หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เพศกบั วยั รุ่น เรื่อง ปลอดภยั ไว้ก่อน
โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ เดิมทเี่ ดยี วเราร้จู ักโรคกลุ่มน้ีในนามของ กามโรค หรอื ในภาษาองั กฤษว่า venereal diseases หรอื VD แต่ใน ปัจจุบนั นี้ ได้มีการศึกษาคน้ คว้า และวจิ ัยกนั อย่างกวา้ งขวาง ทาใหไ้ ด้ขอ้ มลู เพมิ่ เติมมากขนึ้ วา่ ยงั มโี รคอ่ืนทีต่ ิดต่อกนั ได้ โดยการร่วมเพศ และโดย เพศสมั พนั ธ์ในลกั ษณะอ่นื ๆ ดงั น้ัน เพื่อใหค้ รอบคลุมโรคต่างๆ ให้กว้างขวาง ออกไปอกี ชื่อทีใ่ ชเ้ รียกกามโรคในภาษา องั กฤษจึงได้เปลยี่ นไป เป็น \"sexually transmitted diseases\" หรอื STD ปัจจุบนั ใช้คาว่า \"การตดิ เชอ้ื ทางเพศสมั พันธ์\"
1.โรคเอดส์ (AIDS) หรือกลมุ่ อาการภูมิคมุ้ กนั เส่อื ม เกิดจากการรบั เชอ้ื Human immunodeficiency virus หรอื HIV เขา้ ไปทาลายเม็ดเลือดขาว ท่ีเปน็ แหล่งสรา้ งภมู คิ มุ้ กันโรค ทาให้ภมู ิคมุ้ กนั โรคลดน้อยลง จึงทาใหเ้ ช้ือโรค ฉวยโอกาสแทรกซ้อนเขา้ ส่รู ่างกายได้งา่ ยข้นึ เชน่ มะเร็ง วัณโรค และ สาเหตุการเสยี ชีวติ ก็มกั เกดิ ขึ้นจากโรคติดเช้ือฉวยโอกาสตา่ งๆ เหลา่ น้ี ที่ จะทาใหอ้ าการรนุ แรง และเสียชวี ติ อย่างรวดเรว็
อาการของโรคเอดส์ ระยะที่ 1 : ระยะทไ่ี มม่ อี าการอะไร ระยะที่ 2 : ระยะทเ่ี รม่ิ มอี าการหรือระยะท่ีมอี าการสมั พนั ธ์กบั เอดส์ อาการในชว่ งน้อี าจเป็นไข้เรอื้ รัง น้า หนกั ลด หรอื ทอ้ งเสยี งเรอื้ รงั โดยไม่ทราบ สาเหตุ นอกจากน้ีอาจมเี ชอ้ื ราในชอ่ งปาก งูสวัด เรมิ ในช่องปาก หรืออวยั วะ เพศ ผื่นคนั ตามแขนขา และลาตวั คลา้ ยคนแพ้น้าลายยงุ ระยะที่ 3 : ระยะโรคเอดส์เต็มขน้ั หรือท่ีภาษาทางการเรยี กว่าโรคเอดส์ เป็นระยะทภ่ี ูมิตา้ นทานของร่ายกายเสียไปมากแล้วผปู้ ว่ ยจะมีอาการของการ ตดิ เชื้อจาพวกเช้ือฉกฉวยโอกาสบ่อยๆ และเปน็ มะเร็งบางชนดิ
2.หนองใน (Gonorrhoea) เกดิ จากเชือ้ แบคทเี รียชือ่ Neisseria gonorrhoeae ทาใหเ้ กิด อาการระคายเคืองในทอ่ ปสั สาวะ แสบขดั เวลาปัสสาวะ และมหี นอง ไหลออกจากท่อปสั สาวะ อาจจะทา ใหเ้ กดิ การอักเสบในช่องทอ้ ง หรอื เป็นหมันหากไมไ่ ดร้ บั การรักษา
3.หนองในเทยี ม (Non-gonococcal Urethritis/Non gonococcal Cervicitis) มอี าการแสบปลายท่อ ปัสสาวะ ปสั สาวะขัดและมหี นอง ไหล และมมี ูกออกเล็กนอ้ ย โดยเฉพาะในชว่ งเชา้ สว่ นผูห้ ญงิ อาจมอี าการตกขาวผิดปกติ
4.แผลริมอ่อน (Chancroid) เกิดจากเชอื้ Haemophilus Ducreyi ทาให้เกดิ แผลท่อี วัยวะเพศ บวมและเจ็บ บาง คนมตี อ่ มนา้ เหลอื งท่ีขาหนบี หรือทช่ี าวบา้ น เรียกไข่ดนั บวม หากไมร่ ักษาหนองจะแตกออก จากตอ่ มน้าเหลือง มกั มีหลายแผล ขอบแผลนุ่ม และไมเ่ รยี บ ก้นแผลสกปรกมหี นอง มีเลอื ดออก งา่ ย เวลาสมั ผัสเจบ็ ปวดมาก บางรายตอ่ ม นา้ เหลอื งทีข่ าหนบี จะบวม และเปน็ ฝี เมื่อฝี แตกจะเปน็ แผล
5.เริมทอี่ วยั วะเพศ (Genita Herpes Simplex Virus Infection) เกิดเช้อื ไวรสั herpes simplex virus ทาให้ เกดิ อาการปวดแสบบรเิ วณขา กน้ หรืออวัยวะเพศ และ ตามด้วยผนื่ เป็นตุ่มนา้ ใส แผลหายได้เองใน 2-3 สปั ดาห์ แต่เชือ้ ยังอยู่ในร่างกาย เมอ่ื ร่างกายอ่อนแอ เช้อื ก็จะ กลบั เป็นใหม่
6.หูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum) เกิดจากเช้อื ไวรสั Molluscum contagiosum virus (MCV) ทาใหเ้ กดิ เป็นต่มุ นูนบนผวิ หนัง ผิวเรยี บขนาดเล็ก ขนาด ประมาณ 2-5 มิลลิเมตร จะพบมากขึ้นในรายทมี่ ีการติดเชอื้ HIV จานวนตุ่มทีเ่ กดิ ข้ึนอาจมมี ากหรือน้อยขนึ้ กบั สภาพรา่ งกายของ ผู้ปว่ ยขณะน้นั ว่ารา่ งกายมคี วามแข็งแรงเพยี งใด ถ้าใช้เขม็ สะกิด ตรงกลางแล้วบบี ดูจะได้เนื้อหดู สขี าวๆ คล้ายขา้ วสกุ มักเปน็ ที่ บรเิ วณหวั หนา่ ว อวยั วะเพศภายนอกและโคนขาดา้ นใน
7.หูดหงอนไก่ (Condyloma Acuminata) เกิดจากไวรสั Human papilloma virus ลักษณะเป็นต่ิงเนอื้ ออ่ นๆ สีชมพูคล้ายหงอนไก่ ชอบขนึ้ ท่ี อุ่นและอบั ชืน้ ในผูช้ ายมักพบที่อวยั วะเพศบรเิ วณใต้หนงั หมุ้ ปลายอวัยวะเพศชาย ตลอดทง้ั บริเวณรอบรอยเปดิ ขอบ,ทอ่ ปัสสาวะ และอณั ฑะ สว่ นผหู้ ญิงจะพบทีป่ ากช่อง คลอด ผนังช่องคลอด ปากมดลูก ปากทวารหนักและฝเี ย็บ หูดมขี นาดโตข้นึ เร่อื ยๆ การตงั้ ครรภจ์ ะทาให้หูดโตเร็วกว่า ปกติ ถ้าไมร่ ีบรักษาจะเป็นมากขึน้ และยากตอ่ การรกั ษา และทารกอาจติดเช้อื ได้ขณะคลอด
8.ฝี มะม่วง (Lymphogranuloma Inguinalis) เกดิ จากเชอื้ ไวรัส คลามีเดียทราโคมาตสิ (Chlamydia trachomatis) ซึ่งตดิ ตอ่ กนั ไดโ้ ดยการ ร่วมเพศ อาการเริม่ ดว้ ยมีตมุ่ นูนหรือเปน็ แผลท่ีอวัยวะ เพศหลังจากติดโรคแลว้ 2 สัปดาห์ ตอ่ มาต่อม น้าเหลืองข้างเคียง ซงึ่ ในชายจะเป็นท่ีบรเิ วณไขด่ ัน และในหญงิ ทบ่ี ริเวณทวารหนกั ต่อมน้าเหลืองเหลา่ นี้ จะบวมและปวด ผวิ หนังตรงตอ่ มจะเป็นสแี ดงคลา้ และปริแตกเป็นแผล มหี นองไหลระหวา่ งท่ีมอี าการ บวมและเป็นแผล ผู้ปว่ ยอาจมไี ขห้ รืออาการอน่ื ๆ คลา้ ยการอกั เสบ
9.ซิฟิ ลสิ (Syphilis) เกดิ จากการตดิ เช้อื Treponema pallidum เปน็ โรค ท่มี อี ันตราย และมีอาการเร้ือรัง สามารถตดิ ตอ่ ยาวนานกว่า 2 ปี ลักษณะการติดเชอื้ เริ่มแรกจะเปน็ ก้อนแข็ง แตไ่ ม่เจ็บที่ บริเวณอวยั วะเพศ หากไม่รักษาจะกลายเป็นระยะทสี่ องที่ เรียกวา่ เข้าขอ้ หรือออกดอก ถ้าทิง้ ไว้นานจะทาใหเ้ กิดโรคแก่ ระบบตา่ งๆ ของรา่ งกายหลายระบบ ทงั้ ซฟิ ิลิสระบบหัวใจและ หลอดเลือด ซฟิ ลิ สิ ระบบประสาท เปน็ ตน้ นอกจากนี้ มารดาที่ เปน็ โรคซิฟิลสิ จะถ่ายทอดโรคสทู่ ารกในครรภ์ได้เรียกว่า ซฟิ ิลสิ แตก่ าเนิด (congenital syphilis)จึงถอื ซิฟลิ ิสเป็นโรคทมี่ ี อนั ตราย และมอี าการเรือ้ รงั สามารถตดิ ต่อยาวนานกวา่ 2 ปี
10.พยาธิช่องคลอด (Vaginal Trichomoniasis) เกดิ จากเชือ้ โปรโตซัว Trichomonas vaginalis ผู้ปว่ ยจะมอี าการตกขาวผดิ ปกติ มสี ีเขียวขุ่นหรอื เหลอื ง เข้ม มีฟองอากาศและมกี ล่นิ เหม็น เกดิ การระคายเคอื ง บริเวณอวยั วะเพศ เจบ็ ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ คนั และ แสบปากช่องคลอด
11.เชื้อราในช่องคลอด (Vaginal Candidiasis) เกิดจากเชอ้ื รากลุม่ Candida ซง่ึ ร้อยละ 80 - 90 เกดิ จาก Candida albicans ทาให้มีอาการระคายเคอื งบริเวณ ช่องคลอด มีการตกขาวขุ่นจับเป็นก้อน อาจมีอาการปัสสาวะ แสบขดั เจบ็ ขณะรว่ มเพศ
12.แผลกามโรคเรื้อรังทข่ี าหนีบ (Granuloma inguinale) เกดิ จากเชือ้ แบคทเี รีย Donovania granulomatis โดยจะมแี ผลทบ่ี ริเวณอวยั วะเพศ ขาหนบี ซอกขา หรอื บริเวณหน้า และไม่พบในประเทศไทย มกั พบในคนผวิ ดา
อาการแบบใด สงสัยเป็ น โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ ในผ้ชู าย จะมอี าการปสั สาวะแสบขดั ขาหนบี บวม หรือเปน็ ฝี เจ็บปวดอวยั วะเพศ มีผ่นื ตุ่ม แผล บริเวณอวยั วะเพศ มเี มอื กใส หรือ หนองไหลออกมา ในผูห้ ญงิ จะรู้สกึ เจบ็ เสยี วท้องน้อย ขาหนีบบวม หรอื เปน็ ฝี เจบ็ ปวด คนั อวัยวะเพศ มีผ่นื ตุ่ม แผลบริเวณอวยั วะเพศ มตี กขาวสเี หลือง มกี ลนิ่ เหม็น
การป้องกนั โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ 1. ใส่ถุงยางอนามัย หากจะมเี พศสัมพนั ธ์กบั คนทไ่ี ม่แนใ่ จว่ามเี ชื้อหรือไม่ 2. รกั ษาความสะอาดของร่างกายและอวยั วะเพศอย่างสม่าเสมอ 3. ไม่เปล่ยี นคนู่ อน ให้มีสามี หรอื ภรรยาคนเดยี ว 4. ไมค่ วรมเี พศสัมพันธต์ ั้งแตย่ งั อายนุ ้อย 5. ตรวจโรคเปน็ ประจาทกุ ปี เพื่อหาเชือ้ โรค แมจ้ ะไม่มีอาการใด ๆ โดยเฉพาะคูท่ ี่ กาลงั จะแตง่ งาน 6. เรียนรู้ ศึกษาอาการของโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ 7. ไมค่ วรมเี พศสัมพนั ธข์ ณะมีประจาเดือน 8. ไม่ควรมีเพศสมั พนั ธท์ างทวารหนัก หากจาเปน็ ใหส้ วมถงุ ยางอนามยั 9. ไมค่ วรสวนล้างชอ่ งคลอด
ความหมายของการต้งั ครรภ์ทไี่ ม่พงึ ประสงค์ การตั้งครรภ์ท่ีไม่พงึ ประสงค์ หมายถึง สถานการณ์ ของการต้งั ครรภท์ ่ีไม่ไดต้ ้งั ใจ ไม่ไดม้ ีการวางแผนการณ์จะให้ เกิดข้ึน การไม่มีความรู้ ความเขา้ ใจท่ีถูกตอ้ งเกี่ยวกบั การต้งั ครรภ์ และการคุมกาเนิดการถูกข่มขืนจนต้งั ครรภ์ การต้งั ครรภก์ ่อนการ สมรส ตลอดจนความไมพ่ ร้อมในดา้ นภาวะต่างๆ ดา้ นเศรษฐกิจ การไมร่ ับผดิ ชอบของบิดาของเดก็ ในครรภ์ เป็นตน้
พฤตกิ รรมเสี่ยงต่อการต้งั ครรภ์ทไ่ี ม่พงึ ประสงค์ พฤติกรรมเสี่ยงต่อการต้งั ครรภท์ ่ีไมพ่ งึ ประสงคใ์ นช่วงชีวติ ของ วยั รุ่น อนั ก่อใหเ้ กิดการต้งั ครรภก์ ่อนวยั อนั ควร มาจากปัจจยั ต่างๆ ดงั น้ี การเปิ ดโอกาสแก่ตนเองและผ้อู ื่น การเปิ ดเผยอารมณ์ทางเพศ ความเชื่อทางเพศที่ผดิ ครอบครัว
ปัญหาและผลกระทบจากการต้ังครรภ์ที่ไม่พงึ ประสงค์ ปญั หาทางดา้ นร่างกาย ผทู้ ่ีต้งั ครรภ์ก่อนวัยอันควร สว่ นใหญพ่ บวา่ มอี ายยุ งั น้อย ซึ่งมสี ภาพ ร่างกายท่เี จริญเติบโตยงั ไมเ่ ตม็ ท่ี หรอื ไม่พร้อมกับสภาพของการต้ังครรภ์ จงึ มี โอกาสเกิดภาวะแทรกซอ้ น และอตั ราเส่ยี งตอ่ การตาย และการเจบ็ ปว่ ย เชน่ การทก่ี ระดูกเชิงกรานเล็กเกนิ ไปไมส่ ามารถคลอดโดยวธิ ีธรรมชาตไิ ด้ การขาด ความรู้ และความพร้อมต่อการเตรยี มตัวเปน็ มารดา ทารกมีนา้ หนกั แรกเกิด นอ้ ย เติบโตช้า พัฒนาการทางสมองหยดุ ชะงัก การคลอดก่อนกาหนด เป็นตน้
ปัญหาและผลกระทบจากการต้ังครรภ์ที่ไม่พงึ ประสงค์ ปญั หาทางดา้ นจติ วยั รุน่ หญงิ มคี วามวติ กกังวล ความเครยี ด ความอับอาย เสยี ใจ เศรา้ ใจ กลัวการถูกประณาม การไมย่ อมรับจากครอบครวั สังคม และฝา่ ยชาย ตลอดจน ความต้องการทจ่ี ะทาแทง้ ดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ นอกจากเป็นการกระทาทผี่ ดิ กฎหมาย แลว้ อาจก่อให้เกิดอันตราย เชน่ การตกเลอื ดหรอื เสยี ชวี ิตได้ สว่ นวัยรุน่ ชาย มักเกดิ ความเครียด ความวติ กกังวล ความกลวั ว่าผู้อื่นจะ ทราบเรือ่ งตอ่ การทาความผิดของตนจากญาติ เพอ่ื นฝูง หรือญาตฝิ ่ายหญงิ ถา้ ทราบเรอื่ งแล้วจะเอาผดิ ตามกฎหมายได้ กลัวภาระการผกู มัดระหวา่ งกัน การ เรยี กรอ้ งของฝ่ายหญงิ โดยผลกระทบทางจิตใจน้ีจะสง่ ผลต่อการเรยี น เชน่ หยุด เรียน เสียการเรยี น การเรียนตกต่า เปน็ ต้น
ปัญหาและผลกระทบจากการต้ังครรภ์ทไ่ี ม่พงึ ประสงค์ ปญั หาทางด้านครอบครัวและสังคม เนือ่ งจากสภาพความไมพ่ ร้อมของบทบาท หนา้ ที่ ความ รับผิดชอบทงั้ สองฝ่าย หรือการทีฝ่ ่ายหญงิ ตอ้ งรบั สภาพเพียงฝา่ ยเดียว ปญั หาการปรบั ตวั ความสมั พนั ธ์ทไี่ มด่ ีอนั เน่อื งจากปญั หาต่างๆ เชน่ ฐานะ การอบรมเล้ยี งดูทแ่ี ตกต่างกัน วฒุ ิภาวะ ความรบั ผดิ ชอบ การ ถกู ทอดท้งิ การทะเลาะเบาะแว้ง ยอ่ มให้เกดิ ปญั หาภายในครอบครัว ตลอดจนการหมดโอกาสในการเรยี นต่อ เพราะต้องรบั ภาระหน้าที่ ความเป็นพอ่ หรือแมก่ อ่ นวัยอันควร ซึง่ มีผลตอ่ การสรา้ งรากฐานการ ดาเนินชวี ิตตามสงั คมที่ยอมรับได้
การหลกี เลยี่ งการป้องกนั ตนเองจากพฤติกรรมเส่ียงต่อ การต้งั ครรภ์ทไ่ี ม่พงึ ประสงค์ การปดิ โอกาสต่อพฤติกรรมเสยี่ งทางเพศ การปิดโอกาสต่อพฤตกิ รรมเสีย่ งทางเพศ เช่น การไม่เทีย่ วเตร่ ตามสถานเรงิ รมยต์ า่ งๆ การไม่ดม่ื เคร่อื งดมื่ ท่ีมแี อลกอฮอล์ การไม่คบหา บคุ คลแปลกหน้า การไม่เดนิ ในท่เี ปล่ยี วและมีอันตราย การหลีกเล่ียงส่ิง กระตุน้ ความรสู้ กึ ทางเพศทางส่อื วทิ ยุ โทรทัศน์ สื่อสงิ่ พิมพ์ อินเทอรเ์ น็ต การเลอื กคบเพื่อนท่ีดี เป็นต้น
การหลกี เลยี่ งการป้องกนั ตนเองจากพฤติกรรมเสี่ยง ต่อการต้งั ครรภ์ทไ่ี ม่พงึ ประสงค์ การหลกี เลย่ี งพฤติกรรมเส่ียงของตนเอง การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสีย่ งของตนเอง เชน่ การแตง่ กาย รัดรูป การเปดิ เผยสดั ส่วนในที่สาธารณชน ตลอดจนการแสดงออก ทางดา้ นกริ ยิ า ท่าทางทย่ี ่วั ยวนไม่เหมาะสม เชน่ การถกู เน้อื ต้องตัว โดยการโอบ การกอด การจูบ เป็นต้น
การหลกี เลย่ี งการป้องกนั ตนเองจากพฤตกิ รรมเสี่ยงต่อ การต้งั ครรภ์ทไี่ ม่พงึ ประสงค์ ร้จู กั ทกั ษะการปฏเิ สธ การรู้จักการปฏิเสธ เปน็ การช่วยลดความต้องการทางเพศ ได้ เชน่ คาวา่ \"ไม่ หยดุ อยา่ \" ทงั้ นตี้ อ้ งเปน็ การปฏเิ สธที่มาจากความ ตั้งใจจริงทจี่ ะหลีกเลี่ยงและป้องกันตนเองมากกวา่ การเสแสรง้ ย่ัวยวนหรอื ส่งเสริมอารมณ์ทางเพศมาก
การหลกี เลย่ี งการป้องกนั ตนเองจากพฤตกิ รรมเส่ียงต่อ การต้งั ครรภ์ทไี่ ม่พงึ ประสงค์ รู้จกั ทกั ษะการต่อรอง การปฏเิ สธเพียงอย่างเดยี ว บางครง้ั อาจไม่เกิดผล การร้จู กั การ สอ่ื สาร การสร้างความสัมพนั ธท์ ่ีดโี ดยรจู้ กั การตอ่ รองดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ อาจจะ โดยเสนอกจิ กรรมอื่นๆ ท่ดี กี ว่า เพ่ือเปน็ การหลีกเล่ียงเหตุการณเ์ ฉพาะหน้า เชน่ การขอไปเปิดโทรทศั น์ขณะท่กี าลงั ถูกเพื่อนชายโอบกอด การหลีกเลี่ยง การอยสู่ องคนตามลาพงั โดยการไปออกกาลงั กายหรอื เลน่ กีฬา เป็นตน้
การหลกี เลยี่ งการป้องกนั ตนเองจากพฤติกรรมเสี่ยงต่อ การต้งั ครรภ์ทไ่ี ม่พงึ ประสงค์ รจู้ ักการคมุ กาเนิด การคมุ กาเนดิ เป็นการป้องกันการตัง้ ครรภ์ได้ การคมุ กาเนิดมหี ลาย วิธี แต่การรจู้ ักการคุมกาเนดิ โดยใชถ้ ุงยางอนามยั เป็นวธิ กี ารทสี่ ะดวก ประหยดั ได้ผลดีทง้ั การป้องกนั การต้ังครรภ์ และการปลอดภัยจากโรคทาง เพศสมั พนั ธแ์ ละโรคเอดสแ์ ต่ขณะเดียวกัน
การหลกี เลย่ี งการป้องกนั ตนเองจากพฤตกิ รรมเสี่ยงต่อ การต้งั ครรภ์ทไี่ ม่พงึ ประสงค์ ความสมั พันธท์ ดี่ รี ะหวา่ งครอบครวั ความสมั พนั ธ์ที่ดรี ะหว่างครอบครัว เป็นการปอ้ งกนั พฤตกิ รรมเส่ยี ง ทางเพศท่สี าคัญอย่างหน่งึ ของวยั รนุ่ ความสมั พันธท์ ี่ดีระหว่างบคุ คลใน ครอบครวั จะสรา้ งความรกั ความผกู พนั ความเขา้ ใจ ซ่ึงเปน็ การสร้าง ภูมคิ ้มุ กนั ใหก้ ับวยั รุ่น ตลอดจนการยดึ มน่ั เรือ่ งการรกั นวลสงวนตัวกอ่ นถงึ การ แตง่ งาน กจ็ ะชว่ ยลดพฤติกรรมทเ่ี สย่ี งได้
การป้องกนั เพ่ือหลกี เลย่ี งปัจจยั เสี่ยงจากพฤติกรรมทางเพศ 1. หลีกเลยี่ ง การแต่งกายที่ ย่วั ยวนโป๊โชว์สัดส่วนเรือนร่าง เลยี นแบบละครโทรทศั น์ส่ือต่างๆ หรอื แสดงกริ ยิ าอาการที่ เสย่ี งตอ่ พฤตกิ รรมทางเพศเพราะการแต่งกายท่ียั่วยุจะเส่ยี ง ต่อการถูกกระตุน้ ความรู้สกึ ทางเพศ
การป้องกนั เพื่อหลกี เลย่ี งปัจจยั เสี่ยงจากพฤติกรรมทางเพศ 2. การแตง่ กายทีเ่ หมาะสมกับกาลเทศะ หมายถึง การแตง่ กายทมี่ กี ารเลือกผ้า สี เลือกลาย และเลือกแบบ ท่ีสวมใส่ ให้เหมาะสมกับผ้สู วมใส่ เหมาะสมกบั สถานท่ีท่จี ะไป และ งานทจ่ี ะไปรว่ มกจิ กรรม เชน่ ไปงานทาบุญทีว่ ัด ไป สถานทรี่ าชการ ไปงานศพ งานขนึ้ บา้ นใหม่ งานท่ีโรงแรม เปน็ ตน้ เหมาะกับฤดกู าล เสื้อผ้าทสี่ วมตอ้ งเลอื กให้ เหมาะสม เชน่ ฤดูฝน ฤดูรอ้ น ฤดหู นาว เป็นตน้
การป้องกนั เพื่อหลกี เลย่ี งปัจจยั เส่ียงจากพฤตกิ รรมทางเพศ 3. หลีกเลย่ี ง การสนทนาเรือ่ งทะเลน้ ลามกกับเพ่อื นชายในเรอ่ื ง เพศ เพราะส่วนใหญ่จะเริ่มตน้ ด้วยการพูดคุยกอ่ น แลว้ พัฒนา ตอ่ เนื่องไปจนถึงการถกู ลวนลาม ลว่ งละเมดิ ทางเพศ
การป้องกนั เพ่ือหลกี เลย่ี งปัจจยั เส่ียงจากพฤตกิ รรมทางเพศ 4. หลกี เลีย่ ง การเดนิ ทางไปต่างหมู่บ้าน ตา่ งอาเภอ หรือ ตา่ งจังหวัดกบั เพ่อื นชาย สองตอ่ สองตามลาพงั ซึ่งหากมีความ จาเปน็ ควรไปกับเพอ่ื น ยิ่งมากยิ่งดี และตอ้ งบอกใหผ้ ู้ปกครองรู้ ดว้ ยวา่ ไปท่ีใด ไปกบั ใคร จะกลบั เม่ือไร
การป้องกนั เพื่อหลกี เลยี่ งปัจจัยเส่ียงจากพฤตกิ รรมทางเพศ 5. หลกี เล่ยี ง การอยใู่ กลช้ ดิ กับเพศตรงขา้ ม และเลย่ี งการให้เพ่อื น ชายแตะเน้ือตอ้ งตวั จนถือเปน็ เรอ่ื งปกติ เพราะหากเกิดเหตกุ ารณ์ ถูกลวนลาม คนท่ัวไปจะเหน็ เปน็ เรือ่ งที่ ผหู้ ญงิ ใหท้ ่า จากการ สารวจพบวา่ การจบั มอื ถอื แขนมีโอกาสเกดิ เพศสมั พนั ธ์ 10% การโอบกอดมโี อกาสเกิดเพศสมั พนั ธ์ 20% การจูบมีโอกาสเกิด เพศสัมพันธ์ 60% การสัมผัสภายนอกมีโอกาสเกิดเพศสมั พันธ์ 80%
การป้องกนั เพ่ือหลกี เลย่ี งปัจจยั เส่ียงจากพฤตกิ รรมทางเพศ 6. หลกี เลี่ยง การปฏิบัตติ นท่ีเกย่ี วข้องกบั สถานการณ์เสย่ี ง เช่น การอยใู่ น ที่ลับตาคน การอยู่ดว้ ยกนั สองตอ่ สองในยามวกิ าล การใชเ้ ครอ่ื งดื่มมแี อลกอฮอล์ สารเสพติด โดยเฉพาะวัยรนุ่ ท่ี นยิ มดื่มเบยี ร์ ทาให้ขาดความยับย้งั ชง่ั ใจ นาไปสกู่ ารดูสิ่งยัว่ ยุ จากสื่อตา่ งๆ เป็นตน้ และสามารถคดิ วิเคราะหเ์ พ่ือประเมิน สถานการณ์เส่ียงดังกล่าวว่าควรตัดสินใจอยา่ งไรจึงปลอดภยั
การป้องกนั เพ่ือหลกี เลยี่ งปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมทางเพศ 7. หลีกเล่ยี ง การอยู่สองต่อสองกับเพศตรงข้าม ในสถานท่ีเกดิ ความเสี่ยง (ซอยเปล่ียว จุดท่ลี ับตาคน จดุ ท่มี ีทางเข้าออกทาง เดียว จดุ ที่มีแสงสว่างน้อย) ช่วงเวลาทเ่ี สีย่ ง (กลางคืน เลิกเรยี น วนั หยุด) และบคุ คลทเ่ี สี่ยง (บุคคลท่อี ย่ใู กลต้ วั เรา เช่น เพอื่ น สนิท เพ่ือนนักเรยี น หรือบุคคลทเี่ ราต้องมปี ฏิสมั พนั ธด์ ว้ ย ใน สถานที่ต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ ชา่ งซ่อมบ้าน บริเวณป้าย รถเมล์ คนขบั แทก็ ซ่ี เป็นต้น)
การป้องกนั เพื่อหลกี เลย่ี งปัจจยั เส่ียงจากพฤติกรรมทางเพศ 8. หลีกเล่ียง การเดินกลับบ้านพักในเวลาดกึ บา้ นพกั อยูใ่ นซอยลกึ เปลย่ี ว แสงสวา่ งไมเ่ หมาะสม ไม่มีเพื่อนรว่ มเดินทาง และเกดิ ความประมาท ซึง่ ปจั จยั น้กี อ่ ใหเ้ กิดอันตรายในการกอ่ เหตุรา้ ย มากท่สี ดุ 9. ควรเรียนรศู้ ิลปะปอ้ งกนั ตวั ฝกึ สังเกตสภาพแวดล้อม และท่ี สาคญั ในชว่ ง เวลาท่ีวิกฤตต้องมสี ตติ ลอดเวลา รจู้ กั เอาตัวรอด เชน่
ขอขอบคุณ • โรงเรยี นสตรสี มทุ รปราการ สาหรบั ขอ้ มลู • คณุ สมุ าลี หวั หนา้ โครงการวิถีถ่ินจงั หวดั สรุ นิ ทร์ สาหรบั อปุ กรณใ์ นการ จดั กิจกรรมการเรยี นการสอน
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: