54 บทท่ี 5 การดูแลสขุ ภาพทางเพศ การวางแผนครอบครัวและการคมุ กำเนิด วตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. เพือ่ ใหน้ สิ ิตมคี วามรู้และความเข้าใจเก่ยี วกับการดูแลสุขภาพทางเพศ โรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ การ วางแผนครอบครัวและการคมุ กำเนิด 2. เพือ่ ให้นิสติ สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ นการดแู ลสขุ ภาพทางเพศ ป้องกนั โรคติดต่อทาง เพศสัมพนั ธ์ วางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิดได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม วธิ กี ารสอน/กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. การบรรยาย/ซักถาม 2. ใช้ส่ือ/ คลปิ สถานการณ์ความรู้ทเี่ ปน็ ปจั จบุ ัน อภปิ รายสรปุ ร่วมกนั ในชน้ั เรยี น 3. คำถามท้ายบท/ใบงาน การประเมนิ ผล 1. การประเมินความรจู้ ากการสอบปลายภาค 2. การตอบคำถามท้ายบท/ใบงาน 3, การมสี ่วนรว่ มทำกจิ กรรมในชัน้ เรยี น เนื้อหา 1.การดแู ลสุขภาพทางเพศและโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์ 2.การวางแผนครอบครวั และการคมุ กำเนิด
55 แนวคิด ในปัจจบุ ัน สถานการณโ์ รคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์และการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ จากพฤตกิ รรมเสยี่ ง ทางเพศในวัยรนุ่ นบั เปน็ ปัญหาสุขภาพทางเพศที่สำคัญย่ิง ดงั นั้น เน้อื หาในหนว่ ยที่ 5 นี้ ประกอบดว้ ย สว่ นที่ 1. การดูแลสุขภาพทางเพศ สถานการณโ์ รคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ และโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธท์ ่ี สำคญั ในปจั จุบัน และ ส่วนท่ี 2. การวางแผนครอบครวั และการคุมกำเนดิ เพอ่ื ให้นิสิตมคี วามรู้ความเขา้ ใจและ สามารถความรูน้ ำไปใชป้ ระโยชน์ในการดูแลสุขภาพทางเพศของตนเองเพื่อสรา้ งเสรมิ สุขภาวะทางเพศ ลด ภาวะท่ีจะนำไปสูก่ ารมเี พศสัมพนั ธ์ทไี่ ม่ปลอดภยั และการเกิดโรค สามารถวางแผนครอบครัวและรู้จกั วธิ ีการ คุมกำเนิดท่ีเหมาะสม ตลอดจนป้องกันการเกิดผลกระทบจากการมีเพศสัมพนั ธท์ ี่ไม่ปลอดภยั ด้วย 1. การดแู ลสุขภาพทางเพศและโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์ 1.1 การดูแลสขุ ภาพทางเพศ แผนงานสรา้ งเสรมิ สุขภาวะทางเพศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพ หรอื สสส. (2551) อธิบายกรอบแนวคิดและความหมายของสุขภาวะทางเพศ โดยได้นำแนวคิดที่เก่ียวข้องประเดน็ เรือ่ ง เพศมาใชเ้ ป็นกรอบแนวคิดทฤษฎี ดงั แผนภูมิตอ่ ไปน้ี ประเดน็ เพศวถิ ี: ชดุ ความคดิ ความเช่ือและการแสดงออกทาง เพศ/พฤตกิ รรมทางเพศ แนวคดิ เพศภาวะ: การสร้างความ แนวคดิ สทิ ธิมนษุ ยชน เป็นหญิงเป็นชายโดยวฒั นธรรม กรอบแนวคิดเหลา่ น้มี คี วามเช่ือมโยงกนั อยา่ งมีนัยสำคัญต่อการสร้างเสรมิ สขุ ภาวะทางเพศ กลา่ วคือ ในการลดปจั จยั เสี่ยงเรือ่ งเพศสมั พันธ์ทไี่ มป่ ลอดภัยหรอื การสรา้ งเสริมสุขภาวะทางเพศนั้นจำเปน็ ตอ้ ง ดำเนนิ การโดยคำนึงถึงความแตกตา่ งหลากหลายของวิถที างเพศของคนในสังคม ต้องคำนงึ วา่ ชีวติ ทางเพศของ คนในสังคมเปน็ สิ่งทีไ่ ด้รบั อิทธิพลจากระบบความเช่ือและคุณค่าหลายระบบ และที่มอี ิทธิพลมากคอื ระบบความ เชื่อและคุณค่าทเี่ กี่ยวข้องกบั วฒั นธรรมความเปน็ ผ้หู ญิง/ความเป็นผู้ชาย ตอ้ งคำนึงวา่ ความแตกต่าง
56 หลากหลายเหลา่ นี้ ไม่ใชส่ ิ่งผิดปกตแิ ละสามารถแปรเปลย่ี นตามกาลเวลาและประสบการณใ์ นชีวิต และตอ้ ง คำนึงวา่ เร่อื งเพศเป็นองค์ประกอบพน้ื ฐานของการใช้ชีวิต การเคารพสทิ ธทิ างเพศของตนเองและผู้อน่ื เปน็ ส่วน หนง่ึ ของการเคารพศักด์ศิ รีความเป็นมนษุ ย์ และเป็นความจำเป็นสำหรับคนทุกเพศทุกวยั ทีจ่ ะทำให้สามารถใช้ ชีวติ อยา่ งมีความสุขและสุขภาพดี นอกจากน้ี แผนงานสร้างเสริมสขุ ภาวะทางเพศ สสส. (2551) ได้กำหนด กรอบความหมายของสขุ ภาวะทางเพศ สอดคล้องกับแนวคิดขององค์การอนามัยโลก (WHO, 2004 : 2001) โดยแบ่งออกเปน็ 2 ระดบั คือ สขุ ภาวะทางเพศระดบั บคุ คลและระดบั สังคม ดงั น้ี สขุ ภาวะทางเพศระดับบคุ คล หมายถึง การท่ีบุคคลมคี วามคิดเชิงบวกต่อเรื่องเพศและสัมพนั ธภาพ ทางเพศ สามารถแสดงออกทางเพศและตัดสินใจด้วยตนเองโดยอิสระและไม่เบียดเบียนผู้อ่นื มีความเคารพต่อ วิถที างเพศทีแ่ ตกตา่ งจากตน มสี ัมพนั ธภาพทางเพศที่ปลอดภัยและมคี วามพึงพอใจ โดยปราศจากการบงั คบั การเลือกปฏบิ ัติ และความรนุ แรง สขุ ภาวะทางเพศระดับสังคม หมายถงึ การทสี่ ังคมมีองคป์ ระกอบท่ีสรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะทางเพศของ คนในสังคมนน้ั ประกอบด้วย การมรี ัฐบาลท่ีตระหนกั วา่ สขุ ภาวะทางเพศเป็นสิทธิพน้ื ฐานของบุคคลและแสดง ความรับผิดชอบทีจ่ ะสนับสนนุ สขุ ภาวะทางเพศ โดยกำหนดนโยบายและกฎหมายทีค่ ้มุ ครองสทิ ธิทางเพศของ พลเมอื งอย่างชัดเจน การใหก้ ารศึกษาเรอ่ื งเพศทเ่ี หมาะสมกบั วยั และเพศตลอดช่วงอายุ การมีโครงสร้าง พืน้ ฐานทเี่ พียงพอต่อการให้บรกิ ารทางสงั คมและสขุ ภาพ การศกึ ษาวจิ ยั และระบบเฝา้ ระวงั ทีร่ อบด้านและ เพียงพอใหเ้ กิดการป้องกนั ปัญหาสุขภาพอย่างเหมาะสมและเป็นสังคมทีม่ วี ฒั นธรรมแบบเปดิ และให้ ความสำคญั แกส่ ุขภาวะทางเพศของสมาชิกในสงั คม การดแู ลสขุ ภาพทางเพศเพ่อื ใหม้ ีสขุ ภาวะทางเพศ จึงมคี วามสำคญั ในการใช้ชีวติ อยา่ งมีความสุข ปราศจากโรค ตระหนักถึงความสำคญั ท่จี ะเรยี นรู้เรื่องเพศ ทำความเข้าใจธรรมชาติทางเพศ มีการปฏิบัติตัว และมสี มั พันธภาพอย่างเหมาะสมกบั บุคคลตา่ ง ๆ ในสถานการณต์ ่าง ๆ ท่สี อดคล้องกับวถิ ีชวี ิตของตนเอง ร้เู ท่าทนั เคารพสทิ ธิซงึ่ กนั และกนั และมคี วามรับผิดชอบต่อพฤติกรรมทางเพศของตนเอง อนั จะนำไปส่สู ขุ ภาวะ ทางเพศ 1.2 สถานการณโ์ รคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ สำนักโรคเอดส์ วณั โรค และโรคติดตอ่ ทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ (2558) สรปุ สถานการณโ์ รคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธ์ท่ัวโลก จากรายงานขององคก์ ารอนามัยโลก ปี พ.ศ. 2551 พบว่า มี ผปู้ ว่ ยโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธท์ ั้งหมด 498.9 ล้านราย โดยพยาธชิ ่องคลอดมีจำนวนผู้ป่วยสงู เป็นอนั ดับ 1 ขณะที่โรคอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มอัตราปว่ ยสงู ขนึ้ เช่นกนั สอดคล้องกบั รายงานสถานการณ์แนวโนม้ โรคติดตอ่ ทาง เพศสัมพันธ์ของศูนย์ควบคมุ โรคประเทศสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention; CDC) พบวา่ ในปี พ.ศ. 2556 พบว่ามผี ปู้ ่วยหนองในเทียม คิดเปน็ 446.6 ต่อประชากรแสนคน หนองใน 106.1 ตอ่ ประชากรแสนคน และซิฟลิ สิ 5.5 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งซฟิ ิลสิ เพ่ิมขน้ึ ถงึ รอ้ ยละ 10 เม่ือ เปรียบเทยี บกับปี พ.ศ. 2555 และสำหรบั สถานการณโ์ รคติดตอ่ ทางเพศสัมพันธ์ในประเทศไทย จากรายงาน ของสำนักระบาดวทิ ยา กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า อตั ราปว่ ยมีแนวโน้มลดลงจากอัตราป่วย
57 19.49 ตอ่ ประชากรแสนคนในปี 2552 เป็น 18.63 ต่อประชากรแสนคนในปี 2556 เม่ือจำแนกรายโรคพบว่า หนองในเป็นโรคท่ีพบบ่อยท่สี ุด 10.42 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาไดแ้ ก่ ซิฟลิ สิ 3.67 ต่อประชากรแสนคน หนองในเทยี ม 3.07 ต่อประชากรแสนคน แผลรมิ อ่อน 0.94 และกามโรคของต่อมน้ำเหลืองและท่อน้ำเหลือง 0.54 ตามลำดบั (กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, 2557) จะเหน็ ได้วา่ สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธย์ ังคงเป็นปญั หาสำคัญของประเทศไทย เพราะการ ติดโรคทางเพศสัมพันธน์ ัน้ ได้ช้ีใหเ้ หน็ ถงึ การมเี พศสัมพนั ธท์ ่ไี มป่ ลอดภยั ซ่ึงเปน็ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการตดิ เช้อื และการแพรร่ ะบาดของการตดิ เชอื้ เอชไอวี/เอดส์ ซง่ึ เป็นโรคท่ที ำใหเ้ กิดการสูญเสยี ทางเศรษฐกิจและสงั คม ของประเทศไทยเปน็ อย่างมาก พบว่า ผู้ปว่ ยโรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธจ์ ะมีโอกาสติดเช้ือเอชไอวีจากการมี เพศสัมพนั ธท์ ีไ่ ม่ปลอดภยั มากกว่าผทู้ ่ีไม่ปว่ ยดว้ ยโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ประมาณ 3-5 เทา่ และทสี่ ำคัญคือ พบผู้ปว่ ยสงู ทส่ี ดุ อยใู่ นกลุม่ อายุ 15-24 ปี ซึง่ เป็นเยาวชนและอยูใ่ นวัยเรยี นในสัดสว่ นท่ีมากท่สี ุดและยังคงมี แนวโน้มสูงขน้ึ ต่อไป ดงั น้ัน การดแู ลรักษาและการป้องกันควบคมุ โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธจ์ งึ เป็นเรือ่ งสำคัญ ทจ่ี ะช่วยลดการแพรก่ ระจายเช้ือเอชไอวีได้อีกทางหนึง่ (สำนกั โรคเอดส์ วัณโรค และโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, 2558) 1.3 โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ (Sexually transmitted infections; STIs) เกิดจากการติดต่อผ่านทาง เพศสมั พันธ์ ไมว่ ่าจะเปน็ การร่วมเพศทางชอ่ งคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก กบั ผูท้ เ่ี ปน็ โรคหรือผู้ติดเชอ้ื โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคหลัก ได้แก่ ซฟิ ิลิส หนองใน กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง หนองในเทียม และแผลรมิ อ่อน สว่ นโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธอ์ นื่ ๆ ไดแ้ ก่ เริมท่ีอวยั วะเพศและทวารหนัก หดู อวยั วะเพศและ ทวารหนกั พยาธชิ ่องคลอด (สำนกั โรคเอดส์ วณั โรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวง สาธารณสุข, 2558) ซง่ึ STIs สามารถติดต่อจากบุคคลหน่ึงไปสบู่ คุ คลอ่ืนๆโดยการมีเพศสมั พนั ธท์ ี่มภี าวะเสีย่ ง หรอื ไม่ใช้ถุงยางอนามัย และมกั พบว่ามอี าการเหลา่ น้ีหลังการมีเพศสัมพนั ธท์ เี่ ส่ยี งแลว้ ได้แก่ มปี ัสสาวะแสบขดั มีหนองหรือมกู ปนหนอง มผี ืน่ แผล ฝี หรอื ตุ่มขน้ึ บรเิ วณอวัยวะเพศ มีมูกใสไหลออกมาหลงั การมเี พศสมั พันธ์ หรอื มขี าหนีบบวม ซ่ึงเปน็ อาการท่ีสงสยั ไดว้ ่าอาจตดิ โรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธแ์ ล้ว โดยในหนว่ ยนี้จะอธิบาย สาระสำคญั ของโรคติดต่อทางเพศสมั พันธ์ 5 โรคหลัก ได้แก่ ซฟิ ิลสิ หนองใน กามโรคของตอ่ มและท่อน้ำเหลือง หนองในเทยี มและแผลรมิ อ่อน รวมทง้ั การตดิ เชอ้ื เอชไอวี/เอดส์ (1) ซิฟิลิส (Syphilis) เกิดจาก: เช้อื แบคทเี รีย ทริพโพนิมา พอลลดิ ัม (Treponema pallidum) อาการ: ในผู้ชาย มแี ผลที่อวัยวะเพศ มีผืน่ ขึ้นทัว่ ตวั ฝ่ามอื ฝา่ เทา้ หากไมไ่ ด้รบั การรกั ษาโรคจะลกุ ลาม ทำลายอวัยวะสำคัญของรา่ งกาย เชน่ หวั ใจ หลอดเลอื ด สมอง กระดูก ทำใหพ้ ิการและตายได้ ในผู้หญงิ ปสั สาวะขัด และเจ็บอวยั วะเพศขณะรว่ มเพศ แบ่งออกเป็น 3 ระยะโรค
58 ระยะแรก: สังเกตได้จากการมีแผล อาจเปน็ แผลเดี่ยวหรอื หลายแผลได้ ระยะเวลาต้ังแต่ตดิ โรคจนเกดิ อาการใชเ้ วลานาน 10-90 วนั แผลไม่นม่ิ กลม ขนาดเล็ก ไม่เจ็บ ขอบยกนูนแข็ง เรียกแผลริมแข็ง โดยแผลท่ี เกดิ นน้ั จะมีเชอื้ ทีเ่ ขา้ สู่รา่ งกาย และแผลจะอยูน่ าน 3-6 สปั ดาห์ หลังจากนัน้ จะหายไปเองโดยไมร่ กั ษา แม้ไดร้ บั การรักษาแตร่ กั ษาไมถ่ ูกตอ้ ง รักษาไม่ครบกจ็ ะเข้าส่ซู ิฟิลิสระยะทีส่ อง ระยะทส่ี อง: จะมผี ่นื ตามผวิ หนงั และเย่ือบุ ผื่นเกดิ ตามร่างกายหน่ึงหรือสองแหง่ ไม่คัน อาจเกิดขณะท่ี แผลที่ริมแขง็ กำลงั จะหายหรือหลงั จากหายไปแล้ว 2-3 สปั ดาห์ ผ่นื มลี กั ษณะสแี ดง หรือจดุ น้ำตาลแดง อาจ เกิดที่ฝ่ามือ และฝา่ เท้า แต่ผืน่ อาจเกดิ บริเวณอืน่ และมลี กั ษณะคล้ายโรคอ่นื บางครั้งผืน่ เป็นจางๆ ทำให้ไม่ได้ สังเกต อาการอืน่ ทีอ่ าจเกดิ ได้แก่ มไี ข้ ต่อมนำ้ เหลืองโต เจบ็ คอ ผมรว่ งเปน็ หย่อมๆ ปวดศีรษะ น้ำหนักลด ปวด กล้ามเนือ้ ไมม่ ีแรง อาการของระยะนจี้ ะหายได้เอง ระยะแฝง และระยะสดุ ท้าย: ระยะแฝงเร่ิมต้นหลังจากอาการระยะหน่ึงและระยะทีส่ องผ่านไปแล้ว หากไม่ไดร้ บั การรักษาเชอื้ จะยงั คงอยู่ในร่างกายแม้จะไม่แสดงอาการ ระยะแฝงของซิฟิลสิ จะอยูน่ านหลายปี ส่วนหนงึ่ จะเข้าระยะสดุ ทา้ ยของโรคซิฟลิ สิ และแสดงอาการโดยเชอ้ื จะค่อยๆ ทำลายอวยั วะภายใน ไดแ้ ก่ สมอง เส้นประสาทตา หวั ใจ เส้นเลือด ตบั กระดูก ข้อ อาการและอาการแสดงของโรคระยะท้ายอาจมีตง้ั แตก่ าร เคล่อื นไหวของกลา้ มเน้ือไมส่ ัมพันธก์ นั อัมพาต ชา ตาบอด สมองเสอ่ื ม และอาจรุนแรงจนถงึ ขนึ้ เสียชีวติ (2) หนองใน (Gonorrhea) เกิดจาก: เชื้อแบคทเี รีย นิสเซอร์เรยี โกโนเรีย (Neisseria gonorrhoeae) อาการ: ในผ้ชู าย ปัสสาวะขัด แสบ พบมีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ เปน็ ฝีทอ่ี วยั วะเพศ หรืออัณฑะ อกั เสบ ในผ้หู ญงิ ตกขาวมีกลนิ่ เหม็น ไมค่ นั มีอาการอักเสบท่ที ่อปัสสาวะ ปากมดลูกและทวารหนกั (3) กามโรคของตอ่ มและท่อนำ้ เหลืองหรือเรยี กว่าโรคฝีมะมว่ ง (Lymphogranuloma Venereum: LGV) เกดิ จาก:เชอื้ แบคทเี รีย คลามัยเดีย แทรคโคโมติส (Chlamydia trachomotis) อาการ: ในผ้ชู าย จะมตี ุ่มหรอื แผลตืน้ ๆเป็นแผลเจบ็ เกดิ ข้นึ ที่อวยั วะเพศ ตอ่ มนำ้ เหลอื งท่ีขาหนบี จะ บวม (4) หนองในเทียม (Nongonococcal urethritis) เกดิ จาก: ส่วนใหญเ่ กดิ จาก เชอื้ แบคทเี รยี คลามยั เดีย ทราโคโมตสิ (Chlamydia trachomatis) ถึง รอ้ ยละ 50 ของจำนวนท่ีเป็นโรคหนองในเทียมท้ังหมด อาการ: ในผ้ชู าย แสบท่ีปลายท่อปัสสาวะ ปสั สาวะขดั มหี นองไหล หนองมกั เป็นมุกใสๆหรอื มกู ขุน่ คันท่อปัสสาวะ ในผ้หู ญงิ สว่ นมากไม่มีอาการ สว่ นน้อยมอี าการตกขาว (5) แผลริมอ่อน (Chancroid)
59 เกดิ จาก: เชอื้ แบคทีเรีย ฮีโมฟิลสั ดูคริอัย (Haemophilus ducreyi) อาการ: ในผชู้ าย จะมีตุ่มหนองเกิดข้ึนทีอ่ วัยวะเพศ มีต่อมน้ำเหลอื งทขี่ าหนีบบวมเป็นฝี ในผู้หญิง ตกขาว ปัสสาวะขดั หรือเจบ็ เวลาร่วมเพศ (6)การติดเชือ้ เอชไอว/ี เอดส์ (HIV/: AIDS) การติดเช้อื เอชไอวี/เอดส์ (Human Immunodeficiency Virus: HIV/ Acquired Immunodeficiency Syndrome: AIDS) กอ่ ให้เกิดสภาวะภมู คิ ุ้มกันบกพร่องในมนุษย์ ถ่ายทอดจากบุคคล หน่งึ ไปสูบ่ ุคคลหนง่ึ โดยเพศสัมพันธ์ ถงึ ร้อยละ 80 สว่ นหนึ่งตดิ จากการใช้เขม็ ฉดี ยาร่วมกัน การให้เลือด การ ปลูกถ่ายอวยั วะ การผสมเทยี ม จากแม่สลู่ ูกขณะตง้ั ครรภแ์ ละระยะให้นมบตุ ร เกดิ จาก: เช้ือไวรสั เอชไอวีไวรัส (HIV Virus) อาการ: ระยะตดิ เชื้อทไ่ี ม่ปรากฏอาการ แบ่งไดเ้ ป็น 2 ระยะคือ 1. ระยะแรกของการติดเชอ้ื HIV (acute retroviral syndrome) เป็นชว่ งระยะประมาณ 2-6 สัปดาห์ ในระยะน้ีอาจจะพบอาการ มีไข้ ปวดเม่ือยกล้ามเน้ือ และอ่อนเพลยี อาจมีต่อมนำ้ เหลืองโตบรเิ วณคอ รกั แร้ เจบ็ คอแต่ไม่มเี สมหะ มีผนื่ ขึ้นผวิ หนงั ตามลำตวั เบอ่ื อาหาร อจุ จาระรว่ ง อาการจะหายไปเมอื่ ระดับของ แอนตบิ อดี (antibody) ต่อเชื้อ HIV เรมิ่ สงู ขึ้น ในระยะน้จี ะตรวจไมพ่ บ anti-HIV ในเลอื ด ซ่ึงเรยี กวา่ window period จะใชเ้ วลาประมาณ 2-3 เดอื น 2. ระยะทีส่ องเปน็ ระยะตดิ เช้ือท่ไี ม่ปรากฏอาการแตผ่ ลการตรวจเลอื ดและนำ้ ลายใหผ้ ลบวกต่อ anti- HIV ระยะมีอาการของโรคเอดส์ อาจเรม่ิ มีอาการติดเชื้อราในช่องปากและลำคอ ต่อมนำ้ เหลืองโตบริเวณ รักแร้ คอ ขาหนบี เกดิ อาการงูสวดั หรอื แผลลุกลาม มีอาการเร้อื รังตา่ งๆ เช่น อุจจาระร่วงเรื้อรงั มไี ขไ้ มท่ ราบ สาเหตุ นำ้ หนักลด มักมีอาการเรือ้ รงั เกิน 1 เดือน และมีการติดเชอ้ื ฉวยโอกาส เชน่ โรคปวดบวมจากเชื้อนวิ โมซิ สตสิ คารนิ ิไอ (Pneumocystis carinii) วณั โรคท่ดี ้ือต่อยาปฏชิ ีวนะ รวมท้งั โรคเยอื้ หุม้ สมองอกั เสบจากเชื้อรา เป็นต้น ขน้ั น้ีเรยี กวา่ มีอาการเอดส์ เน่อื งจากไวรัสเอชไอวีจะทำลายสุขภาพอย่างชา้ ๆ คนท่ีตดิ เชอ้ื จงึ อาจไมม่ ี อาการเป็นเวลาถึง 10 ปี หรืออาจนานกว่านั้น ซึ่งเมอ่ื ถึงขน้ั อาการโรคเอดส์ ผูป้ ่วยมักจะเสยี ชวี ิตภายในเวลา 2-4 ปี การรกั ษาเบื้องตน้ และแนวทางการป้องกันสำหรับโรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธ์ มีความสำคัญตอ่ การ หยุดย้งั การแพร่กระจายเชือ้ สามารถอธิบายสาระสำคญั ดังนี้ การรกั ษาเบื้องต้น: ผทู้ ่ีมเี พศสมั พนั ธท์ เี่ สีย่ ง ควรตระหนกั ถึงอนั ตราย และมีการใสใ่ จตนเอง สังเกตอาการผดิ ปกตไิ ดเ้ รว็ คอื หลังจากเริม่ มีอาการสงสัย ให้รบี ไปพบแพทย์ เนน้ ตรวจเรว็ รกั ษาเรว็ โดยการรกั ษามีแนวทางดังนี้
60 1.เนื่องจากการใช้ยา ตอ้ งระมัดระวังอยา่ งมาก จงึ ไม่ควรซ้อื ยารบั ประทานเอง อาจเกดิ ภาวะแทรกซ้อนจนยากจะเยียวยาได้ 2.ควรไปพบแพทยเ์ พื่อรับการตรวจวนิ ิจฉัยเพิม่ เตมิ และไดร้ ับแนวทางการดูแลรักษาโรคติดตอ่ ทาง เพศสัมพนั ธอ์ ยา่ งถกู ต้อง ท้ังผตู้ ดิ เชือ้ และคู่เพศสัมพันธ์ และต้องรับยา (ยาปฏชิ ีวนะ ยาฆ่าเช้ือรา ยาตา้ นไวรัส ฯลฯ) และมารับการรกั ษาอย่างตอ่ เนื่อง 3.ควรขอรบั การใหค้ ำปรึกษาเร่ืองโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ เพอื่ จะไดป้ ฏบิ ตั ติ ัวในการดูแลตนเอง การ ปรับเปลย่ี นพฤติกรรม และมีเพศสัมพนั ธท์ ่ปี ลอดภยั แนวทางการปอ้ งกัน เนอื่ งจากเป็นโรคท่ีติดต่อจากบคุ คลหนง่ึ ไปยังบคุ คลอืน่ ไดโ้ ดยการมเี พศสัมพนั ธเ์ ปน็ หลกั และอาจมี ชอ่ งทางอนื่ ที่สัมผสั สิง่ คัดหลั่ง บาดแผล เลอื ด ฯลฯ การป้องกนั สามารถทำไดโ้ ดย: 1. ไม่ควรมีเพศสมั พนั ธ์กบั หญิง/ชายขายบริการ เปล่ยี นคูน่ อน/พฤตกิ รรมส่ำส่อนทางเพศ หากเลย่ี ง ไมไ่ ด้ ควรป้องกันโดยใชถ้ ุงยางอนามยั หรือวธิ กี ารทป่ี ลอดภยั ทุกคร้งั ในการมีเพศสัมพันธ์ทุกชอ่ งทาง หากไม่ แน่ใจในคเู่ พศสัมพันธข์ องตนเอง 2. หลงั มีเพศสมั พันธท์ ่เี สี่ยง หากมีอาการสงสยั ควรรบี ไปพบแพทย์เพ่อื รบั การตรวจวนิ ิจฉัยโดยเรว็ 3. พาค่เู พศสมั พนั ธ์ไปรับการตรวจรักษาโดยเร็ว 4. พบแพทยต์ ามนัดทกุ คร้ังและปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำของแพทย์ 5. งดการมีพฤติกรรมเสยี่ งทางเพศ หรือหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานการณท์ ่ีอาจนำมาส่โู อกาสการมี เพศสมั พนั ธ์ เช่นดมื่ สรุ าหนัก เสพยาเสพติด ถูกล่อลวง เท่ยี วเตร่ อย่สู องต่อสองในสถานทีเ่ ส่ียงถูกล่วงละเมดิ และอนื่ ๆ 6. งดร่วมเพศ หากหลีกเลีย่ งไม่ได้ใหใ้ ช้ถงุ ยางอนามยั ทุกคร้ัง 7. ไมค่ วรซอื้ ยามารับประทานเอง ยารกั ษาควรอยู่ภายใตก้ ารควบคุมของแพทย์ 8. มที ักษะการปฏเิ สธ และรู้เท่าทนั สามารถเอาตวั รอดจากสถานการณเ์ สย่ี งต่อการเกดิ พฤติกรรม เส่ยี งทางเพศ 9. รกั ษาความสะอาดร่างกาย สุขวทิ ยาสว่ นบคุ คลและอวัยวะเพศอย่างสม่ำเสมอ ผลกระทบจากการตดิ โรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ ผู้ติดเชื้ออาจเปน็ หมนั มกี ารถา่ ยทอดจากแม่ส่ลู ูกใน ครรภ์และเป็นเหตทุ ำให้มโี อกาสที่จะรบั เชอ้ื เอชไอวไี ด้ง่าย และเกดิ อันตรายถงึ แก่ชีวติ หากไม่ได้รับการรกั ษาท่ี ถกู ต้อง (สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข,2558; สุวัทนา อารพี รรค, 2550)
61 ปีสขุ ภาวะจากการตายก่อนวัยอนั ควร (Disability-adjust life years :DALYs) DALYs เป็นดัชนวี ัด สขุ ภาพแบบองคร์ วม ไดแ้ ก่ การพิจารณาความสูญเสยี ทีเ่ กดิ จากการตายก่อนวัยอนั ควรและความสญู เสยี จาก การปว่ ยหรือพิการ จากการสำรวจแต่ละครง้ั พบว่า การมีเพศสัมพนั ธท์ ีไ่ มป่ ลอดภัย เป็นปจั จัยเสยี่ งสำคญั อันดับหนงึ่ ท่ีทำให้ประชาชนไทยสูญเสยี ปสี ุขภาวะ และเมื่อปี 2550 รายงานจากสำนกั งานนโยบายสุขภาพ ระหวา่ งประเทศ กระทรวงสาธารณสขุ พบวา่ เมือ่ จำแนกตามสาเหตุ การตดิ เชื้อเอชไอวีและโรคเอดสเ์ ป็น สาเหตุการตายอันดบั หน่งึ ของประชากรทัง้ เพศชายและหญิง โดยคดิ เปน็ รอ้ ยละ 15.9 และรอ้ ยละ 10.6 ตามลำดับ ในวันเอดสโ์ ลก (World AIDS Day) ซงึ่ ตรงกับวันท่ี 1 ธนั วาคม ของทุกปี กรมควบคมุ โรค กระทรวง สาธารณสุขได้รายงานว่า ในปี 2559 ประเทศไทยมีผู้ตดิ เชื้อเอชไอวีรายใหม่ 6,304 คน ทำใหป้ ัจจุบัน มผี ู้ติด เชอื้ เอชไอวีสะสมมจี ำนวน 426,999 คน แนวโน้มของผูต้ ดิ เชอื้ เอชไอวี ซ่งึ สว่ นใหญเ่ ปน็ วยั แรงงาน อายุ 30-34 ปี และรองลงในช่วงอายุ 25-29 ปี ถือวา่ ดีข้ึนมาก เพราะในปจั จบุ นั ประชาชนมีความรู้ในการปอ้ งกันตวั เองให้ ปลอดภยั จากการติดโรคทางเพศสมั พนั ธ์ ผูต้ ิดเชือ้ รายใหม่ของประเทศไทยก็ลดลงเม่ือเทียบกบั เดมิ เพราะว่า ประชาชนมีความร้แู ลว้ ก็ร้จู กั ป้องกนั ตัวเองมากขึน้ วธิ ีการปอ้ งกันกม็ ตี ้งั แต่การใช้ถงุ ยางอนามัย หรอื อ่ืนๆ การท่ี วยั แรงงานเปน็ กลุ่มวัยที่มีตัวเลขผู้ตดิ เช้ือมากทส่ี ุดนั้น ถือวา่ เปน็ สถานการณ์ปกติ เพราะกล่มุ อายนุ เ้ี ป็นกลุ่มท่ีมี เพศสัมพันธ์ โดยสาเหตุการติดเช้อื มาจากการมเี พศสัมพนั ธ์ท่ีไมป่ ลอดภยั มากทส่ี ดุ และสาเหตรุ องลงมาคือ การ ใช้เขม็ ฉดี ยาร่วมกนั ในกลุ่มผใู้ ชย้ าเสพตดิ อย่างไรกต็ าม แม้ประเทศไทยจะมแี นวโนม้ ลดลง แตก่ รมควบคมุ โรค ยงั คงเปน็ หว่ งประชาชน โดยเฉพาะชว่ งวยั รุ่น เพราะกลุ่มวยั รุ่นอาจไม่เขา้ ใจถงึ วิธีป้องกันโรคติดตอ่ ทางเพศท่ี ถกู ต้อง โดยเฉพาะกลมุ่ อายุ 15-20 ปี อาจติดเช้ือทางเพศสัมพันธ์ เชน่ หนองใน เพราะพฤติกรรมอาจต้อง ระวัง เสย่ี งต่อการติดเช้ือเอดสใ์ นอนาคต สำหรับมาตรการป้องกันและแนวทางในการประชาสมั พันธ์ใหป้ ระชาชนตระหนักถงึ ความอนั ตรายของ การตดิ เช้อื เอชไอวี เน้นใหป้ ระชาชนท่มี พี ฤตกิ รรมเสีย่ งตรวจเลอื ด และหากพบว่าตดิ เช้ือใหร้ ีบเข้าสู่ กระบวนการรักษา โดยเน้นหลกั “ตรวจเรว็ รกั ษาเรว็ ยุตเิ อดส์” เพราะจะยตุ ปิ ญั หาเร็วไดก้ ็ตอ้ งเปน็ เรอ่ื งของ คนท่ีคดิ ว่าตัวเองมีความเสย่ี งที่จะตดิ เช้ือเอชไอวี ซง่ึ ในปจั จุบนั การรักษาสามารถรักษาไดใ้ นระดับเม็ดเลอื ดขาว ปัจจุบนั สามารถรักษาได้ตั้งแต่เน่ิน ๆ ซ่ึงถ้ารกั ษาเร็ว ผปู้ ่วยก็จะไม่มีเชื้อไปแพรค่ นอ่ืน หากผตู้ ิดเชื้อเอชไอวเี ข้า สู่กระบวนการรักษาเรว็ และรับยาต้านเชื้อเปน็ ประจำตั้งแต่รับเชอ้ื มาในช่วงแรก กจ็ ะทำให้ผตู้ ดิ เชือ้ สามารถใช้ ชวี ิตปกติใกลเ้ คยี งกบั ผทู้ ี่ไม่ได้ติดเชือ้ ได้ ดังนัน้ หนว่ ยบริการสุขภาพ และโรงพยาบาลทั่วประเทศ จดั บริการ ตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวแี บบทราบผลการตรวจในวนั เดยี ว (Same day result) ภายใน 1-2 ช่วั โมง ซง่ึ ผทู้ ่มี ี บตั รประชาชนเลข 13 หลักทุกคน สามารถรบั การตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ฟรี ปีละ 2 คร้ัง และรับการ รักษาดว้ ยยาตา้ นไวรสั ได้ โดยไม่เสยี คา่ ใชจ้ า่ ย และสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารใช้ยาเพร็พ (PrEP) เป็นทางเลือกหน่ึงที่มี ประสทิ ธภิ าพในการป้องกันการตดิ เชือ้ เอชไอวี พร้อมทั้งให้โอกาสผู้ทีม่ ีอายตุ ำ่ กว่า 18 ปี รับบริการปรกึ ษาและ ตรวจหาการติดเชอ้ื เอชไอวีฟรีได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องขอรับการยนิ ยอมจากผู้ปกครอง (Benarnews, 2016) 2. การวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิด
62 การวางแผนครอบครวั และการคมุ กำเนิดมีความสำคัญอยา่ งมากในการเตรียมความพร้อมที่จะมีการ สร้างครอบครวั ท่ีดี มคี วามราบร่นื ในการใช้ชวี ติ คู่ ทมี่ ีความรักความเข้าใจซ่งึ กนั และกนั มีเป้าหมายและคา่ นยิ ม เหมือนกัน ตลอดจนมีสขุ ภาวะท่สี มบูรณ์ในทุกดา้ น การวางแผนครอบครัว จงึ เป็นการต้งั เป้าหมายเพื่อให้ ครอบครัวมีความพร้อมในดา้ นตา่ ง ๆ ตงั้ แต่การเลือกคคู่ รอง ความพร้อมด้านที่อยู่อาศัยและอาชีพการงาน ความพร้อมในการแต่งงาน การวางแผนทีจ่ ะมบี ุตร การคุมกำเนิด การเวน้ ชว่ งระยะห่างของการมบี ตุ รที่ เหมาะสม เตรียมความพร้อม กำหนดเพศของบตุ ร และการแกไ้ ขปญั หาการมบี ุตรยากหรือการไมม่ บี ุตร เพ่ือ การเปน็ พ่อแม่ทด่ี ีเพ่ือเลย้ี งดูบุตรให้เป็นคนดมี ีคณุ ภาพ ส่งผลต่อความสขุ ความเหมาะสมทางสงั คม เศรษฐกจิ ดงั นัน้ การวางแผนครอบครัว เป็นเครอื่ งมือสำคัญในการ นำพาครอบครวั ให้มีความสุขและเปน็ แหลง่ สรา้ งคนท่ี มีคณุ ภาพของสังคม การวางแผนครอบครัว (Family planning) จึงตอ้ งมกี ารเตรียมตัวกอ่ นสมรส การหาข้อมลู ความรู้ท่ี จำเปน็ การตรวจร่างกายกอ่ นแตง่ งานเปน็ สง่ิ จำเป็นท้งั ชายและหญิง เพ่ือไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความสมั พนั ธ์ ชีวติ ทางเพศ และการมีบตุ ร ท้ังนีห้ ากพบโรคหรอื ความพิการบางชนดิ เปน็ อุปสรรคต่อการรว่ มเพศ การตั้งครรภ์ หรอื การคลอด นอกจากน้ยี ังมีโรคท่ีอาจติดต่อหรือถา่ ยทอดไปถึงทารกในครรภ์อีกดว้ ย (สุวัทนา อารีพรรค, 2550) การคมุ กำเนดิ (Contraception) คือ เทคนิคหรือวธิ กี ารทใี่ ช้ในการปอ้ งกันการตง้ั ครรภห์ รอื ขัดขวาง การตงั้ ครรภ์ โดยอาศัยกลไกในการป้องกนั เชน่ การปอ้ งกันไม่ให้อสุจกิ ับไขเ่ กิดการปฏิสนธิ การป้องกนั ไม่ใหม้ ี การตกไข่ การป้องกนั ไม่ให้มีการฝังตวั อ่อนในโพรงมดลูกของสตรี รวมไปถึงการทำแท้งเพื่อนำตวั ออ่ นออกจาก มดลูก การคุมกำเนดิ จึงเปน็ การวางแผนครอบครวั อยา่ งหนึ่ง การคมุ กำเนิดแบ่งออกเป็น การคมุ กำเนิดแบบ ถาวร และการคุมกำเนิดแบบชัว่ คราว แตล่ ะแบบมหี ลากหลายวธิ ดี งั ต่อไปนี้ 1) การคุมกำเนดิ แบบถาวรหรือการทำหมนั (Permanent contraception or sterilization) เปน็ การคมุ กำเนดิ เพื่อไมป่ ระสงค์จะมีบตุ รอกี ไดแ้ ก่ การทำหมันหญิงและการทำหมันชาย 1.1 การทำหมนั หญิง (Female sterilization or tubal ligation) การทำหมันหญิง เป็นการคมุ กำเนิดถาวรที่ทำโดยการผา่ ตัดเพ่อื ผูกและตัดท่อนำไขท่ งั้ สองขา้ ง (tubal ligation and resection) เพอ่ื ปอ้ งกันไมใ่ ห้ตวั อสุจเิ ดนิ ทางไปปฏสิ นธกิ บั ไข่ในท่อนำไข่ได้ การทำหมันหญงิ มี หลายวิธี แตท่ ่นี ยิ มมี 2 วิธี คอื การผา่ ตัดเข้าทางผิวหนงั หน้าทอ้ ง (minilaporotory method) และการใช้ กล้อง laparoscope (laparoscopic sterilization) แบง่ ไดเ้ ปน็ 2 ระยะ คือ ระยะหลังคลอดและระยะปกติ - ระยะหลงั คลอด (puerperal period) เปน็ การทำผ่าตดั ทำหมนั หลังคลอดใหมๆ่ ซ่ึงอาจจะเป็นการ ผา่ ตดั ทำหมันทันทภี ายหลังคลอดบตุ ร (delivery room tubal sterilization) ซงึ่ จะทำไดง้ ่าย เพราะมดลกู อยู่ สูงที่ระดบั สะดือ แผลผ่าตดั อยทู่ ใี่ ตข้ อบสะดือ ทำให้ทำไดง้ ่าย และไม่มแี ผลเป็น ใชย้ าสลบน้อย เพราะได้รับยา ระงบั ปวดขณะคลอดอยูแ่ ล้ว ส่วนการทำหมันภายหลังคลอดบตุ ร 24-48 ชว่ั โมง (post-partum tubal
63 resection) ยังเป็นช่วงทมี่ ดลูกยังลอยตัวอยู่ และอย่ใู นระดับสะดอื หรือต่ำกว่าเลก็ น้อย ทำใหท้ ำผา่ ตัดได้ สะดวกและขนาดแผลเลก็ นิยมเรียกว่า “หมันเปยี ก” เนื่องจากเปน็ ช่วงหลังคลอดใหม่ๆ ยังมนี ้ำคาวปลาไหล ออกมาจากมดลกู - ระยะปกติ (non-puerperal period/ interval sterilization) เรียกว่าหมนั แหง้ ต้องทำใน โรงพยาบาลจงึ ไมค่ ่อยนิยมทำ 1.2 การทำหมนั ชาย (Male sterilization or vasectomy) การทำหมันชาย เป็นการคมุ กำเนิดดว้ ยการทำให้ทอ่ น้ำอสุจิท้งั สองขา้ งเกิดการอุดตนั หรือตดั ไม่ให้ เช่อื มต่อกัน (vasectomy) ทำให้ตัวอสุจผิ ่านไม่ได้การทำหมันชายเปน็ วธิ ที ท่ี ำได้งา่ ย ปลอดภัยมีประสทิ ธิภาพ สูงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และมอี าการแทรกซอ้ นน้อยมาก การทำหมนั ชายไมใ่ ชก่ ารตอนและไมม่ ผี ลต่อลูก อณั ฑะ และไม่มีผลกระทบต่อความสามารถทางเพศ การทำหมนั ชาย สามารถแยกได้ 2 วิธี คอื การทำหมนั ชายวธิ ดี ้ังเดิม และการทำหมันเจาะ -การทำหมนั ชายวธิ ดี ัง้ เดมิ (conventional technique) เป็นการผ่าตดั ดว้ ยการกรีดผิวหนังท่ี median raphe ยาวไมเ่ กนิ 1 เซนติเมตร แล้วแหวกเน้อื เย่ือรอบๆท่ออสุจิ แล้วผูกและตัดทอ่ นำอสจุ ิเพ่ือ ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้อสจุ ิผ่านได้ -การทำหมันเจาะ (non-scalpel vasectomy technique) เป็นการตดั ท่อนำอสจุ ิแทรกทะลุผิวหนัง ของถุงอัณฑะเพอื่ เขา้ ไปตดั ท่อนำอสจุ แิ ทนการผา่ ตัดดว้ ยการใช้ใบมดี ทำใหเ้ ปน็ แผลเพยี งเลก็ น้อย มี ภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าแบบดงั้ เดิม 2) การคุมกำเนดิ แบบชั่วคราว (Temporary contraception) เป็นการคุมกำเนิดเพื่อเวน้ ระยะ การมีบุตร และสามารถมีบตุ รไดเ้ ม่ือเลิกใชแ้ ล้ว ได้แก่ การคุมกำเนดิ แบบด้งั เดิม/แบบวิธีธรรมชาติ และการ คุมกำเนิดแบบใชย้ าหรืออปุ กรณ์ 2.1 การคุมกำเนิดแบบดั้งเดิม/แบบวิธธี รรมชาติ (Traditional contraceptive methods) ประกอบดว้ ย 2.1.1 การหลัง่ นำ้ อสจุ นิ อกชอ่ งคลอด (Coital interruption) หรือ “หล่งั ภายนอก” (withdrawal) หมายถึง การร่วมเพศกันตามปกติ ฝ่ายชายถอนอวยั วะเพศออกจากช่องคลอดก่อนท่ีจะมีการหลั่งนำ้ อสุจแิ ละ ใหห้ ลงั่ นำ้ อสจุ ิหา่ งจากบรเิ วณอวัยวะสืบพันธภ์ุ ายนอกของฝ่ายหญงิ เพื่อมิใหต้ ัวอสุจเิ ข้าไปในช่องคลอดได้ ประสทิ ธภิ าพของการคมุ กำเนิดวธิ นี จี้ ะตำ่ เน่อื งจากปกติแล้วนำ้ เมือกท่ีชว่ ยหลอ่ ลืน่ ของผู้ชายอาจมตี วั อสจุ ปิ น อย่พู อสมควร และส่วนปลายของทอ่ ปสั สาวะกอ็ าจจะมีตวั อสุจิอย่จู ำนวนไมน่ อ้ ยทรี่ อการขบั ออกนอกร่างกาย
64 2.1.2 การกลนั้ ไมห่ ล่งั นำอสจุ ิ (Coital reservation) หมายถึงการทฝ่ี า่ ยชายควบคมุ ตนเองมิใหห้ ลัง่ นำ้ อสจุ ิ เม่อื ใกลจ้ ะถึงจุดสดุ ยอดจะต้องคอ่ ย ๆ บังคับตนเอง ให้ความตื่นเต้นทางเพศค่อย ๆ ผ่อนคลายลงจนหมด ไป ซ่ึงเปน็ วิธที ที่ ำไดย้ ากและมโี อกาสพลาดสงู 2.1.3 การให้นมบุตรในระยะนานๆ (Prolonged lactation) จะทำให้ช่วงเวลาขาดประจำเดอื นหลงั คลอดบุตร (postpartum amenorrhea) ยาวนานกว่ามารดาผใู้ ห้นมบตุ รในระยะสั้น หรือมารดาท่ไี ม่ไดเ้ ลีย้ ง บุตรดว้ ยนมมารดาเลย การที่ลูกดูดนมทำให้ระดบั ของโปรแลคตนิ กจ็ ะสงู ขน้ึ อยา่ งรวดเร็วและสงู อย่ตู ลอดเวลา ท่ถี ูกกระตนุ้ โดยการดดู ระดบั ของโปรแลคตินทส่ี ูงจะไปยบั ยั้งการหล่ังของฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างไข่ Folicular Stimulating Hormone (FSH) และฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ Lutinizing Hormone (LH) เมื่อ ระดบั ของ FSH และ LH ลดลงจะมีผลทำให้ไม่มีไขต่ กและไม่มปี ระจำเดือน อยา่ งไรกต็ ามขณะท่ีให้นมบตุ รนนั้ ถงึ แม้จะไมม่ ปี ระจำเดอื น แต่กอ็ าจมีไข่ตกได้ ฉะน้ัน การรว่ มเพศในระยะนอี้ าจทำใหต้ ้ังครรภไ์ ด้ 2.1.4 การงดรว่ มเพศบางชว่ งเวลา (Periodic sexual abstinence) เป็นการงดรว่ มเพศในชว่ งเวลาที่ จะตัง้ ครรภ์ได้ (fertile period) หรอื วันที่มีการตกไขข่ องแตล่ ะรอบประจำเดือน หลกั สำคญั ของวิธีการ คุมกำเนิดแบบน้ีคือการหาวันท่มี ีการตกไข่ทแ่ี น่นอน เหมาะกับผู้ทม่ี ปี ระจำเดือนอยา่ งสม่ำเสมอ สามารถคาด ระยะเวลาทจ่ี ะเป็นประจำเดือนคร้ังตอ่ ไปไดอ้ ย่างแมน่ ยำ ในหนว่ ยน้ีจะกลา่ วถึงวธิ ีดังตอ่ ไปนี้ (1) การคำนวณระยะปลอดภยั จากบันทกึ ประจำเดือน หรือวิธีนบั วนั (Calendar method, Calendar rhythm, Ogino-Knaus method) ต้องมปี ฏิทินประจำตัว เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก เหมาะกบั ผ้หู ญิงทีม่ ีประจำเดอื นสม่ำเสมอ (28 วัน) แต่ชว่ งไข่ตกก็ต้องใชว้ ธิ ีอน่ื คมุ กำเนิด การมเี พศสัมพนั ธ์ช่วงเจด็ วัน แรกของการมีประจำเดอื นและในชว่ งเจ็ดวันก่อนมีประจำเดือนรอบถัดไป จะมโี อกาสต้งั ครรภ์นอ้ ยกวา่ ช่วง ระยะเวลาอนื่ ๆ (2) วธิ ีวดั อุณหภูมิของรา่ งกายหลังตืน่ นอน (Basal body temperature: BBT) ควรทำตดิ ต่อกัน ล่วงหน้า 2-3 เดือนเหมาะกบั ผู้มีบุตรยาก วัดอุณหภูมิร่างกายขณะต่ืนนอนตอนเชา้ หลงั หลบั สนิทติดต่อกัน อย่างน้อย5ชม. ควรวดั เวลาเดียวกันทกุ วนั นำมาplot กราฟทกุ วนั แลว้ แปลผล เม่อื มกี ารตกไขร่ ่างกายจะมี ระดับฮอรโ์ มนเอสโตรเจนสงู ที่สดุ จะมีอุณหภูมิร่างกายลดต่ำสดุ กอ่ นไข่ตกจะมีอุณหภมู ิร่างกายต่ำ และต่ำสุด เมอ่ื ไขต่ ก หลงั ไขต่ กจะสงู ขนึ้ ดงั น้นั ถา้ ไขต่ กวนั ท่ี14 ควรมเี พศสมั พนั ธ์ ชว่ งวันท่ี 12-15 เผ่ือเวลาใหอ้ สุจิ เดนิ ทางอย่างน้อย6 ชม. จึงมีโอกาสตง้ั ครรภ์สูง นอกจากนวี้ ิธกี ารสังเกตอาการและวัดอุณหภูมิ (Sympto- thermal method หรือ STM) ต้องวัดอุณหภูมริ า่ งกายทุกวนั ในช่วงเวลาเดียวกนั และในตำแหน่งเดมิ เพื่อจะ ได้รู้วันไข่ตกท่ีแน่นอน เพราะในระยะหน่ึงถึงสองวันหลงั ไขต่ ก อณุ หภมู ิของรา่ งกายจะข้ึนสงู มากกว่า 0.2 องศา
65 ซง่ึ น่ันก็คือเป็นที่ปลอดภยั ข้อดกี ็คือไม่เจ็บปวดและประหยัด ขอ้ เสียคือ เหมาะสำหรบั ผู้หญิงมีรอบเดือน สม่ำเสมอและไมม่ ีไขเ้ ท่านน้ั (3) วิธสี ังเกตมูกปากมดลกู (Cervical mucous method, Ovulatory method, Billings method) เปน็ วิธคี ุมกำเนิดอยา่ งธรรมชาติและเปน็ วธิ ที ี่ประหยัด โดยผูห้ ญงิ ตอ้ งสังเกตมูกตกขาวจากปากมดลูก (Cervical Mucus) ทุกวนั และจดโน้ตไวเ้ พื่อดูวนั ที่ไข่ตกและในระหว่างทมี่ ีการตกไข่ก็ตอ้ งคมุ กำเนิดด้วยวธิ ีอน่ื แต่อาจคลาดเคลอ่ื นไดห้ รือแปลผลผดิ เช่น ในกรณีท่ีมีการติดเช้ือหรอื อักเสบของช่องคลอด (4) วิธคี าดคะเนวนั ไข่ตก (Predictable ovulation method) เปน็ วธิ ีทดสอบปัสสาวะของผู้หญงิ โดย การใช้แท่งตรวจจุ่มลงไปในปัสสาวะเพอ่ื ตรวจสอบฮอร์โมนในปสั สาวะและคำนวณวนั ท่ไี ข่จะตก แต่เปน็ วิธที ไ่ี ม่ คอ่ ยปลอดภยั เพราะวดั เพยี งไมก่ ี่วนั ของแตล่ ะเดือน สว่ นใหญใ่ ชใ้ นกรณีต้องการมบี ุตรมากกวา่ คือร้วู นั ตกไข่ เพอ่ื มีเพศสมั พนั ธใ์ หต้ รงวัน
66 2.2 การคุมกำเนดิ โดยการใช้ยาหรอื ใช้อุปกรณ์ (Barrier contraceptive methods) 2.2.1 ยาเม็ดคมุ กำเนดิ (Contraceptive pills) คือ ยาท่ีมีสว่ นผสมของฮอรโ์ มนเพศหญิง (เอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน) มีคุณสมบัตชิ ่วยปอ้ งกนั การ ตั้งครรภโ์ ดยยบั ยง้ั การตกไข่ ทำใหเ้ ยอื่ บุโพรงมดลูกมีสภาพไมพ่ ร้อมต่อการฝงั ตวั ของตวั อ่อน และทำให้มูกท่ี ปากมดลูกมีความเหนยี วข้นข้ึน จนเป็นอปุ สรรคต่อการเคล่ือนตัวของอสจุ ิให้ไมส่ ามารถเข้าไปปฏสิ นธิกับไขไ่ ด้ ซึง่ ยาเมด็ คุมกำเนิดทีใ่ ชก้ นั อยู่ในปัจจบุ ันจะมี มีทัง้ แบบฮอร์โมนรวม ฮอร์โมนเดย่ี ว และยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ดังนี้ (1).ยาเมด็ คมุ กำเนิดชนิดฮอรโ์ มนรวม (Combined oral contraceptive pill) เปน็ ยาคุมกำเนิดท่ี ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตรเจนรวมกนั ในเม็ดเดยี ว ซงึ่ มีอยู่ด้วย 2 แบบ ไดแ้ ก่ แบบทีม่ ี ฮอร์โมนท้ังสองชนิดเท่ากันทุกเมด็ และแบบท่ีฮอร์โมนไม่เท่ากนั มขี ้อดี คือ ทำให้ประจำเดอื นมาสมำ่ เสมอ ชว่ ยลดปริมาณเลือดประจำเดือน อาการปวดประจำเดือน ช่วยลดความเสย่ี งในการเกดิ โรคมะเร็งรังไข่ โรคมะเรง็ เยื่อบโุ พรงมดลูก โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และอุ้งเชิงกรานอักเสบ เม่อื หยุดใชย้ าแลว้ สามารถตงั้ ครรภไ์ ด้ ภายในระยะเวลาอนั สนั้ นอกจากนี้ยงั อาจเกิดผลขา้ งเคียงคือ การมีเลือดออกกะปรดิ กะปรอยทางช่องคลอด อาการคดั ตงึ เตา้ นม (2).ยาเมด็ คมุ กำเนิดชนิดฮอรโ์ มนเด่ียว (Progestogen only pill) เป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจน เพยี งอย่างเดียว ทำออกมาเพื่อลดอาการข้างเคยี งจากฮอร์โมนเอสโตรเจน ขอ้ ดีของยาคุมกำเนดิ ชนิดนี้ คือ สามารถใช้ในผู้ท่ีกำลังให้นมบุตร ใช้ในผ้ทู ี่มีข้อห้ามต่อการใชฮ้ อรโ์ มนเอสโตรเจน และใช้ในผู้ทมี่ อี ายุมากกวา่ 35 ปที ีส่ ูบบุหรไ่ี ด้ ข้อเสีย คือ จะมคี วามเสี่ยงในการต้ังครรภ์มากกวา่ ยาเมด็ คุมกำเนดิ ชนดิ ฮอรโ์ มนรวม ต้อง รบั ประทานยาในเวลาเดิมทุกวัน หากรบั ประทานผดิ เวลาไป 3 ชัว่ โมง ตอ้ งใช้วธิ ีคุมกำเนิดอืน่ ร่วมดว้ ย นอกจากนใ้ี นขณะใช้ยาอาจจะไม่มปี ระจำเดือน แตอ่ าจมีเลอื ดออกกะปริดกะปรอยได้ วธิ กี ารรบั ประทานยาคมุ กำเนดิ แบบ 28 เม็ด และ 21 เมด็ - ยาเม็ดคมุ กำเนิดแบบ 28 เม็ด ประกอบไปดว้ ยเมด็ ยาทีเ่ ป็นฮอร์โมน 21 เมด็ และเม็ดที่ไม่ มฮี อร์โมนหรือที่เรียกวา่ “ยาหลอก” อกี 7 เม็ด การกินยาคุมแผงแรก ใหเ้ ร่มิ กินเม็ดแรกในวันแรกทมี่ ี ประจำเดอื นหรือไมเ่ กนิ วันที่ 5 ของการมีประจำเดือน รับประทานวนั ละ 1 เม็ด เรยี งลำดับตามลกู ศรจนหมด แผง แนะนำให้กินยาเม็ดคุมกำเนิดหลังอาหารเยน็ หรือกนิ ก่อนนอน และควรกินเวลาเดยี วกันทุกวัน เพ่ือรักษา ระดบั ฮอรโ์ มนในร่างกายให้คงท่ี และชว่ ยลดอาการคล่ืนไส้ อาเจยี น ประจำเดือนจะมาในชว่ งยาหลอก 7 เมด็ สุดท้าย เมือ่ ยาหมดแผงให้เร่ิมรบั ประทานแผงใหม่ทันที โดยไมต่ ้องสนใจวา่ ประจำเดือนจะหมดหรอื ไม่ - ยาคมุ ชนิดแผงละ 21 เม็ด จะแตกตา่ งกบั แบบ 28 เม็ด ตรงที่ไม่มีเม็ดยาหลอก 7 เม็ด วธิ ี รับประทานกเ็ ช่นเดียวกันกับชนดิ แผง 28 เมด็ คือ รบั ประทานเมด็ แรกตามทรี่ ะบุไวใ้ นแผงยา โดยรบั ประทาน
67 ในวนั แรกหรือไม่เกนิ วันที่ 5 ของการมปี ระจำเดือน รับประทานวนั ละ 1 เม็ด เรียงลำดบั ตามลกู ศรจนหมดแผง หลงั จากน้ัน หยุดรบั ประทานยา 7 วัน ประจำเดือนจะมาในชว่ ง 7 วันนี้ เมือ่ หยุดการรับประทานยายาครบเจ็ด วันแล้ว ใหเ้ ริ่มทานยาแผงใหม่ทันทีโดยไมต่ ้องสนใจวา่ ประจำเดอื นจะหมดหรอื ไม่ ส่ิงสำคญั คือ ในกรณีทล่ี ืมกินยาคมุ กำเนิด 1 วัน ให้รบั ประทานทนั ทที ่นี ึกขึ้นได้ จากนนั้ รับประทานเม็ด ถัดไปตามเวลาปกติ หากลืมกินยาคมุ กำเนิด 2 วนั ติดกนั จะสามารถแบง่ ออกเป็น 2 ชว่ งดังน้ี ถา้ ลืมทานยาคมุ ในช่วง 14 เม็ดแรกของแผง ให้รบั ประทานยาคมุ กำเนดิ วนั ละ 2 เม็ดติดกัน 2 วนั โดยให้ รับประทานครั้งละ 1 เม็ดวันละ 2 ครัง้ ในเวลาเช้าและเยน็ หลังจากนั้นใหร้ ับประทานยาตามปกติคอื ครัง้ ละ 1 เม็ดต่อวัน หากลืมรบั ประทานยาคมุ กำเนิด 3 วนั ขึน้ ไป การคุมกำเนิดก็จะไม่ได้ผลให้หยุดกินยาแผงนั้นรอจน ประจำเดอื นมารอบใหม่แล้วจึงเริม่ กนิ ยาคุมแผงใหม่อีกครง้ั ซ่ึงในระหวา่ งที่ไม่ได้กินยาคมุ กำเนดิ อย่าลืมใช้ ถงุ ยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพนั ธ์ ยาเมด็ คมุ กำเนิดฉกุ เฉนิ (Emergency contraception pill) คือ ยาคุมกำเนิดท่ปี ระกอบด้วย ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในขนาดสูง โดยมีกลไกปอ้ งกนั การตงั้ ครรภ์โดยการปอ้ งกันหรือเล่ือนระยะเวลาการตก ไข่ จงึ ช่วยขดั ขวางการฝังตัวของตวั อ่อน เป็นยาคุมกำเนิดที่ใชร้ ับประทานหลงั จากมีเพศสัมพันธใ์ นกรณที ล่ี ืม คุมกำเนิด หรือเกดิ เหตุฉุกเฉินไมค่ าดฝนั ขณะมเี พศสัมพันธ์ เชน่ ถุงยางอนามัยร่ัวหรือแตก มีเพศสัมพนั ธ์โดย ไมไ่ ด้ป้องกัน การรบั ประทานยาที่ถกู ต้องคือ รับประทานยาเมด็ แรกใหเ้ ร็วทส่ี ดุ หลังจากมเี พศสมั พันธ์ท่ีไม่ไดป้ อ้ งกัน โดยไม่ควรเกิน 72 ชัว่ โมง และจะต้องรับประทานยาเม็ดท่สี องหลงั จากรบั ประทานยาเมด็ แรกไมเ่ กิน 12 ช่วั โมง หากมกี ารอาเจยี นภายใน 2 ชว่ั โมงหลงั รบั ประทานยาแต่ละเม็ด ตอ้ งรับประทานยาใหม่ และไม่แนะนำให้ รับประทานยาเกิน 4 เมด็ หรือ 2กล่อง ตอ่ เดือน การรบั ประทานยาเมด็ แรกภายใน 72 ชวั่ โมง หลังการมเี พศสัมพันธด์ ังกลา่ วตามดว้ ยยาเม็ดที่สอง จะ ใหป้ ระสิทธภิ าพในการป้องกันการต้ังครรภไ์ ด้ 75% แตห่ ากเริม่ ยาภายใน 24ช่วั โมง หลงั การมีเพศสัมพันธ์ จะ ใหป้ ระสทิ ธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภเ์ พ่ิมขน้ึ เป็น 85% ดังนน้ั จงึ ควรรบั ประทานยาเม็ดแรกหลงั การมี เพศสัมพันธใ์ ห้เรว็ ท่ีสดุ ผลข้างเคยี งที่พบไดบ้ ่อยจากการใชย้ าคุมฉุกเฉินมักเป็นอาการท่ีไม่รนุ แรง ได้แก่ ปวดท้อง มเี ลอื ดออก กะปรดิ กะปรอย ประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่าปกติ อาการข้างเคียงเหล่านี้ไมจ่ ำเป็นต้องใชย้ ารักษา การ รับประทานในช่วงเวลาส้นั ๆ นั้นไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แตก่ ารใช้ยาติดต่อกันเปน็ ระยะเวลานานๆ นอกจาก ประสิทธิภาพทดี่ ้อยกวา่ เม่ือเทียบกบั การรับประทานยาคมุ กำเนิดแบบปกติชนิดเม็ดแล้ว ยังอาจทำให้เกิดความ ผิดปกตทิ ่รี ังไข่ เย่ือบโุ พรงมดลูก รวมท้ังเพ่ิมความเส่ียงในการเกดิ การต้ังครรภน์ อกมดลกู ถึง 2% เปน็ ต้น ดังน้ัน
68 การใชย้ านีจ้ งึ ควรใชเ้ มื่อจำเป็นเท่านัน้ และไม่แนะนำใหร้ บั ประทานเกิน 4 เม็ด หรือ 2 กล่อง ตอ่ เดือน (คณะ เภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหดิ ล, 2560) 2.2.2 ยาฉดี คมุ กำเนดิ (Injectable contraception) เปน็ การฉีดยาเขา้ กลา้ มเน้อื ของสตรใี นระยะเวลาตามท่ีแพทย์กำหนด หลงั จากฉดี ตวั ยาจะค่อย ๆ ขับ ฮอร์โมนออกมา เปน็ วิธที ี่นยิ มใช้กนั มากในรายทตี่ ้องการเว้นระยะการมีบตุ ร เนื่องจากมีประสทิ ธภิ าพในการ คุมกำเนิดสงู ทำได้งา่ ย สะดวก และมรี าคาถูก โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดงั น้ี (1) ยาฉีดคุมกำเนิดชนดิ ฮอรโ์ มนเด่ียว ซ่งึ เปน็ ยาฉีดคมุ กำเนิดท่มี ีฮอรโ์ มนโปรเจสตนิ (Progestin) เพยี งอย่างเดยี ว คือ ยา Depot Medroxyprogesterone acetate (DMPA) ขนาด 150 มิลลิกรัม (ใช้ฉีดเข้า กลา้ มทุก 3 เดือน) เป็นตัวยาท่ไี ดร้ ับความนยิ มมากทสี่ ุดในปจั จบุ นั มชี ่อื ทางการคา้ ว่า Depo-Provera® และ อกี ชนดิ คือยา Norethisterone Enanthate (NET-EN) ขนาด 200 มลิ ลิกรัม มีช่ือทางการคา้ วา่ Noristerat® (ใช้ฉดี เข้ากล้ามทุก 2 เดือน) (2) ยาฉดี คมุ กำเนดิ ชนดิ ฮอร์โมนรวม เป็นยาฉดี คุมกำเนิดแบบใหม่ทีผ่ ลติ มาเพื่อลดอาการผดิ ปกตขิ อง ประจำเดอื น ในยาฉีดจะมที ้ังฮอรโ์ มนโปรเจสติน (Progestin) และฮอรโ์ มนเอสโตรเจน (Estrogen) ชนดิ น้ีมีช่อื ทางการค้าว่า Cyclofem® และ Lunelle™ ถูกผลิตขึ้นมาเพ่ือแกไ้ ขข้อด้อยของยาฉีดชนิดฮอร์โมนเดย่ี วและ เพ่อื เป็นการเลยี นแบบฮอร์โมนของร่างกาย (ใชฉ้ ีดเขา้ กลา้ มทุก ๆ 1 เดือน) ขอ้ ดีของการฉดี ยาคุมกำเนดิ คือ สามารถรับบริการไดง้ ่าย เน่อื งจากวิธกี ารและอุปกรณ์สำหรบั การ ใหบ้ ริการไมย่ ่งุ ยาก เป็นทีน่ ยิ มใช้ เพราะยาฉีดมีข้อหา้ มในการใช้ยานอ้ ย วธิ ีน้ีมปี ระสิทธิภาพในการคมุ กำเนิดสูง มาก ราคาถูกเม่อื เทียบกับวธิ ีคมุ กำเนิดแบบอ่ืน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด หรอื การใสห่ ่วงอนามยั ให้ความสะดวก ใชง้ านง่าย ฉดี คร้ังเดยี วกส็ ามารถคุมกำเนดิ ไดน้ านถงึ 3 เดือน โดยไม่ต้องใช้ทุกวันเหมือนยาเม็ดคุมกำเนิด และ ไม่ขดั ขวางข้นั ตอนตา่ ง ๆ ของการร่วมเพศ สามารถใช้ได้ดีในขณะให้นมลูก เพราะไม่ทำใหน้ ้ำนมแห้ง ขอ้ เสยี ของยาฉีดคมุ กำเนดิ คือ จะต้องเสียเวลาไปสถานทีร่ ับบรกิ ารบ้างและอาจทำใหล้ ืมเวลานัดได้ ตอ้ งใหแ้ พทย์ พยาบาล หรอื บุคลากรทางสาธารณสุขเปน็ คนฉีดยาให้ เมื่อใช้ยาฉีดประจำเดอื นอาจเปลย่ี นแปลง มาไมส่ ม่ำเสมอ มากะปริดกะปรอย หรอื ไมม่ ปี ระจำเดือน และหลาย ๆ รายมนี ้ำหนักตวั เพมิ่ ขึน้ เนื่องจากการท่ี มเี ลือดออกแบบกะปรดิ กะปรอย เม่อื เกดิ อาการข้างเคียงจะตอ้ งรอจนกวา่ ยาคุมจะหมดฤทธิ์ อาการถึงจะ หายไปเอง เมอ่ื หยุดฉดี ร่างกายจะยังไม่พร้อมมลี ูกได้ทนั ที โดยอาจจะต้องรอไปเกือบ 1 ปี 2.2.3 ยาฝงั คมุ กำเนิด (Contraceptive implant) ยาฝงั คมุ กำเนดิ (Contraceptive implant หรอื Implantable contraception) เป็นการใช้ ฮอรโ์ มนชนดิ เดียว คือ โปรเจสตนิ (Progestin) ท่ีบรรจเุ อาไว้ในหลอดหรือแทง่ พลาสติกเลก็ ๆ ขนาดเทา่ ไมจ้ ้มิ
69 ฟันชนิดกลม นำมาฝังเข้าไปที่ใต้ผวิ หนังบริเวณใตท้ ้องแขนด้านท่ีไม่ถนดั ซึ่งฮอร์โมนจะค่อย ๆ ซึมผา่ นออกมา จากแท่งยาเข้าสูร่ า่ งกายและไปยบั ย้งั การเจริญเตบิ โตของฟองไข่ สง่ ผลทำให้ไมม่ ีการตกไขต่ ามมา จงึ ชว่ ย ป้องกนั การตง้ั ครรภ์ได้ ในอดีตยาฝังคุมกำเนิดจะเป็นฮอร์โมนท่บี รรจุอยู่ในแทง่ พลาสติกขนาดเลก็ จำนวน 6 แทง่ ฝงั เข้าไปทีใ่ ต้ผวิ หนังใต้ท้องแขนเป็นรปู พดั คมุ กำเนิดไดน้ าน 5 ปี ไมค่ ่อยนยิ มมากนัก ปัจจบุ ันยาฝงั คมุ กำเนิดแบบใหมไ่ ด้มีการพัฒนาใหใ้ ช้งานได้ง่ายและสะดวกมากยิง่ ขึน้ โดยจะใชเ้ พียงแค่ 1 แท่ง ฝงั เข้าที่ใต้ ผวิ หนังใตท้ อ้ งแขน ท่ใี ช้ในปจั จบุ นั ไดแ้ ก่ (1) Implanon® (อิมพลานอน) มีชดุ ฝงั บรรจเุ สรจ็ พร้อมใชง้ าน ทำใหฝ้ ังไดส้ ะดวกข้ึนมาก แตจ่ ะ คุมกำเนิดได้น้อย เพยี ง 3 ปี เนือ่ งจากมีแค่หลอดเดียว เม่ือครบกำหนดกส็ ามารถถอดออกไดโ้ ดยง่าย ถ้า ตอ้ งการจะคุมกำเนิดด้วยวิธนี ีต้ อ่ กส็ ามารถฝงั แทง่ ใหมเ่ ขา้ ไปได้เลย (2) Jadelle® (จาเดลล)์ สามารถใชค้ มุ กำเนดิ ไดน้ านถงึ 5 ปี มอี ยู่ดว้ ยกนั 2 แท่ง ด้วยเหตนุ ้จี ึงทำให้ วธิ ีการคมุ กำเนดิ แบบฝงั ไดร้ บั ความนิยมมากขึน้ เรื่อย ๆ ส่วนอาการข้างเคยี งก็จะคลา้ ย ๆ กบั การฉีดยา คุมกำเนิด วิธนี ้ีเหมาะกับผู้ทล่ี ืมรบั ประทานยาคุมกำเนิดบ่อย ๆ ต้องการวธิ ีการคุมกำเนิดทม่ี ีประสทิ ธภิ าพสงู สดุ และคุมกำเนดิ ไดใ้ นระยะยาว 3-5 ปีข้ึนไป และมีข้อห้ามในการใช้ฮอรโ์ มนเอสโตรเจนจากการคุมกำเนิดรูปแบบ อ่นื เชน่ อยใู่ นช่วงกำลังให้นมบุตร ก่อนตดั สนิ ใจเลือกวธิ นี ค้ี วรขอคำแนะนำจากแพทย์ (MedThai, 2016) 2.2.4 ห่วงอนามัยคมุ กำเนดิ (Intra-uterine contraceptive device) เปน็ เครือ่ งมือทางการแพทย์ช้นิ เล็ก ๆ ที่มีไว้สำหรบั ใส่เข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อทำให้สภาพในโพรง มดลูกไมเ่ หมาะแก่การฝงั ตวั ของตวั อ่อน จงึ ใชป้ ้องกนั การต้ังครรภ์ช่วั คราวได้ดี กลไกการทำงานของหว่ งอนามัย คาดว่า เกิดจากการอกั เสบเมื่อมีวสั ดุแปลกปลอม กลา่ วคือ การทำงานของหว่ งอนามัยนั้นไมใ่ ชก่ ารป้องกนั การ ฝังตัวของตัวอ่อนเท่านนั้ แตเ่ กดิ จากการท่ีมีวัสดุแปลกปลอม (ห่วงอนามยั ) เขา้ ไปอยู่ในโพรงมดลกู และทำให้ เกิดการกระตุ้นกระบวนการอักเสบภายในรา่ งกาย ซ่ึงกระบวนการเหล่าน้ีเป็นพษิ ต่อตัวอสจุ แิ ละขัดขวางการฝงั ตัวของตวั อ่อน นอกจากนี้ในห่วงอนามยั ชนิดฮอร์โมนนัน้ จะเปน็ การเพิม่ กลไกการหนาตัวของมูกบรเิ วณปาก มดลูกเพื่อป้องกนั การเคล่ือนตัวของอสจุ ิ อสุจิไมส่ ามารถผ่านเข้าไปผสมกับไขไ่ ด้ ทำให้ผนงั เย่ือบุโพรงมดลกู บาง ลงจนไมเ่ หมาะสำหรับการฝงั ตวั อ่อน และชว่ ยยับย้งั การจับตวั ของอสุจิที่ผนังของไขอ่ ีกดว้ ย และห่วงอนามัยท่มี ี ฮอร์โมนโปรเจสตินยงั ส่งผลต่อการยบั ย้งั การตกไขไ่ ด้ร้อยละ 25 ส่วนหว่ งอนามยั ชนิดห้มุ ทองแดงยังมกี าร ปลอ่ ยอนุมูลทองแดงอสิ ระและเกลือของทองแดง ซง่ึ กระตุ้นใหเ้ กิดกระบวนการอักเสบต่อเซลล์ในโพรงมดลกู โดยกระตุ้นการสร้างโพรสตาแกลนดิน (prostaglandin) ซ่ึงเป็นพิษต่อตวั อสุจิและไข่ นอกจากนั้นยังขัดขวาง การเคล่อื นไหวของตวั อสจุ ิอีกด้วย ห่วงอนามยั มหี ลายชนิด ไดแ้ ก่ ห่วงท่ีไม่มสี ารชว่ ยเสริมฤทธิ์ในการปอ้ งกนั การตง้ั ครรภ์ ได้แก่ ลปิ ปสี ลปู (Lippes loop) หว่ งทที่ ำจากเหล็กไรส้ นมิ (stainless steel) หว่ งทม่ี สี ารช่วย
70 สง่ เสรมิ การออกฤทธ์ใิ นการป้องกนั การตงั้ ครรภ์ เช่น หว่ งอนามยั ที่บรรจสุ ารทองแดง (copper bearing IUDs หรอื Cu IUDs) หว่ งอนามัยเคลือบฮอร์โมน (Progestin-releasing IUDs) และ ห่วงอนามัยชนิดไม่มี โครง (Frameless IUD) ทั้งนี้ เม่ือศึกษาข้อมลู ทงั้ ข้อดีข้อเสียของการใส่หว่ งแลว้ ใหไ้ ปพบแพทยห์ รือสตู ินรี แพทย์ให้ขอรับคำแนะนำ ตรวจรา่ งกายและประเมนิ เพ่อื เลือกท่เี หมาะสม 2.2.5 วงแหวนคุมกำเนดิ (Vaginal contraceptive ring) วงแหวนคมุ กาํ เนิด หรือ วงแหวนชอ่ งคลอด (Birth Control Ring) คือ วงแหวนสำหรบั ใสช่ ่องคลอดที่ เรียกว่า “นูวาริง” (NuvaRing®) มลี ักษณะเปน็ แหวนพลาสติก ภายในวงแหวนพลาสตกิ จะบรรจุไปดว้ ย ฮอรโ์ มนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนคลา้ ยกบั ยาเมด็ คุมกำเนดิ ชนิดฮอร์โมนรวมท่ีใช้กันอยู่ โดยจะประกอบไป ดว้ ย Etonogestrel (โปรเจสโตรรเจน) 11.7 มลิ ลกิ รมั และ Ethinyl estradiol (เอสโตรเจน) 2.7 มิลลกิ รมั ใช้ สำหรับใสเ่ ขา้ ไปในช่องคลอดและฮอร์โมนจะดูดซมึ เขา้ ส่รู ่างกายเพื่อช่วยปอ้ งกนั การต้ังครรภ์ เหมาะสำหรบั ผ้หู ญงิ ทกุ คนทต่ี ้องการความสะดวกในการคุมกำเนิด หรือมักลมื รบั ประทานยาเม็ดคุมกำเนิดเปน็ ประจำ และ เปน็ อกี ทางเลอื กหนึ่งแทนการใสห่ ว่ งคุมกำเนิดหรือใช้ยาฝังคมุ กำเนิด ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะรสู้ ึกเป็นปกตหิ ลงั จากใช้ วงแหวนคมุ กำเนดิ แตใ่ นบางรายกท็ ำใหเ้ กิดผลข้างเคยี งได้ เช่น อาจมอี าการปวดศีรษะ คล่ืนไส้ อาเจียน ร้สู กึ เจ็บเตา้ นม แต่อาการเหลา่ นี้มักจะหายไปเองหลังจาก 1-2 เดือน ผลขา้ งเคยี งรนุ แรงไม่ค่อยพบ อย่างไรก็ตาม ควรปรกึ ษาแพทย์ทันทีหากมีอาการข้างเคยี งเกิดข้ึน แมใ้ นปัจจุบนั วงแหวนคุมกำเนิดจะมขี ายตามร้านขายยาก็ตาม แตก่ ย็ งั จำเป็นตอ้ งใช้ใบส่ังของแพทยใ์ น การซอื้ ในครงั้ แรกที่ใสว่ งแหวนคุมกำเนิด จะยงั ไมส่ ามารถคมุ กำเนิดได้ทันที จำเปน็ ต้องใชว้ ธิ ีการคมุ กำเนิด แบบอน่ื รว่ มด้วย ในบางรายใส่แลว้ อาจเกิดการระคายเคืองช่องคลอด ซ่ึงอาจเพม่ิ โอกาสการติดเชือ้ ในช่อง คลอดและทำให้มีตกขาวมากขึน้ ได้ (MedThai, 2016) 2.2.6 ยาฆา่ เชื้ออสจุ ิ (Spermicides) เป็นการใสย่ าเข้าไปในช่องคลอดก่อนท่ีจะมเี พศสัมพนั ธ์ เพ่ือใหต้ ัวยาทำลายหรือฆ่าเชื้ออสุจิหลงั จาก การมเี พศสัมพนั ธแ์ ละมีการหล่ังน้ำอสจุ ิในช่องคลอด ตวั ยาจะทำให้เช้ืออสจุ ทิ ่ีอยใู่ นชอ่ งคลอดตาย ทำให้ไม่ สามารถเขา้ สมู่ ดลูกไปผสมกบั ไขไ่ ด้ เมอ่ื ไม่มีการผสมกบั ไข่ จึงไมท่ ำใหเ้ กดิ การตั้งครรภ์ ซึ่งยาฆา่ เช้ืออสจุ ทิ ่ี นำมาใชก้ ันในปจั จุบนั กม็ ีอยหู่ ลากหลายรูปแบบดว้ ยกนั เช่น ยาเหนบ็ ช่องคลอด ยาเมด็ ฟองฟู่ ฟองอัดใน กระป๋อง ครีม เยลลี่ เป็นต้น ข้อดีคอื ใช้ได้ง่าย สามารถใชไ้ ดด้ ้วยตนเองหรอื คู่นอน ไมต่ ้องอาศัยความร่วมมือ จากบุคลากรทางการแพทย์ มีราคาไม่แพง หาซื้อไดง้ ่ายตามร้านขายยาทวั่ ไป โดยไม่จำเป็นตอ้ งปรกึ ษาแพทย์ ยานมี้ คี วามปลอดภยั สูง โอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนมนี ้อย ไม่มผี ลข้างเคียงจากการใชฮ้ อรโ์ มนเหมอื นการ คมุ กำเนิดแบบอืน่ ใช้เฉพาะเวลารว่ มเพศเทา่ นั้น ขอ้ เสยี ของวิธนี ้ีคือประสิทธภิ าพในด้านการคมุ กำเนิดยงั ไม่สูง นัก จะมโี อกาสตัง้ ครรภ์ได้มากถา้ ใสย่ าเขา้ ไปไมล่ ึกพอ หรือยายังไม่กระจายตวั ดีพอ หรือใชย้ าไมส่ มำ่ เสมอ
71 นอกจากน้ีจะใสย่ าไวร้ อก็ไม่ได้ จะต้องใสย่ าในช่วงเวลาท่ีจำกดั เท่านั้น (10-15 นาที) ในรายทแี่ พย้ า อาจทำให้ เกดิ อาการคัน ระคายเคือง บวมแดง หรือแสบได้ (MedThai, 2016) 2.2.7 แผ่นแปะคุมกำเนิด แผน่ แปะคุมกำเนิด (Contraceptive patch หรอื Birth control patch) คอื ประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนดิ คอื ยาในกลุ่มเอสโตรเจนสังเคราะห์ (Synthetic estrogen) และยาในกล่มุ โปรเจสตนิ (Progestin) ใช้ สำหรบั แปะบริเวณผวิ หนงั เพื่อใหต้ วั ยาในแผน่ แปะดดู ซมึ เข้าสูก่ ระแสเลอื ดไปออกฤทธ์ิป้องกนั การตั้งครรภ์ หลังจากแปะแผ่นยาไปแล้วประมาณ 48 ช่ัวโมง ตัวยาจะถูกดูดซึมเขา้ ส่กู ระแสเลอื ดอยา่ งชา้ ๆ และตอ่ เนื่อง ระดบั ตัวยาท่ปี ล่อยออกมานีจ้ ะใกล้เคยี งกันทุกตำแหนง่ ทแ่ี ปะ ไมว่ ่าจะแปะบรเิ วณสะโพก หน้าทอ้ ง ต้นแขน ดา้ นนอก หรือแผ่นหลงั ดา้ นบนก็ตาม จงึ ทำให้ยามีการออกฤทธ์ไิ ด้นาน ช่วยปอ้ งกันการตกไข่ ป้องกนั ไม่ใหต้ ัว อสจุ ิผา่ นเยอื่ เมือกบริเวณปากชอ่ งคลอดเข้าไปปฏสิ นธกิ ับไข่ทอี่ ย่บู ริเวณโพรงมดลกู และในทอ่ นำไข่ได้ นอกจากน้ียังมผี ลทำให้เย่ือบโุ พรงมดลกู บางลงจนไม่เหมาะในการฝังตวั ของตัวอ่อนที่เกดิ จากการปฏิสนธิ ควร ระวังผลข้างเคยี งของการใช้ฮอรโ์ มนในระยะยาว หากใชว้ ธิ ีน้ีบอ่ ย ๆ วิธนี ้เี หมาะกบั ผู้ทไี่ ม่ชอบรับประทานยา เมด็ คุมกำเนดิ แต่ควรปรึกษาแพทย์เพอ่ื ขอคำแนะนำก่อนการใช้ (MedThai, 2016) นอกจากนี้ ยังมีอปุ กรณ์ที่ใชส้ ำหรบั คมุ กำเนิดในสตรีแบบช่ัวคราวหลายชนิด อาทิ หมวกครอบปาก มดลูก (Cervical Cap) ฝาครอบปากมดลูก (Diaphragm) ฟองน้ำคุมกำเนดิ (Contraceptive Sponge) ท่ี ไม่ได้กล่าวรายละเอยี ดในท่นี ้ี สิ่งทค่ี วรตระหนกั อยา่ งย่ิงคือ วิธีการคุมกำเนดิ ที่กลา่ วข้างต้น สามารถปอ้ งกนั การ ตง้ั ครรภแ์ ละมปี ระสทิ ธิภาพต่างกนั จึงควรปรกึ ษาแพทยห์ รือบคุ ลากรทางการแพทย์เพอื่ การเลอื กใช้อยา่ ง ปลอดภยั แต่หากยังมีเพศสัมพันธท์ ี่เส่ียงอยู่ การคมุ กำเนดิ ทก่ี ล่าวมาก็ไม่สามารถป้องกนั โรคติดตอ่ ทาง เพศสมั พนั ธ์ได้ 2.2.8 ถงุ ยางอนามยั (condom) ถงุ ยางอนามัยสำหรับสำหรบั ผหู้ ญิงและสำหรบั ผู้ชาย นอกจากจะชว่ ยคุมกำเนดิ แล้วยงั สามารถชว่ ย ป้องกนั โรคติดต่อทางเพศสมั พันธด์ ้วย (1).ถุงยางอนามัยของผู้หญงิ เปน็ อปุ กรณ์ทม่ี ีไวใ้ ช้สำหรบั สอดเข้าไปภายในช่องคลอดของผหู้ ญิงกอ่ นท่ี จะเริ่มมเี พศสัมพันธ์ เพ่ือปอ้ งกนั ไม่ใหอ้ สุจิผ่านเข้าสโู่ พรงมดลูก มีความยาว 6.5 นิว้ หรือยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ทป่ี ลายถุงท้งั สองด้านมหี ่วงยางหรอื วงแหวนยดื หยุ่น 2 วง หว่ งจะมลี กั ษณะแขง็ กวา่ ส่วนอ่นื มีไว้ เพือ่ ใหเ้ กิดความกระชับและเพอ่ื ให้คงรปู ร่างไว้ได้ในขณะใช้งาน ปลายถุงด้านหน่งึ ตันเพ่ือใช้สอดเข้าไปในชอ่ ง คลอด สว่ นปลายถุงอีกดา้ นหนง่ึ จะเปน็ ปลายเปดิ ยนื่ ออกมานอกชอ่ งคลอด ภายในถงุ ยางจะมนี ำ้ ยาหล่อลื่น แต่ไม่มยี าฆา่ เชื้ออสุจิ ไมค่ ่อยเป็นทีน่ ยิ มใช้
72 (2).ถงุ ยางอนามยั ของผู้ชาย เป็นเครอ่ื งมอื ที่ใชค้ ุมกำเนดิ ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพสงู กวา่ วิธอี ่ืน ๆ เมือ่ ใช้ อย่างถูกวิธี สามารถชว่ ยป้องกันการต้ังครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสมั พันธช์ นิดตา่ ง ๆ ได้ดี โดยเฉพาะอยา่ งย่ิง โรคเอดส์ ผ้ชู ายบางคนยงั มีความเข้าใจผิดในการใชถ้ ุงยางอนามยั โดยเข้าใจวา่ การติดโรคหรอื ตั้งครรภจ์ ะเกดิ ตอ่ เมื่อมีการหลง่ั น้ำอสจุ ิ ดงั น้ัน การสวมถุงยางอนามัยเม่อื ใกลจ้ ะหลั่งน้ำอสุจิซ่ึงเป็นความเชื่อทผี่ ิด เน่อื งจาก โรคสามารถติดต่อได้ทนั ทเี ม่ือสอดใสโ่ ดยไมส่ วมถุงยางอนามยั รวมทง้ั นำ้ อสจุ ิอาจจะเลด็ ลอดออกมาบางส่วน กอ่ นการหลัง่ ทำให้ต้ังครรภ์ได้ (สำนกั โรคเอดส์ วณั โรค และโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ , 2558) การเลอื กถุงยางอนามัย ควรพิจารณา ดงั ต่อไปน้ี 1. เลือกถุงยางอนามัยให้เหมาะกบั ขนาดอวยั วะเพศชาย (ถุงยางอนามัยใหญ่เกินไปหลวมหลุดง่าย/ ถงุ ยางอนามัยเลก็ เกนิ ไป ทำให้แตก ฉีกขาดงา่ ย) 2. ควรใชถ้ ุงยางอนามยั ท่ีผา่ นการรบั รองคณุ ภาพโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 3. เลอื กซ้อื จากร้านทีเ่ กบ็ ถุงยางอนามัยไว้ในท่ีเย็น ไม่ถูกแสงแดด หรือยู่ในทท่ี มี่ ีอุณหภูมิสูงเน่ืองจาก จะทำให้ถงุ ยางอนามยั เสื่อมคุณภาพ 4. ควรพกถงุ ยางอนามยั หลายช้ิน (ถา้ เปน็ พนักงานบริการควรพกหลายขนาด) ให้เพียงพอและ เหมาะสมกบั การใช้ 5. ไม่เกบ็ ถงุ ยางอนามยั ในทที่ ี่ถูกแสงแดด หรืออย่ใู นที่ที่มอี ุณหภูมสิ ูง เช่นในรถ หรือมีการกดทบั หรอื ใสร่ วมกับของอ่ืน เช่น กระเป๋ากางเกง เพราะจะทำใหค้ ุณภาพถุงยางอนามัยเสอ่ื มคุณภาพ เทคนิคการใช้สารหล่อลื่น ให้ใช้สารหลอ่ ล่นื ทีม่ นี ำ้ หรือซิลโิ คนผสมเทา่ น้ัน เช่น กลีเซอรีน เค-วาย เจลล่ี เปน็ ตน้ อาจหยดสารหล่อลื่นเลก็ น้อยลงในกระเปาะถุงยางอนามัยเพ่อื ลดการเสยี ดสขี องถงุ ยางอนามัยกับปลาย อวยั วะเพศ อาจใชส้ ารหล่อล่ืนหยดดา้ นนอกถุงยางอนามยั 1-2 หยด ทาใหท้ ัว่ เพ่ือลดการเสยี ดสี ความฝืดกบั ชอ่ งคลอด หากร่วมเพศทางทวารหนกั ควรเพิม่ ปรมิ าณสารหล่อลื่นเพอื่ ป้องกนั การแตกของถงุ ยางอนามยั 12 วิธีใช้ถงุ ยางอนามัยท่ถี ูกต้อง (สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ กรมควบคุม โรค กระทรวงสาธารณสขุ , 2558) 1. ตรวจสอบคณุ ภาพซองทบี่ รรจถุ งุ ยางอนามัย ตอ้ งไม่มรี อยฉีกขาดชำรุด ไม่มสี ารหล่อลนื่ ไหลเยมิ้ และตรวจสอบวนั เดอื น ปี ที่ผลิตไมเ่ กิน 5 ปี 2. ใช้นิ้วไลข่ อบถุงยางอนามัยทีอ่ ยูใ่ นซองไปดา้ นใดดา้ นหนง่ึ ให้พ้นบริเวณทจ่ี ะฉีก 3. ฉกี ซองอยา่ งระมดั ระวงั อยา่ ให้ถงุ ยางสัมผสั กบั เล็บหรือเครอ่ื งประดบั ที่มคี ม และไม่ฉีกซองผ่าน ถุงยางอนามัย
73 4. รดู ถงุ ยางอนามัยลงมาเล็กนอ้ ยและตรวจสอบให้รอยม้วนอยูด่ า้ นนอก 5. สวมถุงยางอนามยั ขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัว โดยใชน้ วิ้ หวั แมม่ ือและน้วิ ช้บี ีบกระเปาะถุงยางอนามัย เพือ่ ไล่ลมก่อนใส่ หากปล่อยใหม้ ีลมอยขู่ ้างในจะทำให้ถงุ ยางอนามยั แตกขณะรว่ มเพศ 6. รูดถงุ ยางอนามัยให้สุดโคนอวยั วะเพศ ใส่ถุงยางอนามัยเพยี งชน้ั เดยี ว โดยใส่ตง้ั แต่แรกเริ่มของการมี เพศสมั พันธ์ในทุกชอ่ งทางไม่ว่าจะเปน็ ทางช่องคลอด ทางปาก และทวารหนัก 7. ถ้าระหวา่ งมเี พศสัมพันธ์ มีถงุ ยางอนามัยร่ัว แตก หลดุ ให้หยดุ การมเี พศสมั พนั ธ์ หรือเปลีย่ นถงุ ยาง อนามัยชน้ิ ใหม่แลว้ คอ่ ยมเี พศสัมพันธต์ อ่ 8. ถ้าระหวา่ งการมเี พศสัมพันธร์ ู้สกึ ฝืด ไมร่ าบรนื่ ใหใ้ ชเ้ จลหล่อล่นื ประเภทนำ้ ไม่ควรใช้สารหลอ่ ลื่นท่ี มสี ว่ นประกอบท่ีมีนำ้ มนั เพราะจะทำใหถ้ ุงยางอนามัยแตกไดง้ ่าย 9. หลงั เสรจ็ กจิ ให้จับขอบถุงยางอนามยั บรเิ วณโคนอวยั วะเพศ เพ่ือกนั น้ำอสจุ ิไม่ให้ไหลออกมา พร้อม ทั้งถอนตวั ออกจากค่นู อน กอ่ นทอ่ี วัยวะเพศชายจะอ่อนตัว 10. ตรวจสอบถุงยางอนามัยว่ามแี ตก รวั่ หลุด หรอื ไม่ 11. ถอดถุงยางอนามยั โดยใช้กระดาษชำระพันรอบถงุ ยางอนามัย จบั กระดาษชำระแลว้ รดู ออก กรณี ไมม่ ีกระดาษชำระให้ใช้น้วิ ช้สี อดเข้าไปด้านในถงุ ยางอนามัยขณะที่อวยั วะเพศอ่อนตวั ลงเล็กน้อยแลว้ รูดออก 12. หอ่ ถุงยางอนามัยดว้ ยกระดาษแล้วท้ิงในถังขยะที่มฝี าปิด ไมค่ วรท้ิงลงชกั โครก บทสรุป สุขภาวะทางเพศ เป็นการดแู ลสุขภาพทางเพศของตนเองและตดิ ตามสถานการณ์โรคตดิ ต่อทาง เพศสัมพันธ์ท่เี ปน็ ปัญหาสำคัญในปัจจุบนั การรูจ้ กั โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ที่สำคัญ อาการ การรกั ษาเบ้ืองต้น และแนวทางการป้องกัน อันจะนำมาสกู่ ารส่งเสริมสขุ ภาวะทางเพศทงั้ ในระดับบุคคลและระดบั สงั คม ลดความ เสี่ยงของติดเช้ือและการแพร่ระบาดของโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะเอชไอวี/เอดส์ ทท่ี ำให้เกิดการ สูญเสยี อนั สง่ ผลกระทบต่อบุคคล ครอบครัว และสังคมในวงกวา้ ง การเรยี นรู้การวางแผนครอบครวั และการ คุมกำเนิด รูจ้ กั วิธกี ารคุมกำเนิดทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง โดยคำนึงถึงสขุ ภาพ ผลข้างเคียง ประสทิ ธภิ าพการ ปอ้ งกนั การตัง้ ครรภ์ ตลอดจนความเสย่ี งจากการตดิ โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ ความรู้ความเข้าใจในเรื่อง ดงั กลา่ วนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งตอ่ ผ้เู รียนที่กำลังอยู่ในชว่ งวยั ทอ่ี ยากรู้อยากลองและกำลังอยูท่ า่ มกลาง สถานการณ์ท่ียากทีจ่ ะหลกี เลี่ยงความเส่ียงจากการมีเพศสัมพนั ธแ์ ละผลกระทบต่าง ๆที่อาจเกิดตามมาได้ เอกสารอ้างอิง
74 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ . 2557. รายงานผลการดำเนินงาน สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ ปี พ.ศ.2557. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. กองอนามยั การเจริญพนั ธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. 2551. คมู่ ือการให้บริการวางแผนครอบครัว สำหรับเจา้ หน้าท่ีสาธารณสุข. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศกึ . คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหดิ ล. 2560. ยาคุมฉุกเฉิน...เร่อื งจรงิ ที่ผหู้ ญงิ ต้องรู้. (ออนไลน์).สืบค้นวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560. ทม่ี า: http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/54/
75 แผนงานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะทางเพศ สำนักงานกองทนุ สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). 2551. แผนงาน สร้างเสรมิ สขุ ภาวะทางเพศ :สุขภาวะทางเพศ ชีวิตทางเพศทเ่ี ป็นสขุ และปลอดภยั . กรุงเทพฯ: มูลนิธิ สร้างความเขา้ ใจเร่ืองสขุ ภาพผู้หญงิ (สคส.). สำนกั โรคเอดส์ วณั โรค และโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ . 2558. แนว ทางการดูแลรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พ.ศ.2558. กรุงเทพฯ: หจก.สำนักพมิ พอ์ ักษรกราฟฟคิ แอนดด์ ีไซน์. สวุ ทั นา อารพี รรค. 2550. เรยี นรเู้ ร่อื งเพศกับคณุ หมอ ภาค 1. กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั บุญศิริการพมิ พ์จำกัด. สุวัทนา อารพี รรค. 2550. เรียนรเู้ รอ่ื งเพศกับคุณหมอ ภาค 2. กรุงเทพฯ: บริษทั บญุ ศิริการพมิ พจ์ ำกัด. Benarnews. 2016. ขา่ วจรงิ : ปี 2559 ผตู้ ดิ เช้อื เอชไอวรี ายใหม่ลดลงเหลอื เพียง 6000 กว่าราย. (ออนไลน)์ . สบื ค้นวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560. ทม่ี า:http://www.benarnews.org/thai/news/TH-AIDS- 12012016172610.html. MedThai. 2016. การคมุ กำเนดิ . (ออนไลน์). สบื คน้ วนั ที่ 4 กรกฎาคม 2560. ทมี่ า:https://medthai.com/ World Health Organization. 2004. Sexual health: A new focus for WHO. In Progress in Reproductive Health Research, No. 67. World Health Organization. 2001. Promotion of Sexual Health: Recommendations for action. Proceedings of a regional Consultation convened by Pan American Health Organization (PAHO), WHO, and World Association for Sexology (WAS) in Antigua Guatemala, May 19-22. Staff. Baltimore: Population Information Program. Johns Hopkins University. ใบงานท้ายบท (เลือกทำได)้ กจิ กรรม 1.อาจารย์เลือกคลปิ สถานการณ์ความร้ทู ่ีเปน็ ปจั จุบนั เก่ยี วกับ : สถานการณโ์ รคติดตอ่ ทาง เพศสัมพนั ธ์/การใส่ถุงยางอนามัย/ปัญหาสังคมพฤตกิ รรมเสีย่ งทางเพศ การท้อง/แทง้ ติดเชอ้ื เอชไอว/ี เอดส์ ใช้ เวลา 5-10 นาที ใหน้ สิ ติ หลงั ชมสื่อความรู้ มีกิจกรรมแบ่งกลมุ่ อภปิ รายสรปุ รว่ มกนั ในชั้นเรียน ............................................................................................................................. .............................................. ................................................................................................................................................................ ........... ....................................................................................................................... ....................................................
76 2. กิจกรรม 2. ใหน้ สิ ติ แบง่ กลุ่มเลือกประเด็น ความคดิ เหน็ เก่ยี วกับสอื่ ทางเพศมผี ลกบั พฤตกิ รรมเสย่ี งทางเพศ ในวยั รุ่น เหน็ ดว้ ยหรอื ไม่ เพราะอะไร และจะมีแนวทางการจดั การทีด่ ีอย่างไรกับปัญหาเร่ืองเพศในมุมมองของ วยั รุ่น ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..............................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: