บทท่ี 6อุปกรณ์สาหรับเช่ือมต่อเครือข่ายประเภท LAN
การ์ด (LAN)เคร่ืองพีซีจะเชื่อมตอ่ กนั เป็นระบบ LAN ขนึ ้ มานนั้ แตล่ ะเคร่ืองต้องติดตงั้ การ์ดLAN เคร่ืองรุ่นใหม่ๆอาจจะมีการ์ด LAN ฝังตวั อย่ใู นบอร์ดให้แล้ว (LanOnboard) หรือในโน๊ตบ๊คุ ใหม่ๆก็มกั จะมีพอร์ต LAN มาให้แล้ว โดยสว่ นใหญ่จะมีความเร็ว 1000หรือ100 เมกกะบิต (ถ้าเป็นรุ่นเก่าจะมีความเร็วเพียง10 เมกกะบิตต่อวนิ าทีเท่านนั้ ) เรียกวา่ เป็น Fast Ethernet และบางแบบก็อาจใช้ได้ทงั้ 2 ความเร็วโดยสามารถปรับแบบอตั โนมตั แิ ล้วแตจ่ ะไปเช่ือมตอ่ กบัอปุ กรณ์ Hub หรือ Switch แบบใดการ์ด LAN รุ่นใหม่จะมีคณุ สมบตั ิPlug&Play หรือ PnP มกั เสียบเข้ากบั สล๊อตแบบ PCI (การ์ดรุ่นเก่าจะใช้กบั สล๊อตแบบ ISA ซง่ึ ไม่ค่อยพบแล้ว จึงไม่ขอกล่าวถึง) โดยมีช่องด้านหลงัเครื่องให้เสียบสายได้
ฮบั (HUB) เป็นอุปกรณ์ที่รวมสัญญาณที่มาจากอุปกรณ์รับส่งหลายๆ สถานี เข้าด้วยกัน ฮับเปรียบเสมือนเป็นบัสที่รวมอย่ทู ี่จดุ เดียวกนั ฮบั ท่ีใช้งานอย่ภู ายใต้มาตรฐานการรับส่งแบบอีเทอร์เน็ต หรือ IEEE802.3 ข้อมลู ที่รับส่งผ่านฮบัจากเคร่ืองหนึ่งจะกระจายไปยงั ทกุ สถานีที่ตอ่ อย่บู นฮบั นนั้ ดงั นนั้ ทกุ สถานีจะรับสญั ญาณข้อมลู ที่กระจายมาได้ทงั้ หมดแตจ่ ะเลือกคดั ลอกเฉพาะข้อมลู ท่ีสง่ มาถึงตนเท่านนั้ การตรวจสอบข้อมลู จึงต้องดทู ่ีแอดเดรส(address)ท่ีกากบั มาในกลมุ่ ของข้อมลู หรือแพ็กเก็ต
สวิตซ์(SWITCH) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณที่มาจากอุปกรณ์รับส่งหลายสถานีเช่นเดียวกับฮับ แต่มีข้อแตกต่างจากฮับกล่าวคือ การรับส่งข้อมลู จากสถานี (อุปกรณ์) ตวั หนึ่ง จะไม่กระจายไปยังทกุ สถานี (อุปกรณ์) เหมือนฮบั ทงั้ นีเ้ พราะสวิตช์จะรับกล่มุ ข้อมลู (แพ็กเก็ต) มาตรวจสอบก่อน แล้วดวู ่ามา แอดเดรสของสถานีปลายทางไปที่ใด สวิตช์จะนาแพ็กเก็ตหรือกล่มุ ข้อมลู นนั้ ส่งต่อไปยงั สถานี (อปุ กรณ์) เป้าหมายให้อย่างอตั โนมตั ิ สวิตช์จะลดปัญหาการชนกันของข้อมลูเพราะไมต่ ้องกระจายข้อมลู ไปทกุ สถานี และยงั มีข้อดใี นเร่ืองการปอ้ งกนั การดกั จบั ข้อมลู ท่ีกระจายไปในเครือข่าย
เราเตอร์ (ROUTER) ในการเชื่อมโยงเครือขา่ ยหลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกนั หรือเชื่อมโยงอปุ กรณ์หลายอย่างเข้าด้วยกนั ดงั นนั้ จึงมีเส้นทางการเข้าออกของข้อมูลได้หลายเส้นทาง และแต่ละเส้นทางอาจใช้เทคโนโลยีเครือข่ายที่ต่างกัน อุปกรณ์จัดเส้ นทางจะหาเส้ นทางท่ีเหมาะสมให้ การท่ีอุปกรณ์ จัดหาเส้ นทางเลือกเส้ นทางได้ ถูกต้ องเพราะแต่ละสถานีภายในเครือข่ายมีแอดเดรสกากบั อปุ กรณ์จดั เส้นทางต้องรับรู้ตาแหน่งและสามารถนาข้อมลู ออกทางเส้นทางได้ถกู ต้องตามตาแหนง่ แอดเดรสที่กากบั อยใู่ นเส้นทางนนั้ รวมทงั้ การจดั รูปแบบและนาเสนอข้อมลู
สาย UTP (UNSHIELD TWISTED PAIR) สายท่ีใช้กบั LAN เรียกวา่ สาย UTP (Unshield Twisted Pair) ซง่ึ ใช้หวั ต่อแบบ RJ-45 ซง่ึ มีทงั้ หมด 8ขา สายแบบนีท้ ่ีเข้าหวั ไว้แล้วจะหาซอื ้ ได้ตามร้านขายอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ทว่ั ไป หรือจะซือ้ แบบเป็นม้วนมาตดั เข้าหวั เองก็ได้ แต่ต้องมีเคร่ืองมือหรือคมี เข้าหวั RJ-45 โดยเฉพาะ มีข้อจากดั คือ จะต้องยาวไม่เกิน 100 เมตร จากเครื่องไปยงั Switch และแบ่งได้เป็น 2 ประเภทตามลกั ษณะการใช้งาน คอื • สายตรง (Straight-through Cable) คือสายปกติที่ใช้เช่ือมระหวา่ งการ์ด LAN และ Hub / Switch • สายไขว้ (Crossover Cable) ใช้ตอ่ การ์ด LAN บนคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องหรือพอร์ตของ Hub หรือSwitch 2 ตวั โดยตรง เพื่อเพ่ิมขยายพอร์ต ซง่ึ วิธีการเข้าหวั จะตา่ งจากปกติ
บริดจ์ (BRIDGE) คือ อปุ กรณ์ที่เหมาะสมกบั เครือข่ายหลาย ๆ กล่มุ ท่ีเชื่อมต่อกนั เนื่องจากสามารถแบ่งเครือข่ายที่เชื่อมต่อกนัหลาย ๆ เซ็กเมนต์แยกออกจากกนั ได้ ทาให้ข้อมลู ในแต่ละเซก็ เมนต์ไม่ต้องวงิ่ ไปทวั่ ทงั้ เครือข่าย กลา่ วคือ บริดจ์สามารถอ่านเฟรมข้อมลู ท่ีส่งมาได้ว่ามาจากเครื่องในเซ็กเมนต์ใด จากนนั้ จะทาการส่งข้อมลู ไปยงั เครื่องซึ่งอาจอย่ใู นเซ็กเมนต์เดียวกนั หรือตา่ งเซก็ เมนต์ก็ได้ ซง่ึ ความสามารถดงั กลา่ วทาให้ช่วยลดปัญหาความคบั คงั่ ของข้อมลู ในระบบได้
รีพตี เตอร์ (REPEATER) คอื อปุ กรณ์ทวนสญั ญาณเพื่อให้สามารถสง่ ข้อมลู ถึงกนั ได้ระยะไกลขนึ ้ คือ รีพีตเตอร์จะปรับรูปแบบเดิม เพ่ือได้สญั ญาณสามารถสง่ ตอ่ ไปได้อีก เชน่ การเช่ือมตอ่ เครือขา่ ยแลนหลาย ๆ เซก็ เมนต์ ซงึ่ ความยาวของแต่ละเซก็ เมนต์นนั้จะมีระยะทางท่ีจากดั ดงั นนั้ อปุ กรณ์อย่างรีพีตเตอร์จะชว่ ยแก้ไขปัญหาเหล่านีไ้ ด้
โมเดม็ (MODEM) คือ อปุ กรณ์ที่ทาหน้าที่แปลงสญั ญาณคอมพิวเตอร์ให้สามารถเช่ือมคอมพิวเตอร์ท่ีอย่รู ะยะไกลเข้าหากนั ได้ด้วยการผา่ นสายโทรศพั ท์ โดยโมเดม็ จะทาหน้าท่ีแปลงสญั ญาณ ซง่ึ แบง่ ออกเป็นทงั้ ภาคส่งและภาครับ โดยภาคส่งจะทาการแปลงสญั ญาณคอมพิวเตอร์ให้เป็นสญั ญาณโทรศพั ท์ (Digital to Analog) ในขณะที่ภาครับนนั้ จะทาการแปลงสญั ญาณโทรศพั ท์กลบั มาเป็นสญั ญาณคอมพิวเตอร์ (Analog to Digital) ดงั นนั้ ในการเช่ือมตอ่ เครือข่ายระยะไกลๆ เช่น อินเทอร์เน็ต จงึ จาเป็นต้องใช้โมเด็ม โดยโมเดม็ มีทงั้ แบบภายใน (Internal Modem) ท่ีมีลกั ษณะเป็นการ์ด โมเดม็ ภายนอก (External Modem) ท่ีมีลกั ษณะเป็นกล่องแยกออกต่างหาก และรวมถึงโมเดม็ ท่ีเป็นPCMCIA ท่ีมกั ใช้กบั เคร่ืองคอมพิวเตอร์โน้ตบ๊คุ
เกตเวย์ (GATEWAY) คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยในการส่ือสารข้อมูล หน้าที่หลักของเกตเวย์ คือ ช่วยทาให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่าย หรือมากกว่าที่มีลกั ษณะไม่เหมือนกนั คือ ลกั ษณะของการเช่ือต่อ (Connectivity) ของเครือข่ายท่ีแตกต่างกยั น และมีโพรโตคอลสาหรับการส่ง - รับข้อมลู ตา่ งกนั เช่น LAN เครือหนึ่งเป็นแบบ Ethernetและ โพรโตคอลแบบอะซิงโครนสั ส่วน LAN อีกเครือข่ายหนึ่งเป็นแบบ Token Ring และใช้โพรโตคอลแบบซงิ โครนสั เพื่อให้สามารถติดต่อกนั ได้เสมือนเป็นเครือข่ายเดียวกนั เพื่อกาจดั วงให้แคบลงมา เกตเวย์โดยทวั่ ไปจะใช้เป็นเคร่ืองมือสง่ - รับข้อมลู กนั ระหว่าง LAN 2 เครือข่ายหรือ LAN กบั เครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรม หรือระหว่าง LANกบั WAN โดยผ่านเครือข่ายโทรศพั ท์สาธารณะ เช่น X.25 แพ็กเกจสวติ ซ์ เครือข่าย ISDN เทเล็กซ์ หรือเครือข่ายทางไกลอื่น
1.1 CLIENT/SERVER เครือขา่ ยประเทนีม้ ีเครื่องศนู ย์บริการ ท่ีเรียกว่าเครื่องเซริ ์ฟเวอร์ และมีเคร่ืองลกู ขา่ ยต่างๆเชื่อมตอ่ โดยเครือขา่ ยหนงึ่ ๆ อาจมีเคร่ืองเซิร์ฟเวอร์มากว่าหนง่ึ ตวั เชื่อมตอ่ ภายในวงแลนเดยี วกนั ก็ได้ ซงึ่ เซิร์ฟเวอร์แตล่ ะตวั ก็รับหน้าท่ีแตกตา่ งกนัข้อดี - ให้ประสทิ ธิภาพในการแบง่ ปันการใช้งานทรัพยากรแก่ไคลเอนต์ได้ดีกวา่ เน่ืองจากคอมพิวเตอร์ที่ถกู นามาใช้เป็นเซริ ์ฟเวอร์มกั เป็นเครื่องทีม่ ีประสทิ ธิภาพสงู - การรักษาความปลอดภยั สามารถทาได้ดกี ว่า เน่ืองจากการดแู ลความปลอดภยั เป็นไปในรูปแบบรวมศนู ย์(Centralized) ผ้ใู ช้งานที่จะเข้ามาสเู่ ครือขา่ ยเพ่ือใช้งานเซริ ์ฟเวอร์จะต้องได้รับอนญุ าตเสียก่อนข้อเสีย - ค่าใช้จ่ายในการติดตงั้ เซริ ์ฟเวอร์ 1 ตวั สงู กวา่ คอมพิวเตอร์ทวั่ ไป อีกทงั้ ผ้ดู แู ลจะต้องมีความรู้พอสมควร - จะต้องมีผ้ดู แู ลและจดั การเซริ ์ฟเวอร์เป็นการเฉพาะ
1.1.1 WEB SERVERเครื่องที่จดั เก็บข้อมลู ด้านเว็บเพจขององค์กร เพื่อให้ผ้ทู อ่ งเที่ยวอินเทอร์เนต็ สามารถเข้าถงึ เวบ็ ขององค์กรได้
1.1.2. MAIL SERVER เคร่ืองท่ีทาหน้าท่ีจดั เก็บข้อมลู ด้านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail ที่มีการรับส่งระหว่างกนั ภายในเครือขา่ ย
1.1.3. FILE SERVER เซริ ์ฟเวอร์จะเป็นผ้จู ดั การระบบไฟล์บนดิสก์บนเครื่องของตนเอง โดยรับคาสง่ั จากผ้ขู อใช้บริการหรือ Clientว่าจะอ่านหรือบนั ทกึ ข้อมลู กบั ไฟล์ใด แล้วจงึ จดั การกบั ไฟล์ในดสิ ก์ หรือสง่ ข้อมลู กลบั ตามที่ถกู ขอมา
1.1.4 PRINT SERVER เคร่ืองที่ทาหน้าท่ีบริการงานพิมพ์ให้แก่เครื่องลกู ข่าย โดยบนั ทกึ งานพิมพ์เก็บไว้ในรูปแบบของสพลู และดาเนินการพิมพ์งานตามลาดบั คิว
1.2. PEER TO PEER เครือข่ายประเภทนี ้เคร่ืองคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายจะมีสิทธิเท่าเทียมกนั ไม่มีเครื่องใดเครื่องหน่ึงทาหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์โดยเฉพาะ โดยสามารถเป็นได้ทงั้ ค่บู ริการ ละผ้ขู อบริการ ในขณะเดียวกนั ทงั้ นีข้ ึน้ อย่กู บั การติดตงั้ เพ่ือใช้งานตามลักษณะเป็นสาคัญ จุดประสงค์ของเครือข่ายแบบเพียร์ ทู เพียร์คือ ต้องการแชร์ข้อมูลเพื่อใช้งานภายในเครือข่ายเป็นหลกั สาคญั ดังนัน้ เครือข่ายประเภทนีจ้ ึงไม่ได้มุ่งเน้นศักยภาพด้านระบบความปลอดภัยเช่นเดียวกับเครือขา่ ยแบบไคลแอนต์/เซิร์ฟเวอร์
2. ระบบเครือขา่ ยทอ้ งถ่ิน (LOCAL AREA NETWORK :LAN) ท่ีนิยมสูงสุดมีอยู่ 3 ชนิดคือ2.1 อีเทอร์เนต็ (Ethernet) เป็นช่ือท่ีเรียกวธิ ีการสอ่ื สารในระดบั ลา่ งหรือท่ีเราเรียกวา่ โปรโตคอล (Protocol)ในระบบ LAN ชนิดหนงึ่ที่พฒั นาขนึ ้ โดย 3 บริษัทใหญ่2.1.1 10Base5 - อตั ราความเร็วในการสง่ ข้อมลู 10 Mbps - ใช้สญั ญาณสง่ ข้อมลู แบบ Baseband - ระยะการสง่ สงู สดุ 500 m/segment
2.1.2 10Base2 - อตั ราความเร็วในการสง่ ข้อมลู 10 Mbps2.1.3 10BaseT - ใช้สญั ญาณสง่ ข้อมลู แบบ Baseband - ระยะการสง่ สงู สดุ 185 m/segment - อตั ราความเร็วในการสง่ ข้อมลู 10 Mbps - ใช้สญั ญาณสง่ ข้อมลู แบบ Baseband - ใช้สาย Twisted-Pair แบบ UTP ชนิด CAT5 และใช้คอนเนค็ เตอร์RJ-45
2.2 ไอบีเอม็ โทเคน็ ริง (IBM TOKEN RING) โปรโตคอล CSMA/CD ที่ใช้งานบนเครือข่ายอีเทอร์เน็ต เป็นกลไกการส่งข้อมลู บนเครือข่ายที่มีโอกาสเกิดการชนกนั ของกลมุ่ ข้อมลู สงู เม่ือการจราจรบนเครือข่ายหนาแนน่ ในขณะเดียวกนั โปรโตคอล Token Passingท่ีใช้งานบนเครือข่ายโทเค็นริงนนั้ จะไม่ก่อให้เกิดการชนกนั ของกลมุ่ ข้อมลู เลย
2.3 เอฟดีดีไอ (FIBER DATA DISTRIBUTED INTERFACE :FDDI) เอฟดดี ีไอ หรือเรียกอีกชื่อเตม็ ว่า Fiber Distributed Data Interface:FDDI คอื หน่วยงานANSI ได้ทาการกาหนดโปรโตรคอลที่ใช้งานบนเครือข่ายท้องถ่ิน โดยมีการควบคมุ แบบโทเค็นริง ด้วยการส่งข้อมลู ที่มีความเร็วถึง 100 เมกะบิตต่อวินาทีบนสายเคเบิลใยแก้วนาแสง กลไกการส่งข้อมลู บนเครือข่ายเอฟดีดไี อจะใช้ TokenPassing เช่นเดียวกบั ไอบีเอ็มโทเค็นริง แต่เอฟดีดีไอ (FDDI) จะทางานด้วยความเร็วท่ีสงู กว่า ประกอบ กบัเครือข่ายเอฟดีดีไอยังสามารถที่จะออกแบบเพ่ือรอบรับในความเสียหาของระบบได้ดี ด้วยการเพิ่มวงแหวนในระบบเครือขา่ ยอีก รวมเป็น 2 วงแหวนด้วยกนั ซง่ึ ประกอบด้วยวงแหวนปฐมภมู ิและวงแหวนทตุ ยิ ภมู ิ
วงแหวนปฐมภูมิ(PRIMARY RING) คือ วงแหวนหลกั ด้านนอกซึ่งใช้เป็นสายส่งข้อมลู หลกั ภายในระบบเครือข่าย โดยรหสั โทเค็นจะวิ่งวนรอบวงแหวนทิศทางใดก็ทิศทางหนงึ่วงแหวนทุติยภูมิ(SECONDARY RING) คอื วงแหวนสารองที่อย่ดู ้านในสดุ โทเค็นท่ีอย่ใู นวงแหวนด้านในจะวิ่งในทิศทางตรงกนั ข้ามกบั วงแหวนด้านนอก โดยวงแหวนทตุ ิยภมู ิจะถกู ใช้งานก็ต่อเม่ือวงแหวนปฐมภมู ิเกิดปัญหาเท่านนั้ เชน่ สายเคเบิลที่วงแหวนในปฐมภมู ิเกิดการขาด และเมื่อเหตกุ ารณ์เช่นนีเ้กิดขึน้ วงจรภายในวงแหวนทตุ ยิ ภมู ิก็จะเร่ิมทางานทนั ทีด้วยการเช่ือมต่อเข้ากบั วงแหวนปฐมภูมิ ทาให้สามารถประคบั ประคองระบบให้ยังคงสามารถทางานต่อไปได้ โดยโทเค็นเองก็ยังคงสามารถวิ่งภายในรอบวงแหวนได้เช่นเดมิ ทาให้เครือขา่ ยสามารถดาเนินการตอ่ ได้ตามปกติ
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: