Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การบริหารงบประมาณ งานการเงินและพัสดุสู่ความเป็นเลิศ

การบริหารงบประมาณ งานการเงินและพัสดุสู่ความเป็นเลิศ

Published by Kru Arraya, 2023-02-05 03:38:25

Description: รายงานการบริหารงบประมาณ งานการเงินและพัสดุสู่ความเป็นเลิศ

รายวิชา ED 508 การบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ
กลุ่มที่ 8 การบริหารงบประมาณ งานการเงินและพัสดุสู่ความเป็นเลิศ

Search

Read the Text Version

รายงาน เรอ่ื ง การบริหารงบประมาณ งานการเงนิ และพสั ดุสูค่ วามเปน็ เลิศ จดั ทำโดย ธนเดช ศรรี ะโส รหสั นักศกึ ษา 6520711103 ศุภวิชญ์ จิตธรรมมา รหสั นักศึกษา 6520711104 อารยา วิชาสวสั ดิ์ รหัสนักศึกษา 6520711105 เสนอ ดร.มศี ักด์ิ แสงศิลา รายงานนีเ้ ป็นสว่ นหนึ่งของวิชา ED 508 การบรหิ ารสถานศึกษาเพือ่ ความเป็นเลศิ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2565 ศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา วทิ ยาลยั สนั ตพล จงั หวัดอดุ รธานี

คำนำ รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ED 508 การบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศตาม หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 วิทยาลัย สันตพล โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาค้นคว้า เรื่อง บทบาท อำนาจ หน้าที่ในการบริหารการเงินและพัสดุ การ บริหารเงินงบประมาณ การบริหารเงินนอกงบประมาณ การบริหารการเงินจากรายได้อื่น ๆ โดยผู้จัดทำได้ ศึกษา ค้นคว้า รวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ผู้จัดทำหวงั ว่า รายงานน้จี ะให้ความรู้ และเปน็ ประโยชน์แก่ผู้อา่ น หรอื ผูท้ ่ศี ึกษาหาขอ้ มลู ตามสมควร ผู้จัดทำ ก

สารบัญ หน้า เรอ่ื ง ก ข คำนำ 1 สารบัญ 2 บทบาท อำนาจ หนา้ ทใ่ี นการบริหารงานการเงนิ และพสั ดุ 3 การบริหารเงนิ งบประมาณ 9 ขอบข่าย/ภารกจิ การบริหารงบประมาณ 10 10 ขอบข่ายการดำเนนิ การตามภารงานและอำนาจหนา้ ท่ี งานการเงินและบัญชี 11 ขอบข่ายการดำเนนิ การตามภารงานและอำนาจหน้าที่ งานพัสดแุ ละสินทรัพย์ 18 ขอบข่ายการดำเนนิ การตามภารงานและอำนาจหนา้ ท่ี งานจัดระบบควบคุมภายใน 24 การบริหารการเงินงบประมาณ 25 การบริหารการเงนิ นอกงบประมาณและการเงนิ จากรายไดอ้ นื่ ๆ บรรณานกุ รม ภาคผนวก ข

การบรหิ ารงบประมาณ งานการเงินและพสั ดสุ คู่ วามเป็นเลิศ บทบาท อำนาจ หนา้ ที่ในการบริหารงานการเงนิ และพัสดุ ตามกฎกระทรวงซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา พ.ศ. 2550 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 39 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2542 (ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ 2 พ.ศ.2545) รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ “ให้ปลดั กระทรวงศึกษาธิการหรือเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐานพิจารณา ดำเนินการ กระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาในด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล และด้านการบริหารทั่วไปไปยังคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา หรือ สถานศึกษาในอำนาจหน้าที่ของตน แล้วแตก่ รณี” ดา้ นการบรหิ ารงานงบประมาณ มีภาระหน้าท่ี 22 อย่างด้วยกนั คือ 1. การจัดทำแผนงบประมาณและคำขอตง้ั งบประมาณเพื่อเสนอต่อปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ หรือ เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานแล้วแต่กรณี 2. การจัดทำแผนปฏิบตั ิการใชจ้ ่ายเงินตามที่ได้รับจัดสรรงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้นั พนื้ ฐานโดยตรง 3. การอนุมัตกิ ารใช้จา่ ยงบประมาณที่ได้รบั จัดสรร 4. การขอโอนและการขอเปล่ียนแปลงงบประมาณ 5. การรายงานผลการเบกิ จา่ ยงบประมาณ 6. การตรวจสอบติดตามและรายงานการใช้งบประมาณ 7. การตรวจสอบติดตามและรายงานการใชผ้ ลผลิตจากงบประมาณ 8. การระดมทรัพยากรและการลงทุนเพ่ือการศึกษา 9. การปฏิบัติงานอ่นื ใดตามท่ีได้รบั มอบหมายเก่ียวกับกองทุนเพ่ือการศกึ ษา 10. การบริหารจดั การทรัพยากรเพือ่ การศึกษา 11. การวางแผนพัสดุ 12. การกำหนดรูปแบบรายการ หรือคุณลักษณะเฉพาะของครุภัณฑ์ หรือสิ่งก่อสร้างที่ใช้เงิน งบประมาณเพื่อเสนอต่อปลัดกระทรวงศึกษาธิการหรือเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้วแต่ กรณี 13. การพฒั นาระบบข้อมลู และสารสนเทศเพอื่ การจัดทำและจัดหาพสั ดุ 14. การจดั หาพัสดุ 15. การควบคุมดแู ล บำรุงรักษาและจำหนา่ ยพสั ดุ 16. การจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สนิ 17. การเบิกเงินจากคลงั 1

18. การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการจา่ ยเงนิ 19. การนำเงนิ ส่งคลัง 20. การจดั ทำบัญชีการเงิน 21. การจัดทำรายงานทางการเงนิ และงบการเงิน 22. การจดั ทำหรือจัดหาแบบพมิ พบ์ ัญชี ทะเบยี น และรายงาน การกระจายอำนาจการบรหิ ารและการจัดการศึกษา ให้คำนงึ ถึงหลักการดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ความพร้อมและความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาและสถานศกึ ษา ทจ่ี ะสามารถรบั ผดิ ชอบดำเนินการตามขีดความสามารถได้อย่าง มีประสิทธิภาพ 2) ความสอดคล้องกับกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศหรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ จะกระจายอำนาจ 3) ความเปน็ เอกภาพด้านมาตรฐานและนโยบายดา้ นการศึกษา 4) ความเป็นอิสระและความคล่องตวั ในการบรหิ ารและการจัดการศึกษา 5) มุ่งเนน้ การมีส่วนรว่ มของชุมชน และผูม้ สี ่วนไดเ้ สยี ในพื้นท่ี 6) มุ่งให้เกิดผลสำเร็จแก่สถานศึกษา โดยเน้นการกระจายอำนาจให้แก่สถานศึกษาให้มากที่สุด เพือ่ ให้ สถานศกึ ษาน้ันมีความเขม้ แขง็ และความคล่องตวั 7) เพิม่ คณุ ภาพและประสิทธภิ าพใหแ้ กส่ ถานศึกษา 8) เพื่อให้ผู้มหี น้าท่รี ับผดิ ชอบในการดำเนนิ การเป็นผตู้ ัดสินใจในเรอื่ งนัน้ ๆ โดยตรง การบรหิ ารเงนิ งบประมาณ การบริหารและการจัดการศึกษาของโรงเรียนนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โรงเรียนจัดการศึกษา อย่างเป็นอิสระ คล่องตัว สามารถบริหารการจัดการศึกษาได้สะดวด รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและมี ความ รับผิดชอบ โรงเรียนนิติบุคคล นอกจากมีอำนาจหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ข้างต้นแล้ว ยังมีอำนาจหน้าที่ตามท่ี กฎระเบยี บกระทรวงศึกษาธกิ ารว่าด้วยการบริหารจัดการและขอบเขตการปฏิบตั ิหน้าท่ขี องโรงเรยี นข้ันพ้ืนฐาน ที่เป็นนิติบุคคล สังกัดเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 กฎหมาย การศึกษา แห่งชาติ และกฎหมายระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ จึงกำหนดให้โรงเรียนนิติบุคคล มีอำนาจ หน้าที่ ดงั นี้ 1. ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้แทนนิติบุคคลในกิจการทั่วไปของโรงเรียนที่เกี่ยวกับ บคุ คลภายนอก 2. ให้โรงเรียนมีอำนาจปกครอง ดูแล บำรุง รักษา ใช้และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่มี ผู้บริจาคให้เว้นแต่การจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้บริจาคให้โรงเรียน ต้องได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐานของโรงเรยี น 2

3. ให้โรงเรียนจดทะเบียนลิขสิทธ์ิหรือดำเนินการทางทะเบียนทรัพย์สินต่าง ๆ ที่มีผู้อุทิศให้หรือ โครงการซือ้ แลกเปล่ยี นจากรายได้ของสถานศึกษาใหเ้ ปน็ กรรมสทิ ธิ์ของสถานศึกษา 4. กรณีโรงเรียนดำเนินคดีเป็นผู้ฟ้องร้องหรือถูกฟ้องร้อง ผู้บริหารจะต้องดำเนินคดีแทน สถานศึกษาหรือถูกฟ้องร่วมกับสถานศึกษา ถ้าถูกฟ้องโดยมิได้อยู่ในการปฏิบัติราชการ ในกรอบอำนาจ ผูบ้ ริหารตอ้ งรับผิดชอบเปน็ การเฉพาะตวั 5. โรงเรยี นจดั ทางบดลุ ประจำปแี ละรายงานสาธารณะทุกสิ้นปงี บประมาณ ขอบข่าย/ภารกจิ การบรหิ ารงบประมาณ 1. การจดั ทำและเสนอของบประมาณ 1.1 การวิเคราะหแ์ ละพัฒนานโยบายทางการศึกษา แนวทางการปฏบิ ัติงาน 1) วิเคราะห์ทิศทางและยุทธศาสตร์ของหน่วยงานเหนือสถานศึกษา ได้แก่ เป้าหมายเชิง ยุทธศาสตร์ ระดับชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ แผนปฏิบัติราชการ ของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และแนวพฒั นาการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน 2) ศึกษาข้อตกลงการปฏิบัติงานและเป้าหมายการให้บริการสาธารณะทุกระดับได้แก่ เป้าหมายการ ให้บริการสาธารณะ ข้อตกลงการจัดท าผลผลิต ข้อตกลงการปฏิบัติงานของเขตพื้นที่ และผล การดำเนนิ งานของสถานศกึ ษาทำกับเขตพ้นื ท่ี 3) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย การจัดและพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาตามกรอบทิศทางของ เขต พ้ืนทก่ี ารศกึ ษา และความตอ้ งการของสถานศกึ ษา 4) วิเคราะห์ผลการดำเนินงานของสถานศึกษาที่ทำกับเขตพื้นที่การศึกษา ด้านปริมาณ คุณภาพ เวลา ตลอดจนต้นทุน ซงึ่ ตอ้ งคำนวณต้นทนุ ผลผลิตขององค์กร และผลผลิตงาน/โครงการ 5) จัดทำขอ้ มูลสารสนเทศผลการศึกษา วิเคราะห์ วจิ ัย เพอ่ื ใช้ในการวิเคราะห์สภาพ แวดล้อม ท่ี กระทบต่อการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา 6) เผยแพรข่ ้อมูลสารสนเทศให้เขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา และสาธารณะชนทราบ 1.2 การจดั ทำกลยุทธ์หรือแผนพัฒนาการศกึ ษา แนวทางการปฏบิ ตั ิ 1) ทบทวนภารกิจการจัดการศึกษาของสถานศึกษา และศึกษารายงานข้อมูลสารสนเทศท่ี เกย่ี วขอ้ ง 2) วิเคราะห์สภาพแวดล้อมของสถานศึกษาทีม่ ีผลกระทบต่อการจัดการศึกษา (SWOT) และ ประเมินสถานภาพของสถานศกึ ษา 3) กำหนดวสิ ัยทัศน์ (Vision) พันธกิจ (Mission) และเป้าประสงค์ (Corporate Objective) 4) กำหนดกลยุทธข์ องสถานศึกษา 3

5) กำหนดผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Outcome) และตัวชี้วัดความสำเร็จ โดยจัดทำเป็น ข้อมูลสารสนเทศ 6) กำหนดเป้าหมายระยะปานกลางของผลผลิตในเชิงปริมาณ คุณภาพ และผลลัพธ์ท่ี สอดคล้องกบั การปฏิบัตงิ านของสถานศึกษาทจ่ี ะท าร่างข้อตกลงกบั เขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษา 7) จัดทำรายละเอยี ดโครงสร้าง แผนงาน งาน/โครงการ และกจิ กรรมหลัก 8) จัดให้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพ่ือปรับปรุงและนำเสนอขอความเห็นชอบต่อ คณะกรรมการสถานศกึ ษา 9) เผยแพร่ประกาศต่อสาธารณะชน และผู้ที่เก่ียวขอ้ ง 1.3 การวิเคราะหค์ วามเหมาะสมการเสนอของบประมาณ แนวทางปฏบิ ัติ 1) จัดทำรายละเอียดแผนงบประมาณ แผนงาน งานโครงการ ให้มีความเชื่อมโยงกับผลผลิต ผลลัพธ์ ตัวชี้วัดความสำเรจ็ ของสถานศกึ ษาพร้อมกับวิเคราะห์ความสำคญั ของแผนงาน งานโครงการ เมื่อเขต พื้นที่การศึกษาแจ้งนโยบาย แผนพัฒนามาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการจัดตั้ง งบประมาณให้สถานศึกษา 2) จดั ทำกรอบประมาณการรายจา่ ยระยะปานกลาง โดยวเิ คราะห์นโยบายหนว่ ยเหนือทมี่ ีการ เปลย่ี นแปลงไปจากเดิม วเิ คราะห์ผลการดำเนินงานปงี บประมาณท่ีผา่ นมาของสถานศึกษา เพอ่ื ปรับเป้าหมาย ผลผลิตที่ต้องการดำเนินการใน 3 ปีข้างหน้า พร้อมกับปรับแผนงาน งานโครงการ และกิจกรรมหลัก ให้ สอดคลอ้ งกบั ประมาณรายได้ของสถานศึกษาทงั้ จากเงินงบประมาณ และเงินนอกงบประมาณ 3) จัดทำคำขอรับงบประมาณของสถานศึกษา และกรอบงบประมาณรายจ่ายระยะปานกลาง (MTEF) เสนอต่อเขตพ้ืนที่การศกึ ษาเพ่ือพิจารณาความเหมาะสมเชงิ นโยบาย 4) จัดทำร่างข้อตกลงบริการผลผลิต (ร่างข้อตกลงผลการปฏิบัติงาน) ของสถานศึกษาท่ี จะต้องทำกับเขตพื้นที่การศึกษาเมื่อได้รับงบประมาณ โดยมีเป้าหมายสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของ สถานศกึ ษา โดย ผา่ นความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา 2. การจดั สรรงบประมาณ 2.1 การจัดสรรงบประมาณภายในสถานศกึ ษา แนวทางการปฏิบตั ิ 1) จดั ทำขอ้ ตกลงบรกิ ารผลผลิตของสถานศกึ ษากับเขตพื้นที่การศึกษา เม่ือไดร้ บั งบประมาณ 2) ศึกษาข้อมูลการจัดสรรงบประมาณที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแจ้ง ผ่านเขต พื้นที่การศึกษา แจ้งให้สถานศึกษาทราบในเร่ืองนโยบาย แผนพัฒนา มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลกั เกณฑ์ ขนั้ ตอน และวิธีการจัดสรรงบประมาณ 3) ตรวจสอบกรอบวงเงินงบประมาณที่ได้รับจากหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรที่เขตพื้นท่ี การศกึ ษา แจ้ง ตลอดจนตรวจสอบวงเงินนอกงบประมาณทีไ่ ดร้ บั จากแผนการระดมทรัพยากร 4

4) วิเคราะห์กิจกรรมตามภารกิจงานที่ต้องดำเนินงานตามมาตรฐานโครงสร้าง สายงาน และ ตาม แผนงานงานโครงการของสถานศึกษา เพื่อจัดลำดับความสำคัญ และกำหนดงบประมาณ ทรัพยากรของ แต่ละ สายงาน งานโครงการ ให้เป็นไปตามกรอบวงเงินงบประมาณที่ได้รับ และวงเงินนอกงบประมาณตาม แผน ระดมทรัพยากร 5) ปรบั ปรงุ กรอบงบประมาณรายจา่ ยระยะปานกลาง (MTEF) ใหส้ อดคล้องกบั กรอบวงเงินที่ ได้รับ 6) จัดทำรายละเอียดแผนการปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ ซึ่งระบุแผนงาน งานโครงการ ท่ี สอดคลอ้ งวงเงนิ งบประมาณที่ได้รบั และวงเงินนอกงบประมาณที่ได้ตามแผนระดมทรัพยากร 7) จดั ทำข้อร่างตกลงผลผลิตของหน่วยงานภายในสถานศึกษาและกำหนดผรู้ ับผิดชอบ 8) นำเสนอแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ และร่างข้อตกลงผลผลิตขอความเห็นชอบ คณะกรรมการสถานศกึ ษา 9) แจ้งจัดสรรวงเงินและจัดทำข้อตกลงผลผลิตให้หน่วยงานภายในสถานศึกษารับไป ดำเนนิ การตาม แผนปฏบิ ตั ิกรประจำปีงบประมาณ 2.2 การเบกิ จา่ ย และการอนุมัติงบประมาณ แนวทางการปฏิบตั ิ 1) จดั ทำแผนการใช้งบประมาณรายไตรมาส โดยกำหนดปฏทิ ินปฏิบัติงานรายเดือนให้เป็นไป ตาม แผนปฏิบัติกาประจำปีงบประมาณแล้วสรุปแยกเป็นรายไตรมาสเป็น งบบุคลากร งบอุดหนุน งบลงทุน (แยกเปน็ คา่ ครุภัณฑ์ และคา่ กอ่ สร้าง) และงบดำเนินการ (ตามนโยบายพเิ ศษ) 2) เสนอแผนการใช้งบประมาณวงเงินรวมเพื่อขออนุมัติประจำงวดเป็นรายไตรมาสผ่านเขต พนื้ ที่ การศึกษาไปยงั คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานรวบรวมเสนอต่อสำนักงบประมาณ 3) เบิกจ่ายงบประมาณประเภทตา่ ง ๆ ให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการประจำปีและอนุมัติ การ ใชง้ บประมาณของสถานศึกษาตามประเภทและรายการตามที่ไดร้ บั งบประมาณ 2.3 การโอนเงนิ งบประมาณ แนวทางการปฏิบัติ การโอนเงนิ ใหเ้ ป็นไปตามข้นั ตอนและวิธกี ารท่กี ระทรวงการคลังกำหนด 3. การตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการใช้เงนิ และผลการดำเนนิ งาน 3.1 การตรวจสอบติดตามการใชเ้ งนิ และผลการดำเนินงาน แนวทางการปฏิบัติ 1) จัดทำแผนการตรวจสอบ ติดตามการใช้เงินทั้งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ ของสถานศึกษาให้เปน็ ไปตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจำปงี บประมาณ และแผนการใช้งบประมาณรายไตรมาส 2) จัดทำแผนการตรวจสอบ ติดตามผลการดำเนินงานตามข้อตกลงการใหบ้ ริการผลผลิตของ สถานศกึ ษาใหเ้ ป็นไปตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจำปีงบประมาณ และแผนการใชง้ บประมาณรายไตรมาส 5

3) จดั ทำแผนการกำกับตรวจสอบติดตามและป้องกนั ความเสี่ยงสหรับโครงการท่ีมีความเส่ียง สูง 4) ประสานแผนและดำเนินการตรวจสอบ ติดตาม และนิเทศให้เป็นไปตามแผนการ ตรวจสอบ ตดิ ตามของสถานศึกษา โดยเฉพาะโครงการทม่ี ีความเสยี่ งสงู 5) จดั ทำขอ้ สรุปผลการตรวจสอบ ตดิ ตาม และนเิ ทศพร้อมทง้ั เสนอข้อปัญหาที่อาจทำให้การ ดำเนินงานไม่ประสบผลสำเรจ็ เพอ่ื ให้สถานศกึ ษาเร่งแกป้ ัญหาได้ทันสถานการณ์ 6) รายงานผลการดำเนนิ การตรวจสอบต่อคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน 7) สรุปข้อมูลสารสนเทศที่ได้และจัดรายงานข้อมูลการใช้งบประมาณผลการดำเนินงานของ สถานศกึ ษาเป็นรายไตรมาสตอ่ เขตพ้นื ท่ีการศกึ ษา 3.2 การประเมินผลการใชเ้ งินและผลการดำเนนิ งาน แนวทางการปฏิบตั ิ แนวทางการปฏิบัติ 1) กำหนดปัจจัยหลักความสำเร็จ และตัวชี้วัด (Key Performance Indicators :KPIs) ของ สถานศึกษา 2) จัดทำตัวชี้วัดความสำเร็จของผลผลิตที่กำหนดตามข้อตกลงการให้บริการผลผลิตของ สถานศึกษา 3) สร้างเครื่องมอื เพือ่ การประเมนิ ผล ผลผลิตตามตวั ช้ีวัดความสำเรจ็ ทกี่ ำหนดไวต้ ามข้อตกลง การ ใหบ้ รกิ ารผลผลิตของสถานศกึ ษา 4) ประเมินแผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติกาประจำปีของสถานศึกษา และจัดทำรายงาน ประจำปี 5) รายงานผลการประเมินต่อคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานและเขตพ้ืนท่ีการศึกษา 4. การบริหารการเงิน การเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน การจ่ายเงิน การนำส่งเงิน การโอนเงิน การกัน เงินไว้ เบกิ เหลือ่ มปใี หเ้ ปน็ ไปตามข้ันตอนและวธิ ีการท่ีกระทรวงการคลงั กำหนด 5. การบริหารการบัญชี 5.1 การจัดทำบัญชีการเงนิ แนวทางการปฏบิ ัติ 1) ตั้งยอดบัญชีระหว่างปีงบประมาณทั้งการตั้งยอดภายหลังการปิดบัญชีงบประมาณปีก่อน และ การตงั้ ยอดก่อนปิดบญั ชีปงี บประมาณปีกอ่ น 2) จัดทำกระดาษทำการโดยปรับปรุงบัญชีเงินงบประมาณ โดยปิดบัญชีเงินนอกงบประมาณ เช้า บัญชีทุน และบัญชีเงินรับฝากและเงินประกัน ตั้งยอดบัญชีสินทรัพย์เป็นบัญชีวัสดุหรือ (บัญชีสินค้า 6

คงเหลือ และบัญชีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน พร้อมทั้งจัดทำใบสำคัญกาลงบัญชีทั่วไปโดยใช้จำนวนเงินตาม รายการหลงั การปรับปรุง 3) บันทึกเปิดบัญชีคงค้าง (พึงรับพึงจ่าย Accrual Basis) โดยบันทึกรายการด้านเดบิตใน บัญชี แยกประเภท (สินทรัพย์และค่าใช้จ่าย) และบันทึกรายการด้านเครดิตในบัญชีแยกประเภท (หนี้สิน ทุน รายได้) 4) บันทึกบัญชีประจำวัน ให้ครอบคลุมการรับเงินงบประมาณ การรับรายได้จากการขาย สินคา้ หรือ การใหบ้ ริการ การรับเงนิ รายได้ การจา่ ยเงนิ งบประมาณ การจา่ ยเงนิ งบประมาณให้ยมื การจ่ายเงิน นอก งบประมาณแทนกัน การจ่ายเงินให้หน่วยงานที่ปฏิบัติตามระบบควบคุมการเงิน การรับเงินความรับผิด ทางละเมดิ 5) สรุปรายการบันทึกบญั ชที กุ วันทำการสรปุ รายการรบั หรือจ่ายเงินผ่านไปบัญชีแยกประเภท เงิน สด เงินฝากธนาคาร และเงินฝากคลัง สำหรับรายการอื่นและรายการในสมุดรายวันทั่วไปให้ผ่านรายการ เขา้ บัญชแี ยกประเภท ณ วนั ทำการสุดทา้ นของเดือน 6) ปรับปรุงบัญชีเมื่อสิ้นปีงบประมาณ โดยปรับรายการบัญชีรายได้จากงบประมาณค้างรับ ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย / รับ ที่ได้รับลว่ งหน้า ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า / รายได้ค้างรบั วัสดุหรอื สินค้าที่ใช้ไประหวา่ งงวด บัญชี ค่าเสอ่ื มราคา / ค่าตัดจำหนา่ ย คา่ เผ่อื หนีส้ งสัยจะสญู และหนส้ี ญู 7) ปิดบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายเพื่อบนั ทึกบัญชีรายได้สูงกว่า (ต่ำกว่า) ค่าใช้จ่ายในงวดบัญชี และปิด รายการรายได้สูง(ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายงวดบัญชี เข้าบัญชีรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสมแล้วให้โอน บัญชี รายได้แผ่นดินนำส่งคลงั เข้าบญั ชรี ายได้แผน่ ดนิ หากมียอดคงเหลือใหโ้ อนเขา้ บัญชรี ายได้แผ่นดนิ รอนำส่ง คลัง 8) ตรวจสอบความถูกต้องของตัวเงินสดและเงินฝากธนาคารตามรายงานคงเหลือประจำวัน และงบพิสจู น์ยอดฝากธนาคาร ตลอดจนตรวจสอบความถกู ต้องของบัญชีแยกประเภททั่วไปและการตรวจสอบ ความ ถกู ตอ้ งของบญั ชยี อ่ ยและทะเบียน 9) แก้ไขข้อผิดพลาดจากการบันทึกรายการผิดบัญชี จากการเขียนข้อความหรือตัวเลขผิด จากการ บันทกึ ตวั เลขผิดชอ่ งบัญชีย่อยยอดรวมถูก โดยการขีดฆา่ ข้อความหรือตัวเลขผิดลงลายมือชื่อย่อกำกับ พรอ้ มวันเดอื นปีแล้วเขียนข้อความหรอื ตวั เลขท่ีถูกตอ้ ง 5.2 การจัดทำรายงานทางการเงิน แนวทางการปฏิบตั ิ 1) การจัดทำรายงานประจำเดือนส่งหน่วยงานต้นสังกัด สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและ กรมบัญชีกลางภายในวนั ที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยจัดทำรายงานรายไดแ้ ผน่ ดนิ 2) รายงานรายได้และคา่ ใชจ้ ่าย รายงานเงินประจำงวด 3) จัดทำรายงานประจำปี โดยจัดทำงบแสดงฐานะการเงิน จัดทำงบแสดงผลการดำเนิน งาน ทางการเงิน งบกระแสเงินสดจัดทำโดยวิธีตรง จัดทำหมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ และจัดส่งรายงาน ประจำปี 7

ให้สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐานผ่านเขตพืน้ ท่ีการศึกษาและจัดสง่ สำนักงานตรวจเงิน แผ่นดิน และกรมบัญชีกลางตามก าหนดระยะเวลาทีก่ ำหนด 5.3 การจดั ทำและจดั หาแบบพิมพ์บัญชี ทะเบียน และรายงาน แนวทางการปฏบิ ตั ิ จัดทำและจัดหาแบบพิมพ์ขึ้นใชเ้ องเว้นแตเ่ ปน็ แบบพิมพ์กลางที่เขตพืน้ ที่ การศึกษาหรอื หนว่ ยงานตน้ สงั กดั หรอื สว่ นราชการทีเ่ ก่ียวข้องจัดทำขึ้นเพอื่ จำหน่ายจา่ ยแจก 6. การบรหิ ารพสั ดแุ ละสินทรพั ย์ 6.1 การจัดทำระบบฐานขอ้ มูลสินทรพั ยข์ องสถานศกึ ษา แนวทางการปฏบิ ัติ แนวทางการปฏบิ ัติ 1) ตั้งคณะกรรมการหรือบุคลากรขึ้นสำรวจวัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน อาคาร และสิ่งก่อสร้าง ทงั้ หมดเพอื่ ทราบสภาพการใช้งาน 2) จำหน่าย บริจาค หรือขายทอดตลาดให้เป็นไปตามระเบียบในกรณีที่หมดสภาพหรือไม่ได้ ใชป้ ระโยชน์ 3) จัดทำทะเบียนคุมทรัพย์สินท่ีเป็นวัสดุ ครุภัณฑ์ให้เป็นปัจจบุ ัน ทั้งที่ซื้อหรือจัดหาจาก เงิน งบประมาณและเงินนอกงบประมาณ ตลอดจนที่ได้จากการบริจาคที่ยังไม่ได้บันทึกคุมไว้โดยบันทึก ทะเบียน คมุ ราคา วันเวลาที่ได้รบั สนิ ทรัพย์ 4) จดทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุสำหรับที่ดิน อาคาร และสิ่งก่อสร้างในกรณีที่ยังไม่ดำเนินการ และที่ยังไม่สมบูรณ์ให้ประสานกับกรมธนารักษ์ หรือสำนักงานธนารักษ์จังหวัด เพื่อดำเนินการให้เป็นปัจจุบนั และใหจ้ ดั ทำทะเบยี นคุมในส่วนของโรงเรยี นใหเ้ ปน็ ปจั จุบัน 5) จัดทำระบบฐานข้อมูลทรัพย์สินที่เกิดจากการจัดหาของสถานศึกษา โดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พืน้ ฐาน 6) จัดทำระเบียบการใช้ทรพั ย์สนิ ที่เกิดจากการจัดหาของสถานศกึ ษา โดยความเหน็ ชอบของ คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พน้ื ฐาน 6.2 การจัดหาพสั ดุ แนวทางการปฏิบัติ 1) วิเคราะห์แผนงาน งาน / โครงการ ที่จัดทำกรอบรายจ่ายล่วงหน้าระยะปานกลาง เพื่อ ตรวจดูกิจกรรมท่ีต้องใช้พัสดุที่ยังไม่มีตามทะเบียนคุมทรัพย์สิน และเป็นไปตามเกณฑ์ความขาดท่ีกำหนดตาม มาตรฐานกลาง 2) จัดทำแผนระยะปานกลางและจัดหาพัสดุทั้งในส่วนที่สถานศึกษาจัดหาเองและที่ร่วมมือ กับ สถานศึกษาหรอื หนว่ ยงานอืน่ จดั หา 6.3 การกำหนดแบบรปู รายการหรือคณุ ลกั ษณะเฉพาะและจัดซือ้ จัดจ้าง แนวทางการปฏบิ ตั ิ 8

1) จัดทำเอกสารแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะของครุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้างในกรณี ที่ เป็นแบบมาตรฐาน 2) ตั้งคณะกรรมการขึ้นกำหนดคุณลักษณะเฉพาะหรือแบบรูปรายกงานในกรณีท่ีไมเ่ ปน็ แบบ มาตรฐานโดยดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ 3) จดั ซ้อื จัดจ้าง โดยตรวจสอบงบประมาณ รายละเอยี ด เกณฑ์ คุณลกั ษณะเฉพาะ ประกาศ จา่ ย / ขายแบบรปู รายการหรือคุณลักษณะเฉพาะ พิจารณาซองโดยคณะกรรมการ จัดทำสญั ญาและ เมื่อตรวจรบั งานใหม้ อบเรื่องแก่เจา้ หนา้ ท่กี ารเงินวางฎกี าเบิกเงนิ เพ่อื จ่ายแก่ผูข้ าย / ผจู้ ้าง 6.4 การควบคุม บำรุงรักษา และจำหน่ายพสั ดุ แนวทางการปฏิบัติ 1) จดั ทำทะเบียนคุมทรพั ยส์ นิ ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ นั 2) กำหนดระเบยี บและแนวปฏบิ ตั ิเก่ียวกบั การใชท้ รัพย์สิน 3) กำหนดให้ผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บควบคุม และเบิกจ่ายให้เป็นไปตามระบบและแต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบพสั ดุประจำปีอย่างสม่ำเสมอทุกปี 4) ตรวจสอบสภาพและบำรุงรักษาและซ่อมแซมทั้งก่อนและหลังการใช้งานสำหรับทรัพยส์ ิน ท่มี สี ภาพไม่สามารถใช้งานได้ให้ต้ังคณะกรรมการข้ึนพจิ ารณา และทำจำหน่ายหรือขอร้ือถอนกรณีเป็นส่ิงปลูก สร้าง ขอบข่ายการดำเนนิ การตามภารงานและอำนาจหนา้ ที่ งานการเงินและบัญชี 1. วางแผนกำกับดูแลการดำเนินงานด้านการเงินการบัญชี การระดมทรัพยากร และการลงทุนเพื่อ การศกึ ษา 2. เบิกจ่าย เงินเดือน เงินสวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาล การศึกษาบุตร ค่าเช่าบ้านของข้าราชการและ ลกู จ้าง 3. จัดทำหนังสือรับรองการใช้สิทธิรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นสังกัด หนังสือรับรองเงินเดือนของ ขา้ ราชการและลูกจา้ ง 4. เบกิ จา่ ยใบเสร็จรบั เงิน และจดั ทำทะเบยี นใบเสรจ็ รับเงิน 5. รายงานการใช้ใบเสรจ็ รับเงิน เมอื่ ส้ินปงี บประมาณ 6. เก็บรกั ษาเงิน ดำเนนิ การรับจ่ายเงนิ ถอนเงนิ ฝากเงินและนำสง่ เงินทุกประเภท ท้ังเงินงบประมาณ เงนิ รายได้สถานศกึ ษา เงินรายได้แผ่นดนิ และเงินอดุ หนุนการศกึ ษา 7. จัดทำรายงานคงเหลือประจำวันและลงบัญชีประเภทต่างๆ สมุดเงินสด ทะเบียนคุมเงินแยก ประเภทท้งั เงินงบประมาณ เงินอุดหนุนการศึกษาและเงนิ รายไดส้ ถานศกึ ษาทุกประเภท 8. จัดทำรายงานงบเทียบยอดเงินฝากธนาคาร สำหรับบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน บัญชีเงินอุดหนุน การศึกษา บัญชีเงินรายไดส้ ถานศึกษา และเงินงบประมาณ 9

9. จัดทำรายงานการเงิน ได้แก่ รายงานการรับจ่าย เงินรายได้สถานศึกษา เงินอุดหนุนการศึกษา ส่ง สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา 10. เก็บรักษาสัญญาการยมื เงนิ และเอกสารแทนตวั เงนิ ทุกประเภท 11. วเิ คราะหว์ างแผน ติดตอ่ ประสานงาน ให้คำปรกึ ษาเก่ียวกับระเบยี บการเบกิ จ่ายเงินให้แกบ่ ุคลากร ในโรงเรยี น 12. จัดทำแบบกรอกข้อมูลประกอบการบริจาคทรัพย์สิน หนังสือตอบขอบคุณและใบประกาศเกียรติ คุณ 13. จดั ทำงบเดือน เงินอดุ หนนุ การศึกษา เงนิ รายได้สถานศกึ ษา 14. จัดทำรายละเอียด และรวบรวมใบสำคญั ประกอบงบเดือนและจัดเกบ็ งบเดือน 15. ตรวจสอบและดแู ลการสมัครเป็นสมาชกิ และการกู้เงนิ สหกรณอ์ อมทรัพยค์ รู 16. จดั ทำข้อมูลลกู จ้างช่ัวคราว ท่ตี ้องการประกันตนกับสำนักงานประกันสังคม 17. ประสานงานกับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการใช้สิทธิประกันตนเองของ ลูกจา้ ง 18. จัดทำรายละเอียดการส่งเงินประกันสังคมรายเดือนของลูกจ้าง และนำส่งเงินต่อสำนักงาน ประกันสงั คม 19. ปฏบิ ัติงานอน่ื ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ขอบข่ายการดำเนินการตามภารงานและอำนาจหน้าที่ งานพสั ดุและสินทรพั ย์ 1. ควบคุมดแู ลการจดั ซือ้ -จัดจ้าง พสั ดุใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บ 2. จัดทำทะเบียนควบคุมการจัดซื้อ- จัดจ้างของกลุ่มบริหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ และงาน ให้เป็นไป ตามแผนการปฏิบตั ิการประจำปี 3. ประสานงานให้บริการกับเจา้ หน้าท่ีพัสดุ กลุ่มบริหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ และงาน ในการจัดซือ้ - จัด จ้าง และเบกิ จา่ ยพสั ดุ 4. ตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อ-จัดจ้าง ของกลุ่มบริหารกลุ่มสาระการเรียนรู้และงาน ให้เป็นไปตาม ระเบียบ 5. จัดทำเอกสารต่าง ๆ ของงานพัสดุ เพื่อให้บริการแก่เจ้าหน้าที่พัสดุ กลุ่มบริหาร กลุ่มสาระการ เรียนรู้ และงาน 6. จัดทำบญั ชีพัสดุ และทะเบียนคมุ ทรัพยส์ ิน ใหถ้ กู ต้องครบถ้วน 7. กำกับติดตามการจัดทำบัญชีวัดสุ และทะเบียนคุมทรัพย์สินของพัสดุกลุ่มบริหาร กลุ่มสาระการ เรียนรู้ และงาน 8. รบั ผดิ ชอบดูแลการตรวจสอบ การจำหน่ายวัสดุถาวร และพัสดปุ ระจำปี 9. จดั ทำประมาณการคา่ เสอ่ื มสภาพ วสั ดุและสินทรพั ย์ 10. จัดรวบรวมฐานข้อมูล โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ได้แก่ Obec 49, B-obec และ M-obec 10

11. จดั เกบ็ ข้อมูลและรักษาขอ้ มูลให้ถูกตอ้ งเหมาะสม 12. ปฏบิ ัตหิ นา้ ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ขอบข่ายการดำเนนิ การตามภารงานและอำนาจหน้าท่ี งานจดั ระบบควบคุมภายใน 1. ควบคุมตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายรับเงินทุกประเภท 2. ติดตามการบริหาร การเงนิ การจัดทำบญั ชี ทะเบยี นคมุ ประเภทต่าง ๆ ท้งั การเงนิ และพสั ดใุ ห้เปน็ ปัจจุบนั 3. ควบคุมการเบิกจา่ ยพัสดุ ครภุ ัณฑใ์ หเ้ ป็นไปตามระเบียบของทางราชการ 4. ตรวจสอบและรายงานการใช้เงิน และผลการดำเนนิ งานเกยี่ วกับการเงินและพสั ดุ 5. ดแู ลการรับเงนิ งบประมาณ เงนิ อุดหนนุ การศึกษา และเงินรายไดส้ ถานศึกษา 6. ตรวจสอบการจัดทำบญั ชีการเงนิ ทุกประเภท 7. วิเคราะหค์ วามเส่ยี งของการดำเนินงานกำหนดปจั จยั เสี่ยง และจัดลำดบั ความเสย่ี ง 8. กำหนดมาตรการปอ้ งกันความเสี่ยง ในการป้องกนั ความเสย่ี ง ในการดำเนินงานนของโรงเรียน 9. ใหบ้ ุคคลทเี่ ก่ยี วข้องทกุ กลุม่ นำมาตรการปอ้ งกันความเส่ยี งไปใชใ้ นการควบคุมการดำเนนิ งานตาม ภารกจิ 10. ดำเนนิ การควบคุมภายในตามหลักเกณฑ์มาตรการและวิธีการที่สำนักงานตรวจเงนิ แผน่ ดินกำหนด 11. ประเมินผลการดำเนินการควบคุมภายในตามมาตรการทีก่ ำหนดและปรบั ปรงุ ให้เหมาะสม 12. ปฏิบตั หิ น้าทอ่ี นื่ ตามท่ีได้รบั มอบหมาย การบรหิ ารการเงนิ งบประมาณ 1. เงนิ งบประมาณ หมายถึง เงินที่ส่วนราชการได้รับตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีหรือ เบิกจ่ายใน รายจา่ ยงบกลาง รายจ่ายตามงบประมาณจำแนกออกเปน็ 2 ลกั ษณะ ได้แก่ 1.1 เงนิ งบประมาณรายจา่ ยของสว่ นราชการและรฐั วสิ าหกิจ ไดแ้ ก่ 1.1.1 งบบุคลากร หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคลภาครัฐ ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะเงินเดือน ค่าจ้างประจำ ค่าจ้างชั่วคราว และค่าตอบแทนพนักงานราชการ รวมถึง รายจา่ ยทีก่ ำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลกั ษณะรายจา่ ยดังกลา่ ว 1.1.2 งบดำเนินงาน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำ ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลกั ษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ และค่าสาธารณูปโภค รวมถึงราจ่ายที่กำหนดใหจ้ ่าย จากงบ รายจา่ ยอืน่ ใดในลักษณะรายจา่ ยดงั กล่าว 1.1.3 งบลงทนุ หมายถึง รายจา่ ยท่กี ำหนดให้จ่ายเพ่อื การลงทุน ไดแ้ ก่ รายจ่ายที่จา่ ยในลักษณะ ค่าครุภัณฑ์ ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่าย ดงั กลา่ ว 11

1.1.4 งบดำเนินงาน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำ ได้แก่ รายจา่ ยที่จ่ายในลกั ษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ และคา่ สาธารณูปโภค รวมถึงรายจา่ ยท่กี ำหนดให้จ่าย จากงบ รายจ่ายอ่นื ใด ในลกั ษณะรายจ่ายดงั กลา่ ว 1.1.5 งบเงนิ อดุ หนุน หมายถงึ รายจ่ายท่ีกำหนดใหจ้ า่ ยเป็นค่าบำรุงหรือเพื่อชว่ ยเหลือสนับสนุน งาน ของหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญหรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมิใช่ส่วนกลางตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหาร ราชการแผน่ ดนิ หน่วยงานในกำกบั ของรฐั องคก์ ารมหาชน รัฐวิสาหกจิ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน รวมถงึ เงนิ อดุ หนุน งบพระมหากษตั รยิ ์ เงนิ อุดหนนุ ศาสนา เงินอุดหนุนทั่วไป ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณตาม พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยปรับอัตราเงินอุดหนุนในรายการคา่ จัดการเรยี นการสอน เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 2 ค่าอุปกรณ์การเรียน เพิ่มขึ้นจากเดมิ รอ้ ยละ 22 ค่าเครื่องแบบ นักเรียน เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 7 และค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 2 เพื่อ สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรัฐจัดสรรงบประมาณตามแผนงานยุทธศาสตร์สร้าง ความเสมอภาคทางการศึกษา โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบ การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน กจิ กรรมการสนับสนุนค่าใชจ้ ่ายในการจัดการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน งบเงินอดุ หนุน จำนวน 5 รายการ ดงั นี้ 1. ค่าจัดการเรียนการสอน หมายถึง เงินงบประมาณ งบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุน ทั่วไป เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ เงินอุดหนุนรายหัว ปัจจัยพื้นฐานสำหรับ นักเรยี นยากจน คา่ อาหารนกั เรียนประจำพักนอน โดยมีเกณฑ์และแนวทางการดำเนินการ ดังน้ี 1.1 เงนิ อดุ หนนุ รายหวั สำหรบั นกั เรียนทัว่ ไป 1.1.1 เงนิ อุดหนนุ รายหัว จัดสรรให้นักเรียนทุกคน ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษาจนจบการศึกษาข้ัน พื้นฐานโดยมีอัตราการจัดสรรจำแนกตามระดบั ดงั น้ี 1) ระดับก่อนประถมศกึ ษา 1,734 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 867 บาท/คน 2) ระดับประถมศกึ ษา 1,938 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 969 บาท/คน 3) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 3,570 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 1,785 บาท/คน 4) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 3,876 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 1,938 บาท/คน 1.1.2 เงินอดุ หนนุ รายหัวเพมิ่ เติม 1.1.2.1 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2552 เห็นชอบให้เพิ่มเงิน อดุ หนุนรายหวั ให้นักเรียนในโรงเรยี นขนาดเล็ก ดังน้ี 12

1) โรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กที่มีนักเรียน 120 คนลงมาให้เพิ่มจาก รายหวั ที่ไดร้ ับปกตอิ กี 500 บาท/คน/ปี (ภาคเรียนละ 250 บาท/คน) 2) โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กที่มีนักเรียน 300 คนลงมาให้เพิ่มจาก รายหวั ท่ีได้รบั ปกติอีก 1,000 บาท/คน/ปี (ภาคเรยี นละ 500 บาท/คน) 1.1.2.2 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2553 เห็นชอบให้เพิ่มเงิน อุดหนุนให้โรงเรียนขยายโอกาสที่มีนักเรียน 300 คนลงมา ให้เพิ่มจากรายหัวที่ได้รับปกติ โดยจัดให้เฉพาะ นักเรียนระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น เพ่มิ ใหอ้ ีก 1,000 บาท/คน/ปี (ภาคเรียนละ 500 บาท/คน) 1.1.2.3 ค่าปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มิถนุ ายน 2550 เหน็ ชอบใหป้ รับอตั ราเงินอดุ หนนุ ปัจจยั พนื้ ฐานนกั เรียนยากจน ดงั น้ี 1) ระดบั ประถมศกึ ษา 1,000 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 500 บาท/คน 2) ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ 3,000 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 1,500 บาท/คน สำหรับการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามเกณฑ์ระบบการคัดกรอง ปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกําหนด แนวทางและวิธีการ บรหิ ารจดั การค่าปัจจยั พนื้ ฐานสำหรับนกั เรียนยากจน 1.1.2.4 ค่าอาหารนักเรียนประจำพักนอน ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0406.4/11297 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2559 อนุมัติให้เบิกจ่ายค้าอาหารนักเรียนประจำพักนอน ตามที่ขอทํา ความตกลงไว้ ดังน้ี 1) ระดับประถมศึกษา 8,000 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 4,000 บาท/คน 2) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น 8,000 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 4,000 บาท/คน 1.2 เงินอุดหนุนรายหัว สำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัวและสถาน ประกอบการเกณฑก์ ารจัดสรร ดังนี้ ระดับก่อนประถมศกึ ษา 7,335 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นที่ 2/2565 3,667 บาท/คน - ภาคเรียนท่ี 1/2566 3,668 บาท/คน ระดับประถมศึกษา 7,509 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นท่ี 2/2565 3,754 บาท/คน - ภาคเรียนที่ 1/2566 3,755 บาท/คน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น 10,481 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนท่ี 2/2565 5,240 บาท/คน 13

- ภาคเรยี นที่ 1/2566 5,241 บาท/คน ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 10,818 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 5,409 บาท/คน ระดบั ปวช. 1-3 11,970 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 5,985 บาท/คน 1.3 เงนิ อดุ หนนุ รายหวั สำหรับนักเรียนโรงเรยี นศึกษาสงเคราะหม์ ีเกณฑ์การจัดสรรดงั นี้ 1.3.1 ระดบั ก่อนประถมศึกษา 1) นักเรียนประจำ 30,634 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 15,317 บาท/คน 2) นกั เรยี นไป - กลบั 8,954 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 4,477 บาท/คน 1.3.2 ระดบั ประถมศึกษา 1) นกั เรยี นประจำ 30,838 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 15,419 บาท/คน 2) นักเรียนไป - กลบั 9,158 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 4,579 บาท/คน 1.3.3 ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น 1) นักเรยี นประจำ 32,270 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 16,135 บาท/คน 2) นักเรียนไป - กลบั 10,170 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 5,085 บาท/คน 1.3.4 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 1) นกั เรยี นประจำ 32,576 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 16,288 บาท/คน 2) นักเรยี นไป - กลบั 10,476 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 5,238 บาท /คน 1.4 เงนิ อดุ หนุนรายหวั สำหรับนักเรยี นโรงเรียนการศกึ ษาพเิ ศษ มีเกณฑก์ ารจัดสรร ดงั น้ี 1.4.1 ระดบั ก่อนประถมศกึ ษา 1) นักเรียนประจํา 31,054 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 15,527 บาท/คน 2) นักเรียนไป - กลับ 8,954 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 4,477 บาท/คน 1.4.2 ระดับประถมศึกษา 14

1) นักเรยี นประจำ 31,258 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 15,629 บาท/คน 2) นักเรยี นไป - กลับ 9,158 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 4,579 บาท/คน 1.4.3 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น 1) นกั เรยี นประจำ 32,670 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 16,335 บาท/คน 2) นักเรยี นไป - กลับ 10,570 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 5,285 บาท/คน 1.4.4 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 1) นกั เรยี นประจำ 32,576 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 16,288 บาท/คน 2) นกั เรียนไป - กลบั 10,876 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 5,438 บาท/คน 1.5 เงนิ อดุ หนุนรายหวั สำหรบั นกั เรียนในศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษ มีเกณฑ์การจัดสรร ดังนี้ 1.5.1 คา่ อาหารนกั เรยี นประจำ 27,000 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 13,500 บาท/คน 1.5.2 ปจั จยั พนื้ ฐานนกั เรยี นประจำ 1,000 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 500 บาท/คน 1.5.3 คา่ อาหารนกั เรียน ไป - กลับ 6,600 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 2,970 - 3,630 บาท/คน 2. ค่าหนงั สือเรียน 2.1 งบประมาณค่าหนงั สอื เรียนที่ได้รับปงี บประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับงบประมาณปี พ.ศ. 2566 เป็นค่าหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับระดับก่อน ประถมศึกษา ค่าหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ทุกระดับชั้น และแบบฝึกหัดรายวิชา พื้นฐาน ใน 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้เฉพาะชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่6 เพื่อจัดสรรให้ นักเรยี นมหี นงั สอื ใช้เรียนครบทุกคน ดงั น้ี มลู คา่ หนังสือตอ่ ชุด กอ่ นประถมศกึ ษา 200 บาท/คน/ปี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 656 บาท/คน/ปี ชั้นประถมศึกษาปปีท่ี 2 650 บาท/คน/ปี ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 653 บาท/คน/ปี ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 707 บาท/คน/ปี 15

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 846 บาท/คน/ปี ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 859 บาท/คน/ปี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 808 บาท/คน/ปี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 2 921 บาท/คน/ปี ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 996 บาท/คน/ปี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 1,384 บาท/คน/ปี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 1,326 บาท/คน/ปี ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6 1,164 บาท/คน/ปี ชั้น ปวช. 1-3 ทจ่ี ัดโดยสถานประกอบการ 2,000 บาท/คน/ปี 3. ค่าอุปกรณ์การเรยี น 3.1 งบประมาณค่าอปุ กรณก์ ารเรยี น หมายถึง อุปกรณ์การเรียนที่จำเป็นและส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ได้แก่ สี เทียน สีน้ำ ดินน้ำมันไร้สารพิษ กรรไกรสำหรับเด็กปฐมวัย กระดาษ สมุด ดินสอ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด กระเป๋านกั เรียน อนิ เทอร์เน็ตซมิ เพ่ือใช้ในการเรยี นการสอน วัสดุอุปกรณ์ทใ่ี ชส้ ำหรับนกั เรียนพกิ าร ฯลฯ ในอัตราดังนี้ ระดับก่อนประถมศกึ ษา 290 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 145 บาท/คน ระดบั ประถมศึกษา 440 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 220 บาท/คน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ 520 บาท/คน/ปี - ภาคเรียนละ 260 บาท/คน ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 520 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 260 บาท/คน ระดับ ปวช.1 - 3 ทจี่ ัดโดยสถานประกอบการ 520 บาท/คน/ปี - ภาคเรยี นละ 260 บาท/คน ทั้งนี้ ผปู้ กครอง/นกั เรยี นสามารถถัวจ่ายระหว่างอปุ กรณก์ ารเรยี นและเครื่องแบบนักเรยี นได้ 4. คา่ เคร่ืองแบบนกั เรยี น 4.1 งบประมาณค่าเคร่อื งแบบนักเรียน ค่าเคร่ืองแบบนักเรยี น ประกอบดว้ ย เสื้อ กางเกง กระโปรง ในอัตรา ดงั น้ี ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา 325 บาท/คน/ปี ระดับประถมศกึ ษา 400 บาท/คน/ปี ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 500 บาท/คน/ปี ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 550 บาท/คน/ปี 16

ระดับ ปวช. 1 – 3 ทจ่ี ัดโดยสถานประกอบการ 950 บาท/คน/ปี ทงั้ นี้ ผ้ปู กครองหรอื นักเรยี นสามารถถัวจ่ายระหว่างเครอื่ งแบบนักเรียนและอปุ กรณ์การเรียน ไดก้ รณีนกั เรียนมีชุดนักเรียนเพียงพอแลว้ สามารถซอ้ื เข็มขัด รองเท้า ถุงเทา้ ชุดลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด/ ผูบ้ ำเพ็ญประโยชน์ ชดุ กฬี า ชดุ ฝึกงาน ชดุ ประจำท้องถิ่น และอปุ กรณก์ ารเรยี นท่ีจำเป็นได้ 5. คา่ กิจกรรมพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น 5.1 งบประมาณคา่ กจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รยี นต่อนกั เรยี น 1 คน ดงั นี้ ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา 438 บาท/คน/ปี ระดบั ประถมศึกษา 489 บาท/คน/ปี ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น 897 บาท/คน/ปี ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 969 บาท/คน/ปี ระดับ ปวช. 1 – 3 ท่จี ดั โดยสถานประกอบการ 969 บาท/คน/ปี 1.1.6 งบรายจ่ายอื่น หมายถึง รายจ่ายที่ไม่เข้าลักษณะประเภทงบรายจ่ายใดงบรายจ่ายหนึ่ง หรอื รายจา่ ยที่สำนักงานงบประมาณกำหนดใหใ้ ช้จา่ ยในงบรายจ่ายน้ี เชน่ เงินราชการลบั เงนิ คา่ ปรับที่จ่ายคืน ให้แกผ่ ูข้ ายหรือผ้รู ับจ้าง ฯลฯ การจดั สรรเงนิ อดุ หนนุ รายหวั นักเรียน การจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน แบ่งการใช้ตามสัดส่วน ด้านวิชาการ และด้านบริหารทั่วไป สำรองจา่ ยทงั้ 2 ด้านคือ 1. ด้านวิชาการ ใหส้ ดั สว่ นไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 นำไปใชไ้ ด้ในเร่ือง 1.1 จดั หาวัสดุและครุภัณฑท์ ี่จำเปน็ ตอ่ การเรียนการสอน 1.2 ซ่อมแซมวสั ดุอุปกรณ์ 1.3 การพฒั นาบุคลาการดา้ นการสอน เชน่ ส่งครเู ขา้ อบรมสัมมนา คา่ จ้างชวั่ คราวของครู ปฏิบตั ิการสอน คา่ สอนพิเศษ 2. ดา้ นบริหารท่วั ไป ให้สดั สว่ นไมเ่ กินร้อยละ 30 นำไปใช้ได้ในเร่ือง 2.1 ค่าวัสดุ ครุภัณฑ์และค่าที่ดิน สิ่งก่อสร้าง ค่าจ้างชั่วคราวที่ไม่ใช่ปฏิบัติการสอน ค่าตอบแทน ค่าใชส้ อย 2.2 สำรองจ่ายนอกเหนือด้านวิชาการและด้านบริหารทั่วไป ให้สัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10 นำไปใช้ ในเร่ืองงานตามนโยบาย 1.2 เงนิ งบประมาณรายจา่ ยงบกลาง ไดแ้ ก่ 1.2.1 เงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายเป็นเงิน บำเหน็จ บำนาญข้าราชการ เงินบำเหน็จลูกจ้างประจำ เงินทำขวัญข้าราชการและลูกจ้าง เงินทดแทน ข้าราชการ วิสามัญ เงินค่าทดแทนสำหรับผู้ได้รับอันตรายในการรักษาความมั่นคงของประเทศ เงินช่วยพิเศษข้าราชการ บำนาญเสียชีวิต เงินสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการ ปฏิบตั ิตามหน้าทม่ี นุษยธรรม และเงนิ ชว่ ยคา่ ครองชพี ผรู้ บั เบ้ียหวัดบำนาญ 17

1.2.2 เงินช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้ เพื่อจ่ายเป็นเงินสวัสดิการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ ได้แก่ เงิน ชว่ ยเหลือการศึกษาของบตุ ร เงินชว่ ยเหลือบุตร และเงนิ พเิ ศษในกรณตี ายในระหว่างรบั ราชการ 1.2.3 เงินเลื่อนขั้นเลื่อนอันดับเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ หมายความว่า รายจ่าย ที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายเป็นเงินเลื่อนขั้นเลื่อนอันดับเงินเดือนข้าราชการประจำปี เงินเลื่อนขั้นเลื่อนอันดับเงินเดือน ข้าราชการท่ไี ด้รับเลอื่ นระดับและหรอื แต่งตั้งใหด้ ำรงตำแหน่งระหว่างปี และเงินปรับวฒุ ิขา้ ราชการ 1.2.4 เงินสำรองเงินสมทบและเงินชดเชยของข้าราชการ หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้ เพื่อ จ่ายเป็นเงินสำรอง เงนิ สมทบ และเงนิ ชดเชยทรี่ ฐั บาลนำส่งเขา้ กองทนุ บำเหน็จบำนาญข้าราชการ 1.2.5 เงินสมทบของลูกจ้างประจำ หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายเป็นเงิน สมทบที่ รัฐบาลนำสง่ เขา้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพลูกจ้างประจำ 1.2.6 ค่าใช้จ่ายเกีย่ วกบั การเสดจ็ พระราชดำเนนิ และตอ้ นรับประมุขต่างประเทศ หมายความ ว่า รายจ่ายที่ตั้งไวเ้ พื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนพระราชภารกิจในการเสด็จพระราชดำเนินภายในประเทศ และ หรือ ตา่ งประเทศ และคา่ ใชจ้ า่ ยในการต้อนรับประมขุ ตา่ งประเทศที่มาเยือนประเทศไทย 1.2.7 เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งสำองไว้เพื่อ จดั สรรเป็นคา่ ใช้จา่ ยในกรณฉี กุ เฉินหรอื จำเปน็ 1.2.8 คา่ ใชจ้ า่ ยในการดำเนินการรกั ษาความม่ันคงของประเทศ หมายความวา่ รายจ่ายท่ีตั้งไว้ เพอื่ เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยในการดำเนนิ งานรักษาความมนั่ คงของประเทศ 1.2.9 เงินราชการลับในการรักษาความมั่นคงของประเทศ หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อ เบิกจ่ายเปน็ เงินราชการลับในการดำเนนิ งานเพอ่ื รักษาความมน่ั คงของประเทศ 1.2.10 ค่าใช้จา่ ยตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หมายความว่า รายจ่ายทีต่ ัง้ ไว้เพื่อ เป็น คา่ ใช้จ่าในการดำเนินงานตามโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดำริ 1.2.11 ค่าใช้จา่ ยในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้าง และพนกั งานของรฐั หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ลกู จ้างประจำและพนกั งานของรัฐ การบริหารเงนิ นอกงบประมาณและรายได้อื่น ๆ 2. เงินนอกงบประมาณ หมายถึง เงินที่กฎหมายกำหนดไม่ต้องนำส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดินหรือเงินที่ได้รับอนุญาตให้เก็บไว้ใช้ จ่ายไดต้ ามพระราชบญั ญตั ิ วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502 มาตรา 24 ซง่ึ สถานศึกษาจะได้รบั ดังนี้ 2.1 เงินรายได้สถานศึกษา หมายถึง มาตรา 59 แห่ง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 กำหนดให้สถานศกึ ษา จัดหาประโยชนจ์ ากทรัพย์สินของสถานศึกษาทัง้ ที่เป็นราชพัสดุและที่เป็นหน่วยงานอ่นื รวมทั้งการจัดหารายได้ จากการบริการของสถานศึกษา และค่าธรรมเนียมการศึกษาที่ไม่แย้งกับนโยบาย วตั ถุประสงค์และ ภารกิจหลัก ของสถานศกึ ษา เงนิ ทส่ี ถานศกึ ษาไดร้ บั ไว้เป็นกรรมสิทธ์ทิ ุกประเภททีเ่ กี่ยวเนื่อง 18

กับการศกึ ษา ยอ่ มเป็นเงินรายไดส้ ถานศึกษา เมอ่ื สถานศึกษาได้รบั แล้วไมต่ ้องน าส่งเปน็ เงนิ รายได้แผ่นดิน แต่ สามารถ นำไปใชจ้ า่ ยเพอื่ ประโยชนต์ อ่ การจัดการเรียนการสอนของนักเรยี นได้ตามระเบียบที่กระทรวงการคลัง และตาม วรรค 3 กำหนดให้บรรดารายได้และผลประโยชน์ของสถานศึกษา ย่อมหมายรวมถึง เงินที่ สถานศกึ ษาไดร้ บั ไว้ ทุกประเภทเพ่อื ใชใ้ นการจดั การศึกษาซึง่ เปน็ ภารกิจของสถานศึกษา ดงั น้ี 2.1.1 บรรดารายได้ หมายถงึ การรับเงินทุกประเภทที่เป็นรายไดข้ องสถานศึกษา หรือสถานศกึ ษา ทำกิจการอะไรท่กี ่อให้เกดิ รายได้ ถอื ว่าเป็นเงินรายได้สถานศึกษาท้ังส้ิน เช่น รายไดจ้ ากการขายอาหาร รายได้ จากการใหเ้ ชา่ อาคาร/สถานที่ /เงินผ้าป่า เงนิ รายได้จากงานเลย้ี งศิษย์เก่า ฯลฯ 2.1.2 ผลประโยชน์ที่เกิดจากที่ราชพสั ดุ หมายถึง บรรดาผลประโยชน์ทีส่ ถานศึกษาได้รับจาก ท่ี ราชพสั ดขุ องสถานศึกษา รวมทงั้ การจดั หารายได้จากการบริการของสถานศึกษา และค่าธรรมเนยี ม การศึกษา ที่ไม่ขัดแข้งกับนโยบาย วัตถุประสงค์ และภารกิจหลักของสถานศึกษา แต่การทำประโยชน์ต้องไม่ทำในเชิง ธุรกิจ เช่น การปลูกยางพาราบนพื้นที่ราชพัสดุของสถานศึกษา รายได้จากการขายยางพาราก็ต้องนำเงิน เข้า เป็นเงินรายไดส้ ถานศึกษา 2.1.3 เบี้ยปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาการซื้อทรัพย์สิน หรือจ้าง เช่น ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เมื่อมีการส่งมอบสินค้าหรืองานจ้างและมีการผิดสัญญาเกิดขึ้น ผู้ขาย/ผู้รับจ้างต้องจ่ายเบี้ยปรับให้กับ สถานศกึ ษา 2.1.4 เบี้ยปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาลาศึกษาต่อ เช่น กรณีสถานศึกษา มีข้าราชการครูลา ศกึ ษาต่อแตม่ กี ารผดิ สัญญา สถานศึกษาได้เรียกคา่ ปรบั ตอ้ งนำเงนิ เขา้ บญั ชเี งนิ รายได้สถานศึกษา 2.1.5 เงินบริจาค หมายถึง เงินที่มีผู้มอบให้ส่วนราชการ (สถานศึกษา) เพื่อใช้ในกิจกรรมของ สถานศึกษา ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการรับเงิน หรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้แก่ สถานศกึ ษา พ.ศ. 2552 และระเบียบกระทรวงการคลงั ว่าด้วยการรับเงินบริจาค พ.ศ. 2526 ดังต่อไปนี้ - เงินท่ีมีผูม้ อบให้โดยไม่ได้ระบวุ ัตถปุ ระสงคห์ รือวตั ถุประสงค์ไม่ชดั เจน ให้สถานศึกษาบันทึก การรับเงินรายได้สถานศึกษา ดอกผลให้สถานศึกษาน าไปใช้จ่ายในทางที่เป็นประโยชน์แก่ทางราชการโดย สว่ นรวม - เงินที่มีผู้มอบให้โดยระบุวัตถุประสงค์ เพื่อการใด เพื่อใคร ให้สถานศึกษาบันทึกรับไว้เป็น เงิน บรจิ าคโดยมวี ัตถุประสงค์ เงนิ ดอกผลท่ีเกดิ จากทรัพย์สนิ ซึ่งมีผู้บรจิ าคให้ ใหส้ ถานศกึ ษานำไปใช้จ่าย หรือ กอ่ หนผ้ี ูกพนั ได้ตามวตั ถุประสงค์เท่านนั้ การรับเงินรายไดส้ ถานศกึ ษา 1) สถานศึกษาต้องออกใบเสร็จรับเงินตามแบบที่กระทรวงการคลังกำหนดให้แก่ผู้ชำระเงิน ทกุ ครงั้ ทมี่ กี ารรับเงนิ 2) กรณีที่ไม่สามารถออกใบเสร็จรับเงินได้ให้ใช้หลักฐานการรับเงินตามแบบที่ทางราชการ กำหนด และตอ้ งควบคุมใบเสรจ็ รบั เงินหรอื หลักฐานการรบั เงนิ ไว้เพื่อสามารถตรวจสอบได้ 19

3) นำหลักฐานการรับเงินไปบันทึกรายการในสมุดเงินสด และทะเบียนคุมเงินนอก งบประมาณ ประเภทเงินรายได้สถานศึกษา และจัดทำทะเบียนคุมการใช้จ่ายเงินโดยแยกประเภทตาม วตั ถุประสงคข์ องเงิน 2.1.6 เงินหรือผลประโยชน์อื่นที่สถานศึกษารับไว้เป็นกรรมสิทธ์ิ แต่ไม่รวมถึงงบประมาณ รายจ่าย เช่น เงินระดมทรัพยากร (ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานก่อน) เงิน บำรงุ การศึกษา (ทเี่ ก็บนอกเหนอื จากหลกั สตู ร) เงินรายไดอ้ ื่น ๆ 2.1.7 ค่าขายแบบรูปรายการ เมื่อสถานศึกษามีการก่อสร้างอาคารเรียนหรืออาคารประกอบอ่ืน ภายใน โรงเรียนจะจัดพิมพ์แบบรูปรายการเพื่อจำหน่ายให้กับผู้รับจ้าง ค่าขายแบบรูปรายการให้ปฏิบัติตาม หนังสอื คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน - เงินที่ได้จากการขายแบบรูปรายการที่จัดทำขึ้นโดยใช้งบประมาณแผ่นดินหรือได้รับจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ถือว่าเป็นทรัพย์สินของทางรัฐบาล ต้องนำส่งคลังเป็น รายได้ แผ่นดนิ - เงินที่ได้รับจากการขายแบบรูปรายการที่จัดทำขึ้นโดยใช้เงินรายได้สถานศึกษาถือเป็น รายได้ของสถานศกึ ษาท่ีได้รบั การยกเว้น ไมต่ อ้ งนำส่งคลงั เป็นรายไดแ้ ผน่ ดนิ 2.1.8 เงินอดุ หนนุ จากองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ได้แก่ - เงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมของสถานศึกษา โดยสถานศึกษาจัดทำโครงการเกี่ยวกับการ ดำเนินงานกิจกรรม เพื่อขอรับเงินอุดหนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือเป็นเงินที่มีผู้มอบให้โดยมี วัตถุประสงค์ สถานศกึ ษาสามารถเก็บไว้ใช้จา่ ยตามวตั ถุประสงคโ์ ดยไมต่ ้องนำส่งคลัง - เงินสนับสนุนโครงการอาหารกลางวัน 2.1.9 เงินค่าขายทรัพย์สินของสถานศึกษาที่มาจากเงินนอกงบประมาณ เป็นการขายวัสดุ ครุภัณฑ์ หรือสิ่งก่อสร้าง ที่สถานศึกษาจัดหามาด้วยเงินงบประมาณ เพื่อใช้ในการเรียนการสอนของนักเรียน ซึ่ง สถานศึกษาหมดความจำเป็นหรือชำรุด เงินค่าขายทรัพย์สินดังกล่าวต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน แต่ถ้า ทรัพย์สินที่สถานศึกษาซื้อมาด้วยเงินนอกงบประมาณ เป็นกรรมสิทธิ์ของสถานศึกษาตามมาตรา 1336 แห่ง ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ เงนิ ทไ่ี ดร้ บั จากการขายทรัพยส์ ิน เปน็ เงนิ รายได้ของสถานศึกษา การเกบ็ รักษาเงินรายไดส้ ถานศึกษา 1. อำนาจการเกบ็ รักษา 1.1 เงนิ รายได้สถานศึกษา สถานศึกษา วงเงนิ ทส่ี ำรองจา่ ย วงเงนิ ฝากธนาคาร ณ สถานศกึ ษาไม่เกนิ วันละ สถานศึกษาขนาดเล็กที่มีนักเรียน 20,000 บาท 30,000 บาท ไม่ เกนิ 120 คน สถานศกึ ษาทม่ี ีนักเรียนเกิน 30,000 บาท ไมเ่ กิน 1 ล้านบาท 120 คน 20

1.2 เงินรายได้สถานศึกษาที่เบิกถอนเพื่อสำรองจ่ายเป็นเงินสด สถานศึกษาใดที่ไม่มีตู้นิรภัย ให้ จดั ทำแบบบนั ทกึ การรับเงินเพ่อื เกบ็ รกั ษา 1.3 เงนิ รายไดส้ ถานศกึ ษาส่วนทเ่ี กนิ วงเงนิ เก็บรักษาใหส้ ถานศึกษานำสว่ นท่ีเกิน ฝากสำนกั งานเขต พื้นท่ีการศึกษา 1.4 เงนิ รายได้สถานศึกษาให้นำฝากธนาคารท่ีเป็นรฐั วสิ าหกิจท่ีตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเดียวกัน กับ ท้องที่ตั้งของสถานศึกษา หากท้องที่นั้นไม่มีธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจให้นำฝากธนาคารพาณิชย์อื่นได้ ภายใน อำเภอเดียวกัน สำหรับประเภทเงินฝาก ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาโดยคำนึงถึงประโยชน์ของทาง ราชการเป็นสำคญั 1.5 เงินดอกผล ที่เกิดจากบัญชีเงินฝากธนาคารให้ถือเปน็ เงินรายไดส้ ถานศึกษา สามารถ นำไปใช้ จา่ ยเพ่อื จัดการศึกษาได้ 2. อำนาจการสง่ั จา่ ยเงนิ ให้ปฏิบัติตามคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ 1505/2551 เรื่องมอบอำนาจ เกีย่ วกบั เงนิ รายไดส้ ถานศึกษา สง่ั ณ วนั ที่ 26 พฤศจกิ ายน 2551 ซง่ึ กำหนดให้ 2.1 ผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษมีอำนาจสั่งจ่ายได้ครั้ง ละไม่ เกนิ 15 ลา้ นบาท 2.2 ผู้อำนวยการสำนักการคลังและสินทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คร้ัง ละไม่เกิน 20 ลา้ นบาท 2.3 ผู้วา่ ราชการจงั หวดั คร้ังละไมเ่ กิน 25 ลา้ นบาท 2.4 ที่ปรึกษาที่รับผิดชอบการปฏิบัติราชการของสำนักการคลังและสินทรัพย์ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ครั้งละไม่เกนิ 30 ล้านบาท 2.5 รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่รับผิดชอบการปฏิบัติราชการของสำนัก การคลงั และสินทรพั ย์ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน ครัง้ ละไมเ่ กิน 40 ล้านบาท 2.6 นอกเหนอื จากท่ีกำหนด ใหเ้ ป็นอำนาจของเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน 3. อำนาจอนุมัติในการก่อหนี้ผูกพัน และการใช้จ่ายเงินรายได้สถานศึกษาให้ปฏิบัติตามระเบียบ กระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยการจดั ซอ้ื จัดจา้ งและบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ.2560 3.1 ให้นำไปใช้จ่ายหรือก่อหน้ีผูกพันได้แต่เฉพาะเป็นค่าใช้จา่ ยในการจดั การศึกษา และ ค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาของสถานศึกษาแห่งนั้น ยกเว้นเงินรายได้สถานศึกษาในส่วนที่เป็นเงินที่มีผู้มอบให้ สถานศึกษาโดยมีวัตถุประสงค์ชัดแจ้งให้นำไปจ่าย หรือก่อหนี้ผูกพันได้เฉพาะในกิจการ ที่มีผู้มอบระบุ วตั ถุประสงค์ในการใชเ้ งนิ เทา่ นน้ั 3.2 ให้สถานศึกษานำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา และ เกย่ี วเนอ่ื งกับการจัดการศกึ ษาไดต้ ามเกณฑ์ และวธิ กี าร ดังน้ี 21

3.2.1 ให้ใช้จ่ายในการจัดการศึกษาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดการศึกษา ตามแผน ปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายเงินรายได้สถานศึกษาโดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ความโปร่งใส สามารถ ตรวจสอบได้ และเกิดประโยชนต์ ่อผู้เรยี นเปน็ สำคญั 3.2.2 การใช้จ่ายเงินรายได้สถานศึกษา ในส่วนที่เป็นเงินที่มีผู้มอบให้โดยมี วัตถุประสงค์ชัด แจง้ ให้นำไปใชจ้ า่ ยหรือก่อหน้ีผูกพันได้เฉพาะในกจิ การที่มีผู้มอบระบุวตั ถุประสงคเ์ ทา่ นนั้ 2.2 เงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย หมายถึง เงินที่เจ้าหน้าที่ผู้จ่ายเงินของสถานศึกษาหักจากผู้ขายหรือ ผู้รับ จ้างเพ่อื นำสง่ สรรพกรกรณซี อ้ื หรอื จ้างมีหลักเกณฑก์ ารจ่ายและหักภาษีณท่ีจ่ายดังนี้ 2.2.1 ซอ้ื หรอื จ้างบุคคลธรรมดา ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป หักรอ้ ยละ 1 ของมูลคา่ สินค้า/ บริการ กอ่ นบวกภาษมี ูลคา่ เพ่ิม 2.2.2 ซอื้ หรอื จ้างนิตบิ ุคคล ต้ังแต่ 500 บาทข้ึนไป หกั ร้อยละ 1 ของมูลคา่ สินค้า/บริการ กอ่ นบวก ภาษมี ลู คา่ เพมิ่ การหักภาษี ณ ที่จ่ายต้องยึดหลักเกณฑ์เงนิ สด หมายความว่า จ่ายเงินวนั ใดตอ้ งหักภาษี ณ ทจ่ี า่ ย วันน้นั ซึ่งแบง่ ออกเป็น - การจ่ายเงินสด หากจ่ายเงนิ สดวนั ใดตอ้ งหกั ภาษี ณ ทจ่ี ่ายไวด้ ้วย - การจ่ายเป็นเช็ค จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายตามวันทท่ี ปี่ รากฏสัง่ จ่ายบนเชค็ โดยไมค่ ำนึงว่า ผู้รบั เงนิ จะมารับเช็คหรือไมก่ ็ตาม 2.3 เงินลูกเสอื เนตรนารี ให้ถือปฏิบัติตามข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ ว่าด้วยการปกครองหลักสูตร และวิชาชีพลูกเสือ พ.ศ.2509 ขอ้ 18 - 35 เม่ือจดั เกบ็ แล้วให้นำฝากธนาคารเทา่ น้นั อตั ราการเกบ็ คา่ บำรุง ลกู เสอื ประจำปี - เกบ็ จากลกู เสอื คนหน่งึ ไม่เกินปลี ะ 5 บาท - เกบ็ จากผูบ้ งั คับบญั ชาลูกเสือ ไมเ่ กนิ ปีละ 10 บาท การใช้ใบเสรจ็ รับเงนิ ใหใ้ ช้ใบเสรจ็ รบั เงินและแบบพิมพ์ต่าง ๆ ตามแบบท่กี ำหนด โดยซื้อได้จากอง ลูกเสือ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ หลักฐานการจ่าย ให้ถือปฏิบัติเช่นเดียวกับการ จ่ายเงินทางราชการ และให้รวบรวมหลักฐานการ จ่ายไว้ที่สถานศึกษาแต่ต้องเก็บไว้ให้ครบถ้วนเพื่อการ ตรวจสอบได้ 2.4 เงินยุวกาชาด ให้ถือปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการบริหารยุวกาชาดเรือ่ งระเบียบ ปฏิบัติเกี่ยวกับ ยุวกาชาด พ.ศ. 2533 หมวด 4 วา่ ด้วยเร่อื งเงินบำรงุ ยวุ กาชาด คอื เงนิ คา่ บำรุงประจำปีท่ีเกบ็ จากยุวกาชาดคนหน่ึงไม่เกิน 10 บาท การเก็บรักษาเงินยุวกาชาด ให้นำฝากธนาคารออมสิน หรือธนาคารพาณิชย์ประเภทออมทรัพย์ การรบั เงินให้ใชใ้ บเสรจ็ รบั เงินตามแบบทีก่ องยุวกาชาดกำหนดทกุ ครง้ั 22

หลักฐานการจ่ายเงิน ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับขั้นตอนการจ่ายเงินของทางราชการ และให้รวบรวม หลกั ฐานการจา่ ยเงินเกบ็ ไวท้ ่ีสถานทแี่ ละตอ้ งเก็บให้ครบถว้ น เพือ่ รบั การตรวจสอบได้เสมอ 2.5 เงินประกนั สญั ญา เป็นเงินที่สถานศึกษารับจากผู้ขายหรือผู้รับจ้างเมื่อทำสัญญาซื้อหรือสัญญาจ้างในอัตราร้อยละ 5 ของวงเงินในสัญญา เพื่อเป็นการประกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติ ตามสัญญา เงินประกันสัญญาใช้หลักประกันอย่างใดอย่างหนึ่ง ดงั น้ี - เงนิ สด - เช็คทธ่ี นาคารส่ังจ่าย ซ่ึงเป็นเช็คท่ีลงวนั ทท่ี ีใ่ ชเ้ ชค็ น้ันชำระต่อเจา้ หน้าที่ หรอื ก่อนวัน น้ันไม่เกิน 3 วนั ทำการ - หนงั สือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศตามที่ กวพ.กำหนด - พนั ธบัตรรฐั บาลไทย 3. เงนิ รายไดแ้ ผน่ ดนิ เงินรายได้แผ่นดิน หมายถึง เงินที่ส่วนราชการจัดเก็บหรือได้รับไว้เป็นกรรมสิทธิ์ตาม กฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั หรอื จากนิติกรรม หรอื นิตเิ หตุ และไม่มีกฎหมายอืน่ ใดกำหนดใหส้ ว่ นราชการเก็บไว้หรือหัก ไว้เพื่อจ่าย เช่น เงินอุดหนุนทั่วไปที่เหลือจ่ายเกิน 2 ปีงบประมาณ เงินดอกเบี้ยจากบัญชีเงินฝาก ธนาคาร ประเภทออมทรัพยข์ องเงนิ อดุ หนุนท่วั ไป ฯลฯ มีแนวทางการดำเนินการ ดงั นี้ การจัดเก็บเงินรายได้แผ่นดิน ให้สถานศึกษาออกใบเสร็จรับเงินให้ผู้ที่ชำระเงินรายได้แผ่นดินทกุ ราย พร้อมทั้งบันทึกควบคุมไว้ในสมุดเงินสดและทะเบียนคุมเงินรายได้แผ่นดิน สำหรับดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคาร ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป และเงินอุดหนุนทั่วไปที่เหลือจ่ายเกิน 2 ปีงบประมาณ ไม่ต้องออก ใบเสร็จรับเงินให้บนั ทึกรับในสมุดเงนิ สดและทะเบียนคุมเงนิ รายไดแ้ ผ่นดิน โดยอ้างเลขท่ีบัญชีเงินฝากธนาคาร เปน็ หลกั ฐานการรบั การนำสง่ เงนิ รายได้แผน่ ดิน 1. ให้โรงเรียนรวบรวมเงนิ รายได้แผ่นดินนำสง่ อยา่ งนอ้ ยเดอื นละ 1 คร้งั เวน้ แต่มีเงินรายได้แผน่ ดิน ในขณะใดขณะหน่งึ เกินกวา่ 10,000 บาท ในนำส่งภายใน 3 วนั ทำการ 2. วธิ ีการนำส่ง ให้สถานศกึ ษานำเงิน/เช็คธนาคาร พร้อมหนงั สอื ราชการนำสง่ ย่นื ตอ่ สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษา 3. บนั ทกึ รายการนำส่งลงในสมุดเงนิ สดและทะเบียนคมุ เงินรายได้แผ่นดิน 23

บรรณนกุ รม จิราพร สงั ขพ์ ชิ ัย. (2561). คมู่ ือปฏบิ ัตงิ านตรวจสอบภายใน “ประเภทของเงนิ ท่สี ถานศกึ ษาไดร้ บั ”.สืบคน้ เมอื่ วนั ที่ 19 มกราคม 2566, จาก http://www.mathayom9.go.th/ckeditor/userfiles/files/t002.pdf โรงเรยี นสำเร็จรปู .(2560). การบรหิ ารงบประมาณ. สืบคน้ เมื่อวนั ท่ี 19 มกราคม 2566, จาก http://www.thaischool.in.th/_files_school/46101378/other/ita_46101378_1_20200907- 145838.pdf โรงเรียนโฆสติ สโมสร. (2563). คมู่ ือการบรหิ ารงานงบประมาณ. สบื คน้ เมอ่ื วันที่ 19 มกราคม 2566, จาก https://kosit.thai.ac/client-upload/kosit/uploads/files/ita/O13คูม่ อื บรหิ ารงบประมาณโฆสิต สโมสร.pdf สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน.(2566).แนวทางการดำเนนิ งานตามโครงการสนบั สนุน ค่าใชจ้ า่ ยในการจดั การศกึ ษาต้งั แต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566. สืบคน้ เม่อื วนั ที่ 19 มกราคม 2566, จาก https://drive.google.com/file/d/1Ucm5h5hLnzbowaKwCyS_pDTD0dGgR44D/view 24

ภาคผนวก 25

26