แผนการจัดประสบการณ์ ชนั้ อนบุ าล 3 สัปดาห์ท่ี 28 ขนาด รปู ร่าง รปู ทรง นางกิตตมิ า ศรพี รหมมา
การวิเคราะห์โครงสร้างหนว่ ยการจัดประสบการณต์ ามหลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 หนว่ ยที่ 28 ขนาด รูปรา่ ง รปู ทรง ชน้ั อนบุ าลปีที่ 1 - 3 ภาคเรยี นที่ 2 รายการ อนบุ าลปที ี่ 1 อนุบาลปีที่ 2 อนบุ าลปที ่ี 3 สาระท่คี วรเรียนรู้ 1. ลกั ษณะวสั ดุทรงกลม 1. ลักษณะวสั ดทุ รงสี่เหลยี่ ม 1. ลักษณะวสั ดทุ รงสามเหล่ียม มาตรฐาน 2. วัสดุทรงกลมรอบตัวเรา 2. วสั ดุทรงส่ีเหลีย่ มรอบตัวเรา 2. วัสดุทรงสามเหลย่ี มรอบตัวเรา ตัวบง่ ช้ี 3. เปรยี บเทียบขนาดของวัสดทุ รงกลม 3. เปรียบเทียบความเหมือน ความตา่ ง 3. เปรยี บเทยี บความเหมือน ความตา่ ง สภาพทพี่ ึงประสงค์ 4. จาแนกวสั ดทุ รงกลมกบั วสั ดุวงกลม 5. ประโยชน์ของรูปทรงกลมและรูปวงกลม ของวัสดุทรงกลมและทรงสี่เหลี่ยม ของวสั ดุทรงกลม ทรงสเี่ หล่ียม 4. จาแนกวัสดุทรงกลม ทรงสี่เหล่ียม และทรงสามเหล่ียม 4. จาแนกวสั ดทุ รงกลม ทรงสี่เหลย่ี ม และรปู วงกลม รูปส่เี หลยี่ ม ทรงสามเหลี่ยม และรปู วงกลม 5. ประโยชน์ของทรงส่ีเหลี่ยม รปู สเ่ี หล่ียม รูปสามเหลี่ยม 5. ประโยชนข์ องทรงสามเหลี่ยม มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 2 ตบช. 2.2 (2.2.๒) (2.2.๓) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.4) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.3), มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.3) มฐ ๕ ตบช. ๕.๔ (๕.๔.1) ตบช. 2.2 (2.2.2) ตบช. 2.2 (2.2.1) (2.2.2) มฐ ๖ ตบช. ๖.๒ (๖.๒.1) มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) (2.2.3) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) มฐ ๕ ตบช. ๕.๔ (๕.๔.1) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.1) มฐ ๖ ตบช. ๖.๒ (๖.๒.1) มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) มฐ 8 ตบช. 8.๒ (8.๒.1) มฐ ๕ ตบช. ๕.๔ (๕.๔.1) (10.1.2) (10.1.3) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) มฐ ๖ ตบช. ๖.๒ (๖.๒.1) (10.1.๔) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.1) มฐ 8 ตบช. 8.๒ (8.๒.1) มฐ 11 ตบช. 11.2 (11.2.1) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.1) (10.1.2) (10.1.3) (10.1.๔) (10.1.2) (10.1.3) มฐ 11 ตบช. 11.2 (11.2.1) (10.1.๔) มฐ 11 ตบช. 11.2 (11.2.1)
รายการ อนุบาลปที ่ี 1 อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปที ่ี 3 ประสบการณส์ าคัญ รา่ งกาย 1.1.1 การใช้กล้ามเน้อื ใหญ่ รา่ งกาย รา่ งกาย (1) การเคลื่อนไหวอยกู่ ับที่ (2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี 1.1.1 การใช้กลา้ มเนอื้ ใหญ่ 1.1.1 การใช้กลา้ มเน้อื ใหญ่ (3) การเคล่ือนไหวพรอ้ มอุปกรณ์ (5) การเล่นเครือ่ งเล่นสนามอย่างอิสระ (1) การเคลื่อนไหวอยู่กบั ที่ (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ 1.1.2 การใช้กล้ามเนอื้ เล็ก (2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนท่ี (3) การเคลื่อนไหวพรอ้ มอปุ กรณ์ (3) การปนั้ (๔) การประดษิ ฐส์ ่งิ ต่างๆ ด้วยเศษวัสดุ (3) การเคลื่อนไหวพรอ้ มอุปกรณ์ (5) การเล่นเคร่อื งเล่นสนามอยา่ งอสิ ระ (5) การหยบิ จับ การฉกี การตดั การปะ และการร้อยวสั ดุ (4) การเคล่ือนไหวที่ใช้การประสาน 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื เล็ก 1.1.5 การตระหนกั รูเ้ กยี่ วกับร่างกาย ตนเอง สมั พนั ธ์ของการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ (2) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี (1) การเคลอื่ นไหวโดยควบคุมตนเอง ไปในทิศทาง ระดับและพ้นื ท่ี ในการขว้าง การจบั การโยน (3) การปัน้ อารมณ์ (5) การเล่นเครอ่ื งเลน่ สนามอยา่ งอสิ ระ (๔) การประดษิ ฐส์ ง่ิ ตา่ งๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี (3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี 1.1.2 การใช้กล้ามเน้อื เล็ก (5) การหยบิ จับ การใชก้ รรไกร การฉีก (5) การทากจิ กรรมศลิ ปะต่างๆ 1.2.2 การเล่น (2) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี การตัด การปะ และการรอ้ ยวัสดุ (๑) การเล่นอสิ ระ (2) การเล่นรายบุคคล กลมุ่ ย่อย และ (3) การปน้ั 1.1.5 การตระหนักรูเ้ กย่ี วกับร่างกาย กล่มุ ใหญ่ (๔) การประดษิ ฐส์ งิ่ ต่างๆ ด้วยเศษวัสดุ ตนเอง (5) การหยิบจับ การฉกี การตัด การปะ (1) การเคล่ือนไหวโดยควบคุมตนเอง 1.1.5 การตระหนกั รเู้ ก่ียวกับร่างกาย ไปในทิศทาง ระดบั และพืน้ ที่ ตนเอง (2) การเคลื่อนไหวขา้ มสงิ่ กดี ขวาง (1) การเคลอ่ื นไหวโดยควบคุมตนเอง ไปในทิศทาง ระดับและพนื้ ท่ี อารมณ์ อารมณ์ 1.2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี 1.2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี (3) การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (3) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (5) การทากจิ กรรมศิลปะต่างๆ (5) การทากิจกรรมศิลปะต่างๆ 1.2.2 การเล่น 1.2.2 การเล่น (๑) การเล่นอสิ ระ (๑) การเล่นอสิ ระ (2) การเลน่ รายบุคคล กลมุ่ ย่อย และ (2) การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย และ กล่มุ ใหญ่ กลมุ่ ใหญ่
รายการ อนุบาลปที ี่ 1 อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปที ี่ 3 (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์/ มมุ เลน่ ต่างๆ (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์/ (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์/ (๔) การเลน่ นอกห้องเรยี น มมุ เล่นตา่ งๆ มุมเลน่ ต่างๆ 1.2.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (๔) การเลน่ นอกหอ้ งเรียน (๔) การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น (2) การเล่นบทบาทสมมติ 1.2.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ 1.2.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (4) การรอ้ งเพลง (2) การเลน่ บทบาทสมมติ (2) การเล่นบทบาทสมมติ สงั คม (4) การร้องเพลง (4) การรอ้ งเพลง 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพันธม์ ีวินยั มสี ่วนร่วม สงั คม สงั คม และบทบาทสมาชิกของสงั คม 1.3.2 การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและ 1.3.2 การดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ (4) การดแู ลห้องเรยี นรว่ มกัน ส่งิ แวดล้อม ส่ิงแวดล้อม (3) การทางานศิลปะท่นี าวัสดหุ รือ (3) การทางานศลิ ปะทีน่ าวสั ดุหรือ สติปัญญา สิง่ ของเคร่อื งใชท้ ่ีใชแ้ ล้ว มาใช้ซ้า หรอื ส่งิ ของเครอื่ งใชท้ ีใ่ ช้แล้วมาใช้ซา้ หรือ 1.4.1 การใช้ภาษา แปรรูปแลว้ นากลับมาใช้ใหม่ แปรรปู แล้วนากลับมาใชใ้ หม่ (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง หรอื 1.3.4 การมปี ฏิสัมพันธม์ ีวนิ ัยมีส่วน 1.3.4 การมีปฏิสัมพนั ธ์มีวนิ ัยมสี ่วนรว่ ม เรอ่ื งราวต่างๆ รว่ มและบทบาทสมาชิกของสงั คม และบทบาทสมาชิกของสงั คม (6) พูดอธิบายเกย่ี วกับสิ่งของ เหตกุ ารณ์ (4) การดูแลห้องเรยี นรว่ มกนั (4) การดแู ลห้องเรยี นร่วมกนั และความสมั พนั ธ์ของสิ่งตา่ งๆ สตปิ ัญญา สติปญั ญา (19) การเหน็ แบบอยา่ งของการเขยี นท่ี 1.4.1 การใชภ้ าษา 1.4.1 การใชภ้ าษา ถกู ต้อง (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง (6) พูดอธิบายเกีย่ วกบั สง่ิ ของ เหตุการณ์ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ เหตผุ ล หรอื เร่อื งราวตา่ งๆ และความสัมพนั ธ์ของสง่ิ ต่างๆ การตัดสินใจและแก้ปัญหา (6) พูดอธบิ ายเกี่ยวกบั ส่งิ ของ (18) การเลน่ เกมทางภาษา (1) การสงั เกตลักษณะ สว่ นประกอบ เหตกุ ารณ์ และความสมั พนั ธ์ (19) การเห็นแบบอย่างของการเขียน ของสง่ิ ตา่ งๆ ทถ่ี ูกต้อง (19) การเห็นแบบอย่างของการเขียน 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล ท่ถี ูกต้อง การตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหา 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ (1) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบของ เชิงเหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา สงิ่ ต่างๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผัส
รายการ อนุบาลปีที่ 1 อนุบาลปที ่ี 2 อนบุ าลปีที่ 3 ของส่ิงตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผัสอยา่ ง (1) การสงั เกตลักษณะ สว่ นประกอบ อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม ของสง่ิ ต่างๆ โดยใช้ประสาทสัมผสั (4) การเลน่ กบั สอื่ ต่างๆ ที่เป็นทรงกลม (4) การเล่นกบั ส่อื ตา่ งๆทเี่ ปน็ ทรงกลม อย่างเหมาะสม ทรงสเี่ หลย่ี มมมุ ฉาก ทรงสามเหลย่ี ม (5) การคัดแยก การจดั กลุม่ และจาแนก (4) การเล่นกับส่อื ต่างๆทเ่ี ปน็ ทรงกลม (5) การคดั แยก การจัดกลุ่ม และจาแนก สง่ิ ต่างๆ ตามลักษณะและรูปรา่ งรูปทรง ทรงสเ่ี หล่ยี มมมุ ฉาก ส่ิงตา่ งๆ ตามลักษณะและรปู รา่ งรปู ทรง (6) การต่อของชิ้นเลก็ เติมในชิน้ ใหญ่ (5) การคัดแยก การจดั กลุ่ม และจาแนก (8) การนบั และแสดงจานวนสิง่ ตา่ งๆ ให้สมบูรณแ์ ละการแยกช้นิ สว่ น ส่ิงตา่ งๆ ตามลักษณะและรูปรา่ งรูปทรง ในชวี ิตประจาวนั (8) การนับและแสดงจานวนสงิ่ ต่างๆ (8) การนับและแสดงจานวนส่งิ ต่างๆ (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทียบและ ในชีวิตประจาวนั ในชีวติ ประจาวัน การเรยี งลาดบั ส่ิงต่างๆ ตามลักษณะ (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทียบ และ (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทียบ และ 1.4.3 จินตนาการและความคิด การเรยี งลาดบั สิ่งตา่ งๆ ตามลักษณะ การเรียงลาดบั สิ่งตา่ งๆ ตามลักษณะ สรา้ งสรรค์ 1.4.3 จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ 1.4.3 จินตนาการและความคิด (1) การรับร้แู ละแสดงความคิดความรู้สกึ (1) การรับรแู้ ละแสดงความคิดความร้สู ึก สรา้ งสรรค์ ผา่ นสือ่ วสั ดุ ของเลน่ และชิ้นงาน ผา่ นสื่อ วัสดุ ของเลน่ และช้นิ งาน (1) การรับรู้และแสดงความคิด (2) การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ (2) การแสดงความคิดสร้างสรรคผ์ า่ นภาษา ความรู้สึกผ่านส่ือ วสั ดุ ของเล่นและ ผ่านภาษา ทา่ ทาง การเคล่อื นไหว ท่าทาง การเคลอื่ นไหว ชิน้ งาน (3) การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใชร้ ูปรา่ ง (3) การสรา้ งสรรคช์ น้ิ งานโดยใชร้ ปู รา่ ง (2) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ รปู ทรง รปู ทรง ผ่านภาษา ทา่ ทาง การเคลื่อนไหว 1.4.4 เจตคติท่ีดตี ่อการเรียนรแู้ ละ (3) การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใช้รูปร่าง การแสวงหาความรู้ รปู ทรง (1) การสารวจสงิ่ ต่างๆ และแหล่งเรยี นรู้ 1.4.4 เจตคติทีด่ ีต่อการเรียนรู้และ รอบตัว การแสวงหาความรู้ (1) การสารวจสงิ่ ต่างๆ และแหลง่ เรยี นรู้ รอบตวั
รายการ อนบุ าลปีท่ี 1 อนุบาลปที ี่ 2 อนบุ าลปีที่ 3 คณิตศาสตร์ 1. นบั และแสดงจานวน 1 – 4 1. การนบั และแสดงจานวน 9 1. นบั และแสดงจานวน 14 วทิ ยาศาสตร์ 2. ระบตุ วั เลขฮินดูอารบิกแสดงจานวน 2. เปรียบเทียบบอกความเหมอื น 2. เปรยี บเทียบจานวนสิ่งตา่ งๆ สองกล่มุ พัฒนาการทางภาษาและ ของส่งิ ตา่ งๆ ตัง้ แต่ 1 – 5 ความต่างของลักษณะสงิ่ ของสองสิ่ง แตล่ ะกลุ่มมจี านวนไมเ่ กนิ 14 การร้หู นงั สือ 3. จับคสู่ ิง่ ตา่ งๆ ตามลกั ษณะทีส่ มั พันธก์ นั เชน่ สี รูปร่าง ผวิ สัมผสั 3. เรยี งลาดบั ความยาว หรอื ความสูง สว่ นประกอบ หรอื ตามทก่ี าหนด 3. เปรียบเทียบความยาวหรือความสูง นา้ หนกั หรือปริมาตรของสิ่งของ 4. แสดงส่ิงต่างๆ ในชวี ิตประจาวันที่เหมือน ของสิง่ ของสองส่ิงทม่ี ีความยาว แต่ละชนิดตั้งแต่ 3 สิง่ ข้นึ ไป ความสูงแตกตา่ งกนั ชัดเจน 4. จาแนกทรงกลม ทรงสีเ่ หลี่ยมมุมฉาก หรือคลา้ ยทรงกลม ที่กาหนดให้ 4. จาแนกทรงกลม ทรงส่เี หลี่ยมมมุ ฉาก ทรงสามเหลย่ี ม 1. ทกั ษะการสังเกต 1. ทกั ษะการสงั เกต 1. ทกั ษะการสังเกต 2. ทกั ษะการจาแนกประเภท 2. ทักษะการจาแนกประเภท 2. ทักษะการจาแนกประเภท 3. อธบิ ายเชื่อมโยงสาเหตแุ ละผลท่ีเกิดขึ้น ในเหตุการณห์ รือการกระทา 1. การฟังและปฏิบตั ิตามคาส่ัง 1. การฟงั และปฏบิ ัติตามคาสั่ง 1. การฟังและปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาแนะนา 2. การฟงั เพลง นทิ าน คาคล้องจอง หรือ คาแนะนา 2. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจอง เรือ่ งราวตา่ งๆ 2. การฟงั เพลง นิทาน คาคล้องจอง บทรอ้ ยกรองหรือเร่ืองราวต่างๆ 3. การพูดแสดงความคดิ เห็น ความรสู้ ึกและ หรอื เรอ่ื งราวต่างๆ 3. การพดู แสดงความคดิ เหน็ ความรู้สกึ ความตอ้ งการ 3. การพูดแสดงความคดิ เหน็ ความร้สู กึ และความต้องการ และความต้องการ 4. การพูดอธบิ ายเกย่ี วกบั สงิ่ ของ เหตุการณ์ 4. การพูดอธิบายเกีย่ วกับสงิ่ ของ และความสมั พันธ์ของสิ่งต่างๆ เหตุการณ์ และความสมั พันธ์ ของสิ่งต่างๆ
หน่วยการจัดประสบการณ์ที่ 28 ขนาด รปู ร่าง รูปทรง ชั้นอนบุ าลปที ่ี 3 แนวคิด ทรงสามเหลย่ี มมีอยู่รอบตวั เราสามารถพบเหน็ ได้ในชีวิตประจาวันมีดา้ น 3 ดา้ น มมี ุม 3 มมุ เช่น กรอบพระกรอบรปู กลอ่ งใส่ของหนา้ จว่ั บ้านหมอนอิงนาฬิกา ระฆังเคาะจังหวะ และไม้บล็อกทรงสามเหลี่ยมซึ่งมขี นาดทีแ่ ตกต่างกัน ทรงสามเหลีย่ มมปี ระโยชน์สามารถนาไปออกแบบสรา้ งสิง่ ของเครื่องใชต้ ่างๆ และสรา้ งของเล่นได้ มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ 1. เล่น ทากจิ กรรมและปฏิบัติ ประสบการณส์ าคญั มาตรฐานท่ี 1 ต่อผู้อืน่ อยา่ งปลอดภยั ได้ 1.3 รกั ษาความ 1.3.1 เลน่ ทากิจกรรม 1.1.1 การใช้กลา้ มเนื้อใหญ่ 1. ลกั ษณะวสั ดุ ร่างกาย 2. วิง่ หลบหลกี ส่ิงกีดขวางได้ เจริญเตบิ โต ปลอดภัยของ และปฏิบัติตอ่ ผู้อนื่ อย่าง อย่างคล่องแคลว่ (๒) การเคลอ่ื นไหวเคล่ือนท่ี ทรงสามเหล่ียม ตามวยั และมี ตนเองและผอู้ นื่ ปลอดภัย (5)การเลน่ เคร่ืองเล่นสนามอยา่ งอสิ ระ 2. วัสดุ สุขนสิ ัยที่ดี 1.1.5 การตระหนกั ร้เู ก่ียวกับรา่ งกาย ทรงสามเหลี่ยม ตนเอง รอบตัวเรา (1) การเคลอื่ นไหวโดยควบคุมตนเองไปใน 3. เปรียบเทียบ ทิศทาง ระดบั และพ้ืนท่ี ความเหมือน 1.2.2 การเลน่ ความตา่ งของ (๑) การเล่นอสิ ระ วัสดทุ รงกลม (2) การเล่นรายบุคคลกลุ่มย่อย และ ทรงสเ่ี หล่ยี ม กลุม่ ใหญ่ และทรงสามเหลยี่ ม (๔) การเล่นนอกหอ้ งเรียน 4. จาแนกวัสดุ มาตรฐานที่ 2 2.1 เคลื่อนไหว 2.1.3 วิง่ หลบหลกี 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนื้อใหญ่ ทรงกลม กลา้ มเนอื้ ใหญ่ รา่ งกายอย่าง สิ่งกีดขวางไดอ้ ย่าง และกล้ามเนื้อ คล่องแคลว่ คล่องแคล่ว (2) การเคล่ือนไหวเคล่ือนท่ี ทรงส่เี หลย่ี ม เลก็ แข็งแรง ประสานสมั พันธ์ ใชไ้ ดอ้ ย่าง และทรงตวั ได้ 1.1.5 การตระหนกั รเู้ กีย่ วกับรา่ งกาย ทรงสามเหล่ยี ม คลอ่ งแคล่วและ ตนเอง และรูปวงกลม ประสานสัมพนั ธ์ (1) การเคลือ่ นไหวโดยควบคุมตนเอง รูปสีเ่ หลย่ี ม รูปสามเหล่ียม ไปในทิศทาง ระดบั และพน้ื ที่ (2) การเคลื่อนไหวขา้ มสิ่งกดี ขวาง
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ กัน 1.2.2 การเล่น 5. ประโยชน์ของ 2.2. ใช้มือ–ตา 2.2.1 ใชก้ รรไกรตดั 3. ใช้กรรไกรตัดกระดาษตาม (๔) การเลน่ นอกห้องเรยี น ทรงสามเหลย่ี ม มาตรฐานที่ 4 6. นับและแสดง ช่ืนชมและ ประสานสมั พันธ์ กระดาษตามแนวเส้นโคง้ ได้ แนวเสน้ โคง้ ได้ 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนอื้ เลก็ จานวน 14 แสดงออกทาง (2) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี 7. เปรยี บเทียบ ศิลปะ ดนตรี กนั (5) การหยบิ จบั การใช้กรรไกร การฉีก จานวนสง่ิ ต่างๆ และการ การตดั การปะ และการร้อยวัสดุ สองกลมุ่ แต่ละกลุ่ม เคล่ือนไหว ๒.๒.2 เขียนรปู สามเหลยี่ ม 4. เขยี นรูปสามเหลีย่ มตามแบบได้ 1.2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี มจี านวนไม่เกิน 14 (5) การทากิจกรรมศลิ ปะต่างๆ 8. เรยี งลาดับ ตามแบบไดอ้ ย่างมีมุมชดั เจน อยา่ งมีมมุ ชัดเจน 1.4.1 การใช้ภาษา ความยาว หรือ (19) การเห็นแบบอยา่ งของการเขยี น ความสงู นา้ หนัก 2.2.3 ร้อยวัสดทุ ม่ี รี ขู นาด 5. ร้อยวัสดทุ ่ีมรี ขู นาด ทีถ่ กู ต้อง หรอื ปริมาตร ของส่งิ ของแต่ละชนดิ เสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง เส้นผา่ นศนู ย์กลาง 1.1.2 การใช้กล้ามเนือ้ เล็ก ตง้ั แต่ 3 สิ่งขึ้นไป (2) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี 9. จาแนกทรงกลม 0.25 เซนติเมตรได้ 0.25 เซนติเมตรได้ (3) การป้นั ทรงสเ่ี หล่ยี มมมุ ฉาก 1.2.1 สุนทรีภาพ ดนตรี ทรงสามเหลย่ี ม 4.1 สนใจมี 4.1.1 สนใจ มคี วามสุข 6. สนใจ มคี วามสุขและแสดงออก (5) การทากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ ความสขุ และ และแสดงออกผา่ นงาน ผ่านงานศิลปะได้ แสดงออกผา่ น ศิลปะ งานศิลปะ ดนตรี และการ เคลือ่ นไหว มาตรฐานที่ ๕ ๕.๔ มีความ ๕.๔.๑ ทางานทีไ่ ด้รบั 7. ทางานที่ได้รบั มอบหมายจน 1.1.2 การใช้กล้ามเนอ้ื เล็ก มีคณุ ธรรม รับผดิ ชอบ มอบหมายจนสาเร็จดว้ ย สาเร็จดว้ ยตนเองได้ (๔) การประดิษฐส์ งิ่ ต่างๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ จรยิ ธรรม และ ตนเอง (5) การหยบิ จบั การใชก้ รรไกร การฉีก มีจติ ใจที่ดงี าม การตัด การปะ และการรอ้ ยวัสดุ
มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพที่พึงประสงค์ 8. เกบ็ ของเล่นของใชเ้ ขา้ ท่ี ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 6 อยา่ งเรียบร้อยดว้ ยตนเองได้ 1.2.2 การเลน่ มที ักษะชีวิตและ 6.2 มีวนิ ัย 6.2.1 เกบ็ ของเลน่ ของใช้ (2) การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย 9. เลน่ หรอื ทางานรว่ มมือกบั เพื่อน และกลุ่มใหญ่ ปฏบิ ตั ิตนตาม ในตนเอง เข้าท่ีอยา่ งเรียบร้อย อย่างมีเป้าหมายได้ (3) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์/มุมเลน่ ต่างๆ หลักปรชั ญา ด้วยตนเอง 1.2.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ เศรษฐกจิ (2) การเลน่ บทบาทสมมติ 1.3.4 การมีปฏิสัมพนั ธ์มีวินัยมีส่วนรว่ ม พอเพียง และบทบาทสมาชิกของสังคม (4) การดูแลห้องเรยี นร่วมกนั มาตรฐานท่ี 8 8.2 มี 8.2.1 เลน่ หรือทางาน 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ อยรู่ ว่ มกับผอู้ ่ืนได้ ปฏสิ มั พนั ธท์ ่ีดี รว่ มมือกบั เพ่ือนอย่างมี เชิงเหตผุ ล การตัดสินใจและแก้ปัญหา อยา่ งมีความสุข กับผอู้ ื่น เปา้ หมาย (4) การเลน่ กบั สอ่ื ตา่ งๆท่ีเป็นทรงกลม และปฏิบัติตน ทรงสี่เหล่ยี มมุมฉาก ทรงสามเหลี่ยม เป็นสมาชกิ ท่ีดี ของสังคมใน 1.3.2 การดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละ ระบอบ สงิ่ แวดล้อม ประชาธิปไตย (3) การทางานศลิ ปะท่นี าวัสดุ อันมี หรอื สิง่ ของเคร่ืองใชท้ ใี่ ชแ้ ล้ว มาใชซ้ ้า พระมหากษัตรยิ ์ หรอื แปรรปู แลว้ นากลับมาใช้ใหม่ ทรงเปน็ ประมขุ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ (1) การรับรู้และแสดงความคิดความรสู้ ึก ผ่านสอื่ วสั ดุ ของเล่นและชิน้ งาน (3) การสรา้ งสรรคช์ ้นิ งานโดยใช้รูปรา่ ง รปู ทรง
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพท่พี ึงประสงค์ 10. บอกลักษณะ ส่วนประกอบ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 10 การเปล่ียนแปลงหรือความสัมพันธ์ 1.4.1 การใชภ้ าษา มคี วามสามารถ 10.1 มี 10.1.1 บอกลกั ษณะ ของสง่ิ ต่างๆจากการสังเกต (6) พดู อธิบายเกีย่ วกับสิ่งของ เหตกุ ารณ์ โดยใช้ประสาทสมั ผสั ได้ และความสัมพันธข์ องส่งิ ต่างๆ ในการคดิ ทีเ่ ป็น ความสามารถใน สว่ นประกอบ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคิด 11. จับคูแ่ ละเปรียบเทียบความ เชงิ เหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา พน้ื ฐานใน การคดิ รวบยอด การเปลี่ยนแปลงหรอื แตกต่างและความเหมือนของสิง่ ตา่ งๆ (1) การสังเกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การเรียนรู้ โดยใช้ลักษณะทีส่ ังเกตพบ2ลกั ษณะ ของสงิ่ ตา่ งๆ โดยใช้ประสาทสัมผสั ความสมั พันธข์ องสิ่งตา่ งๆ ขึ้นไปได้ อย่างเหมาะสม 12. การนับและแสดง 1.4.3 จินตนาการและความคดิ จากการสงั เกตโดยใช้ จานวน 1 - 14 สร้างสรรค์ (1) การรบั รแู้ ละแสดงความคิดความรสู้ ึก ประสาทสัมผัส ผา่ นสือ่ วสั ดุ ของเลน่ และชนิ้ งาน 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรยี นรแู้ ละการ 10.1.2จับคูแ่ ละเปรยี บเทียบ แสวงหาความรู้ ความแตกตา่ งและความเหมอื น (1) การสารวจส่งิ ต่างๆ และแหล่งเรียนรู้ ของสงิ่ ตา่ งๆโดยใช้ลกั ษณะท่ี รอบตัว สงั เกตพบ2ลกั ษณะขน้ึ ไป 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิด เชิงเหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา (8) การนับและแสดงจานวนส่ิงของต่างๆ ในชีวิตประจาวนั (13) การจบั คู่ การเปรียบเทียบ และ การเรียงลาดบั ส่งิ ตา่ งๆ ตามลักษณะ 1.4.1 การใช้ภาษา (18) การเล่นเกมทางภาษา
มาตรฐาน มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ตัวบง่ ช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคิด 10.1.3 จาแนกและจัดกลมุ่ 13. จาแนกและจดั กลมุ่ สิง่ ต่างๆ เชิงเหตุผล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา (1) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบ สง่ิ ต่างๆ โดยใช้ตงั้ แต่ โดยใช้ต้ังแต่ 2 ลักษณะขน้ึ ไป ของส่ิงตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผัส อยา่ งเหมาะสม 2 ลกั ษณะขึน้ ไปเป็นเกณฑ์ เป็นเกณฑไ์ ด้ (5) การคัดแยก การจดั กลุ่ม และจาแนก สง่ิ ต่างๆ ตามลกั ษณะและรูปรา่ งรปู ทรง 10.1.4 เรียงลาดับสง่ิ ของ 14. เรียงลาดับสิ่งของและ (8) การนับและแสดงจานวนสิ่งของต่างๆ และเหตุการณ์อย่างน้อย เหตกุ ารณ์อย่างน้อย 5 ลาดับได้ ในชีวติ ประจาวัน 5 ลาดับ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิด เชงิ เหตุผล การตัดสินใจและแกป้ ญั หา (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทียบ และ การเรยี งลาดับส่งิ ตา่ งๆ ตามลักษณะ มาตรฐานท่ี 11 11.2. แสดง 11.2.1 เคลื่อนไหวท่าทาง 15. เคล่ือนไหวท่าทาง เพ่อื ส่ือสาร 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนื้อใหญ่ เพือ่ สื่อสารความคิด ความคดิ ความร้สู กึ ของตนเอง (2) การเคล่ือนไหวเคล่ือนท่ี มจี นิ ตนาการและ ท่าทาง/ ความร้สู ึกของตนเอง อยา่ งหลากหลายและแปลกใหม่ได้ (3) การเคล่ือนไหวพร้อมอุปกรณ์ อยา่ งหลากหลายและ 1.1.5 การตระหนกั รู้เกย่ี วกับร่างกาย ความคิด เคล่ือนไหวตาม แปลกใหม่ ตนเอง (1) การเคล่อื นไหวโดยควบคุมตนเอง สรา้ งสรรค์ จินตนาการ ไปในทิศทาง ระดับและพื้นที่ 1.2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี อย่างสรา้ งสรรค์ (3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี 1.2.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (4) การรอ้ งเพลง
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพท่พี ึงประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ 1.4.3 จินตนาการและ ความคิดสร้างสรรค์ (2) การแสดงความคิดสร้างสรรคผ์ ่าน ภาษา ทา่ ทาง การเคล่ือนไหว
ผงั ความคิดแผนการจัดประสบการณ์หนว่ ยขนาด รปู ร่าง รูปทรง ชน้ั อนุบาลปีท่ี 3 ๑. กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ ๒. กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ ๓. กจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ 1. เคลอื่ นไหวร่างกายตามสญั ญาณ 1. ลักษณะวัสดุทรงสามเหลย่ี ม 1. พบั กระดาษเป็นรปู บา้ นและปั้นดินน้ามัน เคาะจงั หวะ 2. วัสดุทรงสามเหล่ยี มรอบตัวเรา ทรงสามเหล่ยี ม 3. เปรยี บเทยี บความเหมอื น ความตา่ งของวสั ดุ 2. เคลือ่ นไหวรา่ งกายและทาท่าทาง 2. วาดรูปสามเหล่ยี มตามแบบทก่ี าหนดให้และ ประกอบเพลง สามเหลย่ี มสเ่ี หล่ยี มวงกลม ทรงกลม ทรงสเี่ หลี่ยม และทรงสามเหลี่ยม ต่อเตมิ รูปสามเหล่ียมตามจินตนาการ 4. จาแนกวสั ดทุ รงกลม ทรงส่ีเหล่ยี ม ทรงสามเหล่ยี ม 3. เคลือ่ นไหวรา่ งกายพร้อมบัตรภาพ 3. การทาศลิ ปะแบบร่วมมือโดยตดั รูปวงกลม รูปวงกลม รูปสเ่ี หล่ยี ม รูปสามเหลย่ี ม และรปู วงกลม รปู ส่เี หลี่ยม รูปสามเหลีย่ ม รูปส่ีเหลยี่ ม รปู สามเหล่ยี ม และปะตดิ ต่อเติมรูปภาพ 5. ประโยชนข์ องทรงสามเหลี่ยม ตามจนิ ตนาการ 4. เคลือ่ นไหวรา่ งกาย ประกอบคาบรรยาย 5. เคลอ่ื นไหวรา่ งกายตามคาสั่งพรอ้ มอุปกรณ์ หน่วยขนาด 4. การทาศิลปะแบบรว่ มมือ รอ้ ยวสั ดุตามแบบ รปู ร่าง รูปทรง ด้วยเชือก และนามาสรา้ งเป็นโมบาย ไมบ้ ล็อกทรงกลม ทรงสเ่ี หล่ียม ชนั้ อนบุ าลปีท่ี 3 ทรงสามเหล่ยี ม 5. สนุกกบั ฟองสบู่ และเปา่ ฟองสบสู่ ีบนกระดาษ ๕. กิจกรรมกลางแจง้ ๖. กจิ กรรมเกมการศึกษา 1. เลน่ เครือ่ งเล่นสนาม ๔. กจิ กรรมเล่นตามมุม 1. เกมจับคู่ภาพซ้อนรูปวงกลม สีเ่ หล่ียม สามเหลยี่ ม กบั ภาพเงา 2. เกมว่งิ หลบหลีกสิ่งกดี ขวาง การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ 2. เกมจดั กลุม่ รูปวงกลม รูปสี่เหล่ียม รปู สามเหล่ียม และวสั ดทุ รงกลม 3. เล่นนา้ เล่นทราย 4. เกมว่ิงหลบหลีกส่ิงกีดขวางและเก็บ ทรงสีเ่ หลี่ยม ทรงสามเหลย่ี ม 3. เกมเรยี งลาดบั ขนาด ทรงกลม ทรงสเ่ี หลี่ยม ทรงสามเหลย่ี ม ไมบ้ ล็อกใสต่ ะกร้า 4. เกมจดั หมวดหมภู่ าพกับสญั ลักษณ์ 5. เล่นเครือ่ งเล่นสนาม 5. เกมนับและแสดงจานวน 1 - 14
การวางแผนกจิ กรรมรายหน่วยการจัดประสบการณ์ ชั้นอนบุ าลปีที่ 3 หน่วยขนาด รูปร่าง รปู ทรง วนั ท่ี เคลอื่ นไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ กิจกรรม เลน่ ตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา 1 - เคล่ือนไหวพน้ื ฐาน - ลกั ษณะวสั ดุทรง ศิลปะสรา้ งสรรค์ - เล่นตามมมุ - เล่นเครื่องเลน่ - เกมจบั คู่ภาพซ้อนรูป สามเหล่ยี ม - พบั กระดาษเป็นรปู บา้ น ประสบการณ์ สนาม วงกลม สี่เหลย่ี ม - เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย - ปั้นดินน้ามัน สามเหลย่ี ม กับภาพเงา ตามสญั ญาณเคาะจังหวะ - วสั ดทุ รงสามเหล่ยี ม ทรงสามเหลย่ี ม - เล่นตามมุม - เกมวิ่งหลบหลกี สิง่ 2 - เคล่ือนไหวพน้ื ฐาน รอบตัวเรา ประสบการณ์ กีดขวาง - เกมจดั กลมุ่ รปู วงกลม - เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย และทา - วาดรปู สามเหลีย่ มตาม รปู สีเ่ หลย่ี ม ทา่ ทางประกอบเพลง แบบท่กี าหนดให้ - เลน่ น้า เลน่ ทราย รปู สามเหล่ยี ม และวัสดุ สามเหลี่ยมส่เี หลย่ี มวงกลม - ต่อเติมรปู สามเหลี่ยม ทรงกลม ทรงส่เี หล่ียม ตามจนิ ตนาการ ทรงสามเหล่ียม 3 - เคลือ่ นไหวพื้นฐาน - เปรยี บเทยี บความเหมือน - การทาศลิ ปะแบบร่วมมือ - เล่นตามมมุ - เกมเรียงลาดบั ขนาด ทรงกลม ทรงสเ่ี หลี่ยม - เคล่ือนไหวร่างกายพร้อม ความตา่ งของวัสดทุ รงกลม โดยตดั รปู วงกลม ประสบการณ์ ทรงสามเหลีย่ ม บัตรภาพ รูปวงกลม ทรงสเ่ี หลย่ี ม รปู สี่เหลีย่ ม รูปสามเหลีย่ ม รปู ส่ีเหล่ยี ม รูปสามเหลี่ยม และทรงสามเหลย่ี ม และปะติดตอ่ เติมรูปภาพ 4 - เคลื่อนไหวพน้ื ฐาน ตามจนิ ตนาการ - จาแนกวสั ดทุ รงกลม - การทาศลิ ปะแบบร่วมมือ - เลน่ ตามมุม - เกมวงิ่ หลบหลกี สิ่ง - เกมจัดหมวดหมูภ่ าพ กดี ขวางและเก็บไม้ กบั สัญลักษณ์ - เคลื่อนไหวร่างกาย ทรงส่เี หลี่ยม ทรงสามเหลยี่ ม รอ้ ยวัสดตุ ามแบบดว้ ยเชอื ก ประสบการณ์ บลอ็ กใส่ตะกรา้ ประกอบคาบรรยาย และรูปวงกลม รปู ส่ีเหล่ียม และนามาสร้างเป็นโมบาย 5 - เคลอ่ื นไหวพนื้ ฐาน รปู สามเหลี่ยม - ประโยชน์ของ - สนุกกับฟองสบู่ - เลน่ ตามมมุ - เล่นเคร่อื งเล่น - เกมนับและแสดง สนาม จานวน 1 - 14 - เคลื่อนไหวร่างกายตามคาสง่ั ทรงสามเหลย่ี ม - เป่าฟองสบสู่ ีบนกระดาษ ประสบการณ์ พรอ้ มอุปกรณ์ ไม้บลอ็ กทรงกลม ทรงสเ่ี หลีย่ ม ทรงสามเหลยี่ ม
แผนการจัดประสบการณชั้นอนุบาล ๓ หนว ยที่ ๒๘ ขนาด รูปรา ง รปู ทรง สัปดาหท ี่ ๒๘ ครัง้ ที่ ๑ วนั ท่ี................เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้ 1. กจิ กรรมพื้นฐานใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายไปท่วั ๆ 1. เครือ่ งเคาะจงั หวะ สงั เกต กิจกรรม เคล่ือนไหวและ (2) การเคล่ือนไหว บริเวณอย่างอิสระตามจังหวะเพลงดนตรีบรรเลง 2. เพลง/ดนตรี การเคลื่อนไหวทา่ ทาง จังหวะ เคลอื่ นท่ี เคลือ่ นไหวทา่ ทาง (1) การเคลอ่ื นไหว เมอื่ ไดย้ ินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลอ่ื นไหวในท่าน้ัน บรรเลง เพ่อื สื่อสารความคิด เพอื่ สื่อสาร โดยควบคมุ ตนเอง ความคดิ ความรสู้ กึ ไปในทิศทาง ระดับ ทนั ที 3. รูปสามเหล่ียม ความรสู้ ึกของตนเอง ของตนเองอย่าง และพน้ื ท่ี หลากหลายและ (3) การเคล่ือนไหว 2. ครนู าภาพสามเหลีย่ มดา้ นเท่า (ดา้ นละ 1 เมตร) ด้านเท่า อยา่ งหลากหลาย แปลกใหม่ได้ ตามเสียงเพลง/ดนตรี (2) การแสดงความคดิ จานวนตามความเหมาะสมกับจานวนนกั เรยี น (ด้านละ 1 เมตร) และแปลกใหม่ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา ท่าทางการเคลื่อนไหว ไปตดิ ไว้ท่ีพนื้ ในบรเิ วณห้องเรียนหลายๆ รปู 3. เด็กเคลือ่ นไหวรา่ งกายตามจนิ ตนาการรอบๆ ห้องเรียนตามจังหวะการเคาะ จงั หวะช้า เร็ว โดยระวังไมใ่ หเ้ หยยี บภาพและเมื่อไดย้ นิ เสยี ง สัญญาณหยุดใหเ้ ด็กเขา้ ไปอยู่ในรปู สามเหลีย่ ม แล้วนับจานวนเดก็ ทอ่ี ยใู่ นรูปสามเหลยี่ ม สามเหลี่ยมไหนที่มีจานวนเดก็ อยมู่ ากท่ีสดุ และนอ้ ยทส่ี ดุ 4. เด็กปฏบิ ตั ิตามข้อ 3 ซา้ 2 - 3 คร้งั 5. หลงั ปฏิบตั ิกิจกรรมเสรจ็ แลว้ เด็กพักผอ่ นอริ ยิ าบถ เพือ่ เตรยี มปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่อไป กิจกรรมเสริม (1) การสงั เกต ลักษณะทรงสามเหล่ียม 1. ครูนาส่งิ ของท่ีมลี ักษณะเป็นทรงสามเหลยี่ มมาให้ วสั ดทุ รงสามเหล่ยี ม สังเกต ประสบการณ์ การบอกลกั ษณะ บอกลกั ษณะ ลกั ษณะ สว่ นประกอบ ลกั ษณะวสั ดุ เด็กสังเกต กลุ่มละ 1 ชดุ เช่น ระฆังเคาะจังหวะ กลมุ่ ละ 1 ชุด สว่ นประกอบ สว่ นประกอบ การเปล่ียนแปลงหรือ การเปลย่ี นแปลง ของสิง่ ตา่ งๆ โดยใช้ ทรงสามเหล่ยี ม จะมี ไม้บล็อกทรงสามเหล่ียม ประกอบด้วย ความสมั พันธข์ องสง่ิ ตา่ งๆ ประสาทสัมผสั ด้าน 3 ดา้ น 2. เด็กทุกคนสงั เกตโดยใช้มอื ลูบคลาวา่ วัสดุมีลกั ษณะ -ระฆังเคาะจังหวะ อย่างเหมาะสม มีมุม 3 มุม เชน่ อยา่ งไร และตอบคาถามดังน้ี
จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ เรยี นรู้ - ไม้บล็อก จากการสงั เกตโดยใช้ หรือความสัมพันธ์ (1) การรบั รแู้ ละแสดง กรอบพระกรอบรปู - ระฆงั เคาะจงั หวะและไมบ้ ล็อกทรงสามเหลีย่ ม ทรงสามเหล่ียม ประสาทสมั ผัส ของสิง่ ตา่ งๆจาก (หรือวสั ดุอื่นๆ การสังเกตโดยใช้ ความคดิ ความรู้สกึ กล่องใสข่ อง หนา้ จว่ั บา้ น มีลกั ษณะเหมือนกนั หรือตา่ งกนั อย่างไร ทรงสามเหลย่ี ม ประสาทสมั ผสั ได้ ตามบรบิ ทของ ผ่านสอื่ วัสดุ ของเล่น หมอนองิ นาฬิกา - มสี ีอะไรบ้าง โรงเรียน) และชิ้นงาน ระฆงั เคาะจังหวะ - ผิวสัมผสั เป็นอยา่ งไร และไม้บล็อกทรงสามเหลีย่ ม 3. ครูและเด็กรว่ มกันสรุปลกั ษณะของวัสดุ ทรงสามเหล่ยี มท้ัง 2 ชนิด วา่ มลี กั ษณะรปู ทรง สี ผิวสัมผัสและประเภทวัสดุเหมือนกนั หรือตา่ งกัน อย่างไร กจิ กรรมศิลปะ (3) การป้ัน 1. ครูเตรียมอุปกรณก์ ิจกรรม 2 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ 1. กระดาษสี่เหลย่ี ม สังเกต จตุรสั ความสนใจ มีความสขุ สรา้ งสรรค์ (5) การทากจิ กรรม พับกระดาษเป็นรูปบ้านและป้ันดนิ น้ามนั 2. ดินนา้ มัน และแสดงออกผ่านงาน ศลิ ปะ สนใจ มีความสขุ ศิลปะต่างๆ ทรงสามเหลีย่ ม และแสดงออกผ่าน 2. ครแู นะนาอุปกรณ์ วิธกี ารปฏบิ ตั แิ ละข้อตกลง งานศลิ ปะได้ ในการปฏิบัตกิ ิจกรรม 3. ครูสาธติ การพับกระดาษเป็นรูปบา้ น 4. เดก็ ทากจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์ทัง้ 2 กจิ กรรม ตามความสนใจ 5. เดก็ ร่วมกันเก็บอุปกรณ์และนาเสนอผลงาน กิจกรรมเล่น (2) การเล่นรายบุคคล 1. ครแู นะนากจิ กรรมตามมุมประสบการณ์ มมุ ประสบการณ์ สงั เกต ในหอ้ งเรียน การเก็บของเล่นของใช้ ตามมุม กลุม่ ย่อยและกลุ่มใหญ่ 2. เด็กเลือกกจิ กรรมเลน่ ตามมุมประสบการณ์ เขา้ ที่อยา่ งเรียบร้อย ด้วยตนเอง เกบ็ ของเล่นของใช้ (3) การเล่นตามมุม ตามความสนใจซ่ึงควรจัดไวอ้ ยา่ งนอ้ ย ๔ มุม เช่น เข้าท่ีอยา่ ง ประสบการณ์/มมุ เลน่ - มมุ หนังสอื - มมุ บลอ็ ก เรยี บร้อยด้วย ต่างๆ - มุมเกมการศึกษา - มุมบทบาทสมมติ ตนเองได้ (2) การเลน่ บทบาท - มมุ เครือ่ งเล่นสัมผสั - มมุ ธรรมชาติศกึ ษา สมมติ 3. เมื่อหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ทีใ่ ห้เรียบร้อย
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ (4) การดแู ลห้องเรยี น ร่วมกนั (4) การเล่นกับ ส่ือต่างๆทเ่ี ปน็ ทรงกลม ทรงสเี่ หล่ยี มมมุ ฉาก ทรงสามเหลยี่ ม กิจกรรมกลางแจ้ง (2) การเคล่ือนไหว 1. ครแู นะนาข้อตกลงในการเลน่ เคร่อื งเล่นสนาม เครอ่ื งเล่นสนาม สังเกต แตล่ ะชนดิ พร้อมท้ังแนะนาวธิ กี ารเลน่ อยา่ งปลอดภัย การเล่น ทากจิ กรรม เลน่ ทากิจกรรม เคลอื่ นท่ี 2. เดก็ เลน่ เครื่องเลน่ สนามโดยมีครดู ูแลอย่างใกลช้ ดิ และปฏบิ ัติต่อผู้อ่นื 3. เมื่อครูใหส้ ัญญาณหมดเวลาเด็กเข้าแถว อย่างปลอดภยั ได้ และปฏบิ ัติตอ่ ผู้อ่ืน (5) การเล่น ทาความสะอาดรา่ งกายก่อนเขา้ ชน้ั เรียน อยา่ งปลอดภัยได้ เครือ่ งเล่นสนาม อยา่ งอิสระ (๑) การเลน่ อสิ ระ (2) การเล่นรายบุคคล กลมุ่ ยอ่ ยและกลุ่มใหญ่ (๔) การเล่น นอกห้องเรยี น เกมการศกึ ษา (13) การจับคู่ ภาพเหมือนรปู วงกลม 1. ครูแนะนาอุปกรณ์พรอ้ มทั้งสาธิตวธิ ีการเลน่ 1. เกมการศึกษา สงั เกต เกมการศึกษาเกมจบั คภู่ าพซ้อนรปู วงกลม จบั คแู่ ละเปรยี บเทียบ การเปรยี บเทียบและ รูปสเี่ หล่ยี ม รปู สเี่ หล่ียม รปู สามเหล่ยี มกบั ภาพเงา เกมจบั คู่ภาพซ้อนรูป การจบั คู่และเปรยี บเทยี บ 2. แบ่งเด็กเป็นกลุ่มตามความเหมาะสม ใหเ้ ด็ก ความแตกตา่ งและ การเรียงลาดับสิ่ง รปู สามเหลีย่ ม 1 กลมุ่ รบั เกมท่ีแนะนาใหม่ไปเล่น กลุ่มอืน่ ๆ เลน่ วงกลม รูปสี่เหลยี่ ม ความแตกต่างและความเหมอื น เกมการศึกษาชดุ เดิม ความเหมือน ตา่ งๆ ตามลกั ษณะ กับเงาของภาพ 3. เด็กเล่นเกมโดยหมุนเวียนสลับเปลย่ี นกันใน รูปสามเหล่ียมกับ ของสิ่งตา่ งๆโดยใชล้ กั ษณะที่ แตล่ ะกล่มุ โดยทกุ กลุ่มตอ้ งไดเ้ ลน่ เกมการศึกษา ของสิ่งต่างๆ โดยใช้ ภาพเงา สงั เกตพบ2ลักษณะขนึ้ ไป ลักษณะท่สี งั เกตพบ 2. เกมการศึกษาชดุ 2ลกั ษณะขน้ึ ไปได้ อ่ืนๆที่เคยเลน่ มาแล้ว
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ เกมจบั คู่ภาพซ้อนรูปวงกลม รูปสี่เหลยี่ ม รปู สามเหลย่ี มกบั ภาพเงา 4. เด็กเก็บเกมการศึกษาเขา้ ที่หลังเลกิ เลน่ แลว้
แผนการจัดประสบการณช้ันอนุบาล ๓ หนวยท่ี ๒๘ ขนาด รูปราง รปู ทรง สัปดาหที่ ๒๘ ครั้งที่ ๒ วันท.ี่ ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้ 1. กิจกรรมพนื้ ฐานให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายไป 1. เพลง/ดนตรีบรรเลง สงั เกต กจิ กรรม ท่ัวๆบรเิ วณอย่างอิสระตามเสียงดนตรี เมือ่ ไดย้ นิ 2. เครอ่ื งเคาะจังหวะ การเคลอื่ นไหวทา่ ทาง เคลือ่ นไหวและ (2) การเคล่ือนไหว สัญญาณหยุดให้หยุดเคล่อื นไหวในท่านนั้ ทันที 3. เพลงสามเหลีย่ ม เพื่อสื่อสารความคิด จังหวะ เคลอ่ื นท่ี 2. ครูแนะนาการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเคลอ่ื นไหว สีเหลยี่ ม วงกลม ความรสู้ ึกของตนเองอย่าง เคล่ือนไหวทา่ ทาง (1) การเคลือ่ นไหว ประกอบเพลงสามเหลย่ี ม ส่ีเหลีย่ ม วงกลม หลากหลายและแปลกใหม่ เพื่อส่ือสาร โดยควบคมุ ตนเองไป 3. เด็กรอ้ งเพลงสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม ความคดิ ความรู้สึก ในทิศทาง ระดบั และ ตามครูทีละวรรค 2 – 3 ครง้ั หรือจนกวา่ ของตนเองอย่าง พ้ืนที่ เดก็ สว่ นใหญ่จาได้ หลากหลายและ (3) การเคล่ือนไหว 4. เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายและทาท่าทาง แปลกใหม่ได้ ตามเสียงเพลง/ดนตรี ประกอบเพลง สามเหลี่ยม ส่ีเหลี่ยม วงกลม (4) การรอ้ งเพลง เม่ือเนื้อเพลงร้องคาวา่ สามเหลยี่ ม สี่เหล่ยี ม หรอื (2) การแสดงความคดิ วงกลม ให้ทุกคนทามอื เป็นรูป สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา ตามเน้อื เพลง ทา่ ทางการเคลื่อนไหว 5. เด็กร่วมกันปฏิบัตติ ามข้อ 4 ซา้ 2 – 3 คร้ัง 6. หลงั ปฏิบตั กิ ิจกรรมเสร็จแล้ว เด็กพกั ผ่อน อริ ยิ าบถ เพ่อื เตรียมปฏิบตั กิ จิ กรรมต่อไป
จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ สังเกต กจิ กรรมเสริม การบอกลกั ษณะ ประสบการณ์ (1) การสงั เกต วสั ดทุ รงสามเหล่ียม 1. ครทู บทวนลักษณะของวสั ดุ ทรงสามเหล่ยี มว่า 1. กระดาษ และสว่ นประกอบของ บอกลักษณะ ส่งิ ตา่ งๆจากการสังเกต สว่ นประกอบ ลกั ษณะ สว่ นประกอบ รอบตวั เรา มีดา้ น 3 ด้าน มีมุม 3 มุม 2. สีเทียน โดยใช้ประสาทสมั ผสั การเปลี่ยนแปลง หรือความสมั พันธ์ ของ ส่งิ ต่างๆ โดย วัสดุทรงสามเหลยี่ มท่ี 2. เด็กแตล่ ะกลุ่มสารวจวสั ดสุ ิง่ ของในห้องเรียนว่า 3. วสั ดสุ ิ่งของทีม่ ี ของสง่ิ ตา่ งๆจาก การสงั เกตโดยใช้ ใชป้ ระสาทสมั ผัส เด็กรจู้ ักและคนุ้ เคย มีอะไรบ้างที่มลี กั ษณะทรงสามเหลี่ยมแล้ววาดรูป ทรงสามเหล่ียมและ ประสาทสมั ผสั ได้ อยา่ งเหมาะสม ส่วนใหญจ่ ะเปน็ ของใช้ 3. ครสู นทนากบั เดก็ โดยใช้คาถามดังน้ี ทาจากวสั ดุชนิดต่างๆ (1) การรับรูแ้ ละแสดง และ ของเล่น มีหลาย - สิ่งของทรงสามเหลี่ยมท่ีเด็กๆ สารวจพบ เชน่ พลาสติก ไม้ โลหะ ความคิดความรู้สึก ประเภท บางชนดิ มีชอื่ เรยี กว่าอะไรบา้ ง ผ้า (ตามบริบทของ ผ่านสอ่ื วัสดุ ของเล่น ทาจากพลาสตกิ เช่น - ส่งิ ของแตล่ ะชนดิ มลี ักษณะเหมือนหรอื โรงเรียน) และชน้ิ งาน กรอบพระ กล่องใส่ของ แตกต่างกนั อย่างไร (1) การสารวจ บางชนดิ ทาจากเหล็ก 4. เด็กแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานจากการสารวจ เช่น ระฆงั เคาะจังหวะ ของตนเอง บางชนิดทาจากไม้ เช่น 5. ครแู ละเด็กสรุปความคิดรวบยอดวัสดุสง่ิ ของ ไม้บล็อก หรือทาจากผ้า ทรงสามเหล่ียมทเ่ี ด็กสารวจพบวา่ มีอะไรบา้ ง เชน่ หมอนอิง เรียกชือ่ วา่ อะไร ทาจากวสั ดุเหมือนกันหรือตา่ งกนั อยา่ งไร กจิ กรรมศิลปะ (2) การเขียนภาพ 1. ครเู ตรียมอุปกรณก์ ิจกรรม 2 กิจกรรม ได้แก่ 1. กระดาษวาดภาพ สงั เกต สรา้ งสรรค์ และการเล่นกบั สี การเขียนรปู สามเหล่ยี ม เขียนรูป (5) การทากิจกรรม วาดรูปสามเหล่ียมตามแบบท่ีกาหนดให้ 2. สเี ทยี น ตามแบบไดอ้ ยา่ งมีมุม สามเหล่ียมตาม ศิลปะต่างๆ ชัดเจน แบบได้อย่างมี (19) การเหน็ และตอ่ เตมิ รปู สามเหล่ยี มตามจินตนาการ 3. รูปสามเหลย่ี ม มุมชัดเจน แบบอยา่ งของ การเขียนที่ถกู ต้อง 2. ครแู นะนาอปุ กรณ์ วิธกี ารปฏบิ ัตแิ ละข้อตกลง กระดาษหรือพลาสตกิ ในการปฏิบัตกิ จิ กรรม ขนาดตา่ งๆ และวัสดุ 3. เดก็ ทากิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรคท์ ้ัง 2 กิจกรรม ทรงสามเหลยี่ มเพือ่ ให้ ตามความสนใจ เด็กวาดตามเส้นรอบรูป 4. เดก็ รว่ มกันเกบ็ อุปกรณ์และนาเสนอผลงาน และรอบรูปทรง
จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ สงั เกต เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้ การเก็บของเล่นของใช้ เขา้ ที่อยา่ งเรียบร้อย กจิ กรรมเลน่ (2) การเลน่ รายบุคคล 1. ครูแนะนากิจกรรมตามมมุ ประสบการณ์ มุมประสบการณ์ ด้วยตนเอง ในหอ้ งเรียน ตามมุม กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ 2. เด็กเลือกกจิ กรรมตามมมุ ประสบการณ์ สังเกต การว่ิงหลบหลกี ส่ิงกีดขวาง เก็บของเลน่ ของใช้ (3) การเล่นตามมมุ ตามความสนใจซึ่งควรจัดไวอ้ ยา่ งน้อย ๔ มมุ เช่น ได้อยา่ งคล่องแคลว่ เขา้ ท่ีอย่าง ประสบการณ์/มมุ เลน่ - มุมหนังสือ - มมุ บล็อก เรียบรอ้ ยด้วย ต่างๆ - มุมเกมการศึกษา - มมุ บทบาทสมมติ ตนเองได้ (2) การเลน่ บทบาท - มมุ เครอ่ื งเลน่ สัมผัส - มุมธรรมชาติศกึ ษา สมมติ 3. เม่อื หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ทีใ่ ห้เรยี บร้อย (4) การดูแลห้องเรียน รว่ มกัน (4) การเล่นกับสื่อ ตา่ งๆ ทเ่ี ปน็ ทรงกลม ทรงส่ีเหลยี่ มมุมฉาก ทรงสามเหล่ยี ม กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเคลื่อนไหว 1. เด็กเตรยี มความพร้อมร่างกายโดยการ 1. กรวย วิง่ อยู่กับท่ี แตะเทา้ ไปขา้ งหน้า สะบัดมอื 2. นกหวีด ว่ิงหลบหลีกสงิ่ กีด เคลือ่ นท่ี 2. ครแู นะนาอุปกรณ์และสาธิตวธิ กี ารเลน่ เกมว่ิงหลบหลกี ส่ิงกีดขวาง ดังน้ี ขวางได้อย่าง (1) การเคล่ือนไหว 2.1 เด็กยนื เปน็ แถวตอนลกึ 1 แถว คลอ่ งแคล่ว โดยควบคุมตนเองไป 2.2 ครนู ากรวยมาวางหา่ งกนั เป็นระยะ 2.3 ใหเ้ ดก็ วง่ิ หลบสิ่งกดี ขวาง เมือ่ วงิ่ ถึงกรวย ในทศิ ทาง สดุ ทา้ ยให้เดก็ วง่ิ ย้อนกลับมาแตะมือเพ่ือนแลว้ ให้ วง่ิ ไปตอ่ ท้ายแถว (2) การเคลื่อนไหว ๓. ปฏิบตั ิตามข้อ ๒ จนครบทุกคนในแถว ๔. เม่ือหมดเวลาเด็กเก็บอุปกรณ์ เข้าแถว ข้ามสง่ิ กดี ขวาง ทาความสะอาดร่างกายกอ่ นเขา้ ชั้นเรยี น ระดบั และพื้นที่ (๔) การเลน่ นอก ห้องเรียน
จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ เกมการศกึ ษา (1) การสงั เกต การจดั กลมุ่ รูปรา่ งกับ 1. ครูแนะนาอุปกรณ์พรอ้ มท้ังสาธิตวธิ กี ารเล่น 1. เกมการศึกษา สงั เกต เกมการศึกษาเกมจัดกลุ่มรปู วงกลม รปู ส่เี หลีย่ ม จาแนกและจัดกลมุ่ ลกั ษณะ สว่ นประกอบ รปู ทรงกลม รูปสามเหลย่ี ม และวัสดุทรงกลม ทรงสเี่ หลี่ยม เกมจดั กลุ่มรูปวงกลม การจาแนกและจัดกลุม่ ทรงสามเหลย่ี ม ส่ิงตา่ งๆ โดยใช้ ของส่ิงต่างๆ โดย ทรงส่เี หล่ียม 2. แบ่งเดก็ เปน็ กล่มุ ตามความเหมาะสม ให้เด็ก รูปสี่เหลย่ี ม สง่ิ ตา่ งๆ โดยใช้ตั้งแต่ 1 กลุ่มรับเกมที่แนะนาใหม่ไปเลน่ กลุ่มอ่นื ๆ เล่น ตง้ั แต่ 2 ลักษณะ ใช้ประสาทสมั ผสั และทรงสามเหลยี่ ม เกมการศกึ ษาชดุ เดิม รูปสามเหลย่ี ม 2 ลกั ษณะขนึ้ ไป 3. เด็กเลน่ เกมโดยหมนุ เวยี นสลบั เปลี่ยนกันใน ขน้ึ ไปเปน็ เกณฑไ์ ด้ อยา่ งเหมาะสม แต่ละกลุ่มโดยทกุ กลุ่มตอ้ งได้เลน่ เกมการศึกษา และ วัสดทุ รงกลม เปน็ เกณฑ์ เกมจดั กลุ่มรูปวงกลม รูปสเี่ หล่ยี ม รปู สามเหลย่ี ม (5) การคัดแยก และวสั ดุทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยม ทรงสามเหลีย่ ม ทรงสเ่ี หลี่ยม 4. เด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าที่หลังเลกิ เล่นแลว้ การจดั กลุ่ม ทรงสามเหลย่ี ม และจาแนกสิ่งต่างๆ 2. เกมการศึกษาชุดอนื่ ๆ ตามลักษณะ ท่เี คยเล่นมาแล้ว และรปู ร่างรปู ทรง
แผนการจัดประสบการณช ั้นอนบุ าล ๓ หนวยท่ี ๒๘ ขนาด รปู ราง รปู ทรง สปั ดาหที่ ๒๘ ครัง้ ท่ี ๓ วันที่................เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ 1. กจิ กรรมพน้ื ฐานใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายไป 1. เพลง/ดนตรบี รรเลง สังเกต กจิ กรรม ท่ัวๆ บริเวณอยา่ งอสิ ระตามเสยี งดนตรี เม่อื ไดย้ ิน ๒. เคร่ืองเคาะจงั หวะ การเคลือ่ นไหวทา่ ทาง เคล่อื นไหวและ (2) การเคล่ือนไหว สัญญาณหยดุ ให้หยุดเคลือ่ นไหวในท่านั้นทันที 3. บัตรภาพรปู วงกลม เพื่อสื่อสารความคิด จังหวะ เคลือ่ นที่ 2. ครแู จกบตั รภาพรูปวงกลม รปู สี่เหลีย่ ม รปู สีเ่ หล่ยี ม ความรสู้ กึ ของตนเอง เคล่อื นไหวทา่ ทาง (3) การเคลื่อนไหว รูปสามเหล่ียม ให้เด็กคนละ 1 ใบ รูปสามเหลยี่ ม อย่างหลากหลายและ เพ่อื สื่อสาร พรอ้ มอุปกรณ์ 3. ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวร่างกายตามจินตนาการ แปลกใหม่ ความคิดความรสู้ กึ (1) การเคล่อื นไหว พรอ้ มบัตรภาพรปู วงกลม รปู ส่ีเหลยี่ ม ของตนเอง โดยควบคมุ ตนเอง รปู สามเหล่ียมรอบๆ ห้องตามจงั หวะการเคาะ อย่างหลากหลาย ไปในทิศทาง ระดบั และ ช้า เรว็ และเม่ือได้ยินสัญญาณหยดุ ใหเ้ ด็กหยดุ และแปลกใหมไ่ ด้ พื้นท่ี เคลอื่ นไหวในทา่ นัน้ ทนั ทีและฟังคาส่ังจากครู ดังน้ี (3) การเคลื่อนไหวตาม กจิ กรรมเสริม เสียงเพลง/ดนตรี - ให้คนท่ถี ือรูปวงกลมนัง่ ลง ประสบการณ์ (2) การแสดงความคิด - ใหค้ นที่ถือรูปสเ่ี หลีย่ มชมู ือขนึ้ บอกลกั ษณะ สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา - ใหค้ นทถี่ ือรูปสามเหลยี่ มนอนลง สว่ นประกอบ ท่าทาง การเคลอื่ นไหว การเปลย่ี นแปลง ฯลฯ หรอื ความสัมพนั ธ์ (6) การพูดอธิบาย เปรียบเทียบ 4. ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามข้อ 3 ซา้ 2 - 3 ครงั้ 1) วัสดุทรงกลม เชน่ สังเกต ของสิ่งตา่ งๆ จาก เกีย่ วกบั สิง่ ของ ความเหมอื น ความต่าง 5. หลงั ปฏิบตั ิกิจกรรมเสรจ็ แลว้ เดก็ พักผ่อน ลกู บอล ลกู ปิงปอง การบอกลักษณะ เหตุการณ์และ ของวสั ดุทรงกลม อิริยาบถ เพ่อื เตรียมปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่อไป สว่ นประกอบ ความสมั พันธข์ อง ทรงสี่เหลี่ยม และ ลูกเทนนิส การเปลี่ยนแปลงหรอื ส่ิงต่างๆ ทรงสามเหลี่ยม 1. ครูทบทวนวสั ดุทรงกลม ทรงสีเ่ หล่ียม 2) วสั ดทุ รงสี่เหล่ยี ม ความสัมพันธ์ของสิ่งตา่ งๆ (1) การสงั เกตลกั ษณะ -ลักษณะของวัสดทุ รงกลม ทรงสามเหลี่ยม ประกอบของจริงวา่ แตล่ ะชนดิ เช่น กล่องนมกลอ่ งยาสฟี นั จากการสงั เกตโดยใช้ มีความแตกตา่ งกันอย่างไร แล้วนาวสั ดทุ ั้ง 3 ชนดิ ยางลบ ประสาทสัมผัส วางบนโต๊ะ 3 โตะ๊ 2.แบง่ เด็กเป็น3กลุ่มให้สารวจวสั ดุ 3ชนดิ ทลี ะโต๊ะ อย่างละเอียด
จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ การสังเกตโดยใช้ สว่ นประกอบของ จะมผี ิวโคง้ เรยี บไม่มีเหล่ยี ม 3. ใหเ้ ดก็ เลอื กเข้าโตะ๊ วัสดุรูปทรงท่ตี นเองสนใจ 3) วัสดุทรงสามเหล่ยี ม ประสาทสมั ผัสได้ สิ่งต่างๆ โดยใชป้ ระสาท ไมม่ ีมุม เชน่ ลกู บอล เพียง เชน่ กรอบรูป กิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์ สัมผสั อย่างเหมาะสม ลกู ปงิ ปอง ลูกเทนนสิ โตะ๊ เดียวโดยให้แต่ละโตะ๊ มจี านวนเดก็ ทเี่ หมาะสม ระฆังเคาะจังหวะ ไมบ้ ล็อก ใช้กรรไกรตดั กระดาษตาม (1) การรับรู้และแสดง - ลักษณะของวัสดุ 4. เด็กแตล่ ะกล่มุ สารวจวสั ดุรูปทรงทกี่ ลุ่มเลือก (หรอื วสั ดอุ ื่นๆ แนวเสน้ โค้งได้ ความคดิ ความรสู้ ึกผา่ น ทรงส่ีเหลี่ยม จะมีเหลี่ยม อย่างละเอยี ดแล้วชว่ ยกันวาดภาพวสั ดุทุกชิ้นลงใน ตามบรบิ ทของโรงเรียน สอ่ื วสั ดุ ของเล่นและ มีดา้ น 4 ดา้ น กระดาษปรูฟ๊ พร้อมระบายสีให้สวยงาม อย่างละ 3 รายการ) ชิ้นงาน มีมุม 4 มุม เช่น กลอ่ งนม 5. เดก็ แตล่ ะกลุม่ นาเสนอผลงานของตนวา่ กล่องยาสีฟัน กลอ่ งดนิ สอ ชอื่ รูปทรงอะไร มีลักษณะสาคัญอยา่ งไร ยางลบ 6. ครูสรุปความคดิ รวบยอดของรปู ทรงกลม -ลกั ษณะของวัสดุ ทรงส่ีเหลยี่ ม และทรงสามเหล่ียมอกี คร้งั หนง่ึ ทรงสามเหลยี่ มจะมเี หลี่ยม มดี ้าน 3 ดา้ น มีมุม 3 มมุ เช่น กรอบรูป กลอ่ งใสข่ อง หมอนอิง ระฆงั เคาะจังหวะ ไมบ้ ล็อก (2) การเขียนภาพ 1. ครูเตรยี มอุปกรณใ์ นการทาศิลปะแบบรว่ มมือ 1. กระดาษวาดภาพ สงั เกต และการเล่นกบั สี โดยการตดั รูปวงกลม รูปส่ีเหล่ียม รูปสามเหลี่ยม 2. สีเทยี น การใชก้ รรไกรตัดกระดาษ (5) การหยิบจับ และปะติดต่อเติมรปู ภาพตามจนิ ตนาการ 3. กาว ตามแนวเส้นโค้ง การใชก้ รรไกร การฉีก 2. ครแู นะนาอปุ กรณ์ วิธกี ารปฏบิ ตั ิและข้อตกลง 4. แบบรปู วงกลม การตดั การปะ และ ในการปฏิบัตกิ จิ กรรมรว่ มกันเป็นกลุ่ม รปู ส่เี หลย่ี ม การร้อยวสั ดุ 3. แบง่ เด็กออกเป็นกลุ่มตามความเหมาะสม รูปสามเหล่ียม (5) การทากิจกรรม แจกแบบรูปวงกลม รปู ส่ีเหลยี่ ม รปู สามเหลย่ี มให้ 5. กรรไกรปลายมน ศิลปะต่างๆ เด็กคนละ 1 ชดุ ใหเ้ ดก็ ทกุ คนตัดภาพที่ได้ 4. เด็กแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ออกแบบสร้างภาพโดย นาภาพท่ีตดั มาปะติดลงในกระดาษวาดภาพ
จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้ และต่อเตมิ ภาพใหส้ วยงาม พร้อมตง้ั ชือ่ ผลงาน และนาเสนอผลงาน 5. เมอ่ื หมดเวลาเดก็ เก็บของเข้าที่ ชว่ ยกันดูแล ห้องเรยี นให้เรียบร้อย กจิ กรรม (2) การเล่นรายบุคคล 1. ครูแนะนากิจกรรมตามมุมประสบการณ์ มุมประสบการณ์ใน สงั เกต ห้องเรียน การเก็บของเล่นของใช้ เล่นตามมุม กลมุ่ ยอ่ ย และกลุ่มใหญ่ 2. เดก็ เลอื กกิจกรรมเสรีตามมุมประสบการณ์ เข้าท่ีอยา่ งเรียบร้อยดว้ ย ตนเอง เกบ็ ของเล่นของใช้ (3) การเลน่ ตามมมุ ตามความสนใจซึ่งควรจดั ไวอ้ ย่างน้อย ๔ มมุ เชน่ เข้าท่ีอยา่ ง ประสบการณ์/มมุ เล่น - มมุ หนังสือ - มมุ บลอ็ ก เรียบรอ้ ยด้วย ต่างๆ - มมุ เกมการศึกษา - มุมบทบาทสมมติ ตนเองได้ (2) การเล่นบทบาท - มุมเครื่องเลน่ สัมผสั - มมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา สมมติ 3. เมือ่ หมดเวลาเดก็ เก็บของเข้าที่ ช่วยกนั ดูแล (4) การดูแลห้องเรยี น หอ้ งเรยี นใหเ้ รียบร้อย รว่ มกัน (4) การเล่นกบั สอื่ ตา่ งๆ ที่เปน็ ทรงกลม ทรงสี่เหล่ียมมมุ ฉาก ทรงสามเหลี่ยม กิจกรรมกลางแจ้ง (๒) การเคลื่อนไหว 1. ครแู นะนาข้อตกลงและอปุ กรณ์ในการเลน่ นา้ อุปกรณ์เลน่ นา้ เล่นทราย สังเกต เล่นทรายแตล่ ะชนดิ เช่น เคร่ืองมือตวงชนิดต่างๆ การเลน่ และทากจิ กรรม เลน่ และทา เคล่อื นที่ กรวย พลว่ั หรืออุปกรณ์อน่ื ๆ พร้อมท้งั แนะนา อย่างปลอดภยั ดว้ ยตนเอง วธิ กี ารเลน่ อยา่ งปลอดภยั กจิ กรรมอย่าง (1) การเคล่ือนไหวโดย 2. เดก็ เลน่ นา้ เล่นทรายโดยมีครูดูแลอยา่ งใกล้ชดิ 3. ครใู หส้ ัญญาณหมดเวลาเด็กเก็บอุปกรณ์ ปลอดภัยดว้ ย ควบคมุ ตนเองไปใน ตนเองได้ ทศิ ทาง ระดบั และพื้นที่ (๑) การเล่นอสิ ระ
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ (2) การเลน่ รายบุคคล ทาความสะอาดอุปกรณ์ เขา้ แถวทาความสะอาด กลุ่มยอ่ ยและกลุ่มใหญ่ รา่ งกาย (๔) การเล่นนอก หอ้ งเรยี น เกมการศกึ ษา (13) การจบั คู่ วสั ดุมีขนาดต่างกัน 1. ครูแนะนาอปุ กรณ์พรอ้ มท้ังสาธติ วธิ กี ารเลน่ 1. เกมการศึกษา สังเกต เรียงลาดบั สง่ิ ของ การเปรียบเทียบ เรียงลาดับจากขนาดเลก็ เกมการศกึ ษาเกมเรียงลาดับขนาดทรงกลม เกมเรียงลาดบั ขนาด การเรยี งลาดับสิ่งของ และเหตกุ ารณ์ และการเรยี งลาดับ ไปขนาดใหญ่หรอื ขนาด ทรงส่ีเหลย่ี มและทรงสามเหลี่ยม ทรงกลม ทรงส่ีเหลี่ยม และเหตกุ ารณอ์ ย่างน้อย อยา่ งน้อย ส่งิ ต่างๆ ตามลักษณะ ใหญ่ลงมาขนาดเลก็ 2. แบง่ เด็กเป็นกล่มุ ตามความเหมาะสม ให้เด็ก และทรงสามเหลยี่ ม 5 ลาดับ 5 ลาดับได้ 1 กลุ่มรบั เกมท่ีแนะนาใหม่ไปเลน่ กล่มุ อ่นื ๆเล่น เกมการศึกษาชุดเดิม 2. เกมการศึกษาชุดอน่ื ๆ 3. เดก็ เลน่ เกมโดยหมนุ เวยี นสลับเปลี่ยนกันใน ทเ่ี คยเลน่ มาแลว้ แตล่ ะกล่มุ โดยทุกกลุ่มต้องไดเ้ ลน่ เกมการศึกษา เกมเรียงลาดบั ขนาดทรงกลม ทรงส่ีเหลี่ยม และทรงสามเหลย่ี ม 4. เดก็ เก็บเกมการศึกษาเขา้ ท่หี ลงั เลิกเลน่ แลว้
แผนการจัดประสบการณช ้นั อนบุ าล ๓ หนวยที่ ๒๘ ขนาด รูปรา ง รปู ทรง สัปดาหที่ ๒๘ ครั้งที่ ๔ วันที.่ ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมิน เรยี นรู้ พฒั นาการ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพ้ืนฐานใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกายไปทว่ั ๆบรเิ วณอย่าง 1.เครอ่ื งเคาะจงั หวะ สังเกต กจิ กรรม การเคลอื่ นไหวทา่ ทาง เคล่ือนไหว (2) การเคลื่อนไหว อสิ ระตามจงั หวะเม่ือได้ยินสัญญาณหยุดใหห้ ยุดเคลอื่ นไหวในท่านั้น 2. ดนตรีบรรเลง เพอ่ื ส่ือสารความคดิ และจังหวะ เคล่ือนท่ี ความรู้สกึ ของตนเอง เคล่ือนไหว (1) การเคล่อื นไหว ทันที อยา่ งหลากหลายและ ท่าทาง โดยควบคุมตนเอง แปลกใหม่ เพือ่ สื่อสาร ไปในทิศทาง ระดับ 2. ครแู นะนาการปฏิบัติกจิ กรรมการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบ ความคดิ และพื้นที่ สังเกต ความร้สู ึกของ (3) การเคลื่อนไหว คาบรรยาย โดยให้เด็กคิดท่าทางตามจนิ ตนาการของตนเอง การจาแนกและ ตนเองอย่าง ตามเสยี งเพลง/ จัดกล่มุ ส่งิ ต่างๆ โดย หลากหลายและ ดนตรี 3. ให้เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายประกอบคาบรรยาย ดังน้ี ใช้ต้ังแต่ 2 ลกั ษณะ แปลกใหม่ได้ (2) การแสดง ขนึ้ ไปเป็นเกณฑ์ ความคิดสรา้ งสรรค์ “วนั น้ีฉนั ขับรถไปซื้อผลไมท้ ต่ี ลาด ระหวา่ งทางฉันเห็นบ้านหลงั กิจกรรมเสรมิ ผ่านภาษา ท่าทาง ประสบการณ์ การเคลอ่ื นไหว ใหญ่หลงั คาบ้านเปน็ รูปสามเหล่ียม และมีตึกสูงเปน็ รปู สีเ่ หลีย่ ม จาแนกและจัด กลุ่มส่ิงตา่ งๆ อยูข่ ้างๆอย่างมากมาย เม่ือไปถงึ ทต่ี ลาดมีพ่อค้า แมค่ ้ามาขายผลไม้ โดยใชต้ ง้ั แต่ 2 ลักษณะข้ึนไป หลากหลายชนิด ฉันเหน็ ส้มโอลกู กลมผลใหญ่ ฉนั นับได้ 1 2 3 4 เป็นเกณฑไ์ ด้ 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 ลูก ฉนั เดนิ ต่อไปเห็นสม้ ผลกลม ลกู เล็ก เหน็ ชมพู่ ฝรัง่ องนุ่ น่ารบั ประทาน ฉนั จึงซอื้ ผลไม้กลับบ้าน” 4. หลังปฏิบัตกิ จิ กรรมเสร็จแลว้ เดก็ พักผอ่ นอริ ิยาบถ เพือ่ เตรยี ม ปฏิบัตกิ ิจกรรมต่อไป (13) การจับคู่ จาแนกวสั ดุ 1. ครูเตรียมวัสดุและภาพวางบนโตะ๊ 4 โต๊ะ 1. วสั ดุทรงกลม การเปรยี บเทยี บ ทรงกลม และการเรียงลาดบั ทรงส่เี หลี่ยม - โต๊ะที่ 1 วัสดทุ รงกลมประกอบด้วย ลูกปิงปอง ลกู แก้ว ประกอบดว้ ย ส่งิ ต่างๆ ตาม ทรงสามเหลย่ี ม ลักษณะ และรูปวงกลม ลูกเทนนิส อย่างละ 2 ชิน้ - ลกู ปงิ ปอง (1) การสังเกต รูปสี่เหลี่ยม ลักษณะ รปู สามเหล่ียม - โตะ๊ ที่ 2 วัสดุทรงสี่เหลยี่ มประกอบด้วย กล่องนม - ลกู แกว้ สว่ นประกอบ - วัสดุทรงกลม ของสง่ิ ต่างๆ โดยใช้ ทรงสเ่ี หล่ยี ม กลอ่ งยาสีฟนั ยางลบ อย่างละ 2 ช้นิ - ลกู เทนนิส - โตะ๊ ท่ี 2 วัสดุทรงสามเหลีย่ มประกอบดว้ ย ระฆังเคาะจังหวะ อยา่ งละ 2 ช้นิ กลอ่ งใส่ของ และไม้บล็อก อย่างละ 2 ชิน้ 2. วัสดทุ รงส่ีเหลย่ี ม - โตะ๊ ที่ 4 ภาพวงกลมสี ภาพส่เี หลีย่ มสี และภาพสามเหลีย่ มสี ประกอบดว้ ย อย่างละ 3 ภาพ - กล่องนม
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมิน เรยี นรู้ พฒั นาการ ประสบการณส์ าคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ 2. ครแู จกตารางจาแนกใหเ้ ด็กกลุม่ ละ 1 ตาราง จานวนกลมุ่ ตาม - กล่องยาสีฟัน ความเหมาะสม อธิบายการเลน่ จาแนกสิง่ ของและภาพดว้ ย - ยางลบ ประสาทสัมผสั ทรงสามเหล่ยี ม คือ ตารางจาแนกว่าจะต้องนาสิ่งของหรือภาพไปวางไวใ้ หต้ รงกับ อยา่ งละ 2 ช้นิ ชอ่ งทกี่ าหนดไว้ 3. วสั ดุ อย่างเหมาะสม ของจริงท่สี ัมผสั 3. เด็กแต่ละกลุ่มสงั เกตวัสดุและภาพทัง้ 4 โต๊ะแล้วเลือก ทรงสามเหลยี่ ม วัสดุและภาพ เพ่ือจาแนกและจดั กลุ่มสิ่งตา่ งๆ วางบน ประกอบด้วย (5) การคดั แยก จับตอ้ งได้มี ตารางจาแนกให้ถกู ต้อง - ระฆงั เคาะจังหวะ - กลอ่ งใส่ของ การจัดกลุ่ม และ ความแตกต่างกนั ท่ี - ไม้บลอ็ ก อยา่ งละ 2 ชิ้น จาแนกสิ่งตา่ งๆ ตาม จานวนดา้ นและมุม (วัสดุแตล่ ะรปู ทรง สามารถปรับได้ตาม ลักษณะและรปู รา่ ง - รปู วงกลม บรบิ ทของโรงเรียน) 4. ภาพวงกลมสี รปู ทรง รูปสเ่ี หลี่ยม ภาพส่ีเหลีย่ มสี และ ภาพสามเหล่ียมสี (8) การนบั และ รูปสามเหล่ียม คือ อย่างละ 3 ภาพ 5. ตารางจาแนก แสดงจานวน ภาพถา่ ย หรือ (กระดาษปรู๊ฟ) เท่าจานวนกลุ่ม สงิ่ ของต่างๆ ภาพวาด รปู วงกลม ทรงกลม รูปส่ีเหล่ยี ม ทรงสีเ่ หลยี่ ม รูปสามเหลย่ี ม ทรงสามเหลี่ยม ในชวี ติ ประจาวัน รวม……. รวม……. รวม……. รวม……. รวม……. รวม……. 4. เด็กตรวจสอบการจาแนกในตารางอีกคร้ังหนึง่ และนับจานวน ส่ิงของและภาพว่ามีจานวนอยา่ งละเท่าไร เขยี นจานวนลงในตาราง 5. ครใู หค้ วามรู้เพมิ่ เติม คือ - ทรงกลม ทรงส่ีเหลย่ี ม และทรงสามเหลยี่ ม คือ ของจรงิ ที่ สมั ผัสจบั ต้องได้ มีความแตกต่างกนั ทีจ่ านวนด้านและมุม - ภาพวงกลม ภาพสีเ่ หลีย่ มและภาพสามเหลยี่ ม คือ ภาพถ่าย หรือภาพวาดท่เี ด็กวาดจากของจริงเปน็ รูปร่างตา่ งๆ
จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื การประเมิน เรยี นรู้ พัฒนาการ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ 1. ครเู ตรียมอปุ กรณใ์ นการทาศลิ ปะแบบร่วมมือร้อยวัสดตุ ามแบบ 1.อปุ กรณ์ 1ชดุ กจิ กรรมศลิ ปะ ด้วยเชือกและนามาสรา้ งเปน็ โมบาย แนะนาอปุ กรณ์ วธิ ีการปฏิบตั ิ ประกอบด้วย สงั เกต สร้างสรรค์ (5) การหยบิ จับ และข้อตกลงในการปฏบิ ัติกจิ กรรมร่วมกันเป็นกลุ่ม -เชอื ก การร้อยวสั ดุ รอ้ ยวัสดทุ ่ีมรี ู การใชก้ รรไกร 2. แบง่ เด็กออกเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ครูสาธติ การร้อยวัสดุ - ลูกปดั ทม่ี ีรขู นาด ขนาดเส้นผ่าน การฉีก การตัด จานวน 2 ชดุ ใน 1 สายประกอบดว้ ย - หลอดกาแฟ เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง ศนู ย์กลาง การปะ และ - กระดาษสเ่ี หลีย่ ม 0.25 เซนติเมตร 0.25เซนติเมตร การร้อยวัสดุ (ลกู ปัด หลอดกาแฟ ส่ีเหลีย่ ม หลอดกาแฟ สามเหลยี่ ม เจาะรู ได้ (5) การทากิจกรรม หลอดกาแฟ) - กระดาษ ศิลปะตา่ งๆ 3. เด็กร้อยวัสดุตามแบบคนละ 1 สาย ซ่งึ มี 2 ชดุ สามเหลยี่ มเจาะรู 4. เดก็ แตล่ ะคนในกลุม่ นาวัสดทุ ี่รอ้ ยมาผูกกับจานกระดาษ 2. จานกระดาษ ท่เี จาะรูเพ่อื นาไปสรา้ งเป็นโมบาย เจาะรูรอบๆขอบจาน 5. เดก็ รว่ มกนั เก็บอปุ กรณ์และนาเสนอผลงาน สาหรับผกู วสั ดุทร่ี ้อย 6. เมือ่ หมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ท่ี ชว่ ยกนั ดูแลหอ้ งเรียนให้ เรยี บร้อย กิจกรรม (2) การเลน่ 1. ครแู นะนากจิ กรรมตามมุมประสบการณ์ มมุ ประสบการณใ์ น สังเกต ห้องเรยี น การเกบ็ ของเล่น เล่นตามมมุ รายบุคคลกลุ่มย่อย 2. เดก็ เลอื กกิจกรรมเสรีตามมมุ ประสบการณ์ตามความสนใจ ของใชเ้ ข้าที่อย่าง เรยี บรอ้ ยดว้ ยตนเอง เก็บของเลน่ และกลมุ่ ใหญ่ ซงึ่ ควรจดั ไวอ้ ย่างนอ้ ย ๔ มุม เชน่ ของใช้เขา้ ที่อยา่ ง (3) การเลน่ ตามมุม - มุมหนังสอื - มุมบล็อก เรียบร้อยดว้ ย ประสบการณ์/มุม - มุมเกมการศึกษา - มมุ บทบาทสมมติ ตนเองได้ เลน่ ต่างๆ - มุมเครื่องเล่นสมั ผัส - มุมธรรมชาติศึกษา (2) การเล่น 3. เมื่อหมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าท่ี ช่วยกนั ดแู ลห้องเรียน บทบาทสมมติ ให้เรียบร้อย
จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื การประเมนิ พัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ (4) การดแู ล หอ้ งเรยี นรว่ มกัน (4) การเลน่ กบั ส่ือ ต่างๆทเี่ ปน็ ทรงกลม ทรงส่ีเหลย่ี มมุมฉาก ทรงสามเหลย่ี ม กจิ กรรม (๒) การเคลือ่ นไหว 1. เตรียมพรอ้ มร่างกายโดยให้เด็กวิ่งอยู่กับทแ่ี ละสะบัดมอื แตะเท้า 1. ไม้บล็อกทรงกลม สงั เกต การวง่ิ หลบหลกี กลางแจ้ง เคลอ่ื นที่ ไปขา้ งหนา้ ทรงสี่เหลย่ี ม สิง่ กดี ขวางได้ อยา่ งคล่องแคล่ว วง่ิ หลบหลกี (1) การเคลอื่ นไหว 2. ครสู าธติ และอธิบายการวงิ่ หลบหลีกส่งิ กดี ขวางและเก็บไม้บล็อก ทรงสามเหลีย่ ม สง่ิ กดี ขวางได้ โดยควบคมุ ตนเองไป ใส่ตะกร้า โดยนากรวยมาวางหา่ งกันเปน็ ระยะ และนาตะกรา้ ทต่ี ดิ (เทา่ กบั จานวนเด็ก) อย่างคล่องแคลว่ ในทิศทาง ระดบั และ รูปวงกลม รปู สีเ่ หลย่ี ม และรูปสามเหลี่ยมไปวางไว้ฝั่งตรงข้ามของ 2. ตะกร้าท่ตี ิด พ้ืนที่ เด็ก ใหเ้ ดก็ เลือกไมบ้ ล็อกคนละ 1 ชน้ิ รูปวงกลม (2) การเล่น 3. เดก็ เล่นเกมวิง่ เกบ็ ไม้บล็อกใสต่ ะกร้าหลบหลีกสิ่งกดี ขวาง ดงั น้ี รูปสีเ่ หล่ียม รายบุคคลกลุ่มย่อย 3.1 เด็กยืนเป็นแถวตอนลึก 1 แถว หันหน้าเขา้ หาตะกรา้ รูปสามเหล่ยี ม และกลุ่มใหญ่ 3.2 เดก็ คนที่ยืนคนแรกว่ิงหลบหลกี ส่ิงกีดขวางแล้วนาไม้บลอ็ ก (๔) การเล่นนอก ของตนเองไปใสต่ ะกรา้ ให้ถูกต้อง ห้องเรยี น 3.3 เมื่อคนแรกนาไม้บลอ็ กใสต่ ะกรา้ เรยี บร้อยแลว้ ให้คนถดั ไป ว่ิงไปเก็บไมบ้ ลอ็ กลงตะกรา้ เช่นเดียวกนั ทาเช่นนจ้ี นครบทุกคน 4. เมื่อหมดเวลาเด็กเกบ็ ไมบ้ ล็อกและตะกรา้ เขา้ แถว ทาความสะอาดรา่ งกายก่อนเขา้ ชั้นเรยี น
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมิน เรียนรู้ พัฒนาการ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ 1. ครูแนะนาอปุ กรณ์พร้อมท้ังสาธิตวิธกี ารเลน่ เกมการศึกษา 1. เกมการศึกษา เกมการศกึ ษา สังเกต จบั คแู่ ละ (13) การจบั คู่ การจดั หมวดหมู่ เกมจัดหมวดหมภู่ าพกบั สญั ลักษณ์ เกมจดั หมวดหมภู่ าพ การจบั คู่และ เปรยี บเทยี บ การเปรยี บเทียบ ภาพกบั สญั ลกั ษณ์ เปรียบเทียบ ความแตกตา่ ง และการเรยี งลาดบั 2. แบง่ เด็กเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมใหเ้ ด็ก 1 กลุ่มรบั เกม กับสญั ลกั ษณ์ ความแตกต่าง และความเหมอื น สิ่งตา่ งๆ ตาม และความเหมือน ของสิง่ ตา่ งๆโดยใช้ ลักษณะ ท่ีแนะนาใหม่ไปเลน่ กลมุ่ อนื่ ๆ เล่นเกมการศึกษาชดุ เดิม 2. เกมการศึกษา ของสงิ่ ตา่ งๆโดยใช้ ลกั ษณะท่ี (18) การเล่นเกม ลักษณะท่ีสงั เกตพบ สังเกตพบ ทางภาษา 3. เดก็ เลน่ เกมโดยหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกนั ในแต่ละกลุ่ม ชุดอน่ื ๆท่ีเคยเล่น 2 ลักษณะข้ึนไป 2ลักษณะข้นึ ไปได้ โดยทกุ กลมุ่ ต้องไดเ้ ล่นเกมการศกึ ษาเกมจัดหมวดหมู่ภาพกับ มาแลว้ สญั ลกั ษณ์ 4. ครูใหส้ ญั ญาณหมดเวลา เดก็ เก็บเกมการศึกษาเข้าท่หี ลังเลกิ เล่น แลว้
แผนการจดั ประสบการณช น้ั อนบุ าล ๓ หนวยท่ี ๒๘ ขนาด รปู รา ง รูปทรง สปั ดาหท ี่ ๒๘ ครั้งท่ี ๕ วันท.ี่ ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรียนรู้ สงั เกต ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ 1. กจิ กรรมพ้ืนฐานให้เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายไป 1. เครอ่ื งเคาะจังหวะ การเคลอ่ื นไหวท่าทาง กิจกรรม เพ่อื ส่ือสารความคิด เคลื่อนไหว (2) การเคลื่อนไหว ทัว่ ๆ บรเิ วณอย่างอิสระตามเสียงดนตรี เมื่อได้ยิน 2. ไมบ้ ล็อกทรงกลม ความรสู้ กึ ของตนเอง และจังหวะ เคลอื่ นที่ อยา่ งหลากหลาย เคลอื่ นไหวท่าทาง (3) การเคลื่อนไหว สัญญาณหยุดใหห้ ยดุ เคล่ือนไหวในท่านัน้ ทันที ทรงส่ีเหลีย่ ม และแปลกใหม่ เพือ่ ส่ือสาร พรอ้ มอุปกรณ์ ความคดิ ความร้สู กึ (1) การเคล่อื นไหว 2. ครแู จกไม้บล็อกทรงกลม ทรงส่ีเหล่ียม ทรงสามเหล่ียม สงั เกต ของตนเองอยา่ ง โดยควบคมุ ตนเองไป 1. การทางานท่ีไดร้ ับ หลากหลาย ในทิศทาง ระดับ ทรงสามเหลยี่ มใหเ้ ด็ก คนละ 1 อัน มอบหมายจนสาเรจ็ ด้วย และแปลกใหมไ่ ด้ และพ้ืนที่ ตนเอง (3) การเคล่ือนไหว 3. ให้เดก็ เคล่อื นไหวร่างกายตามจนิ ตนาการ 2. การเลน่ หรือทางาน กจิ กรรมเสริม ตามเสียงเพลง/ดนตรี รว่ มมือกบั เพื่อนอย่าง ประสบการณ์ (2) การแสดงความคิด พร้อมอุปกรณ์ไม้บล็อกทรงกลม ทรงส่ีเหล่ยี ม 1. ทางานท่ีได้รับ สร้างสรรคผ์ า่ นภาษา มอบหมาย ท่าทางการเคลื่อนไหว ทรงสามเหลยี่ มรอบๆหอ้ งตามจงั หวะการเคาะ จนสาเร็จด้วย ตนเองได้ ชา้ เรว็ และเม่อื ได้ยินสัญญาณหยุดใหเ้ ด็กหยดุ เคลอื่ นไหวในทา่ น้นั ทันทีและฟงั คาสงั่ จากครู ดงั นี้ - จับครู่ ปู ทรงทเี่ หมือนกนั - จับค่รู ูปทรงท่ีต่างจากตวั เอง - จบั กลมุ่ รปู ทรงทีเ่ หมอื นกัน ฯลฯ 4. ปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้อ 3 ซา้ 2 - 3 ครั้ง 5. หลงั ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเสรจ็ แลว้ เด็กพกั ผ่อน อริ ยิ าบถ เพ่ือเตรยี มปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตอ่ ไป (๔) การประดษิ ฐ์ ประโยชนข์ อง 1. ครูเตรียมกลอ่ งสามเหลีย่ มที่ไม่ไดใ้ ชแ้ ล้วหรือผ่า 1. กล่องสามเหลย่ี มหรอื สง่ิ ต่างๆ ดว้ ยเศษวัสดุ ทรงสามเหลย่ี ม (5) การหยิบจับ ทรงสามเหลยี่ มมี กลอ่ งส่เี หลย่ี มเปน็ สามเหล่ียมกลุ่มละ 2 - 3 ผ่ากล่องส่เี หลี่ยม การใช้กรรไกร ประโยชน์สามารถนาไป การฉีก การตดั ออกแบบสร้างส่งิ ของ กล่อง พร้อมอปุ กรณ์อ่นื เช่น กาว ฝาขวด เปน็ สามเหลยี่ ม การปะ และ เคร่อื งใช้ตา่ งๆได้ เช่น ไมเ้ สียบลูกช้ิน กลอ่ งสเ่ี หลี่ยมเล็กๆ กระดาษสี 2. กาว หลอดกาแฟ กรรไกรปลายมน แจกกลุ่มละ 1 ชุด 3. ฝาขวด เพอ่ื นาไปสรา้ งของเลน่ โดยใช้กล่องสามเหล่ยี ม 4. ไม้เสียบลกู ชนิ้
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ มเี ป้าหมาย เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ 2. เล่นหรือทางาน การร้อยวัสดุ เช่น กรอบพระกรอบรูป เปน็ สว่ นประกอบสาคญั 5. กล่องสี่เหล่ยี มเล็กๆ 2. แบง่ เด็กเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสมและให้ 6. กระดาษสี ร่วมมือกับเพื่อน (5) การทากิจกรรม กลอ่ งใส่ของ หนา้ จว่ั บา้ น แตล่ ะกล่มุ สารวจวา่ วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ่ีได้รับมี 7. หลอดกาแฟ อะไรบา้ ง ร่วมกันคิดและออกแบบวา่ จะนาวัสดุ 8. กรรไกรปลายมน อย่างมีเป้าหมายได้ ศลิ ปะตา่ งๆ หมอนองิ นาฬิกา และของ ทรงสามเหล่ยี มไปสรา้ งของเล่นอะไรได้บ้าง 3. เดก็ แตล่ ะกล่มุ ออกแบบสร้างของเลน่ กลมุ่ ละ (3) การทางานศลิ ปะ เล่นเช่นระฆงั เคาะจงั หวะ 1 ชนิ้ โดยมีวัสดุทรงสามเหลยี่ มเป็นสว่ นประกอบ สาคัญ ทีน่ าวสั ดุหรอื ส่ิงของ ไมบ้ ล็อกทรงสามเหลี่ยม 4. ตง้ั ชื่อส่งิ ประดษิ ฐ์ของกลุ่มและนาเสนอผลงาน 5. ครูและเด็กสรุปประโยชนข์ องทรงสามเหล่ียม เครอ่ื งใช้ท่ีใชแ้ ล้ว วา่ สามารถนามาประดษิ ฐเ์ ป็นของเล่นของใชไ้ ด้ และจดั นิทรรศการของเลน่ ไวท้ มี่ ุมแสดงผลงาน มาใชซ้ า้ หรอื แปรรปู แลว้ นากลับมาใชใ้ หม่ (1) การรบั รู้และแสดง ความคิดความรู้สกึ ผ่านส่ือ วัสดุ ของเลน่ และช้ินงาน (3) การสร้างสรรค์ ชิ้นงานโดยใชร้ ูปร่าง รูปทรง กจิ กรรมศิลปะ 2) การเขียนภาพและ 1. ครเู ตรยี มอุปกรณ์กจิ กรรม 2 กจิ กรรม ได้แก่ 1. กระดาษวาดภาพ สงั เกต สนุกกับฟองสบู่ และเปา่ ฟองสบู่สีบนกระดาษ 2. สนี ้า ความสนใจ มีความสขุ สรา้ งสรรค์ การเล่นกบั สี 2. ครูแนะนาอุปกรณ์ วิธีการปฏบิ ัตแิ ละข้อตกลง 3. หลอดกาแฟ และแสดงออกผา่ น ในการปฏิบตั กิ จิ กรรม และสาธิตการทากจิ กรรม 4. ฟองสบู่ งานศลิ ปะ สนใจ มคี วามสขุ (5) การทากจิ กรรม สนกุ กับฟองสบู่ดงั นี้ 5. ลวด และแสดงออกผ่าน ศิลปะต่างๆ 2.1 นาลวด 1 เสน้ ขดปลายลวดเป็น รูปวงกลม ส่ีเหล่ียม หรือสามเหล่ยี มตาม งานศลิ ปะได้ ความสนใจ 2.2 นาลวดท่ขี ดไปจุม่ นา้ ฟองสบู่ ยกขึน้ แลว้
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ เป่าเบาๆ ใหเ้ กิดฟอง ถ้าฟองแตกเร็วให้เติมนา้ สบู่ สงั เกต 2.3 เปา่ ฟองสบู่สีลงบนกระดาษตาม การเก็บของเล่นของใช้ เข้าที่อย่างเรยี บร้อย จนิ ตนาการ ดว้ ยตนเอง 3. เดก็ ทากจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ท้งั 2 กิจกรรม ตามความสนใจ 4. เดก็ ร่วมกันเก็บอุปกรณ์และนาเสนอผลงาน กิจกรรม (2) การเลน่ รายบุคคล 1. ครูแนะนากิจกรรมตามมุมประสบการณ์ มุมประสบการณ์ใน เลน่ ตามมมุ กลมุ่ ย่อยและกลุ่มใหญ่ 2. เด็กเลอื กกจิ กรรมเสรีตามมุมประสบการณ์ ห้องเรยี น เก็บของเลน่ ของใช้ (3) การเล่นตามมุม ตามความสนใจซึ่งควรจดั ไว้ อยา่ งน้อย ๔ มมุ เช่น เขา้ ที่อยา่ ง ประสบการณ์/มุมเล่น - มุมหนังสอื - มมุ บล็อก เรียบรอ้ ยด้วย ตา่ งๆ - มมุ เกมการศึกษา - มุมบทบาทสมมติ ตนเองได้ (2) การเล่นบทบาท - มมุ เครอื่ งเล่นสัมผัส - มุมธรรมชาติศึกษา สมมติ 3. เม่อื หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าท่ใี หเ้ รียบร้อย (4) การดูแลห้องเรยี น ร่วมกนั (4) การเล่นกบั สือ่ ต่างๆ ทเ่ี ป็นทรงกลม ทรงสเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก ทรงสามเหลยี่ ม
จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ สงั เกต การเล่น ทากจิ กรรม กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเคล่ือนไหว 1. ครูแนะนาข้อตกลงในการเล่นเคร่ืองเล่นสนาม เครอื่ งเลน่ สนาม และปฏบิ ัตติ ่อผู้อ่ืนอย่าง แต่ละชนิดพร้อมทั้งแนะนาวิธกี ารเลน่ อย่าง ปลอดภัย เล่น ทากจิ กรรม เคลอ่ื นที่ ปลอดภยั 2. เด็กเลน่ เครื่องเลน่ สนามโดยมีครดู ูแลอย่าง และปฏิบัตติ ่อผู้อื่น (5) การเล่น ใกลช้ ดิ 3. เมื่อครใู ห้สัญญาณหมดเวลาเดก็ เข้าแถว อยา่ งปลอดภัยได้ เครอื่ งเล่นสนาม ทาความสะอาดร่างกายก่อนเขา้ ช้ันเรยี น อย่างอสิ ระ (1) การเคลื่อนไหว โดยควบคุมตนเองไป ในทศิ ทาง ระดบั พื้นที่ (๑) การเลน่ อสิ ระ (2) การเลน่ รายบคุ คล กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ (๔) การเล่น นอกห้องเรยี น เกมการศึกษา (8) การนบั และแสดง ความคิดรวบยอดของ 1. ครูแนะนาอุปกรณ์พร้อมทั้งสาธติ วธิ ีการเลน่ 1. เกมการศึกษา สงั เกต เกมการศึกษาเกมนบั และแสดงจานวน1–14 นบั และแสดง จานวนสิ่งของตา่ งๆใน จานวน 1 - 14 2. แบ่งเดก็ เป็นกลุ่มตามความเหมาะสมใหเ้ ด็ก เกมนับและแสดง การนับและแสดง 1 กลุ่มรับเกมท่ีแนะนาใหม่ไปเลน่ กล่มุ อืน่ ๆ จานวน1– 14 ได้ ชีวติ ประจาวนั เลน่ เกมการศกึ ษาชุดเดิม จานวน 1 – 14 จานวน 1 – 14 3. เด็กเลน่ เกมโดยหมุนเวยี นสลบั เปล่ียนกัน ในแตล่ ะกลุ่มโดยทุกกล่มุ ต้องไดเ้ ลน่ เกมการศึกษา 2. เกมการศึกษาชดุ อ่นื ๆ เกมนบั และแสดงจานวน1 – 14 4. เดก็ เก็บเกมการศึกษาเข้าทหี่ ลงั เลกิ เลน่ แล้ว ท่ีเคยเลน่ มาแลว้
1. เลข 2. ที่ 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ชอ่ื -สกลุ 1. การเล่น ทากิจกรรมและปฏิบตั ิต่อผูอ้ ่นื ดา้ นร่างกาย อย่างปลอดภยั ด้านอารมณ์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมเดก็ 2. การวง่ิ หลบหลกี ส่ิงกีดขวางอย่างคล่องแคล่ว จติ ใจ แผนการจัดประสบการณช ้นั อนบุ าล ๓ หนวยท่ี ๒๘ ขนาด รปู ราง รูปทรง ๓. การใชก้ รรไกรตดั กระดาษตามแนวเสน้ โคง้ ประเมนิ พัฒนาการ ดา้ นสงั คม 4. เขียนรปู สามเหลยี่ มตามแบบได้ อย่างมมี ุมชดั เจน ด้านสตปิ ัญญา ๕. การรอ้ ยวัสดุทม่ี ีรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.25 เซนติเมตร 6. ความสนใจ มีความสุขและแสดงออก ผา่ นงานศิลปะ 7. การทางานทีไ่ ด้รบั มอบหมายจนสาเรจ็ ด้วยตนเอง 8. การเก็บของเล่นของใชเ้ ข้าทอี่ ยา่ งเรียบรอ้ ย ดว้ ยตนเอง 9. การเลน่ หรอื ทางานรว่ มมือกับเพือ่ นอย่างมี เปา้ หมาย 10. การบอกลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงหรือความสัมพันธ์ของส่ิงต่างๆ จากการสังเกตโดยใช้ประสาทสมั ผัส 11. การจบั คแู่ ละเปรยี บเทียบความแตกต่างและ ความเหมอื นของสิ่งต่างๆโดยใช้ลักษณะทส่ี ังเกตพบ 2 ลักษณะข้ึนไป 12. การนบั และแสดงจานวน 1 - 14 13. การจาแนกและจัดกลุ่มสิ่งตา่ งๆ โดยใชต้ ้ังแต่ 2 ลักษณะขึน้ ไปเป็นเกณฑ์ 14. การเรยี งลาดับส่งิ ของและเหตุการณ์ อยา่ งน้อย 5 ลาดับ 14.การเคลื่อนไหวทา่ ทาง เพื่อส่ือสารความคิด ความรูส้ กึ ของตนเองอยา่ งหลากหลายและ แปลกใหม่ หมาย เหตุ
11. เลข 12. ที่ 13. 14. ชือ่ -สกลุ 15. 16. 17. 18. 19. 20. คาอธบิ าย ครสู ังเกตพฤติกรรมเด็กรายบุคคล จดบันทกึ สรุปเป็นรายสัปดาหร์ ะบุระดบั คุณภาพเป็น ๓ ระดบั คือ 1. การเล่น ทากิจกรรมและปฏิบตั ิต่อผู้อนื่ ดา้ นรา่ งกาย ระดับ ๓ ดี ระดบั ๒ ปานกลาง ระดบั ๑ ตอ้ งสง่ เสรมิ อย่างปลอดภยั ด้านอารมณ์ 2. การวง่ิ หลบหลกี ส่ิงกีดขวางอย่างคลอ่ งแคล่ว จิตใจ ๓. การใชก้ รรไกรตดั กระดาษตามแนวเสน้ โคง้ ประเมินพฒั นาการ ดา้ นสงั คม 4. เขียนรปู สามเหลยี่ มตามแบบได้ อย่างมมี ุมชดั เจน ดา้ นสตปิ ัญญา ๕. การรอ้ ยวัสดุทม่ี ีรูขนาดเส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 0.25 เซนติเมตร 6. ความสนใจ มีความสุขและแสดงออก ผา่ นงานศิลปะ 7. การทางานทีไ่ ด้รบั มอบหมายจนสาเรจ็ ด้วยตนเอง 8. การเก็บของเล่นของใชเ้ ข้าทอี่ ย่างเรียบรอ้ ย ดว้ ยตนเอง 9. การเลน่ หรอื ทางานรว่ มมือกับเพ่ือนอย่างมี เปา้ หมาย 10. การบอกลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงหรือความสัมพันธ์ของสงิ่ ต่างๆ จากการสังเกตโดยใช้ประสาทสมั ผัส 11. การจบั คแู่ ละเปรยี บเทียบความแตกตา่ งและ ความเหมอื นของสิ่งต่างๆโดยใช้ลักษณะท่ีสังเกตพบ 2 ลักษณะข้ึนไป 12. การนบั และแสดงจานวน 1 - 14 13. การจาแนกและจัดกลุ่มสิ่งตา่ งๆ โดยใชต้ ้ังแต่ 2 ลักษณะขึน้ ไปเป็นเกณฑ์ 14. การเรยี งลาดับส่งิ ของและเหตุการณ์ อยา่ งน้อย 5 ลาดับ 14.การเคลื่อนไหวทา่ ทาง เพื่อส่ือสารความคิด ความรูส้ กึ ของตนเองอยา่ งหลากหลายและ แปลกใหม่ หมาย เหตุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: