09-แผนการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ NS

- 41 - คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แผนการเรียนร้ภู าคปฏิบัติ วชิ า ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลผใู้ หญ่ 1 ทักษะปฏิบัติการท่ี 1 การประเมินอาการทางระบบประสาท ผ้สู อน อาจารยผ์ สู้ อนภาคปฏบิ ตั ปิ ระจารายวิชา ผู้เรียน นสิ ิตพยาบาลชน้ั ปที ่ี 3 สถานท่ี หอผปู้ ่วยอายุรกรรมและศัลยกรรม โรงพยาบาลมหาสารคาม หลักการและสาระสาคญั ผู้ป่วยทม่ี ีปญั หาหรอื ความผิดปกตขิ องระบบประสาท โดยเฉพาะผ้ทู ่ีไดร้ บั การบาดเจบ็ ท่ีศรี ษะ มีความจาเปน็ อย่างยง่ิ ที่จะต้องไดร้ ับการประเมนิ อาการทางระบบประสาท (Neurological signs) อยา่ งใกลช้ ดิ และต่อเนื่อง เพื่อช่วย ในการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาที่อาจเป็นอนั ตรายถึงชวี ติ ได้ เป็นการชว่ ยในการประเมิน คดั กรองและการวางแผนให้ การพยาบาลและป้องกนั ความเสียหายที่อาจเกิดจากความผิดปกตขิ องสมอง Metabolism หรือสาเหตุอน่ื ๆ ที่อาจเป็น อันตรายถึงชีวติ ไดใ้ นท่สี ุด ผู้ปว่ ยท่ีมีปัญหาเก่ียวกับความผิดปกติของระบบประสาทนน้ั มีความจาเป็นอย่างย่ิงทจ่ี ะต้อง ไดร้ บั การประเมินสภาพผู้ป่วยอย่างใกล้ชดิ ต่อเน่ือง เพ่ือช่วยในการป้องกันและแก้ไขปัญหาท่ีอาจเป็นอันตรายถึงชวี ติ ได้ การประเมนิ สภาพผปู้ ว่ ยทางระบบประสาท (Neurological signs) จะต้องประเมนิ 3 องค์ประกอบรวมกนั ทุกคร้ัง คอื 1. การประเมินระดับความรู้สึกตวั ของผู้ปว่ ย (coma scale) 2. การประเมินสัญญาณชีพ (vital signs) 3. การประเมินส่วนทีม่ ีพยาธิสภาพของสมอง (focal neurological signs) ผลการเรยี นร้หู ลกั นิสิตสามารถปฏิบตั ิการวัดระดบั ความร้สู กึ ตวั และลงบันทึกไดถ้ ูกตอ้ งครบถว้ นทุกองคป์ ระกอบ

- 42 - ผลการเรยี นรู้ วิธีการเรยี นการสอน สอ่ื การเรยี นรู้ ระยะ การประเมนิ ผล วธิ ีการสอน ข้ันตอนการสอน/เนอื้ หา กิจกรรม /อปุ กรณ์ เวลา การเรียนรู้ นิสติ นิสติ สามารถ - มอบหมาย ขัน้ นา - เตรียม 10 - การแสดงออก นาที ของนสิ ิตถึง แสดงออกถึง ใหน้ ิสิตศึกษา สาระสาคญั ทีน่ ิสติ จะต้องเตรียม ความพร้อม ความพร้อม ความพร้อม และทบทวน ความพร้อมดา้ นความรู้ มีดงั นี้ ดา้ นความรู้ ดา้ นความรทู้ ่ี จาเปน็ สาหรับ ด้านความรู้ท่ี ความรู้และ 1) การประเมนิ อาการทางระบบ ในเรอื่ งการ การประเมนิ อาการทาง จาเปน็ สาหรบั สาระสาคัญ ประสาทคืออะไร? ประเมิน ระบบประสาท โดยสามารถ การประเมนิ ลว่ งหน้าอย่าง 2) ผู้ป่วยประเภทใดท่ีตอ้ งได้รับการ อาการทาง ทบทวนและ ตอบคาถาม อาการทาง นอ้ ย 1 วัน ประเมินอาการทางระบบประสาท? ระบบ ตามประเด็นท่ี กาหนด ระบบ - กระตุ้นนิสติ 4) องค์ประกอบของการประเมนิ ประสาท ประสาท ให้สรุป อาการทางระบบประสาทมอี ะไรบ้าง? ลว่ งหนา้ สาระสาคญั 5) ข้นั ตอนและวิธกี ารประเมินอาการ อย่างน้อย 1 - เพมิ่ เติม ทางระบบประสาทเปน็ อย่างไร? วัน สาระสาคญั - ร่วมกนั ให้ครบถว้ น สรปุ - ตอบคาถาม สาระสาคัญ (ถา้ มี) - ถาม คาถาม (ถา้ ม)ี - นิสติ - สาธิต ขัน้ สอน - ศกึ ษาแฟ้ม - แฟ้มประวตั ิ 25 - ความสนใจ สามารถ - อธิบาย 1. เตรียมอปุ กรณ์ท่ีใช้ในการประเมิน ประวตั ขิ อง ผูป้ ว่ ย นาที และ ปฏบิ ัตกิ าร ประกอบการ อาการทางระบบประสาท ผปู้ ่วยและ - ผ้ปู ่วย ความตง้ั ใจใน ประเมนิ สาธิต 2. เลอื กผู้ปว่ ยที่จะใช้เป็นสื่อในการ พจิ ารณา - แบบบันทกึ การเรยี นรขู้ อง อาการทาง - คัดเลอื ก สอน 1 คน แจง้ ผูป้ ว่ ยให้ทราบ คดั เลอื ก อาการทาง นิสติ ระบบ ผ้ปู ว่ ยท่ี เกยี่ วกับวัตถุประสงค์และข้นั ตอนใน ผปู้ ่วยท่ี ระบบ - การตอบ ประสาทและ จาเปน็ ต้อง การวัดระดับความรูส้ กึ ตัว หากผู้ป่วย จาเปน็ ตอ้ ง ประสาทของ คาถามหรือ ลงบนั ทกึ ได้ ได้รับการ สันสนหรือไมร่ สู้ ึกตวั ใหแ้ จ้งญาตผิ ้ปู ว่ ย ไดร้ ับการ โรงพยาบาล ทบทวนเนอ้ื หา ถูกต้อง ประเมิน 3. อาจารย์และนิสิตยนื รอบเตียงผู้ปว่ ย ประเมิน มหาสารคาม - การ ครบถ้วนทกุ อาการทาง โดยอาจารย์อยู่ขา้ งเตยี งเขา้ หาผู้ป่วย อาการทาง (Neurologic ปฏบิ ตั กิ ารวัด องค์ประกอบ ระบบ ด้านทต่ี นเองถนัด ระบบ al record) ระดับความ ประสาทและ 4. อาจารยแ์ จกแบบบันทึกอาการทาง ประสาท - ไฟฉาย รสู้ กึ ตวั กระตุ้นให้ ระบบประสาทของโรงพยาบาล - ซกั ถามขอ้ - ปรอทวดั ไข้ ผูป้ ่วยรายอน่ื ๆ นิสิตมสี ่วน มหาสารคามให้นสิ ติ ทุกคน และแจง้ สงสยั - นาฬกิ า และการบันทกึ ร่วมในการ นสิ ติ ให้สงั เกตและบนั ทึกคะแนนที่ - สาธติ ข้อมือท่ีมีเข็ม ลงในใบ สังเกตได้ ย้อนกลบั วนิ าที ประเมินอาการ

- 43 - ผลการเรียนรู้ วิธีการเรยี นการสอน ส่อื การเรียนรู้ ระยะ การประเมินผล วิธกี ารสอน ขนั้ ตอนการสอน/เนื้อหา กจิ กรรม /อปุ กรณ์ เวลา การเรยี นรู้ นิสติ ประเมนิ 5. อาจารยเ์ ปน็ ผู้สาธิตวธิ ีการประเมนิ (นสิ ติ ปฏิบตั ิ - เครื่องวดั ทางระบบ ประสาท ผู้ป่วย ใหด้ กู อ่ นและจงึ ใหน้ สิ ิตสาธติ ยอ้ นกลบั ตามอาจารย์ ความดัน - พฤตกิ รรม ทีละขน้ั ตอน และเมอื่ ส้นิ สดุ การสอน ในแตล่ ะ โลหิต การสาธิต ยอ้ นกลบั และ ให้นิสติ ทาการสาธติ ย้อนกลบั ทีละคน ข้ันตอน) การบันทกึ คะแนนลงใน กับผ้ปู ่วยรายอน่ื แบบประเมินฯ - การมีสว่ น 6. อาจารยเ์ ร่มิ สาธิตโดยเริ่มจาก - สาธิต รว่ มกบั อาจารย์ ในการประเมิน - สาธิตโดยใช้ การประเมินระดบั ความรู้สึกตัวของ ยอ้ นกลบั ผูป้ ว่ ย - การ แบบบนั ทึก ผู้ป่วย จะใชเ้ ครอ่ื งมือในการประเมิน - รว่ มมอื กับ ปฏิบตั กิ าร ประเมนิ อาการทาง คอื Glasgow Coma Score อาจารย์ใน ความสามารถ ในการลมื ตา ระบบ ประกอบด้วยการประเมนิ 3 หัวข้อ การประเมิน ของผู้ปว่ ย ของ ผปู้ ว่ ยรายอื่นๆ ประสาทของ คือ การลืมตา การส่ือภาษา การ ผู้ปว่ ยโดย ภายในหอ ผปู้ ว่ ยและการ โรงพยาบาล เคลือ่ นไหว โดยเร่มิ จาก การเรียก ลงบนั ทกึ คะแนนใน มหาสารคาม 6.1 การประเมนิ ความสามารถในการ และสมั ผสั ระหว่างการฝกึ ปฏบิ ัติงาน เป็นเครื่องมือ ลมื ตาของผู้ป่วย ตวั ของ ประกอบการ 6.1.1 ใหน้ สิ ิตสังเกตการลืมตาได้เอง ผ้ปู ่วย สาธติ ของผู้ปว่ ย ในส่วนนี้มรี ะดบั คะแนน 4 - สังเกตการ - สังเกตและ ระดับ ใหน้ สิ ติ ทาเครือ่ งหมาย / ใน ลมื ตาของ ชแ้ี นะการให้ ช่องท่ตี รงกับคะแนนท่ีประเมิน ผปู้ ว่ ย คะแนน - เมอ่ื สงั เกตวา่ ผู้ปว่ ยลืมตาได้เอง ให้ - บนั ทกึ คะแนนการประเมิน 4 คะแนน คะแนนลง - หากผ้ปู ่วยไมล่ ืมตา ให้ใช้เสียงเรยี ก ในแบบ เพือ่ กระตุ้นให้ผปู้ ่วยลมื ตา เชน่ การ ประเมนิ ฯ เรียกชอ่ื ของผู้ป่วย หรอื การสัมผัสตัว ร่วมดว้ ย แล้วสงั เกตวา่ ผู้ป่วยลืมตา หรือไม่ หากลืมตาได้เมื่อใชเ้ สียงเรียก ใหค้ ะแนนการประเมนิ 3 คะแนน - หากผู้ป่วยไม่ลืมตาเม่ือใช้เสียงเรียก ใหใ้ ช้ดา้ มปากกากดบรเิ วณโคนเลบ็ มอื หรอื ให้นิสติ กามือและใช้ข้อน้ิวทงั้ 5 นว้ิ กดที่บรเิ วณ sternum แลว้ สังเกต ว่าผู้ปว่ ยลืมตาหรือไม่ หากลืมตาเม่ือ มคี วามเจบ็ ปวด ให้คะแนนประเมิน 2 คะแนน

- 44 - ผลการเรียนรู้ วธิ ีการเรยี นการสอน ส่อื การเรยี นรู้ ระยะ การประเมนิ ผล วิธกี ารสอน ข้ันตอนการสอน/เนื้อหา กิจกรรม /อุปกรณ์ เวลา การเรียนรู้ นสิ ติ - หากผูป้ ่วยไมม่ ีการลมื ตาเลยแม้ กระต้นุ ด้วยความเจบ็ ปวดแล้ว ให้ คะแนนการประเมนิ 1 คะแนน - หากผปู้ ่วยมีตาบวมหรอื ตาปิดท่ไี ม่ สามารถจะลมื ตาได้ให้ใส่ตัวอักษร C (ย่อจาก Close) ในช่องใหค้ ะแนน 1 คะแนน - สาธิต - พฤติกรรม การสาธติ - สาธิตโดยใช้ 6.2 การประเมินความสามารถในการ ย้อนกลับ ย้อนกลบั และ การบนั ทึก แบบบนั ทึก สื่อภาษาของผูป้ ่วย (นิสิตปฏบิ ัติ คะแนนลงใน แบบประเมนิ ฯ อาการทาง 6.2.1 อาจารยบ์ อกให้นสิ ิตพูดคยุ กบั ตามอาจารย์ - การมีส่วน รว่ มกบั อาจารย์ ระบบ ผปู้ ว่ ย โดยใช้คาถามงา่ ยๆ ไม่ซับซ้อน ในแต่ละ ในการประเมนิ ผ้ปู ว่ ย ประสาทของ เชน่ สอบถามช่อื สกลุ สถานท่ีปัจจุบัน ข้นั ตอน) - การ ปฏิบตั กิ าร โรงพยาบาล ท่ผี ู้ปว่ ยอยู่ สอบถามช่ือญาติทีเ่ ฝา้ - ตงั้ คาถาม ประเมนิ ความสามารถ มหาสารคาม ผปู้ ว่ ย เป็นตน้ เพอ่ื ให้ ในการส่ือภาษา ของผู้ป่วยราย เปน็ เคร่อื งมือ 6.2.2 ให้นสิ ติ สงั เกตการพดู คุยโตต้ อบ ผู้ปว่ ยตอบ อ่ืนๆ ภายในหอ ผู้ป่วยและการ ประกอบการ ท่มี กี บั นสิ ติ ความสามารถในการตอบ และสังเกต ลงบันทึก สาธิต คาถาม ความถูกต้องของคาตอบ โดย การตอบ - สงั เกตและ มเี กณฑ์การใหค้ ะแนน คือ คาถามของ ชแ้ี นะการให้ - ผปู้ ว่ ยพดู คุยโต้ตอบได้และตอบ ผปู้ ่วย คะแนน คาถามได้ถูกต้อง ใหค้ ะแนนการ - บันทึก ประเมิน 5 คะแนน คะแนนลง - ผ้ปู ่วยพดู คุยโต้ตอบได้แต่มีอาการ ในแบบ สับสน การพดู คุยไมต่ ่อเนือ่ ง ตอบไม่ ประเมินฯ ตรงคาถาม ให้คะแนนการประเมิน 4 คะแนน - ผ้ปู ่วยพดู หรอื ตอบคาถามเป็น ประโยคไม่ได้ ออกเสียงเปน็ คาส้ันๆ หรอื คาท่ีไม่มีความหมายแตม่ ีการเปลง่ เสยี งออกมาชดั เจน ให้คะแนนในการ ประเมิน 3 คะแนน - ผปู้ ่วยมีการโต้ตอบกบั การพูดคยุ แต่ จะไม่มีการเปล่งเสยี งออกมาชัดเจน มี แต่เสยี งในลาคอ เช่น ส่งเสียงคราง

- 45 - ผลการเรียนรู้ วิธีการเรียนการสอน ส่อื การเรยี นรู้ ระยะ การประเมนิ ผล วิธกี ารสอน ขน้ั ตอนการสอน/เนอ้ื หา กจิ กรรม /อปุ กรณ์ เวลา การเรียนรู้ นสิ ติ หรอื เสยี งรอ้ ง เป็นตน้ ใหค้ ะแนน การประเมิน 2 คะแนน - ผปู้ ว่ ยไมม่ ีการตอบสนองในการ พดู คุยเลยแม้ได้รบั การกระตนุ้ ซา้ ๆ กนั เปน็ เวลานานแลว้ กต็ าม ให้คะแนน - สงั เกตการ - พฤตกิ รรม การสาธิต - สาธิตการใช้ การประเมนิ 1 คะแนน สาธิตของ ยอ้ นกลบั และ การบนั ทกึ คาส่งั กบั 6.3 การประเมินความสามารถในการ อาจารยแ์ ละ คะแนนลงใน แบบประเมินฯ ผ้ปู ่วย เคลื่อนไหวร่างกายของผ้ปู ว่ ย มีส่วนรว่ ม - การมสี ่วน รว่ มกบั อาจารย์ - ชี้แนะและ 6.3.1 อาจารย์บอกให้ผปู้ ่วยทาตาม ในการบอก ในการประเมิน ผ้ปู ่วย กระต้นุ นิสิต คาสง่ั โดยใช้คาส่งั ง่ายๆ เพื่อใหผ้ ูป้ ว่ ย ใหผ้ ู้ปว่ ย - การ ปฏิบตั กิ าร ให้ทดสอบ แสดงทา่ ทางหรอื การเคลือ่ นไหว เคล่อื นไหว ประเมิน ความสามารถ ผู้ป่วย ร่างกาย ทาซา้ ๆ กนั อยา่ งน้อย 2-3 รา่ ยกายตาม ในการ เคลอ่ื นไหว คร้ัง เช่น ใหผ้ ปู้ ว่ ยยกแขน-ขาขนึ้ และ คาส่งั รา่ งกายของ ผู้ปว่ ยรายอ่ืนๆ บอกให้นิสิตบอกผปู้ ่วยใหผ้ ปู้ ่วยกามือ สังเกตและ ภายในหอ ผู้ปว่ ยและการ นิสิตใหแ้ นน่ ๆ เมอ่ื ผู้ปว่ ยทาท่าทาง บันทึก ลงบันทกึ หรอื กจิ กรรมตามทนี่ สิ ิตบอกได้ให้ 6 คะแนนลง คะแนน ในแบบ 6.3.2 หากผูป้ ว่ ยไม่สามารถทาทา่ ทาง ประเมนิ ฯ หรือกิจกรรมตามทีน่ ิสิตบอกได้ ให้ นสิ ิตกระตุ้นดว้ ยความเจบ็ ปวด วธิ ีการ เดยี วกบั การประเมินความสามารถใน การลมื ตา หรอื กดบนกระบอกตา ระหวา่ งคิว้ ทั้งสองขา้ งได้ 6.3.3 ใหน้ สิ ิตสังเกตการเคล่ือนไหว ร่างกายของผปู้ ว่ ย โดยมเี กณฑ์การให้ คะแนน ดังนี้ - หากผปู้ ว่ ยสามารถยกมือขึ้นมา บริเวณทถี่ กู ทาใหเ้ จบ็ ปวดเพื่อเอาสง่ิ ท่ี ทาให้เจบ็ ออก หรือยกมอื ขึ้นมาถงึ ระดบั คางเมือ่ กดบนกระบอกตา ระหวา่ งคิ้วท้งั สองขา้ งได้ ให้คะแนน การประเมิน 5 คะแนน

- 46 - ผลการเรียนรู้ วธิ กี ารเรียนการสอน สอื่ การเรยี นรู้ ระยะ การประเมินผล วธิ กี ารสอน ขัน้ ตอนการสอน/เนอื้ หา กจิ กรรม /อุปกรณ์ เวลา การเรยี นรู้ นิสิต - หากกระตุน้ ดว้ ยความเจ็บปวดแล้วมี การตอบสนองโดยการชักมือและเทา้ หนี ใหค้ ะแนนการประเมนิ 4 คะแนน - หากผ้ปู ว่ ยจะงอแขนเกร็งเมื่อ กระตนุ้ ด้วยความเจ็บปวด ให้คะแนน การประเมนิ 3 คะแนน - หากผ้ปู ่วยแขนเหยียดเกร็งเมื่อเจบ็ ผู้ปว่ ยจะเกรง็ แขนแนบเขา้ หาลาตัว ข้อศอกเหยียด เกรง็ ชดิ ลาตัว ข้อไหล่ หมนุ เขา้ หาลาตัว ข้อมือหนั ออกจาก ลาตวั นิ้วมอื กาลงบนหัวแม่มือ ให้ คะแนนการประเมิน 2 คะแนน - หากผปู้ ่วยไมม่ ีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย ให้คะแนนการประเมนิ 1 คะแนน - ปฏบิ ัตกิ าร - ปรอทวัดไข้ - พฤตกิ รรม การวัดสญั ญาณ - ชแ้ี นะ 7. ใหน้ สิ ติ การรวมคะแนนของแบบ วัดสญั ญาณ - นาฬิกา ชพี และความ ถูกต้องของการ ประเมิน Glasgow Coma Scale ใน ชีพของ ข้อมือท่ีมีเขม็ ลงบนั ทกึ ช่องรวมคะแนน ผปู้ ่วยและ วินาที - พฤติกรรม การประเมินรู 8. ให้นิสิตวัดสัญญาณชพี ของผู้ปว่ ย ลงบนั ทึก - เคร่อื งวดั ม่านตาและ ความถกู ตอ้ ง และลงบันทึกในใบบนั ทกึ โดยใช้ ตามคา ความดัน ของการลง บนั ทึก สัญลักษณ์ดังนี้ ชี้แนะของ โลหิต - จดุ ด้วยปากกานา้ เงินเปน็ อุณหภมู ิ อาจารย์ รา่ งกาย - จุดดว้ ยปากกาแดงเป็นชพี จร - ความดนั ซีสโตลิค ใชส้ ัญลกั ษณ์ตัววี V - ใช้ไฟฉาย - ไฟฉาย - ชี้แนะและ - ความดันไดแอสโตลคิ ใช้สญั ลกั ษณ์ ในการตรวจ ตรวจสอบ ตวั วคี ว่า ^ บนระดับของตัวเลขที่ ประเมนิ ความถกู ตอ้ ง ตรงกบั ค่าทว่ี ดั ได้ และสังเกต - สาธติ ซา้ 9. การประเมินส่วนท่มี ีพยาธิสภาพ ขนาด หากนสิ ิต ของสมอง แบ่งออกเปน็ การประเมนิ รู รูปรา่ งและ ปฏิบัติไม่ ม่านตาและกาลงั ในการเคล่ือนไหว การ ถกู ต้อง ของแขนและขา ตอบสนอง 9.1 ลกั ษณะของรูมา่ นตา (pupils) ต่อแสงของ

- 47 - ผลการเรียนรู้ วิธีการเรียนการสอน ส่อื การเรยี นรู้ ระยะ การประเมินผล /อปุ กรณ์ เวลา การเรียนรู้ วธิ กี ารสอน ขัน้ ตอนการสอน/เน้ือหา กิจกรรม นสิ ิต - พฤติกรรม การสาธิต - อาจารย์สาธติ วธิ กี ารดรู ูม่านตาและ รมู ่านตา ย้อนกลับและ การลงบนั ทึก ใหน้ ิสติ ใช้ไฟฉายส่องทรี่ มู า่ นตาโดย ของผู้ปว่ ย - ความถกู ต้อง ของการลง สอ่ งจากด้านข้างดา้ นนอกเข้าด้านใน และลง บนั ทกึ และดขู นาดของรูมา่ นตาขณะก่อนหด บันทึก ตวั (โดยเทยี บกบั ขนาดทรี่ ะบุในแบบ ประเมนิ อาการทางระบบประสาท) และสงั เกตรูปร่าง ขนาด และปฏกิ ิริยา ตอ่ แสง - สาธิต - สาธติ - ให้นิสติ ลงบนั ทกึ ขนาดของรูมา่ นตา ยอ้ นกลบั - อธบิ าย และทาเคร่อื งหมายถูกในชอ่ งท่ีแสดง - สงั เกต ประกอบการ ปฏกิ ริ ิยาต่อแสง และลง สาธิต 9.2 การเคล่ือนไหวและกาลังของแขน บันทึก ขา (movement of the limbs and motor power) 9.2.1 บอกใหผ้ ู้ป่วยยกแขนและขาทัง้ สองขา้ งขน้ึ และใชม้ ือของผู้ตรวจดันลง ต้านแรงของผู้ปว่ ย หรอื อาจใช้การ บอกให้ผู้ปว่ ยงดั ขอ้ มือกับผตู้ รวจ เกณฑ์ในการประเมนิ คอื - แขนหรอื ขามีกาลงั ปกติ สังเกตจาก ผปู้ ่วยออกแรงได้เตม็ ท่ี ตา้ นแรงของ ผูต้ รวจได้ดี - ออ่ นแรงเล็กน้อย สงั เกตจากผปู้ ว่ ย มีแรงเคลื่อนไหวข้อ ตา้ นแรงถ่วงได้ แต่ตา้ นแรงกดได้น้อยกวา่ ปกติ - อ่อนแรงมาก สงั เกตจากผูป้ ่วยมีแรง เคล่อื นไหวข้อ ตา้ นแรงถ่วงได้ ยกขน้ึ ได้ แตต่ า้ นแรงกดไม่ได้ 9.2.2 หากผ้ปู ่วยไม่สามารถทาตาม คาสัง่ ได้ ใหใ้ ชค้ วามเจ็บปวดทดสอบ แล้วดูลกั ษณะของกาลงั กล้ามเน้ือ ดงั น้ี - สงั เกตแขนของผู้ป่วยว่ามีการงอพับ เขา้ หาลาตวั หรอื ไม่ หรือ - สงั เกต

- 48 - ผลการเรียนรู้ วิธีการเรียนการสอน ส่อื การเรียนรู้ ระยะ การประเมนิ ผล วธิ กี ารสอน ข้ันตอนการสอน/เนื้อหา กิจกรรม /อปุ กรณ์ เวลา การเรยี นรู้ นิสติ - ตรวจสอบ - แขนหรือขาเหยียดเกรง็ ข้อมอื ข้อ และลง - ความถกู ต้อง การบันทึก เทา้ บดิ ออกจากลาตวั หรือ บันทกึ ในการลงบันทึก และชแี้ นะ - ไมม่ กี ารเคล่อื นไหวแขนขาเลย 9.2.3 ใหน้ ิสิตทาการบันทึกใหล้ งใน ช่องทต่ี รงกับการประเมินและระบุ ดา้ นซา้ ยดา้ นขวาด้วยสญั ลักษณ์ R (right) และ L (left) ลงในช่องท่ี ตรวจพบ ถา้ มกี ระดูกหักหรือมกี ารใช้ แรงดึง (on traction) หรือเข้าเฝือก ทาให้ไม่สามารถตรวจประเมินได้ ให้ บันทกึ ว่า F (fracture) - กระต้นุ ให้ ข้นั สรุป - รว่ มกนั 5 - ความสามารถ นาที ในการร่วมกัน นิสิตรว่ มกัน ให้นสิ ิตร่วมกันสรุปข้ันตอนการ สรุปทบทวน สรุปทบทวน สรุปทบทวน ประเมนิ และแปลผลการประเมนิ เนื้อหาท่ี เน้ือหาท่เี รยี น - การตอบ เนอื้ หาทีเ่ รียน อาการทางระบบประสาท รวมท้ัง เรียน คาถาม ความ สนใจ และการ - เปดิ โอกาส บนั ทึกในแบบประเมิน อาจารย์สรุป - ถาม ซกั ถาม ให้นิสิต เนน้ ย้าความสาคัญในการประเมิน คาถาม (ถา้ ซกั ถามข้อ อาการทางระบบประสาท การ มี) สงสัยและ ประเมนิ และบนั ทึกอย่างถกู ต้อง แสดงความ แม่นยาจะชว่ ยในการวางแผนการ คิดเหน็ พยาบาลหรอื รายงานการเปลี่ยนแปลง เพม่ิ เติม ไดท้ นั ทีเพื่อป้องกนั อันตรายถึงชวี ติ ท่ี - ตอบคาถาม อาจเกิดขึ้นกับผู้ปว่ ยได้ ชีแ้ นะนิสิตวา่ (ถา้ มี) เมื่อนสิ ิตฝกึ ปฏิบัติการประเมินอาการ ทางระบบประสาทกับผปู้ ว่ ยอื่นหรือ ผู้ป่วยรายเดมิ ในคร้งั ต่อไปแล้วนิสติ อาจเกิดการเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ หรือพบ ปัญหาและอุปสรรคบางอย่าง อาจารย์ ใหค้ าชีแ้ นะเกีย่ วกับแนวทางในการ แก้ไขปัญหาเพ่อื ใหก้ ารปฏิบัติงานจรงิ มปี ระสิทธิภาพที่สดุ

- 49 - เอกสารอ้างอิง วลยั พร นนั ท์ศภุ วฒั น.์ 2543. การพยาบาลผู้ป่วยท่ีมคี วามผิดปกตขิ องระบบประสาท. มหาสารคาม : คณะพยาบาล ศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม. (เอกสารอดั สาเนา) สุจินดา รมิ ศรที อง, สุดาพรรณ ธัญจริ าและอรุณศรี เตชัสหงส์. 2550. พยาธสิ รีรวทิ ยาทางการพยาบาล เล่ม 1. พิมพ์ ครง้ั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : สามเจรญิ พาณชิ ย์. โสพรรณ โพทะยะ. 2549. การประเมินทางระบบประสาท. ในเพ็ญศรี ระเบยี บ, จันทร์เพ็ญ สนั ตวาจา, ประคอง อินทรสมบัติ และ ประภาพร จินันทยุ า (บรรณาธกิ าร). บทความวชิ าการ การศึกษาต่อเนื่องสาขาพยาบาล ศาสตร์ เลม่ ที่ 3 การพยาบาลผู้ใหญ่และผสู้ ูงอาย.ุ กรุงเทพมหานคร: ศริ ยิ อดการพิมพ์. บันทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................. ........................................................... ........................................................................................................................................................................................... …………............................................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. .............................................................. ………….................................................................................................................................................... ............................ ...................................................................................................... ...................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ………….......................................................................................................................................................................... ...... ............................................................................................................................ ............................................................... …………............................................................................................................................... .................................................