Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore guilin

guilin

Published by aonpam1, 2017-12-03 17:40:13

Description: PDF_merged (2)

Search

Read the Text Version

CHINAGUILIN กุ้ยหลนิ สวรรค์บนดนิ Supara .



กยุ หลิน (Guilin) สวรรคบ นพภิ พ จดั ทำโดย นางสาวศุภราภรณ ยอดแกว เลขประจำตวั นกั ศึกษา 13580084คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร สาขา ธุรกจิ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร



คำนำ เมื่อกลา วถึงสถานทท่ี ่มี คี วามงดงามของดา นธรรมชาติ ทกุ คนตางกม็ สี ถานท่ที ่นี กึอยูใ นใจวา เปน ที่ที่มธี รรมชาตทิ งี่ ดงามสำหรบั เราที่สดุ แลว แตห ลายๆคนยังไมรอู กี วา ในโลกใบนสี้ ิ่งที่ธรรมชาตไิ ดสรรคส รางข้นึ มาใหก บั มนุษยอ ยา งเราๆไดชื่นชมและรกั ษาธรรมชาติเหลา นั้นไว หลายๆแหงทีม่ นษุ ยไดยกใหสถานทีท่ ่มี ีความอดุ มสมบูรณท างธรรมชาติและทำใหร สู กึ ตราตรงึ ในใจอยูเสมอ วาเปนดั่ง “สวรรคบ นดิน” สวรรคบนดนิ เปนคำท่ีใชก ลา วถงึ ท่ที ีม่ คี วามงดงามและอุดมสมบรู ณ ไปดวยปจ จัยหลายๆอยา ง ทเ่ี ม่ือไดเ หน็ หรือสัมผัสใหค วามรสู กึ กับเราไดว า นี่เปน ดั่งสวรรคน่นั เองซึง่ ในประเทศจนี นัน้ มีที่ที่หน่งึ ทช่ี าวจีนและคนท่ัวโลกไดใ หส มญานามวา เปน สวรรคบนดนิ นน่ั ก็คอื เมอื งกุยหลนิ เปนเมอื งทีเ่ ตม็ เปร่ียมไปดวยทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละประเพณีวฒั นธรรมอกี ทงั้ ดา นจุดเร่มิ ตน ของประวตั ิศาสตรจ นี ท่เี ปนท่ีนา สนใจตอ การศกึ ษา หนังสอื เลม นี้จะนำเสนอเกี่ยวกับเร่อื ง วฒั นธรรมประเพณี ประวตั ศิ าสตรโ ดยจะเรยี บเรยี งเนื้อหาผานทางสถานทตี่ างๆท่ีเปน จดุ เร่มิ ตนของเรอ่ื งราวเหลา น้นั และเร่ืองราวของความมหศั จรรยทางธรรมชาติทไ่ี ดเ กิดขึน้ ในเมอื งกยุ หลิน อกี ท้งั เร่อื งของเศรษฐกจิ และการปกครองจากอดีตสปู จจุบัน ผจู ดั ทำจึงหวังเปน อยา งยิง่ วา หนงั สอื เรือ่ ง กุย หลินสวรรคบนพิภพ คงเปนประโยชนตอ ผูท่สี นใจไมมากกน็ อ ย ถา ผจู ดั ทำผิดพลาดประการใด ขออภัยไว ณ ทีน่ ด้ี ว ย “ศภุ ราภรณ ยอดแกว”



สารบญั หนาเรือ่ ง 1-2ประวตั ิเมอื งกุยหลนิ 3ลักษณะทางภมู ปิ ระเทศ 4สถานที่ตัง้ และทรัพยากรธรรมชาติ 5การแบง เขตปกครองและเศรษฐกิจทอ งถน่ิ 6-22สถานทท่ี อ งเที่ยวท่ีนา สนใจ 23-24วถิ ีชีวติ ชาวบา นในกยุ หลนิ 26-36เนือ้ หาเรียบเรยี ง 37-38บทความสงทา ย 40บรรณานกุ รม

1 กยุ หลนิ (Guilin) กุยหลิน เปน เมืองทีไ่ ดร ับการขนานนามวา เปน สวรรคบ นดนิ เปน เมืองทมี่ ีเขาเขียวน้ำใส ถ้ำแปลก หินงาม เปน 1ใน 10 สถานที่ที่สวยงามที่สุดในประเทศจนี เปนเมอื งที่ตง้ั อยูใ นเขตปกครองตนเองกวางซีจวงซง่ึ ตงั้ อยทู างตอนใตข องประเทศจนี ประชากรสว นใหญเปน ชาว“จวง”ซ่ึงถือเปน ชนกลุมนอยทมี่ ีจำนวนมากท่ีสุดของชนกลมุ นอ ยทง้ั หมด “กยุ หลิน”มาจากช่อื ของตน ไม ในอดีตดินแดนแหง น้มี ีปา (หลนิ ) ตน “กยุ ฮวา” เยอะ(แปลเปนไทยวา “ตนข้ีเหล็ก”) เปน เมอื งทไ่ี ดชอื่ วา “สวรรคบ นภิภพ”

เมืองสวรรคบ นพิภพ 2“เมืองสวรรคบนพิภพ”หรือ“ซอ่ื ไหวเ ถาหยวน”มคี ำกลาววา จิตรกรใดทย่ี งั ไมเ คยมา เมอื งกยุ หลนิ จะไมส ามารถวาดรปู ขนุ เขาใหส วยงามไดเ ลย กุยหลินเปน เมืองอันสงบบนฝง แมน ้ำหลีเจียงเปนสถานทีท่ ีม่ ีชอ่ื เสียงใน แงค วามงดงามมาต้ังแตอดีต ฮนั่ หยู (Hanyu) ปราชญใ นสมยั ราชวงศถ ังเคยกลา วกวีไวบทหนง่ึ วา“แมน ำ้ นงี้ ดงามราวสายเขม็ ขัดไหมสมี รกต สวนภผู านัน่ เลา เปนดั่งจุฑามณีสหี ยก” ไมเ พียงเทา นัน้ ชาวจีนเองตา งก็ยอมรบั ในความงามของกุยหลิน มีคำกลา วทวี่ า “ซ่ือไหวเถาหยวน” ซึ่งหมายความวา “เมอื งสวรรคบนพภิ พ” พน้ื ทขี่ องเมอื งกุยหลินโดยรอบประกอบดวยภูเขานอ ยใหญท่ผี า นการกัดกรอนของ กาลเวลาเกิดเปน รปู รางแปลกตามากมาย มภี เู ขาหนิ นอ ยใหญก วา 27,000 ยอด รวมถึงแมกไม สายธารและถ้ำอันตระการตา นบั เปน ความอศั จรรยท ี่ธรรมชาติ บรรจงสรรคส รา งขึน้ ชาวจีนตา งยอมรบั วา กยุ หลิน คอื สถานที่ท่งี ดงามทสี่ ดุ ในเมืองจนี วากันวา หากจติ รกรทานใดไมเ คยมาเยอื นกยุ หลนิ จติ รกรทานนน้ั กไ็ มส ามารถทจ่ี ะเขยี นภาพวาดภูเขาทสี่ วยงาม

3 ลกั ษณะทางภมู ิประเทศกยุ้ หลิน ลักษณะทางภูมิประเทศกยุ หลิน ลักษณะพนื้ ทเ่ี ปนที่ ราบแองกระทะและเทอื กเขาขนาดเล็กท่ยี าวคดเคยี้ ว ตดิ ตอกนั เทอื กเขาสำคัญ ไดแ ก ภูเขาตาหมิงซนั และ ตาเหยาซนั นอกจากนีย้ ังเปนเขตหนิ ปนู ขาวท่ี ครอบคลุมพื้นท่ี ดวยเหตนุ ้เี องจงึ มีถ้ำหินปูนอยูม ากมาย สภาพอากาศ เปนแบบเขตรอ น อณุ หภูมิเฉลี่ย 16-23 องศาเซลเซยี ส มฝี นตกชกุ ฤดูรอ นยาวนานกวาฤดหู นาว อณุ หภมู ิสูงสุดในเดือนกรกฎาคม ประมาณ 27-29 องศาเซลเซยี ส และตำ่ สุดในเดือนมกราคมประมาณ 5.5-15.2 องศาเซลเซยี ส ปริมาณน้ำฝนเฉล่ยี 1,000-2,800 มิลลเิ มตรตอ ป

สถานทตี่ ัง้ 4 กยุ ลินตัง้ อยูในภาคตะวนั ตกเฉียงใตของเทือกเขาหนานหลิงอยตู อนใตของเสนทางระเบยี งหูหนานกวางสีภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเขตปกครองตนเองชนชาติจวงกวางสี อยูในลองจิจูดตะวนั ออก109 °36'50 \"-111 °29'30\" ละติจดู เหนือ24 °15'23 \"-26 °23 '30 \" ภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉยี งใตตดิ กบั เมืองหลิ่วโจวของเขต ปกครองตนเองชนชาติจวงกวางสี มีพืน้ ทีร่ วมประมาณ 27,800 ตารางกิโลเมตร (โดยเขตใจกลางเมอื งมปี ระมาณ 866.36 ตารางกโิ ลเมตร) คิดเปน 11.64% ทรัพยากรแรธ าตุ กยุ หลนิ มที รพั ยากรแรธาตุที่อุดมสมบรู ณ และมีหลากหลายชนิด เมืองกุยหลนิ ไดจดั ตงั้ เขตอนรุ กั ษธรรมชาตริ วม12แหง มพี ื้นท่ี รวม 427,000 เฮคเตอร คิดเปนรอ ยละ15.36 ของพ้นื ทีท่ ั้งหมดทรัพยากรปา ไมแ ละสัตวปา กยุ หลินมที รัพยากรปาไมท ีอ่ ดุ มสมบรู ณทรพั ยากรพันธุพืชมชี นิดหลากหลายมากมายท่ัวเมืองมพี ชื มที อ ลำเลยี งรวม 249 ตระกลู1,103 ชนดิ พชื ชน้ั สูงท่ไี ดรูจ กั ในภมู ภิ าคนม้ี ีมากกวา 2,000 ชนดิ ทรัพยากรปาไมไดปาไมท่ีมปี ระโยชน ปาเศรษฐกจิ ไมไผ ปาไมปอ งกนั(รวมปานำ้ ) พันธุตน ไมสำหรบั การตกแตง เมอื งและพันธตุ นไมภูเขาหนิ เปน ตนสัตวปาชนดิ หลากหลาย สตั วปา ท่ีมีกระดูกสันหลงั บนบกมมี ากกวา 450 ชนดิ นกมีประมาณ 266 ชนดิ

5 การแบง เขตปกครองและเศรษฐกจิ ทองถนิ่กยุ หลินต้งั อยูใ นภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเขตปกครองตนเองชนชาติจวงกวางสี อยูตอนใตของ\"ระเบยี งเซยี งซ\"ีเขตปกครองมีพนื้ ท่ีรวม 27,809 ตารางกิโลเมตร มี 5เขตเมือง และ 12 อำเภอ ประชากรท้งั หมด 4,951,10คนภมู ิประเทศภายในกุยหลนิ สลับซบั ซอนมากเทอื กเขาและหุบเขาทสี่ ูงชันและสวยงามน้ำตกท่เี ช่ียวกรากมีนาขน้ั บนั ไดท่ยี อดเยย่ี ม และมีสิบกวา ชนชาติกลมุ นอยไดแ กช นชาตจิ วง เยา แมว ตง ฯลฯ เปนเมอื งทอ งเที่ยวเชิงภูมิทัศนทขี่ ้นึ ชอ่ื โลกและเปน เมอื งแหง ประวัติศาสตรแ ละวฒั นธรรมยคุ แรกของประเทศจีน ศนู ยก ลางทางดา นการเมืองเศรษฐกจิ วัฒนธรรมวทิ ยาศาสตร และเทคโนโลยขี องภูมิภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของมณฑล กวางสแี ละพน้ื ที่ ชายแดนระหวางมณฑลหหู นานและกวางสี พื้นทสี่ ำคญั ของ เขตเศรษฐกจิ แมน ำ้ ซเี จยี งกวางสี ถนนฝรง่ั หยังเหยินเจยีตัง้ อยูทศิ ทางเหนือสุดของเขตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ถนนคนเดิน ท่ขี นาบขา งดว ยทิวเขา\" หนงึ่ แกน สองระเบยี ง\" เปนฐานอตุ สาหกรรมเทคโนโลยีช้นั สงู ของกวางสี เปน ฐานผลติ ขา ว ผลไม และผักอตุ สาหกรรมเทคโนโลยีสงู อุตสาหกรรมการทอ งเทยี่ วอตุ สาหกรรมวนเกษตร (การเกษตรและการปาไม) มพี ้ืนฐานการพฒั นาท่ดี ี เรงกระบวนการพฒั นาอตุ สาหกรรมการพฒั นาชนบทใหเ ปน เมอื ง ใหรวดเรว็ ย่ิงข้นึเศรษฐกิจมแี นวโนม การพัฒนาท่ดี ี

เขางวงชาง (elephant trunk hill) 6 เซย่ี งปซ านเขางวงชา ง ต้งั อยูใจกลางเมืองตรงบรเิ วณจดุ บรรจบของแมนำ้ หลเี จยี งและแมนำ้ ถาวฮวั เปน หนงึ่ ในภเู ขาท่ีขน้ึ ชอื่ ของกุย หลนิ ทางตะวันออกเฉยี งใตสุดเขต รมิ แมน ้ำหลเี จยี งเปนสัญลกั ษณของเมอื งกุยหลิน ทไี่ ดช ่อื วา เขางวงชา งนน้ั มาจากรปู รางของ ภเู ขาหินทีค่ ลายกับงวงของชางที่กำลงั โนม ลงเพื่อกนิ นำ้ จากแมน ้ำหลเี จยี งท่ีอยูเ บอ้ื งลา ง บริเวณนไ้ี ดร บั ความนยิ มจาก นักทอ งเทีย่ วมากที่ใตย ังมี “ถ้ำคนื ไขมกุ ”เปนจดุ สนใจภายในถ้ำโดดเดนดว ยพระพุทธรปู แกะสลักหนิ ที่ผนงั ถำ้ นักกวสี มัยถังซง เมอ่ื ไดมาเยอื นเขางวงชาง แลวประทบั ใจจนบรรยายเปน บทกลอนดงั นี้ใตน ้ำมจี นั ทราสวา งไสวเหนอื นำ้ มีจนั ทราลอยเดน สายนำ้ ไหลแตจนั ทรายัง จนั ทรลบั ฟา สายน้ำยงั คงไหล

7 แมน ้ำหลเี จยี ง (lijiang river) แมนำ้ หลีเจียง เปน ไขมุกเพริศพรว้ิ ของแผนดินสวยงามตระการตา แหง ประเทศจนี เปน แหลง ภมู -ิ ลกั ษณภดู อยหินปนู ขนาดใหญ ท่ีสุดของโลก เปน สุดยอดแหงความงามของทิวทศั นเ มืองกยุ หลิน ซงึ่ มชี ื่อเสียงเปนท่ีรูจกั กนั ทวั่ โลกมาชานานแมน้ำหลีเจยี งแมน้ำหลเี จยี งชว งกยุ หลนิ ถึงหยางซัว่ อยทู างภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ของเขตปกครองตนเองชางเหมอื นแถบผาคาดเอวสีเขียวสดใสพาดผา น ชนชาติจว ง กวา งซี เปนลำน้ำในเครอื ระบบแมน้ำจูเจียงระหวางชอ งเขารูปทรงประหลาดนบั รอ ยนบั ตน นำ้ ของแมน ้ำหลีเจยี งเรียกวา ลำธารตา หยงเจยี งพันววิ เลยี บสองฝง แมน้ำสวยงามวจิ ติ รสายน้ำสเี ขียวมรกตไหลเวยี นวน พื้นน้ำสะทอนภาพของยอดเขาสงู แอง นำ้ ลกึ บอ นำ้ พุ นำ้ ตกซงึ่ มีคนชมเชยวาเปน“ระเบียงนทิ รรศการจิตรกรรมตลอดลำนำ้ หลเี จยี ง”

เจดียเงินเจดียทอง 8(silver pagada gloden pagada)เจดียเ งินเจดยี ท อง (silver pagada gloden pagada)เจดยี เงนิ -เจดยี ทองอยใู นทะเลสาบซานหู เปนเจดียค ูเจดยี ห นง่ึ สรางดวยทองเหลอื งถอื วาเปนเจดียทองเหลอื งท่ใี หญทสี่ ุดในโลก สวนอีกเจดียส รา งดว ยปนู เปนสเี งินรอบ ๆ ทะเลสาบอากาศดีวิวทิวทศั นส วยงามยงิ่ นักถือวาเปนจุดชมววิ ทส่ี วยงามอีกแหงหนึง่ ในกยุ หลนิ สรางขึน้ เพื่อความเปน ปกแผนกนั ระหวางฮอ งกง กับ กยุ หลนิ ซึง่ เจดียท องจะมที งั้ หมด 9 ชั้น สว นเจดียเ งินมีทง้ั หมด 7 ชัน้ ซ่ึงตรงกบั ป 1997 ทฮี่ อ งกงไดร บั คืน อิสรภาพจากองั กฤษ

9 (หลูต๋ีเหยียน) ถำๅ ขล຋ยุ อຌอ (ludi yan cave)ถำๅ ขล຋ุยอຌอ ตๅงั อยู຋ทางทศิ ตะวันออก฼ฉียง฼หนือของ ภู฼ขากวางหมงิ ฿นตัว฼มืองกยຌุ หลนิ ห຋างจากตวั ฼มอื ง 5 กม. ถำๅ ฽ห຋งนมีๅ ภี าพ฼ขียนส฾ี บราณสมัยราชวงศถงั มกี ารทำทาง฼ดนิ ฽ละประดบั ประดาเฟภาย฿นถๅำ฼พไอื ฿หຌ สามารถชมความงามของหนิ งอกหินยอຌ ยภาย฿นถๅำ เดอຌ ยา຋ งชัด฼จน หินงอกหนิ ยอຌ ยภาย฿นถำๅ ฽หง຋ นๅีมี ชือไ ฼รยี ก฽ตกต຋างกนั เปตามทคีไ น฿นทຌองถนิไ ตังๅ เวตຌ าม รูปรา຋ งอนั วิจิตรตระการตา อาทวิ ัง฽กวຌ ฽ห຋งราชามังกร ทไคี ลຌายกับ฼มอื งกยຌุ หลินบร฼ิ วณ฽มน຋ ๅำหลี฼จยี ง฽ละ หนิ งอกหนิ ยอຌ ยรูปร຋าง฽ปลกโอีกมากมายตาม฽ต຋ จินตนาการ สว຋ นท฼ไี ดน຋ ทสไี ุดระดับเฮเลทของ ถำๅ ขลุย຋ ออຌ กคใ ือ๡วังบาดาล๢ท฼ีไ ปนวงั นๅำมหี ินงอก หินยຌอยทอด฼งาตกสะทอຌ นลง฿นวงั นๅำภาย฿ต฽ຌ สง เฟสีนำๅ ฼งนิ ทสีไ ຋องประดับ ท຋ามกลาง฾ถงถๅำขนาด฿หญ຋ ด฽ู ลຌววิจิตรงามดายงไิ นัก

สวนเจด็ ดาว (SEVEN STAR PARK) 10 สวนเจ็ดดาว (Seven Star Park) ตั้งอยูห างจากตวั เมืองล่ัวหยาง ประมาณ 7 ไมล มคี วามเปน มาดงั นเี้ มอ่ื ป ท่ี 64 ของราชวงศฮ ่นั ตะวนั ออก (25-220 กอ นคริสตศักราช) ฮองเต หมิง ไดสง ผูแทนไปศึกษาพระพุทธศาสนา ทางโลกตะวันตก จากนนั้ สามปต อมาพระเกจชิ ่ือดงั ของอนิ เดยี ไดเ ดินทางกลบั มา พรอ มกับผูแ ทน โดยทงั้ สองไดจงู มา ขาวทีแ่ บกพระไตรปฎกกับพระพทุ ธรปู ไวน ่ี เปน ครง้ั แรกทพ่ี ระพุทธศาสนาเกิดขน้ึ ในประเทศจนี ท่นี เ่ี ปน แหลง ที่รวบรวมสถาปตยกรรมอนั มคี าอายุกวา 1900 ป ประกอบดว ย หอ งบัญชาการฮองเตหอ งประดิษฐานพระพทุ ธรูปหอ งสำหรบั ฟง ธรรมเทศนาและระเบยี งเรียบดานหลงั วดั ทเ่ี ชอ่ื วาเปนจดุ ทม่ี าขาวไดแ บกพระพุทธรปู และพระสตู รจากประเทศอนิ เดีย พรอ มๆกบั พระเกจจิ ากประเทศอนิ เดยี ทงั้ สองรปู ไดแปลพระสูตรเปนภาษาจีน ซึ่งทำใหท แ่ี หงนี้เปน แหลง กำเนดิ ของพระพทุ ธศาสนาในประเทศจีน

11 ตำบลโบราณตาซวีที่อยู ตำบลตา ซวอี ำเภอหลิงชวนเมอื งกุยหลนิ ตำบลโบราณตา ซวีตั้งอยูฝ งตะวนั ออกของแมน ำ้ หลเี จียงทศิ ตะวันออกเฉียงใตของ ถ้ำฟจู อื่ (ถำ้ พอ ลกู ) ทศิ เหนือของภเู ขาโหมผาน หางจากเมอื งกยุ หลนิ 23 กโิ ลเมตรโดยเดนิ ทางทางนำ้ ประวัตศิ าสตรไ ดบนั ทึกไวว า ตำบลโบราณเรม่ิ กอ สรางขนึ้ ชวงตนราชวงศซง เหนอื เรม่ิ เตบิ โต ในราชวงศหมงิ และชงิ และเจรญิ รงุ เรอื ง ในสมยั สาธารณรฐั จีน มีประวตั ิศาสตรต้ังพันป ใน 600 ปท่แี ลว ตา ซวีไดขึน้ เปน ตำบลทใ่ี หญทสี่ ุดของ\"ตำบลสี่อนั ดับหนึง่ ของกวางส\"ี (หลซู วีของปนหยาง หยงซวขี องชางหวู เฉียวซวขี องกุยเซ่ยี น) เนื่องจากปจจัย\"ใหญ\" ตาซวมี คี มนาคมขนสงทางนำ้ และเปน ศูนยกลางการคามีชอื่ เสียง ทางทศิ ตะวันออกมแี มนำ้ ฉาวเถยี นซินเหอ ซึ่งเช่อื มโยงกับแมน ำ้ หมา เหอของฝูลี่ ทางตะวนั ตกเช่ือมโยงกับ แมน ้ำเซยี งซเี หอ ขยายไปถงึ หยงฝู แมนำ้ หลเี จียงที่อยูท างเหนือ ดา นบนข้ึนไปถงึ หูหนาน ดานลาง ลงไปสกู วางโจว ตำบลโบราณตาซวี แตก อนชอ่ื เมืองฉางอาน เมืองหลเู ถียน ในสมัยราชวงศฮ่นั ไดเ กิด การตั้งถน่ิ ฐานขนาดเล็ก ในชว งราชวงศซ งเหนอื ไดกลายเปน ตำบล เมอื ง ท่มี ีการคา คึกคัก ในชว งราชวงศห มงิ เปนหน่งึ ในส่ตี ำบลโบราณใหญของมณฑล กวางสี ธรุ กจิ เร่ิมเจรญิ ในราชวงศซง เคยแตงต้ังขาราชการเกบ็ ภาษี เติบโตในราชวงศห มิง \"หลนิ กยุ เซยี่ นจือ้ \" ของปท ่ี 31 แหงจกั รพรรดิ กวงซว่ี ราชวงศช งิ ไดกลา ววา \"ทาเทียบเรือทาง บกและทางนำ้ \" ในชว งสงครามจีนญี่ปนุ เรียกวา\"กุย หลินขนาดเลก็ \"

ตำบลโบราณตาซวี 12 วฒั นธรรมธุรกิจการคาทอ งถ่ินทีล่ ึกซ้งึ และมีเอกลักษณอนั โดดเดน ตา ซวี ยังเปน ตำบลโบราณท่ีมปี ระวัตศิ าสตรอันยาวนาน เริม่ กอตั้งขน้ึ ใน ป ค.ศ. 200 ถนนเกาแกข องตา ซวไี ดข ยายตามแนวแมน้ำหลีเจยี ง ยาวสองกโิ ลเมตร ถนนทไ่ี มคอ ยกวา งนน้ั ปดู ว ยแผน หินบลูสโตน ท้งั สองขา งเปนบา นเรือนเกาทีไ่ ดรับการรักษาเปน อยา งดี ตำบลโบราณ ยงั มโี รงถักไมไ ผ โรงรองเทาฟาง รานขายสินคาสำหรับงานศพดัง้ เดมิ หอ งแพทยหญา รานตดั ผมเกา และโรงหัตถกรรมโบราณอนื่ ๆเปนจำนวน มากทไ่ี ดร บั การรกั ษาเปนอยา งดี สะพานหนิ โคงเดยี่ ววา นโซว เฉียวท่ี สรางขึ้นในราชวงศหมิงนัน้ ยังตง้ั อยทู ศิ ใตข องตำบลอยางแข็งแกรงศาลเจากาวจู ศาลเจาฮั่นหวังท่ีเปน สถาปต ยกรรมราชวงศช ิง หอสมาคมกวางตงุหูหนาน เจียงซี เปนตน พรอมดว ยถนนหนิ บลูสโตนทย่ี าวหาลี้ กระเบื้องอิฐและบา นเรือน ลวนเปน พยานของตำบลโบราณตาซวี ตา ซวที งั้ ส่ีดา นลอ มรอบดว ยภเู ขาและเกาะ ในดานตะวันตก ของตำบลลอมรอบดว ยสายน้ำ ตาซวีสวนผลไมขนาดใหญท ่อี ุดมไปดวยสม และสมโอ มีทวิ ทัศนท ่สี วยงาม มเี รือกสวนไรน าที่งดงามเหมือนภาพวาด บทกว\"ี ตา ซวี\"เจ่ยี จ้ี ราชวงศห มงิ ไดเขียนวา ริมแมน ำ้ ตา ซวมี ีวดั หลูเถียน บอนำ้ รอยฉือ่ (หน่ึงฉอื่ ประมาณ 30 ซม) ลอมรอบดวยไมไ ผหมนื่ ตนรา นหล่ิวไดเ พ่มิ รายไดในชว งเชา เย็น ตา ซวยี งั คงกลนิ่ อายของสมยั โบราณ เรียบงา ยและเงยี บสงบ ความลับทางการคา ทท่ี ำให \"ตระกลุ เซห วงหล่ี เหลยี วและกาวสีตระกุลใหญ\"สามารถควบคมุ เศรษฐกจิ ของพ้ืนทตี่ อนเหนือกวางสีในสมยั เกา ได

13 ซ่อื ไวถ าวหยวน ( เมืองในอดุ มคติ/เมอื งสวรรค ) ทอี่ ยู หวหู ลี่เต้ียนตำบลไบซ าอำเภอหยางซ่ัวเมืองกุยหลินมณฑลกวางสี ซือ่ ไวถ าวหยวน ( เมอื งในอดุ มคต/ิ เมอื งสวรรค ) ไดพฒั นากอ สรา งข้ึนตาม คำบรรยายของ บทความ \"เถาฮวยหยวนจ้\"ี ของเถายวนหมงิ นักวรรณคดขี องสมัยราชวงศจ พ้ี รอ มผสมผสาน กบั ภมู ทิ ัศนดา นเรือกสวนไรนาของทองถ่ินประเพณพี ้นื บานและหมบู านชนกลมุ นอยไดจดั เรยี งอยางเปนระบบ ซ่ึงผสมผสานกบั ภูมิทัศน ทางธรรมชาตอิ ยา งกลมกลืนกนัทำใหค ุณสามารถช่นื ชมภมู ิทศั นทางธรรมชาติและสมั ผัสประเพณีวิถีชีวติ ของชนกลุมนอ ยในเวลาเดียวกัน

14 การรองรำทำเพลงและประเพณชี ายแดนทม่ี ีเอกลกั ษณกลมุ หมูบา น ท่ีเดินชมนน้ั เปนภาพยอของ สงิ่ กอสรางของชนกลุมนอ ยทางภาคเหนือกวางสี ตึกกลอง สะพานเฟง ยวนหมงิ ซานจวงเปน สว นประกอบของสถานท่ีทอ งเทย่ี ว เปนสถาปตยกรรมที่ผสมผสานดวยการออกแบบของสวนซูโจวและสไตล สถาปตยกรรม ของบา นเรอื นในภาคเหนอื ของกวางสี นอกหนาตางกค็ ือทิวทศั น หนึง่ หนา ตา งหนง่ึ ทิวทัศน หน่งึ กาวเปลีย่ น หน่งึ ทวิ ทัศน ในยวนหมิงซานจวงยงั สามารถทบทวนอารยธรรมโบราณทเ่ี จรญิ รงุ โรจนและชมดูการแสดง ดา นการกล่นั เหลา การผลติ กระดาษ การพิมพ การแกะสลักไมไ ผ การแกะสลกั ไม เครื่องปน ดินเผา ทำใหเ ราเหน็ ถงึ ภูมิปญญาของประชาชนจนี

15 วงั หลวงตเู ซยี วเฟง กยุ หลนิ ยอดเขาตเู ซ่ียวเฟง พระราชวงั หวังเฉนิ ตัง้ อยใู นใจกลางเมอื งกยุ หลินเปน สถานทีท่ อ งเที่ยวดีเดน ที่ยดึ \"ราชาแหง ภูเขา\"ของกุยหลนิ - ยอดเขาตเู ซย่ี วเฟงเปนศูนยกลาง รวมเขตพื้นท่ขี องพระราชวงั ของกษตั ริยพ านหวังฝขู องสมัยราชวงศหมงิ ภายในของยอดเขาตเู ซี่ยวเฟง ภมู ทิ ศั นธรรมชาตทิ ีส่ วยงามและภมู ิทัศนทางประวตั ิศาสตรและวฒั นธรรมเสริมสรางความงามซึ่งกนั และกัน\"กยุ หลนิ ซานสยุ เจี่ยเทียนเซ่ยี \" ทม่ี ชี อ่ื เสียงต้ังแตสมยั โบราณนั้นกแ็ กะสลกั ในท่ีน่ี ทน่ี ี่ไดครอบคลุมระบบสามระบบ ทางประวัตศิ าสตรและวฒั นธรรมทีส่ ำคัญ ของกยุ หลินเปนเปนตวั แทนโดดเดน ของ ประวตั ศิ าสตรแ ละวฒั นธรรมกยุ หลนิ ยอดเขาตเู ซย่ี วเฟงไดร บั การช่ืนชมวา เปน \"เสาเอกแหงสวรรค\" ทางประวตั ศิ าสตร เรยี กวา เปน ยอดเขาอนั ดับหนึง่ ของกยุ หลนิ ปนบันได 306 บันไดก็ข้นึ ถงึ ยอดเขาเปน จุด ชมววิ กุยหลนิ 360 องศาทด่ี ที ี่สดุ ต้ังแต สมยั โบราณเปน ตนมา ยอดเขาตเู ซยี่ วเฟง พระราชวังหวังเฉินถูกมองวาเปนสถานที่ ลำ้ คา ทางฮวงจยุ เปนแหลง กำเนิดของเมอื งกยุ หลนิ อีกดวย ที่น่เี คยอออกพระจักรพรรดสิ ององค กษัตรยิ จ้ิงเจยี งหวัง 11องค ใน 14 รุน ในป 1996 ไดรบั การระบุวา เปนหนวยงานอนุรกั ษโบราณวตั ถุท่ีสำคัญแหงชาติ

16ตันเสียจือหยวนปาเจยี่ วจา ย ปาเจ่ยี วจาย หรือเรยี กวา ภเู ขาหยนุ ถายซาน ไดรบั การยกยองวา\"มรดกโลกทางธรรมชาต\"ิ , \"หนง่ึ ในเจด็ ตันเสียทีส่ วยที่สุดของประเทศจนี \"ยอดเขาหลักสงู เหนอื ระดบั น้ำทะเล818เมตร เนอ่ื งจากมมี ุมกระดกแปดมมุจึงไดต ้ังชือ่ วา ปาเจย่ี (แปดมมุ )จา ย ภมู ปิ ระเทศแบบตนั เสียครอบคลมุพ้ืนท่ีกวา 80 ตารางกโิ ลเมตร ไดรบั การพฒั นาอยา งสมบูรณแ ละมีคณุ ภาพสงู ซ่ึงจะหาไดยากในทีอ่ ื่น ผเู ชีย่ วชาญทเี่ กี่ยวของยกยอ งวา\"วิญญาณแหง ตันเสยี \" \"คณุ ภาพอนั ดับทห่ี น่งึ \" ภูเขาสงู ตระหงา น ดา นตะวันออก ตะวนั ตกและดา นเหนอื ลว นเปน หนา ผาสงู ชัน มเี พยี งแตด า นตะวนั ตกเฉียงใต มีทางเลก็ เชื่อมโยงถงึ ขา งบน ยอดเขา มพี นื้ ท่รี าบ ทก่ี วางกวาสามพัน ตารางเมตร ในสมัยราชวงศไดเริม่ กอ สรา งวดั เทียนคง (วัดทองฟา )ในท่นี ่ี

17 ภูเขาเหยาซาน ภูเขาเหยาซานตัง้ อยูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของเมืองกุยหลิน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง กุย หลินกับอำเภอหลงิ ชวนกย็ ึดเหยาซาน เปนชายแดน ภเู ขาจากใตทอดยาวไปยงั เหนือ ภเู ขาสูงตระหงา นแข็งแรง เหมือนววั จงึ มีอกี ช่อื วา ภเู ขาววั ภเู ขาเหยาซานไดค อยๆ ยกตัวขึ้นต้งั แตก าร เคลอื่ นไหวอนิ โดใน 200 ลานปทแ่ี ลว การเคล่อื นไหวเยย่ี ยซานใน 70ลานปท ่ีแลว และการเคล่อื น ไหวหิมาลัยใน 2 รอ ยลา นปทแ่ี ลว จนกลายเปนยอดเขา ทีส่ งู สุดของกุยหลนิ

18 ภูเขาเหยาซานมชี อ่ื เสยี งทว่ั โลกดวยลกั ษณะทวิ ทัศนใ นสฤ่ี ดูกาลทม่ี ีสีสนั หลากหลายและมกี ารเปลีย่ นแปลงอยางคาดไมถ ึง ไดร บั การยกยองเปนสถานทท่ี ด่ี ที ่ีสุดสำหรบั การชมดทู วิ ทัศนกยุ หลินนอกจากนแ้ี ลว เหยาซานยังเปน ทด่ี ินศักดส์ิ ิทธ์ติ ามหลกั ฮวงจยุ ของคนจนี มสี สุ านกษตั ริยพานของราชวงศหมงิ ทไี่ ดรบั การรักษาไวอยา งสมบูรณท่ีสดุ ในประเทศจนี มีขนาดใหญหลวง ขวดหมยั ผนิ ท่ขี ุดพบในที่นีไ่ ดล ่ือชอ่ื ทว่ั โลก

19 นาขัน้ บันไดหลงจ่ีกยุ หลนิ นาขน้ั บันไดหลงจก่ี ุยหลินต้ังอยใู นตำบลเหอผงิ อำเภอปกครองตนเองนานาชนชาตหิ ลงเซง่ิ เมอื งกุยหลนิเขตปกครองตนเองชนชาติจว งกวางสี ครอบคลุมพืน้ ท่ี 70.1 ตารางกิโลเมตร หางจากกยุ หลิน75 กิโลเมตร เปน จดุ สาธติ การทอ งเท่ยี วเชิงเกษตรแหง ชาติ มสี ภาพ ภูมอิ ากาศแบบมรสุมเขตกงึ่ รอ น อณุ หภมู ิเฉลยี่ ตอ ปค อื 17 องศา สภาพภูมอิ ากาศคอนขางอบอนุ ปรมิ าณนำ้ ฝนเฉล่ียตอ ป 1,650 มม. นาขั้นบันไดหลงจกี่ ยุ หลนิ มปี ระวัติศาสตรอ นั ยาวนาน วัฒนธรรม ชนชาตทิ ีง่ ดงามและเจริญรงุ เรื่อง นาขั้นบันไดเริม่ กอสรา งขน้ึ ในสมยั ราชวงศหยวน ขึ้นรูปทรงในราชวงศห มงิ และเสรจ็ สมบูรณใ นชวงตน ราชวงศชิง ประวัตศิ าสตรเ กือบ700 ป

20 นาข้นั บนั ไดมขี นาดตระหงา นและงดงาม ไดบ รู ณาการจุดเดนของการกอ สรางนาข้ันบันไดของโลก มแี นวเสนท่ีสงามงามมาก ถือเปนอนั ดบั ทหี่ นึ่งแหงภมู ทิ ศั นนาข้ันบันไดของโลก ไดรบั การชน่ื ชมวา \"สุดยอดของโลก\" สถานที่ทอ งเทีย่ วนาข้นั บนั ไดหลงจเ่ี นน วัฒนธรรมการปลูกขา วเปนหลกัเปน ท่ที ่ี ผสมผสานดว ยเขตทวิ ทัศนแ ละเขตทองเทย่ี วเชงิ วฒั นธรรมของชนกลุมนอ ย ปจ จุบนั ไดพฒั นาเปน นาขั้นบันไดชนชาติจวงผงิ อาน สถานทท่ี อ งเทีย่ วนาขนั้ บันได จงิ คงั หงเหยา และสถานทที่ อ งเท่ยี ววฒั นธรรมและนาขั้นบนั ไดหลงจ่กี จู ว งจาย

21 เขตทศั นียภาพคลองขุดหลงิ ฉลีกยุ หลนิท่ีอยู ถนนซวงหลิงอำเภอซิงอานเมอื งกยุ หลนิ คลองหลงิ ชวตี ้งั อยูในอำเภอซงิ อาน ซ่งึ เปน \"ตำบลท่ีมเี สนหท สี่ ดุ สิบอนั ดับแรกของประเทศจีน\"\"บา นเกดิ ของกว ยเต๋ียวกุยหลนิ \"ที่อยูตอนตนของแมนำ้ หลีเจียง ตอนเหนือหางจากเมอื งกยุ หลินประมาณ50 กิโลเมตร ดนิ แดนอนั งดงามและมหัศจรรยน ที้ ำใหป ระวตั ิศาสตรข องประเทศจีนไดรบั การเปลีย่ นแปลงเปน สองคร้ัง โดยหน่ึงในนน้ั กค็ ือการกอสรา งคลองหลิงชวี คลองหลิงชวีความยาวรวม 37.4 กิโลเมตรในปท ี่สามสิบสามแหง ราชวงศฉ นิ (214 ปกอ นคริสตกาล) ฉนิ ซอื หวงตไี้ ดดำเนนิ การกอ สรา งเพอ่ื รวมจนีเปน หน่ึงเดยี วกัน มีประวัตศิ าสตรม ากกวา 2,000 ป มชี ่ือเสยี งเทา กับคลองตเู จยี งเยย่ี นและ คลองจง้ั โกว ชวี โครงการชลประทานทไ่ี ดร บั การอนรุ ักษท่ีดี ทีส่ ุดในโลก และเปนหน่งึ ในบรรดาคลองทเี่ กาแกท ี่สุดในโลก คลองหลงิ ชวีน้แี สดงใหเ หน็ ถึงภูมิปญญาของบรรพบุรษุ นายโกวโมโหย นักวิชาการทีม่ ชี ื่อเสียงไดช ื่นชมวา เปน สิ่งมหัศจรรยข องโลกเหมอื นกกำแพงจนี เปนชุมทางเดียวของ ทร่ี าบลุมภาคกลางและหล่งิ หนานเปนสองพันปน บั ตงั้ แตส มยั ราชวงศฉินตลอดจนถึงสมยั สาธารณรฐั จนี

22 มีบทบาทสำคัญในการสงเสริมการผสมผสานเศรษฐกิจวัฒนธรรมและอารยธรรมของภาคกลาง และของภาคหลง่ิ หนานใหล งตวั ปจจุบันไดรับการคัดเลือกอยูบญั ชีรายช่อื สำรองของมรดก โลกทางวฒั นธรรมแหลง ทอ งเทีย่ วคลองหลงิ ชวีกุย หลนิ ในฐานะหนว ยงานอนุรักษโ บราณวัติถุ ทางวัฒนธรรมท่สี ำคัญของประเทศจนี ไดแบง เปน เขตอนรุ กั ษป ระวตั ิศาสตรและวัฒนธรรมท่ี สำคัญในตนคลองและเขตหลกั และเขตการลองเรอื เทย่ี วถนนนำ้ ในเมอื งฉินฉังประชาชนไดส รา งถนนตามริมคลองหลิงฉว่ีก็เลยไดตั้งชื่อวาสยุ เจีย(ถนนนำ้ ) ถนนน้ไี ดกอ สรา งขนึ้ โดยเลยี นแบบสถาปตยกรรมของราชวงศฉ ินและฮั่น ซง่ึ ประกอบดว ยวัฒนธรรมทางสถาปตยกรรมโบราณวัฒนธรรมสะพานโบราณ วฒั นธรรมหนิ แกะสลกัวฒั นธรรมคลองนำ้ และประเพณี วิถีชวี ิตของหลงิ หนานในที่นแ่ี สดงใหเหน็ ถึงความเจริญรุง เรอื่ งและการผันผวนของคลองหลิงฉว่ีในอดตีท้ังสองฝง วัฒนธรรมภาคกลางและวัฒนธรรมหลิงหนานไดผสมผสานกันอยา งลงตัว การพายเรอื เทย่ี วถนนนำ้ กเ็ สมือนการเดนิ ทางทา มกลางระเบยี งแหง ประวตั ศิ าสตรแ ละวฒั นธรรม มเี สนห ของ\"ตะวนั ตกถนนซเี จยี \"ของหยางซว่ั คลองหลิงฉว่กี ยุ หลินเปน สถานที่ทองเทยี่ วทไี่ ดบูรณาการประวตั ศิ าสตรธรรมชาตแิ ละวัฒนธรรมมนษุ ยศาสตรท ี่มีประวัตศิ าตรมากกวา 2,000 ป

23 วถิ ีชีวิตชาวบา น ใน\"กุย หลนิ \" สำหรับอีกหนึ่งภาพชีวิตสามารถพบเห็นไดท ่ัวไปในแมน ้ำหลี และตามลำคลองหนองบึงในเมอื งกยุ หลินก็คือ ภาพวิถีชีวิตชาวประมงพ้ืนบา นทถ่ี อื เปนหนงึ่ ในสัญลักษณข องกยุ หลินก็คือ วิธีการจบั ปลาแบบรวมดว ยชวยกนั ระหวางคนกบั สัตว โดยชาวประมงจะพายแพไมไผอ อกไปตามลำนำ้ พรอ มกบันกกานำ้ สีดำ ตัวโต ท่ีขาถูกผกู ติดไวกบั แพ พอนกกาน้ำเห็นวาในนำ้ มีความเคล่ือนไหวของปลาก็จะโฉบแผล็วลงไปคาบปลากลบั มายังแพไมไผ 4 เดอื น คอื ระยะเวลาของนกฝก หัด ทจ่ี ะมบี วงคลอ งคอยามเวลาไปจบั ปลา ถา นกจับไดปลาตวั ตัวใหญ บวงจะถูกรดั เพ่อื ไมใหจ ะงอยปากกลนื ปลาลงลำคอ แตถาไดป ลาตัวเล็ก มนั จะตกเปนรางวัล แกนกกาน้ำผูซื่อสตั ย

24กยุ หลนิ มปี ระชากรสวนใหญเปน ชาว“จว ง” ชนชาตจิ ว งมีความสัมพันธอ ันใกลชิดกบั ชาว\"ปายเยว \" ไดสรา งสรรคตัวอกั ษรจว งในตนศตวรรษนี้ กวางสีมีการเกษตรเปน หลัก ถนัดดา นการเพาะปลูกขา วสาร เปนชนกลุมนอ ยทม่ี ีประชากรมากที่สดุ ของประเทศจีน ประชากรประมาณ15,489,630คน สว นใหญอ าศยั อยใู นเขตปกครองตนเองชนชาตจิ า งกวางสแี ละบริเวณเหวนิ ซานของมณฑลยูนนานเปน ตน สว นเหลียนซานในมณฑลกวางตง ฉงเจยี งในมณฑลกยุ โจว เจยี งหวั ในมณฑลหหู นานและสถานท่ีอ่ืนๆก็มกี ารกระจาย ในหนงั สือบันทึกทางประวตั ิศาสตรของราชวงศซง ชนชาติจวง( )ถูก เรยี กวา”จวง”( ) ”จวง”( ) หลงั จากการปลดปลอย ไดเ รยี กวา ของ”จวง”( ) ในป1965ไดเ ปล่ยี นชื่อเปน \"ชนชาตจิ ว ง( )\" ชาวจว งไดส รางสรรคง ิ้วของตนเอง—ง้วิ จวงบนพน้ื ฐานการรวบรวมวรรณกรรมพนื้ บานเพลง เตน ระรำและศิลปะการแสดง กลองถงกู/กลองทองแดงเปน เครอื่ งดนตรพี ืน้ บา นที่มีสญั ญลกั ษณมากทส่ี ุด ของชนชาตจิ วง ชนชาตจิ วงมีอุตสาหกรรมการเกษตรเปนหลักซานชีตกุ แกและน้ำมนั ยหี่ รา ท่ีขน้ึชื่อท่วั โลกนนั้ กเ็ ปน ผลิตภณั ฑพ้นื บานของชนชาติจว ง ปริมาณการผลติ ออยตดิ อันดบั หนึ่งประเทศจีน

แมน ำ้ งดงาม มติ รภาพยิ่งงามทกุ สง่ิ ทกุ อยางในทีน่ ่จี ะจดจำในหวั ใจตลอดกาล

26Compiled bySuparaporn

27GUILIN

28ความเห็นเก่ยี วกบั กุยหลนิ กุย หลนิ ถอื เปน เมืองทมี่ ีความสวยงามมากทส่ี ดุ ของประเทศจีน เตม็ ไปดว ยทรพั ยากรธรรมชาติทอี่ ุดมสมบูรณ อกี ทงั้ ความเปนอยู ของชาวกยุ หลินทน่ี าสนใจ ความสงบเงียบและมีชีวิตทีเ่ รยี บงา ย มภี มู ิอากาศที่เยน็ สบาย ไมร อ นไมหนาวจนเกนิ ไป แหลงทอ งเทีย่ ว มากมายหลากหลายความรสู กึ เม่ือไดพบเหน็ ท้ังความมหศั จรรย และความตระกาลตา ทีธ่ รรมชาติสรรคสรางข้นึ มา สมกับคำกลา ว ทวี่ า กยุ หลนิ คือสวรรคบ นพิภพ เปน เมืองทมี่ ีความสนใจจากนักทอ งเทีย่ วหลายๆคนทคี่ รง้ั หน่ึง ควรที่จะไดไปสัมผสั ถึงความงามแหง เมอื งกยุ หลนิ ผคู นชาวบา น ตา งใชช วี ิตอยา งมคี วามสขุ แบบไมต อ งความฟงุ เฟอ จากภายนอก สวนตัวดิฉันยงั ไมเคยเดินทางไปเทย่ี วทนี่ นั่ สกั ครง้ั แตจากท่ไี ด คนควา หาขอ มลู เรอื่ งนีแ้ ลว ทำใหรูสกึ อยากจะไปสักครง้ั หน่งึ ในชวี ิต อยากจะไปรบั อากาศท่บี รสิ ทุ ธิ์ และสรา งสรรคจนิ ตนาการ ตามภูเขาหนิ แปลกๆตา ความรสู กึ แปลกใหมท่ไี มเคยพบเจอมากอน

29 Elephant trunk hill guilin เขางวงชาง

30 เขางวงชาง เขางวงชาง เปน เขาท่ีถอื วาเปนสญั ลักษณข องเมืองกยุ หลิน ที่ใครไดมาที่กยุ หลินเปนตองมาเยย่ี มชมอยเู สมอ ภูเขาหนิ มีลกั ษณะคลายกบั งวงชางท่ีกำลงัดูดน้ำจากแมน้ำหลเี จยี ง ซง่ึ ถือวาเปน ความมหัศจรรย ของธรรมชาตทิ ไ่ี ดส รรคสรา งข้นึ โดยบรเิ วณรอบๆ ตา งก็ลอมรอบไปดวยตนไมนานาพรรณ และแมน ำ้หลเี จียงท่ี เปน แมน ้ำทสี่ วยทส่ี ุดและสำคญั ของชาวกุยหลนิ ตรงขา มกับเขางวงชางนี้กจ็ ะพบกับสวนทร่ี ม ร่ืน เปน สวนทีป่ ระดบั ตกแตง ตนไม และ ประติมากรรมรูปรางตา งๆผสมผสานเขา กบั ธรรมชาติไดอ ยางลงตวั

31 Ludi yan cave ถำ้ ขลุยออ

32 ถ้ำขลยุ ออ ถำๅ ขลุ຋ยอຌอ ถูกกล຋าวถึงมาตๅัง฽ตส຋ มยั ราชวงศถ งั ฽ลวຌ ทไีมาของชือไ ถำๅ ขลยุ຋ อຌอกใคอื บร฼ิ วณรอบโถำๅ นนัๅ ฼ตมใ เปดຌวยตຌนออຌ ฽ละชาวบาຌ นระ฽วกนๅนั เดตຌ ดั ตຌนออຌ ฼พืไอเปทำ฼ปน ขลยุ຋ ฼ปา ฽ลวຌ ม฼ี สยี งทีเไ พ฼ราะ จงึ เดຌตัๅงชืไอถๅำนีๅวา຋ ถำๅ ขลย຋ุ อຌอ ภาย฿นถๅำจะมีหนิ งอกหนิ ยอຌ ยลกั ษณะ฽ปลกโมากมาย ฾ดยจะมีการประดบั ฽สงเฟสีต຋างโ ฼พอไื ชว຋ ย฿หຌผ฼ูຌ ขาຌ ชมถๅำสามารถจินตนาการเดงຌ ຋ายขึๅน ฽ละภาย฿นถๅำยงั มีหຌอง฾ถงกวาຌ งโอยู຋หຌองหนงไึ ซไงึ หลายสบิ ปท฽ีไ ลวຌ ฼คยมีการจดั ฼ปน หຌอง฼สวย฽ด຋ขຌาราชการชัๅนสงู ทีมไ า฼ยอื นจากนานาประ฼ทศ อกี ทๅังมกี ารฉายวีดทิ ัศน ฽บบ ไ มิติ ฼กยไี วกับ฼รอืไ งราววฒั นธรรมความ฼ชือไ ถือวา຋ ฼ปนถำๅ ทีไช຋วย฼สริมสราຌ งจนิ ตนาการ฼ปน อย຋างดี

33 Silver pagada gloden pagada เจดยี เงนิ เจดยี ท อง

34 เจดียเงินเจดยี ท อง เจดียเ งนิ เจดยี ทอง ดา นซายมือจะเปน เจดียเงิน ดา นซา ยจะเปนเจดียทองความเปน มาของเจดยี ค นู ้คี อื เกิดเหตกุ ารณท่ีวางฮอ งกงโดนประเทศองั กฤษยึดครองอยแู ละในป ค.ศ. 1997 ฮองกงถกู สง คนื สปู ระเทศจีน จึงมีการสรา งเจดยี คูน ขี้ ึ้นเพื่อเปนการตอ นรับกลับคืนของฮอ งกง โดยฮองกงกบั กุยหลนิ เปน เมืองทอี่ ยใู กลๆ กนัเปรยี บเสมอื นเมืองพ่ี เมืองนอ ง ซง่ึ เจดยี คูน้ตี ง้ั อยูบนทะเลสาบซานหู เปน ทัศนียภาพทสี่ วยงามมาก ในยามกลางคืนกจ็ ะประดับแสงไฟใหเ ห็นสีเงนิ และทอง อยางชัดเจนถือวา เปนสถาปตยกรรมทางประวัตศิ าสตรทีส่ ำคัญอีกหน่งึ แหง ในกุยหลนิ

35 หมูบา นโบราณตาหยนู

36 หมูบ า นโบราณตาหยูน หมบู านโบราณตา หยูนเปนชุมชนเกา แก ทมี่ ีผูอาศยั อยใู นชุมชนแหง น้ีสวนใหญจะเปนผูส ูงอายุ และเดก็ ๆ มีการใชช ีวิตความเปนอยูท่เี รียบงาย บานที่ยังคงเปนบานทส่ี รางดวยไมท งั้ หลังคือเปน บานทอี่ ยใู นรปู แบบด้งั เดิม สว นบา นท่ีมกี ำแพงบานเปน อฐิ ปูน จะเปน บา นท่ีถูกสรางข้ึนมาใหม ถอื วาเปนหมบู านทม่ี เี สนหอีกแหง ท่ยี ังมีการเก็บรกั ษาส่งิ กอ สรางโบราณเอาไวเปนอยา งดี เพอ่ื ใหค นรุนหลังไดมาศกึ ษาเยย่ี มชมและอนรุ ักษตใหยังคงอยูชั่วลูกช่ัวหลานตอ ๆไป

37 บทความสงทา ย กยุ หลนิ เมอื งแหง สวรรคบ นพนื้ พภิ พ เปนคำกลา วเลา ขานกนั มาเปนเวลานาน จากการท่ีไดท ำหนังสือเลมนี้ ทำใหไ ดร ถู ึงเหตผุ ลท่วี า ทำไม กุย หลนิ ถงึ ไดค ำชมจากหลายๆ คนทั้งชาวจีนเองและคนทั่วโลกวา เปน ดนิ แดนทง่ี ดงามย่งิ นกั เพราะดว ยการเกดิ ปรากฏการณ ทางธรรมชาตซิ ง่ึ เปนเหตุที่ทำใหเมอื งกยุ หลนิ มีสิ่งมหศั จรรยทางธรรมชาตเิ กิดข้ึนอยา งมากมาย อีกทง้ั ยงั ชว ยในการดำรงชวี ติ และแหลง หาอาหาร ของชาวกุยหลนิ อกี ดวย ความสงบเงยี บของ เมอื งนีใ้ หค วามรูสกึ ของความสุขของคนพืน้ ถิ่น ทีม่ ีการใชช ีวติ อยางเรียบงา ยมีความสุขกับสิ่งท่ี มีอยูแ ละเก็บรักษาส่งิ เหลา นนั้ ไว ไมตอ งยดึ ติดกบั วตั ถนุ ยิ มในปจจุบนั สว นในเรือ่ งของแหลง ทอ งเทีย่ ว ถือวาเปนเมืองทีเ่ ตม็ ไปดว ยแหลง ทองเที่ยวทาง ธรรมชาตทิ ีม่ ากทีส่ ุดในโลกเลนกว็ าได ดวยความอดุ มสมบูรณแ ละมีภมู อิ ากาศท่เี ย็นสบาย ทำใหมีนักทองเท่ยี วจากทว่ั โลกตางกเ็ ลือกมาพกั ผอนรบั อากาศทบี่ รสิ ุทธ์ิกันท่นี ่ี การลอง เรอื ตามแมนำ้ หลเี จยี ง จะไดพบกับภูเขาหนิ ลกั ษณะแปลกๆ การชมภเู ขาหินนั้นเปน การ ไดสรางเสรมิ จนิ ตนาการของเราวา หินเหลานนั้ ทีเ่ ราเหน็ เปน รูปอะไรบาง อกี ท้งั ยังมีถำ้ ท่ีเปนแหลง ทอ งเที่ยวเชน กนั ทดี่ ังๆเลยกค็ อื ถ้ำขลุยออ และยังมีถำ้ อืน่ ๆอีกมากมาย แมน ำ้ หลีเจยี ง ถอื วาเปน แมนำ้ สายสำคัญอยางย่ิงของกุย หลนิ ทหี่ ลอ เล้ียงชวี ติ ชาวกยุ หลิน มาอยา งยาวนาน กุย หลินยังมีที่ทอ งเทย่ี วอกี เยอะมากทีห่ ลายๆคนอาจจะยงั ไมเคยมาเยือน

38สุดทา ยน้ี หลายๆคนอาจจะยังคงคิดวา กุยหลนิ ยังไมถ อื วา เปน สวรรคบ นดนิ โดยแทจริง เราไมสามารถทจ่ี ะรไู ดจริงๆวา ท่ีไหนทเ่ี ขากลา วขานกนั หรอื เพยี งแคอ านและดูผานตวั หนังสอื และรปู ภาพ วางดงามยง่ิ นกั ตราบใดทคี่ ุณยงั ไมเ คยได เดนิ ทางออกไปพิสจู นดวยตัวคณุ เองกุยหลนิ คอื สวรรคบ นดนิ ที่อยใู นใจฉัน แลวสวรรคบ นดินในใจคณุ คอื ที่ไหน? Supara .



40บรรณานกุ รมChina Highlights. 2551. “Guilin photography”. [ระบบออนไลน] .แหลง ท่มี า https://www.mercierzeng.com/photography-tours (29 พฤศจิกายน 2560).Guilin Offical Tourism. “About Guilin”. [ระบบออนไลน] .แหลงที่มา http://www.guilintourist.com/en_zxw/GLTravel/GLLY_ZXW_E/GLLY_ZXY_Thailand/ (29 พฤศจิกายน 2560).chinahighlights. 2550. “Guilin Festivals”. [ระบบออนไลน].แหลง ทม่ี า https://www.chinahighlights.com/festivals/guilin/ (2 ธันวาคม 2560).Variety BEC-TERO. 2558. “สวรรคบนดิน กยุ หลิน ประเทศจนี ”. [ระบบออนไลน] .แหลงที่มา https://www.youtube.com/watch?v=EF27lHWDMUY (30 พฤศจกิ ายน 2560).โอเชยี่ นสไมลท ัวร. 2553. “เมืองกุยหลนิ ”. [ระบบออนไลน] .แหลง ท่มี า http://www.oceansmile.com/China/Guilin.htm (30 พฤศจกิ ายน 2560).ทรปิ ดดี ี ดอทคอม. 2551. “ประวตั กิ ุย หลิน”. [ระบบออนไลน] .แหลงท่ีมา http://www.tripdeedee.com/traveldata/guilin/guilin01.php(1 ธนั วาคม 2560).





·ÇÔ ·ÈÑ ¹¡ØŒÂËÅԹ໚¹ àÍ¡áË‹§ãµŒËÅÒŒ ËÂÒ§«èÇÑ ·ÇÔ ·ÈÑ ¹Ê ÇÂÂÔè§¡ØÂŒ ËÅ¹Ô นางสาวศุภราภรณ ยอดแกว รหสั นกั ศกึ ษา 13580084 สาขาธรุ กจิ คณะเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook