เรียงความ คือ ขอ้ ความหลายยอ่ หนา้ ประกอบดว้ ย ๑. ชื่อเร่อื ง (ทำหนำ้ ท่ีนำเรอ่ื ง) ๒. ยอ่ หนา้ คานา (ทำหนำ้ ท่ีขยำยใจควำมของเรอ่ื ง) ๓. ยอ่ หนา้ เน้ ือเรื่อง (มีไดห้ ลำยย่อหนำ้ แลว้ แต่เน้ือเรอ่ื ง) (ทำหนำ้ ท่ีปิ ดเรอ่ื ง) ๔. ยอ่ หนา้ สรุป **ใชภ้ าษาระดบั ทางการในการเขียน
• ควรเป็ นเรอื่ งใกลต้ วั มากกว่าเรอ่ื งไกลตวั • เป็ นเรอ่ื งท่คี น้ ควา้ หาขอ้ มูลไดส้ ะดวกและกวา้ งขวาง • เป็ นเรอ่ื งที่ผเู้ ขียนสามารถแสดงความคิดเหน็ ไดก้ วา้ งขวาง • เป็ นเร่ืองทีม่ ีขอบเขตพอสมควร ไม่กวา้ งหรือแคบเกินไป
• ช่ือเร่ืองควรเป็ นกลมุ่ คาหรือประโยค เพ่ือจากดั ขอบเขตของเร่อื ง ไดช้ ดั เจน • ช่ือเร่อื งควรช้ ีบอกแนวทางของเรือ่ งว่าจะเนน้ หนกั ในทานองใด จะเป็ นขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเหน็ หรือขอ้ แสดงอารมณ์ ความรูส้ กึ
• ช่ือเรอ่ื งตอ้ งครอบคลมุ สาระสาคญั ของเรอื่ งใหไ้ ดม้ ากท่ีสุด เช่น เรื่อง ป๋ ุยเคมีในดา้ นสว่ นดีและสว่ นเสยี และวิธีใชท้ ่ีถูกตอ้ ง ควรใชช้ ื่อวา่ การใชป้ ๋ ุยเคมีอยา่ งมีประสิทธิภาพ • ชื่อเรอ่ื งควรใชถ้ อ้ ยคาสานวนภาษาทกี่ ระชบั รดั กุม และเขา้ ใจง่าย **ชื่อเรอื่ ง** ตอ้ งกระชบั รดั กุม ครอบคลมุ เขา้ ใจง่าย น่าสนใจ
ย่อหน้ำคำนำ มีองค์ประกอบเช่นเดียวกับข้อความหนึ่ ง ย่อหนา้ ทัว่ ไป คือ มีเอกภาพ สัมพนั ธภาพ และสารัตถภาพ ซึ่ง ปรากฏในรูปประโยคใจความสาคัญ ประโยคประกอบหรือ ประโยคประกอบยอ่ ย
• เกร่นิ เรอ่ื ง คือนาผอู้ า่ นเขา้ สูเ่ รอ่ื งทนั ที • ช้ ีใหเ้ หน็ แนวทางของเร่ืองท้งั หมด คือ เมื่ออา่ นคานาตอ้ งพอทราบ วา่ สาระสาคญั ของเน้ ือเรอ่ื งจะดาเนินไปในทานองใด • เรา้ ใจใหต้ ดิ ตามอา่ นเน้ ือเรื่อง
• คานาตอ้ งไม่กลา่ วถึงสง่ิ ทไี่ ม่เก่ียวขอ้ งกบั เน้ ือเร่อื ง • คานาไม่ใช่บญั ชีสาระสาคญั ของเร่อื ง • คานามีความยาวนอ้ ยกว่ายอ่ หนา้ ทวั ่ ไป
กำรเขียนย่อหนำ้ ทำไดห้ ลำยวิธี ดงั น้ี • เนน้ ใจความสาคญั ของเร่อื ง • ใหค้ าจากดั ความ • ใหข้ อ้ เทจ็ จริงทส่ี าคญั • อา้ งถึงประสบการณส์ ว่ นตวั • ตง้ั ปัญหาแลว้ แสดงความมุ่งหมาย ทีจ่ ะไขปัญหาน้นั
• เร่ิมตน้ ไกลจากเร่ืองเกินไป เช่น คำนำเรื่องสหประชำชำติ ไม่มีควำม จำเป็ นตอ้ งกล่ำวถึงควำมลม้ เหลวของสนั นิบำตชำติ • ใชค้ าออกตวั ไมม่ ีควำมจำเป็ นที่จะตอ้ งกล่ำวในทำนองวำ่ - ในฐานะท่ีเพิ่งเป็ นนักเรียนมธั ยมศึกษาตอนปลาย ขา้ พเจา้ เกรง ว่าเรื่องทจ่ี ะเขียนตอ่ ไปน้ ีอาจไม่มีคุณค่าเทา่ ทคี่ วร - ก่อนที่จะเขียนเรียบเรียงเร่ืองน้ ีขา้ พเจา้ คิดว่าคงจะมีโอกาสได้ คน้ ควา้ หนังสือในหอ้ งสมุดเพียงพอ แต่พอลงมือเขียนเขา้ จริงกลบั หา หนงั สืออา่ นไม่ได้
• ลงความเห็นกวา้ งเกินไป ควรใชค้ านาท่ีกระชบั รดั กมุ • คากลา่ วท่เี ป็ นความจริงในตวั เองอยแู่ ลว้ เช่น เป็ นท่ีกล่าวกันว่าส่ิงที่แน่นอนในชีวิตมนุษยม์ ีอย่างเดียวเท่าน้ัน คือ ความไม่แน่นอน
• เป็ นขอ้ ความปิ ดเรอ่ื ง คือพออา่ นสรุปจบผอู้ า่ นจะรูส้ กึ ว่าเรอ่ื งน้นั จบ จรงิ ๆ ไม่อาจตอ่ ไปไดอ้ ีก • เป็ นเสมือนกุญแจไขความท้งั หมดใหแ้ จม่ แจง้ คือ ขณะทอี่ า่ นเน้ ือเรอ่ื ง ตลอดมาน้นั ผอู้ ่านยงั ไม่ทราบซ้ ึงเรอ่ื งอยา่ งแทจ้ รงิ จะรูส้ กึ ดงั กล่าว ตอ่ เม่ืออ่านสรุปจบ • ก่อใหเ้ กิดขอ้ คดิ ประการสาคญั อยา่ งหน่ึงอยา่ งใดแก่ผอู้ ่าน โดยมากสรุปมกั จบดว้ ยสุภาษิต คาคม หรอื คาประพนั ธ์ • สรุปไม่ใช่ใจความยอ่ ของเน้ ือเรอื่ ง • สรุปมีความยาวไลเ่ ลีย่ กบั คานา
วิธีเขียนยอ่ หนา้ สรุป กำรเขียนยอ่ หนำ้ สรุปอำจทำไดด้ งั น้ ี • แสดงความคิดรวบยอดหรือความคิดประการสาคญั ท่ีสุด • ใหข้ อ้ เสนอแนะที่แน่นอน ควรเนน้ ขอ้ เสนอแนะใหช้ ดั แจง้ • ย้าใจความสาคญั ของยอ่ หนา้ คานา • ใชค้ าถาม คาพงั เพย สุภาษิต หรือคาประพนั ธท์ ส่ี มั พนั ธก์ บั เรือ่ ง
• ขออภยั ตอ่ ผอู้ า่ นเกี่ยวกบั ความรูเ้ ทา่ ไม่ถึงการณ์ หรือ เวลาเขียนหรอื คน้ ควา้ ไม่พอ • เสนอประเด็นสาคญั อยา่ งอืน่ เพ่ิมข้ ึน • ไม่ใหค้ วามกระจา่ งเพียงพอ • ยอ่ หนา้ สรุปควรเขียนเมื่อเขียนยอ่ หนา้ เน้ ือเรือ่ ง เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้
ครูกร
จินตนาการ หมายถึง ความคิดคานึงที่เกิดข้ึนในจิตของ มนุษยโ์ ดยอาศยั ประสบการณ์เป็นพ้นื ฐาน อาจคิดคานึงถึงสิ่ง ท่ีเกิดข้ึนมาในอดีต อนาคต หรือความเชื่อมโยงระหวา่ งส่ิงท่ี ปรากฏอยใู่ นท่ีหน่ึงกบั ส่ิงท่ีมิไดป้ รากฏอยใู่ นที่น้นั แต่อาจมี อยใู่ นบริบทอ่ืน
๑. เริ่มตน้ จากการประสมประสบการณ์ ท้งั ประสบการณ์ตรง และ ประสบการณ์ทางออ้ ม ประสบการตรง คอื การได้มีส่วนร่วมในสถานการณ์ต่างๆ ได้พบ ได้เห็น ได้กระทา ได้สัมผัสด้วยตนเอง เช่น ได้เข้าร่วมประชุม เดินทางท่องเท่ียว ประสบการณ์ทางอ้อม ได้แก่ การอ่านหนังสือ ฟังปาฐกถา ร่วมสถานการณ์ จาลอง เช่น การซ้อมรบ
๒. ตอ้ งหมน่ั ใชค้ วามนึกคิด พิจารณาใหก้ วา้ งและแปลกออกไป ๓. หาโอกาสแสดงจินตนาการออกมาใหป้ รากฏ ๔. เปิ ดใจใหก้ วา้ งเพือ่ ใหผ้ อู้ ่ืนวพิ ากษว์ จิ ารณ์จินตนาการของตนเอง
ขอบเขตน้ันกว้างมาก หัวข้อเรียงความจงึ มไี ด้อย่างหลากหลาย ท้ังที่ เกย่ี วข้องกบั อดตี ปัจจุบัน และอนาคต ดงั ตัวอย่างต่อไปน้ี อดตี ปัจจุบัน อนาคต วนั ท่ีข้าพเจ้าลมื ตาดโู ลก บนจอคอมพวิ เตอร์ อนาคตของเยาวชนไทย ถ้าทุกคนช่วยคนปลูกป่ า โศกนาฏกรรมนอกเวทีละคร หาดใหญ่ในวนั สุดสัปดาห์ เมอื่ ถึงเวลาท่ีเราต้องจากนั เมอื งไทยในศตวรรษหน้า กรุงเทพ ในศตวรรษก่อน สถานการณ์ ๓ จงั หวดั ระบบขนส่งมวลชนท่ีชาวกรุงรอ ถ้าผมเข้าใจในเจตนาทีแ่ ท้จริงของครู ส.ส. คนปัจจุบนั ของเรา การละเล่นเดก็ ไทยในสมยั ก่อน สถานการณ์โรคมะเร็ง
อดุ มคติ หมายถึง จินตนาการท่ีถือวา่ เป็นมาตรฐานแห่ง ความดี ความงาม และความจริง ทางใดทางหน่ึงท่ีมนุษยถ์ ือเป็น เป้ าหมายแห่งชีวิต
อดุ มคติมีอยมู่ ากในคากล่าวทวั่ ไปและในสุภาษิตต่างๆ - ตายในสนามรบเป็นเกียรติของทหาร - เสียชีพอยา่ เสียสตั ย์ - มนุษยชาติท้งั ผองเป็นพน่ี อ้ งกนั
ทุกศาสนาจะมีอุดมคติของความดีอนั สูงสุดอยเู่ สมอ เช่น - พทุ ธศาสนา คือ การดบั เพลิงกิเลสเพลิงทุกดว้ ย ศีล สมาธิ ปัญญญญา - คริสตศ์ าสนา คือ ความรักท่ีไม่มีความเห็นแก่ตวั เจือปนแมแ้ ต่นอ้ ย - ศาสนาอิสลาม คือ ความศรัทธาในพระอลั เลาะห์เจา้ และสวดมนต์ ทุกวนั
อุดมคติมีได้หลากหลายท้ังที่เกยี่ วกบั ความดี ความงาม และความจริง ขึน้ อยู่กบั จนิ ตนาการและทรรศนะของบุคคล ดงั ตัวอย่างหัวข้อต่อไปนี้ ๑. ความเสียสละ ๒. ความไม่เห็นแก่ตัว ๓. ความกตัญญู ๔. ความรับผดิ ชอบ ๕. สิทธิเสรีภาพ ๖. ความสามคั คี ๗. รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ๘. โรงเรียนในอุดมคติ ๙. ความเป็ นไทแก่ตน ๑๐. ประโยชน์สุขส่วนรวม
อุดมคติเป็ นปัญญาและจินตนาการท่ีเกย่ี วกับมาตรฐานสูงสุดอนั จะใช้ เป็ นเป้ าหมายของชีวติ ดังน้ันการแสดงความคิดเกยี่ วกบั โลกอุดมคติจึงจาเป็ นต้อง มปี ัญญาและจนิ ตนาการที่กว้างไกลพอขนึ้ อยู่กบั ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการ สังเกต การอ่าน การฟัง และการใช้ความคดิ ของแต่ละบุคคล สิ่งท่ีนักเรียนจะต้องระลึกถึง คือ การเขียนเรียงความเกย่ี วกบั โลกอุดมคติ จาเป็ นต้องมีสารสาคญั ท่ีผู้เขยี นจะส่ือไปถงึ ผู้อ่านเสมอ
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: