Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปกหน้าแรง-ผสาน

ปกหน้าแรง-ผสาน

Published by wassana.sal, 2020-07-22 23:09:35

Description: ปกหน้าแรง-ผสาน

Search

Read the Text Version

แ ร ง แ ล ะ ก า ร เ ค ลื อ น ที บ ท ีท ก า ร เ ค ืล อ น ีท แ ล ะ แ ร ง การรวม เ ว ก เ ต อ ร์ 1 วชิ าวทิ ยาศาสตรพ์ นื ฐาน(ฟสกิ ส)์ โรงเรยี นสริ นิ ธร จงั หวดั สรุ นิ ทร์



สารบญั 1 เวกเตอรข์ องแรง - สญั ลักษณข์ องปรมิ าณเวกเตอร.์ ..(1) - เวกเตอรท์ ีเท่ากัน...(2) - เวกเตอรต์ รงขา้ มกัน...(2) 3 กฎการเคลือนทีของนวิ ตัน - กฎการเคลือนทีของนวิ ตัน ขอ้ ที 1...(3) - กฎการเคลือนทีของนวิ ตัน ขอ้ ที 2...(4) - กฎการเคลือนทีของนวิ ตัน ขอ้ ที 3...(10) 11 ใบกิจกรรม - ใบกจกิ รรมท ี1 แรงในแบบต่างๆ...(11) - ใบกจกิ รรมท ี2 การรวมเวกเตอร.์ ..(12) - ใบกจกิ รรมที 3 กฎการเคลอืนทีของนวิ ตัน...(15) 17 กิจกรรมการทดลอง - กิจกรรม 1.2 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแรง มวล และความเรง่ ...(17) - กิจกรรม 1.3 การหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธข์ องแรงสองแรงทีทํามุมต่อกัน ...(21) - กิจกรรม 1.4 แรงกิรยิ าและแรงปฏิกิรยิ า...(24) บทที 1 การเคลือนทีและแรง



วิทยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลื่อนท่ีแนวตรง 1 แรงและการเคลอ่ื นท่ี จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. อธิบายและแสดงการหาแรงลพั ธ์จากแรงหลายแรงทกี่ ระทากบั วัตถุในระนาบเดยี วกัน 2. อธิบายและวเิ คราะหค์ วามสัมพนั ธ์ระหว่างแรง มวล และความเร่ง 3. อธบิ ายแรงกริ ยิ าและแรงปฏิกริ ิยาระหวา่ งวตั ถคุ หู่ นงึ่ 1. แรง แรง (force) หมายถึง เปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์ เพราะมที ั้งขนาดและทิศทาง ปริมาณทก่ี ระทาต่อวตั ถุ แลว้ ทาใหว้ ัตถุเปลยี่ นแปลงจากสภาพเดิม แรงน้ีอาจจะสัมผัสกับวัตถหุ รือไมส่ มั ผสั กับวัตถุกไ็ ด้ หน่วยของแรงใน ระบบเอสไอ คือ นวิ ตัน (N) แรงท่กี ระทำบนพืน้ ผิวของวัตถุ เช่น แรงดงึ แรงผลัก และแรงยก แรงทไี่ มก่ ระทำบนผิวของวัตถุ เช่น แรงแม่เหล็ก แรงทางไฟฟ้า และแรงโนม้ ถว่ ง แรงท่ีกระทำกบั เน้ือของวตั ถทุ กุ ตำแหน่ง เชน่ น้าหนักของวตั ถุ (แรงดึงดดู ของโลกทก่ี ระทากับวตั ถุโดยไม่ต้องสัมผสั กบั ผวิ ของวตั ถุ) 2. เวกเตอร์ของแรง ปริมาณทีต่ ้องการบอกทงั้ ขนาดและทิศทางจงึ จะได้ความหมายทีส่ มบรู ณ์ เชน่ ความเรว็ ความเรง่ การกระจัด โมเมนตมั แรง ฯลฯ 2.1 สัญลกั ษณข์ องปริมำณเวกเตอร์ การแสดงขนาดและทิศทางของปริมาณเวกเตอร์จะใช้ ลกู ศร บอกขนาด บอกทศิ ทาง ครูวาสนา สาลี กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ โรงเรยี นสริ นิ ธร จงั หวัดสุรินทร์

วทิ ยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลื่อนทแ่ี นวตรง 2 สัญลกั ษณ์ของปริมาณเวกเตอร์ ดงั รูป กข ภาพที่ 1 ก. เวกเตอร์ A มีขนาด 4 หน่วย ไปทางทิศตะวันออก ข. เวกเตอร์ B มีขนาด 3 หน่วย ไปทางทศิ ใต้ 2.2 เวกเตอรท์ ่เี ทำ่ กนั เวกเตอร์ 2 เวกเตอร์จะเท่ากันก็ต่อเมื่อเวกเตอรท์ ้งั สองมีขนาดเทา่ กนั และ ทิศทางไปทางเดยี วกัน ดังรปู ภาพที่ 2 เวกเตอรท์ ี่เทา่ กัน 1. เวกเตอร์ A เท่ากับ เวกเตอร์ B เขียนเป็นสัญลักษณ์ 2. เวกเตอร์ C เท่ากบั เวกเตอร์ D เขยี นเปน็ สญั ลักษณ์ 2.3 เวกเตอร์ตรงขำ้ มกนั เวกเตอร์ 2 เวกเตอร์จะตรงข้ามกนั ก็ต่อเมื่อ เวกเตอร์ทง้ั สองมีขนาด เท่ากนั แต่มที ศิ ทางตรงข้ามกัน ดังรูป 1. เวกเตอร์ A ตรงข้ามกับเวกเตอร์ B เขียนเป็นสัญลกั ษณ์ ได้วา่ 2. เวกเตอร์ C ตรงข้ามกับเวกเตอร์ D เขยี นเป็นสญั ลักษณ์ ได้ว่า ข้อควรทรำบ ในการหาผลลัพธข์ องปริมาณเวกเตอร์ ทาไดโ้ ดยอาศัยวธิ กี ารทางเวกเตอร์ ซงึ่ ตอ้ ง หาผลลัพธท์ ้ังขนาดและทิศทาง ครวู าสนา สาลี กล่มุ สาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นสิรนิ ธร จงั หวดั สรุ ินทร์

วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคลอ่ื นที่แนวตรง 3 3. กฎกำรเคล่ือนที่ของนิวตัน เซอรไ์ อแซก นิวตัน (Sir Issac Newton) นกั ฟิสกิ ส์ ชาวอังกฤษ ไดส้ รปุ เกีย่ วกับการเคลื่อนทีข่ องวตั ถุ ทั้งท่อี ยู่ในสภาพอยูน่ งิ่ และในสภาพเคล่อื นทเ่ี ปน็ กฎการเคลื่อนทขี่ องนวิ ตัน ซ่งึ สามารถทาใหเ้ ราเขา้ ใจการ เคลอื่ นทตี่ า่ งๆ ได้ทงั้ หมด กฎของนวิ ตันมี 3 ขอ้ ไดแ้ ก่ 3.1 กฎกำรเคลอื่ นที่ข้อท่ี 1 ของนิวตัน หรอื อาจเรยี กว่า กฎแห่งควำมเฉอ่ื ย (inertia law) \"วตั ถจุ ะคงสภำพอยนู่ งิ่ หรือสภำพเคลือ่ นที่ด้วยควำมเรว็ คงตัวในแนวตรง นอกจำกจะมีแรงลัพธ์ซึ่งมคี ่ำไม่เปน็ ศนู ยม์ ำกระทำ\" หรือสรุปเป็นสมการ ดังน้ี กรณีท่ี 1 \"วัตถุที่อยู่นงิ่ ถ้าไมม่ แี รงภายนอก อ่นื ใดมากระทาตอ่ วตั ถุหรือมีแรงภายนอกหลายแรงมา กระทาตอ่ วตั ถุ แต่แรงลพั ธเ์ หล่านั้นเป็นศูนย์แลว้ วตั ถุนัน้ ยังคงรกั ษาสภาพนง่ิ ไวอ้ ยา่ งเดิม\" ดงั รูป ถา้ เดิมวัตถุอยนู่ ่ิงกจ็ ะอยนู่ ่ิงตลอดไป กรณที ี่ 2 \" วัตถทุ ี่กาลังเคลือ่ นทด่ี ้วยความเร็วคา่ หนง่ึ ถ้าไมม่ ีแรงภายนอกมากระทาต่อวัตถุ หรอื ถา้ มแี รงภายนอกหลายแรงมากระทาตอ่ วัตถุแตแ่ รงลัพธ์ของแรงเหลา่ น้ันเปน็ ศูนยแ์ ลว้ วตั ถนุ น้ั ยังคงรักษาสภาพ การเคลอ่ื นท่ีดว้ ยความเรว็ คงตวั นัน้ ตลอดไป\" ดังรปู ถ้าเดมิ วตั ถุกาลงั เคล่ือนท่ีอยดู่ ้วย ความเร็วคา่ หนึ่งวตั ถุน้นั กจ็ ะยังคงเคล่ือนที่ ต่อไปในแนวตรงตามทิศทางเดิมดว้ ย ความเร็วคงตัวน้ันตลอดไป\" ครวู าสนา สาลี กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นสิรินธร จงั หวดั สุรินทร์

วทิ ยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลอ่ื นท่ีแนวตรง 4 3.2 กฎกำรเคลื่อนทีข่ อ้ ที่ 2 ของนิวตนั หรืออาจเรียกว่า กฎแหง่ ควำมเรง่ \"เมื่อมีแรงลัพธ์ซึง่ มีขนำดไม่เป็นศูนยม์ ำกระทำต่อวตั ถุ จะทำใหว้ ตั ถเุ กดิ ควำมเรง่ ในทิศเดยี วกับแรงลัพธ์ท่มี ำกระทำ และขนำดของควำมเร่งจะ แปรผันตรงกับขนำดของแรงลัพธ์และจะแปรผกผันกบั มวลของวตั ถุ\" ถา้ มวลของวตั ถคุ งตัวแต่เปลย่ี นขนาดของแรง (F) ให้มากข้ึน ความเร่ง (a) ของวัตถุก็จะมากขึน้ ดว้ ยจงึ สรปุ ไดว้ า่ ขนำดของควำมเร่งแปรผนั ตรงกบั ขนำดของแรงลพั ธ์ท่ีกระทำต่อวตั ถุ เม่ือมวลคงตัวเขยี นเปน็ สัญลักษณ์ไดว้ า่ และถา้ แรงลพั ธ์ (F) ที่กระทาตอ่ วตั ถคุ งตัว แตถ่ ้าเปลี่ยนมวล (m) ใหม้ ากขึน้ ความเร่ง (a) ของวัตถุก็ จะลดลง จึงสรุปได้วำ่ ขนำดของควำมเรง่ แปรผกผนั กับมวลของวตั ถุ เขียนเป็นสญั ลกั ษณ์ไดว้ า่ จากขา้ งตน้ สรปุ ได้วา่ ความเร่ง (a) เปน็ สดั ส่วนโดยตรงกับแรง (F) ดังน้ันอตั ราส่วนของแรงกับ ความเร่งจะเป็นค่าคงท่ซี ง่ึ ตรงกบั มวล (m) ของวัตถุ เขียนเปน็ ความสมั พนั ธจ์ ะได้ แรงและความเรง่ ผลของแรงลัพธ์ตอ่ การเคลอื่ นทข่ี องวัตถุ วตั ถุตา่ งๆ เมื่อมีแรงมากระทา วัตถจุ ะมกี ารเปลย่ี นแปลง สภาพเดิมใน 3 ลกั ษณะ คือ 1. มีการเปล่ยี นแปลงตาแหน่ง 2. มกี ารเปลยี่ นแปลงความเร็ว 3. มกี ารเปลี่ยนแปลงรูปรา่ งและขนาด ขอ้ ควรทรำบ - แรงทีก่ ระทำไปในทศิ ทำงเดยี วกบั กำรเคล่ือนท่ี จะทำใหว้ ตั ถุมีควำมเร็วเพิม่ ขึ้น - แรงท่กี ระทำไปในทิศทำงตรงข้ำมกับกำรเคลอื่ นที่ จะทำใหว้ ตั ถมุ ีควำมเร็วลดลง ครวู าสนา สาลี กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์ โรงเรียนสิรินธร จงั หวัดสรุ นิ ทร์

วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคลอ่ื นท่ีแนวตรง 5 ตัวอยำ่ งกำรคำนวณหำควำมเร่งตำมกฎขอ้ 2 ของนิวตนั ตวั อย่ำงที่ 1 ถา้ ออกแรง 8 นิวตนั กระทากับวัตถมุ วล 32 กโิ ลกรัม วัตถจุ ะมีความเร่งเท่าใด ตัวอยำ่ งท่ี 2 มวล 10 กโิ ลกรัม ตอ้ งการใหเ้ คลื่อนที่ดว้ ยความเรง่ 6 เมตรต่อวนิ าทีกาลังสอง จะต้องออกแรง กระทาเทา่ ใด ครวู าสนา สาลี กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ โรงเรียนสริ นิ ธร จงั หวดั สรุ นิ ทร์

วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคลอื่ นท่แี นวตรง 6 3.2.1 การหาแรงลพั ธ์ การรวมเวกเตอร์ เป็นการรวมปริมาณเวกเตอรห์ รือการหาเวกเตอร์ลัพธ์นนั้ เองการรวมเวกเตอรม์ ี 2 วธิ ี คือการรวมเวกเตอร์โดยการสร้างรปู และการรวมเวกเตอร์ดว้ ยวธิ กี ารคานวณ 3.2.1.1 วิธีท่ี 1 การรวมเวกเตอรโ์ ดยการสรา้ งรูป ตัวอย่าง จากรปู เวกเตอร์ = จากรปู ขา้ งตน้ หลกั การการรวมเวกเตอร์โดยการสรา้ งรูปมขี นั้ ตอนอยา่ งไร ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ การหาแรงลพั ธ์ด้วยวธิ ีการน้ีทาไดโ้ ดยนาหางของแรงท่สี องไปต่อกบั หวั ลูกศรของแรงแรกและนา หางของแรงท่สี ามไปต่อกบั หัวของแรงท่ีสอง ทาเชน่ นีไ้ ปเรอื่ ยๆ จนครบทกุ แรง แรงลัพธท์ ่ไี ด้ คือ แรงที่ลาก จากหางของแรงแรกไปยังหวั ของแรงสดุ ท้าย คณุ สมบตั ขิ องการบวกเวกเตอร์ 1. A + B = B + A คณุ สมบตั ิการสลบั ท่ี 2. A + (B + C) = (A + B) + C คุณสมบัตกิ ารจัดหมู่ การลบเวกเตอร์ สามารถหาเวกเตอร์ลัพธ์ได้เชน่ เดียวกับการบวกเวกเตอร์ แตใ่ หก้ ลบั ทิศทาง เวกเตอร์ตวั ลบ ดังนี้ ผลลพั ธค์ ือ........ ครวู าสนา สาลี กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ โรงเรียนสิรินธร จงั หวดั สรุ นิ ทร์

วิทยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคล่ือนทแี่ นวตรง 7 3.2.1.2 วธิ ที ่ี 2 การรวมเวกเตอร์โดยการคานวณ กรณีท่ี 1 เวกเตอรอ์ ยู่ในแนวเดียวกันและมที ิศทางเดียวกัน ในกรณที ี่เวกเตอรย์ อ่ ยอยูใ่ นแนวเดียวกนั ทิศทางเดียวกัน เราสามารถนาเวกเตอร์ นั้นมารวมกัน หรือบวกกันได้เลย เพราะเวกเตอร์นั้นอยู่ในทิศเดียวกัน แต่ตอ้ งทาการพิจารณาหนว่ ยตอ้ งอยู่ ในหน่วยเดียวกนั ด้วย F2 F1 F = …………………. ตวั อย่าง จงหาแรงรวมดังรปู ตอ่ ไปนี้ 50 N 100 N วิธที า จากรูปแรง F1 = 100 N และแรง F2 = 50 N ดังน้นั แรงรวมเท่ากบั F = ……………. = ……………………. ตวั อย่าง แรงกระทากบั วัตถุดงั รปู จงหาแรงลพั ธ์ F2= 5 kN F1= 10 kN วิธีทา FR = ……………… = ……………...= ……………… kN กรณที ่ี 2 เวกเตอรอ์ ยใู่ นแนวเดียวกนั และมีทศิ ทางตรงกนั ข้ามกนั ในกรณที ีเ่ วกเตอร์ย่อยอยใู่ นแนวเดยี วกนั ทศิ ทางตรงกันขา้ มกนั เราสามารถนาเวกเตอร์น้ัน มารวมกนั หรือลบกันได้เลย เพราะเวกเตอรน์ ้ันอยู่ในทิศทางตรงข้ามกัน แต่ต้องทาการพจิ ารณาหน่วยต้อง อย่ใู นหน่วยเดยี วกนั F2 F1 F = …………………. หรือ F = …………………. อยู่ทส่ี มมติใหท้ ศิ ใดเปน็ บวกหรอื ลบ ครูวาสนา สาลี กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นสริ นิ ธร จงั หวดั สุรนิ ทร์

วทิ ยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลื่อนทแี่ นวตรง 8 ตวั อยา่ ง จงหาแรงรวมดังรปู ตอ่ ไปนี้ 100 N 50 N วธิ ีทา จากรูปแรง F1 = 100 N และแรง F2 = 50 N สมมตใิ ห้ทิศทีไ่ ปทางขาวเปน็ บวก ดงั นน้ั แรงรวมเทา่ กับ F = …………….. = …………….= …………….. N กรณีที่ 3 เวกเตอรอ์ ยู่ในแนวต้ังฉากกัน PR RP QQ จากรปู เวกเตอร์ดา้ นบนแรง P , Q เป็นแรงย่อย และแรง R เป็นแรงรวมหรอื แรงลพั ธ์ ดงั นนั้ เราสามารถคานวณหาแรงรวม R ได้โดยวธิ ีการดังน้ี R2 = P2 + Q2 ตวั อย่าง จงหาเวกเตอรร์ วมตามรปู ตอ่ ไปนี้ 4 10 วธิ ที า ทาการสร้างรูปใหอ้ ยู่ในรูปสามเหล่ยี มมมุ ฉาก หรือสรา้ งรปู เปน็ สเี่ หลีย่ มผืนผ้า 4R หรอื R 4 10 10 ทาการหาแรงรวมโดยใช้ความรู้ทฤษฎบี ทปธี ากอลสั ดงั นนั้ แรงรวม R เทา่ กับ R2 = 42 + 102 R = 42 + 102 R = 10.77 ครวู าสนา สาลี กลุม่ สาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนสิรนิ ธร จงั หวดั สรุ ินทร์

วิทยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคล่ือนท่ีแนวตรง 9 ตวั อยา่ ง จงหาแรงรวมตามรปู ต่อไปนี้ ……………………………………………………………… ……………………………………………….……………... 3 นวิ ตนั ……………………………………………………………… ……………………………………………….……………... 4 นิวตนั กรณีที่ 4 เวกเตอร์ไม่อยใู่ นแนวตงั้ ฉาก การแตกเวกเตอร์ การแตกหรือแยกเวกเตอร์ เป็นพ้ืนฐานในการหาปรมิ าณเวกเตอร์ใดๆ ทีม่ ีการกระทาทาให้เกิด เวกเตอร์ย่อยในแกนปกติ x , y เช่น แรงท่ีกระทาเป็นมุมกับวัตถุ ทาให้เกิดเวกเตอร์ในแนวแกนปกติดัง Fy F แสดงในรปู ท่ี 1.2  Fx รปู ท่ี 1.2 จากรปู แรงหรอื เวกเตอร์ F กระทากับวัตถุก้อนหน่งึ ซง่ึ เม่อื เราพจิ ารณาวัตถุเราจะเห็นวา่ แรง ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………..……………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….……………. . ครวู าสนา สาลี กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นสริ ินธร จงั หวัดสรุ ินทร์

วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคลอื่ นที่แนวตรง 10 3.3 กฎกำรเคล่ือนที่ข้อที่ 3 ของนิวตัน หรอื อาจเรียกวา่ แรงกิริยำและแรงปฏกิ ิริยำ ในขณะทม่ี ี แรงมากระทาต่อวัตถุ วัตถจุ ะออกแรงโต้ตอบต่อแรงทม่ี ากระทาน้ันดว้ ย เชน่ เมื่อเราออกแรงดงึ เครื่องชั่งสปรงิ เราจะรสู้ ึกวา่ เครื่องชั่งสปรงิ ก็ดงึ มอื เราด้วยและย่ิงเราออกแรงดึงเครอ่ื งชง่ั สปรงิ ด้วยแรงมากขน้ึ เท่าใดเรากจ็ ะ รสู้ กึ วา่ เครือ่ งชัง่ สปริงย่ิงดึงมือเราไปมากขน้ึ เท่านน้ั ดังรปู จากตวั อย่างจะพบวา่ เมื่อมีแรงกระทาตอ่ วัตถุหนึ่ง วัตถุน้ันกจ็ ะออกแรงโต้ตอบในทิศทางตรงข้ามกบั แรงที่มากระทา ซ่ึงแรงทัง้ สองแรงนี้จะเกิดขน้ึ พร้อมกนั เสมอ เรยี กแรงท่ีมากระทาต่อวัตถุว่า \"แรงกริ ิยำ\" (action force) เรยี กแรงทว่ี ตั ถโุ ตต้ อบต่อแรงท่ีมากระทาวา่ \"แรงปฏิกิริยำ\" (reaction force) \"ทุกแรงแรงกริ ิยำต้องมีแรงปฏกิ ริ ยิ ำซง่ึ มีขนำดเท่ำกนั และทิศทำงตรงข้ำมกันเสมอ หรอื action = reaction \" หมายความว่า เม่ือมแี รงกิรยิ ากระทาตอ่ วตั ถุใดก็จะมแี รงปฏิกิรยิ า จากวตั ถุนัน้ โดยมขี นาดแรงเท่ากันแต่กระทากบั วัตถุคนละก้อน เสมอ แรงกริ ิยำมำหักลำ้ งกับแรงปฏิกริ ยิ ำไม่ได้ เช่น กรณีรถชนสุนขั แรงกิรยิ า คือ แรงที่รถชนสุนัข จงึ ทา ใหส้ ุนขั กระเดน็ ไป ในขณะเดียวกนั จะมีแรงปฏิกริ ิยา ซ่ึงเป็นแรงทีส่ นุ ัขชนรถ จึงทาให้รถบุบ จะเห็นว่าเสยี หาย ทงั้ 2 ฝ่าย แสดงว่าแรงไม่หกั ลา้ งกนั ดังรปู ข้อควรจำ ลักษณะสาคัญของ แรงกริ ิยาแรงปฏิกิรยิ า 1. จะเกิดขึ้นพรอ้ มๆกันเสมอ 2. มขี นาดเท่ากนั 3. มที ศิ ทางตรงข้ามกัน 4. กระทาต่อวตั ถุคนละก้อน ครวู าสนา สาลี กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนสริ นิ ธร จงั หวดั สรุ นิ ทร์

วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคลอ่ื นทีแ่ นวตรง 11 ใบกจิ กรรมที่ 1 แรงในแบบตา่ งๆ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นอธิบายภาพดังตอ่ ไปนี้ พรอ้ มบอกวา่ เปน็ แรงชนิดใด .................................................. ............................................ .......................................... .................................................. ............................................ .......................................... .................................................. ............................................ .......................................... .................................................. ............................................ .......................................... .................................................. ............................................ .......................................... .................................................. ............................................ .......................................... ครูวาสนา สาลี กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนสิรินธร จงั หวัดสรุ นิ ทร์

วิทยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลอ่ื นที่แนวตรง 12 ใบกจิ กรรมที่ 2 การรวมเวกเตอร์ คำช้ีแจง คาถามแบ่งออกเปน็ 3 ตอนๆ ละ 5 ข้อ ดงั นี้ ตอนที่ 1 จงเขยี นความหมายคาถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. แรงหมายถงึ อะไร ........................................................................................................................................ 2. แรงลัพธห์ มายถงึ อะไร .................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .......................................... 3. การหาแรงลัพธ์มีวธิ ีหาอย่างไร ...................................................................................................................... .................................................................................................... ................................................................... 4. แรงเป็นปริมาณอะไร มหี น่วยอย่างไร ......................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ................. 5. แรงสองแรงมีขนาดเท่ากันกระทาต่อวัตถเุ ดยี วกนั ในแนวระดับบนพืน้ ราบ ขนาดของแรงลัพธ์ เปน็ เท่าใด และมที ิศทางอยา่ งไร.................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ตอนท่ี 2 จงเขียนเคร่อื งหมาย หนา้ ขอ้ ความทีค่ ิดว่าถกู และ หน้าข้อความท่ีคิดว่าผดิ ........ 6. แรงเปน็ ปรมิ าณสเกลาร์ ........ 7. หนว่ ยของแรงในระบบเอสไอคือ นวิ ตัน ........ 8. จากภาพ ก. ขนาดของแรงลัพธค์ ือ 15 นวิ ตัน และมที ศิ ทางไปทางขวา …….. 9. จากภาพ ข. ขนาดของแรงลพั ธ์คือ 5 นวิ ตนั และมีทศิ ทางไปทางขวา …….. 10. จากภาพ ค. ขนาดของแรงลัพธ์เปน็ ศูนย์ และทิศทางระบุไม่ได้ ครูวาสนา สาลี กลุม่ สาระวิทยาศาสตร์ โรงเรยี นสิรินธร จงั หวดั สุรินทร์

วิทยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคลอื่ นทแ่ี นวตรง 13 ตอนที่ 3 จงตอบให้ความหมายคาถามตอ่ ไปนี้ 11. จงแสดงวธิ ีการหาเวกเตอรผ์ ลลพั ธโ์ ดยวิธีต่อเวกเตอร์ 12. จงแสดงวิธีการหาเวกเตอรผ์ ลลพั ธ์โดยวิธีส่เี หล่ยี มด้านขนาน 13. เวกเตอร์ท่กี าหนดให้จงแสดงวธิ หี าเวกเตอร์ลัพธโ์ ดยการสรา้ งรปู A = 5 หนว่ ย B = 7 หน่วย C = 6 หน่วย D = 5 หนว่ ย F = 3 หนว่ ย จงหาเวกเตอร์ลพั ธ์ 2. D – A + C – F + B 1. A + B + C + D + F ครวู าสนา สาลี กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์ โรงเรยี นสริ นิ ธร จงั หวัดสรุ นิ ทร์

วิทยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลื่อนที่แนวตรง 14 14. แสดงการแตกเวกเตอร์ Z …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 15. จงแสดงวธิ ีการหาเวกเตอรล์ พั ธ์โดยวธิ ีแตกเวกเตอร์ ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………. ครูวาสนา สาลี กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนสริ ินธร จงั หวดั สุรินทร์

วทิ ยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลอื่ นที่แนวตรง 15 ใบกจิ กรรมที่ 3 กฎการเคลอื่ นทขี่ องนวิ ตนั คำชแี้ จง จงเติมคาตอบทีถ่ ูกตอ้ งลงในชอ่ งว่างใหส้ มบูรณ์ 1. นักเทนนิสตีลูกเทนนิสอย่างแรง ขณะลูกเทนนิสกาลังเคลื่อนที่อยู่ในอากาศ มีแรงใดบ้างกระทาต่อลูก เทนนิส (ไม่คดิ แรงต้านอากาศ) ........................................................................................................................……………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ผลกั แทง่ ไม้ทรงสี่เหลย่ี มให้ไถลไปบนพน้ื ราบ แท่งไม้นจี้ ะเคลอ่ื นที่ไปไดร้ ะยะทางหนงึ่ แลว้ หยดุ นงิ่ ขณะ แท่งไมก้ าลงั เคลือ่ นที่ แรงลพั ธ์ท่กี ระทาตอ่ แทง่ ไม้และความเรง่ ของแท่งไม้อยูใ่ นทิศทางใด จงวาดรูป ประกอบ ..................................................................................................... ………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………............................. ............................................................................................................................. ................................................. 3. ถา้ เรายนื ช่งั น้าหนักใกล้ๆ กับโต๊ะ แล้วใช้มอื กดลงบนโตะ๊ ไว้ ค่าที่อ่านได้จากเคร่ืองช่งั จะเพ่ิมขึน้ หรือ ลดลง เพราะเหตุใด ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 4. จากข้อความที่ว่า “จรวดไม่สามารถเคลื่อนท่ีขึ้นจากผิวดวงจันทร์ได้ เพราะไม่มีอากาศผลัก” คากล่าวนี้ ถูกต้องหรอื ไม่ จงอธิบาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ................................. 5. จงหาแรงค่กู ริ ิยา-ปฏิกริ ิยาของแรงต่อไปน้ี ก. แรงกระทาต่อจรวดในขณะพ่นเชอ้ื เพลิงไปดา้ นหลัง ข. แรงกระทาต่อล้อรถจักรยานขณะรถจกั รยานเคลื่อนที่บนถนนในแนวระดับไปข้างหนา้ ค. แรงกระทาตอ่ ลอ้ รถพว่ งในขณะรถพ่วงถูกลากใหเ้ คล่ือนทีไ่ ปทางทิศเหนือ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ครูวาสนา สาลี กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนสริ นิ ธร จงั หวดั สรุ ินทร์

วิทยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลื่อนทีแ่ นวตรง 16 6. รถทดลองมวล 15 กโิ ลกรัม ถกู แรงดงึ 30 นวิ ตัน จะเคล่ือนที่ด้วยความเรง่ เทา่ ใด และหากตอนแรกมวลน้ี อยนู่ ่งิ ๆ ถามวา่ เมื่อเวลาผ่านไป 2 วินาที จะเคล่ือนทไี่ ปได้ไกลก่ีเมตร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 7. จากรูปวตั ถุ 20 kg และ 10 kg วางตดิ กนั บน พ้ืนท่ีไมม่ ีแรงเสยี ดทาน ให้หา แรง P และ Q ในรปู ภาพ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 8. จากรปู m1 , m2 มวล 2 kg และ 0.5 kg อยู่บนพนื้ เกลี้ยง ก. ระบบจะเคลอื่ นท่ดี ว้ ยความเร่งเท่าใด ข. เชือกจะมีแรงดงึ เชือกเท่าใด ค. ระบบจะมีความเร็วสูงสดุ เท่าใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. จากรูปวัตถจุ ะมีความเร่งเท่าไร และมีความเร่งมีทิศทางไปทางใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10. กลอ่ งไมม้ วล 4 กิโลกรัม วางอยู่นง่ิ ๆ บนโต๊ะผิวเกล้ียง ถา้ ต้องการให้กล่องไม้นเ้ี คลอื่ นทไ่ี ปบนโต๊ะ จนกระทั่งมคี วามเร็ว 10 เมตร/วินาที ภายในเวลา 2 วินาที จงหาวา่ แรงลพั ธ์ที่กระทาต่อกลอ่ งไมน้ ี้ จะต้องมขี นาดกน่ี ิวตัน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ครวู าสนา สาลี กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์ โรงเรยี นสริ นิ ธร จงั หวดั สรุ นิ ทร์

วิทยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคลอ่ื นท่ีแนวตรง 17 กิจกรรม 1.2 ควำมสมั พันธร์ ะหว่ำงแรง มวล และควำมเรง่ จดุ ประสงค์ วเิ คราะห์การเคลอื่ นที่ของรถทดลองเพ่ือหาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งแรงท่ีกระทาต่อวตั ถุ มวลของวตั ถุ และ ความเรง่ ทเ่ี กดิ จากแรงนั้น วัสดแุ ละอุปกรณ์ 1. เครื่องเคาะสญั ญาณเวลา 1 เคร่อื ง 2. หมอ้ แปลงโวลตต์ ่า 1 เครอ่ื ง 3. รางไมพ้ ร้อมแขนรางไม้ 1 ชดุ 4. แถบกระดาษ 8 แถบ 5. รถทดลอง 1 คัน 6. แทง่ เหล็กมวล 500 กรมั 3 แท่ง 7. ขอเกย่ี ว 1 อัน 8. นอต 4 ตวั 9. เชือก 1 เส้น วิธีกำรทำกิจกรรม ตอนท่ี 1 ศึกษำควำมพันธ์ระหว่ำงแรงกับควำมเรง่ เมื่อมวลของวตั ถุมีค่ำคงตัว 1. ตดิ ต้ังอปุ กรณ์ และสอดแถบกระดาษท่ตี ิดกบั รถทดลองให้ผา่ นเครือ่ งเคาะสัญญาณ โดยปลายอกี ด้านของรถทดลองผกู กบั เชือกผา่ นรอกท่มี ขี อเก่ียวโลหะแขวนไวด้ ังรูป 1.10 รปู 1.10 กำรจดั อปุ กรณ์เพือ่ ศึกษำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงแรง มวล และควำมเร่ง ครูวาสนา สาลี กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ โรงเรยี นสริ นิ ธร จงั หวัดสุรนิ ทร์

วิทยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลอื่ นท่ีแนวตรง 18 2. ถ่วงนอต 1 ตัวทขี่ อเกี่ยวโลหะและจับรถทดลองไวใ้ ห้อยู่นิ่ง เปดิ สวติ ซใ์ หเ้ คร่ืองเคาะ สญั ญาณเวลา ทางาน แลว้ ปลอ่ ยรถทดลองใหเ้ คล่อื นที่ 3. ทาซา้ ในข้อ 1 และ 2 โดยเปลย่ี นจานวนนอตทถี่ ่วงเปน็ 2 ตัว 3 ตวั และ 4 ตวั 4. บนแถบกระดาษและเปรยี บเทียบระยะหา่ งของจดุ บนแถบกระดาษทั้ง 4 แถบ ตอนท่ี 2 ศึกษำควำมพันธร์ ะหวำ่ งมวลกบั ควำมเรง่ เม่ือแรงมคี ่ำคงตวั 1. สอดแถบกระดาษท่ตี ดิ กับรถทดลองให้ผ่านเครื่องเคาะสัญญาณ โดยปลายอีกด้านของรถทดลองผูก กับเชือกผา่ นรอกท่ีมีขอเกีย่ วโลหะท่ีถ่วงด้วยนอต 4 ตัว และจับรถทดลองไวใ้ หอ้ ยู่นิ่ง 2. เปดิ สวิตซ์ใหเ้ ครื่องเคาะสัญญาณเวลาทางาน ปล่อยรถทดลองให้เคล่ือนท่ี ผลการทดลอง ตอนที่ 1 ศึกษาความสัมพนั ธร์ ะหว่างแรงกบั ความเร่ง เม่ือมวลของวัตถมุ คี า่ คงตวั มวลของวตั ถุ =…………………………………………………………………… ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง จานวนนอ็ ตทถ่ี ว่ ง แรง F = mg ความเรว็ ความเรง่ (ตัว) (N) (m/s) (m/s2) 1 2 3 4 สรุปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… คำถำมทำ้ ยกิจกรรม 1. มวลของรถทดลองในแต่ละกรณี มคี ่าคงตัวหรือไม่ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ครวู าสนา สาลี กล่มุ สาระวิทยาศาสตร์ โรงเรยี นสริ ินธร จงั หวัดสรุ ินทร์

วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคลอ่ื นที่แนวตรง 19 2. จากจดุ บนแถบกระดาษท่ีถว่ งดว้ ยนอต 1 ตวั สามารถอธบิ ายความเร็วและความเรง่ ของรถทดลอง ได้อยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 3. เมอ่ื เปรยี บเทียบความเร่งของรถทดลองจากแถบกระดาษท่ีถ่วงด้วยนอต 1 ตวั 2 ตวั 3 ตวั และ 4 ตัว รถทดลองในแต่ละกรณีมีความเรง่ เทา่ กนั หรือไม่ อย่างไร ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 4. จานวนนอตมีความสัมพันธ์กับแรงทีก่ ระทากบั รถทดลองอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 5. ขนาดของแรงท่ีกระทากับรถทดลองมีความสัมพันธ์กับขนาดของความเร่งอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ตอนที่ 2 ศกึ ษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมวลกบั ความเรง่ เมอื่ แรงมคี า่ คงตวั แรง =…………………………………………………………..……………… มวลรถทดลอง = ………………………………………………………………. ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง มวลของแทง่ เหลก็ มวลรถทดลอง ความเรว็ ความเรง่ (Kg) (Kg) (m/s) (m/s2) 0 500 1,000 1,500 สรุปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………. ครวู าสนา สาลี กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนสิรนิ ธร จงั หวดั สรุ นิ ทร์

วทิ ยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลอื่ นทแ่ี นวตรง 20 คำถำมทำ้ ยกจิ กรรม 1. แรงท่ีกระทาให้รถทดลองเกิดการเคลือ่ นที่ในแตล่ ะกรณี มคี ่าคงตัวหรือไม่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. เปรียบเทยี บแถบกระดาษในกรณีทไ่ี ม่มแี ท่งเหล็ก และกรณีทว่ี างแท่งเหลก็ 1 แทง่ 2 แทง่ และ 3 แทง่ รถทดลองในแต่ละกรณีมคี วามเร่งเท่ากันหรือไม่ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จานวนแทง่ เหลก็ มีความสมั พันธก์ บั มวลรวมของรถทดลองอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. มวลรวมของรถทดลองมีความสมั พันธ์กับขนาดของความเร่งอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ครวู าสนา สาลี กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนสริ ินธร จงั หวัดสรุ นิ ทร์

วทิ ยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคล่ือนทีแ่ นวตรง 21 กจิ กรรม 1.3 กำรหำขนำดและทิศทำงของแรงลัพธข์ องแรงสองแรงท่ที ำมมุ ต่อกนั จุดประสงค์ วเิ คราะห์ขนาดและทิศทางของแรงของแรงสองแรงท่กี ระทามมุ ใด ๆ ต่อกนั เพ่อื หาขนาดและ ทศิ ทางของแรงลัพธ์ วสั ดุและอุปกรณ์ 1. เครื่องชง่ั สปรงิ 3 เครอ่ื ง 2. เชอื ก 3 เส้น วธิ ีกำรทำกิจกรรม 1. นาปลายเชอื ก 3 เส้น มาผกู รวมกนั เป็นปม ส่วนปลายของเชอื กท่เี หลือทาเปน็ หว่ งแล้ววางบน กระดาษขาว 2. ใช้เคร่อื งชัง่ สปรงิ 3 อัน เก่ียวกบั หว่ งเชือกแลว้ ดงึ เคร่ืองชง่ั สปรงิ ท้งั สามในแนวระดับ โดย เรมิ่ จากดงึ เครอ่ื งชั่งสปรงิ สองอันใหท้ ามุมค่าหนึง่ จากนนั้ พยายามดึงเครอ่ื งช่งั สปริงจนปมของเชอื กหยุดนง่ิ เขยี นแนวแรง ตามแนวเส้นเชอื กลงบนกระดาษขาวและบนั ทกึ ค่าของแรงทง้ั สาม ดงั ตัวอย่างในรปู 1.12 ก. 3. เขียนเวกเตอร์ของแรงทัง้ สามตามแนวแรงของเสน้ เชือก โดยใช้อตั ราส่วนแรงขนาด 1 นิวตัน เทา่ กับ เวกเตอรข์ นาด 1 เซนติเมตร ดังตัวอยา่ งในรปู 1.12 ข. ก. ตวั อย่างการบนั ทกึ ขนาดของแรง ข. ตวั อยา่ งการเขยี นเวกเตอร์ของแรง รูป 1.12 การหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์ 4. ทาการทดลองซ้าขอ้ ท่ี 1 และ 2 แต่เพิ่มมวลรถทดลองโดยวางแทง่ เหลก็ มวล 500 กรัม จานวน 1 แทง่ 2 แห่ง และ 3 แท่ง บนรถทดลอง 5. วิเคราะห์จุดบนแถบกระดาษและเปรียบเทียบระยะหา่ งของจุดบนแถบกระดาษท้ัง 4 แถบ ครูวาสนา สาลี กลุม่ สาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นสิรนิ ธร จงั หวัดสรุ นิ ทร์

วิทยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคลอ่ื นทีแ่ นวตรง 22 6. หาแรงลพั ธข์ องเวกเตอร์ของแรงที่ 1 และแรงที่ 2 โดยการสรา้ งรปู สามเหล่ยี ม ด้วยการเขยี น เวกเตอรข์ องแรงท่ี 2 โดยให้หางของเวกเตอรข์ องแรงท่ี 2 ตอ่ จากหัวเวกเตอร์ ของแรงท่ี 1 จากนั้นลาก เวกเตอรจ์ ากหางเวกเตอรข์ องแรงที่ 1 ไปยงั หวั เวกเตอร์ของ แรงท่ี 2 เปน็ แรงลัพธข์ องแรงทัง้ สอง แลว้ เปรียบเทียบขนาดและทิศทางกบั เวกเตอร์ของแรงที่ 3 7. หาแรงลพั ธ์ของเวกเตอร์ของแรงท่ี 1 และแรงที่ 2 โดยการสรา้ งรูปส่ีเหล่ียมดา้ นขนานดว้ ยการเขียน ให้หางของเวกเตอรข์ องแรงที่ 1 และแรงที่ 2 เรมิ่ จากตาแหน่งเดียวกนั ลากเส้นประจากหัวของเวกเตอรท์ งั้ สองใหเ้ กดิ เปน็ รูปส่เี หลย่ี มด้านขนาน แลว้ ลากเวกเตอร์ เสน้ ทแยงมมุ ของสเี่ หล่ียมดา้ นขนานจากหางเวกเตอร์ ทง้ั สองไปที่มุมตรงข้าม เปน็ แรงลัพธข์ องแรงทงั้ สอง แล้วเปรยี บเทยี บขนาดและทิศทางกับเวกเตอรข์ องแรงท่ี 3 ผลการทดลอง ตารางบนั ทกึ ผล มมุ F1 F2 F3 หรอื เขยี นภาพทศิ ทางของ เขยี นภาพการหาแรงลพั ธ์ ระหวา่ ง F ลพั ธ์ แรงลัพธ์ แบบหางตอ่ หวั F1 กบั F2 300 450 600 900 สรปุ ผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ครวู าสนา สาลี กล่มุ สาระวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนสิรนิ ธร จงั หวัดสรุ ินทร์

วิทยาศาสตร์กายภาพ บทที่ 1 การเคลือ่ นท่แี นวตรง 23 คำถำมทำ้ ยกจิ กรรม 1. เม่ือนาขนาดของแรงที่ 1 มารวมกบั ขนาดของแรงท่ี 2 จะเท่ากบั ขนาดของแรงท่ี 3 หรอื ไม่ อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. แรงลพั ธ์ของแรงท่ี 1 กับแรงที่ 2 จากวธิ ีในขอ้ 4 มขี นาดและทิศทางเป็นอยา่ งไร เม่อื เทียบกับแรงที่ 3 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แรงลพั ธข์ องแรงที่ 1 กับแรงท่ี 2 จากวธิ ใี นข้อ 5 มีขนาดและทิศทางเป็นอย่างไร เมื่อเทยี บกับแรงที่ 3 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ครูวาสนา สาลี กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ โรงเรยี นสิรนิ ธร จงั หวัดสรุ ินทร์

วิทยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคล่อื นที่แนวตรง 24 กจิ กรรม 1.4 แรงกิรยิ ำและแรงปฏิกริ ยิ ำ จดุ ประสงค์ วิเคราะห์ขนาดและทิศทางของแรงระหว่างวตั ถุค่หู น่ึง ๆ เพ่ืออธบิ ายแรงกรยิ าและแรงปฏิกิรยิ า วสั ดแุ ละอุปกรณ์ เคร่ืองชัง่ สปรงิ 2 อนั วธิ กี ำรทำกจิ กรรม 1. นาปลายของเคร่อื งช่งั สปริงทง้ั 2 อนั มาเก่ียวกัน โดยยดึ ปลายอกี ด้านหน่ึงของเครื่องช่ังสปรงิ อันท่ี หนึง่ กบั ที่ยึด จากนน้ั ออกแรงดงึ เคร่ืองชัง่ สปรงิ อนั ที่สอง ดังรูป 1.17 สงั เกตและอา่ นค่าของแรงทไี่ ดจ้ ากเคร่ือง ชง่ั สปริงท้งั สองพร้อมกนั บนั ทึกผล 2. ทาการทดลองซา้ อีก 2 คร้ัง โดยเปลีย่ นขนาดของแรงดึงเคร่อื งชั่งสปริงอันท่ีสอง รูป 1.17 การออกแรงดึงเครื่องชัง่ สปริงทเี่ กีย่ วกัน ผลการทดลอง ตารางบนั ทกึ ผล แรงทอ่ี า่ นไดจ้ ากตาชง่ั สปรงิ ตวั ที่ 2 ครง้ั ที่ แรงทอ่ี า่ นไดจ้ ากตาชงั่ สปรงิ ตวั ท่ี 1 1 2 3 สรุปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………….... ครวู าสนา สาลี กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์ โรงเรียนสริ นิ ธร จงั หวัดสรุ ินทร์

วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ บทที่ 1 การเคล่อื นทแ่ี นวตรง 25 คำถำมทำ้ ยกจิ กรรม 1. แรงที่เครื่องช่ังสปรงิ อันท่ี 2 กระทากับเครือ่ งช่ังสปริงอันท่ี 1 และ แรงท่ีเครื่องชั่งสปรงิ อนั ที่ 1 กระทากับเคร่ืองชง่ั สปรงิ อนั ท่ี 2 เกดิ ข้ึนพร้อมกนั หรอื ไม่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. แรงท่ีเครอ่ื งชั่งสปรงิ อนั ที่ 2 กระทากบั เคร่ืองช่งั สปริงอันท่ี 1 และ แรงที่เคร่ืองช่ังสปรงิ อนั ท่ี 1 กระทากบั เครื่องช่งั สปริงอนั ท่ี 2 มีขนาดเป็นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แรงทีเ่ ครอื่ งช่ังสปรงิ อันท่ี 2 กระทากับเครื่องชง่ั สปรงิ อันที่ 1 และแรงที่เครื่องชัง่ สปริงอนั ที่ 1 กระทา กบั เคร่ืองช่งั สปรงิ อนั ท่ี 2 มีทิศเดียวกันหรอื ไม่ อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตรวจสอบควำมเขำ้ ใจ 1.2 1. แรงในชวี ติ ประจาวันมลี ักษณะอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. แรงที่กระตอ่ วัตถุมวลของวัตถุ และความเรง่ ของวัตถุ มคี วามสมั พันธ์กนั อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เมื่อออกแรงกระทาต่อวัตถุหน่ึง วัตถนุ นั้ จะออกแรงกระทากลับ เสมอไปหรอื ไม่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ครวู าสนา สาลี กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์ โรงเรยี นสริ ินธร จงั หวัดสรุ นิ ทร์

1บ ท ีท ก า ร เ ค ืล อ น ีท แ ล ะ แ ร ง วชิ าวทิ ยาศาสตรพ์ นื ฐาน(ฟสกิ ส)์ โรงเรยี นสริ นิ ธร จงั หวดั สรุ นิ ทร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook