องค์ประกอบศิลป์สำหรับการถ่ายภาพ

การจัดองค์ประกอบภาพเบ้อื งตน้ โดย: Microsoft Thailand Photo Club

กฎจดุ ตัดเกา้ ช่อง (หรอื กฎสามส่วน)  Why: เมอื่ จดุ เดน่ ของภาพเอยี งไปอยขู่ า้ งใดขา้ งหนง่ึ ของภาพ มนั จะสรา้ งความน่าสงสยั หรอื ความ น่าสนใจใหเ้ กดิ ขนึ้ อกี นัยหนงึ่ ก็คอื มนั สะดดุ ตา  How:  ใชเ้ สน้ ตัง้ 2 เสน้ และเสน้ นอน 2 เสน้ แบง่ ภาพแนวนอน 3 สว่ นและแนวตัง้ 3 สว่ นเทา่ ๆกนั จะได ้ ภาพทมี่ ชี อ่ งเล็กๆ 9 ชอ่ ง และจดุ ตัด 4 จดุ  วางจดุ เดน่ ของภาพไมว่ า่ จะเป็ นฉากหนา้ หรอื ฉากหลังตรงบรเิ วณจดุ ตัดเหลา่ นัน้ 1 หรอื 2 จดุ ก็ได ้  ถา้ เป็ นภาพววิ เสน้ ขอบฟ้าควรจะอยทู่ ต่ี าแหน่ง 1/3 หรอื ไมก่ ็ 2/3 เพราะเราควรจะเนน้ ไปทอ่ี ยา่ ง ใดอยา่ หนง่ึ น้า หรอื ฟ้า 123 456 789











 ทศิ ทาง: ทศิ ทางของวตั ถกุ ็มสี ว่ นในการ วางตาแหน่งบนจดุ ตัดเกา้ ชอ่ งเหมอื นกนั ถา้ วัตถกุ าลงั เคลอ่ื นท่ี  ซา้ ยไปขวา: ควรวางรปู ไวท้ างซา้ ย  ลา่ งไปบน: ควรวางรปู ไวด้ า้ นลา่ ง

โทนสี  Why: โทนสจี ะชว่ ยสรา้ งจนิ ตนาการของภาพ เรา้ รอ้ น ตน่ื เตน้ เยอื กเย็น เครง่ ขรมึ  ใชภ้ าพขาวดา เมอื่ ตอ้ งการเนน้ แค่ ”อารมณ์” ภาพ ภาพ Portrait ชนั้ นาหลายๆภาพมักจะเป็ นขาวดา เพราะตอ้ งการเนน้ อารมณ์ 100%  ใชภั าพสเี พอื่ แสดง ”จนิ ตนาการ” ของสง่ิ ทอี่ ยใู่ น ภาพ เชน่ ภาพววิ ทวิ ทัศนท์ เ่ี นน้ สฟี ้าหรอื สเี ขยี ว  สมี ี 2 โทน – รอ้ น และ เย็น  โทนรอ้ น: ใหค้ วามรสู ้ กึ เรา่ รอ้ น ผจญภยั ตนื่ เตน้ เคลอื่ นไหว น่าตดิ ตาม  โทนเย็น: ใหค้ วามรสู ้ กึ สงบนง่ิ เยอื กเย็น เคร่งขรมึ ผอ่ นคลาย

โทนสี How: การเลน่ ทาได ้ 2 แบบ  โทนเดย่ี ว: เพอื่ เนน้ ใหค้ วามรสู ้ กึ หรอื • http://www.malanenewman.com/color_theory_color_wheel.html จนิ ตนาการภาพมันไปทางใดทางหนงึ่  โทนค:ู่ สที ตี่ ดั กนั จะสรา้ งความเปรยี บ ตา่ งของสี (Contrast) ใหเ้ กดิ ในภาพ และทาใหภ้ าพดสู ะดดุ ตา  เลอื กใช ้ สคี ตู่ รงขา้ ม เชน่ เขยี ว- แดง เหลอื ง-มว่ ง น้าเงนิ -สม้ ใน อตั ราสว่ น 70:30  สขี าวกบั สดี าเป็ นสกี ลาง สามารถเขา้ กนั ไดก้ บั ทกุ สี

สโี ทนรอ้ น สโี ทนเย็น

สโี ทนรอ้ น: เพอ่ื ใสจ่ นิ ตนาการแนวผจญภยั รปู นใี้ ช ้ White Balance แบบ Shade ถา่ ยเวลา 6pm

สโี ทนเย็น: ทงั้ ภาพเหมาะกบั ภาพววิ ธรรมชาติ ทาใหภ้ าพดเู ย็นสบายตา

สโี ทนเย็น: สฟี ้าและสเี ขยี วเป็ นองคป์ ระกอบสาคญั ในการลดอณุ หภมู ขิ องภาพทม่ี าจากสโี ทนรอ้ นของหลงั คาสแี ดงๆสม้ ๆ อกี อยา่ ง…เวลาจัดองคป์ ระกอบภาพแนวนก้ี ใ็ หเ้ ลอื กเอาระหวา่ งเนน้ ทอ้ งฟ้า หรอื เนน้ ผนื น้า มนั ขนึ้ อยกู่ บั วา่ อะไรดเู ดน่ กวา่ กนั ในตอนนัน้ แลว้ กใ็ ชก้ ฎ 3 สว่ นแบง่ เลยเชน่ น้า 2 สว่ น ฟ้า 1 สว่ น

สโี ทนครู่ อ้ น-เย็น เพอ่ื สรา้ ง 2 บรรยากาศในภาพเดยี วกนั ความสงบนง่ิ ภายใตโ้ ลกอนั เรา่ รอ้ น 

สโี ทนคู่ รอ้ น 30 : เย็น 70

สโี ทนคู่ รอ้ น 70 : เย็น 30

สโี ทนคู่ รอ้ น 30 : เย็น 70

เส้น  เสน้ ตงั้ : สงู สงา่ แข็งแรง มัน่ คง  เสน้ นอน: สงบ ผอ่ นคลาย  เสน้ เฉยี ง: มพี ลัง เคลอ่ื นไหว  เสน้ โคง้ : ความงาม ความออ่ นชอ้ ย เสน้ นาสายตา: อาจเป็ นเสน้ ทัง้ 4 ประเภท  ทจ่ี ะนาสายตาไปสจู่ ดุ เดน่ ของภาพ ทาให ้ จดุ เดน่ ดเู ดน่ ขน้ึ ไปอกี \"The best Leading Lines will start at the Lower Left area of the picture frame but not in the exact corner. Again, the eye likes to enter a picture frame at this point and the Leading Line will help it get in to the picture easily and swiftly.\" http://photoinf.com/General/Arnold_Kaplan/The_Magic_Of_Selective_Vision_-_Photo_Composition.htm

เสน้ ตงั้ : ทาใหภ้ าพดู สงา่ สงู แข็งแรง มนั่ คง เหมาะกบั การถา่ ยภาพอาคาร หรอื สถานทๆ่ี มคี วามสาคญั ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ การถา่ ยภาพอาคารนัน้ เสน้ ตงั้ ควรจะไดด้ งิ่ จรงิ ๆ ถา้ ไมไ่ ดใ้ ห ้ Correct Perspective ในซอฟทแ์ วร์

เสน้ นอน: สรา้ งความรสู ้ กึ สงบ นงิ่ ผอ่ นคลาย

เสน้ โคง้ : ความงาม ความออ่ นโยน

เสน้ โคง้ : เกดิ จากการใชเ้ ลนส์ Fish Eye ทเี่ ปลยี่ นมติ ภิ าพจากเสน้ ตรงเป็ นเสน้ โคง้ ภาพนถี้ า่ ยในสถานทศ่ี กั ดส์ิ ทิ ธิ์ เพราะฉะนัน้ ภาพควรจะมสี มมาตรซา้ ย-ขวาทเี่ ทา่ ๆกนั เลนส์ Fish Eye จะชว่ ยใหเ้ ก็บมมุ ภาพแบบ 180 องศาได ้ ทาใหภ้ าพดยู งิ่ ใหญอ่ ลงั การ

เสน้ นาสายตา: นาสายตาสจู่ ดุ เดน่ ของภาพ

เสน้ นาสายตา

เสน้ นาสายตา: ไมจ่ ะเป็ นตอ้ งเป็ นเสน้ ตรง แตต่ อ้ งนาสายตาไปยงั จดุ เดน่ ของภาพได ้

สมมาตร กับ สมดลุ ย์ • สมมาตร: คอื การทาให ้ “รปู ทรง” ในภาพดเู ทา่ กนั เหมาะกับภาพท่ี ตอ้ งการใหด้ ู ขลงั ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ สมมาตรแบง่ ไดค้ รา่ วๆเป็ น 2 แบบ – สมมาตรซา้ ย-ขวา – สมมาตรบน-ลา่ ง • สมดลุ ย:์ คอื การทาให ้ “น้าหนัก” ของภาพใหด้ เู ทา่ กนั เชน่ การวาง วตั ถใุ หญ่ 1 ชน้ิ ใหถ้ ว่ งดลุ ยก์ บั วตั ถเุ ล็ก 2-3 ชน้ิ

สมมาตร ซา้ ย-ขวา: เหมาะกบั การถา่ ยภาพพระพทุ ธรปู หรอื สถานทร่ี าชการทต่ี อ้ งการใหภ้ าพดนู ่าเชอ่ื ถอื

สมมาตร ซา้ ย-ขวา: ก็สามารถใชง้ านภายในอาคารไดด้ ว้ ย

สมมาตร บน-ลา่ ง: เงาในน้าก็สามารถนามาเป็ นองคป์ ระกอบในการสรา้ งสมมาตรไดเ้ หมอื นกนั

สมดลุ ย:์ 1 วตั ถใุ หญ่ ถว่ งดลุ ยก์ บั 3 วตั ถเุ ล็ก



สมดลุ ย:์ บน-ลา่ ง

แสงธรรมชาติ  แสงธรรมชาตเิ ป็ นองคป์ ระกอบทสี่ าคญั มากทสี่ ดุ ในการถา่ ยภาพเลยกว็ า่ ได ้ ไมว่ า่ จะเป็ นภาพสหี รอื ขาวดา เพราะแสงเป็ น ตวั กาหนดความสวา่ งความมอื บนภาพซงึ่ มี ผลตอ่ อารมณ์ของภาพ  แสงธรรมชาตทิ เ่ี หมาะตอ่ การถา่ ยภาพมี ดงั นี้  ชว่ งเชา้ 6:00-10:00 am เหมาะกบั การถา่ ย Landscape หรอื แนว Life  ชว่ งเย็น 4:00-7:00 pm ก็เหมาะกบั การถา่ ย Landscape เหมอื นกนั หรอื ไมก่ แ็ นว Portrait

แสงยามเชา้ : 8:00am ทอ้ งฟ้าในมมุ ตามแสง (มมุ โพลาไรซ)์ จะฟ้าเขม้ กวา่ ในชว่ งเวลาอน่ื ฟ้ายงิ่ สงู สจี ะยงิ่ เขม้ เพราะฉะนัน้ เลนสไ์ วดจ์ ะชว่ ยในการถา่ ยภาพทอ้ งฟ้าในมมุ สงู ไดด้ ี

แสงยามสายทลี่ อดมาตามชอ่ งหนา้ ตา่ ง: แสงตอนสายๆอาจจะดแู ข็ง แตถ่ า้ เป็ นแสงทลี่ อดผา่ นมาตามชอ่ งหนา้ ตา่ ง มนั จะดนู ุ่มขนึ้ และชว่ ยสรา้ งโทนสแี บบ Warm หรอื Faithful ทาใหภ้ าพดมู พี ลงั และความขลงั

แสงเฉียง: เป็ นแสงชว่ งเชา้ (6-8am) กบั ชว่ งเย็น (4-7pm) จะมคี วามนุ่มนวลกวา่ แสงชว่ งกลางวนั เหมาะกบั การถา่ ยภาพวตั ถทุ ต่ี อ้ งการเนน้ ใหเ้ หน็ รปู ทรงทสี่ วยงาม หรอื มพี นื้ ผวิ ทสี่ ะทอ้ นแสง

แสงผา่ นมา่ นเมฆ: ปกตจิ ะเกดิ ในชว่ งเมฆมากหรอื หลงั ฝนตก แสงทผี่ า่ นกลมุ่ เมฆเหลา่ นัน้ จะฉายลงสพู่ น้ื ดนิ เป็ นลาดมู พี ลัง เมอื่ ลาแสงเร็ดลอดผา่ นวตั ถตุ า่ งๆดา้ นลา่ ง เชน่ กลมุ่ อาคาร หรอื ตน้ ไม ้ มันจะชว่ ยเนน้ ความเดน่ ของรปู ทรงวตุ ถนุ ัน้ ๆ

Rim Light: คอื แสงทล่ี อดผา่ นดา้ นหลงั ของวตั ถหุ รอื ตัวบคุ คล ทาใหร้ อบๆตวั ตถดุ เู หมอื นมรี ัศมเี ปลง่ ออกมา

แสงยามเย็น: เหมาะกบั การถา่ ยภาพโครงทบึ (Silhouette) มากๆ หลักการงา่ ยๆคอื วดั แสงทส่ี ว่ นทจ่ี า้ ทส่ี ดุ แลว้ กล็ ็อกคา่ แสงกอ่ นล่นั ชตั เตอร์

แสงชว่ งเย็น: ทส่ี อ่ งเฉยี งมาลงมากระทบบนใบไมท้ าใหแ้ ละสายน้าทาใหว้ ัตถดุ โู ปรง่ แสง

แสงสงั เคราะห:์ ในกรณที แ่ี สงยามเย็นไดห้ มดลงไป แสงสงั เคราะหจ์ ากเทยี นหรอื โคมไฟก็ชว่ ยสา้ งความโดดเดน่ ของภาพไดเ้ สมอ ภาพนเี้ กดิ จากการตงั้ กลอ้ งถา่ ยทส่ี ปีดชตั เตอรต์ า่ ๆ (13 วนิ าท)ี แลว้ บบี รรู บั แสงใหแ้ คบ (F/16) รรู ับแสงทแ่ี คบจะสรา้ งไฟแฉก หรอื starlight effect ไดด้ ว้ ย

กรอบธรรมชาติ • กรอบธรรมชาตคิ อื การใช ้ องคป์ ระกอบจากสงิ่ ทอี่ ยรู่ อบ ขา้ งเชน่ ตน้ ไม ้ ชอ่ งหนา้ ตา่ ง เงา มาสรา้ งเป็ นกรอบเพอ่ื เนน้ ใหว้ ตั ถใุ นกรอบมคี วามโดดเดน่ ขน้ึ และนาสายตาไปสจู่ ดุ ที่ ตอ้ งการเนน้ เทา่ นัน้ • กรอบธรรมชาตไิ มจ่ าเป็ นตอ้ งมี ความคมชดั หรอื รายละเอยี ด มากมาย เพราะวา่ มนั อาจจะ แยง่ ความเดน่ ของวตั ถใุ นกรอบ

กรอบธรรมชาต:ิ ในกรณีนค้ี อื ตน้ ไม ้ และชดุ เกา้ อี้ โดยมสี ง่ิ ทต่ี อ้ งการเนน้ คอื ตัวอาคารดา้ นหลัง



เงากเ็ ป็ นกรอบธรรมชาตไิ ดเ้ หมอื นกนั เพราะมนั ทาหนา้ ทลี่ ดความสวา่ งของสง่ิ ทเ่ี ราไมต่ อ้ งการเนน้







ฉากหน้า-ฉากหลงั • ฉากหนา้ (foreground) และ ฉากหลงั (background) จะ ชว่ ยสรา้ งมติ หิ รอื ระยะใกล-้ ไกล ใหเ้ กดิ ขน้ึ ในภาพ • ฉากหนา้ และฉากหลงั ควรจะมี ความคมชดั ทตี่ า่ งกนั เพอ่ื เนน้ มติ ิ ภาพ • ฉากหนา้ และฉากหลงั ควรจะเลา่ เรอื่ งๆเดยี วกนั