46 วธิ ีการประดิษฐก์ ระทงสม่ี ุม
47 วธิ ีการพบั กลีบผกา กลบี ผกา มลี ักษณะคลา้ ยกลีบหนา้ ชา้ ง นิยมใช้แต่งตัวพาน หรอื ใช้เปน็ กลีบประดับเพิม่ ความสวยงามอกี แบบหนง่ึ วธิ กี ารพับ ๑. ฉีกใบตองกวา้ ง ๓ นิ้ว พับใบตองดา้ นซ้ายเลยต้ังฉากเลก็ น้อย ๒ -๔. พบั ใบตองด้านขวาลงมาใหช้ ดิ ดา้ นขา้ ย จากนนั้ พับอีกครั้งโดยให้ด้านขวาทบั ด้านซา้ ยเพียงคร่งึ กลบี เป็นกลีบผกา พบั อีกกลีบนา้ มาซอ้ นกันเย็บเปน็ กลบี ผกาซอ้ น
48 วิธีการพบั กลีบกหุ ลาบ กลีบกหุ ลาบ นิยมเย็บเป็นถาด จาน กระทงหรือภาชนะอื่นๆ มีท้ังแบบครงึ่ กลบี และเตม็ กลีบ วิธกี ารพบั ๑. ฉกี ใบตองกวา้ ง ๒.๕ น้ิว พับใบตองทั้งสองข้างลงมาต้ังฉาก ๒ -๓. พบั ทบใบตองด้านขวาไปทางซา้ ย แล้วตลบใบตองด้านบนกลบั มาทางขวาใหโ้ คง้ เป็นกลีบกุหลาบ ครึ่งกลีบ . หากพับเปน็ กลีบกหุ ลาบเต็มกลีบโดยตลบใบตองด้านหลังให้โค้งเชน่ เดยี วกับดา้ นหน้า ๕-๖. กลีบกหุ ลาบเต็มกลบี ด้านข้างซ้ายและขวา
49 วิธกี ารพับกลีบบานบุรี กลบี บานบรุ ี เป็นกลบี ขนาดเล็กมีลักษณะคล้ายกลีบดอกออก เหมาะน้าไปประดบั ตัวกระทง วิธกี ารพับ ๑-๓. ฉกี ใบตองกว้าง ๑.๕ น้ิว พบั ใบตองทางยาวทบลงมาเลยครง่ึ จากนั้นจับสันทบด้านขา้ ยเฉยี งมา ทางขวาตรงกึ่งกลางที่จะกระพุ้ง และพับสันทบทเ่ี หลือซา้ ยมือเช่นเดียวกัน ๔-๕. พบั อกี ดา้ นเชน่ เดยี วกัน อากนนั้ กระพุ้งที่กนั กลีบ เป็นกลบี บานบุรี
50 วิธีการพบั กลบี เลบ็ มือนางซ้อน กลีบเล็บมอื นางซอ้ น เป็นกลีบท่ีมลี ักษณะคล้ายกลีบเลบ็ มือนางซ้อนกนั อยู่สองกลบี ใช้เปน็ กลีบ ประกอบ วิธกี ารพบั ๑. ฉีกใบตองขนาด ๑.๕ นิว้ พับทบทางขวางใบตอง ๒-๓ จากน้ันกดสนั ทบดา้ นขวาและซา้ ยเข้าไปด้านใน ๔. พับใบตองดา้ นบนจากซ้ายมาขวาและอากขวามาซ้าย พับใบตองดา้ นล่างท้ังสองข้างไขว้ทับกลบี บน เปน็ กลบี เล็บมือนางซ้อน
51 วิธีการพบั กลีบโพธ์แิ กว้ กลบี โพธ์แิ ก้ว เปน็ กลบี ผสมระหว่างกลีบหรือนว้ิ มือนางและกลีบกุหลาบ โดยเปน็ การเข้าองค์รดั สะโพก ซ้ายและขวา นิยมใช้เปน็ กลีบรว่ มในการประดิษฐ์บายศรี วธิ ีการพับ ๑. ฉีกใบตองขนาด ๓ และ ๑.๕ นิว้ ส้าหรับมัวนนวิ้ มือนาง และผ้านุ่งสามชน้ั ๒-๔. เมอื่ นงุ่ ผ้าไดส้ ามชน้ั จากน้ันฉีกใบตองขนาด ๒ น้วิ น้ามานงุ่ ผ้าเข้าสะโพกตา้ นขา้ ยและขวาดา้ นละห้า ชน้ั จะไดก้ ลบี โพธ์ิแก้ว
52 วธิ ีการประดิษฐ์บายศรีปากชาม วสั ดุและอุปกรณ์ 1. ใบตอง 2. กล้วยนา้ (ใช้กล้วยน้าวา้ แทนได)้ 1 ผล 3. แตงกว่า (หาขนาดให้เทา่ กับกล้วย) 1 ผล 4. ดอกบานไม่รโู้ รย (สีชมพู หรอื สีแดง) 6 ดอก 5. ดอกพุดตมู 15 ดอก 6. ไข่เปด็ ตม้ (เลอื กขนาดเล็ก) 1 ฟอง 7. ข้าวสุกปากหม้อ (ข้าวทีส่ ุกแล้วอยู่สว่ นบนของหม้อ) 8. ผ้าหมาดทีส่ ะอาดใช้เชด็ ใบตอง 9. ชามบายศรี 10. ไม้ไผ่เหลายาว 4 นว้ิ เทา่ กัน 3 อนั 9 นิ้ว เทา่ กนั 1 อัน 2 นว้ิ เท่ากัน 1 อัน 1 นิว้ เท่ากนั 18 อนั หมายเหตุ ไมไ้ ผ่ทีใ่ ช้ควรมขี นาดเล็กและมีความแข็งแรงเหมาะกบั งานทใ่ี ช้ การเตรียมใบตองเพอื่ ท้าส่วนตา่ ง ๆ ของบายศรีปากชาม นา้ ใบตองทเี่ ช็ดสะอาดฉกี กว้างคามขนาคดงั นี้ ขนาด 8 นว้ิ จานวน 2 ชิ้น สาหรบั ทากรวย (ใช้ใบตองชว่ งยาว) ขนาด 4.5 นิ้ว จานวน 3 ชนิ้ สาหรบั ทาตัวแมงดา ขนาด 4 นวิ้ จานวน 3 ชน้ิ สาหรบั มว้ นทาตวั แม่ ขนาด 3.5 นิ้ว จานวน 15 ชน้ิ สาหรับพับทาตวั ลกู ขนาด 3 นิว้ จานวน 18 ช้ิน สาหรับทาผ้านุ่ง ข้นั ตอนการท้า 1. ตัวแม่ นาใบตองขนาด 4 นิ้ว มว้ นทากรวยเลก็ รมิ แข็งอยูด่ า้ นใน ใบตองสึเขม้ อยดู่ า้ นนอก ทาอย่างนี้ 3 ตัว
53 2. การนงุ่ ผา้ นาใบตองขนาค 3 นิ้ว พบั ริมสองขา้ งลงมาตรงกลางเป็นยอดแหลม นาไปนุ่งตวั แม่ 3. ตวั ลูก น้าใบตองขนาดกว้าง 3 1-2 นวิ้ พบั ทางริมเข็งห้าครัง้ พับทางรมิ ออ่ นสองคร้ังพับใหญ่กวา่ ทาง รมิ แขง็ เล็กน้อยเพ่อื จะได้พับกลบั ให้เกิดความงามข้ึนอกี รูปแบบหน่งึ ใชด้ า้ ยเยบ็ ทา้ จนครบ 15 ชิน้
54 4 ประกอบตัวบายศรี วางตวั ลกู ทาบตดิ กบั ตัวแม่ทน่ี ุ่งผ้าแล้ว ปลายตัวลูกตวั ที่หนึ่งตา่ กวา่ ตวั แม่ 1 นิ้ว นุ่งผ้า น่งุ ตัวแม่และตัวลกู รวมกัน ลกู ตัวท่สี องทาบติดกบั ตวั ลูกตัวท่ีหนงึ่ ทน่ี ุ่งผ้าแลว้ ปลายลูกตวั ทสี่ องตา่ กว่าปลายลกู ตัวทหี่ นง่ึ ประมาณ 1/2 น้ิว นงุ่ ผา้ นุ่งรวมกนั อีก ปลายตัวลกู ตัวทีส่ ามต่ากว่าปลายตัวลูกตัวทีส่ องประมาณ ½ น้ิวเชน่ กัน ทาเชน่ น้ีจนครบลกู ห้าตวั (รวมแล้วในหน่ึงชดุ จะมีตัวแม่ 1 ตวั ลูก 5) ทาอย่างน้ี 3 ชดุ ภาพมองดา้ นหน้า ตัวแม่นุง่ ผา้ พร้อมตัวลกู 5 ตัว (ภาพมองด้านหน้า) ตัวแมน่ ุง่ ผา้ พร้อมตัวลูก 5 ตัว (ภาพมองด้านหน้า) นาไม่ไผ่ท่ีเหลายาว 4 นว้ิ ยึดตวั บายศรีแต่ละชดุ เพื่อให้แน่นและทรงตวั เมื่อประกอบลงในชาม
55 5. การทา้ กรวย นาใบตองขนาด 8 น้ิว วางดา้ นนวลประกบกนั ส่วนอ่อนอยกู่ บั ส่วนแขง็ และส่วนแข็งอย่กู ับ ส่วนออ่ นอ่อน ม้วนกรวยใหม้ ีฐานใหญ่และสงู ตามความต้องการ ของลักษณะทจ่ี ะใช้ประกอบรปู ทรงเยบ็ และ ตดั ฐานกรวยให้เรยี บร้อย ตดั ใบตองเปน็ รูปวงกลมฐานกรวย จานวน 2 ช้นิ เรยี งลายขดั กนั และเยบ็ ใชป้ ดิ ฐานกรวยทีบ่ รรจุขา้ วแล้ว กรวยของบายศรีปากชาม ท่ีสา้ เร็จแล้ว
56 6. การทา้ แมงดา นาใบตองขนาดกว้าง 4 1/2 นว้ิ จานวน 3 ชนิ้ ซ้อนกันพับครึ่งตามลายใบตอง ตัดเปน็ รปู ตัวแมงดา 7. เตรียมของตกแต่ง - ผ่าแตงกวาและกล้วยท้งั เปลือก อย่างละ 3 ชนิ้ ต่อหนง่ึ ผล - เลือกดอกบานไม่รโู้ รยขนาดเดียวกัน 3 ดอกใชป้ ระดับตวั แม่ และเลือกดอกบานไมร่ ู้โรยจานวน 3 ดอกโดยมีขนาดเล็กลง สาหรับเป็นยอดต่อดว้ ยขนาดกลางและใหญ่สอด อยู่ในไม้กลัดขนาดสองนวิ้ (ใชส้ าหรบั ปักบนไขต่ ม้ ทปี่ อกเปลอื กแล้ว) - ดอกพุดประดับบนยอดของตวั ลูก -ไขเ่ ปด็ ต้มปอกเปลอื กก่อนใช้งาน
57 8. การประกอบบายศรปี ากชาม นาส่วนตา่ ง ๆ ทเี่ ตรยี มไว้มาประกอบเป็นบายศรีบายชาม ดังน้ี - จัดตัวบายศรลี งชาม - ตดั ปลายกรวยเล็กน้อยพรอ้ มท่จี ะให้ไมผ้ า่ นสะดวก นาไมไ้ ผท่ ี่เหลากลมขนาดไมเ้ สียบลกู ช้ิน ยาว 9 นวิ้ สอดผา่ นตวั กรวยโดยใหป้ ลายไม้อย่สู งู จากยอดกรวยประมาณ 1 1/2 นิ้วหงายกรวยข้ึน นาข้าวสุกปากหม้อ ใสร่ อบไม้ใหเ้ ตม็ กรวย ปิดด้วยใบตองใช้ไมส้ ่วนที่เหลือเปน็ แกนกลาง ไมไ้ ผส่ ว่ นเกนิ ทฐ่ี านกรวยใช้ยึดกรวยติดกับ ฐาน ตัดปลายกรวย สอดไมน้ าข้าวสกุ ใสในกรวยรอบไม้ ปิดฐานกรวย - ประดับไขต่ ้มยอดกรวย ประดบั ดอกบานไม่รู้โรย 3 ขนาดบนไขต่ ม้ - ยอดตัวแมบ่ ายศรีทั้งสามประดับดอกบานไมร่ ูโ้ รย ยอดตัวลูกบายศรีประดบั ด้วยดอกพดุ - เป็นอนั สาเร็จดงั ภาพ บายศรีปากชาม
58 ภำพส่วนประกอบของบำยศรีปำกชำม
59 ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล
60 ประวตั ิของผู้จดั ทำ ชอ่ื – สกลุ นายพรชยั โสภาบุตร วัน เดอื น ปี เกดิ 19 เมษายน พ.ศ. 2533 ภมู ลิ าเนา อาเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ทอ่ี ยปู่ จั จุบัน โรงเรียนไชยฉมิ พลวี ทิ ยาคม เลขที่ 40 ซอยบางแวก 69 แขวงบางแวก เขตภาษีเจรญิ กรงุ เทพมหานคร ตาแหน่งปัจจบุ ัน ตาแหน่ง ครผู ู้สอน กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี โรงเรียนไชยฉมิ พลวี ทิ ยาคม
61 เอกสารประกอบการเรยี นการสอนฉบบั นี้ ใชใ้ นการเรยี นจดั การเรียนการสอน เทา่ น้ัน ไมอ่ นุญาตให้ตีพิมพ์ หรือดาเนนิ กิจการเชงิ พาณชิ ย์
Search