แผนพฒั นาดา้ นการจดั การศึกษา โรงเรียนสขุ ภาวะ 5 ดา้ น
การให้ความเห็นชอบเอกสารแผนพฒั นาดา้ นการจัดการศึกษาโรงเรยี นสขุ ภาวะ ปีการศกึ ษา 2560-2565 ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้ประชุมพิจารณา แผนพัฒนาด้านการจัดการศึกษาโรงเรียนสุขภาวะระยะ 4 ปี (ปีการศึกษา 2560 – 2565) ของโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 แล้ว เห็นชอบใหด้ าเนินการตามแผนพัฒนาด้านการจัดการศึกษาโรงเรยี นสุขภาวะ 4 ปี ตามรายละเอียดทป่ี รากฏในเอกสาร ลงชื่อ.................................................. ( นายกฤษฏ์ิ พยัคกาฬ ) ประธานกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
คานา ตามบทบัญญัติในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี พ.ศ. 2546 กาหนดวา่ การบริหารราชการจะต้องวางแผนโดยกาหนดระยะเวลาขนั้ ตอนการปฏบิ ัติงาน งบประมาณ เป้าหมาย และตัวชวี้ ดั จัดให้มกี ารประเมนิ และตรวจสอบการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ ใหม้ ีการพฒั นาองค์ความรู้ภายใน องค์กรอย่างสม่าเสมอ และให้ทุกส่วนราชการปฏิบตั ิตามแผนทก่ี าหนด ประกอบกับกฎกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา 2553 ข้อ 14(2) ได้กาหนดให้โรงเรียน จัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา พร้อมท้ังกาหนดองค์ประกอบของแผนพัฒนาการจัดการศึกษาไว้ในข้อ 16 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จึงจัดทาแผนพัฒนาด้านการจัดการศึกษาโรงเรียนสุขภาวะฉบับน้ี ข้ึน เพื่อเป็นกรอบทิศทางการพัฒนาโรงเรียนเป็นโรงเรียนสุขภาวะ ตามภารกิจและตามความต้องการของ ผู้ปกครองและชุมชนกาหนด โดยผา่ นความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พื้นฐานแลว้ ขอขอบพระคุณ คณะครู นักเรียน และผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องทุกฝ่ายท่ีอานวยความสะดวกในการจัดทา และรว่ มดาเนนิ การจนแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาฉบับนส้ี าเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี คณะผจู้ ดั ทา
สารบัญ หน้า ส่วนท่ี 1 สภาพและบริบทของโรงเรียน ส่วนท่ี 2 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศักยภาพ SWOT Analysis. สว่ นท่ี 3 ทิศทางการจดั การศึกษาโรงเรยี นสุขภาวะ ๕ ด้าน ส่วนท่ี 4 กรอบกลยทุ ธ์และประเด็นการพฒั นาโรงเรยี นสขุ ภาวะ ส่วนที่ 5 โครงการ / กจิ กรรมที่สนับสนนุ การดาเนินงานโรงเรยี นสขุ ภาวะ ส่วนที่ 6 การบริหารแผนสกู่ ารปฎิบัติ ภาคผนวก
สว่ นที่ 1 สภาพและบริบทของโรงเรยี น สภาพแวดล้อมของสถานศึกษา (บริบทของสถานศกึ ษา) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 เป็นโรงเรียนในสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ต้ังอยู่ ณ เลขท่ี 99 หมู่ 10 ตาบลช่างเคิ่ง อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ดาเนินการภายใต้การประสานงาน ร ะ ห ว่ า ง มู ล นิ ธิ ร า ช ป ร ะ ช า นุ เ ค ร า ะ ห์ ใ น พ ร ะ บ ร ม ร า ชู ป ถั ม ภ์ กั บ ส า นั ก บ ริ ห า ร ง า น ก า ร ศึ ก ษ า พิ เ ศ ษ กระทรวงศึกษาธิการจัดการศึกษาระดับช้ันประถมศึกษาถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2561 มี ทงั้ สิน้ 30 หอ้ งเรยี นจานวนนกั เรยี นทัง้ สนิ้ 797 คน บรรยากาศของสถานศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ต้ังอยู่บนเทือกเขาอินทนนท์ บนพื้นท่ี 226 ไรส่ ภาพท่ีต้ังเป็น ที่สงู แยกจากถนนซึ่งเคยเป็นเสน้ ทางยุทธศาสตรใ์ นอดตี ปัจจุบันเป็นเสน้ ทางสัญจรระหวา่ งอาเภอแม่แจ่มไปยัง ท้องที่ใกล้เคียงสามารถเดินทางได้ทุกฤดูกาล มีอากาศเย็นสบายตลอดปี สภาพอากาศในแต่ละฤดูไม่มีความ แตกต่างกนั ในฤดูร้อนไม่ร้อน อบอ้าวจนเกินไป เพราะมีต้นไมข้ ้ึนอยหู่ นาแน่นและอยูต่ ิดกบั แนวปา่ ซง่ึ เชื่อมต่อ กับดอยอินทนนท์ซ่ึงมีความอุดมสมบูรณ์และมีความช้ืนสูง สามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ เส้นทางท่ี สามารถเข้าสู่โรงเรียนมี 2 เส้นทาง ดังน้ี เส้นทางแรกคือ ถนนสายจอมทอง-อินทนนท์-แม่แจ่ม และถนนสาย จอมทอง-ฮอด-แม่แจ่ม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ห่างจากตัวอาเภอแม่แจ่ม 7 กิโลเมตร มีแหล่งน้า ธรรมชาติ จากลาห้วยเหนอื หมู่บา้ นซ่งึ ไหลมาจากเทอื กเขาถนนธงชัย สามารถนาใช้มาอปุ โภคและบรโิ ภคได้ สภาพชุมชนใกล้เคยี งสถานศกึ ษา สภาพชมุ ชนใกล้เคียงกับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จะมีหมู่บ้านแม่ปาน หมบู่ ้านสันเก๋ียง หมู่บ้านห้วยริน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทานา ทาสวน ทาไร่ข้าวโพด ปลูกถ่ัวเหลือง ประกอบการค้าขนาดเลก็ บรกิ ารสนิ คา้ ในหมู่บ้านในการยังชีพ การดาเนนิ งานในระยะเร่มิ แรกพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ มอบหมายให้กรมสามัญศึกษา โดยสานักงานสามัญศึกษาจังหวัด เชียงใหม่ ดาเนินการขอใช้พ้ืนท่ีป่าเส่ือมโทรมกับกรมป่าไม้ และได้รับอนุญาตให้ใช้พ้ืนที่ป่า จานวน 226 ไร่ สาหรับก่อสร้างโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศจัดต้ังโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่ แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันท่ี 30 เดือนกันยายน พ.ศ 2541 เป็นโรงเรียนประเภทศึกษาสงเคราะห์ แบบ ประจา จัดการศึกษาตั้งแต่ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 รับเด็กนักเรียนที่ยากไร้ทาง เศรษฐกจิ และด้อยโอกาสทางการศกึ ษา ภูมหิ ลังและสภาพแวดล้อมครอบครัวของนกั เรียน โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ซึ่งนกั เรียนจะอยู่ในช่วงวยั รุ่นท่ีเป็นช่วงต่อระหว่างวัยเด็กและ วัยผู้ใหญ่เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดข้ึนหลายๆ ด้านพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และ จิตใจ ด้านสังคม ทาให้ต้องมีการปรับตัวหลายด้านในเวลาพร้อมกัน สาเหตุท่ีทาให้นักเรียนมีพฤติกรรม แสดงออกท่ีไม่เหมาะสม ซ่ึงปัญหาที่เกิดข้ึนส่วนหนึ่งเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เกะกะเกเร คึกคะนองของ
เด็กวยั รุ่นและเกิดจากการเล้ียงดูท่ีผิดพลาดของสง่ิ แวดล้อมต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวนักเรียน ไม่วา่ จะเป็นครอบครัว ครูเพอ่ื นหรือแม้กระทั่งสงั คม ดังนั้น วัยเด็กและเยาวชนของชาตจิ ึงเป็นกลุ่มทส่ี งั คมต้องใหก้ ารดูแลเอาใจใสม่ าก เป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตท่ีดีเจริญเติบโตไปในทางท่ีถูกต้องและเหมาะสม สามารถเป็น กาลังหลักในการพัฒนาประเทศได้ในอนาคต จึงเป็นหน้าที่ของสถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษาในการ เลยี้ งดูและอบรมเด็ก วสิ ัยทศั น์ ภายในปี 2562 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 เชียงใหม่ มุ่งพัฒนาไปสู่โรงเรียนท่ีมีความเข้มแข็ง ด้านการเสริมสร้างสุขภาวะของนักเรียนและชุมชน เป็นต้นแบบด้านการจัดหลักสูตรและการเรียนการสอน แบบบูรณาการท่ีเน้นปัญหาเป็นฐาน มุ่งเน้นพัฒนาการคิด ทักษะวิชาชีพ และจิตสาธารณะของนักเรียน โดย การมีส่วนร่วมอย่างเตม็ ทข่ี องชุมชน วสิ ยั ทศั นย์ อ่ ย 1. เปน็ ตน้ แบบด้านการจดั หลกั สตู รและการเรียนการสอนแบบบรู ณาการที่เนน้ ปญั หาเป็นฐาน 2. พัฒนาการคิด ทกั ษะวชิ าชพี และจิตสาธารณะของนักเรียน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ข้อมลู การจดั การศกึ ษา แผนการรับนกั เรยี นระยะ 4 ปี ระหวา่ งปกี ารศกึ ษา 2560 - 2564 ชว่ งชน้ั 2560 ปกี ารศึกษา 2564 2561 2562 2563 ชว่ งช้ันที่ 1 30/30/12 30/10/15 30/7/10 30/30/7 30/30/30 ชว่ งช้นั ที่ 2 24/29/30 14/23/25 15/14/23 10/15/14 7/10/15 ชว่ งช้ันท่ี 3 120/120/127 120/122/97 120/133/122 120/120/133 120/120/120 ชว่ งชน้ั ที่ 4 120/120/126 120/124/120 120/124/124 120/120/124 120/120/120 รวม 888 820 842 843 842 แผนการจดั ชัน้ เรียน(ห้อง) ชว่ งชั้น 2560 2561 ปกี ารศกึ ษา 2563 2564 1/1/1 1/1/1 2562 1/1/1 1/1/1 ช่วงช้นั ที่ 1 1/1/1 1/1/1 1/1/1 1/1/1 1/1/1 ช่วงชัน้ ท่ี 2 4/4/4 4/4/4 1/1/1 4/4/4 4/4/4 ช่วงชั้นท่ี 3 4/4/4 4/4/4 4/4/4 4/4/4 4/4/4 ชว่ งช้ันท่ี 4 4/4/4 30 30 30 30 30 รวม
รายงานจานวนนักเรยี นแยกตามชัน้ เรียน, เพศ สถานศึกษา : โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 เชียงใหม่ ข้อมลู ณ ปจั จบุ ัน (28 กุมภาพันธ์ 2562) ลาดับ ระดบั ชนั้ เพศชาย เพศหญงิ รวม ประจา ไป-กลับ รวม ประจา ไป-กลบั รวม 7 4 10 1 ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 3 0 34 0 5 15 10 14 2 ประถมศึกษาปีที่ 2 5 0 55 0 9 23 14 25 3 ประถมศึกษาปีที่ 3 5 0 5 10 0 14 133 98 123 4 ประถมศึกษาปที ่ี 4 5 0 59 0 86 97 80 104 5 ประถมศึกษาปีท่ี 5 9 0 9 14 0 85 126 91 120 6 ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 11 0 11 14 0 102 797 598 7 มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 35 0 35 98 0 8 มัธยมศึกษาปีท่ี 2 37 0 37 86 0 9 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 17 0 17 80 0 10 มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 19 0 19 85 0 11 มัธยมศึกษาปีที่ 5 35 0 35 91 0 12 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 18 0 18 102 0 รวมทั้งหมด 199 0 199 598 0 จานวนบุคลากรแยกตามตาแหนง่ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 ลาดับ ตาแหนง่ บคุ ลากร ชาย(คน) หญิง(คน) รวม(คน) 1 1 1 ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา 0 0 1 6 11 2 รองผ้อู านวยการสถานศึกษา 1 9 14 21 39 3 ครู 5 2 2 4 12 4 ครูผู้ช่วย 5 4 4 0 1 5 ครูผสู้ อน 18 0 1 1 1 6 ครอู ัตราจา้ ง 0 0 1 48 88 7 พีเ่ ล้ยี งเดก็ พกิ าร 8 8 คนครัว 0 9 ยาม 1 10 พนกั งานขับรถ 1 11 พนักงานธรุ การ 0 12 ชา่ งไม้ ระดบั 3 1 รวม 40
สภาพแวดล้อมของสถานศกึ ษา (บริบทของสถานศกึ ษา) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 เป็นโรงเรียนในสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ต้ังอยู่ ณ เลขท่ี 99 หมู่ 10 ตาบลช่างเคิ่ง อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ดาเนินการภายใต้การประสานงาน ร ะ ห ว่ า ง มู ล นิ ธิ ร า ช ป ร ะ ช า นุ เ ค ร า ะ ห์ ใ น พ ร ะ บ ร ม ร า ชู ป ถั ม ภ์ กั บ ส า นั ก บ ริ ห า ร ง า น ก า ร ศึ ก ษ า พิ เ ศ ษ กระทรวงศึกษาธิการจัดการศึกษาระดับช้ันประถมศึกษาถึงช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2561 มี ทั้งส้ิน 30 หอ้ งเรยี นจานวนนักเรียนทัง้ สิ้น 797 คน บรรยากาศของสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตั้งอยู่บนเทอื กเขาอินทนนท์ บนพื้นท่ี 226 ไร่สภาพท่ีต้ังเป็น ท่สี งู แยกจากถนนซึ่งเคยเป็นเสน้ ทางยุทธศาสตรใ์ นอดตี ปัจจุบันเป็นเสน้ ทางสัญจรระหว่างอาเภอแม่แจ่มไปยัง ท้องที่ใกล้เคียงสามารถเดินทางได้ทุกฤดูกาล มีอากาศเย็นสบายตลอดปี สภาพอากาศในแต่ละฤดูไม่มีความ แตกตา่ งกนั ในฤดรู ้อนไม่ร้อน อบอ้าวจนเกินไป เพราะมีตน้ ไมข้ ้ึนอยหู่ นาแน่นและอยตู่ ิดกับแนวปา่ ซงึ่ เชอื่ มต่อ กับดอยอินทนนท์ซ่ึงมีความอุดมสมบูรณ์และมีความชื้นสูง สามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ เส้นทางท่ี สามารถเข้าสู่โรงเรียนมี 2 เส้นทาง ดังนี้ เส้นทางแรกคือ ถนนสายจอมทอง-อินทนนท์-แม่แจ่ม และถนนสาย จอมทอง-ฮอด-แม่แจ่ม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ห่างจากตัวอาเภอแม่แจ่ม 7 กิโลเมตร มีแหล่งน้า ธรรมชาติ จากลาห้วยเหนอื หมู่บ้านซึง่ ไหลมาจากเทอื กเขาถนนธงชัย สามารถนาใช้มาอุปโภคและบรโิ ภคได้ สภาพชุมชนใกล้เคียงสถานศึกษา สภาพชุมชนใกล้เคียงกับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จะมีหมู่บ้านแม่ปาน หมู่บ้านสันเกี๋ยง หมู่บ้านห้วยริน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทานา ทาสวน ทาไร่ข้าวโพด ปลูกถั่วเหลือง ประกอบการค้าขนาดเลก็ บริการสนิ ค้าในหมู่บา้ นในการยังชีพ การดาเนินงานในระยะเรมิ่ แรกพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ มอบหมายให้กรมสามัญศึกษา โดยสานักงานสามัญศึกษาจังหวัด เชียงใหม่ ดาเนินการขอใช้พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมกับกรมป่าไม้ และได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่า จานวน 226 ไร่ สาหรับก่อสร้างโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศจัดต้ังโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่ แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันท่ี 30 เดือนกันยายน พ.ศ 2541 เป็นโรงเรียนประเภทศึกษาสงเคราะห์ แบบ ประจา จัดการศึกษาต้ังแต่ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รับเด็กนักเรียนท่ียากไร้ทาง เศรษฐกิจและด้อยโอกาสทางการศกึ ษา ภมู ิหลังและสภาพแวดล้อมครอบครัวของนักเรยี น โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ซึ่งนักเรียนจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นท่ีเป็นช่วงต่อระหว่างวัยเด็กและ วัยผู้ใหญ่เป็นวัยท่ีมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายๆ ด้านพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และ จิตใจ ด้านสังคม ทาให้ต้องมีการปรับตัวหลายด้านในเวลาพร้อมกัน สาเหตุท่ีทาให้นักเรียนมีพฤติกรรม แสดงออกท่ีไม่เหมาะสม ซ่ึงปัญหาท่ีเกิดขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เกะกะเกเร คึกคะนองของ เด็กวัยรุ่นและเกิดจากการเล้ียงดูที่ผิดพลาดของส่ิงแวดล้อมต่าง ๆ ท่ีอยู่รอบตัวนกั เรยี น ไม่วา่ จะเป็นครอบครัว ครเู พ่อื นหรอื แมก้ ระทง่ั สังคม ดงั นัน้ วัยเด็กและเยาวชนของชาติจึงเป็นกลุ่มทสี่ ังคมต้องใหก้ ารดแู ลเอาใจใสม่ าก
เป็นพิเศษ เพ่ือให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีเจริญเติบโตไปในทางท่ีถูกต้องและเหมาะสม สามารถเป็น กาลังหลักในการพัฒนาประเทศได้ในอนาคต จึงเป็นหน้าท่ีของสถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษาในการ เลีย้ งดูและอบรมเด็ก
สว่ นท่ี 2 การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมและศกั ยภาพ SWOT Analysis. 1. ผลการวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมภายนอก ประเดน็ การวิเคราะห์ ประเด็นท่เี ป็นโอกาส ประเด็นทเ่ี ปน็ อปุ สรรค (threats) (opportunities) ด้านพฤติกรรมของลูกค้า (Customer Behaviors) 1. กลุ่มผู้รับบริการโดยตรงได้แก่ นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มี นักเรียนขาดความรู้พ้ืนฐานด้านการ กล่มุ ประชากรวัยเรียนทีเ่ ป็นเด็กดอ้ ย ความพรอ้ มที่จะ ได้รบั การพัฒนา อ่าน การเขียน การคิดคานวณ โอกาส 2. กลุ่มผู้ท่ีมีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ ผู้ ป ก ค ร อ ง เ ชื่ อ ม่ั น ใ น ก า ร จั ด ผู้ปกครองส่วนใหญ่ขาดความรู้ ความ ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการ การศกึ ษาของโรงเรียนให้ความสาคัญ เขา้ ใจด้านการจัดการศึกษา สถานศึกษา ประช าช นทั่วไป และสนบั สนนุ นกั เรียนมาเรียน เครือข่ายชมรมผู้ปกครอง ชุมชนมีส่วน หน่วยงานในพ้นื ท่ี ชมุ ชน ร่วมในการพัฒนาการจัดการศกึ ษาของ โรงเรยี นค่อนขา้ งน้อย ด้านการเมืองและกฎหมาย (Political Legal) 1. นโยบายรฐั บาลปจั จุบัน นโยบายการจัดการศึกษามีความ น โ ย บ า ย ด้ า น ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ต่อเน่ืองครอบคลุมความต้องการของ เปลี่ยนแปลงตามผู้นาทางการเมืองทา ผเู้ รียน ให้สถานศึกษามีภาระงานซ้าซ้อนการ พัฒนาโรงเรียนไม่ต่อเนอ่ื ง 2. นโยบายหน่วยงานต้นสงั กดั มีการนิเทศ ติดตาม การดาเนินงาน จากหนว่ ยงานต้นสงั กดั 3. บทบาทของกลุ่ม อง ค์ก ร ปก ค รอ งส่ ว นท้ อ งถ่ิ น มี องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินสนับสนุน ผลประโยชน์และกลุ่มพลังทาง งบประมาณในการดาเนินงานทสี่ นอง การจัดการศกึ ษาค่อนขา้ งน้อย การเมอื ง พฤติกรรมทางการเมือง ตอ่ นโยบายของหนว่ ยงาน 4. ระเบียบ กฎหมายท่ีเก่ียวข้องใน พรบ.การศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 การการจดั การศึกษา ทาใหส้ ถานศึกษามีการพฒั นา ด้านเศรษฐกิจ (Economic) 1. สภาวะทางเศรษฐกิจ เช่น ราคา สภาพเศรษฐกิจของประชากรในชุมชน น้ามัน อัตราการว่างงาน อัตราค่า ส่วนใหญ่มีฐานะยากจนไม่เอื้อต่อการ ครองชีพ ผลผลิตทางการเกษตร ระดมทรัพยากรทางการศึกษาของ โรงเรียน ดา้ นเศรษฐกจิ (Economic) 2. ง บ ป ร ะ ม า ณ /ก า ร ส นั บ ส นุ น หน่วยงานของรัฐบาลและเอกชน มาตรการเร่งรัดการใช้จ่าย งบประมาณของรฐั บาล จัดสรรงบประมาณในการพัฒนา งบประมาณทาให้ยุ่งยากต่อการ โรงเรยี นอย่างเหมาะสม ดาเนินงาน
ประเด็นการวเิ คราะห์ ประเดน็ ท่ีเป็นโอกาส ประเดน็ ท่ีเปน็ อปุ สรรค (threats) (opportunities) ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม (Social-Cultural) 1. จานวนประชากรและโครงสร้าง มีประชากรกลุ่มวัยเรียนเป็นจานวน จานวนประชากรในวัยเรียนท่ีมาขอรับ ประชากรกลมุ่ เปา้ หมาย มาก บริการมีจานวนมาก แต่สถานศึกษามี ขอ้ จากัดในการรบั นักเรียน 2. ส ภ า พ ชุ ม ช น ค รั ว เ รื อ น ชุมชนมีแหล่งข้อมูลวัฒนธรรมและ กลุ่มเป้าหมาย ภูมิปัญญาที่หลากหลายเอ้ือต่อการ จัดการศึกษา 3. คุณภ าพชีวิตของประช าช น ชุมชนมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรม ประเพณีความเชอ่ื ทางวฒั นธรรมส่งผล ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ ประเพณที ี่หลากหลาย กระทบต่อการเรียนของนักเรียนและ ค่านิยมและวฒั นธรรม ก า ร ป ฏิ บั ติ ต า ม ร ะ เ บี ย บ ก า ร ดู แ ล นกั เรยี นประจา 4. ระดับการศึกษาและอัตราการ อัตราการรู้หนังสือของผู้ปกครองต่า เรียนรูห้ นังสอื ของประชากร สง่ ผลต่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียน ดา้ นเทคโนโลยี (Technological) 1.ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า แ ล ะ ค ว า ม เทคโนโลยีมีความทันสมัย เข้าถึงได้ ร ะ บ บ เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ ไ ม่ เปล่ียนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่มี ง่าย เอื้อต่อการจัดการศึกษาให้มี ครอบคลุมพ้ืนที่ เนื่องจากข้อจากัด ผลต่อการดาเนินงาน คุณภาพ ดา้ นสภาพพ้ืนที่ 2.คณุ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีใน อิทธิพลของสื่อ-เทคโนโลยี สง่ ผลให้ การดารงชีวติ ของคนในชมุ ชน นักเรยี นเขา้ ถึงส่อื ขอ้ มลู ที่ไมเ่ หมาะสม ปจั จบุ ัน สรุปประเด็นการวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมภายนอก สรปุ ประเดน็ ที่เป็นโอกาส สรปุ ประเด็นท่เี ปน็ อุปสรรค ดา้ นพฤตกิ รรมของลกู ค้า (Customer Behaviors) 1. นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มีความ 1. นักเรียนขาดความรู้พื้นฐานด้านการอ่าน การ พร้อมทจี่ ะ ได้รับการพัฒนา เขยี น การคดิ คานวณ 2. ผู้ปกครอง เช่ือมั่นในการจัดการศึกษาของ 2. ผู้ปกครองส่วนใหญ่ขาดความรู้ ความเข้าใจด้าน โรงเรียนให้ความสาคัญและสนับสนุนนักเรียน การจดั การศึกษา มาเรยี น 3. เครือข่ายชมรมผู้ปกครอง ชุมชนมีส่วนร่วมใน ก า ร พั ฒ น า ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ข อ ง โ ร ง เ รี ย น ค่อนข้างน้อย
ดา้ นการเมืองและกฎหมาย (Political Legal) 1.นโยบายการจดั การศกึ ษามีความตอ่ เนื่อง 1. นโยบายด้านการจัดการศึกษาเปลี่ยนแปลงตาม ครอบคลุมความต้องการของผเู้ รยี นมกี ารนเิ ทศ ผู้นาทางการเมืองทาให้สถานศึกษามีภาระงาน ตดิ ตาม การดาเนินงานจากหน่วยงานตน้ สงั กดั ซา้ ซ้อนการพัฒนาโรงเรียนไม่ตอ่ เนอ่ื ง 2.พรบ.การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 ทาให้ 2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนการจัด สถานศึกษามีการพัฒนา การศกึ ษาค่อนข้างนอ้ ย ดา้ นเศรษฐกจิ (Economic) 1.หน่ว ยงา นขอ งรัฐ บาล และ เอก ช นจั ดสร ร 1. สภาพเศรษฐกิจของประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ งบประมาณในการพัฒนาโรงเรยี นอยา่ งเหมาะสม มฐี านะยากจนไม่เอื้อต่อการระดมทรัพยากรทาง การศกึ ษาของโรงเรยี น 2. มาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณทาให้ ยงุ่ ยากต่อการดาเนินงาน ด้านสงั คมและวัฒนธรรม (Social-Cultural) 1.มีประชากรกลมุ่ วยั เรียนเป็นจานวนมาก 1. จานวนประชากรในวัยเรียนที่มาขอรับบริการมี ชุมชนมีแหล่งข้อมูลวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่ จานวนมาก แต่สถานศึกษามีข้อจากัดในการรับ หลากหลายเปน็ เอกลักษณ์เอ้อื ต่อการจดั การศึกษา นักเรียน 2. ประเพณีความเชื่อทางวัฒนธรรมส่งผลกระทบ ต่อการเรียนของนักเรียนและการปฏิบัติตาม ระเบียบการดูแลนกั เรียนประจา ด้านเทคโนโลยี (Technological) 1.เทคโนโลยมี ีความทนั สมยั เขา้ ถึงได้ง่าย เอ้อื ต่อ 1. ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศไม่ครอบคลุมพ้ืนที่ การจดั การศึกษาใหม้ ีคณุ ภาพ เนอื่ งจากข้อจากัดด้านสภาพพืน้ ท่ี 2. อิทธิพลของส่ือ-เทคโนโลยี สง่ ผลใหน้ กั เรยี น เข้าถงึ สื่อข้อมลู ท่ีไม่เหมาะสม
๒. ผลการวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มภายใน ประเดน็ การวิเคราะห์ ประเดน็ ทีเ่ ปน็ จุดแข็ง (Strengths) ประเด็นท่ีเป็นจดุ อ่อน (Weaknesses) ด้านโครงสร้าง (Structure): S 1 1.สถานศึกษาจดั โครงสรา้ ง สถานศึกษาจัดโครงสร้างการบรหิ ารท่ี การบรหิ ารที่คล่องตวั ชัดเจน สอดคล้องกับกฎระเบยี บ ว่า ด้วยการแบ่งส่วนราชการ ภายในสถานศกึ ษา ตามท่ี หน่วยงานต้นสงั กัดกาหนด 2. การกาหนดบทบาท มีการปรบั เปลยี่ นหน้าที่การปฏบิ ัตงิ าน ขาดการกาหนดมาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน หน้าท่ี ความรบั ผดิ ชอบและ ตามโครงสร้างให้มีความเหมาะสมกับ มาตรฐานของหนว่ ยงานท่ี การปฏบิ ัตงิ าน ชดั เจน มีคาส่ังมอบหมาย งาน มกี ารทบทวน ปรับเปลีย่ นโครงสรา้ งให้ เหมาะสม กับทิศทางการ บรหิ ารสถานศึกษา ด้านกลยุทธอ์ งค์กร (Strategy) S 2 1.ทศิ ทางของสถานศกึ ษา มีทศิ ทางการพฒั นาสถานศึกษาทีช่ ดั เจน (วสิ ยั ทัศน์ พันธกิจ สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของสถานศกึ ษา ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ กล ยุทธ)์ ชดั เจน สอดคล้องกบั บริบทของสถานศึกษา 2. โครงสรา้ ง/กจิ กรรมท่ี มกี ารกาหนดโครงสร้างและกิจกรรมที่ การบรหิ ารงานโครงการไม่เป็นไปตาม กาหนดสอดคลอ้ งกบั กลยทุ ธ์ สอดคลอ้ งกบั กลยุทธ์และเปา้ ประสงค์ เปา้ หมายทกี่ าหนด และเป้าประสงค์ ดา้ นกลยุทธอ์ งคก์ ร (Strategy) S 2 3. การถา่ ยทอดกลยทุ ธไ์ ปสู่ มกี ารจดั ทาแผนพัฒนาคณุ ภาพ 1. การนากลยทุ ธ์สกู่ ารปฏบิ ตั ิยังไม่เปน็ การปฏบิ ตั ิในระดับกลมุ่ การศึกษาแผนปฏบิ ัติการประจาปี ระบบ และระดบั บุคคล 2. มีโครงการ งานพิเศษ กจิ กรรม นอกเหนือจากในแผนปฏิบตั ิการ ทา ให้มีปญั หาการตดั จ่ายงบประมาณ ด้านระบบในการดาเนินงานขององคก์ ร (System) : S 3 1.ระบบใหบ้ ริการแก่ มีระบบการรบั นกั เรียนที่ชัดเจน เขตพน้ื ของโรงเรยี นเป็นถน่ิ ทุรกันดาร ประชากรวยั เรยี นในเขต ทาให้การบริการไม่ทั่วถงึ พน้ื ที่บรกิ าร
ประเด็นการวิเคราะห์ ประเด็นท่ีเปน็ จุดแข็ง (Strengths) ประเด็นทเ่ี ป็นจุดออ่ น (Weaknesses) มีการจัดการเรียนรู้ตามหลกั สูตร 2. ระบบการจัดการเรียนรู้ สถานศึกษา ครบ ชว่ งชน้ั ระบบการวดั และประเมนิ ผลไม่ ให้ผ้เู รยี นมคี ณุ ภาพตาม สอดคล้องกบั สภาพจรงิ และผลการ หลักสูตร บคุ ลากรมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบ ทดสอบระดบั ชาติ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา 3. ระบบประกนั คุณภาพ ขาดการนาระบบการประกนั คุณภาพ ภายในสถานศกึ ษา ภายในสถานศกึ ษาไปใช้ในการ ปฏิบตั งิ านให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร 4. ระบบการจดั มีการจดั สภาพแวดล้อมที่สะอาด และ 1. การปลกู ฝังจติ สานึกในการดูแล สภาพแวดล้อมและการ ปลอดภยั เอ้ือตอ่ การเรยี นรู้ รกั ษาทรัพย์สมบัตสิ ว่ นตัว และ บริการทส่ี ง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี น สว่ นรวมยงั ไมป่ ระสบผลเทา่ ที่ควร พฒั นาตามธรรมชาติ มีระบบดูแลนักเรยี นประจาที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐานการดแู ลนกั เรยี นประจา 2. การรักษาผลการประเมินโรงเรยี น 5. ระบบการจัดกจิ กรรม ส่งเสริมสุขภาพ ส่งเสริมคณุ ภาพผเู้ รียนอย่าง มกี ารจัดหลักสูตรทหี่ ลากหลายให้ หลากหลาย นักเรียนเลอื กเรยี นตามความถนดั และ 1. ระบบการสง่ ต่อนักเรียนยังไม่ สนใจ ต่อเนือ่ ง 6. หลกั สตู รและ กระบวนการเรียนรู้ที่เนน้ 2. ขาดการจดั กจิ กรรมเพ่ือสร้างจดุ เน้น ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ทช่ี ดั เจนเปน็ รปู ธรรม กระบวนการจดั การเรยี นรไู้ ม่สอดคล้อง กบั หลักสูตร ไมต่ รงตามแผนการจดั การ เรียนรู้ ด้านแบบแผนหรือพฤติกรรมในการบรหิ ารจดั การ (Style) : S 4 1.คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ภาวะ ผู้บริหารมีภาวะผนู้ า มคี วามสามารถใน ผนู้ า ความสามารถในการ การบรหิ ารจดั การศกึ ษา บรหิ ารจัดการศกึ ษา 2. การกระจายอานาจการ มีการกระจายอานาจการตัดสินใจให้ ขาดการวางแผนรว่ มกันในการระหว่าง ตดั สนิ ใจให้บุคลากร ไดใ้ ช้ บคุ ลากร ได้ใชศ้ กั ยภาพทม่ี ีอยู่ปฏิบตั งิ าน กลุ่มบริหารงานต่างๆ ทาใหเ้ กิดความ ศกั ยภาพทม่ี ีอยู่ปฏบิ ัตงิ าน อยา่ งเต็มที่ ล่าชา้ ในการปฏิบัตงิ าน อย่างเตม็ ท่ี 3. การใชร้ ูปแบบการ มีระบบการบริหารแบบมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ ทา ระบบการนเิ ทศ กากับตดิ ตามงานยังไม่ บริหารจดั การท่ีเหมาะสมใน ใหก้ ารดาเนินงานบรรลตุ ามเป้าหมายที่ ต่อเน่อื ง การบรหิ ารงานเช่น การสัง่ กาหนดไว้ การ การควบคุม การจูงใจ สะท้อนถึงวฒั นธรรมของ องค์กร 4. การคดิ คน้ ระบบงานและ ผู้บรหิ ารนาหลัก “ปรัชญาของเศรษฐกจิ ระบบการประเมนิ ประสิทธิภาพและ เทคนิคการบรหิ ารเพ่ือใช้ใน พอเพยี ง” มาเปน็ แนวปฏิบัติในการ ประสทิ ธิผลของบุคคลากรไม่มเี กณฑ์ วิธี การปฏิบตั งิ านมงุ่ สู่วสิ ัยทัศน์ พฒั นาโรงเรยี น ปฏบิ ตั ทิ ี่ชัดเจน
ประเด็นการวิเคราะห์ ประเดน็ ทเี่ ป็นจดุ แข็ง (Strengths) ประเดน็ ท่ีเปน็ จุดออ่ น (Weaknesses) ด้านบุคลากร/สมาชกิ ในองค์กร (Staff) : S5 ครมู คี ณุ ธรรม จริยธรรม ครมู ีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ 1. บุคลากรมีการปรับเปล่ียนบ่อยตลอด ความรู้ ความสามารถ ตรง ความสามารถ ตรงกบั งานที่รับผดิ ชอบ ปีไม่ต่อเน่ืองในการดาเนนิ งาน กบั งานที่รบั ผดิ ชอบ หม่ัน หมัน่ พฒั นาตนเอง เขา้ กบั ชมุ ชนได้ดี 2. การมอบหมายหน้าท่บี ุคลากรมี พัฒนาตนเอง เขา้ กับชมุ ชน ความซ้าซ้อน ได้ดี 3. ขาดการนเิ ทศ กากับ ติดตามการ ปฏบิ ัติงานของบคุ คลากร ดา้ นทกั ษะ ความรู้ ความสามารถขององค์กร (Skill) : S 6 ครมู คี วามรู้ความสามารถใน ครูได้รับการอบรมพฒั นาด้านการจดั การ 1. ครูมีประสบการณ์ในดา้ นการจดั การ การจดั การเรยี นการสอน เรียนรทู้ ่เี น้นผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ และดา้ น เรียนการสอน การปฏบิ ตั ิงาน อย่างมปี ระสิทธิภาพและ การปฏบิ ัติงานตามเกณฑท์ ี่กาหนด ค่อนข้างน้อย เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญ 2. การจัดการเรียนการสอนท่ีเน้น ผู้เรียนเป็นสาคัญของครูไมเ่ ป็นไป เปา้ หมายทกี่ าหนดไว้ ด้านคา่ นยิ มร่วมกันของสมาชิกในองคก์ ร(Shared Values) : S 7 1.คา่ นิยมและบรรทดั ฐานท่ี บคุ ลากรรู้รกั สามัคคี คา่ นยิ มและบรรทัดฐานในการปฏิบตั ิงาน ยดึ ถือร่วมกนั โดยสมาชกิ ของ เพื่อองค์กรมนี ้อย องคก์ รท่ีได้กลายเปน็ รากฐาน ของระบบการบรหิ าร 2. วธิ ีการปฏิบัตขิ องบคุ ลากร ขาดการส่ือสาร การนาระเบยี บแนว และผ้บู ริหารภายในองคก์ ร ปฏิบัติไปปฏบิ ัติที่ต่อเน่อื ง หรืออาจเรียกว่าวัฒนธรรม องค์กร สรปุ ประเดน็ จากการวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มภายใน ประเดน็ ทเี่ ปน็ จดุ แข็ง strengths ประเดน็ ทีเ่ ปน็ จดุ ออ่ น (weakness) ขาดการกาหนดมาตรฐานการปฏิบตั ิงาน ด้านโครงสร้าง (Structure): S 1 ๑.การบริหารงานโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ 1. สถานศึกษาจดั โครงสร้างการบรหิ ารทชี่ ัดเจน กาหนด 2. มกี ารปรบั เปลยี่ นหนา้ ท่ีการปฏิบัตงิ านตาม ๒.การนากลยทุ ธ์สกู่ ารปฏบิ ตั ิยังไมเ่ ปน็ ระบบ โครงสร้างให้มคี วามเหมาะสมกับการปฏบิ ัติงาน ดา้ นกลยทุ ธ์องค์กร (Strategy) S 2 ๑.มที ศิ ทางการพัฒนาสถานศึกษาท่ีชัดเจน สอดคลอ้ งกับบริบทของสถานศกึ ษา ๒.มกี ารกาหนดโครงสรา้ งและกจิ กรรมทส่ี อดคล้อง กับกลยทุ ธแ์ ละเป้าประสงค์
ประเดน็ ท่เี ปน็ จุดแข็ง strengths ประเดน็ ทเี่ ป็นจดุ ออ่ น (weakness) ๓.มกี ารจัดทาแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ๓.มโี ครงการ งานพิเศษ กจิ กรรมนอกเหนือจากใน แผนปฏิบตั กิ ารประจาปี แผนปฏิบตั กิ าร ทาใหม้ ีปัญหาการตดั จา่ ย งบประมาณ ดา้ นระบบในการดาเนนิ งานขององค์กร (System) : S 3 1. มีระบบการรบั นักเรียนท่ีชดั เจน 1. เขตพืน้ ของโรงเรียนเป็นถิน่ ทรุ กนั ดาร ทาให้การ 2. มกี ารจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา บริการไม่ท่วั ถงึ ครบ ช่วงชัน้ 2. ระบบการวดั และประเมินผลไม่สอดคล้องกบั 3. บคุ ลากรมสี ว่ นร่วมในการพัฒนาระบบการ สภาพจริง และผลการทดสอบระดับชาติ ประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา 3. ขาดการนาระบบการประกนั คุณภาพภายใน 4. มีการจัดสภาพแวดล้อมท่สี ะอาด และปลอดภัย สถานศึกษาไปใช้ในการปฏิบัติงานให้เกดิ เปน็ เออ้ื ต่อการเรียนรู้ วัฒนธรรมองคก์ ร 5. มีระบบดูแลนักเรยี นประจาท่ีมคี ณุ ภาพตาม 4. การปลูกฝงั จติ สานกึ ในการดูแลรักษาทรัพย์ มาตรฐานการดแู ลนักเรยี นประจา สมบัติสว่ นตัว และสว่ นรวมยงั ไมป่ ระสบผล 6. มีการจัดหลักสูตรท่ีหลากหลายให้นักเรยี นเลอื ก เท่าทค่ี วร เรยี นตามความถนัดและสนใจ 5. การรักษาผลการประเมนิ โรงเรียนสง่ เสรมิ สขุ ภาพ 6. ระบบการสง่ ต่อนักเรยี นยงั ไม่ต่อเน่อื ง 7. ขาดการจัดกจิ กรรมเพื่อสรา้ งจดุ เนน้ ที่ชดั เจน เปน็ รูปธรรม 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ไม่สอดคล้องกบั หลกั สูตร ไมต่ รงตามแผนการจัดการเรยี นรู้ ดา้ นแบบแผนหรือพฤติกรรมในการบรหิ ารจดั การ (Style) : S 4 1. ผู้บริหารมีภาวะผนู้ า มคี วามสามารถในการ ๑. ขาดการวางแผนร่วมกนั ในการระหวา่ งกลุ่ม บริหารจดั การศึกษา บรหิ ารงานตา่ งๆ ทาใหเ้ กิดความลา่ ช้าในการ 2. มกี ารกระจายอานาจการตัดสินใจใหบ้ คุ ลากร ได้ ปฏิบตั งิ าน ใช้ศกั ยภาพท่มี ีอย่ปู ฏิบัติงานอย่างเตม็ ท่ี ๒. ระบบการนิเทศ กากับติดตามงานยงั ไม่ต่อเน่ือง 3. มีระบบการบรหิ ารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ทาใหก้ าร ดาเนินงานบรรลุตามเป้าหมายท่กี าหนดไว้ 4. ผูบ้ รหิ ารนาหลัก “ปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง” มาเปน็ แนวปฏิบตั ใิ นการพัฒนา โรงเรียน ด้านบุคลากร/สมาชิกในองค์กร (Staff) : S5 ครมู ีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความรู้ ความสามารถ ตรง 1. บคุ ลากรมีการปรบั เปลย่ี นบอ่ ยตลอดปีไม่ กับงานทร่ี ับผิดชอบ หมั่นพฒั นาตนเอง เข้ากับชุมชน ตอ่ เน่ืองในการดาเนนิ งาน ไดด้ ี 2. การมอบหมายหนา้ ที่บุคลากรมีความซา้ ซ้อน 3. ขาดการนิเทศ กากับ ตดิ ตามการปฏบิ ตั ิงานของ บุคคลากร
ประเดน็ ที่เป็นจุดแข็ง strengths ประเด็นท่เี ปน็ จดุ ออ่ น (weakness) ดา้ นทกั ษะ ความรู้ ความสามารถขององค์กร (Skill) : S 6 ครูได้รับการอบรมพัฒนาด้านการจัดการเรียนรู้ที่ 1. ครมู ีประสบการณ์ในดา้ นการจัดการเรยี นการ เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั และด้านการปฏบิ ัตงิ านตาม สอน การปฏบิ ัตงิ าน ค่อนข้างนอ้ ย เกณฑ์ที่กาหนด 2. การจดั การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคญั ของครไู ม่เปน็ ไปเปา้ หมายท่ีกาหนดไว้ ดา้ นค่านยิ มร่วมกนั ของสมาชกิ ในองค์กร(Shared Values) : S 7 บคุ ลากรรรู้ ัก สามัคคี 1. ค่านยิ มและบรรทดั ฐานในการปฏิบัตงิ านของ องค์กรมนี ้อย 2. ขาดการสื่อสาร การประสานงาน ระหว่างกลุม่ บริหารงานต่างๆ ในการปฏิบัตงิ าน ตารางสรปุ ผลการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก รายการปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอก นา้ หนกั คะแนนเฉลย่ี น้าหนักคะแนน สรุปผลการ โอกาส อปุ สรรค เฉลี่ย วิเคราะห์ 1. ดา้ นพฤติกรรมของลูกค้า (Customer Behavior : C) 0.26 1.24 - 2.06 โอกาส อปุ สรรค -0.21 2. ปัจจัยดา้ นการเมืองและกฎหมาย 0.32 -0.54 (Political and legal : P) 0.16 2.15 - 1.94 0.03 3. ดา้ นเศรษฐกจิ (Economic:E) 0.15 1.96 - 1.74 0.34 -0.31 0.03 0.22 2.32 - 1.52 0.18 4. ด้านสังคมและวฒั นธรรม 0.21 2.04 - 1.55 0.29 -0.26 0.10 (Social-Cultural : S) 1.00 0.13 5. ดา้ นเทคโนโลย(ี Technological : T) 0.51 -0.33 รวม 0.43 -0.33
ตารางสรุปผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน รายการปัจจัยสภาพแวดล้อมภายใน น้าหนกั คะแนนเฉล่ยี นา้ หนักคะแนน สรปุ ผล จดุ แขง็ จุดออ่ น เฉลี่ย การ 1. ดา้ นโครงสรา้ ง structure :S1 0.13 2.61 - 1.24 วิเคราะห์ 2. ดา้ นกลยทุ ธอ์ งค์กร strategy:S2 0.12 1.69 - 1.82 จุดแขง็ จุดออ่ น 3. ด้านระบบในการดาเนนิ งานขององค์กร 0.18 system:S3 0.17 1.38 - 2.10 0.34 -0.16 -0.02 4. ดา้ นแบบแผนหรือพฤตกิ รรมในการบริหารจดั การ 0.20 -0.22 style:S4 0.15 2.08 -1.47 5. ด้านบคุ ลากร/สมาชิกในองคก์ ร staff: S5 0.16 1.61 -2.05 0.23 -0.36 -0.12 6. ดา้ นทกั ษะ ความรู้ ความสามารถขององค์กรskill:S6 0.15 1.18 - 2.65 7. ดา้ นค่านิยมร่วมกนั ขององคก์ ร share values:S7 0.12 1.16 -2.18 0.31 -0.22 0.09 1.00 0.26 -0.33 -0.07 รวม 0.18 -0.40 -0.22 0.19 -0.35 -0.16 -0.32 กราฟแสดงสถานภาพของโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 ปี 2559
สว่ นท3่ี ทศิ ทางการจดั การศกึ ษาโรงเรียนสขุ ภาวะ ๕ ด้าน การพัฒนาโรงเรียนสู่ความเป็นโรงเรียนสุขภาวะนั้น ใช้แนวคิดการพัฒนาแบบองค์รวม โดยบูรณา การวธิ กี ารทางานกับผู้มีส่วนเก่ียวข้องการใชภ้ าวะผูน้ าการเปลย่ี นแปลงของผู้บรหิ ารโรงเรยี นลงสู่การทางานใน ห้องเรียนของครู เพื่อสร้างสุขภาวะในระดับการเรียนรู้ รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายโรงเรียนเพื่อให้ครูมีการ เรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และเกิดพลังการเปล่ียนแปลงการจัดการศึกษาเพื่อสุขภาวะผู้เรียน แนวคิดการ พัฒ น า สุ ข ภ า ว ะ โ ด ย ใช้ โ ร ง เ รี ยน เ ป็ น ฐ าน นั้ น ถื อ ว่ าเ ป็ น ยุ ท ธ ศา ส ต ร์ ที่ มีค ว า ม ส า คัญ อ ย่ า ง ยิ่ ง เพราะประชากรประเทศทีเ่ ป็นเยาวชนในวยั เรียนแทบจะทั้งหมดอยู่ในระบบโรงเรียน การปลูกฝงั เร่ืองสุขภาวะ ให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน ถือว่าเป็นโอกาสท่ีดีอย่างยิ่งท่ีได้จะหล่อหลอมเยาวชนของประเทศให้เป็นบุคคลท่ีมีสุข ภาวะเม่ือเติบโตขึ้น ดังน้ัน จึงจาเป็นต้องมีการพัฒนาในโรงเรียนและเครือข่ายครูในการเสริมสร้างศักยภาพ และพัฒนาโรงเรียนให้สามารถบริหารจัดการและจัดกระบวนการเรียนรู้ที่สร้างสุขภาวะแก่ผู้เรียนให้มากย่ิงขึ้น จนสามารถเปน็ มวลทมี่ พี ลังการขบั เคลอ่ื นการพัฒนาใหเ้ ป็นกระแสหลกั ได้ในอนาคต ดงั น้ัน สุขภาวะในมมุ มองใหม่จงึ หมายถงึ ภาวะของมนุษยท์ ่ีสมบรู ณท์ ้ังทางรา่ งกาย ทางจิตทางปัญญา และทางสังคม เช่ือมโยงกันเป็นองค์รวมอยา่ งสมดลุ ซง่ึ ประกอบดว้ ย (๑) สขุ ภาวะทางกาย คือ การมรี ่างกายทส่ี มบูรณแ์ ข็งแรง มีเศรษฐกจิ พอเพียง อยู่ทา่ มกลางสิ่งแวดลอ้ มท่ีดี ไม่ มีอบุ ัติภัย (๒) สขุ ภาวะทางจิต คอื จติ ใจทีเ่ ป็นสุข ปรับตวั ไดเ้ มื่อเผชิญปญั หาและความเปล่ยี นแปลง (๓) สขุ ภาวะทางปัญญา คือ การรอบรู้ ร้เู ทา่ ทนั สรรพสิ่ง มเี มตตากรุณา มีสติ มสี มาธิ (๔) สุขภาวะทางสงั คม คอื การอยู่ร่วมกนั ด้วยดี ในครอบครัว ชมุ ชน สถานทีท่ างานคนในชมุ ชน รวมถึงการมี บริการทางสังคมที่ดี มีความเสมอภาคและสนั ติภาพ จากแนวคิดเร่ืองสขุ ภาวะ แนวโนม้ และสถานการณส์ าคัญท่ีจะส่งผลต่อ การเสรมิ สรา้ งสุขภาวะ ที่ สาคญั ท่ีสุดใหเ้ กิดกบั กล่มุ เปา้ หมายท่เี ปน็ เด็กและเยาวชนคือ \"โรงเรียน\" ซ่งึ องคป์ ระกอบของโรงเรียนสุขภาวะมี ๕ องค์ประกอบคือ ๑. ผู้เรยี นเป็นสุข ๒. โรงเรียนเป็นสขุ ๓. สภาพแวดล้อมเปน็ สุข ๔. ครอบครวั เปน็ สุข ๕. ชุมชนเป็นสขุ ท้ัง ๕ องค์ประกอบมีความเกี่ยวเน่อื งและสง่ ผลต่อกัน กล่าวคือ โรงเรยี นสุขภาวะน้นั ตอ้ งมีเปา้ หมาย เพอ่ื สร้างเสรมิ ให้ \"ผเู้ รยี นเป็นสุข\" โดยการปรับสภาพลดปจั จยั เสี่ยง จัดโครงสร้างและระบบตา่ งๆ ใหโ้ รงเรยี น สภาพแวดล้อม ครอบครวั และชมุ ชนเป็นพ้ืนท่ีปลอดภยั และส่งเสรมิ สขุ ภาวะของผู้เรียนท้งั ดา้ นกาย ใจ สังคม และปญั ญา ๑. ผู้เรยี นเป็นสขุ หมายถงึ ผู้เรยี นมีคุณลักษณะทีด่ ี ในดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ ทักษะชีวติ ความเป็น พลเมอื งดี และมคี วามรักในการเรียนรู้ ๒. โรงเรยี นเปน็ สขุ หมายถึง โรงเรยี นทีม่ ีระบบการบรหิ ารจดั การทีเ่ อ้ือต่อการสร้างเสรมิ สขุ ภาวะของผู้เรยี น โดยใช้กระบวนการมสี ว่ นรว่ มของทุกภาคส่วน
๓. สภาพแวดล้อมเปน็ สขุ หมายถึง โรงเรียนที่จัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภยั ปลอดอบายมุข เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาวะผู้เรียน ๔. ครอบครัวเป็นสุข หมายถึง โรงเรยี นที่มีความสัมพันธท์ ่ีดีกับผูป้ กครองของผ้เู รียน ๕. ชุมชนเป็นสุข หมายถึง โรงเรยี นที่มคี วามสมั พนั ธ์ทีด่ ีกับบุคคล และองค์กรในชุมชน เพ่ือเสริมสร้างสุขภาวะของผู้เรยี น แผนภาพ ความสัมพันธ์ขององคป์ ระกอบโรงเรียนสุขภาวะ
สว่ นที่ 4 กรอบกลยุทธแ์ ละประเดน็ การพัฒนาโรงเรยี นสุขภาวะ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เชียงใหม่ วิสยั ทศั น์ ภายในปี 2562 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 เชยี งใหม่ มุ่งพัฒนาไปสู่โรงเรียนที่มีความเข้มแข็ง ด้านการเสริมสร้างสุขภาวะของนักเรียนและชุมชน เป็นต้นแบบด้านการจัดหลักสูตรและการเรียนการสอน แบบบูรณาการที่เน้นปัญหาเป็นฐาน มุ่งเน้นพัฒนาการคิด ทักษะวิชาชีพ และจิตสาธารณะของนักเรียน โดย การมสี ว่ นรว่ มอย่างเต็มท่ขี องชุมชน วสิ ัยทัศน์ vision วสิ ัยทศั น์ยอ่ ย ภายในปี 2562 โรงเรียนราชประชานุ ๑.เสริมสรา้ งความเข้มแขง็ ดา้ นสขุ ภาวะของ เคราะห์ 31 เชียงใหม่ มุ่งพัฒนาไปสู่โรงเรยี นทม่ี ีความ นักเรยี น เข้มแข็งด้านการเสริมสร้างสุขภาวะของนักเรียนและ ๒.เสรมิ สร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาวะของชุมชน ชุมชน เป็นต้นแบบด้านการจัดหลักสูตรและการเรียน ๓.เป็นตน้ แบบด้านการจัดหลักสูตรและการเรียน การสอนแบบบูรณาการที่เน้นปัญหาเป็นฐาน มุ่งเน้น การสอนแบบบรู ณาการทเี่ นน้ ปัญหาเปน็ ฐาน พัฒนาการคิด ทักษะวิชาชีพ และจิตสาธารณะของ ๔.ผูเ้ รยี นมที กั ษะการคิด ๕.ผู้เรยี นมีทักษะวชิ าชีพ นกั เรียน โดยการมสี ่วนรว่ มอย่างเตม็ ทข่ี องชุมชน ๖.ผู้เรียนมีจติ สาธารณะ ๗.ชมุ ชนมีสว่ นร่วมในการพฒั นาคุณภาพผ้เู รียน 2. พนั ธกจิ / เปา้ ประสงค์ เป้าประสงค์ พนั ธกจิ 1.สถานศึกษามีระบบการบริหารจดั การทมี่ ีคณุ ภาพ 2.สถานศึกษาได้รับความรว่ มมอื ดา้ นการจดั การศกึ ษาจากทุก 1.พฒั นาระบบการจัดการศึกษาให้มี ภาคสว่ น ประสิทธภิ าพ 3.ครสู ามารถปฏิบัตงิ านตามบทบาทหน้าท่ีอย่างมปี ระสิทธิภาพ 2.พฒั นาและส่งเสรมิ ให้ครเู ป็นครูมือ 4.ผู้เรียนมีคุณภาพเปน็ ไปตามมาตรฐานการศึกษา อาชีพ 5.ผ้เู รยี นคน้ พบศกั ยภาพของตนเองดา้ นอาชพี 3.พฒั นาและสง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นมี 6.ผู้เรยี นคน้ พบศกั ยภาพของตนเองดา้ นศลิ ปะ ดนตรี และกีฬา คุณลกั ษณะตามหลักสตู ร 7.สถานศึกษามอี าคารสถานทส่ี ง่ิ แวดลอ้ ม แหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อ การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ 4 พัฒนาสถานศึกษาใหเ้ ป็นศูนย์การ พอเพียง เรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ 8.สถานศกึ ษามีหลักสตู รและกระบวนการจัดการเรียนรู้ตาม พอเพียง หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3. กลยุทธข์ องสถานศกึ ษาด้านการจัดการศึกษาโรงเรยี นสขุ ภาวะ กลยทุ ธ์ท่ี 1. โรงเรยี นเป็นสุข กลยทุ ธท์ ี่ 2. ส่ิงแวดลอ้ มเป็นสุข กลยุทธ์ที่ 3. ครอบครวั เป็นสุข กลยุทธ์ที่ 4. ชมุ ชนเปน็ สุข
ส่วนท่ี ๕ โครงการ / กิจกรรมทีส่ นบั สนนุ การดาเนนิ งานโรงเรียนสขุ ภาวะ กลยทุ ธ์สถานศกึ ษา ตัวชวี้ ัด โครงการ/กจิ กรรม กลยทุ ธท์ ่ี 1. โรงเรยี นเป็นสุข 1. ผูบ้ รหิ ารมกี ารสอ่ื สารแนวราบเพ่อื ให้ โครงการพัฒนาระบบเครอื ข่าย เกดิ พลังการขบั เคลอื่ นการบริหาร Internetในโรงเรียน จดั การองคก์ รอยา่ งทั่วถึง 2. ผูบ้ รหิ ารเป็นผูน้ าการเปลยี่ นแปลง โครงการพฒั นากลุ่มอานวยการ : เพื่อใหเ้ กดิ กระบวนการเรยี นรทู้ มี่ ุง่ สู่ กิจกรรมพัฒนางานชุมชนสัมพันธ์ โรงเรยี นสุขภาวะ โดยการจัดการเรียน โครงการพฒั นางานวิชาการครู โดยใชช้ วี ิต ชมุ ชน และสงิ่ แวดลอ้ มเป็น ตัวตั้ง มีหนว่ ยการเรียนท่เี กยี่ วข้องกบั ผ้เู รียน 3. การบริหารจัดการโดยสรา้ ง โครงการพฒั นางานวิชาการครู: กระบวนการแลกเปลย่ี นเรียนรู้เปน็ ทมี กจิ กรรม PLC เพอื่ ใหเ้ กดิ ชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวิชาชพี ครู โดย ผบู้ รหิ ารและครไู ด้พดู คยุ เกี่ยวกับการเรยี นการสอนในทกุ สปั ดาห์ 4. มกี ารบริหารองค์กรแบบมีส่วนร่วม โครงการพัฒนากลมุ่ นโยบายและ โดยทุกฝา่ ยท่เี กย่ี วข้องรว่ มกาหนด แผน : กจิ กรรมพัฒนางานประกนั วิสยั ทัศน์ พันธกจิ เปา้ ประสงค์ คุณภาพการศึกษาและควบคุม แผนพฒั นาและแผนปฏบิ ัตกิ ารทมี่ ุ่งไปสู่ ภายในสถานศึกษา โรงเรียนสุขภาวะ และร่วมรบั ผดิ ชอบตอ่ ผลการบรหิ าร 5. สรา้ งวฒุ ภิ าวะความเป็นครู ส่งเสรมิ โครงการพฒั นากลมุ่ บริหารงาน ใหม้ คี ณุ ธรรม จริยธรรม แสวงหาความรู้ บุคคล : กิจกรรมพัฒนางาน เพือ่ พัฒนาศักยภาพตนเอง ร้อยละ 80 สง่ เสรมิ มาตรฐานวชิ าชพี และ จรรยาบรรณวิชาชีพ 6.ครรู ้อยละ 80 มกี ารออกแบบและ โครงการพัฒนางานวิชาการครู จัดการเรียนรูบ้ รู ณาการแบบมีส่วนรว่ ม อยา่ งหลากหลาย ใช้จิตวิทยาเชงิ บวกใน การพฒั นากระบวนการเรียนรูม้ ุ่งสู่ ผเู้ รียน 7. ครูร้อยละ 80มนี วัตกรรมท่ีสามารถ โครงการพัฒนางานวชิ าการครู นาไปใช้สาหรับการวัดผลประเมนิ ผล ตามสภาพจรงิ
กลยุทธ์สถานศกึ ษา ตวั ช้ีวัด โครงการ/กิจกรรม กลยุทธ์ที่ 1. โรงเรียนเป็นสุข 8. ครูร้ อยล ะ 80 มีทัก ษะค ว าม รู้ โครงการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพ่ือ ตามมาตรฐานการศึกษา เกิดประโยชนต์ ่อผเู้ รียน งานส่อื นวตั กรรม 9. ค รู ร้ อ ย ล ะ 80เ ป็ น ผู้ ที่ มี ม นุ ษ ย์ โครงการพัฒนากลมุ่ บรหิ ารงาน สัมพันธ์และสือ่ สารท่ีดมี ีทักษะกาทางาน บุคคล : กจิ กรรมพฒั นางาน เป็นทีมแบบกัลยาณมิตร สามารถ ส่งเสริมมาตรฐานวชิ าชพี และ ทางาน ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี จรรยาบรรณวิชาชพี 10. ครูร้อยละ 80 ออกแบบการเรยี นรู้ โครงการพฒั นางานวชิ าการครู บรู ณาการแบบมสี ่วนร่วมเพื่อพัฒนา กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบบรู ณา ปญั ญาภายในและภายนอก การโดยใช้สวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี น กจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบบรู ณา การโดยใช้ศนู ยก์ ารเรยี นร้ตู าม หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน : กิจกรรม ทัศนศึกษา 11. ครูร้อยละ 80จัดกิจกรรมการ โครงการพัฒนางานวิชาการครู : เรียนรู้เชงิ รุก (Active Learning) เพื่อให้ กิจกรรมห้องเรียนน่าเรียน ผู้เรียนเกิดทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ 12. ครูร้อยละ 80จัดบรรยากาศและ ส่ื อ ที่ เ อ้ื อ ต่ อ ก า ร เ รี ย น รู้ อ ย่ า ง มี ประสทิ ธภิ าพ 13. ค รู ร้ อ ย ล ะ 80จั ด กิ จ ก ร ร ม กจิ กรรมPLCกลุม่ สาระการเรียนรู้ แลกเปลยี่ นเรียนรู้ซ่งึ กนั และกัน 14. ครรู ้อยละ 80มกี ารวดั และ โครงการพัฒนางานวิชาการครู ประเมนิ ผลตามสภาพจริง กจิ กรรมงานวัดผล ดว้ ยวธิ ีการท่หี ลากหลาย 1. บรู ณาการระบบบรหิ ารจดั การ โครงการพฒั นากลมุ่ งานอาคาร สภาพแวดล้อมอยา่ งเปน็ องคร์ วม สถานท่ี : กจิ กรรมพฒั นางาน อาคารสถานที่ กลยทุ ธท์ ่ี 2. สง่ิ แวดล้อมเป็นสขุ 2. พฒั นาระบบปอ้ งกันภัยและ โครงการพฒั นากลมุ่ อานวยการ : ตรวจสอบสมา่ เสมออยา่ งต่อเนอื่ ง กิจกรรมพฒั นางานชมุ ชนสมั พันธ์ โครงการพัฒนากลุ่มงานอาคาร สถานท่ี : กิจกรรมพัฒนางาน ความปลอดภยั ในโรงเรียน
กลยทุ ธ์สถานศึกษา ตัวชีว้ ดั โครงการ/กจิ กรรม กลยุทธท์ ่ี 2. ส่ิงแวดล้อมเป็นสขุ 3. สรา้ งบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่ โครงการสถานศึกษาสีขาว สะอาด ปลอดภัย ปลอดอบายมขุ ส่งิ เสพ โครงการพัฒนากล่มุ งานอาคาร กลยุทธ์ที่ 3. ครอบครัวเป็นสขุ ติด เออื้ ต่อการเรยี นรู้ สถานท่ี : กิจกรรมพฒั นางาน กลยทุ ธท์ ี่ 4. ชุมชนเป็นสุข ความปลอดภัยในโรงเรยี น 4. เป็นตน้ แบบในการจดั สภาพแวดล้อม กจิ กรรมพัฒนาศนู ย์การเรยี นรู้ ท่ีเอ้ือตอ่ การเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง 5. บรหิ ารจดั การสภาวะโภชนาการได้ กจิ กรรมการบริหารจัดการขยะ อยา่ งเป็นระบบตามมาตรฐาน แบบครบวงจร กิจกรรมทักษะการดารงชีวิตของ 1. สร้างความรูค้ วามเข้าใจแก่ครอบครวั นักเรียนประจา : กจิ กรรมหลัก เกี่ยวกบั แนวคิดและครอบครัวสขุ ภาวะ โภชนาการ 2. พัฒนาความสัมพันธ์ทีด่ รี ะหวา่ ง โครงการโรงเรยี นสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ผู้ปกครองกับโรงเรียน ระดับเพชร 3. สง่ เสรมิ ใหค้ รอบครวั มีสว่ นรว่ มใน โครงการระบบดูแลชว่ ยเหลอื การจัดการเรียนรแู้ ละดูแลช่วยเหลอื นักเรียนท่ีมีคณุ ภาพ ผูเ้ รียนให้มีสขุ ภาวะ กิจกรรมเยยี่ มบ้านนักเรียน 1. ชุมชนและโรงเรียนดาเนนิ การ กจิ กรรมประชมุ ผปู้ กครอง ร่วมกันส่เู ปา้ หมายโรงเรียนสุขภาวะ 2. ชุมชนมีส่วนรว่ มในการจัดการศึกษา กิจกรรมเครอื ข่ายคณะกรรมการ 3. สร้างเครือข่ายความรว่ มมือในการจัด สถานศึกษาข้ันพืน้ ฐานโรงเรียน การศึกษาดา้ นตา่ งๆ อยา่ งหลากหลาย ราชประชานเุ คราะห์ ๓๑
สว่ นที่ 6 การบริหารแผนส่กู ารปฏบิ ัติ 1.หลกั การ การจัดทาแผนพฒั นาการจดั การศึกษาเป็นเครื่องมอื สาคญั ในการปฏบิ ัติงานเพอื่ ส่งมอบผลผลิต การให้บรกิ ารการศึกษาท่ีเช่อื มโยงสอดคลอ้ งกับนโยบายรฐั บาล กระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จึงได้กาหนดแนวทางการ พัฒนาตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ระยะปานกลาง ระหว่าง พ.ศ. 259๖๐ ถึง พ.ศ. 25๖๔ กาหนด ปัจจัยความสาเร็จและกระบวนการนาแผนสู่การปฏิบัติเพ่ือขับเคล่ือนการดาเนินงานตามภารกิจพันธกิจ กลยุทธ์ จดุ เน้น ของโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ดงั นี้ดังน้ี 2. การนาแผนไปสูก่ ารปฏบิ ตั ิ การนาแผนไปสู่การปฏิบัติเป็นขั้นตอนที่แสดงถึงกรรมวิธีในการตัดสินใจเลือกแผนงาน โครงการ ไปดาเนนิ งานใหเ้ กิดผลสาเร็จ ซ่งึ ตอ้ งอาศยั ยทุ ธศาสตรห์ ลายๆอยา่ งท้ังภายในและภายนอกหน่วยงาน นอกจากน้ีการนาแผนไปสู่การปฏิบัติน้ันต้องสัมพันธ์กับกระบวนการบ ริหารจัดการในแง่ของการมอบหมาย อานาจหน้าท่ี (Empowerment) การประสานงาน (Co-ordinate)การอานวยการ (Direction)การควบคุม (Controlling) ตลอดจนวิเคราะห์ข้อมูลย้อนกลับ (Feed back) ในแต่ละขั้นตอนของแผนด้วยการนาแผนไป ปฏิบัติต้องมีการเตรียมการอย่างรัดกุมรอบคอบ และต้องปฏิบัติตามขั้นตอนท่ีกาหนดไว้ในแผน เพ่ือจะให้งาน สาเร็จตามวตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายท่ีวางไว้ จงึ กาหนดหลักการนาแผนไปสูก่ ารปฏิบตั ิ ดงั น้ี 2.1 การสื่อสารกลยุทธ์ เมือ่ คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พน้ื ฐานเหน็ ชอบแผนพฒั นาการจัดการศึกษา ระยะปานกลาง พ.ศ. 2560 – 2564 แล้ว บทบาทสาคัญจะต้องส่ือสารเพ่ือสร้างความเข้าใจในเรื่องกลยุทธ์และระบบวัดผล การดาเนินงานให้แกบ่ ุคลากรในสถานศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพ โดยกาหนดเป้าหมายและวางแผน ในการสื่อสาร กลยทุ ธ์ใหช้ ัดเจนเพอื่ ใหบ้ ุคลากรไดร้ บั ทราบขอ้ มลู ทตี่ ้องการสือ่ สารอย่างถูกตอ้ งและท่ัวถึง 2.2 การกาหนดทมี งานในการขับเคลอ่ื นกลยทุ ธ์ กาหนดทีมงานการขับเคลื่อนกลยุทธ์หลัก ซ่ึงประกอบด้วย ทีมงานจากกลุ่มบริหารงานแผน และงบประมาณ กลุ่มบริหารงานทั่วไป กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ และกลมุ่ บริหารงานกจิ การนกั เรียน ทีม่ ีความรู้ ความสามารถ สอดคลอ้ งกบั ภารกิจของในแตล่ ะกลยทุ ธ์ และดาเนนิ การขบั เคลื่อนกลยุทธ์ 2.3 การจัดทาแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี ในการขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้จัดทา แผนปฏิบัตกิ ารประจาปี โดยการวิเคราะห์แผนเพื่อกาหนดโครงการ / งาน / กจิ กรรม ตามกรอบวงเงินท่ีได้รับ จัดสรร
2.4 การดาเนนิ งานตามแผนแผนปฏิบตั ิการประจาปี ในการดาเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจาปี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้จัดทา โครงการ / งาน / กิจกรรม ท่ีตอบสนองและขับเคลื่อนให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ เป็นแนวทาง การพัฒนาในรอบปีการศึกษา โดยมอบหมายหน้าท่ีผู้รับผิดชอบในการดาเนินงานต่างๆซ่ึงประกอบด้วย โครงการยกระดบั คุณภาพการจัดการศึกษา และโครงการดารงคณุ ภาพการศกึ ษาของโรงเรียน 3.การจดั การระบบติดตาม ประเมินและรายงานผลการดาเนินงาน จัดระบบการวัดผลการดาเนินงานตามกลยุทธ์หลัก 4 กลยุทธ์ กาหนดปฏิทินการนิเทศ กากับ ติดตาม และประเมินผลการดาเนินงานตามโครงการ การจัดทาคารับรองการปฏิบัติราชการกับหน่วยงานท่ี เกี่ยวข้อง และการส่ือสารสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติกับบุคลากรเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานไปในทิศทาง เดียวกัน และการสรุปรายงานผลการดาเนินงานตามเป้าหมาย ความสาเร็จในรอบคร่ึงปีและเมื่อเสร็จส้ินปี การศกึ ษา 4. การสรา้ งเครือข่ายการมีสว่ นร่วม การบริหารกลยุทธ์ จะขับเคลื่อนด้วยการมีส่วนร่วมของบุคลากรทั้งหน่วยงานภายในและ ภายนอกตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย รวมท้ังแสวงหาและประสานเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงาน ภายนอก ตลอดจนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ เอกชน และประชาสังคมในระดบั ตา่ งๆ 5. ปจั จยั ความสาเร็จ 1. ผู้บรหิ ารสถานศึกษาให้ความสาคัญในการบริหารจดั การ โดยมุ่งเนน้ ผลสัมฤทธ์ขิ องงาน และ การทางานแบบมสี ว่ นรว่ มท่ีเอ้ือตอ่ การพฒั นาความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ การปฏบิ ัตงิ านใหบ้ รรลตุ ามวตั ถุประสงค์ และเป้าหมายทก่ี าหนดไว้ 2. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมการบริหารจัดการเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการปฏิบัติงาน อย่างเปน็ ระบบ 3. เช่อื มโยงความสาเร็จของการปฏิบตั ิงานกับการบรหิ ารงานบุคคลอย่างชัดเจน 4. บริหารจัดการโดยเปดิ โอกาสให้ทกุ ภาคส่วนมีส่วนร่วมและยึดหลักธรรมาภบิ าล
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: