รายวิชาภาษาไทยชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวถนอมวรรณ จันทรอ์ นิ ทร์
เรือ่ ง สารบญั หนา้ ผ้แู ต่ง 1 พระนามแฝงของรชั การที่ 6 2 ลกั ษณะคาประพนั ธ์ 5 ยุคสมัยในเรอื่ ง 5 ทีม่ าของเร่ือง 6 ลักษณะการตัง้ ชอื่ เรื่อง 7 โคลนตดิ ลอ้ มที ้ังหมด ๑๒ ตอน 8 เน้ือเรอื่ ง 9 เนือ้ เรอ่ื ง ตอนที่ ๔ ความนยิ มเปน็ เสมียน10 คุณค่าและขอ้ คดิ ของเรอื่ ง 12
1 ผแู้ ต่ง
2 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยูห่ ัวทรงต้งั พระนามแฝง มากกว่า ๑๐๐ พระนาม พระนามแฝงภาษาไทย สาหรบั บทละครทรงใช้ พระขรรค์เพชร ศรีอยุธยา ไกเ่ ขยี ว เจา้ เงอะ (2พระ นามแฝงหลงั ใช้สาหรับละครร้องสลบั พูด) บทละครภาษาอังกฤษทีท่ รงแปลจากบทละคร ภาษาไทยของพระองค์ ทรงใชพ้ ระนามแฝงว่า Sri Ayudhya, Sri Ayoothya, Phra Khan Bejra
3 พระนามแฝงท่ที รงใช้สาหรับบทความ ได้แก่ อัศวพาหุ Asvabhahu รามวชิราวธุ ป.ร.รามวชิราวธุ รามพันธ์ รามจติ รามสรู รามจิตติ เปน็ พระนามแฝงทที่ รงใช้เมอื่ ทรงพระ ราชนิพนธ์นิทานเร่ืองยาวท่ีทรงแปลจากภาษาองั กฤษ บางคร้งั ทรงใช้ยอ่ วา่ ร.จ. พันแหลม เป็นพระนามแฝงสาหรบั เร่ืองเกีย่ วกับ ทหารเรือ และ สคุ รพี ทรงใชส้ าหรบั นิทานเบด็ เตล็ดเก่ียวกบั ทหารเรอื พระนามแฝงท่มี กั ทรงใช้ในหนังสอื พมิ พด์ ุสิต สมติ ได้แก่ จลุ สมติ มหาสมติ วรสมติ วิริยสมติ วภิ าส สมิต วรรณะสมิต และโสตสมติ
4 นอกจากนยี้ งั ทรงมีพระนามแฝงอื่น ๆ เช่น คอแดง คอยโุ รป น.พ.ส. ความเห็นเอกชน ไทยอีก คนหน่ึง ไทยศรวี ิลยั นักเรียนเกา่ นักเรยี นคนหนึ่ง น.ภ. เนตบิ ัณฑติ ไทยผู้หนึง่ น.ร. พรานบุญ พาลี พันตา ศ.ธนญชยั ศารทลู เสอื เหลอื ง สภานายก อบุ าสก เอกชน ศรีธนญชยั สารจติ ต์ สุริยงส่องฟา้ โสต หตั ถชัย หนานแก้วเมืองบรู ณ์ อัญชัญ Khon Thai Sri Dhanya และ Oxonian
5 โคลนติดลอ้ ตอน ความนิยมเป็นเสมยี น ทรงพระราชนพิ นธ์เปน็ บทความ (เนอื้ หา แสดงความคิดเห็น) เกี่ยวกับคา่ นิยมของคน ไทยที่ทาให้บ้านเมอื งไม่พฒั นาไปเท่าทค่ี วร • ช่วงพุทธศักราช ๒๔๕๓ - ๒๔๖๘ (รชั กาลท่ี ๖) • รับอิทธพิ ลจากชาตติ ะวนั ตก • คนหนุม่ - สาวเร่ิมเรยี นแพรห่ ลาย
6 พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระราชนพิ นธ์ เรอ่ื ง โคลนตดิ ล้อ ซ่ึงมีทัง้ หมด ๑๒ ตอน ลงพมิ พ์ในหนงั สอื พมิ พ์ ไทย ระหวา่ งวันที่ ๒๘ เมษายน ถึง ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ (๑๔ วัน) ตอน ความนยิ มเป็นเสมยี น เป็นตอนท่ี ๔ จาก ๑๒ ตอน บทความเรื่องน้ีทรงพระราชนิพนธ์ เปน็ ภาษาองั กฤษด้วยในชือ่ วา่ Clogs on Our Wheels ลงพิมพใ์ นหนังสอื พมิ พ์ Siam observer
7 ความหมายแฝงในการตง้ั ชือ่ เร่อื ง โคลน คือ ... (Clogs) ปญั หาและอปุ สรรค ที่กีดขวางความเจริญของชาติ ล้อ คือ ... (Wheels) ชาตสิ ยาม/ บ้านเมือง (ประเทศไทย) ลักษณะการตัง้ ช่อื เรือ่ ง เปน็ การตงั้ ช่อื โดยใช้ ภาพพจน์ แบบ อุปลักษณ์ อปุ มา คอื การเปรยี บเทียบส่งิ หน่งึ วา่ เหมือนกบั อกี สิ่งหนง่ึ •คลา้ ย เทา่ เหมอื น เฉก เชน่ พ่าง ดจุ ดัง ด่ัง ประดุจ ราว ราวกับ เสมือน อุปลักษณ์ คอื การเปรยี บว่าสงิ่ หนึง่ เปน็ อีกสิ่ง หนึ่ง • คือ เป็น
8 โคลนตดิ ลอ้ มที ้งั หมด ๑๒ ตอน ซงึ่ เปรยี บเปน็ โคลน ๑๒ ตอน ดงั น้ี ๑. การเอาอย่างโดยไม่ตริตรอง ๒. การทาตนให้ ต่าต้อย ๓. การบูชาหนังสือจนเกนิ เหตุ ๔. ความนยิ มเป็นเสมยี น ๕. ความเหน็ ผดิ ๖. ถือเกียรติยศไมม่ มี ูล ๗. ความจนไมจ่ ริง ๘. แต่งงานช่ัวคราว ๙. ความไม่รับผดิ ชอบของบิดา มารดา ๑๐. การคา้ หญงิ สาว ๑๑. ความหยมุ หยมิ ๑๒. หลกั ฐานไมม่ ั่นคง
9 ตวั เน้ือเรือ่ ง พระราชนิพนธ์เป็นประเภท บทความ มที ั้ง หมด ๑๒ บท และบทที่ ๑๒ จบ ดว้ ยกาพยย์ านี ๑๑ จานวน ๔ บท เพื่อปลกุ ใจ ให้ คนไทยรกั ชาติ รักความเปน็ ไทย ชี้ให้คน ไทยไดเ้ หน็ ข้อบกพร่องของ ตนเอง ที่ทาใหป้ ระเทศไทยเจรญิ กา้ วหนา้ ชา้ กวา่ ท่ีควร เป็น ตอนจบของบทที่ ๑๒ ของเรื่อง \"โคลน ตดิ ลอ้ \" ยังเตอื นจิตสานกึ ของคนไทยให้ภมู ิใจ ในประเทศของตนด้วย เร่อื งน้ีช้ใี หเ้ ห็นถึงข้อบกพร่องของคนไทย ๑๒ ประการ ทีเ่ ปรียบเป็นโคลนตดิ ลอ้ หรือปัญหา ที่ทาให้ประเทศชาตกิ า้ วไปสคู่ วามเจรญิ ได้ชา้ ลง
10 เน้ือเร่อื ง ตอนท่ี ๔ ความนยิ มเปน็ เสมียน เสมยี นคอื ผทู้ าหนา้ ที่เก่ยี วกบั หนงั สือ ผ้มู ี การศกึ ษานัน้ นยิ มเป็นเสมยี น คอื นยิ มเขา้ รบั ราชการผู้ท่เี ปน็ เสมียนจึงไมส่ นใจกลบั ไปทา การเกษตรในภูมลิ าเนาของตนซง่ึ กอ่ ให้เกดิ ประโยชน์ไดม้ ากกว่าผู้ท่ีเป็นเสมียนจึงนิยมใช้ชีวติ อยู่ในกรงุ เทพฯ บุคคลเหล่านีเ้ หน็ ว่าการทางาน อย่างอืน่ ไม่สมเกยี รตยิ ศของตนเองเพราะคนท่ี ได้รับการศึกษาไม่ควรเสยี เวลาไปทางานท่ีคนไม่รู้ หนงั สอื กท็ าได้คนจาพวกน้จี ึงยอมทนใช้ชวี ติ อยู่ใน กรุงเทพฯ ทง้ั ทเ่ี งนิ เดือนไม่มากแตก่ จ็ ับจา่ ยใช้ ทรัพยเ์ พือ่ การตา่ ง ๆ เช่น นุ่งผ้าม่วงสี ดหู นงั กนิ ขา้ ว ตามรา้ นอาหารถา้ คนเรายงั มีคา่ นิยมเหน็ ว่า การเป็นเสมียนมศี กั ดศ์ิ รสี งู กวา่ การเป็นชาวนา ชาวสวน หรือพอ่ คา้ คนก็มักจะใฝ่ทะเยอทะยาน
11 อยากเป็นเสมียนเม่อื กระทรวงทบวงการ คดั เลือกเสมียนทีม่ มี ากเกินความจาเปน็ ออก บคุ คลเหลา่ น้ีจะไม่สามารถไปทางานอ่ืนได้ เพราะเคยเป็นเสมยี นมานานผูท้ ่ีเป็นเสมียนไม่ อาจไปเปน็ ชาวนาได้ ด้วยเหตผุ ลหลายประการ เชน่ เห็นวา่ ไมส่ มเกียรตขิ องตน ไม่อาจไปอยตู่ าม บ้านนอกได้ ดงั น้นั จงึ คงอยู่ในเมืองเพอ่ื หา ตาแหน่งเสมยี นตอ่ ไป อายุมากขึน้ โอกาสยิง่ นอ้ ยลง ในตอนทา้ ยของบทความจบด้วยคาถาม กระต้นุ ให้คดิ ว่า สมควรหรือไม่ที่จะเปลยี่ น คา่ นิยมในการเป็นเสมียน แล้วหนั ไปทางานอนื่ ๆ ที่ทาประโยชน์ได้ดีกวา่ การเป็นเสมียน
12 คณุ คา่ และข้อคิดของเร่อื ง ๑. เป็นตวั อยา่ งบทความทีท่ รงคณุ คา่ เหนอื กาลเวลา (ทันสมัย) ๒. การตงั้ ช่ือบทความนม้ี ีความหมายคมคาย โดยการใชภ้ าพพจนป์ ระเภทอุปลกั ษณ์ ๓. เสนอข้อคดิ เกย่ี วกับปญั หาบ้านเมอื งในเรื่อง ค่านิยม (การรบั ราชการ) ท่ีเปน็ อปุ สรรคทาให้ ประเทศเจรญิ ได้ชา้ ๔.ให้แนวคดิ ว่าอาชพี อนื่ กส็ ามารถทาประโยชน์ ให้แกป่ ระเทศชาตไิ ด้
คุณค่าและข้อคิดของเร่ือง 13 ๕. วิธีการแตง่ บทความ คอื มกี ารกระตุ้น ความคิดของผู้อา่ น โดยใช้ประโยคคาถาม ๖. ทกุ อาชีพล้วนมปี ระโยชน์ต่อบา้ นเมืองไม่ เฉพาะอาชพี เสมยี นเทา่ นนั้ ๗. ผู้ที่เขา้ มาทางานในเมอื งมกั ลืมถิน่ ฐาน บา้ นเกิด ๘. คนท่ัวไปมกั นยิ มยกยอ่ งข้าราชการและผู้ ทท่ี างานในสานักงานทัง้ ๆ ทีเ่ ป็นค่านยิ มไม่ถูกต้อง ๙. อาชีพเกษตรกรรมเป็นผู้ผลติ อาหารการ กนิ มคี วามสาคญั ยิง่ ตอ่ การเลย้ี งมนษุ ยโ์ ลกให้มี ชีวติ อยู่ ๑๐. ผู้ทีอ่ อกจากอาชีพการงานของตน เม่อื หมดหนทางไปมักถกู ชักจงู ใหป้ ระพฤตใิ นทางท่ี ทุจริตได้
พระราชดารสั 14
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: