แผนสัปดาห์ที่ 23 วันชาติ

แผนการจดั ประสบการณ์ ชัน้ อนุบาล 3 สัปดาห์ที่ 23 วนั ชาติ นางกติ ตมิ า ศรพี รหมมา

การวิเคราะหโ์ ครงสรา้ งหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 หนว่ ยท่ี 23 วนั ชาติ ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 1 – 3 ภาคเรยี นท่ี 2 รายการ อนุบาลปที ่ี ๑ อนุบาลปที ่ี ๒ อนุบาลปีที่ ๓ สาระท่คี วรเรียนรู้ ๑. วนั ชาติของประเทศไทยตรงกบั ๑. วันชาติของประเทศไทยตรงกบั ๑. วนั ชาติของประเทศไทยตรงกับ วนั ที่ ๕ ธันวาคมของทุกปีซง่ึ เปน็ วันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปีซงึ่ เปน็ วันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปีซึ่งเป็น วันพระราชสมภพ (วนั เกดิ ) ของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลที่ ๙ วนั พระราชสมภพ (วนั เกิด) วันพระราชสมภพ (วันเกิด) ของ ๒. วนั ท่ี ๕ ธันวาคมถือเป็นวันพ่อแห่งชาติ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ ๙ เน่อื งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รชั กาลท่ี ๙ ทรงเปน็ ผูม้ พี ระคณุ แก่ชาติ รัชกาลที่ ๙ ๒. วนั ท่ี ๕ ธันวาคมถือเป็นวนั พ่อแห่งชาติ เปรยี บเสมอื นพ่อของชาวไทยทุกคน ๒. วนั ท่ี ๕ ธนั วาคมถอื เปน็ วันพอ่ แห่งชาติ เนอื่ งจากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว ๓. ความสาคัญของวนั ชาติและพระคุณพ่อ ๔. ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เน่ืองจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รชั กาลท่ี ๙ ทรงเปน็ ผูม้ พี ระคณุ แก่ชาติ ๕. พระราชกรณียกิจทีส่ าคัญ ๖. การรักษาสิง่ แวดลอ้ มในชุมชน รชั กาลที่ ๙ ทรงเปน็ ผ้มู ีพระคณุ แกช่ าติ เปรยี บเสมอื นพอ่ ของชาวไทยทุกคน เปรียบเสมอื นพอ่ ของชาวไทยทกุ คน ๓. ความสาคัญของวันชาติและพระคุณพ่อ ๔. ความกตัญญตู ่อผู้มีพระคุณ ๕. การรักษาสงิ่ แวดล้อมในชุมชน มาตรฐาน มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๒) มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๒) มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๒) ตบช ๒.๒ (๒.๒.๑) ตบช ๒.๒ (๒.๒.๑) ตัวบง่ ช้ี ตบช.๒.๒ (๒.๒.๑) มฐ ๔ ตบช ๔.๑(๔.๑.๑.) (๔.๑.๓) มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑.) (๔.๑.๓) สภาพทพี่ งึ ประสงค์ มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑.) (๔.๑.๓) มฐ ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๑) มฐ ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๑) มฐ ๗ ตบช ๗.๑ (๗.๑.๑) มฐ ๗ ตบช ๗.๑ (๗.๑.๑) มฐ ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๑) มฐ ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑) มฐ ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑) มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑) มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑) มฐ ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑) ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑) ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑) มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑) มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๒) มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๒) ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑) มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๒)(๑๐.๑.๓)

ประสบการณ์ ร่างกาย ร่างกาย ร่างกาย สาคัญ ๒.๑.๒ (๑) การเคล่ือนไหวอยู่กับที่ ๒.๑.๒ (๑) การเคลือ่ นไหวอยู่กบั ที่ ๑.๑.๑ (๑) การเคล่อื นไหวอยู่กับท่ี (๒) การเคล่ือนไหว เคลื่อนที่ (๒) การเคลื่อนไหว เคล่อื นท่ี (๒) การเคลือ่ นไหวเคลือ่ นท่ี (๓) การเคลอ่ื นไหวพร้อมอปุ กรณ์ (๓) การเคล่ือนไหวพร้อมอปุ กรณ์ (๓) การเคลอื่ นไหวพร้อมอปุ กรณ์ 1.1.๒ (๒) การเขียนภาพและการเลน่ 1.1.๒ (๒) การเขียนภาพและการเล่นกับสี 1.1.๒ (๒) การเขยี นภาพและการเลน่ กบั สี (3) การปน้ั (3) การปัน้ กับสี (๔) การประดิษฐ์ส่งิ ต่างๆ (๔) การประดษิ ฐส์ ง่ิ ตา่ งๆ (3) การปนั้ (๔) การประดิษฐ์สง่ิ ต่าง ๆ ด้วยเศษวสั ดุ ด้วยเศษวัสดุ (๕) การหยิบจบั และการใชก้ รรไกร (๕) การหยบิ จับและการใช้กรรไกร ดว้ ยเศษวสั ดุ (๕) การหยิบจับและการใช้ อารมณ์ อารมณ์ ๔.๑.๓ (๑) การฟงั เพลง การร้องเพลง และ ๔.๑.๓ (๑) การฟัง การรอ้ ง และแสดง กรรไกร อารมณ์ แสดงปฏกิ ริ ยิ าโต้ตอบเสียงดนตรี ปฏิกิริยาโต้ตอบเสยี ดนตรี ๔.๑.๓ (๑) การฟังเพลง การร้องเพลง (๒) การเคลอื่ นไหวตามเสยี งเพลง/ (๒) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ และแสดงปฏกิ ริ ิยาโต้ตอบ ดนตรี ดนตรี เสียงดนตรี สังคม สังคม (๒) การเคลอ่ื นไหวตาม ๑.๒.๓ คุณธรรม จริยธรรม ๑.๒.๓ คณุ ธรรม จริยธรรม เสยี งเพลง/ดนตรี สังคม (๒) การฟงั นทิ านเก่ยี วกับคุณธรรม (๒) การฟงั นทิ านเกยี่ วกับคุณธรรม ๑.๒.๓ คุณธรรม จริยธรรม จริยธรรม (ความเมตตากรุณา จริยธรรม (ความเมตตากรณุ า (๒) การฟังนิทานเกยี่ วกับคุณธรรม ความกตญั ญ)ู ความกตัญญู) จรยิ ธรรม (ความเมตตากรณุ า ความกตญั ญ)ู (๓) การรว่ มสนทนาและแลกเปลย่ี น (๓) การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยน (๓) การร่วมสนทนาและแลกเปล่ียน ความคิดเห็นเชิงจรยิ ธรรม ความคดิ เห็นเชิงจรยิ ธรรม ความคดิ เหน็ เชงิ จรยิ ธรรม ๑.๓.๔ (๑) การปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกท่ีดี ๑.๓.๔ (๑) การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดี ๑.๓.๔ (๑) การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกท่ีดี ของห้องเรียน ของหอ้ งเรยี น ของห้องเรยี น (๔) การดูแลหอ้ งเรยี นรว่ มกัน (๔) การดูแลห้องเรยี นรว่ มกัน (๔) การดูแลหอ้ งเรยี นร่วมกัน (๕) การรว่ มกิจกรรมวันสาคญั (๕) การร่วมกจิ กรรมวันสาคัญ

๑.๓.๗ (๑) เล่นรว่ มกับกลมุ่ เพื่อน - การปฏิบัตติ นในวนั ชาติ - การปฏิบตั ิตนในวันชาติ ๑.๓.๗ (๑) เล่นรว่ มกับกลุ่มเพ่ือน ๑.๓.๗ (๑) เล่นร่วมกับกลุม่ เพ่ือน สตปิ ญั ญา 1.4.1 (2) การฟงั และปฏิบตั ิตามคาแนะนา สติปญั ญา สตปิ ัญญา (3) การฟงั เพลง คาคล้องจอง 1.4.1 (2) การฟังและปฏิบัติตาม 1.4.1 (2) การฟงั และปฏิบัติตามคาแนะนา หรอื เรอื่ งราวต่าง ๆ คาแนะนา (3) การฟงั เพลง คาคล้องจอง (๔) การพดู และแสดงความคดิ ความรูส้ ึกและความตอ้ งการ (3) การฟงั เพลง คาคล้องจอง หรือเรอ่ื งราวต่าง ๆ (๑๐) การอา่ นหนังสือภาพหลากหลาย หรอื เรือ่ งราวต่าง ๆ (๔) การพูดและแสดงความคดิ รปู แบบ (๔) การพดู และแสดงความคดิ ความรสู้ กึ และความต้องการ (๑๒) การเหน็ แบบอย่างของการอ่าน ทีถ่ ูกตอ้ ง ความรูส้ กึ และความตอ้ งการ (๑๐) การอา่ นหนงั สือภาพหลากหลาย 1.4.2 (๘) การนับและแสดงจานวนของสงิ่ (๑๐)การอ่านหนงั สอื ภาพหลากหลาย รปู แบบ ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน รปู แบบ (๑๒) การเหน็ แบบอย่างของการอา่ น (๙) การเปรยี บเทยี บและเรียงลาดับ จานวนของสิ่งต่างๆ (๑๒) การเห็นแบบอย่างของการอา่ น ทถ่ี กู ต้อง (๑๓) การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บและ ท่ีถกู ตอ้ ง 1.4.2 (๘) การนับและแสดงจานวนของส่ิง เรยี งลาดับสิ่งต่างๆตามลักษณะ ความยาว/ความสงู นาหนัก 1.4.2 (๘) การนับและแสดงจานวนของ ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวัน ปริมาตร สิง่ ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั (๙) การเปรียบเทียบและเรียงลาดบั (๙) การเปรียบเทียบและเรียงลาดบั จานวนของส่ิงต่างๆ จานวนของสิง่ ตา่ งๆ (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บและ (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทียบและ เรียงลาดับสง่ิ ตา่ งๆตามลกั ษณะ เรยี งลาดบั ส่งิ ตา่ งๆตามลกั ษณะ ความยาว/ความสูง นาหนัก ความยาว/ความสงู นาหนัก ปรมิ าตร ปรมิ าตร ทกั ษะพื้นฐาน ๑. นับและแสดงจานวน 1 – 5 ๑. นับและแสดงจานวน 1 - 7 ๑. นบั และแสดงจานวน 12 คณิตศาสตร์ ๒. ระบุตัวเลขฮนิ ดูอารบิกแสดงจานวน ๒. ระบตุ วั เลขฮนิ ดอู ารบิกแสดงจานวนของส่งิ อา่ นและเขียนตวั เลขฮินดอู ารบกิ ๑ - 12 ของสง่ิ ตา่ ง ๆ 1 – 5 ตา่ ง ๆ 1 – 7 ๒. เปรียบเทียบจานวนของส่งิ ต่าง ๆ สองกล่มุ ๒. บอกจานวนทังหมดท่ีเกดิ จากการรวม ๓. เปรยี บเทยี บจานวนของสิง่ ตา่ ง ๆ สองกลมุ่ แต่ละกลมุ่ มจี านวนไมเ่ กนิ 12 ส่ิงต่าง ๆ สองกลุ่มทม่ี ผี ลรวมไม่เกิน 3 แตล่ ะกล่มุ มีจานวนไมเ่ กนิ 7 ๓. บอกจานวนทังหมดท่ีเกิดจากการรวมสง่ิ ต่าง

ทักษะพื้นฐาน ๓. เปรียบเทยี บนาหนกั ของสงิ่ ตา่ ง ๆ โดย ๓. บอกตาแหน่งของสง่ิ ต่าง ๆ ที่กาหนด โดยใช้ ๆ สองกลุม่ ที่มผี ลรวมไมเ่ กิน 12 วิทยาศาสตร์ ใช้คาหนักกว่า เบากวา่ หนักเทา่ กัน คา ขา้ งบน ข้างล่าง ข้างใน ข้างนอก ข้างหน้า ๔. บอกตาแหน่ง ทิศทาง และระยะทางของสง่ิ ๔. บอกตาแหน่งของสง่ิ ต่าง ๆ ทีก่ าหนด ข้างหลงั และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตา่ ง ๆ ทก่ี าหนด โดยใช้คาขา้ งบน ขา้ งลา่ ง ขา้ ง พฒั นาการทาง โดยใช้คาขา้ งบน ขา้ งล่าง ข้างใน ตามตาแหน่งท่กี าหนด ใน ข้างนอก ข้างหน้า ขา้ งหลัง ระหว่าง ขา้ งซา้ ย ภาษาและการรู้ ขา้ งนอก ๔. สารวจสงิ่ ต่าง ๆ ในหอ้ งเรียน วาดภาพแสดง ข้างขวา ใกล้ ไกล และแสดงส่ิงต่าง ๆ ตาม หนงั สอื ๕. สารวจส่งิ ตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรียน ตาแหนง่ หรอื ทิศทางทีต่ งั ของสง่ิ นัน ตาแหนง่ ทิศทางและระยะทางทก่ี าหนด บอกตาแหน่งทิศทางทต่ี งั ของสงิ่ นัน ๕. สารวจสถานทีต่ ่าง ๆ วาดภาพหรอื เขยี น - สารวจ สงั เกตและบันทึกเก่ียวกับ แผนผงั สถานที่นนั พร้อมทังอธบิ ายตาแหน่ง - สารวจพระบรมฉายาลกั ษณ์ พระบรมฉายาลกั ษณ์ของในหลวง ทิศทางของสถานที่ ของในหลวงรชั กาลที่ ๙ ภายในห้องเรียน รัชกาลท่ี ๙ ท่มี อี ย่ใู นโรงเรียน ของตนหรือห้องข้างเคยี ง - สบื ค้นจากครูและผปู้ กครองเกยี่ วกบั ๑.๔.๑ พฒั นาการทางภาษาและการรู้ พระราชกรณยี กจิ ของในหลวงรชั กาลที่ ๙ ๑.๔.๑ พัฒนาการทางภาษาและ หนังสือ - บันทกึ ส่ิงทสี่ บื ค้นโดยสร้างสรรคช์ ินงาน การรหู้ นงั สือ ดว้ ยตนเอง ๑. การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา ๑. การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา ๒. การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง ๑.๔.๑ พัฒนาการทางภาษาและการรู้ ๒. การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง หนังสอื บทรอ้ ยกรองหรือเรื่องราวต่าง ๆ บทร้อยกรองหรือเร่ืองราวตา่ ง ๆ ๓. การพูดแสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ ๑. การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา ๓. การพูดแสดงความคดิ ความร้สู กึ และ ๒. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจองหรือ ความตอ้ งการ ความต้องการ ๔. การพูดอธิบายเกย่ี วกบั สง่ิ ของเหตุการณ์ เรอ่ื งราวตา่ ง ๆ ๔. การรอจงั หวะทเ่ี หมาะสมในการพดู ๓. การพูดแสดงความคดิ ความรู้สึกและ ๕. การอ่านหนังสอื ภาพ นิทาน และความสัมพนั ธ์ของส่ิงต่าง ๆ ๕. การรอจังหวะท่เี หมาะสมในการพดู ความต้องการ หลากหลายประเภท/รปู แบบ ๖. การอ่านหนงั สือ ภาพ นิทาน ๔. การพูดอธบิ ายเก่ยี วกับสิ่งของเหตุการณ์ ๖. การเหน็ แบบอยา่ งของการอ่าน หลากหลายประเภท/รูปแบบ และความสมั พันธ์ของสงิ่ ต่าง ๆ ทถี่ กู ตอ้ ง ๗. การอ่านรว่ มกนั ๕. การพูดอย่างสรา้ งสรรค์ในการเล่นและ ๘. การเหน็ แบบอยา่ งของการอา่ นที่ถูกต้อง กระทาสงิ่ ตา่ ง ๆ ๖. การรอจังหวะทีเ่ หมาะสมในการพูด ๗. การอ่านหนังสอื ภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รูปแบบ

๙. การสังเกตทิศทางการอ่านตวั อกั ษรคา ๘. การอ่านร่วมกัน และข้อความ ๙. การอ่านโดยมีผชู้ ีแนะ ๑๐. การเห็นแบบอยา่ งของการอ่าน ทถ่ี กู ตอ้ ง ๑๑. การสังเกตทิศทางการอา่ น ตวั อักษรคา และข้อความ ๑๒. การเห็นแบบอยา่ งการเขียนที่ถกู ต้อง

หนว่ ยการจัดประสบการณ์สัปดาหท์ ี่ ๒๓ หน่วยวันชาติ ช้ันอนบุ าลปที ่ี ๓ แนวคิด วันชาติของประเทศไทยตรงกับวันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปี ซ่ึงเป็นวันพระราชสมภพ (วันเกิด) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ถือเป็น วันพ่อแห่งชาติ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลท่ี ๙ ทรงเป็นผู้มีพระคุณแก่ชาติเปรียบเสมือนพ่อของชาวไทยทุกคน ชาวไทยทุกคนควรเรียนรู้ ความสาคญั ของวนั ชาติและพระคุณพ่อ การแสดงความกตญั ญตู ่อผู้มพี ระคณุ ตลอดจนเรยี นรูเ้ กี่ยวกบั พระราชกรณยี กิจทีส่ าคัญของพระองค์ มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ เรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ ๑. กระโดดขาเดยี ว มาตรฐานที่ 2 ตวั บ่งช้ี 2.1 2.1.๒ กระโดดขา ไปข้างหนา้ ได้อย่าง 1.1.1 การใชก้ ล้ามเนอื ใหญ่ ๑. วันชาติของประเทศไทย ตอ่ เน่ืองโดยไม่เสีย กล้ามเนอื ใหญ่และ เคลอื่ นไหวร่างกาย เดยี วไปขา้ งหน้าได้ การทรงตัว (1) การเคลื่อนไหวอยู่กับท่ี ตรงกบั วันท่ี ๕ ธนั วาคม กลา้ มเนอื เล็กแข็งแรงใช้ได้ อย่างคล่องแคล่ว อยา่ งต่อเน่อื งโดยไม่ ๒. ใชก้ รรไกรตัด (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนท่ี ของทกุ ปซี ง่ึ เปน็ วันพระบรม กระดาษตามแนว อย่างคล่องแคล่วและ ประสานสัมพนั ธแ์ ละ เสยี การทรงตวั เส้นโคง้ ได้ สมภพ(วันเกิด)ของ ประสานสัมพันธ์กนั ทรงตวั ได้ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ตัวบง่ ชี้ 2.2 รชั กาลที่ ๙ ใช้มือ - ตามประสาน 2.2.๑ ใช้กรรไกรตดั 1.1.2 การใช้กล้ามเนือเลก็ ๒. วันที่ ๕ ธนั วาคมถอื เปน็ สมั พันธก์ นั กระดาษตามแนวเส้น (2) การเขยี นภาพและ วันพ่อแหง่ ชาติเนื่องจาก โคง้ ได้ การเล่นกบั สี พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั (3) การปนั้ รัชกาลท่ี ๙ ทรงเป็นผมู้ ี (5) การหยบิ จับ การใช้ พระคุณแกช่ าติเปรียบเสมือน กรรไกร การตัด การปะ พอ่ ของชาวไทยทุกคน การร้อยวสั ดุ ๓. ความสาคัญของวันชาติ และพระคุณพ่อ ๔. ความกตัญญตู ่อผู้มีพระคุณ ๕. พระราชกรณียกิจที่สาคญั ๖. การรักษาสิง่ แวดลอ้ มใน ชุมชน

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ เรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ๔.๑.๑ สนใจ ๓. สนใจ มคี วามสขุ มาตรฐานที่ ๔ ตัวบ่งช้ี 4.๑ มีความสขุ และ และแสดงออกผ่าน ๑.๒.๑ สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี แสดงออกผา่ นงาน งานศิลปะได้ ชน่ื ชมและแสดงออก สนใจ มีความสขุ และ ศิลปะ (๓) การเคลื่อนไหว ๔.๑.๓ สนใจ ๔. สนใจ มีความสขุ ทางศิลปะ ดนตรี และ แสดงออก ผา่ นงาน มีความสขุ และ และแสดงท่าทาง/ ตามเสยี งเพลง/ดนตรี แสดงท่าทาง/ เคลือ่ นไหวประกอบ การเคลอื่ นไหว ศลิ ปะ ดนตรแี ละ เคล่อื นไหวประกอบ เพลง จังหวะ และ (๕) การทากจิ กรรมศิลปะ เพลง จังหวะ และ ดนตรี การเคล่ือนไหว ดนตรี ๕.๒.๑ ช่วยเหลือและ ๕. ช่วยเหลอื และ มาตรฐานท่ี ๕ ตัวบง่ ชี้ ๕.2 แบง่ ปนั ผอู้ ื่นได้ แบ่งปนั ผู้อ่ืนได้ ๑.๒.๓ คุณธรรม จริยธรรม ด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง (๒) การฟังนทิ านเกีย่ วกับ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และ มีความเมตตากรุณา คุณธรรม จริยธรรม ๗.๑.1 ดูแลรักษา ๖. ดแู ลรกั ษา (๓) การรว่ มสนทนาและ จติ ใจที่ดงี าม มนี าใจและชว่ ยเหลอื ธรรมชาติและ ธรรมชาตแิ ละ แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ สงิ่ แวดล้อม สง่ิ แวดล้อม เชงิ จริยธรรม แบ่งปนั ด้วยตนเอง ด้วยตนเอง 1.3.๓ การมีปฏิสัมพนั ธ์ มาตรฐานที่ ๗ ตวั บ่งช้ี ๗.๑ มวี นิ ยั มีสว่ นร่วมและ รักธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ ม ดูแลธรรมชาตแิ ละ บทบาทสมาชิกของสงั คม วฒั นธรรม และ ส่งิ แวดล้อม ๑.๓.๒ การดูแลรกั ษา ความเป็นไทย ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม (๑) การมีสว่ นร่วม รับผดิ ชอบดแู ลรักษา สง่ิ แวดล้อมทังภายใน และภายนอกหอ้ งเรยี น

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 8 ตวั บง่ ช้ี 8.2 8.2.1 เลน่ หรอื ๗. เล่นหรือทางาน 1.3.๓ การมีปฏสิ ัมพนั ธ์ อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้อยา่ งมี มปี ฏสิ ัมพันธ์ท่ดี ี ทางานร่วมมือกบั ร่วมมอื กับเพ่ือน มวี นิ ยั มีส่วนรว่ มและ ความสขุ และปฏบิ ตั ิตน กบั ผอู้ น่ื เพอ่ื นอย่างมีเป้าหมาย อยา่ งมเี ป้าหมาย บทบาทสมาชิกของสังคม เป็นสมาชกิ ทดี่ ขี องสงั คม (๕) การร่วมกิจกรรม ในระบอบประชาธิปไตย วนั สาคญั การปฏบิ ตั ติ น อันมีพระมหากษัตริย์ ในวันชาติ ทรงเป็นประมุข ๑.๓.๕ การเล่นและทางาน แบบร่วมมือร่วมใจ (๒) การเล่นและทางาน รว่ มกับผู้อืน่ (๓) การเลน่ ตามมุม ประสบการณ์ มาตรฐานที่ 9 ตัวบง่ ชี้ 9.1 ๘. ฟังผูอ้ นื่ พูดจนจบ ๘. ฟงั ผ้อู ่ืนพูดจนจบ 1.4.1 ใชภ้ าษา ใช้ภาษาส่ือสาร สนทนาโตต้ อบและ และสนทนาโตต้ อบ และสนทนาโต้ตอบ (2) การฟังและปฏบิ ัติ ไดเ้ หมาะสม เล่าเร่อื งใหผ้ ู้อืน่ เขา้ ใจ อยา่ งต่อเน่ือง อย่างต่อเนอื่ ง ตามคาแนะนา เช่ือมโยงกับเร่ืองที่ฟัง เช่ือมโยงกับเร่ือง (3) การฟังเพลง นิทาน ท่ีฟงั คาคลอ้ งจอง หรือ เร่อื งราวตา่ ง ๆ 9.2.1 อา่ นภาพ ๙. อ่านภาพ (4) การพูดแสดงความคิด สญั ลักษณ์ คา ด้วย สญั ลกั ษณ์ คา ดว้ ย ความร้สู ึกและความต้องการ การชหี รอื กวาดตา การชหี รอื กวาดตา (8) การรอจังหวะ มองจุดเร่ิมต้นและจดุ มองจดุ เริ่มตน้ และ ทีเ่ หมาะสมในการพูด จบของขอ้ ความ จุดจบของข้อความ (10) การอ่านหนังสือภาพ นทิ านหลากหลายประเภท/ รูปแบบ

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ เรียนรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพที่พึงประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ (12) การเหน็ แบบอยา่ ง ของการอ่านทถี่ ูกต้อง มาตรฐานที่ 10 ตัวบ่งชี้ 10.1 10.1.2 จบั คู่และ ๑๐. จบั คูภ่ าพตาม 1.4.2 การคดิ รวบยอด เปรยี บเทียบ ท่กี าหนดได้ การคดิ เชิงเหตุผล มคี วามสามารถในการคิด มคี วามสามารถ ความแตกต่างและ การตัดสินใจและแกป้ ัญหา ความเหมือน (๘) การนบั และแสดง ทีเ่ ป็นพืนฐานในการเรยี นรู้ ในการคิดรวบยอด ของส่ิงต่าง ๆ โดยใช้ จานวนของสง่ิ ต่าง ๆ ลักษณะที่สงั เกต ในชวี ิตประจาวัน พบสองลักษณะขึนไป (13) การจับคู่ การเปรยี บเทียบและ การเรียงลาดับส่ิงต่าง ๆ ตามลักษณะ

ผังความคดิ แผนการจดั ประสบการณ์หนว่ ยวันชาติ ชั้นอนบุ าลปที ี่ ๓ ๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๒. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ๓. กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ 1. วันชาติของประเทศไทยตรงกบั วนั ท่ี ๕ 1. เคลื่อนไหวร่างกายทาท่ากายบรหิ าร 1. การปัน้ ดนิ นามนั การวาดภาพด้วยสีเทยี น เป็นผู้นา - ผู้ตาม ธนั วาคมของทกุ ปี ซึง่ เปน็ วันพระบรม 2. การตดั งูเต้นระบา การวาดภาพดว้ ยสเี ทียน ราชสมภพ (วันเกดิ )พระบาทสมเด็จ 3. การพมิ พภ์ าพด้วยวัสดธุ รรมชาติ 2. เคลอ่ื นไหวรา่ งกายตามข้อตกลง พระเจา้ อยู่หวั รชั กาลท่ี ๙ จังหวะช้า เรว็ นับ ๑ - ๑๒ ๒. วนั ที่ ๕ ธันวาคมถือเป็นวันพอ่ แห่งชาติ การป้ันดินนามนั เน่อื งจากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั 4. การเลน่ กับสนี า การปั้นดินนามนั 3. เคลอ่ื นไหวรา่ งกายทาท่าทาง รัชกาลท่ี ๙ ทรงเปน็ ผมู้ ีพระคุณแก่ชาติ 5. ไมห้ นบี สร้างสรรค์ การใช้สเี ทียน ประกอบเพลง เปรียบเสมือนพอ่ ของชาวไทย ๓. ความสาคัญของวันชาตแิ ละพระคุณพ่อ ๖. กิจกรรมเกมการศกึ ษา 4. เคลอ่ื นไหวร่างกายตามข้อตกลง ๔. ความกตัญญตู ่อผู้มีพระคุณ นบั ๑ - ๑๒ ๕. การรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มในชุมชน 1. เกมแสดงจานวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ เกมนับและ แสดงจานวนให้สมั พันธ์กนั ๘ - ๑๒ 5. เคลอื่ นไหวร่างกายตามคาสั่งนับ ๑ - ๑๒ หนว่ ยวันชาติ ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 3 2. เกมเปรยี บเทียบจานวนท่ีเท่ากัน 5. กิจกรรมกลางแจ้ง (ไมเ่ กนิ ๑๒) 4. กจิ กรรมเลน่ ตามมุม 1. เล่นเครอ่ื งเล่นสนาม 3. เกมพนื ฐานการบวกทมี่ ผี ลรวมไม่เกนิ ๑๒ 2. เลน่ เกม “วิง่ ผลดั ขาเดียว” เลน่ ในมมุ ประสบการณต์ ่าง ๆ ภายในหอ้ งเรียน 4. เกมโดมโิ นแสดงตาแหน่งข้างบน ข้างล่าง 3. เลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม 4. เลน่ เกม “เปา่ ยิงฉบุ ” ข้างใน ข้างนอก ข้างหน้า ขา้ งหลงั 5. เลน่ นา เลน่ ทราย 5. เกมจบั คภู่ าพกับคา ข้างซา้ ย ข้างขวา ระหว่างใกล้ ไกล

การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจดั ประสบการณ์ชัน้ อนุบาลปีที่ ๓ หนว่ ยวันชาติ วันท่ี เคลื่อนไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ กิจกรรม ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ เล่นตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศึกษา เกมแสดงจานวน 1 เคลือ่ นไหวรา่ งกาย ความหมายผนู้ าครอบครัว ๑. การปั้นดนิ นามนั เลน่ ในมมุ ประสบการณ์ เลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม ของส่ิงต่าง ๆ ๘ - ๑๒ บริหารเป็นผู้นา-ผูต้ าม ผู้นาคือผทู้ ท่ี าหน้าทีเ่ ปน็ 2. การวาดภาพ ต่าง ๆ ภายในห้องเรียน เกมเปรียบเทียบ จานวนที่เทา่ กนั หวั หนา้ ผูน้ าของครอบครวั ด้วยสเี ทยี น (ไม่เกนิ ๑๒) คือพ่อมดี ูแลให้ทุกคนในบ้าน เกมพนื ฐานการบวก ที่มผี ลรวมไม่เกนิ ๑๒ มีความสขุ 2 เคลอ่ื นไหวร่างกาย ๑. วันชาตขิ องประเทศไทย ๑. การตัดงูเตน้ ระบา เล่นในมมุ ประสบการณ์ เล่นเกม ปฏบิ ตั ิข้อตกลง ตรงกบั วนั ท่ี ๕ ธนั วาคม ๒. การวาดภาพ ตา่ ง ๆ ภายในห้องเรียน “ว่ิงผลดั ขาเดยี ว” นับ ๑-๑๒ ของทกุ ปี ซึ่งเปน็ วนั ด้วยสเี ทียน พระราชสมภพ (วนั เกิด) เลน่ ในมุมประสบการณ์ เล่นเครือ่ งเลน่ สนาม 3 เคลื่อนไหวร่างกาย ของพระบาทสมเด็จ ๑. การพิมพ์ภาพ ตา่ ง ๆ ภายในหอ้ งเรยี น ปฏิบัตทิ าทา่ ทาง พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๙ ด้วยวัสดธุ รรมชาติ ประกอบเพลง ๒. ความสาคญั ของวันชาติ ๒. การปน้ั ดนิ นามนั “องค์พระประมุข” และพระคุณพ่อ/ ความกตญั ญตู ่อผู้มีพระคุณ

วนั ท่ี เคลื่อนไหวและจังหวะ เสรมิ ประสบการณ์ กจิ กรรม ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ เลน่ ตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศึกษา 4 เคลอื่ นไหวร่างกาย พระราชกรณียกิจ ๑. การเล่นกับสีนา เลน่ ในมมุ ประสบการณ์ เลน่ เกม เกมโดมโิ นคาแสดง ตามข้อตกลง ของพระบาทสมเจ้าอยหู่ ัว ๒. การปน้ั ดนิ นามัน ต่าง ๆ ภายในหอ้ งเรยี น “โยนรบั ลกู บอลฮูลาฮูป” ตาแหนง่ ขา้ งบน ข้างลา่ ง รัชกาลที่ ๙ ข้างใน ข้างนอก ข้างหนา้ ขา้ งหลัง ๕ เคลื่อนไหวร่างกาย การรักษาสง่ิ แวดล้อม ๑. ไมห้ นีบสร้างสรรค์ เลน่ ในมมุ ประสบการณ์ การเล่นนา เล่นทราย เกมจับคู่ภาพกบั คา ตามคาสั่ง ในชุมชน ๒. การการวาดภาพ ตา่ ง ๆ ภายในหอ้ งเรียน ขา้ งซ้าย ขา้ งขวา ดว้ ยสเี ทยี น ระหวา่ งใกล้ ไกล

แผนการจดั ประสบการณช นั้ อนบุ าล ๓ หนว ยที่ ๒๓ วันชาติ สัปดาหที่ ๒๓ คร้ังท่ี ๑ วนั ที่................เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ เครอ่ื งเคาะจังหวะ สังเกต กิจกรรม ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรียนรู้ 1. กิจกรรมพืนฐานใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวรา่ งกาย การรว่ มกิจกรรม เคลื่อนไหวและ ไปทัว่ บริเวณอย่างอิสระตามจังหวะช้า - เร็ว คาคลอ้ งจอง การเคลื่อนไหวรา่ งกาย จงั หวะ (๑) การฟังเพลง และ เมอ่ื ไดย้ นิ สัญญาณ\"หยดุ \" ใหห้ ยดุ เคลือ่ นไหวในทา่ นัน ผนู้ าครอบครวั อยา่ งมีความสขุ ร่วมกิจกรรม แสดงปฏิกริ ิยาโต้ตอบ ทันที การเคล่ือนไหว เสียงดนตรี 2. ใหเ้ ดก็ เขา้ แถวตอนแถวละ ๔-๕ คน สังเกต ร่างกายอย่างมี (๒) การเคล่ือนไหว ๓. ใหเ้ ด็กที่อยู่หวั ทาท่าทางเลียนแบบทา่ ทางพ่อ ๑. การฟังและพดู โตต้ อบ ความสขุ ได้ ตามเสียงเพลง/ดนตรี ทชี่ อบตามจังหวะท่ีครเู คาะให้เพือ่ น ๆ ปฏบิ ตั ิตาม เกี่ยวกบั เรือ่ งทฟี่ ัง เมอื่ ไดย้ ินสัญญาณ “หยดุ ” ใหเ้ ดนิ ไปตอ่ ทา้ ยแถว ๒. การอ่านข้อความ กจิ กรรมเสรมิ (๒) การฟังและปฏิบัติ ความหมายผนู้ า ใหเ้ ด็กคนท่ี ๒ มาอยู่หวั แถว ทาทา่ ทางอิสระ ด้วยภาษาของตนตามครู ประสบการณ์ ตามคาแนะนา ครอบครัวผู้นา คือ ผทู้ ่ี ตามจังหวะท่ีครเู คาะให้เพอ่ื น ๆ ปฏิบตั ติ าม ๑. ฟังและพูด (๓) การฟังเพลง ทาหน้าทเี่ ปน็ หวั หน้า 4. ปฏิบัตติ ามขอ้ 3 ซาอีก โต้ตอบเก่ียวกับ คาคลอ้ งหรอื เรื่องราว ผ้นู าของครอบครัว คอื ๔. ใหเ้ ดก็ นั่งผ่อนคลายกล้ามเนอื ๒ - ๓ นาที เร่ืองท่ีฟงั ได้ ตา่ ง ๆ พ่อมหี น้าที่ดแู ล ๑. เด็กนงั่ เป็นรปู ครึ่งวงกลม ๒. อ่านข้อความ (๔) การพูดแสดง ให้ทกุ คนในบา้ น ๒. ครอู ่านคาคล้องจอง“ผู้นาครอบครัว”ให้เดก็ ฟัง ด้วยภาษาของตน ความรู้สกึ และ มีความสขุ ๓. ครูอ่านคาคล้องจองทีละวรรคเด็กอ่านตาม ตามครไู ด้ ความตอ้ งการ ๔. ครแู ละเด็กรว่ มกนั ท่องคาคาคลอ้ งจอง “ผนู้ าครอบครวั ” ๕. อาสาสมัครบอก/เล่าเร่ืองราวเกย่ี วกับ - บทบาทหนา้ ท่ีของพ่อ - ความประทบั ใจที่มีต่อผู้นาครอบครวั ๕. เดก็ และครูรว่ มกนั สรุปความสาคญั ของผ้นู า ครอบครัว

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ 1. จดั กจิ กรรม ๒ กจิ กรรม ๑. ดนิ นามัน สังเกต ความสนใจ มคี วามสขุ กิจกรรมศลิ ปะ (๕) การทากจิ กรรม - การป้ันดนิ นามัน ๒. ภาชนะรองปั้น และแสดงออกผ่านงาน สรา้ งสรรค์ ศิลปะ ศิลปะ สนใจ มคี วามสขุ - การวาดภาพด้วยสเี ทยี น ๓. กระดาษ สงั เกต และแสดงออก การช่วยเหลอื และ ผา่ นงานศิลปะได้ 2. แบ่งกลุ่มเดก็ จานวนตามความเหมาะสม วาดเขียนเอ ๔ แบง่ ปนั ผอู้ ่นื ดว้ ยตนเอง เพ่ือใช้วสั ดุอปุ กรณร์ ่วมกัน 4. สเี ทยี น 3. เด็กทากจิ กรรมแรกเสรจ็ เขียนช่อื ตนเอง ทกี่ ระดาษผลงานดา้ นลา่ งโดยดูแบบจากบัตรช่ือ แลว้ นาผลงานติดไวท้ ี่แสดงผลงาน ๔. เดก็ ทาอีก ๑ กิจกรรม ๕. นาเสนอเมื่อเสร็จครบทัง ๒ กจิ กรรม ๖. เดก็ ชว่ ยกันเกบ็ อุปกรณ์วัสดอุ ปุ กรณ์ เขา้ ท่ีให้เรียบร้อย กจิ กรรมเล่นตามมุม (๓) การให้ 1. เด็กเลอื กกจิ กรรมเล่นตามมมุ ประสบการณ์ ส่ือตามมุมประสบการณ์ ชว่ ยเหลอื และ ความรว่ มมอื ตามความสนใจ มุมประสบการณ์ในห้องเรียน ในหอ้ งเรียน แบ่งปนั ผอู้ ่ืน ในการปฏบิ ัติ ควรมอี ย่างน้อย ๔ มุม เช่น ดว้ ยตนเองได้ กจิ กรรม - มมุ นทิ าน - มมุ บลอ็ ก (๔) การดแู ล - มมุ ศลิ ปะ - มุมบทบาทสมมุติ หอ้ งเรียนรว่ มกัน ๒. มมุ นทิ านครูควรเตรยี มหนังสอื เกี่ยวกบั วันพ่อ พระราชกรณียกิจพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวรัชการที่ ๙ ๓. เมือ่ หมดเวลาใหเ้ ด็กเก็บของเข้าที่ให้เรยี บร้อย

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ สงั เกต การเล่นหรอื ทางาน กจิ กรรมกลางแจง้ (๒) การเลน่ และ 1. ครแู นะนาข้อตกลงในการเล่นเคร่ืองเลน่ เครื่องเลน่ สนาม ร่วมมือกับเพื่อนอยา่ งมี สนามแตล่ ะชนดิ พรอ้ มทงั คาแนะนาวธิ ีเลน่ ร่วมกับ เป้าหมาย เล่นหรอื ทางาน ทางานร่วมกับผู้อ่นื เพ่อื นอย่างปลอดภยั 2. เล่นเคร่อื งเลน่ สนามโดยมีครดู แู ลอยา่ งใกล้ชดิ รว่ มมือกับเพื่อน 3. เมื่อครูให้สญั ญาณหมดเวลาเด็กเขา้ แถว ทาความสะอาดรา่ งกาย อยา่ งมเี ป้าหมายได้ เกมการศกึ ษา (๘) การนับและแสดง เลน่ เกมแสดงจานวน 1. ครสู าธติ การเล่นเกมแสดงจานวนของสิ่งตา่ ง ๆ เกมแสดงจานวนของ สงั เกต จบั คภู่ าพที่กาหนด จานวนของสิง่ ตา่ ง ๆ ของสง่ิ ตา่ ง ๆ เกมนับ เกมนับและแสดงจานวนใหส้ ัมพันธก์ นั ๘ - ๑๒ สง่ิ ต่าง ๆ เกมนบั การจบั คภู่ าพท่ีกาหนด ได้ ในชวี ติ ประจาวนั และแสดงจานวน 2. แบ่งเดก็ เปน็ กลมุ่ ตามความเหมะสม และแสดงจานวน (13) การจับคู่ ให้สมั พนั ธก์ นั ๘ – ๑๒ ๓. เดก็ กลมุ่ หน่งึ มารบั เกมแสดงจานวนของส่งิ ต่าง ๆ ใหส้ มั พนั ธ์กนั ๘ - ๑๒ การเปรียบเทยี บ เกมนับและแสดงจานวนใหส้ ัมพนั ธก์ นั ๘ - ๑๒ และการเรียงลาดับ เด็กกลมุ่ อ่ืนเลน่ เกมการศกึ ษาชุดเดิมหลงั จากนนั ส่งิ ตา่ ง ๆ ใหห้ มนุ เวยี นกันเล่น ตามลกั ษณะ 4. ครนู าเกมไปเกบ็ เขา้ ท่ี

แผนการจดั ประสบการณช น้ั อนุบาล ๓ หนว ยที่ ๒๓ วันชาติ สปั ดาหท่ี ๒๓ ครง้ั ที่ ๒ วนั ท.่ี ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ กจิ กรรม สังเกต เคล่อื นไหวและ (๑) การฟังเพลง 1. เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายไปท่วั ๆ บรเิ วณ เครื่องใหจ้ ังหวะ การร่วมกิจกรรม จังหวะ และแสดงปฏิกริ ยิ า อย่างอิสระตามจังหวะ เมื่อได้ยินสญั ญาณ การเคลอื่ นไหวร่างกาย รว่ มกจิ กรรม โต้ตอบเสยี งดนตรี “หยุด”ใหห้ ยุดเคล่ือนไหวในทา่ ทางนนั ทนั ที อยา่ งมีความสุข การเคล่อื นไหว (๒) การเคล่ือนไหว 2. เดก็ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอสิ ระ เม่ือได้ยิน รา่ งกายอย่างมี ตามเสียงเพลง/ดนตรี สัญญาณหยดุ ให้เด็กปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง คือ สงั เกต ความสขุ ได้ ๑. การฟังและพดู โต้ตอบ จงั หวะ ช้า เด็กก้าวเดินพรอ้ มตบมือนับ ๑-๑๒ เกี่ยวกบั เรอ่ื งท่ฟี ัง กิจกรรมเสรมิ จังหวะปานกลางเด็กก้าวกระโดด นบั ๑-๑๒ ๒. การอ่านภาพคาดว้ ย ประสบการณ์ ๓. เดก็ น่ังผ่อนคลายกล้ามเนือ ๒ - ๓ นาที การชหี รือกวาดตามอง ๑. ฟังและพดู จดุ เร่มิ ต้นและจดุ จบของ โต้ตอบเก่ียวกับ (๒) การฟังเพลงและ วันที่ ๕ ธนั วาคมคือเป็น ๑. ครูอา่ นเนือเพลงในหลวง-พระราชนิ ีเด็กอา่ น เพลงในหลวง-พระราชนิ ี ข้อความ เรอ่ื งที่ฟังได้ ตามและรว่ มกนั ร้องเพลง ๒. การอ่านภาพคา ปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา วันพอ่ แห่งชาตเิ นื่องจาก 2. เดก็ และครรู ่วมกนั สนทนาถงึ ความสาคัญ ดว้ ยการชี หรือ (๓) การฟังเพลง พระบาทสมเดจ็ พระ ของวนั ท่ี 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาตแิ ละดอกไม้ กวาดตามอง เจ้าอยูห่ วั รชั กาลที่ ๙ ทีเ่ ปน็ สญั ลกั ษณข์ องวันพ่อ โดยใชค้ าถามดังนี จดุ เริม่ ตน้ และ หรือเรอ่ื งราวต่างๆ ทรงเปน็ ผ้มู พี ระคุณ จดุ จบของข้อความ (๔) การพูดแสดง แกช่ าติเปรยี บเสมือน - เด็กๆจะทาตนเปน็ คนดขี องชาติได้อย่างไร ได้ ความรู้สกึ ความและ พอ่ ของชาวไทย - ดอกไมท้ เี่ ป็นสัญลักษณว์ ันพอ่ คือ ดอกอะไร ตอ้ งการ 3. ครูตกลงกบั เด็กเกี่ยวกบั การปฏิบตั ติ นในการทา กจิ กรรมนอกห้องเรยี น เชน่ ไมว่ ่งิ ออกจาก กลุ่มเพ่ือนต้องฟังและสงั เกตว่าครูทาอะไรบา้ ง 4. ครใู หเ้ ดก็ ไปสอบถามครูในโรงเรียน ผ้ปู กครอง หรือที่เกย่ี วกับพระราชกรณียกิจของในหลวงรชั กาล ท่ี 9 และนามาเล่าในวันต่อไป 5. ครูแลเดก็ ชว่ ยกันสรุปคาตอบของเด็ก

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ 1. ครูและเด็กช่วยกันเตรยี มอุปกรณก์ ิจกรรม ๑. กระดาษปอนด์สี สงั เกต กจิ กรรมศลิ ปะ สร้างสรรค์ (2) การเขยี นภาพ การตดั งเู ต้นระบา - การตดั งเู ตน้ ระบา เอ ๔ จานวน ๑ แผ่น การใช้กรรไกรตดั กระดาษ ใช้กรรไกรตัด และการเลน่ กบั สี การวาดภาพดว้ ยสเี ทยี น กระดาษตามแนว (5) การหยบิ จบั - การวาดภาพด้วยสีเทยี น ๒. เชือกยาว ๑ ฟุต ตามแนวเส้นโค้ง เส้นโคง้ ได้ การใชก้ รรไกร 2. เดก็ นัง่ เปน็ ครง่ึ วงกลมครแู จกอปุ กรณ์ ๑ เสน้ การตัด การร้อยวสั ดุ 3. ครสู าธติ ขันตอนการตัดงูเต้นระบาตามขันตอน ๓. กรรไกรปลายมน 4. เด็กปฏบิ ัติตามครูทลี ะขนั และตกแต่งผลงานตาม ขนาด ๔ นิว ชอบ 4. กาว ๕. เดก็ รว่ มกนั เก็บอุปกรณ์และส่งผลงานพร้อม 5. สีเทยี น เล่าผลงาน ๖. เดก็ ทดลองเลน่ งูเตน้ ระบา กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (๑) การปฏิบัตติ น 1. เด็กเลือกกิจกรรมเล่นตามมมุ ประสบการณ์ อุปกรณ์มุมประสบการณ์ สังเกต ชว่ ยเหลือและ เป็นสมาชิกทด่ี ี ตามความสนใจ มุมประสบการณ์ในหอ้ งเรยี น ในห้องเรยี น การช่วยเหลือและ แบง่ ปันผู้อ่ืน ของห้องเรียน ควรมอี ย่างน้อย ๔ มมุ เชน่ แบง่ ปนั ผู้อน่ื ดว้ ยตนเอง ด้วยตนเองได้ (๔) การดแู ล - มมุ นทิ าน - มมุ บลอ็ ก หอ้ งเรียนรว่ มกัน - มมุ ศลิ ปะ - มมุ บทบาทสมมติ ๒. มุมนทิ านควรมีหนังสือเกย่ี วกบั วนั พอ่ ๓. เม่ือหมดเวลาให้เดก็ เกบ็ ของเข้าท่ีให้เรยี บร้อย กจิ กรรมกลางแจ้ง (๒) การเล่นและ ๑. เด็กยนื เป็นวงกลมอบอ่นุ ร่างกายโดยวงิ่ อยู่กบั ที่ ๑. นกหวดี สังเกต เล่นหรือทางาน ทางานร่วมกับผู้อ่ืน รว่ มมือกับเพ่ือน ๒. ครสู าธติ และอธบิ ายวธิ ีเล่น“เกมวง่ิ ผลัดขาเดยี ว” ๒. ลูกบอลขนาด การเลน่ หรือทางานร่วมมือ อยา่ งมีเป้าหมายได้ ๓. ครใู หเ้ ด็กเล่นเกมตามกติกาและข้อตกลง เสน้ ผา่ ศูนย์กลาง ๔ ซ.ม. กับเพื่อนอย่างมเี ปา้ หมาย ๔. เมื่อครูใหส้ ัญญาณหมดเวลาเดก็ เขา้ แถวทา 3. จาน ๔ ใบ ความสะอาดรา่ งกาย

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ 1. ครูสาธิตการเลน่ เกมเปรียบเทยี บจานวน เกมเปรยี บเทยี บจานวน สงั เกต การจับคภู่ าพท่กี าหนด เกมการศึกษา (๘) การนบั และแสดง การเปรียบเทยี บจานวน ท่ีเท่ากัน (ไม่เกิน๑๒) ทีเ่ ท่ากนั (ไมเ่ กนิ ๑๒) จบั คภู่ าพท่ีกาหนด จานวนของส่ิงตา่ ง ๆ ท่เี ท่ากนั (ไม่เกิน ๑๒) ได้ ในชวี ติ ประจาวัน 2. แบ่งเด็กเปน็ กลุม่ ตามความเหมาะสม (13) การจับคู่ การเปรียบเทียบและ ๓. ครแู จกเกมเปรียบเทยี บจานวนทเี่ ทา่ กัน การเรยี งลาดบั ส่ิงต่าง ๆ ตามลกั ษณะ (ไม่เกิน 12) ให้เด็กกลุ่ม 1 กลุ่มอืน่ เลน่ เกมชดุ เดิม หมนุ เวยี นจนเด็กได้เล่นเกมเปรยี บเทยี บจานวน ที่เทา่ กนั (ไม่เกนิ 12) ครบทุกกลุม่ 4. เด็กนาเกมไปเกบ็ ท่ี

แผนการจดั ประสบการณช้นั อนบุ าล ๓ หนวยท่ี ๒๓ วันชาติ สัปดาหท ่ี ๒๓ ครั้งท่ี ๓ วนั ท่ี................เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ สังเกต กิจกรรม การร่วมกจิ กรรม เคลื่อนไหวและ (๑) การฟังเพลง 1. กิจกรรมพนื ฐานใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกาย ๑. เครือ่ งเคาะจังหวะ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย จงั หวะ และแสดงปฏิกิรยิ า อยา่ งมีความสุข ร่วมกจิ กรรมการ โตต้ อบเสยี งดนตรี ไปทั่วบริเวณอย่างอสิ ระตามจังหวะ เม่ือไดย้ นิ ๒. เพลงองค์พระประมุข เคลอื่ นไหวร่างกาย (๒)การเคลอื่ นไหว สญั ญาณ “หยดุ ” ให้หยุดเคล่ือนไหวทา่ นันทนั ที สงั เกต อยา่ งมีความสุขได้ ตามเสยี งเพลง/ ๑. การฟังและพดู โตต้ อบ ดนตรี ๒. ครอู ่านเนือเพลง “องค์พระประมุข ” เก่ยี วกับเรื่องทฟี่ ัง กิจกรรมเสรมิ ๒. การอ่านภาพข้อความ ประสบการณ์ (๒) การฟังและ ความสาคญั ของวนั ชาติ ใหเ้ ด็กฟงั ทีละบรรทดั เด็กอ่านตาม ดว้ ยภาษาของตน ๑. ฟังและพดู ปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา และพระคุณพ่อ โต้ตอบเก่ียวกบั (๓) การฟังเพลง 3. เด็กและครรู ว่ มกันร้องเพลง \"องค์พระประมขุ \" เรอ่ื งที่ฟงั ได้ คาคลอ้ งจอง ๒. อ่านภาพ (๔) การพูด 4. เด็กทาทา่ ทางกายบริหารประกอบเพลงพร้อมกนั ข้อความดว้ ยภาษา แสดงความรู้สึก ของตนได้ และความต้องการ 5. ปฏบิ ัติตามขอ้ 3 6. ใหเ้ ดก็ นัง่ ผ่อนคลายกลา้ มเนือ ๒ - ๓ นาที ๑. เดก็ น่ังเป็นรปู คร่งึ วงกลม ๑. เพลง ๒. ครูอ่านเนือเพลงในหลวงพระราชนิ ีให้เดก็ ฟงั ในหลวงพระราชนิ ี เด็กอา่ นตามทลี ะวรรค ๒. ภาพพระราชกรณียกิจ ๓. เดก็ และครูรว่ มกนั ร้องเพลงในหลวงพระราชินี รชั กาลท่ี 9 ๔. เด็กเล่าเร่ืองพระราชกรณียกิจทไี่ ปสอบถามมา ครูบนั ทึกข้อมลู ที่เดก็ ตอบบนกระดานเคลือ่ นที่ และนบั ๕. หลังจากเด็กเลา่ เร่ืองพระราชกรณยี กจิ แล้ว ครนู าภาพพระราชกรณียกจิ รัชกาลที่ 9 ซ่งึ ทรงเปน็ พอ่ แห่งชาติ มาใหเ้ ด็กดู ถามเด็กว่า ใครรู้บ้างวา่ ภาพนีทรงทาอะไร

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้ 1. ครูและเด็กช่วยกนั เตรยี มอปุ กรณ์กิจกรรม ๑. กระดาษวาดเขียน สังเกต - การพิมพภ์ าพดว้ ยวสั ดุธรรมชาติ เอ ๔ ความสนใจ มีความสุข กิจกรรมศิลปะ (2) การเขียนภาพ - การปน้ั ดนิ นามัน และแสดงออกผา่ นงาน สร้างสรรค์ และการเลน่ กบั สี ๒. สีนา/ภาชนะใสส่ ี ศลิ ปะ สนใจ มคี วามสขุ (3) การป้ัน 2. เดก็ และครูจัดโต๊ะกจิ กรรมศิลปะ 2 กิจกรรม ๓. วสั ดุธรรมชาติ และแสดงออก 3. เด็กปฏิบัติกิจกรรม 2 กจิ กรรม ครคู อยให้ ๔. ดินนามัน/ ผา่ นงานศิลปะได้ ความชว่ ยเหลอื ๔. เด็กชว่ ยกันเกบ็ อปุ กรณ์ และส่งผลงาน ภาชนะรองปั้น พร้อมเล่าผลงาน กจิ กรรมเลน่ (๓) การให้ 1. เด็กเลอื กกิจกรรมเสรใี นมุมประสบการณ์ อุปกรณ์มมุ ประสบการณ์ สังเกต ตามมุม ช่วยเหลือและ ความรว่ มมือในการ ตามความสนใจ มุมประสบการณ์ในห้องเรยี น ในห้องเรียน การช่วยเหลอื และ แบ่งปันผ้อู ื่น ปฏบิ ตั ิกิจกรรม เมอ่ื มีผ้ชู แี นะได้ ควรมอี ยา่ งน้อย ๔ มมุ เช่น แบง่ ปันผู้อื่น (๔) การดูแล หอ้ งเรยี นร่วมกัน - มุมนทิ าน - มุมบล็อก เมือ่ มีผูช้ แี นะ - มมุ บทบาทสมมติ - มุมเครอ่ื งเล่นสมั ผัส 2. เม่ือหมดเวลาใหเ้ ดก็ เก็บของเขา้ ท่ีใหเ้ รียบร้อย กิจกรรมกลางแจง้ (๒) การเล่นและ 1. ครแู นะนาข้อตกลงในการเลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม เครื่องเล่นสนาม สังเกต เลน่ หรือทางาน ทางานรว่ มกับผู้อ่นื แตล่ ะชนดิ พร้อมทังคาแนะนาวธิ ีเล่นร่วมกบั เพอื่ น การเล่นหรือทางาน ร่วมมอื กับเพ่ือน อยา่ งปลอดภัย ร่วมมือกบั เพื่อนอย่างมี อย่างมีเป้าหมายได้ 2. เด็กเลน่ เครื่องเลน่ สนามโดยมีครดู ูแล เป้าหมาย อยา่ งใกลช้ ดิ 3. เม่ือครใู หส้ ัญญาณหมดเวลาเด็กเข้าแถว ทาความสะอาดรา่ งกาย

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. ครูสาธติ การเลน่ เกมพืนฐานการบวก เกมพืนฐานการบวก สังเกต ท่มี ีผลรวมไม่เกิน ๑๒ ที่มีผลรวมไม่เกนิ ๑๒ การนบั และแสดง เกมการศกึ ษา (๘) การนับและแสดง เกมพืนฐานการบวกท่ีมี จานวนของสงิ่ ต่าง ๆ นับและแสดง จานวนของสิ่งต่างๆ ผลรวมไม่เกนิ ๑๒ 2. แบ่งเดก็ เป็นกล่มุ ตามความเหมะสม จานวนของ ในชีวติ ประจาวนั ๓. ครแู จกเกมพนื ฐานการบวกท่มี ีผลรวมไมเ่ กิน12 ส่งิ ต่าง ๆ ได้ (13) การจับคู่ ใหเ้ ดก็ กลุม่ 1 เดก็ กลุ่มอ่นื เล่นเกมชดุ เดิมใหเ้ ดก็ เล่น การเปรียบเทยี บ หมุนเวยี นจนครบทกุ กลุ่มได้เลน่ เกมพนื ฐานการบวก และการเรยี งลาดบั ทม่ี ผี ลรวมไม่เกิน12 สง่ิ ต่าง ๆ 4. เดก็ เก็บเกมการศึกษาเข้าท่ี ตามลกั ษณะ

แผนการจัดประสบการณช ั้นอนุบาล ๓ หนว ยที่ ๒๓ วนั ชาติ สปั ดาหท ี่ ๒๓ ครั้งที่ ๔ วนั ท่.ี ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ สงั เกต กิจกรรม (๑) การฟังเพลง และ 1. กิจกรรมพืนฐานใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกาย เครอ่ื งใหจ้ ังหวะ การรว่ มกิจกรรม เคลื่อนไหวและ แสดงปฏิกริ ยิ าโต้ตอบ ไปท่วั ๆ บรเิ วณอย่างอิสระตามจงั หวะเมื่อไดย้ นิ การเคล่อื นไหวรา่ งกาย จังหวะ เสยี งดนตรี เสียง \"หยุด\" ให้หยดุ เคลือ่ นไหวในทา่ นนั ทนั ที อย่างมีความสุข รว่ มกิจกรรม (๒) การเคลื่อนไหว 2. ครแู บง่ เด็กเป็น ๓ กลมุ่ และตกลงกับเด็กให้ การเคลอื่ นไหว ตามเสียงเพลง/ดนตรี ปฏิบัติดงั นี ร่างกายอย่างมี ความสุขได้ กล่มุ ๑ เลน่ ดนตรี กลุ่ม ๒ ตบมือตามจังหวะนบั ๑ - ๑๒ กลุ่ม ๓ ยา่ เทา้ อยู่กับทีต่ ามจังหวะ 3. ทากจิ กรรมข้อ 2 ซา จนไดเ้ วลาพอสมควร 4. ให้เดก็ นงั่ ผ่อนคลายกลา้ มเนอื ๒ - ๓ นาที กิจกรรมเสริม (๒) การฟังและปฏิบัติ ความกตญั ญู 1. เดก็ น่งั เปน็ ครึง่ วงกลม นิทาน “ลกู เป็ดกตญั ญู” สังเกต ต่อผู้มพี ระคุณ 2. ครอู ่านนิทานเรอ่ื ง“ลูกเป็ดกตัญญ”ู ให้เดก็ ฟัง ๑. ฟงั และพูดโต้ตอบ ประสบการณ์ ตามคาแนะนา ๓. และครรู ว่ มกนั สนทนาโดยใช้คาถามดังนี เกยี่ วกบั เร่อื งท่ฟี ังได้ ๒. การอ่านข้อความ ๑. ฟงั และพูด (๓) การฟังนทิ าน - ตวั ละครในเร่ืองนีมใี ครบ้าง - ถา้ ใหเ้ ดก็ เลือก เด็กอยากเป็นใครในนทิ าน ดว้ ยภาษาของตน โตต้ อบเกยี่ วกับ (๔) การพูด เพราะเหตุใด - ลูกเป็ดมนี สิ ยั อยา่ งไร เร่อื งที่ฟงั ได้ แสดงความรสู้ ึก ๔. ครแู ละเด็กชว่ ยกันสรปุ คาตอบของเด็ก ๆ ๒. การอ่าน ความต้องการ ข้อความด้วยภาษา ของตนได้

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ 1. ครูและเด็กชว่ ยกนั เตรยี มอุปกรณก์ ิจกรรม ๑. กระดาษวาดเขยี น สงั เกต เอ ๔ กิจกรรมศลิ ปะ (2) การเขยี นภาพ - การเลน่ กับสนี า “การพิมพภ์ าพด้วยฝา่ มือ” ความสนใจ มคี วามสขุ สรา้ งสรรค์ และการเล่นกับสี ๒. สนี า/ภาชนะใส่สี และแสดงออก สนใจ มีความสุข (3) การปั้น - การป้นั ดินนามนั ๓. ดนิ นามัน/ ผ่านงานศลิ ปะ และแสดงออก ผา่ นงานศิลปะได้ 2. เด็กและครูจดั โตะ๊ กจิ กรรมศลิ ปะ 2 กิจกรรม ภาชนะรองปนั้ กจิ กรรม (๓) การให้ 3. เด็กปฏิบัติกจิ กรรมทัง 2 กิจกรรม อุปกรณ์มุมประสบการณ์ สงั เกต เล่นตามมุม ชว่ ยเหลือและ ความรว่ มมอื ในการ ครคู อยให้ความช่วยเหลอื ในหอ้ งเรยี น การชว่ ยเหลือ แบ่งปันผอู้ น่ื เมื่อมผี ูช้ ีแนะได้ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 4. เดก็ ชว่ ยกันเกบ็ อุปกรณ์และส่งผลงาน และแบง่ ปนั ผู้อ่ืน (๔) การดูแล ห้องเรียนร่วมกนั พร้อมเลา่ ผลงาน เมอื่ มีผชู้ แี นะ 1. เด็กเลือกกิจกรรมเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ ตามความสนใจ มุมประสบการณ์ในหอ้ งเรียน ควรมีอย่างน้อย ๔ มุม เชน่ - มมุ นทิ าน - มุมบล็อก - มุมศิลปะ - มุมบทบาทสมมติ ๒. มุมนิทานครูควรเตรียมหนังสือเก่ียวกับ ความกตัญญู 3. เมอื่ หมดเวลาให้เดก็ เก็บของเข้าท่ีให้เรยี บร้อย

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ 1. ครนู าเด็กลงสนามใหเ้ ด็กอบอุ่นร่างกาย 1. นกหวีด สงั เกต ดว้ ยการวิ่งอยูก่ ับท่ี ๒. เกมเป่ายิงฉบุ การเล่นหรือทางาน กิจกรรมกลางแจ้ง (๒) การเลน่ และทางาน 2. ครูแนะนาวธิ ีเล่นเกม “เป่ายงิ ฉุบ” 3. เคร่ืองเลน่ สนาม รว่ มมือกบั เพ่ือนอยา่ งมี 3. เด็กเล่นเกมตามกตกิ าโดยครูคอยแนะนา เป้าหมาย เล่นหรือทางาน รว่ มกบั ผู้อ่ืน 4. เด็กเลน่ ซาจนได้เวลาพอสมควร จึงเลน่ เครื่องเล่นสนามอย่างอิสระ รว่ มมือกับเพื่อน 5. เม่ือครูใหส้ ญั ญาณหมดเวลาเด็กเขา้ แถว ทาความสะอาดร่างกาย อยา่ งมเี ป้าหมายได้ กิจกรรม (๘) การนบั และแสดง เล่นเกมโดมโิ นคาแสดง 1. ครูสาธติ การเล่นเกมโดมโิ นคาแสดงตาแหน่ง เกมโดมโิ นคาแสดง สงั เกต เกมการศกึ ษา จานวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ ตาแหนง่ ขา้ งบน ขา้ งบน ขา้ งลา่ ง ข้างใน ขา้ งนอก ข้างหนา้ ตาแหนง่ ข้างบน ขา้ งล่าง การจบั คู่ภาพที่กาหนด จับคู่ภาพที่กาหนด ในชีวิตประจาวัน ข้างล่าง ข้างใน ขา้ งหลัง ข้างใน ข้างนอก ได้ (13) การจบั คู่ ขา้ งนอก ข้างหนา้ 2. แบง่ เดก็ เปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ข้างหนา้ ขา้ งหลงั การเปรียบเทียบและ ข้างหลัง ตามลาพงั และ ๓. เด็กกล่มุ หน่งึ มารบั เกมโดมโิ นคาแสดงตาแหน่ง การเรยี งลาดับสิ่งต่าง ๆ เลน่ กับผู้อ่ืนได้ ขา้ งบน ข้างลา่ ง ข้างใน ขา้ งนอก ข้างหนา้ ตามลักษณะ ขา้ งหลังให้เด็กกลมุ่ หนง่ึ เลน่ กลมุ่ อืน่ เล่นเกมชุดเดิม เด็กเล่นหมนุ เวยี นจนทุกกลุม่ ไดเ้ ล่นเกมโดมิโน 4. เด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าท่ี

แผนการจัดประสบการณช ้ันอนุบาล ๓ หนวยที่ ๒๓ วันชาติ สปั ดาหท ่ี ๒๓ คร้งั ที่ ๕ วนั ที่................เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรียนรู้ สังเกต กิจกรรม (๑) การฟังเพลง 1. กิจกรรมพนื ฐานใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกาย เครอ่ื งเคาะจังหวะ การร่วมกจิ กรรม เคลือ่ นไหวและ และแสดงปฏกิ ริ ิยา ไปทัว่ ๆ บริเวณอย่างอสิ ระตามจังหวะเม่ือได้ยนิ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย จังหวะ โตต้ อบเสียงดนตรี เสียง “หยุด” ใหห้ ยดุ เคลื่อนไหวในทา่ นนั ทนั ที ๑. กระดาษแข็ง อยา่ งมีความสุข ร่วมกิจกรรม (๒) การเคลื่อนไหว 2. ให้เดก็ เคล่อื นไหวรา่ งกายไปท่ัว ๆ บริเวณ ทาปา้ ยสญั ลักษณ์ การเคล่ือนไหว ตามเสยี งเพลง/ดนตรี อยา่ งอิสระตามจังหวะ เมื่อได้ยินสญั ญาณหยดุ ประจากล่มุ สังเกต รา่ งกายอย่างมี ให้ปฏิบตั ิปฏิบตั ิตามคาส่งั จับกลมุ่ ๓ คน ๒. แบบบันทึกพิทกั ษ์ การมสี ่วนรว่ มดูแลรักษา ความสขุ ได้ (๒) การฟังและ การรักษาสิ่งแวดลอ้ มใน จบั กลมุ่ ๖ คน จบั กลมุ่ ๙ คน จับกล่มุ ๑๒ คน สงิ่ แวดลอ้ ม ธรรมชาตแิ ละ ปฏิบตั ิตามคาแนะนา ชุมชน (เวลาจบั ครบใหเ้ ดก็ น่ังลงแลว้ ให้เด็กนบั จานวน สงิ่ แวดล้อมเมื่อมีผู้ชีแนะ กิจกรรมเสริม (๔) การพูดความรสู้ กึ ท่ีจบั กลุ่มวา่ ถูกตอ้ งหรือไม่หรือใหเ้ ดก็ กลุ่มอื่น ประสบการณ์ ความต้องการ สลบั กนั นบั ) มีสว่ นรว่ มดแู ล ๓. ปฏบิ ัติตามข้อ 2 ซา รักษาธรรมชาติ 4. ให้เดก็ นั่งผ่อนคลายกลา้ มเนือ ๒ - ๓ นาที และส่งิ แวดลอ้ ม เมอ่ื มีผู้ชแี นะได้ 1. เด็กและครูรว่ มกันสนทนาถงึ สภาพแวดล้อม ในโรงเรียนและชุมชนของเรา 2. เดก็ รว่ มกันแสดงความคิดเหน็ ถึงแนวทาง การรักษาสิง่ แวดล้อม ๓. จดั ตงั กล่มุ ผู้พิทักษ์สิง่ แวดลอ้ มเพ่ือออกปฏิบัติ หนา้ ทดี่ แู ลความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี นตอนเช้า และดแู ลรดนาต้นไม้ ดอกไม้ในโรงเรียนทุกวนั เด็ก ชว่ ยกันจัดทาป้ายสัญลักษณป์ ระจากลุ่ม 4. แนะนาให้เดก็ ปฏบิ ัติกิจกรรมดูแลสงิ่ แวดล้อม ที่บา้ นดว้ ย

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ 5. เดก็ และครูรว่ มกนั สรุปเกี่ยวกบั การรกั ษา ส่ิงแวดลอ้ ม กิจกรรมศลิ ปะ (2) การเขยี นภาพ ๑. ไม้หนบี ผ้าสีสด สงั เกต สร้างสรรค์ และการเล่นกบั สี 1. ครูและเด็กช่วยกนั เตรยี มอุปกรณ์กจิ กรรม ใชก้ รรไกรตดั (5) การหยบิ จบั - ไม้หนีบสร้างสรรค์ คนละ ๑ อนั การใช้กรรไกรตัดกระดาษ กระดาษตามแนว การใช้กรรไกร - การใชส้ เี ทยี น เส้นโค้งได้ การตัด การร้อยวัสดุ ๒. กระดาษ ตามแนวเสน้ โคง้ 2. ครสู าธติ ขนั ตอนการประดิษฐ์ โปสเตอร์สี ไม้หนบี สรา้ งสรรค์ 4. เด็กปฏบิ ัตติ ามครทู ีละขัน คนละคร่ึงแผน่ 5. เดก็ ช่วยกนั เก็บอปุ กรณแ์ ละสง่ ผลงาน พรอ้ มเล่าผลงาน คละสี ๓. กรรไกรปลายมน ขนาด ๔ นวิ ๔. กาว ๕. สีเทยี น กิจกรรมเลน่ (๓) การใหค้ วาม 1. เดก็ เลือกกิจกรรมในมุมประสบการณ์ อุปกรณ์มมุ สงั เกต ประสบการณ์ใน การชว่ ยเหลอื และ ตามมุม รว่ มมือในการปฏบิ ตั ิ ตามความสนใจ มุมประสบการณ์ในห้องเรียน หอ้ งเรยี น แบง่ ปนั ผู้อื่นได้ด้วยตนเอง ชว่ ยเหลอื และ กิจกรรม ควรมอี ย่างน้อย ๔ มมุ เชน่ แบง่ ปนั ผ้อู ่นื ได้ดว้ ย (๔) การดูแล - มมุ นทิ าน - มุมบลอ็ ก ตนเอง ห้องเรียนร่วมกัน - มุมศิลปะ - มุมบทบาทสมมติ - มุมเครอ่ื งเลน่ สัมผัส - มุมธรรมชาตศิ กึ ษา 2. เมอ่ื หมดเวลาใหเ้ ด็กเก็บของเข้าท่ีให้เรียบร้อย

จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ สังเกต เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ การเลน่ รว่ มกับเพ่อื น กจิ กรรมกลางแจง้ (๒) การเลน่ และ 1. นาเดก็ ไปบรเิ วณท่ีเล่นนา เล่นทราย อปุ กรณ์การเลน่ นา - สงั เกต 2. ครแู นะนาการเลน่ นาและการเล่นทราย เลน่ ทราย การจับคภู่ าพทกี่ าหนด เลน่ หรอื ทางาน ทางานร่วมกบั ผู้อื่น 3. การก่อทรายเป็นรูปทรง อยา่ งอสิ ระ 4. เดก็ เล่นอิสระครูคอยให้ความช่วยเหลือ เกมจับภาพกับคา รว่ มมอื กบั เพ่ือน ๕. เมือ่ หมดเวลาเดก็ เกบ็ อุปกรณ์ และทาความ ขา้ งซา้ ย ข้างขวา สะอาดรา่ งกายตนเอง ระหวา่ ง อยา่ งมีเป้าหมายได้ ๑. ครสู าธิตการเล่นเกมจับภาพกับคา ข้างซ้าย กิจกรรม (๘) การนับและแสดง ขา้ งขวา ระหว่าง เกมการศกึ ษา จานวนของสิง่ ตา่ ง ๆ 2. แบง่ เด็กเป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสม จับค่ภู าพ ในชวี ติ ประจาวัน ๓. ครแู จกเกมจบั คู่ภาพกับคาข้างซา้ ยขา้ งขวาระหว่าง (13) การจบั คู่ ให้เด็กกลุ่มหน่ึงเล่นกลุ่มอน่ื เลน่ เกมชุดเดิม เดก็ เลน่ ทก่ี าหนดได้ การเปรยี บเทยี บ หมุนเวยี นจนทุกกลุ่มไดเ้ ล่นเกมโดมโิ น และการเรยี งลาดับ 4. เด็กเก็บเกมการศึกษาเขา้ ที่ ส่งิ ตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะ

1. วนั ที่ ช่อื – สกลุ 2. 3. 4. 5. 6. 7. ๘. ๙. 10. ๑. การกระโดดขาเดียวอยู่กับที่ โดยไม่เสยี ด้านร่างกาย การทรงตวั ด้านอารมณ์ จิตใจ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเด็ก ๒.ตกวั ารใช้กรรไกรตดั กระดาษตามแนว แผนการจัดประสบการณชนั้ อนบุ าล ๓ หนวยที่ ๒๓ วนั ชาติ การเส้นตรง ด้านสงั คม ประเมินพฒั นาการ ๓. ความสนใจ มคี วามสขุ และแสดงออก ด้านสตปิ ัญญา ผา่ นงานศิลปะ ๔. ความสนใจ มคี วามสุข และแสดง ทา่ ทาง/ เคลือ่ นไหวประกอบเพลง จังหวะ และ ๕. กดานรตชร่วี ยเหลือและแบ่งปันผู้อนื่ เมอื่ มี ผู้ชีแนะ ๖. การมสี ว่ นร่วมดแู ลรักษาธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม เมื่อมผี ้ชู ีแนะ ๗. การเล่นหรอื ทางานรว่ มกับเพ่อื นเป็น กลุ่ม ๘. การฟงั ผ้อู ืน่ พูดจนจบและสนทนาโต้ตอบ สอดคล้องกับเรอ่ื งที่ฟงั ได้ ๙. การอ่าน คา พร้อมทังชีหรอื กวาดตามอง ข้อความตามบรรทดั ๑๐. การจับคู่ภาพตามท่ีกาหนด หมายเหตุ

คือ ระดบั ๓ ดี ระดับ ๒ ปานกลาง ๑1. วันท่ี ชอ่ื – สกลุ ๑2. ๑3. ๑. การกระโดดขาเดยี วอยู่กับท่ี โดยไม่ ดา้ นร่างกาย ๑4. เสยี ๑5. ๒. กกาารรทใชรก้งตรรวั ไกรตดั กระดาษตาม ดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ๑6. แนตววั เส้นตรง ระดบั ๑ ต้องสง่ เสริม 17. ๓ก.าครวามสนใจ มคี วามสขุ และ ดา้ นสังคม ประเมินพัฒนาการ 18. แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ 19. 20. ๔. ความสนใจ มคี วามสขุ และแสดง ทา่ ทาง/ เคล่ือนไหวประกอบเพลง คาอธิบาย ครูสังเกตพฤตกิ รรมเด็กรายบคุ คล จดบนั ทกึ สรุปเป็นรายสปั ดาห์ระบุระดับคุณภาพเป็น ๓ ระดบั จังหวะ และ ๕. กดานรตชรว่ ี ยเหลือและแบ่งปนั ผอู้ ่นื เมื่อมีผู้ชแี นะ ด้านสติปญั ญา หมายเหตุ ๖. การมีส่วนรว่ มดูแลรักษา ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม เมื่อมีผู้ ชีแนะ ๗. การเล่นหรือทางานรว่ มกับเพื่อน เป็นกล่มุ ๘. การฟังผอู้ นื่ พูดจนจบและสนทนา โต้ตอบสอดคล้องกับเรือ่ งท่ีฟังได้ ๙. การอ่าน คา พร้อมทังชหี รือกวาด ตามองข้อความตามบรรทดั ๑๐. การจับค่ภู าพตามที่กาหนด