Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทบาทของครู @Dip 2562 จิตวิทยาการศึกษากับครู

บทบาทของครู @Dip 2562 จิตวิทยาการศึกษากับครู

Published by wasana.wit, 2019-06-15 00:30:21

Description: บทบาทของครู @Dip 2562 จิตวิทยาการศึกษากับครู

Search

Read the Text Version

จิตวิทยาการศึกษากบั ครู บทบาททส่ี าคญั ของครู คอื การเรยี นการสอนใน หอ้ งเรยี น ครนู บั วา่ เป็นตวั จกั รกลสาคญั นอกจาก คณุ สมบตั ดิ า้ นวชิ าการ คอื มคี วามรคู้ วามสามารถใน เน้ือหาวชิ าทส่ี อนแลว้

ครจู ะตอ้ งเป็นผทู้ ม่ี คี วามกระตอื รอื รน้ มคี วาม ตงั้ ใจ และปรารถนาทจ่ี ะเหน็ การพฒั นาการของ ผเู้ รยี น ความเจรญิ กา้ วหน้าของผเู้ รยี น เขา้ ใจถงึ วตั ถุประสงคข์ องแต่ละวชิ าและเขา้ ใจเป้าหมาย ของการศกึ ษาวา่ ตอ้ งการใหผ้ เู้ รยี นไปในทศิ ทาง ใด มวี ธิ กี ารอยา่ งไรจงึ จะบรรลุเป้าหมายได้

จติ วทิ ยาในการจดั การเรยี นการสอน ใหส้ อดคลอ้ งกบั ผเู้ รยี น 1. เดก็ อนุบาล เดก็ อายรุ ะหวา่ ง 3-5 ปี สตปิ ญั ญากาลงั พฒั นา อยากรอู้ ยากเหน็ อยากเลน่ และอยากกนิ ตลอดเวลา ถอื วา่ ตนเองเป็นใหญ่ เป็นศนู ยก์ ลางของสงั คม เอาแต่ใจ ตนเอง ขาดความมเี หตุผล ขาดความรสู้ กึ รบั ผดิ ชอบชวั่ ดี เดก็ บางคนจงึ อาจทารา้ ยหรอื แกลง้ เพอ่ื น ๆ ใหไ้ ดร้ บั อนั ตรายได้ ถา้ ครขู าดความระมดั ระวงั เทา่ ทค่ี วร

2. เด็กระดบั ประถมศกึ ษา เด็กอายุ 6-12 ปี เร่มิ เปลย่ี นพฤติกรรมจากยดึ ตนเองเปน็ ใหญม่ ายดึ สังคมเปน็ ใหญ่ คอื แคร์ต่อเพ่ือนๆ เด็กจะเริ่มเรียนรู้ เก่ียวกับจานวนต่างๆได้ สามารถแยกแยะประเภทของส่ิงเรา้ ได้ เชน่ วัตถุยาวกวา่ ส้ันกวา่ หนักกว่า ลกึ กวา่ ตื้นกว่าได้ และ สตปิ ญั ญาของเด็กจะเปลีย่ นจากช้นั เริม่ ฝกึ คิดมาเปน็ การคดิ อย่าง มีเหตุผล และคดิ แก้ปญั หาในสิ่งที่เปน็ รปู ธรรมงา่ ยๆได้

3. เด็กระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น (ม.1-ม. 3) เดก็ อายุ 13-15 ปี กาลงั จะเปลีย่ นระดบั สติปัญญา จากข้ันความคิดเชงิ รูปธรรมมาเป็นความคดิ เชงิ นามธรรม เด็กสามารถคดิ องคป์ ระกอบต่าง ๆ เชงิ นามธรรม ความน่าจะเป็น การสมมติเรอ่ื งราว การสรา้ ง จินตนาการและการคดิ อยา่ งมีเหตุผลได้

4. เดก็ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4-ม. 6) เดก็ อายุ 16-18 ปี สติปญั ญาจะพฒั นาไดด้ ีแลว้ ประมาณ 90% จงึ สามารถเรียนร้สู งิ่ ตา่ งๆ ทง้ั ท่ีเปน็ รปู ธรรม และนามธรรม ตลอดจนหลกั ปรชั ญา และ ตรรกศาสตร์ได้ นอกจากนยี้ ังเข้าใจกฎเกณฑ์ของสงั คม สามารถตัดสนิ ใจแกป้ ญั หา ทดลอง ทดสอบสมมตฐิ าน และข้อพสิ ูจน์ตา่ ง ๆ ได้

บทบาทของครอู นุบาล คอื การเตรยี มความพรอ้ มให้แกเ่ ดก็ สรา้ งบรรยากาศ ท่ีดีใหเ้ ปน็ ธรรมชาติ เสมอื นหนง่ึ ว่าโรงเรยี นเป็นบา้ น เป็นสถานท่ที ่องเทย่ี ว มีของเลน่ มีเพื่อน ได้ออกกาลงั กาย ได้แสดงออก ครจู ะตอ้ งหาทางสนองความตอ้ งการของเดก็ ตามลักษณะความสนใจ และสรา้ งบรรยากาศท่ีเปน็ กันเอง

จดั การเรยี นรเู้ ป็นเรยี นปนเลน่ จดั บทเรยี น ใหส้ นุกสนาน มกี ารฝึกสรา้ งวนิ ยั ในตนเองและกลุ่ม เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ ๆ ไดแ้ สดงออกตามความสามารถ และความสนใจ ฝึกใหร้ จู้ กั การยอมรบั การให้ การเสยี สละ การเออ้ื อาทรตอ่ เพอ่ื น ๆ และมารยาท ในสงั คม

บทบาทของครปู ระถมศึกษา ควรจดั ใหเ้ ดก็ ไดร้ บั ประสบการณ์ตรง ไดท้ ากจิ กรรมต่าง ๆ ใหไ้ ดเ้ รยี นรดู้ ว้ ยตนเองตาม ลกั ษณะการอยากรอู้ ยากเหน็ ของเดก็ โดยเรม่ิ จาก กจิ กรรมและบทเรยี นทง่ี า่ ย ๆ และยากขน้ึ ตามลาดบั

เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ ไดแ้ สดงออกซึ่งความสามารถ และ ความเด่นของเดก็ อาจใชเ้ กม 20 คาถาม ประกอบการสอนตามความเหมาะสม แบ่งนกั เรียนเปน็ กลุ่มหรอื เป็นศนู ยก์ ารเรยี น โดยใหน้ ักเรยี นเป็นกล่มุ ตาม ธรรมชาติ คือ ประกอบด้วยนักเรยี นหญงิ และนักเรียน ชาย นกั เรียนที่เกง่ ปานกลาง และอ่อนคละกนั ไป

บทบาทของครมู ธั ยมศึกษาตอนต้น ควรกระตุน้ ใหเ้ ดก็ คดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ อภปิ ราย และแสดงความคดิ เหน็ ฝึกใหเ้ ขยี นรายงาน ใหเ้ ขยี น เรยี งความ ใหศ้ กึ ษาคน้ ควา้ ใหท้ ดลองเพอ่ื สนองตอบ ตอ่ ความอยากรอู้ ยากเหน็

การสรา้ งจนิ ตนาการและสง่ เสรมิ ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรคแ์ ละการฝึกใหค้ ดิ หาเหตุผลทส่ี อดคลอ้ งกบั ลกั ษณะของบทเรยี น ในขณะเดยี วกนั กส็ ง่ เสรมิ ความมี อสิ รภาพของเดก็ ใหเ้ ดก็ ชว่ ยกนั สรา้ งระเบยี บและ กฎเกณฑข์ องกลุ่ม และของหอ้ งเรยี น

บทบาทของครมู ธั ยมศึกษาตอนปลาย ในการจดั การเรยี นการสอนควรฝึกทกั ษะในการคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ การอภปิ ราย และ แสดงความคดิ เหน็ ฝึกใหม้ แี รงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธิ ์คดิ เป็น ทาเป็น และ แกป้ ญั หาเป็น ฝึกการศกึ ษาคน้ ควา้ ใหเ้ กดิ แรงจงู ใจใฝร่ ู้ เพอ่ื สรา้ งความเชอ่ื มนั่ ใหแ้ กต่ นเอง ฝึกการทางานเป็นทมี การแขง่ ขนั และการสรา้ งภาวะผนู้ า

ประการสาคญั คอื สอนใหเ้ ดก็ เขา้ ใจอยา่ งแจม่ แจง้ จะเป็น ประสบการณ์ทถ่ี าวรตดิ ตวั เดก็ ตลอดไป ซง่ึ จากการวจิ ยั พบวา่ การบงั คบั ใหเ้ ดก็ เรยี นจะทาใหเ้ ดก็ เขา้ ใจบทเรยี น อยา่ งผวิ เผนิ แต่ความเขา้ ใจทแ่ี ทจ้ รงิ จะเกดิ ขน้ึ ไดเ้ มอ่ื เดก็ เกดิ ความเขา้ ใจดว้ ยตนเอง

บทสรปุ บคุ คลมกี ารเรยี นรจู้ ากสภาพแวดลอ้ ม และ ชวี ติ ประจาวนั จะเรยี นรจู้ ากงา่ ยไปหายากตามลาดบั โดยใชก้ ระบวนการทางปญั ญา บุคคลมวี ธิ กี ารเรยี นรู้ และแกป้ ญั หาในรปู แบบทแ่ี ตกต่างกนั กระบวนการ เรยี นการสอนจะสมั ฤทธผิ ลไดเ้ มอ่ื ครสู อนดี และ นกั เรยี นตงั้ ใจเรยี นดี ท่ีมา : https://section05.files.wordpress.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook