Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนสัปดาห์ที่ 34 รักการอ่าน

แผนสัปดาห์ที่ 34 รักการอ่าน

Published by กิตติมา ศรีพรหมมา, 2022-05-18 08:05:19

Description: แผนสัปดาห์ที่ 34 รักการอ่าน

Search

Read the Text Version

แผนการจัดประสบการณ์ ชัน้ อนุบาล 3 สัปดาหท์ ี่ 24 รกั การอา่ น นางกิตติมา ศรีพรหมมา

การวิเคราะห์โครงสรา้ งหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ ตามหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ หน่วยท่ี 34 รกั การอ่าน ช้ันอนบุ าลปที ่ี 1 – 3 ภาคเรียนท่ี 2 รายการ อนุบาลปีท่ี ๑ อนบุ าลปที ี่ ๒ อนบุ าลปที ่ี ๓ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. ความรู้พืน้ ฐานเกีย่ วกับหนังสอื และ ๑. ความรพู้ ื้นฐานเกีย่ วกบั หนังสอื และ ๑. ความรู้พ้ืนฐานเกีย่ วหนังสือและตัวหนังสือ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ ตัวหนงั สือ ตวั หนงั สือ จากหนังสือภาพ จากหนงั สือนิทาน สภาพทพี่ ึงประสงค์ 2. หนงั สอื เปน็ สื่อสาหรับเล่าเรอ่ื งราวตา่ งๆ ๒. การอา่ นหนงั สอื นิทานโดยใช้การอ่านร่วมกัน ๒. การอา่ นหนังสอื นทิ านโดยใช้การอา่ นรว่ มกนั 3. การอ่านทาให้ไดร้ ้เู รอื่ งตา่ งๆ และเกิดความ ๓. การอ่านแบบช้ีแนะ ๓. การอ่านแบบชี้แนะ สนุกสนาน ๔. การอ่านอสิ ระ ๔. การอา่ นอสิ ระ 4. การเลา่ ข่าวและเหตุการณ์ประจาวัน ๕. การทาหนงั สือนิทาน ๔ ช่อง ๕. การเล่นเกมทางภาษาและกจิ กรรมรักการอา่ น 5. การเล่าเรื่องยอ้ นกลับจากหนังสอื ที่อ่าน ๖. การทาหนังสือเลม่ เล็ก ร่วมกนั มฐ.2 ตบช. 2.1 (2.1.3) มฐ.2 ตบช. 2.1 (2.1.3) มฐ.2 ตบช. 2.1 (2.1.3) ตบช. 2.2 (2.2.2) ตบช. 2.2 (2.2.๑) ตบช. 2.2 (2.2.๑) มฐ.3 ตบช. 3.2 (3.2.1) มฐ.3 ตบช. 3.2 (๓.๒.๒) มฐ.3 ตบช. 3.2 (3.2.1) (๓.๒.๒) มฐ.5 ตบช. 5.4 (5.4.1) มฐ.5 ตบช. 5.๒ (5.๒.๒) มฐ.5 ตบช. 5.๒ (5.๒.๒) มฐ.8 ตบช. 8.2 (8.2.1) ตบช. 5.๔ (๕.๔.๑) ตบช. 5.๔ (๕.๔.๑) มฐ.9 ตบช. 9.1 (๙.๑.๑) มฐ.๖ ตบช. ๖.๓ (๖.๓.๑) มฐ.๖ ตบช. ๖.๓ (๖.๓.๑) ตบช. 9.2 (9.2.1 , 9.2.2) มฐ.8 ตบช. 8.2 (8.2.1) มฐ.8 ตบช. 8.2 (8.2.1) มฐ.10 ตบช. 10.1 (๑0.1.1 , 10.1.2) ตบช. ๘.๓ (๘.๓.๒) ตบช. ๘.๓ (๘.๓.๒) (๑๐.๑.๔) มฐ.9 ตบช. 9.1 (๙.๑.๑) (๙.๑.๒) มฐ.9 ตบช. 9.1 (๙.๑.๑) (๙.๑.๒) มฐ.11 ตบช. 11.1 (๑1.1.1) ตบช. 9.2 (9.2.1) ( 9.2.2) ตบช. 9.2 (9.2.1) ( 9.2.2) ตบช. 11.2 (๑1.2.1) มฐ.10 ตบช. 10.1 (๑0.๑.๒) ( 10.1.๓) มฐ.10 ตบช. 10.1 (๑0.๑.๒) ( 10.1.๓) มฐ.๑๒ ตบช ๑๒.๑ (๑๒.๑.๑) (๑๒.๑.๒) ตบช. ๑๐.๒ (๑๐.๒.๑) ตบช. ๑๐.๒ (๑๐.๒.๑) ตบช. ๑๒.๒ (๑๒.๒.๑) มฐ.11 ตบช. 11.1 (๑1.1.1) (๑๑.๑.๒) มฐ.11 ตบช. 11.1 (๑1.1.1) (๑๑.๑.๒)

รายการ อนบุ าลปที ่ี ๑ อนุบาลปที ี่ ๒ อนุบาลปที ี่ ๓ ตบช. 11.2 (๑1.2.1) ตบช. 11.2 (๑1.2.1) มฐ.๑๒ ตบช ๑๒.๑ (๑๒.๑.๑) มฐ.๑๒ ตบช ๑๒.๑ (๑๒.๑.๑) ตบช. ๑๒.๒ (๑๒.๒.๑) ประสบการณ์สาคัญ รา่ งกาย รา่ งกาย ร่างกาย 1.1.1 (1) การเคลอ่ื นไหวอยู่กบั ที่ ๑.๑.๑ (๑) การเคล่ือนไหวอยู่กับที่ ๑.๑.๑ (๑) การเคลอื่ นไหวอยู่กับที่ (๒) การเคล่ือนไหว เคลื่อนท่ี (๒) การเคลอื่ นไหวเคล่ือนท่ี (๒) การเคลือ่ นไหวเคล่อื นที่ 1.1.2 (2) การเขยี นและการเล่นกบั สี (๓) การเคล่ือนไหวพร้อมอุปกรณ์ (๓) การเคลอ่ื นไหวพร้อมอุปกรณ์ 1.2.2 (1) การเลน่ อสิ ระ (๔) การเคลอื่ นไหวที่ใช้การประสาน (๔) การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสาน สมั พนั ธข์ องการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ในการจบั สมั พันธ์ของการใช้กลา้ มเนื้อใหญใ่ นการจบั (3) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ การโยน การเตะ การโยน การเตะ 1.2.4 (5) การทางานศลิ ปะ (๕) การเล่นเครอื่ งเล่นสนามอย่างอิสระ (๕) การเล่นเครื่องเล่นสนามอยา่ งอิสระ ๑.๑.๕ (๑) การเคลือ่ นไหวโดยควบคุมตนเอง ๑.๑.๕ (๑) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไป ในทิศทาง ระดบั และพืน้ ท่ี ไปในทิศทาง ระดับ และพ้ืนท่ี (๒) การเคลอ่ื นไหวขา้ มสงิ่ กีดขวาง ๑.๓.๓ (๑) การเลน่ บทบาทสมมติ การปฏบิ ัตติ น (๒) การเคลื่อนไหวขา้ มสง่ิ กีดขวาง ในความเป็นไทย (๕) การละเลน่ พื้นบ้านของไทย ๑.๓.๓ (๑) การเล่นบทบาทสมมติ การปฏิบัติ ตนในความเปน็ ไทย (๕) การละเล่นพืน้ บ้านของไทย

รายการ อนบุ าลปีท่ี ๑ อนุบาลปที ่ี ๒ อนบุ าลปที ่ี ๓ อารมณ์ อารมณ์ อารมณ์ 1.2.1 (5) การทากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ ๑.๒.๑ (๓) การเคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลงและ ๑.๒.๑ (๓) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลงและ 1.2.4 (1) การพูดสะท้อนความรสู้ ึกของตนเอง ดนตรี ดนตรี และผูอ้ ืน่ (5) การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ ง ๆ (5) การทากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ (2) การเลน่ บทบาทสมมติ (6) การสรา้ งสรรค์สิง่ สวยงาม (6) การสร้างสรรคส์ ่ิงสวยงาม (3) การเคล่อื นไหวตามเสียงเพลง/ ๑.๒.๔ (๑) การพดู สะท้อนความรู้สึกของตนเอง ๑.๒.๔ (๑) การพูดสะท้อนความรสู้ กึ ของตนเอง ดนตรี และผอู้ ื่น และผูอ้ ่ืน 1.2.5 (2) การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตาม (๒) การเลน่ บทบาทสมมติ (๒) การเลน่ บทบาทสมมติ ความสามารถของตนเอง (๔) การรอ้ งเพลง (๔) การรอ้ งเพลง ๑.๒.๕ (๑) การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆตาม ๑.๒.๕ (๑) การปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆตาม ความสามารถของตนเอง ความสามารถของตนเอง สังคม สังคม สงั คม 1.3.5 (2) การเล่นและทางานรว่ มกับผู้อื่น ๑.๓.๒ (๑) การมสี ว่ นรว่ มรับผดิ ชอบดูรกั ษา ๑.๓.๒ (๑) การมีส่วนร่วมรับผดิ ชอบดูรักษา ส่งิ แวดลอ้ มทัง้ ภายในและภายนอกห้องเรียน ส่ิงแวดล้อมทง้ั ภายในและภายนอกห้องเรยี น (๒) การใช้วัสดุและสงิ่ ของเครอ่ื งใชอ้ ยา่ ง (๒) การใช้วสั ดแุ ละส่ิงของเคร่ืองใช้อยา่ ง คมุ้ คา่ คุม้ ค่า (๓) การทางานศลิ ปะท่ีนาวสั ดุ (๓) การทางานศิลปะท่ีนาวัสดุ หรือส่งิ ของเคร่ืองใช้ทีใ่ ชแ้ ลว้ มาใช้ซา้ หรอื หรือสิ่งของเครื่องใชท้ ่ีใชแ้ ลว้ มาใชซ้ ้าหรือ แปรรปู แล้วนากลบั มาใช้ใหม่ แปรรปู แลว้ นากลบั มาใช้ใหม่ (๖) การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ท่ี (๖) การสนทนาข่าวและเหตุการณท์ ่ี เกีย่ วกับธรรมชาตแิ ละสงิ แวดล้อมใน เก่ยี วกับธรรมชาตแิ ละสงิ แวดล้อมใน ชีวิตประจาวัน ชวี ิตประจาวัน

รายการ อนบุ าลปีที่ ๑ อนบุ าลปีท่ี ๒ อนุบาลปที ่ี ๓ สตปิ ญั ญา ๑.๓.๓ (๑) การเล่นบทบาทสมมติ การปฏิบัติ ๑.๓.๓ (๑) การเล่นบทบาทสมมติ การปฏบิ ัตติ น 1.4.1 (3) การฟังเพลง ตนในความเปน็ ไทย ในความเปน็ ไทย (4) การพดู แสดงความคิด ความร้สู ึก (๕) การละเล่นพ้นื บ้านของไทย (๕) การละเลน่ พ้นื บ้านของไทย และความต้องการ ๑.๓.๔ (๒) การปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ท่ดี ีของ ๑.๓.๔ (๒) การปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของ ห้องเรยี น หอ้ งเรียน (5) การพูดอธบิ ายเก่ยี วกบั สง่ิ ของ เหตุการณ์และความสมั พนั ธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ (๓) การให้ความร่วมมือในการปฏบิ ัติ (๓) การใหค้ วามร่วมมือในการปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมต่างๆ กจิ กรรมตา่ งๆ (8) การรอจงั หวะท่เี หมาะสมในการพดู ๑.๓.๕ (๑) การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยน ๑.๓.๕ (๑) การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยนความ (10) การอ่านหนงั สือภาพ นิทาน ความคดิ เหน็ คิดเห็น หลากหลายประเภท (11) การอ่านอย่างอิสระตามลาพัง (๒) การเล่นและทางานร่วมกับผูอ้ ื่น (๒) การเล่นและทางานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน การอ่านร่วมกัน การอา่ นโดยมผี ู้ชี้แนะ (๓) การทาศลิ ปะแบบร่วมมือ (๓) การทาศิลปะแบบร่วมมือ สติปญั ญา สติปญั ญา ๑.๔.๑ (๒) การฟงั และปฏิบตั ิตามคาแนะนา ๑.๔.๑ (๒) การฟังและปฏบิ ัติตามคาแนะนา (๓) การฟงั เพลง นิทาน (๓) การฟังเพลง นิทาน คาคลอ้ งจอง คาคลอ้ งจองหรือเร่ืองราวต่าง ๆ หรอื เร่อื งราวตา่ ง ๆ (๔) การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ (๔) การพูดแสดงความคิด ความรู้สึก ความต้องการ ความต้องการ (๕) การพดู กบั ผู้อ่ืนเกี่ยวกบั (๕) การพูดกบั ผู้อนื่ เกี่ยวกบั ประสบการณ์ ประสบการณ์ของตนเอง หรอื พูดเลา่ เรอื่ งราว ของตนเอง หรอื พดู เล่าเร่ืองราวเกยี่ วกบั ตนเอง เกย่ี วกับตนเอง (๘) การรอจงั หวะท่ีเหมาะสมในการพูด (๘) การรอจงั หวะทีเ่ หมาะสมในการพูด (๑๐) การอ่านหนังสอื ภาพ นิทาน (๑0) การอา่ นอสิ ระตามลาพัง การอ่าน หลากหลายประเภท/รูปแบบ รว่ มกัน การอ่านโดยมีผูช้ แี้ นะ

รายการ อนบุ าลปีท่ี ๑ อนุบาลปีท่ี ๒ อนบุ าลปที ี่ ๓ (12) การเหน็ แบบอย่างของการอา่ นท่ี (๑1) การอ่านหนงั สือภาพ นิทาน (๑๑) การอา่ นอสิ ระตามลาพงั การอ่าน ถกู ต้อง หลากหลายประเภท/รปู แบบ รว่ มกัน การอ่านโดยมผี ชู้ ี้แนะ (15) การอ่านและชข้ี ้อความโดยกวาด (๑๒) การเหน็ แบบอยา่ งของการอา่ นที่ (๑๒) การเห็นแบบอย่างของการอา่ นท่ี สายตาตามบรรทดั จากซา้ ยไปขวา จากบนลง ถกู ต้อง ถกู ต้อง ล่าง 1.4.2 (6) การต่อของชนิ้ เล็กเติมในช้นิ ใหญ่ให้ (๑๓) การสงั เกตทศิ ทางการอ่านตวั อักษร (๑๓) การสังเกตทิศทางการอ่านตวั อักษร สมบรู ณ์และการแยกชนิ้ ส่วน คา และข้อความ คา และข้อความ (13) การจับค่สู ่งิ ต่าง ๆ ตามลกั ษณะ (๑๗) การคาดเดาคา วลี หรือประโยคท่มี ี (๑๗) การคาดเดาคา วลี หรือประโยคทีม่ ี (14) การบอกและเรยี งลาดับกิจกรรม โครงสรา้ งซ้าๆกนั จากนิทาน โครงสร้างซา้ ๆกนั จากนทิ าน หรอื เหตกุ ารณต์ ามช่วงเวลา 1.4.3 (2) การแสดงความคิดสร้างสรรคผ์ ่าน (๑๙) การเหน็ แบบอยา่ งของการเขยี นท่ี (๑๙) การเหน็ แบบอยา่ งของการเขียนท่ี ภาษา ทา่ ทาง การเคลื่อนไหวและศิลปะ ถูกต้อง ถูกต้อง 1.4.4 (4) การมสี ่วนร่วมในการรวบรวมข้อมลู และนาเสนอขอ้ มูลจากการสบื เสาะหาความรใู้ น (๒๐) การเขยี นร่วมกนั ตามโอกาสและ (๒๐) การเขยี นร่วมกันตามโอกาสและการ รูปแบบต่าง ๆและแผนภมู อิ ย่างงา่ ย การเขียนอิสระ เขียนอิสระ (๒๑) การเขยี นคาทมี่ ีความหมายกับตัว (๒๑) การเขียนคาทมี่ คี วามหมายกับตัว เด็ก/คาคุน้ เคย เด็ก/คาคนุ้ เคย ๑.๔.๒ (๕) การคัดแยก การจัดกลุ่มและ ๑.๔.๒ (๕) การคดั แยก การจัดกล่มุ และ การจาแนกส่ิงต่างๆ ตามลักษณะและรูปร่าง การจาแนกสง่ิ ต่างๆ ตามลักษณะและรูปร่าง รูปทรง รูปทรง (๘) การนับและแสดงจานวนของ (๘) การนบั และแสดงจานวนของ ส่งิ ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั สงิ่ ต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทียบและ (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทียบและ การเรยี งลาดับสิ่งตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะความยาว การเรยี งลาดบั ส่งิ ตา่ ง ๆ ตามลักษณะความยาว/ /ความสงู ความสูง

รายการ อนุบาลปีท่ี ๑ อนุบาลปีที่ ๒ อนบุ าลปที ี่ ๓ คณติ ศาสตร์ (๑๖) การอธิบายเชอื่ มโยงสาเหตุและผล (๑๖) การอธบิ ายเชือ่ มโยงสาเหตแุ ละผลท่ี ท่ีเกดิ ข้นึ ในเหตุการณห์ รือการกระทา เกิดข้นึ ในเหตุการณห์ รือการกระทา ๑.๔.๓ (๑) การรบั รู้ และแสดงความคดิ ๑.๔.๓ (๑) การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรสู้ กึ ความรูส้ กึ ผา่ นสอ่ื วสั ดุ ของเลน่ และช้นิ งาน ผ่านสื่อ วัสดุ ของเล่นและชิ้นงาน (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ น (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ ่าน ภาษา ท่าทาง การเคล่ือนไหว และศลิ ปะ ภาษา ทา่ ทาง การเคล่ือนไหว และศลิ ปะ (๓) การสรา้ งสรรคช์ นิ้ งานโดยใช้รปู รา่ ง (๓) การสร้างสรรคช์ ิ้นงานโดยใชร้ ปู รา่ ง รปู ทรงจากวัสดทุ ่หี ลากหลาย รปู ทรงจากวัสดุท่ีหลากหลาย 1.4.๔ (๑) การสารวจสง่ิ ต่างๆและแหล่งเรยี นรู้ 1.4.๔ (๑) การสารวจสิ่งตา่ งๆและแหล่งเรียนรู้ รอบตัว รอบตวั (๒) การตงั้ คาถามในเรือ่ งท่ีสนใจ (๒) การตง้ั คาถามในเรอื่ งท่ีสนใจ  นับและแสดงจานวน 1 – 5  นบั และแสดงจานวน 1 – 17  นับและแสดงจานวน 1 – 19  เรียงลาดับที่ของสง่ิ ต่างๆ จานวนไมเ่ กนิ 5  เรียงลาดบั ที่ของส่ิงตา่ งๆ จานวนไมเ่ กนิ 7  เรียงลาดับท่ีของส่งิ ต่างๆ จานวนไมเ่ กนิ 9  แสดงจานวนทง้ั หมดท่ีเกิดจากการรวมสงิ่  แสดงจานวนทัง้ หมดที่เกดิ จากการรวมส่ิง  แสดงจานวนทงั้ หมดที่เกิดจากการรวมสิง่ ตา่ งๆ สองกลมุ่ ทมี่ ผี ลรวมไม่เกิน 5 ต่างๆ สองกลมุ่ ท่มี ผี ลรวมไมเ่ กิน 17 ต่างๆ สองกลุ่มทมี่ ีผลรวมไม่เกิน 19  เปรียบเทยี บจานวนของสิ่งตา่ งๆ สองกลมุ่  เปรียบเทียบจานวนของสง่ิ ต่างๆ สองกลมุ่  เปรียบเทยี บจานวนของสง่ิ ตา่ งๆ สองกลุม่ โดยแตล่ ะกลุม่ มีจานวนไมเ่ กิน 5 ว่ามจี านวน โดยแตล่ ะกลมุ่ มจี านวนไม่เกิน 17 ว่ามี โดยแตล่ ะกลุ่มมีจานวนไม่เกิน 19 ว่ามี เทา่ กนั หรือไมเ่ ท่ากัน จานวนเทา่ กันหรอื ไมเ่ ท่ากัน จานวนเทา่ กันหรือไมเ่ ท่ากนั  เรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์ในชวี ติ ประจาวัน  วางแบบรูปใหเ้ หมือนต้นแบบหรือตอ่ เติม  ตอ่ แบบรปู ใหเ้ ข้าชุดกบั แบบรูปท่กี าหนด จากที่กาหนด  สร้างแบบรูปตามความคิดของตนเอง

รายการ อนุบาลปที ่ี ๑ อนบุ าลปที ่ี ๒ อนุบาลปที ี่ ๓ วิทยาศาสตร์ ๑. การสังเกตลักษณะของส่ิงตา่ ง ๆ โดยใช้ ๑. การสังเกตลกั ษณะและสว่ นประกอบของ ประสาทสัมผสั อย่างเหมาะสม สง่ิ ตา่ ง ๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม ๑. การสงั เกตลักษณะ สว่ นประกอบการ พฒั นาการทางภาษา ๒. การบอกและแสดงตาแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ๒. การสงั เกตสงิ่ ต่าง ๆ จากมุมมองที่ตา่ งกัน เปลี่ยนแปลงและความสมั พันธข์ องสิ่งตา่ ง ๆ โดย และการรหู้ นังสือ ๓. การบอกและแสดงตาแหน่งและทิศทางของ ใช้ประสาทสัมผัสอยา่ งเหมาะสม 1. การอ่านหนังสือภาพ / นทิ าน ส่ิงต่าง ๆ ๒. การบอกและแสดงตาแหน่งทศิ ทางและ 2. การอา่ นรว่ มกนั ๔. การอธบิ ายเชอื่ มโยงสาเหตุและผลที่เกิดข้นึ ระยะทางของส่ิงต่าง ๆ 3. การเหน็ แบบอยา่ งการอ่านที่ถูกต้อง ๓.การสงั เกตส่ิงตา่ ง ๆ และสถานทจ่ี ากมุมมอง 4. การสงั เกตทศิ ทางการอา่ นตัวอักษรคาและ 1. การอา่ นหนังสอื ภาพ นทิ านหลากหลาย ท่ีต่างกนั ข้อความ ประเภท / รปู แบบ ๔. การอธิบายเชือ่ มโยงสาเหตุและผลที่เกิดขนึ้ 2. การอา่ นรว่ มกัน 3. การอา่ นโดยมีผชู้ ีแ้ นะ 1. การอา่ นหนงั สอื ภาพ นทิ านหลากหลาย 4. การอา่ นอิสระ ประเภท / รปู แบบ 5. การเห็นแบบอยา่ งการอ่านท่ีถูกต้อง 2. การอ่านรว่ มกนั 6. การเลน่ เกมทางภาษา 3. การอ่านโดยมีผชู้ ้ีแนะ 7. การเขยี นรว่ มกนั ตามโอกาส 4. การอ่านอสิ ระ 5. การเหน็ แบบอย่างการอา่ นท่ถี ูกต้อง 6. การเล่นเกมทางภาษา 7. การเขียนร่วมกันตามโอกาส

หน่วยการจดั ประสบการณท์ ี่ ๓๔ รักการอา่ น ช้นั อนุบาลปีท่ี ๓ แนวคิด การปลูกฝังนิสัย รกั การอา่ น สามารถเรม่ิ ไดต้ ั้งแตว่ ยั อนบุ าล โดยการสง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ ค้นุ เคยกับหนงั สอื นทิ าน หนังสือภาพทหี่ ลากหลายและการอ่านรูปแบบตา่ งๆ เชน่ อ่านร่วมกัน อา่ นแบบชีแ้ นะ อ่านอสิ ระ และการเล่นเกมภาษา มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี ๒ ๒.๑ เคล่ือนไหวร่างกาย ๒.๑.๓ ว่ิงหลบหลีกสง่ิ กีด ๑. เคลื่อนไหวรา่ งกายใน ๑.๑.๑ การใช้กล้ามเนอื้ ใหญ่ ๑. ความร้พู ้ืนฐานเกย่ี ว กลา้ มเน้ือใหญ่และ กลา้ มเนอ้ื เล็กแข็งแรง อยา่ งคล่องแคล่วประสาน ขวางได้อยา่ งคล่องแคลว่ กจิ กรรมตา่ งๆอย่าง (๑) การเคล่ือนไหวอยกู่ ับที่ หนังสอื และตวั หนังสือ ใช้ได้อยา่ งคล่องแคลว่ และประสานสมั พันธ์กนั สัมพนั ธแ์ ละทรงตวั ได้ คลอ่ งแคล่วประสานสมั พนั ธ์ (๒) การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี ๒. การเลา่ ข่าวและ และทรงตัวได้ (๓) การเคล่ือนไหวพรอ้ มอปุ กรณ์ เหตุการณ์ประจาวัน (๔) การเคล่ือนไหวท่ีใชก้ ารประสาน ๓. การอ่านร่วมกนั สัมพันธ์ของการใช้กล้ามเน้ือใหญ่ในการ ๔. การอา่ นแบบชีแ้ นะ จับ การโยน การเตะ ๕. การอา่ นอสิ ระ (๕) การเลน่ เครื่องเลน่ สนามอย่างอิสระ ๖. การเล่นเกมทางภาษา ๑.๑.๔ การรักษาความปลอดภัย และกิจกรรมรกั การอา่ น (๓) การเล่นเคร่ืองเลน่ อย่างปลอดภยั ๖. การทาหุ่นเงา ๑.๑.๕ การตระหนกั รู้เกยี่ วกบั รา่ งกาย ๗. การนับและแสดงจานวน ตนเอง 1 - 1๙ (๑) การเคล่ือนไหวโดยควบคุมตนเอง ๘. จาแนก จัดกลุ่มจานวน ไปในทิศทาง ระดับ และพืน้ ท่ี ๙.พื้นฐานการบวก ๒.๒ ใชม้ ือ-ตาประสาน ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตดั ๒. สรา้ งผลงานศิลปะเพอ่ื (๒) การเคลื่อนไหวขา้ มสิ่งกีดขวาง ไม่เกนิ ๑๙ สมั พนั ธ์กัน กระดาษตามแนวเส้นโค้งได้ สือ่ สารความคดิ ความร้สู ึกของ ๑.๓.๓ การปฏิบัติตามวัฒนธรรม ตนเองต่อผ้อู น่ื ได้ ท้องถ่นิ และความเปน็ ไทย

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ตวั บง่ ช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์ มาตรฐานที่ 3 (๕) การละเล่นพื้นบ้านของไทย มสี ขุ ภาพจิตดแี ละมี ความสุข ๑.๑.๒ การใชก้ ล้ามเนอ้ื เลก็ (๑) การเลน่ เครื่องเล่นสมั ผสั และการ สร้างจากแทง่ ไมบ้ ล็อก (๒) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี (๓) การปนั้ (๕) การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉกี การตัด การปะ และ ร้อยวสั ดุ ๓.๒ มีความรสู้ กึ ที่ดีต่อ ๓.๒.๑ กล้าพดู กล้า ๓. พูด และแสดงออกได้อย่าง ๑.๒.๑ สนุ ทรียภาพ ดนตรี ตนเองและผอู้ ื่น แสดงออกอยา่ งเหมาะสม คลอ่ งแคล่วเหมาะสมตาม (๓) การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลงและ ตามสถานการณ์ สถานการณ์ ดนตรี (5) การทากจิ กรรมศิลปะต่าง ๆ ๓.๒.๒ แสดงความพอใจใน ๔. แสดงอารมณ์ความรู้สึก (6) การสรา้ งสรรคส์ ิง่ สวยงาม ผลงานและความสามารถ ของตนไดเ้ หมาะสมตาม ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ ของตนเองและผอู้ ื่น สถานการณ์ (๑) การพูดสะท้อนความรูส้ ึกของตนเอง และผ้อู นื่ (๒) การเล่นบทบาทสมมติ (๔) การร้องเพลง ๑.๒.๕ การมีอัตลักษณเ์ ฉพาะตนและ เช่ือว่าตนเองมีความสามารถ (๑) การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ งๆตาม ความสามารถของตนเอง

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ สาระท่คี วรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ ๕ ๕.๒ มีความเมตตากรุณามี ๕.๒.๒ ชว่ ยเหลือและ ๕. ช่วยเหลือและแบง่ ปัน ๑.๓.๒ การดแู ลรักษาธรรมชาติและ มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและ นา้ ใจและชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน แบง่ ปันผู้อน่ื ไดด้ ้วยตนเอง ผูอ้ ื่นได้ด้วยตนเองสมา่ เสมอ สิ่งแวดลอ้ ม จติ ใจท่ีดีงาม (๑) การมสี ว่ นร่วมรับผิดชอบดรู กั ษา ๕.๔ มีความรับผิดชอบ ๕.๔.๑ ทางานทไี่ ดร้ ับ ๖. ทางานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย สงิ่ แวดล้อมทัง้ ภายในและภายนอก มอบหมายจนสาเรจ็ ด้วย จนสาเรจ็ ได้ด้วยตนเอง ห้องเรยี น ตนเอง ๑.๓.๕ การเลน่ และทางานแบบร่วมมอื ร่วม ใจ (๒) การเลน่ และทางานรว่ มกับผู้อ่นื มาตรฐานท่ี ๖ ๖.๓ ประหยดั และพอเพยี ง ๖.๓.๑ ใชส้ ิ่งของเครื่องใช้ ๗. ใชส้ ง่ิ ของเครื่องใชอ้ ย่าง ๑.๓.๒ (๒) การใชว้ สั ดุและสิ่งของเครื่องใช้ อย่างคุ้มคา่ มีทักษะชวี ติ และปรชั ญา อยา่ งประหยัดและพอเพียง ประหยัดและพอเพียงดว้ ย (๖) การสนทนาข่าวและเหตุการณท์ ่ี เกีย่ วกับธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมใน ของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยตนเอง ตนเองได้อย่างเหมาะสม ชีวติ ประจาวัน

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ ๘ ๘.๒ มีปฏสิ มั พันธท์ ่ดี ีกับ ๘.๒.๑ เล่นหรอื ทางาน ๘. เล่นหรอื ทางานรว่ มมอื กับ ๑.๓.๔ การมปี ฏิสัมพนั ธ์ มีวินยั อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ืน่ ได้อย่างมี ผอู้ ่นื รว่ มมอื กับเพ่ือนอยา่ งมี เพื่อนอย่างมีเปา้ หมายจน มีสว่ นร่วมและบทบาทสมาชิกของสงั คม ความสุขและปฏิบัติตน เปา้ หมาย สาเร็จ (๒) การปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกท่ดี ี เป็นสมาชิกทีด่ ีของสังคม ของห้องเรียน ในระบอบประชาธปิ ไตย ๘.๓ ปฏิบัตติ นเบื้องตน้ ใน ๘.๓.๒ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้นา ๙. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผนู้ าและ (๓) การใหค้ วามร่วมมือในการปฏบิ ตั ิ อนั มีพระมหากษัตรยิ ์ การเปน็ สมาชกิ ที่ดีของ และผตู้ ามไดเ้ หมาะสมกับ ผตู้ ามในกิจกรรมเคล่ือนไหว กจิ กรรมตา่ งๆ ทรงเปน็ ประมขุ สงั คม สถานการณ์ และจงั หวะไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ ง ๑.๓.๕ การเล่นและทางานแบบร่วมมือ เหมาะสมกับสถานการณ์ รว่ มใจ (๑) การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยน ความคดิ เห็น (๒) การเล่นและทางานรว่ มกับผอู้ ื่น (๓) การทาศิลปะแบบรว่ มมือ มาตรฐานท่ี ๙ ๙.๑ สนทนาโตต้ อบและ ๙.๑.๑ ฟงั ผู้อื่นพูดจนจบ ๑๐ ส่อื สาร สนทนาโต้ตอบ ๑.๔.๑ การใช้ภาษา ใชภ้ าษาสื่อสารได้ เล่าเรอื่ งให้ผอู้ ืน่ เขา้ ใจ (๒) การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา เหมาะสมกบั วัย และสนทนาโต้ตอบอย่าง อย่างเข้าใจความหมาย (๓) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจองหรือเรอ่ื งราวตา่ ง ๆ ตอ่ เนอ่ื งเช่ือมโยงกับเรือ่ ง (๔) การพูดแสดงความคิด ความรูส้ ึก ความต้องการ ท่ีฟัง (๕) การพูดกับผู้อ่ืนเก่ียวกบั ประสบการณ์ของตนเอง หรือพดู เล่า ๙.๑.๒ เลา่ เรือ่ งเป็นประโยค ๑๑. เล่าเรือ่ งเป็นประโยค เรื่องราวเกยี่ วกบั ตนเอง อยา่ งต่อเน่ือง อยา่ งต่อเน่อื งให้ผูอ้ น่ื เข้าใจได้

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๑๒. อ่านภาพสญั ลกั ษณ์ (๘) การรอจังหวะทีเ่ หมาะสมใน สาระที่ควรเรียนรู้ คาพร้อมชี้หรือกวาดตามอง การพูด ๙.๒ อ่าน เขยี น ภาพและ ๙.๒.๑ อา่ นภาพสัญลักษณ์ จุดเร่ิมตน้ และจดุ จบของ (๑๑) การอ่านอสิ ระตามลาพัง ข้อความตามบรรทัดได้ การอา่ นรว่ มกัน การอ่านโดยมผี ชู้ แี้ นะ สัญลักษณ์ได้ คาด้วยการชีห้ รือกวาดตา (๑๐) การอา่ นหนังสอื ภาพ นิทาน ๑๓. เขียนชอ่ื ของตนเองตาม หลากหลายประเภท/รูปแบบ มองจดุ เร่ิมตน้ และจุดจบ แบบ เขียนข้อความดว้ ยวธิ ีทค่ี ิด (๑๒) การเห็นแบบอย่างของการอ่านท่ี ข้นึ เองได้ ถูกต้อง ของขอ้ ความ (๑๓) การสังเกตทิศทางการอ่าน ตวั อักษร คา และข้อความ ๙.๒.๒ เขียนช่อื ของตนเอง (๑๗) การคาดเดาคา วลี หรอื ประโยค ตามแบบ เขียนขอ้ ความ ดว้ ยวิธที ่คี ดิ ข้นึ เอง ทม่ี โี ครงสร้างซ้าๆกนั จากนิทาน (๑๙) การเห็นแบบอย่างของการเขยี น ท่ถี ูกต้อง (๒๐) การเขียนร่วมกนั ตามโอกาสและ การเขียนอิสระ (๒๑) การเขียนคาทม่ี ีความหมายกบั ตัวเดก็ /คาคุ้นเคย

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๑๔. จับคู่และเปรยี บเทียบ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี ๑๐ ความแตกตา่ งหรือความเหมือน มคี วามสามารถในการ ๑๐.๑ มคี วามสามารถใน ๑๐.๑.๒ จบั คแู่ ละ ของส่ิงตา่ งๆ โดยลักษณะท่ี ๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชงิ คิดทเ่ี ป็นพ้ืนฐานในการ สงั เกตพบสองลักษณะขึ้นไป เรยี นรู้ การคิดรวบยอด เปรยี บเทียบความแตกต่าง เปน็ เกณฑ์ เหตุผล การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา และความเหมือนของส่ิง ๑๕. จาแนกและจัดกลุม่ จานวน (๕) การคัดแยก การจัดกลุ่มและ ของส่งิ ต่างๆได้มากกว่า ต่างๆ โดยใช้ลักษณะทสี่ งั เกต สองลักษณะขน้ึ ไป การจาแนกสง่ิ ต่างๆ ตามลักษณะ พบสองลักษณะข้ึนไปเป็น ๑๖. อธบิ ายการทางานที่ และรูปร่าง รปู ทรง เกิดข้ึนของตนเองได้สอดคลอ้ ง เกณฑ์ กับผลงานดว้ ยตนเอง (๘) การนับและแสดงจานวนของส่ิง ๑๐.๑.๓ จาแนกและจัดกลุ่ม ๑๗. ตดั สินใจในเรอื่ งงา่ ยๆและ ตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวัน ยอมรับผลทเี่ กิดขึ้นจากการ สิ่งต่างๆโดยใชต้ ้งั แต่สอง ตัดสนิ ใจได้ (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทียบและ ลกั ษณะขึ้นไปเป็นเกณฑ์ การเรยี งลาดับสงิ่ ต่าง ๆ ตาม ลกั ษณะความยาว/ความสงู ๑๐.๒ มคี วามสามารถใน ๑๐.๒.๑ อธิบายเชอ่ื มโยง (๑๖) การอธิบายเชื่อมโยงสาเหตุ การคดิ เชิงเหตุผล สาเหตแุ ละผลที่เกิดขึ้นใน เหตกุ ารณ์หรือการกระทา และผลทีเ่ กิดขนึ้ ในเหตุการณ์หรือ ๑๐.๓ มีความสามารถใน ดว้ ยตนเอง การคดิ แก้ปัญหาและ ๑๐.๓.๑ ตดั สนิ ใจในเรอ่ื ง การกระทา ตัดสินใจ งา่ ยๆและยอมรับผลที่เกดิ ข้นึ (๑๙) การตดั สนิ ใจและมีสว่ นร่วมใน กระบวนการการแกป้ ญั หา

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๑๘. การสร้างผลงานศลิ ปะ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ อยา่ งอิสระเพื่อส่ือสารความคิด มาตรฐานที่ ๑๑ ๑๑.๑ ทางานศลิ ปะตาม ๑๑.๑.๑ สร้างผลงานศลิ ปะ ความรสู้ ึกของตนได้ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี มีจนิ ตนาการและ จินตนาการและความคิด เพอื่ สื่อสารความคดิ (5) การทากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ ความคิดสรา้ งสรรค์ ๑๙. เคล่อื นไหวรา่ งกายแสดง สร้างสรรค์ ความรู้สึกของตนเองโดยมี ทา่ ทางตามเสยี งดนตรีโดยใช้ (6) การสรา้ งสรรคส์ ่ิงสวยงาม การดดั แปลงแปลกใหมจ่ าก การประสานสมั พนั ธก์ ลา้ มเนื้อ ๑.๔.๓ จนิ ตนาการและความคิด เดมิ และมรี ายละเอียดเพมิ่ ขน้ึ และทรงตัวได้ สรา้ งสรรค์ ๑๑.๒ แสดงทา่ ทาง/ ๑๑.๒.๑ เคลือ่ นไหวท่าทาง (๑) การรบั รู้ และแสดงความคิด ความรู้สึกผา่ นสอื่ วัสดุ ของเลน่ และ เคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการ เพอื่ สื่อสารความคดิ ชิน้ งาน อย่างสร้างสรรค์ ความรู้สกึ ของตนเองอย่าง หลากหลายและแปลกใหม่ (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ ผ่านภาษา ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหว และศลิ ปะ (๓) การสร้างสรรคช์ ้นิ งานโดยใช้ รปู ร่างรปู ทรงจากวัสดทุ ่ีหลากหลาย

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ๒๐. สนใจซักถามเกี่ยวกับ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ สญั ลกั ษณ์หรือตวั หนังสือท่ีพบ มาตรฐานท่ี 12 ๑๒.๑ มเี จตนคติทด่ี ีตอ่ การ ๑๒.๑.๑ สนใจหยิบหนังสอื เห็นสม่าเสมอ (๓) การสรา้ งสรรคช์ ิน้ งานโดยใช้ มีเจตคติท่ดี ีต่อ เรียนรู้ มาอา่ นและเขียนสื่อความคิด รูปรา่ งรูปทรงจากวสั ดุทหี่ ลากหลาย การเรียนรู้และ ๒๑. สารวจ ตั้งคาถาม เพ่ือ มคี วามสามารถใน ด้วยตนเองเป็นประจาอย่าง ค้นหาคาตอบของข้อสงสัย 1.4.4 เจตคติท่ดี ตี ่อการเรยี นรแู้ ละ การแสวงหาความรู้ได้ ต่อเนื่อง ตา่ งๆ ตามวธิ กี ารของตนเองได้ การแสวงหาความรู้ 12.2 มีความ สามารถใน 12.2.๑ ค้นหาคาตอบข้อ (๑) การสารวจสง่ิ ตา่ ง ๆ และแหล่ง เรียนรูร้ อบตัว การแสวงหาความรู้ สงสยั ต่างๆ โดยใชว้ ธิ ีที่ หลากหลายด้วยตนเอง ๑๒.๒.๒ ใชป้ ระโยคคาถาม ๒๒. ใช้คาถาม “เมื่อไร” (๒) การตงั้ คาถามในเร่ืองท่ีสนใจ ว่า เม่อื ไร อย่างไรในการ “อย่างไร” ได้เหมาะสมกับ ค้นหาคาตอบ สถานการณ์

ผงั ความคดิ แผนการจัดประสบการณ์รักการอ่าน ช้ันอนบุ าลปีที่ ๓ ๑. กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ ๒. กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ ๓. กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ ๑. การเคล่อื นไหวเคล่ือนทปี่ ระกอบเพลงอ่านหนังสือ ๑. ความร้พู นื้ ฐานเก่ียวกบั หนังสอื และตัวหนังสือจาก ๑.ปั้นดินน้ามันตามจินตนาการ ๒. การเคล่ือนไหวร่างกายไปในทิศทาง ระดับ และ หนงั สือภาพ การทาอกั ษรดว้ ยแปง้ ขา้ วเหนียว พน้ื ท่ีอย่างอิสระ ๑.๑. การอ่านหนังสอื นิทานโดยใช้การอ่านรว่ มกนั ๒ – ๕ การทาหนังสอื เลม่ เลก็ ด้วย ๓. การเคลอ่ื นไหวเคล่ือนที่เชิงสรา้ งสรรคป์ ระกอบ ๑.๒. การอา่ นแบบชี้แนะ การวาดภาพ ระบายสี และการฉีก อุปกรณ์ ๑.๓. การอา่ นอสิ ระ ตดั ปะ ๔. การเคล่ือนไหวเคล่ือนทเี่ ลียนแบบทา่ ทางสตั ว์ตา่ งๆ ๒. การเลน่ เกมทางภาษาและกิจกรรมรกั การอา่ น ทม่ี ใี นนิทานเร่ือง เจา้ หมูขโี้ ม้ ๓. การทาหนงั สอื เล่มเลก็ ๕. การเคลอ่ื นไหวเคลื่อนทีแ่ สดงทา่ ทางเปน็ ผูน้ าและ ๔. การเปรียบเทียบ จาแนก จดั กลมุ่ จานวน ผู้ตาม ๕. การนับ และแสดงจานวน ๑ - ๑๙ ๖. พื้นฐานการบวกไมเ่ กนิ ๑๙ ๔. กิจกรรมเล่นตามมุม ๓. จาแนก จดั กลุ่มจานวน ๖. เกมการศึกษา ๑. มุมหนังสือ แนะนาหนังสือและหนงั สอื เก่ยี วกับการอ่าน รกั การอ่าน ๔.การนบั และหแนส่วดงยจรากั นกวานร๑อ-า่๑น๙ ๑. เกมจบั คู่ภาพที่มีเสยี งพยัญชนะตน้ เหมือนกนั ๒. มุมสร้างสรรค์ จัดวางอปุ กรณ์ การวาด ๕.พ้ืนฐานการบชวัน้ กอไนมบุ่เกานิ ล๑ป๙ที ่ี 3 ๒. เกมจบั คภู่ าพสมั พนั ธ์แบบอปุ มา-อปุ ไมย ภาพระบายสี การฉกี ตดั ปะ และการเขยี น ๓. เกมจับค่ภู าพที่มีเสียงสระเหมอื นกัน ๓. มมุ บล็อก จัดวางลกู บาศก์ขนาดตา่ งๆ ๕. กจิ กรรมกลางแจ้ง ๔. เกมจบั คภู่ าพกับสญั ลกั ษณ์(บตั รคา) พรอ้ มบตั ร ๔. มมุ บทบาทสมมติ จดั วางหนุ่ ถงุ มือตา่ งๆ ตรวจสอบ ๑. การเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม ๕. เกมพื้นฐานการบวก ๒. การเลน่ น้า – เลน่ ทราย ๓. เกมรบั สง่ ลูกลิงชิงบอล ๔. การเลน่ เกมขุดคุย้ ตะลยุ โลก ๕. การวงิ่ เป้ียวเก็บลูกบอลดว้ ยหว่ ง

การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจดั ประสบการณ์ช้ันอนุบาลปที ี่ ๓ หน่วยรักการอา่ น วนั ท่ี เคลือ่ นไหวและจงั หวะ กจิ กรรม เสริมประสบการณ์ ศิลปะสรา้ งสรรค์ เลน่ ตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศึกษา 1 การเคลอื่ นไหว ๑. ความร้พู นื้ ฐานเกี่ยวกับหนังสอื ๑. ปั้นดินน้ามันตาม แนะนาหนงั สือเร่ือง รอง เลน่ เครื่องเลน่ สนาม เกมจับค่ภู าพทมี่ ีเสยี ง เคล่อื นทป่ี ระกอบ และตัวหนังสอื จากหนังสอื นิทาน จนิ ตนาการ เทา้ ..แบบไหนดนี ะ และ พยญั ชนะตน้ เหมอื นกนั เพลง อา่ นหนังสือ ๑.๑ การอ่านหนงั สือนทิ านโดยใช้ ๒. การประดิษฐ์อักษรจาก หนังสอื เช่นหมีน้อยจะ การอา่ นร่วมกัน แป้งขา้ วเหนยี ว ไปโรงเรียน นมจากเต้า เทย่ี วเมืองไทยและตวั อะไรกาลงั มา เก่ยี วกับ ตวั อักษรและพยัญชนะ ไทย 2 การเคลือ่ นไหวร่างกาย ๑. ความรพู้ น้ื ฐานเกี่ยวกบั หนังสอื ๑. ทาภาพด้วยการประดิษฐ์ ๒. มุมสรา้ งสรรค์ จัด เลน่ น้า เล่นทราย เกมจับคภู่ าพสมั พนั ธ์ ไปในทิศทาง ระดับ และตวั หนงั สอื จากหนังสอื นิทาน และพ้ืนทีอ่ ยา่ งอิสระ ๒. การทาหนังสอื เลม่ เล็ก จากสง่ิ ตา่ งๆ วางอุปกรณ์ การวาด แบบอปุ มา-อปุ ไมย ๓. การอ่านร่วมกัน ๒. ทาภาพด้วยการ ฉีก ตัดปะ ภาพ ระบายสี การฉีก ๓. การทาหนังสือเลม่ เล็ก ตดั ปะและการจดั ทา หนงั สอื เล่มเลก็ 3 การเคลื่อนไหว ๑. ความรู้พน้ื ฐานเกี่ยวกับหนังสอื ๑. ทาภาพดว้ ยการประดิษฐ์ มุมบทบาทสมมติ จัด เล่นน้า เลน่ ทราย เกมจบั คู่ภาพทมี่ เี สยี ง สระเหมอื นกนั เคลอ่ื นท่ีเชิงสรา้ งสรรค์ และตัวหนงั สือ จากหนังสอื นิทาน จากสิง่ ต่างๆ วางหนุ่ ถุงมอื ตา่ งๆ ประกอบอุปกรณ์ ๒. การทาหนงั สอื เลม่ เลก็ ๒. ทาภาพด้วยการ ฉีก ตดั ปะ ๓. การเล่นเกมทางภาษาและ ๓. การทาหนงั สอื เล่มเล็ก กิจกรรมรกั การอา่ น

วนั ท่ี เคลือ่ นไหวและจังหวะ เสรมิ ประสบการณ์ กิจกรรม ศิลปะสร้างสรรค์ เลน่ ตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา 4 การเคลอื่ นไหว ๑. ความรพู้ ้นื ฐานเกยี่ วกับหนังสอื ๑. ทาภาพด้วยการประดิษฐ์ มุมประสบการณ์ อย่าง เกมขดุ ค้ยุ ตะลยุ โลก เกมจบั คู่ภาพกับ สญั ลกั ษณ(์ บัตรคา) เคล่อื นทีเ่ ลยี นแบบ และตัวหนังสอื จากหนังสือนิทาน จากสงิ่ ตา่ งๆ นอ้ ย ๔ มุม พร้อมบัตรตรวจสอบ ทา่ ทาง สัตว์ตา่ งๆใน ๒. การทาหนังสือเล่มเล็ก ๒. ทาภาพดว้ ยการ ฉีก ตัดปะ นทิ าน เจา้ หมขู โี้ ม้ ๓. การเล่นเกมทางภาษาและ ๓. การทาหนงั สอื เล่มเลก็ กิจกรรมรักการอ่าน 5 การเคล่ือนไหว ๑. ความรพู้ น้ื ฐานเกีย่ วกบั หนังสอื ๑. ทาภาพดว้ ยการประดิษฐ์ มุมประสบการณ์ อยา่ ง การว่ิงเป้ียวนบั ลกู เกมพ้นื ฐานการบวก เคลือ่ นทีแ่ สดงทา่ ทาง และตัวหนังสอื จากหนังสือนิทาน จากส่งิ ตา่ งๆ น้อย ๔ มมุ บอลดว้ ยห่วง เป็นผ้นู า และผตู้ าม ๑.๑ การอา่ นหนังสอื นิทานโดยใช้ ๒. ทาภาพด้วยการ ฉกี ตัดปะ การอา่ นร่วมกัน ๓. การทาหนงั สอื เลม่ เลก็ ๑.๒ การอ่านแบบชแ้ี นะ ๑.๓ การอ่านอิสระ ๔. การนบั และแสดงจานวน ๑ - ๑๙ ๕. พื้นฐานการบวก

แผนการจดั ประสบการณชน้ั อนบุ าล ๓ หนว ยท่ี ๓๔ รักการอา น สปั ดาหท่ี ๓๔ ครงั้ ท่ี ๑ วนั ที่................เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ สงั เกต การเคลอ่ื นไหวร่างกาย กิจกรรม (๑) การเคล่ือนไหวอยู่ ๑. กจิ กรรมเคลื่อนไหวพ้ืนฐานใหเ้ ด็กเคล่ือนไหว ๑. เพลงอา่ นหนังสอื แสดงทา่ ทางตาม ร่างกายไปทั่วบรเิ วณอย่างอิสระตามจงั หวะเมื่อได้ ๒. เคร่ืองเคาะจงั หวะ เสยี งดนตรีโดยใช้การ เคลือ่ นไหวและ กับที่ ยินสญั ญาณหยดุ ให้หยดุ เคลื่อนไหวในท่านนั้ ทันที ประสานสมั พนั ธก์ ลา้ มเนอ้ื ๒. ครรู ้องเพลง อ่านหนงั สือ ให้เดก็ ฟัง ๑ รอบ และทรงตัว จังหวะ (๒) การเคล่ือนไหว และให้ร้องตาม ๑ รอบ รอบต่อๆไปร้องพร้อมกนั และให้เด็กแสดงท่าทางประกอบเพลง เคล่อื นไหวร่างกาย เคลือ่ นท่ี ๓. ทาตามข้อ ๒ ซา้ อีก 4 - 5 ครง้ั ๔. เดก็ นง่ั ผอ่ นคลายสบาย ๆ แสดงท่าทางตาม (๓) การเคลื่อนไหว เสียงดนตรีโดยใช้ ตามเสียงเพลงและ การประสาน ดนตรี สัมพนั ธ์กลา้ มเนื้อ (๔) การร้องเพลง และทรงตัวได้ กิจกรรมเสรมิ (๓) การฟังเพลง ๑. ความรูพ้ ้ืนฐาน ๑. ครูนาหนังสือนิทานจากหนว่ ยการเรียนรู้ ๑. หนงั สือนทิ านเรอื่ ง สังเกต ประสบการณ์ นทิ าน เก่ยี วกับหนังสือและ ทผ่ี ่านมา เช่นหมนี ้อยจะไปโรงเรยี น นมจากเตา้ รองเทา้ ..แบบไหนดนี ะ ๑. การสือ่ สาร สนทนา ๑. สือ่ สาร สนทนา (๔) การพูดแสดง ตวั หนงั สือ จากหนงั สอื เทีย่ วเมอื งไทยและตัวอะไรกาลังมา นามาเรียงบน ๒. แถบประโยคทีน่ ามา โต้ตอบอยา่ งเข้าใจ โต้ตอบอยา่ งเขา้ ใจ ความคิดเหน็ นิทาน โต๊ะหรือกระดานขาตัง้ และนาหนงั สือนิทานเรื่อง จากหนงั สือ จานวน ความหมาย ความหมายได้ ความร้สู ึกและความ รองเทา้ ..แบบไหนดีนะ ๒ หน้า ในแตล่ ะเรอื่ ง ๒. การกลา้ พูดกลา้ แสดงออกอยา่ งมีเหตผุ ล ต้องการ

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ ๒. พดู และ (๘) การรอจังหวะท่ี ๒.การอา่ นหนังสือนิทาน ๑.๑ ครูอ่านนทิ านเรอ่ื งรองเท้า..แบบไหนดนี ะ ๓. หนงั สอื ที่เคยอ่าน แสดงออกได้อย่าง คล่องแคล่ว เหมาะสมในการพดู โดยใชก้ ารอ่านร่วมกัน จนจบและอ่านอีกรอบพรอ้ มเดก็ ดว้ ยการอา่ น มาแลว้ เช่นหมนี ้อยจะไป เหมาะสมตาม สถานการณ์ (๑๗) การคาดเดา คา ร่วมกัน โรงเรยี น นมจากเต้า วลหี รือประโยค ท่ีมี ๒. แบง่ เดก็ เป็นกลุม่ ตามความเหมาะสม ให้แตล่ ะ เท่ยี วเมอื งไทยและ โครงสรา้ งซา้ ๆกันจาก กลุม่ เลือกหนังสอื ที่ชอบนามาอา่ นรว่ มกันโดยเปิด ตวั อะไรกาลงั มา นิทาน และช้ีคาตามเสียงอ่าน ครใู ห้คาแนะนา (๑) การรว่ มสนทนา ๓. เมื่ออ่านจบเลม่ แลว้ ใหท้ กุ กลมุ่ เลอื กแถบ และแลกเปลี่ยนความ ประโยคทตี่ รงกบั ข้อความในหนงั สือมาเรียงให้ คดิ เห็น ตรงหนา้ หนังสือ(จานวน ๒ หน้า) (๒๑) การเขยี นคาที่มี ๔. ครเู ดนิ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของแถบประโยค ความหมายกับตัวเดก็ / และหนา้ หนังสอื ทลี ะกลุ่ม จากน้ันใหเ้ ด็กท้ังกลุ่ม คาค้นุ เคย ช่วยกนั อ่านแถบประโยคที่เลือกมา ๕. ใครเขียนชอื่ ตนเองได้ อาสาสมคั รออกมาเขยี น ชื่อตนเองและอา่ นให้เพื่อนฟงั ๖. ใหเ้ ดก็ ชว่ ยกนั อ่านวา่ ช่อื เพ่ือนมีพยัญชนะ อะไรบา้ ง ๗. ครูและเดก็ ทบทวนพยญั ชนะต้นชือ่ องตนเอง และเราจะไปทาอักษรชือ่ ของเรากัน

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ ๑. ดินนา้ มัน ๒. แปง้ ขา้ วเหนยี ว สงั เกต กิจกรรมศิลปะ (๒) การเขียนภาพและ เด็กเลือกทากจิ กรรมท่ีสนใจ ๑ อยา่ ง ๑. การสร้างผลงานศลิ ปะ ๑. กิจกรรมปั้นดินน้ามันตามจนิ ตนาการ ๑. อุปกรณ์ตามมมุ เพือ่ ส่ือสารความคิด สรา้ งสรรค์ การเลน่ กับสี ๑.๑ ให้เด็กป้นั ดนิ นา้ มันเป็นเส้นยาว แลว้ นามา ประสบการณ์ใน ความรูส้ กึ ของตนเองต่อ ขดเป็นตวั อักษรพยัญชนะตน้ ของตน ห้องเรยี น ผูอ้ น่ื ๑. สรา้ งผลงานศิลปะ (๓) การปน้ั ๒. การประดษิ ฐอ์ ักษรจากแป้งข้าวเหนยี ว ๒. ลกู บาศก์ไม้หรือ ๒. อธิบายการทางานท่ี ๒.๑ ให้เดก็ ผสมสีแป้งข้าวเหนียวตามสีที่ชอบ กระดาษ ขนาดตา่ งๆ เกิดข้ึนของตนเอง อยา่ งอิสระเพ่ือส่ือสาร และปน้ั ตามขนาดทช่ี อบนามาประดษิ ฐ์พยัญชนะ ประมาณ ๑๐ ลกู สอดคลอ้ งกับผลงาน ต้นชื่อของตนหรอื อกั ษรที่ชอบตามตอ้ งการ รอให้ ความคิดความรสู้ ึกของ แป้งแห้ง สังเกต ๒.๒ จบั กลมุ่ ตามสมคั รใจนาผลงานมาประกอบ ๑. การเลน่ หรือทางาน ตนเองต่อผอู้ ืน่ ได้ คาเล่าให้เพ่ือนในกลุม่ ฟงั นาเสนอตอ่ กลุ่มใหญ่ รว่ มมือกับเพื่อนอย่างมี ๒.๓. เด็กเก็บอปุ กรณ์เขา้ ที่ไดเ้ รยี บร้อย เปา้ หมาย ๒. อธบิ ายการทางาน ๒. การชว่ ยเหลอื และ มุมประสบการณ์ควรมอี ยา่ งน้อย ๔ มุม แบง่ ปันผู้อื่น ที่เกิดข้นึ ของตนเองได้ เดก็ เลอื กกิจกรรมตามมมุ ประสบการณ์ตามความ สนใจ ไดแ้ ก่ สอดคล้องกบั ผลงาน 1.๑ มุมหนงั สือ วางหนงั สือนิทานเร่อื งรองเท้า.. แบบไหนดนี ะ หมนี อ้ ยจะไปโรงเรียน นมจากเต้า ด้วยตนเอง เทย่ี วเมอื งไทยและตัวอะไรกาลงั มา และหนังสือ อื่นเก่ียวกับการรักการอ่านใหเ้ พยี งพอกับเด็ก กจิ กรรมเล่นตามมุม (๒) การเลน่ รายบุคคล เดก็ สามารถยืมหนังสือกลับบ้านไดค้ นละ ๑ เล่ม ๑. เลน่ หรือทางาน กล่มุ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ และคืนทุกวนั เพื่อยืมเล่มใหม่ ร่วมมือกบั เพื่อนอยา่ ง (๓) การเลน่ ตามมมุ มีเปา้ หมายจนสาเรจ็ ประสบการณ์ ๒. ชว่ ยเหลือและ (๒) การปฏบิ ัติตนเปน็ แบง่ ปนั ผ้อู นื่ ได้ดว้ ย สมาชกิ ทีด่ ขี องห้องเรียน ตนเองอยา่ งสม่าเสมอ (๓) การให้ความร่วมมือ ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ตา่ งๆ

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ สงั เกต ๑.๒ มมุ สรา้ งสรรค์ จดั วางอปุ กรณ์ เก่ยี วกบั การ การเล่นและทากจิ กรรม วาดภาพ และฉีกตดั ปะ และอุปกรณก์ ารทา พรอ้ มกบั ผู้อ่ืน หนังสอื เล่มเล็ก ๑.๓ มุมบล็อก วางบลอ็ กใหญ่ขนาดต่างๆกนั ๑.๔ มมุ วทิ ยาศาสตร์ วางอปุ กรณ์ของจรงิ เกยี่ วกับ ระดบั และทศิ ทางและสอื่ ที่เป็นทรงลูกบาศก์ขนาด ต่างๆกนั เพื่อเพ่มิ การสงั เกตส่ิงต่าง ๆ จากมุมมอง ท่ีตา่ งกัน 2. เมอ่ื หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเขา้ ที่ให้เรียบร้อย กิจกรรมกลางแจง้ (๔) การเคล่ือนไหวท่ีใช้ ๑. ครูพาเด็กไปสนามเลน่ ทบทวนกตกิ าในการ เครื่องเลน่ สนาม ๑. เล่นหรอื ทางาน การประสานสัมพันธ์ของ เลน่ เครอ่ื งเล่นอยา่ งปลอดภัย รว่ มมอื กบั เพ่ือนอยา่ ง การใช้กล้ามเนื้อใหญ่ใน ๒. ให้เด็กเล่นเครอ่ื งเลน่ อย่างอสิ ระ มเี ปา้ หมายจนสาเร็จ การจับ การโยน การเตะ ๓. เมือ่ หมดเวลา ชว่ ยกนั เกบ็ ทาความสะอาด ๒. ใช้ส่งิ ของเครื่องใช้ (๕) การเล่นเคร่ืองเลน่ สนาม ล้างมอื กลบั เข้าหอ้ งเรียน อยา่ งประหยัดและ สนามอย่างอิสระ พอเพียงดว้ ยตนเองได้ (๓) การเล่นเคร่ืองเล่น อย่างเหมาะสม อย่างปลอดภยั

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ ๑. ครูแนะนาและอธิบายการเลน่ เกมจับคภู่ าพท่ีมี ๑. เกมจบั คูภ่ าพที่มีเสียง สังเกต เกมการศึกษา เสยี งพยญั ชนะเหมือนกัน พยัญชนะเหมือนกัน การเลน่ เกมจับคู่ภาพที่มี ๑. จบั คแู่ ละ (๑๒) การจบั คู่ เกมจบั คู่ภาพท่มี ี ๒. ครูแบ่งเด็กเป็นกลุ่มย่อยๆ แล้วใหเ้ ด็กเลน่ เกม ๒. เกมที่เคยเลน่ มาแลว้ เสยี งพยัญชนะเหมือนกนั เปรียบเทียบความ ใหมแ่ ละเกมทเี่ คยเลน่ มาแลว้ สลบั หมนุ เวยี นกัน แตกต่างหรือความ การเปรยี บเทยี บสิ่ง เสียงพยญั ชนะ ๓. เม่อื ครบกาหนดเวลา ครูนาเดก็ สนทนาบอก เหมือนของส่ิงตา่ งๆ ความรสู้ กึ เกย่ี วกับเกมทเี่ ล่น โดยลักษณะท่ีสงั เกต ต่าง ๆ เหมอื นกัน ๔. ครใู หเ้ ดก็ ชว่ ยกันเกบ็ เกมเข้าท่ีให้เรยี บร้อย พบสองลักษณะขน้ึ ไปได้ (๕) การคดั แยก ๒. จาแนกและจดั กล่มุ จานวนของสง่ิ การจัดกลมุ่ และ ต่างๆได้ การจาแนกส่งิ ต่างๆ ตามลักษณะและรปู ร่าง รปู ทรง

แผนการจัดประสบการณช ้ันอนุบาล ๓ หนว ยที่ ๓๔ รักการอาน สัปดาหท ่ี ๓๔ ครงั้ ท่ี ๒ วันท.่ี ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ กจิ กรรมเคลอื่ นไหว (๑) การเคล่ือนไหวอยู่ ๑. กจิ กรรมเคล่อื นไหวพื้นฐานให้เด็กเคลื่อนไหว ๑. กลองหรอื เครื่องเคาะ สังเกต และจังหวะ กับที่ รา่ งกายไปทว่ั บริเวณอยา่ งอิสระตามจังหวะเมื่อได้ จังหวะ การเคลื่อนไหวร่างกายใน เคลอื่ นไหวร่างกายใน (๒) การเคล่ือนไหว ยนิ สญั ญาณหยดุ ให้หยดุ เคลือ่ นไหวในทา่ นั้นทันที ๒. เพลงบรรเลง กจิ กรรมต่างๆได้ ประสาน กจิ กรรมต่างๆได้ เคลื่อนที่ 2. ครูเปิดเพลงบรรเลง ใหเ้ ด็กๆ เคลือ่ นไหว สัมพนั ธแ์ ละทรงตวั ประสานสมั พนั ธ์และ (๓)การฟังเพลง รา่ งกายไปในทศิ ทาง ระดบั และพน้ื ที่อย่างอิสระ ทรงตัวได้ (๔) การเคล่ือนไหวที่ใช้ ไปรอบห้องพร้อมดนตรี เมอื่ ไดย้ ินสญั ญาณหยุดให้ การประสานสมั พนั ธ์ของ เดก็ หยดุ อยู่กับท่ีและบอกว่าตนเคล่อื นท่ีอยา่ งไร การใช้กลา้ มเน้ือใหญ่ 3. เรมิ่ เพลงใหม่ให้เปลยี่ นทา่ ทางใหม่ ทาเช่นนี้ (1) การเคลอื่ นไหวโดย 4 - 5 ครงั้ หรือจนกว่าจะครบกาหนดเวลา ควบคุมตนเองไปใน 4. เดก็ นงั่ ผอ่ นคลายสบาย ๆ ทิศทาง ระดับและพนื้ ที่

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ ๑. หนงั สอื นิทาน เชน่ สงั เกต กจิ กรรมเสริม (๔) การพูดแสดงความคดิ ๑. การทาหนังสอื ๑. ครแู นะนาเด็กวา่ หนงั สอื ท่ีเดก็ อา่ นจะเป็น หมีนอ้ ยจะไปโรงเรียน ๑. การสอื่ สาร สนทนา ประสบการณ์ นมจากเตา้ โต้ตอบอยา่ งเขา้ ใจ ๑. ส่อื สาร สนทนา ความรสู้ กึ และความ เลม่ เลก็ เรื่องราว มตี ัวละคร ฉากในเรื่อง เหตุการณส์ าคัญ เที่ยวเมอื งไทย ความหมาย โต้ตอบอยา่ งเขา้ ใจ และตัวอะไรกาลงั มา ๒. การอา่ นภาพสัญลักษณ์ ความหมายได้ ต้องการ ๒. ส่วนประกอบ และตอนจบเร่ือง ครยู กตวั อย่างจากหนงั สอื นิทาน และเร่ืองรองเท้า..แบบ คาพร้อมชห้ี รือกวาดตา ๒. อา่ นภาพ ไหนดีนะ มองจดุ เร่ิมต้นและจดุ จบ สัญลกั ษณ์ (๕) การพูดกับผู้อ่นื ของหนังสือ ที่เดก็ เคยอา่ นมาแลว้ เช่นหมนี อ้ ยจะไปโรงเรยี น ๒. กระดาษฟลปิ ชาร์ท ของขอ้ ความตามบรรทดั คาพร้อมช้หี รอื กวาด ตามองจุดเรมิ่ ตน้ และ เก่ียวกับประสบการณ์ของ ๓. คิดเค้าโครง นมจากเต้า เท่ยี วเมอื งไทยและตวั อะไรกาลงั มา จดุ จบของข้อความ ตามบรรทดั ได้ ตน หรือพดู เล่าเรื่องราว เร่ือง และเรอ่ื งรองเทา้ ..แบบไหนดีนะ เกี่ยวกับตนเอง ๓.๑ ตวั ละคร ๒. การทาหนังสอื นิทานเล่มเลก็ ตอ้ งรู้ (๑๙) การเหน็ แบบอยา่ ง ๓.๒ ฉาก สว่ นประกอบ ของหนังสือ มปี กหนา้ ปกในปก ของการเขียนทถ่ี กู ตอ้ ง ๓.๓ เหตกุ ารณ์ หลงั บอกชอ่ื เร่ือง ช่ือผูแ้ ตง่ ผวู้ าดภาพ และมี (๒๐) การเขียนรว่ มกนั สาคัญ เร่อื งราว ตามโอกาสและการเขียน ๓.๔ เหตุการณ์ ๓. คดิ เค้าโครงเร่อื ง ตัวละคร ฉาก เหตกุ ารณ์ อิสระ ตอนจบ เริ่มต้น เหตกุ ารณส์ าคญั เหตุการณต์ อนจบ (๒๑) การเขยี นคาทม่ี ี 4. การอ่าน ๔. เด็กคดิ เค้าโครงเร่ือง ชือ่ นิทานและคิดภาพปก ความหมายกับตัวเดก็ /คา ร่วมกนั ครใู หเ้ ด็กออกมาเลา่ ทลี ะคน ว่าจะทานทิ านเร่ือง คนุ้ เคย อะไร ครจู ดชอ่ื เด็กและชือ่ นิทานลงในกระดาษ ฟลปิ ชารท์ และบอกเด็กว่าเราจะทาภาพปกนิทาน ในช่วงกจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ ให้เดก็ แต่ละคน ลองดภู าพปกจากหนงั สือนทิ านตา่ งๆทม่ี ีอย่ใู น หอ้ งเรยี น

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ สงั เกต ๑. การสร้างผลงานศลิ ปะ กจิ กรรมศิลปะ (๒) การเขยี นภาพและ การวาดภาพ ๑. กระดาษสาหรับ เพ่ือส่ือสารความคิด การสรา้ งภาพ ด้วยการ ฉีก ตดั ปะ วาดเขยี น ความรู้สกึ ของตนเอง สร้างสรรค์ การเลน่ กบั สี ๑. นาหนงั สอื ภาพ หนงั สือนทิ านแบบตา่ งๆทเี่ คย ๒. กระดาษสีต่างๆ ๒. การทางานทไ่ี ดร้ บั อา่ นแล้วมาให้เด็กดู และสังเกตหนา้ ปกหนงั สือแต่ ๓. กาว กรรไกร หมอบหมายสาเรจ็ ด้วย ๑. การสรา้ งผลงาน (๕) การหยบิ จับ การใช้ ละเลม่ ๔. ดินสอสี หรือสีเทียน ตนเอง ๒. ให้เดก็ ทาหนงั สือเล่มเล็กของตนตาม ๕. กระดาษฟลปิ ชาร์ท ศิลปะอย่างอิสระเพื่อ กรรไกร การฉกี การตัด จนิ ตนาการที่คิดไว้ดว้ ยการฉีก ตัด ปะ หรือวาด ภาพระบายสี เริ่มตน้ จากทาปกหนังสอื สร้างภาพ สือ่ สารความคดิ การปะ ตามทค่ี ดิ เรอื่ งไว้ ความรู้สึกของตนได้ ๓. เมอื่ ทาเสรจ็ แล้วเด็กนาเสนอผลงานดว้ ยการ เลา่ เรอ่ื งจากภาพ ๒. ทางานทไี่ ด้รบั ๔. ครเู ขียนชอ่ื หนังสือและชื่อผแู้ ตง่ ใหเ้ ด็กนาไป เขียนตามแบบ และนาไปเกบ็ ทแ่ี สดงผลงาน หมอบหมายจน สาเร็จไดด้ ว้ ยตนเอง

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ สังเกต ๑. การเล่นหรือทางาน กิจกรรมเล่นตามมุม (๒) การเล่นรายบุคคล มมุ ประสบการณ์ควรมีอยา่ งน้อย ๔ มมุ ๑. อุปกรณต์ ามมุม ร่วมมอื กับเพ่ือนอยา่ งมี เปา้ หมาย ๑. เลน่ หรอื ทางาน กลุม่ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ เด็กเลอื กกิจกรรมตามมุมประสบการณต์ ามความ ประสบการณ์ใน ๒. การชว่ ยเหลือและ แบง่ ปนั ผอู้ ืน่ รว่ มมือกับเพื่อน (๓) การเลน่ ตามมุม สนใจ ไดแ้ ก่ ห้องเรียน อย่างมเี ป้าหมายจน ประสบการณ์ 1.๑ มุมหนงั สอื วางหนงั สอื นิทานเร่ืองรองเท้า.. ๒. ลกู บาศก์ไม้หรือ สาเร็จ (๒) การปฏิบัตติ นเปน็ แบบไหนดนี ะ หมีนอ้ ยจะไปโรงเรียน นมจากเต้า กระดาษ ขนาดตา่ งๆ ๒. ชว่ ยเหลอื และ สมาชกิ ทด่ี ขี องห้องเรยี น เทีย่ วเมอื งไทยและตวั อะไรกาลงั มา และหนงั สือ ประมาณ ๑๐ ลกู แบ่งปันผู้อ่นื ไดด้ ว้ ย (๓) การให้ความร่วมมือ อนื่ เกี่ยวกบั การรักการอ่านให้เพียงพอกับเด็ก ตนเองอยา่ ง ในการปฏบิ ัติกิจกรรม เดก็ สามารถยืมหนงั สือกลับบ้านได้คนละ ๑ เล่ม สม่าเสมอ ต่างๆ และคนื ทุกวนั เพ่ือยมื เลม่ ใหม่ ๑.๒ มมุ สร้างสรรค์ จดั วางอปุ กรณ์ เกี่ยวกับการ วาดภาพ และฉีกตดั ปะ และอุปกรณ์การทา หนงั สือเล่มเลก็ ๑.๓ มุมบล็อก วางบล็อกใหญ่ขนาดตา่ งๆกนั ๑.๔ มุมวทิ ยาศาสตร์ วางอปุ กรณ์ของจริงเกยี่ วกับ ระดบั และทิศทางและสอื่ ทเี่ ป็นทรงลูกบาศกข์ นาด ต่างๆกนั เพ่ือเพ่มิ การสงั เกตสิง่ ตา่ ง ๆ จากมมุ มอง ทตี่ ่างกนั 2. เม่ือหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทใี่ หเ้ รยี บร้อย

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ ๑. ครูพาเด็กไปสนาม ทบทวนข้อตกลง เลน่ นา้ - เลน่ ทราย และแบง่ เดก็ เปน็ 2 กลุ่ม เลน่ น้า เลน่ กจิ กรรมกลางแจง้ (๔) การเคล่ือนไหวท่ีใช้ ทราย และแจกอปุ กรณข์ องแตล่ ะกลุ่ม ๑. บอ่ ทราย สงั เกต ๒. ครใู ห้เดก็ เลือก เลน่ น้า เล่นทราย ตามความ ๑. เลน่ หรอื ทางาน การประสานสมั พันธข์ อง สนใจ ๒. บ่อน้า ๑. การเล่นหรือทางาน ๓. เมอื่ หมดเวลา ช่วยกนั เก็บทาความสะอาด ร่วมมือกบั เพื่อน การใชก้ ล้ามเนื้อใหญ่ใน อุปกรณ์ และทาความสะอาดตนเอง กลับเข้า ๓. สนามเล่น รว่ มมือกับเพ่ือนอย่างมี หอ้ งเรยี น อยา่ งมเี ป้าหมายจน การจับ การโยน การเตะ ๔. อุปกรณ์ในการเลน่ นา้ เป้าหมาย สาเรจ็ (๓) การเลน่ เคร่ืองเลน่ เล่นทราย เชน่ วสั ดจุ ม ๒. การใชส้ ิง่ ของเคร่ืองใช้ ๒. ใชส้ ง่ิ ของเครอื่ งใช้ อย่างปลอดภัย ลอย พลั่วตักทราย อย่างประหยดั และ อยา่ งประหยดั และ (๑) การปฏิบตั กิ ิจกรรม พอเพยี งดว้ ยตนเอง พอเพียงด้วยตนเอง ตา่ งๆตามความสามารถ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ของตนเอง เกมการศึกษา (๑๓) การจบั คู่ เกมจับค่ภู าพ ๑. ครูแนะนาและสาธิตวธิ ีการเลน่ เกมจับคภู่ าพ เกมจบั คภู่ าพสัมพันธ์ สงั เกต จบั คแู่ ละ การเปรยี บเทยี บ และ สัมพันธ์แบบอุปมา- สัมพนั ธ์แบบอุปมา-อุปไมย แบบอปุ มา-อุปไมย การเลน่ เกมจบั คภู่ าพ เปรียบเทยี บความ การเรยี งลาดบั ส่งิ ตา่ งๆ อปุ ไมย ๒. ครูแบง่ เดก็ เปน็ กลุ่มย่อยๆ แลว้ ใหเ้ ดก็ เลน่ เกม สัมพนั ธแ์ บบอุปมา-อปุ ไมย แตกตา่ งหรือความ ใหม่และเกมทีเ่ คยเลน่ มาแล้ว สลบั หมนุ เวยี นกนั เหมือนของส่ิงตา่ งๆ ๓. เมือ่ ครบกาหนดเวลา ครูนาเด็กสนทนาบอก โดยลกั ษณะทส่ี งั เกต ความรูส้ กึ เก่ียวกับเกมท่ีเลน่ พบสองลักษณะขนึ้ ๔. ครูใหเ้ ด็กช่วยกนั เกบ็ เกมเข้าทใี่ หเ้ รียบร้อย ไปได้

แผนการจดั ประสบการณช้นั อนุบาล ๓ หนวยที่ ๓๔ รกั การอาน สัปดาหท ี่ ๓๔ คร้งั ที่ ๒ วันที่................เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ ๑. เครอ่ื งเคาะจังหวะ สังเกต กิจกรรมเคลือ่ นไหว ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ๑. กจิ กรรมเคล่อื นไหวพ้นื ฐานใหเ้ ด็กเคล่ือนไหว ๒. หนงั สอื นทิ าน การเคลอ่ื นไหวได้อยา่ ง และจังหวะ ร่างกายไปทว่ั บริเวณอย่างอิสระตามจงั หวะเมอื่ ไดย้ นิ ต่างๆในมุม คลอ่ งแคลว่ และการปฏิบตั ิ ๑.เคล่อื นไหวเคลอื่ นท่ี (๑) การเคลื่อนไหวอยู่ สญั ญาณหยดุ ให้หยุดเคลอ่ื นไหวในท่านั้นทันที ประสบการณ์ ตามคาสัง่ และข้อตกลง เชงิ สรา้ งสรรค์ กับที่ ๒. ให้เด็กเลือกหนงั สือจากมุมประสบการณ์มาคนละ ประกอบอุปกรณ์ ได้ (๒) การเคล่ือนไหว ๑ เล่ม ครเู คาะจังหวะให้สัญญาณให้เด็กๆ เคลื่อนที่ ๑. ลูกเต๋าอักษร สังเกต ๒.พดู และแสดงออก เคลอ่ื นที่ อย่างอิสระไปรอบห้องพร้อมยกหน้าปกหนังสือของ ๒. หนังสอื นิทาน ๑. การสือ่ สาร สนทนา ไดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่ว (๓) การเคล่ือนไหว ตนเอง ให้เพื่อนดเู มอ่ื ไดย้ นิ สัญญาณหยุด ให้จบั คู่ เร่ืองเจ้าหมูขโ้ี ม้ โตต้ อบอยา่ งเขา้ ใจ เหมาะสมตาม พร้อมอุปกรณ์ พรอ้ มน่ังลงและใหบ้ อกว่าหนังสอื ของค่ตู นเองมี ๓. บตั รตวั อกั ษรคา ความหมาย สถานการณ์ พยญั ชนะตัวใดเหมอื นกัน ในเรอ่ื งเจ้าหมูขโี้ ม้ ๒. การเล่าเรือ่ งเปน็ (๑) การปฏิบตั ิตนใน ๑. ความรพู้ ้ืนฐาน ๓. ทาเช่นน้อี ีก 4 - 5 คร้ัง เม่ือไดย้ ินสัญญาณหยดุ ให้ 4. กระดาษและ ประโยคอยา่ งตอ่ เนื่องให้ กจิ กรรมเสรมิ ความเป็นคนไทย เก่ยี วกับหนงั สอื และ จับกลมุ่ ๓ - ๔ คนไม่ซา้ คนเดิม ทาเชน่ เดยี วกนั ปากกา ผอู้ ่นื เข้าใจ ประสบการณ์ (๑๐) การอา่ นหนังสอื ตวั หนงั สือ จาก ๔. เด็กนง่ั ผอ่ นคลายสบาย ๆ ๑. ส่อื สาร สนทนา ภาพ นิทาน หนังสอื นทิ าน ๑. เด็กแต่งนิทานเล่มเล็ก ตอ่ จากเม่ือวันที่ โต้ตอบอยา่ งเขา้ ใจ หลากหลายประเภท ๒. การทาหนังสือ ๒ ตามทเ่ี ด็กคดิ เคา้ โครงเรือ่ งไว้ ว่ามเี หตกุ ารณ์สาคญั ความหมายได้ รปู แบบ เลม่ เลก็ อะไรบ้าง และเล่าใหค้ รูและเพ่อื นฟงั ครูเขยี นตามท่ี ๒. เล่าเร่อื งเปน็ (๑๓) การสังเกตทิศ ๓. การเล่นเกมทาง เดก็ เลา่ ลงในกระดาษบัตรคาแผน่ เลก็ ขนาดกว้าง ๓ ประโยคอยา่ งตอ่ เนื่อง ทางการอ่านตัวอักษร ภาษาและกิจกรรม น้ิว สูง ๑.๕ น้วิ ให้เด็กเขยี นตามแบบ ไม่เน้นการ ให้ผอู้ นื่ เขา้ ใจได้ คา และข้อความ รกั การอ่าน เขยี นทถ่ี ูกต้องแตใ่ ห้เด็กเหน็ ว่าเร่ืองเลา่ สามารถเขยี น ใหค้ นอน่ื เขา้ ใจได้

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ ๓. การค้นหาคาตอบข้อ ๓. ครพู าเดก็ สารวจเสยี งจากนิทานของแตล่ ะคนออก ๑.กระดาษสาหรับ สงสัยตา่ ง ๆ โดยใชว้ ธิ ที ี่ ๓.คน้ หาคาตอบขอ้ (๑๔) การอา่ นและช้ี เสียงอย่างไรบ้าง เสยี งของใครเหมือนกันมีเสยี ง วาดเขยี น หลากหลายดว้ ยตนเอง เดียวกนั ๒. กระดาษสีตา่ งๆ สงสยั ตา่ ง ๆ โดยใช้วิธี ข้อความโดยกวาด ๔. ครูเขยี นคาท่ถี ูกต้องทม่ี ีเสียงสระเหมอื นกนั และ ๓. กาว กรรไกร สังเกต นาไปใส่ในลูกเต๋าอักษรใหเ้ ด็กอ่านและจับคเู่ สยี งทา ๔.ดนิ สอสี หรือสี ๑.การสร้างผลงานศลิ ปะ ท่หี ลากหลายด้วย สายตาตามบรรทดั จาก เชน่ นป้ี ระมาณ ๔ - ๕ คา เทยี น เพ่อื ส่ือสารความคิด ๕. นาคาทไ่ี ด้เรยี นรู้ มาอา่ นพรอ้ มกันและเกบ็ ไว้ ใน ความรูส้ กึ ของตน ตนเองได้ ซา้ ยไปขวา คลงั คาของห้องเรียน ๒.การใชส้ ่งิ ของเครื่องใช้ การวาดภาพ จากบนลงล่าง การสร้างภาพ ด้วยการ ฉีก ตัด ปะ ๑.ให้เดก็ สรา้ งภาพนทิ านเล่มเล็กของตนต่อจากเมื่อ กจิ กรรมศิลปะ (๒) การเขียนภาพและ วันท่ี ๒ ตามความคิดจินตนาการทีค่ ิดและเลา่ ไว้ สร้างสรรค์ การเล่นกับสี ๒.ใหเ้ ด็กเล่าเรื่องท่ีตนเองสรา้ งภาพ ครเู ขยี นอักษรให้ ๑.สร้างผลงานศิลปะ (๕) การหยิบจับ การ เด็กเป็นแบบ ครูอา่ นใหเ้ ด็กฟัง เดก็ อ่านตาม และ เพ่ือส่ือสารความคดิ ใช้กรรไกร การฉกี การ นาไปเขยี นตามแบบท่ีภาพของตนและนาไปเกบ็ ท่ี ความรสู้ กึ ของตนเอง ตดั การปะ แสดงผลงาน ๒.ใช้ส่ิงของเคร่ืองใช้ (๑๙)การเห็นแบบอยา่ ง อย่างประหยดั และ ของการเขยี นท่ถี ูกต้อง พอเพียงได้ด้วยตนเอง (๒๐) การเขยี นรว่ มกัน อย่างเหมาะสม ตามโอกาสและการ เขยี นอสิ ระ (๒๑) การเขียนคาท่ีมี ความหมายกับตัวเด็ก/ คาคุน้ เคย

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ มมุ ประสบการณ์ควรมอี ย่างน้อย ๔ มุม ๑. อุปกรณ์ตามมุม สงั เกต กิจกรรมเล่นตามมุม ๑. การเล่นหรือทางาน ๑. เลน่ หรอื ทางาน (๒) การเล่นรายบคุ คล เดก็ เลอื กกจิ กรรมตามมุมประสบการณ์ตามความ ประสบการณ์ใน รว่ มมือกับเพ่ือนอย่างมี รว่ มมือกับเพ่ือน กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ เป้าหมาย อย่างมเี ป้าหมายจน (๓) การเลน่ ตามมมุ สนใจ ไดแ้ ก่ หอ้ งเรยี น ๒. การช่วยเหลือและ สาเร็จ ประสบการณ์ แบง่ ปันผ้อู น่ื ๒. ชว่ ยเหลอื และ (๒) การปฏบิ ัติตนเปน็ 1.๑ มมุ หนงั สือ วางหนังสือนิทานเร่อื งรองเท้า.. ๒. ลูกบาศกไ์ ม้หรือ แบ่งปนั ผอู้ ื่นไดด้ ้วย สมาชิกทีด่ ขี องห้องเรียน ตนเองอย่าง (๓) การใหค้ วามรว่ มมือ แบบไหนดนี ะ หมนี อ้ ยจะไปโรงเรยี น นมจากเต้า กระดาษ ขนาดต่างๆ สมา่ เสมอ ในการปฏิบัตกิ ิจกรรม ตา่ งๆ เทีย่ วเมอื งไทยและตัวอะไรกาลงั มา และหนังสือ ประมาณ ๑๐ ลูก อนื่ เก่ียวกบั การรกั การอ่านให้เพยี งพอกับเดก็ เดก็ สามารถยืมหนงั สือกลบั บ้านไดค้ นละ ๑ เลม่ และคนื ทุกวันเพื่อยืมเล่มใหม่ ๑.๒ มมุ สร้างสรรค์ จัดวางอุปกรณ์ เกี่ยวกบั การ วาดภาพ และฉีกตดั ปะ และอุปกรณ์การทา หนังสือเล่มเล็ก ๑.๓ มมุ บลอ็ ก วางบลอ็ กใหญ่ขนาดตา่ งๆกนั ๑.๔ มมุ วทิ ยาศาสตร์ วางอปุ กรณ์ของจริงเก่ียวกบั ระดับและทิศทางและสื่อที่เป็นทรงลกู บาศกข์ นาด ต่างๆกนั เพอื่ เพม่ิ การสังเกตส่ิงต่าง ๆ จากมมุ มอง ท่ีตา่ งกัน 2. เม่อื หมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ทีใ่ หเ้ รยี บร้อย

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ ๑. ครูพาเดก็ ไปสนาม ทบทวนข้อตกลง เลน่ นา้ - ๑. บ่อทราย สังเกต กิจกรรมกลางแจง้ เล่นทราย และแบ่งเด็กเป็น 2 กลมุ่ เล่นน้า เล่น ๑. สารวจ ตัง้ คาถาม (๔) การเคลื่อนไหวที่ใช้ ทราย และแจกอปุ กรณข์ องแตล่ ะกลมุ่ ๒. บ่อน้า ๑. การสารวจ ตัง้ คาถาม เพ่ือค้นหาคาตอบ การประสานสมั พันธข์ อง ๒. ครใู ห้เดก็ เลอื ก เล่นน้า เล่นทราย โดยสลับการ ของขอ้ สงสัยต่าง ๆ การใช้กล้ามเน้ือใหญ่ใน เลน่ จากเม่ือวนั ที่ ๒ ๓. สนามเลน่ เพือ่ ค้นหาคาตอบของข้อ ตามวิธกี ารของ การจบั การโยน ๓. เมอื่ หมดเวลา ชว่ ยกนั เก็บทาความสะอาด ตนเองได้ (๕) การเลน่ เคร่ืองเล่น อปุ กรณ์ และทาความสะอาดตนเอง กลบั เข้า ๔. อปุ กรณ์ในการเลน่ น้า สงสัยตา่ ง ๆ ตามวธิ กี าร ๒. เคล่อื นไหว สนามอย่างอิสระ ห้องเรยี น รา่ งกายในกจิ กรรม (๓) การเล่นเคร่ืองเลน่ เลน่ ทราย เช่น วัสดุจม ของตนเอง ตา่ งๆอยา่ ง อยา่ งปลอดภยั คลอ่ งแคล่วประสาน (๑) การปฏบิ ัติกจิ กรรม ลอย พล่ัวตักทราย ๒. การเคลือ่ นไหวรา่ งกาย สัมพันธ์และทรงตวั ต่างๆตามความสามารถ ได้ ของตนเอง ในกจิ กรรมต่างๆอย่าง คล่องแคลว่ ประสาน สมั พันธแ์ ละทรงตวั

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ ๑. ครูแนะนาและสาธติ วธิ กี ารเลน่ เกมจับคู่ภาพที่ เกมจับคูภ่ าพที่มเี สยี ง สังเกต เกมการศึกษา มีเสยี งสระเหมือนกัน สระเหมือนกนั การเล่นเกมจับคู่ภาพท่มี ี ๑. เล่นเกมจบั คู่ภาพ (๑๓) การจบั คู่ เกมจับค่ภู าพทีม่ ี ๒. ครแู บง่ เดก็ เปน็ กลุ่มย่อยๆ แลว้ ให้เด็กเลน่ เกม เสยี งสระเหมอื นกนั ที่มีเสยี งสระ ใหม่และเกมทเี่ คยเล่นมาแลว้ สลบั หมุนเวยี นกนั เหมือนกนั ได้ การเปรียบเทียบ และ เสียงสระเหมือนกัน ๓. เมอ่ื ครบกาหนดเวลา ครูนาเดก็ สนทนาบอก ๒. จาแนกและจัด ความรู้สกึ เกี่ยวกับเกมท่เี ล่น กล่มุ จานวนของสง่ิ การเรยี งลาดับสิ่งตา่ งๆ ๔. ครใู หเ้ ด็กช่วยกันเก็บเกมเข้าท่ีใหเ้ รยี บรอ้ ย ต่างๆได้ (๕) การคัดแยก การจดั กลมุ่ และการจาแนกส่ิง ตา่ งๆ ตามลกั ษณะและ รูปร่าง รูปทรง

แผนการจดั ประสบการณช ้ันอนบุ าล ๓ หนวยที่ ๓๔ รกั การอา น สัปดาหท ี่ ๓๔ ครงั้ ท่ี ๔ วันที่................เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ ๑. กจิ กรรมเคล่อื นไหวพนื้ ฐานให้เด็กเคล่ือนไหว ๑. เครอ่ื งเคาะจงั หวะ สังเกต กจิ กรรมเคลือ่ นไหว ร่างกายไปท่วั บรเิ วณอย่างอสิ ระตามจงั หวะเมอื่ ได้ กลอง การเคลือ่ นไหวร่างกาย และจังหวะ (๑) การเคลื่อนไหว อยู่ ยินสญั ญาณหยุดใหห้ ยดุ เคลือ่ นไหวในทา่ นัน้ ทันที ๒. เพลงบรรเลง แสดงทา่ ทางตาม เคล่อื นไหวรา่ งกาย กับที่ ๒. ให้เด็กเคลื่อนไหวเคลื่อนที่เลียนแบบท่าทาง เสยี งดนตรีโดยใช้การ แสดงทา่ ทางตาม (๒) การเคล่ือนไหว สัตว์ตา่ งๆทีม่ ีในนิทานเรอ่ื ง รองเทา้ แบบไหนดีนะ ประสานสัมพันธ์กล้ามเน้อื เสยี งดนตรีโดยใชก้ าร เคลื่อนท่ี ไปพร้อมเพลงบรรเลงตามจังหวะช้า เรว็ ถา้ ไดย้ นิ และทรงตัว ประสานสมั พนั ธ์ (๑) การเคลื่อนไหวโดย สญั ญาณหยุดด้วยเสียงกลองให้ส่งเสยี งรอ้ งเปน็ กล้ามเนื้อและทรงตวั ควบคุมตนเองไปใน สัตวต์ วั นน้ั ได้ ทศิ ทาง ระดบั และ ๓. ทาตามข้อ ๒ ซา้ อกี 4 - 5 คร้งั พืน้ ที่ ๔. เดก็ น่งั ผ่อนคลายสบาย ๆ (๓) การเคล่ือนไหวตาม เสียงเพลงและดนตรี กจิ กรรมสร้างเสริม (๑๒) การเห็น ๑. ความรู้พนื้ ฐาน ๑. ครทู บทวนการทาหนงั สือนทิ านเลม่ เลก็ ต่อจาก ๑. หนังสือนิทานเรือ่ ง สังเกต เกยี่ วกับหนังสอื และ วนั ท่ี ๓ โดยการอ่านต้งั แต่ปกหน้า เนอ้ื เรือ่ งนิทาน เจา้ หมูขี้โม้ ๑. การอา่ นภาพสญั ลกั ษณ์ ประสบการณ์ แบบอยา่ งการอ่านที่ ตัวหนงั สอื จาก ถงึ วันที่ ๓ เพอื่ ใหเ้ ดก็ เขา้ ใจเนื้อเร่ืองและคิดเน้อื ๒. แถบประโยคจาก คาพร้อมชี้หรือกวาดตา หนังสอื นทิ าน เรอื่ งเหตุการณต์ อนจบตอ่ ได้ หนงั สอื นิทานเรื่องเจ้า มองจดุ เร่ิมต้นและจดุ จบ ๑. อา่ นภาพสญั ลกั ษณ์ ถกู ต้อง ๒. การทาหนงั สือ ๒. ครเู ดินดูเดก็ ทลี ะคน ใหก้ าลงั ใจ ให้คาแนะนา หมูขโ้ี ม้ ของขอ้ ความตามบรรทัด เล่มเลก็ สาหรับเด็กท่ีต้องการความชว่ ยเหลอื ๓. รปู ตกุ๊ ตา ๓ - ๔ตวั ๒. การสนใจซกั ถาม คาพร้อมชหี้ รอื กวาด (๑๓) การสงั เกตทศิ ๓. เด็กทางานอย่างอสิ ระ เมอ่ื เสร็จแล้วเล่าให้ครู ประกอบแถบประโยคให้ เกยี่ วกับสัญลกั ษณห์ รอื ฟงั ครูเขียนเรือ่ งตามท่เี ดก็ เลา่ ลงในกระดาษ เลือ่ นไปมาได้ ตวั หนังสือทพ่ี บเหน็ ตามองจุดเร่มิ ต้นและ ทางการอา่ นตวั อักษร เพ่อื ให้เดก็ เขยี นตามแบบลงในนิทาน ๔. อปุ กรณใ์ นห้องเรียน ๓. การตัดสินใจในเรอ่ื ง ๔. เด็กจับค่เู ลา่ นิทานกบั เพ่ือน ผลัดกันอา่ นโดยชี้ ง่ายๆและยอมรับผลท่ี จุดจบของข้อความ คา และข้อความ ตามบรรทัดได้ (๑๗) การคาดเดาคา ๒. สนใจซักถาม วลี หรือประโยคท่มี ี เกีย่ วกบั สัญลกั ษณ์ โครงสร้างซ้าๆกันจาก หรอื ตวั หนังสอื ท่ีพบ นิทาน

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรยี นรู้ เกิดข้ึนจากการตัดสนิ ใจ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ คาตามเสียงอ่าน (ไม่เนน้ ความถูกต้อง แตส่ ังเกต เหน็ สมา่ เสมอ การอา่ นคาพร้อมชหี้ รอื กวาดตามองขอ้ ความ ๓. ตดั สินใจในเรือ่ ง (๑๙) การตดั สินใจและ ๕. นาไปสร้างภาพในกจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์ ง่ายๆและยอมรับผลที่ มสี ่วนรว่ มใน เกิดข้ึนจากการ กระบวนการการ ตัดสินใจได้ แกป้ ญั หา กิจกรรมศลิ ปะ (๒) การเขยี นภาพและ การวาดภาพ ๑. กระดาษสาหรับ สงั เกต การสร้างภาพ ดว้ ยการ ฉกี ตดั ปะ วาดเขยี น ๑. การสรา้ งผลงานศลิ ปะ สรา้ งสรรค์ การเล่นกบั สี ๑. เด็กสร้างนิทานของตนตามความคิด ๒. กระดาษแกว้ สีต่างๆ เพือ่ สื่อสารความคดิ จนิ ตนาการ จนจบเรอื่ ง (ตอ่ เน่อื งจากกจิ กรรม ๓. กาว กรรไกร ความร้สู ึกของตน ๑. การสร้างผลงาน (๕) การหยบิ จับ เสรมิ ประสบการณ์) ๔. แบบหุ่นเงา เรือ่ งเจ้า ๒. การแสดงอารมณค์ วาม ๒. ให้เดก็ เลา่ เรือ่ งท่ตี นเองสร้างภาพ ครอู ่านให้ หมูข้ีโม้ พอใจในผลงานของตน ศิลปะอย่างอิสระเพ่ือ การใชก้ รรไกร การฉีก เด็กฟงั เด็กอ่านตาม และนาไปเขียนตามแบบท่ี ๕. ไมเ้ หลากลม หรอื ๓. การตดั สินใจในเร่อื ง ภาพของตน ไม้เสียบลกู ชนิ้ งา่ ยๆและยอมรบั ผลท่ี ส่อื สารความคดิ การตัด การปะ ๓. เด็กนานทิ านของตนใหเ้ พื่อนดแู ละช่ืนชม แบบปลายตดั เกิดขึน้ จากการตัดสนิ ใจ ผลสาเรจ็ ของงาน ชว่ ยเสนอแนะ พร้อมที่จะแสดง ความรสู้ ึกของตนได้ (๒๐) การเขียนร่วมกัน จริงในวันต่อไป ๒. แสดงอารมณ์ความ ตามโอกาสและการ พอใจในผลงานของตน เขียนอิสระ ได้ (๒๑) การเขียนคาที่มี ๓. ตดั สนิ ใจในเรือ่ ง ความหมายกบั ตัวเดก็ / งา่ ยๆและยอมรบั ผลที่ คาคุน้ เคย เกดิ ขน้ึ จากการ (๑๙) การตดั สนิ ใจและ ตดั สนิ ใจได้ มสี ว่ นรว่ มใน กระบวนการการ แกป้ ญั หา

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ มมุ ประสบการณ์ควรมีอย่างน้อย ๔ มุม ๑. อุปกรณ์ตามมุม สงั เกต กจิ กรรมเล่นตามมุม ๑. การเล่นหรือทางาน ๑. เลน่ หรอื ทางาน (๒) การเล่นรายบุคคล เดก็ เลอื กกจิ กรรมตามมุมประสบการณ์ตามความ ประสบการณ์ใน รว่ มมือกับเพ่ือนอย่างมี ร่วมมือกับเพื่อนอยา่ ง กล่มุ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ เป้าหมาย มีเปา้ หมายจนสาเร็จ (๓) การเลน่ ตามมมุ สนใจ ไดแ้ ก่ หอ้ งเรยี น ๒. การช่วยเหลือและ ๒. ชว่ ยเหลือและ ประสบการณ์ แบง่ ปันผ้อู น่ื แบง่ ปนั ผ้อู ่นื ได้ด้วย (๒) การปฏิบัติตนเป็น 1.๑ มมุ หนงั สือ วางหนงั สือนิทานเร่อื งรองเท้า.. ๒. ลูกบาศกไ์ ม้หรือ ตนเองอย่างสมา่ เสมอ สมาชิกท่ดี ขี อง หอ้ งเรียน แบบไหนดนี ะ หมนี ้อยจะไปโรงเรยี น นมจากเต้า กระดาษ ขนาดต่างๆ (๓) การใหค้ วาม รว่ มมอื ในการปฏิบตั ิ เทีย่ วเมอื งไทยและตัวอะไรกาลงั มา และหนังสือ ประมาณ ๑๐ ลูก กิจกรรมตา่ งๆ อืน่ เก่ียวกบั การรกั การอ่านให้เพยี งพอกับเดก็ เดก็ สามารถยืมหนังสอื กลบั บ้านไดค้ นละ ๑ เลม่ และคนื ทุกวันเพื่อยืมเลม่ ใหม่ ๑.๒ มมุ สร้างสรรค์ จดั วางอุปกรณ์ เกี่ยวกบั การ วาดภาพ และฉีกตัดปะ และอุปกรณ์การทา หนังสือเล่มเล็ก ๑.๓ มมุ บลอ็ ก วางบล็อกใหญ่ขนาดต่างๆกนั ๑.๔ มมุ วทิ ยาศาสตร์ วางอปุ กรณ์ของจริงเก่ียวกบั ระดับและทิศทางและสอ่ื ที่เป็นทรงลกู บาศกข์ นาด ต่างๆกนั เพอื่ เพ่ิมการสงั เกตส่ิงต่าง ๆ จากมมุ มอง ท่ีตา่ งกัน 2. เม่อื หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทีใ่ หเ้ รยี บร้อย

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ เกมขดุ ค้ยุ ตะลยุ โลก ๑. สมบัติที่ซ่อนควรให้ สังเกต การเลน่ เกมขดุ คยุ้ ตะลุยโลกแบ่งเด็กเป็น ๒ กล่มุ เดก็ ตน่ื เต้นเมื่อพบเห็น ๑. การเล่น ทากจิ กรรม กจิ กรรมกลางแจ้ง (๔) การเคลื่อนไหวท่ีใช้ มผี ้ซู ่อนสมบัติ และผู้ค้นหาสมบัติ เชน่ โครงกระดูกตา่ งๆ หมากเก็บและการปฏิบตั ิ ๑. ผูท้ ี่เปน็ ผู้ค้นหาสมบตั ิ ต้องไปอยใู่ นระยะไกล ๒. อุปกรณท์ ข่ี ุดคุ้ยเชน่ กบั ผู้อน่ื ๑. เลน่ หรือทางาน การประสานสัมพนั ธ์ของ ขณะทผ่ี ูซ้ อ่ นสมบตั ิกาลงั ทางานซอ่ นสมบตั ิ แปรงปากแบน ๒. เคลื่อนไหวรา่ งกายใน ๒. ต้องกาหนดเขตการซ่อนเพือ่ จะหาได้งา่ ยขน้ึ ๓. สมบตั คิ วรมี ๒ ชดุ กจิ กรรมต่างๆประสาน รว่ มมือกบั เพื่อน การใช้กลา้ มเน้ือใหญ่ใน ๓. เมื่อผหู้ าสมบตั ิ หาได้ครบจะเปลย่ี นเป็นผู้ซอ่ น เปน็ อย่างน้อยเพื่อ สมั พนั ธ์และทรงตัว สมบตั ิบา้ ง สลบั กันซ่อน อย่างมีเป้าหมาย การจับ การโยน การเตะ ๔. วธิ ีการเล่นห้ามซอ่ นเกนิ เขตที่กาหนด ผู้ค้นหา สมบตั ิ ตอ้ งหาอย่างระมดั ระวัง ไมใ่ ห้สมบัติ จนสาเร็จ (๕) การเล่นเคร่ืองเลน่ เสยี หายหรือแตกหัก ๕. เมอื่ พบสมบัติใหน้ บั ว่ามเี ท่าไร สอบถามผซู้ อ่ น ๒. เคลือ่ นไหว สนามอยา่ งอิสระ ว่าครบหรือไม่ 6. เมอ่ื ครบแล้วใหก้ ลุ่มผ้ซู ่อนตรวจสอบและนาไป ร่างกายในกิจกรรม (๓) การเล่นเคร่ืองเลน่ ทาความสะอาด แลว้ จึงกลบั มาเป็นผหู้ าสมบตั ิ ต่างๆไดป้ ระสาน อย่างปลอดภัย สัมพันธ์และทรงตัว (๑) การปฏิบัตกิ จิ กรรม ได้ ต่างๆตามความสามารถ ของตนเอง (๕) การละเล่นพ้นื บา้ น ของไทย

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ๑. ครูแนะนาและสาธติ วธิ กี ารเลน่ เกมใหม่ เกม เกมจับคภู่ าพกบั สงั เกต เกมการศึกษา จับคภู่ าพกบั สัญลักษณ์(บัตรคา) พร้อมบัตร สัญลักษณ์(บัตรคา) ๑. การเล่นเกมจบั คภู่ าพ ๑. จบั คแู่ ละ (๑๓) การจบั คู่ เกมจบั ค่ภู าพกับ ตรวจสอบ จากนิทานเร่ืองรองเท้า แบบไหนดนี ะ พร้อมบตั รตรวจสอบ กับสญั ลกั ษณ์(บัตรคา) เปรยี บเทยี บความ ๒. ครูแบ่งเด็กเป็นกลุ่มย่อยๆ แลว้ ใหเ้ ด็กเล่นเกม จากนทิ านเร่ืองรองเท้า พรอ้ มบัตรตรวจสอบ แตกต่างหรือความ การเปรียบเทยี บและ สญั ลกั ษณ์(บัตรคา) ใหมแ่ ละเกมท่เี คยเลน่ มาแล้ว สลับหมนุ เวียนกัน แบบไหนดนี ะ ๒. การอา่ นภาพสัญลักษณ์ เหมอื นของส่ิง ๓. เม่อื ครบกาหนดเวลา ครูนาเดก็ สนทนาบอก คาพร้อมชหี้ รอื กวาดตา ต่างๆ โดยลกั ษณะ การเรยี งลาดับสง่ิ ต่างๆ พรอ้ มบัตร ความรูส้ กึ เกี่ยวกับเกมท่เี ล่น มองจดุ เริ่มตน้ และจดุ จบ ท่ีสงั เกตพบสอง ๔. ครใู หเ้ ด็กช่วยกันเก็บเกมเข้าท่ีใหเ้ รยี บร้อย ของข้อความตามบรรทดั ลักษณะข้ึนไปได้ ตามลกั ษณะ ความยาว ตรวจสอบ ๒. อา่ นภาพ สัญลกั ษณ์ ความสงู น้าหนกั ปรมิ าตร คาพร้อมช้ีหรือ กวาดตามอง เรียงลาดับกิจกรรมหรือ จดุ เร่มิ ต้นและจุด จบของขอ้ ความ เหตุการณ์ตามชว่ งเวลา ตามบรรทัดได้ (๑๓)การสังเกตทิศทางการ อ่านตวั อักษร คา และ ข้อความ (๑๔) การอ่านและชี้ ขอ้ ความโดยกวาดสายตา ตามบรรทดั จากซ้ายไปขวา

แผนการจัดประสบการณช น้ั อนบุ าล ๓ หนวยที่ ๓๔ รกั การอาน สปั ดาหท่ี ๓๔ ครงั้ ที่ ๕ วันท่ี................เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรียนรู้ ๑. เครอื่ งเคาะจังหวะ สงั เกต กิจกรรมเคล่ือนไหว ประสบการณส์ าคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ๑. กจิ กรรมเคล่อื นไหวพ้ืนฐานใหเ้ ด็กเคลื่อนไหว ๒. เพลงอา่ นหนังสือ การเคล่ือนไหวร่างกายใน และจังหวะ รา่ งกายไปทัว่ บรเิ วณอย่างอสิ ระตามจงั หวะเม่ือได้ การเป็นผู้นา ผตู้ าม ๑. ปฏิบัติตนเปน็ (๑) การเคลื่อนไหวอยู่ ยนิ สญั ญาณหยุดให้หยุดเคลอ่ื นไหวในท่าน้ันทนั ที ๑. หนังสอื นิทานเร่ือง ผู้นาและผู้ตามใน กบั ที่ ๒. เดก็ จบั เป็นกลุ่มวงกลมใหญ่ ร้องเพลงอ่าน เจ้าหมูขีโ้ ม้ สงั เกต กจิ กรรมเคลอื่ นไหว (๒) การเคลื่อนไหว หนงั สอื พร้อมกันและทาท่าทางอสิ ระประกอบ ๑. การอ่านภาพสัญลักษณ์ และจงั หวะไดด้ ว้ ย เคลือ่ นท่ี เพลง ๑รอบ คาพร้อมชหี้ รอื กวาดตา ตนเอง (๑) การฟังเพลง การร้อง ๓. ตอ่ ไปให้ผนู้ าเขา้ ไปในกลางวงใหญแ่ ลว้ ทาท่า มองจุดเริ่มตน้ และจดุ จบ เพลง และการแสดง ประกอบเพลงเป็นผนู้ า เพื่อนๆร้องเพลงและตบ ของข้อความตามบรรทดั กิจกรรมเสรมิ ปฏิกริ ยิ าโต้ตอบ มอื ๑รอบ รอบที่ ๒ให้เพื่อนๆทาตาม ๒. การเขยี นชอ่ื ของตนเอง ประสบการณ์ เสียงดนตรี ๔. ทาตามขอ้ ๓ ซา้ อีก 4-5 ครงั้ ตามแบบ เขียนข้อความ ๑. อ่านภาพ (๓) การเคลื่อนไหวตาม ๕. เด็กนงั่ ผ่อนคลายสบาย ๆ ด้วยวธิ ที ค่ี ิดข้ึนเอง สัญลักษณ์ เสยี งเพลง/ดนตรี ๑. พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนังสือจาก คาพร้อมช้หี รือกวาด หนังสอื ภาพ และนิทานที่ใช้อ่านร่วมกัน เชน่ หมี ตามองจุดเริ่มตน้ และ (๑๔) การอ่านและช้ี ๑. ความรพู้ น้ื ฐาน น้อยจะไปโรงเรยี น นมจากเต้า เที่ยวเมืองไทยและ จุดจบของขอ้ ความ ตวั อะไรกาลังมา รองเทา้ ..แบบไหนดีนะ ตามบรรทัดได้ ขอ้ ความโดยกวาด เก่ียวกับหนังสือและ ๑.๑ ครนู าหนังสือนิทานท่ใี ช้อ่านร่วมกนั มาให้ ๒. เขยี นชื่อของ เดก็ ดทู ้งั หมด ตนเองตามแบบ สายตาตามบรรทดั จาก ตัวหนังสือ จาก ๑.๒ จัดเดก็ ทส่ี นใจหนงั สอื เล่มเดียวกนั ใหน้ ง่ั กลุ่ม เดยี วกนั และฝึกอา่ นดว้ ยกนั ครูใหค้ าแนะนาท่ีละ ซ้ายไปขวา จากบนลง หนงั สอื นทิ าน กล่มุ ๒. เด็กฝกึ การเขียนอสิ ระ ตามความสนใจ คา วลี ล่าง ๑.๑ การอ่าน (๑๒) การเห็นแบบ อยา่ ง หนังสอื นทิ านโดยใช้ การอ่านท่ถี ูกต้อง การอา่ นร่วมกัน (๑๙) การเหน็ แบบ อย่าง ๑.๒ การอ่านแบบ การเขยี นท่ีถูกต้อง ชแ้ี นะ (๒๑) การเขียนคาทมี่ ี ๑.๓ การอา่ นอิสระ

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ เขยี นข้อความด้วยวิธี ความหมายกับตวั เดก็ คา ๑.๔ การเขียนอสิ ระ หรอื ประโยคทช่ี อบจากหนงั สือนทิ านและเขยี นชื่อ ทีค่ ิดขึน้ เองได้ คนุ้ เคย ตนเองด้านล่าง ๓. นาเสนอผลงานของตน และใหจ้ บั คู่คาทเ่ี ขยี น เหมอื นกนั ไดค้ ู่แล้วใหอ้ ่านออกเสียงพร้อมกัน กจิ กรรมศิลปะ (๕) การพูดกบั ผู้อื่น การจดั นิทรรศการ หนงั สอื เล่มเลก็ ๑. หนังสือเลม่ เลก็ ของ สังเกต ๑. ครแู ละนักเรยี นนานทิ าน ของตนออกมา เด็ก ๑. การอธบิ ายการทางาน สร้างสรรค์ เก่ยี วกับประสบการณ์ รว่ มกนั จดั แสดง และนาแสนอผลงานของตน เลา่ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ของตนเองและ ใหเ้ พอ่ื นฟังโดยจบั คู่กนั เลา่ และใหบ้ อกเพื่อนวา่ สอดคลอ้ งกับผลงานดว้ ย ๑. อธบิ ายการ ของตนเอง หรือพูดเลา่ ชอบหนงั สือนทิ าน ของเพื่อนตรงไหนอยา่ งไร ตนเอง ๓. เม่ือเพื่อนนาเสนอจบแล้วใหต้ วั แทนแต่ละกล่มุ ๒. การแสดงอารมณ์ ทางานทีเ่ กดิ ขนึ้ ของ เรอ่ื งราวเก่ียวกบั ตนเอง แสดงความช่ืนชมเพ่ือน ความรู้สกึ ของตนได้ เหมาะสมตามสถานการณ์ ตนเองได้สอดคล้อง (๘) การรอจังหวะท่ี กับผลงานด้วยตนเอง เหมาะสมในการพูด ๒. แสดงอารมณ์ (๒) การเลน่ บทบาท ความรสู้ กึ ของตนได้ สมมติ เหมาะสมตาม สถานการณ์ กิจกรรมเล่นตามมุม (๒) การเลน่ รายบคุ คล มุมประสบการณ์ควรมอี ย่างน้อย ๔ มมุ ๑. อุปกรณ์ตามมมุ สังเกต ๑. เลน่ หรอื ทางาน กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ เด็กเลอื กกิจกรรมตามมุมประสบการณต์ ามความ ประสบการณ์ใน ๑. การเลน่ หรอื ทางาน ร่วมมอื กับเพ่ือน (๓) การเล่นตามมุม สนใจ ไดแ้ ก่ หอ้ งเรียน รว่ มมอื กบั เพ่ือนอยา่ งมี อย่างมเี ป้าหมายจน ประสบการณ์ 1.๑ มมุ หนังสอื วางหนังสือนิทานเรื่องรองเท้า.. ๒. ลกู บาศก์ไม้หรือ เป้าหมาย สาเร็จ (๒) การปฏิบตั ติ นเปน็ แบบไหนดีนะ หมีนอ้ ยจะไปโรงเรยี น นมจากเตา้ กระดาษ ขนาดตา่ งๆ ๒. การช่วยเหลือและ ๒. ชว่ ยเหลอื และ สมาชกิ ท่ดี ขี องห้องเรยี น เท่ียวเมืองไทยและตัวอะไรกาลงั มา และหนังสือ ประมาณ ๑๐ ลูก แบง่ ปนั ผอู้ ื่น

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ อน่ื เกยี่ วกบั การรักการอ่านใหเ้ พยี งพอกับเดก็ แบง่ ปันผู้อื่นไดด้ ้วย เด็กสามารถยืมหนังสือกลบั บ้านไดค้ นละ ๑ เล่ม ตนเองอยา่ ง (๓) การให้ความร่วมมือ และคืนทุกวันเพ่ือยืมเลม่ ใหม่ สมา่ เสมอ ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม ๑.๒ มมุ สร้างสรรค์ จดั วางอุปกรณ์ เก่ยี วกบั การ ตา่ งๆ วาดภาพ และฉีกตัดปะ และอุปกรณก์ ารทา หนงั สอื เลม่ เล็ก ๑.๓ มมุ บล็อก วางบล็อกใหญ่ขนาดตา่ งๆกนั ๑.๔ มมุ วทิ ยาศาสตร์ วางอปุ กรณข์ องจรงิ เก่ียวกับ ระดบั และทิศทางและสื่อทเ่ี ป็นทรงลกู บาศกข์ นาด ต่างๆกันเพ่อื เพม่ิ การสังเกตสิ่งต่าง ๆ จากมมุ มอง ท่ตี า่ งกนั 2. เมื่อหมดเวลาเดก็ เก็บของเขา้ ท่ใี หเ้ รียบร้อย กิจกรรมกลางแจ้ง (๓) การเคล่ือนไหว การวงิ่ เป้ยี วเกบ็ ลกู บอลด้วยห่วง ๑. ห่วงหรือยาง สังเกต ๑. เลน่ หรอื ทางาน พรอ้ มวัสดุอุปกรณ์ ๑. แบ่งผู้เลน่ เป็นกลุม่ ประมาณ ๓ - ๔ กลมุ่ รถจักรยานยนต์ ๑. การเลน่ หรือทางาน รว่ มมือกับเพื่อน (๒) การเลน่ และทางาน แต่ละกลุม่ เขา้ แถวตอนต่อกัน ๒. ลกู บอลสาหรับแตล่ ะ ร่วมมอื กบั เพื่อนอยา่ งมี อย่างมีเป้าหมายจน รว่ มกับผอู้ นื่ ๒. กาหนดเขตตะกรา้ ให้ห่างกันประมาณ ๕ เมตร กลมุ่ จานวนประมาณ เป้าหมาย สาเร็จ (3) การเลน่ เคร่ืองเลน่ ใหต้ รงแถวทเี่ ด็กยืน เด็กยนื ด้านหลงั ตะกรา้ เปลา่ ๑๕ - ๒๐ ลูก ๒. การใช้คาถาม “เมื่อไร” ๒. ใช้คาถาม อยา่ งปลอดภัย พรอ้ มห่วง ๓. ตะกรา้ กลุ่มละ ๒ ใบ “อยา่ งไร” ไดเ้ หมาะสมกบั “เมอื่ ไร” “อยา่ งไร” (๑) การปฏิบัติกจิ กรรม ๓. เมื่อเรม่ิ เล่นให้เดก็ ถอื ห่วงวิ่งไปวางหนา้ ตะกร้า สถานการณ์ ไดเ้ หมาะสมกบั ตา่ งๆตามความสามารถ ท่ีมีลูกบอล หยิบลกู บอลคร้ังละ ๒ ลูกหรือ ๓ ลูก สถานการณ์ ของตนเอง แล้วแต่จะตกลงกนั วางลงในห่วง แล้วให้ลากหว่ ง

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ ที่มีลูกบอลกลบั ไปจนถึงเพือ่ น โดยไม่ใหล้ กู บอล สงั เกต หลดุ จากห่วง ๑. การเลน่ เกมพ้ืนฐาน ๔. เม่ือถึงตะกรา้ เพอ่ื นคนต่อไปช่วยหยบิ ลูกบอล การบวก ๑๔ - ๑๙ ใส่ตะกรา้ เรียบร้อยแล้ว จึงส่งหว่ งใหเ้ พื่อนวิง่ ต่อไป ๒. จาแนกและจดั กลมุ่ ๕..เมือ่ ว่ิงครบแลว้ ให้เด็กไชโยพร้อมกันแลว้ นง่ั ลง จานวนของส่งิ ตา่ งๆ ๖.เมือ่ ครบทุกกลมุ่ แลว้ ให้นบั ลูกบอลว่าแตล่ ะกลุ่ม มเี ทา่ ไร กอ่ นจะเรมิ่ เล่นกันใหม่ เกมการศกึ ษา (๘) การนับและแสดง เกมพื้นฐานการบวก ๑. ครแู นะนาและสาธติ วธิ ีการเลน่ เกมใหม่ เกมพืน้ ฐานการบวก จาแนกและจัดกลมุ่ จานวนของส่ิงตา่ งๆ ๑๔ - ๑๙ เกมพื้นฐานการบวก ๑๔ - ๑๙ ๑๔ - ๑๙ จานวนของสิ่งต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั ๒. ครแู บ่งเดก็ เปน็ กลุ่มยอ่ ยๆ แล้วใหเ้ ดก็ เล่นเกม ได้ (๑๓) การจับคู่ ใหม่และเกมทเ่ี คยเลน่ มาแลว้ สลบั หมนุ เวียนกัน การเปรียบเทยี บ ๓. เม่ือครบกาหนดเวลา ครนู าเดก็ สนทนาบอก (๕) การคัดแยก ความรู้สึกเก่ียวกับเกมทเ่ี ล่น การจดั กลมุ่ และ ๔. ครูให้เด็กชว่ ยกันเกบ็ เกมเข้าท่ีใหเ้ รียบร้อย การจาแนกสิ่งต่างๆ ตามลกั ษณะและรปู รา่ ง รปู ทรง

๑. เลขที่ ชอื่ – สกุล ๒. ๓. ๔. ๕. 6. 7. 8. 9. 10. ๑. เคลอ่ื นไหวรา่ งกายในกิจกรรมต่างๆอย่างคลอ่ งแคล่ว ด้านรา่ งกาย ประสานสัมพนั ธแ์ ละทรงตัวได้ ดา้ นอารมณ์ แบบสังเกตพฤติกรรมเดก็ ๒. สรา้ งผลงานศลิ ปะเพอ่ื ส่อื สารความคิดความรสู้ กึ ของ แผนการจัดประสบการณช ั้นอนุบาล ๓ หนว ยที่ ๓๔ รักการอา น ตนเองตอ่ ผอู้ น่ื ได้ ประเมนิ พัฒนาการ ด้านสงั คม ๓.พูด และแสดงออกไดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่วเหมาะสมตาม สถานการณ์ ด้านสตปิ ัญญา 5.แสดงอารมณ์ความรูส้ ึกของตนได้เหมาะสมตาม สถานการณ์ 6. ช่วยเหลือและแบ่งปนั ผู้อื่นไดด้ ว้ ยตนเองสมา่ เสมอ 7.ทางานทไ่ี ดร้ บั หมอบหมายจนสาเรจ็ ได้ดว้ ยตนเอง 8.ใช้สงิ่ ของเครื่องใชอ้ ย่างประหยดั และพอเพียงด้วย ตนเองได้อยา่ งเหมาะสม 9. เลน่ หรือทางานร่วมมอื กับเพื่อนอยา่ งมีเป้าหมายจน สาเรจ็ 10. ปฏบิ ัติตนเป็นผู้นาและผู้ตามในกจิ กรรมเคลอื่ นไหว และจงั หวะไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งเหมาะสมกบั สถานการณ์ ๑1. สอ่ื สาร สนทนาโต้ตอบอยา่ งเข้าใจความหมาย ๑2. เลา่ เรอื่ งเป็นประโยคอยา่ งต่อเนอ่ื งใหผ้ อู้ ื่นเข้าใจได้ ๑3. อา่ นภาพสญั ลักษณ์ คาพร้อมชีห้ รอื กวาดตามอง จดุ เรม่ิ ตน้ และจุดจบของขอ้ ความตามบรรทดั ได้ ๑4. เขยี นชือ่ ของตนเองตามแบบ เขยี นขอ้ ความดว้ ย วธิ ีทคี่ ิดข้นึ เองได้ ๑5. จบั คู่และเปรียบเทยี บความแตกตา่ งหรือความ เหมือนของสง่ิ ตา่ งๆ โดยลกั ษณะทส่ี งั เกตพบสอง ลกั ษณะขึน้ ไปเป็นเกณฑ์ หมายเหตุ

1๑. เลขท่ี ชอ่ื – สกุล 1๒. 1๓. 1๔. 1๕. 16. 17. 18. 19. 20. คาอธบิ าย ระดับ ครสู งั เกตพฤติกรรมเด็กรายบคุ คล จดบนั ทึกสรุปเปน็ รายสปั ดาห์ระบุระดบั คณุ ภาพเป็น ๓ ระดับ คือ ๑. เคลอ่ื นไหวรา่ งกายในกิจกรรมต่างๆอย่างคลอ่ งแคล่ว ด้านร่างกาย ๓ ดี ระดับ ๒ ปานกลางระดับ ๑ ตอ้ งสง่ เสรมิ ประสานสัมพนั ธแ์ ละทรงตัวได้ ด้านอารมณ์ ๒. สรา้ งผลงานศลิ ปะเพอ่ื ส่ือสารความคิดความรสู้ กึ ของ ตนเองตอ่ ผอู้ น่ื ได้ ประเมินพัฒนาการ ดา้ นสงั คม ๓.พูด และแสดงออกไดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่วเหมาะสมตาม สถานการณ์ ดา้ นสติปญั ญา หมายเหตุ 5.แสดงอารมณ์ความรูส้ ึกของตนได้เหมาะสมตาม สถานการณ์ 6. ช่วยเหลือและแบ่งปนั ผู้อืน่ ไดด้ ว้ ยตนเองสมา่ เสมอ 7.ทางานทไ่ี ดร้ บั หมอบหมายจนสาเรจ็ ได้ด้วยตนเอง 8.ใช้สงิ่ ของเครื่องใชอ้ ย่างประหยดั และพอเพียงด้วย ตนเองได้อยา่ งเหมาะสม 9. เลน่ หรือทางานร่วมมอื กับเพื่อนอยา่ งมีเปา้ หมายจน สาเรจ็ 10. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้นาและผู้ตามในกจิ กรรมเคลอื่ นไหว และจงั หวะไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งเหมาะสมกบั สถานการณ์ ๑1. สอ่ื สาร สนทนาโต้ตอบอยา่ งเข้าใจความหมาย ๑2. เลา่ เรอื่ งเป็นประโยคอยา่ งต่อเนอ่ื งใหผ้ ้อู น่ื เข้าใจได้ ๑3. อา่ นภาพสญั ลักษณ์ คาพร้อมชีห้ รอื กวาดตามอง จดุ เรม่ิ ตน้ และจุดจบของข้อความตามบรรทดั ได้ ๑4. เขยี นช่ือของตนเองตามแบบ เขยี นขอ้ ความดว้ ย วธิ ีทคี่ ิดข้นึ เองได้ ๑5. จบั คแู่ ละเปรียบเทยี บความแตกตา่ งหรอื ความ เหมือนของสง่ิ ตา่ งๆ โดยลกั ษณะทส่ี งั เกตพบสอง ลกั ษณะขึน้ ไปเป็นเกณฑ์




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook