Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วัสดุในชีวิตประจำวัน

วัสดุในชีวิตประจำวัน

Published by tapt1192, 2019-08-07 01:10:40

Description: วัสดุในชีวิตประจำวัน

Search

Read the Text Version

BAKS FASHION PRESENTS วสั ดุในชวี ติ ประจาํ วัน ดัยดา สีหาจักร ม2/4. เลขที20

คํานาํ หนงั สอื เล่มนเี ปนรายวชิ าสว่ น หนงึ ของวชิ า การออกแบบ และเทคโนโลยี ว22103 โดย เนอื หาภายในเล่มนวี า่ ดว้ ย เรอื ง วสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วนั ผจู้ ดั ทําหวงั วา่ หนงั สอื เล่มนี จะเปนประโยชนต์ ่อผอู้ ่าน หากผดิ พลาดประการใดต้อง ขออภัย ณ ทีนดี ว้ ย ดัยดา สหี าจักร เลข ที20. ม.2/4

สารบญั 1.ไม้ 2.โลหะ 3.พลาาติก 4.ยาง

ไม้ (WOOD) ไม้ เปนวัสดเุ นือแขง็ ทีเกิดขนึ จากกระบวนการ ธรรมชาติ โดยเปนทรพั ยากรสาํ คัญทสี ง่ อทิ ธพิ ลตอ่ มนษุ ยท์ กุ ปจจัย อาทิ งานโครงสรา้ ง สถาปตยกรรม งานตกแตง่ เฟอร์นิเจอรส์ นิ ค้า การแพทยแ์ ละการรักษา การผลติ เชือเพลงิ เพอื สร้างพลังงาน ไม้ เปนทรพั ยากรคุณค่าทีมนษุ ยน์ ิยมใชง้ าน ตงั แต่ครงั อดตี เนืองจากแปรรูปได้หลากหลาย ยืดหยุ่น จํานวนมหาศาล สามารถพบเหน็ ไดต้ าม เขตพืนทีทวั ไป แบ่งออกเปนหลายประเภท เชน่

ไมเ้ ทียมหรือไม้สงั เคราะห์ เปนอีกหนึงทางเลือกที กาํ ลังมาแรงในปจจุบัน โดยเปนวสั ดุผสมระหว่าง ไม้และสารเคมีบางชนิดให้มีคุณสมบตั เิ ทยี บเคียง หรอื เหนือกวา่ ไม้จรงิ ไม้เทยี มไฟเบอร์ซเี มนต์ (Fiber Cement) ผลิต จากเสน้ ใยเซลลโู ลส ปูนซเี มนตป์ อรต์ แลนด์ ซลิ ิ ก้าบรสิ ทุ ธิ ด้วยวธิ กี ารอดั ขนึ รปู ให้แขง็ แกรง่ และ เรยี บ ไม้เทยี มวดู พลาสติก คอมโพสติ (WPC) สว่ นใหญ่ ผลิตจากไม้และพลาสติก เพือสรา้ งสมั ผัสสมจริง เปนตน้

โลหะ คือ วสั ดทุ ีประกอบดว้ ย ธาตโุ ลหะทีมีอเิ ลก็ ตรอนอิสระ อยมู่ ากมาย นนั คอื อเิ ล็กตรอน เหล่านีไมไ่ ด้เปนของอะตอมใด อะตอมหนึงโดยเฉพาะ ทาํ ให้มี คุณสมบตั ิพเิ ศษหลายประการ เช่น

เปนตัวนํ าไฟฟาและนํ าความร้อนได้ดีมาก ไม่ยอมให้แสงผา่ น ผิวของโลหะทขี ดั เรียบจะมีลักษณะเปนมันวาว มีจดุ เดอื ดและ จดุ หลอมเหลวสงู สว่ นใหญ่มสี ถานะ เปนของแข็ง(ยกเว้นปรอทซึงมสี ถานะเปนของเหลว) โลหะมีความแขง็ และเหนียว จึงสามารถแปรรูปได้จึง ถกู ใช้งานในดา้ นโครงสรา้ งอย่างกวา้ งขวาง[1][2]

ธาตุทมี ีสมบตั คิ วามเปนโลหะสูง คอื ธาตทุ สี ามารถให้ หรือสูญเสียอเิ ลก็ ตรอน แกธ่ าตอุ นื ๆ ได้ดี ธาตสุ ว่ นใหญใ่ นตารางธาตุเปนโลหะ และจะอยดู่ า้ นซา้ ยของตาราง โดยความ เปนโละหะจะคอ่ ย ๆลดลงจากซา้ ยไปขวา โลหะทมี ีมากทีสุดในโลก คือ อะลูมิเนียม

(พลาสตกิ ) พลาสติก เปนสารประกอบอนิ ทรยี ์ที สังเคราะห์ขึนใชแ้ ทนวัสดธุ รรมชาติบาง ชนิดเมือเย็นก็แข็งตัว เมอื ถกู ความร้อน ก็อ่อนตวั บางชนิดแขง็ ตวั ถาวร มีหลาย พลาสตชิกนแิดบ่งเชอ่นอ กเปน 2 ประเภท คือ เทอรโ์ มพลาสติก และ เทอร์โมเซตติงพลาสติก

(เทอรโ์ มพลาสติก) (Thermoplastic) หรือเรซิน เปนพลาสติกทใี ชก้ นั แพร่หลายทสี ุดในโลก ได้ รบั ความร้อนจะอ่อนตวั และเมือเยน็ ลงจะแข็งตัว สามารถเปลียนรูปได้ พลาสติกประเภทนี โครงสร้างโมเลกุลเปนโซ่ตรงยาว มีการเชือมต่อ ระหว่างโซพ่ อลเิ มอร์นอ้ ย มาก จึงสามารถ หลอมเหลว หรือเมอื ผ่านการอัดแรงมากจะไม่ ทาํ ลายโครงสรา้ งเดมิ ตวั อยา่ ง พอลิเอทิลีน พอลิ โพรพลิ ีน พอลิสไตรีน มสี มบัตพิ ิเศษคอื เมอื หลอมแลว้ สามารถนํามาขึนรปู กลบั มาใชใ้ หม่ได้ ชนิดของพลาสตกิ ใน ตระกลู เทอร์โมพลาสตกิ ได้แก่ 1.พอลเิ อทลิ นี 2.พอลิโพรพลิ นี 3.พอลิสไตรนี   4.พอลิไวนิลคลอไรด์  5.ไนลอน (Nylon)  6.พอลเิ อทิลีนเทเรฟทาเลต  7.พอลิคารบ์ อเนต

(เทอรโ์ มเซตตงิ พลาสติก) (Thermosetting plastic) เปนพลาสตกิ ทีมีสมบัตพิ ิเศษ คือ ทนทานตอ่ การเปลียนแปลงอุณหภูมิและทน ปฏิกิรยิ าเคมีได้ดี เกิดคราบและรอยเปอนได้ยาก คงรูปหลงั การผ่านความร้อนหรอื แรงดนั เพียงครัง เดยี ว เมือเย็นลงจะแขง็ มาก ทนความรอ้ นและ ความดัน ไมอ่ อ่ นตวั และเปลียนรูปรา่ งไมไ่ ด้ แต่ถ้า อณุ หภูมิสูงกจ็ ะแตกและไหม้เปนขเี ถา้ สีดาํ พลาสติกประเภทนีโมเลกุลจะเชอื มโยงกันเปน ร่างแหจับกนั แน่น แรงยึดเหนียวระหว่างโมเลกลุ แข็งแรงมาก จึงไมส่ ามารถนํามาหลอมเหลวได้ กล่าวคือ เกิดการเชือมต่อขา้ มไปมาระหว่างสายโซ่ ของโมเลกลุ ของพอลิเมอร์ (cross linking among polymer chains) เหตุนีหลงั จาก พลาสตกิ เย็นจนแขง็ ตวั แลว้ จะไม่สามารถทําให้ อ่อนไดอ้ ีกโดยใชค้ วามรอ้ น หากแตจ่ ะสลายตวั ทันทีทีอณุ หภมู ิสูงถึงระดับ การทาํ พลาสติกชนิดนี ให้เปนรปู ลักษณะตา่ ง ๆ ตอ้ งใช้ความรอ้ นสงู และ โดยมากต้องการแรงอดั ดว้ ย เทอร์โมเซตติง พลาสตกิ ฯ

(ชนิ พลาสตกิ )

4.ยาง (Rubber) ยาง คือวัสดพุ อลิเมอรท์ ปี ระกอบด้วยไฮโดรเจน และคารบ์ อน ยางเปนวสั ดทุ ีมคี วามยืดหยุน่ สงู ยางทีมีตน้ กาํ เนิดจากธรรมชาตจิ ะมาจาก ของเหลวของพืชบางชนิด ซึงมลี ักษณะเปน ของเหลวสีขาว คลา้ ยนํานม มีสมบัติเปน คอลลอยด ์ อนภุ าคเล็ก มีตัวกลางเปนนํา ยางใน สภาพของเหลวเรียกว่านํายาง ยางทเี กดิ จากพชื นีเรยี กวา่ ยางธรรมชาติ ในขณะเดียวกันมนษุ ย์ สามารถสร้างยางสงั เคราะหไ์ ด้จากปโตรเลียม

ยางสังเคราะห์ ได้มกี ารผลติ มานานแล้ว ตงั แต ่ ค.ศ. 1940 ซึงสาเหตทุ ที าํ ใ มกี ารผลติ ยางสังเคราะหข์ นึ ในอดีต เนืองจากการขาดแคลน ยางธรรมชาติทใี ชใ้ นการผลติ อาวุธยุทโธปกรณแ์ ละปญหา ในการขนส่งจากแหล่งผลติ ในช่วงสงครามโลกครงั ที 2 จนถ ปจจบุ ันได้มกี ารพัฒนาการผลติ ยางสังเคราะหเ์ พือให้ไดย้ าง ทีมีคุณสมบตั ิตามต้องการในการใช้งานทสี ภาวะตา่ ง ๆ เชน่ สภาวะทนต่อนํามัน ทนความรอ้ น ทนความเย็น เปนตน้ การ งานยางสังเคราะห์จะแบ่งตามการใชง้ านออกเปน 2 ประเภท คือ • ยางสําหรับงานทวั ไป (Commodity rubbers)  • ยางสาํ หรับงานสภาวะพเิ ศษ (Specialty rubbers)

(ÍŒÒ§Í§Ô ) https://www.google.com /url?sa=t&source=web &rct=j&url=https://th.m .wikipedia.org/wiki/%25E0 %25B9%2582%25E0%25B8 %25A5%25E0%25B8%25AB %25E0%25B8%25B0&ved= 2ahUKEwiK97jHo9LjAhVMQ Y8KHUjPBXoQFjABegQIAh AB&usg=AOvVaw1D5t7 -UX81vkX69dW-AKyi

จดั ทาํ โดย ดยั ดา สีหาจกั ร เลขท2ี 0 ม.2/4




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook