ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 Cr facebook
หินแตล่ ะประเภท มีการเกิดท่ีแตกต่างกนั
วัฏจกั รของหิน วัฏจกั รของหิน เปน็ การเปล่ียนแปลงไปมาของ หนิ อัคนี หินตะกอน หินแปร ซง่ึ เกิดข้ึนตอ่ เนอื่ งกันตลอดเวลา
แร่ แร่ หมายถึง ธาตหุ รือสารประกอบอนินทรีย์ ทีเ่ กดิ ขน้ึ เองตามธรรมชาติ มีสถานะเป็นของแขง็ มีโครงสร้างท่ี เป็นผลึก แรไ่ มกา แร่ควอตซ์
หินมสี ่วนประกอบเปน็ แรช่ นิดเดียวหรือหลายชนิดรวมกนั ในเนอ้ื หนิ กไ็ ด้ แรบ่ างชนดิ ในเนือ้ หนิ สามารถแยกออกมาจากเนอื้ หนิ ได้ และนามาใช้ประโยชน์ในดา้ นต่าง ๆ เช่น แร่อะลูมเิ นียม ใชใ้ นการผลิตเครอ่ื งใช้ รถยนต์ แรต่ ะกว่ั ใช้ในการผลิตภาชนะบรรจอุ าหารสาเร็จรปู ชิ้นสว่ นคอมพวิ เตอร์ แรท่ องแดง ใชท้ าสายไฟฟ้า เครือ่ งใช้ไฟฟ้า
3. ประโยชน์ของหนิ และแร่ หนิ แตล่ ะชนิดมคี วามแตกต่างกนั ทั้งรูปรา่ ง สี ลวดลาย เน้ือหิน รวมท้งั ความแขง็ แรแ่ ตล่ ะชนดิ มีสมบัตเิ ฉพาะตวั แตกตา่ งกนั สง่ ผลให้หนิ ท่ปี ระกอบดว้ ยแรท่ ่แี ตกตา่ งกันมี สมบัติที่แตกต่างกนั ด้วย สมบตั สิ าคัญของหินท่ีเกดิ จากแรท่ ่ี เปน็ ส่วนประกอบน้ี ไดแ้ ก่ สี ความแขง็ ความมนั วาว สมบตั ิ สาคัญของหินนีท้ าใหห้ ินถกู นาไปใช้ประโยชนต์ า่ ง ๆ กนั
หนิ ที่ประกอบด้วยแรช่ นิดเดยี ว หนิ ที่ประกอบด้วยแรห่ ลายชนดิ
ตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของหนิ และแร่ การใช้ประโยชน์ของหนิ โดยท่ัวไปใชใ้ นการกอ่ สร้าง ส่งิ ต่าง ๆ เช่น อาคาร บ้านเรือน ถนน ใชท้ าหนิ แกะสลกั ของ ตกแตง่ ประดับสวน อาคาร สถานทต่ี ่าง ๆ และใชท้ าสิง่ ของ เครอื่ งใช้ต่าง ๆ เชน่ ครก หินลับมดี โต๊ะ เครอ่ื งประดับ เครอ่ื งสขุ ภณั ฑ์
ตวั อยา่ งการใชป้ ระโยชนข์ องหินและแร่
ตาราง การใชป้ ระโยชน์ของหนิ แต่ละประเภท
ตาราง การใชป้ ระโยชนข์ องหนิ แตล่ ะประเภท (ตอ่ )
ตาราง การใชป้ ระโยชนข์ องหนิ แตล่ ะประเภท (ตอ่ )
4. ซากดกึ ดาบรรพ์ หากนักเรียนรบั ฟงั ขา่ วสารหรือเดนิ ทางไปทอ่ งเทีย่ วในพืน้ ที่ภาค ต่าง ๆ ของประเทศไทย เชน่ เกาะในจงั หวดั สตูล ภเู ขาในจังหวัดลพบุรี หรือขอนแกน่ เราอาจพบเหน็ ซากของสิง่ มชี วี ติ ท่ีตดิ อยู่ในหนิ หรือแทรก ตัวอยู่กบั หนิ เชน่ โครงกระดูกไดโนเสาร์ เปลือกหอยโบราณ นักธรณีวทิ ยาและนักชวี วทิ ยาใหค้ วามสาคัญกับซากสงิ่ มีชวี ติ เหลา่ น้ี และเรยี กซากสงิ่ มชี วี ติ เหลา่ นวี้ า่ ซากดกึ ดาบรรพ์
ซากดึกดาบรรพไ์ ดโนเสาร์ ซากดกึ ดาบรรพส์ ตั ว์ทะเล
การเกดิ ซากดกึ ดาบรรพ์ เกดิ ขน้ึ ทนั ทที สี่ ัตว์และพืชตาย มนั กจ็ ะเร่ิมแยกออกเป็นส่วน ๆหรอื ผุผงั ไปส่วนทีแ่ ขง็ อย่างเปลอื กหอย กระดูกและฟนั ของสัตว์ หรือไม้จะยงั คงทนอยูน่ านกว่าเนื้อเยื่อนมุ่ ๆ แต่มักจะกระจัด กระจายหายไปเพราะการกระทาของสตั ว์ ลม หรือนา้ สงิ่ ใดจะ กลายเปน็ ซากดกึ ดาบรรพจ์ ะถกู ฝังลงไปใตด้ ินอย่างรวดเรว็ กอ่ นที่ จะแยกออกเปน็ ส่วน ๆ และ ถูกตะกอนต่าง ๆ เช่น ทราย หรอื โคลนท่ีถกู น้าพัดพามาทับถม บางชิน้ ค่อย ๆ ละลายหายไป บาง ชน้ิ ก็มกี ารเปลยี่ นแปลงทางเคมีหรือบิดเบีย้ วผิดรปู ไปเนอื่ งจาก อณุ หภมู ิและความกดดนั
สรุปขัน้ ตอนการเกดิ ซากดกึ ดาบรรพ์ ได้ดงั น้ี 1. สัตว์หรือพืชตายลงจมลงส่กู น้ ทะเลและสว่ นทเ่ี หลือจะค่อยๆถูกฝงั ลงในชัน้ ของตะกอน 2. ตะกอนชั้นล่าง ๆได้กลายเป็นหินและส่วนทเ่ี หลอื อยู่จะแข็งตัว กลายเปน็ ซากดกึ ดาบรรพ์ 3. หนิ ถูกดันขึ้นไปมาและถูกกดั เซาะ 4. ซากดกึ ดาบรรพโ์ ผลข่ ้นึ สูช่ ัน้ ผวิ โลก
1.สัตว์หรือพชื ตายลงจมลงสกู่ ้นทะเล 2.ตะกอนชัน้ ล่าง ๆไดก้ ลายเป็ นหนิ และสว่ นทเี่ หลอื จะค่อยๆถกู ฝงั ลงในชั้น และส่วนทเ่ี หลอื อยจู่ ะแขง็ ตัว ของตะกอน กลายเป็ นซากดกึ ดาบรรพ์ 4. ซากดกึ ดาบรรพ์โผล่ขน้ึ สู่ช้นั ผวิ โลก 3. หินถกู ดนั ขนึ้ ไปมาและถกู กดั เซาะ
ซากดึกดาบรรพ์ คือ ร่องรอยหรือซากของส่ิงมีชีวิต เม่ือตายแล้ว ทับถมในชน้ั หินตะกอน ซากดึกดาบรรพ์สามารถใช้เป็นหลักฐานหนึ่งท่ีบ่ง บอกถึงชนิดและลักษณะของส่ิงมีชีวิตในอดีต และช่วย อธิบายสภาพแวดลอ้ มของพ้นื ท่ใี นอดีตขณะเกิดสิ่งมีชีวิต น้ัน เช่น หากพบซากดึกดาบรรพ์ของปะการัง แสดงว่า สภาพแวดลอ้ มบรเิ วณนัน้ อาจเคยเปน็ ทะเลมาก่อน
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 Cr facebook
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: