ใบงานการปฏิบัติงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู นาย ศิรัสฐิพงศ์ ต๊อดแก้ว

ใบงานการปฏิบัตงิ าน การฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครู ชดุ วิชา″การฝึกปฏิบัติวชิ าชพี ครรู ะหวา่ งเรยี น 1 (Practicum 1) ″ ชอื่ นาย ศริ ัสฐพิ งศ์ ตอ๊ ดแก้ว รหสั ประจาตวั นกั ศกึ ษา 6412106030 สาขาคณติ ศาสตร์ ฝึกที่โรงเรียน วัดคลองมะเกลอื ตาบล ศรภี ริ มย์ อาเภอ พรหมพิราม จังหวัด พิษณุโลก

คานา รายงานเล่มน้ีจดั ทาขึ้นเพื่อเปน็ ส่วนหน่งึ ของรายวิชา การฝึกปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ครรู ะหว่างเรยี น 1 เพื่อให้ไดศ้ ึกษาหาความรใู้ นเรื่องและได้ศึกษาอยา่ งเขา้ ใจเพอื่ เปน็ ประโยชนก์ ับการเรียน ผ้จู ัดทาหวังวา่ รายงานเลม่ น้จี ะเป็นประโยชนก์ บั ผู้อา่ นที่กาลังหาขอ้ มลู เรอ่ื งนอ้ี ยู่ หากมีขอ้ แนะนาหรอื ขอ้ ผดิ พลาดประการใดผู้จัดทาขอน้อมรับไว้และขออภยั มา ณ ทน่ี ี้ด้วย นาย ศริ สั ฐิพงศ์ ต๊อดแกว้ รหัสนักศกึ ษา 6412106030

ข้อมูลทัว่ ไปของนกั ศกึ ษา ชอ่ื -สกุล นายศริ สั ฐพิ งศ์ ต๊อดแกว้ รหสั ประจาตัวนกั ศึกษา6412106030 ว.ด.ป.เกิด 12/09/45 อายุ19 ปี ภูมลิ าเนาของนักศึกษา บ้านเลขท่ี23/1 หมู่6 ต.ศรภี ิรมย์อ.พรหมพิราม จ.พิษณโุ ลก 65180 สังเกตการณ์ ณ โรงเรยี น คลองมะเกลือ ทอ่ี ยู่โรงเรยี น 18/1 หมู่ 7 ต.ศรภี ริ มย์ อ.พรหมพริ าม จ.พิษณโุ ลก 65180 นกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์(ชุดสังเกตการณ์ปี64)ทร่ี ว่ มสงั เกตการณ์ในสถานศึกษาเดยี วกัน - ไมม่ ี

ใบงานท่ี 1 แบบบนั ทึกการวิเคราะหต์ นเอง คาช้แี จง ใหน้ ักศึกษาบนั ทึกผลการวิเคราะห์ตนเอง ในประเด็นดังตอ่ ไปนี้ 1. ความใฝ่ฝนั อยากเป็นครู มพี ่อกบั แมเ่ ป็นแบบอย่างในการอยากเป็นครเู พราะเหน็ พอ่ กับแม่สอนหนังสอื มาตัง้ แต่เด็กๆและถูกสอนโดย พ่อกับแม่ตั้งแตเ่ ด็กเลยอยากมีความใฝฝ่ นั อยากเป็นครเู หมือนพ่อกับแม่ 2. ความรกั และศรทั ธาในวิชาชีพครู อาชีพครเู ป็นอาชีพที่ผมเห็นมาตงั้ แต่เด็กและใฝฝ่ ันที่อยากท่ีเป็นครเู ป็นอาชีพที่ตนเองชอบทาให้มคี วามรกั และศรทั ธาในวชิ าชีพครู 3. ทศั นคตทิ ่ดี ีตอ่ วิชาชีพครู ครู ท่ีดี ควรมีความรักและความเมตตาต่อศิษย์ มคี วามเสียสละ หมั่นเพียรศึกษา ปรบั ปรุง วิธีการสอน เพอ่ื พฒั นาตนเองอยเู่ สมอ ต้องมีความเข้าใจและเอาใจใส่ตัวศษิ ยท์ ุกคน เปน็ กาลงั ใจและชว่ ย สรา้ งแรงบลั ดาลใจ ให้กบั ศิษย์เพ่ือให้เขาเปน็ คนใฝเ่ รยี นรู้ 4. ความสนใจเรือ่ งราวเกยี่ วกับครู (การติดตามข้อมลู ขา่ วสารเกี่ยวกับครู) จะมีการรับครบู รรจใุ หม่เพิ่มมากข้นึ และให้นกั ศึกษาเรยี นน้อยลงจาก5ปี เป็น4ปีและยกระดบั ทักษะครไู ทยสู่ ยคุ ดจิ ิทัล 5. การเตรียมพร้อมส่คู วามเป็นครู กาลังศึกษาระดบั ช้ันปรญิ ญารีคณะครุศาสตร์ เอกคณิตศาสตร์ ตอนนี้มาสังเกตการสอนและเกบ็ ประสบการณ์ วชิ าชีพครทู ี่โรงเรยี นวัดคลองมะเกลือ 6. สามารถนาผลจากการเรยี นรู้ในสถานศกึ ษามาร่วมแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กับเพื่อนร่วมช้ันเรยี นได้อย่างไร ไดน้ าความรูจ้ ากเพ่อื นที่ไปสังเกตการสอนไปปรบั ใช้ในการการไปสงั เกตการรอบตอ่ ไปเพือ่ พัฒนาตนเอง

ใบงานที่ 2 การสังเกต การปฏิบตั หิ น้าท่ีครู สาระสาคัญ ครมู คี วามรักและศรัทธาในวชิ าชพี ครู ปฏบิ ตั ิตนตามจรรยาบรรณและวินัยครู ปฏบิ ตั ติ ามบทบาท หน้าท่คี รูผสู้ อนและครูประจาช้ันไดอ้ ย่างเหมาะสม วตั ถุประสงค์ 1. แสดงพฤติกรรมทส่ี ะท้อนถึงการมจี ิตวิญญาณความเป็นครู 2. ระบบุ ทบาทหน้าทขี่ องครูผู้สอนและครูประจาชัน้ ในการชว่ ยเหลอื และพัฒนาผเู้ รยี น เน้ือหาสาระ 1. ความรักและศรัทธาในวชิ าชีพครู 2. จรรยาบรรณและวินัยครู 3. บทบาทหน้าที่ครูผ้สู อนและครูประจาชน้ั กิจกรรมการเรียนการสอน 1. ศกึ ษาเอกสารเกยี่ วกบั บทบาทหน้าที่ครูผสู้ อนและครปู ระจาชนั้ จรรยาบรรณวิชาชีพครู 2. สนทนา อภิปราย แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับคณุ ลักษณะท่ีดีของครตู ามจรรยาบรรณวิชาชพี ครู ความรกั และศรัทธาในวชิ าชีพครู 3. กาหนดหัวขอ้ สาหรับการศึกษาสงั เกตและสรุปลงในแบบบันทกึ 4. นาผลการศึกษาสังเกตมานาเสนอเพื่ออภปิ รายในช้ันเรียน สอื่ การเรียนรู้ 1. แบบบนั ทึกการสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติหน้าที่ครู 2. เอกสารประกอบการศกึ ษาดว้ ยตนเอง การวดั ประเมินผล 1. ตรวจแบบบันทึกการสงั เกต 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการให้ความรว่ มมอื ในชนั้ เรยี น

1. .วธิ กี ารแสดงออกทใี่ ห้เห็นถงึ ความรักและความศรทั ธาในวชิ าชพี ครู ความรักและเชื่อม่ันในอาชีพของตน ย่อมทาให้ทางานอยา่ งมคี วามสุขและมุ่งมั่น อันจะสง่ ผลให้ อาชีพนัน้ เจริญรงุ่ เรืองและมั่นคง ดงั น้ันครยู อ่ มรักและศรัทธาในอาชีพครู และเป็นสมาชิกที่ดีของ องค์กรวิชาชีพครดู ว้ ยความเต็มใจ ความรกั และศรัทธาในวชิ าชีพครู และเป็นสมาชกิ ที่ดี ขององค์กร วชิ าชีพครู หมายถึง การแสดงออกดว้ ยความชนื่ ชมและเชอื่ มั่นในอาชีพครูดว้ ยตระหนักว่าอาชีพนี้ เปน็ อาชีพท่ีมีเกียรติ มคี วามสาคญั และจาเปน็ ตอ่ สงั คม ครูพึงปฏบิ ตั ิงาน ดว้ ยความเต็มใจและภมู ใิ จ รวมทั้งปกป้องเกียรตภิ มู ขิ องอาชพี ครู เข้ารว่ มกิจกรรมและสนบั สนนุ องค์กรวิชาชีพครู 2. การปฏบิ ัติตนตามจรรยาบรรณและวินยั ครผู สู้ อนและครปู ระจาชั้นตา่ งๆ ดงั นี้ 2.1จรรยาบรรณต่อตนเอง 1. พึ่งเป็นผ้มู ีศลี ธรรมอันดีและประพฤตติ นใหเ้ หมาะสมกับตาแหน่งหนา้ ท่ที ่ีปฏบิ ัติ 2. พงึ ใช้วิชาชีพในการปฏิบัติหนา้ ทด่ี ้วยความซ่ือสัตย์ และไมแ่ สวงหาประโยชน์โดยมิชอบ 3. พงึ่ มที ัศนคตทิ ่ีดี และพฒั นาตนเองให้มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม รวมทั้งเพิ่มพูนความรูค้ วามสามารถ และทักษะในการทางานเพ่ือใหก้ ารปฏบิ ตั ิหนา้ ทม่ี ีประสิทธิภาพประสิทธิผลยง่ิ ข้นึ 2.2 จรรยาบรรณตอ่ วิชาชพี ผูป้ ระกอบวิชาชีพทางการศกึ ษา ตอ้ งรัก ศรัทธา ซื่อสตั ยส์ ุจริต รบั ผิดชอบตอ่ วิชาชีพ และเป็นสมาชิก ทีด่ ขี ององคก์ รวชิ าชีพ 2.3 จรรยาบรรณตอ่ ผ้รู ับบริการ 1. ผู้ประกอบวชิ าชพี ทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ สง่ เสรมิ ใหก้ าลังใจแก่ศษิ ย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหนา้ ท่ีโดยเสมอหนา้ 2. ผูป้ ระกอบวิชาชีพทางการศึกษา ตอ้ งส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนสิ ัยที่ถกู ต้องดงี าม แก่ศิษยแ์ ละผู้รับบริการตามบทบาทหนา้ ท่ีอยา่ งเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธ์ใิ จ 3. ผปู้ ระกอบวิชาชพี ทางการศึกษา ต้องประพฤติตนเปน็ แบบอยา่ งทีด่ ี ทงั้ ทางกาย วาจา และจติ ใจ 4. ผูป้ ระกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทาตนเปน็ ปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สตปิ ญั ญา จิตใจ อารมณแ์ ละสังคมของศษิ ย์และผู้รับบรกิ าร 5. ผูป้ ระกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษา ตอ้ งใหบ้ รกิ ารดว้ ยความจรงิ ใจและเสมอภาค โดยไม่เรยี กรับ หรือ ยอมรับผลประโยชน์จากการใชต้ าแหน่งหน้าท่ีโดยมชิ อบ 2.4 จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวชิ าชพี ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงช่วยเหลือเกื้อกูลซึง่ กันและกนั อย่างสร้างสรรค์ โดยยดึ มนั่ ในระบบคณุ ธรรม สร้างความสามคั คใี นหมู่คณะ

2.5 จรรยาบรรณต่อสังคม ผู้ประกอบวชิ าชพี ทางการศึกษา พึงประพฤตปิ ฏิบตั ิตนเป็นผนู้ าในการอนรุ ักษ์และพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญา ส่ิงแวดลอ้ ม รักษาผลประโยชน์ของสว่ นรวมและยดึ มนั่ ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข 3. บทบาทหน้าที่ของครูผู้สอนและครปู ระจาชัน้ ดา้ นตา่ งๆ ดังนี้ 3.1 ความรบั ผิดชอบของครู หม่นั อบรมเด็กอยู่เสมอต้ังใจสอน รกั การสอน จดั การปกครองให้เปน็ ท่ีเรียบร้อย เตรียมการสอน และทาการบันทกึ การสอน หมน่ั วดั ผลและติดตามผลการเรียน รับผดิ ชอบในหนา้ ทท่ี ่ีได้รบั มอบหมาย ช่วยให้คาแนะนาแก่เดก็ ดว้ ยความเตม็ ใจ สอนใหเ้ ด็กเป็นประชาธปิ ไตยการเอาใจใส่ 3.2 ส่งเสริมผเู้ รยี นตามความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล มีมาแต่กาเนิด เชน่ สติปัญญา อวยั วะ ความเจรญิ เติบโต ความสามารถดา้ นภาษา ซึ่งไดร้ ับ อิทธิพลมาจาก กรรมพนั ธุ์ สภาพแวดลอ้ ม การเลี้ยงดู การป่วยไข้ เป็นต้น เกดิ ขึน้ ทหี ลงั ซ่ึงไดร้ บั อทิ ธิพลจากสิ่งต่างๆ เชน่ ความสนใจ ประสบการณ์ การปรบั ตวั ทัศนคติ ความสาเร็จทางการเรยี น ซ่ึงเกิดจากคณุ ภาพของผู้สอน แรงสนับสนุนจากครอบครัว ความ ทะเยอทะยาน แรงผลกั ดันจากสงั คม สง่ิ แวดล้อม 3.3 การปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีแกผ่ เู้ รียน การปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี หมายถงึ การแสดงออก การประพฤตแิ ละปฏิบัติในด้าน บุคลกิ ภาพทั่วไป การแตง่ กาย กริ ิยา วาจา และจริยธรรมทเ่ี หมาะสมกับความเป็นครอู ยา่ ง สมา่ เสมอ ที่ทาใหผ้ ู้เรียนเล่ือมใสศรัทธา และถือเปน็ แบบอย่าง 3.4 การสร้างแรงบนั ดาลใจใหก้ บั ผูเ้ รยี น การบอกความฝันวยั เดก็ ของตนเองแนวคิดใหน้ กั เรยี นฟงั และให้นักเรียนบอกอาชพี ทตี่ นเองใฝฝ่ นั ว่าอยากเป็นอะไรเมื่อโตแล้วถ้านักเรยี นอยากเปน็ อะไรกใ็ ห้นกั เรียนทาใหเ้ ต็มทีส่ ักวันจะประสบ ความสาเร็จเหมือนครูได้อยา่ งแนน่ อน

ใบงานท่ี 3 การสังเกตการจดั การเรยี นรูข้ องครู วตั ถุประสงค์ 1. เพอื่ ใหน้ กั ศึกษาสังเกตการควบคุมชน้ั เรยี นของครผู ูส้ อน 2. เพ่ือให้นกั ศึกษาสงั เกตการจัดการเรียนรขู้ องครูผู้สอน เพื่อให้นักศึกษานาส่ิงท่ีได้จากการสงั เกต การควบคมุ ชนั้ เรียน และการจดั การเรยี นรู้ของครูผูส้ อนมาเป็นแนวทางในการจัดการเรยี นรู้ ของตนเอง 3. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตและฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขอบเขต ให้นักศึกษา ศึกษา สังเกต และฝึกทักษะจากผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษา แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบันทกึ ตามประเด็น ดังน้ี 1. สังเกตเทคนิคการควบคุมชน้ั เรียนของครูผูส้ อน 2. สงั เกตการจดั การเรยี นรู้ของครผู ้สู อน 3. นาส่ิงท่ไี ดจ้ ากการสังเกตการควบคมุ ช้นั เรยี น และการจัดการเรียนรู้ของครผู ูส้ อนมาประยุกตใ์ ช้ ในการจดั การเรยี นรู้ 4. สงั เกตปัญหาท่พี บในการจดั การเรียนรขู้ องครูผู้สอน และเทคนคิ แนวทางในการแกไ้ ขปญั หา ผู้เกี่ยวข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ผอู้ านวยการ / รองผู้อานวยการโรงเรยี น 2. ครูผู้สอน / ครูพี่เลีย้ ง / นกั เรียน หมายเหตุ สงั เกต 3 ครง้ั ต่อสัปดาห์ รวมอย่างน้อย 9 คร้ัง

แบบสังเกตการจดั การเรียนรู้ ครัง้ ที่ 1 โรงเรยี น วัดคลองมะเกลือ ระดับชน้ั ม.2 รายวชิ า คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค22101 จานวน 1.5 หนว่ ยกิต วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 – 10.30 น. จานวน 1 ชว่ั โมง ครูผ้สู อน นางศศมิ า อปู ทอง ประเด็น รายละเอยี ด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการสอน5E ดา้ นท่ี 2 การใชจ้ ติ วทิ ยาในการจดั การเรยี นรู้ ใหน้ กั เรียนศกึ ตามในหนังสือ แกไ้ ขปัญหาดว้ ยตนเอง ถ้านักเรยี นทา ไม่ได้ให้ถามครผู สู้ อน ด้านที่ 3 สังเกตการจดั การเรยี นรู้ (ตวั อยา่ งขนั้ ตอนการจดั การเรยี นรสู้ ามารถปรับเปลย่ี นได้ตาม สถานการณ์จรงิ ) ด้านที่ 4 ปัญหาทพ่ี บ / แนวทางแก้ไข - ขั้นนา ดา้ นที่ 5 ครมู รี ายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รียน ใหน้ กั เรยี นแนะนาตวั และบอกเร่อื งทีจ่ ะสอน ในรปู แบบการศึกษารายกรณีหรือไม่ อย่างไร - ขนั้ สอน ดา้ นที่ 4 สง่ิ ท่ีไดร้ ับ / การประยุกต์ใช้ ให้นักเรียนดบู นกระดานดาและฟงั ทีค่ ุณครอู ธิบายและยกตวั อย่าง - ขัน้ สรปุ ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หัดและตรวจสอบแกไ้ ขแบบฝกึ หดั ทท่ี าให้ ถกู ต้อง ปัญหาที่พบในการจดั การเรียนรู้ นักเรียนแตล่ ะคนมคี วามสามารถในการแกไ้ ขปญั หาทแ่ี ตกตา่ งกนั การแกไ้ ขปัญหาในชนั้ เรยี นของครผู ู้สอน ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนตรวจสอบคะแนนของตนเองและทาการแกไ้ ข นักเรียนท่ไี ดค้ ะแนนน้อยครูจะมีแบบฝกึ หดั ให้ทาเพม่ิ นกั เรียนแตล่ ะคนมคี วามเขา้ ใจโจทย์ท่ตี ่างกันตอ้ งมีการอธบิ ายและ ยกตัวอยา่ งให้มากขน้ึ หมายเหตุ สังเกต 3 ครง้ั ต่อสัปดาห์ รวมอย่างน้อย 9 คร้ัง

แบบสงั เกตการจดั การเรยี นรู้ ครง้ั ท่ี 2 โรงเรยี น วดั คลองมะเกลือ ระดบั ชนั้ ป.1 รายวิชา คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค10101 จานวน 2 หนว่ ยกิต วันท่ี 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 12.30 – 13.30 น. จานวน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางศศมิ า อปู ทอง ประเด็น รายละเอยี ด ด้านท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการสอน5E ดา้ นท่ี 2 การใชจ้ ติ วทิ ยาในการจดั การเรียนรู้ การลองผดิ ลองถกู กนั คดิ วเิ คราะหแ์ ก้ไขปญั หาด้วยตนเองเพอื่ หา คาตอบที่ถูกต้อง ด้านที่ 3 สังเกตการจดั การเรียนรู้ (ตัวอย่างขั้นตอนการจัดการเรยี นรสู้ ามารถปรับเปลยี่ นได้ตาม สถานการณ์จรงิ ) - ขนั้ นา บอกกจิ กรรมให้นักเรียนได้ทราบวา่ วันนี้จะทากิจกรรมอะไร - ข้นั สอน ให้นกั เรียนได้ลองต่อจกิ๊ ซอว์ใหน้ กั เรยี นไดล้ องผิดลองถูกให้นักเรียน แกไ้ ขปญั หาด้วยตนเองก่อน - ขนั้ สรุป เมอ่ื นกั เรียนทาได้แล้วจะใหน้ ักเรียนที่ยงั ทาไมไ่ ด้ชว่ ยเพือ่ นท่ยี งั ทา ไม่ไดแ้ ล้วครจู ะอธิบายให้เดก็ ฟังและสอนประกอบตาม ด้านท่ี 4 ปญั หาท่พี บ / แนวทางแก้ไข ปัญหาท่ีพบในการจัดการเรยี นรู้ เด็กจะจาแบบเดมิ ที่ตัวเองคดิ วา่ ถกู ต้องโดยไม่มีการลองผดิ ลองถูก การแกไ้ ขปญั หาในชน้ั เรยี นของครผู ูส้ อน ไกด์ไลน์ รูปแบบจ๊ิกซอวแ์ ละแนะแนวทางให้เพอื่ นในกล่มุ ไดม้ า ช่วยเหลอื กนั ดา้ นที่ 5 ครมู ีรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน มีพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี นโดยการเปลย่ี นจก๊ิ ซอวไ์ ปเรอ่ื ยๆ ในรปู แบบการศกึ ษารายกรณีหรอื ไม่ อย่างไร ด้านที่ 4 สงิ่ ท่ีได้รับ / การประยกุ ต์ใช้ เด็กๆแลว้ คนมกี ารแก้ไขปญั หาทีแ่ ตกตา่ งกัน หมายเหตุ สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดาห์ รวมอย่างน้อย 9 ครั้ง

แบบสงั เกตการจัดการเรียนรู้ คร้ังที่ 3 โรงเรยี น วัดคลองมะเกลอื ระดับช้ัน ป.4 รายวชิ า คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค10401 จานวน 2 หนว่ ยกติ วนั ที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.30 – 11.30 น. จานวน 1 ช่ัวโมง ครูผสู้ อน นางศศมิ า อปู ทอง ประเดน็ รายละเอียด ด้านท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รูปแบบการสอน5E ด้านที่ 2 การใชจ้ ติ วทิ ยาในการจดั การเรยี นรู้ ใหน้ กั เรยี นตอบตามเลขท่ีเพื่อกระตนุ้ การเรียน ด้านท่ี 3 สังเกตการจัดการเรยี นรู้ (ตัวอยา่ งขั้นตอนการจัดการเรียนรสู้ ามารถปรับเปลีย่ นไดต้ าม สถานการณจ์ ริง) - ขั้นนา ทบทวนความรู้คราวทแ่ี ลว้ และบอกกิจกรรมทจ่ี ะทาวันน้ี - ขน้ั สอน ให้นกั เรยี นดรู ูปภาพขาวดาท่เี ป็นสระภาษาอังกฤษแล้วตอบว่าแต่ละ แถวมรี ปู ขาวดาเท่าไหร่ - ขัน้ สรปุ เฉลยโจทยป์ ญั หาของรปู ภาพ ดา้ นที่ 4 ปญั หาท่ีพบ / แนวทางแก้ไข ปญั หาท่ีพบในการจัดการเรียนรู้ นกั เรียนไม่เข้าใจแถวกับหลักและการนับภาพขาวดา การแก้ไขปญั หาในชั้นเรยี นของครผู ู้สอน ใหน้ กั เรียนดภู าพแล้วบอกวา่ แนวนอนคือแถวแนวตง้ั คอื หลัก ดา้ นท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน ครูสารวจว่านักเรียนได้ทามาหรอื ไม่และตรวจสอบคาตอบ ในรูปแบบการศกึ ษารายกรณีหรือไม่ อยา่ งไร ดา้ นท่ี 4 สิง่ ทไ่ี ด้รบั / การประยุกตใ์ ช้ กระตุน้ ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามโดยการสุม่ เลขท่ี หมายเหตุ สังเกต 3 คร้ังต่อสัปดาห์ รวมอยา่ งน้อย 9 ครั้ง

แบบสังเกตการจัดการเรยี นรู้ ครง้ั ที่ 4 โรงเรยี น วดั คลองมะเกลือ ระดบั ชนั้ ม.3 รายวชิ า คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค32101 จานวน 2 หน่วยกติ วนั ท่ี 22 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 – 10.30 น. จานวน 1 ชัว่ โมง ครผู ู้สอน นางศศมิ า อปู ทอง ประเดน็ รายละเอียด ด้านที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการสอน5E ดา้ นท่ี 2 การใชจ้ ติ วทิ ยาในการจดั การเรยี นรู้ การสง่ งานตรงเวลานักเรยี นจะไดค้ ะแนนเพิ่มและใหน้ กั เรยี นตอบ คาถามการเปรียบเทยี บ ดา้ นท่ี 3 สังเกตการจัดการเรยี นรู้ (ตวั อย่างขนั้ ตอนการจัดการเรียนรสู้ ามารถปรบั เปลี่ยนได้ตาม สถานการณ์จรงิ ) - ข้ันนา ทบทวนความรู้ในคาบท่ีแลว้ และบอกเรอ่ื งทจ่ี ะสอนในคาบน้ี - ขนั้ สอน สอนการแก้โจทย์ปญั หากาหนดตัวแปรแสดงวธิ กี ารแก้โจทยป์ ญั หา หนา้ กระดานดาและการยกตัวอยา่ ง - ขน้ั สรปุ ให้นกั เรียนทาแบบฝึกหัดและการไกดไ์ ลน์การทาแบบฝึกหดั ดา้ นท่ี 4 ปัญหาทพ่ี บ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาท่ีพบในการจัดการเรียนรู้ นกั เรียนยังไมเ่ ขา้ ใจเกยี่ วกับโจทยป์ ัญหาสมการแทนคา่ ตวั แปรยงั ไม่ คอ่ ยได้ การแกไ้ ขปญั หาในชน้ั เรยี นของครผู ้สู อน เขยี นลงกระดานดาแสดงวธิ ีการแกโ้ จทยป์ ญั หาสมการให้ นักเรียนได้ทราบ ด้านที่ 5 ครูมรี ายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน มีการสง่ งานของนกั เรยี นและการแกโ้ จทย์ปัญหาทส่ี ง่ มา ในรปู แบบการศึกษารายกรณหี รอื ไม่ อย่างไร ดา้ นท่ี 4 สง่ิ ทไ่ี ดร้ บั / การประยกุ ตใ์ ช้ การใช้จิตวทิ ยาให้นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มกับครปู ระจาชนั้ รายวิชาคณติ ศาสตร์ หมายเหตุ สังเกต 3 คร้งั ต่อสัปดาห์ รวมอย่างน้อย 9 ครั้ง

แบบสังเกตการจดั การเรียนรู้ คร้งั ที่ 5 โรงเรียน วัดคลองมะเกลือ ระดับชัน้ ป.5 รายวชิ า วทิ ยาการคานวณ รหัสวชิ า ว22101 จานวน 1 หน่วยกิต วนั ที่ 23 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.30 – 11.30 น. จานวน 1 ชวั่ โมง ครผู ู้สอน นางศศมิ า อูปทอง ประเด็น รายละเอียด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการสอน5E ดา้ นท่ี 2 การใชจ้ ติ วิทยาในการจดั การเรยี นรู้ การเปรยี บเทยี บชีวิตจรงิ กับการสอน ด้านท่ี 3 สงั เกตการจัดการเรียนรู้ (ตัวอย่างขั้นตอนการจดั การเรยี นรสู้ ามารถปรบั เปลี่ยนได้ตาม สถานการณ์จรงิ ) - ขน้ั นา ทบทวนความรูค้ ่าทแี่ ล้วและบอกเร่ืองท่ีจะเรียนในคาบวนั น้ี - ขั้นสอน ลองฝกึ การแก้ปญั หาจากเล็กไปใหญใ่ ห้นักเรยี นดูหนังสือและอธบิ าย เปรยี บเทยี บสอนเปน็ ขั้นตอน - ข้นั สรุป ใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมลงในสมุด ดา้ นท่ี 4 ปัญหาที่พบ / แนวทางแกไ้ ข ปญั หาท่พี บในการจดั การเรยี นรู้ นักเรยี นบางคนไม่มีหนงั สือและใชค้ อมพวิ เตอรไ์ ม่ค่อยได้ การแกไ้ ขปัญหาในชน้ั เรียนของครผู ู้สอน ใหน้ กั เรยี นนง่ั โตะ๊ คอมพวิ เตอร์ 1 เครอื่ งตอ่ นักเรยี น 2 คน ดา้ นที่ 5 ครมู ีรายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน ให้นักเรียนไว้ทาแบบฝึกหดั ทบ่ี า้ นเพ่อื พัฒนาความรูข้ องนกั เรยี น ในรูปแบบการศึกษารายกรณหี รอื ไม่ อยา่ งไร ด้านท่ี 4 สิ่งทีไ่ ด้รับ / การประยกุ ต์ใช้ การเปรยี บเทียบชีวิตจรงิ กบั การสอนจะทาให้นกั เรยี นเขา้ ใจมากขึน้ หมายเหตุ สงั เกต 3 คร้ังต่อสัปดาห์ รวมอยา่ งน้อย 9 คร้ัง

แบบสงั เกตการจัดการเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 6 โรงเรยี น วดั คลองมะเกลอื ระดบั ชน้ั ม.2 รายวิชา คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค22101 จานวน 2 หน่วยกติ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 – 10.30 น. จานวน 1 ชั่วโมง ครผู ู้สอน นางศศิมา อปู ทอง ประเด็น รายละเอียด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการสอน5E ดา้ นท่ี 2 การใชจ้ ิตวิทยาในการจดั การเรยี นรู้ ใหน้ ักเรยี นดคู ะแนนของตนเองและตรวจสอบตัววา่ ผิดพลาดตรงไหน ด้านที่ 3 สังเกตการจัดการเรยี นรู้ (ตัวอยา่ งขน้ั ตอนการจัดการเรยี นรสู้ ามารถปรับเปล่ยี นได้ตาม สถานการณ์จริง) - ขั้นนา ทบทวนความรคู้ า่ พ่ีแล้วและแนะนาเร่อื งทจ่ี ะเรยี นในคาบนี้ - ขั้นสอน ใหน้ ักเรยี นทาขอ้ สอบจานวน 15 ข้อ - ขนั้ สรุป นักเรยี นทผี่ า่ นคอื นกั เรียนทไี่ ด้ 9 คะแนนส่วนนกั เรียนท่ไี ด้คะแนน นอ้ ยกว่า 9 คะแนนคอื นกั เรียนทีส่ อบตกให้ทาการแก้ไขขอ้ สอบ ด้านท่ี 4 ปญั หาท่ีพบ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาทีพ่ บในการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นสว่ นมากสอบไมผ่ า่ นเนื่องจากนักเรยี นทาการลอก แบบฝึกหัดมาสง่ ทาให้พอเจอโจทยป์ ญั หาจรงิ ๆเลยธรรมะกันไมไ่ ด้ การแก้ไขปัญหาในชัน้ เรียนของครผู ูส้ อน ให้นกั เรยี นแกข้ ้อสอบจานวน 15 ขอ้ ดา้ นท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น ใหน้ ักเรียนที่สอบตกแกข้ ้อสอบเปน็ รายบคุ คล ในรูปแบบการศึกษารายกรณหี รือไม่ อย่างไร ด้านที่ 4 ส่งิ ทีไ่ ด้รบั / การประยุกต์ใช้ นกั เรียนทีล่ อกการบา้ นมาสง่ พอเจอข้อสอบจะทาไมไ่ ด้ หมายเหตุ สังเกต 3 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมอย่างน้อย 9 คร้ัง

แบบสังเกตการจัดการเรยี นรู้ ครง้ั ท่ี 7 โรงเรยี น วัดคลองมะเกลอื ระดับชนั้ ม.3 รายวชิ า คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค32101 จานวน 2 หน่วยกติ วนั ท่ี 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 – 11.30 น. จานวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางศศมิ า อูปทอง ประเด็น รายละเอยี ด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รูปแบบการสอน5E ดา้ นท่ี 2 การใชจ้ ิตวิทยาในการจดั การเรียนรู้ ใหน้ กั เรยี นออกไปทาโจทย์ปัญหาหนา้ กระดานเพื่อกระตุ้น การเรยี นของนกั เรยี น ดา้ นที่ 3 สังเกตการจัดการเรยี นรู้ (ตัวอยา่ งขน้ั ตอนการจัดการเรียนรสู้ ามารถปรบั เปลีย่ นไดต้ าม สถานการณ์จรงิ ) - ขน้ั นา ทบทวนความรู้ค่าทแี่ ล้วเพื่อกระตนุ้ ความคิดของนักเรียนกอ่ นเรมิ่ เรยี นและแนะนาเร่ืองทีจ่ ะสอนในคาบนี้ - ข้ันสอน ใหน้ กั เรียนศึกษาจากตัวอย่างและขนึ้ กระดานดาให้นกั เรยี น ไดศ้ กึ ษารปู แบบ - ขัน้ สรุป ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหัดจานวน 2 ขอ้ ดา้ นที่ 4 ปญั หาทีพ่ บ / แนวทางแก้ไข ปญั หาท่ีพบในการจดั การเรยี นรู้ นกั เรียนยังไมส่ ามารถจดั การเครอ่ื งหมายตอนแยกวงเล็บ การแก้ไขปญั หาในช้นั เรียนของครผู ูส้ อน ครใู ห้นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั เกีย่ วกบั โจทย์การแยกวงเลบ็ ดา้ นท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ใหน้ ักเรยี นท่ยี งั ไมไ่ ดท้ าแบบฝกึ หดั ทาแบบฝึกหดั เพม่ิ เตมิ ในรูปแบบการศกึ ษารายกรณีหรือไม่ อย่างไร ดา้ นท่ี 4 สิง่ ทไ่ี ดร้ ับ / การประยกุ ต์ใช้ นักเรียนแตล่ ะคนมคี วามเข้าใจทแี่ ตกตา่ งกันดงั น้ันครูจงึ ต้อง ขึ้นกระดานและอธิบายให้นกั เรยี นฟัง หมายเหตุ สงั เกต 3 ครง้ั ต่อสัปดาห์ รวมอย่างน้อย 9 คร้ัง

แบบสงั เกตการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 8 โรงเรียน วดั คลองมะเกลือ ระดบั ชัน้ ม.1 รายวชิ า คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค12101 จานวน 2 หนว่ ยกติ วนั ท่ี 2 ธนั วาคม 2564 เวลา 10.30 – 11.30 น. จานวน 1 ช่วั โมง ครูผู้สอน นางศศิมา อปู ทอง ประเด็น รายละเอยี ด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รูปแบบการสอน5E ดา้ นท่ี 2 การใช้จิตวิทยาในการจดั การเรียนรู้ การขึน้ กระดานดาเพื่อให้นักเรยี นมสี ่วนร่วมกบั ครผู สู้ อน ด้านท่ี 3 สงั เกตการจัดการเรยี นรู้ (ตัวอยา่ งขัน้ ตอนการจดั การเรียนรสู้ ามารถปรับเปล่ียนไดต้ าม สถานการณ์จรงิ ) - ขั้นนา ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบเมอ่ื อาทติ ยท์ ่แี ลว้ - ขน้ั สอน ขึน้ กระดานดาให้นักเรยี นดูเฉลยและอธิบายการแก้โจทยป์ ญั หา ระบบสมการ - ขน้ั สรปุ ให้นักเรยี นสง่ สมดุ แบบฝึกหดั เพ่ือตรวจสอบความถูกต้องของ แบบฝกึ หดั และทาการแกไ้ ข ดา้ นท่ี 4 ปญั หาที่พบ / แนวทางแกไ้ ข ปญั หาที่พบในการจดั การเรยี นรู้ นกั เรยี นบางคนมีความสนใจในการเรยี นไมเ่ ทา่ กัน การแก้ไขปัญหาในชน้ั เรียนของครผู สู้ อน ครขู นึ้ กระดานดาให้นักเรยี นดูเพอื่ ให้นักเรียนสนใจใน การเรยี นมากขึน้ ดา้ นท่ี 5 ครมู รี ายงานผลการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน นกั เรยี นบางคนมพี ฒั นาการทชี่ ้ากวา่ นกั เรียนในหอ้ ง ในรปู แบบการศึกษารายกรณหี รอื ไม่ อยา่ งไร ดา้ นที่ 4 ส่งิ ทไี่ ด้รบั / การประยุกตใ์ ช้ ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจครผู สู้ อนจะขน้ึ กระดานดาและแสดงวธิ ี การแกโ้ จทยป์ ญั หาให้นกั เรยี นดู หมายเหตุ สงั เกต 3 ครงั้ ต่อสัปดาห์ รวมอย่างน้อย 9 ครั้ง

แบบสังเกตการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 9 โรงเรยี น วัดคลองมะเกลือ ระดับชน้ั ม.3 รายวชิ า คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค32101 จานวน 1.5 หนว่ ยกติ วันท่ี 3 ธันวาคม 2564 เวลา 09.30 – 10.30 น. จานวน 1 ชั่วโมง ครูผสู้ อน นางศศมิ า อปู ทอง ประเด็น รายละเอยี ด ด้านท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ รปู แบบการสอน5E ดา้ นที่ 2 การใช้จติ วิทยาในการจดั การเรียนรู้ ครขู นึ้ กระดานดาและให้นักเรยี นตอบปญั หาเพื่อกระต้นุ การเรียน ของนักเรียน ดา้ นที่ 3 สงั เกตการจดั การเรียนรู้ (ตัวอยา่ งข้นั ตอนการจดั การเรยี นรสู้ ามารถปรับเปลยี่ นไดต้ าม สถานการณ์จรงิ ) - ขนั้ นา ทบทวนความรูค้ ่าพแี่ ลว้ และแนะนาเรื่องทจ่ี ะเรียนในคาบน้ี - ขั้นสอน ครขู ้นึ กระดานดาและแสดงการแกไ้ ขโจทย์ปญั หาและอธบิ ายให้ นกั เรียนฟงั - ข้นั สรปุ ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหัดจานวน 3 ข้อลงในสมุด ดา้ นที่ 4 ปัญหาท่พี บ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาทีพ่ บในการจัดการเรียนรู้ นักเรียนบางคนยงั ไมเ่ ขา้ ใจเกย่ี วกบั โจทยป์ ญั หาทค่ี รูอธบิ าย การแก้ไขปัญหาในช้ันเรียนของครผู ู้สอน ครใู ห้นักเรยี นทยี่ งั ไม่เข้าใจในโจทย์ปัญหาใหไ้ ปทาแบบฝึกหดั เพ่มิ เตมิ เพ่ือเพม่ิ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั โจทย์ปญั หา ด้านท่ี 5 ครมู ีรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น นักเรียนท่ไี ม่เข้าใจโจทยป์ ญั หาจะครูจะมีแบบฝกึ หดั ใหท้ าเพิม่ เพื่อ ในรปู แบบการศกึ ษารายกรณีหรอื ไม่ อยา่ งไร เพม่ิ ความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกับโจทยป์ ัญหา ด้านที่ 4 ส่ิงที่ได้รับ / การประยุกต์ใช้ ถา้ นกั เรยี นไม่เข้าใจทคี่ วรอธิบายครูจะให้ไปฝกึ หดั ใหท้ าเพิ่มเติม หมายเหตุ สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดาห์ รวมอยา่ งน้อย 9 ครั้ง

ใบงานท่ี 4 การศึกษาสงั เกตบรบิ ทของสถานศกึ ษาและความสัมพันธก์ บั ชุมชน วัตถุประสงค์ เพ่อื ใหน้ ักศึกษาสงั เกตบริบทของสถานศกึ ษา ขอบเขต ให้นักศึกษา ศึกษา สังเกต และฝกึ ทักษะจากผทู้ ่ีเกย่ี วข้องในสถานศึกษา แลว้ บนั ทกึ ข้อมลู ในแบบบนั ทึกตามประเดน็ ดังน้ี 1. ทาเล ทีต่ ัง้ ของสถานศึกษาสงั เกตการจดั การเรยี นรูข้ องครูผู้สอน 2. อาคารเรียน และอาคารประกอบการอื่นๆ 3. หอ้ งเรยี น และเคร่ืองใชต้ ่างๆ ในหอ้ งเรียน 4. มุมพยาบาล / ห้องพยาบาล / เรอื นพยาบาล 5. โรงอาหาร / ทีร่ บั ประทานอาหาร 6. โรงประชุม / หอประชมุ 7. ห้องพักครู 8. ห้องสมดุ / หอสมุด 9. ห้องปฏบิ ตั กิ ารตา่ งๆ (วทิ ยาศาสตร์ฯลฯ) 10. นา้ ดมื่ / นา้ ใช้ 11. ห้องน้า / ห้องสว้ ม / ทีป่ ัสสาวะ 12. สนามกฬี า / สนามเดก็ เล่นตา่ งๆ 13. สถานที่พักผอ่ นหย่อนใจ 14. แหลง่ ขอ้ มูลท่ีใชใ้ นการศกึ ษาค้นควา้ / อา้ งอิงหน่วยที่ 1 สภาพท่ัวไปของสถานศกึ ษา ผเู้ ก่ียวข้อง/แหล่งข้อมูล ผู้อานวยการ / รองผู้อานวยการโรงเรยี น ครผู สู้ อน / ครพู ่เี ลีย้ ง / นักเรียน ขอ้ มูลทีเ่ กีย่ วกบั สถานศึกษา ช่ือสถานศกึ ษา โรงเรียนวัดคลองมะเกลอื ปรชั ญา โรงเรยี นดี กฬี าเด่น เน้นคุณธรรม นอ้ มนาความพอเพียง คตธิ รรม โยคาเว ชยาเต ภูริ ความหมาย ปญั ญา ย่อมเกิดขึ้น เพราะการฝึกฝน

วิสัยทัศน์ คุณธรรมนาความรู้ ม่งุ สู่เศรษฐกิจ พอเพยี ง เปา้ หมาย สถานศึกษาเน้นการจัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียน และท้องถ่ินเพอื่ พฒั นาสมรรถภาพด้านการเรยี นการอา่ นฟังพูดการคดิ เป็นระบบ ดว้ ยวธิ กี ารจดั การเรยี นการสอนแบบเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญพฒั นาผ้เู รียนให้เต็ม ศกั ยภาพที่มีอย่โู ดยยึดหลกั การที่วา่ ทุกคนมีความสามารถและเรยี นรู้ด้วยตนเอง 1. อาคารเรียน และอาคารประกอบการอ่นื ๆ อาคารเรียนและอาคารประกอบจานวน ๔ หลงั ไดแ้ ก่ อาคารเรียน ๓ หลัง อาคารอเนกประสงค์ ๑ หลัง 2. หอ้ งเรียน และเคร่ืองใช้ตา่ งๆ ในหอ้ งเรยี น จานวนหอ้ งเรียน ๑๑ ห้อง ห้องเรยี นแบง่ เปน็ ช้ัน ป. ๑ – ๖ = ๑:๑:๑:๑:๑:๑ มีห้องสมุด ๑ หอ้ ง จานวนหนงั สอื ในหอ้ งสมุด ๔,๕๐๐ เลม่ 3. หอ้ งพักครู หอ้ งปฏิบัตงิ านและเจา้ หน้าท่ี หอ้ งพกั ครู จานวน ๔ หอ้ ง และหอ้ งธรุ การ ๑ ห้อง 4. ห้องปฏิบตั ิการตา่ งๆ (วทิ ยาศาสตร์ฯลฯ) มคี อมพิวเตอร์เพ่อื การเรยี นการสอนจานวน ๑๓ เครอื่ ง มกี ารตดิ อินเตอร์เน็ตเพื่อการคน้ คว้า จานวน ๑๓ เครอ่ื ง 5. สถานทพ่ี ักผ่อนหย่อนใจ/สนามเด็กเลน่ มีสนามเด็กเล่นอนบุ าล ๑ สนามสนามหญา้ ใหญ่ ๑ สนามศาลาพักผอ่ นอีก ๓ ศาลา และม้านง่ั หนิ อ่อน ๒๘ ตวั 6. แหลง่ ขอ้ มูลท่ีใช้ในการศกึ ษาคน้ ควา้ / อา้ งอิงหน่วยที่ 1 สภาพทั่วไปของสถานศกึ ษา นาย พลู สุข ต๊อดแกว้ (ผู้อานวยการโรงเรยี น) นางศศิมา อปู ทอง(ครูพเ่ี ลยี้ ง) หนังสอื โรงเรยี นและฟังจาก ผ้อู านวยการ

ขอ้ มูลความสมั พนั ธ์ระหว่างโรงเรยี นกบั ชุมชน 1. ศกึ ษาบรบิ ทของชมุ ชนที่สถานศึกษาต้งั อยู่ มีพ้ืนทต่ี ิดกนั และมวี ัดคลองมะเกลอื อยดู่ ้านหน้าโรงเรียน ชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมทานา ชมุ ชนมสี ว่ นรว่ มและมีความพึงพอใจในด้านการจดั การศึกษาของโรงเรยี นโรงเรียนมีบริการ 5 หมู่บา้ น และมีความพร้อมในการร่วมกันพัฒนาโรงเรยี นผา่ นทางคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพนื้ ฐาน และเครือขา่ ยผูป้ กครองนักเรยี น 2. ศกึ ษาความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรยี นกับชุมชน โอกาสของสถานศกึ ษากับความรว่ มมือในด้านต่างๆของชุมชนได้ร่วมมือกับชมุ ชนช่วยกันพฒั นาสถานศึกษา เพ่ือพฒั นาการเรยี นการสอนอย่างสม่าเสมอเช่นจดั หาเงินทุนการศึกษาใหแ้ ก่นักเรียนที่เรียนดคี วาม ประพฤติดฐี านะยากจน ขาดแคลน และชว่ ยกนั จัดหาเงนิ ทนุ เพ่ือสรา้ งอาคารอเนกประสงค์เป็นตน้ และ ให้ความรว่ มมือกับชมุ ชนในการพฒั นาชุมชนรว่ มงานวัฒนธรรมประเพณีตา่ งๆในชมุ ชน เช่น งานบวชพระ งานทาบุญข้ึนบา้ นใหม่ งานแตง่ งานงานศพ เป็นต้น

ใบงานท่ี 5 แบบรายงานผลการศึกษาช้ันเรียนคณติ ศาสตร์ เรอ่ื งที่สอน โจทย์ปัญหากบั ระบบสมการ ระดบั ชัน้ ม.3 ชอื่ ครปู ระจาชน้ั นางศศมิ า อูปทอง 1. สภาพปญั หาในชน้ั เรียน นักเรยี นบางคนมีพัฒนาทางด้านสมองที่ช้ากว่านกั เรียนคนอ่นื ๆและความสนในการเรยี นท่ียงั ไม่คอ่ ยสนใจการ และมกี ารพูดคยุ ระหว่างทคี่ รูประจาชั้นสอน 2. จดุ ประสงค์ในการศกึ ษา เพอื่ ศึกษานักเรยี นทม่ี ีการพัฒนาการสมองชา้ ให้ได้เรียนไปพรอ้ มๆกบั ทที่ ่ีไมม่ ีปญั หาและการแก้ไข้ปญั หา เกย่ี วกับนักเรยี นทไ่ี ม่ค่อยสนใจเรียนและพดู คุยระหว่างครสู อน 3. สภาพทั่วไปของชนั้ เรยี น นกั เรียนจดั ที่นัง่ เรยี นแบบเป็นครูคนเก่งคู่กบั คนท่ีอ่อนเพ่ือใหค้ นท่ีเกง่ ช่วยสอนคนท่ีออ่ นกว่าเพอื่ ให้คนท่ีออ่ น- กว่าสามารถรู้ตามเพื่อนไดท้ ันและไม่มปี ญั หาเกย่ี วกับการเรียนตามไม่ทนั 4. แนวทางการแก้ปัญหา/ส่งเสริม 1. ใหน้ ักเรยี นกลับไปทาแบบฝึกหัด 2. ทาแบบทดสอบเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการทาแบบฝกึ หัด 3. ให้นักเรยี นขยันทาแบบฝกึ หดั ทา้ ยบทเพอ่ื เสริมการเรยี นของตนเอง 5. การศึกษาช้นั เรยี นคร้งั นี้มีประโยชนต์ ่อการประกอบวิชาชีพครูของนักศึกษา ดังนี้ 1. การจัดการเรียนในห้องเรียน เช่น การนงั่ เป็นคูค่ นเกง่ กบั คนอ่อนนง่ั ด้วยกัน 2. การจัดทาแบบฝกึ หัดและบททดสอบสาหรบั นักเรยี นท่มี ีพัฒนาการชา้ 3. การเอาใจใส่นักเรียนทุกคนแบบรายกรณีโดยไมม่ องข้ามนกั เรียนทีเ่ รียนอ่อนกว่านักเรียนคนอื่น

ใบงานที่ 6 กิจกรรมการแลกเปลีย่ นเรียนรใู้ นรปู แบบกจิ กรรม PLC (กรณที ี่ทางโรงเรยี นทากิจกรรม PLC) ชื่อ-สกลุ นายศิรสั ฐพิ งศ์ ตอ๊ ดแก้ว รหสั นักศกึ ษา 6412106030 สาขาวิชา คณิตศาสตร์ ชือ่ อาจารยน์ ิเทศ รศ.ดร. ภคั พล ปรีชาศลิ ป์ ชื่อครูพเี่ ลีย้ ง นางศศมิ า อปู ทอง ชื่อโรงเรยี นที่ออกปฏบิ ตั กิ ารสอน โรงเรียนวดั คลองมะเกลือ 1 กลมุ่ PLC โรงเรยี นวัดคลองมะเกลอื 2 สมาชกิ กลมุ่ PLC 1) ผู้อานวยการ 2) คณะครู 3 สมาชกิ รว่ มกนั กาหนดปัญหา กาหนดหัวขอ้ เร่อื งการจัดทา MOU และการดาเนินการจดั ทา วPA ของครู 4 สมาชกิ ร่วมกันออกแบบกิจกรรมในการแกไ้ ขปญั หา 1.คณะครูศึกษาค่มู ือ และตวั อย่างการจดั ทาบันทึกขอ้ ตกลงใน MOU และ วPA แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ 2.จดั ทาบันทึกข้อตกลงใน MOU และ วPA ตามรายละเอยี ดของครูที่ไมม่ ีวทิ ยาฐานะและมลี าดบั วทิ ยาฐานะ 5 สมาชกิ รว่ มกนั เสนอผลของการนาไปใช้ ครดู าเนินการตามรายละเอียด วPA ตามกรอบที่ ก.ค.ศ กาหนอ เร่ิมขบั เคลอื่ น 6 สมาชิกร่วมอภปิ รายผล และสรปุ ผล ครูได้แลกเปลี่ยนเรียนร้แู ละมคี วามเข้าใจการดาเนนิ การตามบันทกึ ขอ้ ตกลงใน MOU และ ว PA 7 สรปุ รายงานนวัตกรรมสาหรบั การพัฒนาผเู้ รียน ครูไดด้ าเนนิ งานตาม MOU และ วPA

การประเมนิ ผลการพฒั นางานตามขอ้ ตกลง (PA) ใหค้ ณะกรรมการประเมนิ ประเมนิ ผลการพัฒนางานตามข้อตกลงของข้าราชการครู ตามระดบั การปฏบิ ัติ ทีค่ าดหวังของตาแหนง่ และวิทยาฐานะท่ี ก.ค.ศ. กาหนดในแบบประเมินนี้ โดยการประเมินผลการพฒั นางานตามขอ้ ตกลง ใหด้ าเนินการประเมนิ ตามองค์ประกอบท่กี าหนด 1. องค์ประกอบการประเมิน มี 2 สว่ น ดังนี้ สว่ นที่ 1 ข้อตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตาแหน่ง (คะแนนเต็ม 60 คะแนน) ประกอบดว้ ย 1) การปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานตาแหน่งครู และมีภาระงานตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด 2) ผลการปฏบิ ตั งิ านตามมาตรฐานตาแหนง่ ครู เป็นการประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานตามหนา้ ท่ี และความรบั ผดิ ชอบของตาแหนง่ ครู ตามทกี่ าหนดไว้ในมาตรฐานตาแหนง่ ทั้ง 3 ดา้ น จานวน 15 ตวั ชว้ี ดั ดังนี้ ดา้ นท่ี 1 ดา้ นการจดั การเรียนรู้ จานวน 8 ตัวชว้ี ดั ด้านที่ 2 ดา้ นการส่งเสรมิ และสนบั สนุนการจดั การเรยี นรู้ จานวน 4 ตวั ชี้วัด ด้านท่ี 3 ดา้ นการพฒั นาตนเองและวิชาชีพ จานวน 3 ตวั ช้วี ัด ส่วนท่ี 2ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานทเ่ี สนอเป็นประเดน็ ทา้ ทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ ของผูเ้ รียน (คะแนนเตม็ 40 คะแนน)

ใบงานที่ 7 กจิ กรรมรายวเิ คราะหต์ นเองตามสมรรถนะครู ชอ่ื -สกลุ นายศริ สั ฐพิ งศ์ ตอ๊ ดแก้ว รหสั นักศกึ ษา 6412106030 สาขาวิชา คณติ ศาสตร์ ชอ่ื อาจารยน์ ิเทศ รศ.ดร. ภคั พล ปรชี าศิลป์ ชื่อครพู ่เี ลย้ี ง นางศศมิ า อูปทอง ชื่อโรงเรียนทอ่ี อกปฏบิ ัตกิ ารสอน โรงเรียนวดั คลองมะเกลือ สมรรถนะ ตัวบ่งช้ี รายงานพฤติกรรมของ นกั ศกึ ษา 1. การม่งุ ผลสัมฤทธ์ิ ในการ 1.1 ความสามารถในการวางแผน การกาหนดเปา้ หมาย มคี วามมานะอดทน ปฏบิ ัตงิ าน (Working การวเิ คราะห์ สังเคราะหภ์ ารกิจงาน ขยนั หมัน่ เพยี รในการ Achievement Motivation) ทางาน และตรงต่อเวลา 1.2 ความม่งุ มน่ั ในการปฏิบตั หิ นา้ ที่ ใหม้ คี ณุ ภาพ ถูกตอ้ ง ตัง้ ใจ และพากเพยี ร ครบถว้ นสมบรู ณ พยายามทางานในหนา้ ท่ี และในสว่ นของตนใหด้ ี ตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย 1.3 ความสามารถในการตดิ ตามประเมิน ผลการปฏิบตั ิงาน แสดงความประสงค์หรอื ข้อคดิ เห็นเพื่อปรบั ปรงุ และพฒั นางานของตนใหด้ ี ยง่ิ ๆข้นึ ไป 1.4 ความสามารถในการพฒั นา การปฏิบตั งิ านใหม้ ี ทางานได้ผลงานตาม ประสทิ ธภิ าพอยา่ ง ตอ่ เน่อื งเพอ่ื ให้งานประสบความสาเรจ็ เป้าหมายทผ่ี ู้บงั คบั บัญชา กาหนด หรือเป้าหมายของ หนว่ ยงานทีร่ ับผดิ ชอบ 2. การบรกิ ารทีด่ ี (Service 2.1 ความตั้งใจและเต็มใจใน การให้บริการ กาหนดมาตรฐาน หรือ Mind) เป้าหมายในการท างาน เพอ่ื ใหไ้ ด้ผลงานท่ีดตี าม มาตรฐานขององคก์ ร 2.2 การปรบั ปรงุ ระบบบรกิ ารให้มี ประสทิ ธภิ าพ ปรับปรุงวิธีการท่ีทาให้ ทางานไดด้ ีข้นึ เรว็ ขึ้น มี คุณภาพดขี น้ึ หรือมี ประสทิ ธภิ าพมากขึ้น 3. การพฒั นาตนเอง (Self- 3.1 การศึกษาคน้ คว้าหาความรู้ ตดิ ตาม องค์ความร้ใู หมๆ่ หม่นั ติดตามผลงาน และ Development) ทางวิชาการและวิชาชีพ ประเมนิ ผลงานของตน

3.2 การสรา้ งองค์ความร้แู ละนวตั กรรมใน การพัฒนา เพอ่ื ใหไ้ ดง้ านท่มี คี ณุ ภาพ องค์กรและวิชาชีพ ตามมาตรฐานขององคก์ ร 3.2 การแลกเปลยี่ นความคดิ เห็น และสร้าง เครือข่าย ยงั ไม่ปรากฏ 3. การทางานเป็นทมี (Team 4.1 การให้ความรว่ มมอื ชว่ ยเหลอื และ สนับสนุน เสนอหรือทดลองวธิ ีการ Work) เพ่อื นร่วมงาน ทางานแบบใหม่ ยงั ไม่ปรากฏ 4.2 การเสรมิ แรงใหก้ าลงั ใจเพอ่ื นรว่ มงาน 4.3 การปรบั ตัวเขา้ กับกลุ่มคนหรอื สถานการณ์ ยังไมป่ รากฏ ที่หลากหลาย สามารถปรับเขา้ กับองค์กร 4.5 การเขา้ ไปมสี ว่ นร่วมกบั ผ้อู ื่นใน การพัฒนาการจดั และบคุ ลากรในองค์กร การศกึ ษาใหบ้ รรลุ ผลสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย เสนอหรือทดลองวิธีการ ทางานแบบใหมท่ ม่ี ี 5. จริยธรรม และ 1. ความรักและศรทั ธาในวชิ าชพี ประสิทธภิ าพมากกว่าเดิม จรรยาบรรณวิชาชีพครู 2. มวี นิ ัย และความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชพี เพอ่ื ใหไ้ ด้ผลงานตามที่ (Teacher’s Ethics and กาหนดไว้ Integrity) ครูต้องรกั และศรทั ธาใน วิชาชพี ครแู ละเป็นสมาชิก 3. การประพฤติปฏบิ ตั ติ น เป็นแบบอยา่ งที่ดี ท่ีดีต่อองค์กรวิชาชพี ครุ เข้าองคก์ รก่อนเวลา และ รับผดิ ชอบหนา้ ทที่ ไ่ี ด้รับ หมอบหมาย แตง่ กายเรยี บรอ้ ย พดู จา ไพเราะ

ใบงานที่ 8 สรุปองคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากประสบการณ์เรยี นร้ใู นสถานศกึ ษา ชอ่ื -สกุล นาย ศริ ัสฐพิ งศ์ ต๊อดแกว้ รหสั นักศกึ ษา 6412106030 สาขาวชิ า คณติ ศาสตร์ ช่อื อาจารยน์ ิเทศ รศ.ดร. ภคั พล ปรีชาศิลป์ ชือ่ ครพู เี่ ลยี้ ง นางศศิมา อูปทอง ช่ือโรงเรยี นทอ่ี อกปฏบิ ัติการสอน โรงเรียนวดั คลองมะเกลือ 1. ถอดบทเรยี นจากการสังเกตการเรยี นรู้จากการทไี่ ดไ้ ปสังเกตการสอนของครูพี่เลย้ี งโรงเรยี นวัดคลองมะเกลอื ได้ บทเรียนที่ได้รบั สงิ่ ทเ่ี รยี นรู้จากสาเหตุทที่ าใหเ้ กดิ ความแตกตา่ งทีพ่ บ การแก้ปัญหาทเ่ี กดิ ขนึ้ ระหวา่ งการทางาน วธิ ีการเติมช่องวา่ งจากสิง่ ทีค่ าดว่าจะไดร้ ับกบั ผลที่ได้รบั ตอบ บทเรยี นท่ีไดร้ ับจากการทางานคอื สง่ิ ที่คาดวา่ จะได้รับ คอื การทานทิ านเป็นเล่มจะต้องเปน็ รปู เลม่ ท่ีสวยงามและการสง่ งานตรงตอ่ เวลาและการนาไปสอนก็จะเป็นไปตาม กระบวนการสอนและเด็ก ผปู้ กครอง และชุมชนให้ความรว่ มมอื เป็นอย่างดแี ต่ผลทไ่ี ด้รบั คือในการทารปู เล่มนทิ าน อาจไม่คอ่ ยจะสมบูรณแ์ ละการทางานคือภาระงานมนั มีมากไม่ใช้จะมีแตง่ านทเี่ รียนและเป็นการจดั ทาการจดั ประสบการณเ์ รยี นการสอนตรงกบั ชว่ งเดก็ ปิดเทอมจงึ ทาใหง้ านติดขัดและการทางานทกุ อย่างไมส่ มบรู ณว์ ิธกี ารเติม ชอ่ งว่างคือการตามเด็กๆและบอกเหตุผลให้ผปู้ กครองให้เข้าใจในการจัดประสบการณ์ 2. สังเคราะห์องคค์ วามรทู้ นี่ กั ศึกษาไดร้ ับ 1) การสอนโดยใช้เทคนคิ การสอนแบบการมสี ว่ นร่วมและการทางานเปน็ ทีม สามารถพัฒนา ความสามารถทางการเรยี นรดู้ า้ นการปฏบิ ตั ิการของนกั ศึกษาไดด้ ีขนึ้ เพราะนักศกึ ษาไดม้ สี ว่ นร่วมใน การวเิ คราะห์ เน้ือหา เพ่ือพิจารณาบทปฏบิ ตั กิ ารทเ่ี หมาะสม 2) นักศกึ ษาไดร้ ว่ มวางแผนเพื่อเตรียมการปฏิบตั กิ าร การอธิบาย สาธิตการปฏิบัตกิ าร ตลอดจนการ ดแู ลเพือ่ น นกั ศกึ ษาในช้นั เรียนเก่ยี วกบั การปฏบิ ตั ิการ ทาใหน้ กั ศกึ ษาเกิดการเรยี นรู้ เกดิ ความเข้าใจดว้ ยตนเอง 3) บรรยากาศในช้นั เรียนเป็นไปอย่างสนกุ สนาน นกั ศึกษาไมเ่ กดิ ความเบ่อื หนา่ ย และการสอนโดยใช้ เทคนิคการ สอนแบบการมสี ่วนรว่ มและการทางานเปน็ ทีมยังสามารถชว่ ยเรา้ กระตุ้นความสนใจตอ่ การเรียนของ นกั ศกึ ษาไดเ้ ปน็ อยา่ งดี 4) กระบวนการสอนแบบมีสว่ นร่วมและการทางานเป็นทมี เป็นสอื่ การเรยี นการสอนทส่ี ามารรถสง่ เสรมิ ใหน้ กั ศึกษาสามารถเรยี นร้ไู ดเ้ องตามศักยภาพของแตล่ ะคน 3. การนาผลองค์ความรู้ทไ่ี ดร้ บั มาประยกุ ตใ์ ช้ จากการที่ได้ไปสังเกตการสอนและไดล้ องสอนหนังนักเรยี นไดร้ บั คาแนะนาจากครปู ระจาชั้นเรื่องการสอนการทางาน การทาความเข้าใจเก่ยี วกับนักเรยี นไปปรบั ใช้ในการสังเกตการสอนครงั้ ตอ่ ไปเพื่อพัฒนาตนเองใหเ้ ป็นครูทีส่ มบรู ณ์ แบบทีส่ ดุ เพื่อใหเ้ กดิ ข้อผิดพลาดนอ้ ยทีส่ ุดในการสอนนักเรียน