ระบบสบื พนั ธ์ุ (Reproductive system) อ.จติ รา สขุ เจริญ
ระบบสบื พนั ธ:์ ุ หวั ขอ้ สอน การกาเนิดและพฒั นาอวยั วะสบื พนั ธ์ุ การกาหนดเพศ (Sex determination) การพฒั นาและเจริญเตบิ โตของอวยั วะในระบบสบื พนั ธ์ุ (Sex differentiation) Puberty ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศชาย ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศหญิง Menstrual cycle
วตั ถปุ ระสงค์ อธิบายการพฒั นาและเจริญเตบิ โตของระบบสบื พนั ธใ์ุ นระยะ เริ่มแรกได้ อธบิ ายโครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของอวยั วะในระบบสืบพนั ธไ์ุ ด้ อธิบายการเปลย่ี นแปลงของระบบสบื พนั ธเ์ุ พศหญิงในระหวา่ ง menstrual cycle ได้
ระบบประสาท (Hypothalamus, anterior pituitary gl.) ควบคมุ การทางาน ระบบสืบพนั ธ์ุ sex chromosome กาหนดเพศ zygote
อวยั วะสืบพนั ธ์ุ (Gonad) อณั ฑะ (testis) รงั ไข่ (ovary) หนา้ ที่ 1. สรา้ งเซลลส์ ืบพนั ธ์ุ (อสจุ ิ / ไข)่ 2. สรา้ งฮอรโ์ มนเพศ และ ลกั ษณะการเปลย่ี นแปลงทางเพศ
การพฒั นาและเจริญเตบิ โตของระบบสบื พนั ธใ์ุ นระยะเร่ิมแรก การกาหนดเพศ (sex determination) การพฒั นาและเจริญเติบโตของอวยั วะในระบบสืบพนั ธุ์ (sex differentiation)
การกาหนดเพศ (sex determination) Sex chromosome gonad ความสมบูรณ์ทางพนั ธุกรรม Autosome 22 คู่, sex chromosome 1 คู่ 44XX, 44XY การสร้างเซลลส์ ืบพนั ธุ์ = meiosis เซลลไ์ ข่ = 22X เซลลอ์ สุจิ = 22Y , 22X ไข่ + อสุจิ : 22X+22Y/22X Y chromosome testis determining factor : TDF
การพฒั นาและการเจรญิ ของ gonad Genital ridge (medulla + cortex) Germ cells และ supporting cells Germ cells ไข่ และ อสจุ ิ supporting cells Sertoli cells อณั ฑะ Granulosa cells รงั ไข่ Interstitial cells
Wk. 1-6 = indifferent gonad Wk. 6-8 Y chromosome TDF medulla อณั ฑะ seminiferous tubules + leydig cells seminiferous tubules spermatogonia + sertoli cells Spermatogonia ►▓ ► puberty sertoli cells anti-mullerian hormone leydig cells ฮอร์โมนเพศชาย
Wk 9-10 No AMH, No testosterone Cortex รังไข่ Germ cells = Oogonia การสร้างไข่ (oogenesis) เริ่มต้งั แต่ในครรภ์ (อายุ 3 เดือน) สมบูรณ์เมื่อเป็นผใู้ หญ่ เดือนท่ี 4 primary oocyte 1st meiosis เดือนที่ 5 primary oocyte 6-7 ลา้ นใบ หลงั คลอด = 2 ลา้ นใบ วยั เจริญพนั ธุ์ = 4 แสนใบ
การพฒั นาและเจรญิ เติบโตของอวยั วะสบื พนั ธภ์ุ ายใน Sex differentiation
ความผดิ ปกตเิ นื่องจากโครโมโซมเพศ 22 x + 22 o 44 xo 22 x + Turner’s syndrome / Ovarian agenesis) 22 xx 44 xxx (Superfemale) 22 y + 22 o 44 yo (ตาย) 22 y + 22 xx 44 xxy (Kinefelter’s syndrome/ Seminiferous tubuleagenesis)
ความผดิ ปกตเิ น่ืองจากโครโมโซมเพศ Turner Syndrome (XO) : ovarian agenesis รังไข่จะฝ่ อ อวยั วะเพศภายนอกจะเป็นเพศหญิง ผหู้ ญิงกลุ่มน้ีตวั เต้ียแคระ และเป็นหมนั สติปัญญาปกติ
Klinefelter Syndrome (XXY) มีอณั ฑะ แต่ seminiferous tubule ไม่เจริญเตม็ ที่จึง พบวา่ เป็นหมนั
Trisomy 21 (Down’s Syndrome) ความผดิ ปกติของโครโมโซมกาย (Autosomal chromosome)
PUBERTY
PUBERTY เปลี่ยนจากวยั เดก็ วยั เจริญพนั ธุ์ Hypothalamus GnRH กระตุน้ Anterior pituitary gland Gn (FSH,LH) กระตุน้ Gonad ฮอร์โมนเพศ เซลลเ์ พศ (การเจริญเติบโตของอวยั วะสืบพนั ธุ์ภายนอก, ลกั ษณะวยั รุ่น)
อณั ฑะและถุงหุม้ อณั ฑะจะมีขนาดใหญ่ข้ึน เร่ิมมีการสร้างตวั อสุจิ leydig cell testosterone เพิ่มข้ึน เพม่ิ ของกลา้ มเน้ือที่แขน ขา และลาตวั ไหล่จะกวา้ ง อวยั วะสืบพนั ธุ์ ภายนอกโตข้ึน มีเสียงหา้ ว มีขนข้ึนท่ีอวยั วะเพศ ที่รักแร้ และท่ีหนา้ อก
รังไข่จะมีขนาดโตข้ึน ถุงไข่ที่โตข้ึนจะสร้างฮอร์โมน estrogen และ progesterone มีการสะสมของไขมนั ที่บริเวณเตา้ นม หวั ไหล่ เชิงกราน และกน้ มีขนที่อวยั วะเพศและรักแร้จากอิทธิพลของฮอร์โมนแอนโดรเจนที่สร้างมา จากต่อมหมวกไตส่วนนอก เครื่องหมายของวยั แรกรุ่นในหญิง ไดแ้ ก่ การมีประจาเดือนเป็นคร้ังแรก เรียกวา่ \"menarche\"
ระบบสบื พนั ธเ์ ุ พศชาย Male reproductive system 1. การสรา้ งเชอ้ื สจุ ิ 2. การสรา้ งฮอรโ์ มนเพศชาย
โครงสรา้ งของอวยั วะในระบบสืบพนั ธเ์ุ พศชาย อวยั วะสบื พนั ธภ์ุ ายนอก และอวยั วะสืบพนั ธ์ุ ภายใน อวยั วะสืบพนั ธภ์ุ ายนอก ประกอบดว้ ยองคชาติ (Penis) และถงุ หมุ้ อณั ฑะ (Scrotum) อวยั วะสืบพนั ธภ์ุ ายในประกอบดว้ ย อณั ฑะ (Testes) 1 คู่ ทอ่ พกั เชอ้ื อสจุ ิ (Epididymis) ทอ่ นาเชื้ออสจุ ิ (Vas deferens) และ ตอ่ มที่ทาหนา้ ทส่ี รา้ งของเหลวและสารอาหาร ทอ่ ฉีดนา้ อสจุ ิ (Ejaculatory duct) สาหรบั เลยี้ งเชอื้ อสจุ ิ ไดแ้ ก่ - ตอ่ มเซมนิ ลั เวซิคลั (Seminal vesicle) - ตอ่ มลกู หมาก (Prostate gland) - ตอ่ มบลโู บยรู ิทลั (Bulbourethral gland)
ถงุ หมุ้ อณั ฑะ (Scrotum) - เป็ นถงุ ท่ีเกดิ ขนึ้ จากการยืดตวั ออกไปของผนงั หนา้ ทอ้ ง โดย การดนั ของอณั ฑะลงมา โดยอย่ตู า่ กวา่ Pubis symphysis แต่ หลงั Penis - ถกู คลมุ โดยผวิ หนงั ที่มเี ม็ดสี คอ่ นขา้ งสงู จึงมีสีคอ่ นขา้ งคลา้ ลึกตอ่ ผวิ หนงั ลงไป จะมกี ลา้ มเนอื้ เรียบปรากฎอย่เู รียกวา่ Dartos muscle เป็ นตวั ทีท่ าให้ ถงุ อณั ฑะแบ่งเป็ นสองถงุ และ เนอ่ื งจากกลา้ มเนอื้ ดงั กลา่ วมกี ารเชอื่ มตดิ กบั ผิวหนงั ฉะนน้ั เวลาหนา้ หนาว Dartos muscle จะหดตวั เพือ่ ปรบั อณุ หภมู ิ ใหแ้ กอ่ ณั ฑะ โดยดงึ ขนึ้ ไปอยใู่ กลต้ วั ทาใหเ้ กิดรอยย่น ที่ถงุ หมุ้ อณั ฑะ - **** ทงั้ นเี้ พราะอณุ หภมู ทิ เ่ี หมาะสมตอ่ การเจริญเติบโต และ การแบ่งตวั ของเซลลส์ รา้ งอสจุ ิ จะตา่ กว่าอณุ หภมู ิของ รา่ งกายประมาณ 2 – 3 องศาเซลเซียส
ท่อพกั เช้ืออสจุ ิ (Epididymis) เป็ นทอ่ ท่ีขดกนั อยเู่ ป็ นกอ้ นยาวและแคบ อยทู่ ี่สว่ นบนขา้ งหลงั ของอณั ฑะ ถา้ ขงึ ทอ่ นอี้ อกจะ ยาวประมาณ 21 ฟุต (5 เมตร) เป็ นทอ่ ทเ่ี ป็ นทีพ่ กั เชอ้ื อสจุ ิที่ผา่ นมาจาก Seminiferous tubule ท่อนาเช้ืออสจุ ิ (Vas deferens) เป็ นทอ่ ท่ตี อ่ จาก Epididymis เป็ น Excretory duct ของอณั ฑะ ทอดจากอณั ฑะไปถึงตอ่ ม ลกู หมาก ซึ่งอยขู่ า้ งหนา้ สว่ น Bladder neck ของกระเพาะปัสสาวะ บริเวณตรงนจี้ ะ บรรจบกบั ทอ่ ซึ่งมาจาก Seminal vesicle จึงเปลย่ี นชอ่ื ใหมเ่ รียกวา่ Ejaculatory duct
ต่อมเซมินลั เวซิคลั (Seminal vesicle) มีลกั ษณะเป็ นถงุ 2 ถงุ ตงั้ อยรู่ ะหวา่ งกระเพาะปัสสาวะและลาไสต้ รง มีรปู รา่ งเหมือนปิ รามดิ กน้ ถงุ กวา้ งและชไี้ ปขา้ งหลงั เฉียงออกทางดา้ นขา้ ง ส่วนขา้ งหนา้ นน้ั แคบและตดิ ตอ่ ออกไปสู่ Ejaculatory duct มหี นา้ ที่รับหรือเก็บนา้ อสจุ ิไว้ และขบั สารหลงั่ ของมนั ออกมาผสมกบั ตวั อสจุ ิ ทาให้ อสจุ เิ คลอ่ื นไหวได้ ท่อฉีดน้าอสจุ ิ (Ejaculatory ducts) มอี ยู่ 2 หลอด เป็ นที่รวมของหลอดจาก Seminal vesicle และ Vas deferens เหนอื ดา้ นฐานของ ตอ่ มลกู หมาก ทอดลงมา 2 ขา้ ง แทรกผา่ นระหวา่ งเนอ้ื ตอ่ มลกู หมาก แลว้ ไปเปิ ดเขา้ ในหลอด ปัสสาวะ อณั ฑะ (Testes) ลกู อณั ฑะเป็ นตอ่ ม (Glandular organ) มอี ยู่ 2 ตอ่ ม มีรปู รา่ งคลา้ ยรปู ไข่ กวา้ ง ยาว ประมาณ 2 X 4 ซม. มนี า้ หนกั ประมาณ 50 กรัม ในขณะที่ทารกอย่ใู นครรภ์ ลกู อณั ฑะจะอยใู่ นช่องทอ้ ง ขา้ งหนา้ และใตไ้ ต แลว้ คอ่ ยๆ เคลอื่ นตวั ลงมาตามขาหนบี (Inquinal canal) ทงั้ สองขา้ งลงสถู่ งุ หมุ้ อณั ฑะ
อณั ฑะ (testis) ลกู อณั ฑะเป็ นตอ่ ม (Glandular organ) มอี ยู่ 2 ตอ่ ม มรี ปู ร่างคลา้ ยรปู ไข่ กวา้ ง ยาว ประมาณ 2 X 4 ซม. มนี า้ หนกั ประมาณ 50 กรมั ในขณะทที่ ารกอยใู่ นครรภ์ ลกู อณั ฑะจะอยใู่ นชอ่ งทอ้ งขา้ งหนา้ และใตไ้ ต แลว้ คอ่ ยๆ เคลอ่ื นตวั ลงมาตามขาหนบี (Inquinal canal) ทง้ั สองขา้ งลงสถู่ งุ หมุ้ อณั ฑะ หนา้ ที่ของอณั ฑะ คือ เป็ นท่สี รา้ งอสจุ ิ และอีกสว่ นหนง่ึ ทาหนา้ ท่ีเป็ นตอ่ มไรท้ อ่ สรา้ ง ฮอรโ์ มนเพศชาย Testosterone ซ่ึงเป็ นฮอรโ์ มนที่ควบคมุ ลกั ษณะความเป็ นชาย โดย จะเร่ิมทางานเมอ่ื ผชู้ ายเขา้ สวู่ ยั รนุ่ อณั ฑะประกอบดว้ ย Seminiferous tubule 80% และอีก 20% ไดแ้ ก่ เนอ้ื เยื่อเก่ียวพนั และ Leydig cell ซึ่งอยนู่ อกทอ่ บนเยอื่ ฐานเซลล์ (Basement membrane) ของทอ่ จะ เรียงรายไปดว้ ย Spermatogonia และ Sertoli cells
หน้าทขี่ อง sertoli cell เป็นเซลลพ์ เ่ี ล้ียงช่วยเตรียมอาหารไวเ้ ล้ียงเซลลต์ น้ กาเนิดของเช้ืออสุจิ (germ cell) สร้าง Anti-Mullerian hormone (AMH) สร้างและหลงั่ โปรตีนสาคญั ตอ่ ขบวนการสร้างเช้ืออสุจิ เช่น ceruloplasmin และ transferrin ช่วยเปล่ียนแปลงแอนโดรเจนใหเ้ ป็น estrogen ซ่ึงมีผลตอ่ ขบวนการสร้างเช้ือ อสุจิ สร้าง androgen-binding protein (ABP) เพ่อื จบั กบั แอนโดรเจน สร้างและหลง่ั inhibin เพื่อมาควบคุมการหลง่ั FSH จบั กิน (phagocytosis) germ cells ที่ตายแลว้
Leydig cell แทรกอยรู่ ะหวา่ ง seminiferous tubule ตวั รับสญั ญาณสาหรับ LH (LH receptor) ทาหนา้ ท่ีหลง่ั testosterone ซ่ึงมีผลต่อการสร้างเช้ืออสุจิและ การพฒั นาของอวยั วะสืบพนั ธุ์เพศชาย Leydig cell
การสร้างเซลล์สืบพนั ธ์ุเพศชาย (Spermatogenesis) ต้งั แต่อายุ 13 ปี ตลอดชีวติ ในท่อ seminiferous tubule
หน้าท่ขี องฮอร์โมนเพศชาย การเปลี่ยนแปลงในร่างกายใหม้ ีลกั ษณะเป็นเพศชาย ระยะแรกเกิดไปจนเริ่มเขา้ วยั รุ่นจะไม่มีการสร้าง อายปุ ระมาณ 11 - 13 ปี จะมีการสร้าง testosterone อยา่ งมาก ระดบั ของ testosterone เริ่มลดลงเมื่อยา่ งเขา้ อายุ 40 ปี และเหลือ เพยี ง 1/5 ของระดบั สูงสุดเมื่ออายุ 80 ปี เดือนที่ 2 ในครรภ์ testosterone เจริญเติบโตของอวยั วะเพศ ภายนอกของเพศชาย ทาใหอ้ ณั ฑะเคล่ือนจากภายในช่องทอ้ งลงสู่ถุงอณั ฑะ
ความผดิ ปกตขิ องระบบสืบพนั ธ์ุเพศชาย 1. ภาวะลูกอณั ฑะไม่ลงถุง (Cryptorchidism) อณั ฑะคา้ งอยใู่ นช่องทอ้ งซ่ึงมีอุณหภูมิสูง (37 oC) ไม่สามารถสร้างเช้ืออสุจิได้ แกไ้ ขไดโ้ ดยการให้ Gn หรือการผา่ ตดั ซ่ึงควรทาก่อนเขา้ สู่วยั หนุ่ม เพราะถา้ ไมไ่ ดร้ ับการแกไ้ ขทา ใหเ้ ป็นหมนั ได้ 2. อณั ฑะทางานน้อย (Hypogonadism) hypothalamus ต่อมใตส้ มอง หรือท่ีอณั ฑะ * Kallmann’s syndrome อณั ฑะไม่ทางานเนื่องจากขาด Gn พบในเดก็ ที่กาลงั เขา้ สู่วยั หนุ่มแต่ไม่มี secondary sexual characteristics การทางานของระบบสืบพนั ธุ์ผดิ ปกติเนื่องจากคนไขข้ าดฮอร์โมนจากต่อมใตส้ มอง หรือเป็นผล เน่ืองจากเน้ืองอกในต่อมใตส้ มอง ผปู้ ่ วยมีการเจริญเติบโตและเขา้ สู่วยั หนุ่มชา้ ต่อม accessory sex glands จะฝ่อ การช่วยเหลือดูตามอาการและความรุนแรงของความผดิ ปกติ โดยการใหฮ้ อร์โมนหรือผา่ ตดั เป็นตน้ 3. การเข้าสู่วยั เจริญพนั ธ์ุก่อนกาหนด (Precocious puberty) การหลง่ั แอนโดรเจนมากเกินไป เพราะมีเน้ืองอกท่ีต่อมหมวกไตหรืออณั ฑะ
ระบบสืบพนั ธุเ์ พศหญงิ
เพศหญงิ หนา้ ที่ 1. สรา้ งเซลลส์ บื พนั ธุ์ = ไข่ 2. หลงั ่ ฮอรโ์ มนเพศ (estrogen, progesterone) - ไขเ่ จริญเติบโต และ ovulation - การเจริญพนั ธุ์
Female reproductive system อวยั วะสบื พนั ธภ์ ายใน ระบบสบื พนั ธ์ุ เพศหญิงประกอบดว้ ย รงั ไข่ 1 คู่ ทอ่ นาไข่ (Oviduct) 2 ขา้ ง มดลกู (Uterus) ปากมดลกู (Cervix) ชอ่ งคลอด (Vagina) และตอ่ มนา้ นม (Mammary gland) อวยั วะสืบพนั ธภ์ุ ายนอก ไดแ้ ก่ แคมเล็ก (Labia minora) แคมใหญ่ (Labia majora) และคลิทอริส (Clitoris)
อวยั วะสบื พนั ธภ์ุ ายในของเพศหญิง
อวยั วะสบื พนั ธภ์ุ ายนอกของเพศหญิง 1. Mons pubis เป็ นบริเวณที่อยเู่ หนอื หัวเหนา่ สว่ นนอกเป็ นผวิ หนงั มีตอ่ มนา้ มนั สว่ นใต้ ผวิ หนงั เป็ นไขมนั เมอ่ื เร่ิมเขา้ สวู่ ยั เจริญพนั ธจ์ุ ะเร่ิมมขี นข้ึนบริเวณน้ี 2. แคมใหญ่ (Labia majora) เป็ นกลบี ของผวิ หนงั มลี กั ษณะยาว ซ่ึงขา้ งหนา้ ตดิ ตอ่ กบั Mons pubis แลว้ ทอด ไปขา้ งหลงั บริเวณฝี เย็บ หา่ งจากทวารหนงั ประมาณ 1 นวิ้ มอี ยู่ 2 กลบี 3. แคมเล็ก (Labia minora) เป็ นกลบี เล็กสีแดง เล็กกวา่ Labia majora อยขู่ นานกบั ดา้ นใน ของ Labia majora ดา้ นบนจรดกนั ท่ี คลิตอริส ดา้ นลา่ งจรดกนั เรียกวา่ Fourchette และ หายลงไปใน Labia majora ขนาดของแคมเล็กแตกตา่ งกนั ตง้ั แตเ่ ล็กจนใหญ่ สามารถมองเห็นจากภายนอก
อวยั วะสบื พนั ธภ์ุ ายนอกของเพศหญิง 4. คลติ อรสิ (Clitoris) เป็ นอวยั วะเล็ก ๆ ท่ียื่นออกมามขี นาดยาว 2 – 3 เซนตเิ มตร อยตู่ อนบน ของแคมเล็กมลี กั ษณะเป็ นกอ้ นเนอ้ื ที่ยดื หดได้ มหี ลอดเลือดมาเลี้ยงมาก จะไวตอ่ การ กระตนุ้ 5. Vestibule เป็ นบริเวณตงั้ แต่ คลิตอริส จนถึง Fourchette และอยนู่ อก Hymen 6. Bartholin gland หรอื Greater vestibular gland เป็ นตอ่ มที่สาคญั มหี นา้ ที่ขบั เมอื กสีเหลืองขน้ ๆ ออกมา ชว่ ยหลอ่ ลื่นชอ่ ง คลอดระหวา่ งรว่ มเพศ ขนาดของตอ่ มเทา่ เม็ดถวั่ เขยี ว อยทู่ ่ีสว่ นลา่ งของ Labia majora และเปิ ดเขา้ Vestibule ทางดา้ นขา้ งของปากชอ่ งคลอด ตอ่ มนมี้ กั เป็ นที่เกิดของการตดิ เชื้อ โดยเฉพาะเชอ้ื หนองใน อาจจะเกิดฝี หรือทอ่ ของตอ่ มตนั จนทาใหเ้ กิด Cyst ได้
อวยั วะสบื พนั ธภ์ุ ายนอกของเพศหญิง 7. Paraurethral gland เป็ นชอ่ งเปิ ดเล็กๆ 2 ชอ่ ง อยดู่ า้ นขา้ งของท่อปัสสาวะ เปรียบเทา่ กบั ตอ่ มลกู หมากในเพศ ชาย 8. เยอ่ื พรหมจารยี ์ (Hymen) เป็ นเนอื้ เย่ือทีย่ ืดหดได้ สว่ นมากจะปิ ดปากชอ่ งคลอดเกอื บหมด เวน้ ชอ่ งเปิ ดเล็กๆ ไวต้ รง กลางในหญิงพรหมจรรย์ ภายหลงั รว่ มเพศเยื่อพรหมจารียจ์ ะขาด เมอื่ แผลหายจะมองเห็น รอยขาด ภายหลงั คลอดบตุ ร จะฉีกขาดเป็ นเศษเนอื้ เล็กๆ ตดิ อยู่ มบี างรายที่เยื่อ พรหมจารียป์ ิ ดชอ่ งคลอดไวห้ มด (Imperforate hymen) ทาใหป้ ระจาเดอื นไหลออกมา ภายนอกไมไ่ ด้ ตอ้ งผา่ ตดั 9. ฝี เยบ็ (Perineum) เป็ นบริเวณตงั้ แต่ Fourchette ลงมาจนถึงทวารหนกั มคี ณุ สมบตั ยิ ืดหดไดม้ าก โดยเฉพาะ เวลาคลอดบตุ ร มหี นา้ ทีพ่ ยงุ อวยั วะภายในองุ้ เชงิ กราน มใิ หเ้ คลื่อนออกมาภายนอก ฝี เย็บ ประกอบดว้ ย Perineal body กลา้ มเนอ้ื Levator ani กลา้ มเนอ้ื หรู ดู ทวารหนกั และ Transverse perinea
การสรา้ งและหลงั ่ ฮอรโ์ มน 1. estrogen 2. progesterone Estrogen estradiol, estrone, estriol สเตอรอยดฮ์ อรโ์ มน สรา้ งจาก granulosa cells + corpus luteum ตอ่ มหมวกไตสว่ นนอก เนอื้ เย่ือไขมนั ตบั
หนา้ ท่ีของ estrogen กระตนุ้ การพฒั นาของรงั ไข่ + การ กระตนุ้ Epiphyseal plate ทาใหต้ วั สงู ขนึ้ เจริญเตบิ โตของถงุ ไขอ่ อ่ น มากในวยั แรกร่นุ การปิ ดของ Epiphyseal plate หลงั วยั แรกร่นุ กระตนุ้ การเจริญเตบิ โตของกลา้ มเนอ้ื เรียบ + เย่ือบขุ องระบบทางเดนิ ป้ องกนั การเกดิ Osteoporosis สืบพนั ธ์ุ กระตนุ้ ใหม้ กี ารคงั่ ของนา้ ในร่างกาย กระตนุ้ การเจริญเตบิ โตของอวยั วะ สบื พนั ธภ์ุ ายนอก กระตนุ้ การหลงั่ ของฮอรโ์ มนโพรแลคตนิ แตย่ บั ยง้ั การออกฤทธิ์ของฮอรโ์ มนโพร กระตนุ้ การเจริญเตบิ โตของเตา้ นม แลคตนิ ในการหลงั่ นา้ นม กระตนุ้ ใหม้ กี ารพฒั นาทรวดทรงของ มผี ลตอ่ เสน้ เลือด ถา้ ขาด Hot ร่างกายเป็ นแบบเพศ flashes Antiacne effect กระตนุ้ การพฒั นาของขนท่ีอวยั วะ Negative feedback GN ตอ่ มใตส้ มอง สว่ นหนา้ สบื พนั ธใ์ุ หเ้ ป็ นแบบเพศหญิง
