ความต้องการรายการวิทยุอินเทอร์ เน็ตเพ่ือการศึกษาของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร*The Demand for Academic Internet-based Radio Among Peoplein Bangkok กำ� พล ดวงพรประเสริฐ**บทคัดย่อ 93 การวิจยั ครัง้ นีม้ ีวตั ถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาความต้องการรายการวิ ท ยุอิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต เ พื่ อ ก า ร ศึก ษ า ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ใ น เ ข ต ก รุ ง เ ท พ ม ห า น ค ร2. ศึกษาความแตกต่างของลกั ษณะทางประชากรศาสตร์ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครกบั ความต้องการรายการวทิ ยอุ นิ เทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษาโดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) เป็ นเครื่องมือในการเก็บข้อมลู จากประชากรทัง้ เพศหญิงและชายที่อาศัยอยู่ในพืน้ ท่ีเขตกรุงเทพมหานครซง่ึ มีความต้องการรายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษา จ�ำนวน 400 คนโดยใช้สถิตใิ นการวเิ คราะห์คือ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage)คา่ เฉล่ีย (Mean) สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และใช้การเปรียบเทียบคา่เฉล่ยี สำ� หรับกลมุ่ ตวั อยา่ ง 2 กลมุ่ ท่ีเป็นอิสระตอ่ กนั (Independence t-test)* บทความนีเ้ ขียนข้ึนจากงานวิจยั เรื่อง “ความตอ้ งการรูปแบบรายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพือ่ การศึกษาของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร” โดยได้รับงบประมาณสนบั สนนุ จากสถาบนั วิจยั และพฒั นามหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลตะวนั ออก** อาจารย์ประจ�ำสาขาวิชาเทคโนโลยีการโฆษณาและประชาสมั พนั ธ์ คณะบริหารธรุ กิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลตะวนั ออก 122/41 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงดินแดงเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400ช่องทางการติดต่อ : [email protected], [email protected] โทรศพั ท์ 099-162-9159 ปี ท่ี 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ใช้การวเิ คราะห์ความแปรปรวนจำ� แนกทางเดยี ว (One - way ANOVA) สำ� หรับ การทดสอบความแตกตา่ งของคา่ เฉลย่ี มากกวา่ 2 กลมุ่ เมื่อพบความแตกตา่ ง จะท�ำการเปรียบเทียบรายค่โู ดยวิธีผลต่างนยั ส�ำคญั LSD (Least Square Method) ท่ีนยั ส�ำคญั ทางสถิตทิ ่ีระดบั 0.05 จากการศกึ ษาวจิ ยั พบว่า 1. กลมุ่ ตวั อยา่ งสว่ นใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 18 ปี – 28 ปี มีระดบั การศกึ ษาสงู สดุ ปริญญาตรี มีอาชีพพนกั งานบริษัทเอกชน และมีรายได้ต่อ เดือนโดยเฉลี่ย 15,001 – 25,000 บาท โดยกลมุ่ ตวั อย่างสว่ นใหญ่มีความ ต้องการรายการวทิ ยอุ นิ เทอร์เนต็ เพอ่ื การศกึ ษาโดยรวมทงั้ หมดอยใู่ นระดบั มาก ทงั้ ในด้านประเภทรายการ เนือ้ หารายการ รูปแบบรายการ ผ้ดู �ำเนินรายการ เทคนิคการน�ำเสนอรายการ และประโยชน์ท่ีได้รับจากการรับฟังรายการ94 มีเพียงพฤติกรรมการรับฟังจากการน�ำเสนอรายการประเภทต่างๆ เท่านนั้ ที่ มีความต้องการโดยรวมอยู่ในระดบั ปานกลาง โดยอยากให้มหาวิทยาลยั ตา่ งๆ น�ำไปใช้ประโยชน์ด้านการเรียนการสอนเพ่ือพฒั นาเยาวชนให้มีความรู้ ความสามารถและน�ำไปปฏิบตั งิ านได้มากท่ีสดุ 2. ความแตกต่างของลกั ษณะทางประชากรศาสตร์ของประชาชน ในเขตกรุ งเทพมหานครกับความต้ องการรายการวิทยุอินเทอร์ เน็ตเพ่ือ การศกึ ษา พบวา่ ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครที่มีอายุ ระดบั การศกึ ษา สงู สดุ อาชีพ และรายได้ตอ่ เดอื นโดยเฉลยี่ แตกตา่ งกนั มคี วามต้องการรายการ วิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษาแตกตา่ งกนั อย่างมีนยั ส�ำคญั ทางสถิติที่ระดบั 0.05 สว่ นประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครทมี่ เี พศแตกตา่ งกนั มคี วามต้องการ รายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษาไมแ่ ตกตา่ งกนั คำ� สำ� คัญ: การส�ำรวจความต้องการรายการวิทยุ / วิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษา ปี ท่ี 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์Abstract 95 The objectives of this research are: 1. To study the demand for academic internet-based radioamong people in Bangkok. 2. To study the relationship between demographic factorsand the demand for academic internet-based radio among people inBangkok. The research was conducted among 400 samples (maleand female) in Bangkok using questionnaires as a tool for acquiringinformation. The research used descriptive statistics (Frequency,Percentage, Mean and Standard Deviation) and inferential statistics(Independence t-test, One - way ANOVA – when the differences arefound, paired comparison is used by Least Significant Difference) inorder to analyze at significance level of 0.05. The results revealed as follows: 1. The majority of sample is female ages between 18-28years old. Their highest education is bachelor degree. Most ofthem are company employee and their monthly income is 15,001 –25,000 baht in average. The study results indicate the high demandfor academic internet-based radio (program, broadcast content,program genres, performers, production techniques, and benefitsgained from programs). Regarding the listening behavior, the scoreis in moderate level. The study results also suggest that universitiesshould implement internet-based radio in teaching in order to developfurther the student’s skills and knowledge.ปี ที่ 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ 2. Regarding the demographic differences of people in Bangkok and the demand for academic Internet-based radio, the study reveals that people in differences of age, education levels, careers, and monthly income have different demand for academic Internet-based radio at a significance level of 0.05. However gender has not been shown to relate to differences in academic Internet-based radio demand. Keywords: The Servey of Demand for Radio Programs / Academic Internet- based radio96 ปี ท่ี 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์บทน�ำ 97 ในอดีตที่ผ่านมาบทบาทหน้ าที่ของรายการวิทยุกระจายเสียงในด้านการให้การศึกษานนั้ เป็ นกระบวนการสื่อสารแบบทางเดียว ม่งุ เน้นเสนอรายการอนั เป็นประโยชน์แก่ผ้ฟู ัง ด้วยการให้สาระความรู้หรือการศกึ ษาในลกั ษณะของการเรียนการสอนส�ำหรับผ้เู รียนทงั้ ในระบบโรงเรียน นอกระบบโรงเรียน และให้สาระความรู้ส�ำหรับประชาชนทว่ั ไป เพ่ือใช้ในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวนั โดยณรงค์ สมพงศ์ [1] ระบวุ า่ ถงึ แม้วา่ ลกั ษณะเดน่ ของวิทยุกระจายเสียงต่อการศึกษาจะมีมากมาย แต่ในความเป็ นจริงความนิยมในรายการวิทยุเพ่ือการศึกษาก็ยังมีไม่มากเท่ากับการจัดรายการที่น�ำเสนอความบนั เทงิ เป็นหลกั นอกจากนนั้ ยงั มอี ปุ สรรคเร่ืองการฟังย้อนหลงั จงึ ทำ� ให้ลมืหากไมต่ งั้ ใจฟังตงั้ แตแ่ รก หรือไมส่ ามารถท�ำความเข้าใจได้ทงั้ หมด รวมไปถงึอปุ สรรคทางด้านกลมุ่ ผ้ฟู ังก็มีความแตกตา่ งกนั ทงั้ ด้านความรู้ ประสบการณ์อาชีพ เพศ วัย ฐานะทางสังคม รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่มีนโยบายในการน�ำวิทยุกระจายเสียงมาใช้ เพ่ือวัตถุประสงค์ในการให้ การศึกษาจริ งๆมนี ้อยมากเมอ่ื เปรียบเทยี บกบั การนำ� ไปใช้เป็นสอื่ เพอ่ื การบนั เทงิ ทงั้ นเี ้นอื่ งจากขาดการสนบั สนนุ ด้านเงินทนุ บคุ ลากร เป็นสำ� คญั เม่ือการพฒั นาทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการส่ือสารผา่ นเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต ท�ำให้วิทยกุ ระจายเสียงได้มีการพฒั นาเป็ นกระบวนการส่ือสารแบบสองทาง เกิดเป็ นช่องทางท่ีท�ำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผ้สู ง่ สารและผ้รู ับสาร จงึ กอ่ ให้เกิดสอื่ กระจายเสยี งอกี รูปแบบหนงึ่ ทเี่ รียกกนั วา่“วิทยุอินเทอร์เน็ต” หรือ “วิทยุออนไลน์” โดย ชาญวิทย์ เจริญกิจชยั ชนะ[2] ได้กลา่ วถงึ ศกั ยภาพของวิทยอุ ินเทอร์เน็ตที่ชว่ ยลดข้อบกพร่องของสอ่ื วทิ ยุกระจายเสยี ง ได้แก่ ผ้ฟู ังสามารถจะรับฟังรายการนนั้ ได้ใหมท่ างอินเทอร์เน็ตในวนั และเวลาใดก็ตามท่ีสะดวกได้ สามารถเลือกได้มากขนึ ้ ไม่ว่าจะรับสารจากสถานีใด ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ และเม่ือไหร่ รวมถึงผ้ฟู ังสามารถขอในส่ิงที่ตนเองพึงประสงค์ สามารถเลือกขอเพลงท่ีต้องการปี ท่ี 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ จะฟัง สามารถตอบโต้กับผู้จดั รายการวิทยุได้ทนั ที เป็ นต้น โดย ทรรศกมล พดั ทอง [3] กลา่ ววา่ จากสาระสำ� คญั ดงั กลา่ ว จงึ ถือได้วา่ วิทยอุ ินเทอร์เน็ตเป็น ชอ่ งทางการสอื่ สารเรียนรู้แนวใหมท่ ี่มีประโยชน์ทงั้ ตอ่ วงการการศกึ ษาในระบบ และนอกระบบโรงเรียนในปัจจบุ นั ยงั ไมม่ หี นว่ ยงานใดทม่ี หี น้าทอ่ี อกแบบรายการ วทิ ยอุ ินเทอร์เน็ตโดยตรง เป็นเพียงการน�ำเสนอรายการสำ� หรับประชาชนทวั่ ไป และใช้อินเทอร์เน็ตเป็นส่ือเสริมสำ� หรับส่อื วทิ ยกุ ระจายเสียงปกตเิ ทา่ นนั้ ดังนัน้ เพ่ือเป็ นการน�ำข้ อเด่นของวิทยุอินเทอร์ เน็ตที่สามารถ ใช้ สร้ างกระบวนการเรี ยนรู้ อย่างยั่งยื นต่อเน่ื องตลอดชี วิตและ เป็ นประโยชน์ต่อคนจ�ำนวนมาก อีกทัง้ ยังไม่มีหน่วยงานใดออกแบบ รายการวิทยุอินเทอร์เน็ตโดยตรง จึงท�ำให้ผู้วิจัยสนใจศึกษาถึงความ ต้ องการรายการวิทยุอินเทอร์ เน็ ตเพ่ื อการศึกษาของประชาชนในเขต98 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดเป็ นกลุ่มคนจ�ำนวนมากท่ีมีความแตกต่างกัน ทางด้านประชากรศาสตร์ ซ่ึงจ�ำเป็ นต้องมีการหาข้อมูลมาเพ่ือวางแผน การผลิตรายการให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้ฟัง ซ่ึงข้อมลู ท่ีได้ รับจะเป็ นประโยชน์ต่อสถาบันการศึกษาทัง้ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาที่มีศักยภาพเพียงพอท่ีจะจัดตัง้ สถานีวิทยุ อินเทอร์เน็ตเป็ นของตนเอง เพ่ือเผยแพร่องค์ความรู้ทางด้านวิชาการและ เสริมทกั ษะทางด้านวิชาชีพไปสปู่ ระชาชนทว่ั ไปเพื่อก่อให้เกิดความเป็ นอย่ทู ่ี ดีขนึ ้ รวมถงึ จะเป็นประโยชน์ตอ่ ผ้ผู ลติ รายการวทิ ยอุ นิ เทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษา ในการน�ำไปวางแผนพัฒนาหรือเลือกใช้วิธีการต่างๆ ให้วิทยุอินเทอร์เน็ต ของตนเองให้มีความน่าสนใจและประสบผลส�ำเร็จในอนาคต อีกทงั้ ยงั เป็ น การบกุ เบกิ และเปิดมมุ มองการวจิ ยั เก่ียวกบั วทิ ยอุ นิ เทอร์เนต็ เพ่อื การศกึ ษาให้ มีความชดั เจนขนึ ้ อีกด้วย 2. วัตถุประสงค์การวจิ ยั 1. เพื่อศกึ ษาความต้องการรายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษา ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ปี ที่ 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ 2. เพ่ือศึกษาความแตกต่างของลกั ษณะทางประชากรศาสตร์ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครกบั ความต้องการรายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษา3. สมมตฐิ านการวจิ ยั 1. ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครท่ีมีลกั ษณะทางประชากรศาสตร์แตกตา่ งกนั มคี วามต้องการรายการวทิ ยอุ นิ เทอร์เนต็ เพอื่ การศกึ ษาแตกตา่ งกนั4. แนวคดิ ท่ใี ช้ในการวจิ ยั 99 งานวิจยั ครัง้ นี ้ ผ้วู ิจยั ได้น�ำแนวคิดที่เก่ียวข้องมาใช้เป็ นแนวทางในการศกึ ษาดงั นี ้ 1. แนวคิดเก่ียวกบั รายการวิทยกุ ระจายเสียงเพ่ือการศกึ ษา2. แนวคดิ เกี่ยวกบั คณุ สมบตั เิ กี่ยวกบั ผ้ผู ลติ รายการวทิ ยกุ ระจายเสยี ง ซง่ึ ได้น�ำมาใช้เป็นกรอบในการศกึ ษาถงึ ความต้องการในด้านประเภทรายการ เนือ้ หารายการ รูปแบบรายการ ผ้ดู �ำเนินรายการ และเทคนิคการน�ำเสนอรายการ3. แนวคดิ เก่ียวกบั คณุ ลกั ษณะทางด้านประชากรศาสตร์ ที่ให้ความสนใจวา่คณุ ลกั ษณะทางประชากรท่ีแตกตา่ งกนั จะมีแบบแผนพฤตกิ รรมตา่ งกนั ซง่ึ ได้ก�ำหนดความแตกตา่ งในงานวจิ ยั ครัง้ นี ้ได้แก่ เพศ อายุ ระดบั การศกึ ษาสงู สดุอาชีพ และรายได้ตอ่ เดือนโดยเฉลีย่ และ 4. แนวคดิ เร่ืองการใช้ประโยชน์และความพงึ พอใจ นำ� มาใช้ในการศกึ ษาถงึ ความต้องการประโยชน์ทไี่ ด้รับจากการรับฟังรายการและพฤตกิ รรมการรับฟังจากการน�ำเสนอรายการประเภทตา่ งๆ5. นิยามศัพท์ ความต้องการรายการวทิ ยอุ นิ เทอร์เนต็ เพื่อการศกึ ษา หมายถงึ ความต้องการของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครที่มีตอ่ รายการวทิ ยอุ ินเทอร์เนต็ที่น�ำเสนอขา่ วสาร สาระความรู้ บนั เทิง เพ่ือให้การศกึ ษาอนั เป็นประโยชน์ตอ่การต�ำเนินชีวติ ประจ�ำวนั แบง่ เป็นปี ท่ี 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ - ประเภทรายการหมายถงึ ความต้องการประเภทรายการโดยแยกตาม เนือ้ หาตา่ งๆ เชน่ รายการขา่ วสาร รายการสาระความรู้ รายการบนั เทิง เป็นต้น - เนือ้ หารายการ หมายถึง ความต้องการเนือ้ หาท่ีอยู่ในประเภท รายการตา่ งๆ - รูปแบบรายการ หมายถึง ความต้องการวิธีการน�ำเสนอรายการ ให้เหมาะสมกบั เนือ้ หา เวลา และกลมุ่ ผ้ฟู ัง เชน่ รูปแบบพดู คยุ กบั ผ้ฟู ัง รูปแบบ สนทนา รูปแบบสมั ภาษณ์ รูปแบบอภิปราย เป็นต้น - เทคนิคการน�ำเสนอรายการ หมายถึง ความต้องการเทคนิคตา่ งๆ ท่ีน�ำมาใช้ในการน�ำเสนอรายการให้น่าสนใจ เช่น เสียง ภาพเคล่ือนไหว ภาพกราฟิก การโต้ตอบระหวา่ งผ้สู ง่ กบั ผ้รู ับสาร การน�ำเสนอให้นา่ สนใจและ ดงึ ดดู ใจให้คนเข้ามาฟัง เป็นต้น - ผ้ดู �ำเนินรายการ หมายถึง ความต้องการเกี่ยวกบั คณุ สมบตั ิทาง100 ด้านบคุ ลิกภาพ คณุ สมบตั ิด้านการศกึ ษาและประสบการณ์ และคณุ สมบตั ิ ในด้านการใช้เสียงของผ้ดู �ำเนินรายการ เชน่ มีมนษุ ย์สมั พนั ธ์ที่ดี มีความขยนั มกี ารศกึ ษาดี มคี วามรู้กว้างขวาง มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม มนี �ำ้ เสยี งชดั เจน อกั ขรวิธีถกู ต้อง ลีลาการน�ำเสนอนา่ ฟัง เป็นต้น - ประโยชน์ท่ีได้รับจากการรับฟังรายการ หมายถึง ความต้องการ ประโยชน์จากรับฟังรายการตา่ งๆ เชน่ เพอ่ื ได้รับขา่ วสาร สาระความรู้ ประโยชน์ และความบนั เทงิ ใหมๆ่ อยเู่ สมอ เพือ่ ชว่ ยในการตดั สนิ ใจ เพ่ือสามารถน�ำไปใช้ สนทนากบั บคุ คลอื่นๆ ในสงั คม เป็นต้น - พฤติกรรมการรับฟัง หมายถึง ความต้องการที่ให้ผ้ผู ลิตน�ำเสนอ รายการให้ตรงกบั ความสะดวกและความเหมาะสมกบั พฤติกรรมการรับฟัง รายการของตน เชน่ ความบอ่ ยครัง้ ในการรับฟัง ชว่ งเวลาในการฟัง สถานท่ี ในการรับฟัง ลกั ษณะในการรับฟัง เป็นต้น - ลกั ษณะทางประชากรศาสตร์ หมายถึง ความแตกตา่ งกนั ในด้าน องคป์ ระกอบทางด้านเพศอายุระดบั การศกึ ษาสงู สดุ อาชพี และรายได้ตอ่ เดอื น โดยเฉล่ียของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ปี ท่ี 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์6. กรอบแนวคดิ การวจิ ยั7. วธิ ีดำ� เนินการวจิ ยั 101 การวจิ ยั ครงั้ นเี ้ป็นการวจิ ยั เชงิ ปริมาณ โดยใช้การสำ� รวจเก็บข้อมลู จากประชากรทงั้ เพศหญิงและชายที่อาศยั อยใู่ นพืน้ ที่เขตกรุงเทพมหานคร ทงั้ 50สำ� นกั งานเขต ซง่ึ มีจ�ำนวนประชากรทงั้ สนิ ้ 5,673,560 คน [4] จากนนั้ ค�ำนวณขนาดกลมุ่ ตวั อยา่ งโดยสตู รของทาโร ยามาเน่ [5] ท่ีระดบั ความเชื่อมน่ั เทา่ กบัร้อยละ 95 ได้ขนาดกลมุ่ ตวั อยา่ งจ�ำนวน 400 คน จากนนั้ ใช้การสมุ่ ตวั อยา่ งด้ วยการสุ่มแบบชัน้ ภูมิ (Stratified Sampling) โดยแบ่งพืน้ ท่ีเขตกรุงเทพมหานครออกเป็ น 6 กลุ่มแล้วท�ำการเทียบสัดส่วน ดังนี ้1. กลมุ่ รัตนโกสนิ ทร์ (วงั หลวงเดมิ ) จ�ำนวน 44 คน 2. กลมุ่ บรู พา จ�ำนวน 95 คน3. กลุ่มศรีนครินทร์ จ�ำนวน 76 คน 4. กลุ่มเจ้าพระยา จ�ำนวน 60 คน5. กล่มุ ธนบรุ ีใต้ จ�ำนวน 72 คน และ 6. กล่มุ ธนบรุ ีเหนือ จ�ำนวน 53 คนจากนนั้ ใช้วิธีการสมุ่ ตวั อยา่ งแบบบงั เอิญ (Accidental Sampling) ประชาชนในแตก่ ลมุ่ ส�ำนกั งานเขตทงั้ 6 กลมุ่ ท่ีมีความต้องการรายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษา ปี ท่ี 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ผู้วิจัยได้ใช้แบบสอบถามเป็ นเคร่ืองมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วยค�ำถาม 3 สว่ น ได้แก่ 1. ข้อมลู ลกั ษณะทางประชากรศาสตร์ 2. ความต้องการรายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษา และ 3. ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะอื่นๆ จากนนั้ น�ำไปทดสอบความเช่ือมน่ั ของแบบสอบถาม ได้ค่าสมั ประสิทธิ์ความเชื่อมนั่ แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s alpha) [6] เท่ากบั 0.9840 ถือว่าแบบสอบถามมีความเช่ือมนั่ ในระดบั ที่ยอมรับได้ โดยใช้วธิ ีวเิ คราะห์ด้วยสถิตเิ ชิงพรรณนา ได้แก่ ความถ่ี ร้อยละ คา่ เฉลี่ย และ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนมุ าน ได้แก่ ใช้การเปรียบเทียบ คา่ เฉลย่ี สำ� หรับกลมุ่ ตวั อยา่ ง 2 กลมุ่ ทเี่ ป็นอสิ ระตอ่ กนั (Independence t-test) และใช้การวเิ คราะห์ความแปรปรวนจ�ำแนกทางเดียว (One – way ANOVA) ส�ำหรับการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยมากกว่า 2 กลุ่ม เม่ือพบ102 ความแตกต่างจะท�ำการเปรียบเทียบรายค่โู ดยวิธีผลต่างนยั ส�ำคญั (LSD) ที่นยั ส�ำคญั ทางสถิตทิ ี่ระดบั 0.05 8. สรุปผลการวจิ ยั 1. ลกั ษณะทางประชากรศาสตร์ พบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งสว่ นใหญ่เป็ น เพศหญิง มีอายุ 18 ปี – 28 ปี มีระดบั การศกึ ษาสงู สดุ ปริญญาตรี มีอาชีพ พนกั งานบริษัทเอกชน และมีรายได้ตอ่ เดือนโดยเฉลี่ย 15,001 – 25,000 บาท 2. ความต้องการรายการวิทยุอินเทอร์เน็ตเพ่ือการศึกษา พบว่า กลมุ่ ตวั อยา่ งสว่ นใหญ่มีความต้องการรายการวทิ ยอุ นิ เทอร์เนต็ เพ่ือการศกึ ษา โดยรวมทงั้ หมดอย่ใู นระดบั มาก ทงั้ ในด้านประเภทรายการ เนือ้ หารายการ รูปแบบรายการ ผู้ด�ำเนินรายการ เทคนิคการน�ำเสนอรายการ และ ประโยชน์ท่ีได้รับจากการรับฟังรายการ มีเพียงพฤติกรรมการรับฟังจากการ น�ำเสนอรายการประเภทต่างๆ เท่านนั้ ท่ีมีความต้องการโดยรวมอย่ใู นระดบั ปานกลาง รายละเอียดดงั ตารางท่ี 1 ปี ที่ 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ตารางที่ 1 : แสดงความต้องการรายการวทิ ยอุ ินเทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษา 103 โดยเมื่อพิจารณาความต้องการรายการวิทยุอินเทอร์เน็ตเพ่ือการศึกษาเป็ นรายด้าน พบว่า กล่มุ ตวั อย่างต้องการประเภทรายการท่ีให้สาระความรู้ โดยต้องการรับฟังประเภทรายการท่ีให้ขา่ วสารในรูปแบบรายงานขา่ วมีเนือ้ หาเก่ียวกบั ขา่ วการศกึ ษา มีผ้ดู ำ� เนินรายการที่มีน�ำ้ เสยี งชดั เจน นอกจากนนั้ ต้องการรับฟังประเภทรายการที่ให้สาระความรู้ในรูปแบบพดู คยุ กบั ผ้ฟู ังมีเนือ้ หาเกี่ยวกบั เกร็ดความรู้ มีผ้ดู ำ� เนินรายการที่พดู คยุ กบั เป็นกนั เองกบั ผ้ฟู ังและมีลีลาการน�ำเสนอน่าฟัง และต้องการรับฟังประเภทรายการท่ีให้ความบนั เทงิ ในรูปแบบการแสดงสดมเี นอื ้ หาเกย่ี วกบั เพลงไทยสากลมผี ้ดู ำ� เนนิรายการทพ่ี ดู คยุ กบั เป็นกนั เองกบั ผ้ฟู ังและมลี ลี าการน�ำเสนอนา่ ฟังนอกจากนนั้ต้องการรับฟังเทคนิคการน�ำเสนอรายการประเภทต่างๆ โดยให้มีการปรับเปลี่ยนข้อมูลให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา อีกทัง้ ต้องการประโยชน์เพื่อได้รับขา่ วสาร สาระความรู้ ประโยชน์ และความบนั เทงิ ใหมๆ่ อยเู่ สมอ เพอื่ ชว่ ยในการตดั สินใจ และเพ่ือสามารถน�ำไปใช้สนทนากับบุคคลอ่ืนๆ ในสงั คมใช้เพื่อชกั จงู ใจ และมีพฤตกิ รรมท่ีรับฟังผา่ น Website ตา่ งๆ ปี ที่ 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ตารางที่ 2 : แสดงความต้องการรายการวทิ ยอุ นิ เทอร์เนต็ เพอ่ื การศกึ ษารายด้าน104 3. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ พบว่า กล่มุ ตวั อย่างส่วนใหญ่ ไม่ตอบ โดยบางสว่ นที่ตอบสว่ นใหญ่อยากให้มหาวิทยาลยั ตา่ งๆ น�ำผลการ วิจัยไปใช้ ประโยชน์ด้ านการเรี ยนการสอนเพื่อพัฒนาเยาวชนให้ มีความร้ ู ความสามารถและน�ำไปปฏิบตั งิ านได้มากที่สดุ ปี ที่ 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ 4. ผลการทดสอบสมมตฐิ านการวิจยั พบวา่ 4.1 กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีมีเพศแตกตา่ งกนั มีความต้องการรายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษาไมแ่ ตกตา่ งกนั รายละเอียดดงั ตารางท่ี 3ตารางที่ 3 : แสดงผลการทดสอบความแตกตา่ งของความต้องการรายการวทิ ยุอินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษาจ�ำแนกตามเพศ 105 4.2 กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีมีอายแุ ตกตา่ งกนั มีความต้องการรูปแบบรายการท่ีให้ข่าวสาร รูปแบบรายการท่ีให้ความบนั เทิง ผ้ดู �ำเนินรายการท่ีให้ข่าวสาร เทคนิคการน�ำเสนอรายการ และประโยชน์ท่ีได้รับจากการน�ำเสนอรายการแตกตา่ งกนั รายละเอียดดงั ตารางที่ 4 ปี ที่ 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ตารางท่ี 4 : แสดงผลการทดสอบความแตกตา่ งของความต้องการรายการวทิ ยุ อินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษาจ�ำแนกตามอายุ106 หมายเหตุ : 1 แทน 18 ปี – 38, 2 แทน 39 ปี – 49 ปี , 3 แทน 50 ปี ขนึ ้ ไป และ 4 แทน 39 ปี ขนึ ้ ไป 4.3 กลมุ่ ตวั อยา่ งทมี่ รี ะดบั การศกึ ษาสงู สดุ แตกตา่ งกนั มคี วามต้องการ เนอื ้ หารายการทใ่ี ห้ความบนั เทงิ รูปแบบรายการทใี่ ห้ขา่ วสาร รูปแบบรายการท่ี ให้สาระความรู้ ผ้ดู �ำเนินรายการท่ีให้ขา่ วสาร ผ้ดู �ำเนินรายการที่ให้สาระความ รู้ ผ้ดู �ำเนินรายการที่ให้ความบนั เทงิ ประโยชน์ที่ได้รับจากการน�ำเสนอรายการ และพฤตกิ รรมการรับฟังจากการน�ำเสนอรายการแตกตา่ งกนั รายละเอียดดงั ตารางท่ี 5 ปี ที่ 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ตารางที่ 5 : แสดงผลการทดสอบความแตกตา่ งของความต้องการรายการวทิ ยุอินเทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษาจ�ำแนกตามระดบั การศกึ ษาสงู สดุ 107หมายเหตุ : 1 แทน ต่�ำกว่าปริญญาตรี, 2 แทน ปริญญาตรี และ3 แทน สงู กวา่ ปริญญาตรี 4.4 กลมุ่ ตวั อยา่ งทม่ี อี าชีพแตกตา่ งกนั มีความต้องการเนือ้ หารายการทใ่ี ห้ความบนั เทงิ รูปแบบรายการทใี่ ห้ขา่ วสารรูปแบบรายการทใ่ี ห้ความบนั เทงิผู้ด�ำเนินรายการท่ีให้ข่าวสาร ผู้ด�ำเนินรายการที่ให้สาระความรู้ ผู้ด�ำเนินรายการท่ีให้ความบนั เทิง และพฤติกรรมการรับฟังจากการน�ำเสนอรายการแตกตา่ งกนั รายละเอียดดงั ตารางที่ 6 ปี ที่ 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ตารางท่ี 6 : แสดงผลการทดสอบความแตกตา่ งของความต้องการรายการวทิ ยุ อินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษาจ�ำแนกตามอาชีพ108 หมายเหตุ : 1 แทน นกั เรียน/นกั ศกึ ษา, 2 แทน รับราชการ/พนกั งานรัฐวสิ าหกิจ, 3 แทน พนักงานบริษัทเอกชน, 4 แทน ค้าขาย/ประกอบธุรกิจส่วนตัว, 5 แทน รับจ้างทวั่ ไป และ 6 แทน แมบ่ ้าน/พอ่ บ้าน และอาชีพอื่นๆ 4.5 กล่มุ ตวั อย่างท่ีมีรายได้ต่อเดือนโดยเฉล่ียแตกต่างกันมีความ ต้องการรูปแบบรายการทใ่ี ห้ขา่ วสาร รูปแบบรายการทใี่ ห้สาระความรู้ ผ้ดู ำ� เนนิ รายการท่ีให้ข่าวสาร ผ้ดู �ำเนินรายการท่ีให้สาระความรู้ เทคนิคการน�ำเสนอ รายการ ประโยชน์ท่ีได้รับจากการน�ำเสนอรายการ และพฤติกรรมการรับฟัง จากการน�ำเสนอรายการแตกตา่ งกนั รายละเอียดดงั ตารางที่ 7 ปี ที่ 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ตารางท่ี 7 : แสดงผลการทดสอบความแตกตา่ งของความต้องการรายการวทิ ยุอินเทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษาจ�ำแนกตามรายได้ตอ่ เดือนโดยเฉลยี่ 109ห3มแาทยนเห2ต5ุ,:010แ1ท-น3น5้อ,0ย0ก0วา่บหารทือเแทลา่ ะกบ4ั 1แ5ท,น00ม0าบกากทว,า่ 23แ5ท,น00115,บ0า0ท1ข-2นึ ้ 5,000บาท,9. อภปิ รายผลการวจิ ยั 1. ลักษณะทางประชากรศาสตร์ พบว่า มีความสอดคล้องกับชิดชนก ชะนะภยั [7] ท่ีได้ท�ำการศกึ ษาเร่ือง การรับฟังวิทยอุ ินเทอร์เน็ตของชาวกรุงเทพมหานคร พบว่า ผ้ฟู ังสว่ นใหญ่มีอายรุ ะหว่าง 20-29 ปี มีระดบัการศกึ ษาปริญญาตรี ซง่ึ สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครสว่ นใหญอ่ ยใู่ นชว่ งวยั ทำ� งานตอนต้น ซงึ่ มรี ายได้ประจำ� จากการทำ� งานเป็นหลกั 2. ความต้องการรายการวิทยุอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา พบว่ากลมุ่ ตวั อยา่ งสว่ นใหญ่มีความต้องการรายการวทิ ยอุ นิ เทอร์เนต็ เพื่อการศกึ ษาโดยรวมทงั้ หมดอย่ใู นระดบั มาก ทงั้ ในด้านประเภทรายการ เนือ้ หารายการ ปี ท่ี 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ รูปแบบรายการ ผ้ดู �ำเนินรายการ เทคนิคการน�ำเสนอรายการ และประโยชน์ ที่ได้รับจากการรับฟังรายการ ซง่ึ สอดคล้องกบั เคย์ และเมดอฟ [8] ที่ได้กลา่ ว ถงึ ข้อได้เปรียบของวิทยอุ ินเทอร์เน็ตไว้วา่ รายการวทิ ยอุ ินเทอร์เน็ตมีข้อดีท่ีได้ เปรียบกวา่ วิทยกุ ระจายเสียงหลายประการ เช่น สามารถเรียกฟังได้ทกุ เวลา โดยไมต่ ้องค�ำนงึ ถงึ เวลาออกอากาศ สามารถรับฟังได้จากทวั่ มมุ โลก โดยไม่ ต้องค�ำนงึ ถงึ แหลง่ ต้นก�ำเนิด อีกทงั้ จะไมเ่ พียงได้ยินแคเ่ สียงเทา่ นนั้ แตจ่ ะเหน็ ภาพด้วย และสามารถประกอบกิจกรรมอยา่ งอื่นในขณะฟังวทิ ยุ ซงึ่ คณุ สมบตั ิ ดงั กลา่ วได้สอดคล้องกบั รูปแบบการดำ� เนนิ ชวี ติ ของกลมุ่ ตวั อยา่ งในยคุ ปัจจบุ นั ซงึ่ เป็นคนรุ่นใหมท่ ่ีท�ำงานอยใู่ นหนว่ ยงานภาครัฐและเอกชน อีกทงั้ มีอปุ กรณ์ การส่ือสารและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซงึ่ อ�ำนวยให้รับ ฟังขา่ วสาร สาระความรู้ และความบนั เทิงตา่ งๆ ด้วยเทคนิคในการน�ำเสนอที่110 หลากหลายเพอ่ื น�ำไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำ� วนั ทงั้ ในด้านการรับรู้ขา่ วสาร การชว่ ยตดั สนิ ใจการสนทนากบั บคุ คลอนื่ ซง่ึ สอดคล้องกบั ศภุ รัศม์ิ ฐิตกิ ลุ เจริญ และ วไิ ลลกั ษณ์ สวุ จติ ตานนท์ [9] ได้ศกึ ษาเร่ือง พฤตกิ รรมการรับฟังและความ ต้องการรายการวทิ ยเุ พื่อการศกึ ษาของนกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั รามค�ำแหง พบ วา่ นกั ศกึ ษาสว่ นใหญ่มีความต้องการด้านการน�ำไปใช้ประโยชน์อยใู่ นระดบั มาก คือ ใช้ในการทบทวนบทเรียนส�ำหรับการสอบ ใช้ติดตามข่าวสารของ มหาวิทยาลยั และสงั คม นอกจากนนั้ ยงั สอดคล้องกบั แคทซ์ และคณะ [10] ท่ีได้ระบถุ งึ ความต้องการทผ่ี ้รู บั สารเปิดรบั สอ่ื มวลชนเพอื่ รบั รู้ขา่ วสารเพอ่ื ความ มน่ั ใจ และเพอื่ ความพงึ พอใจ แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม กลมุ่ ตวั อยา่ งมีพฤตกิ รรมการ รับฟังจากการน�ำเสนอรายการประเภทต่างๆ โดยรวมอย่ใู นระดบั ปานกลาง เน่ืองจากวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเป็ นสื่อที่น�ำเสนอด้วยเสียงเป็ นหลกั จงึ ดงึ ดดู ความ สนใจได้ไมเ่ ทา่ กบั สื่อโทรทศั น์ที่สามารถน�ำเสนอได้ทงั้ ภาพและเสียง 3. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ พบว่า กล่มุ ตวั อย่างอยากให้ มหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ น�ำผลการวจิ ยั ครัง้ นีไ้ ปใช้ประโยชน์ด้านการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ความสามารถและน�ำไปปฏิบตั ิงานได้มาก ปี ที่ 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ท่ีสดุ ซงึ่ น่าจะมีสาเหตมุ าจากการคาดหวงั ให้มหาวิทยาลยั ซงึ่ เป็ นหน่วยงานที่เก่ียวข้องกบั ทางด้านการศกึ ษาได้น�ำไปใช้ประโยชน์ด้านการเรียนการสอนอีกทงั้ ใช้เป็ นท่ีฝึ กปฏิบตั ิงานของนักศึกษา รวมถึงน�ำไปใช้ประยุกต์ในการปฏิบตั ิของหน่วยงานตนเองท่ีอาจจะจัดตงั้ สถานีวิทยุอินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษาของหนว่ ยงานตอ่ ไป 4. ผลการทดสอบสมมติฐานการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศแตกต่างกันมีความต้ องการรายการวิทยุอินเทอร์ เน็ตเพ่ือการศึกษาไม่แตกตา่ งกนั ซงึ่ น่าจะมีสาเหตมุ าจากความก้าวหน้าเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการส่ือสารท่ีท�ำให้เพศชายและหญิงตา่ งแสดงออกได้มากขนึ ้ เพศหญิงก้าวเข้ามาบทบาทเท่าเทียมกับเพศชาย จึงไม่ได้เป็ นข้อจ�ำกัด อุปสรรคในการเข้าถึงความต้องการดังกล่าวอีกต่อไป ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุระดับการศึกษาสูงสุด อาชีพ และรายได้ต่อเดือนโดยเฉลี่ยแตกต่างกัน 111มีความต้องการรายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษาแตกตา่ งกนั ทงั้ ในด้านเนือ้ หารายการ รูปแบบรายการ ผ้ดู �ำเนินรายการ เทคนิคการน�ำเสนอรายการประโยชน์ที่ได้รับจากการน�ำเสนอรายการ และพฤติกรรมการรับฟังจากการน�ำเสนอรายการ โดยสว่ นใหญ่กลมุ่ ตวั อย่างที่มีอายุ 18 ปี – 38 ปี มีระดบัการศกึ ษาท่ีส�ำเร็จสงู สดุ ท่ีส�ำเร็จปริญญาตรี มีอาชีพที่เอือ้ ต่อการรับฟังวิทยุอินเทอร์เน็ต เชน่ พนกั งานบริษัทเอกชน รับราชการ/พนกั งานรัฐวิสาหกิจ และมีรายได้เฉล่ียตอ่ เดือนโดยเฉลี่ย 15,001 – 35,000 บาท จะมีความต้องการมากกวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งในกลมุ่ อื่นๆ ซงึ่ สอดคล้องกบั ท่ี เดอเฟลอร์ [11] ได้กลา่ วถึงทฤษฎีกลมุ่ สงั คม (Social Category Theory) ซงึ่ ได้อธิบายว่า บคุ คลที่มีลกั ษณะทางสงั คมท่ีคล้ายคลึงกนั ได้แก่ ระดบั การศึกษา รายได้ อาชีพเพศ อายแุ ละภมู ิลำ� เนา จะมีความสนใจหรือมีพฤตกิ รรมในแนวทางเดียวกนัจึงท�ำให้ กลุ่มตัวอย่างที่มีลักษณะทางสังคมคล้ ายกันจะมีความต้ องการทีแ่ ตกตา่ งไปจากกลมุ่ ตวั อยา่ งในกลมุ่ อื่นๆ นอกจากนีย้ งั สอดคล้องกบั แนวคดิเร่ืองการใช้ประโยชน์และความพึงพอใจที่อธิบายได้ว่า เมื่อกล่มุ ตวั อย่างมี ปี ที่ 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ความต้องการแตกตา่ งกนั จะท�ำให้มีการใช้ประโยชน์ท่ีได้รับจากการน�ำเสนอ รายการทัง้ ในด้านเพื่อตอบสนองความต้องการด้านข้อมูลข่าวสาร สาระ ความรู้ หรือใช้สนทนากบั บคุ คลอื่นๆ ในสงั คมแตกตา่ งกนั ซงึ่ สอดคล้องกบั ที่แมกซ์เวลล์ อี. แมคคอมล์ และ ลี บี. เบคเคอร์ [12] ได้กลา่ วเกี่ยวกบั การใช้ สอื่ มวลชนเพ่ือตอบสนองความต้องการ คือ ต้องการรู้เหตกุ ารณ์ ชว่ ยตดั สนิ ใจ และเพื่อการพดู คยุ หรือสนทนา 10. ข้อค้นพบท่นี ่าสนใจ กลมุ่ ตวั อยา่ งมีความต้องการรายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษา ทงั้ ในด้านประเภทรายการ เนือ้ หารายการ รูปแบบรายการ ผ้ดู �ำเนินรายการ เทคนิคการน�ำเสนอรายการ และประโยชน์ที่ได้รับจากการรับฟังรายการอยู่ ในระดบั มาก แตม่ ีพฤตกิ รรมการรับฟังจากการน�ำเสนอรายการประเภทตา่ งๆ112 อย่ใู นระดบั ปานกลาง ซึ่งจะเป็ นประโยชน์แก่มหาวิทยาลยั ต่างๆ ที่จะผลิต วทิ ยอุ ินเทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษาในอนาคตท่ีต้องคำ� นงึ ถงึ ความสมั พนั ธ์กนั ของ องค์ประกอบดงั กลา่ ว กลา่ วคือ หากมหาวิทยาลยั ตา่ งๆ ต้องการผลติ รายการ วิทยปุ ระเภทรายการท่ีให้ข่าวสารเพื่อม่งุ เน้นให้ผ้ฟู ังเกิดความรู้ความเข้าใจ ควรน�ำเสนอในรูปแบบการรายงานข่าว โดยมีเนือ้ หาเก่ียวกบั ข่าวการศกึ ษา น�ำเสนอโดยผ้ดู �ำเนินรายการท่ีมีน�ำ้ เสียงชดั เจน หรือหากสนใจผลิตประเภท รายการที่ให้สาระความรู้ ควรน�ำเสนอในรูปแบบพดู คยุ กบั ผ้ฟู ัง ควรมีเนือ้ หา เก่ียวกบั เกร็ดความรู้ ดำ� เนนิ รายการโดยผ้ดู ำ� เนนิ รายการทพ่ี ดู คยุ กบั เป็นกนั เอง กบั ผ้ฟู ังและมีลีลาการน�ำเสนอนา่ ฟัง และหากต้องการผลติ ประเภทรายการที่ ให้ความบนั เทิง ควรน�ำเสนอในรูปแบบการแสดงสด สอดแทรกเนือ้ หาเก่ียว กับเพลงไทยสากลและละครวิทยุ ควรด�ำเนินรายการโดยผู้ด�ำเนินรายการ ท่ีพดู คยุ เป็ นกนั เองกบั ผ้ฟู ังและมีลีลาการน�ำเสนอน่าฟัง นอกจากนนั้ ผ้ผู ลิต รายการยงั ต้องคอยพฒั นาปรับเปลี่ยนข้อมลู ให้ทนั สมยั อยู่ตลอดเวลาเพ่ือ ให้ทนั ต่อการเปลี่ยนแปลงและรสนิยมในการรับฟังของผ้ฟู ัง ซง่ึ จะท�ำให้เกิด ปี ท่ี 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ประโยชน์แก่ผ้ฟู ังจะได้รับข่าวสาร สาระความรู้ ประโยชน์ และความบนั เทิงใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยต้องน�ำเสนอในช่องทางที่สะดวกและเหมาะสมต่อพฤตกิ รรมการรับฟังของกลมุ่ ตวั อยา่ ง11. ข้อเสนอแนะจากผลการวจิ ยั ครัง้ นี้ ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครที่มีรายได้ต่อเดือนโดยเฉลี่ยน้อยกวา่ หรือเทา่ กบั 15,000 บาท มีระดบั การศกึ ษาสงู สดุ ต�่ำกวา่ ปริญญาตรีและมีอาชีพรับจ้างทว่ั ไป ควรจะเป็นกลมุ่ เป้ าหมายแรกๆ ท่ีควรจะสง่ เสริมให้เกดิ ความต้องการรบั ฟังวทิ ยอุ นิ เทอร์เนต็ เพอ่ื การศกึ ษาอยา่ งเร่งดว่ น เพราะเป็นกล่มุ ท่ีมีความต้องการน้อยกว่ากล่มุ อื่นๆ ซึ่งจะเป็ นกล่มุ เป้ าหมายใหม่ที่จะเป็ นประโยชน์ต่อผู้ด�ำเนินรายการหรือผู้จัดรายการน�ำไปการวางแผนการผลิตเนือ้ หาให้ตรงกบั ความต้องการและเพิ่มโอกาสในรับฟังรายการมากขึน้เพ่ือเป็ นการขยายโอกาสทางการศึกษาและยกระดบั ความเป็ นอยู่ของชีวิต 113ให้ดีขนึ ้12. ข้อเสนอแนะในการวจิ ยั ครัง้ ต่อไป 1. ควรศกึ ษาให้เจาะจงลงไป เชน่ รูปแบบรายการใดท่ีเหมาะสมกบัคนท่ีมีรายได้น้อย มีการศกึ ษาท่ีไมส่ งู มากนกั เพื่อจะได้ทราบถงึ ความต้องการและวางแผนผลติ เนือ้ หาให้ตรงกบั ความต้องการได้อยา่ งแท้จริง 2. ควรศึกษาเร่ืองความต้องการเกี่ยวกับการจัดผังรายการวิทยุอินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษา อาทิ ต้องการให้รายการใดออกอากาศในชว่ งเวลาใด ความยาวตอ่ รายการนานเทา่ ไหร่ ขนั้ ตอนการจดั ตงั้ สถานีวทิ ยอุ นิ เทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษาส�ำหรับคนกลมุ่ ใดกลมุ่ หนึ่งที่เฉพาะเจาะจง เพ่ือการศกึ ษาให้ครอบคลมุ มากย่ิงขนึ ้ ปี ที่ 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ 13. ประโยชน์ของงานวจิ ยั 1.สถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆทงั้ ภาครัฐและเอกชนทงั้ ในกรุงเทพมหานคร และตา่ งจงั หวดั ที่มีนโยบายท่ีจดั ตงั้ สถานีวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพ่ือการศกึ ษาเป็ น ของตนเอง สามารถน�ำผลการวิจยั ไปใช้ในการวางแผนการผลติ รายการตา่ งๆ ได้อยา่ งเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการให้ขา่ วสาร สาระความรู้แก่ประชาชนที่มี ระดบั การศกึ ษาที่ไมส่ งู มากและมีอาชีพรับจ้างทว่ั ไปเพื่อพฒั นาตนเองตอ่ ไป 2. สถานีวิทยทุ ี่น�ำเสนอเนือ้ หาเกี่ยวกบั การศกึ ษาตา่ งๆ ที่ด�ำเนินการ อยู่แล้ว น�ำไปปรับปรุงแก้ไขพฒั นารายการของตนเอง อนั จะส่งผลให้ผู้จดั รายการ ผ้อู �ำนวยการสถานี เกิดความความรู้ ความเข้าใจ และทราบถงึ ความ ต้องการรูปแบบการจดั รายการวิทยอุ ินเทอร์เน็ตเพื่อการศกึ ษาของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานครได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผลมากยิ่งขนึ ้114 ปี ท่ี 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์รายการอ้างองิ [1] ณรงค์ สมพงศ์. (2543). ส่อื มวลชนเพ่อื งานส่งเสริม. กรุงเทพฯ:สำ� นกั พิมพ์มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. หน้า 153. [2] ชาญวิทย์ เจริญกิจชยั ชนะ. (2541). บทบาทของโฮมเพจIntercas.Loxinfo ในช่องทางใหม่ของส่ือมวลชน. วิทยานิพนธ์ปริญญานิเทศศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการสอ่ื สารมวลชน กรุงเทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . หน้า 4-5. [3] ทรรศกมล พัดทอง. (2548). การพัฒนารายการวิทยุอินเทอร์ เน็ตเพ่ือการศึกษา : กรณีศึกษารายการวิทยุอินเทอร์ เน็ตเพ่ือการศึกษา. วิทยานิพนธ์ปริญญาศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการศกึ ษา กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร. หน้า 8. [4] ส�ำนักบริหารทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. 115(2555). รายงานสถิติจ�ำนวนประชากร และบ้าน รายจังหวัด รายอ�ำเภอ และรายต�ำบล ณ เดือน ธันวาคม พ.ศ.2555. (ออนไลน์).,เข้าถึงได้จาก http://stat.bora.dopa.go.th/xstat/p5510_01.html.(สืบค้นข้อมลู : 17 มีนาคม 2557). [5] Yamane, T. (1967). Statistics: An introductory analysis.(2nd ed.). New York: Harper & Row. pp. 64-65. [6] Cronbach, Lee Joseph. (1984). Essential of Psychologyand Education. New York: Mc–Graw Hill. pp. 169. [7] ชดิ ชนก ชะนะภยั . (2550). การรับฟังรายการวทิ ยอุ นิ เทอร์เน็ตของชาวกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบณั ฑิตสาขาวิชาเทคโนโลยีส่ือสารมวลชน กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั รามค�ำแหง. ปี ท่ี 10 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ [8] Kaye, B. K., & Medoff, N.J. (1998). The World Wide Web: A mass communication perspective. Mountain View, CA: Mayfield. pp. 80-82. [9] ศภุ รัศมิ์ ฐิติกลุ เจริญ และ วิไลลกั ษณ์ สวุ จิตตานนท์. (2553). พฤตกิ รรมการรับฟังและความต้องการรายการวทิ ยุเพ่อื การศกึ ษาของ นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำ� แหง. รายงานวิจยั สถาบนั วิจยั และพฒั นา กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั รามค�ำแหง. [10] Katz E.; Blumer J. G.; and Gurevitch. (1974). Utilization of Mass Communication by the Individual. Beverly Hill: CA Sage Publication. pp. 211. [11] DeFleur, Melvin L. (1970). Theories of Mass Communication.116 (2nd ed.). New York: David Mckey Co. pp. 119-121. [12] McCombs, Maxwell E., and Becker, Lee B. (1979). Using Mass Communication Theory. Englewood Cliffs, N.J.: Printice Hall. pp. 51-52. ปี ท่ี 10 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน ประจ�ำปี 2559
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: