Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทฤษฏีการติดต่อสื่อสาร_นำเสนอ

ทฤษฏีการติดต่อสื่อสาร_นำเสนอ

Published by pattarawanw, 2019-09-27 22:06:27

Description: ทฤษฏีการติดต่อสื่อสาร_นำเสนอ

Search

Read the Text Version

ทฤษฎขี องการส่อื สาร (Theory of communication)

จัดทาโดย 008 ชาญ งามสริ พิ ร 010 นันท์ธีมา ศรีคณั ฑะ 024 ภทั ราวรรณ วรรณะบาเพญ็ 009 ธัญพิมล มสี ัจจานนท์ 023 กุลดนัย ทว่ มสขุ M.Ed’35

“Communication” แปลเปน็ ภาษาไทย ว่า “การสอื่ สาร” หรอื “การติดต่อ” มาจากภาษาละตนิ วา่ “COMMUNIS” วัตถุประสงค์ของการสอื่ สาร หมายถึง กจิ กรรม ทีม่ ่งุ สร้างความรว่ มกนั หรอื ความคล้ายคลงึ กนั ใหเ้ กดิ ขน้ึ ระหว่างบคุ คลทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ถา้ มีความเขา้ ใจความหมายท่ี ตรงกัน

การใหค้ วามหมายของการสอ่ื สาร วลิ เบอร์ ชแรมม์ ชารล์ อี ออสกดุ วอรเ์ รน ดับเบลิ ยู วีเวอร์ ยอรจ์ เอ มิลเลอร์ (Wilber Schramm) (Charl E.Osgood) (Worren W. Weaver) (Goorge A. miller) ใหค้ วามหมายวา่ การ ใหค้ วามหมายโดยทว่ั ไปว่า กล่าววา่ การสอ่ื สารมี ใหค้ วามหมายว่า การ สอ่ื สาร คือการมคี วาม การส่ือสาร เกิดข้ึนเมือ่ ฝ่าย ความหมายกวา้ ง ส่ือสารเปน็ การถา่ ยทอด เข้าใจร่วมกัน ตอ่ หน่ึง คือผสู้ ่งสาร มีอิทธพิ ล ครอบคลมุ ถงึ กระบวนการ ขา่ วสารจากทีห่ นงึ่ ไปยงั อกี เคร่อื งหมายท่ีแสดงข่าวสาร ตอ่ อีกฝ่ายหน่งึ คอื ผรู้ ับสาร ทุกอยา่ ง ทีจ่ ิตใจของคนๆ ทีห่ น่ึง โดยใชส้ ัญลักษณ์ตา่ งๆ ซึ่ง หนึ่ง อาจมีผลต่อจติ ใจของ ถกู ส่งผ่านสื่อท่ีเช่อื มต่อ อกี คนหนง่ึ ไม่ใชเ่ พยี งการ สองฝ่าย พูดและการเขยี นเท่านั้น แต่ รวมถึง ดนตรี ภาพ การ แสดง และพฤตกิ รรมอ่ืนๆ ของมนษุ ย์

การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร เปน็ ความหมายของมนษุ ย์ท่ี ตอ้ งการถ่ายทอด (Transmit) เพ่ือแลกเปลย่ี น (Share) ข่าวสาร (Information) ความคิด (Idea) และ ทัศนคติ (Attitudes) ระหว่างกัน การตดิ ตอ่ ส่อื สาร คือ การส่งข่าวสาร ขอ้ มลู แนวความคดิ ความร้สู ึก ตลอดจนทัศนคติจากบคุ คลหน่งึ ไป ยงั บุคคลหน่ึง โดยการพูด เขียน และสัญลกั ษณต์ า่ งๆ สรุป การตดิ ตอ่ ส่อื สาร หมายถงึ กระบวนการ ถ่ายทอดข่าวสารจากบคุ คลหน่ึงไปยงั อีกบคุ คลหน่ึง หรือ จากกลุม่ หน่ึงไปยงั อกี กลมุ่ หนงึ่ ซงึ่ การถา่ ยทอดอาจใช้ภาษา พดู ภาษาเขยี น หรอื สญั ลกั ษณ์อื่น ๆ ทีส่ ามารถทาใหเ้ ขา้ ใจ ขา่ วสารไดต้ รงกัน

ทฤษฎที ่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การตดิ ตอ่ สอื่ สาร ทฤษฎี รูปแบบทฤษฎี ความสอดคลอ้ ง ทฤษฎที างจติ วทิ ยา พฤตกิ รรมการติดตอ่ สอื่ สารคอื คณุ ลกั ษณะ 1. ทฤษฎีเก่ียวกบั สง่ิ เร้า การ (Psychological Theory) เฉพาะของอวยั วะตา่ ง ๆ ของแตล่ ะบุคคล เกดิ ขึน้ ตอบสนอง ทฤษฎเี ก่ียวกบั แรง ระหว่างเวลาที่บุคคลเปดิ รบั ข่าวสารกับเวลาที่ กระตุน้ (motivation) บคุ คลน้ันตอบรบั ขา่ วสารน้ันอันเป็นพื้นฐาน สาคัญของการตดิ ตอ่ ส่ือสารเพ่ือโน้มนา้ วใจ 2. ความต้องการทางร่างกายของ (persuasion) ในกระบวนการตดิ ตอ่ สื่อสาร มนษุ ย์ (physical needs) ระหว่างบุคคล 3. ความต้องการทางดา้ นจิตใจ (psychological needs)

ทฤษฎีทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร ทฤษฎี รปู แบบทฤษฎี ความสอดคลอ้ ง ทฤษฎที างสงั คม แนวคิดน้ีมีพนื้ ฐานมาจากทฤษฎแี ละการวจิ ยั วิลเลยี ม ชทู ซ์ (William Schutz, 1966 “ (Socialogical Theory) เกีย่ วกบั กระบวนการปฏิสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบรรดา 102 - 105) นกั จติ วทิ ยาอธบิ ายวา่ ทมี่ นุษย์ สญั ลกั ษณต์ ่าง ๆ (Symbolic interaction) ใน ตอ้ งมกี ารตดิ ตอ่ ส่อื สารนั้นก็เพือ่ สนอง สังคม ทฤษฎนี ถ้ี ือวา่ พฤติกรรมตา่ ง ๆ ของ ความต้องการทางสงั คมที่สาคญั 3 ประการ มนษุ ยท์ ีเ่ กดิ ขนึ้ ในสังคมเปน็ ผลมาจากการมี คือ ปฏิกริ ยิ าระหว่างกนั และกันของการตดิ ตอ่ สื่อสาร 1. การเปน็ สว่ นหนึ่งของสงั คม(inclusion) ระหวา่ งมนษุ ย์ 2. ความตอ้ งการการควบคมุ (control) 3. ความต้องการความรกั (affection)

ทฤษฎขี องการสอ่ื สาร (Theory of communication) ทฤษฎี รปู แบบทฤษฎี ความสอดคลอ้ ง ทฤษฎกี ารส่อื สารมวลชน ศาสตร์ใหมใ่ นตัวของมนั เองที่เรยี กว่า การ แนวปรัชญาวิทยาศาสตร์ เรยี กว่า (Mass Communication T ส่ือสารมวลชน (mass communication study ทฤษฎกี ารส่อื สารมวลชน (Mass Co heory) ) มงุ่ วจิ ัยผลของสอ่ื มวลชนท่ีมตี ่อการเมอื ง mmunication Theory) ซึง่ จะเหน็ ได้ สงั คม และวัฒนธรรม ชดั จากผลงานของวลิ เบอร์ ชรามม์ เมลวิน เดอเฟอร์ และเดนิส แมคเควล

ทฤษฎีของการสอื่ สาร (Theory of communication) ทฤษฎี ความสอดคลอ้ ง การสือ่ สารระหวา่ งบคุ คล ฮเดอร์ นวิ คอมบ์ เฟสตงิ เกอร์ และออสกูด (Heider-Ne (Interpersonal Communication) wcomb-Festiger-Osgood) ทฤษฎีระบบ วเี นอร์ แชนนอน และวีเวอร์ (Wiener – Shannon – We (Systems Theories) aver) การสือ่ สารของมนุษย์ เบอรโ์ ล (Berlo) (Human Communication)

องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร







ความสาคญั ของการสอ่ื สาร การสอ่ื สาร เปน็ กระบวนการ ปกติวิสัยของคนทุกคน และ มีความเกย่ี วข้องไปถึงบคุ คลอน่ื ตลอดจนถึงสงั คมที่แตล่ ะคน เกีย่ วขอ้ งอยู่ ไมว่ ่าจะทาสิ่งใด ล้วนต้องอาศยั การสอ่ื สารเปน็ เครอ่ื งมือ ช่วยให้บรรลจุ ุดประสงค์ทงั้ สน้ิ จะเห็นได้จากการที่ คนพยายาม คิดค้นและพัฒนาวธิ กี ารสื่อสารมาตั้งแต่สมัยโบราณ ท้ังภาษาพูด ภาษาเขยี น ตลอดจนเครอื่ งมอื หรอื เทคนคิ วธิ กี ารตา่ ง ๆ 1. ด้านชวี ติ ประจาวนั 2. ดา้ นสังคม 3. ดา้ นธรุ กจิ อตุ สาหกรรม 4. ดา้ นการเมอื งการปกครอง

การตดิ ตอ่ ส่อื สารมีความสาคญั และประโยชนใ์ นการบริหารงาน ทาใหบ้ ุคลากรทราบนโยบาย พันธกจิ วสิ ัยทศั น์ วตั ถุประสงค์และมาตรฐานของ 1 สถานศึกษา เพราะผบู้ รหิ ารตอ้ งถา่ ยทอดส่ิงเหลา่ นใ้ี หบ้ คุ ลากรเขา้ ใจ เพอ่ื ให้การ บริหารบรรลุเป้าหมาย 2 ทาใหบ้ คุ ลากรทราบบทบาทและหนา้ ทข่ี องตน โดยผบู้ รหิ ารจะต้อง มอบหมายงานใหช้ ดั เจน 3 ผู้บรหิ ารจะต้องสอนและแนะนาวิธกี ารทางานให้บุคลากรแตล่ ะคนเขา้ ใจการ ปฏบิ ัติงานในหนา้ ท่ขี องตน 4 ช่วยเสรมิ สร้างขวัญและกาลงั ใจในการปฏิบตั ิงาน โดยการยกย่องชมเชย เผยแพร่ผลการปฏบิ ัติงาน

การตดิ ตอ่ ส่อื สารมีความสาคญั และประโยชน์ในการบรหิ ารงาน ช่วยให้ผู้บริหารไดข้ อ้ มลู ป้อนกลับเกีย่ วกับการปฏิบตั งิ านของ 5 ผ้ใู ต้บงั คับบัญชา ทั้งในส่วนท่ีกา้ วหนา้ และเปน็ ปญั หา ทาใหน้ ามาปรบั ปรุง การทางานของตน 6 ช่วยให้เกิดความรว่ มมอื รว่ มใจกบั ชมุ ชนในการจัดการศึกษา 7 สรา้ งบรรยากาศแห่งการอบอนุ่ เปน็ มติ ร และเปน็ กนั เอง เกดิ ความร่วมมอื รว่ มใจในการปฏบิ ัตงิ าน 8 ทาใหบ้ คุ ลากรในระดบั เดยี วกันได้แลกเปลี่ยนความคดิ เห็นในการทางานของ แต่ละคนหรือแตล่ ะฝ่าย ทาใหท้ ราบวธิ กี ารทางานและปญั หาของกนั และกัน

การตดิ ต่อส่อื สารมีความสาคัญและประโยชนใ์ นการบรหิ ารงาน 9 ทาใหบ้ ุคลากรยึดเป้าหมายของสถานศึกษาเป็นหลักในการทางาน 10 สง่ เสริมกระบวนการทางานเปน็ ทมี 11 ประหยดั ทรัพยากรในการบรหิ าร

สรุป ทฤษฎขี องการสอื่ สาร (Theory of communication) เราอาจจาแนกทฤษฎีการสื่อสารออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ (1) ทฤษฎีการสื่อสารแนวปฏิบตั ิ ที่พฒั นามาจากทฤษฎเี พอื่ การสื่อสาร (2) ทฤษฎีการสอ่ื สารแนวปรัชญาวทิ ยาศาสตร์ ทพ่ี ฒั นามาจากทฤษฎีของ การสอื่ สาร และ (3) ทฤษฎกี ารส่ือสารแนววพิ ากษ์ ที่พฒั นามาจากทฤษฎเี กี่ยวกับการ สื่อสาร

บรรณานุกรม ทฤษฎสี อ่ื สาร. (2555). เข้าถงึ ไดจ้ าก https://www.gotoknow.org/posts/491949%2520 (วนั ที่คน้ ขอ้ มลู : 15 กันยายน 2562) ทฤษฎสี อ่ื สารและการเรยี นการสอน. (2543). เข้าถงึ ได้จากhttps://www.baanjomyut.com/libr ary/communication theory/03_5.html (วันทีค่ น้ ข้อมูล : 15 กันยายน 2562) หลักและทฤษฎกี ารสอ่ื สาร. (2554). เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://snamiki.wordpress.com/2011/09/ 24/commart (วันท่ีคน้ ข้อมูล : 14 กนั ยายน 2562) ทฤษฎกี ารสอ่ื สาร. (2554). เข้าถงึ ไดจ้ าก https://pirun.ku.ac.th/~agrpct/envelop/com%2 0theory.doc (วันที่ค้นข้อมลู : 14 กนั ยายน 2562) ทฤษฎกี ารสอ่ื สาร. (2554) เข้าถงึ ไดจ้ าก http://elearning.psru.ac.th/courses/39/Commu nication%20Theory_Three.pdf (วนั ทค่ี น้ ข้อมลู : 14 กันยายน 2562) ทฤษฎกี ารสอื่ สาร. (2562). เข้าถงึ ไดจ้ าก https://www.baanjomyut.com/library/communi cation_theory/index.html (วันท่คี ้นข้อมูล : 21 กันยายน 2562)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook