เสื้อผ้าและการดูแลเสื้อผ้า

เส้ือผา้ และการดแู ลรักษา เส้ือผา้ การดแู ลเส้อื ผา้ ประเภทของ การลบ การซักผา้ การตากผา้ การรีดผา้ การพับผา้ การจดั เก็บ ในชีวติ เสื้อผ้า รอยเปื้อน เสื้อผ้า ประจาวัน

The importance of clothing apparel • ปกปิดร่างกายสว่ นท่ไี ม่ตอ้ งการเปดิ เผย • ร่างกายอบอนุ่ (รอ้ น หนาว ฝน) • สง่ เสริมบุคลกิ ภาพ และความมัน่ ใจ • แสดงมารยาททางสังคม • แสดงขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวฒั นธรรม

การเลือกใช้ เสื้อผ้า เคร่ืองแต่งกาย

การเลอื กใช้ เสอื้ ผ้า 1 เหมาะสมกบั โอกาสและสถานท่ี

















การเลือกใช้ เสอื้ ผา้ 2 เหมาะสมกับสภาพอากาศ

การเลอื กใช้ เสอ้ื ผ้า 3 เหมาะสมกบั รูปรา่ งและสผี วิ เสอ้ื กระโปรง กางเกง • แขนกไุ ม่เหมาะกบั คนอวบอว้ น • สะโพกใหญ่ ควรสวมกระโปรงยาว • ถา้ คนอ้วนไมค่ วรใส่กางเกงเอวรดู • เสอ้ื คอวีเหมาะกบั คนที่ศรี ษะโต ระดบั หัวเข่า เขา้ รูป ไม่ตอ้ งบานนกั จะทาให้ดูอ้วนขึน้ หรือช่วงคอสั้น • หนา้ ทอ้ งยน่ื ควรพรางด้วยกระโปรง • อยากหนุ่ เพรียว ควรใส่กางเกง • เส้อื ลายทางยาว ๆ ชว่ ยพราง เขม้ ทรงสอบ ทรงตรง เข้ารปู ไมห่ ลวม หุ่นอวบอว้ น • เสรมิ ชว่ งขาให้ดูยาวข้ึน ด้วยกระโปรง • ถ้าไม่มกี ้น ควรเลือกกางเกงมลี าย • เสื้อเช้ติ ชว่ ยใหด้ ูเปน็ ผหู้ ญงิ สอบ ควรสวมกระโปรงบานย้วย ไม่รัดรูป ทางานปราดเปรียวขน้ึ • ต้องการพรางบ้นั ทา้ ย เลอื กกางเกงท่ี มกี ระเปา๋ ดา้ นหลัง

การดูแลเสอื้ ผา้ ในชวี ิตประจาวนั • ทาใหเ้ สอื้ ผา้ สะอาด • มสี ภาพดี • น่าสวมใสอ่ ยู่เสมอ

ลาดบั ขั้นตอนในการดแู ลเสอ้ื ผา้ ขน้ั ที่ ๒ รวบรวมเสือ้ ผ้าทีจ่ ะซัก สารวจสิ่งของท่ตี กคา้ งตามกระเปา๋ แยกผ้าสี และผา้ ขาวออกจากกนั เสอื้ ผา้ ทสี่ ตี ก สกปรกมาก หรือผา้ ท่ตี ้องดูแลเปน็ พเิ ศษ ควรแยกออกไว้ซกั ต่างหาก

ลาดบั ขั้นตอนในการดแู ลเสอ้ื ผา้ ข้ันท่ี ๔ ซ่อมแซมเส้อื ผา้ ทช่ี ารดุ ชายกระโปรงหลดุ ถา้ เสือ้ ผา้ ชารุดมากให้แยก ออกไว้ซอ่ มแซมแล้วจึงนาไปซักภายหลงั

ลาดบั ขั้นตอนในการดแู ลเสอ้ื ผา้ ขัน้ ท่ี ๗ เมอื่ เสอื้ ผ้าแหง้ ควรจัดเก็บเสื้อผ้าใหเ้ รียบรอ้ ย เสื้อผ้าท่ีไม่ต้องรดี ให้ นาไปพบั เก็บใหเ้ รียบรอ้ ย ส่วนเสอ้ื ผ้าท่ีตอ้ งรดี ใหใ้ ส่ไมแ้ ขวนไวร้ อรดี ไม่ควร พับเส้ือผ้าหรอื ใสต่ ะกร้าใหเ้ สื้อผา้ ทบั ซ้อนกนั เพราะจะทาให้รัดเรยี บได้ยาก

ลาดบั ขั้นตอนในการดแู ลเสอ้ื ผา้ ขั้นท่ี ๙ จัดเกบ็ เสือ้ ผา้ เข้าทใี่ หเ้ รียบร้อย เพ่อื ความเปน็ ระเบยี บปอ้ งกนั ฝ่นุ ละอองและปอ้ งกนั แมลงทีอ่ าจมากดั แทะเส้อื ผ้าใหช้ ารุดเสียหาย

ประโยชน์ของการดแู ลเสอ้ื ผา้ ในชวี ติ ประจาวนั ๑. ทาใหเ้ ส้ือผา้ สะอาดเรียบรอ้ ย ๕. ช่วยรกั ษาสงิ่ แวดล้อมหรอื ลดภาวะ ๒. ชว่ ยส่งเสริมบคุ ลิกภาพทด่ี ี โลกร้อน เนือ่ งจากการใชเ้ ส้ือผ้า ให้แกผ่ ู้สวมใส่ อย่างคมุ้ คา่ ชว่ ยลดการซ้ือเส้อื ผ้า ใหม่หรอื ลดการใชท้ รัพยากรและ ๓. เนือ้ ผา้ ไม่สกปรก ไมห่ มอง ไม่เก่างา่ ย พลงั งานในการผลิตเส้ือผ้า ๔. เนื้อผ้าทไ่ี ดร้ บั การดแู ลอยา่ งถูกวิธี จะไมเ่ ปอื่ ยงา่ ย ทาใหเ้ สอื้ ผ้ามีอายุ การใชง้ านนานข้นึ

ประเภทของเสอ้ื ผา้ • เสือ้ ผา้ จากเส้นใยธรรมชาติ • เสอื้ ผา้ จากเส้นใยสังเคราะห์ • เส้ือผา้ จากเส้นใยกง่ึ สงั เคราะห์

๑. เส้ือผ้าจาก ผา้ ฝา้ ย (Cotton) เส้นใย ธรรมชาติ คุณสมบตั ิ เงามันน้อย ยืดหยนุ่ ตา่ ดูดซบั ความชน้ื และระบายความรอ้ นไดด้ ี ไม่เกดิ ไฟฟ้า สถิต ไม่เปน็ ขุย ทนความรอ้ นสูง ทนต่อ การขัดถู ทนดา่ ง การนาไปใชป้ ระโยชน์ ตัดเย็บเสื้อผ้าสวมใสใ่ นฤดูร้อน ทา ผ้าเชด็ ตัว ผา้ ปูทนี่ อน ปลอกหมอน เส้ือผา้ เด็กออ่ น ผ้าอ้อม ขอ้ เสยี ไม่ทนต่อกรด ยบั ง่าย ติดไฟเร็ว

ผ้าลนิ ิน (Linen) ผา้ ไหม (Silk) คณุ สมบตั ิ คุณสมบตั ิ เงามันกว่าผ้าฝ้าย สวยงาม ดูดซบั เงามนั สวยงาม ผา้ ท้ิงตัวดี ดูดซบั ความช้ืนได้ดกี ว่าผา้ ฝ้าย แหง้ เร็ว ทน ความชื้นได้ดี สภาพอากาศรอ้ นสวมใส่ ความรอ้ นและแสงแดดได้ดี ต้านทาน แลว้ จะรู้สึกเย็นสบาย และอบอ่นุ เมอื่ เชือ้ ราและแบคทีเรยี ไดด้ กี ว่าผา้ ฝ้าย สวมใสใ่ นฤดูหนาว ไมค่ ่อยเกดิ ไฟฟ้า ไมม่ ปี ญั หาไฟฟา้ สถติ สถิต ทนร้อนได้ปานกลาง การนาไปใชป้ ระโยชน์ การนาไปใชป้ ระโยชน์ ตดั เยบ็ เสอ้ื ผ้าสวมใสใ่ นฤดรู อ้ น ทา ตัดเยบ็ เสื้อผ้าสวมใส่ในฤดูรอ้ น ทา ผา้ ลกู ไม้ ผ้าเช็ดหนา้ ผ้าปูโตะ๊ ผ้าลกู ไม้ ผ้าเชด็ หนา้ ผ้าปูโต๊ะ ขอ้ เสยี ข้อเสยี ไมท่ นทานตอ่ การขัดถู เนื้อผา้ แขง็ ไม่ทนทานตอ่ การขัดถู เนื้อผ้าแข็ง ยับง่าย ไม่ทนสารฟอกขาว ยบั งา่ ย ไมท่ นสารฟอกขาว

๒. เสอ้ื ผา้ จาก ผา้ ไนลอน (Nylon) เส้นใยสงั เคราะห์ คณุ สมบตั ิ มคี วามเหนยี ว แข็งแรงทนทานมาก ยดื หยุ่นดี การนาไปใชป้ ระโยชน์ ใช้ทาถงุ นอ่ งสตรแี ละเสอื้ ผา้ ตา่ ง ๆ

ผา้ พอลเิ อสเตอร์ ผ้าสแปนเดก็ ซ์ (Polyester) (Spandex) หรอื ไลครา (Lycra) คณุ สมบตั ิ เส้นใยนมุ่ ดูดซบั ความชืน้ ไดน้ อ้ ย คณุ สมบตั ิ ความเหนียวต่าแต่สามารถยดื หดตวั นา้ หนักเบา ไม่ยบั งา่ ย ไมห่ ดตัว รดี จบี จบี ถาวร ไม่ยว้ ย แห้งไว ซกั งา่ ย ดูแล ไดส้ ูง ดดู ซับความชนื้ ไดต้ ่า ไมย่ บั งา่ ย ง่าย โคง้ งอไดด้ ี ความรอ้ นจะทาให้ความ ยดื หยนุ่ ลดลง การนาไปใชป้ ระโยชน์ ใชเ้ ลียนแบบและผสมกับเสน้ ใยอนื่ การนาไปใชป้ ระโยชน์ ใช้ทาเสอื้ ชั้นในสตรี ยางยืด และผา้ ได้ดี นยิ มใชใ้ นวงการอตุ สาหกรรม เสอ้ื ผ้า ทใ่ี ชท้ างการแพทย์

๓. เสอ้ื ผา้ จาก ผา้ เรยอน (Rayon) เสน้ ใยกึ่งสงั เคราะห์ คณุ สมบตั ิ เน้ือนุ่ม สวยงาม มคี วามมนั เงาคลา้ ย ไหม ดดู ซบั นา้ ได้ดี การนาไปใชป้ ระโยชน์ ใช้ทาผา้ ไหมเทียม ขอ้ เสยี ยับง่าย คลายยบั ยาก รีดเรียบทิ้งไว้จะ ลู่ลง เปื่อยงา่ ย

หลกั การดแู ลเสอื้ ผา้ ๑. ขณะสวมใส่เส้ือผ้าต้องระมดั ระวงั ไม่ให้เปรอะเปอ้ื น และถูกของแหลมคมเกย่ี วขาด ตัวอย่างสญั ลกั ษณใ์ นการดแู ลเสอ้ื ผา้ ๒. ไม่ควรใส่ของหนักหรอื ของมคี มในกระเป๋าเสอ้ื ผา้ เพราะจะทาใหก้ ระเปา๋ ขาดได้ ๓. เสือ้ ผ้าเมื่อถอดแล้วจะสวมใส่อีกควรแขวนดว้ ยไม้แขวน และเก็บไว้ในทีอ่ ากาศถา่ ยเทได้ดี ๔. สารวจสัญลักษณบ์ นป้ายผา้ ทต่ี ดิ มากบั เสื้อผา้ และดแู ล รักษาใหถ้ กู วิธี

ท่มี า : https://www.kaidee.com/product-352796056

การลบรอยเป้ือน การขจัดรอยเปอ้ื นต่าง ๆ ที่เกิดขึน้ เฉพาะทบี่ นเสอ้ื ผา้ ออกจากเส้นใยของเส้อื ผา้ ก่อนนาไปซกั โดยใชส้ ารท่ีไม่ ทาลายเน้อื ผา้ เพ่ือให้เน้อื ผา้ กลับมามสี ภาพคล้าย แบบเดิมมากทส่ี ุด

การลบรอยเปอื้ น วิธีกาจดั รอยเปอ้ื น : ทงิ้ รอยเปอื้ นกาวใหแ้ หง้ ลอกกาวบางส่วนออก แชร่ อยเป้ือนในนา้ เย็น กาว (Glue) ประมาณครึ่งช่วั โมง แลว้ นาไปซักด้วยน้าสบู่อ่อนๆ ไข่ (Egg) วธิ กี าจดั รอยเปอ้ื น : แช่รอยเป้ือนในนา้ เยน็ ซกั นา้ เปลา่ หลาย ๆ คร้งั แล้วซักด้วยนา้ ผสม ผงซักฟอก

การลบรอยเปอื้ น วธิ กี าจัดรอยเปอ้ื น : ทิ้งคราบโคลนไวใ้ ห้แหง้ ขูดคราบโคลนออก นาไปซักในนา้ ธรรมดา โคลน (Mud) แลว้ จึงนาไปซกั ในน้าอุ่นท่ีผสมผงซกั ฟอก ถา้ ยังมสี ดี นิ ตดิ อยู่ใหเ้ ช็ด ด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ วธิ ีกาจดั รอยเปอ้ื น : ใชน้ ้าสม้ สายชหู รอื น้ายาซกั แหง้ ทาทรี่ อยเปื้อนทิ้งไว้ ๑ คืน นาไปซกั ในนา้ สบู่อุ่น ๆ คราบเหงอื่ ใตว้ งแขน (Sweat)

การลบรอยเปอ้ื น วธิ ีกาจัดรอยเปอื้ น : แชร่ อยเปอ้ื นในน้าอ่นุ ถ้ายังมคี ราบสนี ้าตาลอย่ใู ห้เช็ดด้วยสารฟอกขาว ไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ ช็อกโกแลตหรอื กาแฟ (Chocolate or Coffee) วิธกี าจดั รอยเปอื้ น : ซกั ในนา้ อนุ่ จดั ๆ ท่ผี สมผงซกั ฟอก ถ้าซกั ออกไม่หมดให้เชด็ ด้วย คารบ์ อนเตตระคลอไรด์ นมหรอื เนย (Milk or Butter)

การลบรอยเปอ้ื น วธิ กี าจดั รอยเปอื้ น : ใช้แปง้ โรยบริเวณรอยเปือ้ นทิ้งไวป้ ระมาณ ๑๕ นาที เพ่ือดูดซบั คราบ นา้ มนั นา้ มัน เทน้าเดือดลงบนรอยเปื้อนแลว้ นาไปซักตามปกติ (Oil) วิธีกาจดั รอยเปอ้ื น : หากเปน็ รอยยางกลว้ ยทยี่ งั ใหมอ่ ยู่บนเสอ้ื ผ้า ให้รบี เอานา้ มะนาวมา บีบใสล่ งไปตรงรอย หรอื อาจจะเอารอยนั้นไปขย้ซี กั ในน้ามะนาวได้ เลย ยางกล้วยทตี่ ิดอยูก่ ็จะหายไป ยางกลว้ ย (Banana Tree Sap)

การลบรอยเปอ้ื น ลิปสติก วธิ ีกาจดั รอยเปอ้ื น : (Lipstick) ใช้ฟองน้าชบุ น้ามันยคู าลิปตัส กลเี ซอรีน หรอื แอลกอฮอลเ์ ช็ดท่ีรอยเปอ้ื น แล้วล้างออกด้วยนา้ ธรรมดา ถา้ ยังออกไมห่ มดใหใ้ ช้ฟองนา้ ชบุ นา้ มันไฟ แชก็ เช็ดซา้ อีกครั้ง วธิ กี าจดั รอยเปอ้ื น : แชร่ อยเปอ้ื นในน้าสบูอ่ ่อน ๆ ทาสบู่ทรี่ อยเป้อื น ขยจ้ี นคราบเลอื ดออก หมด คราบเลอื ด (Blood)

การลบรอยเปอ้ื น วธิ ีกาจดั รอยเปอื้ น : ใช้มะนาวผสมเกลือทาท่ีรอยเปื้อนทง้ิ ไวป้ ระมาณ ๑๐ นาที จึงนาไปซกั สนมิ (Rust) ตามปกติ ปากกาหมกึ แหง้ วธิ กี าจัดรอยเปอ้ื น : (Ink) ถา้ เปน็ รอยเปอื้ นใหม่ ๆ ให้ขย้ใี นนา้ ผสมสารซักฟอก ถา้ ทิ้งไว้นานให้ เช็ดรอยเปื้อนดว้ ยแอมโมเนยี ทิ้งไวป้ ระมาณ ๑๕ นาที ขย้ีรอยเป้ือน แลว้ จงึ นาไปซักตามปกติ

การลบรอยเปอื้ น หมากฝรงั่ วิธีกาจดั รอยเปอื้ น : (Chewing Gum) ใชน้ า้ แขง็ ถูบนหมากฝรัง่ ขดู หมากฝร่ังทตี่ ดิ บนเสอื้ ผ้าออกใหม้ ากทส่ี ดุ ใช้นา้ มันสนหรือคาร์บอนเตตระคลอไรดท์ าบริเวณรอยเปอื้ นนาไปซกั ตามปกติ ไอศกรมี วธิ ีกาจดั รอยเปอื้ น : (Ice Cream) เช็ดดว้ ยแอลกอฮอลห์ รอื นาไปซกั ในน้าอนุ่ ผสมด้วยผงซักฟอก ถา้ ออกไม่หมด ให้เชด็ ด้วยคาร์บอนเตตระคลอไรดจ์ นสะอาด

ร้ไู ว้สักนดิ ...

การซกั ผา้ ๑. สารเคมที ใี่ ช้ในการซักผา้ ๒. อุปกรณท์ ใี่ ช้ในการซกั ผา้ ๓. วธิ กี ารซกั ผา้

สารเคมที ่ใี ชใ้ นการซกั ผา้ สารซกั ฟอก • ทาหน้าทช่ี าระลา้ งสิ่งสกปรก • มปี ระสิทธภิ าพดีกว่าสบู่ ราคาถกู ประกอบดว้ ย สารสาคญั ๒ ชนดิ คอื ✓ สารลดแรงตงึ ผวิ ✓ สารลดความกระดา้ งของนา้ • มหี ลายชนิด ✓ ผงซักฟอก ✓ น้ายาซักผ้า ✓ สบซู่ ักผา้ • ควรเลอื กใช้ให้เหมาะสมกบั ชนดิ ของเสือ้ ผ้า และการนาไปใช้

สารเคมที ่ใี ชใ้ นการซกั ผา้ นา้ ยาปรบั ผา้ นมุ่ (Fabric Softener) • มีส่วนผสมของน้ามันชว่ ยเคลอื บผนื ผ้า • ลดความกระดา้ งของผ้า • ชว่ ยลดการดดู ซบั ของน้า และประจไุ ฟฟา้ สถิต • ทาใหผ้ า้ ไม่แนบติดตวั และปรบั สภาพเส้นใยใหฟ้ ูข้นึ • ทาใหผ้ า้ นมุ่ • ใชผ้ สมในนา้ สดุ ท้ายกอ่ นบีบผา้ ข้นึ ตาก

สารเคมที ่ใี ชใ้ นการซกั ผา้ คราม นา้ ยาขจดั คราบสกปรก การลงคราม ทาโดยแช่ผ้าขาวท่ีซกั แลว้ ลงใน (Stain Remove) นา้ ผสมครามใหม้ สี ีฟ้าอ่อน ๆ ขยาเบา ๆ บบี นา้ คราม ออกก่อนนาข้ึนตาก เมอ่ื แห้งแล้วจะมีสขี าวนวลขนึ้ ช่วยให้คราบสกปรกตา่ ง ๆ หลุดออกจาก แต่ถา้ ผสมผงครามใหม้ สี เี ขม้ เกินไป ผา้ สขี าวจะ เส้นใยผา้ ไดง้ ่ายขึ้น กลายเป็นสฟี ้าหมน่ ๆ ไมน่ า่ สวมใส่

สารเคมที ่ใี ชใ้ นการซกั ผา้ สารฟอกขาว (Bleach) • มีคลอรีนเป็นสว่ นประกอบหลัก • ทาหน้าทช่ี ่วยใหผ้ ้าขาวขึ้น และลดความหมอง ของเน้อื ผา้ • ควรศึกษาคุณสมบัติของผ้าก่อนทาการซัก ผ้าบางชนิดผสมใยสังเคราะห์ เมื่อถูกสาร ฟอกขาวจะเปล่ยี นจากสีขาวเป็นสเี หลืองหรือ สนี า้ ตาลอ่อน • เวลาใชต้ ้องระมัดระวังอยา่ ใหถ้ ูกเนอื้ ผ้า โดยตรง

สารเคมที ่ใี ชใ้ นการซกั ผา้ แป้งมันสาปะหลงั (Tapioca Flour) • ใช้ลงผา้ ใหม้ คี วามคงรปู เรยี กว่า “การลงแปง้ ” • ใช้ไดท้ ้ังผา้ สีและผ้าขาว • โดยท่วั ไปแลว้ จะใช้กับผ้าฝา้ ยและผ้าไหม • วิธีใชค้ อื ✓ นาแป้งมนั สาปะหลังต้มกับน้า พอนา้ แป้งสกุ จะมีลักษณะข้นใส ✓ นามาผสมน้าคนใหท้ ่ัว ✓ นาไปกรองดว้ ยผา้ ขาวบางเพื่อขจัดเศษฝุ่นละอองและแปง้ ท่ี จับเปน็ ก้อนออกจากน้าแปง้ ✓ นาผ้าลงแชใ่ ห้ทว่ั ประมาณ ๕ นาที บบี น้าแป้งออกจากผา้ แล้ว นาไปตาก ✓ อาจใช้เยลลีลงผ้าแทนแปง้ มนั สาปะหลงั โดยนาไปต้มผสมกับ นา้ และกรองเช่นเดยี วกบั การลงแปง้

การซกั ผา้ ๑. สารเคมที ่ใี ช้ในการซกั ผา้ ๒. อปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการซกั ผา้ ๓. วธิ กี ารซกั ผา้

อุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการซกั ผา้ ตะกรา้ ใส่ผา้ (Basket) กะละมงั ซกั ผา้ (Basin) ใช้สาหรับใส่ผ้า ตะกร้าใส่ผ้าทาจาก วัสดุตา่ ง ๆ พลาสตกิ หวาย ตะกรา้ ท่ผี ลิตจาก ใชส้ าหรบั ใสน่ ้าซกั เสอื้ ผ้า กะละมังทาจาก พลาสติกมีน้าหนักเบาและราคาถูก แต่เปราะ วสั ดตุ ่าง ๆ เช่น พลาสติก สังกะสี สแตนเลส แตกหักง่าย ส่วนตะกร้าหวายจะมีน้าหนัก อะลมู ิเนียม เมือ่ ใชง้ านเสรจ็ ควรควา่ หรือพิงในท่ี มากกว่า แต่จะทนทานกวา่ ไมแ่ ตกหกั ง่าย ร่มให้นา้ ไหลออกจากกะละมงั ก่อนนาไปเกบ็

อปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการซกั ผา้ กระดานแปรงผา้ (Washing Board) แปรงซกั ผา้ (Clothees Brush) ใช้สาหรับรองขยผ้ี า้ แทนการขยผ้ี า้ ดว้ ยมอื ทั้งสองข้าง ช่วยใหผ้ ้าสะอาดขน้ึ โดยไม่เปลืองแรง ใชส้ าหรบั แปรงผ้าในส่วนทส่ี กปรกมาก และช่วยประหยัดเวลาในการซักผ้า โดยเฉพาะปกเสื้อ ควรเลือกใชแ้ ปรงทม่ี ขี นออ่ นนมุ่ เพราะถ้าขนแปรงแข็งจะทาลายเน้ือผ้าทาใหเ้ ส้นใยผ้า ขาดง่าย หา้ มใชแ้ ปรงซกั ผา้ กับผา้ ที่เน้ือบาง

อปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการซกั ผา้ เคร่อื งซกั ผา้ (washing Machine) เครื่องทนุ่ แรงชว่ ยใหง้ านซกั ผ้างา่ ยข้นึ มีการนาเทคโนโลยตี ่าง ๆ มาผสมผสาน ออกแบบเคร่อื งซักผ้าใหท้ าความสะอาดเส้อื ผา้ ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพมากข้นึ มี ๒ แบบ คอื เคร่ืองซักผ้ากง่ึ อัตโนมัติ และเคร่อื งซักผา้ อตั โนมัติ

การซกั ผา้ ๑. สารเคมที ่ีใช้ในการซกั ผา้ ๒. อุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นการซกั ผา้ ๓. วธิ ีการซักผา้

วธิ กี ารซกั ผา้ วธิ กี ารซกั ผา้ ดว้ ยมอื การซกั ผา้ ดว้ ยมอื เป็นการซัก ผา้ แบบดั้งเดมิ ท่ีตอ้ งออกแรงขยี้หรอื แปรงผ้าท่ีซกั ซงึ่ ใช้เวลาและใช้แรงมากกว่า ซักด้วยเครอ่ื งซักผา้ ขอ้ ดี คือ สามารถทาความสะอาด เฉพาะส่วนไดด้ ี เครอ่ื งมอื หรอื อปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ ถังหรอื อา่ งสาหรบั แชแ่ ละซกั ผา้ อย่างนอ้ ย ๒ ใบ และแปรงซักผ้า

๑. แยกผา้ ขาว ผา้ สี และผา้ สตี กจากกันกอ่ น และตรวจสอบ ขั้นตอนการ สิ่งของในกระเป๋าเสอ้ื กางเกง หรอื กระโปรงออกใหห้ มด ซักผ้าดว้ ยมอื ๒. ควรซกั ผ้าขาวก่อน โดยนาเสอื้ ผ้าไปซกั ในนา้ สะอาด เพ่อื ขจดั คราบสกปรกออกบา้ ง ๓. ใส่ผงซกั ฟอกลงในน้าปรมิ าณทพ่ี อเหมาะกบั เสื้อผ้า หรอื ตาม คาแนะนาการใช้ และตีผงซกั ฟอกให้ละลาย