Progesterone สเตอรอยดฮ์ อรโ์ มน สรา้ งจาก corpus luteum ตอ่ มหมวกไตสว่ นนอก หญิงตง้ั ครรภ์ (4 ด.) placenta หนา้ ท่ี 1. เตรียมเยอื่ บุมดลกู สาหรบั การฝังตวั ของ zygote และลดการหดตวั ของ กลา้ มเน้ ือมดลกู 2. เซลลป์ ากมดลกู ใหข้ บั น้าเมือกท่มี ีความเหนียวขน้ 3. กระตนุ้ การเจรญิ เตบิ โตของเตา้ นม โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การพฒั นาของตอ่ มน้านมซึ่ง ในระยะต้งั ครรภจ์ ะทางานรว่ มกบั ฮอรโ์ มนจากรกและฮอรโ์ มนโพรแลคตนิ 4. ยบั ยง้ั อิทธพิ ลของฮอรโ์ มนโพรแลคตนิ 5. ทาใหอ้ ุณหภมู ิของรา่ งกายสูงข้ ึน 0.5 oC 6. Negative feedback GN ฮยั โปธาลามสั ตอ่ มใตส้ มองสว่ นหนา้
ความผิดปกตขิ องระบบสบื พนั ธุเ์ พศหญงิ 1. Amenorrhea (estrogen ตา่ , hypothyroidism) 1.1 Primary amenorrhea - panhypopituitarism 1.2 Secondary amenorrhea - pregnancy, เครียด, วิตกกงั วล 2. Hypogonadism ไมม่ รี งั ไขแ่ ตก่ าเนดิ , รงั ไขไ่ มท่ างาน Female eunucoidism no 2nd sex characteristics 3. Hypergonadism รงั ไขส่ รา้ งฮอรโ์ มนนอ้ ย, เนอ้ื งอกรงั ไข่
รอบเดือน (Menstrual cycle) มีการเปลยี่ นแปลงเป็ นวงจร ประมาณ 28 วนั รงั ไข่ มดลกู และอวยั วะสืบพนั ธุอ์ ่ืนๆ การออกฤทธิ์รว่ มระหว่างฮอรโ์ มนจากไฮโปธาลามสั + ตอ่ มใตส้ มองส่วนหนา้ + รงั ไข่
การเปล่ียนแปลงท่ีรงั ไข่ (Ovarian cycle) Folliculogenesis การเจริญของ follicle 1. Follicular phase 14 วนั แรกของรอบเดือน 2. Luteal phase 14 วนั หลงั เร่มิ จากการตกไข่ มีระดู
การเปลีย่ นแปลงท่ีมดลกู 1. ระยะการแบ่งตวั ของผนัง มดลกู (Proliferative phase) 2. ระยะการหลงั่ สาร (Secretory phase) 3. Menses
Menstrual cycle
วยั หมดประจาเดือน (Menopause) ความปกตขิ องรอบเดือนจะมีนอ้ ย อาจจะไม่มีการตกไข่เกิดข้ ึนเลย เอสโตรเจนไม่เพียงพอใน การทาใหเ้ กิด LH surge ความลม้ เหวในการทางานของรงั ไข่ ถุงไขม่ ีจานวนลดลงและถุง ไข่ท่เี หลอื อยูม่ ีการตอบสนองนอ้ ยลง FSH, LH หลงั ่ ออกมาตามปกติ แต่ estrogen
THE END
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: