การปฐมพยาบาลผทู้ ม่ี ีอาการชกั การชกั (Convulsion) คือ การที่ร่างกายของบุคคลมีอาการส่นั เกร็งขึ้นอยา่ ง รวดเร็ว อาจกระตกุ คือมเี กร็งสลับกับผ่อนคลายเป็นจังหวะของกลา้ มเน้ือในรา่ งกายหลาย มัดทนั ที โดยไมไ่ ด้ต้งั ใจ มกั เกดิ ร่วมกับการไมร่ ู้สกึ ตวั และควบคมุ ไม่ได้ สาเหตุ การบาดเจบ็ ทีศ่ ีรษะ โรคท่ีท้าลาย สมอง สมองขาดออกซเิ จน และได้รบั สารพษิ ในเด็กอาจชักจากไขส้ ูง และการชัก เปน็ ลักษณะอยา่ งหน่ึงของโรคลมชกั
การปฐมพยาบาลผูท้ ม่ี อี าการชกั การปฐมพยาบาล - จดั ให้ผชู้ กั นอนตะแคงหนา้ ระวังส้าลกั ถา้ มสี ่ิงของในปาก เชน่ เศษ อาหาร ฟันปลอมใหล้ ว้ งออก และต้องปอ้ งกนั การบาดเจ็บทศ่ี ีรษะจากการล้มลง - โรคลมชักรุนแรง พยายามช่วยประคอง ถ้าผู้ท่ีชักจะลม้ - คลายเส้ือผ้าออกโดยเฉพาะรอบคอและประคองศรี ษะไว้ด้วย - เม่อื หยดุ ชักแล้วจดั ให้อยู่ในท่าพักฟืน้ และอยู่กบั ผ้ทู ี่ชกั จนกระท่ัง ร้สู ึกตัวดี รีบนา้ ส่งโรงพยาบาล
การปฐมพยาบาลผูท้ ถ่ี ูกงกู ดั พษิ ของงแู บ่งเปน็ 3 แบบคอื 1. พิษงูท่ที ้าใหเ้ กิดการแข็งตวั ของเลือดผดิ ปกติ งแู มวเซา งเู ขยี วหางไหม้ งกู ะปะ 2. พษิ งูที่ทา้ ใหเ้ กิดเป็นอมั พาตยับยงั้ การท้างานของระบบประสาท งเู หา่ งจู งอาง 3. พิษงทู ท่ี า้ ใหเ้ กิดการอกั เสบของกลา้ มเนอื้ อย่างรนุ แรง งทู ะเล
อาการเม่อื ถูกงูพิษกัด - กรณีเหน็ ตัวงู - กรณที ไ่ี ม่เหน็ ตัวงู รอยที่ถูกกดั กดั จะมีรอยเขีย้ ว 2 รอย และจะมี อาการใน 10 นาที อาการของผถู้ กู งูกดั แล้วแต่ชนิดของงู เชน่ งเู หา่ จะมพี ษิ ทา้ อนั ตรายตอ่ ระบบประสาท อาการท่วั ไป จะเกิดขึน้ ภายหลังประมาณคร่งึ ช่วั โมง โดยจะมอี าการอ่อนเพลยี เดินไมไ่ หว หนังตาตก พดู ออ้ แอ้ กลืน ลา้ บากและหายใจไมส่ ะดวก ในทสี่ ุดจะเปน็ อัมพาตทั่วร่างกาย และอาจถึงแก่ ความตายได้ เนื่องจากการหายใจหยุด
1. พษิ งูทท่ี า้ ใหเ้ กดิ การแขง็ ตัวของเลือดผดิ ปกติ งูแมวเซา งูเขยี วหางไหม้ งูกะปะ
2. พษิ งูท่ีทา้ ใหเ้ กิดอนั ตรายตอ่ ระบบประสาท งเู ห่า งจู งอาง งทู บั สมงิ คลา อาการทว่ั ไป - กลา้ มเน้ืออ่อนแรง แขนขาไมม่ แี รง พดู ไม่ชัด กลนื ล้าบาก หนงั ตาตก รู้สึกเปลยี้ เป็น อัมพาต หรอื ถงึ ข้ันกลา้ มเนอ้ื หายใจมปี ัญหา หายใจ ไม่ได้
3. พษิ งูทท่ี า้ ใหเ้ กดิ การอักเสบของกลา้ มเนอ้ื อยา่ งรนุ แรง งูสมงิ ทะเลปากดา้ ผู้ทถี่ ูกงทู ะเลกัด จะแยกจากงูชนิดอน่ื ได้ งผู า้ ขร้ี ้วิ ง่ายเนอ่ื งจากถูกกัดในทะเล หรอื ริมทะเล, ผ้ปู ่วยมีอาการปวดกลา้ มเนอื้ ทัง้ ตัว, ปสั สาวะออก นอ้ ย สเี ข้ม
การปฐมพยาบาล - รอยแผลงูพิษกัดจะมีรอยเขีย้ ว 1 หรือ 2 จดุ (งูไม่มีพิษ แผลจะ เปน็ รอยถลอก) - ใหผ้ ู้ที่ถูกงกู ดั นอนลง จดั ใหม้ อื หรือเทา้ ที่ถูกกัดอยูร่ ะดบั เดยี วหรอื ต้่ากวา่ ระดับหวั ใจ - ปลอบใจ ไมใ่ หต้ ่นื ตกใจ และพยายามให้ผ้ทู ่ีถูกงกู ดั อยู่นิ่งๆ - ลา้ งบาดแผลที่ถกู งูกัด ด้วยนา้ สบ่แู ละน้าสะอาดเท่าท่พี อจะท้าได้ - หา้ มเลอื ด โดยใชผ้ า้ สะอาดกดบาดแผลโดยตรง หรอื พันผ้า ดามขาข้างที่ถกู งูกัดกบั ขาอีกข้างโดยใชผ้ ้านมุ่ คน่ั ระหว่างขา - นา้ สง่ โรงพยาบาล
การปฐมพยาบาลผทู้ ถี่ กู งูกดั ทคี่ วรระวงั การใช้เชอื กรัดบริเวณเหนือจุดทีถ่ ูกกดั ปัจจุบันไมข่ อแนะน้า เพราะการรัด แนน่ จนเกนิ ไปหรอื ถา้ ถกู รัดไวเ้ ป็นเวลานาน ๆ อาจท้าให้เกดิ การขาดเลือดของอวัยวะท่ี อย่ใู ต้ส่วนทร่ี ัดได้ http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php? book=8&chap=7&page=t8-7-infodetail15.html
การปฐมพยาบาลผทู้ ีถ่ กู ไฟฟา้ ดูด 1. ชว่ ยใหพ้ น้ จากการสมั ผัส โดยการปลดสวทิ ชก์ ระแสไฟฟ้า สิ่งทเ่ี ป็น ฉนวนไฟฟา้ เขยี่ สายไฟออกใหพ้ ้นตัวผู้ทถี่ กู ไฟดดู โดยผชู้ ว่ ยเหลือต้องสวมรองเทา้ พ้นื ยางยนื อยู่บนกระดาน หรอื พน้ื ท่ีไมเ่ ปียก ไมเ่ ป็นสอื่ ไฟฟา้ 2. ถา้ ตรวจพบวา่ ผ้ทู ีถ่ กู ไฟดดู ฃ ไม่รสู้ กึ ตวั ใหเ้ ปดิ ทางเดนิ หายใจ ตรวจการหายใจและชพี จร และเตรยี ม การชว่ ยฟน้ื คนื ชพี
การปฐมพยาบาลผู้ท่ีถูกไฟฟา้ ดูด 3. ห่มผ้าให้ความอบอนุ่ ตรวจดบู าดแผล 4. ถ้ามแี ผลไหม้ ใหใ้ ช้น้าเยน็ ราดและปดิ บาดแผลดว้ ยผา้ ปดิ แผล 5. รีบน้าส่งโรงพยาบาล สิ่งส้าคญั คอื ต้องตดั ไฟฟา้ ทล่ี ดั วงจร และ ค้านึงถงึ ความปลอดภยั ของ ตนเองกอ่ นชว่ ยเหลอื ผถู้ กู ไฟฟา้ ดดู
การปฐมพยาบาลผทู้ มี่ เี ลือดกา้ เดาออก การมีเลือดไหลออกจากจมกู ซึ่งอาจเกิดจากการกระแทกที่บรเิ วณ จมูก หรือการแคะจมูก จากการติดเชือ้ ระบบทางเดนิ หายใจ หรอื มีเนื้อ งอก หรอื เป็นโรคเลอื ดบางชนดิ พบในเดก็ > ผ้ใู หญ่ 2 เท่า - - เด็กมกั มเี ลอื ดกา้ เดาออกจากดา้ นหนา้ ผนังกั้นจมกู ผู้ใหญเ่ ลือดจะออกจากบรเิ วณผนังกน้ั จมกู หรอื ผนังกน้ั รอ่ งจมกู
การปฐมพยาบาล - ใหน้ ่ัง โนม้ ตวั หรอื ก้มหนา้ เลก็ นอ้ ย และใหห้ ายใจทางปาก - ไมใ่ หส้ ง่ั น้ามูก กลนื ไอ ถ่มนา้ ลาย หรอื สดู จมูก เพราะท้าให้เลอื ดออกอกี - ใชม้ อื บีบจมกู ให้แนน่ 10 นาที แลว้ คลายนิว้ ออก - ถา้ เลือดยังไหลไม่หยดุ ใหบ้ ีบซ้าอกี 10 นาที หรืออาจใชก้ ระเป๋านา้ แข็งวางที่ บรเิ วณด้งั จมกู และหน้าผาก 2-3 นาที - ถา้ ยังไหลอยแู่ ละนานเกิน 20 นาที หรือสงสัยว่าดัง้ จมูกหกั แลว้ มี เลอื ดออกจากจมูก ต้องรีบน้าสง่ โรงพยาบาล
เปน็ ลมหมดสติ • อาการหมดสตชิ ั่วคราว มสี าเหตุมาจากเลอื ดท่ีไปเล้ยี งสมองลดลงชว่ั คราว • เกดิ แก่ผูไ้ ด้รบั บาดเจบ็ มองเหน็ เลอื ด มองเห็นบาดแผลแล้วตกใจ ร่างกาย อ่อนเพลีย เชน่ ยนื อยกู่ บั ทใ่ี นบริเวณอากาศร้อนๆ เปน็ เวลานาน หรอื เกิดในผู้ ที่มีอารมณเ์ ปลี่ยนแปลงกะทนั หนั เชน่ ดใี จ หรือ เสยี ใจสุดขีด บางคนมีความ ดนั เลอื ดต่้าอย่แู ลว้ ท้าใหเ้ ป็นลมหมดสตไิ ดง้ า่ ย
อาการ • ร้สู กึ วา่ หน้ามดื อ่อนเปล้ยี ตาเหน็ เงามืด ใบหนา้ ซดี รมิ ฝีปากเขียวคล้า มีเหงอ่ื ออกที่ใบหนา้ เป็นเมด็ โตๆ หายใจตน้ื หอบ ชพี จรเตน้ เรว็ และเบา จนทรงตวั ไม่ได้ ล้มลงในที่สุด • วธิ ีปฐมพยาบาล - ให้นอนหงาย ศีรษะต่้ากว่าลา้ ตวั เลก็ น้อย ให้หายใจลึกๆ - ใหด้ มแอมโมเนียหอม - ให้อากาศถ่ายเท และมีความเย็นโดยรอบ
การดแู ลผทู้ เี่ ปน็ ลมหมดสติเนื่องจากความรอ้ น • มี 2 แบบ 1. เป็นลมหนา้ แดง (ลมแดด) เกดิ จากอยู่ในทแี่ ดดจดั นานๆ หนา้ แดง ผวิ แห้งและรอ้ น ชพี จรเตน้ เร็วและแรง อุณหภูมิรา่ งกายสูง ผวิ หนงั ร้อนจดั • วธิ ปี ฐมพยาบาล คือ – รบี น้าผ้ปู ว่ ยเข้าท่ีรม่ – คลายเสือ้ ผ้าให้หลวม – เช็ดตัวดว้ ยนา้ เยน็ –ให้ด่มื นา้ เยน็ – ถ้าอาการไมด่ ขี น้ึ รีบนา้ สง่ โรงพยาบาล
การดูแลผทู้ ี่เปน็ ลมหมดสตเิ นื่องจากความรอ้ น 2. เปน็ ลมหนา้ ซดี (ลมรอ้ น) เกดิ จากร่างกายสญู เสียเหงอื่ มากๆ เพราะอากาศรอ้ น ผู้ป่วยหนา้ ซีด ผิวหนงั เย็นชน้ื เหงอ่ื ออก ชพี จรเตน้ เบาและเร็ว อณุ หภมู ใิ นรา่ งกายต่า้ กวา่ ปกติ •วธิ ีปฐมพยาบาล – รบี น้าผปู้ ว่ ยเข้าที่รม่ ซ่งึ มอี ากาศถ่ายเทได้สะดวก •คลายเส้ือผา้ ใหห้ ลวม – ใหด้ ่มื นา้ เกลอื แร่ – ใหน้ อนยกศรี ษะสงู กวา่ เทา้ – ถ้าอาการไมด่ ีข้นึ ให้น้าสง่ โรงพยาบาล
การปฐมพยาบาลผทู้ เี่ ปน็ โรคลมปจั จุบนั หรอื โรคหลอดเลอื ดสมอง (Stroke) โรคลมปจั จบุ นั /โรคหลอดเลอื ดสมอง เปน็ โรคทพี่ บบ่อยในผสู้ งู อายเุ กดิ จาก หลายสาเหตุ เช่น มอี อกซเิ จนมาเลย้ี งสมองไม่เพยี งพออยา่ งเฉยี บพลนั ภาวะหลอดเลอื ดมี ลิ่มเลอื ด มสี งิ่ อดุ กน้ั หลอดเลอื ดหรือเกดิ จากการตกเลอื ด (เลอื ดออก) ในเนอื้ สมอง ทา้ ให้ สมองหยุดทา้ งานอย่างเฉยี บพลนั ทา้ ใหเ้ กดิ อาการอมั พาตคร่งึ ซกี เฉยี บพลนั ตาบอดขา้ ง เดยี วเฉยี บพลัน และถา้ หากอาการของโรครุนแรงมากกอ็ าจจะทา้ ใหเ้ สยี ชวี ติ ได้
การปฐมพยาบาลผทู้ เี่ ปน็ โรคลมปจั จบุ นั หรอื โรคหลอดเลอื ดสมอง (Stroke) การสงั เกตอาการของโรคลมปจั จุบนั และการปฏบิ ตั ติ อ่ ผปู้ ว่ ยโรคลมปจั จบุ นั • F คือ face จะมีใบหนา้ บิดเบย้ี วเฉยี บพลนั หนังตาตก ปากเบีย้ ว อาจจะหายไปได้เอง • A คอื Arm จะมีอ่อนแรงทแี่ ขนขา้ งใดข้างหนึง่ อย่างเฉยี บพลนั /มีควบคมุ แขนขา้ งใดข้าง หน่ึงไม่ได้ แขนตกลงไปด้านขา้ งลา้ ตัว อาจจะหายไปได้เอง • S คือ Speech จะมอี าการพูดไม่รู้เรื่องอยา่ งเฉียบพลัน คือ พูดไมเ่ ปน็ ค้า รัวเร็ว และ กลบั มาพูดจาอยา่ งปกตไิ ด้ • T คอื Time เมื่อมอี าการขา้ งต้นทง้ั หมด/อย่างใดอยา่ งหน่ึง ควรจะโทร 1669 เรียก รถพยาบาลหรอื ไปพบแพทยท์ ันที ในกรณีที่เกดิ อาการของโรคลมปัจจบุ ันก้าเรบิ ผู้ป่วยอาจจะทรงตวั ไม่อยเู่ นือ่ งจากมี อาการอัมพาตคร่ึงซกี ให้รีบนา้ ผู้ปว่ ยไปส่งโรงพยาบาลใหเ้ ร็วท่ีสุด
การปฐมพยาบาลผทู้ เ่ี ปน็ โรคลมปจั จบุ นั หรอื โรคหลอดเลอื ดสมอง (Stroke) การสังเกตอาการของโรคลมปจั จบุ นั และการปฏบิ ตั ิตอ่ ผปู้ ว่ ยโรคลมปจั จบุ นั
หลกั การชว่ ยฟนื้ คนื ชีพ CPR 2010
วัตถุประสงค์ของการช่วยชีวติ • เพ่อื ใหห้ วั ใจทา้ งานไดเ้ ปน็ ปกติ สูบฉดี เลือดไปเลี้ยงอวยั วะต่างๆได้ โดยเฉพาะสมอง • สมองขาดออกซเิ จนไดเ้ พยี ง 4 นาที • ถา้ เร่มิ ใหก้ ารชว่ ยผูป้ ่วยภายใน 4 นาทแี รก ชว่ ยใหม้ โี อกาสรอด 4 เท่า ของการชว่ ย หลัง 4 นาที
ความหมายของปฏิบตั ิการชว่ ยฟนื้ คืนชีพ การช่วยเหลอื ผทู้ ่หี ยุดหายใจหรอื หวั ใจหยดุ เตน้ ใหม้ กี ารหายใจและ การไหลเวยี นกลับคนื ส่สู ภาพเดมิ ปอ้ งกันเนอ้ื เยอ่ื ได้รบั อนั ตรายจากการขาด ออกซเิ จนอย่างถาวร ซึง่ สามารถทา้ ไดโ้ ดยการชว่ ยฟื้นคืนชพี ขั้นพ้ืนฐาน (Basic life support) ไดแ้ ก่ การผายปอด และการนวดหัวใจภายนอก
1. ทางเดินหายใจอุดตนั จากสาเหตุต่างๆ ในเด็กเลก็ สาเหตุที่พบบ่อยทีส่ ดุ คือ การสา้ ลักสง่ิ แปลกปลอมเข้าหลอดลม เช่น ของเลน่ ชิน้ เลก็ ๆ 2. มกี ารสูดดมสารพษิ แกส็ พษิ ควันพษิ 3. ไฟฟา้ ดดู สาเหตขุ องการ 4. จมนา้ หยดุ หายใจ 5. บาดเจบ็ ทท่ี รวงอก ท้าใหท้ างเดินหายใจไดร้ ับอนั ตราย 6. โรคระบบประสาท เช่น บาดทะยกั ไขสนั หลังอักเสบ 7. ไดร้ บั สารพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น ผง้ึ ตอ่ แตน ต่อย 8. ได้รบั ยากดศูนยค์ วบคุมการหายใจ เชน่ มอรฟ์ นี ฝ่นิ โคเคน 9. โรคหวั ใจ เช่น กล้ามเน้ือหัวใจขาดเลือดไปเล้ยี งอยา่ งเฉยี บพลนั 10. ติดเชือ้ ของระบบทางเดนิ หายใจ
สาเหตขุ องหัวใจหยดุ เตน้ 1. หวั ใจวายจากโรคหัวใจ จากการออกกา้ ลังกายมากเกินปกติ หรอื ตกใจหรอื เสยี ใจ กะทันหัน 2. มีภาวะช็อคเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลนั จากการสูญเสยี เลือดมาก ท้าใหก้ ลา้ มเนอ้ื หวั ใจขาดเลือด หรอื มีเลือดมาเลยี้ งไม่เพยี งพอ 3. ทางเดินหายใจอุดก้ัน ทา้ ให้กลา้ มเนือ้ หวั ใจไดร้ บั ออกซเิ จนไมพ่ อ 4. การได้รบั ยาเกินขนาดหรือการแพ้
เมอ่ื พบผู้ป่วยทห่ี มดสติ ไมห่ ายใจหายใจไม่สะดวกหรอื ไมป่ กติ (เช่น หายใจเฮอื ก) 1. โทรศัพทเ์ รยี กหนว่ ยกชู้ วี ิต • สถานท่ีเกดิ เหตุอยูท่ ีไ่ หน • เกดิ อะไรขึ้น • มีผู้ต้องการความช่วยเหลือกค่ี น • ชนดิ ความช่วยเหลือที่ก้าลังให้อยู่ • วางหูก็ต่อเม่อื เจา้ หนา้ ท่รี ับโทรศัพทบ์ อกให้วางหู • เมื่อวางหูแล้วควรกลบั ไปทา้ CPR และช็อกไฟฟ้าผู้ปว่ ยต่อ
ขนั้ ตอนการทา้ การนวดหวั ใจผายปอดกชู้ พี (CPR) 2. ตรวจดวู า่ หมดสติหรอื ไม่* • ตบที่หวั ไหล่และเขย่าตวั ผู้หมดสติ • ถามว่า “คุณ..เป็นอย่างไรบ้างครบั (คะ)”
ข้ันตอนการปฏบิ ัตกิ ารชว่ ยฟ้ืนคนื ชพี 1. เม่อื พบผู้ป่วยท่ีหมดสติ ไมห่ ายใจหายใจไม่สะดวกหรอื ไม่ปกติ (เชน่ หายใจเฮอื ก) ใหโ้ ทรศพั ท์ตามหนว่ ยกู้ชพี ขั้นสงู (1669) เพอื่ เตรยี มชอ๊ ตไฟฟา้ ดว้ ยเครื่อง เคร่ืองกระตกุ หวั ใจอตั โนมตั ิ (Automated External Defibrillator: AED 2. รีบทา้ การนวดหัวใจทนั ที โดย ไม่ต้องท้าการประเมนิ การหายใจของผปู้ ว่ ย คณุ ภาพของการนวดหัวใจขน้ึ อยกู่ บั การกดลกึ การกดเร็ว หนา้ อกคืนตวั ทกุ ครั้ง กอ่ นการนวดหัวใจครัง้ ตอ่ ไป รบกวนการหยดุ นวดหวั ใจให้น้อยท่ีสดุ หลีกเลีย่ งการ ผายปอดทมี่ ากเกินไป
เครอ่ื งกระตกุ หวั ใจอตั โนมัติ (Automated External Defibrillator) หรอื AED https://www.youtube.com/watch?v=sJC77bNjLOc
เครอ่ื งกระตกุ หวั ใจอตั โนมัติ (Automated External Defibrillator) หรอื AED https://www.youtube.com/watch?v=sJC77bNjLOc
ขัน้ ตอนการปฏิบตั กิ ารชว่ ยฟนื้ คนื ชีพ 3. ลา้ ดบั การกชู้ พี จาก การนวดหวั ใจ การเปดิ ทางเดินหายใจ การชว่ ยหายใจ (C- A- B)
ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟน้ื คนื ชพี 1. C: Chest compression คอื การนวดหวั ใจภายนอก ท้าในรายทป่ี ระเมิน ภาวะหัวใจหยดุ เต้น โดยการจับชีพที่คอดา้ นขา้ ง (carotid artery) แลว้ ไมพ่ บว่า มีการเตน้ ของชพี จร (สา้ หรบั บคุ ลากรทางการแพทย์เท่านัน้ ) กจ็ ะช่วยใหม้ ีการ ไหลเวียนของเลือดโดยการกดนวดหัวใจภายนอก - กดให้กระดูกหน้าอก (sternum) ลงไปชิดกับกระดกู สนั หลงั กดแรงและกดเร็วอยา่ งนอ้ ย อตั รา 100-120 ครงั้ ตอ่ นาทใี นผใู้ หญ่ กดลกึ อยา่ งนอ้ ย 2 นิ้ว หรอื 5 เซนติเมตร
หยดุ น้อยท่สี ดุ ใหก้ ดใหต้ อ่ เน่อื งและควรรอ้ งเรียกผ้มู าชว่ ย กดโดยอาจเปลยี่ นผกู้ ดทกุ ๆ 2 นาทีเพือ่ ความสม้่าเสมอ
ข้ันตอนการปฏิบตั กิ ารชว่ ยฟน้ื คนื ชพี 2. A - Airway : หมายถึง การเปิดทางเดินหายใจใหโ้ ล่ง ซ่งึ เป็นการปฏบิ ัตกิ าร ข้ันแรก ท่ตี ้องท้าอย่างรวดเรว็ เพราะเนือ่ งจากโคนล้นิ และกลอ่ งเสียงมกี ารตกลงไป อดุ ทางเดินหายใจส่วนบนในผ้ปู ว่ ยทหี่ มดสติ ดังนั้นจึงตอ้ งมกี ารเปดิ ทางเดนิ หายใจ ให้โล่ง โดยการดดั คางขึน้ ร่วมกับการกดหน้าผากให้หน้าแหงนเรียกว่า \"head tilt chin lift\"
ขั้นตอนการปฏิบัตกิ ารชว่ ยฟนื้ คืนชพี 3. B: Breathing คอื การช่วยหายใจ เนอ่ื งจากการหายใจหยดุ รา่ งกายจะมอี อกซิเจน คงอยู่ในปอดและกระแสเลือด แต่ไม่มีส้ารองไว้ใช้ • ท้าไดห้ ลายวิธี คอื ด้วยการเปา่ ปาก (mouth to mouth) เป่าจมกู (mouth to nose) และวิธกี ารกดหลงั ยกแขนของโฮลเกอร์-นลิ สนั (back pressure arm lift or Holger - Nielsen method)
การจดั ทา่ ผูป้ ว่ ยหลงั ปฏิบัตกิ ารช่วยฟน้ื คนื ชพี • ท่าพักฟนื้ (recovery position) ช่วยปอ้ งกนั ลิ้นตกไปอดุ ก้นั ทางเดินหายใจ ชว่ ยให้นา้ ลายหรือเสมหะไหลออกจากปากได้ ท้าใหป้ ลอดภยั จากการสดู ส้าลกั 1. นง่ั คุกเขา่ ข้าง ๆ ผ้ปู ว่ ย ท้า head tilt chin lift เหยียดขาผปู้ ว่ ยให้ตรง จับแขนดา้ น ใกลต้ วั งอและหงายมอื ขนึ้ ดังภาพ 2. จบั แขนดา้ นไกลตวั ข้ามหนา้ อกมาวางมอื ไว้ทแ่ี กม้ อกี ขา้ งหนง่ึ
การจัดทา่ ผปู้ ว่ ยหลงั ปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟ้ืนคนื ชพี 3. ใชแ้ ขนอกี ข้างหนง่ึ จบั ขาไว้ ดงึ พลกิ ตวั ผปู้ ว่ ยใหเ้ ขา่ งอขา้ มตวั มาดา้ นท่ีผ้ปู ฏบิ ตั อิ ยู่ ให้ผูป้ ว่ ยอยูใ่ นทา่ ตะแคง 4. จบั ศรี ษะแหงนเล็กนอ้ ย เพื่อเปดิ ทางเดนิ หายใจใหโ้ ลง่ ปรบั มอื ใหอ้ ย่ใู ตแ้ กม้ และจดั ขาใหง้ อเลก็ น้อย
อนั ตรายของการทา้ CPR ไมถ่ กู วธิ ี 1. วางมอื ผดิ ตา้ แหนง่ ทา้ ให้ซี่โครงหกั xiphoid หัก กระดูกท่ีหักทิ่มโดนอวัยวะส้าคญั เช่น ตับ ม้าม เกดิ การตกเลือดถึงตายได้ 2. การกดดว้ ยอัตราเรว็ เกนิ ไป เบาไป ถอนแรงหลังกดไม่หมด ท้าให้ปรมิ าณเลือดไป ถงึ อวยั วะตา่ งๆ ทส่ี ้าคญั ได้นอ้ ย ท้าใหข้ าดออกซเิ จน
อันตรายของการทา้ CPR ไมถ่ ูกวธิ ี 3. การกดแรงและเร็วมากเกนิ ไป ทา้ ให้กระดกู หนา้ อกกระดอนข้ึน ลงอย่างรวดเรว็ หัวใจชา้ เลือดหรือกระดกู หักได้ 4. การกดหนา้ อกลกึ เกนิ ไป ท้าให้หวั ใจชอกชา้ ได้ 5. การเปิดทางเดนิ หายใจไม่เต็มท่ี เปา่ ลมมากเกนิ ไป ทา้ ใหล้ มเข้ากระเพาะอาหาร เกิดทอ้ งอดื อาเจียน ลมเข้าปอดไมส่ ะดวก ปอดขยายตัวไมเ่ ต็มที่
- ความหมายของอบุ ตั เิ หตกุ าร ปฐมพยาบาล - ปฏบิ ัติการชว่ ยฟน้ื คนื ชพี การปฐม - หลกั การปฐม (Cardiopulmonary พยาบาล พยาบาล resuscitation) - การปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ยในกรณตี า่ งๆ ไดแ้ ก่ จมน้า สิง่ แปลกปลอมเขา้ สรู่ า่ งกาย มีไข้ ไดร้ บั สารพษิ บาดแผล ข้อ เคล็ด กระดกู หกั ชัก งูกัด ไฟดดู เลือดกา้ เดาออก เป็นลม หมดสติ โรคลมปจั จบุ นั หรอื โรคหลอดเลอื ดสมอง
Search