Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความรู้เกี่ยวกับรัฐศาสตร์

ความรู้เกี่ยวกับรัฐศาสตร์

Published by supannee.baid, 2020-10-07 10:22:24

Description: ความรู้เกี่ยวกับรัฐศาสตร์

Search

Read the Text Version

ความรู้เกยี+ วกบั รัฐศาสตร์ เร$ือง …การจดั การองค์การ

ความหมายของการจดั การองค์การ • ธงชัย สันตวิ งษ์ ( /012 : 41 ) กล่าวไว้ว่า การจดั องค์การ คือ การจดั ระเบยี บกจิ กรรมให้เป็ นกลุ่มก้อนเข้ารูป และการมอบหมาย งานให้คนปฏบิ ตั เิ พQอื ให้บรรลุผลสาํ เร็จตามวัตถุประสงค์ของงานทQตี งัV ไว้ การจดั องค์การจะเป็ นกระบวนการทQเี กQียวกับการจดั ระเบยี บความรับผิดชอบต่างๆ ทงัV นีเV พQอื ให้ทกุ คนต่างฝ่ ายต่างทราบว่า ใครต้องทาํ อะไร และใครหรือกจิ กรรมใดต้องสัมพนั ธ์กับ ฝ่ ายอQืนๆอย่างไรบ้าง สมคดิ บางโม ( /01Z : [\\ ) กล่าวไว้ว่า การจดั องค์การ หมายถงึ การจดั แบ่งองค์การออกเป็ นหน่วยงานย่อยๆให้ครอบคลุม ภารกจิ และหน้าทQขี ององค์การ พร้อมกาํ หนดอาํ นาจหน้าทQแี ละความสัมพนั ธ์กับองค์กรย่อยอQืนๆไว้ด้วย ทงัV นีV เพQอื อาํ นวยความ สะดวกในการบริหารให้บรรลุเป้าหมายขององค์การ สรุปได้ว่า การจดั องค์การ หมายถงึ การจดั ระบบความสัมพนั ธ์ระหว่างส่วนงานต่างๆ และบุคคลในองค์การ โดยกาํ หนดภารกจิ อาํ นาจหน้าทQแี ละความรับผิดชอบให้ชัดแจ้ง เพQอื ให้การดาํ เนินงานตามภารกจิ ขององค์การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย อย่างมีประสทิ ธิภาพ

ทฤษฎอี งค์การ • ทฤษฎอี งค์การอาจแบ่งได้เป็ น 9 ทฤษฎดี ้วยกนั คือ 1. ทฤษฎดี ?งั เดมิ (Classical organization theory) 2. ทฤษฎสี มยั ใหม่ (Neo-Classical organization theory) 3. ทฤษฎสี มยั ปัจจุบัน (Modern organization theory)

• ทฤษฎีดงั( เดมิ แนวความคดิ ทฤษฎีดงั( เดมิ ได้ววิ ัฒนาการจากการปกครองแบบทหาร จนมาถงึ ปลายศตวรรษทCี DE ได้นักบริหารสร้างรูปแบบการบริหารในระบบราชการขนึ( คือ แมควีเบอร์ และการสร้างรูปแบบการบริหาร โดยใช้การจดั การทางวทิ ยาศาสตร์ คือ เฟรดเดอริค เทย์เล่อร์ ทฤษฎีนีม( ีหลักการว่า\" คนเป็ นเครCืองมือทCที าํ ให้องค์การ ไปสู่จุดหมายปลายทางได้\"

ประเภทขององคก์ าร § องค์การแบบเป็ นทางการ (formal organization) เป็ นองค์การท2มี ีการจดั โครงสร้างอย่างเป็ น ระเบยี บแบบแผนแน่นอน การจดั ตงั? มีกฎหมายรองรับ บางแห่งเรียกว่า องค์การรูปนัย ได้แก่ บริษัท มูลนิธิ หน่วยราชการ กรม โรงพยาบาล โรงเรียน ฯลฯ ซ2งึ การศกึ ษาเร2ืององค์การและการจดั การจะเป็ นการศกึ ษา ในเร2ืองขององค์การประเภทนีท? งั? สิน? § องค์การแบบไม่เป็ นทางการ (informal organization) เป็ นองค์การท2รี วมกันหรือจดั ตงั? ขนึ? ด้วยความพงึ พอใจและมีความสัมพนั ธ์กันเป็ นส่วนตวั ไม่มีการจดั ระเบยี บโครงสร้างภายใน มีการรวมตวั กัน อย่างง่ายๆ และเลกิ ล้มได้ง่าย องค์การแบบนีเ? รียกว่า องค์การอรูปนัย หรือ องค์การนอกแบบ เช่น ชมรม ต่างๆหรือกลุ่มต่างๆ อาจเป็ นการรวมกลุ่มกันตามความสมัครใจของสมาชกิ กลุ่ม ซ2งึ เน2ืองมาจากรายได้ อาชีพ รสนิยม ศาสนา ประเพณี ตาํ แหน่งงาน ฯลฯ

การจดั โครงสร้างองค์การ • โครงสร้างองค์การตามหน้าท1กี ารงาน (Functional OrganizationStructure) หมายถงึ โครงสร้างท1จี ดั ตงั9 ขนึ9 โดยแบ่งไปตามประเภทหรือหน้าท1กี ารงาน เพ1อื แสดงให้เหน็ ว่าในแต่ละแผนกนัน9 มีหน้าท1ตี ้องกระทาํ อะไรบ้าง ซ1งึ ผลดกี ่อให้เกดิ การได้คนมีความสามารถทาํ งานในแผนกนัน9 ๆ ทงั9 ยังฝึ กบุคคลในแผนกนัน9 ๆ ให้มีความ เช1ียวชาญกับหน้าท1ขี องงานนัน9 อย่างลกึ ซงึ9 สาํ หรับฝ่ ายบริหารระดบั สูงนัน9 กเ็ ป็ นเพยี งแต่กาํ หนดนโยบายไว้กว้าง ๆ เพราะมีผู้เช1ียวชาญเฉพาะด้านคอยป้อนข้อมูลท1ถี กู ต้องให้พจิ ารณาตดั สนิ ใจและให้มีความผิดพลาดได้น้อย มาก อีกประการหน1ึงในแต่ละแผนกนัน9 เม1ือทกุ คนมีความเช1ียวชาญงานในหน้าท1ชี นิดเดยี วกัน ย่อมก่อให้เกดิ การประสานงานได้ง่ายเน1ืองจากแต่ละคนมีความสนใจในงานและใช้ภาษาเดยี วกัน ทาํ ให้สามารถสร้าง บรรยากาศการทาํ งานท1ดี ไี ด้ง่ายนอกจากนัน9 การบริหารงานกเ็ กดิ ความประหยัดด้วย เพราะแต่ละแผนกได้ใช้ ความเช1ียวชาญเฉพาะด้านสร้างผลติ ผลได้เตม็ เมด็ เตม็ หน่วย การใช้เคร1ืองจกั รและแรงงานกใ็ ช้ได้ผลคุ้มค่า

โครงสร้างการจดั องค์การ

• โครงสร้างองค์การตามสายงานหลัก หมายถงึ การจดั รูปแบบโครงสร้างให้มีสายงานหลัก และมีการบงั คับบญั ชาจากบนลงล่างลดห2นั เป็ นขัน? ๆ จะไม่มีการส2ังการแบบข้ามขัน? ตอนใน สายงาน ซ2งึ โครงสร้างแบบนีเ? หมาะสมสาํ หรับองค์การต่าง ๆ ท2ตี ้องการให้มีการขยายตวั ใน อนาคตได้ เพราะเพยี งแต่เพ2มิ เตมิ โครงสร้างในบางสายงานให้มีการควบคุมบงั คับบญั ชา ลดหล2ันลงไปอีกได้ การจดั องค์การแบบนี? อาจจะคาํ นึงถงึ สภาพของงานท2เี ป็ นจริง เช่น แบ่ง ตามลักษณะของผลติ ภณั ฑ์ หรือแบ่งตามอาณาเขต หรือแบ่งตามประเภทของลูกค้า หรือ แบ่งตามกระบวนการ ผลดขี องโครงสร้างแบบนีม? ีหลายประการ เช่น การจดั โครงสร้างด้วย รูปแบบท2เี ข้าใจง่าย การบงั คับบญั ชาตามสายงานเป็ นขัน? ตอน ฉะนัน? จุดใดท2มี ีการปฏบิ ตั งิ าน ล่าช้ากส็ ามารถตรวจสอบได้รวดเร็ว จากผู้บงั คับบญั ชาในระดบั นัน? ได้ง่าย นอกจากนัน? ผู้ปฏบิ ตั งิ านได้คลุกคลีกับสภาพของปัญหาท2เี ป็ นจริงและเกดิ ขนึ? เสมอ ทาํ ให้การตดั สนิ ใจต่าง ๆ มีข้อมูลท2แี น่นอน และสามารถตดั สนิ ใจได้ถกู ต้องรวดเร็ว



• โครงสร้างองค์การแบบคณะท1ปี รึกษา • (Staff Organization Structure) หมายถงึ การจดั โครงสร้างโดยการให้มีท1ี ปรึกษาเข้ามาช่วยการบริหารงาน เช่น ท1ปี รึกษานายก ฯ ท1ปี รึกษาผู้ว่าฯ กทม. เป็ นต้น เพราะว่าท1ปี รึกษามีความรู้ ความชาํ นาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ซ1งึ ต้องอาศัยผู้เช1ียวชาญมาช่วยหรือคอยแนะนํา ทาํ ให้องค์การมองเหน็ ความสาํ คัญของการ มีท1ปี รึกษาขนึT อย่างไรกต็ าม พวกท1ปี รึกษาไม่มีอาํ นาจในการส1ังการใด ๆ นอกจากคอยป้อน ข้อมูลให้ผู้บริหารเป็ นผู้ชีขT าดอีกชันT หน1ึง ซ1งึ การจดั องค์การรูปแบบนีมT ีผลดคี ือ ทาํ ให้การ ดาํ เนินงานต่าง ๆ มีการวางแผนและประเมนิ สถานการณ์ล่วงหน้าได้ มีท1ปี รึกษาคอยให้ ความกระจ่างและประสานงานกับหน่วยงานอ1ืนๆ และทาํ ให้การทาํ งานใช้หลักเหตุและผล มากขนึ T

• โครงสร้างองค์การงานอนุกร (Auxiliary) คือหน่วยงานช่วย บางทเี รียกว่าหน่วยงานแม่บ้าน (House-keeping agency) ซ=งึ เป็ นงานเก=ียวกับธุรการ และอาํ นวยความสะดวก เช่น งานเลขานุการ และงานตรวจสอบภายใน เป็ นต้น

• โครงสร้างองค์การแบบคณะกรรมการบริหาร • (Committees Organization Structure) หมายถงึ การจดั โครงสร้าง องค์การโดยให้มีการบริหารงานในลักษณะคณะกรรมการ เช่น คณะกรรมการบริหารงานรถไฟ แห่งประเทศไทย คระกรรมการ อสมท. และคณะกรรมการบริหารบริษัทเจริญโภคภณั ฑ์ เป็ น ต้น การบริหารงานองค์การโดยให้มีคณะกรรมการบริหารเช่นนีM ผลดจี ะช่วยขจดั ปัญหา การ บริหารงานแบบผูกขาดของคน ๆ เดยี ว หรือการใช้แบบเผดจ็ การเข้ามาบริหารงาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook