Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนสัปดาห์ที่ 22 ค่านิยมไทย

แผนสัปดาห์ที่ 22 ค่านิยมไทย

Published by กิตติมา ศรีพรหมมา, 2022-05-16 11:44:31

Description: แผนสัปดาห์ที่ 22 ค่านิยมไทย

Search

Read the Text Version

แผนการจัดประสบการณ์ ช้นั อนุบาล 3 สัปดาหท์ ี่ 22 คา่ นิยมไทย นางกิตติมา ศรพี รหมมา

การวิเคราะหโ ครงสรางหนวยการจัดประสบการณ ตามหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ หนวยท่ี ๒๒ คา นิยมไทย ช้ันอนุบาลปท ่ี ๑ - ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ รายการ อนุบาลปีที่ 1 อนุบาลปีที่ 2 อนบุ าลปีท่ี 3 สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. ฉันเป็นคนไทย 1. ฉันเปน็ คนไทย 1. ฉนั เป็นคนไทย 2. ฉันภูมใิ จในความเป็นไทยที่มีวนั สาคัญของ 2. ฉันภมู ใิ จในความเปน็ ไทยท่ีมีวันสาคัญของ 2. ฉนั ภมู ิใจในความเปน็ ไทยทม่ี วี ันสาคญั ของ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ 3. คนไทยใชภ้ าษาไทย 3. คนไทยใช้ภาษาไทยเปน็ ภาษาประจาชาติ 3. คนไทยใช้ภาษาไทยเป็นภาษาประจาชาติ 4. คนไทยมมี ารยาทดี มวี ัฒนธรรมประเพณีประจาชาติ และท้องถน่ิ มวี ัฒนธรรมประเพณีประจาชาติ และท้องถิน่ 5. มีความกตัญญู 4. คนไทยมมี ารยาทดี มคี วามซอื่ สัตย์ มนี าใจ 4. คนไทยมมี ารยาทดี มคี วามซ่อื สตั ย์ / มีนาใจ / มวี ินัย กตัญญู มวี นิ ยั กตญั ญู 5. คนไทยสว่ นมากนับถือศาสนาพทุ ธ พระมหากษัตริยไ์ ทยทรงอุปถัมภท์ กุ ศาสนาใน ประเทศไทย ศาสนาทกุ ศาสนาสอนใหท้ ุกคนเปน็ คนดี

มาตรฐาน มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.4) มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.4) มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.4) ตวั บง่ ชี้ ตบช 2.2 (2.2.2) ตบช 2.2 (2.2.2) ตบช 2.2 (2.2.2) สภาพทพ่ี ึง ประสงค์ มฐ 5 ตบช 5.1 (5.1.1) มฐ 5 ตบช 5.1 (5.1.1) มฐ 5 ตบช 5.1 (5.1.1) ตบช 5.2 (5.2.2) ตบช 5.2 (5.2.2) ตบช 5.2 (5.2.2) ประสบการณ์ สาคญั มฐ 7 ตบช 7.1 (7.1.1) มฐ 7 ตบช 7.1 (7.1.1) มฐ 7 ตบช 7.1 (7.1.1) ตบช 7.2 (7.2.1) ตบช 7.2 (7.2.1) ตบช 7.2 (7.2.1) มฐ 8 ตบช 8.2 (8.2.1) มฐ 8 ตบช 8.2 (8.2.1) มฐ 8 ตบช 8.2 (8.2.1) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.2) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.2) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.2) มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.2) มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.2) มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.2) (10.1.3) (10.1.4) (10.1.3) (10.1.4) (10.1.3) (10.1.4) มฐ. 11 ตบช 11.1 (11.1.1) มฐ 11 ตบช 11.1 (11.1.1) มฐ 11 ตบช 11.1 (11.1.1) ตบช 11.2 (11.2.1) ตบช 11.2 (11.2.1) ตบช 11.2 (11.2.1) รา่ งกาย ร่างกาย รา่ งกาย 1.1.1 (2) การเคล่ือนไหวเคลอื่ นท่ี 1.1.1 (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ 1.1.1 (2) การเคลอื่ นไหวเคลอื่ นท่ี (3) การเคลอ่ื นไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์ (3) การเคล่ือนไหวพร้อมวสั ดุอุปกรณ์ (3) การเคลื่อนไหวพรอ้ มวัสดุอปุ กรณ์ (4) การเคลอ่ื นไหวทใี่ ช้การประสาน (4) การเคลือ่ นไหวทใ่ี ช้การประสาน (ธงชาติไทย) สัมพนั ธข์ องการใช้กล้ามเนือใหญใ่ นการขว้าง สัมพันธ์ของการใช้กลา้ มเนือใหญ่ในการขว้าง การจบั การโยน การเตะ การจับ การโยน การเตะ (4) การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสาน 1.1.2 (1) การเลน่ เคร่อื งเลน่ สมั ผสั จาก 1.1.2 (1)การเลน่ เคร่ืองเลน่ สมั ผัสจากแทง่ ไม้ สัมพันธข์ องการใชก้ ลา้ มเนือใหญ่ใน แท่งไม้ (2) การเขยี นภาพและเล่นกบั สี การขวา้ ง การจับ การโยน การเตะ (2) การเขียนภาพและเล่นกบั สี (3) การป้ัน (3) การป้นั (4) การประดษิ ฐ์ส่ิงตา่ ง ๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ 1.1.2 (1) การเลน่ เครือ่ งเล่นสัมผสั จากแท่งไม้ (4) การประดิษฐส์ ง่ิ ตา่ ง ๆ ดว้ ย (5) การหยิบจบั การใช้กรรไกร การฉกี (2) การเขียนภาพและเล่นกับสี เศษวัสดุ การตัด การปะ และการรอ้ ยวัสดุ (3) การปัน้ (4) การประดิษฐส์ ่งิ ต่าง ๆ ดว้ ยเศษวัสดุ (5) การหยบิ จับ การใชก้ รรไกร การฉกี

(5) การหยบิ จับ การใช้กรรไกร การตดั การปะ และการร้อยวัสดุ การฉกี การตัด การปะ และ การรอ้ ยวัสดุ อารมณ์ 1.2.3 (1) การปฏบิ ัติตนตามหลกั ศาสนาท่นี บั ถอื อารมณ์ อารมณ์ (2) การฟงั นทิ านเกีย่ วกบั คณุ ธรรม 1.2.3 (1) การปฏิบตั ติ นตามหลักศาสนาที่ 1.2.3 (1) การปฏบิ ตั ิตนตามหลักศาสนา จริยธรรม นับถือ ที่นับถอื (3) การรว่ มสนทนาและแลกเปล่ยี นความ คิดเห็นเชงิ จรยิ ธรรม (2) การฟงั นทิ านเก่ียวกับคุณธรรม (2) การฟังนิทานเกยี่ วกบั คณุ ธรรม สังคม จรยิ ธรรม จรยิ ธรรม 1.3.2 (1) การมสี ่วนรับผดิ ชอบดูแลรักษา สงิ่ แวดล้อมทังภายในและภายนอกห้องเรียน (3) การร่วมสนทนาและแลกเปล่ียน (3) การรว่ มสนทนาและแลกเปล่ยี น (6) การสนทนาขา่ วเหตุการณ์เกี่ยวกบั ความคดิ เห็นเชิงจรยิ ธรรม ความคิดเห็นเชงิ จรยิ ธรรม ธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มในชีวิตประจาวนั 1.3.3 (1) การเลน่ บทบาทสมมตุ ิการปฏิบตั ติ นใน สงั คม สังคม ความเป็นไทย 1.3.2 (1) การมสี ว่ นรับผิดชอบดแู ลรกั ษา 1.3.2 (1) การมสี ว่ นรบั ผิดชอบดแู ลรักษา (2) การปฏบิ ตั ิตามวฒั นธรรม ทอ้ งถน่ิ ที่อาศยั และประเพณี สิ่งแวดลอ้ มทงั ภายในและภายนอกห้องเรียน สง่ิ แวดล้อมทังภายในและภายนอกห้องเรียน (5) การละเล่นพืนบา้ นของไทย (6) การสนทนาข่าวเหตุการณเ์ กีย่ วกบั (6) การสนทนาข่าวเหตุการณเ์ กีย่ วกบั 1.3.4 (3) การให้ความรว่ มมือในการปฏิบตั ิ ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในชีวิตประจาวนั ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมในชีวติ ประจาวนั กิจกรรมตา่ ง ๆ (4) การดแู ลห้องเรยี นรว่ มกนั 1.3.3 (2) การปฏิบตั ติ ามวฒั นธรรม 1.3.3 (2) การปฏบิ ัตติ ามวัฒนธรรมท้อง 1.3.5 (2) การเล่นและการทางานร่วมกับเพื่อ ท้องถ่นิ ท่อี าศัยและประเพณี ถิ่นท่ีอาศัยและประเพณี (5) การละเล่นพนื บ้านของไทย (5) การละเลน่ พนื บ้านของไทย 1.3.4 (3) การใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบตั ิ 1.3.4 (3) การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมต่าง ๆ กจิ กรรมต่าง ๆ (4) การดแู ลห้องเรยี นร่วมกนั (4) การดูแลห้องเรียนร่วมกนั 1.3.5 (2) การเล่นและการทางานร่วมกับ 1.3.5 (2) การเล่นและการทางานร่วมกบั เพ่อื เพื่อน

สตปิ ญั ญา สตปิ ัญญา สตปิ ัญญา 1.4.1 (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง 1.4.1 (3) การฟงั เพลง นิทาน คาคล้องจอง 1.4.1 (3) การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจอง (4) การพดู แสดงความคิดเห็น (4) การพดู แสดงความคิดเหน็ (4) การพูดแสดงความคิดเหน็ ความร้สู ึก ความรสู้ กึ และความตอ้ งการ ความรู้สึกและความต้องการ และความตอ้ งการ (8) การรอจังหวะพดู ที่เหมาะสม (8) การรอจังหวะพูดทเี่ หมาะสม (8) การรอจงั หวะพูดทเ่ี หมาะสม 1.4.2 (5) การคดั แยก การจัดกลมุ่ และ 1.4.2 (5) การคดั แยก การจัดกลมุ่ และ 1.4.2 (5) การคดั แยก การจัดกล่มุ และ การจาแนกสงิ่ ของตา่ ง ๆ การจาแนกสิ่งของตา่ ง ๆ การจาแนกสงิ่ ของต่าง ๆ ตามลกั ษณะ ตามลักษณะรูปรา่ ง ตามลักษณะรูปร่าง รูปร่าง (๘) การนับและแสดงจานวนสิง่ ของ (๘) การนับและแสดงจานวนส่งิ ของ (๘) การนบั และแสดงจานวนสิง่ ของต่างๆ ตา่ ง ๆในชวี ิตประจาวัน ตา่ ง ๆในชวี ิตประจาวนั ในชวี ิตประจาวัน (9) การเปรียบเทียบและเรียงลาดับ (9) การเปรยี บเทยี บและเรยี งลาดบั (9) การเปรยี บเทยี บและเรยี งลาดับ จานวนของสง่ิ ต่าง ๆ จานวนของสิ่งต่าง ๆ จานวนของส่ิงต่าง ๆ (10) การรวมและการแยกสง่ิ ตา่ ง ๆ (10) การรวมและการแยกส่งิ ตา่ ง ๆ (10) การรวมและการแยกสิ่งตา่ ง ๆ (13) การจับคู่ การเปรียบเทียบความ (13) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บความ (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บความ เหมอื นความตา่ งและเรียงลาดบั เหมือนความต่างและเรยี งลาดับ เหมอื นความต่างและเรยี งลาดับตาม ตามปริมาตร ตามปรมิ าตร ปรมิ าตร 1.4.3 (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ น 1.4.3 (2) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ า่ น 1.4.3 (2) การแสดงความคดิ สร้างสรรคผ์ า่ น ภาษาท่าทางและศลิ ปะ ภาษาทา่ ทางและศิลปะ ภาษาท่าทางและศิลปะ (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ น (2) การแสดงความคิดสร้างสรรคผ์ ่าน (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผ่าน ภาษาท่าทางและการเคลอื่ นไหว ภาษาท่าทางและการเคลอื่ นไหว ภาษาทา่ ทางและการเคลอ่ื นไหว คณติ ศาสตร์ 1. การนับและแสดงจานวน 1 - 4 1. การนบั และแสดงจานวน 1 - 7 1. การนบั และแสดงจานวน 11 2. อ่านและเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ 1 - 11 2. ระบตุ วั เลขฮนิ ดูอารบิก 2. ระบุตัวเลขฮนิ ดูอารบิก 3. เปรยี บเทียบจานวนของส่งิ ตา่ ง ๆ สองกลมุ่ แสดงจานวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ 1 - 5 แสดงจานวนของสิ่งต่าง ๆ 1 - 7 แต่ละกลุม่ มจี านวนไมเ่ กนิ 11 4. บอกจานวนที่เหลอื เม่ือแยกกลมุ่ ย่อยออกจาก 3. เปรยี บเทยี บจานวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ สองกลุ่ม 3. เปรียบเทียบจานวนของสงิ่ ตา่ ง ๆ สองกลุ่ม มีจานวนไม่เกนิ 3 แตล่ ะกลุ่มมจี านวนไม่เกนิ 7

4. บอกได้ว่าเม่ือนาสิง่ ตา่ ง ๆ สองกลุม่ มา 4. บอกจานวนที่เหลอื เม่ือแยกกลุม่ ย่อยออก กลุ่มใหญท่ ่มี จี านวนไมเ่ กนิ 11 รวมกัน จะมจี านวนของส่งิ ตา่ ง ๆ มากขนึ จากกลมุ่ ใหญ่ที่มีจานวนไม่เกิน 5 5. เรียงลาดบั ปริมาตรของส่ิงตา่ ง ๆ ไมเ่ กนิ 5 6. แสดงส่ิงต่าง ๆ ในชวี ิตประจาวันท่ีเหมือนหรือ 5. เปรยี บเทยี บความสูงของสงิ่ ต่าง ๆ โดยใช้ 5. เรยี งลาดบั ปริมาตรของส่งิ ตา่ ง ๆ ไม่เกนิ 3 คาวา่ สงู กวา่ -เตียกว่า/ต่ากว่า สงู เท่ากัน 5 แสดงส่ิงต่าง ๆ ในชวี ิตประจาวนั ทีเ่ หมือน คลา้ ยทรงกลม ทรงส่ีเหลี่ยมมมุ ฉาก กรวย หรอื คล้ายทรงกลม กรวย ทรงกระบอก วทิ ยาศาสตร์ 1. สิ่งต่าง ๆรอบตัวเรามีทังสิง่ มีชีวติ และไม่มี 1. รอบตัวเรามีทังสงิ่ แวดลอ้ มตามธรรมชาติ 1. รอบตัวเรามีทังส่ิงแวดลอ้ มตามธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดล้อมทีม่ นษุ ยส์ ร้างขนึ ซึ่งมีความแตกต่างกัน ชีวิตธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มทมี่ นุษยส์ ร้างขึนซึง่ มีความ 2. ชมุ ชนของเรามสี ง่ิ แวดลอ้ มแตกตา่ งกนั แตเ่ ราอยรู่ ว่ มกนั อย่างสงบสุข เพราะเราทุกคน 2. เราใชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งแวดล้อมมากมาย แตกตา่ งกัน เปน็ คนไทย 3. ทุกคนต้องช่วยกนั ดูแลรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม 3. ชมุ ชนทเ่ี ราอยมู่ ีส่ิงแวดลอ้ มต่างกนั แตเ่ รา 2. ชมุ ชนของเรามีส่ิงแวดลอ้ มแตกต่างกัน รอบตัวและใชท้ รัพยากรอยา่ งคุ้มค่า อยรู่ ว่ มกันได้โดยสงบสขุ แตเ่ ราอยูร่ ว่ มกนั อยา่ งสบสุข เพราะเราทุกคน 3. ทกุ คนต้องช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดลอ้ ม เปน็ คนไทย รอบตัว และใชท้ รัพยากรอยา่ งคมุ้ ค่า 3. ทกุ คนต้องช่วยกันดูแลรกั ษาสง่ิ แวดล้อม รอบตวั และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า พัฒนาการทาง 1. การฟังและปฏิบัตติ ามคาแนะนา 1. การฟงั และปฏิบัตติ ามคาแนะนา 1. การฟังและปฏิบัติตามคาแนะนา ภาษาและการรู้ 2. การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจองหรือ 2. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจองหรือ 2. การฟงั เพลง นทิ าน คาคล้องจองหรือ หนังสือ เรอื่ งราวต่าง ๆ เรื่องราวตา่ ง ๆ เรอื่ งราวตา่ ง ๆ 3. การพูดแสดงความรู้สกึ และความต้องการ 3. การพูดแสดงความรู้สกึ และความต้องการ 3. การพูดแสดงความรสู้ กึ และความต้องการ 4. การรอจงั หวะทเี่ หมาะสมในการพูด 4. การพูดเล่าเรอื่ งราวเก่ยี วกับตนเอง 4. การพูดอธบิ ายเกย่ี วกับส่ิงของเหตุการณ์และ 5. การรอจังหวะทเี่ หมาะสมในการพดู ความสัมพันธ์ของสิง่ ต่าง ๆ 5. การรอจงั หวะทีเ่ หมาะสมในการพูด 6. การอ่านหนังสอื ภาพ/นทิ านหลากหลาย ประเภท 7. การอ่านรว่ มกัน การอ่านแบบชแี นะและ การอา่ นอิสระ 8. การเห็นแบบอย่างการเขียนทถี่ กู ต้อง 9. การเขยี นคาที่มคี วามหมายกบั ตวั เดก็ / คาค้นุ เคย



หนวยการจัดประสบการณท ี่ ๒๒ คา นิยมไทย ชนั้ อนบุ าลปท ่ี ๓ แนวคิด เราเป็นคนไทย เราภูมิใจในความเป็นไทยท่ีมีวันสาคัญของชาติ ศาสนา และมหากษัตริย์ คนไทยใช้ภาษาไทยเป็นภาษาประจาชาติ มีวัฒนธรรมประเพณีประจา ชาติ มคี วามซ่ือสัตย์ มนี าใจ มวี ินัย มคี วามกตัญญู คนไทยส่วนมากนับถือศาสนาพุทธ พระมหากษัตริย์ไทยทรงอุปถัมภ์ทุกศาสนาในประเทศไทย ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ ทุกคนเป็นคนดี มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ มาตรฐานที่ 2 ๒.๑ เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย 2.1.4 รบั ลกู บอลที่ 1. รับลูกบอลที่ 1.1.1 การใชก้ ล้ามเนือใหญ่ 1. ฉันเปน็ คนไทย กล้ามเนือใหญแ่ ละ อย่างคล่องแคล่ว กระดอนขึนจากพืนได้ กระดอนขนึ จากพืนได้ (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ 2. ฉันภูมิใจในความเป็นไทยทมี่ ี กล้ามเนือเล็กแข็งแรงใช้ได้ ประสานสัมพันธ์และ (๓) การเคลื่อนไหวร่างกาย วนั สาคัญของชาติ ศาสนา และ คล่องแคล่วและประสาน ทรงตัวได้ พรอ้ มอปุ กรณ์ (ธงชาติไทย) พระมหากษัตริย์ สัมพนั ธ์กนั (4) การเคล่ือนไหวที่ใช้ 3. คนไทยใชภ้ าษาไทยเปน็ ประสานสมั พนั ธข์ องการใช้ ภาษาประจาชาติ มวี ัฒนธรรม กลา้ มเนอื ใหญใ่ นการขว้าง ประเพณีประจาชาติและท้องถิ่น การจบั การโยน การเตะ 4. คนไทยมมี ารยาทดี มคี วาม 2.2. ใชม้ ือและตา 2.2.2 เขยี นรูป 2. เขียนรปู สามเหล่ยี ม 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนือเลก็ ซอ่ื สตั ย์ มีนาใจ มวี ินัย กตัญญู ประสานสมั พนั ธ์ สามเหลี่ยมตามแบบได้ อย่างมีมมุ ชดั เจน ตามแบบไดอ้ ย่างมีมุม (1) การเล่นเคร่ืองเลน่ สมั ผัส 5. คนไทยสว่ นมากนบั ถือ ชดั เจน และการสรา้ งจากแท่งไม้ ศาสนาพทุ ธ พระมหากษัตรยิ ์ บล็อก ไทยทรงอปุ ถัมภท์ ุกศาสนาใน (2) การเขยี นภาพและเลน่ ประเทศไทย ศาสนาทกุ ศาสนา กบั สี สอนใหท้ กุ คนเปน็ คนดี (3) การปน้ั

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 5 (4) การประดิษฐส์ ิง่ ตา่ ง ๆ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมจี ติ ใจท่ีดงี าม ด้วยเศษวัสดุ (5) การหยิบจบั การใช้ กรรไกร การฉกี การตดั การปะ และการร้อยวสั ดุ 5.1 ซอื่ สตั ย์สจุ ริต 5.1.1 ขออนุญาตหรือ 3. ขออนญุ าตหรือ 1.2.3 คณุ ธรรมจรยิ ธรรม รอคอยเม่ือตอ้ งการ 5.2 มีความเมตตา สง่ิ ของของผู้อืน่ ดว้ ย รอคอยเม่ือตอ้ งการ (1) การปฏิบัติตนตามหลัก กรุณา มนี าใจ และ ตนเอง ช่วยเหลอื แบ่งปนั 5.2.2 ชว่ ยเหลือและ ส่ิงของของผู้อนื่ ดว้ ย ศาสนาทนี่ ับถือ 5.4 มคี วามรับผดิ ชอบ แบ่งปนั ผู้อนื่ ไดด้ ้วย ตนเอง ตนเองได้ (2) การฟังนิทานเกยี่ วกับ 4. ชว่ ยเหลอื และ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม แบง่ ปนั ผูอ้ น่ื ไดด้ ้วย (3) การร่วมสนทนาและ ตนเอง แลกเปล่ียนความคิดเห็น เชงิ จริยธรรม มาตรฐานที่ 6 6.2 มีวินัยในตนเอง 6.2.1 เก็บของเล่นของ 5. เกบ็ ของเล่นของใช้ 1.3.4 การมีปฏิสัมพนั ธ์ ใชเ้ ข้าท่ีอย่างเรยี บร้อย เขา้ ที่อย่างเรียบร้อย มีวนิ ยั มีส่วนรว่ ม และ มีทักษะชวี ติ และปฏิบัตติ น ดว้ ยตนเอง ด้วยตนเองได้ บทบาทสมาชิกของสงั คม (2) การปฏบิ ตั ติ นเป็น ตามหลักปรชั ญาของ สมาชกิ ทด่ี ขี องห้องเรียน (3) การให้ความรว่ มมือใน เศรษฐกิจพอเพียง การปฏบิ ัติกจิ กรรมต่าง ๆ (4) การดแู ลหอ้ งเรยี น รว่ มกนั (5) การร่วมกิจกรรม

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ 6. ดแู ลรักษาธรรมชาติ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ และสิง่ แวดล้อมด้วย ตนเองได้ วนั สาคัญ 7. ทิงขยะได้ถูกที่ มาตรฐานท่ี 7 7.1 ดูแลรักษาธรรมชาติ 7.1.1 ดแู ลรักษา 8. ปฏบิ ตั ิตามมารยาท 1.3.2 การดแู ลรกั ษา รักธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม ไทยได้ตามกาลเทศะ วัฒนธรรม และความเปน็ และสง่ิ แวดลอ้ ม ธรรมชาตแิ ละ 9. กล่าวคาขอบคุณ ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ไทย และขอโทษด้วยตนเอง สิ่งแวดลอ้ มด้วยตนเอง ได้ (1) การมีสว่ นรับผิดชอบ 10. ยนื ตรงและรว่ ม 7.1.2 ทิงขยะไดถ้ ูกที่ ร้องเพลงชาติไทยและ ดแู ลรกั ษาส่ิงแวดล้อม เพลงสรรเสริญพระ 7.2 มมี ารยาทตาม 7.2.1 ปฏิบตั ิตาม บารมี ทังภายในและภายนอก วฒั นธรรม และรักความ มารยาทไทยได้ตาม หอ้ งเรยี น เป็นไทย กาลเทศะ (6) การสนทนาขา่ วและ 7.2.2 กล่าวคาขอบคณุ เหตุการณท์ ี่เกี่ยวกบั และขอโทษด้วยตนเอง ธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม 7.2.3 ยืนตรงและรว่ ม ในชีวติ ประจาวัน ร้องเพลงชาติไทยและ 1.3.3 การปฏบิ ัติตาม เพลงสรรเสรญิ พระ วัฒนธรรมทอ้ งถิน่ และความ บารมี เปน็ ไทย (1) การเลน่ บทบาทสมมุติ การปฏบิ ัติตนในความเป็น ไทย (2) การปฏบิ ตั ิตาม วัฒนธรรมท้องถิ่นที่อาศยั และประเพณีไทย (5) การละเลน่ พนื บา้ นของ ไทย

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 8 8.2 มปี ฏสิ มั พันธ์ที่ดกี บั 8.2.1 เลน่ หรือทางาน 11. เลน่ ร่วมกบั เพ่ือน 1.3.5 การเลน่ และทางาน อยู่ร่วมกับผู้อืน่ ได้อยา่ งมี ผ้อู ื่น รว่ มกับเพ่ือนอย่างมี อย่างมีเป้าหมายได้ แบบรว่ มมอื รว่ มใจ ความสขุ และปฏิบตั ิตนเปน็ เป้าหมาย (2) การเล่นและการทางาน สมาชกิ ทดี่ ีของสังคมใน รว่ มกับผู้อนื่ ระบอบประชาธิปไตยอนั มี พระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ มาตรฐานที่ 9 9.1 สนทนาโตต้ อบและ 9.1.2 เลา่ เป็นเรอ่ื งราว 12. เล่าเป็นเร่อื งราว 1.4.1 การใชภ้ าษา ใชภ้ าษาสอ่ื สารได้ เลา่ เร่อื งให้ผูอ้ ื่นเข้าใจ ต่อเนือ่ งได้ ตอ่ เนอ่ื งได้ (๓) การฟังเพลง เหมาะสมกับวยั คาคลอ้ งจอง (๔) การพูดแสดงความ คิดเห็นความรู้สกึ และความ ต้องการ (8) การรอจังหวะพูดที่ เหมาะสม

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 10 10.1.2 จบั คแู่ ละ 15. จับคู่และ 1.4.2 การคดิ รวบยอด มคี วามสามารถในการคดิ ที่ เปรียบเทยี บความ เปรียบเทียบความ การคิดเชิงเหตุผลการ เป็นพนื ฐานในการเรยี นรู้ แตกตา่ งและความ แตกตา่ งและความ ตดั สินใจและแก้ปญั หา เหมือนของสงิ่ ตา่ งๆ เหมอื นของส่งิ ต่างๆ (5) การคัดแยก การจัดกลมุ่ โดยใชล้ กั ษณะทส่ี ังเกต โดยใชล้ ักษณะทส่ี ังเกต และการจาแนกส่งิ ของ พบสองลักษณะขนึ ไป พบสองลักษณะขึนไป ต่าง ๆ ตามลกั ษณะและ 10.1.3 จาแนกและจัด 16. จาแนกและจดั รูปรา่ ง กลุ่มส่งิ ต่าง ๆ โดยใช้ กลุ่มสิ่งตา่ ง ๆ โดยใช้ (8) การนับและแสดง ตังแตส่ องลักษณะขึนไป ตังแตส่ องลักษณะขึน จานวนของสิง่ ตา่ ง ๆ เปน็ เกณฑ์ ไปเป็นเกณฑ์ได้ ในชีวติ ประจาวนั 10.1.4 เรยี งลาดบั 17. เรียงลาดับส่ิงของ (9) การเปรียบเทียบและ สงิ่ ของและเหตกุ ารณ์ และเหตุการณ์อย่าง เรยี งลาดับจานวน อย่างน้อย 5 ลาดบั นอ้ ย 5 ลาดับ ได้ ของส่ิงต่าง ๆ (10) การรวมและการแยก สิง่ ต่าง ๆ (13) การจบั คู่ การเปรียบเทียบความเหมือน ความต่างและเรยี งลาดบั ส่ิงต่าง ๆ ตามลักษณะความ ยาว ความสูง นาหนัก ปรมิ าตร

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ตัวบง่ ชี้ มาตรฐาน สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 11 11.1 ทางานศิลปะตาม 11.1.1 สร้างผลงาน 16. สร้างผลงานศิลปะ 1.4.3 จินตนาการและ มจี นิ ตนาการและความคดิ จนิ ตนาการและความคิด ศิลปะเพื่อส่ือสาร เพื่อส่ือสารความคิด ความคิดสร้างสรรค์ สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ ความคดิ ความรสู้ กึ ของ ความรูส้ ึกของตนเอง (2) การแสดงความคิด ตนเองโดยมี โดยมกี ารดัดแปลง สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา ท่าทาง การดดั แปลงแปลกใหม่ แปลกใหม่จากเดมิ และ และศิลปะ จากเดมิ และมี มรี ายละเอยี ดเพ่ิมขึน รายละเอยี ดเพม่ิ ขนึ ได้ 11.2 แสดงท่าทาง/ 11.2.1 เคลื่อนไหว 17. เคลอื่ นไหวทา่ ทาง (2) การแสดงความคิด เคล่ือนไหวตาม ท่าทางเพอื่ ส่ือสาร เพอ่ื สื่อสารความคิด สรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา ทา่ ทาง จนิ ตนาการอยา่ ง ความคิด ความร้สู ึกของ ความรู้สึกของตนเอง การเคลือ่ นไหว สร้างสรรค์ ตนเองอย่างหลากหลาย อยา่ งหลากหลายและ และแปลกใหม่ แปลกใหม่ได้

ผังความคดิ แผนการจัดประสบการณห์ น่วยค่านิยมไทย ช้ันอนุบาลปที ่ี 3 ๒. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ๑. กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 1. ฉนั เปน็ คนไทย ๓. กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ 2. ฉนั ภมู ใิ จในความเปน็ ไทยทม่ี วี นั สาคัญของชาติ ศาสนา และ 1. วาดภาพระบายสีธงชาติ 1. การเคลอ่ื นไหวเชิงสร้างสรรค์ พระมหากษตั ริย์ และการปน้ั ดนิ นาเปน็ รูปทรง (ธงชาตไิ ทย) 3. - คนไทยใชภ้ าษาไทยเป็นภาษาประจาชาติ มวี ัฒนธรรมประเพณี 2. พบั กระดาษจากสีเ่ หล่ียมเป็นรปู สามเหล่ยี มและ ประจาชาติ และท้องถนิ่ การปนั้ ดนิ นามัน ขดดินนามันเปน็ ตัวเลขไทย 2. การเคลือ่ นไหวตามบทเพลง 3. วาดภาพสงิ่ แวดลอ้ มตามธรรมชาติ “วนั เขา้ พรรษา” - รอบตวั เรามที ังส่งิ แวดล้อมตามธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมทม่ี นษุ ยส์ รา้ ง และปั้นดินนามันเปน็ พยญั ชนะไทยทเ่ี ดก็ รู้จัก ขนึ ซ่ึงมคี วามแตกตา่ งกนั 4. เขียนภาพและต่อเติมภาพสามเหลี่ยมและ 3. การแสดงทา่ ทางเป็นผู้นาผูต้ าม 4. - คนไทยมมี ารยาทดี มคี วามซอ่ื สัตย์ มนี าใจ มวี นิ ยั กตญั ญู การฉกี กระดาษเป็นรปู บ้านและตกแต่งเปน็ ชมุ ชน 4. การแสดงท่าทางตามคาบรรยาย 5. การเปา่ สแี ละป้นั ดนิ นามัน 5. การแสดงท่าทางตามคาสงั่ - ชมุ ชนของเรามีสง่ิ แวดลอ้ มทแ่ี ตกต่างกัน แตเ่ ราอยรู่ ่วมกันอย่าง สงบสุข เพราะเราทุกคนเป็นคนไทย ๖. กิจกรรมเกมการศึกษา 5. - คนไทยสว่ นมากนับถือศาสนาพทุ ธ พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทรงอปุ ถัมภ์ ทุกศาสนาในประเทศไทย ศาสนาทกุ ศาสนาสอนให้ทุกคนเปน็ คนดี - ทกุ คนต้องช่วยกันดแู ลรักษาสงิ่ แวดล้อมและใชท้ รัพยากรอยา่ งคมุ้ คา่ หน่วยคา่ นิยมไทย ชนั้ อนบุ าลปีที่ 3 ๔. กจิ กรรมเล่นตามมุม ๕. กจิ กรรมกลางแจ้ง 1. เกมเปรยี บเทยี บจานวนของสง่ิ ต่าง ๆ สองกลุ่มแต่ละกล่มุ การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ มจี านวนไมเ่ กิน 11 ๑. การเล่นทราย – เล่นนา 2. เกมพนื ฐานการลบ ไมเ่ กนิ 11 ๒. การเดินกะลา 3. เกมเรียงลาดบั ปรมิ าตรนาจากมากไปน้อย ๓. การรบั ลกู บอลกระดอนจากพนื 4. เกมจาแนกภาพหรือสิง่ ของท่ีมีลกั ษณะเหมือนวงกลม ๔. การเลน่ กับอุปกรณ์กีฬา สเี่ หลยี่ ม สามเหลีย่ ม และวงรี ๕. การเล่นอุปกรณใ์ นสนามเด็กเลน่ 5. เกมจับคู่ภาพสมั พนั ธ์การรกั ษาสิ่งแวดลอ้ ม

การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจดั ประสบการณ์ ช้นั อนุบาลปที ่ี 3 หน่วยคา่ นิยมไทย วนั ท่ี เคล่อื นไหวและจงั หวะ เสรมิ ประสบการณ์ กจิ กรรม 1 1. การเคลื่อนไหวเชงิ 1. ฉนั เป็นคนไทย ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ เล่นตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศึกษา สรา้ งสรรค์ (ธงชาติไทย) 2. นับและแสดง การเล่นนาเลน่ ทราย จานวน 11 1. วาดภาพธงชาตไิ ทย มุมประสบการณ์ เกมเปรียบเทียบจานวน ของสง่ิ ตา่ ง ๆสองกลุ่ม อย่างน้อย ๔ มุม แต่ละกลุ่มมจี านวนไม่เกิน 11 2 2. การเคล่ือนไหวตาม ฉันภมู ใิ จในความเปน็ ไทยท่มี ี 1. พบั กระดาษจาก มมุ ประสบการณ์ การเล่นเกมการละเล่น เกมพืนฐานการลบ ไม่เกนิ อย่างน้อย ๔ มมุ บทเพลง วนั สาคญั ของชาติ ศาสนา สี่เหลี่ยมเป็นรปู เดินกะลา 11 “วนั เขา้ พรรษา” และพระมหากษัตรยิ ์ สามเหลยี่ ม 2. ปั้นดินนา ขดดิน นามนั เป็นตวั เลขไทย ๓ การเคลื่อนไหวหรอื 1. คนไทยใช้ภาษาไทยเป็น 1. การวาดภาพ มมุ ประสบการณ์ การรบั ลูกบอลที่ เกมเรียงลาดับปรมิ าตรนา การแสดงท่าทาง กระดอนจากพนื จากมากไปน้อย เปน็ ผนู้ า ผู้ตาม ภาษาประจาชาติ เก่ียวกับสิ่งแวดล้อมตาม อย่างน้อย ๔ มุม มวี ฒั นธรรมประเพณี และ จนิ ตนาการ ท้องถิน่ 2. ปั้นดินนามันอสิ ระ 2. รอบตัวเรามีทัง ส่งิ แวดล้อมตามธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อมท่มี นุษยส์ รา้ ง ขึนซึ่งมีความแตกต่างกัน

4 4. การแสดงทา่ ทาง 1. คนไทยมมี ารยาทดี 1. การเขียนภาพและ มุมประสบการณ์ การเล่นกับอุปกรณ์กีฬา เกมจาแนกภาพหรือสิ่งของ ตามคาบรรยาย อย่างน้อย ๔ มมุ ท่มี ลี ักษณะเหมือนวงกลม มีความซ่ือสัตย์ มีนาใจ ต่อเตมิ ภาพสามเหลี่ยม ส่เี หลี่ยม สามเหลย่ี ม และวงรี มีวินัย กตัญญู 2. การฉีกกระดาษเป็น 2. ชุมชนของเรามี รูปบา้ น สงิ่ แวดลอ้ มที่แตกต่างกนั แตเ่ ราอย่รู ่วมกนั อย่างสงบสขุ เพาะเราทุกคน เป็นคนไทย ๕ การแสดงทา่ ทางตาม 1. คนไทยส่วนมากนบั ถือ 1. การเล่นกบั สี (เปา่ สี มุมประสบการณ์ การเล่นอปุ กรณใ์ นสนาม เกมจบั ค่ภู าพสัมพนั ธ์ คาสั่ง อย่างน้อย ๔ มมุ ศาสนาพุทธ พระมหากษตั ริย์ ลงบนกระดาษและตอ่ เดก็ เล่น การรักษาสิง่ แวดลอ้ ม ไทยทรงอปุ ถัมภท์ ุกศาสนาใน เติม) ประเทศไทย ศาสนาทกุ 2. การปั้นดินนามัน ศาสนาสอนใหท้ ุกคน อิสระ เป็นคนดี 2. ทุกคนต้องชว่ ยกันดแู ล รักษาสง่ิ แวดลอ้ มและใช้ ทรัพยากรอย่างคุม้ ค่า

แผนการจัดประสบการณช้ันอนบุ าล ๓ หนว ยที่ ๒๒ คา นยิ มไทย สปั ดาหท ่ี ๒๒ คร้ังท่ี ๑ วนั ท่ี................เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ สงั เกต กิจกรรมเคล่อื นไหว (2) การแสดง 1. กิจกรรมเคล่ือนไหวพืนฐาน เดก็ เคล่อื นไหว 1. เคร่อื งเคาะจังหวะ การเคลื่อนไหวท่าทางเพื่อ สอ่ื สารความคดิ และจังหวะ ความคิดสร้างสรรค์ ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายอย่างอสิ ระ ตามจงั หวะ 2. เพลง ความรู้สกึ ของตนเองอย่าง หลากหลายและแปลกใหม่ เคล่อื นไหวท่าทางเพ่อื ผา่ นภาษา ท่าทาง และสัญญาณชา้ -เรว็ -หยุด “ไตรรงคธ์ งไทย” สอ่ื สารความคิด การเคลื่อนไหว 2. เด็กและครรู ่วมกนั ร้องเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” 3. ธงชาตไิ ทย ความร้สู ึกของตนเอง 3. เดก็ เคลื่อนไหวรา่ งกายประกอบเพลง “ไตรรงค์ อยา่ งหลากหลายและ ธงไทย” พรอ้ มกบั โบกธงไปมา แปลกใหม่ได้ 5. เด็กหยุดพักผ่อนคลายกล้ามเนือ กิจกรรมเสริม (๓) การฟังเพลง คา ฉันเปน็ คนไทย 1. เดก็ ท่องคาคลอ้ งจอง “เมืองไทยแสนดี” 1. คาคล้องจอง สังเกต ประสบการณ์ คล้องจอง - สง่ิ ท่ีแสดงให้เห็น 2. สนทนาซกั ถามเก่ียวกับคาคลอ้ งจอง \"เมืองไทยแสนดี” 1. การเลา่ เป็นเรื่องราว 1. เล่าเป็นเรือ่ งราว (๔) การพูดแสดง ความเปน็ ไทย เชน่ 2. เพลงชาตไิ ทย ตอ่ เนื่อง ตอ่ เน่อื งได้ ความคดิ เห็น ธงชาติ ภาษาพูด - เดก็ เปน็ คนชาติใด 3. เพลง”สรรเสรญิ พระ 2. การยนื ตรงและร่วมรอ้ ง 2. ยืนตรงและร่วม ความรูส้ กึ และความ ศาสนา ตัวหนังสือ - นบั ถอื ศาสนาอะไร บารมี” เพลงชาตแิ ละเพลง ร้องเพลงชาติไทยและ ตอ้ งการ การแตง่ กาย - ทาไมเด็ก ๆ ตอ้ งเรียนภาษาไทยเขยี นหนงั สอื 3. ธงชาติไทย สรรเสรญิ พระบารมี เพลงสรรเสริญพระ (8) การรอจังหวะท่ี ไทย บารมไี ด้ เหมาะสมกับการพูด - ชดุ ประจาชาติไทยเปน็ อย่างไร (2) การปฏบิ ตั ิตน - ประเทศไทยนา่ อยู่หรอื ไม่ เพราะเหตุใด ตามวฒั นธรรม - ทาไมเราต้องเขา้ แถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ ท้องถน่ิ และความ ไหวพ้ ระ เปน็ ไทย 2. เด็กร้อง “เพลงชาติไทย” 3. สนทนาซกั ถามเกย่ี วกับ - ความหมายของเนือเพลง - การปฏบิ ตั ติ นเม่ือไดย้ ินเสียงเพลงชาติและ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ สงั เกต กิจกรรมศลิ ปะ (2) การการเขยี น เพลงสรรเสรญิ พระบารมี 1. กระดาษฟลปิ ชารท์ 1. การสร้างผลงานศลิ ปะ สรา้ งสรรค์ ภาพ แบ่งครง่ึ เพอ่ื สื่อสารความคดิ 1. สร้างผลงานศลิ ปะ (๔) การประดิษฐ์สิ่ง 5. ครนู าธงชาตไิ ทย มาให้เด็กดู และร่วมกัน 2. ดนิ สอสี / สีเทียน ความรูส้ กึ ของตนเองโดย เพอ่ื สื่อสารความคิด ต่าง ๆ ด้วยเศษวสั ดุ สนทนาซักถามโดยครใู ช้คาถามดังนี มีการดัดแปลงแปลกใหม่ ความรู้สึกของตนเอง (2) การแสดง - ธงชาติไทยมชี ื่ออีกอยา่ งหน่งึ ว่าอะไร จากเดมิ และมีรายละเอยี ด โดยมกี ารดดั แปลง ความคิดสร้างสรรค์ - ธงชาติไทยมลี กั ษณะ สี รูปรา่ งอยา่ งไร เพ่ิมขึน แปลกใหมจ่ ากเดมิ ผา่ นภาษา ท่าทาง - แตล่ ะสหี มายถงึ อะไร และมีรายละเอียด และศลิ ปะ 6. เดก็ และครรู ่วมกันสรปุ สงิ่ ท่ีแสดงใหเ้ ห็นความ เพ่ิมขึนได้ เปน็ ไทย เชน่ ธงชาติ เพลงชาติ ภาษาพูด ศาสนา ตวั หนงั สือ การแตง่ กาย เราควรเรยี นรูแ้ ละ ภาคภูมิใจในความเป็นไทยทีม่ ีประเทศอย่เู ป็น ของตนเอง เรามีอิสระทีจ่ ะคดิ จะทาส่งิ ตา่ ง ๆ ในประเทศได้ โดยถูกต้องตามระเบยี บบ้านเมือง 1. ครแู นะนาและสาธติ การวาดภาพธงชาติ และ การประดับธงชาติทถ่ี กู ตอ้ ง 2. เด็กชว่ ยกนั วางแผนการวาดภาพธงชาติไทยท่ี ประดับหนา้ บ้าน แบ่งเด็กเป็นกล่มุ ตามความ เหมาะสม 3. เดก็ วาดภาพบา้ นท่มี ีธงชาตไิ ทยประดบั โดย แบ่งหนา้ ทีก่ ันทาเป็นงานกลมุ่ วาดลงกระดาษ ฟลิปชารท์ ที่แบ่งครึง่ 4. ระบายสภี าพให้สวยงามตามความคดิ ของเด็ก

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ - มมุ ประสบการณ์ สังเกต กิจกรรมเล่นตามมุม (1) การเลน่ เครื่อง 1. เด็กเลอื กกจิ กรรมเลน่ ตามมุมประสบการณ์ ในห้องเรยี น การเกบ็ ของเลน่ ของใช้ เขา้ ที่อย่างเรยี บร้อยดว้ ย เกบ็ ของเลน่ ของใช้ เล่นสัมผสั จากแท่ง ตามความสนใจมมุ ประสบการณค์ วรมอี ย่างนอ้ ย ตนเอง เข้าท่ีอยา่ งเรียบร้อย ไม้ ๔ มมุ เชน่ ด้วยตนเองได้ (3) การให้ความ - มมุ ธรรมชาติศกึ ษา - มมุ หนงั สอื รว่ มมือในการปฏบิ ัติ - มมุ บล็อก - มมุ เกมการศกึ ษา กิจกรรม - บทบาทสมมติ - มุมเคร่ืองเล่นสมั ผสั ต่าง ๆ 2. เม่อื หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเขา้ ท่ใี ห้เรียบร้อย (4) การดูแล ห้องเรียน กิจกรรมกลางแจง้ (1) การเล่นหรือทา การเล่นทรายและการเล่นนา้ 1. ลานทราย สงั เกต 1. นาเดก็ ไปทสี่ นามเดก็ เล่น 2. อุปกรณ์เลน่ ทราย การเลน่ ร่วมกบั เพอ่ื นอย่าง เลน่ ร่วมกับเพื่อนอยา่ ง กิจกรรมรว่ มกับกลมุ่ 2. แบง่ เด็กเป็น 2 กลุ่ม เลน่ นาเล่นทราย และเล่นนา มเี ป้าหมาย 2. แนะนาและสาธิตวิธกี ารเลน่ ทรายและ มีเป้าหมายได้ เพ่อื น เลน่ นาทถ่ี ูกต้องและปลอดภยั 3. เด็กหมนุ เวยี นกนั เลน่ ทรายและเล่นนา 4. เมือ่ หมดเวลาเดก็ เกบ็ อปุ กรณ์การเล่นทราย และเล่นนา ลา้ งมือ

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ สงั เกต เกมการศกึ ษา (13) การจับคู่ 1. การเปรยี บเทียบ 1. ครนู าสิ่งของชนิดเดียวกนั สองกลมุ่ ท่มี จี านวน 1. เกมเปรยี บเทยี บ 1. การจับคแู่ ละ เทา่ กนั หรือไมเ่ ท่ากนั และแต่ละกลมุ่ มจี านวน จานวนของสง่ิ ต่าง ๆ เปรียบเทียบความแตกตา่ ง จบั คแู่ ละเปรยี บเทยี บ การเปรยี บเทียบ จานวนของสิ่งต่าง ๆ ไม่เกิน 11 ใหเ้ ปรียบเทยี บจานวนสง่ิ ของสอง สองกล่มุ แตล่ ะกลุ่ม และความเหมือนของส่ิง มีจานวนไม่เกิน 11 ต่างๆได้โดยใชล้ กั ษณะท่ี ความแตกตา่ งและ ความเหมือนความ สองกลุม่ แตล่ ะกลุ่มมี กลมุ่ ไดโ้ ดยการจบั คู่หนง่ึ ต่อหนึง่ ถา้ จบั คู่ไดพ้ อดี 2. บตั รตัวเลข 1 - 11 สังเกตพบสองลักษณะขึน 3. เกมท่ีเลน่ มาแล้ว ไป ความเหมือนของสิ่ง ตา่ ง จานวนไม่เกิน 11 แสดงวา่ ส่ิงของมีจานวนเท่ากัน ถ้าจับคแู่ ลว้ ไม่ 2. การเรียงลาดบั จานวน พอดีแสดงว่าสิ่งของมจี านวนไม่เท่ากัน กลุ่มทีม่ ี 1 - 11 ต่างๆได้โดยใช้ลักษณะ 2. นับและแสดง ส่ิงของเหลืออยู่มีจานวนมากกวา่ อีกกลมุ่ หนึ่ง 2. ครวู างธงกระดาษ จานวน 1 - 11 ธง ที่สังเกตพบสอง จานวน 1 - 11 แลว้ ให้เดก็ หยบิ บตั รตวั เลขอารบิกแสดงจานวน ธงกระดาษที่ครูวางไว้ เชน่ ครูวางธงกระดาษ 10 ลักษณะขึนไปได้ ธง เดก็ หยบิ บตั รตัวเลขอารบิก “10” ขนึ มา 3. เดก็ เล่นเกมการเปรียบเทยี บจานวน ของสิ่งตา่ ง ๆสองกลมุ่ แต่ละกลุ่มมีจานวนไมเ่ กนิ 11 4. เด็กเล่นเกมชดุ ใหม่และเกมทีเ่ คยเล่นมาแลว้ 5. เมื่อเล่นเสรจ็ เด็กเกบ็ เกมการศกึ ษา เข้าท่ีเดิม

แผนการจดั ประสบการณช ้ันอนบุ าล ๓ หนว ยท่ี ๒๒ คา นิยมไทย สัปดาหท่ี ๒๒ คร้งั ที่ ๒ วันท่.ี ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน พัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ 1. กจิ กรรมเคล่อื นไหวพนื ฐาน เดก็ เคล่อื นไหว 1. เครอื่ งเคาะ ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายอย่างอิสระ ตามจงั หวะและ จังหวะ สงั เกต กิจกรรมเคลื่อนไหว (2) การแสดงความคดิ สญั ญาณชา้ -เร็ว-หยุด เมื่อได้ยินสญั ญาณหยุดใหห้ ยดุ 2. เพลง การเคล่ือนไหวทา่ ทาง ทนั ที “วนั เข้าพรรษา” เพือ่ ส่ือสารความคดิ และจังหวะ สร้างสรรค์ผ่านภาษา 2. เด็กและครรู ว่ มกนั ร้องเพลง“วันเข้าพรรษา” ความรู้สกึ ของตนเอง 2. เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายประกอบเพลง อยา่ งหลากหลายและ เคลอ่ื นไหวทา่ ทาง ท่าทาง การเคลือ่ นไหว “วันเข้าพรรษา” แปลกใหม่ 3. เด็กหยุดพกั ผ่อนคลายกล้ามเนอื เพื่อส่ือสารความคิด ความรสู้ ึกของตนเอง อย่างหลากหลาย และแปลกใหม่ได้ กิจกรรมเสริม (1) การเล่นบทบาท 1. ฉนั ภูมิใจในความเป็น 1. เดก็ รอ้ งเพลง “ถวายพระพร” 1. เพลง“ถวายพระ สงั เกต ประสบการณ์ สมมตุ ิการปฏิบตั ิตนใน ไทยที่มีวันสาคญั ของ 1. เดก็ ๆ ดูภาพวนั สาคัญของชาติ ศาสนา และ พร” การปฏิบัตติ าม ปฏิบัตติ ามมารยาท ความเปน็ ไทย ชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ เชน่ วนั เฉลมิ พระชนมพรรษา 1. ภาพ มารยาทไทยตาม ไทยได้ตามกาลเทศะ (2) การปฏบิ ตั ติ าม พระมหากษัตรยิ ์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั รัชกาลท่ี 9 “วันเขา้ พรรษา” กาลเทศะ วัฒนธรรมของท้อง (นับถือศาสนาพุทธไปวดั (วันพอ่ แห่งชาตหิ รือวันชาติไทย) วนั เขา้ พรรษา ฯลฯ 2. พระบรมฉายา ถ่ินทีอ่ าศัยและ ไปฟังเทศน์ ฟงั ธรรม 2.เด็กและครูสนทนาซักถามเก่ยี วกับวันสาคญั ของชาติ ลักษณ์ของ ประเพณไี ทย ทาบุญ ตกั บาตร ถา้ เปน็ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ โดยใชค้ าถามดงั นี พระบาทสมเดจ็ พระ ศาสนาคริสต์นมัสการ - ทาไมต้องมวี ันสาคัญ (เพอ่ื ระลึกถงึ เหตกุ ารณ์ เจ้าอยหู่ ัวรัชกาลที่ 9 พระเจ้าท่โี บสถว์ นั สาคญั ๆท่เี กดิ ขึน้ ในอดีต ดว้ ยความภาคภมู ใิ จ ) (วันพ่อแห่งชาติ) อาทติ ย์ นับถือศาสนา อสิ ลามไปมสั ยิดเพื่อทา - แต่ละภาพเปน็ ภาพอะไร มคี วามสาคัญอยา่ งไร 3. เทยี น ศาสนาพิธีกรรมตาม - กิจกรรมทจ่ี ดั ในวนั นนั มีอะไรบา้ ง หลักศาสนา) - เราควรปฏบิ ัติตนอยา่ งไร 4. ภาพการปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมในวันสาคัญ ทางศาสนาตา่ งๆ

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ พัฒนาการ - เดก็ ๆ รู้สึกชอบหรือไม่เพราะอะไร 3. เด็กแสดงบทบทบาทสมมุตกิ ารเวียนเทยี น 4. เด็กและครูร่วมกันสรปุ เกยี่ วกับวนั สาคัญชาติศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ เราควรภูมใิ จทเ่ี กดิ มาบนพนื แผ่นดนิ ไทยที่มวี นั สาคญั ของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ศาสนา คือ คาสอนขององค์พระศาสดาแตล่ ะพระองค์ท่ี สอนให้เราทุกคนเปน็ คนดี มนี าใจช่วยเหลอื และแบง่ ปนั มเี มตตา และ พระมหากษัตริย์ คอื ผู้ปกครองบา้ นเมือง โดยธรรม เพอ่ื ความสงบสุขของพสกนิกรชาวไทย และ ทรงเป็นเปน็ ศูนย์รวมจติ ใจของคนไทยทงั ชาติ กษตั ริย์ ไทยโบราณ จนถึงปัจจุบนั ทรงเปน็ ผู้นาประเทศให้ พน้ ภัย ทานบุ ารุง ประเทศชาติให้รุ่งเรือง เราทุกคนจึง ควรรกั ชาติ รกั ศาสนา รกั พระมหากษตั รยิ ์ กจิ กรรมศิลปะ (2) การแสดงความคิด 1. แบ่งเด็กเปน็ กลุม่ พับกระดาษและปน้ั ดนิ นามัน 1. กระดาษโปสเตอร์ สงั เกต สร้างสรรค์ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา 2. ครสู าธิตการพับกระดาษจากส่เี หลีย่ มเปน็ รปู การพับกระดาษเปน็ ทา่ ทางและศิลปะ สามเหลยี่ ม สีชนิดบาง การพบั กระดาษเปน็ รปู สามเหลยี่ มและ (4) การประดิษฐ์สิง่ 3. เม่อื พบั เสรจ็ ให้นามาติดบนกระดาษ เอ4 และ เขยี นรูปสามเหลย่ี ม ตา่ ง ๆ ดว้ ยเศษวัสดุ ชว่ ยกนั ตกแตง่ ต่อเตมิ ให้สวยงาม 2. กระดาษ เอ4 รูปสามเหลี่ยมและ ตามแบบไดอ้ ยา่ งมี (5) การหยิบจับ 4. ปั้นดินนามัน ขดดินนามนั เปน็ ตัวเลขไทย มมุ ชดั เจน การใชก้ รรไกร การตดั 5. นาเสนอผลงานของตนเอง 2. กรรไกร เขยี นรปู สามเหลีย่ ม การปะ 6. เกบ็ อุปกรณ์และทาความสะอาด 3. กาว ตามแบบได้อย่างมีมุม 4. ดนิ นามนั ชดั เจน 5. ทร่ี องป้ัน

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ การประเมนิ เรียนรู้ พฒั นาการ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื กจิ กรรม สงั เกต เล่นตามมุม ประสบการณส์ าคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ การเกบ็ ของเล่นของ เก็บของเลน่ ของ ใช้เข้าทอ่ี ย่าง ใช้เขา้ ท่อี ย่าง (3) การให้ความ 1. เด็กเลอื กกิจกรรมเลน่ ตามมมุ ประสบการณต์ ามความ อปุ กรณ์มุม เรียบรอ้ ยดว้ ยตนเอง เรยี บรอ้ ยไดด้ ว้ ย รว่ มมอื ในการปฏิบตั ิ ตนเอง กิจกรรมตา่ ง ๆ สนใจ มมุ ประสบการณ์ควรมีอยา่ งน้อย ๔ มุม เช่น ประสบการณ์ใน - มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มุมหนงั สือ (หนงั สอื เก่ียวกบั หอ้ งเรยี น วันเขา้ พรรษาและวนั อาสาฬหบูชา วนั มาฆบูชา วันพอ่ - มุมบล็อก - มุมเกมการศกึ ษา - บทบาทสมมติ - มมุ เคร่ืองเล่นสัมผัส 2. หมดเวลาเด็กเก็บของเข้าที่ใหเ้ รยี บรอ้ ย กิจกรรมกลางแจง้ (1) การเล่นหรอื ทา 1. แนะนาเด็กเลน่ เกมการละเลน่ เดนิ กะลา 1. สนามเดก็ เล่น สังเกต เล่นรว่ มกับเพื่อน กจิ กรรมร่วมกับกลมุ่ 2. เดก็ เลน่ เกมการละเล่นเดินกะลา 2. กะลามะพร้าว การเลน่ รว่ มกบั เพ่อื น อยา่ งมเี ป้าหมายได้ เพ่ือน 3. เมอ่ื หมดเวลา ช่วยกันเก็บทาความสะอาดสนาม ด้านทม่ี รี ู จานวน อย่างมีเป้าหมาย ลา้ งมอื กลบั เข้าหอ้ งเรียน 2 อัน (5) การละเล่นพนื บ้าน 3. เชือกยาว ของไทย ประมาณ 1.50 เมตร

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ พัฒนาการ เกมการศึกษา (10) การรวมและ 1. การจาแนกและจดั กลุ่ม 1. ครนู าแบบตัวเลขอารบกิ 1 – 11 มาให้เด็กดู เด็ก 1. แบบตวั เลข สงั เกต จาแนกและจัดกลุม่ การแยกสิง่ ต่าง ๆ กลุม่ สง่ิ ตา่ ง ๆ โดย กลุ่มสิ่งตา่ ง ๆ โดยใชต้ งั แต่ อ่านและทดลองเขยี นพรอ้ มกัน อารบิก 1 - 11 การจาแนกและจัด ใช้ตงั แต่สอง กล่มุ ส่งิ ตา่ ง ๆ โดยใช้ ลกั ษณะขึนไปเป็น สองลกั ษณะขึนไปเปน็ 2. ครูนาเทียน 10 เลม่ วางไวบ้ นโต๊ะถามเด็กวา่ บนโตะ๊ 2. เทยี น ตังแตส่ องลักษณะขึน เกณฑ์ได้. เกณฑ์ มเี ทียนก่ีเล่ม เด็กชว่ ยกันนับ จากนันครูหยิบเทียนใหเ้ ด็ก 3. การเล่นเกม ไปเปน็ เกณฑ์ 2. การอ่านและเขยี น ไป 3 เลม่ ถามเด็กอีกครังว่าเหลอื เทยี นกเี่ ล่ม เทยี นท่ี พนื ฐานการลบ ตวั เลขอารบิก 1 – 11 เหลือมีมากกว่าหรอื น้อยกวา่ เทียนทคี่ รูวางไวบ้ นโต๊ะครงั ไม่เกนิ 11 3. การลบไมเ่ กิน 11 แรก ถา้ เราแบ่งของให้คนอน่ื ไปของทเ่ี หลอื จะมนี ้อยลง 4. เกมที่เลน่ มาแลว้ เสมอ 3. เดก็ เลน่ เกมพืนฐานการลบ ไม่เกนิ 11 4. เดก็ เล่นเกมชุดใหม่และเกมทเี่ คยเลน่ มาแล้ว 5. เมือ่ เลน่ เสรจ็ เด็กเกบ็ เกมการศึกษาเข้าทเ่ี ดมิ

แผนการจดั ประสบการณชัน้ อนุบาล ๓ หนว ยท่ี ๒๒ คานยิ มไทย สปั ดาหที่ ๒๒ คร้งั ท่ี ๓ วันท.ี่ ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพนื ฐาน เดก็ เคลื่อนไหวร่างกาย 1. เคร่อื งเคาะจังหวะ สงั เกต กจิ กรรม อิสระตามจังหวะและสัญญาณชา้ -เรว็ -หยดุ 2. เพลงบรรเลง การเคลือ่ นไหวท่าทางเพื่อ เคลื่อนไหวและ (2) การเคล่ือนไหว เมอ่ื ไดย้ ินสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดเคลอ่ื นไหว สื่อสารความคดิ จังหวะ เคล่อื นท่ี 3. เด็กยืนเป็นวงกลม ใหอ้ าสาสมัครออกมายนื ความรสู้ ึกของตนเองอยา่ ง เคลื่อนไหวท่าทาง (2) การแสดงความคดิ กลางวงเป็นผ้นู าทาท่าทางประกอบเพลง เมอื่ ได้ หลากหลายและแปลกใหม่ เพอ่ื สื่อสาร สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา ยนิ สัญญาณหยดุ แต่ละครัง ใหผ้ ลดั เปลย่ี น ความคิด ทา่ ทางการเคลื่อนไหว อาสาสมัครคนอื่น ๆ ออกมาเป็นผ้นู า ความรูส้ กึ ของ 4. เด็กนั่งผ่อนคลายกลา้ มเนอื โดยนั่งหลับตา ตนเองอยา่ ง ในท่าสบาย หายใจเข้า - ออกช้า ๆ หลากหลายและ แปลกใหม่ได้

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ เรียนรู้ พฒั นาการ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ 1. เด็กท่องคาคล้องจองคา่ นิยม “รักษาวฒั นธรรมและ กจิ กรรมเสรมิ ประเพณีไทยอันดีงาม” ประสบการณ์ (2) การปฏบิ ัติตาม 1. คนไทยใชภ้ าษาไทย 2. เด็กดูภาพเกย่ี วกบั วฒั นธรรมประเพณีประจาชาติ 1. เดก็ ท่องคาคล้อง สงั เกต 1. การปฏบิ ัตติ าม ไทยและท้องถน่ิ โดยใชค้ าถามดงั นี มารยาทไทยได้ วัฒนธรรมท้อง เป็นภาษาประจาชาติ จองค่านยิ ม “รกั ษา 1. การปฏบิ ัติตาม ตามกาลเทศะ -เป็นภาพอะไร มีความสาคญั อย่างไร 2. การดแู ลรักษา ถิน่ ท่อี าศัยและ มีวฒั นธรรมประเพณี -วัฒนธรรมและประเพณีคืออะไร วัฒนธรรมและ มารยาทไทยได้ตาม ธรรมชาติ (วัฒนธรรมประเพณคี ือสงิ่ ทด่ี ีงามปฏบิ ัติสบื ตอ่ กันมา ส่ิงแวดล้อมด้วย ประเพณไี ทย ประจาชาติ และท้องถิน่ ตงั แตอ่ ดีตถงึ ปจั จบุ ัน) ประเพณไี ทยอนั ดีงาม” กาลเทศะ ตนเองได้ - เดก็ รู้จักวัฒนธรรมประเพณีประจาชาตแิ ละ (1) การมสี ว่ นรว่ ม 2. รอบตวั เรามีทัง ท้องถ่นิ อะไรบ้าง(ภาษา การแต่งกาย อาหาร 2. ภาพศิลาจารกึ 2. การดแู ลรกั ษา การละเลน่ ของไทย การแข่งเรอื ยาว ฯลฯ) รับผดิ ชอบดแู ลรักษา สงิ่ แวดล้อมตามธรรมชาติ - เด็กๆจะปฏิบัตติ นอยา่ งไร ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ 3. การแต่งกาย ธรรมชาติ 3. สนทนากับเด็กเก่ียวกับทอ้ งถิน่ ทเี่ ด็กอยู่มี ส่งิ แวดลอ้ มทังภายใน และส่งิ แวดลอ้ มที่มนุษย์ สภาพแวดลอ้ มอยา่ งไร สง่ิ แวดล้อมมีทังสงิ่ แวดลอ้ ม อาหาร การละเล่น สงิ่ แวดล้อมดว้ ยตนเอง ตามธรรมชาติเชน่ ตน้ ไม้ นา อากาศและสิ่งท่ีมนษุ ย์ และภายนอก สรา้ งขึนซ่งึ มีความ สร้างขึนเช่น วดั โรงเรยี น ตลาด วัฒนธรรมและ ของไทย ประเพณใี น ได้ ประเพณี ซ่ึงมีความแตกตา่ งกัน เด็กไทยทด่ี คี วรมี หอ้ งเรยี น แตกต่างกัน จติ อาสาร่วมมือกันดูแลส่งิ แวดล้อมทังในและนอก ท้องถิ่น ฯลฯ) หอ้ งเรยี น 4. สรา้ งข้อตกลงรว่ มกันในการดูแลรักษาส่ิงแวดล้อม ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี น 4. เดก็ และครรู ่วมกนั สรุปเก่ียวกับ คนไทยใช้ภาษาไทยเป็นภาษาประจาชาติ ซ่ึงไม่ไดส้ าคัญแคเ่ พียงใช้พดู อา่ น เขียน เทา่ นนั แตใ่ น

จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ความเป็นภาษาของชาติ ยงั แสดงถงึ ความเป็นเอกราช ไมต่ กเปน็ เมืองขนึ ของใคร เราควรใช้ภาษาไทยให้ สังเกต ถกู ต้องเพื่อแสดงถงึ ความรักและความภาคภูมใิ จใน การสร้างผลงานศลิ ปะ ความเป็นชาตไิ ทย เพือ่ ส่ือสารความคิด ความร้สู กึ ของตนเอง - ประเพณปี ระจาชาติและทอ้ งถิ่น เป็นสงิ่ ทแ่ี สดงถงึ โดยมกี ารดดั แปลง วถิ ชี วี ิตของคนไทยทีเ่ คยปฏิบัติสบื เนื่องกนั มาตงั แต่ แปลกใหม่จากเดมิ และ บรรพบรุ ษุ และได้สบื ทอดกันมาจนถงึ ลูกหลาน เรา มรี ายละเอียดเพิ่มขนึ ควรชว่ ยกนั รักษาไว้ กิจกรรมศิลปะ (๒) การเขียนภาพ 1. ครแู นะนากิจกรรมการวาดภาพเกยี่ วกับสง่ิ แวดล้อม 1. กระดาษ สรา้ งสรรค์ (3) การปน้ั ตามธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ ทะเล ภูเขา ฯลฯ และปัน้ ดิน 2. สีเทียน สร้างผลงานศลิ ปะ (2) การแสดง นามนั อิสระ ๓. ดินนามนั เพือ่ ส่ือสาร ความคดิ สร้างสรรค์ 2. เดก็ วาดภาพและ ปั้นดนิ นามนั อสิ ระ ๔. แผ่นรองปนั้ ความคิด ผา่ นภาษา ทา่ ทางและ 3. นาเสนอผลงานของตนเอง ความร้สู ึกของ ศิลปะ 4. เกบ็ อุปกรณ์และทาความสะอาด ตนเองโดยมี การดดั แปลงแปลก ใหมจ่ ากเดิมและ มีรายละเอยี ด เพิม่ ขึนได้

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ สงั เกต กิจกรรมเลน่ ตาม (3) การใหค้ วาม 1. เดก็ เลือกกิจกรรมเลน่ ตามมุมประสบการณต์ าม มุมประสบการณ์ใน การเกบ็ ของเลน่ ของใช้ เขา้ ที่อย่างเรยี บร้อย มุม รว่ มมอื ในการปฏบิ ตั ิ ความสนใจ มมุ ประสบการณ์ควรมีอย่างน้อย ๔ มมุ ห้องเรียน ดว้ ยตนเอง เกบ็ ของเลน่ ของใช้ กิจกรรมตา่ ง ๆ เช่น เข้าที่อย่าง (1) การเลน่ เคร่ือง - มุมธรรมชาติศึกษา - มุมหนังสือ เรียบรอ้ ยได้ดว้ ย เลน่ สมั ผัสและ - มุมบล็อก - มมุ เกมการศึกษา ตนเอง การสรา้ งจากแทง่ ไม้ - บทบาทสมมติ (มุมบา้ น เสือผา้ รองเทา้ กระเป๋าถือ บลอ็ ก ทไี่ ม่ใชแ้ ลว้ เตารดี ที่รีดผ้าจาลอง) - มมุ เครอื่ งเล่นสมั ผสั 2. เม่ือหมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ท่ใี ห้เรียบร้อย กิจกรรมกลางแจง้ (1) การเคล่ือนไหว 1. พาเด็กเดินเขา้ แถวไปท่สี นามเดก็ เล่น 1. นกหวีด สงั เกต รับลกู บอลที่ เคล่ือนที่ 2. เด็กยืนเป็นวงกลม 2. ลกู บอล การรบั ลกู บอลที่ กระดอนขนึ จาก (4) การเคล่ือนไหวท่ี 3. อบอ่นุ ร่างกาย โดยใหเ้ ด็กว่ิงอยู่กับที่ กระดอนขึน พืนได้ ใช้ประสานสัมพนั ธ์ และกระโดดตบ หมุนแขน จากพืน 3. ครสู าธติ และกาหนดข้อตกลงในการเล่น การรบั ของการใช้กลา้ มเนอื ลกู บอลที่กระดอนขึนจากพืน ใหญ่ในการขว้าง 5. ใหเ้ ดก็ เล่นอสิ ระ และเลน่ เคร่อื งเลน่ สนาม การจับ การโยน การเตะ

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน เรยี นรู้ พฒั นาการ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ 1. ครูนาแก้ว 3 ใบเหมือนกันและมขี นาดเทา่ กัน ใส่ 1. เกมเรียงลาดับ สงั เกต เกมการศึกษา นาสีไว้ปริมาตรไม่เทา่ กันใหป้ รมิ าตรของนาสีมากนอ้ ย ปริมาตรนาจากมากไป การเรียงลาดับส่งิ ของ เรียงลาดับสิง่ ของ (13) การจบั คู่ การเรยี งลาดับสง่ิ ของ แตกต่างกนั อย่างชัดเจน เช่น แก้วที่ 1 ใส่นาสเี กือบ นอ้ ย การเปรียบเทยี บความ ตา่ ง ๆ ตามปริมาตร เต็มแก้ว แก้วท่ี 2 ใส่นาสีครึ่งแกว้ แกว้ ที่ 3 ใส่ 2. เกมท่ีเล่นมาแล้ว และเหตุการณ์อย่าง และเหตุการณ์ เหมือนความตา่ งและ นาสนี อ้ ยกวา่ ครึ่งแกว้ วางแก้วทงั 3 ใบให้อยบู่ นพนื เรียงลาดับ ระดบั เดยี วกนั จากนันให้เด็กสังเกต แล้วบอกวา่ แก้ว น้อย 5 ลาดบั อย่างน้อย 5 สง่ิ ต่าง ๆ ตาม ใบไหนมีนาสมี ากทส่ี ุด และใบไหนมีนาน้อยท่สี ุด ปรมิ าตร จากนันครสู าธติ การตรวจสอบคาตอบ โดยเปรยี บเทียบ ลาดบั ได้ ปรมิ าตรนาสใี นแกว้ ทลี ะคู่ ตอ่ ไปครูใหอ้ าสาสมคั ร ออกมาเรยี งลาดับแกว้ นาจากแก้วที่มนี าน้อยท่ีสดุ ไปหา มากทส่ี ดุ หรือจากมากท่สี ุดไปน้อยทส่ี ดุ 2. เด็กเลน่ เกมเรียงลาดบั ปริมาตรนาจากมากไปน้อย 3. เดก็ เล่นเกมชดุ ใหม่และเกมทเี่ คยเล่นมาแลว้ 4. เมื่อเล่นเสร็จเด็กเก็บเกมการศกึ ษาเข้าทีเ่ ดิม

แผนการจัดประสบการณชน้ั อนุบาล ๓ หนวยที่ ๒๒ คา นิยมไทย สัปดาหท่ี ๒๒ ครัง้ ที่ ๔ วนั ท.่ี ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพนื ฐาน เดก็ เคลื่อนไหวสว่ นตา่ ง ๆ เครอื่ งเคาะจังหวะ สังเกต เคลื่อนไหวและ ของรา่ งกายอย่างอิสระ ตามจังหวะเช้า-เรว็ -หยดุ การเคลื่อนไหวท่าทางเพ่ือ จงั หวะ (2) การแสดงความคดิ เมือ่ ได้ยินสัญญาณหยุดใหห้ ยุดทนั ที สื่อสารความคดิ เคล่ือนไหวท่าทาง สร้างสรรคผ์ ่านภาษา 2. ใหเ้ ดก็ ทาทา่ ทางตามคาบรรยายท่ีครเู ล่า ความรู้สกึ ของตนเองอย่าง เพ่ือสื่อสาร ท่าทาง การเคล่อื นไหว เมือ่ เด็กมาถงึ โรงเรยี นพบคณุ ครูยืนอยหู่ น้าประตู หลากหลายและแปลกใหม่ ความคิด โรงเรียน ยกมอื ไหว้ เด็กหญิง พูดว่า สวัสดีคะ่ ความรสู้ กึ ของ เด็กชาย พูดวา่ สวัสดคี รบั และเดินต่อไปถงึ ตนเองอย่าง หอ้ งเรียนสวสั ดีคณุ ครูประจาชนั สวสั ดีครับ หลากหลายและ สวัสดีคะ่ เก็บกระเป๋า ชว่ ยคณุ ครตู ักนาไวล้ า้ งมือ แปลกใหม่ได้ นาหกใส่เพื่อนเด็กกล่าวคาขอโทษเพื่อน คณุ ครู แจกกระดาษและสีเทียนให้เด็ก ๆ เด็กยกมอื ไหว้ พร้อมพดู วา่ ขอบคณุ ครบั ขอบคุณค่ะ เมื่อวาด ภาพเสร็จเข้าแถวสง่ งานคุณครู 3. พักผ่อนคลายกลา้ มเนือ โดยการนอนราบไป กบั พืนแขนแนบลาตวั

จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ 1. นิทาน “เรื่องเหยีย่ ว เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ 1. ครสู นทนากับเด็กถึงมารยาททเ่ี ราควรปฏิบัติ กบั ชาวนา” สังเกต เชน่ การไหว้ การเดนิ ผา่ นผ้ใู หญ่ การรับของ 1. การปฏบิ ตั ิตามมารยาท กจิ กรรมเสริม (2) การปฏบิ ัตติ าม 1. คนไทยมีมารยาทดี การใชค้ าสุภาพ และสาธติ การปฏบิ ตั ิท่ถี ูกต้องให้ . ไทยได้ตามกาลเทศะ เดก็ ดู ครชู วนอาสาสมัครมาแสดงมารยาทไทยท่ี 2. การกลา่ วคาขอบคณุ ประสบการณ์ วัฒนธรรมท้องถิ่นท่ีอยู่ มคี วามซื่อสัตย์ มี ถูกต้อง และขอโทษด้วยตนเอง 2. ครูเล่านิทาน “เหย่ยี วกบั ชาวนา” และชวนเด็ก 3. การขออนุญาตหรือรอ 1. ปฏิบัติตาม อาศัยและความเป็นไทย นาใจ มีวนิ ัย กตัญญู พดู คยุ เกีย่ วกับนทิ านโดยใชค้ าถามดงั นี คอยเมื่อต้องการสิง่ ของ - เพราะเหตุใดชาวนาจึงชว่ ยนกพริ าบจากการถกู ของผู้อนื่ ดว้ ยตนเอง มารยาทไทยได้ตาม (1) การปฏิบัติตนตาม 2. ชมุ ชนของเรามี เหยย่ี วทาร้าย 4. การดูแลรักษา - ถา้ เด็ก ๆ เปน็ ชาวนาจะทาอยา่ งไร ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กาลเทศะ หลักศาสนาทน่ี ับถือ สิง่ แวดลอ้ มที่แตกต่าง - ถ้าเด็กเป็นเหยี่ยวจะรักษาสัญญาท่ีให้ไวก้ บั ด้วยตนเอง ชาวนาหรือไม่ เพราะอะไร 2. กล่าวคา (2) การฟังนิทาน กนั แต่เราอย่รู ่วมกนั 3. พดุ คยุ กบั เด็กถงึ คนที่มีมีความซอ่ื สัตย์ มนี าใจ มวี ินยั กตัญญู วา่ มีคุณลกั ษณะอยา่ งไรพรอ้ มกับ ขอบคุณและขอ เกยี่ วกับคุณธรรม อย่างสงบสุข เพราะ ยกตวั อย่าง - คนท่มี ีความซ่ือสัตย์ จะไม่พูดปด ไม่หยิบของ โทษด้วยตนเองได้ จริยธรรม เราทุกคนเปน็ คนไทย คนอื่น ไม่ทาใหผ้ ู้อื่นเดือดรอ้ น ทาผดิ แล้วยอมรับ ผิดขออนุญาตหรือรอคอยเม่ือต้องการส่งิ ของของ 3. ขออนญุ าตหรือ (3) การร่วมสนทนาและ ผู้อื่นดว้ ยตนเองได้ - มนี าใจ คนท่มี ีความเสียสละ จะชว่ ยเหลือ รอคอยเมื่อต้องการ แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ แบ่งปนั ใหก้ บั ผู้อืน่ สิ่งของของผู้อืน่ เชงิ จริยธรรม ด้วยตนเองได้ (6) การสนทนาข่าว 4. ดแู ลรักษา และเหตุการณ์ท่ีเกี่ยวกับ ธรรมชาติและ เกย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละ ส่งิ แวดล้อมได้ด้วย สิง่ แวดล้อมในประจาวัน ตนเอง

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ - มวี นิ ัย คนทมี่ ีความอดทน จะทาตามกฎกติกา ข้อตกลง และรจู้ กั รอคอย - มคี วามกตญั ญู จะปฏิบัติตนเปน็ เด็กดี ช่วยพ่อแม่ 4. สนทนากบั เด็กเก่ยี วกับชุมชนเป็นสว่ นหน่ึงของ ทอ้ งถน่ิ ในชมุ ชนมีสิ่งแวดล้อมทแี่ ตกต่างกนั แตเ่ ราอยู่ รว่ มกันอยา่ งสงบสุข เพราะคนไทยมีจติ ใจทีด่ ี เป็น มิตร มีนาใจเอือเฟื้อเผอ่ื แผ่ต่อผอู้ ืน่ มีความซ่ือสตั ย์ มวี ินัย กตัญญู รกั ความสามคั คี มจี ิตอาสา รว่ มมือกนั รกั ษาสภาพสงิ่ แวดล้อมในชุมชนใหส้ ะอาดสวยงาม กจิ กรรมศลิ ปะ (2) การเขียนภาพและ 1. ครนู าธงรูปสามเหลยี่ มวางบนกระดาษแล้วใช้ 1. กระดาษ เอ4 สังเกต สร้างสรรค์ ระบายสี เขียนรูป (3) การปั้น ดนิ สอลากตามขอบ ใหเ้ ด็กๆ สังเกตรปู ที่ได้ ใหใ้ ชน้ ิว 2. สีเทยี น การเขยี นสามเหลี่ยมตาม สามเหลย่ี มตาม แบบได้อย่างมีมุม ลบู ตามขอบธงเป็นสามเหล่ยี ม ลากนวิ ตามรอยรูป 3. กาวลาเทก็ ซ์ แบบได้อยา่ งมีมมุ ชดั เจน ชัดเจน สามเหล่ยี ม และวาดรปู สามเหลี่ยมบนพืน 4. กระดาษขาวเทา 2. เดก็ เขยี นรปู สามเหล่ยี มตามแบบด้วยดินสอดา ขนาด 56×38 ซม. ดนิ สอสี ฯลฯ ในกระดาษ เอ4 คนละ 2 รูป 3. ใหเ้ ดก็ วาดภาพต่อเติมอย่างอิสระจากสามเหลี่ยมที่ 5. กระดาษโปสเตอร์ เดก็ วาดเองแลว้ ระบายสีใหส้ วยงาม สี 3. แบง่ เด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ฉีกกระดาษ เป็นรูปบา้ นของตนเองและนาภาพบา้ นของทุกคนใน กลุ่มมาวางบนกระดาษแผน่ ใหญท่ ่ีครูเตรยี มไว้ 4. เด็กนาภาพบ้านมาจดั และปะตดิ บนกระดาษและ

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ ตกแตง่ ต่อเตมิ 5. ครถู ามเด็กวา่ ในภาพมบี ้านทงั หมดกหี่ ลงั บ้าน แต่ละหลังเม่ือนามารวมกันมากๆ เรยี กว่าอะไรและ ใหเ้ ดก็ ตงั ชื่อชมุ ชน 6. เดก็ นาเสนอผลงานและนาไปวางทเ่ี ก็บผลงาน กจิ กรรม (3) การให้ความร่วมมือ 1. เด็กเลอื กกิจกรรมเล่นตามมมุ ในมุมประสบการณ์ มุมประสบการณ์ใน สังเกต ห้องเรยี น การเก็บของเลน่ ของใช้ เล่นตามมมุ ในการปฏิบัตกิ จิ กรรม ตามความสนใจมุมประสบการณ์ควรมีอย่างน้อย เข้าท่ีอยา่ งเรียบร้อย 1. อปุ กรณ์กีฬา เช่น ด้วยตนเอง เกบ็ ของเลน่ ของใช้ ตา่ ง ๆ ๔ มมุ เชน่ ฟุตบอล วอลเลย์ ตะกร้อ หว่ งยาง สงั เกต เขา้ ที่อยา่ เรยี บร้อย (4) การดแู ลห้องเรียน - มุมธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนังสอื 2. กระบะทราย 1. การเล่นรว่ มกับเพอ่ื น อยา่ งมีเป้าหมาย ได้ด้วยตนเอง - มุมบลอ็ ก - มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมตุ ิ - มุมเครอื่ งเลน่ สมั ผสั 2. เมือ่ หมดเวลาเดก็ เก็บของเข้าที่ใหเ้ รยี บร้อย 3. ครูชมเชยเดก็ ทเ่ี ก็บของเขา้ ท่ีได้เรียบร้อยเม่ือเล่น เสร็จ กิจกรรมกลางแจ้ง (1) การเลน่ หรอื ทา การเลน่ อปุ กรณก์ ีฬา 1.เลน่ ร่วมกับเพื่อน กจิ กรรมรว่ มกับกลุม่ อย่างมเี ป้าหมายได้ เพ่ือน 1. นาเดก็ ไปทีส่ นามเด็กเล่น 2. ครูแจกอุปกรณก์ ีฬา เชน่ ฟตุ บอล วอลเลย์ ตะกร้อ ห่วงยาง ใหเ้ ด็กเลน่ ร่วมกบั เพื่อนอย่างอิสระ 3. เดก็ เลน่ อปุ กรณ์กีฬา 4. เมื่อหมดเวลาเดก็ เก็บอปุ กรณ์กีฬาเขา้ ท่ีให้ เรยี บรอ้ ย ลา้ งมือ ทาความสะอาดร่างกายแล้วกลับ เข้าห้อง

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ เกมการศกึ ษา (5) การคัดแยก การจาแนกภาพหรอื 1. ครนู าของเล่นหรือของใช้ท่ีหางา่ ยทห่ี าได้งา่ ย ๆ เกมการจาแนกภาพ สงั เกต จาแนกและจัดกลมุ่ การจัดกล่มุ และ สงิ่ ของที่มลี ักษณะ สิ่งตา่ ง ๆ โดยใช้ การจาแนกส่งิ ของต่าง ๆ เหมอื นวงกลม จากวสั ดพุ นื บา้ นหรอื ในห้องเรยี นทมี่ รี ปู รา่ งลกั ษณะ หรือส่ิงของที่มี การจาแนกและจัดกลุม่ ส่งิ ตงั แต่สองลักษณะ ตามลกั ษณะและรูปร่าง สี่เหลี่ยม สามเหลย่ี ม ขนึ ไปเปน็ เกณฑ์ได้ และวงรี เหมือนหรอื คลา้ ยรปู วงกลม สามเหล่ียม สเี่ หล่ียม ลกั ษณะเหมือน ตา่ ง ๆ โดยใช้ตงั แต่สอง วงรี เชน่ ลกู ปิงปอง ลกู บอล สมดุ ธงสามเหลยี่ ม ไข่ วงกลม ส่เี หลย่ี ม ลกั ษณะขึนไปเปน็ เกณฑ์ มาใหเ้ ดก็ ดู และจาแนกตามรูปทรง สามเหลี่ยม และวงรี 2. เดก็ เลน่ เกมการจาแนกภาพหรอื สงิ่ ของทมี่ ลี ักษณะ เหมอื นวงกลม สเ่ี หลยี่ ม สามเหลยี่ ม และวงรี 3. เดก็ เล่นเกมชุดใหมแ่ ละเกมที่เคยเลน่ มาแล้ว 4. หมนุ เวียนกันเลน่ รว่ มกนั 5. เม่ือเล่นเสร็จเด็กเก็บเกมการศึกษาเขา้ ทีเ่ ดมิ

แผนการจัดประสบการณช้นั อนบุ าล ๓ หนวยท่ี ๒๒ คานยิ มไทย สัปดาหท ี่ ๒๒ ครั้งที่ ๕ วันท.ี่ ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควร กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรียนรู้ สงั เกต เคล่อื นไหวและ (2) การแสดงความคดิ 1. กจิ กรรมพืนฐาน เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายอิสระตาม เครอ่ื งเคาะจังหวะ การเคล่อื นไหวทา่ ทาง จังหวะและสัญญาณชา้ -เร็ว-หยดุ เพ่อื ส่ือสารความคิด จังหวะ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหยุดให้หยุดเคลอ่ื นไหว ความรูส้ กึ ของตนเอง 2. กาหนดมุมต่าง ๆในห้องเรียน เป็น มมุ วัด มุมมัสยดิ อยา่ งหลากหลายและ เคลอื่ นไหวทา่ ทาง ท่าทาง การ มมุ โบสถ์ ฯลฯ แปลกใหม่ 3. ให้เด็กเคลือ่ นไหวอิสระ เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหยุดแต่ละ เพ่อื สื่อสารความคดิ เคลอ่ื นไหว ครงั ใหป้ ฏิบัตติ ามคาสงั่ เช่น ไปทาบุญ วิง่ ไปมุมวดั 3. พกั ผ่อนคลายกล้ามเนือ โดยการนอนราบไปกับพนื แขน ความร้สู กึ ของตนเอง แนบลาตวั อย่างหลากหลาย และแปลกใหม่ได้ กิจกรรมเสรมิ (3) การฟังเพลง 1. คนไทย 1. เดก็ และครูรว่ มกันร้องเพลง “ศาสนา” 1. เพลง “ศาสนา” สงั เกต ประสบการณ์ (๔) การพูดแสดงความ ส่วนมากนบั ถือ 2. เดก็ ดูภาพผนู้ าและสถานที่สาคัญทางศาสนาพุทธ , 1. เล่าเปน็ เรื่องราว คิดเห็น ความรู้สึก ศาสนาพุทธ อสิ ลาม , คริสต์ , ฮินดู , ซกิ ข์ ฯลฯ 1. ภาพ การใส่ 1. การเลา่ เปน็ เรื่องราว ตอ่ เนอ่ื งได้ ความตอ้ งการ พระมหากษัตรยิ ์ 3. เด็กและครูร่วมกนั สนทนาโดยใชค้ าถามดังนี บาตร ปล่อยปลา ตอ่ เนือ่ ง 2. ดูแลรกั ษา (1) การมสี ว่ นร่วม ไทยทรงอุปถัมภ์ ไหว้พระ กราบพระ 2. การดแู ลรกั ษา ธรรมชาตแิ ละ รบั ผดิ ชอบดแู ลรักษา ทุกศาสนาใน - เด็ก ๆเคยเหน็ บุคคลในภาพนหี รือไม่ ที่ไหน 1. ภาพผู้นาทาง ธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดล้อมด้วย ส่ิงแวดล้อมทงั ภายใน ประเทศไทย - เปน็ ภาพใคร ศาสนาพทุ ธ , อิสลาม ส่ิงแวดลอ้ มดว้ ยตนเอง ตนเองได้ และนอกห้องเรียน ศาสนาทกุ - สถานทีส่ าคัญของศาสนาพุทธ, อสิ ลาม, ครสิ ต์ เรยี กวา่ , ครสิ ต์ (พระสงฆ์ , 3. การทงิ ขยะได้ถูกท่ี 3. ทงิ ขยะได้ถกู ท่ี (1) การปฏิบัตติ นตาม ศาสนาสอนให้ อะไร (ภาพวัด , มสั ยิด , โบสถ)์ บาทหลวง , 4. ช่วยเหลือและ หลักศาสนาท่ีตนเอง ทกุ คนเป็นคนดี - เดก็ นับถือศาสนาอะไร 4. การช่วยเหลือและ แบ่งปนั ผอู้ น่ื ได้ด้วย นับถือ 2. ทกุ คนตอ้ ง 4. ใหเ้ ดก็ เล่าถึงประสบการณ์ทตี่ นเองเคยไปทาบญุ กับ โต๊ะอิหม่าม) ผู้ปกครอง ถ้าเดก็ นับถือศาสนาอื่นนอกจากศาสนาพุทธ แบง่ ปันผอู้ นื่ ได้ด้วย 2. ภาพสถานท่ี ตนเอง สาคัญของศาสนา

จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควร กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ ตนเอง เรยี นรู้ (3) การรว่ มสนทนา ชว่ ยกันดแู ล ใหอ้ อกมาเลา่ ถึงการไปศาสนสถาน (โบสถ์ หรอื มัสยิด) พทุ ธ , อิสลาม , และแลกเปลี่ยนความ รักษา 5. เด็กและครูรว่ มกนั วางแผนเพ่อื พัฒนาส่งิ แวดลอ้ มใน ครสิ ต์ (ภาพวัด , คดิ เหน็ เชิงจรยิ ธรรม สง่ิ แวดลอ้ มและ โรงเรยี น ดแู ลตน้ ไม้ รกั ษาความสะอาด เกบ็ ขยะ มสั ยิด , โบสถ์) (6) การสนทนาข่าว ใช้ทรัพยากร 6. เด็กบอกการรกั ษาส่งิ แวดลอ้ มกับการไม่รกั ษา หรอื เหตุการณ์ท่ี อยา่ งคุ้มค่า สิ่งแวดลอ้ ม เชน่ ทงิ ขยะลงถัง - ทงิ ขยะลงแมน่ า การใชถ้ ุง เกย่ี วกับธรรมชาตแิ ละ 3. การจบั คู่ กระดาษ - การใช้ถุงพลาสตกิ การปลกู ตน้ ไม้ - การตดั สิ่งแวดล้อม ภาพสัมพันธ์การ รักษา ตน้ ไม้ การคัดแยกขยะก่อนทิง-ทงิ โดยไม่คัดแยก ส่ิงแวดล้อม เปิดนา - ปิดนา ขีดเขียนบนฝาผนงั -ภาพเด็กมจี ติ สาธารณะ ทากิจกรรมเพ่ือสว่ นรวม 7. เด็กและครรู ่วมกันสรุป - คนไทยสว่ นมากนับถือศาสนาพทุ ธ พระมหากษัตริย์ ไทยทรงเป็นพุทธมามกะ คือ เปน็ ผ้ทู ่ีนบั ถอื ศาสนาพุทธ ทรงอุปถมั ภ์ทกุ ศาสนาในประเทศไทยโดยไม่แบ่งแยกว่าเป็น ศาสนาใด แมป้ ระเทศไทยจะเป็นประเทศทม่ี ีคนหลาย ศาสนาอยรู่ ่วมกัน แตก่ ส็ ามารถทจี่ ะอย่รู ว่ มกันได้อย่างมี ความสขุ ดงั นนั เด็ก ๆควรเคารพและรักคนท่ีนบั ถือศาสนา ตา่ งจากเรา เพราะไมว่ า่ ใครจะนบั ถือศาสนาใดกต็ ามแต่ ทุกศาสนาล้วนสอนให้คนเปน็ คนดี มคี ุณธรรมจรยิ ธรรมทัง

สาระการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ สาคญั ต่อตนเอง ต่อผู้อ่นื และต่อสงั คมด้วยกันทังสิน - ส่งิ แวดล้อมลว้ นมผี ลตอ่ การดาเนินชีวติ ของเราทงั สนิ จงึ เปน็ หน้าทขี่ องเราทุกคนต้องช่วยกนั ดูแลรกั ษา ใช้ ทรัพยากรคุ้มค่ามากท่สี ดุ กิจกรรมศลิ ปะ (2) การวาดภาพ 1. ครแู นะนากิจกรรมการเป่าสีลงบนกระดาษ และ 1. สนี า สงั เกต การวาดภาพ 2. พู่กัน การสร้างผลงานศลิ ปะ สร้างสรรค์ และเล่นกับสี 2. เด็กเปา่ สลี งบนกระดาษ และตอ่ เติมเป็นรปู ตามความคิด 3. กระดาษ เอ4 เพ่อื สื่อสารความคิด ของตน 4. จานใสส่ ี ความรสู้ กึ ของตนเองโดยมี สรา้ งผลงานศิลปะเพอ่ื (3) การปนั้ 3. เดก็ ปนั้ ดินนามันอสิ ระ 5. หลอดกาแฟ การดัดแปลงแปลกใหม่ 4. เด็กนาเสนอผลงานและนาไปวางท่ีเก็บผลงาน 6. แผ่นรองปนั้ จากเดิมและ มีรายละเอียด สอ่ื สารความคิด (2) การแสดง 5. เก็บวัสดอุ ปุ กรณ์ เพม่ิ ขึน ความรสู้ กึ ของตนเอง ความคดิ โดยมกี ารดัดแปลง สร้างสรรคผ์ า่ น แปลกใหม่จากเดิมและมี ภาษา ทา่ ทางและ รายละเอยี ดเพมิ่ ขึนได้ ศลิ ปะ

สาระการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ ประสบการณ์ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ สาคัญ กจิ กรรม (3) การใหค้ วาม 1. เด็กเลอื กกิจกรรมเล่นตามมมุ ประสบการณ์ตามความ - มมุ ประสบการณใ์ น สงั เกต เลน่ ตามมมุ ร่วมมอื ใน สนใจ มุมประสบการณค์ วรมีอย่างน้อย ๔ มุม เชน่ หอ้ งเรียน การเก็บของเล่นของใช้ เกบ็ ของเล่นของใช้เข้าท่ี การปฏิบัติ - มุมธรรมชาตศิ ึกษา - มุมหนังสือ เขา้ ท่ีอย่างเรยี บร้อยดว้ ย อย่างเรยี บร้อยได้ กิจกรรมต่าง ๆ - มุมบล็อก - มมุ เกมการศึกษา ตนเอง ดว้ ยตนเอง - บทบาทสมมติ - มุมเคร่อื งเล่นสัมผัส - มุมศาสนาตามที่ตนนบั ถือเช่นโต๊ะหมู่บชู า พระพทุ ธรูป 2. เมอื่ หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ทใ่ี หเ้ รียบร้อย 3. เด็กเก็บของเข้าทีเ่ มื่อเล่นเสรจ็ กจิ กรรมกลางแจ้ง (1) การเลน่ หรือ 1. เด็กเลือกเลน่ อุปกรณ์ในสนามเด็กเลน่ สนามเดก็ เลน่ สังเกต การเล่นรว่ มกับเพ่ือนอยา่ ง เล่นร่วมกับเพ่ือนอย่างมี ทากจิ กรรม 2. เมื่อหมดเวลา ชว่ ยกันเก็บทาความสะอาดสนาม ล้างมือ มเี ปา้ หมาย เป้าหมายได้ ร่วมกับกลมุ่ เพอ่ื น กลบั เข้าห้องเรยี น เกมการศกึ ษา (13) การจบั คู่ การจับคภู่ าพ 1. เด็กเล่นเกมการจบั ค่ภู าพสัมพนั ธ์การรักษาส่งิ แวดล้อม 1. เกมการจบั คภู่ าพ สงั เกต การจับคแู่ ละ สมั พันธก์ ารรกั ษา การจบั คู่และเปรียบเทียบ การเปรยี บเทียบ สมั พันธ์การรกั ษา 2. แบง่ เดก็ เล่นเกมใหม่ และเกมเดิมท่มี ีอยู่แลว้ หมุนเวยี น ส่ิงแวดลอ้ ม เปรียบเทยี บความ 2. เกมท่ีเล่นมาแลว้ ความแตกตา่ งและความ ความเหมือนความ สิง่ แวดลอ้ ม กันเลน่ รว่ มกัน แตกตา่ งและความ เหมอื นของสิ่งตา่ งๆ ตา่ งและเรยี งลาดับ 3. เมื่อเลน่ เสร็จเด็กเกบ็ เกมการศกึ ษาเข้าทีเ่ ดิม เหมอื นของส่ิงต่างๆ ได้ สิ่งตา่ ง ๆ ตาม ปริมาตร

1. เลขที่ ชอื่ - สกุล 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 1. การรับลกู บอลท่กี ระดอนขึนจากพืน ด้าน รา่ งกาย 2. การเขยี นรปู สามเหลย่ี มตามแบบไดอ้ ยา่ งมมี ุมชดั เจน ดา้ นอารมณ์ 3. การขออนญุ าตหรือรอคอยเมื่อต้องการส่งิ ของผู้อืน่ ดว้ ย และจติ ใจ ตนเอง 4. การชว่ ยเหลอื และแบ่งปนั ผู้อน่ื ได้ดว้ ยตนเอง แบบสังเกตพฤตกิ รรมเด็ก แผนการจัดประสบการณช นั้ อนุบาล ๓ หนวยท่ี ๒๒ คา นิยมไทย 5. การเกบ็ ของเลน่ ของใช้เข้าทอ่ี ย่างเรยี บรอ้ ยดว้ ยตนเอง ประเมินพฒั นาการ 6. การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ด้านสังคม 7. การทิงขยะ ด้านสตปิ ัญญา 8. การปฏิบตั ิตามมารยาทไทยได้ถกู ต้องตามกาลเทศะ 9. การกลา่ วคาขอบคณุ และขอโทษดว้ ยตนเอง 10. การยนื ตรงและร่วมร้องเพลงชาตไิ ทยและเพลง สรรเสรญิ พระบารมี 11. การเลน่ ร่วมกับเพื่อนอยา่ งมีเป้าหมาย 12. การเลา่ เปน็ เรอ่ื งราวตอ่ เน่อื ง 13. การจับคแู่ ละเปรยี บเทียบความแตกต่างและความ เหมือนของส่งิ ตา่ ง ๆโดยใชล้ กั ษณะท่สี ังเกตพบสองลกั ษณะ ขึนไป 14. จาแนกและจัดกลมุ่ สงิ่ ต่าง ๆ โดยใช้ตงั แตส่ องลกั ษณะ ขึนไป 15. การเรยี งลาดบั ส่งิ ของและเหตุการณอ์ ย่างนอ้ ย 5 ลาดับ 16. การสร้างผลงานศลิ ปะเพอื่ สอ่ื สารความคิด ความรู้สกึ ของตนเองโดยมีการดดั แปลงแปลกใหม่จากเดิมและมี รายละเอียดเพ่ิมขนึ 17. การเคลอื่ นไหวท่าทางเพอื่ สือ่ สารความคดิ ความรูส้ กึ ของตนเองอยา่ งหลากหลายและแปลกใหม่ หมายเหตุ

11. เลขท่ี ช่ือ - สกุล 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. คาอธบิ าย ระดบั ๓ ดี ครูสังเกตพฤตกิ รรมเดก็ รายบุคคล จดบันทกึ สรปุ เป็นรายสปั ดาหร์ ะบรุ ะดับคณุ ภาพเปน็ ๓ ระดับ คือ 1. การรับลกู บอลที่กระดอนขึนจากพนื ดา้ นรา่ งกาย 2. การเขยี นรูปสามเหลีย่ มตามแบบได้อย่างมมี ุมชดั เจน ดา้ นอารมณ์ และจิตใจ 3. การขออนุญาตหรือรอคอยเม่อื ต้องการส่ิงของผู้อ่นื ดว้ ย ระดบั ๒ ปานกลาง ตนเอง ประเมินพัฒนาการ ด้านสงั คม ระดับ ๑ ตอ้ งสง่ เสรมิ 4. การชว่ ยเหลือและแบ่งปันผู้อืน่ ไดด้ ว้ ยตนเอง 5. การเกบ็ ของเล่นของใชเ้ ขา้ ท่ีอย่างเรยี บรอ้ ยด้วยตนเอง ด้านสตปิ ญั ญา 6ึ . การดแู ลรักษาธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม 7. การทงิ ขยะ 8. การปฏบิ ตั ติ ามมารยาทไทยได้ถูกตอ้ งตามกาลเทศะ 9. การกลา่ วคาขอบคณุ และขอโทษด้วยตนเอง 10. การยนื ตรงและร่วมรอ้ งเพลงชาตไิ ทยและเพลง สรรเสริญพระบารมี 11. การเล่นรว่ มกับเพอ่ื นอยา่ งมเี ป้าหมาย 12. การเล่าเป็นเรอ่ื งราวต่อเนือ่ ง 13. การจบั คู่และเปรยี บเทยี บความแตกต่างและความ เหมอื นของสง่ิ ตา่ ง ๆโดยใชล้ กั ษณะทีส่ งั เกตพบสอง ลกั ษณะขึนไป 14. จาแนกและจดั กลมุ่ สง่ิ ตา่ ง ๆ โดยใช้ตงั แตส่ องลักษณะ ขนึ ไป 15. การเรยี งลาดับส่งิ ของและเหตกุ ารณอ์ ยา่ งนอ้ ย 5 ลาดับ 16. การสรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่อื ส่อื สารความคิด ความรสู้ ึกของตนเองโดยมีการดดั แปลงแปลกใหม่จากเดมิ และมรี ายละเอยี ดเพิ่มขึน 17. การเคลือ่ นไหวทา่ ทางเพอื่ ส่อื สารความคิด ความรู้สกึ ของตนเองอย่างหลากหลายและแปลกใหม่ หมายเหตุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook