Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือความปลอดภัยในสถานศึกษา

คู่มือความปลอดภัยในสถานศึกษา

Published by ยิม ยิมยิม, 2022-05-31 09:37:11

Description: คู่มือความปลอดภัยในสถานศึกษา

Search

Read the Text Version

ก คำนำ คมู่ อื การดำเนินงานความปลอดภยั สถานศกึ ษาเล่มนี้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จัดทำขึ้นเพื่อให้ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอเมือง ใช้เป็น แนวทางในการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยสถานศึกษา โดยมีเป้าหมายให้นักเรียน ครูและบุคลากรทางการ ศึกษาได้รับการปกปอ้ ง ค้มุ ครอง ดแู ลช่วยเหลือ เยยี วยา มีความมน่ั คงและปลอดภัย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายความ ปลอดภัยของกระทรวงศึกษาธิการ โดยในคู่มือการดำเนนิ งานเลม่ น้ี ประกอบด้วย ความสำคัญและวัตถุประสงค์ ของความปลอดภัย สถานศึกษา องค์ความรู้ด้านความปลอดภัย การเสริมสร้างความปลอดภัย การติดต่อสื่อสาร และการกำกับ ติดตามและประเมินผลสถานศกึ ษาปลอดภยั ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาอธั ยาศยั อำเภอเมืองแมฮ่ ่องสอน หวังเปน็ อยา่ งยิง่ วา่ คู่มือเล่ม นี้จะอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ปฏิบัติได้เป็นอย่างดี ขอบคุณ คณะทำงานทกุ ท่านท่ีได้รว่ มกนั จดั ทำค่มู อื การดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษาเล่มนี้จนสำเร็จลลุ ว่ ง กศน.อำเภอเมืองแมฮ่ อ่ งสอน กุมภาพันธ์ 2565

สารบัญ ข เรอื่ ง หนา คำนำ ก สารบญั ข 1 บทที่ 1 บทนำ 1 1. ความสำคญั จำเป็นการดำเนนิ งานความปลอดภัยสถานศกึ ษา 2 2. วตั ถประสงค์ 2 2 3. เป้าหมาย 3 4. ตวั ชี้วดั ความสำเรจ็ 3 6 บทที่ 2 องค์ความรดู้ า้ นความปลอดภัย 12 1. นโยบายดานความปลอดภยั 12 2. กฎหมายท่เี กย่ี วของ 13 14 บทท่ี 3 การเสรมิ สรา้ งความปลอดภยั สถานศกึ ษา 15 1. ขอบขา่ ยความปลอดภัยสถานศึกษา 33 33 2. มาตรการความปลอดภยั สถานศึกษา 34 3. โครงสรา้ งการบรหิ ารจดั การความปลอดภัยสถานศึกษา 38 4. ขนั้ ตอนการดำเนนิ งานความปลอดภัยสถานศึกษา บทที่ 4 การติดต่อส่อื สาร 1. ช่องทางการตดิ ต่อสื่อสาร 2. หนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวขอ้ ง บทที่ 5 การกำกบั ตดิ ตามและประเมินผล บรรณานกุ รม รายช่อื คณะทำงาน

1 บทที่ 1 บทนำ 1. ความสำคัญจำเป็นการดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา ยุทธศาสตร์ชาติ ดา้ นที่ 1 การจดั การศกึ ษาเพอ่ื ความมัน่ คงของสังคมและประเทศชาติ มวี ัตถุประสงค์หลัก ในการเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตของคนทุกช่วงวัย จากภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรม และความรนุ แรงในรูปแบบต่างๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ภัยจากโรคอบุ ัติใหม่ และภัยจากไซเบอร์ เป็นตน้ แผนการศึกษาแหงชาติ (พ.ศ.2560–2579) จึงได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาที่เกิดจาก ความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีของโลกยุคศตวรรษที่ 21 เป็นพลวัตท่ีก่อใหเกิดความท้าทาย ในด้านการเปลี่ยนแปลงของบริบทเศรษฐกิจและสังคมโลก อันเนื่องจากการปฏิวัติดิจิทัล (Digital Revolution) ประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้ การติดกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ทัศนคติ ความเชื่อ ค่านิยม วัฒนธรรม และพฤติกรรมของประชากรที่ปรับเปลีย่ นไปตามกระแสโลกาภิวัตน์ เป็นผลใหเกิด การเร่งแก้ไขปัญหา ทั้งยังเกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงรูปแบบใหม่ที่ส่งผลระทบตอประชาชนและประเทศชาติ มีความซับซอนและรนุ แรงมากขึ้น ซึ่งภัยในแต่ละด้านล้วนมีความสำคัญตอการพัฒนาประเทศกอปรกับนโยบาย Quick Win 7 วาระเรง่ ดว่ น ขอที่ 1 ความปลอดภัยของผู้เรยี น กระทรวงศึกษาธกิ ารมองเห็นภัยที่เกิดแก่นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่เกิดขึ้นซ้ำและ ส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายและจิตใจฃ ท่ีผ่านมา เช่น ภัยจากการคุกคามทางเพศ ภัยจากการกลั่นแกล้งรังแก (Bully) รวมถึงภัยที่เกิดจากโรคอุบัติใหม่ ได้แก่ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เป็นผลให้เป็นอุปสรรคตอการเรียนรู และสวสั ดภิ าพชีวิตของนักเรียน ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา นโยบายและจุดเน้นของกระทรางศึกษาธิการ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่เน้นการจัด “การศึกษาเพื่อความปลอดภัย” ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ให้เป็นการศึกษามุ่งเน้นความปลอดภัยใน สถานศึกษา สง่ เสรมิ โอกาสทางการศึกษาทม่ี ีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นพัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และ สถานศึกษา จากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดสภาพแวดลอมท่ีเอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และอุบัติส่งเสริมความปลอดภัย สร้างความมั่นใจใหสังคม เพื่อคุ้มครองความ ปลอดภัยแก่นักเรยี น ครู และบุคลากรทางการศกึ ษา สงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เพือ่ ใหการปอ้ งกนั ดแู ล ช่วยเหลือ หรือเยียวยา และแก้ไขปัญหามคี วามเป็นเอกภาพ มีข้อมูลสารสนเทศท่ีเปน็ ระบบ สามารถแกไ้ ขปญั หาและบริหาร จดั การความเสี่ยงได้อย่างยั่งยนื ด้วยการบริหารจัดการตามมาตรการ 3 ป ได้แก่ ปองกนั ปลกู ฝง และปราบปราม ใหเกิดความปลอดภัยใหมากท่ีสุด และไม่ให้เกิดเหตุการณนัน้ ซำ้ อีก เพื่อสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นให้แก่ นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ในการที่จะได้เรียนรู้ อย่างมีคุณภาพ และเกิดความปลอดภัยอย่างมัน่ คงและยั่งยนื เพื่อใหแนวทางการปฏบิ ัติสอดคลองและเป็นระบบ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้จัดทำคู่มือการดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการสร้าง ความปลอดภัยในเกิดแก่นักศึกษาเป็นสำคัญ เพราะความปลอดภัยเป็นปัจจัย ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพ และการเรียนรู้ของนักศึกษาและผูร้ บั บรกิ าร

2 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการดำเนนิ งานความปลอดภัยสถานศกึ ษา 2.2 เพือ่ สรา้ งความเขม้ แข็งการดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา 2.3 เพอ่ื ดำเนนิ งานความปลอดภัยสถานศึกษาอยา่ งเป็นระบบ 2.4 เพื่อรายงานการดำเนนิ การดานความปลอดภัยตอ่ หนว่ ยงานตนสงั กัด ๓. เป้าหมาย ๓.1 สถานศกึ ษามีแผนความปลอดภยั ตามบรบิ ทของสถานศึกษา ๓.2 สถานศึกษามีการปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ ในการเสริมสร้างความปลอดภัยสถานศึกษาเพื่อการพัฒนา อย่างยงั่ ยนื ๓.3 นักศกึ ษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ไดร้ บั ความคุ้มครองดแู ลให้มคี วามปลอดภัย ๓.4 สถานศึกษากับหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วม ในการดำเนินงานดา้ นความปลอดภัยสถานศึกษา ๔. ตวั ชี้วดั ความสำเร็จ ๔.๑ สถานศกึ ษาทุกแหง่ มีแผนความปลอดภัยตามบริบทของสถานศึกษา ๔.๒ ร้อยละ 80 ของสถานศึกษามีการปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ ในการเสริมสร้างความปลอดภัยสถานศึกษา เพือ่ การพฒั นาอยา่ งย่ังยนื ๔.๓ นักศกึ ษา ครู และบคุ ลากรทางการศึกษาทกุ คน ได้รบั ความคุ้มครองดแู ลให้มคี วามปลอดภัย 4.4 ร้อยละความร่วมมือในสถานศึกษากับหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ ง และภาคีเครือข่าย มีสว่ นร่วมในการดำเนนิ งานดานความปลอดภยั สถานศกึ ษา

3 บทท่ี 2 องคค์ วามรดู้ ้านความปลอดภยั การศึกษามีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ในฐานะท่ีเป็นกระบวนการหนึ่งที่มีบทบาทโดยตรง ต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการและทิศทางของประเทศ การศึกษา จึงหมายถึงการพัฒนาบุคคลให้มีความเจริญงอกงามทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม การสร้างความปลอดภัยให้แก่นักศึกษา เป็นสิ่งสำคัญ เพราะความปลอดภัยเป็นปัจจัยที่ส่งผลระทบโดยตรง ต่อคุณภาพการเรียนรู้ของนักศึกษา การพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าประสงค์ขึ้นอยู่กับ ความสขุ และการมชี ีวติ ที่ปลอดภยั ทงั้ ภายในและภายนอกสถานศึกษา สามารถป้องกันหรอื ได้รับการปอ้ งกันตนเอง จากปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ มีความรู้ ความเข้าใจ จิตสำนึก และเจตคติที่ดี และมีทักษะในการป้องกันภัย สามารถหรือได้รับการแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนั้น จึงเป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ที่จะต้องมี แนวนโยบายสถานศึกษาปลอดภัยใหเ้ กดิ ขน้ึ 1. นโยบายดานความปลอดภัย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ได้กำหนดแนวทางการ บริหารจัดการเพื่อลดความเสี่ยงด้านภัยพิบัติ เพื่อใหเกิดความสียหายน้อยที่สุด และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน มีรายละเอยี ด ดังนี้ 1. บรู ณาการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเข้าสู่ กระบวนการวางแผน ทง้ั ระดบั ชาติ ระดบั ชมุ ชนท้องถ่ิน และสาขาการผลิตต่างๆ พัฒนาองค์ความรู้ สนับสนุนการประเมนิ และจัดทำแผนทคี่ วามเส่ียงจากภัยพิบัติในพื้นท่ี และภาคการผลติ ทม่ี ีลำดับความสำคัญสงู 2. เสริมสร้างขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อม แลการรับมือภัยพิบัติ สนับสนุนการจัดทำแผน รับมือภัยพิบัติในระดับพื้นที่ ส่งเสริมแนวทางการจัดการภัยพิบัติโดยมีชุมชนเป็นกลาง ส่งเสริมภาคเอกชน ในการจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยสาธารณะ ส่งเสริมบทบาท ของภาคเอกชนและชุมชนทองถิน่ ในการร่วมกนั ดำเนินการป้องกนั และลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ัติ 3. พฒั นาระบบการจดั การภัยพิบัติในภาวะฉุกเฉิน พฒั นาระบบการเตอื นภยั ให้มีความแมน่ ยำ น่าเช่ือถือ และมปี ระสิทธิภาพ สงเสรมิ กลไกการเขาถึงขอ้ มลู ข่าวสาร ผ่านเทคโนโลยี พัฒนาระบบฐานข้อมลู ให้เปน็ มาตรฐาน เดียวกนั และสามารถเชื่อมโยง แลกเปล่ียนข้อมลู ระหว่างหน่วยงานท้งั ในและต่างประเทศได้ พัฒนากลไกบรู ณาการ ความร่วมมอื ทกุ ภาคสว่ นเพ่ือเพิม่ ศกั ยภาพการจดั การภัยพิบัตใิ นภาวะฉกุ เฉนิ 4. พัฒนาระบบการฟื้นฟู บูรณะหลังการเกิดภัย ใหสามารถตอบสนอต่อความต้องการของผู้ประสบภัย ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยภายหลังการเกิดภัยพิบัติ และปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภยั ของสง่ิ ก่อสร้างและโครงสร้างพน้ื ฐาน รวมถงึ พฒั นามาตรฐานความปลอดภัย ของโครงสร้าง แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการศึกษาภายใต้ 6 ยทุ ธศาสตร์หลกั ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ป (พ.ศ. 2561 – 2580) เพอื่ ใหแ้ ผนการศึกษาแห่งชาติ

4 บรรลุเป้าหมายตามจุดมุ่งหมาย วิสัยทัศน์ และแนวคิดการจัดการการศึกษา โดยได้กำหนดใน ยุทธศาสตร์ที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ ปัจจุบันภัยคุกคามต่อความมั่นคงรูปแบบใหม่ ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ ประชาชนและประเทศชาติมีความซับซอ้ นและรนุ แรงมากขึน้ อาทิ ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ภัยจากโรคอุบัติใหม่ ภัยจากไซเบอร์ เป็นต้น ความมั่นคงของชาติ จึงมิได้ ครอบคลุมเฉพาะมิติด้านการทหารหรืออำนาจอธิปไตยเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมมิติต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม วิถีชีวิต วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฯลฯ ซึ่งในแต่ละมิติล้วนมคี วามสำคัญต่อการพัฒนาประเทศการ ป้องกันคุกคามเหลานี้จะตองพิจารณาในมิติที่มีความเชื่อมโยงกัน และการดำเนินการเพื่อวางรากฐาน และกลไกการสร้างความมั่นคงเพื่อปองกันและปองปรามภัยเหลานี้นั้นจะต้องเริ่มที่กระบวนการจัดการศึกษา ของประเทศ การดูแลและป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรม ความรุนแรงในสังคม ในรูปแบบต่าง ๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ภัยจากโรคอุบตั ิใหม่ ภัยจากไซเบอร์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความ ปลอดภัยและความม่ันคงในชวี ิต ลดความเสีย่ งจากภัยคกุ คามต่างๆ ดังนั้น การจัดการศึกษาที่ครอบคลุมประเด็นหลักสำคัญทีม่ ีผลด้านความมั่นคงแก่คนในชาติ จะสงผลให้ ทุกคนมีจิตสำนึกความรู้ ความสามารถ ทักษะ ความคิด ทัศนคติ ความเชื่อค่านิยม และพฤติกรรมที่เหมาะสม รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมและโลกศตวรรษที่ ๒๑ สามารถดำรงชีวิอยู่ในสังคมอย่างสงบและสันติ อันจะสง่ ผลให้สังคมและประเทศเกิดความม่ันคงธำรงรักษาอธปิ ไตย และผ่านพ้นจากภัยคกุ คามต่างๆ ได้ ความเขาใจเกี่ยวกับกรอบความปลอดภัยรอบด้านในโรงเรียน (Comprehensive School Safety Framework : CSSF) ได้ปรากฏอยูใ่ น กรอบการดำเนินงานระดับโลก ทั้งที่เป็นกรอบความคิดรเิ ริม่ และขอตกลง หลายฉบับ CSSF ตั้งอยู่ใจกลางของกรอบการดำเนินงานที่ทับซ้อนกันหลายด้าน ได้แก่ เป้าหมาย การพัฒนา ที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Convention on the Rights of Persons with Disabilities: CRPD) การลดความเสีย่ งจากภยั พิบตั ิ (Disaster Risk Reduction : DRR) และSendai Framework for DRR โดยมีหลักการสำคัญ คือ การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็ก ซึ่งช่วยให้ ประชาคมโลกเกดิ ความชดั เจนถงึ ภัยคุกคามจากภัยธรรมชาติ ความขัดแยง้ ความรนุ แรงและการพลดั ถน่ิ

5 สามเสาหลักของความปลอดภยั รอบดา้ นในสถานศึกษา ความปลอดภยั รอบดา้ นในสถานศกึ ษา ซ่งึ อยู่ภายใต้นโยบายและการปฏิบัติด้านการศกึ ษา มีความสอดคล้อง กบั การบริหารจัดการภยั พิบัติ ในระดับสากล ระดบั ประเทศ ภมู ิภาค จงั หวดั และระดับพ้นื ที่ รวมท้ังในสถานศึกษา กรอบแนวคดิ ความปลอดภยั รอบดา้ นในสถานศกึ ษา ประกอบด้วยสามเสาหลกั (Three Pillars) ได้แก่ 1. ดา้ นอาคารสถานทแ่ี ละสิง่ อำนวยความสะดวกในสถานศึกษา (Safer Learning Facilities) 2. ด้านการบริหารจดั การภยั พบิ ัติในสถานศึกษา (School Disaster Management) 3. ด้านการศกึ ษาด้านการลดความเสี่ยงและการรับรปู้ รับตวั จากภยั พิบัติ (Risk Reduction and Resilience Education) รากฐานของการวางแผนสำหรับความปลอดภัยรอบด้านภายในสถานศึกษา คือการจัดทำการประเมิน ความเสี่ยงแบบภัยหลายชนิด การวางแผนนี้ควรเป็นส่วนหนึ่งของระบบขอมูลการจัดการการศึกษา ในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และในระดับพื้นที่ ข้อมูลเรื่องความเสี่ยงจากภัยพิบัติเป็นส่วนหน่ึง ของการวิเคราะห์นโยบายของภาคการศึกษาและการจัดการในภาพรวม จะให้ข้อมูลเชิงประจักษ์ และหลักฐาน ที่สำคัญ สำหรับการวางแผนและการดำเนินงานความปลอดภัยรอบด้านในสถานศึกษาและความสอดคลองกับ เ ป ้ า ห ม า ย ก า ร พั ฒ น า ท ี ่ ย ั ่ ง ย ื น ( Sustainable Development Goals) พ . ศ . 2 5 5 8 - 2 5 7 3 และกรอบการดำเนินงาน เพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ. 2558 – 2573 ผลสัมฤทธิ์ ของการบรู ณาการความปลอดภัยรอบด้านในสถานศกึ ษาเขาไปในกรอบการพฒั นาทยี่ งั่ ยืนและนโยบายและการลด ความเส่ียงภยั พบิ ัตเิ รอื่ งการลดความเสีย่ ง ได้แก่ 1) ปรับปรุงการเขาถงึ การศกึ ษาของผูเ้ รียนอยา่ งเท่าเทยี มไม่เลอื กปฏบิ ัติ และปลอดภัย 2) พัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบัน กลไกและเครือข่ายประสานงาน รวมทั้งศักยภาพ ระดับประเทศในการสร้างความสามารถในการรู้รับปรับตัวและฟื้นคืนกลับ (Resilience) จากภัยและอันตราย ท่ีอาจจะเกิดข้นึ แกภาคการศึกษาท้งั ในระดับนานาชาติ ระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดบั ท้องถ่ิน 3) บูรณาการแนวทางการลดความเสี่ยงเข้าไปในการดำเนินงานเกี่ยวกับการเตรียมพรอมรับภัยฉุกเฉิน การตอบสนองและการฟื้นฟูจากภัยพบิ ัตใิ นภาคการศกึ ษา 4) ติดตามและประเมินผลความก้าวหน้าของการดำเนินงานด้านการลดความเสี่ยงภัยพิบัติ และความขัดแย้ง

6 5) เพิม่ จำนวนและความสามารถในการเขา้ ถึงขอ้ มูลหลกั ฐานที่เก่ียวกบั ภัย เช่น ข้อมูลเก่ยี วกบั ระบบเตอื น ภัยลว่ งหนา้ สำหรับภยั หลายชนิด (multi-hazard early warning system) และขอ้ มลู เกย่ี วกับความเสีย่ งภัยพบิ ัติ 2. กฎหมายทเ่ี กีย่ วของ พระราชบัญญตั คิ ุม้ ครองเดก็ พ.ศ. 2546 สาระสำคญั พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 120 จอยมรา 95 ก วันท่ี 2 ตุลาคม 2546 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2547 สาระสำคัญของ พ.ร.บ. ฉบับนี้เกี่ยวกับ เรื่องสิทธิ เสรีภาพของเด็กและเยาวชนทีต่ ้องได้รับความคุ้มครองจากรัฐโดยไม่เลือกปฏิบัติและคำนึงถึงประโยชน์ สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ มีทั้งหมด 9 หมวด 88 มาตราด้วยกันแยกเป็น มาตร 1-6 อธิบายความหมายเก่ียวขอ้ ง กับ พ.ร.บ. ฉบบั น้ี มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญัตนิ ี้ “เด็ก” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะ ด้วยการสมรส “เด็กเร่ร่อน” หมายความวา่ เด็กท่ีไมม่ ีบิดามารดาหรือผู้ปกครองหรือมีแต่ไม่เล้ียงดูหรือไม่สามารถเล้ียงดูได้ จนเป็นเหตใุ ห้เดก็ ต้องเร่รอ่ นไปในทตี่ ่าง ๆ หรือเด็กท่ีมพี ฤติกรรมใช้ชวี ิตเร่ร่อนจนน่าจะเกิดอันตรายต่อสวัสดิภาพ ของตน “เด็กกำพร้า” หมายความว่า เด็กที่บิดาหรือมารดาเสียชีวิต เด็กที่ไม่ปรากฏบิดามารดาหรือไม่สามารถ สบื หาบิดามารดาได้ “เด็กที่อยู่ในสภาพยากลำบาก” หมายความว่า เด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจนหรือบิดามารดาหย่าร้าง ทงิ้ ร้าง ถกู คมุ ขงั หรือแยกกนั อย่แู ละไดร้ ับความลำบาก หรอื เดก็ ท่ีตอ้ งรับภาระหน้าทใี่ นครอบครัวเกินวัยหรือเกิน ความสามารถและสตปิ ัญญา หรือเด็กทไี่ มส่ ามารถชว่ ยเหลือตวั เองได้ “เด็กพิการ” หมายความว่า เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย สมอง สติปัญญาหรือจิตใจ ไม่ว่า ความบกพรอ่ งน้ันจะมีมาแตก่ ำเนิดหรอื เกิดขึน้ ภายหลัง “เดก็ ทีเ่ สี่ยงตอ่ การกระทำผดิ ” หมายความว่า เดก็ ท่ีประพฤติตนไมส่ มควรเดก็ ทป่ี ระกอบอาชพี หรือคบหา สมาคมกับบุคคลที่น่าจะชักนำไปในทางกระทำผิดกฎหมายหรือขัดต่อศลี ธรรมอนั ดีหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมหรือ สถานท่ีอันอาจชักนำไปในทางเสียหาย ทัง้ น้ี ตามท่ีกำหนดในกฏกระทรวง “นักเรียน” หมายความว่า เด็กซึ่งกำลังรับการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ทงั้ ประเภทสามญั ศกึ ษาและอาชวี ศกึ ษาหรอื เทยี บเท่าอยใู่ นสถานศกึ ษาของรัฐหรอื เอกชน “นักศึกษา” หมายความว่า เด็กซึ่งก าลังรับการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าอยู่ในสถานศึกษา ของรฐั หรือเอกชน “บดิ ามารดา” หมายความว่า บิดามารดาของเด็กไมว่ า่ จะสมรสกนั หรอื ไม่ “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดามารดา ผู้อนุบาล ผู้รับบุตรบุญธรรม และผู้ปกครอง ตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ และให้หมายความรวมถึงพ่อเล้ียงแม่เลี้ยง ผูป้ กครองสวัสดิภาพนายจ้าง ตลอดจนบคุ คลอื่น ซึง่ รับเด็กไวใ้ นความอปุ การะเล้ียงดหู รอื ซ่งึ เดก็ อาศัยอยู่ดว้ ย

7 “ครอบครวั อุปถมั ภ์” หมายความว่า บคุ คลท่ีรบั เด็กไว้อุปการะเลย้ี งดอู ย่างบุตร “การเลี้ยงดูโดยมิชอบ” หมายความว่า การไม่ให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนหรือพัฒนาเด็ก ตามมาตรฐานข้นั ตำที่กำหนดในกฎกระทรวง จนนา่ จะเกิดอนั ตรายแก่รา่ งกายหรือจติ ใจของเดก็ “ทารุณกรรม” หมายความว่า การกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใด ๆ จนเป็นเหตุให้ เดก็ เสือ่ มเสยี เสรภี าพหรอื เกิดอนั ตรายแก่รา่ งกายหรือจิตใจ การกระทำผิดทางเพศตอ่ เดก็ การใช้เดก็ ให้กระทำหรือ ประพฤติในลักษณะท่ีนา่ จะเปน็ อันตรายแกร่ ่างกายหรือจิตใจหรือขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี ทั้งนี้ ไม่ว่าเด็ก จะยนิ ยอมหรือไมก่ ็ตาม “สืบเสาะและพินจิ ” หมายความว่า การค้นหาและรวบรวมขอ้ เทจ็ จริงเกี่ยวกบั บคุ คลและนำมาวิเคราะห์ วินิจฉัยตามหลักวชิ าการทางสังคมสงเคราะห์ แพทย์จิตวิทยา กฎหมาย และหลักวชิ าการอ่ืนท่ีเกีย่ วขอ้ งกับบุคคล และครอบครวั ของบคุ คลนนั้ “สถานรับเลี้ยงเด็ก” หมายความว่า สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกินหกปีบริบูรณ์ และมจี ำนวนตง้ั แต่หกคนขนึ้ ไป ซง่ึ เด็กไม่เกีย่ วข้องเป็นญาตกิ ับเจ้าของหรือผู้ดำเนนิ การสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าว ท้ังน้ี ไมร่ วมถึงสถานพยาบาลหรือโรงเรียนท้ังของรัฐและเอกชน “สถานแรกรับ” หมายความว่า สถานที่รับเด็กไว้อุปการะเป็นการชั่วคราวเพื่อสืบเสาะและพินิจเด็ก และครอบครัว เพ่ือกำหนดแนวทางในการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดภิ าพท่เี หมาะสมแกเ่ ด็กแตล่ ะราย “สถานสงเคราะห์” หมายความว่า สถานที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กที่จำต้องได้รับ การสงเคราะห์ ซ่ึงมจี ำนวนต้งั แต่หกคนขึน้ ไป “สถานคมุ้ ครองสวสั ดภิ าพ” หมายความว่า สถานทใี่ หก้ ารศึกษา อบรม ฝึกอาชีพ เพือ่ แก้ไขความประพฤติ บำบดั รักษา และฟน้ื ฟสู มรรถภาพทั้งทางดา้ นร่างกายและจติ ใจแก่เด็กท่พี งึ ไดร้ ับการค้มุ ครองสวสั ดิภาพ “สถานพัฒนาและฟื้นฟู” หมายความว่า สถานที่ โรงเรียน สถาบัน หรือศูนย์ที่จัดขึ้นเพื่อให้ การบำบดั รกั ษา การฟนื้ ฟูสมรรถภาพทง้ั ทางดา้ นรา่ งกายและจิตใจ ตลอดจนการศึกษา แนะแนวและการฝกึ อบรม อาชพี แกเ่ ด็กทีจ่ ำตอ้ งได้รบั การสงเคราะหห์ รอื คุ้มครองสวัสดภิ าพเปน็ กรณีพเิ ศษ “สถานพินิจ” หมายความว่า สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกลาง สถานพินิจและคุ้มครองเดก็ และเยาวชนจังหวัด และสถานพินจิ และคุ้มครองเดก็ และเยาวชนของแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัด ซ่ึงจดั ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจัดตัง้ ศาลเยาวชนและครอบครัวและวธิ พี จิ ารณาคดีเยาวชนและครอบครวั “กองทุน” หมายความว่า กองทนุ คมุ้ ครองเดก็ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการคุ้มครองเดก็ แหง่ ชาติ “พนักงานเจา้ หน้าท่”ี หมายความวา่ ผ้ซู งึ่ รัฐมนตรแี ต่งต้งั ให้ปฏิบัตกิ ารตามพระราชบัญญตั ิน้ี “ผู้ว่าราชการจังหวัด” หมายความรวมถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย จากผู้วา่ ราชการจังหวดั “ปลัดกระทรวง” หมายความว่า ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหมายความรวมถงึ ผซู้ ึ่งไดร้ บั มอบหมาย

8 หมวด ๑ คณะกรรมการคมุ้ ครองเดก็ กำหนดใหมีการจัดตั้งคณะกรรมการคุมครองเด็กแหงชาติขึน้ มีอำนาจและหน้าที่ท่ีสำคัญคือการเสนอ ความเห็น ต่อรัฐมนตรี เก่ียวกับนโยบาย แผนงาน งบประมาณและมาตรการในการสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็กรวมถึงการให้คำปรึกษา แนะนํา และประสานงานแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชน ที่ด้านการศึกษา การสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพ และสงเสริมความประพฤติเด็ก นอกจากนี้ยังมีอำนาจ ตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ สถานพัฒนาและฟื้นฟู สถานพินจิ หรอื สถานที่ที่เกี่ยวของกบั การสงเคราะห์คมุ้ ครองสวัสดิภาพ และส่งเสรมิ ความประพฤติเด็กท้ังของรัฐ และเอกชน นอกจากนี้ยังได้กำหนดใหมีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานครและคณะกรรมการคุ้มครอง เด็กจังหวัด เพื่อกระจายการดูแลให้เป็นไปอย่างทั่วถึง โดยมีอำนาจ และหนาท่ีที่สำคัญ คือ เสนอความเห็นต่อ คณะกรรมการเกี่ยวกับนโยบาย แผนงาน งบประมาณและมาตรการในการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็ก การคำปรึกษา แนะนาํ และประสานงานกบั หนว่ ยงานของรัฐและเอกชนที่เกีย่ วข้อง การติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบการดําเนินงานเก่ียวกับการสงเคราะห์และส่งเสริมความประพฤติเด็กแลว้ รายงานผลตอ่ คณะกรรมการ หมวด ๒ การปฏบิ ัติต่อเดก็ การปฏบิ ัตติ อเดก็ ไม่วาในกรณีใดต้องคำนงึ ถึงประโยชน์งสุดของเด็กเปน็ สำคัญ และไมใ่ ห้มกี ารเลอื กปฏิบัติ โดยไม่เปน็ ธรรม และในพ.ร.บ. ฉบบั ดงั กลา่ วยงั ไม่ได้กำหนดหลกั เกณฑและวธิ กี ารในการปฏิบัติตอ่ เด็ก โดยสรุปสาระสำคญั ดังนี้ - ผูป้ กครองตอ้ งใหก้ ารอุปการะเล้ียงดู อบรมส่ังสอน และพฒั นาเด็กที่อยู่ในความปกครองตามสมควรแก่ ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่นรวมถึงการ คุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กมิให้เกิดอันตร าย แกก่ ายหรอื จิตใจ และผู้ปกครองต้องไม่ทอดทิ้งหรือละทิ้งเดก็ ไวหรือละเลยไม่ดูแลเด็ก - ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ี ตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้กำหนด มีหนาที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในเขตพื้นที่ รับผิดชอบ รวมถงึ ดูแลตรวจสอบสถานท่ตี ่างๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ งตามทกี่ ฎหมายกำหนด นอกจากนย้ี ังกำหนดมาตรการต่างๆ ทีส่ ำคญั เพ่ือคุม้ ครองเด็กทงั้ ทางดา้ นร่างกาย จิตใจ ช่อื เสยี ง หรือสิทธิ ประโนชน์ อื่นของเด็ก เช่น ห้ามบุคคลใดกระทำการอันเป็นการทารณุ กรรมเด็ก, ห้ามบุคคใดบังคับขู่เข็ญส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือเสี่ยงต่อการกระทำผิดในด้านต่างๆ เป็นต้น และเพื่อประโยชน์ ในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวนี้ จึงได้กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจและหน้าที่พิเศษ บางประการ เช่น อำนาจในการการตรวจค้นสถานที่ มีหนังสือเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ, เรียกให้ส่งเอกสาร หรอื หลกั ฐานตา่ งๆ เป็นตน้ หมวด ๓ การสงเคราะห์เด็ก ในหมวดนไ้ี ด้กำหนดลักษณะของเด็กท่ีพงึ ไดร้ บั การสงเคราะหไ์ ว้ และกำหนดหลกั เกณฑ์ วิธกี ารสงเคราะห์ เด็ก โดยการสงเคราะห์ในเบ้ืองต้นเป็นการกำหนดสถานท่ีอยู่ของเด็ก ซึ่งตอ้ งพจิ ารณาตามความเหมาะสม เพื่อให การชว่ ยเหลือสงเคราะห์พฒั นาและฟน้ื ฟตู ่อไป โดยตอ้ งมกี ารสืบเสาะและพินจิ เกีย่ วกับตวั เด็กและครอบครัวเพ่ือหา วิธกี ารสงเคราะห์ หรอื คุคมุ้ ครองสวัสดิภาพเด็กที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงประดนชนส์ ูงสุดของเดก็ เปน็ สำคัญ

9 หมวด ๔ การคุม้ ครองสวัสดิภาพเด็ก กำหนดลักษณะของเด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพโดยในกรณีมีการกระทำทารุณกรรมต่อเด็ก ให้เจ้าหน ้าที่ มีอำน าจแยกตัวเด็กจากคร อบคร ัว และ ต้อง รี บจัด ให มีการ ตร วจร ักษา ทาง ร ่าง กาย และ จ ิ ต ใ จ หลังจากนนั้ ตองจดั ใหเดก็ อยใู่ นสถานทีท่ ีเ่ หมาะสมเพอื่ หาวธิ ีการค้มุ ครองสวสั ดิภาพเดก็ ต่อไป สวนในกรณที ีพ่ บเห็น เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวเด็กและครอบครัว ถ้าเห็นว่าเด็ก จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ หรือเห็นว่าจำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์ ต้องได้รับการสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่ที่ต้องดำเนินการจัดให้มีการคุ้มครองสวัสดิภาพ หรือการสงเคราะห์ตอไป ในกรณีที่มอบตัวเด็ก ใหแกผ่ ปู้ กครองหรอื บคุ คลท่ียนิ ยอมรับเด็กไปปกครองดแู ล อาจมกี ารแตง่ ตัง้ ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพ แกเ่ ด็กและอาจมี การวางขอกำหนดเพ่อื ปองกนั มิใหเ้ ด็กมีความประพฤตเิ สียหายหรอื เส่ยี งตอ่ การกระทำผิด หมวด ๕ ผู้คมุ้ ครองสวัสดิภาพเดก็ กำหนดหลักเกณฑและวิธีการในการแต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเพื่อกำกับดูแลเด็ก โดยอาจแต่งต้ัง จากพนักงานเจ้าหน้าท่ี นักสังคมสงเคราะห์ หรือบุคคลที่สมัครใจและมีความเหมาะสม นอกจากนี้ยังได้ มีการกำหนดห้ามมิให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเปิดเผยภาพหรือข้อมูลใดๆเกี่ยวกับเด็กหรือผู้ปกครองในลักษณะที่น่าจะ เกดิ ความเสยี หายแกเ่ ด็กหรอื ผูป้ กครอง หมวด ๖ สถานรบั เลีย้ งเด็ก สถานแรกรบั สถานสงเคราะห์ สถานค้มุ ครองสวสั ดิภาพและสถานพฒั นาและฟื้นฟู กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคมุ้ ครองสวัสดิภาพและสถานพฒั นาและฟื้นฟู ใหเ้ จา้ เจ้าหนา้ ท่ที ่กี ำหนดไว้ทำหนา้ ท่ีกำกับ ดูแล และสง่ เสริม สนับสนุนการดำเนนิ งานของสถานท่ีดงั กล่าว นอกจากนี้ยังต้องมีผู้ปกครองสวัสดภิ าพเปน็ ผูป้ กครองดูแลและบังคับ บัญชา ซึ่งได้มีการกำหนดเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานแรกรับ, ผู้ปกครองสวัสดิภาพ ของสถานสงเคราะห,์ ผ้ปู กครองสวัสดิภาพของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพและผู้ปกครองสวัสดิภาพและสถานพัฒนา และฟ้ืนฟูโดยมงุ้ เน้นให้เด็กเปน็ ศูนยก์ ลาง หมวด ๗ การสงเสรมิ ความประพฤตนิ ักเรียนและนกั ศึกษา โรงเรยี นและสถานศึกษาตองจัดใหมรี ะบบงานและกจิ กรรมในการแนะแนวใหคำปรกึ ษาและฝึกอบรมแก่ นักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครองเพื่อสงเสริมความประพฤติที่เหมาะสม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความ ปลอดภัยแก่นกั เรียนและนกั ศกึ ษา และยังใหอ้ ำนาจแกเจ้าหนา้ ท่ีในการดำเนนิ การเพ่ือส่งเสริมความประพฤติของ นักเรียนและนักศึกษา เช่น การสอบถามครู อาจารยเกี่ยวกับความประพฤติของเด็ก, แนะนําหรือตักเตือน ผปู้ กครองเก่ียวกบั การดแู ลเดก็ และสอดส่องดแู ลพฤติกรรมของบุคคลหรือแหล่งชกั จูงเดก็ ใหประพฤติในทางมิชอบ เป็นตน้

10 หมวด ๘ กองทุนคุม้ ครองเด็ก ให้จัดตงั้ กองทนุ คุ้มครองเด็กเพือ่ เปน็ ทนุ ค่าใช้จ่ายในการสงเคราะห์ ค้มุ ครองสวสั ดิภาพ และสง่ เสริมความ ประพฤติเด็ก โดยมีคณะกรรมการบริหารกองทุนเป็นผู้บริหารจัดการกองทุน นอกจากนี้ยังกำหนดให้มี คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดําเนินงานของกองทุน ทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล การดําเนินงานของกองทุน แล้วรายงานผลการปฏบิ ตั ิงานพรอมทงั้ ขอเสนอแนะตอ่ คณะกรรมการ หมวด ๙ บทกำหนดโทษ กำหนดโทษทางอาญาแกบุคคลผู้กระทำการฝ่าฝนื บทบัญญตั ิตา่ งๆ ตามทพี่ .ร.บ.ฉบับนีไ้ ดก้ ำหนดไว้ ทง้ั น้ี เพ่อื ใหก้ ฎหมายฉบับน้ีใช้บังคบั ได้จริงและบรรลุผลตามความมุ่งหมายนน้ั เอง ๓. ผรู้ ักษาการตามกฎหมายและวนั บังคบั ใช้ ให้รัฐมนตรีวาการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และใหรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงมีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงหรือระเบียบเพื่อปฏิบัติการ ตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ ท้งั น้ี ในสว่ นที่เก่ียวกบั ราชการของกระทรวงนนั้ ระเบียบ กฎหมายความผิดเก่ยี วกบั ยาเสพติด การมีไว้ในครอบครอง เสพ และจำหน่ายสารเสพติดที่กฎหมายกำหนดห้ามไว้ เป็นความผิดตามกฎหมายไทย โดยความผิดดังกล่าวถือเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาและจะเป็นคดีให้ศาลอาญาพิจารณาต่อไป แต่อย่างไร ก็ตาม นักโทษคดียาเสพติดอาจได้รับการพิจารณาให้รับการรักษาในสถานบำบัดแทนการติดคุกก็ได้ สารเสพติด ให้โทษทที่ ำใหเ้ กิดความผดิ ตามทก่ี ฎหมายไทย มีการกำหนดไว้ 5 ประเภทด้วยกัน ดังตอ่ ไปน้ี ประเภทที่ 1 เฮโรอีน, แอมเฟตามนี , เมทแอมเฟตามนี (หรือยาบ้า, ยาไอซ)์ ผู้ท่กี ระทำความผดิ โดยการครอบครองเพ่อื เสพ หรือเสพสารเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภทที่ 1 นีม้ ีโทษตาม กฎหมายคอื โทษจำคุกอยา่ งสูง 10 ปแี ละโทษปรับสูงสดุ 200,000 บาท หรือทั้งจำท้งั ปรับและในกรณที ี่มกี าร ครอบครองสารเสพติดให้โทษในประเภทน้เี กินกว่า 20กรัม กฎหมายให้ถอื ว่าเป็นการครอบครองไวเ้ พื่อจำหน่าย ซึ่ง โทษข้นั สงู สดุ คือ ประหารชีวิต ประเภทท่ี 2 มอร์ฟีน, โคเคน, เคตามนี , โคดีน, ฝ่ิน, สารสกดั จากฝน่ิ , เมทธาโดน การครอบครองสารเสพติดในประเภทที่ 2 นี้อาจทำได้โดยถูกกฎหมายหากเป็นการครอบครอง เพ่อื วัตถปุ ระสงค์และในจำนวนท่กี ฎหมายกำหนดไว้ แต่ถ้าเปน็ การครอบครองทข่ี ดั ตอ่ ข้อกำหนดของกฎหมายแล้ว นน้ั ย่อมเป็นความผิด และมโี ทษคอื โทษจำคกุ ขั้นสูง 10 ปี หรือปรบั ไมเ่ กิน 100,000 บาท หรอื ท้ังจำทง้ั ปรับ

11 ประเภทที่ 3 วัตถทุ ที่ ำใหเ้ กดิ ความมึนเมา สารที่สกัดได้จากฝิ่น และสารทมี่ ีส่วนประกอบของสารเสพ ติดในประเภทที่ 2 ที่ใช้ในทางการแพทย์ อาจมีไว้ในครอบครองได้ตามกฎหมาย ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย เช่นกัน ประเภทท่ี 4 สารทใี่ ชป้ ระกอบเป็นสารเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภทท่ี 1 และประเภทท่ี 2 ผ้ทู ่มี ีไวใ้ นครอบครอง มีความผดิ โทษจำคุก 5 ปี และปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรอื ทัง้ จำท้ังปรับ ประเภทที่ 5 วัตถุที่ทำให้เกิดความมึนเมา สารเสพติดอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ใน 4 ประเภทก่อน ประกอบดว้ ย กัญชา และเห็ดเมา ผู้ครอบครอง หรือเสพสารเสพติดในประเภทนี้ มีความผิดและมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทงั้ จำทัง้ ปรบั ในประเทศไทยพระราชบญั ญตั ิ วตั ถทุ ่อี อกฤทธติ์ ่อจิตและประสาท และ พระราชบญั ญตั ยิ าเสพติดให้โทษ เป็นกฎหมายหลักสองฉบับที่กำหนดลักษณะการกระทำที่เป็นความผิดและโทษจากกการทำความผิดเกี่ยวกับ สารเสพติด รวมทั้งกำหนดตัวเจ้าหน้าที่ที่จะรับผิดชอบไว้โดยเฉพาะ แต่ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงกฎหมายสองฉบับนี้ เท่าน้ันในประเทศไทยยังมกี ฎหมายอนื่ ๆที่กำหนดโทษเรื่องยาเสพติดไวอ้ ีกดว้ ย

12 บทท่ี 3 การเสริมสรา้ งความปลอดภัยในสถานศกึ ษา 1. ขอบขา่ ยความปลอดภยั ของสถานศกึ ษา ขอบข่ายความปลอดภัยของสถานศึกษา 4 กลุ่มภัย ดังนี้ 1) ภัยที่เกดิ จากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ (Violence) 2) ภัยทเี่ กดิ จากอบุ ตั ิเหตุ ( Accident) 3) ภยั ท่ีเกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์ (Right) 4) ภัยท่ีเกิดจาก ผลกระทบทางสขุ ภาพทางกายและจติ ใจ (Unhealthiness) มีองค์ประกอบดงั น้ี 1.1 ภยั ทเ่ี กิดจากการใช้ความรุนแรงของมนษุ ย์ (Violence) 1) การล่วงละเมิดทางเพศ 2) การทะเลาะวิวาท 3) การกลน่ั แกลง้ รงั แก 4)การล่อลวงลักพาตวั 1.2 ภยั ที่เกิดจากอุบตั ิเหตุ ( Accident) 1) ภัยธรรมชาติ 2) ภัยจากอาคารเรียน สง่ิ กอ่ สรา้ ง 3) ภยั จากแล้วยานพาหนะ 4) ภัยจากการจัดกิจกรรม 5) ภัยจากเครอื่ งมืออปุ กรณ์ 6) ภยั จาการพานกั ศึกษาไปศึกษานอกสถานศกึ ษา 1.3 ภัยท่ีเกิดจากการถูกละเมิดสทิ ธ์ิ (Right) 1) การถกู ปลอ่ ยปละ ละเลย ทอดทิ้ง 2) การคกุ คามทางเพศ 3) การไม่ไดร้ ับความเป็นธรรมจากสงั คม 1.4 ภัยทเี่ กดิ จากผลกระทบทางสขุ ภาพทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) 1) ภาวะสุขภาพจิต 2) ติดเกม 3) ยาเสพติด 4) โรคระบาดในมนุษย์ 5) ภัยไซเบอร์ 6) การพนัน 7) มลภาวะเป็นพิษ

13 2. มาตรการความปลอดภัยสถานศกึ ษา มาตรฐานความปลอดภัยของสถานศึกษามุ่งเน้นให้เกิดความปลอดภัยต่อนักศึกษา ครู และบุคลากร ทางการศึกษาอย่างย่งั ยืน โดยเนน้ มาตรการทเี่ ข้มงวดในมาตรการ 3 ป ดังน้ี 2.1 การป้องกัน หมายถึง การดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา อุปสรรค หรือความไม่ปลอดภัย ต่อนักศึกษา ครู และ บุคลากรทางการศึกษา โดยการสร้างมาตรการป้องกันจากปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งใน และนอกสถานศกึ ษา ดงั น้ี 1) การประเมินปจั จัยเสี่ยงของสถานศึกษา 2) การกำหนดพ้ืนที่ความปลอดภยั 3) การจัดทำแผนความปลอดภยั สถานศกึ ษา 4) การจดั สภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศของสถานศึกษา 5) การจดั โครงสรา้ งบรหิ ารจดั การความปลอดภัยสถานศกึ ษา 6) การจดั โครงสร้างข้อมูลสารสนเทศความปลอดภัยสถานศกึ ษา 7) การสรา้ งการมีสว่ นรว่ มของสถานศกึ ษาและภาคีเครอื ข่าย 8) การจัดระบบชอ่ งทางการสือ่ สารดา้ นความปลอดภัยสถานศกึ ษา 9) การจัดระบบคัดกรองและดแู ลชว่ ยเหลอื นักศึกษา 2.2 การปลูกฝัง หมายถึง ดีๆการดำเนินการเกี่ยวกับการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ จิตสำนึก และเจตคตทิ ีด่ ี และการสรา้ งเสรมิ ประสบการณ์เพอ่ื ให้เกิดทักษะในการปอ้ งกนั ภัยใหแ้ ก่นกั ศกึ ษา ครู และบุคลากร ทางการศกึ ษา ดังนี้ 1) การสร้างจิตสำนึก ความตระหนกั การรับรู้ และความเข้าใจด้านความปลอดภัยให้กับตนเอง และผู้อ่นื 2) การจัดกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจ และพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัย ใหแ้ ก่นักศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา และผูป้ กครอง 3) การจัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะ ประสบการณ์ และสมรรถนะด้านความปลอดภัย ให้แกน่ กั ศกึ ษา 2.3 การปราบปราม หมายถึง การดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหา การช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู และดำเนินการตามขนั้ ตอนของกฎหมาย ได้แก่ 1) การจัดการแกไ้ ขปญั หาความไม่ปลอดภัยในสถานศกึ ษา 2) การชว่ ยเหลือ เยยี วยา ฟื้นฟู จิตใจบุคคลผ้ปู ระสบเหตุความไมป่ ลอดภัย 3) การดำเนินการตามขน้ั ตอนของกฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ ง มาตรการ 3 ป การปอ้ งกันหมายถงึ การดำเนินการเพ่ือไม่ให้เกิดปัญหา อุปสรรค หรือความไมป่ ลอดภัย ต่อนักศึกษา ครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา โดยการสรา้ งมาตรการป้องกันจากปจั จัยเสย่ี งที่อาจเกิดข้ึนท้งั ในและนอกสถานศึกษา

14 การปลูกฝัง หมายถึง การดำเนินการเกี่ยวกับการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ จิตสำนึก และเจตคติทีด่ ี และการเสริมสร้างเสริมประสบการณ์เพื่อให้เกิดทักษะในการป้องกันภัยให้แก่นักศึกษา ครู และบุคลากร ทางการศึกษา การปราบปราม หมายถงึ การดำเนินการจัดการแก้ไขปญั หา การช่วยเหลือ เยียวยา ฟ้ืนฟู และดำเนินการ ตามขน้ั ตอนของกฎหมาย 3. โครงสร้างการบริหารจัดการความปลอดภยั สถานศึกษา ผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ เครือขำ่ ยภำครฐั ภำคเอกชน คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ ภำคประชำชน และผปู้ กครอง รองผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ/ผทู้ ี่ ไดร้ บั มอบหมำย คณะทำงำนระดบั สถำนศึกษำ ขำ้ รำชกำรครู ครู กศน.ตำบล ครู ศรช. ครู ศศช. ครู ปวช. ครูอำสำสมคั รพนื้ รำบ 4. ข้ันตอนการดำเนนิ งานความปลอดภัยสถานศกึ ษา การดำเนนิ งานความปลอดภัยของสถานศกึ ษา มขี นั้ ตอนดังนี้ 4.1 การประเมนิ สภาพความเสีย่ งด้านความปลอดภัยและจดั อนั ดบั ความเส่ยี ง 4.2 การจัดทำแผนดำเนินการความปลอดภยั 4.3 การดำเนินการตามมาตรฐาน 4.4 การดำเนนิ การตามขอบข่ายความปลอดภัย 4.5 การกำกับ ตดิ ตาม และประเมนิ ผล

15 5.การวางแผนรกั ษาความปลอดภยั ของ กศน.อำเภอเมอื งแม่ฮอ่ งสอน แนวทางการวางแผนการรกั ษาความปลอดภัยให้แก่ นักศึกษา เนน้ การมีส่วนรว่ มระหว่างนักศกึ ษา ครู ผปู้ กครอง ชมุ ชน และเครือขา่ ย โดยร่วมกันวางแผนปอ้ งกนั แกไ้ ข ควบคุม กำกับ ติดตาม ประเมินผลและรายงาน จงึ จำเปน็ ตอ้ งมีมาตรการและกจิ กรรมเพ่อื ให้รบั ประโยชน์สงู สดุ ตามเจตนารมณข์ อง พระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษา แหง่ ชาติ พ.ศ.2542 และทแี่ ก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบบั ท่ี 2 ) พ.ศ.2545 และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 พร้อมทั้งนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธิการ ดงั น้ี • ศึกษาสภาพทว่ั ไปของ • มำตรกำรหลกั สถานศึกษา ชุมชน ความ • มำตรกำรเสรมิ เขม้ แขง็ ของเครือขา่ ยเ ศกึ ษำสภำพ กำหนด ท่วั ไป มำตรกำร กำหนดเวลำ กำหนด ผรู้ บั ผิดชอบ กจิ กรรม • กำหนดระยะเวลำและผุ้ • กำหนดกิจกรรมพฒั นำผเู้ รยี น รบั ผิดชอบท่สี ำมำรถ • กิจกรรมพฒั นำคณุ ภำพชีวติ ปฏบิ ตั ไิ ด้

16 มาตรการความปลอดภยั สถานศึกษา ใช้หลัก 3 ป ได้แก่ การป้องกัน ปลกู ฝัง และปราบปราม โดยมี รายละเอยี ดแนวทางการปฏบิ ัตแิ ละตัวชวี้ ัดดังน้ี 1. การป้องกัน ตาราง 1 การดำเนินการตามมาตรการการป้องกนั เพ่ือใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา การป้องกนั แนวทางการปฏิบตั ิ ตัวช้ีวัด 1) กำหนดพ้ืนทคี่ วามปลอดภัย 1.1 ประชุม ชี้แจง วางแผน สถานศกึ ษาทกุ แห่งมกี ารกำหนด การดำเนนิ งานดา้ นความปลอดภยั พนื้ ท่ีการควบคุมความปลอดภยั สถานศึกษารว่ มกับบุคลากร ภาคี ปา้ ยสัญลกั ษณ์ และอปุ กรณ์ เครือขา่ ย และหน่วยงานองคก์ ร ควบคมุ ความปลอดภัยสว่ นบุคคล ผมู้ สี ว่ นเก่ยี วขอ้ ง 1.2 กำหนดพ้ืนทีค่ วบคุมความ ปลอดภัยรวมถึงปา้ ยสัญลักษณ์ และอปุ กรณ์ควบคมุ ความปลอดภยั สว่ นบุคคล 1.3 จดั ทำปา้ ยสญั ลกั ษณแ์ สดงความ เสี่ยงในพ้ืนท่ีทม่ี ีความเสยี่ ง 1.4 จะทำระบบขอ้ มูลสารสนเทศ ดา้ นความปลอดภยั ของสถานศกึ ษา 2) จดั ทำแผนความปลอดภัยของ 2.1 แตง่ ตั้งคณะกรรมการความ สถานศกึ ษาทกุ แหง่ มแี ผนความ สถานศกึ ษา ปลอดภัยสถานศึกษา โดยการ ปลอดภัยสถานศึกษาทค่ี รอบคลุม มสี ่วนร่วมจากภาคีเครือข่ายและ ทกุ มิติ ผ้มู สี ว่ นเกยี่ วขอ้ ง 2.2 เสนอแผนความปลอดภัยของ สถานศกึ ษาตอ่ คณะกรรมการ สถานศกึ ษา 2.3 กำหนดระยะเวลาการ ดำเนินงานและผรู้ ับผิดชอบงาน 2.4 กำหนดนโยบายความปลอดภยั ของสถานศกึ ษา 2.5 เผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์ นโยบายและแผนความปลอดภัยใน สถานศกึ ษา 3) การจัดสภาพแวดล้อมและ 3.1 จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพ สถานศึกษาทุกแห่งจาก บรรยากาศของสถานศกึ ษา ภูมิทศั น์ ห้องเรยี น หอ้ งปฏบิ ัติการ สภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่มี

17 การป้องกนั แนวทางการปฏิบัติ ตัวชี้วัด ห้องน้ำห้อง และหอ้ งอ่นื ใหม้ ีความ ความปลอดภยั ตอ่ นกั ศึกษา ครู ปลอดภัย และบคุ ลากรทางการศึกษา 3.2 จัดทำแหลง่ เรียนรู้เพือ่ เสริมสร้างความปลอดภยั ใน สถานศึกษาท่หี ลากหลาย 4) การจัดโครงสร้างบรหิ าร 4.1 สำรวจและประเมินสภาพความ สถานศกึ ษาทกุ แหง่ จัดระบบ จดั การความปลอดภัยสถานศึกษา เสยี่ งด้านความปลอดภัยสถานศกึ ษา โครงสร้างในการบริหารจดั การ 4.2 สถานศึกษาจดั ทำโครงสรา้ ง ความปลอดภัยสถานศึกษา บรหิ ารจดั การความปลอดภยั สถานศกึ ษา 4.3 กำหนดบทบาทหนา้ ที่ ภาระ งานของคณะกรรมการ 4.4 จัดทำปฏทิ นิ การปฏิบัติงานของ คณะกรรมการความปลอดภัย สถานศึกษา 4.5 ประสานความร่วมมอื ของ คณะกรรมการ ภาคเี ครือข่าย และ หนว่ ยงานต้นสงั กดั 5) การจัดทำข้อมลู สารสนเทศ 5.1 แต่งตัง้ คณะทำงานเพอ่ื จดั ทำ สถานศกึ ษาทกุ แหง่ มรี ะบบขอ้ มูล ความปลอดภัยสถานศึกษา ระบบข้อมูลสารสนเทศความ สารสนเทศความปลอดภยั ปลอดภยั ของสถานศึกษา สถานศึกษา 5.2 จดั หาเครอ่ื งมือ วัสดุ อปุ กรณ์ใน การเก็บรวบรวมข้อมูลสารสนเทศ 5.3 เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู อย่าง ครบถ้วนรอบดา้ น 5.4 วเิ คราะห์ข้อมูล จดั ระบบ หมวดหมู่สารสนเทศ 5.5 จัดทำรายงานระบบขอ้ มลู สารสนเทศและจัดเกบ็ อย่างเป็น ระบบ

18 การป้องกัน แนวทางการปฏิบัติ ตัวชี้วัด 6) การสร้างการมีส่วนร่วมตอ่ สถานศกึ ษาและภาคเี ครอื ข่าย 6.1 ประสานความร่วมมือในการ สถานศกึ ษาทุกแห่งมเี ครอื ข่าย 7) การจัดระบบช่องทางการ สรา้ งเครือข่ายการมสี ว่ นรว่ ม ความรว่ มมอื ความปลอดภยั อย่าง สอ่ื สารดา้ นความปลอดภัยของ สถานศกึ ษา ในพ้นื ทแี่ ละภาคส่วนต่างๆ น้อย 1 เครือขา่ ย 6.2 มีการประชมุ วางแผน เพ่อื เสรมิ สร้างความปลอดภยั สถานศึกษารว่ มกัน 6.3 มกี ิจกรรมการดำเนินงาน ในการเสริมสร้างความปลอดภัย สถานศึกษา 6.4 มีการประเมินผลรว่ มกัน 6.5 มีการเผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์ ความรว่ มมือ 6.6 มีการยกยอ่ งชมเชยภาคี เครอื ข่ายความรว่ มมอื 7.1 แตง่ ตงั้ คณะทำงานด้านการ สถานศึกษาทุกแหง่ มชี อ่ งทางการ ส่ือสารประชาสมั พนั ธ์องค์กร ส่ือสารอย่างน้อย 2 ชอ่ งทาง 7.2 กำหนดรูปแบบการส่อื สาร ประชาสมั พันธ์ทค่ี รอบคลมุ ท้ัง 3 ชอ่ งทาง ประกอบด้วย 1) On Ground ได้แก่ การจัดป้าย นิทรรศการ จดั ทำเอกสาร ประชาสมั พันธ์ การจดั กจิ กรรม รณรงคใ์ นวนั สำคัญต่างๆ 2) On Line ได้แก่ การเผยแพร่ ประชาสัมพนั ธท์ างส่อื สังคมออนไลน์ ในรปู แบบตา่ งๆ เช่น Facebook, Line เป็นตน้ 3) On Air ไดแ้ ก่ การประชาสัมพนั ธ์ ผ่านระบบเสียงตามสาย ท้ังใน สถานศกึ ษาและชุมชน 7.3 ปรับรูปแบบระบบช่องทางการ สื่อสารด้านความปลอดภยั ของ สถานศกึ ษาใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ท และสภาพการณข์ องสถานศกึ ษา

19 การป้องกนั แนวทางการปฏบิ ัติ ตัวชว้ี ัด 8) การจดั ระบบดูแลชว่ ยเหลือ นักศกึ ษา 8.1 แตง่ ตั้งคณะกรรมการระบบดแู ล สถานศกึ ษาทกุ แหง่ มีระบบดแู ล ชว่ ยเหลอื นกั ศึกษาระดบั สถานศกึ ษา ช่วยเหลอื ผ้เู รยี น 8.2 คัดกรองนกั ศกึ ษาแยกเป็น 3 กลมุ่ ได้อย่างชัดเจน ประกอบด้วย กลมุ่ ปกติ กลมุ่ เสย่ี ง และกลุ่มมี ปัญหา 8.3 เก็บข้อมูลนกั ศึกษารายบคุ คล ด้วยเครื่องมอื และวธิ ีการทีเ่ หมาะสม เชน่ การเย่ียมบ้าน การสอบถาม การสัมภาษณ์ เปน็ ตน้ 8.4 จัดกิจกรรมสำหรบั นักศกึ ษา กลุ่มต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ดงั น้ี - กล่มุ ปกติ จดั กจิ กรรม สง่ เสรมิ ความสามารถตามปกติ - กลุ่มเส่ยี ง จัดกจิ กรรม ปอ้ งกันปัญหา - กลมุ่ มปี ัญหาจัดกิจกรรม แก้ปญั หาและระบบสง่ ตอ่ 8.5 สรุปรายงานผลการดำเนนิ งาน ระบบดแู ลชว่ ยเหลือผูเ้ รียน 9) การประเมนิ นักศึกษา 9.1 มอบหมายให้คร/ู ครทู ปี่ รึกษา มี นักศกึ ษาทุกคนได้รบั การประเมนิ รายบคุ คลด้านรา่ งกาย จติ ใจ หน้าท่ีในการประเมินนักศกึ ษา อย่างรอบด้าน สงั คม สติปัญญา และความ รายบคุ คล ตอ้ งการ 9.2 จดั ทำเครอื่ งมือวัดและประเมนิ นักศึกษารายบคุ คลท่ีครอบคลุมทุก ดา้ น 9.3 คร/ู ครทู ี่ปรึกษา ดำเนนิ การ ประเมินนกั ศกึ ษารายบุคคล 9.4 จัดทำระบบขอ้ มูลสารสนเทศ รายงานผลการประเมินนกั ศกึ ษา รายบคุ คล

20 2. การปลกู ฝงั ตาราง 2 การดำเนนิ การตามมาตรการการปลกู ฝังเพื่อใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา การปลกู ฝัง แนวทางการปฏิบัติ ตวั ชี้วัด 1. การสรา้ งจติ สำนกึ ความ ตระหนกั การรบั ร้แู ละความเข้าใจ 1.1 สำรวจขอ้ มูล ดา้ นความ สถานศึกษาทกุ แห่งมคี ู่มือ ดา้ นความปลอดภัยใหแ้ ก่ตนเอง ผอู้ ืน่ และสงั คม ปลอดภยั สถานศึกษา ความปลอดภยั สถานศึกษา 2. การจัดกจิ กรรมสรา้ งความรู้ 1.2 จดั ลำดับความรุนแรง เรง่ ดวน ความเขา้ ใจพัฒนาองคค์ วามรู้ เกยี่ วกับความปลอดภยั ให้แก่ ของความปลอดภยั สถานศกึ ษา นักศกึ ษา ครู บุคลากรทางการ ศึกษา และผู้ปกครอง 1.3 ปรับปรงุ พฒั นาหลักสตู ร สถานศึกษาโดยเพิ่มเนอื้ ดา้ นความ ปลอดภยั สถานศึกษาทสี่ อดคลองกบั ความรุนแรงเรง่ ด่วน 1.4 จดั ทำคูมอื /แนวทางวา่ ด้วยดว้ ย ความปลอดภัยในสถานศกึ ษา 1.5 จัดอบรมเชิงปฏบิ ัติการด้าน ความปลอดภัยของสถานศึกษา ให แก ครู บุคลากร ทางการศึกษาและ นักเรยี น 1.6 จัดทำศูนย์บรกิ ารสอ่ื ดา้ นความ ปลอดภัยในสถานศึกษา เพ่ือ การศกึ ษาคนควาเพ่มิ เติม 2.1 ประชุมครู และบคุ ลากรทางการ - สถานศึกษาทุกแหงมีการจดั ศึกษาเพื่อช้แี จงแนวทางเกีย่ วกบั กจิ กรรมเสรมิ สร้างความรู้ ความปลอดภัยในสถานศึกษา ความเขา้ ใจ ดา้ นความปลอดภัย 2.2 จัดกจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร สถานศกึ ษาใหนกั เรยี น ครู โดยบรู ณาการเนอ้ื หาความปลอดภัย บุคลากรทางการศกึ ษา สถานศึกษาในรายวิชาต่างๆ และผู้ปกครอง ๒.๓ การจดั ทำสือ่ ประชาสัมพันธ์ รูปแบบต่างๆ เพอื่ ใหความรูแกผู้ ๒.๔ จัดกจิ กรรมเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องความปลอดภยั สถานศึกษาผา่ นกจิ กรรม Classroom meeting ระหว่าง สถานศกึ ษากับผู้ปกครอง

21 การปลกู ฝัง แนวทางการปฏบิ ัติ ตวั ช้ีวดั 3) การจัดกิจกรรมเสรมิ สรา้ ง ๓.๑ จัดกจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะประสบ - สถานศึกษาทกุ แหงมีกิจกรรม ทกั ษะ ประสบการณและ กรณ์ท่ีเนนการลงมอื ปฏิบัติท่ี เสรมิ ทกั ษะประสบการณ์ และ สมรรถนะดานความปลอดภัยใหแก เชอ่ื มโยงกบั การดำเนิน สมรรถนะดานความปลอดภยั ใหแ้ ก นักเรียน ชีวิตประจำวัน ใหแก เชน การปฐม นักศกึ ษา พยาบาลเบื้องต้น แก่ นกั เรยี น ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา ๓.๒ กิจกรรมจัดกิจกรรมสอดแทรก ด้านความปลอดภัยสถานศกึ ษาใน กจิ กรรมวนั สำคญั ตา่ งๆ ๓.๓ สรรหาตนแบบผจู้ ดั กิจกรรม และการจัดกิจกรรมเสรมิ ทกั ษะทเ่ี ป็น เลิศ 3. การปราบปราม ตาราง 3 การดำเนินการตามมาตรการปราบปรามเพ่ือใหเ้ กดิ ความปลอดภัยในสถานศึกษา การปราบปราม แนวทางปฏบิ ตั ิ ตวั ชว้ี ัด 1. การจดั การแก้ไขปญั หากรณเี กิด 1.1 กำหนดแนวทางปฏิบตั กิ าร สถานศกึ ษาทกุ แหงมรี ะบบ เหตุความปลอดภัยในสถานศึกษา จดั การหรอื การระงับเหตุ การ การแกปญหาดานความปลอดภัย ช่วยเหลือเมื่อเหตุในสถานศึกษาและ สถานศึกษาอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ สร้างการรับรู้ รว่ มกนั ทกุ ภาคสว่ น 1.2 เตรยี มบคุ ลากร และเคร่ืองมอื วัสดุ อปุ กรณ์ ทพี่ รอมรบั สถาน การณ 1.4 ติดตัง้ ระบบเตอื นภัย เชน กลอ้ งวงจรปด สามารถตรวจสอบ ข้อเทจ็ จรงิ ได้ 1.5. ซอมระงับเหตุอยา่ งตอ่ เนือ่ ง เช่น การดับเพลิง การซอมหนีไฟ การปฐมพยาบาลเบื้องตน เปน็ ต้น 1.6. ประสานงานเครือขา่ ยการ มีส่วนร่วมเพอื่ ใหความช่วยเหลือ ได้ทันเหตุกรณ์ 1.7 สง่ ตอ่ ผูป้ ระสบเหตเุ พ่ือให้ ไดร้ ับการชว่ ยเหลือทม่ี ี ประสทิ ธภิ าพ

22 การปราบปราม แนวทางปฏบิ ัติ ตัวช้ีวัด 2. การชว่ ยเหลือ เยยี วยา ฟ้ืนฟู จติ ใจบคุ คลผู้ประสบเหตุความไม่ 2.1 จดั ทำขอ้ มูลบุคคลและ สถานศึกษาทุกแหงมีระบบ ปลอดภยั หนว่ ยงานในพน้ื ท่ตี งั้ ขอสถานศกึ ษา การชว่ ยเหลือ เยยี วยา ฟนฟู จติ ใจ 3. ดำเนนิ การตามข้นั ตอนของ กฎหมาย ทีส่ ามารถตดิ ตอ ประสานงาน ผู้ประสบเหตุความไม่ปลอดภัย และใหการชว่ ยเหลอื เยียวยา ฟนฟู จิตใจได้อย่างรวดเรว็ ทันทว่ งที 2.2 จดั ตง้ั ศูนยช์ ว่ ยเหลอื เยียวยา ฟื้นฟแู ละใหคำปรึกษา โดยการ มีสว่ นรว่ มของเครอื ขา่ ยต่างๆ 2.3 กำหนดหลักเกณฑและวธิ ีการ ช่วยเหลอื ท่ีเหมาะสม 2.4 ประสานเครือข่ายการมสี ่วน ร่วม หนว่ ยงาน องคก์ ร เพือ่ ให้ ชว่ ยเหลอื เยียวยา ฟ้นื ฟู 2.5 จดั ระบบประกันภยั รายบคุ คล หรือรายกลุมทสี่ ามารถใหการ คมุ้ ครองสำหรับครูและบุคลากร ทางการศกึ ษาและนักเรยี น 2.6 สร้างขวญั กำลงั ใจ โดยการ ตดิ ตาม เยี่ยมเยอื นอย่างสม่ำเสมอ 3.1 แต่งตง้ั คณะกรรมการ ผ้ปู ระสบเหตุทกุ คนไดร้ บั การ ดำเนนิ การด้านกฎหมาย ให้ผู้ คุ้มครองตามกฎหมายกำหนด ประสบเหตุไดร้ ับความคุ้มครอง ตามท่กี ำหนด 3.2 รายงานเหตุการณ์ตอ่ ผบู้ งั คบั บัญชาหนว่ ยงานตน้ สังกดั 3.3 ดำเนนิ คดี จำแนกประเภท ของเหตุที่เกิด ติดตอ่ ประสานงาน ผูป้ กครองเพ่อื ดำเนนิ การหรือ ดำเนินการแทนผ้ปู กครอง 3.4 ให้การคุม้ ครองนักศกึ ษาให้อยู่ ในความปลอดภัย

23 แนวทางการปฏิบัตขิ อบข่ายความปลอดภัยสถานศกึ ษา ขอบข่ายความปลอดภัยสถานศึกษาจำแนกเป็น ๔ กลุ่มภัย โดยมีการดำเนินงานความปลอดภัย สถานศกึ ษาตาม มาตรการ ๓ ป ไดแ้ ก่ การปอ้ งกัน ปลกู ผัง และการปราบปราม ซึ่งในแต่ละมาตรการมีแนวปฏิบัติ ตามรายละเอยี ด ดังน้ี 1. ภัยทเี่ กิดจากการใช้ความรนุ แรงของมนษุ ย์ (Violence) 1.1 การล่วงละเมิดทางเพศ แนวทางการปฏบิ ตั ิ การป้องกัน 1) สำรวจนกั เรยี นกลุ่มเสย่ี งและพน้ื ท่ีทีเ่ ป็นจุดเส่ยี ง 2) เฝา้ ระวัง สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน และพฒั นาพ้ืนทเ่ี สย่ี งใหป้ ลอดภัย 3) สร้างเครือข่ายเฝ้าระวงั ท้งั ในสถานศกึ ษาและชุมชน 4) จดั ระบบการสื่อสารเพอ่ื รบั สง่ ข้อมูลดา้ นพฤติกรรมนกั เรียนท้งั ในสถานศึกษาและชมุ ชน การปลูกฝงั 1) จัดกิจกรรมส่งเสริมความตระหนกั รูแ้ ละเห็นคณุ ค่าในตนเอง 2) จดั กจิ กรรมพัฒนาทกั ษะชีวิต 3) ฝกึ ทักษะการปฏิเสธ และการเอาตัวรอดในสถานการณต่างๆ การปราบปราม ๑) เผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ชอ่ งทางในการขอความชว่ ยเหลือ 2) แต่งตงั้ คณะทำงานให้ความชว่ ยเหลือเรง่ ด่วน ทส่ี ามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 3) แต่งตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายเพือ่ ใหค้ วามช่วยเหลือ 4) ประสานภาคีเครือข่ายเพ่ือการสง่ ต่อที่เหมาะสม 1.2 การทะเลาะววิ าท แนวทางการปฏบิ ัติ การปอ้ งกัน 1) จดั ทำระเบียบในการประพฤติปฏิบตั ิตนในสถานศกึ ษา 2) ชี้แจงทำความเข้าใจการปฏบิ ัติตนตามระเบียบ 3) เฝ้าระวงั สังเกตพฤตกิ รรมท้งั ในระดบั ชน้ั เรยี น สถานศกึ ษา และชุมชน 4) สร้างเครอื ข่ายเฝา้ ระวงั ในสถานศกึ ษาและชุมชน 5) จัดระบบติดต่อส่ือสารเพื่อติดตามพฤตกิ รรมนักเรยี นอยา่ งตอ่ เนือ่ ง การปลูกฝัง 1) ใหความรูเรอื่ งการอยู่ร่วมกันในสงั คม และผลกระทบท่ีเกดิ จากการทะเลาะววิ าท 2) จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ การอย่รู ว่ มกนั ในสงั คม 3) จัดเวทีกิจกรรมใหน้ กั เรยี นไดแ้ สดงออกตามความสามารถอย่างเหมาะสม

24 การปราบปราม 1) แต่งตั้งคณะทำงานเพ่ือระงับเหตทุ ้ังในสถานศกึ ษาและชุมชน 2) ประสานเครอื ข่ายการมีสว่ นรว่ มเพอ่ื แกป้ ญั หา 3) ดำเนินการตามระเบยี บ กฎหมาย โดยเน้นการไกล่เกลยี่ ประนปี ระนอม ตามมาตรการจากเบาไปหาหนกั 1.3 การกลน่ั แกลง้ รงั แก แนวทางการปฏิบัติ การป้องกัน 1) สำรวจนกั ศึกษากลุมเสย่ี งทง้ั ผู้กระทำและทำและผถู้ กู กระทำ 2) จดั ทำระเบียบขอตกลงร่วมกัน 3) สรา้ งเครอื ข่ายเฝา้ ระวังท้งั ในสถานศึกษาและชุมชน 4) จัดระบบการสอื่ สารเพื่อติดตามพฤติกรรมนักศกึ ษา การปลกู ฝัง 1) ใหค้ วามรู้ความเข้าใจหลกั ในการอยู่รว่ มกันในสังคม 2) จัดกิจกรรมใหน้ กั ศกึ ษาได้ทำร่วมกันอย่างตอ่ เนอ่ื ง 3) จดั เวทีให้นักศึกษาได้แสดงออกตามความสามารถอย่างเหมาะสม การปราบปราม 1) แต่งตั้งคณะทำงานเพ่ือระงบั เหตุ ท้งั ในระดับสถานศึกษา และชมุ ชน 2) ดำเนนิ การตามระเบียบ กฎหมาย โดยเนน้ การไกล่เกลย่ี ประนปี ระนอม 3) ติดตาม เยย่ี มเยอื น ใหก้ ำลังใจผู้ถกู กระทำ และสรา้ งความเข้าใจกบั ผกู้ ระทำ 1.5 การล่อลวง ลักพาตวั แนวทางการปฏิบัติ การป้องกนั 1) สร้างเครือขา่ ยเฝา้ รระวังท้ังในสถานศึกษาและชุมชน 2) จดั ระบบการติดต่อสอ่ื สารเพื่อรับส่งขอ้ มลู พฤติกรรมนกั เรียน ผใู้ กลช้ ิดและบุคคลภายนอก 3) จัดทำข้อมูล ชอ่ งทางขอความช่วยเหลือเผยแพร ประชาสมั พันธ์ใหน้ กั ศึกษาและชุมชน การปลกู ฝง 1) การจัดกจิ กรรมสงเสริมความตระหนกั รูและเห็นคุณคาในตนเอง 2) จดั กจิ กรรมพฒั นาทักษะชวี ิตอยา่ งรอบดา้ น 3) ฝกึ ทักษะการปฏเิ สธ และการเอาตัวรอดในสถานการณต่างๆ การปราบปราม 1) แตง่ ตง้ั คณะทำงานให้ความช่วยเหลอื เรง่ ดว่ น ท่สี ามารถให้ความชว่ ยเหลือไดท้ นั เหตกุ ารณ์ 2) แต่งตงั้ คณะทำงานด้านกฎหมายเพือ่ ใหค้ วามช่วยเหลือ 3) ประสานภาคีเครือขา่ ยเพอ่ื ร่วมกันแกไ้ ข

25 2. ภยั ท่เี กิดจากอบุ ัตเิ หตุ (Accident) 2.1 ภยั ธรรมชาติ แนวทางการปฏบิ ัติ การปอ้ งกัน 1) สำรวจขอมูลความเส่ียงทีเ่ กดิ จากภยั ธรรมชาติ 2) จดั ทำแผนปอ้ งกนั ทางธรรมชาติ 3) จัดตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ เคร่อื งมือในการปองกนั ภัยธรรมชาติ 4) ซักซอมการเผชิญเหตุภยั ธรรมชาติ การปลกู ฝงั 1) สรา้ งความรู้ความเข้าใจถึงปญั หาและผลกระทบท่เี กิดจากธรรมชาติรูปแบบต่างๆ 2) จดั กิจกรรมฝึกทักษะการเผชญิ ปัญหาภัยธรรมชาติ 3) จดั กิจกรรมสง่ เสริมการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม การปราบปราม 1) แตง่ ตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลอื เร่งด่วน ทส่ี ามารถให้ความชว่ ยเหลอื ได้ทนั เหตกุ ารณ์ 2) ติดตอสอ่ื สารเครือขา่ ยการมสี ่วนร่วม เพ่อื ให้ความช่วยเหลือและแกป้ ญั หา 3) ประสานงานหน่วยงาน องค์กร เพื่อให้ความช่วยเหลอื เยียวยา และฟื้นฟูจติ ใจ 2.2 ภยั จากอาคารเรียน สิง่ ก่อสร้าง แนวทางการปฏบิ ัติ การปอ้ งกัน 1) สำรวจสภาพของอาคารเรยี น อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้าง 2) ติดปา้ ยสญั ลกั ษณ์ในอาคาร หรอื พน้ื ทท่ี ี่ไม่แข็งแรงและมคี วามเส่ยี ง 3) ประชาสมั พันธ์ให้นักศกึ ษาหลีกเล่ยี งการเขาพ้ืนทีเ่ สีย่ งอยา่ งตอ่ เนื่อง การปลกู ฝงั 1) สร้างความร้คู วามเขา้ ใจถึงหลักการสรา้ งความปลอดภัยในการดำเนนิ ชวี ิต 2. จัดกิจกรรมฝึกทักษะการสงั เกตและหลกี เลยี่ งพ้ืนทเี่ สยี่ งการเอาตัวรอดเม่อื ประสบภัย การปราบปราม 1) สร้างเครือขา่ ยการมสี ว่ นรว่ มและดำเนินการช่วยเหลือและแกไ้ ขปญั หาทีม่ ีประสทิ ธิภาพ 2) ประสานงานหนว่ ยงานภาครัฐ และเอกชน เพื่อใหค้ วามช่วยเหลือ

26 2.3 ภัยจากยานพาหนะ แนวทางการปฏิบตั ิ การปอ้ งกนั 1) สำรวจขอมูลยานพาหนะในสถานศกึ ษา 2) จดั ระบบสญั จรในสถานศกึ ษาสำหรับยานพาหนะประเภทต่างๆและสำหรบั การเดินเทา 3) จดั ทำแผนให้ความช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั จากยานพาหนะ 4) สร้างมาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุ 5) สงเสรมิ สนับสนนุ การทำประกันภัย ประกันอบุ ตั ิเหตุ การปลกู ฝง 1) จดั กิจกรรมให้ความรูเ้ รอ่ื งการใชร้ ถ ใช้ถนน และเคร่อื งหมายจราจร 2) จดั กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะการปฐมพยาบาลเบือ้ งตนเมื่อประสบภยั จากยานพาหนะ 3) จัดกิจกรรมสงเสรมิ การสรา้ งจิตสำนกึ ในการปฏบิ ตั ติ ามกฎจราจร การปราบปราม 1) แต่งตัง้ คณะทำงานผู้รับผดิ ชอบ 2) ตดิ ต่อสื่อสารเครือขา่ ยมีส่วนรว่ มเพือ่ ร่วมให้ความช่วยเหลือและแกป้ ญั หา 3) ประสานงานหนว่ ยงาน องค์กร เพือ่ ร่วมใหค้ วามชว่ ยเหลอื เยียวยา และฟนื้ ฟูจิตใจ 2.4 ภัยจากการจัดกิจกรรม แนวทางการปฏิบัติ การป้องกนั 1) แตง่ ตัง้ คณะทำงานประเมินความเสีย่ งในการจัดกิจกรรมต่างๆ 2) จัดแยกกจิ กรรมตามระดบั ความเสี่ยง 3) เสนอแนะแนวทางในการปอ้ งกันความเสย่ี งในกจิ กรรมต่างๆ การปลูกฝัง 1) สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆใหปลอดภยั 2) ฝกึ ทักษะการเลอื กปฏิบัตกิ จิ กรรมต่างๆ ท่ีเหมาะสมกับตนเอง 3) จัดกิจกรรมฝึกทักษะการให้ความช่วยเหลอื เม่อื ประสบภัยจากการปฏิบัติกิจกรรม การปราบปราม 1) แตง่ ตง้ั คณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งดว่ น ทส่ี ามารถให้ความชว่ ยเหลอื ทนั เหตกุ ารณ์ 2) ติดตอสอ่ื สารเครอื ข่ายการมสี ่วนรว่ ม เพอ่ื ร่วมให้ความชว่ ยเหลอื และแกป้ ญั หา 3) ดำเนินการส่งตอ่ เพอ่ื การช่วยเหลือทีม่ ีประสิทธิภาพ

27 2.5 ภยั จากอุบตั เิ หตจุ ากการพานกั ศึกษาไปศึกษานอกสถานศึกษา แนวทางการปฏบิ ตั ิ การปอ้ งกนั 1) แตง่ ตงั้ คณะทำงาน/รับผดิ ชอบการนำนกั ศึกษาไปศึกษานอกสถานศึกษา 2) วิเคราะห์กจิ กรรมตามระดบั ความเสี่ยง 3) เสนอแนะแนวทางในการปอ้ งกันความเสยี่ งในกจิ กรรมต่างๆ การปลกู ฝงั 1) สรา้ งความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัตใิ หป้ ลอดภัย 2) ขอความร่วมมือนกั ศึกษาเพอ่ื ความปลอดภัยในการเดินทาง 3) แต่งตั้งคณะทำงานควบคมุ ดแู ลนกั ศึกษาในการไปศึกษานอกสถานศกึ ษา การปราบปราม 1) คณะทำงานทำข้อตกลงในการปฏิบัติตนของนักศึกษาในการไปศกึ ษานอกสถานศกึ ษา 2) ติดตอสอ่ื สารเครอื ข่ายการมีสว่ นรว่ มเพ่ือป้องกันการเกิดอบุ ตั ิเหตุ 3) หากมอี ุบตั ิเหตดุ ำเนนิ การส่งต่อเพ่ือการชว่ ยเหลือทม่ี ปี ระสิทธภิ าพ 2.5 ภยั จากเครอื่ งมอื อปุ กรณ์ แนวทางการปฏบิ ัติ การปอ้ งกัน 1) สำรวจขอ้ มูล เครือ่ งมือ อุปกรณ์ จัดแยกสวนทชี่ ำรดุ และสวนทใ่ี ช้งานได้ 2) จดั ทำคูมือการใชเครือ่ งมอื อุปกรณ์ใหป้ ลอดภัย 3) ดำเนนิ การซอมแซม บำรุงรักษาและการจัดเก็บเครอื่ งมือ อปุ กรณ์ใหเ้ ปน็ ระบบ การปลกู ฝัง 1) จัดกิจกรรมสร้างความรคู้ วามเขา้ ใจ หลักการใช้เครือ่ งมือ อปุ กรณ์ ใหปลอดภัย 2) ฝกทกั ษะการใช การบำรงุ รกั ษา การจัดเกบ็ เคร่ืองมือ อุปกรณ์ 3) จดั กิจกรรมสรา้ งจิตสำนึกในคุณคา่ ของ เคร่อื งมอื อุปกรณ์ การปราบปราม 1) แต่งตงั้ คณะทำงานให้ความชว่ ยเหลือเร่งดว่ น ท่สี ามารถให้ความชว่ ยเหลอื ทันเหตกุ ารณ์ 2) ประสานเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื เพ่ือใหค้ วามชว่ ยเหลอื 3) ดำเนนิ การสง่ ต่อเพื่อการชว่ ยเหลอื ทมี่ ีประสิทธิภาพ

28 3. ภยั ทเ่ี กิดจากการถูกละเมิดสิทธ์ิ (Right) 3.1 การถูกปล่อยปละ ละเลย ทอดท้ิง แนวทางการปฏบิ ัติ การปอ้ งกัน 1) สร้างเครอื ขา่ ยเฝ้าระวงั ทง้ั ในสถานศึกษาและชมุ ชน 2) จดั ระบบการติดตอ่ สอ่ื สารเพ่อื รับสง่ ข้อมลู พฤติกรรมนักศกึ ษา และผู้ใกล้ชดิ 3) จัดทำขอมลู ชองทางขอความชว่ ยเหลอื เผยแพร่ ประชาสมั พันธ์ใหน้ กั เรียนและชุมชน การปลูกฝัง 1) จดั กจิ กรรมส่งเสริมความตระหนกั รแู้ ละเหน็ คุณค่าในตนเอง 2) จัดกิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวิตอย่างรอบด้าน 3) ฝกึ ทักษะการปฏเิ สธการเอาตวั รอด และการขอความชว่ ยเหลือ การปราบปราม 1) แต่งตงั้ คณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งดว่ น ท่สี ามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 2) แตง่ ตง้ั คณะทำงานให้ความชว่ ยเหลอื ดา้ นกฎหมาย 3) ประสานภาคีเครือขา่ ยเพื่อร่วมแกป้ ญั หา 4) ตดิ ตามเยยี่ มเยอื นให้กำลงั ใจอยา่ งสมำ่ เสมอ 3.2 การคุกคามทางเพศ แนวทางการปฏบิ ตั ิ การป้องกัน 1) สำรวจนักเรียนกลุมเส่ียงและพ้นื ท่เี ปน็ จดุ เสย่ี ง 2) เฝ้าระวงั สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน และพฒั นาพื้นที่เส่ยี งใหป้ ลอดภยั 3) สรา้ งเครอื ข่ายเฝา้ ระวงั ท้งั ในสถานศึกษาและในชมุ ชน 4) จดั ระบบการสอ่ื สารเพ่อื ส่งข้อมลู พฤตกิ รรมนกั ศกึ ษาทงั้ ในสถานศกึ ษาและชุมชน การปลกู ฝัง 1) จัดกจิ กรรมสงเสรมิ ความตระหนกั รูแ้ ละเห็นคณุ คา่ ในตนเอง 2) จัดกจิ กรรมพฒั นาทกั ษะชวี ติ รอบด้าน 3) ฝกึ ทักษะการปฏเิ สธ การเอาตวั รอดในสถานการณต์ า่ งๆ การปราบปราม 1) แตง่ ตัง้ คณะทำงานให้ความชว่ ยเหลือเร่งดว่ น ที่สามารถใหค้ วามชว่ ยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 2) แต่งต้ังคณะทำงานให้ความชว่ ยเหลอื ดา้ นกฎหมาย 3) ประสานภาคีเครือข่ายเพ่อื รว่ มแกป้ ัญหา 4) ติดตามเยีย่ มเยือนให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ

29 3.3 การไมไ่ ด้รบั ความเป็นธรรมจากสงั คม แนวทางการปฏบิ ัติ การปองกัน 1) สำรวจข้อมูลนกั ศึกษารายคน 2) วิเคราะหส์ ภาพปญั หา ความตอ้ งการ ความขาดแคลน ของนกั เรยี นรายคน 3) จดั ทำแผนให้ความชว่ ยเหลือนักศกึ ษาตามความขาดแคลน 4) สรา้ งเครอื ขา่ ยการมสี ่วนรว่ ม เพ่อื ประสานความช่วยเหลือ การปลกู ฝง 1) สร้างความรู้ ความเข้าใจ สิทธิ หนา้ ท่ี และความรับผิดชอบต่อสงั คม 2) บรกิ ารใหคำปรึกษาสำหรบั นักเรยี นกลมุ่ เสยี่ ง 3) จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การสรา้ งจิตสำนึกในความเสมอภาค เออื้ เฟือ้ เผอื่ แผ่ต่อกัน การปราบปราม 1) แต่งตง้ั คณะทำงานให้ความช่วยเหลือเรง่ ดว่ น ทีส่ ามารถใหค้ วามชว่ ยเหลือได้ทันเหตกุ ารณ์ 2) แตง่ ต้ังคณะทำงานให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย 3) ประสานภาคีเครอื ขา่ ยเพื่อร่วมแกป้ ัญหา 4) ติดตามเย่ียมเยอื นใหก้ ำลังใจอยา่ งสมำ่ เสมอ 4. ภยั ท่เี กิดจากผลกระทบทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) 4.1 ภาวะสุขภาพจิต แนวทางการปฏบิ ตั ิ การป้องกนั 1) สำรวจข้อมูลนักศกึ ษากลมุ่ เสย่ี ง 2) ตดิ ต่อประสานเครือข่ายการมีส่วนรว่ มเพื่อประเมนิ ภาวะจิต 3) จัดหลกั สตู รการเรยี นการสอนพเิ ศษรายคน 4) สร้างเครอื ขา่ ยเฝา้ ระวังท้ังในสถานศกึ ษาและในชุมชน 5) จัดระบบการสอ่ื สารเพือ่ ส่งขอ้ มูลพฤตกิ รรมนักศกึ ษาท้ังในสถานศกึ ษาและชุมชน การปลูกฝัง 1) จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การแลกเปล่ยี นเรยี นรรู้ ว่ มกนั ของนักศกึ ษา 2) จดั เวทีให้นักศกึ ษาได้แสดงออกตามความสามารถ 3) จัดกิจกรรมส่งเสรมิ การตะหนักรู้จัดกจิ กรรมสงเสรมิ การตระหนักรแู ละเห็นคุณคาในตนเองและผู้อ่นื การปราบปราม 1) แต่งต้ังคณะทำงานเพอ่ื ระงบั เหตุทง้ั ในสถานศกึ ษาและชมุ ชน 2) ประสานเครือข่ายการมีสว่ นร่วม เพอื่ รว่ มแกป้ ญั หา 3) ดำเนนิ การตามระเบยี บ กฎหมาย โดยเน้นการไกลเ่ กล่ียประนปี ระนอม 4) ประสานการสง่ ตอ่ เพ่อื ใหค้ วามชว่ ยเหลือท่มี ปี ระสิทธภิ าพ

30 4.2 ติดเกม แนวทางการปฏิบัติ การป้องกัน 1) สำรวจข้อมูลนกั ศึกษากลุ่มเสย่ี ง 2) สำรวจข้อมูลพื้นทแ่ี หล่งให้บริการรา้ นเกม 3) กำหนดข้อตกลงเพือ่ การปฏบิ ัตริ ่วมกนั 4) สร้างเครือขา่ ยเฝา้ ระวังทัง้ ในสถานศกึ ษาและชุมชน 5) จดั ระบบตดิ ตอ่ ส่อื สารเพ่อื รับสง่ ขอ้ มูลพฤตกิ รรมอยา่ งต่อเน่อื ง การปลกู ฝัง 1) สรา้ งความรู้ ความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากการติดเกม 2) จัดกจิ กรรมสงเสรมิ การการคิด วิเคราะห์ และใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ 3) จดั กจิ กรรมเสริมหลกั สตู รท่สี นองตอ่ ความสนใจของนกั ศกึ ษาอยา่ งหลากหลาย การปราบปราม 1) แต่งตั้งคณะทำงานเพอื่ ระงับเหตุ ทัง้ ในระดับสถานศกึ ษา และชุมชน 2) ประสานเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพอ่ื ร่วมแก้ปญั หา 3) ดำเนินการเอาผิดตามข้อตกลงทีก่ ำหนดไวร้ ่วมกัน 4) ติดตาม เย่ียมเยือน ให้กำลงั ใจผู้ถกู กระทำ และสร้างความเข้าใจกบั ผกู้ ระทำ 4.3 ยาเสพติด แนวทางการปฏิบัติ การป้องกนั 1) สำรวจข้อมูลนักศกึ ษากลุ่มเส่ียง 2) วเิ คราะหน์ กั ศกึ ษารายบคุ คล 3) กำหนดขอตกลงเพอ่ื ปฏบิ ัตริ ่วมกัน 4) สร้างเครือข่ายเฝา้ ระวังทงั้ ในสถานศกึ ษาและชุมชน 5) จดั ระบบต่อต่อสือ่ สารเพ่อื รบั ส่งขอ้ มูลพฤตกิ รรมอย่างต่อเนอื่ ง การปลกู ฝัง 1) สรา้ งความรู้ความเข้าใจถงึ โทษภยั และผลกระทบของการติดยาเสพตดิ 2) จดั กจิ กรรมตอ่ ตา้ นยาเสพตดิ ในวันสำคัญต่างๆ อยา่ งสมำ่ เสมอ 3) จัดกจิ กรรมสงเสริมการการคิด วิเคราะห์ และใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ 4) จัดกิจกรรมเสริมสร้างหลกั สตู รทส่ี นองต่อความสนใจของนักศึกษาอย่างหลากหลาย การปราบปราม 1) แตง่ ต้งั คณะทำงานเพอื่ ระงบั เหตุ ทั้งในระดบั สถานศึกษา และชุมชน 2) ประสานเครอื ข่ายการมีสว่ นรว่ ม เพือ่ รว่ มแก้ปัญหา 3) ดำเนินการเอาผิดตามขอ้ ตกลงทก่ี ำหนดไวร้ ว่ มกัน 4) ติดตาม เยีย่ มเยอื น ให้กำลงั ใจผู้ถกู กระทำ และสรา้ งความเข้าใจกับผู้กระทำ

31 4.4 โรคระบาดในมนษุ ย์ แนวทางการปฏบิ ัติ การปอ้ งกัน 1) สำรวจขอมูลดานสุขภาพของนกั ศกึ ษษรายคนและบุคคลใกลช้ ิด 2) จัดทำแผนในการปอ้ งกันโรคระบาดในมนุษย์ 3) บริการวัสดุ อปุ กรณ์ ในการปอ้ งกันโรคระบาดในมนุษย์ 4) สรา้ งเครือขา่ ยเฝา้ ระวงั ทงั้ ในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดระบบตดิ ตอสอื่ สารเพือ่ ตดิ ตามขอมูลดา้ นสุขภาพอยา่ งต่อเน่อื ง การปลกู ฝัง 1) สรา้ งความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับโรคระบาดท่อี ุบัติขนึ้ ใหม่ 2) จัดกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะการปฏิบัตติ น เพือ่ ความปลอดภัยจากโรคระบาด 3) จดั กจิ กรรมสร้างจิตสำนกึ ในความรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม การปราบปราม 1) ปฏบิ ัตติ ามมาตรการท่ีกระทรวงกำหนดอย่างเคร่งครดั 2) ประสานเครอื ข่ายการมีส่วนร่วม เพอื่ ร่วมแก้ปญั หา 3) ดำเนนิ การใหค้ ำแนะนำ ตักเตือน หากฝ่าฝืนมาตรการ 4) ตดิ ตาม เย่ียมเยอื น ให้กำลังใจผู้ประสบภยั จากเชือ้ โรคทก่ี ำลงั ระบาด 4.5 ภัยไซเบอร์ แนวทางการปฏิบตั ิ การป้องกัน 1) สำรวจข้อมูลการใชง้ านระบบไซเบอรข์ องนกั ศึกษารายคน 2) กำหนดขอตกลงเพื่อปฏบิ ัติร่วมกนั 3) สร้างเครือขา่ ยเฝ้าระวังทั้งในสถานศกึ ษาและชุมชน 4) จดั ระบบตดิ ตอ่ ส่ือสารเพอ่ื รับส่งข้อมลู พฤตกิ รรมอยา่ งตอ่ เนือ่ ง การปลูกฝงั 1) สร้างความรคู้ วามเขา้ ใจถึงผลกระทบที่เกดิ จากการใช้งานระบบไซเบอร์โดยขาดวจิ ารณญาณ 2) จัดกิจกรรมสงเสรมิ การการคิด วเิ คราะห์และใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ 3) จัดกิจกรรมเสริมหลกั สตู รทสี่ นองตอ่ ความสนใจของนักศกึ ษาอยา่ งหลากหลาย การปราบปราม 1) บรู ณาการการทำงานร่วมกบั ภาคีเครอื ขา่ ยในการสร้างความรู้ ความเข้าใจภัยทีเ่ กิดจากไซเบอร์ (Internet) ทงั้ ในระดับสถานศกึ ษา และชุมชน 2) ใหค้ ำปรึกษา แนะนำ ผทู้ ีก่ ระทำผดิ โดยไมเ่ จตนา หรือมีความรเู้ ร่อื งกฎหมาย พรบ.คอมพวิ เตอร์และ การถูกลอ่ ล่วงจากไซเบอร์ 3) ดำเนนิ การเอาผิดตามกฎหมาย

32 4.6 การพนัน แนวทางการปฏิบตั ิ การปอ้ งกนั 1) สำรวจข้อมูลนกั ศกึ ษากล่มุ เสย่ี ง 2) สำรวจพน้ื ท่ีแหล่งการพนัน 3) กำหนดข้อตกลงเพือ่ ปฏิบัตริ ่วมกัน 4) สรา้ งเครอื ขา่ ยเฝ้าระวงั ทง้ั ในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดระบบติดตอสอ่ื สารเพ่อื รับส่งขอ้ มูลพฤติกรรมนักศึกษาอยา่ งต่อเน่อื ง การปลูกฝัง 1) สร้างความรูความเขาใจถงึ ผลกระทบท่ีเกิดจากการพนนั 2) จัดกิจกรรมสงเสริมการการคิด วิเคราะห์ และใชเวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ 3) จดั กิจกรรมเสรมิ หลกั สตู รที่สนองต่อความสนใจของนกั เรยี นอยา่ งหลากหลาย การปราบปราม 1) สรา้ งเครอื ข่ายระดับสถานศกึ ษา กบั ผู้ปกครองและชุมชน 2) ประสานเครอื ข่ายการมีสว่ นรว่ ม เพอื่ ร่วมแก้ปญั หา 3) ดำเนนิ การเอาผิดตามข้อตกลงท่ีกำหนดไวร้ ว่ มกนั 4) ติดตาม เยีย่ มบ้านนกั ศึกษารายคน 4.7 มลภาวะเป็นพิษ แนวทางการปฏบิ ัติ การปอ้ งกนั 1) สำรวจขอ้ มูลพนื้ ทีท่ ี่เกิดมลภาวะเป็นพิษในสถานศกึ ษาและชุมชน 2) จัดทำป้ายสัญลักษณ์แสดงพื้นท่ีมลภาวะเปน็ พษิ 3) จดั ทำแผนในการแกปญหามลภาวะเป็นพษิ ร่วมกัน 4) กำหนดขอ้ ตกลงในการปฏิบัตริ ่วมกนั การปลกู ฝัง 1) สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจถึงสาเหตุและผลกระทบทีเ่ กิดจากมลภาวะเปน็ พิษ 3) จดั กจิ กรรมสงเสริมการสร้างจิตสำนึกในการลดมลพิษรว่ มกบั ชมุ ชน การปราบปราม 1) ประสานเครอื ข่ายการมีส่วนรว่ ม เพื่อร่วมแกป้ ัญหา 2) ดำเนินการเอาผิดตามข้อตกลงท่ีกำหนดไวร้ ว่ มกัน

33 บทที่ 4 การตดิ ต่อส่อื สาร 1. ชอ่ งทางการตดิ ต่อ 1.ระบบ MOE Safety Platform www.MOESAFEycenter.com ระบบ Web App Responsive 2. Website Online website : Myonie.com/nfemuangms/ 3. E-Mail msn.amm.nfede.go.th 4. Facebook https://www.facebook.com/msn.amm

34 5.จดหมาย กศน.อำเภอเมืองแมฮ่ อ่ งสอน 36 ถนนปางล้อนคิ ม ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวดั แม่ฮ่องสอน 58000 053620371 6. โทร 0579 หรอื ศูนยค์ วามปลอดภัย กระทรวงศึกษาธกิ าร โทร 02-62-9169,02-628-9166,02-628-9182 และ 02-628-9160 2. หนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ ง สำนกั งานตำตรวจแหง่ ชาติ 1. กองบังคบั การปราบปรามการกระทำความผิดเกีย่ วกับการคา้ มนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถ.แขวงจอมพล เขตจตจุ ักร กทม. 10900 โทร. 0 – 2513 -3213 โทรสาร 0 – 2513 - 7117 Website : www.ccsd.go.th E-mail : [email protected] 2. งานพทิ ักษ์เด็ก เยาวชน และสตรี สำนกั งานตำรวจแหงชาติ ถ.พระราม 1 เขตปทุมวนั กทม. 10330 โทร. 0-2205-3421-3 ตอ 26 Website : www.Office.police.go.th E-mail : [email protected] 3. ศูนยส์ วสั ดิภาพเดก็ เยาวชน และสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล เลขที่ 1 ถ.ราชดำเนนิ นอก แขวงวดั โสมนัส เขตปอมปราบศัตรพู าย กทม. 10100 โทร. 0-2281-1449 Website : www.korkorsordor.com

35 หนว่ ยงานภาคเอกชน 1. มลู นิธิศนู ยพ์ ิทกั ษ์สทิ ธิเด็ก 979 ซ.จรัญสนทิ วงศ 12 ถ.จรญั สนิทวงศ แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. 10600 โทร. 0-2412-0739, 0-2415-1196 โทรสาร 0-2412-9833 Website : www.thaichildrights.org E-mail : [email protected] 2. มลู นธิ พิ ัฒนาการคมุ้ ครองเดก็ Fight Against Child Exploithion Foundation (FACE) ตู ปณ. 178 คลองจ่นั กทม. 10240 โทร. 0-2509-5782 โทรสาร 0-2519-2794 E-mail : [email protected] 3. มลู นิธิเพื่อนหญิง 386/61-62 ซ.รัชดาภเิ ษก 44 (ซอยเฉลิมสุข) ถ.รชั ดาภเิ ษก แขวงลาดยาว เขตจตุจกั ร กทม. 10900 โทร. 0-2513-1001 โทรสาร 0-2513-1929 Website : [email protected] E-mail : [email protected] 4. องค์กรพทิ ักษ์สตรใี นประเทศไทย 328/1 สำนกั กลางนกั เรยี นคริสเตรยี น ถ.พญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400 โทร. 0-2214-5157-8 โทรสาร 0-2513-1929 Website : www.afesip.ord 5. มลู นธิ ศิ ภุ นิมิตรแห่งประเทศไทย 582/18-22 ซ.เอกมยั สขุ ุมวิท63 แขวงคลองตัน เขตวฒั นา กทม. 10110 โทร. 0-2381-8863-5 ตอ 111 โทรสาร 0-2381-5500 Website : www.worldvision.or.th E-mail : [email protected]

36 6. เครือข่ายส่งเสรมิ คณุ ภาพชีวติ แรงงาน 25/17-18 หมู่บ้านมหาชัยเมอื งทอง ถ.สหกรณ ต.บางหญา้ แพรก อ.เมือง จ.สมทุ รสาคร 74000 โทร. 0-3443-4726, 09-0948-4678 7. โครงการบ้านพทิ ักษ์และคุม้ ครองสิทธเิ ด็กชนเผ่าลุ่มนำ้ โขง 294/1 ม.3 ต.ทาสุด อ.เมือง จ.เชียงราย 57100 โทร. 0-6185-6603 โทรสาร 0-5378-7328, 0871-9075 Website : www.depde.org E-mail : [email protected] 8. ศนู ย์ข้อมูลคนหาย มูลนธิ ิกระจกเงา 8/12 ซ.วิภาวดี 44 ถ.วิภาวด−ี รงั สติ แขวงลาดยาว เขตจตจุ กั ร กทม. 10900 โทร. 0-2941-4194-5 ตอ114 โทรสาร 0-2642-7991-2, 0-2941-4194 ตอ109 Website : www.becktohome.org. www.notforsale.or.th, www.miror.or.th E-mail : [email protected] 9. ศูนย์ชีวติ ใหม่ 49/9 ซ.3 ต.ทุงโฮเต็ล อ.เมือง จ.เชยี งใหม่ 50000 โทร. 0-5335-1312, 08-5326-3010 โทรสาร 0- 5338-0871 Website : www.newlifecenterfoundation.org E-mail : newlife@pobox, 10. สภาทนายความ 7/89 อาคาร 10 ถ.ราชดำเนินกลางแขวงบวรนิเวศเขตพระนคร กทม. 10200 โทร. 0-2629-1430 11. หนว่ ยประสานงานเพอ่ื ตอ่ ต้านการค้ามนุษย์ ภาคเหนือตอนบน ประเทศไทย ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 5 ถ.โชตนา ต.ชางเผือก อ.เมอื ง จ.เชียงใหม่ 50300 โทร. 0-5311-2643-4 12. คลนิ กิ นิรนาม สภากาชาดไทย สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร 104 ถ.ราชดำริ แขวงปทมุ วัน เขตปทุมวนั กทม. 10330 โทร. 02-252-2568 กด 1, 02-256-4107-9 โทรสาร 02-254-7577

37 13. โครงการสง่ เสรมิ ศกั ยภาพหญงิ แรงงานขา้ มชาติ (ซปี อม) 120 ม.15 ต.รอบเวยี ง อ.เมือง จ.เชยี งราย 57000 โทร. 0-5375-6411 โทรสาร 0-5375-6411 E-mail : [email protected] 14. บา้ นแสงใหม่ 258 ม.5 ต.รอบเวยี ง อ.เมอื ง จ.เชียงราย 57000 โทร. 0-5371-4772 โทรสาร 0-5371-7098 E-mail : [email protected] 15. บ้านเอือ้ อารี 343/22 ซ.ข้างธนาคารกสกิ รไทย ถ.พหลโยธนิ สะพานใหม่ แขวงอนเุ สาวรีย์ เขตบางเขน กทม. 10200 โทร. 0-2972-4992 โทรสาร 0-2972-4993 E-mail : [email protected] 16. มูลนิธิเขาถงึ เอดส์ สำนกั งานกาญจนบุรี 64/3 ถ.แสงชโู ต ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบรุ ี 57000 โทร. 0-5371-6212, 0-5371-7897 Website : www.aidaccress.com E-mail : [email protected] 17. UNIAP โครงการความร่วมมือสหประชาชาติ ว่าด้วยการตอ่ ตา้ นการค้ามนษุ ยป์ ระจำประเทศไทย อาคารสหประชาชาติ ช้ัน 7 ถ.ราชดำเนินนอก กทม. 10200 โทร. 0-2288-1746 โทรสาร 0-2288-1053 Website : www.no_trafficking.org E-mail : [email protected]

38 บทที่ 5 การกำกบั ติดตามและประเมนิ ผล สถานศกึ ษาดำเนนิ การกำกับ ตดิ ตาม และประเมินผล การดำเนนิ งานความปลอดภยั ของสถานศกึ ษา โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครอื ข่าย ตามแนวดำเนนิ การ มาตรการ แนวทางปฏบิ ัติ โดยยึดตัวชว้ี ดั ในการดำเนินการ ในทุกประเดน็ มีการจัดทำเคร่อื งมือในการกำกับ ติดตาม และประเมินผล ทีม่ ีคุณภาพและครอบคลุม มกี ารจัดทำ แผนการกำกบั ตดิ ตาม และประเมินผลกำหนดปฏทิ ินดำเนินการ คัดเลือกสถานศกึ ษาทม่ี ีผลการดำเนนิ การ ประสบผลสำเร็จเป็นทปี่ ระจกั ษ์ ยกยองเชดิ ชเู กยี รติ สรุปรายงาน และเผยแพรผลการดำเนินงานอยา่ งเป็นระบบ โดยดำเนนิ การ ดังน้ี 1) แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา โดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคสวน 2) ศึกษาแนวดำเนินการ มาตรการ แนวทางการปฏิบัติ และตัวชี้วัดการดำเนินงานความปลอดภัย ของสถานศกึ ษา 3) จัดทำแผนการกำกับ ติดตาม และประเมินผล การดำเนนิ งานความปลอดภยั ของสถานศกึ ษา 4) กำหนดปฏิทนิ ในการดำเนนิ งานความปลอดภัยของสถานศกึ ษา อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครง้ั 5) จัดทำเครื่องมือในการกำกับ ติดตาม และประเมินผล การดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา ท่สี อดคลองกบั ตัวชว้ี ัดในการดำเนนิ งานความปลอดภยั ของสถานศึกษา 6) ดำเนนิ การกำกบั ตดิ ตาม และประเมินผล การดำเนนิ งานความปลอดภัยของสถานศกึ ษา 7) สรุปผลการดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา ให ขอเสนอแนะประเด็นที่เป็นจุดเด่น จุดควรพัฒนา พรอมแนวทางในการพฒั นาในปการศกึ ษาตอ่ ไป 8) คัดเลอื กสถานศึกษาท่มี ผี ลการดำเนินการประสบผลสำเรจ็ เปน็ ทีป่ ระจักษ์ 9) ยกยองเชดิ ชเู กียรติสถานศึกษาทีม่ ผี ลการดำเนินการประสบผลสำเร็จเป็นท่ีประจักษ์ 10) เผยแพรประชาสมั พันธ์ผลการดำเนนิ งานความปลอดภยั ของสถานศึกษาในชองทางท่หี ลากหลาย

บรรณานกุ รม - คู่มือการคุ้มครองและช่วยเด็กนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขนั้ พน้ื ฐาน (ฉบบั พัฒนา พ.ศ. 2563) - คู่มือแนวทางปฏบิ ัตแิ ละมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ของสถานศึกษา ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2556 - คู่มือโครงการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ในสถานศกึ ษา - มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแหงชาติ สำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู สำนักงาน เลขาธิการสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ.2562 - มาตรฐานโรงเรียนคมุ้ ครองเด็ก - แบบประเมินตนเองตามมาตรฐานโรงเรยี นคุมครองเดก็ - คมู่ อื การรบั มือแผ่นดนิ ไหว - คู่มือการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข - พระราชบัญญัติ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. ๒๕๕๔ - กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการดานความปลอดภัยอาชวี อนามัย และสภาพแวดลอมในการทำงานเกีย่ วกับการปองกนั และระงับอคั คภี ยั พ.ศ. ๒๕๕๕ - กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำนเนนิ การด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงานเกยี่ วกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖

รายช่อื คณะทำงาน ที่ปรกึ ษา บุญเป็ง ผ้อู ำนวยการ สำนกั งาน กศน.จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน 1. นายพงษ์ศกั ดิ์ แสงจนั ทร์ สาธารณสขุ อำเภอเมอื งแม่ฮ่องสอน 2. นายอรรถสิทธิ์ 3. ร.ต.อ.ครรชติ คงอินทร์ รอง สวป.ป้องกันปราบปราม สภ.เมอื งแม่ฮ่องสอน คณะทำงาน กาศสนกุ ผ้อู ำนวยการกศน.อำเภอเมืองแมฮ่ ่องสอน 1. นางมณั ฑนา 2. นางนุชนารถ ไชยกนั ทา ครชู ำนาญการ 3. นายเจริญชยั มติ ตอทุ ิศชยั กุล ครูชำนาญการ 4. นางสาวเพ็ญศรี 5. นางสาวณฐั ธิชา เปน็ กล ครู คศ.1 6. นางสาวเพชรดา ลขิ ติ รุ่งรัตน์ ครผู ู้ชว่ ย 7. นางสาววันวสิ า พลที ัง้ กาย ครู กศน.ตำบล 8. นางณัฐณชิ าช์ 10.นางสาวไพลนิ จอมปอ้ ครู กศน.ตำบล 11. นายรจุ วฒั น์ ฝ่นั เต่ย ครู กศน.ตำบล บรรณาธกิ าร เฉลมิ เมธวี งศ์ บรรณารกั ษ์ 1. นางสาวณฐั ธชิ า หลักมั่น ครู ปวช. 2. นางสาวไพลิน 3. นายรุจวฒั น์ ลิขิตรุ่งรตั น์ ครูผ้ชู ว่ ย เฉลมิ เมธีวงศ์ บรรณารักษ์ หลักมน่ั ครู ปวช.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook