KASINTORN SAINT PETER SCHOOL เรอื่ ง...ธรรมชาติแสนงาม วชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 : กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรยี นกสณิ ธรเซนต์ปีเตอร์
“วันหยุดน้ี พ่อกับแม่จะพาลูกไปเท่ียว ลูก ๆ อยาก ไปไหนกันบ้างล่ะจ๊ะ” พ่อกล่าวขึ้นอย่างอารมณ์ดีหลัง รับประทานอาหารเย็นเสรจ็ ต้นน้าเสนอความคิดว่า “ไปที่ไหนก็ได้ครับ ขอให้มี แหลง่ น้าและธรรมชาตทิ ีส่ ดช่นื ”
แมห่ ันมาถามตน้ ขา้ วบา้ ง ตนั ขา้ วตอบว่า “วันหยุดนี้ เป็นวันตันไม้แห่งชาติ ลูกอยากไปช่วยปลูกต้นไม้เพื่อ ลดภาวะโลกรอ้ นค่ะ” “เป็นความคิดที่ดีมาก พ่อก้าลังคิดถึงท่ีแห่งหน่ึงท่ี เราสามารถทอ่ งเทีย่ วเชงิ อนุรกั ษ์ และช่วยลดภาระโลก รอ้ นไดอ้ ย่างดี แถมไดไ้ ปเยี่ยมญาติดว้ ย” พอ่ ช่วยสรุป
เกรด็ น่ารู้ วันต้นไม้แหง่ ชาติ วันต้นไม้แหง่ ชาติ ตรงกบั วนั ข้ึน ๑๕ ค่้า เดือน ๖ ซ่ึง เป็นวันวิสาขบูชาของศาสนาพุทธด้วย รัฐบาลก้าหนด วันต้นไม้แห่งชาติขึ้น เพ่ือกระตุ้นให้คนไทยหวงแหน และอนุรักษ์ป่าไม้ ในวันนั้นจึงมีกิจกรรมปลูกต้นไม้ และการป้องกันไฟปา่
แม่ช่วยเสริมความคิดของพ่อว่า “พ่อกับแม่จะพาลูก ไปเย่ียมลุงภูที่ต่างจังหวัด ชุมชนท่ีน่ันมีป่าชายเลน มี แหล่งน้าและธรรมชาติท่ีงดงาม ชาวบ้านจะช่วยกัน ปลูกต้นไม้เพือ่ ช่วยป้องกันการกัดเซาะของน้า ลูกจะได้ สัมผสั กับธรรมชาตแิ ละไดช้ ่วยปลูกต้นไม้อกี ดว้ ย”
“ไชโย! ” ตน้ น้าและต้นข้าวส่งเสยี งขน้ึ พร้อมกันด้วย ความดีใจ “เอาล่ะ ลูกๆ มาช่วยแม่จัดเตรียมเสื้อผ้าและของ ฝากที่จะนา้ ไปเยี่ยมครอบครัวลงุ ภูกันเถอะจ้ะ” แมล่ กู ช่วยกันจดั เตรียมของอยา่ งมคี วามสุข
เม่ือไปถึงบา้ นของลงุ ภู ซง่ึ เป็นบา้ นเรอื นไทยใต้ถุนสงู ลุงภูรออยทู่ ล่ี านบา้ น บรเิ วณบ้านมตี น้ ไมน้ านาชนิด ดเู ขยี วขจี “สวัสดคี รับ สวัสดีค่ะ พภ่ี ู” พอ่ แมย่ กมอื ไหว้ทกั ทาย ลุงภู ตน้ น้าและตน้ ข้าวยกมอื ไหวัสวสั ดพี รอ้ มกนั “สวสั ดีครับ อาดนิ อาฝน” พตี่ น้ ไผ่ลกู ชายลุงภู สวสั ดีพ่อกับแม่
“สวัสดจี ะ้ ตน้ ไผ่ โตไวจงั เผลอแปบ๊ เทยี วจะสงู เท่า พ่อแล้วนะจะ้ ” แมร่ บั ไหวแ้ ละทักทาย “เอ้า! เดก็ ๆ ช่วยกันยกของขึน้ ไปเก็บบนหอ้ ง แล้ว ไปล้างหนา้ ใหส้ ดชน่ื ป้าชลกา้ ลังเตรยี มอาหารอร่อย ๆ อยู่ในครวั อย่าช้านะ” ลงุ ภูพูดอย่างอารมณด์ ี
หลงั อาหารกลางวัน ลุงภูมอบหมายให้พตี่ นั ไผเ่ ปน็ มคั คเุ ทศก์นา้ ต้นนา้ และตันขา้ วไปเดินส้ารวจธรรมชาติ และศกึ ษาพชื ผกั สวนครวั พชื สมนุ ไพรทใี่ ชเ้ ป็นยา ตลอดจนพืชยนื ต้นรอบบรเิ วณบา้ น
เม่ือเดินมาถึงหน้าบ้าน ต้นน้าเห็นแผ่นป้ายขนาด ใหญ่ทา้ ดว้ ยไมจ้ ึงเดินเขา้ ไปอ่านและแสดงความช่ืนชม “โอ้โฮ! ลุงภูนี่เก่งจริง ๆ นะครับ ท้าสวนจนได้รับ รางวัลให้เปน็ ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ บ้านพ่ีต้น ไผค่ งมีคนมาศึกษาดกู ารท้าสวนกนั เยอะชินะครับ” พ่ีต้นไผ่ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในผลงานของพ่อ พรอ้ มอธบิ าย
“พ่อเปิดสวนให้คนเข้ามาเรียนรู้การปลูกพืช ท้า ปุ๋ยหมัก เราไม่ใช้สารเคมีเป็นยาฆ่าแมลง พืชผัก ผลไม้ในสวนของเราปลอดสารพิษ จึงมีลูกค้าส่ังซ้ือ เปน็ จ้านวนมาก พี่ช่วยพอ่ คัดเลือกผกั ผลไม้ เพอื่ สง่ ให้ลูกค้า พ่อแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งให้พี่ไว้เป็น ทนุ การศึกษา
“พตี่ น้ ไผเ่ ก่งจงั เลยนะคะ พี่คงเกบ็ เงนิ ไดเ้ ยอะเชียว” ต้นขา้ วกล่าวช่นื ชม “แมส่ อนให้พ่ที า้ บัญชีรายรบั รายจ่าย สว่ นหน่ึงใช้ซื้อ หนงั สือและเคร่อื งเขยี น อีกสว่ นหนึ่งฝากไวท้ ธ่ี นาคาร” พ่ีตน้ ไผเ่ ล่าอย่างมคี วามสขุ
เช้าวันรุ่งข้ึน ทุกคนต่ืนแต่เช้าเพ่ือสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ หลังอาหารม้ือเช้า ลุงภูพาทุกคนไปร่วมงานปลูกต้นไม้ ทุกคนแต่งกายทะมัดทะแมง เตรียมพร้อมจะลุยโคลนเพื่อ ไปปลกู ป่าชายเลน เม่ือไปถึงท่ีนัดหมาย มีชาวบ้านมาร่วมงานกันมากมาย ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสดูมีความสุขท่ีได้มาช่วยท้าประโยชน์ เพอ่ื ส่วนรวม
พอ่ บอกว่า “ทกุ คนมีจิตอาสา ท้าให้ชุมชนเขม้ แข็ง ชาวบ้านจงึ อยูก่ นั อย่างสงบสุข” “อยา่ งนีเ้ รียกว่ามีจิตสาธารณะใชไ่ หมคะ” ตน้ ขา้ ว ถามดว้ ยความสนใจ
ลงุ ภเู หน็ เด็ก ๆ กระตือรือรันทจ่ี ะเรยี นรู้ จึงให้ ความรเู้ พิม่ เตมิ “ใชแ่ ลว้ จะ้ หลาน ชาวบ้านท่ีนี่มจี ิตสาธารณะและ สามัคคีกันจงึ ทา้ ให้ชุมชนของเราพัฒนาไดร้ วดเร็วและ เขม้ แข็ง”
ยามค้่า ทุกคนน่งั คุยกนั ทบ่ี ริเวณห้องโถงและชม ข่าวเพื่อตดิ ตามเหตุการณบ์ ้านเมอื ง บนจอโทรทัศนม์ ีขา่ วภัยแล้ง เกิดภาวะขาด แคลนน้าทา้ การเกษตรชาวบ้านบางแหง่ แย่งน้ากัน เพอ่ื จะใหต้ นทา้ การเพาะปลกู ไดผ้ ล
เสยี งของลงุ ภดู งั ข้นึ ท่ามกลางความเงียบ “คน พยายามคดิ คน้ สิง่ ต่าง ๆ เพือ่ เอาชนะธรรมชาติ แต่ ในที่สดุ เราก็ตอ้ งพบกบั ภัยพบิ ตั ิทางธรรมชาติ ถ้า เราใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งถกู วิธแี ละใชใ้ ห้ ค้มุ คา่ อันตรายทีไ่ ดร้ ับคงไมร่ ุนแรงขนาดนแ้ี น”่
“เราจะท้าอยา่ งไรกนั ดคี รับ ท่ีจะหลีกพน้ ภัยธรรมชาติ ได”้ ตน้ น้าหนั มาถามพต่ี น้ ไผ่ “พี่วา่ การท่ีเราไปชว่ ยกนั ปลกู ตันไมเ้ ม่อื เชา้ น้ีกเ็ ป็น วธิ กี ารหนง่ึ ทีจ่ ะชว่ ยอนรุ กั ษธ์ รรมชาติ ป่าไม้ท้าให้โลก สดชืน่ แตม่ คี นเหน็ แกไ่ ด้ลักลอบไปตดั ไม้ทา้ ลายปา่ ซึ่งมี ผลกระทบทา้ ให้เกิดน้าทว่ ม ฝนไมต่ กตามฤดกู าล
อากาศรอ้ นกว่าปกติ เราต้องใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ อยา่ งค้มุ ค่า เช่น ปดิ น้า ปดิ ไฟ เม่อื ไมใ่ ช้ สรา้ งบ้านให้ อากาศถา่ ยได้สะดวก หากใช้เครอ่ื งปรบั อากาศควรเปดิ ท่ี อุณหภมู ิ ๒๕ องศาเซลเซียส” พีต่ น้ ไผถ่ ือโอกาสถา่ ยทอด ความรู้ให้นอ้ ง ๆ ไดต้ ระหนกั ถงึ คุณของต้นไม้ และการ อนรุ กั ษ์พลังงานธรรมชาติ
ลุงภหู นั มาบอกให้ต้นไผ่ท่องบทอาขยานเกี่ยวกับ การอนรุ ักษป์ ่าไมท้ ่ีครเู คยสอน ให้ตนั นา้ และตน้ ข้าวฟงั ตน้ ไผ่ลุกข้นึ ยืนตัวตรง ทา้ ทา่ สง่างามเหมอื นอยู่หน้า ชั้นเรียนและเรมิ่ ส่งเสียงเป็นท้านองน่าฟงั
นกเอย๋ นกนอ้ ยนอ้ ย บนิ ล่องลอยเป็นสขุ ศรี ขนขาวราวส้าลี อากาศดไี ม่มีภัย ทกุ ทศิ เจ้าเทย่ี วทอ่ ง ฟา้ สที องอนั สดใส มปี า่ พาสุขใจ มีตน้ ไม้มีลา้ ธาร ผคู้ นไมม่ ีโรค นบั เป็นโชคสขุ สา้ ราญ อากาศไรพ้ ิษสาร สตั วช์ นื่ บานดินชน่ื ใจ คนสัตว์ได้พ่ึงปา่ มารักษาปา่ ไม้ไทย ส้นิ ป่าเหมือนสิน้ ใจ ชว่ ยปลูกใหมไ่ วท้ ดแทน ผูป้ ระพันธ์ - นภาลัย สุวรรณธาดา
ขณะทีพ่ ตี่ ้นไผท่ ่องบทอาขยาน ตน้ น้าปรบมือให้ จงั หวะ ส่วนต้นข้าวขยับตวั ทา้ ท่านกบนิ และแสดงท่า ประกอบอยา่ งสนุกสนาน ลุงภนู า้ แผ่นกระดานท่ีเขยี นบทรอ้ ยกรองอีกบทหนึง่ มาให้เดก็ ๆ อา่ น
ต้นไม้คูก่ ับปา่ สัตวป์ ักษาไดอ้ าศยั คนเกบ็ สมนุ ไพร ใชป้ ระโยชน์สารพนั ตดั ไมท้ ้าลายปา่ เกดิ ภาวะโลกแปรผัน ปลูกป่าชว่ ยปอ้ งกัน ชว่ ยสรา้ งสรรคโ์ ลกร่มเยน็ สมใจ บญุ อุรพีภิญโญ
เมื่ออ่านจบ ตน้ ข้าวขอจดบทร้อยกรองบทนี้ไว้ เพือ่ นา้ ไปใหเ้ พอื่ นทีโ่ รงเรยี นไดอ้ ่าน ลงุ ภกู ลา่ วด้วยความภาคภมู ใิ จวา่ “บทร้อย กรองนล้ี ุงใหเ้ ดก็ ๆ ทเ่ี ข้ามาศึกษาดงู านในสวนน้ี ทอ่ งไว้เตอื นใจ หลานคิดอย่างไรบ้าง”
“พวกเราขอสัญญาว่าจะใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างประหยัดและช่วยกันปลูกตน้ ไม้เพ่ือช่วยลดภาวะ โลกร้อนครับ” ตน้ นา้ ทา้ ทา่ แขง็ ขัน “หนกู จ็ ะช่วยดแู ลรักษาปา่ เช่นกันคะ่ ” ตน้ ขา้ วกล่าว ยืนยัน ป้าชลเห็นเด็กๆ เริ่มง่วงจึงพูดข้ึนว่า “ถึงเวลา พกั ผอ่ นแล้ว พ่ตี ้นไผ่พานอ้ งไปนอนไดแ้ ลว้ จ้ะ”
ฝากเดก็ ๆ ทอ่ งบทอาขยาน รักษาป่า แล้วอัดวดิ โี อส่งคณุ ครปู ระจ้าช้นั นะคะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: