• ชือ่ ผูแ้ ต่งสามารถตรวจสอบไดจ้ าก - Who’s Who in the world - Current Biography - Who’s Who in Science and Engineering - American Men & Women of science - Dictionary of Scientific Biography

Authority – ผแู้ ต่ง (ต่อ)• กรณี Web site - พิจารณาแยกระหวา่ งผ้เู ขียน กับ web master ทีท่ าหน้าท่ี upload ข้อมูลเทา่ นั้น - กรณีเปน็ เนื้อหาจาก web site ขององคก์ ร คณะกรรมการ ภาคธุรกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ต้องพิจารณาว่า เนื้อหาท่ี นาเสนอต้องเป็นข้อเท็จจริง เป็นข้อมูลที่ผ่านการวิจยั มาเป็น อย่างดี ไม่มีความเอนเอียง (bias) ในการนาเสนอ

Accuracy – ความถูกต้อง• เสนอเนือ้ หาทมี่ คี วามจาเพาะเจาะจงไหม• งานดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ต้องนาเสนอขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการ สงั เกต การวดั การวิเคราะห์ แปรผล และ สรุปผลโดยไม่มี bias• งานด้านศิลปะ มนุษยศาสตร์ และศาสนา ต้องให้ข้อมูลด้าน ช่ือ/ วันที่/สถานท่ีที่สร้างสรรค์ผลงานนั้น รวมถึงความคิดเห็นท่ีเก่ียวกับ ผลงานน้ัน• การอธบิ ายวิธีการศึกษา สามารถทาซา้ ได้ไหม• มกี ารอ้างอิงถึงแหลง่ ที่มาของขอ้ มลู หรอื ไม่• เอกสารอา้ งอิงมคี วามน่าเชอ่ื ถอื หรือไม่

Objectivity – วตั ถปุ ระสงค์• พิจารณาวัตถุประสงคใ์ นการนาเสนอว่าเปน็ การนาเสนอ ข้อเทจ็ จรงิ หรอื การแสดงความคดิ เห็น• กรณนี าเสนอความคดิ เหน็ ตอ้ งปราศจากอคติ• มีการแทรกโฆษณา รวมถึงการขอรับบริจาคต่างๆ อยู่ ด้วยหรือไม่

Currency – ความทันสมัย• ดา้ นวิทยาศาสตร์ ต้องการข้อมูลที่มคี วามทนั สมัย เปน็ ปจั จุบนั• ด้านศิลปะ และ มนุษยศาสตร์ พิจารณาความ ทนั สมยั ตามความเหมาะสม บางกรณีสารสนเทศท่ี ผลติ ออกมานานหลายปแี ลว้ ยงั มคี วามสาคญั อยู่

Coverage – ขอบเขตของเนื้อหา• เน้อื หามีขอบเขตครอบคลมุ เรือ่ งที่ตอ้ งการ หรอื ไม่• ระดับความลึกของเน้ือหาเพียงพอกับ ความตอ้ งการหรอื ไม่

การประเมิน Web siteAuthority Currencyความนา่ เช่อื ถอื ของผู้เขียน ความทนั สมยั ของขอ้ มูลAccuracy Coverageความนา่ เชอื่ ถอื ของ web site ความครอบคลุมของเนอื้ หาObjectivityวตั ถปุ ระสงคข์ อง web site

Authority - ความน่าเชอ่ื ถือของเจา้ ของ• องคก์ ร/หนว่ ยงาน/บุคคล• องค์กรวชิ าชพี• บุคคล – คุณวฒุ ิ/ประสบการณ์การทางาน/สถานท่ี ทางาน• ผลงานเขยี นกอ่ นหนา้ น้ี

Accuracy/Quality – ความน่าเช่อื ถอื ของ web site USADomain name Institution.gov government.edu education.org non-profit organization.com commercial

Accuracy/Quality – ความน่าเช่อื ถอื ของ web siteประเทศไทยDomain name Institution.go.th หน่วยงานของรฐั.ac.th โรงเรียน/มหาวทิ ยาลยั.or.th รัฐวสิ าหกิจ/องค์กรอิสระ.com ธุรกิจ/เอกชน.co.th

Objectivity – วัตถุประสงค์• วัตถปุ ระสงค์ของการทา web site คืออะไร (ดูจาก about us) - ใหข้ ้อมลู - ขายสินคา้ - โฆษณาชวนเชอ่ื - เพือ่ ความบันเทงิ• การนาเสนอข้อมูลมอี คตหิ รือไม่

Currency – ความทันสมยั ของขอ้ มลู• ขอ้ มลู ถูกจดั ทาขึ้นเมือ่ ใด• มีการปรับปรงุ ข้อมลู ครัง้ สดุ ทา้ ยเม่อื ใด (Last updated)• มี dead links หรือไม่

Coverage – ความครอบคลุมของเน้อื หา• เนอื้ หาครอบคลุมเรอื่ งที่ต้องการหรอื ไม่• มี link ท่ีเช่ือมโยงไปยงั เน้ือหาทเี่ กยี่ วข้อง หรอื ไม่

• ไม่ควรนามาใช้อ้างองิ• ใชใ้ นกรณที ี่ตอ้ งการขอ้ มูล ในเวลาอันสัน้• ทราบ/ไม่ทราบผู้ใหข้ ้อมูล• ข้อมูลถกู เปลี่ยนแปลงได้ ตลอดเวลา

Selecting Information for your assignmentuseful information reliable knowledge recentuse understandable need

1. Will this information be useful ? • Is it relevant to my task ? • Dose it relate to my topic ? • Dose it help me answer question(s) or solve problem(s)?

2. Will this information add to my knowledge? • Dose it help me learn more about the topic? • Dose it fill in background information? • Dose it provide specific information?

3. What will I use this information for? • Could it help to form my central argument ? • Will it help focus my thoughts? • Will it help me locate other information?

4. How recent is this information? • Is it out-of–date, or is it still useful ? • Is it the most up-to-date? Dose it need to be?

5. How reliable is this information? • Dose this material come from a reputable and unbiased source? • Is the author an acknowledged expert in the field?

6. How understandable is this information? • If I find difficult to understand, do I have to use it? • Can I choose other information that I do understand?

7. How will I use this information? • Dose it provide evidence or support for my ideas? • Dose it provide a good example? • Where could I put it in my assignment?

8. Do I really need to use this information? • How dose it help me answer the task? • Is it essential information? • Is it new information or am I just restating what I have already said? • Is it the best example or most relevant piece of evidence? Do I have better material?

การวเิ คราะหข์ อ้ มลู• การวิเคราะห์ / แยกแยะ / ทาความเขา้ ใจ ขอ้ มูลที่ได้คน้ คว้ามา เพื่อนาไปสงั เคราะห์ ต่อไป• ทาบนั ทกึ / โนต้ ย่อ (ตามท่เี รยี นมาแล้ว)

การสงั เคราะห์ขอ้ มูล• การนาเน้ือหาที่ผ่านการวิเคราะห์/ แยกแยะ/ ทาความเข้าใจแล้วมาเขียน/ เรียบเรียง/ นาเสนอใหม่ในภาษาหรือตามรูปแบบการ เขียนของตน โดยจัดกลุ่มเน้ือหาประเภท เดียวกนั ไวด้ ว้ ยกัน

นมเปรยี้ วประโยชน์ พฤตกิ รรมการบริโภคประเภท การผลิตแหล่งขอ้ มูลปฐมภูมิทตุ ยิ ภูมิตตยิ ภมู ิPrinted / www.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook