Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานประเมินความเสี่ยงฯปีงบประมาณ-2564

รายงานประเมินความเสี่ยงฯปีงบประมาณ-2564

Description: รายงานประเมินความเสี่ยงฯปีงบประมาณ-2564

Search

Read the Text Version

ส่วน 1 บทนำ ทม่ี ำและควำมสำคญั ปัจจุบันการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ได้ถูกกาหนด เป็นกลยุทธ์ที่สาคัญของยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ซ่ึงถือเป็นการยกระดับให้การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ให้เป็น “มาตรการป้องกันการทุจริตเชิงรุก” ที่หน่วยงาน ภาครัฐทั่วประเทศจะต้องดาเนินการ โดยมุ่งหวังให้หน่วยงานภาครัฐที่เข้ารับการประเมินได้รับทราบ ผลการประเมินและแนวทางในการพัฒนา และยกระดับหน่วยงานในด้านคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดาเนินงานได้อย่างเหมาะสม และที่ผา่ นมาพบว่า หลายหน่วยงานนาการประเมินคุณธรรมและ ความโปร่งใสในการดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐไปเป็นกรอบในการพัฒนาและยกระดับการ บริหารจดั การให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เกดิ การปรับปรงุ ประสิทธิภาพในการให้บริการและการ อานวยความสะดวกต่อประชาชน ให้เข้าถึงการบริการสาธารณะด้วยความเป็นธรรมผ่านการ ปฏิบัติงานอย่างมีมาตรฐานมีการประกาศขั้นตอนและระยะเวลาในการให้ บริการอย่างชัดเจน นอกจากน้ีในด้านบริหารจัดการในหน่วยงานก็ยังพบว่าหน่วยงานให้ความสาคัญกับการป้องกันใน ประเด็นท่ีอาจเป็นความเส่ียง หรือเป็นช่องทางท่ีอาจจะก่อให้เกิดการทุจริต การรับสินบน หรือ กอ่ ให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน และสามารถยับยงั้ การทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อนท่ีอาจเกิดข้ึนได้ อย่างเท่าทนั สถานการณ์ ซึ่งเม่ือหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศมีการป้องกันการทุจริตเชิงรุกในลักษณะ ดังกล่าว ก็จะทาให้การทุจริตในภาพรวมของประเทศลดลงได้ในท่ีสุด รวมถึงยังผลักดันให้เกิดทิศ ทางการพัฒนาและปรับปรุงการทางานภายในหน่วยงาน ในภาพรวมของประเทศให้มีประสิทธิภาพ มากยงิ่ ขึน้ อกี ดว้ ย สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานได้กาหนดนโยบายให้สานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาทุกเขตพ้ืนท่ี รับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงานของหน่วยงาน ภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 จนถึง ปัจจุบันปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จากการวิเคราะห์ผลการประเมินตลอดระยะเวลท่ีผ่านมา สานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 3 มีผลการประเมินดังนี้

๒ ปีงบประมำณ พ.ศ. ผลคะแนน ITA พัฒนำกำร ผลตำ่ งของคะแนน ITA 2558 68.93 - - 2559 76.83 2560 84.28 เพม่ิ ขนึ้ +7.9 2561 69.90 เพิม่ ขน้ึ +7.45 2562 79.95 ลดลง - 14.38 2563 96.62 เพม่ิ ข้ึน +10.05 เพ่ิมข้ึน +16.67 ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงานของสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พิจาณาเป็นรายตัวชี้วัด ซึ่งได้จากการสารวจความคิดเห็นของบุคลากรและเจ้าหน้าท่ีที่ปฏิบัติงานในสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษา ผู้รับบริการหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา และจากเอกสาร หลักฐานการเปิดเผยข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เรียงตามลาดับคะแนน ได้ ดงั น้ี ตัวช้ีวัดที่ ประเดน็ ตวั ชวี้ ดั คะแนน ระดับ หมำยเหตุ ตวั ชว้ี ดั ที่ 1 การปฏิบตั ิหนา้ ที่ 99.46 AA ผ่าน ตัวชว้ี ัดท่ี 2 การใช้งบประมาณ 96.47 AA ผา่ น ตวั ชี้วดั ที่ 3 การใช้อานาจ 98.43 AA ผา่ น ตวั ชว้ี ัดท่ี 4 การใชท้ รพั ย์สินของราชการ 98.37 AA ผา่ น ตัวชว้ี ัดท่ี 5 การแกไ้ ขปญั หาการทุจรติ 99.59 AA ผา่ น ตวั ชีว้ ัดที่ 6 คณุ ภาพการดาเนินงาน 99.32 AA ผ่าน ตัวชว้ี ัดที่ 7 ประสิทธิภาพการสอ่ื สาร 98.37 AA ผ่าน ตวั ช้วี ัดที่ 8 การปรับปรงุ ระบบการทางาน 96.37 AA ผ่าน ตวั ชว้ี ดั ที่ 9 การเปิดเผยข้อมลู 94.64 A ผ่าน ตัวชว้ี ดั ที่ 10 การปอ้ งกันการทจุ ริต 93.75 A ผา่ น จากตารางผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงานของสานักงานเขต พ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พิจารณาเป็นราย ตัวช้ีวัด พบวา่ ตวั ชีว้ ัดท่ีผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ แต่ยงั ไมถ่ ึงระดับ AA มดี งั นี้ การใช้งบประมาณ ตัวช้วี ัดที่ 9 การเปิดเผยขอ้ มลู ตวั ชว้ี ดั ท่ี 10 การปอ้ งกันการทุจริต

๓ จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลทางวิชาการเก่ียวกับเคร่ืองมือวัดเก่ียวกับคุณธรรมความ โปร่งใส และการทุจริตในหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จึงประเมินความเส่ียงและการดาเนินการ เพ่ือจัดการความเส่ียงต่อการทุจริตประจาปี ตามแนวทางการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสใน การด เนินงานของหนว่ ยงานภาครัฐ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ซง่ึ เกณฑก์ ารประเมินมเี น้ือหา ครอบคลุมเก่ียวข้องกับคุณธรรม ความโปร่งใส และการทุจริต ทั้งท่ีมีลักษณะการทุจริตทางตรงและ การทุจริตทางอ้อม รวมไปถึงบริบทแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซ่ึงจะเป็นประโยชน์ต่อ หน่วยงานในการปรับปรุงแก้ไข ลดโอกาสหรือความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตในหน่วยงาน โดยจาแนก ออกเป็น 10 ตัวชว้ี ดั ดังนี้ 1. กำรปฏิบัติหนำ้ ที่ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาจะต้องมีแนวทางปฏิบัติงานโดยยึดหลักตามมาตรฐาน มี ความโปรง่ ใส ปฏิบัติงานหรือดาเนินการตามข้ันตอนและระยะเวลาที่กาหนดไว้อยา่ งเคร่งครัด และจะต้อง เป็นไปอย่างเท่าเทยี มกันไม่วา่ จะเป็นผู้มาติดต่อท่ัวไปหรือผู้มาติดต่อท่ีรู้จกั กันเป็นการส่วนตัว รวมไปถึง การปฏิบัติงานอยา่ งมุ่งม่ันเต็มความสามารถ และมคี วามรับผิดชอบต่องานในหนา้ ที่ทรี่ ับผิดชอบ 2. กำรใช้งบประมำณ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาจะต้องจัดทาแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีและ เผยแพร่อย่างโปร่งใส ใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานอย่างคุ้มค่า เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และไม่ เอื้อประโยชน์แก่ตนเองหรือพวกพ้อง และต้องเปิดโอกาสให้บุคลากรภายในมีส่วนร่วมในการ ตรวจสอบการใช้จา่ ยงบประมาณของหน่วยงานตนเองได้ 3. กำรใชอ้ ำนำจ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาจะต้องมีแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการมอบหมายงาน การ ประเมินผลการปฏิบัติงาน การคัดเลือกบุคลากรเพ่ือให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งจะต้องเป็นไปอย่าง เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบตั ิ 4. กำรใช้ทรพั ย์สินของรำชกำร สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาจะต้องมีการจัดทาแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการใช้ทรัพย์สิน ของราชการที่ถูกต้อง เพื่อเผยแพร่ให้บุคลากรภายในได้รับทราบและนาไปปฏิบัติ รวมไปถึงหน่วยงาน จะต้องมกี ารกากับดูแลและตรวจสอบการใชท้ รัพย์สินของราชการของหนว่ ยงานด้วย 5. กำรแกไ้ ขปญั หำกำรทจุ รติ สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาจะต้องทบทวนนโยบายท่ีเกย่ี วข้องกับการปอ้ งกันการทุจริต ในหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพ และจัดทาแผนงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของ หน่วยงาน เพ่ือให้เกิดการแก้ไขปัญหาการทุจริตได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมไปถึงการประเมินเกี่ยวกับ ประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาการทุจริตของหน่วยงาน ท่ีจะต้องทาให้การทุจริตในหน่วยงานลดลง หรือไม่มีเลย และจะต้องสร้างความเช่ือม่ันให้บุคลกรภายใน ในการร้องเรียนเมื่อพบเห็นการทุจริต ภายในหน่วยงานด้วย นอกจากนี้ หน่วยงานจะต้องมีกระบวนการเฝ้าระวัง ตรวจสอบการทุจริต ภายในหน่วยงาน รวมถึงการนาผลการตรวจสอบของฝ่ายตรวจสอบ จากทั้งภายในและภายนอก หน่วยงาน ไปปรบั ปรุงการทางาน เพื่อป้องกันการทุจรติ ในหนว่ ยงาน

๔ 6. คุณภำพกำรดำเนินงำน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องมีแนวทางปฏิบัติงานโดยยึดหลักตามมาตรฐาน ขั้นตอน และระยะเวลาท่ีกาหนดไว้อย่างเคร่งครัด และจะต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียมกันไม่เลอื กปฏิบัติ รวมถึงจะตอ้ งใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั การดาเนินการ/ให้บริการของหนว่ ยงานแกผ่ ู้รับบริการ ผมู้ าติดต่อ หรือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปิดบังหรือบิดเบือนข้อมูล และคานึงถึงประโยชน์ของ ประชาชนและส่วนรวมเป็นหลัก ไม่มกี ารเอ้อื ประโยชนใ์ หก้ ับบคุ คลใดบุคคลหนงึ่ หรอื กลุ่มใดกลุ่มหนึง่ 7. แนวทำงกำรพัฒนำประสิทธิภำพกำรสื่อกำร สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาจะต้องเผยแพร่ข้อมูลของหน่วยงานในเรื่องต่างๆ ต่อ สาธารณชนผ่านช่องทางที่หลากหลาย สามารถเข้าถึงได้ง่าย และไม่ซับซ้อน โดยข้อมูลท่ีเผยแพร่ต้อง ถูกต้องครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลการดาเนินงานของหน่วยงานและข้อมูลที่ สาธารณชนควรรับทราบ รวมถึงการจัดให้มชี ่องทางให้ผู้รับบริการ ผ้มู าตดิ ต่อ หรือผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสีย สามารถส่งคาติชมหรือความคิดเห็นเก่ียวกับการดาเนินงาน/การให้บริการ และมีการช้ีแจงในกรณีท่ีมี ข้อกังวล สงสัยได้อย่างชัดเจน รวมถึงจัดให้มีช่องทางให้ผู้มาติดต่อ สามารถร้องเรียนการทุจริตของ เจา้ หน้าที่ในหน่วยงาน 8. แนวทำงกำรปรับปรงุ ระบบกำรทำงำน สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาจะต้องปรับปรุงพัฒนาหน่วยงาน ทั้งการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่และกระบวนการทางานของหน่วยงานให้ดีย่ิงขึ้น รวมไปถึงการนาเทคโนโลยีมาใช้ในการ ดาเนินงาน เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วมากย่ิงขึ้น โดยควรมีกระบวนการเปิดโอกาสให้ผู้รบั บรกิ าร หรือผู้มาติดต่อ เข้ามามีส่วนร่วมในการปรับปรุง พัฒนา การดาเนินงาน เพ่ือให้สอดคล้องกับความ ตอ้ งการ และควรให้ความสาคญั กบั การปรบั ปรุงการดาเนนิ งานให้มีความโปร่งใสมากข้ึน 9. กำรเปิดเผยขอ้ มูล สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ของหน่วยงานให้สาธารณชน ได้รับทราบ ใน 5 ประเด็น คือ (1) ข้อมูลพ้ืนฐาน ได้แก่ ข้อมูลพ้ืนฐาน ข่าวประชาสัมพันธ์ และการ ปฏิสัมพันธ์ข้อมูล(2) การบริหารงาน ได้แก่ แผนดาเนินงาน การปฏิบัติงาน และการให้บริการ (3) การบริหารเงินงบประมาณ ได้แก่ แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปี และการจัดซ้ือจัดจ้างหรือการ จัดหาพัสดุ (4) การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล ได้แก่ นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล การ ดาเนินการตามนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล และหลักเกณฑ์การบริหารและพัฒนาทรัพยากร บุคคล และ (5) การสง่ เสรมิ ความโปร่งใสในหน่วยงาน ไดแ้ ก่ การจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจรติ และ การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม ซ่ึงการเผยแพร่ข้อมูลในประเด็นข้างต้นแสดงถึงความโปร่งใสใน การบริหารงานและการดาเนินงานของหนว่ ยงาน 10. แนวทำงกำรป้องกนั กำรทจุ รติ สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาจะต้องดาเนินการเผยแพร่ผลการดเนินการต่อสาธารณชนด้าน การดาเนินการเพือ่ ปอ้ งกนั การทุจรติ และมาตรการป้องกนั การทจุ รติ

๕ ดังน้ันสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จึงได้ดาเนินการประเมิน ความเส่ียงและจัดการความเส่ียงต่อการทุจริตประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อให้ทราบปัญหา อุปสรรคจากการดาเนินกิจกรรม โครงการตามแผนฯ รวมถึงข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงการ ดาเนนิ งาน โดยในการประเมนิ ความเสยี่ งในการปฏิบตั งิ านท่ีครอบคลุมถึงการวิเคราะหค์ วามเสยี่ งทีจ่ ะ เช่อื มโยงไปถึงกหารขัดกันระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวมและข้อเสนอแนะหรือ แนวทางการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานและ รายงานการประเมินความเส่ียงการปฏิบัติงานดงั กล่าว รายงานเสนอตอ่ ผู้บังคบั บัญชาเพอ่ื ใช้เปน็ ขอ้ มลู ประกอบการตัดสินใจต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ได้มีการป้องกัน ปัญหาการทุจริตและปัญหาเร่ืองการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ภายในหนว่ ยงาน ๒. เพ่ือให้เพ่ือให้สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 มีการ ดาเนินงานตามแผนบริหารความเส่ียงและสามารถป้องกันความเส่ียงด้านการทุจริตท่ีอาจเกิดข้ึนได้ อย่างทนั ท่วงที ๓. เพ่ือตรวจสอบการบรหิ ารงานและการปฏิบัตริ าชการของเจ้าหน้าท่ีรฐั ไม่ใหเ้ กิดการ แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวในตาแหน่งหน้าที่อันมิควรได้โดยชอบตามกฎหมายให้ยึดม่ันในคุณธรรม จริยธรรม เป็นแบบอย่างท่ีดียืนหยัดทาในส่ิงที่ถูกต้องเป็นธรรมถูกกฎหมายโปร่งใสและตรวจสอบได้ ๔. เพ่ือสร้างความเช่ือมั่นศรัทธาต่อการบริหารราชการแผ่นดินแก่ ผู้บริหาร ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ผ้รู บั บริการและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย นิยำมศัพท์เฉพำะ ประเด็นปัญหาภายใน (Internal Issues) หมายถึง ประเด็นปัญหาที่พบจากการดาเนินงาน ภายในสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 3 ประเด็นปัญหาภายนอก (External Issues) หมายถึง ประเด็นปัญหาที่พบจากการ ดาเนินงาน ระหว่างส่วนงานกับผูม้ ีสว่ นได้เสีย ความเสี่ยง (Risk) หมายถึง ผลของความไม่แน่นอน (Impacts of Uncertainty) ต่อ วัตถุประสงค์ หมายถึง โอกาสท่ีจะเกิดความผิดพลาด ความเสียหาย การรั่วไหล ความสูญเปล่า หรือ เหตุการณ์ทไ่ี มพ่ งึ ประสงคซ์ ง่ึ อาจเกดิ ผลกระทบต่อการดาเนนิ งานไมเ่ ปน็ ไปตามเปา้ ประสงค์ขององค์กร การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) หมายถึง การประสานกิจกรรมเพ่ือส่ังการและ ควบคุม องคก์ รเกยี่ วกบั ความเส่ยี ง แผนการบริหารความเส่ียง (Risk Management Plan) หมายถึง กรอบการบริหารความ เส่ียงท่ี ระบถุ ึงวิธกี ารท่ใี ช้องค์ประกอบในการบรหิ าร และทรัพยากรท่ีใช้ในการบริหารความเสีย่ ง การประเมินความเส่ียง (Risk Assessment) หมายถงึ กระบวนการโดยรวมเกย่ี วกับการชี้บ่ง ความเสย่ี ง การวเิ คราะห์ความเสีย่ งและการประเมินผลความเสย่ี ง

๖ การวิเคราะห์ควมเสี่ยง (Risk Analysis) หมายถงึ กระบวนการเข้าใจธรรมชาตขิ องความเสยี่ ง และ กาหนดระดับความเส่ียง เกณฑ์ความเส่ียง (Risk Criteria) หมายถึง เง่ือนไขของการอ้างอิงเพื่อใช้ประเมินเทียบหา ความเสี่ยง ทมี่ ีนยั สาคัญ ระดับความเสี่ยง (Level of risk) หมายถึง ขนาดของความเสี่ยงหรือผลรวมของความเส่ียง ซง่ึ แสดงออกในรูปของผลรวมระหว่างผลสืบเนื่องและโอกาส การประเมินผลความเสยี่ ง (Risk Evaluation) หมายถึง การประเมินผลความเสย่ี งเพื่อตดั สิน ว่าขนาดของความเสย่ี งยอมรบั ไดห้ รอื ทนทานไดห้ รอื ไม่ การจดั การความเสีย่ ง (Risk Treatment) หมายถงึ กระบวนการในการเปล่ียนแปลงความเส่ยี ง

สว่ นที่ 2 แนวคิด หลกั การและเอกสารทีเ่ กีย่ วข้อง การดาเนินงานประเมินความเสี่ยงการทุจริตประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของสานักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ได้ศึกษาแนวคิด หลักการและเอกสารท่ีเกี่ยวข้องตาม หวั ขอ้ ดงั นี้ 1. แนวคิด ความหมายของการทจุ ริต 2. แนวคิด หลักการและความหมายของความเสยี่ ง 3. แนวคิด หลักการและความหมายเกย่ี วกับการบรหิ ารความเสยี่ ง 4. หลกั การและองคป์ ระกอบของการบริหารความเส่ียง 5. ประโยชน์ของการบริหารความเส่ยี ง แนวคิด ความหมายของการทจุ ริต ราชบณั ฑติ ยสถาน ( 2556) ไดใ้ หค้ วามหมายของทุจริต หมายถงึ ประพฤติช่ัว ประพฤติไม่ ดี ไมซ่ ื่อตรง โกง คดโกง ฉอ้ โกง โดยใชอ้ บุ ายหรือเลห่ เ์ หลยี่ มหลอกลวงเพ่ือให้ไดส้ ิง่ ทต่ี ้องการ เชน่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ปปช.) สามารถเสนอข้อเท็จจริงและ ความเห็นไปยงั วฒุ ิสภา เพ่ือถอดถอนขา้ ราชการท่ีคอร์รัปชันใหพ้ ้นจากตาแหน่งได้ หนงั สือพิมพ์ลงขา่ ว ข้าราชการระดับสูง ในกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมที่พัวพันการทุจริต กินค่าหัวคิวจาก คนหางานการเปิดเผยข้อมูลบริษัทอย่างละเอียดและการมีระบบบัญชีที่โปร่งใส เป็นการป้องกัน ผู้บริหารบริษัทไม่ให้กระทาการทุจริต เขาถูกกล่าวหาว่าทุจริตต่อหน้าที่ ถ้าประพฤติชั่วทางกาย เรียก กายทุจริต ถ้าประพฤตชิ ัว่ ทางวาจา เรียก วจีทุจริต ถา้ ประพฤติช่ัวทางใจ เรยี ก มโนทุจรติ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4การทุจริตต่อหน้าท่ี หมายถึง การปฏิบัตหิ รือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤตกิ ารณ์ ที่อาจทาให้ผู้อ่ืนเช่ือว่ามีตาแหน่งหน้าที่ท้ังที่ตนมิได้มีตาแหน่งเหนือหน้าที่น้ัน หรือใช้อานาจ ใน ตาแหนง่ หรือหน้าที่ทงั้ นี้ เพือ่ แสวงหาประโยชน์ทม่ี คิ วรได้โดยชอบสาหรบั ตนเองหรือผู้อืน่ เกียรติศักด์ิ จีรเธียรนาถ (2539) กล่าวไว้ว่า การทุจริต หมายถึง การกระทาโดยตนเอง หรือร่วมมือกับบุคคลอ่ืนเพื่อให้รับทรัพย์สิน ผลประโยชน์ หรือบริการอ่ืนใด โดยวิธีการฉ้อโกง ปิดบัง ข้อเทจ็ จรงิ หรอื โดยวิธีการอนั มชิ อบด้วยกฎ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ขององค์กร กล่าวโดยสรุป การทุจริต หมายถึง ประพฤติช่ัว คดโกง ไม่ซื่อตรง ท้ังทางกาย วาจา ใจ ซ่ึง หากพจิ าณาในด้านของการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี การทุจริตต่อหน้าท่ี หมายถึง การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ ท่ีอาจ ทาให้ผูอ้ ื่นเชื่อว่ามีตาแหน่งหน้าที่ทั้งทีต่ นมิได้มีตาแหนง่ เหนอื หน้าที่นั้น หรือใช้อานาจ ในตาแหน่งหรือ หนา้ ทที่ งั้ นี้ เพ่ือแสวงหาประโยชนท์ ่ีมิควรไดโ้ ดยชอบสาหรับตนเองหรอื ผูอ้ นื่

๗ แนวคดิ หลักการและความหมายของความเส่ียง จ าก ก ารศึ ก ษ าค ว าม ห ม าย เกี่ ย ว กั บ ค วาม เสี่ ย งได้ มี ผู้ ให้ ค ว าม ห ม าย ไว้ ห ล า ย มุ ม ม อ ง ซ่งึ พอ สรุปได้ ดังน้ี COSO (The Committee of Sponsoring Organization of the Tread Way Commission Commission, 2004 อา้ งใน อุษณา ภทรั มนตรี, 2552) กล่าววา่ ความเสย่ี ง คอื โอกาสไม่แน่นอนของเหตุการณ์ท่ี อาจเกดิ ขึ้นและมีผลทางดา้ นลบตอ่ การบรรลุวตั ถุประสงค์ จนั ทนา สาขากร และคณะ (2551) กล่าวว่า ความเส่ียง คือ เหตกุ ารณ์ทจ่ี ะมีผลกระทบใน เชิงลบ (Negative Effect) ซ่งึ จะทาให้องค์กรไมบ่ รรลุวตั ถุประสงค์ และสรา้ งความเสยี หายใหก้ ับ องค์กร เจรญิ เจษฎาวลยั ์ (2550) กล่าววา่ ความเส่ียง หมายถงึ โอกาสที่องคก์ ารจะเกดิ การ ดาเนินงานทข่ี าดทนุ หรือไมส่ ามารถดาเนินการให้ประสบความสาเรจ็ ตามแผนงาน หรือเป้าหมาย ทีต่ ั้งไวส้ รปุ ไดว้ ่า ความเส่ยี งเป็นเร่ืองอาจจะเกดิ ขนึ้ และสง่ ผลเสียหายตอ่ หนว่ ยงาน ชัยเสฎฐ์ พรหมศรี (2550) กล่าวว่าความเสี่ยง หมายถึง โอกาสที่บางสิ่งบางอย่างอาจ เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของที่เป็นอันตรายหรือคุกคามท่ีส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจหรือ แผนการต่างๆ ท้ังนี้ความเส่ียงเกิดขึ้นหรือผลลัพธ์ของส่ิงท่ีเกิดข้ึน (ถ้าเกิดข้ึนจริง) ซ่ึงในแต่ละ หน่วยงานในองค์กรท้ังภาครัฐและเอกชนน้ัน อาจมีมุมมองในเร่ืองความเสี่ยงแตกต่างกันหรือตรงข้าม กนั ได้ ดังนั้นในความคิดของผู้จัดทาเห็นว่า ความเส่ียง หมายถึง โอกาสท่ีจะเกิดความผิดพลาด ความเสียหาย การ ร่ัวไหลของงบประมาณ ความสูญเปล่าของทรัพย์สิน หรือเกิดเหตุการณ์ท่ีไม่พึง ประสงค์ในอนาคตที่มีต่อองค์กรท้ังภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมีผลต่อความสาเร็จในการดาเนินงาน ตามวัตถปุ ระสงคห์ รือเป้าหมายขององค์กร ประเภทของความเสี่ยง สานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (2551) กล่าวว่า หากเราเปรียบเทียบการ ขบั เคล่อื นองคก์ รตามยุทธศาสตร์ไปสูว่ ิสัยทัศน์ เหมือนการขับรถไปสู่เปา้ หมาย สงิ่ สาคญั ท่ผี บู้ ริหาร ซ่ึง เป็นผู้นาองค์กรต้องคานึงถึงคือความเสี่ยง หรือปัจจัยของความไม่แน่นอนต่างๆท่ีส่งผลกระทบ ให้ องค์กรไม่สามารถขับเคล่ือนไปสู่เป้าหมาย ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยทั้งภายนอกและภายในองค์กร ดังน้ัน หากเรามีการบริหารความเส่ียงก็จะช่วยทาให้เราม่ันใจได้ว่า โอกาสที่องค์กรจะสามารถดาเนินการไป ถงึ เป้าหมายก็จะมีเพ่ิมมากข้ึน ในการนาแนวคิดการบริหารความเส่ียงไปใช้ในการบริหารองค์กร จะมี ข้ันตอนท่ีสาคัญ คือ การระบุความเส่ียงหรือปัจจัยเส่ียง การวิเคราะห์ความเสี่ยง ว่ามีโอกาสและ ผลกระทบต่อองคก์ รเพียงใด กาหนดมาตรการจัดการความเสี่ยงเพ่ิมเติม ในทางปฏิบัติแต่ละองค์กรก็ มีความเสี่ยงแตกต่างกันไปและมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน ซ่ึงจากการทบทวนวรรณกรรมได้นักวิชาการ และองคก์ รต่างๆไดจ้ ัดประเภทของความเสย่ี งได้ดังน้ี

๘ COSO (The Committee of Sponsoring Organization of the Treadway Commission, 2004 อ้างใน อุษณา ภทัรมนตรี, 2552), นิรภยั จันทร์สวัสด์ิ (2551) และ กระทรวงการคลัง (2548) ได้แบ่งประเภทของความเสี่ยงออกเป็น 4 ประเภทเหมือนกัน คือ 1. ความเสยี่ งด้านกลยทุ ธ์ 2.ความเสยี่ ง ด้านการปฏิบัตกิ าร 3.ความเสี่ยงด้านการรายงาน และ 4.ความเสยี่ งด้านกฏหมายและกฏระเบียบ แต่ กระทรวงการคลงั (2548) มีความเส่ยี งด้านการบริหารความรู้ท่ีเพ่มิ เข้ามา ความเสย่ี งแต่ละประเภทมลี กั ษณะดังนี้ คอื 1. ความเส่ียงด้านกลยุทธ์ เป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวกับกลยุทธ์และรวมถึงความเส่ียงไม่ว่าจะ ด้านใดทีม่ ผี ลกระทบต่อชื่อเสยี งและความม่ันใจของผู้เกี่ยวข้ององคก์ รในระดบั ที่มีนยั สาคญั สูง 2. ความเส่ียงด้านการปฏิบัติการ เป็นความเส่ียงเกี่ยวกับกระบวนการปฏิบัติงานหลัก เกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหาการปฏิบัติงานประจาวัน หรือการดาเนินงานปกติท่ีองค์กรต้องเผชิญ เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ความเสี่ยงทางด้านนี้ เช่น การปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามแผนการ ปฏิบัติงานโดยไม่มีผังการปฏิบัติงานที่ชัดเจน หรือไม่มีการมอบหมายอานาจหน้าที่ความรับผิดชอบ เปน็ ต้น 3. ความเสี่ยงด้านการรายงาน เป็นความเสี่ยงท่ีเก่ียวกับรายงานทั้งทางการเงินและทาง ปฏิบัติงาน 4. ความเสีย่ งด้านกฏหมายและกฏระเบียบ หมายถึง ความเส่ียงที่เก่ียวกับกฎหมาย พันธะ สญั ญาและระเบียบสาคัญ การวิเคราะหค์ วามเส่ยี ง เปน็ การวเิ คราะห์และจัดลาดับความเสยี่ งโดยพจิ าณาจากการประเมินโอกาสทจี่ ะเกดิ ความ เสี่ยง(Likelihood) และความรุนแรงจากผลกระทบจากเหตุการณค์ วามเสีย่ ง (Impact) โดยอาศัย เกณฑ์มาตรฐานท่ีไดก้ าหนดไว้ให้การตัดสนิ ใจจดั การกับความเสีย่ งเปน็ ไปอยา่ งเหมาะสม การประเมินความเสี่ยงเป็นกระบวนการทปี่ ระกอบดว้ ยการวเิ คราะห์การประเมนิ และการ จัดลาดบั ความเสี่ยงท่ีมีผลกระทบตอ่ การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ของกระบวนการทางานของหนว่ ยงานหรอื ขององค์กร เกณฑ์ระดับโอกาสท่ีจะเกิดความเส่ียง (Likelihood) เชงิ คณุ ภาพ ระดับ โอกาสในการเกิด คาอธิบาย 5 สงู มาก มีโอกาสเกิดขึ้นเป็นประจา 4 สูง มโี อกาสเกิดขึ้นบ่อยคร้งั 3 ปานกลาง มโี อกาสเกิดขึ้นบางคร้ัง 2 นอ้ ย มโี อกาสเกิดข้ึนน้อยคร้งั 1 นอ้ ยมาก มีโอกาสเกิดขึ้นยาก

๙ เกณฑร์ ะดับความรุนแรงของผลกระทบ (Impact) เชิงคุณภาพ ท่สี ่งผลกระทบด้านการ ดาเนินงาน ระดับ ความรุนแรง คาอธบิ าย 5 สูงมาก ถกู ลงโทษทางวินยั ร้ายแรง 4 สูง ถกู ลงโทษทางวนิ ยั อย่างไม่รา้ ยแรง 3 ปานกลาง สร้างบรรยากาศในการทางานทีไ่ มเ่ หมาะสม 2 นอ้ ย สร้างความไมส่ ะดวกต่อการปฏิบตั ิงานบ่อยคร้ัง 1 น้อยมาก สร้างความไมส่ ะดวกต่อการปฏิบตั งิ านนาน ๆ ครั้ง ระดับของความเส่ียง (Degree of Risk) แสดงถึง ระดับความสาคัญในการบรหิ ารความเสี่ยง โดยพิจารณา จากผลคูณของระดับโอกาสทจี่ ะเกิดความเสยี่ ง (Likelihood) กับระดับความรนุ แรงของ ผลกระทบ (Impact) ของความเส่ยี งแต่ละสาเหตุ (โอกาส × ผลกระทบ) กาหนดเกณฑ์ไว้ ๔ ระดบั ดังนี้ ลาดับที่ ระดบั ความเสี่ยง ช่วงคะแนน 1 ๑๕ - ๒๕ คะแนน ความเสี่ยงระดับสงู มาก 2 (Extreme Risk : E) 9 - 14 คะแนน ความเสยี่ งระดับสงู 3 4 - 8 คะแนน (High Risk : H) 4 ความเส่ียงระดับปานกลาง 1 - 3 คะแนน (Moderate Risk : M) ความเสี่ยงระดับต่า (Low Risk : L) ในการวิเคราะห์ความเส่ียงจะต้องมีการกาหนดแผนภูมิความเสี่ยง (Risk Profile) ที่ได้จาก ก าร พิจารณาจัดระดับความสาคัญของความเส่ียงจากโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง (Likelihood) และผลกระทบ ที่เกิดขึ้น (Impact) และขอบเขตของระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ (Risk Appetite Boundary) โดยที่

๑๐ ซึ่งจัดแบ่งเปน็ ๔ ระดับ สามารถแสดงเป็น Risk Profile แบง่ พ้นื ที่เป็น ๔ สว่ น (๔ Quadrant) ใช้เกณฑ์ในการจัดแบง่ ดังน้ี ระดับความเสี่ยง คะแนนระดบั ความ มาตรการจัดการ สสี ญั ลักษณ์ เสี่ยง สูงมาก มีมาตรการลด และประเมิน (Extreme) ๑๕-๒๕ คะแนน ซา้ หรอื ถา่ ยโอนความเสย่ี ง เส่ียงสงู (High) มีมาตรการลดความเส่ียง ปานกลาง (Medium) ๙-๑๔ คะแนน ยอมรบั ได้ แตม่ ีมาตรการ ๔–๘ คะแนน ควบคุมความเสี่ยง ตา่ (Low) ระดับทยี่ อมรับได้ ๑–๓ คะแนน ตารางระดับของความเส่ียง (Degree of Risk) โอกาสทจ่ี ะเกดิ ความเสียหาย (Likelihood) แนวคิด หลกั การและความหมายเกยี่ วกบั การบริหารความเสีย่ ง กระทรวงมหาดไทย (2550) การบริหารความเส่ียง หมายถึง กระบวนการที่ใช้การระบุ วิเคราะห์ ประเมิน และจัดระดับความเส่ียงท่ีมีผลกระทบต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของกระบวนการ ทางานของหน่วยงานหรอื องค์กร กิจติรัตน์ ณ ระนอง (2547) ให้ความหมายว่า การบริหารความเส่ียง คือกระบวนการที่ ปฏิบัติโดยคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหารและบุคลากรในองค์กรทุกคนในองค์กรเพ่ือช่วยในการ กาหนดกลยุทธ์และดาเนินงาน โดยกระบวนการบริหารความเสี่ยงได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถ บ่งช้ีเหตุการณ์ท่ีอาจเกิดขึ้นและมีผลกระทบต่อองค์กรและสามารถจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับท่ี องค์กรยอบรับ เพื่อให้ได้รับความมนั่ ใจอย่างสมเหตสุ มผลในการบรรลุวัตถปุ ระสงคท์ ี่องค์กรกาหนดไว้

๑๑ โดยสรุป การบริหารความเส่ียงระดับองค์กร (Enterprise Risk Management) หมายถึง กระบวนการท่ีบุคลากรท่ัวท้ังองค์กรได้มีส่วนร่วมในการคิด วิเคราะห์ และคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ หรือความเสี่ยงท่ีอาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งการระบุแนวทางในการจัดการกับความเส่ียงดังกล่าว ให้อยู่ใน ระดับที่เหมาะสมหรือยอมรับได้ เพ่ือช่วยให้องค์กรบรรลุในวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ตามกรอบ วสิ ัยทศั น์ และพันธกิจขององคก์ ร สานักงานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ไดก้ าหนดแนวทางการบริหารความ เสี่ยงตามเกณฑ์การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) หมวด 2 ส่วนงานราชการ จะต้องมีการวิเคราะห์และจัดทาแผนบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐาน COSO (Committee of Sponsoring Organization of the Tread Way Commission) เพื่ อ เต รี ย ม ก า ร ร อ งรั บ ก า ร เปลี่ยนแปลงท่ีอาจเกิดข้ึนจากการดาเนินงานตาม แผนงาน/โครงการ ซึ่งจะต้องมีการวิเคราะห์ และ บรหิ ารจัดการความเส่ียงตามประเด็นยทุ ธศาสตรใ์ หค้ รบถว้ นทุกประเด็นของส่วนราชการ เพื่อจัดการ กับการเปลี่ยนแปลงที่อาจส่งผลกระทบต่อความสาเร็จหรือการบรรลุเป้าหมายขององค์กร ที่สาคัญ ตอ้ งครอบคลมุ ความเส่ยี งตามหลักธรรมาภิบาล ส่วนราชการต้องมีขั้นตอนการดาเนินการ หลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์ ประเมิน และจัดการ ความเส่ียงอย่างเหมาะสมตามกระบวนการบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐาน COSO (Committee of Sponsoring Organization of the Tread Way Commission) ประกอบด้วยองค์ประกอบ 8 ประการ ซ่ึงครอบคลุมแนวทางการกาหนดนโยบายการบริหารงาน การดาเนินงาน และการบริหาร ความเส่ียง ดงั นี้ 1. สภาพแวดล้อมภายในองค์กร (Internal Environment) สภาพแวดล้อมขององค์กรเป็น องค์ประกอบที่สาคัญ ในการกาหนดกรอบบริหารความเส่ียง ประกอบด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น วัฒนธรรมองค์กร นโยบายของผู้บริหาร แนวทางการปฏิบัติงานบุคลากร กระบวนการทางาน ระบบ สารสนเทศ ระเบียบ เป็นต้น สภาพแวดล้อมภายในองค์กรประกอบเป็นพื้นฐานสาคัญในการกาหนด ทิศทางของกรอบการบรหิ ารความเสยี่ งขององค์กร 2. การกาหนดวตั ถปุ ระสงค์ (Objective Setting) องค์กรตอ้ งพิจารณากาหนวัตถปุ ระสงค์ ในการบริหารความเส่ยี ง ให้มีความสอดคล้องกับกลยทุ ธแ์ ละความเส่ียงท่ีองค์กรยอมรับได้ เพ่ือ วางเป้าหมายในการบริหารความเส่ียงขององคก์ รได้อยา่ งชัดเจน และเหมาะสม 3. การบ่งช้ีเหตกุ ารณ์ (Event Identification) เป็นการรวบรวมเหตุการณ์ท่ีอาจเกดิ ขึ้นกับ หน่วยงาน ทั้งในส่วนของปัจจัยเส่ียงที่เกิดจากภายในและภายนอกองค์กร เช่น นโยบายบริหารงาน บุคลากร การปฏิบัติงาน การเงิน ระบบสารสนเทศ ระเบียบ กฎหมาย ระบบบัญชี ภาษีอากร ท้ังนี้ เพ่ือทาความเข้าใจต่อเหตุการณ์และสถานการณ์นน้ั เพ่อื ให้ผู้บรหิ ารสามารถพจิ ารณากาหนดแนวทาง และนโยบายในการจดั การกบั ความเส่ียงทอ่ี าจจะเกิดขน้ึ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี 4. การประเมินความเสย่ี ง (Risk Assessment) การประเมนิ ความเส่ยี งเป็นการจาแนกและ พิจารณาจัดลาดับความสาคัญของความเส่ียงที่มีอยู่ โดยการประเมินจากโอกาสที่จะเกิด (Likelihood) และผลกระทบ (Impact) โดยสามารถประเมินความเส่ียงได้ท้ังจากปัจจัยความเสี่ยง ภายนอกและปจั จัยความเส่ยี งภายในองค์กร

๑๒ 5. การตอบสนองความเส่ียง (Risk Response)เป็นการดาเนินการหลังจากที่องค์กร สามารถบ่งชี้ความเส่ียงขององค์กร และประเมินความสาคัญของความเสี่ยงแล้ว โดยจะต้องนาความ เส่ียงไปดาเนินการตอบสนองด้วยวิธีการท่ีเหมาะสม เพ่ือลดความสูญเสียหรือโอกาสที่จะเกิด ผลกระทบให้อยู่ในระดับท่ีองค์กรยอมรับได้ และต้นทุนที่เกิดขึ้นเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ที่จะ ได้รับเพื่อให้การบริหารความเส่ียงมีประสิทธิผล ผู้บริหารอาจต้องเลือกวิธกี ารจัดการความเสี่ยงอย่าง ใดอย่างหน่ึงหรือหลายวธิ ีรวมกันเพ่ือลดระดับโอกาส ที่อาจเกดิ ขึ้นและผลกระทบของเหตกุ ารณ์ในชว่ ง ท่ีองคก์ รสามารถยอมรับได้ (Risk Tolerance) หลกั การตอบสนองความเสี่ยง คอื 5.1 Avoid (การหลกี เล่ยี ง) ลดโอกาสทจ่ี ะเกิดใหเ้ หลือศนู ย์ 5.2 Take (เฝ้าระวงั ) ยอมรบั ความเสย่ี งนั้น 5.3 Treat (ควบคมุ ) ลดโอกาสทจี่ ะเกิดให้นอ้ ยลง/ ลดปริมาณความเสียหายให้น้อยลง 5.4 Share ร่วมรับความเสีย่ งกับองค์กรอ่นื หรอื คนอืน่ 5.5 Transfer โอนความเสย่ี งไปให้องค์กรอืน่ หรอื คนอื่น 6. กิจกรรมการควบคุม (Control Activities) การกาหนดกิจกรรมและการปฏิบตั ิตา่ ง ๆ ท่ี กระทาเพ่ือลดความเส่ียง และทาให้การดาเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร เช่น การกาหนดกระบวนการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความเส่ียงให้กับบุคลากรภายใน องค์กร เพ่ือเป็นการสร้างความม่ันใจวา่ จะสามารถจัดการกับความเส่ียงน้นั ได้อย่างถูกต้องและเป็นไป ตามเป้าหมายที่กาหนด 7. สารสนเทศและการส่ือสาร (Information and Communication) องค์กรจะต้องมี ระบบสารสนเทศและการติดต่อส่ือสารท่ีมปี ระสิทธิภาพ เพราะเปน็ พนื้ ฐานสาคญั ที่จะนาไปพิจารณา ดาเนินการบริหารความเสี่ยงให้เป็นไปตามกรอบ และขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิท่ีองค์กรกาหนด 8. การติดตามประเมินผล (Monitoring) องค์กรจะต้องมีการติดตามผล เพ่ือให้ทราบถึง ผลการดาเนินการว่ามีความเหมาะสมและสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในทุกระดับขององค์กรความเสี่ยง ท้ังหมดที่มีผลกระทบสาคัญต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรได้รับการรายงานต่อผู้บริหารท่ี รับผิดชอบ ซ่ึงการติดตามการบริหารความเส่ียงสามารถทาได้ 2 ลกั ษณะ คือการติดตามอย่างต่อเน่อื ง หรือการติดตามเป็นรายคร้ัง การติดตามอย่างต่อเน่ืองเป็นการดาเนินการอย่างสม่าเสมอเพ่ือให้ สามารถมารถตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงอย่างทันท่วงทีและถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงาน การติดตามเปน็ รายครั้ง เป็นการดาเนนิ การภายหลังจากเกิดเหตกุ ารณ์ ดั้งน้ัน ปญั หาที่เกิดขึ้นจะไดร้ ับ การแก้ไขอย่างรวดเร็วหากองค์กรมี การติดตามอย่างต่อเน่ือง นอกจากน้ันองค์กรควรมีการจัดทราย งานความเส่ยี งเพือ่ ให้การตดิ ตามการบรหิ ารความเส่ียงเป็นไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพและประสทิ ธิผล

๑๓ หลักการและองค์ประกอบของการบริหารความเสย่ี ง หลักการสาคัญและองค์ประกอบของการบริหารความเส่ียงตามแนวคิดของ COSO ฉบับ ใหม่ COSO ERM 2017 มีดงั น้ี 1. จั ด ตั้ งค ณ ะก รรม ก ารดู แ ล ค วาม เส่ีย ง (Exercises Board Risk Oversight) คณะกรรมการบริษัทมีหน้าท่ีกากับดูแลการดาเนินงานตามกลยุทธ์ต่าง ๆ รวมถึงกากับ ดูแลกิจการ เช่น คณะกรรมการควรมีการกาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการบริหารความเส่ียง มีความรู้และ ความเชี่ยวชาญในการกากับการบริหารความเสี่ยง มีความเป็นอิสระ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งทาง ผลประโยชนท์ ่อี าจเกิดข้ึน 2. จัดตั้งโครงสร้างการดาเนินงาน (Establishes Operating Structures) องค์กรควร จดั ต้ังโครงสรา้ งการดาเนินงานท่สี อดคล้องกับกลยุทธแ์ ละวัตถปุ ระสงค์ทางธรุ กิจ เช่น มีการ กาหนดโครงสร้างการดาเนนิ งานและสายการบังคับบญั ชาท่ีเหมาะสม มีโครงสร้างใน การบรหิ ารความ เสี่ยง มกี ารกาหนดอานาจ หนา้ ท่ีและความรับผดิ ชอบใหส้ อดคลอ้ งกบั กลุ ยุทธ์ 3. ระบุวัฒนธรรมองค์กรที่ต้องการ (Defines Desired Culture) องค์กรควรระบุ พฤติกรรมที่พึงประสงค์ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมองค์กรท่ีต้องการ คณะกรรมการบริหารและฝ่ายบริหาร เป็นผู้กาหนดวัฒนธรรมองค์กรท้ังสาหรับองค์กรในภาพรวมและสาหรับบุคลากรภายใต้วัฒนธรรม องค์กรท่ีให้ความสาคัญกับความเส่ียงวัฒนธรรมองค์กรเกิดข้ึนจากหลายปัจจัย ปัจจัยภายในที่สาคัญ ได้แก่ ระดับการใช้วิจารณญาณ ความเป็นอิสระในการตัดสินใจของ พนักงาน การส่ือสารระหว่าง พนักงานและผู้จัดการ มาตรฐานและกฎเกณฑ์ต่างๆ แผนผังทางกายภาพของสถานท่ีปฏิบัติงานและ ระบบค่าตอบแทน ปัจจยั ภายนอก ได้แก่ ข้อกาหนดด้านกฎหมาย ความคาดหวังของลูกค้า นักลงทุน และองค์ประกอบอืน่ ๆ 4. แสดงความมุ่ งม่ันในค่านิยมหลัก (Demonstrates Commitment to Care Values) องค์กรควรแสดงให้เห็นถึงความมุ่งม่ันที่จะปฏิบัติตามค่านิยมหลักขององค์กร เช่น ยึดถือ การบริหารความเสี่ยงเป็นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรมองค์กร การปฏิบัติตามภาระรับผิดชอบอย่าง เครง่ ครัด การสร้างความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง การกาหนดใหม้ กี ารสอ่ื สารที่เหมาะสม 5. จูงใจ พัฒนา และรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ (Attracts, Develops, and Retains Capable Individuals) องคก์ รควรมุ่งมน่ั ในการสนับสนนุ การสร้างทรัพยากรบุคคลควบคู่ ไปกบั กลยุทธ์และวัตถุประสงค์ทางธรุ กจิ เช่น ฝึกอบรมบุคลากรในดา้ นการบริหารความเสี่ยง ส่งเสริม ความสามารถของพนักงาน สร้างแรงจูงใจและผลตอบแทนอ่ืนๆ อย่างเหมาะสมสาหรับตาแหน่งงาน ในทุกระดบั 6. วิเคราะห์ธุรกิจ (Analyzes Business Context) องค์กรควรพิจารณาถึงผลกระทบ จากการบริหารทาธุรกิจท่ีอาจเกิดข้ึนและส่งผลต่อระดับความเส่ียงในภาพรวมขององค์กร เช่น การ เข้าใจบริบททางธุรกจิ การคานึงถงึ สภาพแวดล้อมภายนอกและผมู้ ีส่วนได้สว่ นเสยี 7. ระบุความเสี่ยงท่ียอมรับได้ (Defines Risk Appetite) องค์กรควรระบุความเสี่ยงที่ ยอมรับได้ เพอื่ สร้าง รักษาและสง่ เสริมความตระหนักถึง ค่านิยม เช่น มีการ กาหนดระดับความเส่ียง ที่ยอมรบั ไดแ้ ละส่ือสารความเสี่ยงท่ียอมรับได้ให้ชดั เจน ความเสีย่ งท่ยี อมรับได้ไมม่ ีการกาหนดรปู แบบ

๑๔ ท่ีตายตัวหรือเป็นมาตรฐานที่จะใช้ได้กับทุกองค์กร ผู้บริหารเป็นผู้เลือกความเส่ียงที่ยอมรับได้ภายใต้ บรบิ ททางธรุ กิจทตี่ า่ งกันในแตล่ ะองค์กร 8. ประเมินกลยุทธ์ (Evaluates Alternative Strategies) องค์กรควรประเมินเพื่อ ค้นหากลยุทธ์ทางเลือกและผลกระทบท่ีอาจเกิดข้ึนต่อโปรไฟล์ ความเส่ียงขององค์กร เช่น การ วิเคราะห์ SWOT การประเมินมูลค่า การคาดการณ์รายได้ การวิเคราะห์คู่แข่ง และการวิเคราะห์ สถานการณ์กลยุทธ์ต้องสนับสนุนพันธกิจและวิสัยทัศน์รวมถึงสอดคล้องกับค่านิยมหลักและเสี่ยงท่ี ยอมรบั ได้ 9. กาหนดวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ (Formulates Business Objectives) ในการ กาหนดวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ องค์กรควรพิจารณาความเสี่ยงในระดับต่างๆ ซ่ึง สอดคล้องและ สนับสนุนกลยุทธ์ควบคู่ไปด้วย เช่น การกาหนดค่าความเบ่ียงเบนของความเสี่ยงจากผล การ ดาเนินงานซง่ึ ยังคงอยูใ่ นช่วงความสย่ี งทยี่ อมรบั ได้ 10. ระบุความเสี่ยง (Identifies Risk) องค์กรควรระบุความเสี่ยงที่ส่งผลต่อกลยุทธ์และ วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เช่น ความเสี่ยงด้านลูกค้า ความเส่ียงด้านการปฏิบัติงาน ความเส่ียงด้าน การเงิน และความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตาม กฎระเบียบ ความเส่ียงทั้งหมดจะเก็บไว้ในโปรไฟล์ความ เสี่ยงเพ่อื นาไปจดั การความเสีย่ งเหลา่ นต้ี ่อไป 11. ประเมินความรุนแรงของความเสี่ยง (Assesses Severity of Risk) องค์กรควร ประเมินความรุนแรงของความเส่ียงโดยประเมินว่าแต่ละปัจจัยน้ันมีโอกาสท่ีจะเกิดมากน้อยเพียงใด และหากเกิดขนึ้ แล้วจะสง่ ผลกระทบต่อองค์กรรุนแรงเพียงใด 12. จัดลาดับความสาคัญของความเส่ียง (Prioritizes Risks) องค์กรควรคานวณระดับ ความเส่ียง (Risk Exposure) จัดลาดับความสาคัญของความเสี่ยง เพ่ือเป็นพ้ืนฐานในการพิจารณา คัดเลือกวิธีตอบสนองต่อความเส่ียงต่างๆ การคานวณระดับความ เสี่ยงเท่ากับผลคูณของคะแนน ระหว่างโอกาสท่ีจะเกิดกับความเสียหายเพื่อจัดลาดบั ความสาคญั และใช้ ในการตัดสินใจว่าความเสีย่ ง ใดควรเรง่ จัดการก่อน 13. ดาเนินการตอบสนองต่อความเสี่ยง (Implements Risk Responses) องค์กรควร ประเมินความรุนแรงของความเส่ียง โดยประเมินว่าแต่ละปัจจัยเสี่ยงน้ันมี โอกาสท่ีจะเกิดมากน้อย เพียงใดและหากเกิดข้นึ แลว้ จะส่งผลกระทบต่อองค์กรรนุ แรงเพียงใด 14. พัฒนากรอบความเสี่ยงในภาพรวม (Develops Portfolio View) องค์กรควร พัฒนาและประเมินความเส่ียงในภาพรวมของทั้งองคก์ ร เครื่องมอื ท่นี ิยมใช้ แสดงความเสี่ยงมชี ื่อเรียก หลากหลายช่ือไดแ้ ก่ Risk Map หรอื Risk Matrix 15. ประเมินการเปล่ียนแปลงที่สาคัญ (Assesses Substantial Change) องค์กรควร ระบุและประเมินการเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกกิจการที่อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ และวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่สาคัญ เช่น ผู้บริหารระดับสูงลาออกจากตาแหน่ง การควบรวมกิจการ การเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ ของเทคโนโลยีหรือกฎ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ตา่ งๆ 16. ทบทวนความเสี่ยงและผลการดาเนินงาน (Reviews Risk and Performance) องค์กรควรทบทวนผลการดาเนนิ งานขององค์กร รวมถึงพิจารณาทบทวนความเส่ยี ง ต่างๆ ที่เก่ียวขอ้ ง เชน่ องค์กรมีผลการดาเนินงานตามเป้าหมายแลว้ หรอื ไม่ องค์กรประเมินความเสี่ยงได้ แม่นยาหรือไม่

๑๕ องค์กรพิจารณาระดับความเส่ยี งได้เหมาะสมกบั เป้าหมายหรือไม่ หรอื มคี วามเสย่ี งอ่ืนใดทก่ี าลังเกิดข้ึน และอาจสง่ ผลกระทบตอ่ องคก์ ร 17. มุ่งม่ันปรับปรุงการบริหารความเส่ียงองค์กร (Pursues Improvement in Enterprise Risk Management) องค์กรควรปรับปรุงการบริหารความเส่ียงองค์กรอยู่สม่าเสมอ โดยเฉพาะช่วงเวลาการเปล่ียนแปลงที่สาคัญ เช่น การปรับโครงสร้างองค์กรหลังการประเมินผลการ ดาเนินงานหรือการเปลี่ยนแปลงจากสภาพแวดล้อมภายนอกต่างๆ ท่ีส่งผลกระทบต่อระบบการ บรหิ ารความเส่ียง 18. ยกระดบั ระบบสารสนเทศ (Leverages Information Systems) องคก์ รควรจัดให้ มีสารสนเทศอยา่ งเพียงพอ เหมาะสมและทนั ต่อเวลาองค์กรอาจใชก้ ระบวนการวิเคราะห์ กลุ่มข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) เพื่อค้นหารูปแบบความสัมพันธ์ของ สิ่งเชื่อมโยงข้อมูล เข้าไวด้ ้วยกนั นาไปส่กู ารระบแุ ละจดั การความเสย่ี งได้ดีขึ้น 19. ส่ือสารข้อมูลความเส่ียง (Communicates Risk Information) องค์กรควร สื่อสารข้อมูลการบริหารความเสี่ยงองค์กรผ่านชอ่ งทางการตดิ ต่อต่าง ๆ ขอ้ มูลการสื่อสารท้ังระดับบน ลงล่าง (Top-down Approach) และระดับล่างข้ึนบน (Bottom-up Approach) การสื่อสารข้อมูล ความเสย่ี ง ควรมใี หเ้ พียงพอท้ังภายในและภายนอกองค์กร 20. รายงานผลความเส่ยี งวัฒนธรรมและผลการดาเนนิ งาน (Reports on Risk, Culture,and Performance) องค์กรควรรายงานความเสี่ยงวฒั นธรรมองค์กร และผลการ ดาเนินงานในทุกระดับใหค้ รอบคลุมทวั่ ท้งั องค์กรแมจ้ ะมีการมอบหมายหน้าที่ด้านการรายงานผลให้ หน่วยงานหรือบุคคลใดแล้วก็ตาม ผู้บริหารก็ยังต้องมีหน้าท่ีกากับดูแลดว้ ย ประโยชน์ของการบรหิ ารความเสีย่ ง 1. ความสอดคลอ้ งกันระหว่างความเสีย่ งทีย่ อมรับได้ (Risk Appetite) และกลยุทธ์ ของ องค์กร ซ่งึ ความเสยี่ งทยี่ อมรับได้คือ ความไม่นอนโดยรวมท่ีองคก์ รยอมรับไดโ้ ดยยังให้ธรุ กจิ สามารถ บรรลุเป้าหมาย ความเส่ียงที่ยอมรบั ไดเ้ ปน็ ปัจจัยทสี่ าคัญในการประเมนิ ทางเลือกในการ ดาเนินกลยทุ ธ์ การบรหิ ารความเสีย่ งช่วยให้ผูบ้ ริหารพิจารณาความเส่ยี งที่ยอมรบั ได้ท่ีสอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กร 2. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการเติบโต ความเสี่ยงและผลตอบแทนของธุรกิจ การ บรหิ ารความ เสี่ยงสนับสนนุ ให้องค์กรสามารถบง่ ช้ีเหตกุ ารณ์ ประเมนิ ความเสย่ี งและจัดการความ เสย่ี งให้สอดคล้อง กับวตั ถปุ ระสงค์ดา้ นการเติบโตและผลตอบแทนของธุรกจิ 3. การจัดการความเส่ยี ง เนื่องจากการบริหารความเส่ียงครอบคลุมเหตกุ ารณ์ท้งั หมดท่อี าจ เกิดขึ้น โดยไม่จากัดเพียงแต่สิ่งท่ีเป็นความเสียหาย จึงช่วยให้ผู้บริหารสามารถบ่งชี้และใช้ประโยชน์ จากเหตุการณใ์ นเชิงบวกไดอ้ ย่างรวดเรว็ และมีประสิทธภิ าพ 4. การลดความสูญเสียและสิ่งที่ไม่คาดหวังจากการดาเนินงาน การบริหารความเส่ียงช่วย ให้องค์การตระหนักถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึน้ ในทางเสียหายประเมินความเสี่ยงและกาหนดวิธีจัดการ ดงั นน้ั จงึ ลดสงิ่ ทีไ่ ม่คาดหวังและการสูญเสยี ตอ่ ธุรกิจ

๑๖ 5. การบริหารความเส่ียงทั่วทั้งองค์กร องค์กรทุกแห่งประสบกับความเส่ียงมากมายซึ่งมีผล ต่อหน่วยงานและการปฏิบัติงานต่างๆ การบริหารความเส่ียงช่วยให้เห็นว่าความเสี่ยงมีความเช่ือมโยง กัน ดงั น้ันการจดั การความเส่ยี งท้งั หมดจึงควรมองความเสยี่ งในภาพรวมขององค์กร 6. การสร้างโอกาสการพิจารณาเหตุการณ์ทั้งหมดที่อาจเกิดข้นึ ต่อองค์กรโดยไม่จากัดเฉพาะ ความเส่ียงที่เป็นความเสียหาย ช่วยให้ผู้บริหารบ่งช้ีใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ในเชิงบวกได้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น

สว่ นท่ี 3 ข้ันตอนและวิธีการดาเนินงาน ขนั้ ตอนและวิธีการดาเนนิ งาน ในการดาเนินงานเกี่ยวกับการประเมินความเส่ียงการทุจริตประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มกี ารดาเนินงานดงั น้ี 1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงานของ ห น่ ว ย งาน ภ าค รัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ตาม แบ บ ท่ี ส านั กงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกาหนด ให้ 2. ศกึ ษาเอกสารทเี่ กีย่ วข้องกบั การประเมนิ ความเสี่ยงการทุจริต 3. เสนอผู้บริหารแต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินงานเก่ียวกับการวิเคราะห์ความเส่ียงการทุจริต ประจาปี 4. ดาเนินการจัดประชุมวิเคราะะห์ สังเคราะห์ ปัจจัยความเส่ียงที่อาจเกิดข้ึนภายใน หน่วยงาน 5. ระบปุ ระเดน็ ความเสยี่ ง ปจั จัย สาเหตคุ วามเส่ยี ง ปัญหาภายในและประเด็นปัญหาต่าง ๆ 6. วิเคราะห์ประเภทผลกระทบที่ไดจ้ ากการบ่งชี้พร้อมประเมินระดบั ความเส่ียงของผลกระทบ น้ัน ๆ โดยการพิจารณาเกณฑ์การให้คะแนนโอกาส ความถ่ีของการเกิดผลกระทบ และให้คะแนนความ รุนแรงของ ผลกระทบนั้น ๆ 7. กาหนดมาตรการจัดการความเส่ียง ตามระดับที่ได้จากการประเมินสาหรับผลกกระทบ นั้นๆ และลงรายละเอียดมาตรการจดั การ 8. กาหนดแผนการจัดการความเส่ียง กิจกรรมในการดาเนินงานเพ่ือบริหารจัดการความเส่ียง ในหน่วยงาน 8. สรุปผลการจัดการความเสีย่ งของแตล่ ะสว่ นงานเพ่ือเสนอผู้บรหิ ารอยา่ งต่อเน่ือง หลกั เกณฑ์และวธิ ีการประเมินความเสี่ยง สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาเชียงรายเขต 3 ใช้หลักเกณฑก์ ารประเมนิ ความ เสยี่ งตามมาตรฐาน COSO (The Committee of Sponsoring Organizations of the Tread way Commission) เปน็ กรอบการวิเคราะหค์ วามเส่ยี ง ประกอบด้วยการวิเคราะหก์ ารประเมินและการ จดั ลาดบั ความเสยี่ งที่มผี ลกระทบตอ่ การบรรลวุ ัตถุประสงค์ของกระบวนการทางานของหน่วยงานหรอื ขององค์กร ดงั น้ี

๑๗ เกณฑร์ ะดับโอกาสท่ีจะเกิดความเสี่ยง (Likelihood) เชิงคุณภาพ ระดับ โอกาสในการเกิด คาอธิบาย 5 สงู มาก มโี อกาสเกิดข้ึนเป็นประจา 4 สงู มโี อกาสเกิดข้ึนบ่อยครงั้ 3 ปานกลาง มีโอกาสเกิดข้ึนบางครง้ั 2 น้อย มีโอกาสเกิดข้ึนน้อยครั้ง 1 น้อยมาก มโี อกาสเกิดขึน้ ยาก เกณฑ์ระดับความรนุ แรงของผลกระทบ (Impact) เชงิ คุณภาพ ที่สง่ ผลกระทบด้านการ ดาเนนิ งาน ระดบั ความรุนแรง คาอธิบาย 5 สงู มาก ถกู ลงโทษทางวินัยร้ายแรง 4 สงู ถกู ลงโทษทางวินัยอย่างไม่รา้ ยแรง 3 ปานกลาง สร้างบรรยากาศในการทางานที่ไมเ่ หมาะสม 2 นอ้ ย สร้างความไมส่ ะดวกต่อการปฏบิ ัติงานบ่อยคร้ัง 1 นอ้ ยมาก สร้างความไมส่ ะดวกต่อการปฏบิ ตั ิงานนาน ๆ ครง้ั ระดับของความเสีย่ ง (Degree of Risk) แสดงถึง ระดับความสาคัญในการบริหารความเสี่ยง โดยพิจารณา จากผลคูณของระดบั โอกาสทจ่ี ะเกิดความเสยี่ ง (Likelihood) กับระดับความรนุ แรงของ ผลกระทบ (Impact) ของความเสยี่ งแต่ละสาเหตุ (โอกาส × ผลกระทบ) กาหนดเกณฑไ์ ว้ ๔ ระดบั ดังน้ี ลาดับท่ี ระดบั ความเส่ียง ชว่ งคะแนน 1 ๑๕ - ๒๕ คะแนน ความเสีย่ งระดับสงู มาก 2 (Extreme Risk : E) 9 - 14 คะแนน ความเส่ยี งระดับสงู 3 4 - 8 คะแนน (High Risk : H) 4 ความเสี่ยงระดับปานกลาง 1 - 3 คะแนน (Moderate Risk : M) ความเสยี่ งระดับตา่ (Low Risk : L)

๑๘ ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงจะต้องมีการกาหนดแผนภูมิความเส่ียง (Risk Profile) ท่ีได้จาก การ พิจารณาจัดระดับความสาคัญของความเส่ียงจากโอกาสท่ีจะเกิดความเสี่ยง (Likelihood) และ ผลกระทบ ท่ีเกิดขึ้น (Impact) และขอบเขตของระดับความเส่ียงที่สามารถยอมรับได้ (Risk Appetite Boundary) โดยที่ ซึง่ จดั แบง่ เปน็ ๔ ระดับ สามารถแสดงเป็น Risk Profile แบ่งพนื้ ท่ีเป็น ๔ ส่วน (๔ Quadrant) ใช้เกณฑ์ในการจัดแบ่ง ดังน้ี ระดับความเส่ียง คะแนนระดบั ความ มาตรการจัดการ สสี ัญลักษณ์ เส่ยี ง สูงมาก มีมาตรการลด และประเมิน (Extreme) ๑๕-๒๕ คะแนน ซา้ หรือถา่ ยโอนความเสีย่ ง เสยี่ งสูง (High) มมี าตรการลดความเสยี่ ง ปานกลาง (Medium) ๙-๑๔ คะแนน ยอมรับได้ แต่มีมาตรการ ๔–๘ คะแนน ควบคมุ ความเส่ียง ตา่ (Low) ระดับทยี่ อมรับได้ ๑–๓ คะแนน ตารางระดบั ของความเสยี่ ง (Degree of Risk) โอกาสทจี่ ะเกิดความเสยี หาย (Likelihood)

ส่วนที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ความเสี่ยงการทุจริต จากการประชุมคณะกรรมการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงการทจุ ริตประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เม่ือวันที่ 3 มีนาคม 2564 ณ ห้องประชุม VDO Conference สานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 3 สามารถวิเคราะห์ เหตกุ ารณ์ที่อาจก่อให้เกดิ ความเสี่ยงต่อการ ทจุ ริตที่จะเกดิ ขึ้นได้ดงั นี้ 1. เหตุการณ์หรือโอกาสของการเกิดความเส่ียงด้านการทุจริตและประพฤติชอบ และ ผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม (Risk Assessment for Conflict of interest) สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาเชยี งรายเขต 3 ดงั น้ี 1.1 การใช้ไฟฟา้ ของทางราชการเพ่ือประโยชน์สว่ นตน 1.2 การใช้เวลา/เบยี ดบังเวลาราชการเพ่ือประโยชนส์ ่วนตน 1.3 การใช้รถยนตส์ ว่ นราชการเพ่อื ประโยชน์สว่ นตน 1.4 การรบั ของขวัญท่เี ป็นการให้โดยธรรมจรรยา 1.5 การเพกิ เฉยตอ่ ผลประโยชน์ส่วนรวม 2. ผลกระทบ/ความเสยี หายท่เี กดิ ขึน้ หากไม่มกี ารป้องกันทเ่ี หมาะสม 2.1 สญู เสยี งบประมาณของราชการ 2.2 เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าท่ีมีโอกาสกระทาผิดจนเป็นนิสัยอันจะนาสู่วัฒนธรรมการ ทจุ รติ โดยงา่ ย 2.3 เสียช่อื เสียงและลดความนา่ เชอ่ื ขององคก์ ร 2.4 การรับของขวัญที่เป็นการให้โดยธรรมจรรยาอาจจะนาไปสู่การให้ของกานัลท่ีมีค่า สูงและผลประโยชน์อนื่ ๆตามมา 2.5 ประสิทธิภาพในการขับเคล่ือน นโยบาย การปฏบิ ตั งิ าน การใหบ้ ริการ ลดลง 3. ผลการวิเคราะห์ความเส่ียงและการจดั ลาดับความเสี่ยงของสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งรายเขต 3 เม่ือพิจารณาโอกาส/ความถ่ีที่จะเกิดเหตุการณ์ (Likelihood) และความรุนแรงของ ผลกระทบ (Impact) ของแต่ละปัจจัยเสี่ยงแล้ว จึงนาผลท่ีได้มาพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างโอกาส ท่ีจะเกิดความเส่ียง และผลกระทบของความเส่ียงต่อกิจกรรม หรือภารกิจของหน่วยงานว่าก่อให้เกิด ระดับของความเสยี่ งในระดับใดในตารางความเสีย่ ง ซึ่งจะทาให้ทราบว่ามีความเสีย่ งใดเป็นความเสี่ยง สูงสดุ ท่ีจะต้องบริหารจดั การกอ่ น

๒๐ ลาดับ ปัจจัยความเสี่ยงในการเกดิ ทุจริต โอกาส ผล ระดับ ลาดบั กระทบ ความเสย่ี ง ความเสย่ี ง 1 การใช้ไฟฟ้าของทางราชการเพื่อประโยชน์สว่ นตน 2 การรับของขวัญทเี่ ปน็ การใหโ้ ดยธรรมจรรยา 5 3 15 (1) 3 การใชเ้ วลา/เบยี ดบงั เวลาราชการเพ่ือประโยชน์สว่ นตน 4 การเพิกเฉยต่อผลประโยชนส์ ว่ นรวม 4 3 12 (2) 5 การใช้รถยนตส์ ว่ นราชการเพ่ือประโยชน์ส่วนตน 33 9 (3) 22 4 (4) 12 2 (5) แผนภมู ิความเสย่ี ง (Risk Map) ความรนุ แรง 5 ของผลกระทบ 4 (impact) 3 (3) (2) (1) 2 (5) (4) 1 12 3 4 5 โอกาสทจ่ี ะไดร้ ับความเสยี หาย (Likelihood)

๒๑ จากแผนภูมิความเส่ียง (Risk Map) สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ได้ประเมินวิเคราะห์ความเส่ียงการทุจริต ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยได้จัดลาดับ ความสาคัญ ท่ีอาจก่อให้เกิดการทุจริตระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม จานวน 5 ข้อ ดังนี้ ผลการวเิ คราะหค์ วามเส่ียงด้านผลประโยชน์ส่วนตนกบั จัดลาดบั ความสาคัญของความ ที่ ผลประโยชน์ส่วนรวม เส่ยี ง 1 การใชไ้ ฟฟ้าของทางราชการเพ่ือประโยชน์ส่วนตน ลาดับ 1 (สูงมาก = 15 คะแนน) 2 การรบั ของขวญั ทีเ่ ป็นการใหโ้ ดยธรรมจรรยา ลาดับ 2 (สูง = 12 คะแนน) 3 การใช้เวลา/เบียดบงั เวลาราชการเพื่อประโยชนส์ ่วนตน ลาดบั 3 (สูง = 9 คะแนน) 4 การเพิกเฉยต่อผลประโยชนส์ ่วนรวม ลาดับ 4 (ปานกลาง = 6 คะแนน) 5 การใช้รถยนตส์ ว่ นราชการเพ่ือประโยชนส์ ว่ นตน ลาดบั 2 (ตา่ = 2 คะแนน) จากตารางการประเมินวิเคราะห์ความเสี่ยง สามารถจาแนกระดับความเส่ียงออกเป็น 3 ระดับ คือ สูงมาก สูง ปานกลาง ต่า ซ่ึงสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ได้ดาเนินการสรุปข้อมูลการประเมินวเิ คราะห์ความเส่ียงที่อาจก่อให้เกิดการทุจรติ หรือขัดกันระหว่าง ผลประโยชนส์ ่วนตนกบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวมจากการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ประจาปีงบประมาณ 2564 ดงั น้ี ระดบั ความเส่ียง มาตรการกาหนด ปัจจยั ความเส่ียง เสี่ยงสงู มาก (Extreme) - การใชไ้ ฟฟ้าของทาง จาเปน็ ต้องเร่งจัดการความ ราชการเพื่อประโยชนส์ ว่ น เสีย่ งสูง (High) เส่ียง มมี าตรการลด และ ตน ประเมนิ ซ้า หรือถ่ายโอน ปานกลาง (Medium) ความเส่ยี ง การรับของขวัญที่เปน็ การให้ ตา่ (Low) โดยธรรมจรรยา จาเป็นต้องเรง่ จดั การความ เสีย่ ง และมีมาตรการลด - การเพิกเฉยตอ่ ผลประโยชน์ ความเส่ยี ง เพื่อให้อยใู่ น ส่วนรวม ระดับท่ียอมรบั ได้ - การใช้รถยนตส์ ว่ นราชการ เพอื่ ประโยชน์ส่วนตน ยอมรับความเส่ยี ง แต่มี มาตรการควบคมุ ความเสีย่ ง ยอมรับความเส่ยี ง แตม่ ี มาตรการควบคมุ ความเส่ียง

สว่ นท่ี 5 แนวทางในการดาเนนิ การเพอ่ื บรหิ ารจดั การความเส่ยี งการทจุ รติ สำนกั งำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำเชยี งรำยเขต 3 ไดด้ ำเนนิ กำรวำงแผนเพ่ือจะ บริหำรจัดกำรควำมเสีย่ งเพื่อปอ้ งกันกำรทุจรติ ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 ทพี่ บจำนวน 5 ประเดน็ ได้แก่ 1. กำรใช้ไฟฟ้ำของทำงรำชกำรเพื่อประโยชนส์ ว่ นตน 2. กำรรบั ของขวัญท่ีเปน็ กำรให้โดยธรรมจรรยำ 3. กำรใช้เวลำ/เบียดบงั เวลำรำชกำรเพอ่ื ประโยชน์ส่วนตน 4. กำรเพิกเฉยตอ่ ผลประโยชน์สว่ นรวม 5. กำรใช้รถยนต์สว่ นรำชกำรเพ่อื ประโยชน์สว่ นตน เม่อื วิเครำะห์ประเดน็ ควำมเสี่ยงต่อกำรทจุ ริตเรยี บรอ้ ยจึงนำไปกำหนดแผน และมำตรกำร กำรบริหำรจัดกำรควำมเสย่ี ง ดงั ตำรำงแผนกำรดำเนนิ กำรเพื่อจัดกำรควำมเสย่ี งกำรทจุ ริตระหว่ำง ผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวม ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2564

แผนดาเนนิ การ และมาตรการ เพื่อจัดการความเสีย่ งการทุจริตระหว่างผล ปจั จยั ท่ี โอกาสและผลกระทบ มาตรการจดั การความเสยี่ ง จะเกดิ ความเสี่ยง โอกาส ผลกระทบ ระดบั 1. สร้ำงควำมเข้ำใจเรอื่ งผลประโย 1. กำรใชไ้ ฟฟ้ำของ ความ ตนเองผลประโยชน์ส่วนรวม ทำงรำชกำรเพอ่ื เสย่ี ง 2. มอบนโยบำยกำรเสรมิ สรำ้ งคุณ ประโยชน์สว่ นตน จรยิ ธรรม และธรรมมำภบิ ำลภำยใน 53 15 ใหก้ บั บคุ ลำกรทกุ คน 3. อบรมเชงิ ปฏบิ ัตกำรเพือ่ สร้ำงอง สจุ รติ 4. ควบคมุ กำกับดแู ลให้บุคลำกรป ตำมคูม่ ือผลประโยชนส์ ่วนตนเอง ผลประโยชนส์ ่วนรวม

๒๓ ลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ระยะเวลาดาเนินการ ง ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ผ้รู บั ผดิ ชอบ 63 63 63 63 63 63 63 63 63 ยชนส์ ว่ น ณธรรม นองคก์ ร งค์กร ปฏบิ ัติ

โอกาสและผลกระทบ ปัจจัยที่ โอกาส ผลกระทบ ระดบั มาตรการจดั การความเส่ียง จะเกดิ ความเสย่ี ง ความ 1. มอบนโยบำยงดรบั ของขวญั /ข 2. กำรรับของขวัญที่ กำนลั ภำยในองค์กร ใหก้ บั บคุ เป็นกำรให้โดย เสีย่ ง ทุกคน ธรรมจรรยำ 43 12 2. รณรงคง์ ดรบั ของขวัญ/ของกำ ภำยในองค์กร 3. กำรใช้เวลำ/เบียด 3 3 9 บังเวลำรำชกำรเพ่ื อ 3. กิจกรรมมอบป้ำยรณรงค์งดรบั ประโยชน์สว่ นตน ของขวัญ/ของกำนลั ภำยในอง 1.ควำมเขำ้ ใจเรื่องผลประโยชนส์ ว่ ตนเองผลประโยชนส์ ว่ นรวม 2.มอบนโยบำยกำรเสริมสร้ำงคุณธ จรยิ ธรรม และธรรมมำภบิ ำลภำยใ องค์กร ให้กบั บุคลำกรทุกคน 3.ควบคมุ กำกับดูแลใหบ้ ุคลำกรปฏ ตำมค่มู ือผลประโยชน์ส่วนตนเอง ผลประโยชน์สว่ นรวม 4.กำรตรวจสอบกำรลงเวลำมำปฏ รำชกำรของบคุ คลำกร

๒๔ ระยะเวลาดาเนนิ การ ง ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ผู้รบั ผดิ ชอบ 63 63 63 63 63 63 63 63 63 ของ คลำกร ำนัล บ งค์กร วน ธรรม ใน ฏบิ ัติ ฏิบตั ิ

โอกาสและผลกระทบ ปจั จัยที่ โอกาส ผลกระทบ ระดับ มาตรการจัดการความเส่ยี ง จะเกดิ ความเสี่ยง ความ 1. ควำมเข้ำใจเรอื่ งผลประโยชนส์ ่วน 4.กำรเพกิ เฉยต่อ ผลประโยชนส์ ่วนรวม ผลประโยชนส์ ่วนรวม เสีย่ ง 22 4 2. มอบนโยบำยกำรเสริมสรำ้ งคุณธร จริยธรรม และธรรมมำภบิ ำลภำยใน ใหก้ ับบุคลำกรทกุ คน 5. กำรใช้รถยนต์ส่วน 1 2 9 1. กำรอบรมเพือ่ เสรมิ สรำ้ งควำมร รำชกำรเพ่ือประโยชน์ เขำ้ ใจในระบบออนไลน์ ส่วนตน 2. มอบนโยบำยกำรเสริมสรำ้ งคุณ จรยิ ธรรม และธรรมมำภบิ ำลภำยใน 3. ตรวจสอบสอบกำรใชร้ ถยนตร์ข ทำงรำชกำรจำกสมดุ บนั ทกึ ตำรำงกำ ปฏิบตั งิ ำน

๒๕ ระยะเวลาดาเนนิ การ ง ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ผูร้ ับผดิ ชอบ 63 63 63 63 63 63 63 63 63 นตนเอง รรม นองค์กร รูค้ วำม ณธรรม นองค์กร ของ ำร

๒๖

ภาคผนวก

คำสงั่ สำนักงำนเขตพนื้ ทีก่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำเชียงรำย เขต 3 ที่ 162 /2564 เร่ือง แต่งตง้ั คณะทำงำนกำรประเมินและวเิ ครำะห์ควำมเสีย่ งท่ีอำจก่อให้เกดิ กำรทจุ ริต ระหวำ่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม ของสำนกั งำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำ เชียงรำย เขต 3 ประจำปีงบประมำณ 2564 ---------------------------- ด้วยสำนักงำนเขตพ้ืนทีก่ ำรศึกษำประถมศึกษำเชียงรำย เขต 3 มีภำรกิจในกำรจดั ทำรำยงำน กำรประเมินและวิเครำะห์ควำมเสี่ยงท่ีอำจก่อให้เกิดกำรทุจริตระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ ส่วนรวม ของสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำเชียงรำย เขต 3 ประจำปีงบประมำณ 2564 โดยดำเนินกำรภำยใต้โครงกำรเสริมสร้ำงคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และธรรมำภิบำลในสถำนศกึ ษำ ซ่ึงสอดคลอ้ งกับ แผนแม่บทบูรณำกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตและประพฤติมิชอบ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. 2560 - 25๗๙) และเป็นไปตำมแนวทำงกำรจัดทำงบประมำณในลักษณะบูรณำกำรเชิงยุทธศำสตร์ประเด็นกำรป้องกัน ปรำบปรำมกำรทุจริต และประพฤติมิชอบ ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 ของสำนักงำนคณะกรรมกำร กำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน ทั้งน้ี เพ่ือให้กำรจัดทำรำยงำนกำรประเมินและวิเครำะห์ควำมเสี่ยงที่อำจก่อให้เกิดกำร ทุจรติ และผลประโยชน์ส่วนตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมของสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำเชียงรำย เขต 3 ประจำปีงบประมำณ 2564 ดังกล่ำว เป็นไปด้วยควำมเรียบร้อย และมีประสิทธิภำพ สำนักงำน เขตพ้ืนที่กำรศกึ ษำประถมศึกษำเชยี งรำย เขต 3 จงึ แต่งตง้ั คณะทำงำนจดั ทำรำยงำนกำรประเมินและวิเครำะห์ ควำมเสี่ยงที่อำจก่อให้เกิดกำรทุจรติ และผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ของสำนักงำนเขตพื้นท่ี กำรศึกษำประถมศกึ ษำเชียงรำย เขต 3 ประจำปีงบประมำณ 2564 ดังน้ี 1. นำยวเิ ศษ เชยกระรินทร์ ผู้อำนวยกำร สพป.ชร. เขต 3 ประธำนกรรมกำร 3. นำยจกั รพงศ์ บญุ เลศิ 4. นำงสุธีรตั น์ อริเดช รองผู้อำนวยกำร สพป.ชร. เขต 3 กรรมกำร 5. นำยอำนนท์ วงศว์ ชิ ญ์ 6. นำยเจริญ คณุ ยศยงิ่ รองผอู้ ำนวยกำร สพป.ชร. เขต 3 กรรมกำร 7. นำงเกนยำ ปนิ จันทร์ 8. นำงสุดำพร ศรีจันทร์ ผู้อำนวยกำรกลมุ่ นโยบำยและแผน กรรมกำร 9. นำงสุพชิ ญำ ฤทธิ์รกั ษำ 10. นำงปำรชิ ำติ เทพดวงแก้ว ผู้อำนวยกำรกล่มุ กฎหมำยและคดี กรรมกำร 11. นำยเอกชยั รตพิ รรณพงศ์ 13. นำยกฤษติพงษ์ ผวิ มณี ผู้อำนวยกำรกล่มุ อำนวยกำร กรรมกำร 14. นำงสำววทันยำ แสงคำ ผ้อู ำนวยกำรกลุ่มส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำ กรรมกำร ผอู้ ำนวยกำรกลมุ่ บรหิ ำรงำนบคุ คล กรรมกำร ผู้อำนวยกำรกลุ่มหน่วยตรวจสอบภำยใน กรรมกำร ผู้อำนวกำรกลุ่มบริหำรกำรเงินและสินทรพั ย์ กรรมกำร นติ ิกร ชำนำญกำร กรรมกำรและเลขำนกุ ำร เจำ้ พนกั งำนธรุ กำร กรรมกำร/ผ้ชู ่วยเลขำนุกำร

-2- มหี น้ำท่ี จดั ทำรำยงำนกำรประเมินและวิเครำะหค์ วำมเส่ียงท่อี ำจกอ่ ให้เกิดกำรทุจรติ ระหว่ำง ผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ของสำนกั งำนเขตพนื้ ทก่ี ำรศึกษำประถมศึกษำเชียงรำย เขต 3 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทบูรณำกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตและประพฤติมิชอบ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. 2560 - 25๗๙) และเป็นไปตำมแนวทำงกำรจัดทำงบประมำณในลักษณะบูรณำกำรเชิงยุทธศำสตร์ ประเด็นกำรป้องกัน ปรำบปรำม กำรทุจริต และประพฤติมิชอบ ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 ของ สำนักงำนเขตพน้ื ท่กี ำรศึกษำประถมศึกษำเชยี งรำย เขต 3 ทง้ั น้ี ตัง้ แต่บดั นเ้ี ปน็ ต้นไป สง่ั ณ วันท่ี 2 กรกฎำคม 2564