Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Thai children’s games

Thai children’s games

Published by Wanalee55, 2017-07-11 12:01:13

Description: Thai children’s games

Search

Read the Text Version

นางสาววนาลี พ่งึ บุญ

การละเล่นพนื้ บ้าน หมากเก็บ การละเล่นยอดฮิตสาหรับเดก็ ผหู้ ญิงนน่ั เอง ปกติจะใชผ้ เู้ ล่น 2-4 คน และใชก้ อ้ นกรวดกลม ๆ 5 กอ้ นเป็ นอุปกรณ์ กติกากค็ ือ ตอ้ งมีการเสี่ยงทายวา่ ใครจะไดเ้ ล่นก่อน โดยใชว้ ธิ ี \"ข้ึนร้าน\" คือแบมือถือหมากท้งั 5 เมด็ ไว้แลว้ โยนหมาก ก่อนจะหงายมือรับ แลว้ พลิกมือกลบั รับหมากอีกที ใครมีหมากอยบู่ นมือมากท่ีสุด คนน้นั จะไดเ้ ป็นผเู้ ล่นก่อน จากน้นั จะแบง่ การเล่นเป็น 5 หมาก โดยหมากท่ี 1 ทอดหมากใหอ้ ยหู่ ่าง ๆ กนั แลว้ เลือกลูกนาไว้ 1เมด็ ก่อนจะไล่เกบ็ หมากท่ีเหลือ โดยการโยนเม็ดนาข้ึน พร้อมเกบ็ หมากคร้ังละเมด็ และตอ้ งรับลูกท่ีโยนข้ึนใหไ้ ด้ ถา้ รับไมไ่ ดถ้ ือวา่ \"ตาย\" หรือถา้ มือไปถูกเมด็ อื่นก็ถือวา่ \"ตาย\" เช่นกนั ในหมากที่ 2 ก็ใชว้ ธิ ีการเดียวกนั แต่เก็บทีละ 2 เมด็ เช่นเดียวกบั หมากที่ 3 ใชเ้ ก็บทีละ 3 เมด็ ส่วนหมากท่ี 4 จะไมท่ อดหมาก แตจ่ ะใช้ \"โปะ\" คือถือหมากท้งั หมดไวใ้ นมือ โยนลูกนาข้ึนแลว้ โปะเมด็ ท่ีเหลือลงพ้นื แลว้ รวมท้งั หมดท่ีถือไว้ \"ข้ึนร้าน\" ไดก้ ่ีเมด็ ถือเป็นแตม้ ของผเู้ ล่นคนน้นั ถา้ ไม่ไดถ้ ือวา่ \"ตาย\" แลว้ ให้คนอื่นเล่นต่อไป โดย \"ตาย\" หมากไหนกเ็ ร่ิมท่ีหมากน้นั ปกติการเล่นหมากเก็บจะกาหนดไวท้ ี่ 50-100 แตม้ดงั น้นั เมื่อแตม้ ใกลค้ รบ เวลาข้ึนร้านตอ้ งระวงั ไมใ่ หแ้ ตม้ เกิน ถา้ เกินตอ้ งเริ่มตน้ ใหม่ อยา่ งไรก็ตาม ปกติแลว้ \"หมากเกบ็ \" มีวธิ ีเล่นหลายอยา่ ง แตล่ ะอยา่ งกจ็ ะมีชื่อเรียกต่างกนั ไป เช่นหมากพวง, หมากจุบ๊ , อีกาเขา้ รัง

รีรีขา้ วสาร เชื่อเลยวา่ ชีวิตในวยั เด็กของคนส่วนใหญ่ผา่ นการละเล่น \"รีรีข้าวสาร\" มาแลว้ และยงั ร้องบทร้องคุน้หูท่ีวา่ \"รีรีขา้ วสาร สองทะนานขา้ วเปลือก เดก็ นอ้ ยตาเหลือก เลือกทอ้ งใบลาน คดขา้ วใส่จาน คอยพานคนขา้ งหลงั ไว\" ไดด้ ว้ ย กติกา \"รีรีขา้ วสาร\" ก็คือ ตอ้ งมีผเู้ ล่น 2 คนหนั หนา้ เขา้ หากนั และเอามือประสานกนั ไวเ้ ป็นรูปซุม้ ส่วนผเู้ ล่นคนอ่ืน ๆ จะก่ีคนก็ไดจ้ ะยนื เกาะเอวกนั ไวต้ ามลาดบั หวั แถวจะพาขบวนลอดซุม้ พร้อมร้องเพลง \"รีรีขา้ วสาร\" จนเมื่อถึงประโยคท่ีวา่ \"คอยพานคนขา้ งหลงั ไว\"้ ผทู้ ่ีประสานมือเป็ นซุม้ จะลดมือลงกนั ไมใ่ หค้ นสุดทา้ ยผา่ นเขา้ ไป เรียกวา่ \"คดั คน\" และเล่นอยา่ งน้ีไปเรื่อย ๆ จนคนหมด ประโยชน์ของการเล่นรีรีข้าวสาร กค็ ือ ช่วยให้จิตใจร่าเริงแจ่มใส รู้จักมไี หวพริบ ใช้กลยุทธ์ให้ตวั เองเอาตัวรอดจากการถูกคล้องไว้ได้ รวมท้งั ฝึ กให้เด็กทางานเป็ นกลุ่มได้ด้วย

มอญซ่อนผา้ การละเล่นแสนสนุกที่ทาใหผ้ เู้ ล่นไดล้ ุน้ ไปดว้ ย โดยใชอ้ ุปกรณ์เพยี งแคผ่ า้ ผนื เดียวเท่าน้นั แลว้ ใหผ้ เู้ ล่นเส่ียงทาย ใครแพค้ นน้นั ตอ้ งเป็น \"มอญ\" ส่วนคนอื่น ๆ มานง่ั ลอ้ มวง คนท่ีเป็น \"มอญ\" จะตอ้ งถือผา้ ไวใ้ นมือแลว้ เดินวนอยนู่ อกวง จากน้นั คนนงั่ ในวงจะร้องเพลงวา่ \"มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอย่ขู ้างหลงั ไว้โน่นไว้น่ี ฉันจะตีก้นเธอ\" ระหวา่ งเพลงร้องอยู่ คนที่เป็น \"มอญ\" จะแอบทิ้งผา้ ไวข้ า้ งหลงั ผเู้ ล่นคนใดคนหน่ึง แตเ่ ม่ือทิง้ ผา้ แลว้จะแกลง้ ทาเป็นยงั ไมท่ ิง้ โดยเดินวนไปอีก 1 รอบ หากผทู้ ี่ถูกทิ้งผา้ ไมร่ ู้ตวั \"มอญ\" จะหยบิ ผา้ มาตีหลงั ผเู้ ล่นคนน้นั แลว้ ตอ้ งกลายเป็น \"มอญ\" แทน แต่หากผเู้ ล่นรู้ตวั วา่ มีผา้ อยขู่ า้ งหลงั ก็จะหยบิ ผา้ มาวงิ่ ไล่ตี \"มอญ\"รอบวง \"มอญ\" ตอ้ งรีบกลบั มานงั่ แทนท่ีผเู้ ล่นคนน้นั แลว้ ผทู้ ี่วงิ่ ไล่ตอ้ งเปล่ียนเป็ น \"มอญ\" แทน

เดินกะลา ดูจะเป็นการละเล่นพ้ืนบา้ นท่ีหาดูไดไ้ ม่บ่อยนกั แต่หากเป็นสมยั ก่อนจะเห็นเดก็ ๆ เดินกะลา กนั ทวั่ ไปโดยผเู้ ล่นจะตอ้ งนากะลามะพร้าว 2 อนั มาทาความสะอาดแลว้ เจาะรูตรงกลาง ร้อยเชือกใหแ้ น่น เพือ่ ป้ องกนัไม่ใหเ้ ชือกหลุดเวลาเดิน เวลาเดินใหใ้ ชน้ ิ้วหวั แม่เทา้ กบั นิ้วช้ีคีบเชือกเอาไวแ้ ลว้ เดิน หากมีเดก็ ๆ หลายคนอาจจดั แขง่ เดินกะลา ไดด้ ว้ ยการกาหนดเส้นชยั ไวใ้ ครเดินถึงก่อนกเ็ ป็นผชู้ นะไป ประโยชน์ของการเดินกะลา กค็ อื ช่วยฝึ กการทรงตัว ความสมดุลของร่างกาย เพราะต้องระวงั ไม่ให้ตกกะลา ช่วงแรก ๆ อาจจะรู้สึกเจ็บเท้า แต่ถ้าฝึ กบ่อย ๆ จะชินและหายเจ็บไปเอง แถมยงั ทาให้ร่างกายแข็งแรงเพลดิ เพลนิ อกี ด้วย กาฟักไข่ เป็นอีกหน่ึงการละเล่นท่ีเคยไดย้ นิ ช่ือ แตห่ ลายคนไมท่ ราบกติกา โดยวธิ ีการเล่นกค็ ือ ใชอ้ ะไรกไ็ ด้ลกั ษณะกลม ๆ เท่าจานวนคนเล่น ยกเวน้ ผทู้ ่ีเป็นกา 1 คน มาสมมติวา่ เป็น \"ไข่\" แลว้ เขียนวงกลมลงบนพ้นื 2วง วงแรกเส้นผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ 4 ฟุต และอีกวงหน่ึงอยขู่ า้ งในวงแรก ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 1 ฟุต วาง\"ไข่\" ท้งั หมดไวใ้ นวงกลมเลก็ ใหค้ นใดคนหน่ึงเป็นกา ยืนในวงกลมวงใหญ่ หรือนง่ั คร่อมวงกลมเล็กนอกน้นั ทุกคนยนื รอบนอกวงกลมวงใหญ่ คอยแยง่ ไข่ คนเป็นกามีหนา้ ท่ีป้ องกนั ไข่ ไม่ใหถ้ ูกแยง่ ไป

กติกาของกาฟักไข่ กค็ ือคนขา้ งนอกตอ้ งแยง่ ไข่มาใหไ้ ด้ โดยใชแ้ ขนหรือมือเอ้ือมเขา้ ไป แตห่ า้ มนาตวัเขา้ ไปในวงกลม และตอ้ งระวงั ไมใ่ หอ้ ีกาถูกมือหรือแขนไดด้ ว้ ย หากแยง่ ไขอ่ อกมาไดห้ มดแลว้ ใหป้ ิ ดตากาแลว้ นาไข่ท้งั หมดไปซ่อน เพื่อใหก้ าตามหาไข่ หากพบไข่ท่ีผเู้ ล่นคนใดนาไปซ่อน ผนู้ ้นั จะตอ้ งเปล่ียนมาเป็นกาแทน งูกินหาง \"แม่งูเอ๋ยกินนา้ บ่อไหน...\" ประโยคคุน้ ๆ ของการเล่นงูกินหางท่ียงั ติดตรึงในความทรงจาของใครหลาย ๆ คน และเป็นท่ีนิยมของเด็กในทุกเทศกาล ทุกโอกาสอีกดว้ ย วธิ ีการเล่นงูกินหาง เริ่มจากเส่ียงทาย ใครแพต้ อ้ งไปเป็น \"พ่องู\" ส่วนผชู้ นะที่มีร่างกายแขง็ แรง ตวัใหญจ่ ะเป็น \"แม่งู\" ไวค้ อยปกป้ องเพื่อน ๆ คนอ่ืนท่ีเป็น \"ลกู งู\" จากน้นั \"ลูกงู\" จะเกาะเอวแมง่ ูและต่อแถวกนั ไว้ ยนื เผชิญหนา้ กบั \"พอ่ งู\" จากน้นั จะเขา้ สู่บทร้อง โดยพอ่ งูจะถามวา่พ่องู : \"แมง่ ูเอ๋ยกินน้าบอ่ ไหน\"แม่งู : \"กินน้าบ่อโสกโยกไปโยกมา\" (พร้อมแสดงอาการส่ายตวั ไปมา)พ่องู : \"แมง่ ูเอ๋ยกินน้าบ่อไหน\"แม่งู : \"กินน้าบ่อหินบินไปบินมา\" (พร้อมแสดงอาการบินไปบินมา)พ่องู : \"แม่งูเอ๋ยกินน้าบอ่ ไหน\"แม่งู : \"กินน้าบ่อทรายยา้ ยไปยา้ ยมา\" (พร้อมแสดงอาการส่ายตวั ไปมา) จากน้นั พอ่ งูจะพดู วา่ \"กนิ หวั กนิ หางกนิ กลางตลอดตวั \" แลว้ วง่ิ ไล่จบั ลูกงูท่ีกอดเอวอยู่ ส่วนแม่งูกต็ อ้ งป้ องกนั ไมใ่ หพ้ อ่ งูจบั ลูกงูไปได้ เม่ือลูกงูคนไหนถูกจบั จะออกจากแถวมายนื อยดู่ า้ นนอก เพ่อื รอเล่นรอบต่อไป หากพอ่ งูแยง่ ลูกไดห้ มด จะถือวา่ จบเกมแลว้ เร่ิมเล่นใหม่ โดยพอ่ งูจะกลบั ไปเป็นแมง่ ูตอ่ ในรอบต่อไป

ประโยชน์ของการเล่นงูกินหางกค็ ือ ทาใหผ้ เู้ ล่นเกิดความสามคั คี ทางานเป็นกลุ่ม รู้จกั ช่วยเหลือกนัและรู้จกั การต่อสู้เพ่อื เอาตวั รอด เม่ือภยั มาถึงตวั นอกจากน้ียงั ฝึกร่างกายใหแ้ ขง็ แรง และจิตใจเบิกบานสนุกสนานไปดว้ ย มา้ กา้ นกลว้ ย เป็นอีกหน่ึงการละเล่นที่แสดงถึงความมีภูมิปัญญาของคนไทยทีเดียว เพราะในสมยั ก่อนแทบทุกบา้ นจะปลูกตน้ กลว้ ยไวท้ ้งั น้นั ดงั น้นั ตน้ กลว้ ยจึงนามาประยกุ ตเ์ ป็นของเล่นใหเ้ ด็ก ๆ ไดอ้ ยา่ งดีทีเดียวโดยเฉพาะ มา้ กา้ นกลว้ ย ดูเหมือนจะถูกอกถูกใจเด็กชายวยั ซนมากท่ีสุด เพราะเดก็ ๆ จะนากา้ นกลว้ ยมาข่ีเป็นมา้ เพ่ือแขง่ ขนั กนั หรือทาเป็นดาบรบกนั ก็ได้ วธิ ีทาม้าก้านกล้วยกไ็ ม่ยาก เลือกตดั ใบกลว้ ยออกมาแลว้ เอามีดเลาะใบกลว้ ยออก แต่เหลือไวท้ ี่ปลายเล็กนอ้ ยใหเ้ ป็นหางมา้ เอามีดฝานแฉลบดา้ นขา้ งกา้ นกลว้ ยตรงโคนบาง ๆ เพื่อทาเป็นหูมา้ แลว้ หกั กา้ นกลว้ ยตรงโคนหูมา้ ออก จากน้นั กน็ าแขนงไมไ้ ผม่ าเส้ียมปลายใหแ้ หลม ความยาวประมาณคืบกวา่ ๆ เสียบหวั มา้ ที่พบั เอาไวจ้ นทะลุไปถึงกา้ น เพื่อใหเ้ ป็นสายบงั เหียนผกู ปากกบั คอมา้ นนั่ เอง เสร็จแลว้ ก็นาเชือกกลว้ ยมาผกูดา้ นหวั มา้ และหางมา้ ทาเป็ นสายสะพายบา่ แคน่ ้ีกไ็ ดม้ า้ กา้ นกลว้ ยไปสนุกกบั เพ่ือน ๆ แลว้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook