แผนการจัดประสบการณ์ ช้ันอนบุ าล 3 สปั ดาหท์ ่ี 33 เสยี งรอบตัว นางกิตตมิ า ศรพี รหมมา
การวิเคราะห์โครงสร้างหน่วยการจดั ประสบการณ์ตามหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ หน่วยท่ี 33 เสยี งรอบตัว ชน้ั อนุบาลปีที่ 1 – 3 ภาคเรยี นที่ 2 รายการ อนบุ าลปที ี่ 1 อนุบาลปีที่ 2 อนุบาลปที ี่ 3 สาระที่ควรเรียนรู้ 1. เสียงเกดิ จากการสั่นของส่ิงต่าง ๆ 1. เสยี งเกดิ จากการส่นั ของสิ่งตา่ ง ๆ 2. เสยี งที่เกดิ จากแหลง่ ท่ีมาของเสยี ง 2. เสียงที่เกดิ จากแหลง่ ที่มาของเสียง 1. เสยี งเกดิ จากการสั่นของส่ิงต่าง ๆ มาตรฐาน แตกตา่ งกัน เสียงจะไม่เหมือนกนั แตกต่างกันจะไมเ่ หมือนกัน 2. เสยี งที่เกดิ จากแหล่งท่ีมาของเสียง ตวั บ่งช้ี 3. เสียงรอบตวั ท่ีเกิดจากธรรมชาติ 3. การมสี มาธใิ นการฟังเสียง แตกตา่ งกนั จะไมเ่ หมือนกัน สภาพท่พี งึ ประสงค์ 4. เสยี งทไ่ี มไ่ ดเ้ กิดตามธรรมชาติ 3. การมีสมาธใิ นการฟงั เสยี ง 5. หู เปน็ อวยั วะรบั เสียง - การแยกเสียงดัง เสยี งเบา - วัตถตุ า่ งกันทาให้เกิดเสียงตา่ งกัน - จาแนกทิศทางของเสยี ง - การดแู ลรักษา 4. เสียงส่ือสัญญาณสาคัญต่าง ๆ เชน่ - เสียงจากเครือ่ งดนตรีและจากเครอื่ งมือ - การป้องกันอนั ตรายจากเสยี งดัง เสียงไซเรนของรถพยาบาล เสียงนาฬิกาปลุก ตา่ ง ๆ เสียงกรงิ่ ประตู 4. การสารวจเสยี งจากวัตถุต่าง ๆ (กระดาษ มฐ. 2 ตบช.2.1 (2.1.1) 5. การดแู ลรักษาหู แก้ว ไม้ โลหะ) ตบช.2.2 (2.2.2) 5. การดูแลรกั ษาหู - การปอ้ งกันอนั ตรายจากเสยี งดงั มฐ. 5 ตบช.5.2 (5.2.1) - มารยาทในการใช้เสยี ง - การป้องกันอันตรายจากเสยี งดัง ตบช.5.4 (5.4.1) มฐ. 2 ตบช.2.1 (2.1.1) - มารยาทในการใช้เสียง ตบช.2.2 (2.2.2) มฐ. 6 ตบช.6.2 (6.2.1) มฐ. 5 ตบช.5.2 (5.2.1) มฐ. 2 ตบช.2.1 (2.1.1) ตบช.6.3 (6.3.1) ตบช.5.4 (5.4.1) ตบช.2.2 (2.2.2) มฐ. 6 ตบช.6.2 (6.2.1) มฐ. 8 ตบช.8.2 (8.2.1) ตบช.6.3 (6.3.1) มฐ. 5 ตบช.5.2 (5.2.1) ตบช.8.3 (8.3.1) มฐ. 8 ตบช.8.2 (8.2.1) ตบช.5.4 (5.4.1) มฐ. 9 ตบช.9.1 (9.1.1) มฐ. 9 ตบช.9.1 (9.1.1) มฐ. 6 ตบช.6.2 (6.2.1) ตบช.6.3 (6.3.1) มฐ. 8 ตบช.8.2 (8.2.1) ตบช.8.3 (8.3.2) มฐ. 9 ตบช.9.1 (9.1.1) ตบช.9.2 (9.2.1)
รายการ อนุบาลปที ่ี 1 อนุบาลปีที่ 2 อนบุ าลปีท่ี 3 มฐ. 10 ตบช.10.1 (10.1.2) มฐ. 10 ตบช.10.1 (10.1.1) มฐ. 10 ตบช.10.1 (10.1.2) (10.1.2) (10.1.3) (10.1.4) (10.1.3) (10.1.4) ตบช.10.2 (10.2.1) (10.1.4) ตบช.10.2 (10.2.2) มฐ. 11 ตบช.11.1 (11.1.1) มฐ. 11 ตบช.11.1 (11.1.1) มฐ. 11 ตบช.11.1 (11.1.2) ตบช.11.2 (11.2.1) ตบช.11.2 (11.2.1) (11.2.1) มฐ. 12 ตบช.12.2 (12.2.1) มฐ. 12 ตบช.12.2 (12.2.1) ประสบการณ์สาคัญ รา่ งกาย ร่างกาย ร่างกาย 1.1.1 (1) การเคล่ือนไหวอยู่กับที่ 1.1.1 (2) การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่ี 1.1.1 (2) การเคลอื่ นไหวเคลอ่ื นท่ี (2) การเคล่ือนไหวเคล่อื นท่ี (3) การเคลอ่ื นไหวพร้อมวสั ดอุ ุปกรณ์ (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอปุ กรณ์ (3) การเคล่อื นไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์ (4) การเคลอื่ นไหวที่ใช้ประสาท สัมพนั ธข์ องการใช้กลา้ มเน้ือใหญใ่ นการขว้าง (4) การเคลอื่ นไหวท่ีใช้ในการประสาน (4) การเคลอื่ นไหวที่ใชก้ ารประสาน การจับ การโยน การเตะ (5) การเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนาม สัมพันธ์ของการใช้กลา้ มเนื้อใหญ่ในการขว้าง สัมพนั ธข์ องการใช้กล้ามเน้ือใหญ่ในการขวา้ ง 1.1.2 (1) การเล่นเครอื่ งเลน่ สัมผัส และ การสร้างแทง่ ไม้ บล็อก การจับ การโยน การเตะ การจับ การโยน การเตะ (2) การเขยี นภาพและการเลน่ กับสี (3) การปนั้ (5) การเลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม (5) การเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม (4) การประดิษฐส์ ิง่ ต่าง ๆ ด้วยเศษวัสดุ อย่างอสิ ระ อย่างอสิ ระ (5) การหยบิ จบั การใชก้ รรไกร การฉีก การตัด การปะ และการร้อยวัสดุ 1.1.2 (1) การเลน่ เคร่อื งเลน่ สมั ผสั และ 1.1.2 (1) การเลน่ เครอ่ื งเลน่ สมั ผัสและ การสร้างจากแทง่ ไม้ บลอ็ ก การสรา้ งจากแทง่ ไม้ บลอ็ ก (2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี (2) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี (3) การปน้ั (3) การป้นั (4) การประดษิ ฐ์สงิ่ ตา่ ง ๆ (4) การประดษิ ฐส์ ่ิงต่าง ๆดว้ ยเศษวสั ดุ ดว้ ยเศษวสั ดุ (5) การหยิบจับ การใชก้ รรไกร (5) การหยบิ จับ การใช้กรรไกร การฉีก การฉกี การตดั การปะ การพับ และ การตัด การปะ การพับ และการร้อยวสั ดุ การรอ้ ยวสั ดุ
รายการ อนุบาลปที ี่ 1 อนุบาลปที ี่ 2 อนุบาลปีที่ 3 อารมณ์ อารมณ์ อารมณ์ 1.2.2 (1) การเล่นอิสระ 1.2.2 (1) การเลน่ อสิ ระ 1.2.2 (1) การเลน่ อิสระ (2) การเล่นรายบุคคล กลมุ่ ย่อย (2) การเล่นรายบุคคล กลมุ่ ยอ่ ย (2) การเล่นรายบคุ คล กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ กลุ่มใหญ่ กลุม่ ใหญ่ (3) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ (3) การเล่นตามมมุ ประสบการณ์ (3) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ (4) การเล่นนอกห้องเรยี น (4) การเรยี นนอกห้องเรยี น (4) การเลน่ นอกห้องเรียน 1.2.4 (5) การทางานศลิ ปะ 1.2.4 (5) การทางานศลิ ปะ 1.2.4 (5) การทางานศิลปะ สงั คม สังคม สังคม 1.3.2 (2) การใชว้ สั ดแุ ละสง่ิ ของเครอ่ื งใช้ 1.3.2 (2) การใช้วสั ดุและสงิ่ ของเครอ่ื งใช้ 1.3.2 (2) การใช้วสั ดแุ ละสิ่งของเคร่ืองใช้ อย่างคุ้มค่า อย่างคุ้มคา่ อย่างคุ้มคา่ 1.3.4 (2) การปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชกิ ท่ีดี 1.3.4 (2) การปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ที่ดี 1.3.4 (2) การปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชิกท่ีดี ของห้องเรยี น ของห้องเรียน ของห้องเรียน (4) การดแู ลห้องเรียนร่วมกนั (3) การให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ตั ิ (3) การให้ความร่วมมือในการปฏบิ ัติ 1.3.5 (2) การเล่นและทางานรว่ มกบั ผูอ้ ่นื กจิ กรรมต่าง ๆ กจิ กรรมต่าง ๆ (4) การดูแลห้องเรียนร่วมกัน (4) การดูแลห้องเรยี นรว่ มกัน สตปิ ญั ญา 1.3.5 (2) การเลน่ และทางานรว่ มกับผอู้ ื่น 1.3.7 (1) การเลน่ หรือทากิจกรรมรว่ มกบั 1.4.1 (1) การฟงั สิ่งตา่ ง ๆ ในสงิ่ แวดลอ้ ม กลุม่ เพื่อน สตปิ ัญญา สติปัญญา (2) การฟังและปฏิบัติตามคาแนะนา 1.4.1 (1) การฟังเสียงตา่ ง ๆ ในสิง่ แวดล้อม 1.4.1 (1) การฟังเสียงตา่ ง ๆ ในส่งิ แวดลอ้ ม (3) การฟังเพลง นิทาน คาคลอ้ งจอง (2) การฟงั และปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา บทรอ้ ยกรองหรือเรื่องราวตา่ ง ๆ (2) การฟงั และปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา (3) การฟังเพลง นทิ าน หรือเร่ืองราว (4) การพูดแสดงความคดิ (3) การฟังเพลง นทิ านหรือเร่ืองราว ต่าง ๆ (6) การพูดอธิบายเก่ยี วกับสิง่ ของ ต่าง ๆ (4) การพูดแสดงความคดิ (4) การพดู แสดงความคดิ (8) การรอจงั หวะท่เี หมาหะสม (6) การพูดอธบิ ายเกี่ยวกับสิ่งของ
รายการ อนบุ าลปีท่ี 1 อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปีท่ี 3 เหตกุ ารณ์ และความสมั พันธ์ของส่ิงตา่ ง ๆ ในการพูด เหตุการณ์ และความสัมพนั ธ์ของส่ิงตา่ ง ๆ (9) การพดู เรียงลาดบั คาเพ่ือใช้ (8) การอจังหวะทเ่ี หมาะสมในการพดู (7) การพดู อย่างสร้างสรรคใ์ นการเลน่ (12) การเหน็ แบบอยา่ งของการอา่ น ในการส่ือสาร ทถี่ ูกต้อง และการกระทาต่าง ๆ (19) การเหน็ แบบอย่างของการเขยี น (19) การเหน็ แบบอยา่ งของการเขยี น (8) การรอจงั หวะท่เี หมาะสม ทถี่ ูกต้อง ที่ถูกต้อง (21) การเขียนคาท่มี คี วามหมาย ในการพูด 1.4.2 (5) การคดั แยก การจัดกลุม่ กับตัวเดก็ / คาคุ้นเคย (9) การพูดเรียงลาดับคาเพื่อใช้ ตามลักษณะต่าง ๆ 1.4.2 (5) การคัดแยก การจัดกลุ่ม การจาแนกสง่ิ ต่าง ๆ ตามลักษณะและรปู ร่าง ในการส่อื สาร (6) การต่อช้นิ เลก็ เติมในชิน้ ใหญ่ รปู ทรง (12) การเหน็ แบบอยา่ งของการอ่าน ให้สมบูรณแ์ ละการแยกชิ้นสว่ น (6) การต่อของชน้ิ เลก็ เตมิ ในชิ้นใหญ่ ให้สมบูรณ์ และการแยกช้ินส่วน ทีถ่ กู ต้อง (13) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บ และ (11) การบอกและแสดงอนั ดับที่ (19) การเห็นแบบอย่างของการเขียน การเรียงลาดับ สิ่งต่าง ๆ (21) การเขียนคาท่ีมีความหมาย 1.4.3 (1) การรับรู้และแสดงความรสู้ กึ (13) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บ ผา่ นช้นิ งาน และการเรียงลาดบั สิ่งตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะ กบั ตวั เดก็ / คาคนุ้ เคย ความยาว / ความสูง นา้ หนัก ปริมาตร 1.4.2 (6) การต่อชิน้ เลก็ เติมในชน้ิ ใหญ่ (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ น ใหส้ มบูรณ์และการแยกชิ้นสว่ น การเคลอื่ นไหว (16) การอธบิ ายเชอ่ื มโยงสาเหตุและ 1.4.4 (3) การสืบเสาะหาความรเู้ พ่ือค้นหา ผลที่เกดิ ขนึ้ ในเหตุการณ์หรือการกระทา (8) การนบั และแสดงจานวน คาตอบของข้อสงสยั ต่าง ๆ (13) การจบั คู่เปรยี บเทยี บ และ (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเน การเรียงลาดับสง่ิ ตา่ ง ๆ สงิ่ ที่อาจจะเกิดขึ้นอยา่ งมเี หตุผล 1.4.3 (1) การรบั รู้ และแสดงความคิด ความรู้สึก ผ่านสอ่ื วัสดุ ของเล่นและชนิ้ งาน (18) การมสี ว่ นรว่ มในการลงความเห็น (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่าน จากข้อมลู อยา่ งมีเหตุผล ภาษา ท่าทาง การเคลื่อนไหว และศิลปะ 1.4.4 (3) การสืบเสาะหาความร้เู พื่อค้นหา คาตอบของข้อสงสยั ต่าง ๆ (4) การมสี ว่ นร่วมในการรวบรวม
รายการ อนบุ าลปที ี่ 1 อนบุ าลปีที่ 2 อนุบาลปีที่ 3 1.4.3 (2) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ ขอ้ มูลและนาเสนอขอ้ มูลจากการสบื เสาะหา ผา่ นภาษา ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหวและศิลปะ ความรใู้ นรปู แบบต่าง ๆ และแผนภมู ิอย่างงา่ ย คณิตศาสตร์ 1. นับและแสดงจานวน 1 - 5 1. นบั และแสดงจานวน 1 - 10 1. นบั แสดงจานวน 1 - 18 2. เรียงลาดับทีข่ องสง่ิ ต่าง ๆ จานวนไม่เกนิ 4 2. เรียงลาดบั ท่ขี องสงิ่ ตา่ ง ๆ จานวนไมเ่ กนิ 6 2. เรียงลาดับทข่ี องสงิ่ ตา่ ง ๆ จานวนไมเ่ กิน 8 3. การจบั คกู่ ารเปรียบเทยี บสิ่งตา่ ง ๆ 3. เปรียบเทียบจาแนก จดั กลุ่ม เสยี ง 3. จาแนก จดั กลมุ่ เสยี งท่ีได้ยินบริเวณ 4. การคัดแยก การจัดกลุ่ม สงิ่ ต่าง ๆ ที่เกิดจากธรรมชาติ และเสียงทเี่ กดิ จาก โรงเรยี น เชน่ เสียงสตั ว์ เสยี งสัญญาณต่าง ๆ 5. การต่อของชิ้นเลก็ เตมิ ในชนิ้ ใหญใ่ หส้ มบูรณ์ ส่งิ ที่ประดษิ ฐ์ขน้ึ (เชน่ เครอื่ งดนตรี) เสียงยานพาหนะ เสยี งส่งิ แวดลอ้ มใน และการแยกชน้ิ สว่ น 4. วาดภาพ พบั ตดั ต่อเตมิ ภาพจากรปู วงกลม ธรรมชาติ ส่เี หลี่ยม 4. วาดภาพ พับ ตดั ต่อเตมิ ภาพจากรปู สามเหลีย่ ม วงรี วทิ ยาศาสตร์ 1. สารวจแหล่งกาเนิดเสียงในชวี ติ ประจาวัน 1. การสารวจและเปรยี บเทียบแหล่งกาเนิด 1. สังเกตและสารวจเสียงต่าง ๆ ในธรรมชาติ 2. ใช้ประสาทสมั ผัสในการสงั เกตและ เสยี งในชวี ิตประจาวนั 2. สืบค้นและบนั ทกึ ข้อมูลแหลง่ กาเนิดเสยี ง เปรียบเทียบเสียงรอบตัว 2. การแสดงวิธีการใช้เสียงทีเ่ หมาะสม ในชีวิตประจาวันอยา่ งงา่ ย ๆ 3. การสบื เสาะหาความร้เู พือ่ คน้ หาคาตอบ 3. แสดงวิธกี ารใชเ้ สยี งทเี่ หมาะสมปลอดภยั ของขอ้ สงสยั 4. สืบคืนข้อมูลเกีย่ วกบั ประโยชน์และโทษ ทเี่ กิดจากการใช้เสยี ง พฒั นาการทางภาษา 1.4.1 พัฒนาการทางภาษาและการรหู้ นงั สอื 1.4.1 พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนงั สอื 1.4.1 พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนงั สือ และการรูห้ นงั สือ - การฟังและการปฏบิ ัติตามคาแนะนา - การฟงั และการปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา - การฟังและการปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา - การฟงั เพลง นิทาน หรือเรอ่ื งราว - การฟังเพลงหรือเร่ืองราวต่าง ๆ - การฟังเพลง นิทาน หรือเรื่องราวตา่ ง ๆ - การพดู แสดงความคิด - การพูดแสดงความคดิ ตา่ ง ๆ - การพดู อธิบายเกย่ี วกบั สงิ่ ของ - การพดู อธบิ ายเกีย่ วกบั สง่ิ ของ - การพูดแสดงความคิด
รายการ อนุบาลปีที่ 1 อนบุ าลปีท่ี 2 อนบุ าลปีที่ 3 - การรอจงั หวะทีเ่ หมาะสมในการพูด เหตกุ ารณ์ และความสัมพนั ธ์ของสิง่ ตา่ ง ๆ เหตกุ ารณแ์ ละความสมั พนั ธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ - การพดู เรียงลาดบั คาเพื่อใช้ในการ - การรอจังหวะท่ีเหมาะสมในการพูด - การรอจังหวะท่ีเหมาะสมในการพูด ส่ือสาร - การเห็นแบบอย่างของการอา่ น - การพูดเรยี งลาดับคาเพ่ือใชใ้ นการ - การเห็นแบบอย่างของการเขียน ทถี่ ูกต้อง ทถ่ี ูกต้อง สอ่ื สาร - การเห็นแบบอย่างของการเขียน - การเห็นแบบอย่างของการอ่านที่ถกู ต้อง - การเหน็ แบบอยา่ งของการเขยี นท่ี ท่ีถูกต้อง - การเขียนคาที่มคี วามหมาย ถูกต้อง - การเขยี นคาที่มคี วามหมายกบั ตวั เดก็ / กับตวั เดก็ / คาคนุ้ เคย คาคนุ้ เคย
หนว่ ยการจัดประสบการณ์ที่ 33 เสียงรอบตวั ชนั้ อนบุ าลปีท่ี 3 แนวคดิ เสยี งเกิดจากการสน่ั ไหวของสิ่งตา่ ง ๆ เสียงท่เี กิดจากแหล่งทม่ี าตา่ งกันจะไมเ่ หมอื นกนั เช่น เสยี งจากเครอื่ งดนตรี จากเครอ่ื งมือตา่ ง ๆ จากวตั ถุทเี่ ป็นไม้ กระดาษ แกว้ โลหะ หูเปน็ อวัยวะสาคัญใช้สาหรบั รับเสียงเราต้องป้องกันอนั ตรายจากเสียงดัง และเราควรเรียนรูม้ ารยาทในการใช้เสยี งกบั สถานท่ีบางแห่ง มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพที่พึงประสงค์ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้ 2.1.1 เดินต่อเท้า มาตรฐานท่ี 2 ตวั บ่งช้ี 2.1 ถอยหลังเป็นเส้นตรงได้ 1. เดนิ ตอ่ เท้าถอย 1.1.1 การใช้กลา้ มเนอื้ ใหญ่ โดยไมต่ อ้ งกางแขน กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อ เคล่ือนไหวร่างกาย หลงั เป็นเส้นตรง (2) การเคลือ่ นไหวเคล่ือนท่ี 2.2.2 เขียนรปู เล็กแข็งแรง ใชไ้ ด้อยา่ ง อยา่ งคล่องแคลว่ สามเหลีย่ มตามแบบ โดยไมต่ อ้ งกางแขนได้ (3) การเคลือ่ นไหว ได้อยา่ งมีมุมชดั เจน คล่องแคลว่ และประสาน ประสานสมั พันธ์ พรอ้ มอุปกรณ์ สัมพนั ธ์กัน และ ทรงตัวได้ (4) การเคล่ือนไหวที่ใช้ การประสานสัมพนั ธ์ของ การใชก้ ลา้ มเน้ือใหญ่ ในการขวา้ ง การจับ การโยน การเตะ (5) การเล่นเครื่องเลน่ สนามอย่างอิสระ ตัวบ่งชี้ 2.2 2. เขยี นรปู 1.1.2 การใช้กล้ามเนือ้ เลก็ ใช้มอื -ตา ประสานสมั พันธ์กนั สามเหล่ียม (1) การเลน่ เคร่อื งเลน่ ตามแบบอย่างมีมมุ สัมผสั และการสรา้ ง ชดั เจนได้ จากแทง่ ไม้ บล็อก (2) การเขียนภาพและ การเลน่ กบั สี
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ เรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ (3) การป้นั (4) การประดษิ ฐ์ส่ิงต่าง ๆ ด้วยเศษวสั ดุ (5) การหยิบจับ การใชก้ รรไกร การฉีก การตัด การปะ การพับและ การร้อยวัสดุ 1.3.5 การเล่นและทางาน แบบรว่ มมอื รว่ มใจ (3) การทาศิลปะ แบบร่วมมือ มาตรฐานที่ 5 ตวั บ่งชี้ 5.2 5.2.1 ชว่ ยเหลือและ 3. ชว่ ยเหลอื และ 1.2.2 การเล่น มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ มคี วามเมตตา กรณุ า แบง่ ปนั ผู้อ่ืนได้ แบง่ ปันผูอ้ นื่ (1) การเลน่ อิสระ มีจิตใจทด่ี งี าม มนี า้ ใจและช่วยเหลือ ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเองได้ (2) การเล่นรายบุคคล แบง่ ปัน กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ (3) การเล่นตามมุม ประสบการณ์ (4) การเลน่ นอกห้องเรียน ตวั บง่ ช้ี 5.4 5.4.1 ทางานทไี่ ด้รับ 4. ทางานทไ่ี ดร้ บั 1.2.4 การแสดงออก มีความรบั ผดิ ชอบ มอบหมายจนสาเรจ็ มอบหมายจนสาเร็จ ทางอารมณ์ ด้วยตนเอง ด้วยตนเองได้ (5) การทางานศิลปะ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 6 ตัวบง่ ชี้ 6.2 6.2.1 เก็บของเล่น 5. เก็บของเล่นหรือ 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ มีทกั ษะชวี ิตและปฏิบตั ติ น มวี ินยั ในตนเอง ของใชเ้ ขา้ ทด่ี ้วยตนเอง ของใช้เข้าท่ี มีวนิ ัย มีส่วนรว่ มและบทบาท ตามหลักปรัชญาของ อย่างเรียบร้อย สมาชิกท่ีดีของสมาคม เศรษฐกิจพอเพยี ง ดว้ ยตนเองได้ (2) การปฏบิ ัติตน เป็นสมาชิกทีด่ ขี องห้องเรียน (4) การดแู ลห้องเรยี น ร่วมกนั ตัวบ่งช้ี 6.3 6.3.1 ใช้สิ่งของ 6. นาวสั ดุหรือส่ิงของ 1.3.2 การดแู ลรักษา ประหยดั และพอเพียง เครื่องใช้อย่างประหยดั ทใี่ ช้แลว้ มาประดิษฐ์ ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม และพอเพียงดว้ ยตนเอง เป็นของเล่นได้ (2) การใชว้ สั ดุและส่ิงของ เครอื่ งใช้อย่างคุ้มคา่ มาตรฐานท่ี 8 ตัวบง่ ช้ี 8.2 8.2.1 เลน่ หรือทางาน 7. เล่นหรอื ทางาน 1.3.5 การทางานแบบ อยู่ร่วมกับผูอ้ ่นื ได้อยา่ ง มปี ฏสิ มั พันธท์ ่ีดกี ับผู้อน่ื รว่ มกับเพื่อนอย่างมี รว่ มกบั เพ่ือนอย่างมี ร่วมมอื รว่ มใจ มคี วามสขุ และปฏิบัติตน เป้าหมาย เป้าหมายได้ เป็นสมาชิกทด่ี ขี องสงั คม (2) การเล่นและทางาน ในระบอบประชาธิปไตย รว่ มกบั ผอู้ ่ืน อนั มีพระมหากษัตริย์ 1.3.3 การปฏิบตั ิ ทรงเป็นประมขุ ตามวฒั นธรรมท้องถนิ่ และความเป็นไทย (5) การละเลน่ พืน้ บา้ น ของไทย
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 9 ตวั บ่งช้ี 8.3 8.3.2 ปฏบิ ตั ติ น 8. ปฏบิ ัตติ นเป็นผูน้ า 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ ใช้ภาษาส่ือสาร ปฏิบัติตนเบอื้ งต้นในการ เป็นผนู้ าและผู้ตาม ไดเ้ หมาะสมกบั วัย เปน็ สมาชิกที่ดขี องสงั คม ได้เหมาะสมกบั และผู้ตามเหมาะสม มวี นิ ยั มสี ว่ นร่วม และบทบาท สถานการณ์ กับสถานการณไ์ ด้ สมาชกิ ของสงั คม (3) การใหค้ วามรว่ มมือ ในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ตวั บ่งช้ี 9.1 9.1.1 ฟงั ผอู้ ื่นพูดจน 9. ฟังและพดู 1.4.1 การใช้ภาษา สนทนาโตต้ อบและ จบและสนทนาโต้ตอบ เชอื่ มโยงต่อเน่ือง (1) การฟงั เสยี งต่าง ๆ เลา่ เรื่องให้ผอู้ ืน่ เขา้ ใจ อยา่ งต่อเน่ืองเชอ่ื มโยง กับเรอ่ื งทีฟ่ งั ได้ กบั เรื่องที่ฟัง ในสง่ิ แวดล้อม (2) การฟังและปฏิบัติ ตามคาแนะนา (3) การฟงั เพลง นทิ าน คาคล้องจอง บทร้อยกรอง หรือเร่ืองราวต่าง ๆ (4) การพดู แสดงความคิด ความร้สู กึ และความต้องการ (6) การพดู อธิบายเกยี่ วกับ ส่ิงของ เหตุการณแ์ ละ ความสมั พันธ์ของส่งิ ตา่ ง ๆ (7) การพดู อยา่ งสรา้ งสรรค์ ในการเล่น และการกระทา ต่าง ๆ
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ เรียนรู้ มาตรฐาน สภาพท่ีพึงประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ ตวั บง่ ชี้ 9.2 อา่ นเขียนภาพและ (8) การรอจงั หวะ สญั ลกั ษณ์ได้ ท่ีเหมาะสมในการพดู (9) การพูดเรียงลาดับคา เพอ่ื ใช้ในการสือ่ สาร 9.2.1 อ่านภาพ 10. อ่านภาพ (12) การเหน็ แบบอยา่ ง สัญลักษณ์ คาด้วยการชี้ สญั ลกั ษณ์ คา ของการอา่ นท่ถี ูกต้อง หรือกวาดตามอง ด้วยการชี้ หรือ จดุ เริม่ ตน้ และจุดจบ กวาดตามอง ของขอ้ ความ จดุ เรม่ิ ตน้ และจดุ จบ ของข้อความได้ 9.2.2 เขียนชอ่ื ของ 11. เขยี นช่อื ตนเอง (19) การเห็นแบบอย่าง ของการเขยี นที่ถกู ตอ้ ง ตนเองตามแบบ ตามแบบได้ (21) การเขียนคาทม่ี ี เขยี นขอ้ ความด้วยวธิ ี ความหมายกบั ตวั เด็ก / คาค้นุ เคย ท่คี ิดข้ึนเอง มาตรฐานท่ี 10 ตวั บ่งชี้ 10.1 10.1.2 จบั คู่และ 12. นับและแสดง 1.4.2 การคดิ รวบยอด มีความสามารถในการคดิ มีความสามารถ เปรียบเทียบ จานวน 10-18 ได้ การคิดเชงิ เหตุผล ท่ีเปน็ พืน้ ฐานในการเรยี นรู้ ในการคิดรวบยอด ความแตกตา่ งหรอื การตัดสินใจและแก้ปัญหา ความเหมอื นของ สิง่ ต่าง ๆ โดยใช้ (8) การนับและ ลกั ษณะที่สังเกต แสดงจานวน พบสองลักษณะข้ึนไป
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ตัวบ่งช้ี เรียนรู้ มาตรฐาน สภาพท่ีพึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ ตวั บ่งชี้ 10.2 13. จบั คู่หรือ มคี วามสามารถ 10.1.4 เรยี งลาดบั เปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ (6) การต่อชิน้ เลก็ ในการคดิ เชงิ เหตผุ ล ส่ิงของหรือเหตุการณ์ ได้ อย่างน้อย 5 ลาดบั เตมิ ในช้ินใหญ่ให้สมบูรณ์ 10.2.1 อธิบาย 14. เรียงลาดับ เช่ือมโยงสาเหตุและผล ส่งิ ต่าง ๆ ได้ และการแยกช้ินสว่ น ท่ีเกดิ ขน้ึ ในเหตุการณ์ หรือการกระทาด้วย (13) การจับคู่ ตนเอง การเปรียบเทียบและ การเรยี งลาดับ สง่ิ ต่าง ๆ ตามลักษณะความยาว/ ความสูง นา้ หนกั ปริมาตร 15. อธบิ ายเช่อื มโยง (16) การอธบิ ายเชื่อมโยง สาเหตุและผล สาเหตุและผลทเ่ี กิดขน้ึ ทเ่ี กิดขึน้ ในเหตกุ ารณ์ ในเหตุการณ์หรือการกระทา หรือการกระทา ดว้ ยตนเองได้ มาตรฐานที่ 11 ตวั บง่ ชี้ 11.1 11.1.1 สรา้ งผลงาน 16. สร้างผลงาน 1.4.3 จนิ ตนาการและ มีจนิ ตนาการและความคิด ทางานศลิ ปะ ศิลปะเพอ่ื ส่ือสาร ศลิ ปะโดยมีความ ความคดิ สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ ตามจินตนาการและ ความคดิ ความรสู้ ึก แปลกใหม่และ ความคดิ สร้างสรรค์ ของตนเอง โดยมีการ มรี ายละเอียด (1) การรบั รู้ และแสดง ดัดแปลงและแปลกใหม่ เพมิ่ ขน้ึ ได้ ความคดิ ความรสู้ ึก ผ่านสื่อ จากเดมิ หรอื วัสดุ ของเล่นและชิน้ งาน (2) การแสดงความคิด
มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ ตัวบง่ ช้ี มาตรฐาน สภาพที่พงึ ประสงค์ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ ตัวบง่ ช้ี 11.2 มรี ายละเอียดเพ่ิมขึ้น แสดงทา่ ทางเคลือ่ นไหว สร้างสรรค์ผา่ นภาษา ท่าทาง ตามจินตนาการ 11.2.1 เคล่ือนไหว อย่างสร้างสรรค์ ทา่ ทางเพอื่ ส่ือสาร การเคลือ่ นไหว และศิลปะ ความคิด ความรู้สึก ของตนเอง 17. เคลอื่ นไหว อย่างหลากหลาย หรือแปลกใหม่ ทา่ ทาง อย่างหลากหลาย และมคี วามแปลกใหม่ ได้ มาตรฐานท่ี 12 ตัวบ่งช้ี 12.2 12.2.1 คน้ หาคาตอบ 18. คน้ หาคาตอบ 1.4.4 เจตคติที่ดตี อ่ การ มีเจตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้ มีความสามารถ ของข้อสงสยั ต่าง ๆ ส่งิ ท่สี งสยั โดยวธิ ี เรยี นร้แู ละการแสวงหาความรู้ และมีความสามารถในการ ในการแสวงหาความรู้ โดยใช้วธิ กี าร การทหี่ ลากหลาย แสวงหาความรู้ได้เหมาะสม ทหี่ ลากหลาย ดว้ ยตนเองได้ (3) การสบื เสาะหาความรู้ กบั วยั ด้วยตนเอง เพ่อื คน้ หาคาตอบของข้อ สงสัยตา่ ง ๆ (4) การมีส่วนร่วมในการ รวบรวมขอ้ มลู และนาเสนอ ข้อมลู จากการสบื เสาะหา ความรู้ในรปู แบบตา่ ง ๆ และแผนภูมิอย่างงา่ ย
ผงั ความคดิ แผนการจดั ประสบการณ์หนว่ ยเสียงรอบตวั ช้นั อนบุ าลปีที่ 3 ๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๒. กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ ๓. กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ 1. เคล่ือนไหวรา่ งกายประกอบอุปกรณ์ 1. เสยี งเกิดจากการสัน่ ของสิ่งตา่ ง ๆ 1. เปา่ สนี ้า, พบั กระดาษเปน็ หน้าแมว เล2่น. เกคมลอ่ื “นลไกู หบวอรา่ลงหกรารยษแาบ”บผู้นา - ผูต้ าม 2. เสยี งท่เี กิดจากแหลง่ ท่มี าของเสียงแตกต่างกัน 2. ปนั้ ดินน้ามนั เป็นรปู สามเหลยี่ ม สเ่ี หลยี่ ม 3. เคลื่อนไหวรา่ งกายตามคาสง่ั 4. เคลื่อนไหวรา่ งกายตามจินตนาการ จะไม่เหมอื นกัน วงกลม นามาเสยี บไมล้ กู ช้ิน, วาดภาพอิสระ 5. เคลอ่ื นไหวรา่ งกายตามขอ้ ตกลง 3. การมสี มาธใิ นการฟังเสยี ง, จาแนกทศิ ทางของเสียง จากสเี ทียน 3. สรา้ งภาพจากรปู สามเหลี่ยมแล้ววาดตอ่ เตมิ จากเคร่ืองดนตรีและเครื่องมือต่าง ๆ ด้วยสเี ทียน 4. การสารวจเสยี งจากวตั ถตุ ่าง ๆ (กระดาษ แกว้ ไม้ 4. ประดษิ ฐ์ \"ไก่กระตอ๊ ก\" จากถว้ ยกระดาษ, รอ้ ยลูกปดั โลหะ) 5. วาดภาพอสิ ระจากสีนา้ , ประดษิ ฐ์กบจาก 5. การดูแลรักษาหู จานกระดาษ - การปอ้ งกันอันตรายจากเสียงดัง - มารยาทในการใชเ้ สยี ง 4. กจิ กรรมเลน่ ตามมมุ หน่วยเสียงรอบตวั ๖. กจิ กรรมเกมการศกึ ษา ช้ันอนบุ าลปที ี่ 3 เลน่ ในมมุ ประสบการณต์ ่าง ๆ 1. เกมจับคภู่ าพกับจานวน 10 - 18 ภายในหอ้ งเรียน 5. กจิ กรรมกลางแจ้ง 2. เกมเรียงลาดับที่ส่งิ ของจานวนไมเ่ กิน 8 3. เกมพน้ื ฐานการบวกจานวน 10 - 18 1. เลน่ น้า เลน่ ทราย 4. เกมโดมโิ นสถานทห่ี า้ มใชเ้ สียง 2. เลน่ เกมเดนิ ตอ่ เท้าถอยหลงั เปน็ 5. เกมสังเกตรายละเอยี ดของภาพ (เครอ่ื งดนตรี) เสน้ ตรงและกระโดดเชือกเด่ยี ว 3. เล่นเครอ่ื งเล่นสนาม 4. เลน่ การเล่น \"วิ่งเปรีย้ ว\" 5. เล่นเครอื่ งเลน่ สนาม
การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจัดประสบการณ์ชนั้ อนบุ าลปีที่ 3 หน่วย เสียงรอบตวั วันที่ เคล่อื นไหวและจงั หวะ เสรมิ ประสบการณ์ กิจกรรม ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ เล่นตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา เล่นเกมจบั คูภ่ าพ 1 เคลอ่ื นไหวร่างกาย เสยี งเกิดจากสน่ั สะเทือน - เป่าสนี ้า เลน่ ในมุมประสบการณ์ เล่นนา้ เลน่ ทราย จานวนเทา่ กนั 10-18 ประกอบอปุ กรณ์ ของสิง่ ต่าง ๆ - พบั กระดาษ ต่าง ๆ ภายในหอ้ งเรียน เลน่ เกมเรียงลาดบั ทีส่ ง่ิ ของ จานวนไม่เกนิ 8 เปน็ หน้าแมว เลน่ เกมพ้นื ฐานการบวก 2 เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย เสยี งท่เี กดิ จากแหล่งท่ีมา - ปั้นดินน้ามัน เล่นในมมุ ประสบการณ์ เลน่ เกมเดินต่อเทา้ จานวน 10-18 แบบผูน้ า ผตู้ าม ของเสยี งแตกต่างกนั เปน็ รูปสามเหลยี่ ม ตา่ ง ๆ ภายในห้องเรียน ถอยหลังเปน็ เสน้ ตรง จะไมเ่ หมือนกนั สี่เหลยี่ ม วงกลม และกระโดดเชือกเด่ยี ว นามาเสยี บไมล้ ูกช้นิ - วาดภาพอิสระ จากสีเทยี น 3 เคลื่อนไหวรา่ งกาย 1. การมสี มาธใิ นการฟงั เสยี ง สร้างภาพจากรูป เลน่ ในมุมประสบการณ์ เล่นเคร่อื งเล่นสนาม ตามคาส่งั 2. การจาแนกทศิ ทาง สามเหลี่ยมแลว้ วาด ต่าง ๆ ภายในห้องเรยี น ของเสียงทีเ่ กดิ จาก ตอ่ เติมด้วยสีเทียน เคร่ืองดนตรี และ จากเครื่องมือต่าง ๆ 4 เคลือ่ นไหวร่างกาย การสารวจเสยี งจากวตั ถุ - ประดษิ ฐ์ เลน่ ในมุมประสบการณ์ เลน่ การเลน่ วิ่งเปร้ียว เล่นเกมโดมโิ นสถานที่ ตามจินตนาการ ตา่ ง ๆ (เชน่ กระดาษ แกว้ \"ไกก่ ระต๊อก\" ตา่ ง ๆ ภายในห้องเรียน ห้ามใช้เสยี ง ไม้ โลหะ) จากถว้ ยกระดาษ - รอ้ ยลูกปดั
วนั ท่ี เคล่ือนไหวและจงั หวะ เสรมิ ประสบการณ์ กจิ กรรม ศิลปะสรา้ งสรรค์ เลน่ ตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา 5 เคล่ือนไหวรา่ งกาย 1. การดูแลรักษาหู - วาดภาพอิสระ เลน่ ในมุมประสบการณ์ เลน่ เครื่องเลน่ สนาม เล่นเกมสังเกต รายละเอียด ตามข้อตกลง 2. การปอ้ งกันอนั ตรายจาก จากสนี ้า ตา่ ง ๆ ภายในหอ้ งเรียน ของภาพ (เคร่ืองดนตรี) เสียงดงั - ประดิษฐก์ บ 3. มารยาทในการใชเ้ สยี ง จากจานกระดาษ
แผนการจัดประสบการณช ้ันอนบุ าล ๓ หนว ยท่ี ๓๓ เสียงรอบตวั สัปดาหที่ ๓๓ ครง้ั ที่ ๑ วนั ท่ี................เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพื้นฐาน ให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายไปทวั่ บรเิ วณ 1. เครื่องเคาะ สงั เกต กิจกรรมเคลื่อนไหว ฝึกอยา่ งอสิ ระตามจังหวะท่ีครูเคาะ เม่ือได้ยินสญั ญาณ “หยุด” จังหวะ การเคลือ่ นไหว ท่าทาง และจังหวะ (2) การแสดง ความคิด ใหห้ ยุดเคลอ่ื นไหว ในท่านน้ั ๆ ทนั ที 2. เครอื่ งดนตรี อย่างหลากหลายและ เคล่อื นไหว ท่าทาง สร้างสรรค์ผา่ นท่าทาง 2. เด็กเลือกหยิบเคร่ืองดนตรีหรือสิง่ ของตา่ ง ๆ คนละ 1 3. สิ่งของใน แปลกใหม่ อย่างหลากหลาย การเคล่อื นไหว อยา่ งท่ีเด็กคดิ ว่าสามารถทาใหเ้ กิดเสียงได้ใช้เป็นอุปกรณ์ หอ้ งเรียน และแปลกใหม่ได้ (8) การนับและ ประกอบการเคลือ่ นไหว ใหเ้ ด็กคิดวธิ ที ่จี ะนาเคร่อื งดนตรหี รือ แสดงจานวน ส่งิ ของเคล่ือนไหวไปดว้ ยโดยไมใ่ ช้มอื จับ ขณะเคลอ่ื นไหว ตามจังหวะที่ครเู คาะ 3. ครูเคาะจงั หวะช้า-เรว็ เดก็ เคลอ่ื นไหวพร้อมอุปกรณ์เม่ือได้ ยินสัญญาณ \"หยดุ \" เด็กหยดุ เคล่ือนไหวปฏิบตั ติ ามครพู ูด เชน่ จบั กลุ่มจานวน 3 - 5 คน พร้อมนบั จานวนครบ ตามทค่ี รูพูดหรอื ไม่ แล้วใชเ้ ครอ่ื งดนตรหี รือส่ิงของทีถ่ ืออยู่ ทาให้เกิดเสยี งทั้งดงั เบา สลับกนั 4. เด็กปฏบิ ตั ิตามข้อ 3 ซา้ โดยครเู ปลีย่ นคาส่งั จานวนท่ีจบั กลมุ่ 5. เดก็ ผ่อนคลายดว้ ยการหายใจเข้า ออกช้า ๆ
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. เดก็ นั่งเป็นวงกลมตบมือสลับตบตักพร้อมกับนบั 1-20 1. เสียงตา่ ง ๆ สงั เกต กิจกรรมเสรมิ ใหเ้ ดก็ หลับตาหายใจเขา้ ออกชา้ ๆ แล้วใหฟ้ ังเสยี งต่าง ๆ รวบตัว 1. การฟงั และพูด ประสบการณ์ (1) การฟังเสียงตา่ ง ๆ เสยี งเกดิ จาก รอบตัวใชเ้ วลาพอประมาณ พอลืมตาครูแจกกระดาษ เอ 4 2. กระดาษ เอ 4 เช่ือมโยงตอ่ เน่ืองกับ 1. ฟงั และพดู คนละ 1 แผ่น สีเทียนคนละ 1 แทง่ ใหบ้ ันทึกขอ้ มูลด้วยการ 3. สีเทียน เรื่องที่ฟัง เชอื่ มโยงตอ่ เน่ืองกับ ในสง่ิ แวดล้อม การสั่นของสงิ่ ต่าง ๆ วาดภาพจากสีเทยี น ต้นกาเนิดเสียงท่เี ด็กได้ยิน มาจากส่งิ ใด 2. การค้นหาคาตอบ เร่อื งที่ฟงั ได้ แล้วผลัดกนั ยกภาพแสดงให้เพ่ือนดู เพ่อื เปรยี บเทยี บว่าการฟัง ส่ิงทส่ี งสัย โดยวธิ ีการ 2. คน้ หาคาตอบสง่ิ (2) ฟังและปฏิบตั ิตาม และรับรู้ข้อมูลเหมือนกนั หรือตา่ งกัน ทห่ี ลากหลายด้วยตนเอง ที่สงสยั 2. ครูใชค้ าถามกระตุ้นใหเ้ ด็กเกดิ ความสงสัยและเพื่อสืบค้นหา 3. การอธบิ ายเชื่อมโยง โดยวธิ ีการ คาแนะนา คาตอบด้วยตนเอง ดงั นี้ สาเหตุและผลทเี่ กิดขึ้น ท่ีหลากหลาย ในเหตกุ ารณ์หรือ ดว้ ยตนเองได้ (6) การพูดอธิบาย - เดก็ ๆ คิดว่าเสียงเกดิ ได้อย่างไร การกระทาด้วยตนเอง 3. อธบิ ายเชือ่ มโยง 3. ใหเ้ ดก็ สบื คน้ หาคาตอบเก่ียวกบั เสยี งเกิดได้อยา่ งไร ดังนี้ สาเหตแุ ละผล เกยี่ วกบั ความสัมพนั ธ์ ท่เี กดิ ข้ึนใน 3.1 เดก็ จับคนู่ ง่ั หันหนา้ เข้าหากนั ตา่ งคนต่างพดู แบบไม่มี เหตุการณห์ รือ ของสิ่งตา่ ง ๆ เสยี งและแบบมเี สียง โดยขณะพดู ใช้นิ้วมอื แตะบริเวณลาคอ การกระทา ส่วนหนา้ ของตนเองและแตะคอเพ่ือน ด้วยตนเองได้ (9) การพูดเรยี งลาดบั 3.2 เดก็ ทดลองทาเสยี งคารามเหมือนหมี เหมือนเสอื และ คาเพ่ือใชใ้ นการสอื่ สาร ทาเสียงสัตว์ตัวใหญ่ ๆ (เปน็ เสียงต่า) และทาเสียงเหมือนยุงบิน ทาเสียงสัตวต์ ัวเล็ก ๆ (เป็นเสยี งสูง) (3) การสืบเสาะ 3.3 เด็กฮมั เพลงเสียงใหญ่ และเสียงแหลม ๆ หาความรู้เพื่อค้นหา 3.4 ท้ังขอ้ 3.1, 3.2, 3.3 ในขณะทากิจกรรมใหใ้ ชน้ ิ้วมือ แตะบรเิ วณลาคอ อกี มือแตะบรเิ วณทรวงอก คาตอบของข้อสงสัย 4. เดก็ บอกความรูส้ กึ วา่ เหมือนกันหรือตา่ งกนั อย่างไร ระหว่างแตะท่ลี าคอและแตะท่ีทรวงอกในขณะท่ีทดลอง ตา่ ง ๆ (16) การอธิบาย เชือ่ มโยงสาเหตุและ ผลทเี่ กดิ ขนึ้ ในเหตกุ ารณ์หรือ การกระทา
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ ตามข้อ 3.1, 3.2, 3.3 1. สีน้า, พู่กัน สงั เกต กจิ กรรมศลิ ปะ (1) การรับรู้และแสดง 5. เด็กและครูสรุปร่วมกนั เกย่ี วกบั เสียงเกิดจากการสั่นของส่งิ 2. ภาชนะใสส่ นี ้า 1. การสร้างผลงาน สร้างสรรค์ ความคิด ความรู้สึก ต่าง ๆ 3. หลอดดูดนา้ ศลิ ปะมีความแปลกใหม่ 1. สรา้ งผลงาน ผา่ นชน้ิ งาน 1. ครแู นะนากจิ กรรม 2 กิจกรรม วันน้ี 4. กระดาษ และมีรายละเอยี ดเพิ่มขึ้น ศลิ ปะมีความแปลก (2) การแสดงความคิด โปสเตอร์สตี ัดเป็น 2. การทางานทีไ่ ดร้ บั ใหมแ่ ละมี สร้างสรรค์ผ่านภาษา - เปา่ สนี ้า ส่ีเหลีย่ มจัตุรสั มอบหมายจนสาเรจ็ รายละเอยี ดเพ่มิ ขึ้น และศลิ ปะ - พับกระดาษเปน็ หนา้ แมว เท่าจานวนเดก็ ด้วยตนเอง ได้ (5)กระทางานศลิ ปะ 2. ครูพูดข้อตกลงกับเดก็ ก่อนทากจิ กรรมเปา่ สีนา้ ให้เด็ก 5. กระดาษ เอ 4 2. ทางานท่ไี ด้รับ (19) การเหน็ จับกลมุ่ ตามความเหมาะสม เพื่อใช้วสั ดุอปุ กรณร์ ่วมกัน เม่ือทา 6. สเี ทยี น มอบหมายจนสาเรจ็ แบบอย่างของ กิจกรรมเป่าสนี า้ เสรจ็ ให้เด็กเขียนช่อื ลงในกระดาษผลงาน ดว้ ยตนเองได้ การเขียนที่ถูกต้อง ด้านลา่ ง โดยดูแบบจากป้ายช่ือในห้องเรียน นาผลงานมาเล่า ใหค้ รูฟัง ครูเขียนประโยคทเี่ ด็กเลา่ ใต้ภาพผลงานให้เด็กเห็น วิธีการเขียนคาท่ีถกู ต้อง 3. ครสู าธิตการพับหน้าแมวใหเ้ ดก็ ดแู ละอธิบายขนั้ ตอน ทากจิ กรรม ขัน้ ท่ี 1 เมอื่ เดก็ พับกระดาษเป็นหนา้ แมวเสรจ็ ให้ใช้สีเทียน วาดตกแต่งหนา้ แมว ขนั้ ที่ 2 ทากาวด้านหลังหนา้ แมว นาไปตดิ ใหก้ ระดาษ เอ 4 ขน้ั ท่ี 3 ใชส้ เี ทยี นวาดตอ่ เตมิ เป็นตัวแมวและสภาพ แวดล้อมทแี่ มวอยู่ตามความคิดสรา้ งสรรค์ของเดก็ เขียนช่อื ตนเองใตภ้ าพผลงาน
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ 1. ครนู าวตั ถตุ า่ ง ๆ ท่ใี ช้ทดลองเก่ียวกับเสยี ง เช่น โลหะ 1. วัตถุต่าง ๆ ที่จะ สังเกต ไม้ แก้ว ไวท้ ่ีมุมวทิ ยาศาสตร์ เครอ่ื งดนตรีชนดิ ตา่ ง ๆ ทดลองเรื่องเสยี ง 1. การชว่ ยเหลอื กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (1) การเล่นอสิ ระ ไวท้ ่ีมมุ ดนตรี 2. ของเล่นในมมุ และแบ่งปนั ผู้อืน่ 2. ครแู ละเด็กทาขอ้ ตกลงกอ่ นไปเล่นในมมุ ประสบการณ์ ประสบการณ์ เม่อื มผี ้ชู ี้แนะ 1. ช่วยเหลือ และ (2) การเล่นรายบุคคล ต่าง ๆ ภายในหอ้ งเรยี น เพอ่ื ใหเ้ กิดความเรยี บร้อยรู้จัก ภายในหอ้ งเรียน 2. การเกบ็ ของเล่น รับผิดชอบของทเ่ี ลกิ เลน่ แลว้ และเกดิ ความปลอดภัยขณะเล่น หรือของใชเ้ ขา้ ท่ี แบ่งปนั ผ้อู ่ืน กล่มุ ย่อย กลุ่มใหญ่ 3. เด็กเลอื กเลน่ ในมุมประสบการณ์ตามความสนใจ อยา่ งเรียบร้อย 4. เด็กเกบ็ ของเล่นเขา้ ทเ่ี มื่อเลกิ เล่น ดว้ ยตนเอง เมื่อมีผชู้ ้ีแนะได้ (3) การเลน่ ตามมมุ 2. เก็บของเลน่ หรือ ประสบการณ์ ของใชเ้ ข้าท่ีอยา่ ง (7) การพูดอยา่ ง เรยี บรอ้ ยดว้ ยตนเอง สรา้ งสรรคใ์ นการเล่น ได้ และการกระทาต่าง ๆ กจิ กรรมกลางแจ้ง (1) การเล่นอสิ ระ 1. เด็กและครูพดู ข้อตกลงก่อนไปเลน่ นา้ เลน่ ทราย เพื่อให้เกดิ 1. บริเวณเลน่ น้า สงั เกต 1. ชว่ ยเหลอื และ (2) การเลน่ รายบคุ คล 1. การชว่ ยเหลอื และ แบ่งปนั ผอู้ ่นื ด้วย กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ ความปลอดภัย เลน่ ทราย แบ่งปนั ผ้อู ่นื ดว้ ยตนเอง ตนเองได้ (4) การเลน่ 2. การเล่นหรือทางาน 2. เล่นหรือทางาน นอกห้องเรียน - รูจ้ ักชว่ ยเหลือแบง่ ปันกัน 2. อุปกรณส์ าหรับ ร่วมกับเพื่อนอย่างมี ร่วมกบั เพ่ือนอย่างมี (2) การเลน่ รว่ มกับ - ถา้ อยากใช้อุปกรณ์เลน่ น้า เล่นทรายท่เี พื่อนใชอ้ ยู่ เลน่ น้า เล่นทราย เปา้ หมาย เปา้ หมายได้ ผูอ้ นื่ ให้ขอยืมเพื่อนก่อน หรอื รอคอยจนเพื่อนใชเ้ สร็จ - ไมส่ าดทรายและน้าใส่เพ่ือน 2. เดก็ เลอื กเล่นตามความสนใจ 3. ครใู ห้สญั ญาณนกหวดี ก่อนหมดเวลาเลก็ นอ้ ย ให้เด็กทา ความสะอาดอปุ กรณ์ 4. เดก็ เดินเปน็ แถวกลบั ห้องเรยี น
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ สงั เกต เกมการศึกษา (13) การจบั คภู่ าพ การเลน่ เกมจับคู่ 1. ครูใหเ้ ดก็ ดูเกมจับคู่ภาพกับจานวน 10 - 18 พรอ้ มแนะนา 1. เกมจับค่ภู าพกับ 1. การจบั คหู่ รือ เปรยี บเทยี บส่งิ ต่าง ๆ 1. จบั คหู่ รือ กับจานวน 10 - 18 ภาพกับจานวน วธิ เี ล่นเกม จานวน 10 - 18 2. การเก็บของเลน่ หรือของใชเ้ ข้าท่ี เปรยี บเทยี บสิ่งตา่ งๆ (2) การปฏบิ ตั ิตน 10 - 18 ตามลาพงั 2. ครแู บ่งเด็กเปน็ กลุ่ม กลมุ่ แรกเล่นเกมที่แนะนาใหม่วนั น้ี 2. เกมท่เี คยเลน่ อย่างเรยี บร้อย ได้ เป็นสมาชิกทดี่ ี หรอื เล่นรว่ มกบั ผอู้ น่ื กลุม่ ทเ่ี หลือเลน่ เกมที่เคยเล่น ด้วยตนเอง 2. เก็บของเล่นหรือ ของห้องเรียน ของใชเ้ ข้าท่ีอยา่ ง (4) การดแู ลห้องเรยี น 3. เดก็ หมุนเวยี นเล่นเกมทแ่ี นะนาใหมว่ ันนจี้ นครบทกุ กลมุ่ เรยี บร้อยด้วยตนเอง รว่ มกนั 4. เด็กเก็บเกมเขา้ ท่ีอยา่ งเรียบรอ้ ยเมื่อเลิกเล่น ได้
แผนการจัดประสบการณช้ันอนบุ าล ๓ หนวยท่ี ๓๓ เสยี งรอบตัว สัปดาหที่ ๓๓ คร้ังที่ ๒ วนั ที.่ ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ 1. กิจกรรมพ้ืนฐาน ให้เด็กเคลือ่ นไหวรา่ งกายไปทว่ั 1. เครอื่ งเคาะจังหวะ สงั เกต การเคลอ่ื นไหวและ (2) การแสดงความคดิ จงั หวะ สรา้ งสรรคผ์ า่ นท่าทาง บริเวณฝกึ อย่างอิสระตามจังหวะท่ีครูเคาะ เม่ือไดย้ นิ 2. กระดาษ เอ 4 การเคลอื่ นไหว ท่าทาง เคล่อื นไหว ทา่ ทาง การเคล่อื นไหว อยา่ งหลากหลาย สัญญาณ \"หยดุ ” ให้หยดุ เคล่ือนไหวในทา่ นั้นทนั ที เทา่ จานวนเดก็ อยา่ งหลากหลาย และแปลกใหม่ได้ 2. เด็กจบั กลุม่ ตามความเหมาะสม เข้าแถวตอนลึก และแปลกใหม่ คนหวั แถวรับกระดาษ เอ 4 เทา่ จานวนคนในกลุ่ม แจกให้เพอื่ นคนละ 1 แผน่ 3. ครเู คาะจงั หวะช้า เร็ว เดก็ คนหวั แถวของทุกแถวเป็น ผนู้ าในการเคล่ือนไหวพร้อมกระดาษที่ถืออยู่ โดยให้เกิด เสียง เมือ่ ไดย้ ินสญั ญาณ \"หยุด\" ใหห้ ยดุ เคล่ือนไหวใน ท่าน้ันทันที เมื่อไดย้ ินสัญญาณ \"รวั \" จากครใู หค้ น หวั แถววิง่ ไปต่อท้ายแถว คนถัดมาเปน็ ผนู้ าแทน 4. ปฏิบัตติ ามข้อ 3 ซา้ จนเป็นผู้นาครบทกุ คน 5. เด็กผอ่ นคลายดว้ ยการหายใจเข้า - ออกช้า ๆ กิจกรรมศิลปะ (2) การเขียนภาพและ 1. ครจู ดั กิจกรรม 2 กิจกรรม 1. ดินน้ามนั สงั เกต สรา้ งสรรค์ การเลน่ กบั สี - ปั้นดินน้ามัน เปน็ รปู ทรงสามเหลยี่ ม ส่เี หลี่ยม 2. สีเทียน การทางานที่ไดร้ ับ ทางานท่ีได้รับ (3) การปั้น 3. กระดาษ เอ4 มอบหมายจนสาเร็จ มอบหมายจนสาเรจ็ (5) การหยิบ จับ วงกลม แลว้ นาไปเสียบไม้ลกู ช้ินปลายมนจัดลาดับของ ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเองได้ การใชก้ รรไกร การตดั รปู ทรงตามใจชอบ เม่ือเสรจ็ นาไม้ไปปักไว้ท่กี ้อน การรอ้ ยวัสดุ ดินน้ามนั นาบัตรชอ่ื ไปดแู ล้วเขียนตามแบบในแถบ (5) การทางานศิลปะ กระดาษติดไวส้ ่วนบนของไม้นาไปไว้ที่มุมแสดงผลงาน - วาดภาพอิสระจากสเี ทยี น
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ 2. เด็กทากจิ กรรมตามความสนใจ ทั้ง 2 กิจกรรม 3. เดก็ ผลดั กันนาเสนอผลงานใหเ้ พ่ือนฟัง (21) การเขียนคาทีม่ ี 4. เด็กเก็บวัสดอุ ุปกรณเ์ ข้าท่ี และทาความสะอาด ความหมายกับตัวเด็ก/ คาคุ้นเคย กิจกรรมเลน่ ตามมุม (1) การเล่นอิสระ 1. ครูนาวตั ถตุ ่าง ๆ ทใ่ี ช้ทดลองเกี่ยวกับเสยี ง เชน่ 1. วัตถตุ า่ ง ๆ ทจ่ี ะ สังเกต โลหะ ไม้ แก้ว ไวท้ ่ีมมุ วิทยาศาสตร์ เครื่องดนตรี ทดลองเรื่องเสยี ง 1. การช่วยเหลือ 1. ช่วยเหลือ (2) การเล่นรายบคุ คล ชนดิ ต่าง ๆ ไวท้ ่มี ุมดนตรี 2. ของเลน่ ในมมุ และแบง่ ปันผู้อนื่ 2. ครแู ละเด็กทาขอ้ ตกลงก่อนไปเล่นในมุม ประสบการณ์ เมอื่ มผี ูช้ ีแ้ นะ และแบง่ ปันผู้อน่ื กล่มุ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ ประสบการณ์ตา่ ง ๆ ภายในห้องเรียน 2. การเก็บของเล่น 3. เด็กเลอื กเลน่ ในมุมประสบการณ์ตามความสนใจ หรือของใช้เข้าที่ เมื่อมผี ู้ชี้แนะได้ (3) การเลน่ ตามมมุ 4. เด็กเกบ็ ของเลน่ เข้าที่เม่ือเลกิ เลน่ อย่างเรยี บร้อย ดว้ ยตนเอง 2. เก็บของเล่นหรอื ประสบการณ์ ของใช้เขา้ ท่ีอย่าง เรียบรอ้ ยดว้ ยตนเอง ได้ กจิ กรรมกลางแจ้ง (2) การเคล่ือนไหว 1. ครูพดู ข้อตกลงกับเดก็ กอ่ นไปเล่นเกม \"เดนิ ต่อเท้า 1. เกมเดนิ ตอ่ เท้า สังเกต เดินตอ่ เท้าถอยหลัง เคลอ่ื นที่ ถอยหลังเป็นเสน้ ตรงและกระโดดเชอื กเด่ยี ว\" เพ่ือให้ เปน็ เส้นตรง (3) การเคลื่อนไหว เกิดความปลอดภยั ตอ่ ตัวเองและเพื่อน ๆ และให้มี ถอยหลงั เปน็ เสน้ ตรง การเดนิ ต่อเท้า โดยไม่ตอ้ งกางแขน พร้อมอุปกรณ์ ระเบียบวินัย ได้ (4) การเคล่ือนไหว 2. เดก็ เดนิ เป็นแถวไปที่สนามเดก็ เลน่ และกระโดด ถอยหลงั เป็นเส้นตรง ทใี่ ช้การประสาน 3. เดก็ เข้าแถวตอนลกึ จานวนตามความเหมาะสม สัมพนั ธ์ของ 4. เด็กเตรยี มความพรอ้ มร่างกายด้วยการเตะเทา้ เชือกเดยี่ ว โดยไม่ตอ้ งกางแขน กลา้ มเน้อื ใหญ่ ขนึ้ ใหส้ ูงข้างละ 20 คร้ัง กม้ แตะปลายเท้า 20 ครง้ั ในการจับเชือกกระโดด 5. ครูอธบิ ายพรอ้ มสาธิตวิธีเลน่ เกม \"เดนิ ต่อเท้า 2. นกหวีด 3. เชือก 5 เสน้ 4. เก้าอี้ 5 ตวั
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ ถอยหลงั เป็นเส้นตรงและไปกระโดดเชอื กเดี่ยว\" เกมการศึกษา 6. เด็กเล่นเกม \"เดินตอ่ เทา้ ถอยหลงั และ 1. เรยี งลาดบั ไปกระโดดเชือกเดี่ยว\" สงิ่ ตา่ ง ๆ ตามท่ี 7. เดก็ ผอ่ นคลายด้วยการหายใจเข้า-ออก ช้า ๆ กาหนดได้ 2. เกบ็ ของเล่น (13) การเรียงลาดบั เกมเรียงลาดบั ส่ิงต่าง ๆ 1. ครใู หเ้ ด็กดเู กมเรียงลาดบั ท่ีสง่ิ ตา่ ง ๆ จานวนไมเ่ กนิ 1. เกมเรยี งลาดบั ท่ี สังเกต ของใชเ้ ข้าที่ สิ่งต่าง ๆ จานวนไมเ่ กิน 8 8 พร้อมแนะนาวิธเี ล่นเกม สิ่งตา่ ง ๆ จานวนไม่ 1. การเรยี งลาดับ อย่างเรยี บร้อย (2) การปฏิบตั ติ น ตามลาพังหรือ 2. ครแู บง่ เดก็ เปน็ กลุ่ม กล่มุ แรกเล่นเกมที่แนะนา เกนิ 8 ส่ิงต่าง ๆ ตามที่กาหนด ด้วยตนเองได้ เป็นสมาชกิ ทดี่ ี เลน่ ร่วมกับผู้อน่ื ใหมว่ นั นี้ กลุ่มท่เี หลอื เลน่ เกมทเ่ี คยเลน่ 2. เกมทเี่ คยเล่น 2. การเกบ็ ของเล่น ของห้องเรยี น 3. เด็กหมุนเวยี นเล่นเกมทแ่ี นะนาใหมว่ ันน้จี นครบ หรอื ของใชเ้ ขา้ ท่ี (4) การดูแลห้องเรยี น ทกุ กลุ่ม อยา่ งเรียบร้อย รว่ มกัน 4. เด็กเก็บเกมเข้าท่ีอย่างเรยี บร้อยเม่ือเลิกเลน่ ดว้ ยตนเอง
แผนการจัดประสบการณช ้ันอนุบาล ๓ หนวยที่ ๓๓ เสียงรอบตวั สปั ดาหท่ี ๓๓ ครั้งที่ ๓ วันที.่ ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ 1. กจิ กรรมพื้นฐาน เดก็ เคลือ่ นไหวร่างกาย 1. เคร่อื งเคาะจังหวะ สงั เกต กิจกรรมเคล่ือนไหว การเคลอื่ นไหวท่าทาง และจังหวะ (2) การแสดงความคดิ ทัว่ บรเิ วณอย่างอสิ ระตามจังหวะท่ีครเู คาะ 2. บตั รรปู สัตว์ อย่างหลากหลายและ เคลอ่ื นไหวทา่ ทาง สรา้ งสรรคผ์ ่านท่าทาง แปลกใหม่ อย่างหลากหลาย การเคลื่อนไหว เม่อื ได้ยนิ สญั ญาณ “หยดุ ” ให้หยุดเคล่อื นไหว และแปลกใหม่ได้ (8) การนับและ แสดงจานวน ในทา่ นน้ั ๆ ทนั ที (11) การบอกและ แสดงอนั ดับท่ี 2. ให้เด็กน่งั เป็นวงกลมใหเ้ คล่ือนไหวออกมาหยิบ ของรปู สัตว์ บัตรรูปสัตวท์ ่อี ยกู่ ลางวง คนละ 1 รปู ดว้ ยท่าทาง ทไ่ี มซ่ ้ากนั โดยออกมาคร้งั ละ 3 - 5 คน 3. ให้เดก็ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายพร้อมบัตรรปู ตามจังหวะท่ีครูเคาะเม่ือได้ยินสัญญาณ \"หยุด\" ใหป้ ฏบิ ัติตามคาส่งั เชน่ จับกล่มุ สตั ว์ท่ีมีจานวน ขาเทา่ กัน แลว้ นบั จานวน จบั กล่มุ จานวน 2 - 8 คน โดยสงั่ คร้ังละ 1 อยา่ ง 4. ใหเ้ ดก็ ถือรูปสตั วอ์ อกมายืนหน้าช้ัน คร้ังละ 8 คน ให้เด็กที่เหลอื ช่วยกนั บอกลาดบั รูปสัตวท์ ่ีเพอื่ นถือ 5. เด็กผ่อนคลายดว้ ยการหายใจเขา้ - ออก ช้า ๆ
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ กจิ กรรมเสริม ประสบการณ์ (1) การฟังเสยี งต่าง ๆ - การมสี มาธิในการ 1. เด็กนงั่ เป็นวงกลมหาอาสาสมัคร 2 คน 1. เครอ่ื งดนตรี เช่น สังเกต 1. ฟงั และพูด ใหอ้ ยนู่ อกหอ้ งเรยี นบรเิ วณประตแู รก 1 คน กรบั แทมบูลีน ฉ่งิ ขลุ่ย 1. การฟังและพูดเชอื่ มโยง เชือ่ มโยงกับเร่ือง (2) การฟังและปฏิบตั ิ ฟงั เสยี ง ทาเสียงจากเครือ่ งดนตรี เชน่ กรบั แทมบลู ีน ฉ่ิง กลอง ฯลฯ กับเรือ่ งท่ฟี ัง ท่ีฟังได้ คนที่ 2 อย่บู รเิ วณประตหู ลังของห้องเรยี น 2. เครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ เชน่ 2. การคน้ หาคาตอบ 2. ค้นหาคาตอบ ตามคาแนะนา - การจาแนกทิศทาง ทาเสียงจากเครื่องมือ เชน่ น็อต ไม้บรรทัดเหล็ก นอ๊ ต ไม้บรรทัดเหลก็ สิ่งที่สงสยั โดยวิธี สง่ิ ท่สี งสยั โดยวิธี ค้อนเลก็ โดยทาทีละอย่างและทาทีละคน ขณะท่ี คอ้ นเลก็ แทง่ เหล็ก ไม้ ทหี่ ลากหลายดว้ ยตนเอง ที่หลากหลายด้วย (6) การพูดอธิบาย ของเสียงทีเ่ กิดจาก เดก็ ทาเสียงครเู ปดิ เครื่องเลน่ เสียงเพลงตา่ ง ๆ 3. เคร่ืองเล่นดี วี ดี 3. การอธิบายเชื่อมโยง ตนเองได้ ไว้นอกห้องเพื่อรบกวนสมาธเิ ดก็ และแผ่นดี วี ดี สาเหตุและผลทเ่ี กดิ ข้นึ 3. อธิบายเชือ่ มโยง เกยี่ วกับความสมั พันธ์ เครอ่ื งดนตรีและ 2. ครูถามเด็กว่าเด็ก ๆ ไดย้ ินเสียงจากส่งิ ใดบา้ ง เพลงตา่ ง ๆ ในเหตกุ ารณห์ รือ สาเหตุและผลที่ และจากบรเิ วณใดของห้องเรียน การกระทาด้วยตนเอง เกดิ ขึน้ ในเหตุการณ์ ของส่งิ ตา่ ง ๆ จากเคร่ืองมือตา่ ง ๆ 3. ใหเ้ ดก็ สืบคน้ เกย่ี วกับสมาธิในการฟังเสียง หรอื การกระทาด้วย เปน็ ส่ิงสาคญั ท่ีทาใหเ้ ราได้ยนิ เสียงสง่ิ ต่าง ๆ ตนเองได้ (9) การพูดเรยี ง และรทู้ ิศทางของเสยี งทไี่ ด้ยิน ดงั นี้ ลาดับคา เพ่ือใช้ 3.1 ครูแบง่ เดก็ เป็นกลุ่ม ๆ แรกใหท้ าเสียง จากเคร่ืองดนตรี กล่มุ อื่น ๆ ปิดตาทาสมาธใิ นการ ในการส่ือสาร ฟังเสียงและให้บอกว่าเสียงเกิดจากเครื่องดนตรี ชนิดใดและมาจากบรเิ วณใด (3) การสบื เสาะ 3.2 เปล่ยี นเด็กกลุ่มใหม่ทาเสียงจาก หาความรู้ เพื่อค้นหา เคร่อื งมอื ตา่ ง ๆ เดก็ กลมุ่ อ่นื หลบั ตาทาสมาธิ ฟงั เสยี งและให้บอกวา่ เสียงท่ีได้ยนิ เกิดจาก คาตอบของข้อสงสัย เคร่อื งมือชนดิ ใด และเสยี งมาจากบรเิ วณใด ต่าง ๆ 3.3 หมนุ เวียนกิจกรรมจนครบทุกกลุ่ม (16) อธิบายเชอื่ มโยง สาเหตแุ ละผลท่ี เกิดขนึ้ ในเหตุการณ์ หรือการกระทา
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ 4. ครูใช้คาถามเพอื่ ใหเ้ ดก็ อธบิ ายเช่ือมโยง ถงึ สาเหตแุ ละผลจากการท่ีทาให้เราได้ยินเสยี งชดั และไมช่ ัด และรบั รทู้ ิศทางท่เี กิดเสยี งว่ามาจาก ทิศไหน - เด็ก ๆ ไดย้ ินเสยี งจากสิง่ ใด และเสยี งเกิดจาก ทิศทางใด - เพราะเหตุใดเด็ก ๆ จึงได้ยนิ เสยี งตา่ ง ๆ ได้ชดั เจนหรอื ไม่ชัดเจน 5. เดก็ และครูร่วมกันสรุปถึงการมสี มาธิในการ ฟังเสยี ง ทาให้ฟงั เสยี งได้ชัดเจนและรับรู้ทศิ ทาง ของเสยี งได้ดี กิจกรรมศลิ ปะ (2) การเขยี นภาพและ 1. ครแู นะนากิจกรรมและวสั ดุอปุ กรณ์ วนั นี้ 1. กระดาษสีโปสเตอร์ สังเกต สรา้ งสรรค์ การเลน่ กับสี 2. ครอู ธิบายข้นั ตอนกจิ กรรม สรา้ งภาพจากรูป ขนาด 3 x 3 น้ิว 1. การเขียนรปู 1. เขียนรูป (3) การหยิบจบั สามเหลี่ยมแลว้ วาดต่อเติมด้วยสีเทยี น 2. สเี ทยี น สามเหลยี่ มตามแบบอยา่ ง สามเหลยี่ ม การใช้กรรไกร การตัด ขน้ั ที่ 1 เดก็ แบ่งกลุ่ม (จานวนตามความ 3. กรรไกรปลายมน มีมมุ ชดั เจน ตามแบบอยา่ ง การปะ เหมาะสม) สง่ ตัวแทนมารับวัสดอุ ปุ กรณจ์ ากครู 4. กาว 2. การทางานทไ่ี ดร้ ับ มีมมุ ชดั เจนได้ (5) การทางานศิลปะ ขน้ั ท่ี 2 เด็กทกุ คนท่ีไดร้ บั กระดาษโปสเตอร์สี 5. กระดาษแผ่นใหญ่ มอบหมายจนสาเร็จด้วย 2. ทางานทไี่ ด้รับ (3) การทาศิลปะแบบ แผน่ เล็กคนละ 1 แผน่ วาดรูปสามเหลีย่ มด้วยสี สาหรับงานกลมุ่ ตนเอง มอบหมายจน รว่ มมือ เทียนคนละ 1 รูป แล้วใช้กรรไกรปลายมนตัดรปู สาเรจ็ ดว้ ยตนเองได้ สามเหลี่ยม
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 3 เด็กแต่ละคนเลอื กพื้นทวี่ างรปู สังเกต สามเหลี่ยมของตนเองในกระดาษแผ่นใหญ่ 1. การชว่ ยเหลือ ตามชอบ เม่ือพอใจแลว้ ทากาวดา้ นหลังติดปะ และแบง่ ปันผู้อนื่ ใชส้ นั มอื รดี ให้เรยี บ เมอื่ มีผู้ช้ีแนะ ขัน้ ที่ 4 ให้แตล่ ะกลุ่มช่วยกนั วางแผนต่อเตมิ ภาพ 2. การเกบ็ ของเล่นหรือ ของกลุ่ม ของใช้เข้าที่อย่างเรยี บร้อย ขั้นท่ี 5 เตรียมตวั เล่าผลงานกลุ่ม ด้วยตนเอง 3. เด็กเก็บวัสดุอปุ กรณเ์ ข้าท่ีและทาความสะอาด บรเิ วณ กจิ กรรมเล่นตามมุม (1) การเลน่ อสิ ระ 1. ครนู าวัตถตุ า่ ง ๆ ท่ีใช้ทดลองเก่ยี วกับเสยี ง เช่น 1. วัตถตุ า่ ง ๆ ทจ่ี ะ 1. ช่วยเหลอื และ (2) การเลน่ รายบุคคล โลหะ ไม้ แกว้ ไวท้ ี่มมุ วิทยาศาสตร์ เคร่ืองดนตรี ทดลองเร่ืองเสียง แบ่งปนั ผอู้ น่ื กลุม่ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ ชนิดตา่ ง ๆ ไว้ท่ีมุมดนตรี 2. ของเลน่ ในมมุ 2. ครูและเด็กทาข้อตกลงก่อนไปเล่นในมุม ประสบการณ์ เมื่อมีผชู้ ี้แนะได้ (3) การเล่นตามมุม ประสบการณ์ต่าง ๆ ภายในห้องเรียน เพื่อให้ ภายในห้องเรยี น 2. เกบ็ ของเลน่ หรอื ประสบการณ์ ของใชเ้ ขา้ ท่ีอยา่ ง เกิดความเรียบร้อยรจู้ กั รับผิดชอบของทเี่ ลกิ เลน่ เรยี บร้อยดว้ ยตนเอง แล้วและเกิดความปลอดภยั ขณะเลน่ ได้ 3. เดก็ เลอื กเล่นในมุมประสบการณ์ตามความ สนใจ 4. เด็กเก็บของเล่นเขา้ ท่เี ม่ือเลกิ เลน่
จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ 1. ครแู ละเด็กพดู ข้อตกลงกอ่ นไปเล่น 1. เครื่องเลน่ สนาม สังเกต กิจกรรมกลางแจง้ เคร่อื งเลน่ สนาม เพอื่ ให้เกิดความปลอดภยั และ 2. นกหวดี 1. การช่วยเหลือและ 1. ชว่ ยเหลือและ (1) การเลน่ อสิ ระ ร้จู กั แบง่ ปนั ช่วยเหลอื กัน แบ่งปนั ผู้อื่นด้วยตนเอง แบง่ ปนั ผ้อู ืน่ (2) การเลน่ รายบคุ คล 2. เด็กเลอื กเล่นเครื่องเล่นสนามตามความสนใจ 2. การเล่นหรือทางาน ดว้ ยตนเองได้ กลุ่มยอ่ ย 3. ครูใหส้ ัญญาณก่อนหมดเวลาเลก็ น้อย เพื่อให้ ร่วมกบั เพ่ือนอย่างมี 2. เล่นหรอื ทางาน (4) การเลน่ เดก็ ทาความสะอาดร่างกาย เปา้ หมาย รว่ มกบั เพื่อน นอกห้องเรียน 4. เด็กเดินเป็นแถวกลบั ห้องเรยี น อยา่ งมเี ป้าหมายได้ (2) การเลน่ และ สงั เกต ทางานร่วมกบั ผู้อืน่ 1. การนบั และแสดง จานวน 10 - 18 เกมการศึกษา (8) การนับและ การนบั และแสดง 1. ครใู หเ้ ดก็ ดเู กมพื้นฐานการบวก 10 - 18 1. เกมพ้ืนฐาน 2. การเกบ็ ของเลน่ หรือ 1. นับและแสดง แสดงจานวน จานวน 10 - 18 พร้อมแนะนาวิธีเลน่ เกม การบวก 10 - 18 ของใชเ้ ข้าที่อยา่ งเรยี บร้อย จานวน 10 - 18 (2) การปฏิบตั ติ น 2. ครูแบง่ เด็กเป็นกลุ่ม กลมุ่ แรกเล่นเกมใหม่วนั นี้ 2. เกมท่ีเคยเลน่ ได้ เปน็ สมาชกิ ที่ดี กลมุ่ ท่ีเหลอื เล่นเกมที่เคยเลน่ 2. เกบ็ ของเล่นหรอื ของห้องเรยี น 3. เด็กหมุนเวยี นเลน่ เกมทแี่ นะนาใหม่วันน้ี ของใช้เขา้ ท่ีอย่าง (4) การดูแลห้องเรียน จนครบทกุ กลมุ่ เรียบรอ้ ยได้ ร่วมกนั 4. เดก็ เก็บเกมเข้าท่ีอย่างเรยี บร้อยเม่ือเลกิ เล่น
แผนการจดั ประสบการณชัน้ อนบุ าล ๓ หนวยที่ ๓๓ เสียงรอบตัว สัปดาหท ่ี ๓๓ คร้ังที่ ๔ วนั ท่.ี ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรยี นรู้ เครอื่ งเคาะจังหวะ ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ 1. กิจกรรมพนื้ ฐาน เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกาย สังเกต กิจกรรมเคลอ่ื นไหว ท่ัวบรเิ วณฝึกอย่างอสิ ระตามจังหวะทคี่ รเู คาะ การเคลื่อนไหวท่าทาง และจังหวะ (2) การแสดง เมื่อไดย้ นิ สัญญาณ “หยุด” ให้หยุดเคลอื่ นไหว โดยมีความแปลกใหม่ เคล่อื นไหวท่าทาง ความคิดสร้างสรรค์ ในทา่ น้นั ๆ ทันที อย่างหลากหลาย ผ่านท่าทางการ 2. ใหเ้ ดก็ ทาทา่ ทางตามจินตนาการ โดยฟงั และแปลกใหมไ่ ด้ เคลอ่ื นไหว คาบรรยายจากครู เด็กเดินเข้าไปในสวนขา้ ม (8) การนบั สะพานแผ่นเดียว ต้องเดินต่อเทา้ ไปข้างหนา้ นบั ได้ 20 ก้าว พน้ สะพาน เด็ก ๆ ไดย้ ินเสียง อยากรวู้ า่ เปน็ เสยี งอะไรจงึ เงยี บและเอยี งหูฟงั อ๋อ ! เสยี งนกนนั่ เอง เดก็ ๆ เห็นผีเสอื้ อยากเปน็ ผเี ส้ือจึงบินตามผเี สอ้ื มาจนถึงเนนิ ดนิ เอะ๊ ! เสยี ง อะไรนะดังจัง อ๋อ ! เสียงลิงนั่นเอง เมื่อยจงั ลองเขย่งเท้าเดินดีกวา่ เอ๊ะ ! น่ันเสยี งอะไร ดงั ใกล้เขา้ มา อ๋อ ! เสียงแมวร้องขู่ เสียงสุนัขเห่า เราเดนิ มาไกลแล้วกลบั บ้านดีกว่า เดย๋ี วคุณพ่อ คณุ แม่เปน็ ห่วง เอ๊ะ ! เสียงอะไรบนทอ้ งฟ้า เงยหนา้ ดูดกี ว่า อ๋อ ! เสยี งเครื่องบิน และ เสียงฟา้ ร้อง สงสัยฝนจะตกว่งิ ดีกวา่ กลบั ถึงบ้านแล้วไชโย 3. เดก็ ชว่ ยกนั ทบทวนเสยี งท่ีไดย้ นิ 4. เด็กผ่อนคลายดว้ ยการหายใจเข้า-ออก ช้า ๆ
จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ สงั เกต กจิ กรรมเสรมิ 1. การฟงั และพูดเช่ือมโยง ประสบการณ์ (2) ฟงั และปฏิบัติ การสารวจเสยี งจากวตั ถุ 1. ครนู าส่งิ ของตา่ ง ๆ ประเภท กระดาษ แก้ว ไม้ 1. สงิ่ ของประเภท ต่อเนอ่ื งกับเรื่องท่ีฟัง 1. ฟังและพดู โลหะ ใสถ่ ุงทึบมาใหเ้ ดก็ เกิดความสงสยั และ กระดาษ แก้ว ไม้ โลหะ 2. การค้นหาคาตอบ เชอื่ มโยงต่อเนื่อง ตามคาแนะนา ต่าง ๆ (เช่น กระดาษ ให้เด็ก ๆ คาดเดาโดยทายว่าสิ่งของท่อี ยู่ในถุง 2. ถุงทบึ ส่ิงที่สงสัย โดยวิธกี าร กบั เรอื่ งท่ีฟงั ได้ คืออะไรบา้ ง ทห่ี ลากหลายดว้ ยตนเอง 2. คน้ หาคาตอบ (6) การพูดอธบิ าย แก้ว ไม้ โลหะ) 2. หาอาสาสมัครออกมาหยบิ ของออกจากถุง ส่ิงทีส่ งสัย คนละ 1 ช้นิ ทจี ะคนจนหมด โดยวิธีการ เก่ยี วกบั 3. ให้เดก็ คาดเดาวา่ ของท่คี รูนามา ถา้ ทาให้เกดิ ท่ีหลากหลาย เสียงนา่ จะเปน็ เสยี งอยา่ งไร โดยทดลองทาเสยี ง ด้วยตนเองได้ ความสัมพันธ์ ด้วย 4. ครแู บง่ เด็กเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อทดลองทาเสยี งจาก ของส่ิงตา่ ง ๆ วตั ถทุ ่ีครูนามา กลุ่มที่ 1 ทดลองเสยี งจากกระดาษ กล่มุ ที่ 2 ทดลองเสยี งจากแก้ว กลุ่มที่ 3 ทดลอง (9) การพูด เสยี งทเ่ี กดิ จากไม้ กลุ่มที่ 4 ทดลองเสยี งจากโลหะ 5. เดก็ ทกุ กลุ่มหมนุ เวยี นทดลองเสยี งจากวตั ถุ เรยี งลาดับคา จนครบทกุ ประเภท 6. เดก็ สรปุ ผลจากการทดลองทาเสยี งท่เี กดิ จาก เพอื่ ใช้ในการส่ือสาร วสั ดุตา่ ง ๆ วา่ มคี วามเหมือนหรือตา่ งกนั อยา่ งไร (3) การสืบเสาะหา ความรู้เพื่อค้นหา คาตอบของข้อสงสยั ตา่ ง ๆ กิจกรรมศลิ ปะ (5) การทางานศลิ ปะ 1. ครแู นะนากิจกรรม 2 กิจกรรม คอื ร้อยลูกปดั 1. ถ้วยกระดาษหรือถ้วย สังเกต สรา้ งสรรค์ (2) การแสดง กับประดิษฐ์ 1. ทางานทไี่ ด้รบั ความคดิ สรา้ งสรรค์ 2. ครูอธิบายขัน้ ตอนการประดิษฐ์ \"ไกก่ ระต๊อก\" พลาสตกิ 1. การทางานท่ไี ด้รับ มอบหมายจนสาเรจ็ ผ่านศลิ ปะ 3. เด็กเข้าปฏิบตั ิกิจกรรม เม่ือเสร็จกจิ กรรมแรก 2. กระดาษโปสเตอร์สี มอบหมายจนสาเร็จ 3. ไม้เสยี บลูกชนิ้ , กาว ด้วยตนเอง
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ไปทากิจกรรมท่ี 2 4. กรรไกรปลายมน 2. การสร้างผลงานศลิ ปะ ด้วยตนเองได้ โดยมีความแปลกใหมแ่ ละ 2. สร้างผลงาน (2) การใช้วสั ดแุ ละ 4. เด็กชว่ ยกนั เก็บวัสดอุ ุปกรณ์เขา้ ที่อย่างเรียบร้อย 5. สกอ๊ ตเทปใส มีรายละเอียดเพิ่มขึน้ ศลิ ปะ โดยมีความ ส่ิงของเคร่อื งใช้อยา่ ง 3. การนาวสั ดุหรือสิ่งของ แปลกใหม่และ คมุ้ คา่ หมายเหตุ ตาขาวและตาดา ครคู วรตดั ไว้ล่วงหนา้ 6. เชือก ทใ่ี ช้แล้วมาประดิษฐ์ มีรายละเอยี ด 7. ลกู ปดั เป็นของเล่น เพม่ิ ขึ้นได้ 3. นาวัสดหุ รือ สง่ิ ของท่ใี ช้แลว้ มาประดิษฐ์ เป็นของเลน่ ได้ กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (1) การเล่นอสิ ระ 1. ครนู าวัตถุต่าง ๆ ท่ีใช้ทดลองเก่ยี วกับเสียง เชน่ 1. วตั ถุต่าง ๆ ที่จะ สังเกต โลหะ ไม้ แกว้ ไวท้ ่ีมุมวิทยาศาสตร์ เคร่อื งดนตรี ทดลองเร่ืองเสียง 1. การชว่ ยเหลอื 1. ช่วยเหลอื และ (2) การเล่น ชนิดตา่ ง ๆ ไว้ทมี่ มุ ดนตรี 2. ของเลน่ ในมมุ และแบง่ ปนั ผู้อ่ืน 2. ครูและเด็กทาข้อตกลงก่อนไปเลน่ ในมุม ประสบการณ์ เมอื่ มีผ้ชู ี้แนะ แบง่ ปนั ผู้อน่ื รายบุคคล กลมุ่ ย่อย ประสบการณ์ ตา่ ง ๆ ภายในหอ้ งเรียน ภายในหอ้ งเรียน 2. การเกบ็ ของเล่น 3. เดก็ เลือกเล่นในมุมประสบการณต์ ามความ หรอื ของใชเ้ ข้าที่ เมื่อมผี ชู้ ้ีแนะได้ กลมุ่ ใหญ่ สนใจ อยา่ งเรยี บร้อยดว้ ยตนเอง 4. เด็กเกบ็ ของเลน่ เขา้ ที่เมื่อเลกิ เลน่ 2. เก็บของเลน่ หรือ (3) การเล่นตามมุม ของใชเ้ ขา้ ท่ี ประสบการณ์ อยา่ งเรยี บร้อย ดว้ ยตนเองได้
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ 1. ครูและเด็กพดู ข้อตกลงกอ่ นไปเลน่ วงิ่ เปรย้ี ว 1. การเล่น \"วงิ่ เปรย้ี ว\" สังเกต กิจกรรมกลางแจง้ การเล่นหรอื ทางานรว่ มกบั เลน่ หรอื ทางาน (2) การเคลื่อนไหว เพอื่ ใหเ้ กดิ ความเป็นระเบียบและปลอดภัย 2. นกหวดี เพื่อนอยา่ งมเี ป้าหมาย รว่ มกบั เพื่อนอย่างมี เคล่ือนท่ี เป้าหมายได้ (2) การเลน่ ทั้งขณะเดนิ ทางไปและขณะเล่น ร่วมกบั ผูอ้ น่ื 2. เดก็ เดินเปน็ แถวไปสนามเด็กเลน่ 3. เดก็ ยืนจบั มอื เป็นวงกลมให้ระยะหา่ งพอสมควร 4. เด็กเตรยี มความพร้อมร่างกายดว้ ยการว่ิงเข้า วงกลม เมอื่ ครูเป่านกหวีดยาวตดิ กนั เสียงเบา ๆ และหยุดเม่ือครูเป่า 1 ครง้ั และถอยหลังออกจาก วงเม่อื ครูเป่ายาวติดกนั เสียงดังกวา่ เดมิ 5. เด็กเลน่ การเลน่ \"ว่ิงเปร้ยี ว\" ใช้เวลาพอประมาณ 6. เด็กผ่อนคลายดว้ ยการหายใจเข้า-ออก ชา้ ๆ 7. เดินเปน็ แถวกลบั ห้องเรยี น เกมการศึกษา (13) การจบั คู่ภาพ การเลน่ เกมโดมโิ น 1. ครูให้เดก็ ดเู กมโดมโิ นสถานท่หี ้ามใชเ้ สียง 1. เกมโดมิโนสถานท่ี สงั เกต 1. จับคู่หรือ สถานท่หี า้ มใช้เสียง สถานที่หา้ มใชเ้ สียง พรอ้ มแนะนาวิธเี ล่นเกม หา้ มใชเ้ สียง 1. การจบั คหู่ รือ เปรียบเทยี บ (2) การปฏิบัติตน 2. ครูแบง่ เด็กเปน็ กลุ่ม กลุม่ แรกเลน่ เกมแนะนา 2. เกมท่ีเคยเลน่ เปรยี บเทียบสิ่งต่าง ๆ ส่ิงตา่ ง ๆ ได้ เป็นสมาชิกทีด่ ขี อง ใหมว่ ันน้ี กลุ่มท่เี หลอื เล่นเกมทเี่ คยเล่น 2. การเกบ็ ของเลน่ หรือ 2. เก็บของเล่นหรอื ห้องเรยี น 3. เดก็ หมุนเวียนเล่นเกมที่แนะนาใหมว่ นั น้ี ของใช้เข้าที่อยา่ งเรยี บร้อย ของใช้เขา้ ที่อยา่ ง (4) การดูแล จนครบทกุ กล่มุ เรยี บรอ้ ย หอ้ งเรยี นรว่ มกนั 4. เด็กเก็บเกมเข้าที่อย่างเรียบรอ้ ยเมื่อเลกิ เล่น
แผนการจัดประสบการณชั้นอนบุ าล ๓ หนว ยที่ ๓๓ เสียงรอบตัว สปั ดาหท่ี ๓๓ ครั้งท่ี ๕ วนั ที่................เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพนื้ ฐาน เดก็ เคลื่อนไหวร่างกายไปทวั่ 1. เครือ่ งเคาะ สังเกต กิจกรรมเคลื่อนไหว บริเวณอยา่ งอสิ ระตามจังหวะท่คี รูเคาะ เม่ือไดย้ ิน จงั หวะ การเคลอื่ นไหวท่าทาง และจังหวะ (2) การแสดงความคิด สัญญาณ “หยดุ ” ใหห้ ยุดเคล่ือนไหวในท่าน้ัน ๆทันที 2. แถบกระดาษ อย่างหลากหลายและ เคลอ่ื นไหวท่าทาง สร้างสรรคผ์ ่านท่าทาง 2. เด็กและครูพูดข้อตกลงให้เดก็ เคล่อื นไหว โดย 3. ปากกาเคมี แปลกใหม่ อยา่ งหลากหลาย การเคลอ่ื นไหว สมมตติ นเองเปน็ สตั วท์ ่มี เี สียงไพเราะ สัตวท์ ี่มเี สียงดงั และแปลกใหมไ่ ด้ (8) การนับและแสดง สัตวท์ ม่ี ีเสียงเบาตามจังหวะ ช้า เรว็ ทคี่ รเู คาะ เมื่อได้ จานวน ยินสญั ญาณ \"หยุด\" ใหห้ ยุดเคล่อื นไหวและสง่ เสียง (19) การเห็นแบบอยา่ ง รอ้ งเปน็ สัตวช์ นดิ น้นั ๆ และจับกลมุ่ สตั วช์ นดิ เดยี วกัน ของการเขยี นที่ถูกต้อง เด็ก ๆ ช่วยกันนับจานวนสัตวใ์ นกลุ่ม ครูเขยี นตวั เลข ในแถบกระดาษตรงกับจานวนท่ีเด็กจับกลุ่ม 3. ปฏบิ ัติตามข้อ 2 แตใ่ หเ้ ปลีย่ นสมมติตนเองเปน็ สัตว์ชนิดอืน่ บา้ ง 4. เด็กผอ่ นคลายด้วยการหายใจเข้า - ออก ชา้ ๆ
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ (1) การฟังเสยี งต่าง ๆ 1. การดแู ลรักษาหู 1. เดก็ ฟังนิทานเรื่อง \"คุณครูข้าวตู\" 1. นิทานเรื่อง สงั เกต 1. ฟังและพดู 1. การฟงั และพดู เชอื่ มโยง เชื่อมโยงตอ่ เน่ืองกบั ในสิ่งแวดล้อม การปอ้ งกันอนั ตราย 2. เด็กและครูสนทนาเนื้อหาจากนิทาน โดยใชค้ าถาม \"คณุ ครูข้าวตู\" ตอ่ เน่อื งกับเรื่องท่ีฟงั เรอ่ื งท่ีฟงั ได้ 2. การคน้ หาคาตอบ 2. ค้นหาคาตอบ (2) การฟังและปฏบิ ัติ จากเสยี งดัง ดงั น้ี 2. โฟม พลาสตกิ สิ่งที่สงสยั โดยวธิ ีการ ส่ิงทสี่ งสัย ทห่ี ลากหลายด้วยตนเอง โดยวธิ ีการที่ ตามคาแนะนา 2. มารยาทในการ - การดูแลรกั ษาหู ทาอย่างไรได้บ้าง ผ้าหนา ๆ กระดาษ หลากหลาย ดว้ ยตนเองได้ (3) การฟังนิทาน ใช้เสียง - ถา้ เด็ก ๆ ไปอยู่ในทมี่ เี สียงดังมากเดก็ ๆ ฯลฯ (4) การพูด จะป้องกนั หไู ม่ใหไ้ ด้รบั อนั ตรายได้อย่างไรบา้ ง 3. เครอ่ื งดนตรี แสดงความคดิ 3. ครูนาวัสดหุ ลายชนดิ เช่น โฟม พลาสตกิ 4. นาฬกิ าปลกุ (8) การรอจังหวะท่ี ผ้าหนา ๆ กระดาษ ฯลฯ มาให้เดก็ คาดเดาว่าวสั ดุใด เหมาะสมในการพดู สามารถดดู ซับเสยี ง ทาใหไ้ ด้ยินเสยี งเบาลงเมอ่ื นามา (3) การสบื เสาะหา ปิดท่หี ู ความรู้เพ่ือค้นหาคาตอบ 4. แบ่งเด็กเปน็ กลุม่ ๆ สืบคน้ หาขอ้ มลู โดยการ ของขอ้ สงสัยต่าง ๆ ทดลองนาวัสดจุ ากข้อ 3 มาทดลองปิดหู ขณะท่ีเพื่อน อกี กลุม่ ทาเสียงดังจากเคร่ืองดนตรีหรอื สง่ิ ต่าง ๆ ท่มี ใี นหอ้ งเรยี นหรือนาฬิกาปลุก หมุนเวยี นทดลองจน ครบทุกกลมุ่ 5. เดก็ ๆ ช่วยกันสรปุ ว่า วัตถใุ ดช่วยดดู ซับเสยี ง ไดด้ มี าก ปานกลาง น้อย แลว้ บนั ทึกข้อมูล เป็นภาพวาด 6. เดก็ และครูสนทนา ดังนี้ - เด็ก ๆ เคยไปสถานที่ใดบ้าง ทไี่ ม่ควรใชเ้ สยี งดงั - เวลาทเ่ี ดก็ ๆ พดู กับผใู้ หญ่ควรใชเ้ สียงอย่างไร จงึ จะเหมาะสม
จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ 1. ครูจดั กิจกรรม 2 กิจกรรม - วาดภาพจากสีนา้ อิสระ กิจกรรมศิลปะ (2) การแสดงความคดิ - ประดิษฐ์กบจากจานกระดาษ 1. สนี า้ พกู่ ัน สังเกต 2. ภาชนะใสน่ า้ 1. การสรา้ งผลงานศิลปะ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรคผ์ ่านศิลปะ 2. ครูอธิบายข้ันตอนการประดิษฐ์กบ 3. จานกระดาษ โดยมคี วามแปลกใหมแ่ ละ จากจานกระดาษ 4. กระดาษ มีรายละเอยี ดเพิ่มข้นึ 1. สร้างผลงาน (2) การใช้วสั ดแุ ละ โปสเตอรส์ ีแบบบาง 2. การนาวัสดุหรอื และแบบแขง็ ส่งิ ของท่ีใช้แลว้ มาประดิษฐ์ ศลิ ปะ โดยมี สง่ิ ของเครื่องใช้ 5. กระดาษขาว-เทา เป็นของเลน่ 6. ฝาน้าอดั ลม 3. การทางานทไี่ ด้รับ ความแปลกใหม่และ อยา่ งคุ้มคา่ 7. กาว 2 หนา้ มอบหมายจนสาเร็จ ชนิดบาง เทปใส ด้วยตนเอง มรี ายละเอียด (5) การทางานศิลปะ 8. กาว กรรไกร 9. วงเวยี น เพ่มิ ขน้ึ ได้ 10. ปากกาเมจิก 11. กระดาษ 2. นาวัสดหุ รอื โปสเตอร์สขี าว 12. กระดาษ เอ 4 สงิ่ ของทใี่ ช้แล้ว มา ประดิษฐเ์ ป็นของ เลน่ ได้ 3. ทางานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย จนสาเร็จ ดว้ ยตนเองได้
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ 1. ครูนาวตั ถุตา่ ง ๆ ท่ใี ชท้ ดลองเกีย่ วกับเสยี ง เช่น 1. วัตถุต่าง ๆ ทจี่ ะ สงั เกต โลหะ ไม้ แกว้ ไวท้ ่ีมมุ วิทยาศาสตร์ เครื่องดนตรี ทดลองเรื่องเสยี ง 1. การชว่ ยเหลือ กจิ กรรมเล่นตามมุม (1) การเลน่ อสิ ระ ชนิดตา่ ง ๆ ไวท้ ี่มุมดนตรี 2. ของเล่นในมมุ และแบ่งปันผู้อ่นื 2. ครแู ละเด็กทาขอ้ ตกลงก่อนไปเลน่ ในมุม ประสบการณ์ เมอ่ื มีผชู้ ี้แนะ 1. ชว่ ยเหลอื และ (2) การเลน่ รายบุคคล ประสบการณ์ต่าง ๆ ภายในห้องเรยี น 2. การเก็บของเลน่ 3. เด็กเลือกเล่นในมุมประสบการณต์ ามความสนใจ หรอื ของใชเ้ ขา้ ท่ี แบ่งปนั ผู้อน่ื กลมุ่ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ 4. เด็กเกบ็ ของเล่นเข้าทเ่ี มื่อเลกิ เล่น อยา่ งเรียบร้อยดว้ ยตนเอง เมอื่ มีผูช้ ้แี นะได้ (3) การเล่นตามมุม 2. เก็บของเลน่ หรอื ประสบการณ์ ของใช้เขา้ ท่ี อย่างเรียบร้อย ดว้ ยตนเองได้ กจิ กรรมกลางแจ้ง (1) การเล่นอสิ ระ 1. ครแู ละเด็กพูดข้อตกลงก่อนไปเลน่ 1. เครื่องเลน่ สนาม สังเกต 1. ชว่ ยเหลอื และ (2) การเลน่ รายบคุ คล เครอ่ื งเล่นสนาม 2. นกหวดี 1. การชว่ ยเหลอื และ แบ่งปนั ผอู้ ื่น กลมุ่ ยอ่ ย 2. เด็กเลือกเล่นเคร่ืองเล่นสนามตามความสนใจ แบง่ ปนั ผูอ้ ่นื ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเองได้ (4) การเลน่ 3. ครใู หส้ ญั ญาณก่อนหมดเวลาเล็กน้อย เพ่ือใหเ้ ด็ก 2. การเล่นหรือทางาน 2. เลน่ หรอื ทางาน นอกห้องเรียน ทาความสะอาดร่างกาย ร่วมกบั เพ่ือนอย่างมี รว่ มกบั เพื่อน (2) การเล่นและทางาน 4. เด็กเดนิ เป็นแถวกลบั ห้องเรยี น เปา้ หมาย อยา่ งมเี ป้าหมายได้ รว่ มกับผูอ้ น่ื
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ เกมการศกึ ษา 1. จับคู่หรอื (6) การต่อชิน้ เล็ก การสังเกต 1. ครูให้เด็กดูเกมสังเกตรายละเอยี ดของภาพ 1. เกมสงั เกต สังเกต เปรียบเทียบ สง่ิ ต่าง ๆ ได้ เตมิ ในชิ้นใหญ่ รายละเอียด (เครื่องดนตรี) พร้อมแนะนาวิธเี ลน่ เกม รายละเอียดของภาพ 1. การจับคู่หรือ 2. เกบ็ ของเลน่ หรอื ของใช้เข้าท่ี ใหส้ มบูรณแ์ ละ ของภาพ 2. ครแู บ่งเดก็ เป็นกลุ่ม กลุ่มแรกเลน่ เกมที่แนะนาใหม่ (เคร่อื งดนตรี) เปรียบเทยี บสงิ่ ตา่ ง ๆ อย่างเรียบร้อยได้ 2. การเกบ็ ของเลน่ หรอื แยกชิน้ สว่ น (เครื่องดนตรี) วันน้ี กลุ่มทเ่ี หลอื เล่นเกมทเี่ คยเลน่ 2. เกมทเี่ คยเล่น ของใช้เขา้ ที่อย่างเรยี บร้อย (2) การปฏิบัติตน 3. เดก็ หมนุ เวียน เลน่ เกมท่ีแนะนาใหม่วันน้ี เป็นสมาชกิ ทดี่ ี จนครบทุกกลุ่ม ของห้องเรยี น 4. เด็กเกบ็ เกมเข้าที่เมือ่ เลิกเลน่ ให้เรียบร้อย (4) การดูแลห้องเรียน ร่วมกนั
1. เลขท่ี ชอื่ – สกลุ 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 1.การเดินตอ่ เท้าถอยหลงั เป็นเส้นตรงโดยไมต่ ้อง ด้านรา่ งกาย กางแขน ด้านอารมณ์ 2.การเขยี นรปู สามเหลีย่ มตามแบบอย่างมีมุมชัดเจน จิตใจ 3.การชว่ ยเหลอื และแบง่ ปันผอู้ ่นื ดว้ ยตนเอง ด้านสงั คม แบบสังเกตพฤตกิ รรมเด็ก แผนการจัดประสบการณช ้ันอนุบาล ๓ หนวยที่ ๓๓ เสยี งรอบตวั 4.การทางานท่ีได้รับมอบหมายจนสาเรจ็ ด้วยตนเอง ประเมินพัฒนาการ 5.การเก็บของเลน่ หรอื ของใช้เข้าทอ่ี ย่างเรยี บร้อยดว้ ย ดา้ นสตปิ ญั ญา ตนเอง 6.การนาวสั ดุหรือสิ่งของที่ใช้แล้วมาประดิษฐ์เปน็ ของ เลน่ 7.การเล่นหรือทางานร่วมกบั เพอ่ื นอย่างมีเป้าหมาย ๘.การปฏิบตั ิตนเปน ผนู าํ และผูต ามเหมาะสมกบั สถานการณ ๙.การฟง และพดู เชอื่ มโยงตอ เน่อื งกับเร่อื งทีฟ่ ง 10.การอา่ นภาพสัญลกั ษณ์คา ดว้ ยการชหี้ รือกวาดตา มองจุดเรมิ่ ตน้ และจดุ จบของขอ้ ความ 11.การเขียนช่ือตนเองตามแบบได้ 12.การนับและแสดงจานวน 10-18 13.การจบั คหู่ รือเปรียบเทียบส่งิ ตา่ ง ๆ ได้ 14.การเรียงลาดับสิ่งต่าง ๆ ได้ 15.การอธบิ ายเชื่อมโยงสาเหตแุ ละผลทเี่ กิดขนึ้ ใน เหตุการณห์ รอื การกระทาดว้ ยตนเอง 16.การสรา้ งผลงานศลิ ปะโดยมคี วามแปลกใหม่และมี รายละเอียดเพิ่มขึ้น 17.การเคลื่อนไหวท่าทางอย่างหลากหลายและมีความ แปลกใหม่ 18.การคน้ หาคาตอบสงิ่ ทสี่ งสัยโดยวิธกี ารทีห่ ลากหลาย ดว้ ยตนเอง หมายเหตุ
11. เลขที่ ช่อื – สกลุ 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. คาอธบิ าย ครูสงั เกตพฤติกรรมเด็กเป็นรายบุคคล จดบันทกึ สรปุ เปน็ รายสัปดาห์ ระบรุ ะดบั คุณภาพเป็น 3 ระดับ คอื 1.การเดนิ ตอ่ เทา้ ถอยหลังเปน็ เส้นตรงโดยไมต่ ้อง ดา้ นรา่ งกาย ระดบั 3 ดี ระดบั 2 ปานกลาง ระดับ 1 ตอ้ งสง่ เสริม กางแขน จติ ใจ ด้านอารมณ์ 2.การเขียนรปู สามเหลีย่ มตามแบบอย่างมมี มุ ชัดเจน ด้านสังคม 3.การชว่ ยเหลือและแบง่ ปนั ผู้อนื่ ดว้ ยตนเอง ประเมินพฒั นาการ 4.การทางานท่ีไดร้ ับมอบหมายจนสาเรจ็ ด้วยตนเอง ด้านสติปญั ญา 5.การเก็บของเล่นหรือของใชเ้ ข้าที่อยา่ งเรียบร้อยดว้ ย ตนเอง 6.การนาวสั ดุหรือส่ิงของท่ีใชแ้ ลว้ มาประดษิ ฐ์เปน็ ของ เล่น 7.การเล่นหรอื ทางานรว่ มกบั เพ่ือนอยา่ งมีเป้าหมาย ๘.การปฏบิ ตั ติ นเปนผูนาํ และผูตามเหมาะสมกับสถานการณ ๙.การฟง และพดู เชื่อมโยงตอ เนื่องกบั เรื่องทฟ่ี ง 10.การอ่านภาพสัญลักษณ์คา ดว้ ยการช้ีหรอื กวาดตา มองจุดเรม่ิ ตน้ และจดุ จบของขอ้ ความ 11.การเขยี นชือ่ ตนเองตามแบบได้ 12.การนบั และแสดงจานวน 10-18 13.การจับคหู่ รือเปรยี บเทยี บส่งิ ตา่ ง ๆ ได้ 14.การเรยี งลาดับสงิ่ ตา่ ง ๆ ได้ 15.การอธิบายเชอ่ื มโยงสาเหตุและผลทเ่ี กดิ ข้นึ ใน เหตกุ ารณห์ รือการกระทาดว้ ยตนเอง 16.การสรา้ งผลงานศิลปะโดยมีความแปลกใหม่และมี รายละเอยี ดเพม่ิ ข้ึน 17.การเคลอื่ นไหวทา่ ทางอยา่ งหลากหลายและมคี วาม แปลกใหม่ 18.การค้นหาคาตอบส่ิงทส่ี งสัยโดยวธิ ีการท่ีหลากหลาย ดว้ ยตนเอง หมายเหตุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: