Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Food Guide

Food Guide

Published by ss48394, 2021-12-08 15:47:25

Description: Food Guide

Search

Read the Text Version

SIMPLE. PURE. FOOD GUIDE All health begins with what you eat. BY NAWADON



~1~ STEAK คือชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของเนื้อโดยเฉพาะเนื้อวัว ในปัจจุบัน เนื้อแดงอื่น ๆ และปลานิยมตัดมาทำสเต๊ก เนื้อสเต๊กจะตัด ตั้งฉากกับเอ็นของเนื้อเพื่อคงความนุ่มของเนื้อไว้ สเต๊ก สามารถกินได้ในลักษณะย่าง ทอด หรือ ต้ม ราคาของส เต๊กจะค่อนข้างสูงเปรียบเทียบกับเนื้อส่วนอื่น ซึ่งการกินส เต๊กยังคงแสดงถึงความร่ำรวยในบางวัฒนธรรม ร้านอาหารที่ขายเฉพาะสเต๊กจะเรียกว่าสเต๊กเฮาส์ โดย การเสิร์ฟอาหารสเต๊ก นิยมเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงที่ เป็นผักพร้อมทั้งมันฝรั่ง และบนโต๊ะอาหาร มีดสเต๊ก จะมี ความคมมากกว่ามีดทั่วไปสำหรับใช้บนโต๊ะอาหาร และจะมี การเสิร์ฟไวน์ควบคู่กันไป นอกจากเนื้อวัว หมู ไก่ และปลาซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการ ทำสเต๊กแล้ว เนื้อสัตว์อื่น ๆ เช่น กระทิง อูฐ แพะ ม้า นก กระจอกเทศ กวาง ก็เป็นที่นิยมในหลายประเทศเช่นกัน

~2~ SPAGHETTI สปาเกตตี (Spaghetti; ภาษาอิตาลี: [spaˈɡetti] ) คือ เส้น พาสตา ที่ยาว บาง แข็ง และเป็นทรงกระบอก สปาเกตตีเป็น อาหารหลัก ใน อาหารอิตาลี แบบดั้งเดิม สปาเกตตีเช่นเดียวกับพาสตาอื่น ๆ ผลิตจาก ข้าวสาลี โม่ กับ น้ำ อาจทีบ้างที่ผสมแป้งวิตามินหรือแร่ธาตุ สปาเกตตีแบบอิตาลีนั้นนิยมผลิตมาจากแป้ง ดูรัม ที่ เรียกว่า เซโมลินา สปาเกตโตนี (Spaghettoni) คือ สปาเกตตีแบบที่หนากว่า ส่วน กาเปลลินี (capellini) คือ สปาเกตตีที่บางมาก ๆ วิธีทำ 1ต้มเส้นสปาเก็ตตี้ ในน้ำเดือดที่ผสมน้ำมันพืชและเกลือ ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นนำเส้นสปาเก็ตตี้ที่ผ่านการต้มแล้ว ไปผ่านในน้ำเย็นจัด ยกขึ้น พักไว้ในกระชอน คลุกเคล้าด้วยน้ำมันพืชเล็กน้อย เคล็ดลับ: ตามคำแนะนำข้างกล่องนะครับ เพราะแต่ละยี่ห้ออาจไม่เหมือนกัน 2หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็ก จากนั้นนำไปปั่ นด้วยเครื่องปั่ นจนเป็นเนื้อ เดียวกัน นำขึ้นพักไว้ 3ตั้งกระทะบนเตา เมื่อร้อนแล้วจึงเติมน้ำมัน แบ่งหอมหัวใหญ่บดละเอียดมา 1/4 ส่วน ผัดกับน้ำมันจนหอม 4เติมหมูสับลงไป ผัดจนสุก จากนั้นตามด้วยเนื้อมะเขือเทศปั่ น ซอสมะเขือ เทศ ซอสพริก หอมหัวใหญ่บดละเอียด (3/4 ส่วน) และเกลือป่นเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน 5เคี่ยวส่วนผสมจนเริ่มงวด หรือเริ่มหนืดสักเล็กน้อย ชิมรสชาติ ซึ่งอาจปรุง เพิ่มได้ตามความชอบ 6ยกลงจากเตา จัดจาน เพิ่มกลิ่นหอมๆ ให้กับจานนี้ด้วยการเหยาะออริกาโน สักเล็กน้อย ก็พร้อมเสิร์ฟละคร้าบบบ

~3~ MASHED PATATO Mashed potato มันฝรั่งบดเป็นอาหารที่ถูกเตรียมโดย นำมันฝรั่งไปต้ม สูตรการทำมันฝรุ่งบดเริ่มปรากฏให้ ก่อน ปี 1747 กับรายการศิลปะการปรุงอาหารโดยฮันนาห์ กลาส. มันฝรั่งบดอบแห้งและแช่แข็งสามารถหาได้อยู่ใน ทุกๆที่ วิธีทำ ส่วนใหญ่จะใช้มันฝรั่งแบบเนื้อ ละเอียด (บางแห่งจะใช้แบบเนื้อ เหนียว) เนย น้ำมันพืช นม และ/ หรือ ครีม มันฝรั่งยังสามารถ ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทยและ สมุนไพรเครื่องเทศอื่นๆ ส่วน ผสมที่เป็นที่นิยมคือ กระเทียม ชีส เบคอนบิทส์ ครีมเปรี้ยว ต้น หอม มัสตาร์ด เครื่องเทศ เช่น ลูกจันทน์เทศ ผักชีฝรั่งหรือโรส แมรี่สับ หัวผักกาดขาว และ วา ซาบิ

~4~ BAKED SPINACH WITH CHEESE วัตถุดิบ วิธีทำ 1. หัวหอม 1 ลูก 2. กระเทียม 3 กลีบ 3. ผักโขมแช่แข็งบีบน้ำให้แห้ง 200 กรัม 4. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 100 กรัม 5. นมสดรสจืด 1 ถ้วย 6. เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ 7. เกลือ ½ ช้อนชา 8. พริกไทย ½ ช้อนชา 9. มอสซาเรลล่าชีส ตามชอบ 1. นำผักโขมมาสับหยาบ 2. หั่นครึ่งหัวหอม แบ่งซอยบาง ๆ และหั่นเต๋าเล็ก อย่างละครึ่ง จากนั้นซอยกระเทียมเตรียมไว้ ต้ม นมกับหัวหอมซอยและกระเทียมให้เดือดจนหัว หอมสุกแล้วพักไว้ 3. ตั้งกระทะให้ร้อนใส่เนยลงไปละลาย แล้วใส่แป้งลง ไปผัดให้สุก 4. กรองนมร้อนใส่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้น 5. ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตั้งกระทะให้ร้อน ใส่ หัวหอมลงไปผัดให้เริ่มสุก 6. ใส่กระเทียมตามลงไปผัดให้เหลืองสวย และใส่ผัก โขมลงไปผัดให้สุก ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย 7. ใส่ครีมซอสที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน 8. เทผักโขมที่ผัดแล้วใส่จานอบ แล้วโรยมอสซาเรล ล่าชีสให้ทั่วแล้วนำไปอบจนเหลืองสวย

~5~ BEEF STEW วัตถุดิบ วิธีทำ 1. เนื้อวัวส่วนติดมันหั่นเต๋า 200 กรัม 1. โรยเกลือและพริกไทยลงบนเนื้อ คลุกให้เข้ากัน 2. มันฝรั่งหั่นเต๋า 2 ลูก 2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย รอน้ำมันร้อน 3. มะเขือเทศหั่นเต๋า 4 ลูก 4. แครอทหั่นเต๋า 1 ลูก ค่อยใส่เนื้อลงไปทอด ทอดให้ได้สีน้ำตาลสวยทั่วทุก 5. หอมใหญ่หั่นเต๋า 1 ลูก ด้าน 6. มะเขือเทศเข้มข้น 1 ช้อนโต๊ะ 7. ไวน์แดง 1 ถ้วย 3. ใส่หอมใหญ่และแครอทลงในกระทะ ผัดจนนิ่ม ตาม 8. ผงปาปริก้า 1 ช้อนโต๊ะ ด้วยมันฝรั่ง และมะเขือเทศตามลำดับ 9. ใบกระวาน 2 ใบ 10. ไทม์ 2 ก้าน 4. จากนั้นใส่มะเขือเทศเข้มข้น และปาปริก้าตามลงไป 11. น้ำสต๊อกเนื้อ 1 ลิตร ผัดจนหอม ต่อด้วยไวน์แดง คนให้เข้ากัน 12. เกลือ 2 ช้อนชา 13. พริกไทยดำป่น 2 ช้อนชา 5. ยกกระทะออก เทส่วนผสมถ่ายใส่หม้อทรงสูง (ขูด 14. น้ำมันพืชสำหรับทอด คราบที่ติดกระทะออกมาให้หมด) 15. พาร์สลีย์สับ สำหรับตกแต่ง 6. เติมน้ำสต๊อกลงไป ตามด้วยใบกระวานและไทม์ จากนั้นตั้งไฟกลางให้เดือด พอส่วนผสมเดือดให้ ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ค่อย ๆ เคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ หมั่นช้อนฟองออก เคี่ยวให้ปริมาณน้ำเหลือ ประมาณครึ่งหนึ่ง 7. พอได้ที่แล้ว ลองชิมรสดู ถ้ายังไม่ถูกปาก ให้ปรุง รสด้วยเกลือและพริกไทยเพิ่มได้นะครับ ชิมรสตาม ชอบ เท่านี้ก็พร้อมตักเสิร์ฟแล้ว!

~6~ SUSHI 寿司ซูชิ (ญี่ปุ่น: ; โรมาจิ: sushi; ทับศัพท์: และมี すし、鮨、鮓、寿การเขียนหลายแบบ ได้แก่ 斗、寿し、壽司) หรือ ข้าวปั้ นมีหน้า เป็นอาหาร ญี่ปุ่น ที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู และกินคู่กับ ปลา เนื้อ หรือของคาวชนิดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น 寿司飯ซูชิมักจะหมายถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของซูชิเมชิ ( , ข้าวที่ผสมน้ำส้มสายชู) และมีหน้าแบบต่าง ๆ หน้าที่นิยมได้แก่ อาหารทะเล ผัก ไข่ เห็ด เนื้อที่นำ มาใช้อาจจะเป็นเนื้อดิบหรือเนื้อที่ผ่านกระบวนการทำ อาหารแล้ว สำหรับในประเทศอื่น และซูชิส่วนใหญ่มัก ใส่วาซาบิบนข้าวเพื่อให้ได้ความอร่อยมากยิ่งขึ้น ซูชิ หมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซูชิมี วิวัฒนาการมาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วซึ่งเกิดจาก ความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น คำว่า \"ซูชิ\" นิยมหมายถึง นิงิริซูชิ ที่เป็นข้าวมาอัด เป็นก้อนและมีเนื้อปลาวางบนด้านหน้าเท่านั้น

~7~ SHABU しゃぶしゃぶชาบูชาบู ( ญี่ปุ่น : ; โรมาจิ : shabushabu ) เป็น อาหารญี่ปุ่น ประเภท หม้อไฟ แบบหนึ่ง คล้ายกับ สุกี้ยากี้ มีส่วนผสมต่าง ๆ เช่น ผัก เนื้อหั่นบาง ๆ และอาหารทะเล โดยการปรุงจะนำ วัตถุต่าง ๆ เหล่านี้จุ่มแช่ลงในน้ำเดือด หรือน้ำซุป และปล่อยทิ้งไว้สักพัก จากนั้นนำส่วนผสมอย่างอื่น เช่น เต้าหู้ บะหมี่ ลงตุ๋นให้เข้ากัน แล้วรับประทาน โดยจุ่มลงในซอส

~8~ TOM YUM KUNG สำหรับประวัติของอาหารชนิดนี้ ไม่มีหลักฐานแน่นชัดที่ บอกถึงจุดกำเนิดของอาหารชนิดนี้ แต่ อาจารย์สุจิตต์ วงษ์เทศ ได้เขียนถึง ต้มยำกุ้ง ไว้ว่า “เมื่อรับ ข้าวเจ้า จาก อินเดีย เข้ามาพร้อมกับการค้าทาง ทะเลอันดามัน และ ศาสนาพราหมณ์ - พุทธ ทำให้ “กับข้าว”เปลี่ยนไป เริ่มมี “น้ำแกง” เข้ามาหลากหลาย ทั้งแกงน้ำข้นใส่กะทิ แบบ อินเดีย กับแกงน้ำได้แบบ จีน “ ต้มยำกุ้ง เป็นอาหารไทยภาคกลางประเภท ต้มยำ ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทานไปทุกภาคใน ประเทศไทย เป็นอาหารที่รับประทานกับข้าว และ มีรสเปรี้ยวและเผ็ดเป็นหลักผสมเค็มและ หวานเล็กน้อย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ต้มยำน้ำใส และ ต้มยำน้ำข้น

~9~ PAPAYA SALAD ส้มตำ เป็นอาหารปรุงมาจากการทำตำส้ม คือการทำให้ เปรี้ยว ในลาวจะเรียกว่า ตำหมากหุ่ง ปรุงโดยนำ มะละกอ ดิบที่สับแล้วฝานหรือขูดเป็นเส้นมาตำใน ครก เป็นหลัก พร้อมด้วยวัตถุดิบอื่น ๆ คือ มะเขือเทศ ลูก เล็ก มะเขือสีดา มะเขือเปราะ พริก สดหรือพริกแห้ง ถั่วฝักยาว กระเทียม และปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊ บ น้ำปลา มะนาว วัตถุดิบ ส่วนผสมและเครื่องปรุงต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ส้มตำมีรสเผ็ด เค็ม และเปรี้ยว ไทยภาคอีสานนิยมส้มตำรสเผ็ดเค็ม ส่วน ไทยภาคกลางนิยมรสเปรี้ยวหวาน นิยมรับประทานกับ ข้าว เหนียว และ ไก่ย่าง บางครั้งรับประทานกับขนมจีน เส้น เล็กลวก เส้นหมี่ และแคบหมู โดยมีผักสดเป็นเครื่องเคียง เช่น กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง ตลอดจนผักดอง (ผักส้ม) ผักกาดขาว ผักชีฝรั่ง (หอมเป) ถั่วงอก ทูน ใบ ชะพลู (ผักอีเลิศ) เป็นต้น นอกจากนี้ ร้านส้มตำส่วนใหญ่ มักขายอาหารอีสานอื่นด้วย เช่น ซุบหน่อไม้ อ่อม ลาบ ก้อย แจ่ว ปลาแดกบอง น้ำตก ซกเล็ก ตับหวาน ไก่ย่าง คอหมูย่าง พวงนม กุ้งเต้น (ก้อยกุ้ง) ข้าว เหนียว เป็นต้น

~10~ PAELLA SEAFOOD ปาเอยา (สเปน: paella) หรือ ปาเอ็ลยาดาร์ร็อส (บาเลนเซีย: paella d'arròs) เป็นชื่อเรียก อาหารประจำชาติอย่างหนึ่งของประเทศสเปน มี ส่วนประกอบหลักที่สำคัญคือข้าวซึ่งนำไปหุง (มิใช่ผัด) กับเนื้อสัตว์และเครื่องเทศด้วยน้ำสต็ อกในกระทะแบนใหญ่ ต้นกำเนิดของปาเอยานั้น มาจากแคว้นบาเลนเซียซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าว อันดับต้น ๆ ของประเทศสเปน อาหารจานนี้เป็น สิ่งที่สะท้อนถึงความเรียบง่ายทาง ขนบธรรมเนียมและประวัติศาสตร์ของแคว้นบา เลนเซียได้เป็นอย่างดี ความมีชื่อเสียงและแพร่หลายของปาเอยานั้น มาจากการที่สามารถดัดแปลงใช้วัตถุดิบที่หาได้ ตามแต่ละท้องถิ่นสร้างปาเอยาที่มีลักษณะ เฉพาะของแต่ละแคว้นขึ้นมาได้โดยง่าย ยก ตัวอย่างเช่น แคว้นกาลิเซียซึ่งมีที่ตั้งอยู่ติดกับ ทะเล สามารถใช้อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปลา หรือปลาหมึก เป็นส่วนประกอบหลักทำปาเอยา ทะเล ในขณะที่บางแคว้นที่อยู่ตอนในของ ประเทศ เช่น แคว้นกัสติยาและเลออน สามารถ ใช้เนื้อหมูหรือเนื้อไก่ซึ่งสามารถหาได้ง่ายกว่ามา ใช้เป็นส่วนประกอบหลัก

~11~ TACOS ตาโก (สเปน: taco) เป็นอาหารเม็กซิโกพื้นเมือง[1] ทำ มาจากตอร์ติยาที่ใส่ไส้ข้างในแล้วห่อหรือม้วน ตอร์ติยาที่ ใช้ห่ออาจมีลักษณะแข็งหรืออ่อนก็ได้ ส่วนมากจะทำมา จากข้าวโพด บางชนิดทำมาจากแป้งสาลี ตาโกส่วนมากจะใส่ไส้เป็นเนื้อวัว หรืออาจเป็นไก่ หมู ปลา ชีส ผักกาดหอม กัวกาโมเล หรือปิโกเดกาโย และมักจะ ปรุงแต่งด้วยซัลซา พริกไทยดำ อาโวคาโด กัวกาโมเล มะเขือเทศ หอมใหญ่ ผักชี และผักกาดหอม ตาโกเป็นที่รู้จักอย่างมากในจีนและสหรัฐ โดยในสหรัฐมี ร้านตาโกยอดนิยม เช่น ตาโกเบลล์, เดลตาโก, แจ็กอิน เดอะบอกซ์ เป็นต้น

~12~ STINKY TOFU 臭豆腐เต้าหู้เหม็น ( อักษรจีนตัวเต็ม และ ตัวย่อ :; พินอิน : chòu dòu fu) เป็น เต้าหู้ หมัก ชนิดหนึ่งซึ่งมี กลิ่น ที่มีเอกลักษณ์ เต้าหู้เหม็นเป็น อาหาร ที่ได้รับความนิยมทั้งใน จีนแผ่นดินใหญ่ และ ไต้หวัน รวมถึงประเทศอื่นๆใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วย เต้าหู้เหม็นมีประวัติความเป็นมามาตั้งแต่สมัย ราชวงศ์ชิง โดยในปีที่ 8 แห่งรัชสมัย สมเด็จพระจักรพรรดิคังซี ( พ.ศ. 2212 ) มีบัณฑิตชื่อ หวังจื้อเหอ เข้ามาสอบ จอหงวน ที่ ปักกิ่ง แต่สอบไม่ได้ จึงตัดสินใจตั้งรกรากอยู่ที่ปักกิ่งและหาเลี้ยงชีพด้วยการทำเต้าหู้ ขาย จนกระทั่งเมื่อถึงวันหนึ่งใน ฤดูร้อน ปีหนึ่ง เต้าหู้เกิดขายไม่หมดขึ้นมา หวังจื้อเหอ จึงหั่นเต้าหู้เป็นชิ้นเล็กๆ โรย เกลือ และ ชวงเจีย แล้วจึงเก็บไว้ในไห เมื่อเวลาผ่านไปนาน หวังจื้อเหอนึกถึงเต้าหู้ที่เก็บไว้ในไหขึ้นมา จึงลองนำออกมาดู พบว่าเต้าหู้มีกลิ่นเหม็น มากและเปลี่ยนเป็นสีเทาเขียว แต่พอลองชิมดูก็พบว่ามีรสชาติดี จึงได้ลองนำไปขายที่ ตลาด และเต้าหู้เป็นก็เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน

~13~ FRENCH TOAST วัตถุดิบ 1. ไข่ไก่1 ฟอง 2. ไข่ขาว2 ฟอง 3. ขนมปังโรยัลเบรด4 แผ่น 4. กลิ่นวานิลลา½ ช้อนชา 5. นมพร่องมันเนย½ ถ้วย 6. อบเชยป่นปรุงรส 7. เกลือปรุงรส 8. น้ำตาลไอซิ่งสำหรับเสิร์ฟ 9. น้ำผึ้งสำหรับเสิร์ฟ 10. ผลไม้สำหรับเสิร์ฟ วิธีทำ 1. ผสมไข่ไก่ ไข่ขาว นม กลิ่นวานิลลา และ อบเชยป่น ในชามผสม ปรุงรสเล็กน้อย ด้วยเกลือ นำแผ่นขนมปังลงชุบให้ทั่วดี 2. ตั้งกระทะเคลือบให้ร้อนดี ฉีดสเปร์ยน้ำ มันบางๆ บนกระทะ นำเฟรนช์โทสต์ลง ไปทอดจนผิวมีสีที่สวยทั้งสองด้าน และ สุกดี นำขึ้นมาจากกระทะ โรยน้ำตาลไอ ซิ่ง เสิร์ฟพร้อมกับน้ำผึ้ง และผลไม้ตาม ชอบ

~14~ FISH AND CHIPS ฟิชแอนด์ชิปส์ ( อังกฤษ : fish and chips ) เป็นอาหารจานร้อนที่มีต้นกำเนิดใน อังกฤษ ประกอบด้วยเนื้อปลาที่ชุบแป้ง โดยมักจะเป็นปลาค็อดแอตแลนติก (Atlantic cod) หรือปลาค็อดชนิดอื่น รวม ทั้งมันฝรั่งทอด เป็นอาหารที่เตรียมไว้ขาย และเครื่องเคียงที่กินร่วมกันคือ ถั่วอ่อน วิธีทำ 1. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน อุณหภูมิ ประมาณ 180 องศาเซลเซียส นำปลา ลงทอดประมาณ 3-5 นาที หรือจนมสี ี เหลืองทอง ตั้งขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน 2. นำเฟรนช์ฟรายส์ลงทอดในน้ำมันร้อน ปานกล่ง ประมาณ 3-5 นาที หรือจนมี สีเหลืองทอง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ด น้ำมัน โรยเกลือป่น เขย่าให้ทั่ว 3. ทำทาทาร์ซอสโดยผสมมายองเนสกับ ครีมเปรี้ยวเข้าด้วยกัน ใส่หอมใหญ่สับ, แตงกวาดองสับ, น้ำมะนาว และเกลือ ป่น คนให้เข้ากัน พักไว้ 4. นำปลาทอดลงจานพร้อมเฟรนช์ฟราย ส์ ตกแต่งด้วยพาร์สเลย์และเลมอนให้ดู สวยงาม เสริฟพร้อมทาทาร์ซอส

~15~ PHO เฝอ (เวียดนาม: phở, ออกเสียง: [fə̰ ː˧˩˧]) เป็นอาหารเวียดนามชนิดหนึ่ง มี ลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวของไทย แต่ต่างกันที่เส้น น้ำซุป และก็เครื่องเคียง และบางครั้งก็เรียกเป็น ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม/กวยจั๊บ-เวียดนาม/ญวน เฝอเป็นอาหารที่ประกอบด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เรียกว่า บั๊ญเฝอ (bánh phở) คล้ายเส้นเล็กแต่กว้างกว่า หรือเป็นเส้นกลมสีขาวขนาดใหญ่กว่า ขนมจีนเล็กน้อย ในน้ำซุปที่เคี่ยวจากเนื้อวัว (หรือเนื้อไก่) กระดูก หางวัว และเครื่องเทศบางชนิด เช่น อบเชยไซ่ง่อน เมล็ดดอกจัน ขิง กานพลู กระวานดำ เป็นต้น และตกแต่งด้วยหัวหอม ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ โหระพา มะนาวหรือเลมอน ถั่วงอก และพริกหยวก ซึ่งสี่อย่างหลัง มักจะแยกไว้เป็นอีกจานต่างหาก เพื่อให้ผู้รับประทานเติมได้ตามชอบ สำหรับซอสบางอย่างที่เป็นที่นิยมได้แก่ ซอสฮอยซิน น้ำปลา และซอสพริก ศรีราชา

~16~ barbecued suckling-pig หมูหัน เป็นเมนูอาหารจีนชนิดหนึ่งที่มีต้นตำหรับมา จากเมืองกวางตุ้งประเทศจีน ซึ่งหมูที่ทำหมูหันจะเป็น ลูกหมูเพิ่งหย่านม มีขนาดเพียง 2-3 เดือน ส่วนวิธี การทำหมูหันต้องผ่าท้องเพื่อเอาเครื่องในออกให้ หมดจึงจะนำมาปรุงรสชาติก่อนที่จะนำไปย่างหมดเตา ถ่านร้อน ๆ แล้ว เพื่อทำให้หนังกรอบ นอกจากในจีน แล้ว ยังมีในสเปน โปรตุเกส เวียดนามและฟิลิปปินส์ ที่มีอาหารที่ทำจากการย่างลูกหมูทั้งตัวคล้ายๆกัน

~17~ LASAGNA ลาซัญญา ( อิตาลี : lasagna – เอกพจน์) หรือ ลาซัญเญ ( lasagne – พหูพจน์) เป็น พาสตา ที่มีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม อาจ เป็นพาสตาที่เก่าแก่ที่สุดประเภทหนึ่ง โดยทั่วไป คำ ลาซัญญา หรือ ลา ซัญเญ ยังหมายถึง อาหารอิตาลี ที่ทำจากแผ่นลาซัญญาแห้งวางสลับ ชั้นกับซอสและส่วนผสมอื่น ๆ เช่น เนื้อสัตว์ ซอสมะเขือเทศและผักต่าง ๆ เนยแข็ง (ซึ่งอาจเป็น รีกอตตา และ พาร์เมซาน ) และเครื่องปรุงรส และเครื่องเทศ เช่น กระเทียม ออริกาโน และใบโหระพา อาจโรยหน้า ด้วยเนยแข็ง มอซซาเรลลา ขูด ตามแบบฉบับแล้วจะนำแผ่นลาซัญญาที่ วางสลับกับส่วนผสมอื่น ๆ นี้ไปอบในเตาอบ ในภาษาอิตาลีเรียกว่า ลา ซัญเญอัลฟอร์โน ( lasagne al forno ; แปลว่า  ลาซัญญาเตาอบ ) ลา ซัญญาที่อบสุกแล้วจะถูกตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมก่อนเสิร์ฟ

~18~ CROISSANT ครัวซ็อง (ฝรั่งเศส: croissant, ออกเสียง: /kʀwa.sɑ̃/) ครัวซ็องเป็นขนมที่มีส่วนผสม ของเนย หรือเป็นที่รู้จักกันดีในขนมปังรูปจันทร์เสี้ยว ครัวซ็องและขนมอบประเภทนี้มี การนำแป้งมาม้วนเป็นชั้น ๆ ก่อนเข้าตู้อบ ส่วนผสมในชั้นของแป้งที่มีส่วนผสมของเนย ถูกม้วนและพับไปมาจนกลายเป็นรูปร่างของขนมครัวซ็องในลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ซ้อน กัน และมีลักษณะเป็นแผ่นเกล็ดเล็ก ๆ หลังจากการเข้าตู้อบแล้ว ขนมรูปจันทร์เสี้ยวเกิด ขึ้นในสมัยของช่วงยุคกลาง และเค้กต่าง ๆ ในรูปจันทร์เสี้ยวนั้นมีมาตั้งแต่สมัยก่อนหน้านี้ ครัวซ็องนั้นกลายมาเป็นอาหารหลักตามร้านขนมต่าง ๆ ของประเทศฝรั่งเศส ในปลาย ทศวรรษปี ค.ศ. 1970 มีการพัฒนารูปแบบโรงงานการผลิตอาหารแช่แข็ง โดยการนำส่วน ผสมต่าง ๆ ของแป้งที่พร้อมอบ แปลงสภาพเป็นอาหารที่สามารถเตรียมได้อย่างสะดวก รวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการทำอาหาร ขนมครัวซ็องจากประเทศฝรั่งเศส เป็น ขนมอีกอย่างที่สามารถตอบโจทย์ในรูปแบบอาหารจานด่วนของประเทศอเมริกาอย่างเห็น ได้ชัด ในปัจจุบันนี้ครัวซ็องจำนวน 30-40% ที่ขายตามร้านขนมในประเทศฝรั่งเศสมาจาก การแช่แข็งก่อนนำไปอบ และยังได้รับความนิยมในการรับประทานอาหารเช้าจนถึงทุกวันนี้

~19~ EGG TART วัตถุดิบ 1. นมสดจืด 300 กรัม 2. น้ำตาลทราย 150 กรัม (ปรับเพิ่มลดได้ 140-160 กรัม) 3. วิปปิ้ งครีมแท้ หรือที่เรียกว่าแดรี่ครีม 700 กรัม 4. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา 5. ไข่แดง 7 ฟอง (ถ้าใช้เบอร์ 0 ใช้ 6 ฟอง / ถ้าเบอร์ 2 ใช้ 7 ฟอง ) 6. เกลือ 1/4 ช้อนชา วิธีทำ 1. ก่อนทำให้เปิดวอร์ทเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศา ไฟบนล่าง และเปิดพัดลมด้วยค่ะ 2. นำถ้วยทาร์ตสำเร็จรูป ออกจากตู้เย็น แล้วนำมาวางเรียงในถาดที่จะใช้อบ เพื่อคลาย ความเย็น 3. เทน้ำตาและเกลือ ลงในนมสด แล้วใช้ตะกร้อคนจนน้ำตาลละลายหมด 4. พอน้ำตาลละลายหมดแล้ว ค่อยใส่วิปปิ้ งครีม และกลิ่นวนิลลาลงไปผสม 5. ใส่ไข่แดงลงไป ** ค่อยๆ คนอย่างเบามือที่สุด คนน้อยๆ ไม่ต้องคนเยอะ 6. เอาสว่ นผสมมากรอง 1 รอบ แล้วใช้ตะกร้อคนเบาๆ อีกครั้ง 7. ใช้ทีห่ ยอดแป้งหยอดขนมลงในแป้งทาร์ต ให้ขนมอยู่พอดีกับขอบแป้งทาร์ต (หรือใช้ ภาชนะที่มีปากสำหรับเทก็ได้) 8. นำเข้าอบ 30 นาทีโดยประมาณ สังเกตที่สีของหน้าขนมเอาค่ะ ชอบเข้มมาก เข้มน้อย เลือกเอาได้เลย

~20~ DONUT โดนัต หรือ โดนัท ( อังกฤษ : doughnut, donut ) เป็นขนมแป้ง ทอดหรืออบ ที่มีเนื้อคล้ายกับ ขนมเค้ก มีลักษณะกลมมีรูตรงกลาง คล้ายกับ ห่วงยาง มีหลายรสชาติ ถ้าเป็นของไทยจะมีน้ำตาลอยู่ที่ผิวของ ขนม โดนัตสามารถแบ่งออกตามกรรมวิธีการผลิตได้เป็น 2 ประเภท คือ โดนัตยีสต์ และโดนัตเค้ก กระบวนการผลิตโดนัตยีสต์นั้น จะใช้ยีสต์เป็นส่วนประกอบในการหมัก แป้งให้ขึ้นฟู ซึ่งแตกต่างจากโดนัตเค้ก จะใช้ผงฟูในการหมักแป้งให้ขึ้นฟู ดังนั้นรสชาติ และเนื้อสัมผัสจะมีความแตกต่างกัน เนื่องจากโดนัตเป็น เพียงแป้งทอดธรรมดา ไม่มีรสชาติ ผู้ผลิตจึงได้เพิ่มสิ่งต่างๆลงไป เพื่อ ให้โดนัตมีรสชาติที่ดีขึ้น อาทิ สอดไส้ คลุกน้ำตาล เคลือบหน้าโดนัตด้วย สีสันต่างๆ ปัจจุบันโดนัตเป็นทีน่ ิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น สามารถหา ซื้อได้ตั้งแต่บนห้างสรรพสินค้าจนถึงตลาดนัด ราคาขายแตกต่างกันไป ตามแต่ละสถานที่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook