แผนการจดั ประสบการณ์ ช้ันอนบุ าล 3 สัปดาห์ที่ 24 เศรษฐกจิ พอเพยี ง นางกิตตมิ า ศรพี รหมมา
การวิเคราะหโ์ ครงสรา้ งหนว่ ยการจดั ประสบการณต์ ามหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ หนว่ ยที่ 24 เศรษฐกจิ พอเพยี ง ชน้ั อนบุ าลปีท่ี 1 – 3 ภาคเรยี นท่ี 2 รายการ อนบุ าลปีท่ี 1 อนบุ าลปีท่ี 2 อนุบาลปีท่ี 3 สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. ความรู้เรือ่ งหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ 1. ความร้เู รื่องหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ 1. ความรู้เรื่องหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ระดบั ปฐมวัย พอเพยี งระดบั ปฐมวัย พอเพียงระดับปฐมวัย 2. การปฏิบัตติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ 2. การปฏบิ ตั ติ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ 2. การปฏิบัตติ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งทเี่ หมาะสมกับเด็กปฐมวยั - การประหยดั อดออม(เงิน) พอเพยี งที่เหมาะสมกบั เด็กปฐมวยั พอเพยี งทเี่ หมาะสมกบั เด็กปฐมวยั - การใชส้ ิ่งของเคร่ืองใช้ น้า/ไฟ อย่างประหยดั - การประหยดั อดออม - การประหยดั อดออม - การแต่งตวั ด้วยตนเอง - การรับประทานอาหารและดม่ื นม - การใช้สิ่งของ เครอื่ งใช้ น้า/ไฟ - การใชส้ ิ่งของ เคร่อื งใช้ นา้ /ไฟ ใหห้ มดไมเ่ หลือทิง อยา่ งประหยัด อย่างประหยัด 3. การเก็บของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ท่ดี ้วย ตนเอง - การแตง่ ตัวดว้ ยตนเอง - การแตง่ ตวั ด้วยตนเอง 4. การเข้าแถวตามล้าดับก่อนหลัง - การรบั ประทานอาหารและดืม่ นม - การรบั ประทานอาหารและดมื่ นม 5. การรูจ้ กั เลือกอยา่ งมีเหตผุ ล ให้หมดไม่เหลือทิง ให้หมดไมเ่ หลือทิง - การปลูกผกั รักสขุ ภาพ - การเลอื กซืออาหารท่ีมีประโยชน์ 3. การเก็บของเล่นของใช้เข้าทดี่ ้วย 3. การเกบ็ ของเล่นของใชเ้ ขา้ ทด่ี ว้ ย ตนเอง ตนเอง 4. การเขา้ แถวตามลา้ ดับก่อนหลงั 4. การเขา้ แถวตามลา้ ดับก่อนหลัง 5. การรจู้ กั เลือกอย่างมีเหตุผล - การปลูกผักรกั สุขภาพ
มาตรฐาน มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.1) มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.3) มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.3) ตัวบ่งชี ตบช 2.2 (2.2.2) ตบช 2.2 (2.2.3) ตบช 2.2 (2.2.3) สภาพท่พี ึงประสงค์ มฐ 5 ตบช 5.2 (5.2.1) มฐ 5 ตบช 5.2 (5.2.1) มฐ 5 ตบช 5.2 (5.2.1) ตบช 5.4 (5.4.1) ตบช 5.4 (5.4.1) ตบช 5.4 (5.4.1) มฐ 6 ตบช ๖.๑ (6.1.2) (6.1.3) มฐ 6 ตบช 6.1 (6.1.1) (6.1.2) มฐ 6 ตบช 6.1 (6.1.1) (6.1.2) มฐ 8 ตบช 8.2 (8.2.1) (6.2.2) ตบช 6.๒ (6.๒.1) (6.2.2) ตบช 6.๒ (6.๒.1) (6.2.2) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.1) ตบช.6.3 (6.3.1) ตบช.6.3 (6.3.1) ตบช 9.2 (9.2.1) มฐ 8 ตบช 8.2 (8.2.1) มฐ 8 ตบช 8.2 (8.2.1) มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.1) (10.1.2) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.2) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.2) (10.1.3) ตบช 9.2 (9.2.1) ตบช 9.2 (9.2.1) (9.2.2) มฐ 11 ตบช 11.1 (11.1.1) มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.1) (10.1.2) มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.1) (10.1.2) ตบช 11.2 (11.2.1) (10.1.3) (10.1.4) (10.1.3) (10.1.4) มฐ 11 ตบช 11.1 (11.1.1) ตบช 10.2 (10.2.1) (10.2.2) มฐ 11 ตบช 11.1 (11.1.1) ตบช 11.2 (11.2.1) ตบช 11.2 (11.2.1) มฐ 12 ตบช 12.2 (12.2.1) ประสบการณ์สาคัญ รา่ งกาย รา่ งกาย ร่างกาย 1.1.1 (2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนที่ (๓) การเคล่ือนไหวพร้อมวัสดุ 1.1.2 (2) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ 1.1.1 (2) การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่ี อปุ กรณ์ (แกนกระดาษทิชชู) ๑.๑.๒ (2) การเขียนภาพ (๓) การเคลือ่ นไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์ (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอปุ กรณ์ (3) การปั้น 1.1.3 (1) การปฏิบตั ติ ามสขุ อนามยั (ขวดนา้ พลาสติก) (รบิ บิน) ๑.๑.๒ (2) การเขียนภาพและเลน่ กับสี 1.1.2 (1) การเล่นเครือ่ งเลน่ สมั ผัสจากแทง่ ไม้ (3) การป้ัน (2) การเขียนภาพ (4) การประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ด้วยเศษวัสดุ (3) การปัน้
สุขนิสยั ที่ดใี นกิจวตั รประจ้าวนั (5) การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉกี (4) การประดษิ ฐ์สง่ิ ตา่ ง ๆ ดว้ ยเศษวัสดุ 1.1.๔ (๓) การเล่นเคร่อื งเล่นอย่าง การตดั การปะ และการร้อยวัสดุ (5) การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉีก ปลอดภัย 1.1.3 (1) การปฏิบัตติ นตามสุขอนามยั การตัด การปะ และการรอ้ ยวัสดุ สุขนิสยั ท่ดี ใี นกิจวตั รประจ้าวัน 1.1.3 (1) การปฏบิ ัติตนตามสขุ อนามัย สุขนสิ ยั อารมณ์ 1.2.4 (๕) การท้างานศลิ ปะ 1.1.4 (1) การปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภัยในกิจวัตร ที่ดใี นกจิ วตั รประจ้าวนั ประจ้าวนั 1.1.4 (1) การปฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั ในกิจวตั ร สังคม 1.3.1 (1) การช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วัตร (3) การเลน่ เครอื่ งเล่นอย่างปลอดภยั ประจา้ วนั (3) การเลน่ เครอ่ื งเลน่ อย่างปลอดภยั ประจา้ วนั อารมณ์ อารมณ์ 1.2.3 (2) การฟังนิทานเก่ยี วกบั คุณธรรม 1.2.3 (2) การฟงั นิทานเกย่ี วกับ จริยธรรม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1.2.4 (3) การเคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลง/ 1.2.1 (3) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี ดนตรี (5) การท้ากจิ กรรมศิลปะต่าง ๆ (5) การท้างานศิลปะ (4) การเลน่ บทบาทสมมตุ ิ 1.2.5 (1) การปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ 1.2.5 (1) การปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความสามารถของตนเอง ตามความสามารถของตนเอง สงั คม สังคม 1.3.1 (1) การชว่ ยเหลอื ตนเองในกิจวตั ร 1.3.1 (1) การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตร ประจา้ วนั ประจา้ วนั (2) การปฏิบัตติ นตามแนวทางหลกั (2) การปฏิบัติตนตามแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1.3.2 (2) การใช้วสั ดุและส่ิงของเครื่องใช้ 1.3.2 (2) การใช้วัสดุและสิ่งของเครอื่ งใช้ อยา่ งคุ้มค่า อยา่ งคุ้มค่า (3) การท้างานศิลปะที่น้าวัสดหุ รอื (3) การทา้ งานศลิ ปะท่ีนา้ วสั ดุหรือ
สตปิ ัญญา ส่งิ ของเครื่องใช้ทใ่ี ช้แล้ว มาใชซ้ า้ ส่ิงของเครื่องใชท้ ใ่ี ชแ้ ลว้ มาใชซ้ ้า 1.4.1 (2) การฟงั และปฏบิ ตั ิตามคา้ แนะน้า (4) การเพาะปลกู และดแู ลผกั (4) การเพาะปลูกและดูแลต้นไม้ 1.3.4 (3) การให้ความร่วมมือในการปฏิบตั ิ 1.3.4 (3) การใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบัติ (3) การฟังเพลงนิทาน (4) การพูดแสดงความรสู้ กึ และ กจิ กรรมต่าง ๆ กิจกรรมต่าง ๆ 1.3.7 (1) การเลน่ หรอื ท้ากจิ กรรมรว่ มกบั ความตอ้ งการ สติปญั ญา (8) การรอจงั หวะพดู ทีเ่ หมาะสม 1.4.1 (2) การฟังและปฏบิ ตั ิตามค้าแนะน้า กล่มุ เพอื่ น (10) การอา่ นหนงั สือภาพ นทิ าน สตปิ ญั ญา 1.4.2 (1) การสงั เกตลกั ษณะของส่งิ ตา่ งๆ (3) การฟังเพลง นทิ าน ค้าคล้องจอง 1.4.1 (2) การฟังและปฏิบัติตามคา้ แนะนา้ (4) การพดู แสดงความคิดเหน็ โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่าง (3) การฟงั เพลง นิทาน ค้าคลอ้ งจอง เหมาะสม ความรสู้ กึ และความต้องการ (4) การพูดแสดงความคดิ เหน็ ความรู้สกึ (5) การคัดแยก การจดั กล่มุ และ (5) การพูดเลา่ เรื่องราวเกย่ี วกับตนเอง การจา้ แนกส่ิงของต่าง ๆ (8) การรอจังหวะพดู ท่ีเหมาะสม และความต้องการ ตามลกั ษณะรูปรา่ ง (10) การอา่ นหนังสอื ภาพ นิทาน (5) การพูดเลา่ เรื่องราวเก่ยี วกบั ตนเอง (๘) การนบั และแสดงจ้านวนสิง่ ของ (11) การอ่านร่วมกันและอา่ นอิสระ (8) การรอจังหวะพดู ท่ีเหมาะสม (๑๒) การเห็นแบบอย่างการอ่าน (10) การอ่านหนงั สือภาพ นทิ าน ตา่ ง ๆ (11) การอ่านร่วมกนั และอา่ นอสิ ระ ในชวี ติ ประจา้ วัน ท่ถี ูกตอ้ ง (๑๒) การเหน็ แบบอยา่ งการอา่ นทถี่ ูกตอ้ ง 1.4.4(1) การสา้ รวจส่ิงต่าง ๆ และแหลง่ (๑๙) การเห็นแบบอยา่ งของการเขยี น (๑๙) การเหน็ แบบอยา่ งของการเขียน เรยี นรูร้ อบตวั ทีถ่ กู ต้อง ทถี่ กู ตอ้ ง (20) การเขยี นร่วมกนั ตามโอกาสต่าง ๆ (20) การเขียนร่วมกนั ตามโอกาสต่าง ๆ 1.4.2 (1) การสงั เกตลักษณะส่วนประกอบ 1.4.2 (1) การสังเกตลักษณะสว่ นประกอบ การเปล่ียนแปลง และความสมั พันธ์ ของส่งิ ต่างๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผัส การเปล่ียนแปลง และความสมั พันธ์ อยา่ งเหมาะสม ของส่งิ ต่างๆ โดยใช้ประสาทสัมผัส อยา่ งเหมาะสม (5) การคัดแยก การจัดกลมุ่ และ
(2) การตังค้าถามในเร่อื งที่สนใจ (5) การคดั แยก การจดั กล่มุ และ การจ้าแนกส่งิ ของต่าง ๆ ตามลักษณะ การจา้ แนกส่งิ ของตา่ ง ๆ ตามลักษณะ รปู รา่ ง รูปร่าง (๘) การนบั และแสดงจ้านวนสง่ิ ของต่างๆ ในชีวิตประจา้ วัน (๘) การนับและแสดงจ้านวนสิง่ ของต่างๆ (13) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บความ ในชวี ติ ประจ้าวัน เหมอื นความตา่ ง (14) การบอกและเรียงลา้ ดบั กจิ กรรม (13) การจับคู่ การเปรยี บเทยี บความ หรือเหตุการณ์ เหมอื นความต่าง (16) การอธบิ ายเช่ือมโยงสาเหตุและผล (14) การบอกและเรยี งล้าดบั กิจกรรมหรือ ทเ่ี กิดขึนในเหตกุ ารณ์หรือ เหตุการณ์ การกระทา้ (17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสง่ิ ที (16) การอธิบายเช่ือมโยงสาเหตุและผลที่ อาจจะเกดิ ขึนอยา่ งมเี หตผุ ล เกิดขนึ ในเหตุการณ์หรอื การกระทา้ 1.4.3 (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ น ภาษาทา่ ทางและศลิ ปะ (17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสงิ่ ที่ (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่าน อาจจะเกิดขึนอย่างมเี หตผุ ล ภาษาท่าทางและการเคลอ่ื นไหว 1.4.4 (1) การส้ารวจสงิ่ ต่าง ๆ และ 1.4.4 (1) การส้ารวจส่งิ ตา่ ง ๆ และ แหล่งเรียนรู้ แหลง่ เรยี นรู้ (3) การสบื เสาะหาความรเู้ พื่อคน้ หา ค้าตอบของข้อสงสัยตา่ ง ๆ (3) การสบื เสาะหาความรู้เพ่ือคน้ หา (4) การมีสว่ นรว่ มในการรวบรวมข้อมลู คา้ ตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ และน้าเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหา ความรใู้ นรปู แบบต่างๆและแผนภมู ิงา่ ยๆ
คณิตศาสตร์ นับแสดงจา้ นวน 4 นับและแสดงจ้านวน 1 – 7 นับและแสดงจา้ นวน 1 – 12 วิทยาศาสตร์ ระบตุ ัวเลขฮนิ ดูอารบิกแสดงจ้านวนของ ระบตุ ัวเลขฮนิ ดูอารบิกแสดงจ้านวนของส่ิง ระบตุ ัวเลขฮนิ ดูอารบิกแสดงจ้านวนของส่งิ ต่างๆ สิง่ ตา่ งๆ ตงั แต่ 1 – 5 ต่างๆ 1 – 7 1 – 12 เปรยี บเทยี บจา้ นวนของส่ิงต่างๆ สองกลมุ่ เปรียบเทียบจา้ นวนของส่ิงต่างๆ สองกลุ่ม เปรียบเทียบจ้านวนของส่ิงตา่ งๆ สองกลมุ่ แต่ละ โดยแตล่ ะกลมุ่ มีจา้ นวนไม่เกิน 5 วา่ มี แตล่ ะกลุ่มมจี า้ นวนไมเ่ กิน 7 กลุม่ มีจ้านวนไม่เกิน 12 จา้ นวนเทา่ กนั หรือไมเ่ ท่ากนั บอกอนั ดับท่ีของสงิ่ ตา่ งๆ ไม่เกิน 4 สง่ิ บอกจ้านวนทเ่ี หลือเม่ือแยกกล่มุ ยอ่ ยออกจาก บอกจา้ นวนทงั หมดท่ีเกดิ จากการรวมสิ่ง บอกจ้านวนทงั หมดทเ่ี กิดจากการรวมส่ิง ตา่ งๆ สองกลุม่ ทีม่ ผี ลรวมไม่เกิน 4 กลุ่มใหญ่ที่มจี า้ นวนไมเ่ กิน 12 บอกอนั ดบั ที่ของสงิ่ ตา่ งๆ ไมเ่ กนิ 3 ส่ิง ตา่ งๆ สองกลุ่มทม่ี ีผลรวมไมเ่ กนิ 7 บอกชนดิ และคา่ ของเงินเหรียญ 1 บาท 2 บาท บอกชนดิ ของเงนิ เหรียญ เหรยี ญ 1 บาท บอกชนิดและคา่ ของเงนิ เหรยี ญ 1 บาท 2 บาท 5 บาท 10 บาท 5 บาท 10 บาท และธนบัตร ฉบบั ละ 20 บาท 2 บาท 5 บาท 10 บาท 1. การสังเกตลักษณะของส่งิ ต่าง ๆ โดยใช้ 1. การสงั เกตลักษณะ และส่วนประกอบ 1. การสังเกตลักษณะ สว่ นประกอบการ ประสาทสัมผสั อยา่ งเหมาะสม 2. การสา้ รวจสิง่ ต่าง ๆ รอบตัว ของส่งิ ต่าง ๆ โดยใช้ประสาทสมั ผัสอยา่ ง เปลย่ี นแปลงและความสมั พันธ์ของส่ิงตา่ ง ๆ 3. การตังค้าถามในเรอื่ งที่ฟัง เหมาะสม โดยใช้ประสาทสมั ผัสอย่างเหมาะสม 2. การสา้ รวจสิ่งต่าง ๆ และแหล่งเรยี นรู้ 2. การส้ารวจสง่ิ ตา่ ง ๆ และแหลง่ เรยี นร้รู อบตัว รอบตัว 3. การสบื เสาะหาความรู้เพื่อคน้ หาค้าตอบ 3. การสบื เสาะหาความร้เู พื่อค้นหาค้าตอบ 4. การอธิบายเช่ือมโยงสาเหตุและผลท่ีเกดิ ขนึ 4. การอธิบายเช่ือมโยงสาเหตแุ ละผลที่เกิดขนึ 5. การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสง่ิ ที่อาจจะ 5. การคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่ิงที่อาจจะ เกดิ ขนึ อย่างมีเหตผุ ล เกดิ ขึนอย่างมีเหตผุ ล 6. การมสี ่วนร่วมในการรวบรวมขอ้ มูลและ นา้ เสนอข้อมูล
พัฒนาการทาง 1. การฟงั และปฏิบัตติ ามค้าแนะน้า 1. การฟังและปฏบิ ัตติ ามค้าแนะน้า 1. การฟังและปฏิบัตติ ามค้าแนะน้า ภาษาและการรู้ 2. การอา่ นหนังสือภาพ นิทาน คา้ คลอ้ งจอง หนังสอื 2. การฟังเพลง นิทาน คา้ คล้องจองหรอื 2. การอา่ นหนงั สอื ภาพ นทิ าน คา้ คลอ้ งจอง บทรอ้ ยกรองหรือเร่อื งราวต่าง ๆ 3. การพูดเล่าเรื่องราวเกย่ี วกับตนเอง เร่อื งราวตา่ ง ๆ บทร้อยกรองหรือเรอื่ งราวต่าง ๆ 4. การพูดอธิบายเกยี่ วกับส่งิ ของเหตุการณ์และ ความสมั พนั ธ์ของส่งิ ตา่ ง ๆ 3. การพูดแสดงความรูส้ กึ และความต้องการ 3. การพูดแสดงความรู้สึกและความต้องการ 5. การรอจังหวะท่ีเหมาะสมในการพดู 6. การอ่านหนังสือภาพ/นทิ านหลากหลาย 4. การรอจังหวะทเี่ หมาะสมในการพูด 4. การพูดเล่าเรอื่ งราวเก่ยี วกับตนเอง ประเภท 7. การอ่านรว่ มกัน การอ่านแบบชีแนะและ 5. การอ่านหนังสือภาพ 5. การรอจงั หวะทเี่ หมาะสมในการพดู การอา่ นอสิ ระ 8. การเห็นแบบอย่างการเขียนทีถ่ กู ต้อง 6. การอ่านหนังสอื ภาพ/นทิ านหลากหลาย 9. การเขยี นค้าท่ีมีความหมายกบั ตัวเด็ก/ คา้ คนุ้ เคย ประเภท 7. การอ่านร่วมกันและอา่ นอิสระ 8. การเห็นแบบอยา่ งการเขยี นทถ่ี ูกต้อง
หน่วยการจัดประสบการณท์ ่ี 24 เศรษฐกจิ พอเพยี ง ช้ันอนุบาลปที ่ี ๓ แนวคดิ ฉันเรยี นร้ทู ่จี ะปฏบิ ตั ติ ามแนวพระราชดา้ ริเศรษฐกิจพอเพยี งของในหลวงรัชกาลที่ 9 รู้จกั ประหยัด อดออม ใช้สง่ิ ของเครอื่ งใช้นา้ /ไฟอยา่ งประหยดั มภี ูมิคุ้มกนั รูจ้ ักพง่ึ พาตนเองสามารถแต่งตวั รบั ประทานอาหารและเก็บของเลน่ ของใช้ด้วยตนเอง มีเหตผุ ล รู้จักเลอื กปลกู ผัก รับประทานผกั ที่ส่งผลดตี อ่ สขุ ภาพและ เลือกซืออาหารที่มปี ระโยชน์ได้ มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 2 ๒.๑ เคลอื่ นไหวร่างกาย 2.1.3 วง่ิ หลบหลกี 1. วิ่งหลบหลกี สิ่งกีด 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนือใหญ่ 1. ความรูเ้ ร่ืองหลกั ปรชั ญาของ กลา้ มเนือใหญแ่ ละ อยา่ งคล่องแคลว่ สงิ่ กีดขวางได้อยา่ ง ขวางได้อย่าง (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ เศรษฐกิจพอเพียงระดับ กลา้ มเนอื เล็กแข็งแรงใช้ได้ ประสานสัมพันธแ์ ละ คลอ่ งแคล่ว คล่องแคล่ว (๓) การเคลื่อนไหวร่างกาย ปฐมวยั คลอ่ งแคลว่ และประสาน ทรงตัวได้ พรอ้ มอุปกรณ์ 2. การปฏบิ ตั ติ ามหลักปรัชญา สมั พนั ธ์กนั 2.2. ใชม้ ือและตา 2.2.3 รอ้ ยวสั ดทุ ม่ี รี ู 2. ร้อยวสั ดทุ ม่ี ีรขู นาด 1.1.2 การใช้กลา้ มเนือเล็ก ของเศรษฐกิจพอเพยี งที่ ประสานสมั พนั ธ์ ขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง เสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง (1) การเล่นเครื่องเล่นสัมผัส เหมาะสมกบั เด็กปฐมวัย 0.25 ซม. ได้ 0.25 ซม.ได้ และการสรา้ งจากแท่งไม้ - การประหยดั อดออม บลอ็ ก - การใชส้ ง่ิ ของ เครื่องใช้ (2) การเขยี นภาพและเล่น น้า/ไฟ อย่างประหยัด กบั สี - การแตง่ ตวั ด้วยตนเอง (3) การปั้น - การรบั ประทานอาหารและ (4) การประดิษฐ์ส่งิ ตา่ ง ๆ ดม่ื นม ให้หมดไมเ่ หลือทิง ดว้ ยเศษวัสดุ 3. การเก็บของเล่นของใชเ้ ข้าท่ี (5) การหยบิ จับ การใช้ ด้วยตนเอง กรรไกร การฉีก การตดั 4. การร้จู กั เลือกอยา่ งมีเหตผุ ล การปะ และการร้อยวสั ดุ - การปลูกผักรักสุขภาพ
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ตวั บ่งช้ี มาตรฐาน สภาพที่พึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 5 5.2 มคี วามเมตตา 5.2.1 ชว่ ยเหลอื และ 3. ช่วยเหลือและ 1.2.3 คณุ ธรรมจริยธรรม - การเลือกซืออาหารทีม่ ี มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมีจติ ใจทม่ี ดงี าม กรณุ า มีนา้ ใจ และ แบ่งปนั ผู้อ่นื ไดด้ ว้ ย แบ่งปนั ผูอ้ ่ืนไดด้ ้วย (2) การฟงั นิทานเกยี่ วกับ ประโยชน์ ชว่ ยเหลอื แบง่ ปนั ตนเอง ตนเอง คุณธรรมจรยิ ธรรม 5.4 มีความรบั ผดิ ชอบ 5.4.1 ท้างานที่ได้รับ 4. ทา้ งานท่ีได้รบั 1.2.5 การมีอตั ลักษณ์ มอบหมายจนส้าเรจ็ ดว้ ย มอบหมายจนสา้ เร็จ เฉพาะตนและเช่ือว่าตนเอง ตนเอง ด้วยตนเองได้ มีความสามารถ (1) การปฏบิ ัติกจิ กรรม ต่าง ๆ ตามความสามารถ ของตนเอง มาตรฐานที่ 6 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองใน 6.1.1 แต่งตัวดว้ ย 5. แต่งตัวด้วยตนเอง 1.3.1 การปฏบิ ัติกิจวัตร ประจ้าวนั มที ักษะชีวิตและปฏบิ ตั ิตน การปฏบิ ัติกิจวตั ร ตนเองได้อยา่ คลอ่ งแคลว่ ไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว (1) การชว่ ยเหลือตนเองใน กิจวัตรประจ้าวนั ตามหลกั ปรัชญาของ ประจา้ วนั 6.1.2 รบั ประทาน 6. ประกอบอาหาร (2) การปฏบิ ัติตนตาม แนวทางหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง อาหารด้วยตนเองอย่าง ขนมบัวลอยและ เศรษฐกิจพอเพียง 1.3.3 การปฏบิ ัติตาม ถกู วธิ ี รับประทานขนมดว้ ย วัฒนธรรมท้องถิ่นและความ เป็นไทย 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง 6.2.1 เกบ็ ของเล่นของ ตนเองไดอ้ ย่างถกู วธิ ี (3) การประกอบอาหาร ไทย ใชเ้ ข้าท่อี ย่างเรยี บร้อย 7. เกบ็ ของเล่นของใช้ ด้วยตนเอง เข้าท่ีอย่างเรียบร้อย ดว้ ยตนเองได้
6.3 ประหยดั และ 6.3.1 ใช้ส่งิ ของ 8. ใชส้ ิ่งของเครอ่ื งใช้ 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ พอเพยี ง เครอ่ื งใช้อยา่ งประหยัด อย่างประหยัดและ มีวินยั มสี ว่ นร่วม และ และพอเพยี งด้วยตนเอง พอเพยี งดว้ ยตนเองได้ บทบาทสมาชิกของสงั คม (3) การใหค้ วามรว่ มมือ ในการปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ ง ๆ 1.3.2 การดแู ลรักษา ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม (2) การใชว้ สั ดแุ ละส่ิงของ เครือ่ งใช้อย่างคุ้มคา่ (3) การทา้ งานศลิ ปะทีน่ ้า วัสดุหรือส่งิ ของเครือ่ งใช้ทีใ่ ช้ แล้วมาใช้ซ้า (4) การเพาะปลูกและ ดแู ลผัก มาตรฐานท่ี 8 8.2 มีปฏสิ ัมพนั ธท์ ่ดี ีกบั 8.2.1 เลน่ หรอื ทา้ งาน 9. เลน่ รว่ มกับเพื่อน 1.3.7 การยอมรบั ในความ อยา่ งมเี ป้าหมายได้ เหมือนและความแตกต่าง อยู่รว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้อยา่ งมี ผ้อู น่ื ร่วมกับเพื่อนอย่างมี ระหวา่ งบุคคล (1) การเล่นหรือท้ากิจกรรม ความสุขและปฏิบัติตนเป็น เปา้ หมาย รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น สมาชกิ ที่ดขี องสังคมใน ระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข
มาตรฐานท่ี 9 9.1 สนทนาโต้ตอบและ 9.1.2 เลา่ เปน็ เร่ืองราว 10. เลา่ เปน็ เร่อื งราว 1.4.1 การใชภ้ าษา ใช้ภาษาสื่อสารได้ เล่าเรื่องใหผ้ ูอ้ นื่ เข้าใจ (2) การฟังและปฏบิ ัตติ าม เหมาะสมกับวัย 9.2 อา่ นเขยี นภาพและ ต่อเนื่องได้ ต่อเนือ่ งได้ คา้ แนะน้า สญั ลักษณ์ได้ (๓) การฟังเพลง นิทาน 9.2.1 อา่ นภาพ 11.อ่านภาพ (๔) การพูดแสดงความ คิดเห็นความรสู้ กึ และความ สัญลักษณ์ คา้ ด้วยการชี สัญลักษณ์ ค้า ด้วย ตอ้ งการ (8) การรอจังหวะพูดที่ หรอื กวาดตามอง การชีหรอื กวาดตามอง เหมาะสม (10) การอ่านหนังสอื ภาพ จุดเรมิ่ ตน้ และจุดจบของ จดุ เริ่มต้นและจดุ จบ นทิ าน รจู้ กั สว่ นประกอบ หนงั สอื ขอ้ ความ ของขอ้ ความได้ (12) การเห็นแบบอยา่ ง การอา่ นทถ่ี ูกต้อง 9.2.2 เขยี นชอื่ ของ 12. เขยี นช่ือของ (19) การเห็นแบบอย่าง การเขยี นท่ีถกู ต้อง ตนเองตามแบบ ตนเองตามแบบ (๒๐) การเขยี นรว่ มกนั ตาม โอกาส และการเขยี นอสิ ระ เขยี นขอ้ ความด้วยวธิ ีที่ เขยี นข้อความดว้ ยวธิ ีที่ คิดขึนเอง คิดขึนเอง มาตรฐานท่ี 10 10.1 มคี วามสามารถใน 10.1.1 บอกลักษณะ 13. บอกลักษณะ 1.4.2 การคิดรวบยอด มคี วามสามารถในการคดิ ท่ี การคดิ รวบยอด สว่ นประกอบ สว่ นประกอบ การคิดเชงิ เหตุผลการ เป็นพนื ฐานในการเรียนรู้ การเปลย่ี นแปลงหรอื การเปลย่ี นแปลงหรอื ตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา
มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ ความสมั พันธข์ องสง่ิ ความสัมพันธข์ องสิ่ง (1) การสงั เกตลักษณะ ตา่ ง ๆจากการสงั เกต ต่าง ๆ จากการสังเกต สว่ นประกอบ โดยใช้ประสาทสมั ผสั โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั การเปล่ียนแปลง และ 10.1.2 จบั คแู่ ละ ได้ ความสมั พันธ์ของสิ่งตา่ ง ๆ เปรยี บเทยี บความ 14. จับคู่และ โดยใช้ประสาทสัมผสั อย่าง แตกต่างและความ เปรียบเทียบความ เหมาะสม เหมือนของส่งิ ต่างๆ แตกตา่ งและความ (5) การคดั แยก การจัดกลมุ่ โดยใชล้ กั ษณะทส่ี งั เกต เหมอื นของส่งิ ต่างๆ และการจ้าแนกสิง่ ของ พบสองลักษณะขนึ ไป โดยใชล้ กั ษณะทสี่ งั เกต ตา่ ง ๆ ตามลักษณะและ 10.1.3 จา้ แนกและจัด พบสองลักษณะขึนไป รูปร่าง กลมุ่ สิ่งตา่ ง ๆ โดยใช้ 15. จา้ แนกและจดั (8) การนับและแสดง ตงั แต่สองลักษณะขึนไป กลุ่มสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ จ้านวนของสิ่งตา่ ง ๆ เปน็ เกณฑ์ ตังแตส่ องลักษณะขนึ ในชวี ิตประจา้ วนั 10.1.4 เรียงล้าดบั ไปเปน็ เกณฑ์ได้ (13) การจบั คู่ สง่ิ ของและเหตกุ ารณ์ 16. เรียงล้าดับสิ่งของ การเปรยี บเทยี บความเหมือน อยา่ งน้อย 5 ล้าดบั และเหตุการณอ์ ย่าง ความตา่ งและเรยี งลา้ ดบั น้อย 5 ล้าดับ ได้ ส่งิ ต่าง ๆ ตามลักษณะความ ยาว ความสูง นา้ หนัก ปรมิ าตร (14) การบอกและเรยี งลา้ ดับ กิจกรรมหรือเหตกุ ารณต์ าม
มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ตวั บ่งช้ี มาตรฐาน สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ ตามช่วงเวลา 10.2 มคี วามสามารถใน 10.2.1 อธิบาย 17. อธบิ ายเชื่อมโยง (15) การใช้ภาษาทาง การคดิ เชิงเหตผุ ล เชอ่ื มโยงสาเหตแุ ละผลที่ สาเหตุและผลท่ีเกิดขึน คณติ ศาสตร์กบั เหตุการณใ์ น เกิดขึนในเหตุการณ์หรือ ในเหตกุ ารณ์หรือการ ชวี ิตประจ้าวัน การกระท้าดว้ ยตนเอง กระทา้ ด้วยตนเองได้ (16) การอธบิ ายเช่ือมโยง สาเหตุและผลทเ่ี กิดขึนใน เหตกุ ารณ์หรือการกระท้า 10.2.2 คาดคะเนสง่ิ ท่ี 18. คาดคะเนสง่ิ ที่ (17) การคาดเดาหรือ อาจจะเกดิ ขนึ และมี อาจจะเกดิ ขึน และมี การคาดคะเนสง่ิ ที่อาจจะ สว่ นร่วมในการลงความ สว่ นร่วมในการลง เกิดขนึ อยา่ งมเี หตุผล คดิ เหน็ จากข้อมูลอย่างมี ความคดิ เหน็ จากข้อมูล เหตผุ ล อยา่ งมีเหตผุ ลได้ มาตรฐานที่ 11 11.1 ทา้ งานศิลปะตาม 11.1.1 สร้างผลงาน 19. สร้างผลงานศลิ ปะ 1.4.3 จนิ ตนาการและ มีจินตนาการและความคิด จินตนาการและความคิด ศิลปะเพื่อสื่อสาร เพื่อสื่อสารความคดิ ความคดิ สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ ความคดิ ความร้สู ึกของ ความร้สู ึกของตนเอง (2) การแสดงความคดิ ตนเองโดยมีการ โดยมีการดัดแปลง สรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา ทา่ ทาง ดดั แปลงแปลกใหมจ่ าก แปลกใหมจ่ ากเดิมและ และศิลปะ เดมิ และมีรายละเอยี ด มีรายละเอยี ดเพิ่มขึน เพิม่ ขึน ได้
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ตวั บง่ ช้ี มาตรฐาน สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ 11.2 แสดงทา่ ทาง/ 11.2.1 เคล่ือนไหว 20. เคลอื่ นไหวท่าทาง (2) การแสดงความคดิ เคลอ่ื นไหวตาม ท่าทางเพ่อื สื่อสาร เพ่อื ส่ือสารความคดิ สรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา ทา่ ทาง จินตนาการอย่าง ความคดิ ความรสู้ ึกของ ความรู้สึกของตนเอง การเคลอื่ นไหว สร้างสรรค์ ตนเองอยา่ งหลากหลาย อย่างหลากหลายและ และแปลกใหม่ แปลกใหม่ได้ มาตรฐานที่ 12 12.2 มคี วามสามารถ 12.2.1 คน้ หาค้าตอบ ๒1. คน้ หาค้าตอบของ 1.4.4 เจตคตทิ ่ีดตี ่อการ มีเจตนาท่ดี ีต่อการเรียนรู้ ในการแสวงหาความรู้ ของขอ้ สงสัยต่าง ๆ โดย ข้อสงสัยตา่ ง ๆ ด้วย เรียนร้แู ละการแสวงหา และมีความสามารถในการ วธิ กี ารที่หลากหลายดว้ ย ตนเองได้ ความรู้ แสวงหาความรู้ ตนเอง (1) การส้ารวจสง่ิ ต่าง ๆ และ ไดเ้ หมาะสมกับวยั แหลง่ เรยี นรู้ (3) การสืบเสาะหาความรู้ เพอื่ ค้นหาค้าตอบของขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ (4) การมสี ว่ นรว่ มใน การรวบรวมขอ้ มลู และ นา้ เสนอข้อมูลจากการสืบ เสาะหาความรูใ้ นรูปแบบ ตา่ ง ๆ และแผนภูมิง่าย ๆ
ผงั ความคดิ แผนการจัดประสบการณห์ น่วยเศรษฐกิจพอเพียง ช้ันอนุบาลปีท่ี 3 ๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๒. กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ ๓. กิจกรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ 1. เคลอื่ นไหวร่างกายประกอบเพลง 1. ความรู้เรื่องหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ 1. การรอ้ ยใบไม้ ดอกไม้และการวาดภาพอสิ ระ “คุณธรรมพอเพยี ง” การปฏิบตั ติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. การมว้ นกระดาษเพ่ือท้ามู่ลี่ 3. การวาดภาพการแตง่ ตวั ชุดต่างๆและการปั้นดิน 2. การแสดงท่าทางตามค้าสัง่ 2. การประหยัดอดออม(เงนิ ) สิ่งของเครอ่ื งใช้นา้ /ไฟ น้ามนั อสิ ระ 3. การเคลื่อนไหวเชิงสรา้ งสรรค์ 3. การพ่ึงพาตนเองการแต่งตัว , การรบั ประทานอาหารและดม่ื นม 4. การรอ้ ยมู่ลีป่ ระกอบลูกปดั 4. การเกบ็ ของเลน่ ของใช้เข้าที่ดว้ ยตนเอง 5. การปนั้ และผสมสี (ริบบนิ ) 5. การเลือกอยา่ งมเี หตผุ ล 4. การแสดงท่าทางเป็นผ้นู า้ ผู้ตาม 5. การแสดงทา่ ทางตามค้าบรรยาย - การปลูกผกั รักสขุ ภาพ - การเลอื กซอื อาหารท่ีมีประโยชน์ ๔. กจิ กรรมเล่นตามมุม หน่วย การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ชั้นอนบุ าลปที ่ี 3 ๕. กจิ กรรมกลางแจ้ง ๖. กิจกรรมเกมการศึกษา ๑. การเลน่ ทราย – เล่นน้า 1. เกมจบั คภู่ าพสมั พนั ธ์กนั แบบอุปมา - อุปไมย ๒. การเล่นเครอ่ื งเล่นสนาม 2. เกมจับคู่ภาพท่ีมเี สียงพยัญชนะต้นเหมือนกัน ๓. การวิ่งหลบหลีกสงิ่ กดี ขวาง 3. เกมการวางภาพต่อปลายโดมิโนสมั พนั ธก์ นั ๔. การเลน่ นา้ – เลน่ ทราย 4. เกมเรยี งล้าดับเหตกุ ารณต์ ่อเนอื่ ง(วงจรชวี ติ ของสตั ว์) (การจม - การลอย) 5. เกมพนื ฐานการบวก 7 - 12 ๕. การเลน่ เครอื่ งเล่นสนาม
การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจัดประสบการณ์ชัน้ อนุบาลปที ี่ 3 หนว่ ยเศรษฐกิจพอเพียง วันท่ี เคล่อื นไหวและจังหวะ เสริมประสบการณ์ กจิ กรรม ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ เล่นตามมุม กลางแจ้ง เกมการศึกษา การเล่นนา้ เล่นทราย 1 การเคล่อื นไหวรา่ งกาย ๑. กจิ กรรมอา่ นร่วมกันจาก 1. การรอ้ ยดอกไม้และ มุมประสบการณ์ เกมจบั คูภ่ าพสัมพันธ์กัน แบบอุปมา - อุปมัย ประกอบเพลง หนงั สือนทิ านเรือ่ ง ใบไม้ อย่างน้อย ๔ มุม “คุณธรรมพอเพยี ง” “ขนมบัวลอยท่ีอรอ่ ยทส่ี ดุ ” 2. การวาดภาพ - คาดคะเนเร่ืองจากปก 2. ความรู้เกี่ยวกับ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 3. การปฏิบัตติ ามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 2 การแสดงท่าทางตาม ๑. กิจกรรมการอา่ นรว่ มกัน 1. การม้วนกระดาษท้า มุมประสบการณ์ การเล่นเครื่องเล่นสนาม เกมจับคู่ภาพทม่ี เี สียง พยัญชนะต้นเหมือนกัน ค้าส่ัง จากหนังสอื เรือ่ ง มู่ล่ี อย่างน้อย ๔ มมุ “ขนมบัวลอยที่อรอ่ ยทีส่ ดุ ” - ตังค้าถามจากเร่ือง 1.๑. สา้ รวจส่วนประกอบ ของหนงั สือ ๑.๒ ตงั ค้าถามท่ีเด็กสนใจ เกย่ี วกบั เรือ่ งท่ีอ่าน ๒. การประหยดั อดออม(เงิน) 3. การใช้ส่งิ ของ เครื่องใช้ นา้ /ไฟ อย่างประหยัด
วนั ท่ี เคล่ือนไหวและจงั หวะ เสรมิ ประสบการณ์ กิจกรรม ศิลปะสร้างสรรค์ เล่นตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา ๓ การเคลื่อนไหวเชิง ๑. กิจกรรมการอ่านร่วมกนั 1. วาดภาพการแต่งตัว มมุ ประสบการณ์ การวิ่งหลบหลกี เกมการวางภาพต่อปลาย ส่งิ กดี ขวาง โดมโิ นสัมพนั ธก์ ัน สร้างสรรค์ จากหนงั สือ ชุดต่าง ๆ อยา่ งน้อย ๔ มุม (ริบบนิ ) “ขนมบัวลอยท่ีอรอ่ ยทสี่ ุด” 2. การปั้นดินน้ามัน - เติมคา้ ปากเปล่า อสิ ระ - เติมตัวอกั ษรในค้าที่พบ บอ่ ย 2. การแต่งตวั ดว้ ยตนเอง 3. การรบั ประทานอาหาร และดื่มนมให้หมดไม่เหลือทงิ 4 การเคลื่อนไหวหรือการ ๑. กิจกรรมการอ่านร่วมกัน 1. การร้อยมลู่ ่ี มุมประสบการณ์ การเลน่ น้า-เล่นทราย เกมเรียงล้าดับเหตุการณ์ อย่างน้อย ๔ มมุ (การจม-การลอย) ตอ่ เน่อื ง แสดงท่าทาง จากหนงั สอื (วงจรชวี ิตของสตั ว์) เป็นผนู้ า้ ผตู้ าม “ขนมบัวลอยท่ีอร่อยที่สดุ ” - ทายคา้ ท่ปี ิดไว้ 2. การเก็บของเลน่ ของใช้ เขา้ ท่ดี ว้ ยตนเอง
วนั ท่ี เคล่ือนไหวและจังหวะ เสรมิ ประสบการณ์ กจิ กรรม ศิลปะสร้างสรรค์ เลน่ ตามมุม กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา ๕ การแสดงท่าทางตาม ๑. กจิ กรรมการอ่านร่วมกนั 1. การปั้น บทบาทสมมติการ การเล่นเครอ่ื งเล่นสนาม เกมพนื ฐานการบวก ค้าบรรยาย จากหนงั สอื เรอ่ื ง 2. การผสมสี ตกแต่งโต๊ะอาหาร 7 - 12 “ขนมบัวลอยท่ีอรอ่ ยทสี่ ดุ ” - เดก็ อาสาอา่ นนา้ ๒. การร้จู กั เลอื กอย่าง มีเหตผุ ล - การเลอื กซืออาหารทม่ี ี ประโยชน์
แผนการจดั ประสบการณช้ันอนบุ าล ๓ หนวยที่ ๒๔ เศรษฐกิจพอเพยี ง สปั ดาหท ี่ ๒๔ ครั้งที่ ๑ วนั ท.ี่ ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ สงั เกต เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้ การเคลอื่ นไหวทา่ ทางเพ่ือ สอ่ื สารความคิด กิจกรรมเคลอ่ื นไหว (2) การแสดง 1. ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวพนื ฐานตามจังหวะอย่าง 1. เคร่อื งเคาะจงั หวะ ความรสู้ กึ ของตนเองอยา่ ง อสิ ระ และปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการเคล่ือนไหว 2. เพลง “คณุ ธรรม หลากหลายและแปลกใหม่ และจังหวะ ความคดิ สร้างสรรค์ (ชา้ - เรว็ - หยุด ฯลฯ) พอเพยี ง” 2. เด็กและครรู ว่ มกันร้องเพลง 3. เทปเพลงบรรเลง สงั เกต เคล่อื นไหวท่าทาง ผา่ นภาษา ท่าทาง “คุณธรรมพอเพียง” การเล่าเป็นเร่อื งราว 3. เดก็ คดิ ทา่ ทางและเคลื่อนไหวตามความคดิ ตอ่ เนื่อง เพอื่ ส่ือสารความคิด การเคลอ่ื นไหว สรา้ งสรรค์ ความรสู้ กึ ของตนเอง อย่างหลากหลาย และแปลกใหมไ่ ด้ 4. ครูให้แรงเสริมเป็นระยะ ๆ ตามความ เหมาะสม 5. เดก็ พักผ่อนร่างกายอย่างอิสระ พร้อมฟงั ดนตรี กจิ กรรมเสริม (๓) การฟังเพลง 1. ภาษาและการรู้ 1. พฒั นาการทางภาษาและการรูห้ นงั สือ 1. หนงั สือนทิ านเร่ือง ประสบการณ์ นิทาน หนงั สือ 1.1 นา้ หนังสอื เรือ่ ง “ขนมบวั ลอยทอ่ี ร่อยทีส่ ุด” “ขนมบัวลอยท่ีอร่อย เลา่ เป็นเร่อื งราว (๔) การพูดแสดง 2. ความรเู้ กี่ยวกับหลัก มาใหเ้ ด็กดู ที่สุด” ตอ่ เนอ่ื งได้ ความคิดเหน็ ปรชั ญาของเศรษฐกิจ 1.2. ให้เดก็ คาดคะเน เรื่องจากปกว่าเปน็ เร่ือง 2. ภาพพระบรมฉายา ความรู้สกึ และความ เกี่ยวกบั อะไร ลกั ษณข์ อง ต้องการ พอเพียง 1.3 จดบนั ทึกชือ่ เดก็ พร้อมข้อความท่ีเดก็ พระบาทสมเดจ็ พระ (8) การรอจังหวะที่ คาดคะเน เจ้าอยหู่ วั รัชกาลที่ 9 เหมาะสมกบั การพดู 2.1 ความหมาย 1.4. ครอู า่ นหนังสือนิทานเร่ือง (10) การอา่ น - เศรษฐกจิ ทีส่ ามารถ “ขนมบัวลอยท่ีอร่อยที่สุด” จนจบโดยชีคา้ ตรงกับ อุ้มชตู วั เองอย่โู ดยไมต่ อ้ ง เดอื ดร้อน
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ หนังสอื ภาพ นิทาน - เป็นปรัชญาชถี งึ เสยี งที่อ่าน (12) การเหน็ แนวทางการดา้ เนนิ ชวี ิต 1.5 ครูอา่ นขอ้ ความท่ีเด็กคาดคะเนไว้และถาม แบบอยา่ งของการ และปฏิบตั ติ นของ ความเห็นเรอื่ งชื่อของนิทานอีกครังหนึง่ อา่ นท่ถี ูกต้อง ทกุ ระดับ 1.6 ครูอา่ นชอื่ เร่ืองนิทานใหเ้ ด็กฟังและให้เด็ก (19) การเห็น 2.2 ความเป็นมา อ่านตาม แบบอย่างการเขียน เปน็ ปรชั ญาที่ 1.7. ครสู นทนาเก่ียวกบั เรื่องทีอ่ ่านโดย ใน ทถี่ ูกต้อง พระบาทสมเดจ็ พระ ประเด็นเรือ่ ง การพง่ึ พาตนเองและการช่วยเหลอื (2) การปฏบิ ัตติ น เจ้าอยหู่ ัวรชั กาลที่ 9 แบ่งปนั ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตามแนวทางหลกั พระราชทาน - ทา้ ไม วัว หมี เปด็ จึงหนไี ปอยู่บนเนนิ เขา ปรัชญาเศรษฐกิจ พระราชดา้ ริ ชีแนะ - ถ้าบา้ นเดก็ ๆ เกดิ นา้ ท่วมเด็กจะอย่างไร พอเพยี ง แนวทางการดา้ เนนิ ชีวิต เพราะเหตุใด 3. การปฏิบตั ติ ามหลัก 3. เด็กดูภาพพระบรมฉายาลกั ษณ์ของ ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั รชั กาลที่ 9 - การประหยดั - การพ่ึงตนเอง เด็ก ๆ คิดถึงอะไร 4. ครเู ลา่ เรอ่ื งแนวพระราชด้ารหิ ลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง - การมีเหตผุ ล
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ สงั เกต การร้อยดอกไมใ้ บไม้และ กจิ กรรมศลิ ปะ (3) การป้นั 1. เด็กทา้ กจิ กรรมปนั้ ดินนา้ มัน และรอ้ ยใบไม้และ 1. ดอกไมช้ นดิ ต่าง ๆ ร้อยวสั ดทุ ม่ี ี เสน้ ผ่าศูนย์กลาง สร้างสรรค์ (5) การร้อยวสั ดุ ดอกไม้ 2. ก้านมะพร้าวหรือ 0.25 ซม. 2. การทา้ งานท่ีได้รับ 1. รอ้ ยดอกไม้ใบไม้ (1) การปฏบิ ัติ 2. ครแู นะน้าและสาธิตวิธีการร้อยดอกไมแ้ ละ วัสดทุ อ้ งถิ่นท่ีใชร้ อ้ ย มอบหมายจนส้าเร็จด้วย ตนเอง และรอ้ ยวัสดทุ ี่มี กจิ กรรมตา่ ง ๆ ตาม ใบไม้ โดยใช้ก้านมะพร้าวรอ้ ยหรือใชว้ สั ดทุ ่ีหาได้ ดอกไม้ได้ เสน้ ผ่าศูนย์กลาง ความสามารถของ ในทอ้ งถน่ิ 3. ส้าเทียน , สนี ้า 0.25 ได้ ตนเอง 3. เดก็ วาดภาพอิสระ 4. กระดาษ 2. ทา้ งานที่ได้รบั 4. น้าเสนอผลงานของตนเอง มอบหมายจนส้าเร็จ 5. เก็บอุปกรณ์และท้าความสะอาด ดว้ ยตนเองได้ กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (1) การเลน่ เครื่อง 1. เดก็ เลือกกจิ กรรมเลน่ ตามมุมประสบการณ์ - มุมประสบการณ์ สงั เกต ในห้องเรียน การเกบ็ ของเลน่ ของใช้ เก็บของเล่นของใช้ เล่นสัมผัสจากแทง่ ไม้ ตามความสนใจมมุ ประสบการณค์ วรมอี ยา่ งน้อย เขา้ ที่อยา่ งเรยี บร้อยด้วย ตนเอง เขา้ ที่อยา่ งเรยี บร้อย (3) การใหค้ วาม ๔ มุม เชน่ ด้วยตนเองได้ รว่ มมือในการปฏิบตั ิ - มมุ ธรรมชาติศึกษา - มุมหนังสอื กจิ กรรมต่าง ๆ - มุมบลอ็ ก - มุมเกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มมุ เคร่อื งเลน่ สมั ผสั 2. เม่ือหมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ทีใ่ ห้เรียบร้อย
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ การเลน่ ทรายและการเลน่ นา้ 1. ลานทราย สังเกต กิจกรรมกลางแจ้ง 1. น้าเดก็ ไปทส่ี นามเด็กเล่น 2. อุปกรณเ์ ล่นทราย การเล่นรว่ มกับเพ่อื นอยา่ ง เล่นรว่ มกับเพ่ือน (1) การเล่นหรอื ท้า 2. แนะนา้ และสาธิตวธิ กี ารเลน่ ทรายและ และเลน่ นา้ มีเป้าหมาย อยา่ งมเี ป้าหมายได้ กจิ กรรมรว่ มกับกลุ่ม เล่นนา้ ท่ีถกู ต้องและปลอดภยั 3. อุปกรณ์ทา้ ความ เพอ่ื น 3. เด็กเลน่ ทรายและเล่นนา้ อย่างอิสระ สะอาด สังเกต 4. เมื่อหมดเวลาเด็กเกบ็ อุปกรณ์การเล่น การจับคูแ่ ละเปรยี บเทียบ เกมการศกึ ษา (13) การจับคู่ ทรายและเล่นนา้ ล้างมือท้าความสะอาดก่อน 1. เกมจบั คภู่ าพสัมพนั ธ์ ความแตกตา่ งและความ จบั คแู่ ละ การเปรยี บเทียบ กลับหอ้ งเรยี น กันแบบอุปมา-อปุ มัย เหมอื นของสงิ่ ตา่ งๆ เปรยี บเทียบความ ความเหมอื นความ 2. เกมที่เล่นมาแล้ว แตกต่างและความ ตา่ ง 1. เด็กเลน่ เกมจบั คู่ภาพสมั พันธก์ นั เหมือนของสง่ิ ตา่ งๆ แบบอปุ มา - อปุ มยั ได้ 2. เด็กเล่นเกมชดุ ใหมแ่ ละเกมทีเ่ คยเลน่ มาแลว้ 3. เมื่อเล่นเสรจ็ เด็กเกบ็ เกมการศกึ ษา เข้าที่เดิม
แผนการจัดประสบการณช ้ันอนบุ าล ๓ หนว ยท่ี ๒๔ เศรษฐกจิ พอเพียง สปั ดาหที่ ๒๔ ครั้งท่ี ๒ วันที่................เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ 1. เดก็ เคล่ือนไหวสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายอย่างอสิ ระ ตามจงั หวะและสัญญาณช้า-เรว็ -หยดุ กจิ กรรมเคล่อื นไหว (2) การแสดงความคิด 2. ครแู จกปา้ ยแขวนคอภาพเงนิ จ้าลองท่ีมคี า่ ของเงิน 1. เครือ่ งเคาะ สังเกต เทา่ กบั 1 บาท และ 2 บาท และจังหวะ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา 3. เด็กยืนเป็นวงกลม หันหนา้ ไปทางขวามือ จงั หวะ การเคลอ่ื นไหวทา่ ทาง 4. เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายประกอบเพลง “รวมเงิน” เคลือ่ นไหวท่าทาง ทา่ ทาง การเคลื่อนไหว โดยให้ทุกคนร้าวงไปรอบ ๆ เมือ่ เพลงจบให้ปฏบิ ตั ิตาม 2. เพลง “รวมเงิน” เพื่อส่ือสารความคิด ค้าสัง่ เช่น รวมเงินกนั ให้ได้ 5 บาท 10 บาท เพ่ือส่ือสารความคดิ 5. เดก็ หยุดพกั ผอ่ นคลายกล้ามเนอื 3. ปา้ ยแขวนคอภาพ ความรูส้ ึกของตนเอง ความร้สู กึ ของตนเอง เงนิ จา้ ลอง อย่างหลากหลายและ อยา่ งหลากหลาย แปลกใหม่ และแปลกใหมไ่ ด้ กจิ กรรมเสริม (๓) การฟังเพลง นิทาน ๑. การส่งเสริม ๑. การสง่ เสรมิ พฒั นาการทางภาษาและ การรหู้ นังสอื 1. หนังสอื นิทาน สังเกต ประสบการณ์ (8) การรอจังหวะที่ พฒั นาการทางภาษา 1.๑. เดก็ อา่ นหนงั สือนิทานเรื่อง“ขนมบัวลอยที่อร่อย “ขนมบัวลอยทอ่ี ร่อย 1. การฟังผู้อืน่ พูดจน 1. ฟงั ผอู้ น่ื พดู จนจบ เหมาะสมกับการพูด และการรูห้ นงั สือ ที่สุด” พรอ้ มกันจนจบ ๑ รอบ ท่สี ุด” จบและสนทนา และสนทนาโต้ตอบ (10) การอ่านหนังสอื ๒. การประหยัด ๑.๒ ครแู นะนา้ สว่ นประกอบหนงั สอื ทลี ะหนา้ ได้แก่ 2. เพลง “ออมเงิน” โตต้ อบอยา่ งต่อเนื่อง อย่างต่อเน่ือง ภาพ นทิ าน ร้จู กั - การออมเงนิ เชอ่ื มโยงกับเร่ืองท่ีฟัง เชือ่ มโยงกบั เรื่องท่ี สว่ นประกอบหนังสือ - การใชส้ ่ิงของเครือ่ งใช้/ ปกหนา้ ปกใน ชอ่ื ผูแ้ ตง่ ผวู้ าดภาพ เนอื เร่ือง 2. การใชส้ ่ิงของ ฟังได้ ปกหนา้ ปกใน นา้ /ไฟ เคร่อื งใช้อยา่ ง 2. ใช้ส่งิ ของ ชอื่ ผูแ้ ต่ง ผวู้ าด 3. ชนิดและคา่ ของเงนิ ๑.๓ สนทนากบั เด็กและซักถามเกยี่ วกบั ประหยัดและพอเพยี ง เครอ่ื งใช้อย่าง เนือเร่ือง เหรยี ญและธนบตั ร ด้วยตนเอง ประหยัดและ การดา้ เนนิ ชีวิตอย่างประหยัดและ พอประมาณ (ขณะหนีนา้ มายังมเี สบียงอาหารมาด้วย รจู้ กั ใช้ของ อย่างประหยัด อดออม ทา้ ใหเ้ หลอื เกบ็ ไวใ้ ช้ยามจา้ เปน็ )
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ เรยี นรู้ พฒั นาการ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้ พอเพียงดว้ ย ตนเองได้ (12) การเห็น เหรยี ญและธนบัตร 2. ครแู ละเด็กร่วมกนั ร้องเพลง “ออมเงนิ ” 3. สีเทียนหรอื สีไม้ 3. อาสาสมัครเดก็ ออกมาเลา่ ประสบการณเ์ กยี่ วกบั การ แบบอย่างของการอ่าน น้าเงนิ มาโรงเรยี นของเด็กในแตล่ ะวนั ใช้จ่ายอย่างไร น้าไปซืออะไร รายได้กบั รายจา่ ยสมดุลกนั หรอื ไม่ ทถ่ี กู ต้อง 4. เด็กและครรู ่วมสนทนาโดยใชค้ ้าถามดังนี (1) การช่วยเหลอื - เด็ก ๆ จะมวี ิธีประหยดั และออมเงนิ อยา่ งไร - การประหยดั และอดออมมีประโยชนอ์ ย่างไร ตนเองในกิจวตั ร 5. ครแู ละเด็กสรา้ งข้อตกลงร่วมกนั ถงึ วธิ ีการออมโดย นา้ เงินไปหยอดกระปุกออมสิน ในแตล่ ะครงั ให้เดก็ ประจา้ วนั บนั ทึกการฝากเงินโดยการฝนเหรยี ญลงในตารางและ เขยี นตัวเลขจา้ นวนเงินที่หยอดกระปุกออมสิน (2) การใช้วสั ดุสิ่งของ ลงในเหรยี ญท่ีฝน เชน่ เครอ่ื งใช้อยา่ งคุ้มคา่ (8) การนบั และแสดง จา้ นวนของสง่ิ ต่าง ๆ ในชวี ติ ประจ้าวนั (15) การใช้ภาษา ทางคณิตศาสตร์กบั เหตุการณใ์ น ชีวิตประจ้าวนั
จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ สงั เกต กจิ กรรมศลิ ปะ (2) การแสดงความคิด 1. ครูแนะน้าอปุ กรณ์และสาธิตการทา้ มลู่ จ่ี ากกระดาษ 1. กระดาษสีจาก 1. การสรา้ งผลงาน เหลอื ใช้ วาสารหรอื ใบ ศลิ ปะเพ่ือส่ือสาร สร้างสรรค์ สร้างสรรคผ์ ่านภาษา 2. เด็กแบ่งกลมุ่ 3 – 4 คน ตามความสมัครใจ โฆษณา ความคิด ความรูส้ ึก 3. ผู้แทนกลมุ่ มารบั อุปกรณ์ต่างๆและวางแผนลงมอื 2. กรรไกร ของตนเองโดยมีการ 1. สรา้ งผลงาน ท่าทางและศลิ ปะ ประดิษฐม์ ูล่ ที่ ้าผลงานรวมกลุ่มกัน 3. กาว ดดั แปลงแปลกใหม่ 4. ท้ามลู่ ี่ท่ีเสรจ็ วางไว้ให้กาวแหง้ พร้อมร้อยในวันต่อไป 4. ไมเ้ สียบลูกชิน จากเดมิ และมี ศิลปะเพื่อสื่อสาร (4) การประดิษฐส์ ่งิ หรอื หลอดดูดนม รายละเอียดเพมิ่ ขึน ขนาดเลก็ 2. การใชส้ ง่ิ ของ ความคดิ ต่าง ๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ เคร่ืองใช้อย่าง ประหยดั และพอเพยี ง ความรู้สกึ ของ (5) การหยิบจับ ดว้ ยตนเอง ตนเองโดยมีการ การใช้กรรไกร การตดั ดัดแปลงแปลกใหม่ การปะ จากเดมิ และมี (2) การใช้วสั ดุและ รายละเอยี ด ส่งิ ของเครื่องใชอ้ ย่าง เพิม่ ขึนได้ คมุ้ ค่า 2. ใชส้ ิ่งของ (3) การทา้ งานศิลปะท่ี เครือ่ งใช้อยา่ ง นา้ วัสดุหรือส่งิ ของ ประหยดั และ เครอ่ื งใช้ที่ใช้แล้ว พอเพียงดว้ ย มาใช้ซ้า ตนเองได้ กจิ กรรม (3) การใหค้ วาม 1. เดก็ เลือกกิจกรรมเลน่ ตามมุมประสบการณ์ตามความ อุปกรณ์มมุ สงั เกต การเกบ็ ของเล่นของ เลน่ ตามมมุ ร่วมมือในการปฏบิ ัติ สนใจ มมุ ประสบการณค์ วรมีอยา่ งน้อย ๔ มุม เชน่ ประสบการณ์ใน ใช้เขา้ ท่อี ย่าง เรยี บร้อยดว้ ยตนเอง เกบ็ ของเลน่ ของใช้ กิจกรรมต่าง ๆ - มุมธรรมชาตศิ กึ ษา - มุมหนงั สอื หอ้ งเรยี น เขา้ ท่ีอยา่ ง - มุมบลอ็ ก - มมุ เกมการศึกษา เรียบรอ้ ยไดด้ ว้ ย - บทบาทสมมติ - มมุ เครื่องเลน่ สัมผสั ตนเอง 2. หมดเวลาเดก็ ทเี่ กบ็ ของเขา้ ท่ใี ห้เรยี บร้อย
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ สังเกต กิจกรรมกลางแจ้ง (1) การเลน่ หรอื ทา้ 1. เดก็ เลือกเล่นอปุ กรณ์ในสนามเด็กเลน่ ตามความสนใจ สนามเดก็ เลน่ การเลน่ รว่ มกับเพ่ือน เลน่ รว่ มกับเพ่ือน กจิ กรรมร่วมกับกลมุ่ อย่างอิสระ อยา่ งมีเป้าหมาย อย่างมีเป้าหมายได้ เพอ่ื น 2. เมือ่ หมดเวลา ช่วยกนั เก็บทา้ ความสะอาดสนาม ลา้ งมือ กลบั เข้าห้องเรยี น เกมการศึกษา (13) การจบั คู่ 1. ครแู นะน้าให้เด็กเล่นเกมจับคภู่ าพที่มีเสยี งพยัญชนะ 1. เกมจบั ค่ภู าพ สังเกต จับคูแ่ ละ การเปรยี บเทียบความ ตน้ เหมอื นกัน ที่มีเสียงพยัญชนะ การจับคแู่ ละ เปรยี บเทยี บความ เหมอื นความตา่ ง 2. เดก็ เล่นเกมชดุ ใหม่และเกมทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว ตน้ เหมอื นกัน เปรยี บเทียบความ แตกตา่ งและความ 3. เมื่อเลน่ เสรจ็ เด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าทเ่ี ดมิ 2. เกมที่เล่น แตกตา่ งและความ เหมอื นของ มาแล้ว เหมือน สิ่งต่าง ๆ ได้ ของสง่ิ ตา่ ง ๆ
แผนการจัดประสบการณชัน้ อนุบาล ๓ หนวยที่ ๒๔ เศรษฐกจิ พอเพียง สัปดาหท่ี ๒๔ คร้งั ที่ ๓ วันที่................เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ สังเกต การเคลือ่ นไหวท่าทางเพื่อ กจิ กรรม (2) การเคล่ือนไหว 1. เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายอิสระตามจังหวะและ 1. เครื่องเคาะจังหวะ สอ่ื สารความคิด ความรู้สึกของตนเองอย่าง เคลื่อนไหวและ เคล่ือนท่ี สญั ญาณช้า-เรว็ -หยุด 2. เทปเพลง หลากหลายและแปลกใหม่ จงั หวะ (๓) การเคล่ือนไหว 2. เมอื่ ได้ยินสญั ญาณหยุดให้หยดุ เคลื่อนไหว 3. ริบบนิ สตี ่าง ๆ เคล่ือนไหวทา่ ทาง รา่ งกายพร้อมอุปกรณ์ 3. แจกริบบินสตี ่าง ๆ ใหเ้ ดก็ คนละ 1 เสน้ และ เพอื่ สื่อสาร (รบิ บนิ ) ใหย้ ืนห่างกนั พอควรครเู คาะจังหวะใหเ้ ดก็ ความคดิ (2) การแสดงความคดิ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายอย่างอสิ ระพร้อมกับถือริบบินสี ความรูส้ กึ ของ สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา ไปดว้ ย ตนเองอยา่ ง ท่าทาง การเคล่อื นไหว 3. เมือ่ ได้ยินสัญญาณ “หยุด” แต่ละครงั ใหป้ ฏบิ ัติ หลากหลายและ ตามคา้ สง่ั ครังละค้าสง่ั ดงั นี แปลกใหม่ได้ - จบั กลุ่มรบิ บนิ สีเดียวกันและเรียงล้าดับเปน็ แถว - แลกรบิ บนิ สกี บั เพือ่ นทม่ี สี ีต่างกนั - แลกรบิ บนิ สกี บั เพ่ือนที่มสี ีเหมือนกนั - โบกแถบริบบินขึน - ลง 4. เดก็ นัง่ ผ่อนคลายกลา้ มเนือโดยนัง่ หลบั ตา ในทา่ สบาย หายใจเข้า - ออกช้า ๆ
จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ 1. การส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาและการรู้ 1. หนงั สอื นิทานเรื่อง สงั เกต กจิ กรรมเสริม หนังสอื “ขนมบัวลอยอรอ่ ย 1. การเล่าเปน็ เรื่องราว ประสบการณ์ (8) การรอจังหวะท่ี 1. การสง่ เสรมิ ๑.๑. เดก็ และครูอ่านหนงั สือนิทานเร่อื ง ทส่ี ุด” ต่อเน่ือง 1. เลา่ เปน็ “ขนมบัวลอยทีอ่ ร่อยทีส่ ดุ ”พร้อมกันจนจบ 2. แถบประโยค“ขนม 2. การรับประทานอาหาร เรอ่ื งราวตอ่ เนื่องได้ เหมาะสมกับการพูด พฒั นาการทางภาษา ฝึกเติมค้าดว้ ยปากเปล่าเมื่ออ่านถึงค้าท่ีพบบ่อย บัวลอยทอ่ี ร่อยท่สี ดุ ” ดว้ ยตนเองได้อยา่ งถูกวิธี 2. รบั ประทาน ๑.๒ ท้ากิจกรรมเติมตวั อักษร เช่น เ -็ด (เป็ด) 3. เสอื ผา้ ชนิดต่าง ๆ 3. การค้นหาค้าตอบของ อาหารด้วยตนเอง (10) การอา่ นหนังสือ และการรู้หนงั สือ 1.3 ครสู นทนากับเดก็ และซกั ถามเกีย่ วกบั 4. อุปกรณใ์ นการ ข้อสงสยั ต่าง ๆ ด้วยตนเอง ไดอ้ ย่างถกู วธิ ี รับประทานอาหาร เชน่ 3. ค้นหาค้าตอบ ภาพนทิ าน ๒. การพึ่งพาตนเอง - การพ่งึ พาตนเอง(การหนีนา้ มาด้วยตนเอง) จาน ช้อนสอ้ ม ของข้อสงสยั ต่าง ๆ - เดก็ ๆ ท้าอะไรไดด้ ้วยตนเองบา้ ง 5. หนังสือโฆษณาต่างๆ ดว้ ยตนเองได้ (12) การเหน็ - การเลือกเคร่อื งแตง่ 2. เด็กดเู สือผ้าชนดิ ตา่ ง ๆ เช่น เสอื กนั ฝน หรือภาพโปสเตอร์ เสอื กนั หนาว เสือกลา้ ม แบบอยา่ งของการ กายและการแตง่ ตวั ด้วย 3. ครูใหเ้ ดก็ ระดมความคิดเก่ียวกบั ลักษณะสภาพ อ่านทีถ่ ูกต้อง อากาศในฤดูร้อน ฤดฝู น ฤดูหนาว ควรเลอื ก (19) การเห็น ตนเอง เสือผ้าอย่างไร แบบอยา่ งการเขียน - การรับประทานอาหาร 4. เดก็ เลอื กเสอื ผ้าที่ครูจัดเตรียมไว้ให้เหมาะสม ทีถ่ กู ต้อง ด้วยตนเองอย่างถูกวธิ ี กบั กบั ฤดูกาล 5. เด็กจัดกลุ่มเสือผ้าที่ควรใส่ในสภาพอากาศ (๑) การชว่ ยเหลือ ตา่ งๆ จากหนังสือโฆษณาต่างๆ 6. เด็กฝึกปฏบิ ตั ิการรับประทานอาหารอย่างถูก ตนเองในกจิ วัตร วธิ ี เชน่ การจบั ช้อนด้วยมือขวา สอ้ มด้วยมือซา้ ย การใช้ชอ้ นกลาง ไมเ่ ลือกรับประทานอาหาร ประจา้ วัน (2) การปฏิบตั ิตนตาม แนวทางหลักปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (1) การส้ารวจ สิ่งต่าง ๆ และ แหลง่ เรียนรู้ (17) การคาดเดาหรือ คาดคะเนสิ่งที่อาจ เกิดขึนอย่างมีเหตุผล
(3) การสืบเสาะหา เฉพาะอยา่ ง ตกั อาหารให้พอค้า ไมค่ ุยขณะ ความรู้เพ่ือคน้ หา ค้าตอบ รับประทานอาหารเพราะอาจส้าลักหรือติดคอได้ เวลาเคียวใหห้ บุ ปากและเคยี วใหล้ ะเอยี ดก่อนกลืน เพราะอาหาร บางอยา่ งอาจมีก้างปลาตดิ อยูจ่ ะทา้ ให้ตดิ คอ ไมด่ ื่มนา้ ขณะรบั ประทานอาหาร และ ระมัดระวงั ไม่ใหอ้ าหารหกเลอะเทอะ รับประทานอาหารและนมให้หมดไมเ่ หลือทิง กิจกรรมศิลปะ (๒) การเขยี นภาพ 1. เด็กวาดภาพเสือผา้ ที่ควรใส่ในฤดกู าลต่าง ๆ 1. กระดาษ สังเกต การสร้างผลงานศลิ ปะเพ่ือ สร้างสรรค์ (3) การปัน้ และตกแต่งตามจินตนาการ 2. สเี ทียน ส่อื สารความคดิ ความร้สู ึกของตนเองโดยมี สรา้ งผลงานศิลปะ (2) การแสดงความคิด 2. ปั้นดินน้ามันอิสระ ๓. ดนิ น้ามนั การดดั แปลงแปลกใหม่ จากเดมิ และมรี ายละเอียด เพอื่ ส่ือสาร สร้างสรรคผ์ า่ นภาษา ๔. แผน่ รองป้นั เพ่มิ ขนึ ความคดิ ท่าทางและศิลปะ ความรูส้ กึ ของ ตนเองโดยมีการ ดัดแปลงแปลกใหม่ จากเดมิ และมี รายละเอยี ด เพม่ิ ขึนได้ กิจกรรมเล่นตาม (3) การให้ความ 1. เด็กเลือกกจิ กรรมเล่นตามมุมประสบการณ์ 1. มมุ ประสบการณ์ใน สงั เกต มมุ ร่วมมอื ในการปฏบิ ตั ิ ตามความสนใจ มุมประสบการณค์ วรมีอย่างน้อย หอ้ งเรียน การเกบ็ ของเล่นของใช้ เก็บของเลน่ ของใช้ กิจกรรมตา่ ง ๆ ๔ มมุ เช่น 2. กรอบไมแ้ ตง่ ตัว เช่น เข้าท่ีอย่างเรยี บร้อยด้วย เขา้ ที่อย่าง (1) การเล่นเคร่ืองเล่น - มมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา - มุมหนงั สอื การตดิ กระดุมเสือ ตนเอง เรยี บรอ้ ยไดด้ ว้ ย สมั ผสั และการสรา้ ง - มมุ บลอ็ ก - มุมเกมการศึกษา การผกู เชือกรองเทา้ ตนเอง จากแทง่ ไมบ้ ล็อก - บทบาทสมมติ (มุมบา้ น เสอื ผ้าตามฤดูกาลตา่ งๆ
รองเทา้ กระเปา๋ ถือทีไ่ ม่ใชแ้ ลว้ เตารีด ทีร่ ดี ผา้ จา้ ลอง) - มุมเครอ่ื งเล่นสมั ผสั 2. เมื่อหมดเวลาเดก็ เก็บของเขา้ ที่ใหเ้ รยี บร้อย กจิ กรรมกลางแจ้ง (1) การเคล่ือนไหว 1. พาเด็กเดนิ เขา้ แถวไปท่สี นามเด็กเลน่ 1. นกหวีด สงั เกต วง่ิ หลบหลกี ส่ิงกีด เคลอ่ื นท่ี 2. เด็กยืนเป็นวงกลม 2. กระป๋องนม การว่ิงหลบหลีก สง่ิ กีด ขวางได้อยา่ ง 3. อบอนุ่ ร่างกาย โดยให้เด็กว่ิงอยู่กับที่ และ 3. เกมการวิง่ หลบหลกี ขวางได้อยา่ งคล่องแคลว่ คล่องแคล่วได้ กระโดดตบ หมุนแขน สิ่งกีดขวาง 3. ครสู าธติ และก้าหนดข้อตกลงในการเลน่ และเลน่ ว่ิงหลบหลกี สงิ่ กีดขวาง 5. ให้เดก็ เลน่ อสิ ระ และเลน่ เครอื่ งเลน่ สนาม เกมการศกึ ษา (13) การจบั คู่ 1. เด็กเลน่ เกมการวางภาพต่อปลายโดมิโน 1. เกมการวางภาพต่อ สังเกต จบั คูแ่ ละ การเปรียบเทียบความ สมั พนั ธก์ นั ปลายโดมิโนสมั พันธก์ นั การจับคู่ เปรยี บเทยี บ เปรยี บเทียบความ เหมือนความต่าง 2. เด็กเลน่ เกมชดุ ใหมแ่ ละเกมที่เคยเล่นมาแลว้ 2. เกมที่เลน่ มาแลว้ ความแตกต่างและความ แตกตา่ งและ 3. เมอ่ื เลน่ เสร็จเด็กเก็บเกมการศกึ ษาเขา้ ท่ีเดมิ เหมอื นของสิง่ ตา่ ง ๆ ความเหมือน ของสง่ิ ต่าง ๆ ได้
แผนการจัดประสบการณชนั้ อนุบาล ๓ หนว ยที่ ๒๔ เศรษฐกจิ พอเพยี ง สัปดาหท ี่ ๒๔ คร้งั ท่ี ๔ วนั ท.่ี ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ 1. เดก็ เคลื่อนไหวสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายอยา่ ง 1. เคร่อื งเคาะจงั หวะ สังเกต เคล่ือนไหวและ (2) การแสดงความคิด อิสระ ตามจงั หวะและสญั ญาณช้า-เรว็ -หยดุ 2. เพลง “เลน่ กนั ” การเคลอ่ื นไหวทา่ ทางเพื่อ จงั หวะ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา 2. ร่วมกันร้องเพลง“เล่นกนั ”และเคล่ือนไหว สื่อสารความคดิ เคลื่อนไหวทา่ ทาง ท่าทาง การเคล่ือนไหว ร่างกายอย่างอสิ ระตามจังหวะเพลง ความรูส้ กึ ของตนเองอย่าง เพื่อส่ือสาร 3. ให้เด็กยนื เปน็ วงกลม และอาสาสมัคร 1 คน หลากหลายและแปลกใหม่ ความคิด ออกมายืนกลางวงเปน็ ผนู้ ้าในการเคล่อื นไหว ความรสู้ ึกของ ท่าทางอยา่ งอิสระตามจังหวะเพลง ใหเ้ พื่อนที่อยู่ ตนเองอยา่ ง ในวงท้าตาม เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณ “หยุด” ใหห้ ยดุ หลากหลายและ และเปล่ียนกันออกมาเปน็ ผูน้ ้า แปลกใหม่ได้ 4. พักผ่อนคลายกลา้ มเนือ โดยการนอนราบไป กบั พนื แขนแนบล้าตวั
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ กิจกรรมเสรมิ (8) การรอจังหวะใน ๑.การสง่ เสรมิ 1. การสง่ เสรมิ พัฒนาการทางภาษาและการรู้ 1. หนงั สอื นิทาน “ขนม สงั เกต ๑. การอ่านภาพสญั ลกั ษณ์ ประสบการณ์ การพูด พัฒนาการทางภาษา หนงั สอื บวั ลอยทอ่ี ร่อยทสี่ ดุ ” ค้า ดว้ ยการชหี รอื กวาดตา ตามมองจดุ เริม่ ตน้ และจุด ๑. อา่ นภาพ (9) การพูดเรยี งล้าดบั ค้า และการรูห้ นังสือ 1.1 เดก็ และครอู ่านหนงั สือนิทาน “ขนมบวั ลอยที่ 2. กระดาษจดบนั ทึก จบของขอ้ ความ 2. การจดบนั ทึกของกลุ่ม สัญลกั ษณ์ ค้า ด้วย เพ่ือใชใ้ นการสื่อสาร 2.การพึง่ พาตนเอง อรอ่ ยท่สี ุด”พรอ้ มกนั จนจบ 1 รอบ 3. ภาพประกอบ การชหี รือกวาดตา (10) การอา่ นหนังสอื 3. การนับและแสดง 1.2 อ่านพร้อมกนั อีกครงั โดยครใู ช้กระดาษปดิ ส่วนผสมของขนมบัว ตามมองจุดเริม่ ต้น ภาพ นิทาน จา้ นวน 1 - 12 คา้ ให้เด็กทาย เม่ืออ่านคา้ ท่ีทายแล้ว ให้เด็กเปิดดู ลอย และจดุ จบของ (12) การเห็นแบบอยา่ ง 4. การเปรยี บเทียบ วา่ ถกู ต้องหรอื ไม่ - แป้ง ขอ้ ความได้ ของการอา่ นทีถ่ ูกต้อง จ้าแนก 1.3 ให้เดก็ เลือกปิดคา้ เองและให้เพอื่ นทาย - น้าตาล 2. จดบันทกึ และ (20) การเขยี นร่วมกัน 2. ใหเ้ ด็กชว่ ยกันคิดและวางแผน การท้าขนมบวั - น้ากะทิ รวบรวมข้อมูลได้ ตามโอกาสต่าง ๆ ลอยวา่ กลุ่มไหนจะน้าของมาทา้ ขนมบวั ลอยบ้าง - ใบเตย (1) การชว่ ยเหลือตนเอง ครูเขยี นส่วนประกอบและวาดภาพประกอบ ฯลฯ ในกจิ วัตรประจา้ วัน ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มช่วยกนั เลือก เช่น แปง้ ขา้ วเหนียว (3) การใหค้ วามร่วมมือ นา้ ตาล กะทิ ใบเตย ฯลฯ ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม 3. เดก็ จดบนั ทึกว่ากลุ่มตนเองต้องน้าอะไรมาบา้ ง ต่าง ๆ (4) การมีสว่ นร่วมใน การรวบรวมขอ้ มูลและ นา้ เสนอข้อมูล
จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ สงั เกต การรอ้ ยวัสดุที่มีรูขนาด (5) การคัดแยก การจดั 1. เดก็ น้ากระดาษที่มว้ นไว้ จากวนั ท่ี 2 ของสัปดาห์ 1. กระดาษมว้ นท่ี เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง กลุ่มและการจ้าแนก 0.25 ซ.ม. สงิ่ ของตา่ ง ๆ ตาม เตรยี มไว้ส้าหรับร้อยเปน็ ม่ลู ี่ ประดิษฐไ์ ว้ ส้าหรบั ลักษณะรูปร่าง สงั เกต 2. วางแผนรว่ มกันว่ากลมุ่ ของตนเองจะรอ้ ยอยา่ งไร ท้ามลู่ ่ี การเกบ็ ของเล่นของใช้ กิจกรรมศิลปะ (5) การร้อยวสั ดุ เข้าที่อย่างเรียบร้อย สร้างสรรค์ ให้สวยงามไมเ่ หมือนเพอื่ น 2. เชือกรอ้ ยมาลยั ดว้ ยตนเอง ร้อยวสั ดทุ มี่ รี ขู นาด เส้นผ่าศนู ยก์ ลาง 3. เด็กชว่ ยกนั รอ้ ยมู่ลเี่ ปน็ สายตามท่ีวางแผนไว้ คนละ 3. ลกุ ปดั สีตา่ งๆ 0.25 ซม. ได้ 1 เส้น กิจกรรม (3) การใหค้ วามรว่ มมือ 1. เด็กเลือกกิจกรรมเล่นตามมมุ ในมุมประสบการณ์ มมุ ประสบการณ์ใน เล่นตามมุม ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ตามความสนใจมมุ ประสบการณค์ วรมอี ย่างน้อย หอ้ งเรียน เก็บของเลน่ ของใช้ ตา่ ง ๆ ๔ มุม เช่น เข้าที่อยา่ เรียบร้อย - มมุ ธรรมชาติศกึ ษา - มุมหนังสือ ได้ด้วยตนเอง - มุมบลอ็ ก - มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมตุ ิ - มุมเครือ่ งเล่นสมั ผสั 2. เมอ่ื หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทีใ่ หเ้ รยี บร้อย 3. ครูชมเชยเด็กทีเ่ ก็บของเข้าที่ได้เรยี บร้อยเม่ือเลน่ เสร็จ
จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ สงั เกต 1. การเลน่ รว่ มกบั เพือ่ น กิจกรรมกลางแจง้ (1) การเลน่ หรือท้า 1. ครูแนะน้าวธิ ีเลน่ น้าและเล่นทรายทีถ่ ูกต้องและ 1. อุปกรณเ์ ลน่ นา้ อยา่ งมีเป้าหมาย ปลอดภยั เชน่ ขวด กระปอ๋ ง 2. การคาดคะเนสงิ่ ท่ีอาจ 1.เล่นร่วมกบั เพื่อน กจิ กรรมร่วมกับกลุ่ม กรวย เหยือก เกดิ ขึนและส่วนรว่ มในการ ๒. ครแู บ่งเด็กเป็น 2 กลุ่ม เล่นน้า และเลน่ ทราย 2. กระบะทราย ลงความคดิ เหน็ จากข้อมลู อย่างมีเป้าหมายได้ เพอื่ น - กลุม่ เล่นน้าทดสอบการจมและการลอย 3. แบบบนั ทึก อย่างมีเหตุผล 2. คาดคะเนส่งิ ท่ี (17) การคาดคะเนสิ่งท่ี 3. ครูตงั ค้าถาม เพราะเหตุใดวัตถบุ างอยา่ งจมนา้ การลอย-จม และบางอย่างลอยน้า(นา้ หนกั ของวตั ถุแต่ละชิน อาจเกิดขนึ และ อาจจะเกดิ ขนึ อย่าง แสดงถึงความหนาแน่นของเนือวัตถุ ถา้ ความ หนาแนน่ ของวตั ถมุ ากกว่าจะจมน้าและถ้าความ สว่ นรว่ มในการลง มเี หตผุ ล หนาแน่นนอ้ ยกว่านา้ วตั ถุจะลอยน้า) 4. เดก็ คาดเดาคา้ ตอบและบันทกึ ลงในแบบข้อมลู ความคดิ เหน็ จาก (3) การสืบเสาะหา 5. เด็กทดลองการจมและลอย ข้อมลู อย่างมี ความร้เู พื่อหาค้าตอบ 6. ครูและเด็กร่วมกนั สรุปผลการทดลองและบันทกึ การทดลองลงในแบบบันทึกการทดลองโดยการวาด เหตผุ ลได้ (4) การมสี ว่ นร่วมใน ภาพสิง่ ของทีจ่ มและลอย 7. หมนุ เวียนสลบั กนั เล่นทงั 2 กจิ กรรม การรวบข้อมลู และ 8. เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหมดเวลาใหท้ ุกคนชว่ ยกันเก็บ อุปกรณม์ าเขา้ แถวไปล้างมือและรับประทานอาหาร นา้ เสนอข้อมูล
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ 1 เดก็ เล่นเกมเรยี งล้าดับเหตุการณต์ ่อเนอ่ื ง 1. เกมเรียงล้าดับ สังเกต เกมการศึกษา (วงจรชวี ติ ของสัตว์) เหตกุ ารณ์ต่อเนอื่ ง เกมเรยี งล้าดับเหตุการณ์ เรยี งลา้ ดบั (14) การเรียงล้าดบั 2. เดก็ เล่นเกมชดุ ใหมแ่ ละเกมทีเ่ คยเล่นมาแลว้ (วงจรชีวติ ของสตั ว์) ตอ่ เนือ่ ง เหตกุ ารณ์อย่าง เหตุการณต์ ามช่วงเวลา 3. หมุนเวยี นกนั เลน่ รว่ มกัน 2. เกมท่ีเล่นมาแล้ว (วงจรชีวติ ของสตั ว์) น้อย 5 ล้าดับได้ 4. เมื่อเลน่ เสรจ็ เด็กเกบ็ เกมการศกึ ษาเข้าทเ่ี ดิม
แผนการจดั ประสบการณช ั้นอนุบาล ๓ หนวยท่ี ๒๔ เศรษฐกจิ พอเพยี ง สัปดาหท ่ี ๒๔ ครัง้ ที่ ๕ วนั ที่................เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ เคร่ืองเคาะจังหวะ สังเกต 1. เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายอิสระ โดยไมช่ นกัน การเคล่อื นไหวทา่ ทางเพื่อ เคลื่อนไหวและ (2) การแสดงความคดิ เมอื่ ได้ยินสญั ญาณหยุดใหห้ ยดุ ทันที 1. หนังสือนทิ าน สอ่ื สารความคิด จังหวะ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา 2. เด็กแสดงท่าทางตามค้าบรรยายที่ครูเลา่ โดย “ขนมบวั ลอยท่ีอร่อย ความรสู้ กึ ของตนเองอยา่ ง เคล่ือนไหวท่าทาง ทา่ ทาง การเคล่ือนไหว สมมตุ ติ นเองเปน็ เมล็ดทานตะวนั ทก่ี ้าลังงอกรากแก้ว ทีส่ ดุ ” หลากหลายและแปลกใหม่ เพอ่ื สื่อสาร แตกแขนงออกมามากมาย เร่ิมแตกใบค่อย ๆ สงู ขนึ 2. ภาพอาหารท่ไี มม่ ี ความคดิ (10) การอ่านหนังสือ 1. การอ่าน – เขียน เป็นตน้ ไม้ใหญ่ ออกดอกตูมและบาน เมื่อไดร้ ับ ภาชนะปิด สงั เกต ความรูส้ ึกของ ตามแบบอย่างที่ แสงอาทิตย์ดอกจะหนั หาดวงอาทิตย์ ลมเร่ิมพัด 3. ใบเตย 1. เขยี นชือ่ ของตนเองตาม ตนเองอยา่ ง ภาพ นทิ าน ถูกต้อง ต้นทานตะวนั แรงขนึ ตน้ ทานตะวันโอนเอน 4. ดอกอัญชนั แบบ เขียนข้อความดว้ ยวธิ ี หลากหลายและ 2. การรจู้ ักเลือกอย่าง ไปมา เมื่อลมหยุดพัดต้นทานตะวันก็หยุดอย่นู ิง่ 5. ฟกั ทอง ทค่ี ิดขึนเอง แปลกใหม่ได้ 12. การเหน็ แบบอย่าง มีเหตุผล 3. เดก็ หยุดพกั ผ่อนคลายกลา้ มเนือ ของการอา่ นทถ่ี ูกตอ้ ง - การเลอื กซืออาหาร ๑. การส่งเสริมพฒั นาการทางภาษาและการรู้ กิจกรรมเสริม (19) การเหน็ แบบอยา่ ง หนงั สือ ประสบการณ์ การเขยี นที่ถกู ต้อง ทีท่ ี่มีประโยชน์ ๑.๑ เด็กและครอู ่านหนังสอื นิทานเรื่อง 1. เขยี นช่ือของ “ขนมบวั ลอยทอ่ี ร่อยท่สี ดุ ” พร้อมกันจนจบ ๑ รอบ ตนเองตามแบบ ๑.๒ ใหเ้ ด็กอาสาออกมาอ่านพร้อมชีข้อความใหเ้ พื่อน เขยี นข้อความด้วย อา่ นไปพร้อมกัน วธิ ีท่ีคดิ ขึนเองได้ 1.3. ฝกึ การเขยี นอิสระ ตามความสนใจเขียน คา้ วลี หรอื ประโยคท่ีชอบจากหนงั สือนิทาน 1.4 สนทนากบั เด็กและซักถามเกยี่ วกับการเลอื ก อยา่ งมีเหตุผล เชน่ การเลอื กซือขนมหรอื อาหาร
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ 2. ชว่ ยเหลือและ (2) ฟงั นิทานเกี่ยวกับ ควรเลอื กอย่างไร 3. ใช้ส่งิ ของเครื่องใช้อยา่ ง แบง่ ปัน่ ผูอ้ ื่นไดด้ ว้ ย คุณธรรมจรยิ ธรรม 2. เดก็ เล่นบทบาทสมมุติ กิจกรรม อย. นอ้ ยคือ ประหยัดและพอเพียงดว้ ย ตนเองได้ (1) การสงั เกตลักษณะ เลือกซืออาหารและขนม สมมุตวิ า่ มีแม่คา้ ขายขนมใส่ ตนเอง 3. ใช้ส่งิ ของ สว่ นประกอบ สเี ข้ม, นา้ ส้มผสมสี,อาหารทไี่ มม่ ีภาชนะปิดกนั ฝนุ่ 4. บอกลักษณะ เครือ่ งใช้อย่าง การเปล่ียนแปลง และ มีแมลงวันตอม ลกู อม ขนมขบเคยี ว เด็กจะซือ สว่ นประกอบการ ประหยดั และ ความสัมพนั ธ์ของ หรอื ไม่ เด็กควรเลอื กซอื อาหารแบบไหนจงึ จะ เปลี่ยนแปลงหรอื พอเพียง สิง่ ต่าง ๆ โดยใช้ ปลอดภยั ตอ่ สุขภาพ ความสมั พนั ธข์ องสง่ิ ต่าง ๆ ดว้ ยตนเองได้ ประสาทสมั ผัสอย่าง 3. ครแู นะนา้ สีผสมอาหาร และสีจากธรรมชาติให้เดก็ จากการสงั เกตโดยใช้ 4. บอกลักษณะ เหมาะสม สังเกต ทดลองทา้ สจี ากใบเตย ดอกอญั ชนั ฟักทอง ประสาทสมั ผสั สว่ นประกอบการ (16) การอธบิ าย ฯลฯ เปลยี่ นแปลงหรือ เชื่อมโยงสาเหตแุ ละผลที่ 4. ทดลองป้ันแป้งข้าวเหนียวเปน็ ขนมบวั ลอยผสมกบั ความสมั พันธ์ของ เกิดขึน สจี ากธรรมชาติ ให้เดก็ กะขนาดของเมด็ บัวลอยและ สิง่ ตา่ ง ๆ จากการ ปริมาณสีธรรมชาตดิ ้วยตนเอง เพอ่ื ฝกึ ความประหยัด สังเกตโดยใช้ และความพอเพยี ง ประสาทสมั ผสั ได้
จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ การท้าขนมบวั ลอยที่อรอ่ ยทส่ี ุด 1. สนี า้ สงั เกต กิจกรรมศิลปะ 1. ครสู าธิตการท้าขนมบัวลอย โดยใช้แปง้ ทเ่ี ดก็ ปน้ั 2. พกู่ นั การร่วมมือกันทา้ ขนมไทย สร้างสรรค์ (2) การเลน่ กบั สี 2. เด็กแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกันแบง่ สว่ นประกอบของขนม 3. ผักชนิดตา่ ง ๆ ปนั้ และผสมสไี ด้ (3) การปน้ั บวั ลอยใหเ้ พียงพอครบทุกกลุ่ม 4. กระดาษ (2) การแสดงความคิด 3. การต้มขนมบัวลอยให้ต้มทีละกลมุ่ เพ่ือดู 5 จานใส่สี สร้างสรรค์ผ่านภาษา การเปลยี่ นแปลง ทา่ ทางและศิลปะ 4. น้าเสนอผลงานของแตล่ ะกลุ่ม พร้อมจดั อุปกรณ์ (3) การประกอบอาหาร รบั ประทานด้วยตนเอง ไทย กจิ กรรม (3) การใหค้ วามรว่ มมือ 1. มุมประสบการณว์ ันนเี ปน็ การเล่นบทบาทสมมติ - อปุ กรณต์ กแต่งโต๊ะ สงั เกต การจดั โตะ๊ อาหาร เพ่ือรบั ประทานขนมบวั ลอย อาหาร การเก็บของเล่นของใช้ เลน่ ตามมมุ ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม เข้าท่ีอย่างเรยี บร้อยด้วย เก็บของเล่นของใช้ ตา่ ง ๆ ตนเอง เข้าท่ีอย่าง เรยี บรอ้ ยได้ ด้วยตนเอง
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ สนามเดก็ เล่น เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้ 1. เด็กเลือกเล่นอปุ กรณ์ในสนามเด็กเลน่ ตามความ สังเกต สนใจอย่างอิสระ การเลน่ รว่ มกบั เพอ่ื นอยา่ ง กจิ กรรมกลางแจง้ (1) การเลน่ หรอื ท้า 2. เม่ือหมดเวลา ช่วยกันเก็บทา้ ความสะอาดสนาม มีเป้าหมาย ล้างมอื กลับเขา้ ห้องเรยี น เล่นรว่ มกับเพ่ือน กจิ กรรมร่วมกับกล่มุ 1. แนะนา้ เกมใหม่เกมพืนฐานการบวก 7 - 12 2. แบง่ เดก็ เล่นเกมใหม่ และเกมเดิมทมี่ ีอยูแ่ ลว้ อย่างมีเป้าหมายได้ เพอ่ื น หมนุ เวยี นกันเล่นรว่ มกนั 3. เมอื่ เลน่ เสร็จเด็กเกบ็ เกมการศึกษาเข้าทีเ่ ดมิ เกมการศกึ ษา (8) การนับและแสดง 1. พนื ฐานการบวก สงั เกต เรยี งล้าดับสง่ิ ของ จ้านวนของส่งิ ตา่ ง ๆ 7 - 12 การเรียงลา้ ดับ ตา่ ง ๆได้ ในชวี ติ ประจ้าวัน 2. เกมท่ีเล่นมาแล้ว ส่ิงของต่าง ๆ
1. เลขที่ ชอื่ -สกลุ 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 1.การวง่ิ หลบหลกี ส่ิงกีดขวางได้อย่างคล่องแคล่ว ด้านร่างกาย 2.การร้อยวสั ดุท่มี ีรขู นาดเส้นผ่าศนู ยก์ ลาง 0.25 ซม. ด้านอารมณ์และ จิตใจ 3.การช่วยเหลือและแบ่งปันผูอ้ ืน่ ดว้ ยตนเอง ดา้ นสงั คม แบบสงั เกตพฤติกรรมเดก็ 4.การสร้างผลงานศลิ ปะเพ่ือสอื่ สารความคิด ความรูส้ กึ ของ แผนการจัดประสบการณชน้ั อนบุ าล ๓ หนวยที่ ๒๔ เศรษฐกจิ พอเพียง ตนเองโดยมีการดดั แปลงแปลกใหม่จากเดมิ และมีรายละเอียด ประเมนิ พัฒนาการ เพม่ิ ขนึ 4.การเคลอ่ื นไหวทา่ ทางเพื่อส่อื สารความคิด ความรสู้ ึกของ ด้านสติปญั ญา ตนเองอยา่ งหลากหลายและแปลกใหม่ 6.ประกอบอาหารขนมบัวลอยและรบั ประทานอาหารดว้ ย ตนเองอย่างถกู วิธี 7ึ .การเก็บของเล่นของใชเ้ ขา้ ทอี่ ย่างเรียบรอ้ ยดว้ ยตนเอง 8.การใช้ส่งิ ของเคร่อื งใชอ้ ย่างประหยดั และพอเพียงด้วย ตนเอง 9.การเลน่ ร่วมกบั เพ่อื นอยา่ งมเี ป้าหมายรว่ มกัน 10.เล่าเปน็ เร่ืองราวต่อเนื่องได้ 11. อา่ นภาพสัญลักษณค์ า้ ด้วยการชีหรือกวาดตามอง จุดเรมิ่ ตน้ และจดุ จบ 12.การเขียนช่ือตนเองตามแบบ 13.การบอกลักษณะส่วนประกอบการเปลี่ยนแปลงหรือ ความสมั พันธ์ของสิ่งตา่ ง ๆ 14.จับคู่และเปรยี บเทียบความแตกตา่ งและความเหมือนของ ส่งิ ตา่ ง ๆโดยใชล้ กั ษณะท่ีสงั เกตพบสองลกั ษณะขนึ ไป 15.จา้ แนกและจดั กลมุ่ สงิ่ ต่าง ๆ โดยใช้ตังแต่สองลักษณะขนึ ไป 16.การเรยี งล้าดบั สิ่งของและเหตกุ ารณ์อยา่ งน้อย 5 ลา้ ดบั 17.การอธบิ ายเชือ่ มโยงสาเหตแุ ละผลทเ่ี กดิ ในเหตุการณ์หรอื การกระทา้ ดว้ ยตนเอง 18.การคาดคะเนสิ่งท่ีอาจเกิดขึนและมสี ว่ นร่วมในการลง ความคดิ เหน็ 21.คน้ หาคา้ ตอบดว้ ยวธิ ีที่หลากหลาย หมาย เหตุ
11. เลขท่ี ชื่อ-สกลุ 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. คาอธิบาย ระดับ ๓ ดี ครูสังเกตพฤตกิ รรมเดก็ รายบุคคล จดบันทึกสรปุ เปน็ รายสปั ดาหร์ ะบุระดับคณุ ภาพเปน็ ๓ ระดับ คือ 1.การวง่ิ หลบหลกี ส่ิงกีดขวางได้อย่างคล่องแคล่ว ดา้ นรา่ งกาย 2.การร้อยวสั ดุท่มี ีรขู นาดเส้นผ่าศนู ยก์ ลาง 0.25 ซม. ดา้ นอารมณ์และ จติ ใจ 3.การช่วยเหลือและแบ่งปันผูอ้ ืน่ ดว้ ยตนเอง ระดับ ๒ ปานกลาง ด้านสังคม 4.การสร้างผลงานศลิ ปะเพ่ือสอื่ สารความคิด ความรูส้ กึ ของ ระดบั ๑ ตนเองโดยมีการดดั แปลงแปลกใหม่จากเดมิ และมีรายละเอียด ประเมนิ พฒั นาการ เพม่ิ ขนึ ตอ้ งส่งเสริม 4.การเคลอ่ื นไหวทา่ ทางเพื่อส่อื สารความคิด ความรสู้ ึกของ ตนเองอยา่ งหลากหลายและแปลกใหม่ 6.ประกอบอาหารขนมบัวลอยและรบั ประทานอาหารดว้ ย ดา้ นสตปิ ญั ญา ตนเองอย่างถกู วิธี 7ึ .การเก็บของเล่นของใชเ้ ขา้ ทอี่ ย่างเรียบรอ้ ยดว้ ยตนเอง 8.การใช้ส่งิ ของเคร่อื งใชอ้ ย่างประหยดั และพอเพียงด้วย ตนเอง 9.การเลน่ ร่วมกบั เพ่อื นอยา่ งมเี ป้าหมายรว่ มกัน 10.เล่าเปน็ เร่ืองราวต่อเนื่องได้ 11. อา่ นภาพสัญลักษณค์ า้ ด้วยการชีหรือกวาดตามอง จุดเรมิ่ ตน้ และจดุ จบ 12.การเขียนช่ือตนเองตามแบบ 13.การบอกลักษณะส่วนประกอบการเปลี่ยนแปลงหรือ ความสมั พันธ์ของสิ่งตา่ ง ๆ 14.จับคู่และเปรยี บเทียบความแตกตา่ งและความเหมือนของ ส่งิ ตา่ ง ๆโดยใชล้ กั ษณะท่ีสงั เกตพบสองลกั ษณะขนึ ไป 15.จา้ แนกและจดั กลมุ่ สงิ่ ต่าง ๆ โดยใช้ตังแต่สองลักษณะขนึ ไป 16.การเรยี งล้าดบั สิ่งของและเหตกุ ารณ์อยา่ งน้อย 5 ลา้ ดบั 17.การอธบิ ายเชือ่ มโยงสาเหตแุ ละผลทเ่ี กดิ ในเหตุการณ์หรอื การกระทา้ ดว้ ยตนเอง 18.การคาดคะเนสิ่งท่ีอาจเกิดขึนและมสี ว่ นร่วมในการลง ความคดิ เหน็ 21.คน้ หาคา้ ตอบดว้ ยวธิ ีที่หลากหลาย หมาย เหตุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 42
Pages: