รูปแบบการสอนPjBL

การเรียนรู้ด้วยตวั เองในศตวรรษที่ 21• ทกั ษะในการคิดข้นั สูง• ทกั ษะในการเรียนรู้และนวตั กรรม• ทกั ษะชีวติ และการทางาน• ทกั ษะดา้ นสารสนเทศและการส่ือสารควบคูก่ บั เน้ือหาในสาระวชิ าหลกั และความรู้อ่ืนๆที่สาคญั

Project based Learning

การเรียนรู้แบบโครงงาน มีแนวคิดสอดคลอ้ งกบั John Dewey เร่ือง “learning by doing” ซ่ึงไดก้ ล่าววา่“Education is a process of living and not a preparation for future living.”การเนน้ การจดั การเรียนรู้ที่ให้ผเู้ รียนไดร้ ับประสบการณ์ชีวติ ขณะที่เรียน เพ่ือใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ฒั นาทกั ษะต่างๆ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั หลกัพฒั นาการคิดของบลมู คือ มี ความรู้ความจา (Remembering) ความเขา้ ใจ (understanding) การประยกุ ตใ์ ช้(Applying) การวเิ คราะห์ (Analyzing) การประเมินค่า (Evaluating) และ การคิดสร้างสรรค์1. Cognitive Domain 2. Psychomotor Domain 3. Affective Domain พุทธิพิสยั ทกั ษะพิสยั จิตพสิ ัย

The Learning Pyramid Average Retention Rate Lecture (เรยี นในหอ้ งเรยี น นั่งฟงั บรรยาย) 5 % Reading (อา่ นด้วยตวั เอง) 10 %Audiovisual (ฟังและไดเ้ ห็น เช่น ดโู ทรทศั น์ ฟงั วิทยุ) 20 %Demonstration (ได้เหน็ ตัวอย่าง) 30 %Discussion group (พูดคุยแลกเปลีย่ นความร้กู นั ในกลุม่ ) 50 %Practice by doing (ได้ทดลองปฏบิ ัติเอง) 75 % Teach others (ไดส้ อน/ไดแ้ นะนาผอู้ น่ื ) 80 % National Training Laboratories, Bethel, Maine, USA

6 20/11/59

7 20/11/59

8 20/11/59

1. เรื่องหรือประเดน็ ปญั หา เปน็ เร่อื งท่ีผู้เรียนสนใจต้องการหาคาตอบ2. วิธีการหาคาตอบ เปน็ การศึกษาดว้ ยตนเอง ทมี่ ลี กั ษณะ  เป็นกระบวนการ มีระบบ มวี ิธีการศึกษาหลายวิธี การแลกเปล่ียนเรียนร้กู ับผอู้ ื่น  มกี ารศึกษาจากแหลง่ การเรียนรู้ / แหล่งข้อมลู ทหี่ ลากหลาย  มคี รเู ปน็ ท่ปี รกึ ษาตลอดกระบวนการทางาน3. ผูเ้ รียนค้นพบองค์ความรู้ หรือข้อสรปุ จากโครงงาน ซงึ่ มลี กั ษณะ  สามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ ได้  กระต้นุ ใหต้ อ้ งการที่จะศกึ ษาหาคาตอบอยา่ งตอ่ เนือ่ ง  สามารถแลกเปลีย่ นเรยี นร้กู ับผอู้ ่ืนได้

4. สอดคล้องกับทักษะที่จาเปน็ ในศตวรรษที่ 21 และความตอ้ งการของสถานประกอบการ เช่น  ทางานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี  การตัดสนิ ใจได้อยา่ งรอบคอบ  มคี วามคิดริเรม่ิ  แกไ้ ขปญั หาท่ีซบั ซ้อนได้  จัดการกบั ตนเองได้  สือ่ สารไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 10

บทบาทผ้สู อนและผู้เรยี น ผสู้ อนและผเู้ รียนจะตอ้ งเรยี นรู้ร่วมกัน ผสู้ อนเปน็ ผู้ใหค้ าแนะนาและเสนอแนวทางอันเป็นประโยชน์ ในการเรียนรดู้ ว้ ยตนเองของผ้เู รยี น ผ้เู รยี นเปน็ ผทู้ ่ีจะตอ้ งศกึ ษาคน้ คว้า ลงมอื ปฏิบัติ ทางาน ร่วมกันเป็นทีม และสรา้ งผลงานรว่ มกันอย่างสรา้ งสรรค์

โครงงาน หรือโครงการ (Project) ในที่น้ีใช้คาวา่ “โครงงาน” หมายถงึ กิจกรรมทเ่ี ปิดโอกาสให้ผเู้ รยี นได้ศกึ ษา คน้ ควา้ และลงมือปฏิบัตดิ ว้ ยตนเองตามความสามารถความถนดั และความสนใจ โดยอาศยั กระบวนการ 6 ข้นั ตอน ในการศึกษาหาคาตอบในเรอื่ งนั้นๆ โดยมีครผู ู้สอนหรอื ครูทปี่ รึกษา เป็นผู้กระตนุ้ แนะนาและให้คาปรึกษาแกผ่ ูเ้ รียนอย่างใกล้ชดิ

ประเภทของโครงงาน1. โครงงานประเภทสารวจ2. โครงงานประเภททดลอง3. โครงงานประเภทสิ่งประดษิ ฐ์4. โครงงานประเภททฤษฎี 13 20/11/59

14 20/11/59

ผ้สู อน : ผู้เรียน : จดั ทาแผนการเรียนรู้ เป้าหมาย แรงบันดาลใจ การกาหนดตง้ั ประเดน็ ปัญหา กระบวนการศึกษาคน้ คว้า กาหนดแหลง่ เรยี นร/ู้ คน้ คว้า ปญั หา ICT การทางานเปน็ ทีม กระบวนการคิด การปฏิบัติการ การ ประเมนิ การนาเสนอและเผยแพร่ใบความร้ทู ี่ ...... ขน้ั ท่ี 1 ใบงานที่ .....เรือ่ ง ............... เตรยี มความพรอ้ ม เรอื่ ง ............. เครื่องมอื วัดผล : แบบทดสอบ, แบบประเมนิ ....

ผสู้ อน : ผเู้ รียน :กระต้นุ ให้คิดหวั ข้อเรือ่ งโครงงานตามศกั ยภาพและ เลอื กประธาน เลขาฯ และอน่ื ๆ ชว่ ยกันคดิ ความสนใจของผ้เู รยี น ใหค้ าแนะนาการกาหนด ระดมสมองเพอื่ กาหนดและเลือกหัวขอ้และเลอื กหวั ข้อ กากบั ตดิ ตาม ให้ผเู้ รยี นคดิ วิธกี าร โครงงาน อภปิ รายหารือข้อสรุปของกลมุ่ ใหม่ เสนอแนะแหล่งขอ้ มูล เพ่ือกาหนดหวั ขอ้ โครงงานทจ่ี ะจดั ทาใบความรทู้ ี่ ...... ขั้นท่ี 2 ใบงานที่ .....เรอื่ ง ............... กาหนดและเลือกหัวข้อ เรื่อง ............. เครื่องมอื วัดผล : ใบมอบหมายงานท่ี ..... แบบทดสอบ, แบบประเมนิ .... เร่อื ง ............. ฯลฯ

ผู้สอน : ผู้เรียน :สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะกระบวนการ ในการ จัดทาเคา้ โครงของโครงงานเขียนเคา้ โครงของโครงงาน ให้คาปรกึ ษา ตรวจสอบวธิ ีการเขียนเคา้ โครง ประสานแหลง่ ขอ้ มูล เหน็ ชอบโครงงานทผี่ ู้เรยี นเสนอ กาหนดเงือ่ นไขและเกณฑก์ าร ขั้นท่ี 3 ประเมินผลกบั ผู้เรียนใบความรู้ท่ี ...... เขียนเคา้ โครงของโครงงานเรือ่ ง ...............ใบมอบหมายงานท่ี ..... เครอ่ื งมอื วัดผล : ใบงานท่ี ..... เรือ่ ง ............. เร่ือง ............. แบบทดสอบ, แบบประเมนิ .... ฯลฯ

ผู้สอน : ผู้เรียน :เป็นเพยี งผูอ้ านวยความสะดวก ตรวจสอบความกา้ วหน้า ปฏิบตั กิ ารจัดทาโครงงานตาม แผนการปฏบิ ตั ิทก่ี าหนดไว้ ของผ้เู รียนแตล่ ะกลุ่ม ประเมินสภาพปัญหา ประเมินพฤติกรรม ทักษะกระบวนการเรียนรู้ นวตั กรรมทีใ่ ช้ในการเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้ กระบวนการแกป้ ญั หากนั เองภายในกลมุ่ หรือจะนอกกลมุ่ ขนั้ ที่ 4ใบความรูท้ ี่ ...... ปฏิบัติงานโครงงานเรอื่ ง ...............ใบมอบหมายงานที่ ..... เครื่องมอื วดั ผล : ใบงานท่ี ..... เรื่อง ............. เรือ่ ง ............. แบบทดสอบ, แบบประเมนิ .... ฯลฯ

ผสู้ อน : ผเู้ รยี น : สร้างเวทนี าเสนอผลการดาเนนิ ผู้เรียนจัดทารายงานกจิ กรรมในโครงงาน กระตุ้นใหผ้ เู้ รยี น ผูเ้ รยี นนาเสนอผลงานกลุ่มอ่นื ๆ ไดส้ อบถาม ให้ข้อเสนอแนะ กระตนุ้ ความสนใจในการต่อยอด ใบงานที่ ..... เรอ่ื ง .............ใบมอบหมายงานท่ี ..... ขั้นท่ี 5 เร่ือง ............. การนาเสนอผลงาน เครื่องมอื วัดผล : แบบประเมนิ .... ฯลฯ

ผสู้ อน : ผู้เรยี น : ประเมนิ ความสาเร็จของโครงงานในแตล่ ะข้นั ตอน ผ้เู รยี นรบั การประเมินกอ่ น - ถงึ เสร็จสนิ้ โครงงาน ดว้ ยวธิ ีการและเครอ่ื งมือท่ี เพื่อนตา่ งกล่มุ ร่วมประเมนิหลากหลาย เนน้ การประเมนิ ตามสภาพจรงิ ประเมนิ ความรู้ กระบวนการ พฤตกิ รรมของผู้เรียน ผลงาน และขอ้ ค้นพบท่ีผู้เรยี นได้จากการทาโครงงานใบมอบหมายงานที่ ..... ขัน้ ที่ 6 ใบงานท่ี ..... เร่อื ง ............. การประเมนิ โครงงาน เร่อื ง ............. เครอื่ งมือวดั ผล : แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ แบบประเมิน....ฯลฯ

ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวัง วธิ เี คร่ืองมือการประเมินและสมรรถนะทีผ่ ู้เรยี นเกดิ ข้นึ 1. การสงั เกตดา้ นการปฏิบัติ (Performance) 2. การสัมภาษณ์ดา้ นกระบวนการ (Process) 3. การตรวจงานดา้ นผลผลติ (Product) 4. การรายงานตนเอง 5. การใชบ้ ันทึกจากผทู้ ่เี ก่ยี วข้อง 6. การใชข้ อ้ สอบแบบเนน้ การปฏบิ ตั จิ รงิ 7. การประเมินโดยใช้แฟม้ สะสมงาน

การประเมนิ ตามสมรรถนะ แบบทดสอบ แบบประเมิน ความรู้ ทักษะ เจตคติแบบสมั ภาษณ์ แบบสังเกต กระบวนการ ผลผลิต แบบตรวจสอบรายการ

ผลงานวจิ ัยสวียา สุรมณี [7] ไดศ้ ึกษากระบวนการจดั การเรียนรู้โดยใชโ้ ครงงานเป็นฐาน ในรายวิชา การพฒั นาบทเรียนคอมพิวเตอร์ สาหรับนกั ศึกษาระดบั ปริญญาตรี เพอ่ื พฒั นาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนกั ศึกษาท่ีเรียนรู้โดยใชโ้ ครงงานเป็นฐาน โดยกาหนดใหน้ กั ศึกษาร้อยละ 75 ผา่ นเกณฑ์ และมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนร้อยละ 75 ข้ึนไป กลุ่มตวั อยา่ งเป็นนกั ศึกษาช้นั ปี ท่ี 3 สาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั กาฬสินธุ์ จานวน 26 คน ผลการวจิ ยั พบวา่ 1) ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนกั ศึกษาที่เรียนโดยใชโ้ ครงงานเป็นฐานมีคา่ เฉลี่ยเท่ากบั 79.42 คิดเป็นร้อยละ79.42 ซ่ึงสูงกวา่ เกณฑท์ ี่กาหนดไว้ และมีจานวนนกั ศึกษาที่ผา่ นเกณฑท์ ี่กาหนดไว้ จานวน 21 คนคิดเป็นร้อยละ 80.77 ซ่ึงสูงกวา่ เกณฑท์ ี่กาหนด และ 2) นกั ศึกษามีความพงึ พอใจต่อการจดั การเรียนรู้โดยใชโ้ ครงงานเป็นฐาน ในรายวชิ าการพฒั นาบทเรียนคอมพวิ เตอร์ อยใู่ นระดบั มาก

24