ประวัติเอเชียตะวันออก

เอเชียตะวนั ออกเป็นอนภุ ูมิภาคของ ทวีปเอเชีย มีพื้นที่ประมาณ 6,640,000 ตารางกิโลเมตร หรือ 15% ของพื้นที่ท้ังหมด ของทวีปเอเชียประเทศซึ่งมีพื้นที่ต้ังอยู่ใน ภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออก มีดังตอ่ ไปนี้

เอเชียตะวันออกต้ังอยใู่ นเขตหนาวและอบอุ่น ทางเหนือติดกบั รัสเซีย ทางตะวันตก ติดกับภมู ภิ าคเอเชียกลางและใต้ ทางทิศใต้ติดกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนทางตะวันออก เหนือสุดถึงใตส้ ุดติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทาให้ส่วนใหญ่ภูมิภาคนี้มีเส้นทางคมนาคมทาง ทะเลทีส่ ะดวก

เอเชียตะวนั ออกเป็นอนภุ ูมิภาคของ ทวีปเอเชีย มีพื้นที่ประมาณ 6,640,000 ตารางกิโลเมตร หรือ 15% ของพื้นที่ท้ังหมด ของทวีปเอเชียประเทศซึ่งมีพื้นที่ต้ังอยู่ใน ภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออก มีดังตอ่ ไปนี้

)

















ประวตั ศิ าสตรจ์ นี

ประวตั ศิ าสตรจ์ นี

ประวตั ศิ าสตรจ์ นี

ประวตั ศิ าสตรจ์ นี เปน็ ราชวงศ์ฉิน เปน็ ราชวงศศ์ ักดินาแรก ของจีน ปกครองแบบระบบทาสที่ดาเนนิ ยาวนานมากว่า 2,000 ปี ราชวงศฉ์ ิน ได้ ขยายอานาจการปกครองและรวมอานาจทั้ง แผน่ ดนิ ไวแ้ ตเ่ พยี งผู้เดยี ว โดยมีผูน้ าคอื ฉนิ ซีฮ่องเต้ ปกครองด้วยความเฉยี บขาด อามหติ และทารุณ มีการกดขีข่ ่มเหง ประชาชนและลม่ ล้างแนวคิดจากลัทธิตา่ งๆ

ประวตั ศิ าสตรจ์ ีน ในราชวงศ์ฉิน การสร้างเช่ือมกาแพง เมืองจนี มีระบบ ชั่ง ตวง วัด และการ ใช้ตัวอักษรจนี ท่ีเป็นมาตรฐานเดียวกัน พวกมองโกล ซงหนู

ประวัติศาสตรจ์ นี สมยั ราชวงศฮ์ นั่ (206 ปีก่อน ค.ศ.- ค.ศ. 221) มีการสารวจ เสน้ ทางไปทางตะวนั ตก หรอื เส้นทางสายแพรไหม ซง่ึ มี ความสาคญั ทางการคา้ การแลกเปลีย่ นวฒั นธรรม การเผยแผ่ ศาสนา ยคุ สามกก๊ จนี แตกแยกออกเปน็ ก๊กตา่ งๆมกี ารแยงชงิ กนั สมัยราชวงถงั (ค.ศ. 618-907) นับเป็นยคุ ทองของจีน พระพุทธศาสนามีความเจรญิ รุ่งเรอื ง มกี ารสอบความรู้ ทเี่ รียกว่า “สอบจอหงวน”

ประวัติศาสตร์จนี สมัยราชวงศซ์ ่งหรอื ซอ้ งถูกชนเผา่ ทางเหนือ รกุ ราน เรม่ิ มกี ารประดิษฐ์ดนิ ปืน เพ่ือใช้ทาดอกไมไ้ ฟ มี ความโดดเดน่ ทางดา้ นภาพวาดและเครอ่ื งกระเบื้อง สมยั ราชวงศ์หยวนหรอื หงวน ปกครองโดยชนเผา่ มองโกล โดยมเี มอื งหลวงอยทู่ เี่ มืองตา้ ตู (เปย่ ์จิง หรอื ปกั กงิ่ ในปจั จบุ นั ) กองทัพไรพ้ ่าย ทตี่ ญี ่ีปุ่น บุก เกาหลี ขยี้รัสเซยี เหยียบพม่า ขยา้ จีน

ประวัติศาสตรจ์ นี สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) มกี ารส่งกองเรอื ขนาด ใหญ่ออกสารวจทางทะเลชาวตะวันตกเริม่ เข้ามาตดิ ตอ่ กบั จนี โดยตรง สนิ คา้ จนี ท่ีเป็นทตี่ ้องการ เช่น ใบชา เครอ่ื งกระเบอื้ งสีน้าเงนิ -ขาว สมยั ราชวงศช์ งิ (ค.ศ. 1644-1912) ปกครองโดยชาวแมนจู มีการสบื ทอดอารยธรรม ดั้งเดมิ ของชาวจีน ภายหลงั เสอื่ มอานาจลงจาก ความอ่อนแอภายในและการุกกรานของตะวนั ตก

ประวตั ศิ าสตรจ์ นี

ประวตั ศิ าสตรจ์ นี

ประวัติศาสตรจ์ ีน หยวน ซ่อื ไข ดร. ซุน ยัดเซ็น รัฐบาลของราชวงศ์ชิง เร่ิมอ่อนแอลง จนกระท่ัง ดร. ซุน ยัดเซ็น พรรคก๊กมินเต๋า ทาการเปลี่ยนแปลง ระบอบการปกครองเป็น ระบอบประชาธิปไตยแบบ สาธารณรัฐ โดยมี หยวน ซ่อื ไข เป็นประธานาธบิ ดคี นแรก

ประวตั ิศาสตรจ์ ีน ต่อมามีปัญหาการรุกร่านจากญ่ีปุ่นซ่ึงตรงกับ สมัยของ เจียง ไคเชก เป็นประธานาธิบดี เป็นเหตุให้เกิด กลุ่มต่อต้านขึ้นมามากมายเพ่ือโค่นล้มการปกครองของ พรรคก๊กมินตั๋ง กลุ่มที่สาคัญท่ีสุดคือ พรรคคอมมิวนิสต์ จีน โดยมีเหมาเจ๋อตุง เป็นผู้นา ไคเชกเป็นฝ่ายแพ้ต้อง อพยพไปตงั้ รฐั บาลจนี คณะชาติที่ไต้หวัน เหมาเจ๋อตุง จึง ทาการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง มาเป็นระบอบ คอมมิวนสิ ต์ มาจนถึงปจั จบุ นั

ประวตั ิศาสตรจ์ นี รัฐบาลจีนเข้มงวดทางการเมอื งมาก ถึงปิดประเทศแต่ก็ยงั เปดิ ทางดา้ นเศรษฐกจิ โดยใชน้ โยบายท่เี รียกวา่ เป็นแนวคิดซง่ึ รเิ ร่ิมเสนอโดย เตง้ิ เสย่ี วผงิ ผนู้ าสงู สุดของสาธารณรฐั ประชาชนจีนขณะนัน้ เพื่อการรวมประเทศจนี ระหวา่ งตน้ ครสิ ต์ ทศวรรษ 1980 เขาเสนอว่าจะมีเพียงจนี เดียว แตเ่ ขตจนี อิสระ เชน่ ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน สามารถมรี ะบบเศรษฐกิจและ การเมืองแบบทุนนยิ มได้ ขณะที่สว่ นทเ่ี หลอื ของจีนใชร้ ะบบสงั คมนยิ ม นอกจากนั้นเพื่อใหท้ นั สมยั มากขน้ึ หลังจากเปดิ ประเทศ เต้ิง เส่ยี วผงิ ยังออกนโยบายเพ่ิมคือ “นโยบายสท่ี ันสมยั ” โดยเน้นพัฒนา 4 ด้าน คือ 1 ด้านเกษตรกรรม 2 ดา้ นอุตสาหกรรม 3 ดา้ นการปอ้ งกนั ประเทศ 4 ดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ประวัตศิ าสตรญ์ ี่ป่นุ พฒั นาการทางประวัติศาสตรญ์ ี่ปุน่ เริม่ ขนึ้ เมอ่ื ประมาณ 660 ปกี อ่ น ค.ศ. ตาม ตานานกลา่ วว่า จกั รพรรดิองคแ์ รก คอื จิมมุ เทนโน โดยเชื่อวา่ เปน็ ผสู้ ืบเชอ้ื สายเทพเจา้ แหง่ ดวงอาทติ ยซ์ งึ่ ต่อมาพัฒนามาเป็นลัทธิชินโต ส่วนมากวัฒนธรรมญี่ป่นุ รับวัฒนธรรมมาจาก จนี ท้งั ด้านปรชั ญาการปกครองภาษาและ ศลิ ปกรรม

ประวัตศิ าสตรญ์ ี่ป่นุ ประวตั ิทางดา้ นการปกครอง อดตี เมอื งหลวงแห่งแรกของญี่ป่นุ คือเมือง นาระ แล้วย้ายมาเป็นเมอื งเฮกนั (โตเกยี ว) มกี ารปกครองระบอบฟิวดัล คือ อานาจ การปกครองแบ่งเปน็ แวน่ แคว้น ภายใต้ การปกครองของ ไดเมยี ว (นกั รบซามูไร) ส่วน โชกนุ มีอานาจทางด้านการปกครอง ทหาร ส่วนจกั พรรด์ิยงั ถูกยกย่องเปน็ เทพ เจา้ เหมือนเดิม เรยี กการปกครองน้วี า่ ระบบโชกนุ

ประวัตศิ าสตรญ์ ี่ป่นุ

ประวัตศิ าสตรญ์ ี่ป่นุ ต่อมาญปี่ นุ่ เร่ิมมกี ารค้ากบั ชาติ ตะวันตก โดยโปตเุ กสมาเป็นชาตแิ รกตามมา ด้วยสเปน ฮอลนั ดา องั กฤษ ซึง่ นอกจากจะ นามาในเรอื่ งการคา้ แลว้ กน็ าศาสนามาคริสต์ เข้ามาเผยแผ่ดว้ ย ซึ่งเป็นเหตุให้ญปี่ ุ่นปิด ประเทศ เพราะกลวั ชาวตะวนั ตกจะยึดครอง และทาลายความหม่ันคงของประเทศ แตก่ ็ ยังติดตอ่ การคา้ แคจ่ นี และฮอลนั ดา ***กบฏชิมะบาระ

ประวัตศิ าสตรญ์ ี่ป่นุ ต่อมากา้ วเขา้ สยู่ ุคสงครามโลกคร้ัง ท่ี 2 ญ่ปี ุ่นทาสงครามกบั อเมริกา ซงึ่ ญ่ปี ุ่น เป็นฝ่ายแพท้ าให้ญปี่ ุ่นสิน้ สดุ ระบบโชกุน

ประวตั ิศาสตรญ์ ี่ป่นุ พอญป่ี ่นุ เปน็ ฝ่ายแพ้ทาให้ญีป่ ุ่น สิ้นสดุ ระบบโชกนุ แล้ว ทาให้ญปี่ ่นุ กลา่ วเขา้ สู่ สมยั เมจิ สมยั แหง่ การฟื้นฟอู านาจพฒั นา ประเทศใหเ้ จริญรุ่งเรอื งอยา่ งร่งุ เรอื ง และ เปลยี่ นการปกครอง มาเป็นระบอบ ประชาธปิ ไตยโดยมพี ระมหากษตั ริย์เป็น ประมขุ จนถึงปจั จุบนั ภายใต้คาขวัญว่า \"ประเทศมงั่ ค่งั กองทพั แขง็ แกร่ง\"

ประวัตศิ าสตรเ์ กาหลี พัฒนาการทางด้านประวตั ศิ าสตร์ เกาหลมี คี วามเป็นมาทย่ี าวนาน ในอดีต เกาหลีถูกแบ่งออกเป็นแควน้ ๆ และมกั แย่ง ชงิ อานาจกนั อย่เู สมอ เช่น สมัยโครยอ สมยั ราชวงศย์ ี โซซอน ราชวงศข์ องเกาหลมี ักตก อยใู่ ตอ้ ิทธพิ ลของจีน และบางครั้งกต็ กเปน็ เมอื งขึน้ ของจนี และญป่ี ุ่น

ประวัตศิ าสตรเ์ กาหลี หลังจากสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 สนิ้ สุดลง แนวโน้มของการแบ่งประเทศเริม่ ปรากฏขึ้นสหรฐั เข้าควบคมุ ภาคใตข้ อง คาบสมุทรเกาหลี และโซเวยี ตเข้าควบคุม ภาคเหนอื โดยใชเ้ สน้ ขนาน(ละตจิ ดู ,เส้นรุ้ง)ที่ 38 องศาเปน็ เสน้ แบง่ รัฐบาลชวั่ คราวถกู ยกเลิกเพราะสหรฐั เหน็ วา่ เป็นพวก คอมมวิ นสิ ต์ ในครั้งแรกการแบง่ แยกน้ีเปน็ การชวั่ คราว และจะให้เอกราชแกเ่ กาหลีเมื่อ ส่ชี าติมหาอานาจคือสหรฐั อเมรกิ า สหภาพ โซเวียต อังกฤษ และจนี จดั การปกครองใน เกาหลีสาเรจ็ แต่ผลจากสงครามเย็นทาให้ สหรัฐวางแผนคุ้มกนั เกาหลเี พอ่ื ต่อตา้ น คอมมิวนิสต์

เศรษฐกจิ ภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกมีพน้ื ฐานทาง เศรษฐกจิ อย่ทู กี่ ารเกษตรกรรม และรงุ่ เรื่องทั้งด้านอตุ สาหกรรม และการคา้ ขายมาตงั้ แต่โบราณ มที ง้ั การคา้ ขายทางทะเลและ ทางบก ดังน้ี เส้นทางสายไหมทางบก คอื เส้นทางโบราณทางบก ทเ่ี ช่อื มต่อกบั จนี และชาติ ตะวันตก ผา่ นเอเชียกลางถึงทะเลมเิ ตอรเ์ รเนยี น เป็นเส้นทางทรี่ ุ่งเรอื งมากในราชวงศ์ถงั

เศรษฐกจิ เสน้ ทางสายไหมทางทะเล เป็นเสน้ ทางที่ร่งุ เรืองมากในสมยั ราชวงศ์ซ้อง สามารถต่อเรอื สาเภา ขนาดใหญ่ พัฒนาการคา้ ขายกับ ญีป่ นุ่ เกาหลี ตลอดจนอาณาจกั ร ตา่ งๆ สินคา้ ที่ตลาดต้องการไดแ้ ก่ ผ้าไหม แพรพรรณ เครือ่ งถ้วยชาม ใบชา

เศรษฐกจิ จนี

เศรษฐกจิ จนี

เศรษฐกิจญ่ปี ่นุ







ภูมิภาคเอเชยี ………ตะวันตก ียงใต…้ ……………… ภมู ภิ าคเอเชีย………………กลาง…………………………. เป็นท่ีตั้งของอารยธรรม………………………………… เปน็ ทีต่ ้งั ของอารยธรรม………………………………… …………อารย รรมเมโสโปเตเมยี ……………………… ……………แบบเร่รอนเลยี้ งสัตว………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ภูมิภาคเอเชยี ……………………ตะวันออก……………. เปน็ ทต่ี ้งั ของอารยธรรม………………………………… …………อารธรรมแม่นา้ หาวงเหอและ าง เจีย………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ภูมภิ าคเอเชยี …………….ใต…้ ………………………………. เป็นทตี่ ั้งของอารยธรรม………………………………… ……อารยธรรมแมน่ ้าสนิ ธ…ุ ………………………….… ……………………………………………………………………………