ในหลวงกบั การสือ่ สาร พระราชกรณยี กิจด้านส่อื สารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ดา้ นวิทยกุ ระจายเสยี ง และดา้ นดาวเทียมนางสาวชนนิกานต์ นาคเสน รหัสนิสติ 60610087นางสาวชนิกานต์ มั่งค่งั รหสั นิสติ 60610094นายชาครติ แสงสวา่ ง รหัสนสิ ติ 60610100นางสาวซาช่า มันจันดา รหัสนสิ ติ 60610117นางสาวณฏั ฐภรณ์ เทียนกณั ฑเ์ ทศน์ รหสั นสิ ติ 60610124นางสาวณฐั กาญจน์ โลหวิบูลยก์ จิ รหสั นิสติ 60610131นางสาวณลิ ณฐั ตฤดยี ะถาวร รหัสนสิ ติ 60610148นางสาวตรรี ตั น์ นุกลู กจิ รหัสนิสติ 60610155นายตรีวชญ์ แสงไชยา รหสั นสิ ติ 60610162นางสาวทิพพาพร วะเศษสร้อย รหสั นสิ ติ 60610179 กล่มุ เรยี นที่ 2 คณะทนั ตแพทยศาสตร์ รายงานน้เี ป็นสว่ นหน่งึ ของการศึกษารายวิชา 001221 สารสนเทศศาสตร์เพอื่ การศกึ ษาคน้ คว้า มหาวิทยาลยั นเรศวร ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2560
ในหลวงกบั การสือ่ สาร พระราชกรณยี กิจด้านส่อื สารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ดา้ นวิทยกุ ระจายเสยี ง และดา้ นดาวเทียมนางสาวชนนิกานต์ นาคเสน รหัสนิสติ 60610087นางสาวชนิกานต์ มั่งค่งั รหสั นิสติ 60610094นายชาครติ แสงสวา่ ง รหัสนสิ ติ 60610100นางสาวซาช่า มันจันดา รหัสนสิ ติ 60610117นางสาวณฏั ฐภรณ์ เทียนกณั ฑเ์ ทศน์ รหสั นสิ ติ 60610124นางสาวณฐั กาญจน์ โลหวิบูลยก์ จิ รหสั นิสติ 60610131นางสาวณลิ ณฐั ตฤดยี ะถาวร รหัสนสิ ติ 60610148นางสาวตรรี ตั น์ นุกลู กจิ รหัสนิสติ 60610155นายตรีวชญ์ แสงไชยา รหสั นสิ ติ 60610162นางสาวทิพพาพร วะเศษสร้อย รหสั นสิ ติ 60610179 กล่มุ เรยี นที่ 2 คณะทนั ตแพทยศาสตร์ รายงานน้เี ป็นสว่ นหน่งึ ของการศึกษารายวิชา 001221 สารสนเทศศาสตร์เพอื่ การศกึ ษาคน้ คว้า มหาวิทยาลยั นเรศวร ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2560
กชื่อหวั ขอ้ โครงงาน ในหลวงกบั การสื่อสาร พระราชกรณยี กจิ ด้านสื่อสารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ดา้ นวทิ ยุกระจายเสียง และดา้ นดาวเทียมผดู้ าเนนิ โครงงาน นางสาวชนนิกานต์ นาคเสน และคณะทป่ี รกึ ษาโครงงาน อาจารยผ์ ู้สอนในรายวชิ าสารสนเทศศาสตร์เพ่ือการศกึ ษาค้นคว้าสาขาวชิ า สารสนเทศศาสตร์เพื่อการศกึ ษาคน้ คว้าปกี ารศกึ ษา 2560 บทคัดยอ่ โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเรื่อง ในหลวงกับการส่ือสาร พระราชกรณียกิจด้านการส่ือสารอิเล็กทรอนกิ ส์ ดา้ นวิทยกุ ระจายเสียง และด้านดาวเทียมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯโดยรวบรวมข้อมูลจากหนังสือและแหล่งสารสนเทศออนไลนจ์ ากเวบ็ ไซต์ตา่ งๆ ประกอบการศกึ ษา โครงงานน้ีจัดทาเป็น 2 รูปแบบสาหรับการนาเสนอ โดยรูปเล่มรายงานของโครงงานนาเสนอในรูปแบบ E-Book และนาเสนอโครงงานในรูปแบบงานนาเสนอ PowerPoint ผลการศกึ ษาพบวา่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้านการส่ือสารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระราชกรณียกิจด้านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ท่ีได้พัฒนาระบบการสื่อสารต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน หรือพระราชกรณียกิจด้านวิทยุกระจายเสียง ท่ีเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ติดต่อสื่อสารกบั พระองค์ได้งา่ ยขน้ึ เปน็ สอ่ื ประชาสมั พันธ์ข่าวสารต่างๆ ให้แก่ประชาชน และพระราชกรณียกิจด้านดาวเทียมท่ีเป็นส่วนสาคัญทาให้การสื่อส ารโทรคมนาคมของไทยมีการพั ฒนาก้าวสู่ความทนั สมยั โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในเรื่องของการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
ขกิตตกิ รรมประกาศ การศึกษาโครงงาน \" ในหลวงกับการสื่อสาร พระราชกรณียกิจด้านสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ดา้ นวทิ ยกุ ระจายเสียง และด้านดาวเทียม \" สาเร็จลุล่วงลงได้ด้วยความกรุณาและอนุเคราะห์ช่วยเหลือเป็นอย่างดีจาก อาจารย์ผู้สอนในรายวิชาสารสนเทศศาสตร์เพ่ือการศึกษาค้นคว้าทุกท่าน ท่ีได้ให้คาปรึกษาคาแนะนา ขอ้ คดิ และให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูล แนวทางการทาโครงงานที่ถูกต้องตามระเบียบวิธีการทาการดาเนินการโครงงานในเร่ืองต่าง ๆ กระทั่งโครงงานน้ีเสร็จสมบูรณ์ไปได้ด้วยดี คณะผู้จัดทาจึงขอกราบขอบพระคณุ เปน็ อยา่ งสูงไว้ ณ ที่นี้ ขอขอบคุณ นายสมัทรชา เนียมเรือง ที่ได้ให้คาแนะนาเกี่ยวกับการจัดทารูปเล่มรายงาน แนวทางการนาเสนอ ตลอดจนข้อเสนอแนะในการนาเสนอตา่ งๆ อนั เป็นประโยชนต์ ่อการปรับปรุงแก้ไขการจัดทาโครงงาน ขอขอบคณุ รศ. ดร. สชุ าติ แยม้ เมน่ ที่ไดใ้ หค้ าปรึกษาสาหรับการจัดทารปู เล่มรายงาน สุดท้ายน้ี ขอขอบคุณเพ่ือนๆ คณะทันตแพทยศาสตร์ทุกคนท่ีได้ให้ความช่วยเหลือ ให้คะแนะนาและเป็นกาลงั ใจเสมอมาจนการศึกษาคร้ังนส้ี าเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คณะผจู้ ดั ทา
คสารบัญ หน้าบทคดั ย่อ………………………………………………………………………………………………………………………………….........กกติ ติกรรมประกาศ……………………………………………………………………………………………………………………………ขสารบญั ………………………………………………………………………………………………………………………………………......คสารบญั รปู ……………………………………………………………………………………………………………………………………....งสารบญั ตาราง………………………………………………………………………………………………………………………………….จบทท่ี 1 บทนา………………………………………………………………………...…………...................................................1 1.1 ที่มาและความสาคัญ………………………………………………………………………...…………....................1 1.2 วตั ถุประสงค์………………………………………………………………………...………….................................1 1.3 ประโยชนท์ ี่ดาดวา่ จะไดร้ บั ………………………………………………………………………...…………...........2 1.4 ขอบเขตการทาโครงงาน………………………………………………………………………...…………...............2บทที่ 2 วิธีดาเนินการ………………………………………………………………………...…………........................................3 2.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมทใ่ี ช้…………………………………………………………………………3 2.2 ข้ันตอนการดาเนินงาน………………………………………………………………………...…………..................3บทที่ 3 เอกสารท่ีเก่ียวข้อง………………………………………………………………………...…………................................5 3.1 พระราชกรณยี กจิ ดา้ นสื่อสารอิเลก็ ทรอนกิ ส์……………………………………………….……………….…...11 3.2 พระราชกรณยี กจิ ด้านวทิ ยกุ ระจายเสียง…………………………………………………………………………..13 3.3 พระราชกรณยี กจิ ดา้ นดาวเทียม..…………………………………………………………………………………….15บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์เน้ือหา………………………………………………………………………...………….........................18บทท่ี 5 สรปุ ผลการศึกษา………………………………………………………………………...………………………………..........20เอกสารอา้ งอิง……………………………………………………………………………….........................................................21
งสารบญั รปูรูปที่ หน้า3.1 แสดงพระราชอจั ฉริยภาพด้านการส่ือสาร………………………………………………………………………………………53.2 แสดงพระราชอัจฉริยภาพด้านการส่ือสาร………………………………………………………………………………………73.3 แสดง VR 009 สัญญาณจากฟ้า…………………………………………………………………………………………………….93.4 แสดงพระองค์ทา่ นขณะตดิ ต่อสื่อสารด้วยวทิ ยสุ ื่อสาร………………………………………………………………….....123.5 แสดงพระองค์ทา่ นขณะตดิ ต่อส่ือสารดว้ ยวทิ ยุส่ือสาร……………………………………………………………………..133.6 แสดงพระราชกรณียกจิ ดา้ นวทิ ยุกระจายเสียงผา่ นแสตมป์………………………………………………………………143.7 แสดงแสดงพระองค์ทา่ นขณะติดต่อส่ือสารด้วยวิทยุส่ือสาร………………………………………………………….….153.8 แสดงพระองค์ทอดพระเนตรอุปกรณ์ต่างๆ ของสถานีควบคมุ ภาคพ้ืนดินดาวเทียมไทยคม…………………..16
จ สารบัญตารางตารางท่ี หน้า2.2 ข้ันตอนการดาเนินงาน…………………………………………………………………………………………………………………..4
บทที่ 1 บทนา1.1 ทีม่ าและความสาคญั อดตี จนถึงปัจจุบันการสอื่ สารจดั เป็นปัจจยั สาคญั อย่างหน่ึงในการดารงชีวิตของมนุษย์ การสื่อสารเกิดจากการที่มนุษย์ต้องการที่จะส่งข้อมูลหากันและกัน มนุษย์ต้องอาศัยการสื่อสารเป็นเคร่ืองมือเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงคใ์ นการดาเนินกิจกรรมใดๆ ของตน และเพ่ืออยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคม ดังนั้นการสื่อสารจึงเป็นพ้นื ฐานของการติดต่อของมนุษย์และเป็นเครื่องมือสาคัญของกระบวนการทางสังคม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้เล็งเห็นถึงความสาคัญของการส่ือสารท่ีมีต่อมนุษย์ด้วยเช่นกัน และทรงอุทิศพระองคพ์ ระอัจฉริยะ และพระอุตสาหะทั้งมวลเพื่อราษฎรทุกภูมิภาค มีพระราชดาริให้มีการพัฒนาด้านการส่ือสารอยา่ งจริงจังต่อเนอ่ื งและมีประสิทธภิ าพมากยิ่งข้ึน ส่งผลให้ปัจจุบันประเทศไทยมีเทคโนโลยีการส่ือสารทท่ี นั สมัย ไมว่ ่าจะเปน็ เร่อื งดา้ นการศกึ ษาที่มกี ารเรียนการสอนทางไกลผา่ นดาวเทียม การใช้วิทยุส่ือสารอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ดังทไ่ี ดก้ ล่าวมาข้างต้นคณะผู้จัดทาได้ศึกษาในหัวข้อ ในหลวงกับการส่ือสาร พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ด้านวิทยุกระจายเสียง และด้านดาวเทยี ม1.2 วัตถปุ ระสงค์ เพื่อศึกษ าเร่ืองในหลวงกับการสื่อสาร พระราชกรณียกิจด้านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ด้านวิทยุกระจายเสียง และด้านดาวเทียม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
21.3 ประโยชนท์ ่ีดาดว่าจะได้รับ คณะ ผู้จั ดท าและผู้ ที่ รั บชมรั บฟังกา รนาเ สนอได้ ทร าบ ถึงพ ระ รา ชอั จฉริ ยภ าพ ด้า นกา รส่ื อส าร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ในพระราชกรณียกิจด้านการส่ือสารอิเล็กทรอนิกส์ด้านวิทยุกระจายเสยี ง และดา้ นดาวเทียม1.4 ขอบเขตการทาโครงงาน 1.4.1 ศึกษาในหัวข้อ ในหลวงกับการส่ือสาร พระราชกรณียกิจด้านสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ด้านวทิ ยุกระจายเสียง และด้านดาวเทียมเทา่ นน้ั 1.4.2 จดั ทารปู แบบการนาเสนอรปู เล่มรายงานในรูปแบบ E-Book และงานนาเสนอ PowerPoint 1.4.3 ระยะเวลาในการดาเนินโครงงาน 25 ตุลาคม 2560 – 20 พฤศจิกายน 2560 รวมเป็นระยะเวลา 26 วัน
บทที่ 2 วธิ ีดาเนินการ การจัดทาโครงงานนี้มุ่งศึกษาศึกษาพระราชกรณียกิจด้านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ด้านวิทยุกระจายเสยี ง และดา้ นดาวเทียม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ซ่ึงคณะผู้จัดทาได้ดาเนินการศกึ ษารายละเอียดเก่ียวกับวิธีดาเนินการและ ได้นาเสนอเป็นหัวข้อตามลาดับ โดยมีรายละเอียดตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปนี้ 2.1 วสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมท่ีใช้ 2.2 ข้นั ตอนการดาเนินงาน2.1 วสั ดุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื หรอื โปรแกรมทใ่ี ช้ 2.1.1 เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต 2.1.2 เวบ็ ไซต์ทใ่ี หบ้ ริการการจัดทา E-Book คือ http://pubhtml5.com/ 2.1.3 โปรแกรมจัดทางานนาเสนอ คือ Microsoft PowerPoint2.2 ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน 2.2.1 คณะผู้จดั ทาเลือกหัวข้อทจี่ ะจัดทาโครงงาน 2.2.2 คณะผู้จัดแบ่งหนา้ ที่สาหรับการดาเนินโครงงาน ได้แก่ ฝ่ายจัดทารปู เล่มรายงาน และฝ่ายจัดทางานนาเสนอ 2.2.3 ฝ่ายจัดทารูปเล่มรายงานศกึ ษาค้นคว้ารวบรวมข้อมลู เก่ียวกับหัวข้อทีจ่ ัดทาโครงงานจากหนังสือและแหล่งสารสนเทศออนไลน์จากเวบ็ ไซต์ต่างๆ สาหรับจัดทาเป็นรูปเล่มรายงาน 2.2.4 ฝา่ ยจัดทางานนาเสนอจัดทางานนาเสนอโครงงานในรปู แบบ PowerPoint 2.2.5 นาเสนอความกา้ วหนา้ โดยนาเสนอให้อาจารย์ผสู้ อนในรายวิชาสารสนเทศศาสตร์เพื่อการศึกษาคน้ คว้า ซ่ึงจะใหข้ ้อเสนอแนะต่างๆ เพ่ือให้จัดทาเน้ือหาและการนาเสนอที่นา่ สนใจต่อไป ทั้งนีเ้ มื่อได้รบัคาแนะนาจึงนามาปรบั ปรุงแก้ไขให้เปน็ ท่ีสนใจยิ่งข้นึ
4 2.2.6 จดั ทาการนาเสนอรูปเลม่ รายงานในรปู แบบ E-Book โดยใชเ้ วบ็ ไซต์ http://pubhtml5.com/ 2.2.7 นาเสนอโครงงานในรปู แบบ PowerPoint แก่อาจารย์ผ้สู อนในรายวิชาสารสนเทศศาสตร์เพื่อการศึกษาค้นคว้า และเพื่อนๆ ในรายวิชาตารางที่ 2.2 แสดงขัน้ ตอนการดาเนินงาน ขั้นตอนการดาเนินงาน ระยะเวลา ผรู้ บั ผิดชอบ หมายเหตุ1. เลอื กหัวข้อทจ่ี ะจดั ทา 25 ตลุ าคม 2560 คณะผู้จดั ทาโครงงาน2. จดั แบ่งหนา้ ทสี่ าหรบั การ 26 ตลุ าคม 2560 คณะผจู้ ัดทาดาเนินโครงงาน3. ฝา่ ยจดั ทารูปเลม่ รายงาน 26 ตลุ าคม 2560 ฝ่ายจดั ทารูปเลม่ รายงานศกึ ษาคน้ คว้ารวบรวมข้อมูล4. ฝา่ ยจัดทางานนาเสนอ 26 – 30 ตลุ าคม 2560 ฝา่ ยจัดทางานนาเสนอจดั ทางานนาเสนอ5. นาเสนอความกา้ วหน้า 30 ตุลาคม 2560 คณะผู้จดั ทา6. จัดทาการนาเสนอรปู เล่ม 1– 5 พฤศจิกายน 2560 คณะผ้จู ดั ทารายงานในรปู แบบ E-Book7. นาเสนอโครงงานใน 20 - 29 พฤศจกิ ายน 2560 คณะผจู้ ดั ทารปู แบบ PowerPoint
บทท่ี 3 เอกสารท่เี กย่ี วขอ้ ง พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัวภูมิพลอดลุ ยเดชฯ ทรงมพี ระอจั ฉรยิ ภาพในทุกสาขาท่ีสนพระราชหฤทัยดว้ ยทรงศกึ ษาม่งุ มั่นจริงจงั ทรงทดลองปฎิบตั จิ นรู้แจ้ง เห็นจริง และทรงนาเทคโนโลยีสาขาวิชาเหล่านั้นมาทรงป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ เ พื่ อค วา ม ร่ ม เ ย็ น ผ า สุ ก ข องพ ส ก นิ ก ร ต ล อด จ น ค วา ม มั่ น ค่ั งข อ งป ร ะ เ ท ศ ชา ติและพระราชอัจฉริยภาพด้านวิทยุส่ือสาร ก็เป็นพระราชอัจฉริยภาพหน่ึงในหลายด้าน ท่ีสะท้อนถึงพระมหากรณุ าธิคณุ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภูมพิ ลอดลุ ยเดชฯ ที่มีตอ่ การสอ่ื สารของชาติอยา่ งหาทีส่ ดุ มิได้ รูปที่ 3.1 แสดงพระราชอจั ฉริยภาพด้านการส่ือสาร ทม่ี า: http://www.manager.co.th/ พระราชอัจฉรยิ ภาพดา้ นการส่อื สารปรากฎชัดตั้งแต่สมัยยังทรงพระเยาว์ขณะท่ีประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยทรงสนพระราชหฤทัยศึกษาวิชาไฟฟ้าและวิทยุสื่อสาร ส่ิงท่ีพระองค์ทรงประดิษฐ์และทดลองใชค้ อื เคร่ืองรับวิทยุกระจายเสียง ซ่ึงในสมัยน้ันเครื่องรับวิทยุยังใช้แร่อยู่ ดังความตอนหน่ึงในพระราชนิพนธ์เรอ่ื ง เจ้านายเลก็ ๆ ยุวกษัตริย์ ของสมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครนิ ทร์ เลา่ ให้ฟังวา่
6 'เคร่ืองวิทยุที่บ้านไม่ทรงมีสิทธิท่ีจะแตะต้อง มีไว้ฟังข่าวเท่านั้น แต่เม่ืออายุสัก 10 ปี ได้ ก็มีโอกาสสร้างของตนเองขึ้นมาได้ ท่ีโรงเรียนมีการขายสลากในงานของโรงเรียนงานหนึ่ง ท่านก็ได้สลากเป็นคอยล์(Coil) ทา่ นก็ศึกษาถามผู้รู้ว่า จะต้องทาอย่างไรจึงจะเป็นวิทยุออกมาได้ เขาก็บอกให้ท่านซ้ือแร่ดา (Galenaหรือ galenite หรือ Pbs) ซึ่งเป็นสว่ นสาคญั ของเครื่อง คือที่รบั ฟังไฟฟ้าในอากาศที่เป็นคลื่นวิทยุ และหูฟังอีกคู่หนึ่ง ทงั้ หมดราคาประมาณ 10 แฟรงค์ มาต่อกันอยา่ งไรไม่ทราบ ทรงสามารถฟังวิทยุที่เขาส่งมาได้ ยังแบ่งกันฟังคนละหกู บั พระเชษฐา ต่อไปพระเชษฐาก็ซอ้ื ของพระองคเ์ อง' 'เมือ่ เสดจ็ กลับจากเมืองไทยปี พ.ศ. 2480 มบี ริษัทถวายเคร่ืองวิทยุ Phillips เครื่องหน่ึงแด่รัชการท่ี 8ทรงนากลับมาที่โลซานน์ด้วย ตอนแรกๆ ก็ทรงฟังอยู่ด้วยกันเพราะบรรทมห้องเดียวกัน แต่ต่อมารัชการท่ี 8ทรงยา้ ยหอ้ งและทรงทิ้งวทิ ยุใหพ้ ระอนุชา เลยทรงต่อลาโพงไปเพื่อส่งรายการวิทยุไปถวายพระเชษฐา วันหนึ่งขา้ พเจ้าอยใู่ นห้องของข้าพเจ้า เล่นแผ่นเสียงบนเคร่ืองไฟฟ้าซึ่งต้องนาเสียงไปออกลาโพงของวิทยุ พระอนุชาพอดีเปดิ วิทยขุ องท่านและกค็ ดิ วา่ สถานีอะไรกันเล่นแผ่นเสียงของพ่ีเรา ตั้งแต่นั้นมาก็ทรงเข้าพระทัยว่าระบบไฟฟา้ นนั้ มนั ติดต่อกนั ไดห้ มด' 1. ทรงตรวจซอ่ มและปรบั แตง่ เครอ่ื งรบั -สง่ วทิ ยุสอ่ื สาร พระองค์ทรงเริ่มปฏิบัติการวิทยุสื่อสาร โดยทรงใช้เคร่ืองรับ-ส่งวิทยุ VHF/FM FM-5 เพ่ือติดต่อกับข่ายวิทยตุ ารวจแหง่ ชาติ 'ปทุมวัน' โดยทรงใชส้ ัญญาณเรียกขาน 'กส.9' และศูนย์รวมข่าวตารวจนครบาล ข่าย'ผ่านฟ้า' โดยทรงใช้สัญญาณเรียกขาน 'น.9' พระองค์ทรงใช้เคร่ืองรับ-ส่งวิทยุในการเฝ้าฟังและติดต่อกับเครือข่าย 'ปทุมวัน' และ 'ผ่านฟ้า' เป็นคร้ังคราว เมื่อทรงว่างจากพระราชภารกิจอ่ืน โดยทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ผู้ที่ติดต่อกับพระองค์ท่านไม่ต้องใช้ราชาศัพท์ พระองค์ทรงจาสัญญาณเรียกขาน ประมวลคาย่อ(โคด้ 'ว') ไดอ้ ย่างแมน่ ยาและทรงใช้ได้อย่างถูกต้อง พระ องค์ส นใ จตรวจซ่อม แล ะ ป รับ แต่งเ ครื่องรับ -ส่งวิท ยุสื่อส า รที่ท รงใ ช้งา นอยู่ด้วยพ ระ องค์เ องเม่อื เครอื่ งรับ-ส่งวิทยุ FM-5 ท่ที รงใชง้ านอยูใ่ นขณะนั้นเกดิ ขัดขอ้ ง ทรงใช้เคร่ืองมือช่างต่างๆ ซ่อมและปรับแต่งในเวลากลางคืนหลังจากเสร็จสิ้นพระราชภารกิจประจาวันแล้ว โดยการปรับแต่งนั้นปรากฏผลบ่อยคร้ังว่าเคร่ืองรับ-ส่งวิทยุท่ีได้ทรงปรับแต่งแล้วน้ันมีขีดความสามารถเหนือกว่าท่ีระบุไว้ในคู่มือมาก กล่าวคือทรงปรับแต่งเคร่ืองรับ-ส่งวิทยุ FM-5 ให้มีกาลังส่งสูงถึง 7 วัตต์ และภาคเครื่องรับมีความไวสูงถึง 0.35ไมโครโวลท์ ขณะทหี่ นงั สอื ค่มู ือระบไุ วว้ ่ามกี าลังสง่ 5 วตั ต์ และมคี วามไวทางภาครับ 0.5 ไมโครโวลท์ จึงนับว่าดเี ยยี่ มเปน็ ประวตั ศิ าสตรส์ าหรับเครื่องรับ-ส่งวิทยุในยคุ นั้น
72. ทรงศกึ ษาวิจยั การผสมคลน่ื วทิ ยรุ ะหวา่ งกนั รปู ที่ 3.2 แสดงพระราชอัจฉรยิ ภาพด้านการส่ือสาร ท่มี า: http://www.manager.co.th/ ในการปฏิบัติหน้าท่ีถวายการอารักขา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯในโอกาสเสด็จพระราชดาเนนิ ไปปฏบิ ตั ิพระราชภารกิจทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เจ้าหน้าท่ีของกรมตารวจและกรมราชองครกั ษ์ ไดน้ าเครอื่ งรบั -สง่ VHF/FM ท้ังชนิดมือถือและชนิดติดตัวมาใช้รายงานเหตุการณ์ต่างๆระหวา่ งเสด็จพระราชดาเนินให้ศูนย์ควบคุมข่ายรับทราบทุกระยะ โดยหน่วยงานท้ังสองมิได้ใช้ข่ายและความถี่ขนาดเดียวกัน แต่มีปัญหา คือ ทุกครั้งท่ีเจ้าหน้าท่ีส่ือสารตารวจทาการส่งวิทยุรายงานข่าว สัญญาณวิท ยุข อง ฝ่า ย ตา รว จจ ะ ไ ป ดัง ท า งเ คร่ื องรั บ -ส่ งวิ ท ยุข อง ฝ่า ยเ จ้ า ห น้า ท่ี ร า ช องค รัก ษ์ท้ั งช นิ ดมื อถื อแ ล ะชนิดนาตดิ ตวั แตส่ ญั ญาณของฝา่ ยราชองครักษจ์ ะเขา้ มารบกวนเคร่ืองวิทยุของฝ่ายตารวจบ้างในลักษณะเสียงรบกวนซซู่ า่ เทา่ น้ัน ความทราบถงึ พระองค์ท่านจงึ ทาการศึกษาและทดลองจนพบสาเหตุว่าเคร่ืองที่ทรงใช้งานถูกออกแบบมาไมส่ ูป้ ระณตี นัก มีคุณลักษณะในการคดั เลือกสัญญาณ (SELECTIVITY) ไม่ได้มาตรฐานท่ัวโลก ทั้งวงจรขยายแรงไฟฟา้ สญั ญาณความถ่ปี านกลาง (IF AMPLIFIER) ก็เป็นวงจรที่เปลี่ยนความถ่ีไปตามความถี่ท่ีรับฟัง จึงทรงรบั สง่ั เรยี กวา่ 'WALKING FREQUENCY' อยา่ งไรก็ตาม ถึงแม้ว่าต่อมาได้ทรงส่ังซื้อเครื่องรับ-ส่งที่มีคุณภาพสูงสดุ และราคาแพงที่สุดมาทรงใช้งานกต็ าม การรบกวนในลักษณะดงั กลา่ วก็หาได้หมดส้ินลงไปไม่ เพียงแต่ลดลงบ้างบางส่วนเท่านั้น ทาให้น่าเชื่อว่าการรบกวนกันนั้นเป็นผลของการผสมคล่ืนระหว่างกันของเครื่องส่งวิทยุต้ังแต่ 2 เครื่องที่อย่ภู ายในบริเวณเดียวกัน คือ INTERMODULATION พระองคจ์ งึ ไดส้ งั เกตลกั ษณะการรบกวนและทรงเปล่ยี นความถ่ีท่ีใช้ทดลองเป็นขั้นๆ จึงค้นพบต้นเหตุสาคญั ทม่ี าของการรบกวนว่าเกิดจาก INTERMODULATION จึงได้สรุปไว้ในการทดลองวิเคราะห์วิจัยครั้งน้ีว่า
8 'หากสถานีวิทยจุ านวนต้ังแต่ 2 เคร่ืองข้นึ ไปทาการส่งพร้อมกันภายในบริเวณเดียวกันจะเกิดการผสมคล่ืนระหว่างกัน ทาให้เกิดคล่ืนวิทยุความถ่ีขนาดต่างๆเข้าไปรบกวนการทางานของเคร่ืองรับวิทยุอื่นๆ ได้หากความถ่ที ่ีเกดิ จากการผสมคลื่นระหวา่ งกนั เท่ากับความถ่ีท่ีกาลังรับฟังอยู่จะได้ยินสัญญาณที่เข้ามารบกวนไดเ้ สมอื นกบั รับฟงั คลนื่ ตรง หากความถี่ท่ีเกิดจากการผสมคลื่นไม่ตรงนักจะได้ยินสัญญาณท่ีเข้ามาไม่ชัดเจนนอกจากนี้ หากผลต่างระหว่างความถ่ีใช้งานของสองสถานีเท่ากับความถี่ IF หรือครึ่งหน่ึงของ IF สัญญาณทเี่ ขา้ มารบกวนจะชดั เจนและแรงเสมือนรับฟังคล่ืนตรง' หลังจากนั้นอีกหลายปี จึงได้ปรากฏหลักฐานในการประชุมทางวิชาการระหว่างประเทศกล่าวเน้นความสาคัญของ INTERMODULATION ซงึ่ สรุปตรงกับสง่ิ ทพ่ี ระองคท์ า่ นได้วเิ คราะห์ 3. ทรงสนพระทยั ดา้ นสายอากาศและสายนาสญั ญาณ พระองค์ทรงจับจุดสาคัญของการรับ-ส่งวิทยุสื่อสารได้ โดยรับสั่งว่า 'การรับวิทยุก็ดี การส่งวิทยุก็ดีถ้าไม่มสี ายอากาศหรอื สายอากาศไมด่ ี จะใช้เคร่ืองส่งกาลังสูงเพียงใด เคร่ืองรับจะดีเพียงใด ก็ไม่สามารถช่วยใหก้ ารส่ือสารทางวิทยมุ ีประสิทธภิ าพสงู ได้' ดงั นัน้ จึงมคี วามสนพระทัยและศกึ ษาอยา่ งละเอยี ดเก่ียวกับคุณลักษณะของสายอากาศ โดยหลังจากท่ีได้ทรงศึกษาทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏบิ ัติด้วยพระองคเ์ องอยา่ งถ่องแท้แล้ว จงึ ทรงมีพระราชดารใิ หม้ ีการพัฒนาสายอากาศเพ่ือนามาใช้ประโยชน์แก่ประเทศชาติ ประมาณกลางปี พ.ศ.2513 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.สธุ ี อกั ษรกิตต์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (ตาแหน่งในขณะน้นั ) ซึง่ ได้ช่วยราชการอยทู่ ่ศี ูนย์วิจัยและพฒั นาการทหารเขา้ เฝา้ ฯ และทรงมีพระราชดาริให้ออกแบบและสร้างสายอากาศย่านความถ่ีสูงมากข้ึน โดยมีพระราชประสงค์เพ่ือใช้สายอากาศเป็นส่วนสาคัญในการพัฒนาปรบั ปรุงการใช้งานของเคร่ืองวิทยุให้มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน แทนการนาเคร่ืองวิทยุต่างๆ ไปปรับปรุงแก้ไขซ่ึงเป็นการยงุ่ ยากซบั ซ้อนกว่า ในการพัฒนาสายอากาศดงั กลา่ ว พระองค์ได้ทรงกาหนดวัตถุประสงค์ของงานท่ีจะใช้ และคุณสมบัติทางเทคนคิ ดว้ ยพระองคเ์ อง และเมื่อนาข้ึนน้อมเกล้าฯถวายจะทรงทดลองใช้งานและพระราชทานคาแนะนาเพ่อื พฒั นาให้ดยี ง่ิ ขึน้ จนเกิดเป็นสายอากาศ สุธี 1 สุธี 2 สุธี 3 และสุธี 4 ซึ่งต่อมาภายหลังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯใหป้ ระกาศใชส้ ายอากาศท้ัง 4 แบบ ดังกลา่ วไวใ้ นราชกิจจานเุ บกษา
9 4. VR 009 สญั ญาณจากฟา้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงแก่ปวงนั กวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทยและแกก่ รมไปรษณีย์โทรเลข ทีพ่ ระองคท์ รงสนพระทยั ในการตดิ ตอ่ ส่ือสารทางวิทยุในเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ทรงทดลองการแพรก่ ระจายคลืน่ วิทยแุ ละรับสัญญาณด้วยพระองค์เอง ทรงเคร่งครัดในการปฎิบัติตามกฎระเบียบของการตดิ ตอ่ สอื่ สาร ทั้งในแง่ความถูกต้องของคาพูดติดตอ่ สื่อสารและการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมท่ีเป็นไปตามมาตรฐานสากล พระองค์จะทรงทักท้วง ตักเตือน หากนักวิทยุสมัครเล่นคนใดมิได้ปฎิบัติตามระเบียบในขณะเดียวกันจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคาแนะนาอธิบายปัญหาเทคนิคด้วยภาษาง่ายๆให้หายข้องใจได้ทุกครั้ง รูปท่ี 3.3 แสดง VR 009 สัญญาณจากฟา้ ทีม่ า: https://positioningmag.com/1106433 ด้วยเหตนุ เ้ี มือ่ กรมไปรษณีย์โทรเลขได้ก่อต้ังชมรมวิทยุอาสาสมัคร หรือ เรียกย่อเป็นภาษาอังกฤษว่าVR (Voluntary Radio) ขึ้น กรมไปรษณีย์โทรเลขจึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายสัญญาณเรียกขาน 'VR 009'แด่พระองค์ ในวันท่ี 5 ธันวาคม พ.ศ.2524 ด้วยรู้สึกสานึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาท่ีสุดพระองคท์ รงใช้วทิ ยุกับศนู ยส์ ายลมกรมไปรษณยี โ์ ทรเลข เพื่อทดสอบสญั ญาณหลายคร้ัง ในบางโอกาสพระองค์ทรงพระราชทานคาแนะนาทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการปรับแต่งเคร่ืองรับ-ส่งวิทยุที่มีความซับซ้อน ตลอดจนพระราชทานความร้เู กยี่ วกับสายอากาศและการเผยแพร่กระจายคล่ืน และลกั ษณะการถูกรบกวนของคล่นื วิทยุในข่ายต่างๆและวธิ ีการที่จะแก้ไขการรบกวนนั้นด้วย เชน่ ในปี พ.ศ. 2528 พระราชทานคาสอนเก่ียวกับการใช้เคร่ืองรับ-ส่งวิทยุของศูนย์สายลมตราอักษรYAESU แบบติดตั้งประจาที่รุ่น FT-726R จนกระทั่งพนักงานวิทยุของศูนย์สายลมมีความเข้าใจถึงวิธีการใช้
10เครื่องรับ-ส่งวิทยุและสามารถปรับปุ่มต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ซ่ึงขณะนี้เครื่องดังกล่าวยังคงอยู่ท่ีสานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หลังจากกรมไปรษณยี โ์ ทรเลขเปลย่ี นเป็น สานักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และ กสทช.ในปจั จุ บัน นอกจากน้ันยังได้พระราชทานคาแนะนาในการแก้ปัญหาการรบกวน จากเครื่องวิทยุกระจายเสียงพระราชทานคาแนะนาป้องกันการฟ้าผ่า พระราชทานกาลังใจแก่สมาชิกชมรม วิทยุสมัครเล่นท่ีออกไปช่วยเหลอื รถเสยี เม่ือเกิดน้าท่วมและทรงแนะนาทางกลบั บ้าน นั บ เ ป็ นสิ ริ ม งค ล กั บ ศู นย์ ส า ยล ม ท่ี ท ร งติ ด ต่ อเ ข้ า ม า ยั ง ศู นย์ อ ย่ า ง ไ ม่ ถื อพ ร ะ องค์ แล ะ ป ฏิ บั ติ ก า รตดิ ต่อส่ือสารถกู ต้องตามระเบียบวินัยเฉกเช่นนกั วทิ ยุสมัครเล่นท่ัวไป เ ห ตุ ก า ร ณ์ ส า คั ญ ที่ ท ร งพ ร ะ ก รุ ณ า โ ป ร ด เ ก ล้ า ฯ พ ร ะ ร า ช ท า น ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อแ ก่ ข้ า ร า ช ก า รกรมไปรษณีย์โทรเลข และยังจารึกไว้ในความทรงจาตราบเท่านาน คือ เมื่อกรมไปรษณีย์โทรเลขได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์คร้ังที่ 13 ระหว่างวันที่ 8-17 ธันวาคม 2528ให้รบั ผิดชอบเกี่ยวกับระบบการติดตอ่ สื่อสารสาหรับการประสานงานของคณะกรรมการสาขาต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องและสนามแข่งขันทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด พระองค์พระราชทานคาแนะนาในการแก้ไขปญั หาการรบกวนของเครือ่ งวิทยุถ่ายทอดสัญญาณซ่ึงจะใช้ในเครือข่ายของคณะกรรมการต่างๆจนเครื่องวิทยุถา่ ยทอดสัญญาณใช้งานไดต้ ามปกติ ทาให้งานของประเทศชาตไิ ม่เสียหาย นับวา่ ทรงพระปรีชาสามารถสงู ย่ิง และในคราวเกดิ วาตภยั ที่ อ. สวนผ้ึง จังหวดั ราชบรุ ี ในปี พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติท่ีสร้างความเสียหายรา้ ยแรงแกป่ ระชาชนจานวนมาก โดยศูนยว์ ิทยสุ ายลม ที่กรุงเทพฯแจ้งเตือนไปยังพื้นที่ประสบภัย เหตุพายุพดั ถลม่ พื้นท่ี และตลอดแนวเทือกเขาตะนาวศรี ทาให้มีผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือจานวนมากในเหตุการณ์นนั้ ผูป้ ระสบภัย เป็นชาวบ้านที่อยู่ในพ้ืนท่ีทุรกันดารยากต่อการเข้าไปช่วยเหลือ แม้อาสาสมัครทไ่ี ด้รบั แจง้ จะเขา้ ไปถึง แต่ไม่สามารถติดตอ่ กับศนู ยส์ ายลมสว่ นกลาง เพ่ือประสานขอกาลังเสริม หรือ ประสานเสน้ ทางก็ทาไม่ได้เพราะสัญญาณขาดหาย พระองคท์ รงตดิ ต่อเข้ามาท่ศี ูนยส์ ายลม ดว้ ยเสยี งวิทยุรหัส VR 009 เข้ามาในสาย น่ันคือ พระสุรเสียงของพระองคท์ ท่ี รงวทิ ยุเข้ามาพระราชทานคาแนะนา 'ถ้าหากว่าอยากให้มีกาลังสัญญาณสูงขึ้นไป จะต้องเร่งยา้ ยไปหนอ่ ย ถ้าอยากใหเ้ ต็มทข่ี ึ้น' เมือ่ พระองค์ใหค้ าแนะนาให้ไปต้ังศูนย์บนที่สูง เจ้าหน้าท่ีจึงนารถยนต์ติดตั้งเคร่ืองรับส่งวิทยุ ซึ่งเป็นสถานีวิทยุเคล่ือนท่ีไปจอดปฏิบัติการบนที่สูงขึ้น จนสามารถติดต่อส่ือสารกั นได้จึงทาใหส้ ามารถชว่ ยเหลือผู้ประสบภัยได้สาเร็จ
11 ตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติปกครองไพร่ฟา้ ข้าแผ่นดินตามรอยสมเดจ็ พระบรุ พมหากษัตริยาธิราชสืบมา ธ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐเป่ียมล้นไปด้วยพระเมตตาธิคุณแก่ปวงอา ณาประชาราษฎร์ อย่างหาท่ีสุดมิได้พระราชกรณยี กจิ ด้านการสื่อสารของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภูมพิ ลอดุลยเดชฯ ในการศกึ ษาพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวภมู ิพลอดุลยเดชฯ ได้กาหนดหัวข้อในการศึกษาพระราชกรณียกิจทั้งหมด 3 ด้าน ได้แก่ พระราชกรณียกิจด้านสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์พระราชกรณยี กิจดา้ นวิทยกุ ระจายเสียง และพระราชกรณยี กจิ ด้านดาวเทียม3.1 พระราชกรณยี กจิ ดา้ นส่อื สารอิเลก็ ทรอนิกส์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงสนพระราชหฤทัยด้านการสื่อสารมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และทรงอุทิศพระองค์ พระอจั ฉรยิ ะ และพระอุตสาหะท้ังมวลเพื่อราษฎรทุกภูมิภาค มีพระราชดาริใหม้ กี ารพฒั นาด้านระบบวิทยุสื่อสารอย่างจริงจัง ต่อเน่ือง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน กล่าวคือ สามารถรบั สง่ ได้ไกลยง่ิ ข้นึ ดั งจ ะ เ ห็ น ไ ด้ จ า ก ก า ร ที่ พ ร ะ อ งค์ ท ร งใ ช้ เ ค ร่ื อง มื อ สื่ อ ส า ร พ ก ติ ด พ ร ะ อง ค์ ร ะ ห ว่ า งป ร ะ ก อ บพระราชกรณยี กิจตา่ ง ๆ อยู่เสมอ เพราะสิ่งที่พระองค์ขาดไม่ได้คือการสดับตรับฟังข่าวทุกข์สุขของประชาชนดังเช่นในระหว่างการเสดจ็ ฯ เยี่ยมราษฎร ซ่ึงได้ทรงพบว่าหากมีผู้ใดท่ีกาลังเจ็บป่วยและจาเป็นต้องส่งตัวเข้าบาบดั รักษาในโรงพยาบาลท้องถิ่นหรือโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครโดยเร็ว หากมีเวลาเพียงพอ จะรับสั่งผ่านทางวิทยุถึงหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เก่ียวข้อง อาทิ ตารวจตระเวนชายแดน ขอรับการสนับสนุนเร่ืองการขนส่ง เช่น เฮลิคอปเตอร์ ขอรบั การสนบั สนนุ เรื่องการขนส่งดว้ ยพระองค์เอง นอกจากน้ี พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ภูมพิ ลอดลุ ยเดชฯ ยงั พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นาระบบสื่อสารแบบถ่ายทอดสัญญาณ หรือ Repeater ซึ่งเช่ือมต่อกับวงจรทางไกลขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ให้มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) นาไปใช้ เพ่ือช่วยเหลือรักษาพยาบาลผู้เจบ็ ปว่ ยในทอ้ งถิ่นห่างไกล พ ร ะ ร า ชด า ริ อี ก ป ร ะ ก า ร ห นึ่ ง ที่ ไ ด้ พ ร ะ ร า ชท า นใ ห้ ผู้ ที่ เ กี่ ยว ข้ องน า ไ ป พิ จ า ร ณ า ด า เ นิ นก า ร ก็ คื อทาอย่างไรจึงจะสามารถติดตอ่ สื่อสารกนั ระหว่างจดุ ท่ีอยูห่ ่างไกลกันมาก ๆ เช่น เชียงใหม่กับกรุงเทพฯ ได้โดยใชเ้ ครื่องรับสง่ วิทยขุ นาดเลก็ แบบถอื ตดิ ตัว พระราชดารินี้ได้เป็นแรงผลักดันให้มีการจัดตั้งระบบวิทยุถ่ายทอดผ่านข่ายโทรคมนาคมขององค์การโทรศัพทแ์ ห่งประเทศไทยข้ึน โดยมีสถานีถ่ายทอดท่ีเชียงใหม่และกรุงเทพฯ
12แหง่ ละ 1 สถานี ซึง่ กน็ บั เปน็ ผลสาเรจ็ ประการหนงึ่ ในการพัฒนาระบบส่ือสารของประเทศ และช่วยให้พระองค์ทา่ นมคี วามสะดวกในการบาเพญ็ พระราชกรณียกิจ เพราะสามารถติดต่อสื่อสารจากท่ีห่างไกลได้โดยใช้เพียงเคร่ืองรับสง่ วทิ ยุขนาดเลก็ รปู ที่ 3.4 แสดงพระองค์ทา่ นขณะตดิ ต่อส่ือสารด้วยวิทยสุ ื่อสาร ที่มา: http://www.ku.ac.th/e-magazine/dec52/it/it1.htm เม่อื เสดจ็ พระราชดาเนินเยย่ี มเยียนราษฎรในชนบท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯท ร งท อ ด พ ร ะ เ น ต ร เ ห็ น ค ว า ม ทุ ก ข์ ย า ก ข อ งพ ส ก นิ ก ร อั น เ นื่ องม า จ า ก ข า ด แ ค ล น น้ า เ พ่ื อก า ร เ ก ษ ต รจงึ มีพระราชดาริให้ดาเนนิ โครงการฝนหลวงข้ึนเพื่อแกไ้ ขปญั หาดังกลา่ ว ในเรือ่ งการปฏบิ ัติการฝนเทยี มหรือฝนหลวงพระราชทาน ในการปฏิบัติระยะแรก ๆ ได้ประสบปัญหาเรื่องการเปลยี่ นแปลงสภาพอากาศท่ีไม่ทราบล่วงหน้า ซึ่งนักบินผู้ปฏิบัติจาเป็นต้องได้รับคาแนะนาแก้ไขโดยฉับพลัน เน่ืองจากยังไม่มีการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ปฏิบัติการด้วยกัน จึงเป็ นเหตุให้ไม่ได้ผลเท่าท่ีควรกล่าวคอื ฝนไม่ตกในเปา้ หมายบา้ ง ตกน้อย หรอื ไม่ตกตามที่คิดบ้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงสดับตรับฟังข่าวการปฏิบัติการฝนเทียมทุกคร้ัง และทรงทราบถึงปัญหาสาคัญคือ การขาดการติดต่อส่ือสารที่ดีจึงโปรดเกล้าฯ ให้ติดตั้งวิทยุให้แก่หน่วยปฏิบัติการฝนเทียม ทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นดิน นอกจากน้ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดาริให้ทาการศึกษาวิจัย รวมถึงการออกแบบและสร้างสายอากาศย่านความถสี่ ูงมาก หรือท่เี รียกวา่ VHF (วี. เอช. เอฟ) ข้ึนโดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ 3 ประการ ประการที่ 1 เพื่อที่จะได้ใช้งานกับวิทยุส่วนพระองค์ ทั้งนี้โดยมีพระราชประสงค์ที่จะให้ทราบเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของสาธารณภัยท่ีเกิดข้ึนกับประชาชน เรื่องไฟไหม้ เรื่องน้าท่วมฯลฯ ท้งั นเ้ี พอ่ื ทจี่ ะได้ทรงช่วยเหลือไดท้ ันท่วงที ประการท่ี 2 เพอ่ื ท่ีจะพระราชทานให้แก่หน่วยราชการตา่ ง ๆ
13 ประการท่ี 3 เพอ่ื ส่งเสรมิ ให้คนไทยที่มีความรู้ ความสามารถ และต้ังใจจริง ได้ใช้ความวิริยอุตสาหะในการพัฒนาระบบวทิ ยุสอื่ สารข้ึนใชเ้ องภายในประเทศ รปู ที่ 3.5 แสดงพระองค์ทา่ นขณะติดต่อส่ือสารด้วยวิทยุส่ือสาร ท่ีมา: http://www.ku.ac.th/e-magazine/dec52/it/it1.htm พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดลุ ยเดชฯ ได้ทรงสดับตรับฟงั ขา่ วการปฏิบัติการฝนหลวงทุกคร้ังและทรงทราบถึงปัญหาท่ีสาคัญคือ การขาดการติดต่อส่ือสารท่ีดี จึงโปรดเกล้าฯ ติดตั้งวิทยุสาหรับหน่วยปฏิบัตกิ ารฝนหลวง ท้ังทางอากาศและทางภาคพ้ืนดิน ส่งผลให้การปฏิบัติการฝนหลวงเกิดสัมฤทธิผลดีข้ึนเป็นลาดับ นอกเหนือจากวิทยุสื่อสารแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ยังทรงสนพระราชหฤทยั ในการสือ่ สารผา่ นทางโทรพมิ พอ์ ยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะมีกระแสพระราชดารัส พระราชทานพรปีใหม่แก่พสกนิกรไทยทางวิทยุและโทรทัศน์แล้ว ยังมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพรทางโทรพิมพ์สมา่ เสมอทุกปี แต่ในปจั จบุ ันเม่อื เทคโนโลยกี ้าวหน้าไป พระองคท์ รงใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ในการประดิษฐ์บัตรอวยพรปใี หม่แทน3.2 พระราชกรณยี กิจดา้ นวทิ ยกุ ระจายเสียง พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงสนพระทัยในเรื่องวิทยุเป็นอย่างมากตั้งแต่เม่ือครั้งยังเยาว์ ซึ่งพระองค์ประทับอยู่ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระองค์ได้ทรงซ้ืออุปกรณ์เคร่ืองรับวิทยุซึ่งมีวางขายเลหลังราคาถูกทรงประกอบเป็นเครื่องรับวิทยุชนิดแร่ สามารถรับฟัง
14วิทยกุ ระจายเสียงในยุโรปได้หลายแห่ง ต่อมาเมื่อกิจการวิทยุเจริญก้าวหน้ามากข้ึน ได้นาหลอดวิทยุมาใช้ในเครอ่ื งรบั -สง่ วทิ ยุ และเครื่องขยายเสียง และพระองค์ท่านก็ได้ทรงทดลองอุปกรณแ์ บบใหมน่ ด้ี ้วยเช่นกนั เม่ือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จพระราชดาเนินกลับมา ประทับอยู่ในประเทศไทยเปน็ การถาวร ในปี พ.ศ. 2495 พระองค์ได้ทรงตั้งสถานีวิทยุ อ.ส. ข้ึนท่ีพระราชวังสวนดุสิต และชื่อสถานีวิทยุดังกล่าวได้ทรงนามาจากอักษรย่อของพระที่น่ังอัมพรสถาน ซ่ึงเป็นสถานที่ท่ีใช้ออกอากาศครั้งแรก ต่อมาจงึ ย้ายสถานีวทิ ยุ อ.ส. เขา้ ไปตั้งในบริเวณพระตาหนกั จิตรลดารโหฐาน รูปที่ 3.6 แสดงพระราชกรณียกิจดา้ นวทิ ยุกระจายเสียงผา่ นแสตมป์ ทมี่ า: http://mblog.manager.co.th/tawwaw/th-43528/ สถานีวิทยุ อ.ส. เม่ือแรกต้ังเป็นสถานีเล็กๆ มีเครื่องส่ง 2 เคร่ือง ขนาดท่ีมีกาลังส่ง 100 วัตต์ออกอากาศด้วยคลื่นส้ันและคลื่นยาวในระบบ AM พร้อมๆ กัน เครื่ องส่งรุ่นแรกน้ีเป็นเคร่ืองท่ีกรมประชาสมั พันธท์ ูลเกล้าฯ ถวายและตดิ ต้งั ใหด้ ้วยเม่ือออกอากาศไปได้ระยะหน่ึง และในระบบคล่ืนส้ันก็มีจดหมายรายงานผลการรับฟัง เข้ามาจากหลายประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เยอรมันฯเปน็ ตน้ ดังนัน้ จึงทรงโปรดเกลา้ ฯ ให้ขยายกาลงั ส่ง โดยมชี ่อื รหัสสถานีว่า HS 1 AS ในปี พ.ศ. 2525 สถานีวิทยุอ.ส. ได้เพิ่มการส่งกระจายเสียงในระบบ FM ขึ้นอีกระบบหนึ่ง ในการขยายด้านกาลังส่งนั้นอุปกรณ์ต่างๆล้วนแต่มีผู้โดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อให้สถานีวิทยุ อ.ส. สามารถบริการประชาชนได้กว้างขวางมากยิ่งข้ึนอาจถือได้ว่าเป็นสถานีวิทยุเอกชนเพียงแห่งเดียวที่สามารถกระจายเสียงคลื่นสั้นได้ ท้ังน้ีเพราะถือว่าเป็นเครือขา่ ยกรมประชาสัมพนั ธ์ พระองค์ทรงมวี ัตถปุ ระสงค์ทท่ี รงต้ังสถานีวิทยุ อ.ส. เพอื่ เปิดโอกาสให้พสกนิกรมีช่องทางในการติดต่อกับพระองค์ไดง้ า่ ยขึ้น ไม่ตอ้ งผา่ นกระบวนการขนั้ ตอนตามพธิ ีการเหมอื นในสมัยก่อน ทรงใช้สถานีวิทยุเพื่อเป็นส่ือในการประชาสัมพนั ธ์ตดิ ตอ่ ข่าวสารกับประชาชน และเป็นสื่อสัมพันธ์ระหว่างพระองค์และประชาราษฎร์ที่ทรงแสดงให้ทราบถึงใจรักทพี่ ระองค์ท่านพระราชทานให้กบั ประชาชนท่ัวทกุ คน
15 รปู ท่ี 3.7 แสดงแสดงพระองค์ท่านขณะตดิ ต่อสื่อสารด้วยวทิ ยุสื่อสาร ทีม่ า: http://mblog.manager.co.th/tawwaw/th-43528/ นอกเหนือจากเป็นสถานีวิทยุของสื่อมวลชนเพ่ือการบันเทิง และเผยแพร่ความรู้กับประชาชนแล้วยังได้ทาหน้าทแ่ี จ้งข่าวสารแกป่ ระชาชนในโอกาสสาคญั หรือเกิดเหตุการณ์ที่สาคัญต่างๆ ข้ึน เช่น การเกิดโรคโปลีโอระบาดในปี พ.ศ. 2495 อหิวาตกโรคในปี พ.ศ. 2501 และเม่ือเกิดวาตภัยท่ีแหลมตะลุมพุกในปีพ.ศ. 2505 โดยมีพระราชดาริให้ใช้สถานีวิทยุ อ.ส. เพื่อทาหน้าท่ีเป็นส่ือกลางในการช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์กรรม จนเป็นบ่อเกิดของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ซึ่งปัจจุบันมีคุณ ขวัญแก้ว วัชโรทัยทาหน้าท่ีนายสถานี เล่าให้ฟังว่า นโยบายหลักเกี่ยวกับการบริหารงานของสถานีตามท่ีพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวพระราชทานไวก้ ็คือ การเปิดโอกาสให้คนที่มีความรู้ ความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยราชการหรือเอกชน ไดเ้ ข้ามาสนองพระมหากรณุ าธิคณุ ให้มากท่ีสุดเท่าทีจ่ ะมากได้ ดังนนั้ เจ้าหน้าที่ของสถานีจึงเป็นอาสาสมัครท้ังสิ้น และทรงรับภาระต่างๆ ด้านสถานีด้วยทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ พระองคท์ รงใช้นโยบายประหยัดและใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าท่ีสุด และในปัจจุบันน้ีสถานีวิทยุ อ.ส.ยังคงกระจายเสียงเป็นประจาทุกวันเว้นวันจันทร์ โดยออกอากาศท้ังคล่ืนสั้นและคลื่นยาว ในระบบ AM1332 KHz และ FM 104 MHz ควบคู่กันไปด้วยกาลังส่ง 10 กิโลวัตต์ โดยออกอากาศวันอังคารถึงวันเสาร์เวลา 10.30-12.00 และ 16.00-19.00 วนั อาทิตย์ เวลา 9.00-12.00 หยุดทกุ วนั จันทร์3.3 พระราชกรณยี กจิ ดา้ นดาวเทยี ม ดาวเทียมไทยคมนับว่าเป็นจุดเปล่ียนท่ีทาให้การสื่อสารโทรคมนาคมของไทยก้าวสู่ยุคแห้งความล้าหน้าและได้เขา้ มามีสว่ นรว่ มในการสนองพระราชดาริในเรื่องของการศึกษา คุณขวัญแก้ว วัชโรทัย เป็นผู้สนองพระราชภารกจิ ท่ีโรงเรยี นไกลกังวล หัวหินซึ่งขณะนไี้ ดพ้ ยายามทีจ่ ะนาดาวเทียมไทยคมเข้าไปใช้ในกิจการด้าน
16การเรียน การสอน เจตนารมณ์ดังกลา่ วเป็นการสนองตอบความตอ้ งการของประชาชนและเป็นการปรับปรุงในเรือ่ งของการศกึ ษาให้สอดคลอ้ งกับยุคสมัยอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการจัดการศึกษาใต้ร่มพระบารมีอย่างแท้จริงและที่สาคัญเพื่อเป็นการสนองพระบรมราโชบายทางการศึกษา ในอันที่จะทาให้โรงเรียนไกลกังวลเป็นเครอื ขา่ ยและเปน็ ศูนย์กลางทางการศึกษาไทยคมอยา่ งแท้จริง กล่าวไดว้ ่า พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภูมิพลอดลุ ยเดชฯ ทรงมพี ระมหากรุณาธิคุณเป็นอเนกอนันต์ตอ่ ประเทศชาติ ที่ได้มีพระราชดาริ ให้มีการพัฒนางานทางระบบวิทยุสื่อสารขึ้นในประเทศอย่างจริงจังและต่อเน่อื งเพราะสงั คมปัจจุบนั น้นั การสอ่ื สารกเ็ ปรยี บเสมือนกับระบบประสาทของร่างกายมนุษย์ ดังนั้นจึงนับได้วา่ พระองคท์ ่านนั้นมสี ายพระเนตรท่ียาวไกล ทรงเห็นบทบาทท่สี าคัญย่ิงต่อการส่ือสาร รปู ที่ 3.8 แสดงพระองค์ทอดพระเนตรอุปกรณต์ า่ งๆของสถานีควบคุมภาคพ้ืนดินดาวเทยี มไทยคม ทีม่ า : https://www.ourking.in.th/ ดาวเทียมไทยคมเป็นโครงการดาวเทียมส่ือสาร เพื่อให้บริการส่ือสารผ่านช่องสัญญาณดาวเทียมซ่งึ กระทรวงคมนาคม (ในขณะน้ัน) ต้องการจัดหาดาวเทยี มเพ่ือรองรับการขยายตัวด้านการส่ือสารของประเทศอย่าง รวดเร็ว แต่ในเวลานน้ั ประเทศไทยยังไม่มีดาวเทียมเป็นของตนเอง และต้องทาการเช่าวงจรสื่อสารจากดาวเทียมของประเทศตา่ งๆ ทาให้ใหเ้ กดิ ความไม่สะดวกและสญู เสยี เงินออกนอกประเทศเป็นจานวนมาก แต่เน่อื งจากการจดั สร้างดาวเทียมต้องใช้เงินลงทุนสูงมากจึงได้มีการเปิด ประมูลเพื่อให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนเข้ามาดาเนินการแทนการใช้งบประมาณจากภาครัฐ และบริษัท ชินวัตร แซทเทลไลท์ จากัด(มหาชน) ซ่ึงตอ่ มาได้เปลี่ยนช่อื เปน็ บรษิ ัทชนิ แซทเทลไลท์ จากัด (มหาชน) และบริษัทไทยคม จากัด (มหาชน)ตามลาดบั ซ่งึ เป็นบรษิ ัทในเครอื ของ บริษัทชิน คอร์ปอเรช่ัน จากัด (มหาชน) ได้รับสัมปทานเม่ือ พ.ศ. 2534
17เป็นตน้ มาเป็นระยะเวลา 30 ปี (ปัจจุบันอานาจการดูแลสัญญาโอนไปท่ีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร) ช่ือ \"ไทยคม\" (Thaicom) เป็นชื่อพระราชทานที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทาน โดยย่อมาจาก Thai Communications ในภาษาอังกฤษ กล่าวโดยสรุป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้เล็งเห็นถึงความสาคัญของการสอ่ื สารทมี่ ีตอ่ มนุษย์ด้วยเช่นกนั ทรงอุทศิ พระองคพ์ ระอัจฉรยิ ะ และพระอุตสาหะทั้งมวลเพ่ือราษฎรทุกภูมิภาคมีพระราชดาริให้มีการพัฒนาด้านการสื่อสารอย่างจริงจังต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน ส่งผลให้ปัจจุบันประเทศไทยมีเทคโนโลยีการสื่อสารท่ีทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองด้านการศึกษาที่มีการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทยี ม การใช้วิทยสุ อ่ื สารอย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวได้ว่า พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นอเนกอนันต์ต่อประเทศชาติเพราะท่านนั้นมีสายพระเนตรที่ยาวไกล ทรงเห็นบทบาทที่สาคัญยิ่งต่อการสื่อสาร
บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหเ์ นอื้ หา การจัดทาโครงการนี้มุ่งศึกษาศึกษาพระราชกรณีย กิจด้านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ด้านวิทยุกระจายเสียง และด้านดาวเทยี ม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ซ่ึงคณะผู้จัดทาได้ดาเนินการศึกษารายละเอียดเก่ียวกับวิธีดาเนินการและ ตลอดจนดาเนินการศึกษา และได้วิเคราะห์ผลการศึกษาโดยมีรายละเอยี ดตามลาดบั ดงั ต่อไปนี้ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภมู ิพลอดุลยเดชฯ ได้เล็งเหน็ ถึงความสาคัญของการส่ือสารท่ีมีต่อมนุษย์จึงทาให้พระองค์มีพระราชดาริ ให้มีการพัฒนาด้านการส่ือสารอย่างจริงจังต่อเนื่อง ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเก่ียวกับการส่ือสารท้ังหมด 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการส่ือสารอิเล็กทรอนิกส์ดา้ นวทิ ยุกระจายเสียง และดา้ นดาวเทียม4.1 พระราชกรณยี กจิ ดา้ นการสอ่ื สารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดุลยเดชฯ มีพระราชดาริให้มีการพัฒนาด้านระบบวิทยุสื่อสารอยา่ งจริงจังตอ่ เนอ่ื ง และมปี ระสิทธภิ าพมากยง่ิ ข้นึ ทาให้เกิดการพัฒนาระบบส่ือสารของประเทศ และช่วยให้พระองคท์ ่านมคี วามสะดวกในการบาเพ็ญพระราชกรณียกิจ ติดต่อส่ือสารจากท่ีห่างไกลได้โดยใช้เพียงเคร่ืองรับส่งวิทยุขนาดเล็กทาให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึ น นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภมู ิพลอดลุ ยเดชฯ ยังพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นาระบบส่ือสารแบบถ่ายทอดสญั ญาณ หรือ Repeater ซงึ่ เช่อื มตอ่ กับวงจรทางไกลขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ให้มูลนิธิแพทยอ์ าสาสมเด็จพระศรนี ครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) นาไปใช้ เพื่อช่วยเหลือรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในท้องถิ่นห่างไกล อีกทั้งยังทรงเป็นแรงผลักดันให้มีการจัดต้ังระบบวิทยุถ่ายทอดผ่านข่ายโทรคมนาคมขององคก์ ารโทรศัพท์แห่งประเทศไทยข้ึน ซง่ึ เปน็ การสง่ เสรมิ ให้คนไทยที่มีความรู้ ความสามารถ และตั้งใจจริง ได้ใชค้ วามวริ ิยอุตสาหะในการพัฒนาระบบวิทยุสื่อสารขึ้นใช้เองภายในประเทศ
194.2 พระราชกรณยี กจิ ดา้ นวทิ ยกุ ระจายเสยี ง พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้ทรงต้ังสถานีวิทยุ อ.ส. ข้ึนที่พระราชวังสวนดุสิตพระองค์ทรงมีวัตถุประสงค์ท่ีทรงต้ังสถานีวิทยุ อ.ส. เพ่ือเปิดโอกาสให้พสกนิกรมีช่องทางในการติดต่อกับพระองค์ได้ง่ายขึน้ ไมต่ ้องผ่านกระบวนการขั้นตอนตามพธิ กี ารเหมือนในสมัยก่อน ทรงใช้สถานีวิทยุเพ่ือเป็นสื่อในการประชาสัมพนั ธ์ตดิ ต่อขา่ วสารกบั ประชาชน และเป็นส่ือสัมพันธ์ระหว่างพระองค์และประชาราษฎร์ อีกทงั้ ยงั ใชส้ ถานีวทิ ยุ อ.ส. เพ่ือทาหน้าที่เป็นส่ือกลางในการช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์กรรมอีกด้วย ทาให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบตั ติ า่ งๆ ไดร้ ับการช่วยเหลอื ท่ีสะดวกยิ่งข้ึน นอกจากน้ียังเป็นสถานีวิทยุของสื่อมวลชนเพอ่ื การบันเทิงและเผยแพร่ความรกู้ บั ประชาชน ซึ่งได้ทาหน้าที่แจ้งข่าวสารแก่ประชาชนในโอกาสสาคัญหรือเกดิ เหตกุ ารณ์ที่สาคัญ ขึ้น ทาให้ประชาชนได้รับทราบข่าวสารอันเป็นประโยชน์ต่อการดารงชีวิตและเตรียมรับมือเหตกุ ารณ์สาคัญนั้นๆ ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพมากขึน้4.3 พระราชกรณยี กจิ ดา้ นดาวเทียม พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัวภมู พิ ลอดุลยเดชฯ ทรงมีพระราชดาริให้มีการพัฒนางานทางระบบวิทยุส่ือสารขึ้นในประเทศอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเสด็จพระราชดาเนินไปทรงเปิดสถานีควบคุมภาคพื้นดินดาวเทียมไทยคมซง่ึ เปน็ โครงการดาวเทยี มสอ่ื สาร เพ่ือใหบ้ รกิ ารส่ือสารผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม ทาให้ระบบวทิ ยสุ อื่ สารในประเทศไทยดีมากยิ่งข้ึนกว่าแต่ก่อน นอกจากน้ีทรงนาดาวเทียมไทยคมเข้าไปใช้ในกิจการด้านการเรียน การสอน เพอ่ื ตอบสนองความต้องการของประชาชนและเป็นการปรับปรุงในเร่ืองของการศึกษาให้สอดคล้องกบั ยุคสมยั อกี ดว้ ย ทาให้ประชาชนในพ้นื ทีต่ า่ งๆ ได้มีโอกาสได้รับการศึกษา ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างความรู้แกเ่ ยาวชน สาหรบั เปน็ กาลงั ในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต
บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้านการสื่อสารมากมาย ไม่ว่าจะเปน็ พระราชกรณยี กิจด้านการส่ือสารอิเล็กทรอนิกส์ท่ีได้พัฒนาระบบการส่ือสารต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึน เช่น ระบบส่ือสารแบบถ่ายทอดสัญญาณ ระบบสื่อสารวิทยุ ที่สามารถให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนท่ีประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละพ้ืนท่ีได้มากยิ่งขึ้น หรือพระราชกรณียกิจด้านวิทยุกระจายเสียง ท่ีเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ติดต่อสื่อสารกับพระองค์ได้ง่ายข้ึน เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ ใหแ้ ก่ประชาชน ไมว่ าจะเป็นในเรือ่ งของความรู้ ข่าวสาร ความบันเทิง เหตุการณ์สาคัญต่างๆ ท่ีกาลังเกดิ ขน้ึ ในขณะนั้นเพ่อื ให้ประชาชนได้รับรู้การเปล่ียนแปลงและเตรียมรับมือกับเหตุการณ์นั้นๆ ได้ และพระราชกรณียกิจดา้ นดาวเทยี มที่เปน็ สว่ นสาคญั ทาใหก้ ารส่ือสารโทรคมนาคมของไทยมีการพัฒนาก้าวสู่ความทนั สมยั โดยเฉพาะอย่างย่ิงในเรื่องของการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เน่ืองด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกลในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภมู ิพลอดลุ ยเดชฯ ทรงเล็งเห็นถงึ ความสาคัญของการสื่อสารว่า การสื่อสารนั้นเป็นปจั จัยสาคัญในการดาเนนิ ธุรกิจทุกประเภท การสือ่ สารเป็นหัวใจของความมน่ั คงสาหรับประเทศ และการส่ือสารเป็นองคป์ ระกอบทีส่ าคัญย่ิงในการพฒั นาประเทศให้ประชาชนอย่ดู ีกินดีและมคี วามสขุ อยา่ งยั่งยืน
21เอกสารอ้างอิงกระทรวงพาณิชย์. (2555). อจั ฉรยิ ราชา : ผสู้ รา้ งสรรคภ์ มู ปิ ญั ญาแหง่ แผ่นดนิ . นนทบุรี: กระทรวงพาณิชย์ณัฏฐนันท์ เมธาธรรมสถิต. (26 ธนั วาคม 2551). พระราชกรณยี กิจดา้ นวทิ ยุกระจายเสียง .สบื ค้นเมอ่ื 29 ตุลาคม 2560, จาก http://mblog.manager.co.th/tawwaw/th-43528/มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ สานกั บริการคอมพิวเตอร์. (30 ธนั วาคม 2552). พระราชกรณียกจิ ดา้ นการ ส่ือส าร อิเล็ก ทร อนิกส์ . สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2560, จาก http://www.ku.ac.th/e- magazine/dec52/it/it1.htmมหาวิทยาลัยราชภฏั พิบลู สงคราม. (15 มีนาคม 2560). พระราชกรณยี กิจดา้ นดาวเทยี ม. สืบคน้ เมอ่ื 29 ตุลาคม 2560, จาก http://followking.psru.ac.th/daaotiam/MGR Online. (22 ตุลาคม 2559). ในหลวงกบั พระอัจฉริยภาพด้านการสื่อสาร. สบื ค้นเม่อื 29 ตลุ าคม 2560, จาก http://www.manager.co.th/Cyberbiz/Positioning. (20 ตุลาคม 2559). เปิดบันทึกเร่อื งเลา่ 'สัญญาณจากฟ้า VR 009'. สบื คน้ เมอ่ื 29 ตุลาคม 2560, จาก https://positioningmag.com/1106433
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: