Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 013-ปภังกร-รายงาน

013-ปภังกร-รายงาน

Published by sgfs fdsf, 2023-06-19 06:45:43

Description: 013-ปภังกร-รายงาน

Search

Read the Text Version

รายงาน วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี (รหัสวชิ า 20001-2001) เรือ่ ง ความร้เู บอ่ื งต้นเก่ียวกบั อินเทอร์เน็ต จัดทาโดย นายปภังกร น่มุ ดี รหสั ประจาตัวนักเรยี น(65201040013) ระดับชั้นปวช.2/1 สาขาวชิ าช่างไฟฟ้ากาลงั เสนอ คณุ ครนู ิจยา อินทรป์ ระสิทธิ์ รายงานน้เี ปน็ ส่วนหนึ่งของรายวชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ (รหสั วิชา 20001-2001) หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 วทิ ยาลัยเทคนิคท่าหลวง จังหวัดลพบรุ ี

รายงาน วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี (รหัสวชิ า 20001-2001) เรือ่ ง ความร้เู บอ่ื งต้นเก่ียวกบั อินเทอรเ์ น็ต จัดทาโดย นายปภังกร น่มุ ดี รหสั ประจาตัวนักเรยี น(65201040013) ระดับชั้นปวช.2/1 สาขาวชิ าช่างไฟฟ้ากาลงั เสนอ คณุ ครนู ิจยา อินทรป์ ระสิทธ์ิ รายงานน้เี ปน็ ส่วนหนึ่งของรายวชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ (รหสั วิชา 20001-2001) หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 วทิ ยาลัยเทคนิคท่าหลวง จังหวัดลพบรุ ี

ก คำนำ รายงานนี้เป็นส่วนหน่ึงของวิชา (20001-2001) การวัดประเมิณการเรียนรู้ และณภาพของ ผู้เรียนโดยมีจุดมุ่งหมายหลักของวิชา เข้าใจหลักการและกระบวนการ ใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศเพ่ืองานอาชีพการใช้ระบบปฏิบัติการโปรแกรมสาเร็จรูปและอินเทอร์เน็ตเพ่ืองานอาชีพ สามรถใช้ระบบปฏบิ ัตกิ ารคอมพิวเตอร์ โปรแกรมสาเรจ็ รปู และเทคโนโลยสี ารสนเทศตามลักษณะงาน อาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศในงาน อาชีพ ผู้จัดทาขอขอบคุณ คุณครูนิจยา อินทร์ประสิทธิ์ อาจารย์ประจาวิชาคอมพิวเตอร์และ สารสนเทศเพื่องานอาชีพ ผู้ให้ความร้แู ละแนวทางการศกึ ษา ผู้จัดทาหวงั เป็นอย่างย่ิงว่า รายงามเล่มนี้ จะเป็นประโยชนแ์ ก่ผ้ทู ่ีศกึ ษาและเป็นการต่อยอดใหผ้ ู้ที่สนใจสามารถนาไปศกึ ษาต่อไดใ้ นอนาคต ผูจ้ ดั ทา นายปภงั กร นุ่มดี

สำรบญั ข เรื่อง หน้ำ ความรูเ้ บือ้ งต้นเกย่ี วกับอนิ เทอรเ์ น็ต 1 เชอ่ื มต่ออนิ เทอรเ์ นต็ อปุ กรณท์ ่ีจาเปน็ ในการเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ 2 โทษอินเทอรเ์ นต็ 3 บญั ญตั ิ 10 ประการของการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ 4 จานวนผ้ใู ช้บริการอนิ เทอร์เนต็ ในประเทศไทย 5 Domain name 8 องคป์ ระกอบของ e-mail address ประกอบดว้ ย 9 บรรณานกุ รม 12

1 เนื้อเรื่อง ความรเู้ บือ้ งตน้ เกีย่ วกบั อินเทอร์เน็ต ความหมายและความเป็นมาความหมาย อินเทอร์เนต็ (องั กฤษ: Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ท่ีมีการเช่ือมตอ่ ระหวา่ ง เครือข่ายหลายๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโท คอล (Protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลายๆ ทาง เช่น อีเมล เว็บบอร์ด และ สามารถสบื คน้ ข้อมลู และขา่ วสารตา่ ง ๆ รวมท้ังคัดลอกแฟม้ ขอ้ มลู และโปรแกรมมาใชไ้ ด้ ทมี่ า อินเทอร์เน็ตเกิดข้ึนในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) จากการเกิดเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency NETwork) ซึ่งเป็นเครือข่ายสานักงานโครงการวิจัยชั้นสูงของ กระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการสร้างเครือข่ายคือ เพื่อให้ คอมพิวเตอร์สามารถเช่ือมต่อ และมีปฏิสัมพันธ์กันได้ เครือข่าย ARPANET ถือเป็นเครือข่ายเริ่มแรก ซ่งึ ต่อมาได้ถกู พฒั นาใหเ้ ป็นเครือข่าย อนิ เทอร์เนต็ ในปัจจบุ ัน จานวนผใู้ ชง้ านอินเทอร์เนต็ ท่ัวโลก ปจั จุบนั จานวนผู้ใชอ้ ินเทอร์เน็ตท่ัวโลกโดยประมาณ 2.095 พันล้านคน หรือ 30.2 % ของ ประชากรทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือน มีนาคม 2554) โดยเม่ือเปรียบเทียบในทวีปต่างๆ พบว่าทวีปท่ีมี ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือ เอเชีย โดยคิดเปน็ 44.0 % ของผู้ใชอ้ ินเทอร์เน็ตทั้งหมด และประเทศท่ี มปี ระชากรผ้ใู ชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ มากทสี่ ุดคือประเทศจีน คิดเปน็ จานวน 384 ลา้ นคน หากเปรียบเทียบจานวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกับจานวนประชากรรวม พบว่าทวีปอเมริกาเหนือมีสัดส่วน ผู้ใช้ต่อประชากรสูงท่ีสุดคือ 78.3 % รองลงมาได้แก่ ทวีปออสเตรเลีย 60.1 % และ ทวีปยุโรป คิด เปน็ 58.3 % ตามลาดบั จานวนผ้ใู ช้งานอนิ เทอรเ์ น็ตในประเทศไทยจานวนผูใ้ ช้อนิ เทอร์เน็ตในประเทศ ไทยจานวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงดังน้ี ปี 2534 (30คน) ปี 2535 (200 คน) ปี 2536 (8,000 คน) ปี 2537 (23,000 คน) ... ข้อมูลล่าสุดของสานักงานสถิตแิ ห่งชาติ ปี 2551 จากจานวนประชากรอายุ 6 ปีข้ึนไปประมาณ 59.97 ล้านคน พบว่า มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์ 16.99 ล้าน คน คิดเป็น ร้อยละ 28.2 และมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 10.96 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 18.2อินเทอร์เน็ตใน ประเทศไทยอนิ เทอร์เน็ตในประเทศไทยเร่ิมขนึ้ เมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยการเชือ่ มต่อมนิ ิคอมพวิ เตอร์ของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แต่ในครั้งน้ันยงั เป็นการ เชื่อมตอ่ โดยผ่านสายโทรศัพท์ ซ่ึงสามารถสง่ ขอ้ มูลได้ช้า และไม่เป็นการถาวร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ (NECTEC) ได้ทาการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัย 6 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ( NECTEC), มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าด้วยกันเรียกว่า \"เครือข่ายไทยสาร\" การให้บริการอินเทอร์เน็ตใน

2 ประเทศไทยได้เร่ิมตน้ ขึน้ เป็นคร้ังแรกเมอื่ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2538 โดยความร่วมมือของรัฐวิสาหกจิ 3 แห่ง คือ การส่ือสารแห่งประเทศไทย องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และสานักงานส่งเสริม วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยให้บริการในนาม บริษัท อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย (Internet Thailand) เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์รายแรกของประเทศไทยอุปกรณ์ที่ใช้ เชอื่ มตอ่ อนิ เทอร์เนต็ อปุ กรณท์ ่ีจาเปน็ ในการเช่ือมต่อเครือข่ายอินเทอร์เนต็ 1. คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่รับข้อมูลต่างๆ ไปจากอินเตอร์เน็ตสาหรับคอมพิวเตอร์ท่ี เหมาะสมกับการเช่ือมต่ออินเตอร์เน็ต ถ้าเป็นเครื่อง PC ควรจะใช้เครื่องในระดับ Pentium ท่ีมี ระบบปฏิบัติการ ต้ังแต่ Windows 95 ขึ้นไป แต่ถ้าเป็นเคร่ืองแมคอินทอชน้ันควรใช้ System 7 ขึ้นไป และควรมีหนว่ ยความจาต้ังแต่16MB ขึ้นไป 2. โมเดม็ (Modem) เปน็ อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นการแปลงสญั ญาณดจิ ิตอลจากคอมพิวเตอรใ์ ห้เปน็ สัญญาณอนาล็อก ผ่านคู่สายโทรศัพท์ และจะแปลงสัญญาณกลับอีกครั้งให้กับคอมพิวเตอร์ โมเด็มที่ เหมาะสาหรบั การใชง้ านอินเตอร์เนต็ ควรมีความเรว็ ตง้ั แต่ 33.6 Kbps ขนึ้ ไป 3. โทรศัพท์ ในการเช่ือมต่อช่องอินเตอร์เน็ตน้ันจะต้องมีคู่สายโทรศัพท์อย่างน้อย 1 เลข หมาย เพอ่ื เชอื่ มต่อจากเครอื่ งคอมพวิ เตอรข์ องเราไปยงั ผู้ใหบ้ ริการอินเตอร์เน็ต 4. ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (Internet Service Provider) หรือ ISP คือผู้ท่ีเชื่อมต่อสัญญาณ อนิ เตอร์เนต็ จากประเทศไทยไปยังเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ นต็ ต่างประเทศหลักการเลือกผ้ใู หบ้ ริการ ISP 1. จานวนคสู่ ายโทรศัพท์ที่มีให้บรกิ ารแกส่ มาชกิ 2. ความเร็วของสายสญั ญาณ และขนาดความกวา้ งของช่องสัญญาณทต่ี อ่ ไปยัง ต่างประเทศ ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตปัจจุบันอินเทอร์เน็ต มีความสาคัญต่อชีวิตประจาวันของคนเรา หลายๆ ดา้ น ทง้ั การศึกษา พาณิชย์ ธรุ กรรม วรรณกรรม และอื่นๆ ดงั น้ี ดา้ นการศึกษา - สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการ บันเทิง ดา้ นการแพทย์ และอื่น ๆ ที่นา่ สนใจ - ระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต จะทาหนา้ ทเี่ สมือนเปน็ หอ้ งสมดุ ขนาดใหญ่ - นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอรเ์ น็ต ตดิ ต่อกับมหาวทิ ยาลัยอืน่ ๆ เพื่อคน้ หา ข้อมูลท่ีกาลงั ศกึ ษาอยไู่ ด้ ทง้ั ทข่ี ้อมลู ทีเ่ ป็น ขอ้ ความ เสียง ภาพเคลอื่ นไหวตา่ ง ๆ เป็นตน้ ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ - คน้ หาข้อมลู ตา่ ง ๆ เพื่อชว่ ยในการตดั สินใจทางธรุ กิจ - สามารถซือ้ ขายสนิ ค้า ผา่ นระบบเครอื ขา่ ยอินเทอร์เนต็ - ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ ได้ เช่น การใหค้ าแนะนา สอบถามปญั หาตา่ ง ๆ ให้แกล่ กู ค้า แจกจ่าย ตวั โปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรอื โปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็นต้น ดา้ นการบนั เทิง

3 - การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ต ท่ีเรียกว่า Magazine online รวมทั้งหนังสือพิมพแ์ ละข่าวสารอ่นื ๆ โดยมีภาพประกอบ ที่จอคอมพวิ เตอร์เหมือนกับวารสาร ตามรา้ นหนังสอื ท่ัว ๆ ไป - สามารถฟงั วทิ ยผุ า่ นระบบเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตได้ - สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้ จากเหตผุ ลดังกลา่ ว พอจะสรุปไดว้ ่า อินเทอร์เน็ต มีความสาคัญ ในรูปแบบ ดงั นี้ โทษของอินเทอร์เน็ต 1. โรคติดอินเทอรเ์ น็ต (Webaholic) อาการของโรคติดอนิ เทอรเ์ น็ต มีดังนี้ - ร้สู ึกหมกมุน่ กับอนิ เทอรเ์ นต็ แม้ในเวลาท่ไี มไ่ ด้ต่อกับอินเทอร์เนต็ - มคี วามต้องการใช้อินเทอร์เนต็ เป็นเวลานานข้ึน - ไม่สามารถควบคมุ การใชอ้ นิ เทอร์เน็ตได้ - รูส้ ึกหงุดหงดิ เมื่อต้องใช้อนิ เทอร์เนต็ นอ้ ยลงหรอื หยุดใช้ - ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นวิธีในการหลีกเลี่ยงปัญหาหรือคิดว่าการใช้อินเทอร์เน็ตทาให้ตนเอง รู้สกึ ดขี ึ้น - หลอกคนในครอบครวั หรือเพอ่ื น เร่ืองการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตของตวั เอง - การใชอ้ ินเทอร์เน็ตทาให้เกิดความเส่ียงต่อการสญู เสียงาน การเรียนและความสัมพันธย์ ัง ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ถึงแมว้ า่ ต้องเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยมาก - มอี าการผดิ ปกติ อยา่ งเช่น หดหู่ กระวนกระวายเม่ือเลกิ ใช้อินเทอร์เน็ต - ใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตนานกว่าทตี่ ัวเองตัง้ ใจไว้ 2. เรื่องอนาจารผดิ ศลี ธรรม ปัจจุบัน เร่ืองของข้อมูลต่างๆ ท่ีมีเน้ือหาขัดต่อศีลธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊ เปลือย รวมทั้งคลิปวีดิโอต่าง ๆ เป็นที่โจ่งแจ้งบนอินเทอร์เน็ตและสิ่งเหล่าน้ีสามารถเข้าสู่เด็กและ เยาวชน ไดง้ ่ายโดยผู้ปกครองไม่สามารถที่จะให้ความดแู ลได้เต็มท่ี เพราะวา่ อนิ เทอร์เน็ตน้ันเป็นโลกที่ ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทาให้ส่ือเหล่านี้ สามารถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเราไม่สามารถจับกุมหรือ เอาผิด ผ้ทู ที่ าส่ิงเหลา่ นข้ี ้ึนมาได้ 3. ไวรัส ม้าโทรจนั - ไวรัส เป็นโปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธ์โดยการจาลองตวั เองให้มากข้ึนเร่ือยๆ เพ่ือที่จะ ทาลายข้อมูล หรืออาจทาให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทางานช้าลงโดยการแอบใช้สอยหน่วยความจาหรือ พ้นื ท่ีวา่ งบนดิสกโ์ ดยพลการ - ม้า โทรจัน เป็นตานานนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้แล้วแอบเข้าไปในเมืองจนกระทั่งยึด มืองได้สาเร็จ โปรแกรมน้ีจะทาหน้าที่ไม่พึงประสงค์มันจะซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรมที่ไม่ได้รับ อนุญาต มันมักจะทาในสิ่งทเ่ี ราไม่ตอ้ งการและส่งิ ท่มี นั ทานั้นไม่มีความจาเปน็ ตอ่ เรา ดว้ ย

4 - หนอนอินเทอร์เน็ต ถูกสร้างข้ึนโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก มันอ โปรแกรมท่ีจะแพร่พันธ์โดยการจาลองตวั เองมากข้ึนเรื่อยๆ จากระบบหน่ึงครอบครองทรัพยากรและ ทาใหร้ ะบบช้าลง บัญญัติ 10 ประการของการใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต 1.ตอ้ งไม่ใชค้ อมพิวเตอร์ทารา้ ย หรอื ละเมิดผอู้ ่นื 2.ต้องไม่รบกวนการทางานของผูอ่นื 3.ตอ้ งไมส่ อดแนม แกไ้ ข หรอื เปิดดูแฟ้มขอ้ มูลของผอู ่ืน 4.ต้องไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์เพ่ือการโจรกรรมขอ้ มูลข่าวสาร 5.ต้องไมใ่ ช้คอมพวิ เตอรส์ ร้างหลักฐานท่ีเป็นเทจ็ 6.ตอ้ งไมค่ ดั ลอกโปรแกรมของผูอ้ ่ืนท่มี ีลิขสิทธ์ิ 7.ตอ้ งไม่ละเมิดการใช้ทรพั ยากรคอมพวิ เตอร์ โดยที่ตนเองไมม่ สี ิทธิ์ 8.ตอ้ งไมน่ าเอาผลงานของผ้อู น่ื มาเปน็ ของตน 9.ตอ้ งคานงึ ถึงสิง่ ทีจ่ ะเกดิ ขึน้ กบั สังคม ที่เกดิ จากการกระทาของทา่ น 10.ต้องใชค้ อมพวิ เตอรโ์ ดยเคารพกฎระเบียบ กติกา และมมี ารยาท หน่วยงานท่ีมีบทบาทในอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย ISP คง เป็นหน่วยงานแรกที่หลาย ๆ คนคง คิดถึงเม่ือนึกถึงหัวข้อนี้ รองลงไปก็คงเป็นเนคเทค ซึ่งก็ถือว่าเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสาคัญต่อ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตของประเทศ ไทย แต่ก็ยังมีหน่วยงานอื่นอีกหลายหน่วย ดังนี้ การสื่อสารแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ผูกขาดบริการวงจรส่ือสารระหว่างประเทศ ผู้ให้ใบอนุญาต และถอดถอนสิทธิการให้บริการของ ISP รวมท้ังเป็นหุ้นส่วนของ ISP ทุกราย(32%) รวมทั้งเป็นผู้ ให้บริการจดุ แลกเปลยี่ นสัญญาณภายในประเทศ ISP - Internet Service Providers หรอื ผใู้ ห้บรกิ าร อนิ เทอรเ์ นต็ เชงิ พาณชิ ย์ทัง้ 17 ราย (พ.ย. 2545) ในฐานะผู้ให้บรกิ ารอินเทอรเ์ นต็ แกบ่ ุคคลและองค์กร ต่างๆผใู้ ห้บริการอนิ เทอร์เน็ตแบบไมห่ วังกาไร เชน่ SchoolNet ทีใ่ หบ้ รกิ ารโรงเรยี นต่างๆ ทว่ั ประเทศ , ThaiSarn ผู้ให้บริการเชิงวิจัยสาหรับสถานศึกษา, UniNet เครือข่ายของทบวงมหาวิทยาลัย, dNet เครือข่ายของกระทวงศึกษาธิการ และ GINet เครือข่ายรัฐบาลTHNIC ในฐานะผู้ให้บริการจด ทะเบียนชื่อโดเมนสัญชาติไทย (.th) และผู้ดูและบบบริการสอบถามช่ือโดเมนสัญชาติไทย ซึ่งเป็น หน่วยงานภายใต้การดูแลของ AITNECTEC หรือศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ ในฐานหน่วยงานวิจัย ค้นคว้า และพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสาร ข้อมูล และในฐานะผู้ให้บริการจุดแลกเปลี่ยนสัญญาณภายในประเทศ ผู้ดูแลเครือข่าย Thaisarn, SchoolNet, GINet และในฐานะคณะอนุกรรมการด้านนโยบายอินเทอร์เน็ตสาหรับประเทศไทย ผู้ให้บริการวงจรสื่อสารภายในประเทศ ซ่ึงมีหลายรายเช่น การสื่อสารแห่งประเทศไทย, บริษัท ทศท คอร์ปอเรช่ัน จากัด (มหาชน) และบริษัทเอกชนอ่ืนๆแนวโน้มการใช้อินเทอร์เน็ตกรุงเทพฯ 19 ก.ย.- บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จากัด วิเคราะห์การใช้บริการอินเทอร์เน็ตของคนไทย ซ่ึงมีแนวโน้ม ขยายตัวอย่างต่อเน่ือง จากประมาณ 7.6 ล้านราย ในปี 2548 จะเพ่ิมขึ้นเป็น 10.1 ล้านราย ในปี

5 2551 หรือขยายตวั ร้อยละ 10 ต่อปี ขณะเดยี วกันการใช้อินเทอร์เน็ตจะขยายตัวไปยังภูมิภาคมากขึ้น เพราะการขยายพ้ืนที่บริการและค่าบริการท่ีต่าลงศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าจานวนผู้ใช้บริการ อินเทอรเ์ น็ตในประเทศไทยเพม่ิ ขึ้นอยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไปในระยะหลัง โดยการเข้าถึงเทคโนโลยี จานวนผูใ้ ชบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ตในประเทศไทย อินเทอร์เน็ตมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 12 ของจานวนประชากรท้ังประเทศหรือประมาณ 7.6 ล้าน ราย ในปี 2548 แม้ว่าการเติบโตของจานวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะชะลอตัวลง แต่ปริมาณการใช้ อินเทอร์เน็ตมีอัตราขยายตัวเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเน่ือง ความกว้างของช่องสัญญาณรับส่งข้อมูลขยายตัว เพ่ือรองรับกับความต้องการ ในขณะที่เทคโนโลยีการเชื่อมต่อได้รับการพัฒนาให้มีความเร็วมากขึ้น โดยการขยายบริการจากอินเทอร์เน็ตความเร็วปกติไปสู่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งเริ่มมีผู้ใช้บริการ มากขึ้น นอกจากน้ี ราคาค่าบริการอินเทอร์เน็ตก็มีแนวโน้มตา่ ลงกว่าเดิม ประกอบกับการพฒั นาคอน เทนท์หรือเน้ือหาท่ีมีความหลากหลายด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สาหรับธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ต เปล่ียนแปลงรูปแบบของการประกอบธุรกิจภายหลงั จากทค่ี ณะกรรมการกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ (กทช.) ได้เร่มิ ให้ใบอนุญาตใหม่แก่ผปู้ ระกอบการยิ่งเปน็ การกระตนุ้ ให้ภาพรวมของบรกิ ารอนิ เทอร์เน็ต มีความชัดเจนมากข้ึนศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มของบริการอินเทอร์เน็ตในระยะปาน กลางนับจากน้ี (ปี 2549-2551) ในเร่ืองจานวนผู้ใช้บริการใน 3 ปีข้างหน้า จะขยายตัวอย่างต่อเน่ือง โดยผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยจะสูงถึงประมาณ 10.1 ล้านคน ในปี 2551 มีอัตราการ เตบิ โตประมาณร้อยละ 10 ต่อปี และมีแนวโน้มเคล่อื นตัวไปในภมู ิภาคมากขนึ้ เพราะการขยายตวั ของ พื้นที่ให้บริการและราคาค่าบริการท่ีมีแนวโน้มต่าลง กลุ่มท่ีใช้อินเทอร์เน็ตมากยังคงเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษาและกลุ่มคนทางาน คิดเปน็ ร้อยละ 60-70 ของผู้ใชท้ ้ังหมด โดยเป้าหมายของการใช้จะมุ่งไป ที่อนิ เทอร์เน็ตสาหรับการเรียน ค้นควา้ และการสื่อสาร จานวนผู้ให้บริการมีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน จากการ ให้ใบอนุญาตประกอบการใหม่ของ กทช. ทดแทนสัญญาการให้บริการซ่ึงไอเอสพี จานวน 18 ราย ท่ี ทาไว้กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จากัด (มหาชน) ซ่ึงหมดอายุลงในปี 2548-2553นอกจากน้ี การ เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีโดยเฉพาะในส่วนของความเร็วในการเช่ือมต่ออนิ เทอร์เน็ตความเร็วสูงจะ กลายเปน็ การเชอ่ื มตอ่ ทไี่ ด้รบั ความนิยมเพ่ิมขึน้ การประยกุ ต์ใชบ้ รกิ ารอินเทอรเ์ นต็ ทั้งดา้ นการคา้ ดา้ น การส่ือสาร ด้านการศึกษา และด้านความบันเทิง การเติบโตของเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อการ ขยายตัวของการใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศได้และราคาค่าบริการท่ีต่าลง รวมท้ังความครอบคลุมของ เครือข่ายท่ีมากข้ึน อีกท้ังมีมาตรการในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีของภาครัฐให้เกิดการแข่งขัน อย่างเสรีและเป็นธรรม ส่งเสริมให้เกิดการบริหารและจัดการแก่ธุรกิจบริการมีต้นทุนการให้บริการที่ ต่า นอกจากนี้ ยังจาเป็นต้องส่งเสริมการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพ่ือให้เครือข่ายให้บริการ ครอบคลุมและท่ัวถึง และมีราคาที่เป็นธรรมท่ัวประเทศ ย่อมทาให้บริการอินเทอร์เน็ตเติบโตและ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศได้อย่างเต็มที่อินเทอร์เน็ต ประวัติอินเทอร์เน็ต ประโยชน์และการใช้ งานอินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ขนาดใหญ่ทีส่ ุดของโลก โดยจะเป็นการ เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องจากท่ัวโลกมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ซ่ึงช่วยให้สามารถ

6 ติดต่อส่ือสารและแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างกันได้ท่ัวโลก ในการติดต่อกันระหว่างเคร่ืองคอมพิวเตอร์ จาเป็นต้องมีการระบุว่า ส่งมาจากไหน ส่งไปให้ใครซึ่งต้องมีการระบุ ช่ือเครื่อง (คล้ายกับเลขท่ีบ้าน) ในอินเทอร์เน็ตใช้ข้อตกลงในการติดต่อท่ีเรียกว่า TCP/IP (ข้อตกลงที่ทาให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันได้) ซึ่งจะใช้ส่ิงท่ีเรียกค่า “ไอพี-แอดเดรส” (IP-Address) ในการระบุช่ือเคร่ืองจะไม่มีเบอร์ท่ีซ้ากันได้ อินเทอร์เน็ต ระบบการเช่ือมต่อของอินเทอร์เน็ตประวัติของอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตกาเนิดขึ้นครั้ง แรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เม่ือ พ.ศ. 2512 โดยองค์กรทางทหาร ของสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า ยู.เอส. ดีเฟนซ์ ดีพาร์ทเมนท์ ( U.S. Defence Department ) เป็นผู้คิดค้นระบบข้ึนมา มีวัตถุประสงค์ คือ เพ่ือให้มีระบบเครือข่ายท่ีไม่มีวันตายแม้จะมีสงคราม ระบบการสื่อสารถูกทาลาย หรือตัดขาด แต่ ระบบเครือข่ายแบบน้ยี ังทางานไดซ้ ง่ึ ระบบดังกล่าวจะใช้วิธีการส่งข้อมูลในรูปของคล่นื ไมโครเวฟ ฝ่าย วิจัยขององค์กรจึงได้จัดต้ังระบบเน็ตเวริกข้ึนมา เรียกว่า ARPAnet ย่อมาจากคาว่า Advance Research Project Agency net ซ่ึงประสบความสาเร็จและได้รับความนิยมในหมู่ของหน่วยงาน ทหาร องค์กร รฐั บาล และสถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ เปน็ อย่างการเชื่อมต่อในภาพแรกแบบเดิม ถ้า ระบบเครือข่ายถูกตัดขาด ระบบก็จะเสียหายและทาให้การเชื่อมต่อขาดออกจากกัน แต่ในเครือข่าย แบบใหม่ แม้ว่าระบบเครือข่ายหนึ่งถูกตัดขาด เครือข่ายก็ยังดาเนินไปได้ไม่เสียหาย เพราะโดยตัว ระบบก็หาช่องทางอ่ืนเช่ือมโยงกันจนได้ในระยะแรก เมื่อ ARPAnet ประสบความสาเร็จ ก็มีองค์กร มหาวิทยาลัยต่างๆ ให้ความสนใจเข้ามาร่วมในโครงข่ายมากขึ้น โดยเน้นการรับส่งจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Mail ) ระหว่างกันเป็นหลัก ต่อมาก็ได้ขยายการบริการไปถึงการส่ง แฟ้มข้อมูลข่าวสารและส่งข่าวสารความรู้ท่ัวไป แต่ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิชย์ เน้นการให้บริการด้าน วิชาการเป็นหลักปี พ.ศ. 2523 คนท่ัวไปเร่ิมสนใจอินเทอร์เน็ตมากข้ึน มีการนาอินเทอร์เน็ตมาใช้ใน เชิงพาณิชย์ มีการทางธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ก็เข้าร่วมเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มากข้ึนอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยประเทศไทยได้เร่ิมติดต่อกับอินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2530 ใน ลักษณะการใช้บริการ จดหมายเล็กทรอนิกส์แบบแลกเปล่ียนถุงเมล์เป็นคร้ังแรก โดยเร่ิมท่ี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ( Prince of Songkla University ) และสถาบัน เทคโนโลยแี หง่ เอเชียหรือสถาบันเอไอที ( AIT ) ภายใตโ้ ครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและ ออสเตรเลีย ( โครงการ IDP ) ซ่ึงเป็นการติดต่อเช่ือมโยงโดยสายโทรศัพท์ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2531 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตหาดใหญ่ ได้ย่ืนขอท่ีอยู่อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยได้รับ ที่อยอู่ ินเทอร์เนต็ Sritrang.psu.th ซึ่งนับเปน็ ท่อี ย่อู ินเทอรเ์ น็ตแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาปี พ.ศ. 2534 บริษัท DEC ( Thailand ) จากัดได้ขอท่ีอยู่อินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ประโยชน์ภายในของบริษัท โดย ได้รับท่อี ยู่อนิ เทอรเ์ น็ตเปน็ dect.co.th โดยท่ีคา “th” เป็นส่วนท่ีเรียกวา่ โดเมน ( Domain ) ซ่งึ เป็น ส่วนท่ีแสดงโซนของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยย่อมาจากคาว่า Thailandการใช้งาน อนิ เทอร์เน็ตชนิดเตม็ รูปแบบตลอด 24 ชั่วโมงในประเทศไทยเกิดข้ึนเป็นคร้ังแรกเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535 กล่าวได้ว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตชนิดเต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง ในประเทศไทย เกิดข้ึนเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535 โดยสถาบันวิทย์ บริการ จุฬาลงกรณ์

7 มหาวิทยาลัยได้เช่าวงจรส่ือสารความเร็ว 9600 บิตต่อวินาที จากการส่ือสารแห่งประเทศไทยเพื่อ เช่ือมเข้าสู่อนิ เทอร์เน็ตที่บริษัท ยูยูเน็ตเทคโนโลยี ( UUNET Technologies ) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีเดียวกัน ได้มีหน่วยงานที่เช่ือมต่อแบบออนไลน์กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย หลายแห่งด้วยกัน ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ( AIT ) มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ โดยเรียกเครือข่ายนี้ว่าเครือข่าย “ไทยเน็ต” ( THAInet ) ซ่ึง นับเป็นเครือข่ายที่มี “ เกตเวย์ “ ( Gateway ) หรือประตูสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นแห่งแรกของ ประเทศไทย ปจั จุบนั ได้มีผู้รู้จักและใช้อนิ เทอร์เน็ตมากข้ึน มีอตั ราการเติบโตมากกวา่ 100 % สมาชิก ของอนิ เทอรเ์ น็ตขยายจากอาจารยแ์ ละนิสิตนักศึกษาในระดบั อดุ มศกึ ษาไปสู่ประชาชนท่วั ไปในยคุ แห่ง สังคมข่าวสารเช่นปัจจุบัน การสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ย่ิงทวีความสาคัญมาก ข้ึนเป็นลาดับ เครือข่าคอมพิวเตอร์ให้แลกเปล่ียนข่าวสารระหว่างกันได้โดยง่าย ในปจั จุบนั มี เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เชื่อมโยงไปทั่วโลก ผู้ใช้ในซีกโลกหน่ึงสามารถติดต่อกับผู้ใช้ในซีกโลกหน่ึง ได้อย่างรวดเร็วเครือข่าย คอมพิวเตอร์ท่ีรู้จักกันในชอื่ ของ \"อนิ เทอร์เน็ต\" (Internet) จัดว่าเปน็ เครือข่ายที่มีบทบาทสาคัญท่ีสดุ ในยุคของสังคมข่าวสารปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตมีขอบข่ายครอบคลุมพื้นที่แทบทุกมุมโลกสมาชิกใน อินเทอร์เน็ตสามารถใช้คอมพิวเตอร์ท่ีต้ังอยู่ที่จุดใด ๆ เพ่ือส่งข่าวสารและข้อมูลระหว่างกันได้บริการ ขอ้ มูลในอนิ เทอร์เนต็ มีหลากรูปแบบและมีผู้นิยมใช้เพม่ิ มากข้นึ ทกุ วัน จากการคาดการณ์โดยประมาณ แล้ว ปัจจุบันมีเครือข่ายทั่วโลกท่ีเช่ือมเข้าเป็น อินเทอร์เน็ตราว 45,000 เครือข่าย จานวน คอมพิวเตอร์ในทุกเครือข่ายรวมกันคาดว่ามีประมาณ 4 ล้านเครื่อง หรือหากประมาณจานวนผู้ใช้ อินเทอร์เน็ตทั่วโลกคาดว่ามีประมาณ 25 ล้านคน และ มีแนวโน้มเพ่ิมมากขึ้น เราจึงกล่าวได้ว่า อนิ เทอรเ์ น็ตเป็นเครือขา่ ยมหึมาที่ครอบคลมุ พ้นื ทก่ี ว้างขวาง ท่ีสุด มกี ารขยายตวั สงู ทีส่ ุด และมีสมาชกิ มากที่สุดเม่ือเทียบกับเครือข่ายอ่ืนท่ีปรากฏอยู่ในปัจจุบัน พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต มิได้เป็นเครือข่ายที่เกิดข้ึนโดยเฉพาะเจาะจงหากแต่มี ประวัติความเป็นมาและมีการพัฒนามาอย่าง ต่อเน่ืองนับตั้งแต่การเกิดของเครือข่ายอาร์พาเน็ต ในปี พ.ศ.2512 ก่อนท่ีจะก่อตัวเป็น อินเทอร์เน็ต จนกระท่ังถึงทุกวันน้ีอินเทอร์เน็ตมีพัฒนาการมา จากอาร์พาเน็ต ( ARPAnet ) ซึ่งเป็นเครือข่าย คอมพิวเตอร์ภายใต้ การรับผิดชอบของ อาร์พา ( Advanced Research Projects Agency ) ใน สังกัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาอาร์พาเน็ต ในข้ันต้นเป็นเพียงเครือข่ายทดลองที่ตั้งข้ึนเพื่อ เป็นการสนับสนุนงานวิจัยด้านการทหารและโดยเน้ือแท้แล้วอาร์พาเน็ตเป็นผลพวงมาจากการเมือง โลกในยคุ สงครามเย็นระหวา่ งค่าย คอมมิวนิสตแ์ ละคา่ ยเสรีประชาธิปไตย ยุคสงครามเย็น ในทศวรรษ ของปีพ.ศ.2510 นับเป็นเวลาแห่งความตึงเครียดเนื่องจากภาวะ สงครามเย็นระหว่างประเทศในค่าย คอมมิวนิสต์และค่ายเสรีประชาธิปไตย สหรัฐอเมริกาซ่ึงเป็นประเทศผู้นากลุ่มเสรีประชาธิปไตยได้ ก่อต้ังห้องปฏิบัติการทดลองเพื่อค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคโนโลยีดา้ นระบบคอมพวิ เตอร์ช่วงท้ายของทศวรรษ 2510 ห้องปฏิบัติการวจิ ัย ในสหรัฐ ฯ และใน มหาวิทยาลัยใหญ่ ๆ ล้วนแล้วแต่มีคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยในยุคน้ันติดต้ังอยู่การเช่ือมต่อเข้าสู่

8 อินเทอร์เน็ตของประเทศไทยมีจุดกาเนิดมาจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระหว่างมหาวิทยาลัย หรือที่ เรียกว่า \"แคมปสั เน็ตเวอร์ก\" ( Campus Network ) เครือข่ายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก \"ศูนย์ เทคโนโลยอี ิเล็กทรอนกิ สแ์ ละคอมพวิ เตอรแ์ หง่ ชาติ\" ( NECTEC ) จนกระทงั่ ได้ เชือ่ มเขา้ สอู่ ินเทอรเ์ น็ต โดยสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2535 พัฒนาการ ประเทศไทยได้เริ่มติดต่อกับอินเทอร์เน็ตโดย ใช้ E-mail ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2530 โดยเร่ิมท่ี \"มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ\"่ เป็นแห่ง แรก และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างไทยและออสเตรเลียในช่วงเวลา ต่อมา ในขณะน้ันยังไม่ได้มีการเช่ือมต่อ แบบ On-line หากแต่เป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสาร ด้วย E- mail โดยใช้ระบบ MSHnet ละ UUCP โดยทางออสเตรเลียจะโทรศัพท์เช่ือมเข้ามาสู่ระบบวันละ 2 การทางานของอินเทอร์เน็ตการสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์จะมีโปรโตคอล (Protocol) ซึ่งเป็น ระเบียบวิธีการส่ือสารที่เป็นมาตรฐานของการเช่ือมต่อกาหนดไว้ โปรโตคอลท่ีเป็นมาตรฐานสาหรับ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คือ TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เครื่องคอมพวิ เตอรท์ กุ เครอื่ งที่เชอ่ื มต่อเขา้ กับเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตจะตอ้ งมีหมายเลขประจาเคร่อื ง ที่ เรียกวา่ IP Address เพื่อเอาไว้อ้างอิงหรือติดต่อกับเครื่องคอมพวิ เตอร์อน่ื ๆ ในเครือขา่ ย ซง่ึ IP ในที่นี้ ก็คือ Internet Protocol ตัวเดียวกับใน TCP/IP นั่นเอง IP address ถูกจัดเป็นตัวเลขชุดหน่ึงขนาด 32 บิต ใน 1 ชดุ น้ีจะมีตวั เลขถกู แบง่ ออกเป็น 4 ส่วน สว่ นละ 8 บิตเท่าๆ กนั เวลาเขยี นกแ็ ปลงให้เป็น เลขฐานสิบก่อนเพื่อความง่ายแล้วเขียนโดยค่ันแต่ละส่วนด้วยจุด (.) ดังนั้นในตัวเลขแต่ละส่วนนี้จึงมี ค่าได้ไม่เกิน 256 คือ ตั้งแต่ 0 จนถึง 255 เท่าน้ัน เช่น IP address ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ของ สถาบันราชภฎั สวนดุสิต คือ 203.183.233.6 ซึ่ง IP Address ชดุ นี้จะใชเ้ ปน็ ท่ีอยู่เพื่อติดต่อกับเคร่ือง พิวเตอร์อืน่ ๆ ในเครือข่าย Domain name system :DNS โดเมนเนม (Domain name system :DNS) เน่ืองจากการติดต่อสื่อสารกันกันในระบบอินเทอร์เน็ตใช้โปรโตคอล TCP/IP เพ่ือสื่อสารกัน โดย จะต้องมี IP address ในการอ้างอิงเสมอ แต่ IP address น้ีถึงแม้จะจัดแบ่งเป็นส่วนๆ แล้วก็ยังมี อุปสรรคในการท่ีต้องจดจา ถ้าเครื่องท่ีอยู่ในเครือข่ายมีจานวนมากขึ้น การจดจาหมายเลข IP ดูจะ เป็นเรื่องยาก และอาจสับสนจาผิดได้ แนวทางแก้ปัญหาคือการตั้งชื่อหรือตัวอักษรข้ึนมาแทนที่ IP address ซ่ึงสะดวกในการจดจามากกว่า เช่น IP address คือ 203.183.233.6 แทนท่ีด้วยช่ือ dusit.ac.th ผู้ใช้งานสามารถ จดจาช่ือ dusit.ac.th ได้ง่ายกว่า การจาตัวเลขโดเมนท่ีได้รับความนิยม กันทั่วโลก ท่ีถือว่าเป็นโดเมนสากล มีดังน้ี คือ .com ย่อมาจาก commercial สาหรับธุรกิจ .edu ย่อ มาจาก education สาหรับการศึกษา .int ย่อมาจาก International Organization สาหรับองค์กร นานาชาติ .org ย่อมาจาก Organization สาหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหาก าไร .org ย่อมาจาก Organization สาหรับหนว่ ยงานที่ไมแ่ สวงหากาไรบริการต่างๆ บนอนิ เทอร์เน็ต 1. เวลิ ดไ์ วด์เว็บ (WWW) เวลิ ดไ์ วดเ์ ว็บ หรือเครอื ข่ายใยแมงมุม เหตทุ เ่ี รยี กชื่อน้ีเพราะวา่ เป็น ลักษณะของการเชื่อมโยงข้อมูล จากท่ีหน่ึงไปยังอีกท่ีหนึ่งเรื่อยๆ เวิลด์ไวด์เว็บ เป็นบริการที่ได้รับ

9 ความนิยมมากทสี่ ุด ในการเรียกดเู ว็บไซต์ต้องอาศยั โปรแกรมเวบ็ เบราว์เซอร์ (web browser) ในการ ดูข้อมูล เว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น โปรแกรม Internet Explorer (IE) , Netscape Navigator 2. จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) การติดต่อส่ือสารโดยใช้อีเมลสามารถท าได้ โดยสะดวก และประหยัดเวลา หลักการท างานของอีเมลก็คล้ายกับการส่งจดหมายธรรมดา น้ันคือ จะต้องมที ่อี ยู่ท่รี ะบุชดั เจน ก็คอื อีเมลแอดเดรส (E-mail address) องคป์ ระกอบของ e-mail address ประกอบด้วย 1. ช่อื ผ้ใู ช้ (User name) 2. ชือ่ โดเมน Username@domain_nameการใช้งานอเี มล สามารถแบ่งไดด้ งั น้ี คือ 1. Corporate e-mail คือ อีเมล ท่ีหน่วยงานต่างๆสร้างขึ้นให้กับพนักงานหรือบุคลากรใน องค์กรนั้น เช่น [email protected] คือ e-mail ของนักศึกษาของสถาบันราชภัฏสวนดุสิต เป็นตน้ 2. Free e-mail คือ อีเมล ท่ีสามารถสมัครได้ฟรีตาม web mail ต่างๆ เช่น Hotmail, Yahoo Mail, Thai Mail และ Chaiyo Mail 3. บริการโอนยา้ ยไฟล์ (File Transfer Protocol) เป็นบริการทเี่ ก่ียวข้องกับการโอนยา้ ยไฟล์ ผ่านระบบอนิ เทอร์เน็ต การโอนยา้ ยไฟล์สามารถแบ่งได้ดังน้ี คอื 1. การดาวน์โหลดไฟล์ (Download File ) การดาวน์โหลดไฟล์ คือ การรับข้อมูลเข้ามายัง เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ในปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ท่ีจัดให้มีการดาวน์โหลดโปรแกรมได้ฟรีเช่น www.download.com 2. การอัพโหลดไฟล์ (Upload File) การอัพโหลดไฟล์คือการน าไฟล์ข้อมูลจากเคร่ืองของ ผู้ใช้ไปเก็บไว้ในเครื่องท่ีให้บริการ (Server) ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เช่น กรณีที่ทาการสร้างเว็บไซต์ จะมีการอัพโหลดไฟล์ไปเก็บไว้ในเคร่ืองบริการเว็บไซต์ (Web server ) ที่เราขอใช้บริการพื้นที่ (web server) โปรแกรมท่ีชว่ ยในการอพั โหลดไฟล์เช่น FTP Commander 4. บริการสนทนาบนอินเทอร์เน็ต (Instant Message) สนทนาบนอินเทอร์เน็ตคือ การ ส่ง ข้อความถึงกนั โดยทนั ทที นั ใด นอกจากนี้ยงั สามารถสง่ สัญลักษณ์ตา่ งๆ อาทิ รูปภาพ ไฟลข์ อ้ มลู ไดด้ ้วย การสนทนาบนอินเทอร์เน็ตเปน็ โปรแกรมท่ีกาลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โปรแกรมประเภทน้ี เช่น โปรแกรม ICQ (I seek you) MSN Messenger, Yahoo Messenger เป็นต้น 5. บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอรเ์ นต็ 1. Web directory คือ การค้นหาโดยการเลือก Directory ที่จัดเตรียมและแยกหมวดหมู่ไว้ ให้เรียบร้อยแลว้ website ทใ่ี หบ้ รกิ าร web directory เช่น www.yahoo.com, www.sanook.com 2. Search Engine คอื การคน้ หาขอ้ มลู โดยใชโ้ ปรแกรม Search โดยการเอาคาท่เี ราต้องการ ค้นหาไปเทียบกบั เว็บไซตต์ า่ งๆ ว่ามีเวบ็ ไซตใ์ ดบา้ งที่มีคาท่ีเราต้องการค้นหา website ทใ่ี หบ้ ริการ

10 3. Metasearch คือ การค้นหาข้อมูลแบบ Search engine แต่จะทาการส่งคาท่ีต้องการไป ค้นหาในเว็บไซต์ท่ีให้บริการสืบค้นข้อมูลอื่นๆ อีก ถ้าข้อมูลที่ได้มีซ้ากัน ก็จะแสดงเพียงรายการเดียว เว็บไซต์ทีใ่ หบ้ ริการ Metasearch เช่น www.search.com, www.thaifind.com 4. บริการกระดานข่าวหรือ เวบบอร์ด (Web board) เว็บบอร์ด เป็นศูนย์กลางในการแสดง ความคิดเหน็ มีการตัง้ กระทู้ ถาม-ตอบ ในหัวข้อท่สี นใจ เวบ็ บอร์ดของไทยทเ่ี ป็นที่นยิ มและมคี นเข้าไป แสดงความคดิ เห็นมากมาย คือ เวบ็ บอร์ดของพนั ธท์ พิ ย์ (www.pantip.com) 5. ห้องสนทนา (Chat Room) หอ้ งสนทนา คอื การสนทนาออนไลน์อกี ประเภทหนึ่ง ท่มี กี าร ส่งข้อความส้ันๆ ถึงกัน การเข้าไปสนทนาจาเป็นตอ้ งเข้าไปในเว็บไซต์ท่ีให้บริการห้องสนทนาเช่น สื่อ อินเตอร์เน็ตมีความสาคัญต่อในชีวิตประจาวันมากเพราะอินเตอร์เน็ตมีความสะดวก สบาย และ รวดเร็วในการใช้ยุคของอินเทอร์เน็ตอินเตอร์เน็ตเป็นระบบเครือข่ายที่มีการพัฒนามาต่อเน่ืองไม่น้อย กว่าสามสิบปีแล้ว ในตลอดช่วงพัฒนาการของอินเตอร์เน็ตนั้น สามารถแบ่งได้เป็นสามยุคด้วยกัน \"Internet 1.0” ยุคแรกเป็น ยุคของการเช่ือมต่อเพื่อการส่ือสารระหว่างบุคคล (Human-to-Human Communication) ในยุคนี้พัฒนาการของอินเตอร์เน็ตจะเป็นเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลท่ีใช้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เช่ือมต่อกับอินเตอร์เน็ตเทคโนโลยีท่ีสาคัญท่ีพัฒนาใช้งานกับอินเตอร์เน็ตเพ่ือ การส่ือสารในยุคนี้ได้แก่ อีเมล (Email) และ ยูสเน็ต (UseNet) อีเมลเป็นเทคโนโลยีท่ียังมีการใช้งาน ในปัจจุบัน นอกจากการสื่อสารระหว่างบุคคลแล้วอีเมลได้มีการประยุกต์ใช้เพ่ือการส่ือสารระหว่าง บุคคลกับกลุ่มบุคคล (Human-to-Community Communication) ด้วย เทคโนโลยีเพื่อการนี้ เรียกว่า เมลลิ่งลิสต์ (Mailing List) ซ่ึงก็ยังมีการใช้งานอยู่เช่นกัน ส่วน UseNet ได้รับความนิยมลด น้อยลง แต่ก็ยังมีการใช้งานอยู่อย่างสม่าเสมอจากผู้ใช้ท่ีใช้งานมาต้ังแต่ในอดีต ผู้ให้บริการ UseNet รายสาคญั ในปัจจุบนั คอื Google ภายใต้ชือ่ Google Groups นน่ั เอง\"Internet 2.0\"ยุคตอ่ มาเปน็ ยุค ข องก าร เช่ือม ต่อเพื่อสื่ อสาร ระหว่างบุคคล กับคอมพิวเตอร์ ( Human- to- Computer Communication) เทคโนโลยีสาคัญท่ีพฒั นาขน้ึ เพื่อใช้งานอนิ เตอร์เน็ตในยุคนี้ได้แก่ เว็บ (Web หรือ World Wide Web) เว็บเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถเข้าใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทางานใดงานหน่ึงจาก ระยะไกลได้ผ่านกระบวนการใช้งานที่เป็นมาตราฐานเดียวกันก่อนหน้าเทคโนโลยีเว็บ การใช้งาน คอมพวิ เตอร์จากระยะไกลจะเป็นการใช้งาน “เคร่ืองคอมพิวเตอร์” เพื่อทางาน ด้วยเทคโนโลยีเว็บทา ใหก้ ารใช้งานคอมพวิ เตอรจ์ ากระยะไกลเป็นการใช้งาน “ระบบงาน” เพือ่ ทางานอธบิ ายในรายละเอยี ด ของความแตกต่างดังกล่าวจะได้ว่า ในอดีตผู้ใช้ต้องใช้โปรแกรมจาลองหน้าจอเพื่อเข้าใช้เครื่อง คอมพวิ เตอร์เครื่องใดเคร่ืองหนึ่งแล้วใช้โปรแกรมในเคร่ืองคอมพิวเตอร์น้ันทางาน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตยุค แรกๆ ของ ม.สงขลานครินทร์จะจาได้ว่าต้อง “telnet” มาใช้เครื่อง “ratree.psu.ac.th” เพื่อใช้ “pine” ในการรับส่งอีเมลเป็นต้น แต่ด้วยเทคโนโลยีเว็บผู้ใช้ท่ีต้องการรับส่งอีเมลจะใช้โปรแกรม Web Browser เปิดเว็บท่ี http://webmail.psu.ac.th/นอกจากน้ีเว็บยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ใช้ วิธีการใช้งานเดียวกันน้ัน (ผ่าน Web Browser) เพ่ือใช้ “ระบบงาน” อาทิเช่น “ระบบสารสนเทศ บุคลากร ม.สงขลานครินทร์” ท่ี http://dss.psu.ac.th/ “ระบบธนาคารไทยพาณิชย์” ท่ี

11 http://www.scbeasy.com ระบบส่ังซ้ือสินค้า ท่ี http://amazon.com/ เป็นต้นสังเกตว่าผู้ใช้ไม่ จาเป็นต้องรู้ “ที่อยู่เคร่ืองคอมพิวเตอร์” เพียงแต่รู้ “ท่ีอยู่ของระบบงาน” เท่านั้น แม้ว่าที่อยู่ของ เคร่ืองจะแฝงอยู่ในที่อยู่ของระบบงานแต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยหลัก อาทิเช่น http://www.scb.co.th และhttp://www.scbeasy.com ต่างเป็นท่ีอยู่ของระบบงานท่ีอาจอยู่ในเคร่ืองเดียวกัน อยู่คนละ เครื่องแต่อยู่ในระบบเครือข่ายเดียวกัน หรืออยู่ต่างเครือข่าย ก็ไม่มีความจ าเป็นที่ผู้ใช้จะต้องรู้ กล่าวโดยสรุปคือในมุมมองเชิงแนวความคิด (Conceptual Prospective) แล้ว เว็บทาให้การใช้งาน อินเตอร์เนต็ เปลย่ี นจากการอยู่บนพ้ืนฐานของ “เคร่อื ง” เปน็ “ระบบ”

12 บรรณานกุ รม https://docs.google.com/document/d/1cIID0dwl4qSTK3r89NZgrkHjLtr6Uot_nKRCEieU Qv8/preview?hgd=1 สบื ค้นวนั ท่ี 14 มิถุนายน พ.ศ.2566


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook