Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบำนาฏยพนมกะบาร์ ชุดที่ 1

ระบำนาฏยพนมกะบาร์ ชุดที่ 1

Description: การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านสร้างสรรค์

Keywords: นาฏศิลป์พื้นบ้านสร้างสรรค์

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน (วชิ าเพมิ่ เตมิ ) ระบานาฏยพนมกะบารบ์ ูชาศิวะเทพ

คำนำ เอกสารประกอบการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศลิ ป์) เล่มท่ี 1 เรอ่ื ง ความรทู้ ่วั ไปเก่ียวกับนาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมือง ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 โรงเรยี นขนุ หาญวิทยาสรรค์ เป็นเอกสารทไ่ี ดจ้ ัดทาและพฒั นาขนึ้ เพอื่ ประกอบการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ านาฏศิลป์ พ้ืนเมือง สร้างสรรค์ วชิ าเพ่มิ เติม (ศ30234) เพือ่ ให้ผ้เู รียน มีความเขา้ ใจในศลิ ปวฒั นธรรมไทยด้านนาฏศลิ ป์ พน้ื เมอื งสร้างสรรค์ สามารถปฏิบัติ ท่าราได้อย่างถูกตอ้ ง สวยงาม กล้าแสดงออกและมีความคดิ รเิ ริ่ม สร้างสรรค์ เมอื่ ศกึ ษาเอกสารประกอบการเรยี นการสอนแลว้ นกั เรยี นสามารถปฏิบัติท่ารา รกั ชนื่ ชม และเห็นคณุ ค่าของนาฏศิลป์พื้นเมอื งสามารถนาความรู้ไปจดั แสดงผลงานในโอกาสสาคญั ของโรงเรียน และชุมชน เพื่อเป็นการอนรุ กั ษ์และสบื ทอดนาฏศลิ ป์พื้นเมืองของอาเภอขุนหาญใหค้ งอย่สู บื ไป การจดั ทาเอกสารประกอบการเรยี นการสอนเล่มน้ี ไดร้ ับความอนเุ คราะห์และความรว่ มมือ ดว้ ยดีจากท่านผบู้ รหิ ารโรงเรยี น ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ วทิ ยากร ปราชญช์ าวบ้าน ในทอ้ งถน่ิ ที่ใหค้ าปรึกษา ครอู าจารย์ที่ใหค้ วามร่วมมอื ตลอดจนผู้เก่ยี วข้องทกุ ท่าน เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มูลมาปรับปรงุ ใหเ้ อกสาร ประกอบการเรียนการสอนเล่มนี้มคี ุณภาพย่ิงขึ้น ผู้จัดทาจึงขอกราบขอบพระคณุ ทกุ ทา่ น มา ณ โอกาสนดี้ ้วย เอกสารประกอบการเรยี นการสอนเล่มนี้ นับเป็นประโยชน์ในการจดั การเรียนรู้และพัฒนา นาฏศิลป์ ใหม้ น่ั คงคู่ชาตไิ ทยตลอดไป วชิ ญะวรากร ไชยสวาสด์ิ

สำรบญั ก ข เรอื่ ง ค หนำ้ ง จ คานา ฉ สารบญั 1 คาช้แี จงสาหรบั ครผู ู้สอน 7 คาชแ้ี จงสาหรบั ผูเ้ รียน คาอธบิ ายรายวิชา 8 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 9 ใบความรูท้ ี่ 1 เรื่อง ความรู้ทว่ั ไปเกยี่ วนาฏศลิ ป์พน้ื เมือง 10 ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง ความรทู้ ัว่ ไปเกี่ยวนาฏศิลป์พ้ืนเมือง 11 เฉลยใบงานท่ี 1 เร่ือง ความรทู้ ัว่ ไปเก่ยี วนาฏศลิ ป์พนื้ เมือง 12 แบบทดสอบยอ่ ย เรื่อง ความรู้ทั่วไปเกย่ี วนาฏศลิ ป์พน้ื เมือง 13 เฉยลแบบทดสอบยอ่ ย เรือ่ ง ความรทู้ ัว่ ไปเกย่ี วนาฏศิลปพ์ ื้นเมอื ง 14 แบบบนั ทึกคะแนนสอบยอ่ ย เรื่อง ความรทู้ ่วั ไปเก่ยี วกับนาฏศลิ ปพ์ ื้นเมือง 15 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ 16 เกณฑก์ ารประเมินการทางานกล่มุ แบบสรุปการประเมนิ พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ 17 แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 18 เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบสรุปการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ บรรณานกุ รม

1. ครูผู้สอนจะต้องศึกษารายละเอียดของเอกสารประกอบการเรยี นการสอนกอ่ น ทกุ ครัง้ เพอ่ื เป็นการเตรยี มความพร้อมในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน 2. ครตู อ้ งเตรียมเอกสารประกอบการเรียนการสอนและสื่อการสอนใหพ้ รอ้ ม ตามจานวนกลุม่ และจานวนนักเรยี น 1. จัดเตรียมเอกสารประกอบการเรียนการสอนและสือ่ การสอนใหพ้ ร้อม 2. สังเกตและควบคมุ กจิ กรรมการเรยี นและวัดผลประเมินผลให้เป็นไปตามลาดับ ข้ันตอน 3. ชี้แจงให้นักเรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียนการสอน และฝึกปฏิบัติท่ารา ด้วยความตงั้ ใจ 4.ใหค้ าแนะนาอธบิ ายเนอ้ื หา สาธติ การปฏิบัตทิ า่ ราเพิ่มเตมิ เมือ่ นกั เรียนไม่เขา้ ใจ

คำช้ีแจงกำรใช้เอกสำรประกอบกำรเรยี นกำรสอน เอกสารประกอบการเรียนการสอนน้สี รา้ งขนึ้ เพือ่ ให้ผเู้ รยี นสามารถศกึ ษา หรอื ทบทวน บทเรยี นด้วยตนเอง เอกสารประกอบการเรยี นการสอนจะเกดิ ประโยชนส์ ูงสุด ผเู้ รียนควรปฏิบัติตาม คาช้ีแจงตอ่ ไปนีอ้ ย่างเครง่ ครดั 1. นักเรยี นอ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้อย่างละเอียดจะไดท้ ราบวา่ เมอ่ื ศกึ ษาเอกสาร ประกอบการเรียนการสอนเลม่ นี้แลว้ จะไดร้ บั ความรู้เร่อื งใดบ้าง 2. นกั เรยี นศกึ ษารายละเอยี ดในเอกสารประกอบการเรียนการสอนแต่ละตอน ไปตามลาดับทีละหนา้ 3. เมือ่ ศึกษาเอกสารประกอบการเรียนการสอนในแตล่ ะตอนแล้วให้นกั เรยี นฝึกปฏบิ ัติ ท่าราดว้ ยตัวเอง 4. เม่อื ศกึ ษาเอกสารประกอบการเรยี นการสอนแล้ว ยงั ปฏบิ ตั ิทา่ ราไมไ่ ด้ ใหน้ ักเรยี น ซักถามครู หรือกลบั ไปศกึ ษาและลองฝกึ ปฏบิ ตั อิ กี คร้ัง 5. เมื่อศึกษาเอกสารประกอบการเรียนการสอนจบและเขา้ ใจดีแล้วใหน้ ักเรยี นฝึก ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเองจนเกดิ ความชานาญ 6. ขอให้นักเรียนปฏิบัติกจิ กรรมอย่างมีความสุข

รำยวชิ ำนำฏศลิ ป์พ้นื เมอื งสรำ้ งสรรค์ รหัสวชิ ำ ศ30234 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ศิลปะ(นำฏศลิ ป)์ ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 5 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 38 ชวั่ โมง คำอธิบำยรำยวชิ ำ ศกึ ษาประวตั ิความเป็นมาของปราสาทภูฝ้าย (พนมกะบาร)์ โบราณสถานของอาเภอขุน หาญ รปู แบบขนบธรรมเนยี มประเพณีรปู แบบการแสดงพน้ื เมืองอันเปน็ เอกลักษณใ์ นท้องถ่นิ ประวตั ิ ความเปน็ มาองค์ประกอบของการแสดง แนวคดิ ทีใ่ ช้ในการประดษิ ฐท์ า่ รา ดนตรีพื้นเมอื งท่ีใช้ประกอบ ในการแสดง รปู แบบการแต่งกายรูปแบบการแปรแถว ฝกึ ปฏบิ ัติเกย่ี วกับนาฏยศัพทเ์ บอื้ งต้น เพื่อเปน็ พน้ื ฐานในการฝึกปฏิบัตทิ า่ รา ฝกึ ปฏิบตั ิทา่ ราของการแสดงระบานาฏยพนมกะบาร์บชู าศิวะเทพ เสนอแนวทางการอนรุ กั ษก์ ารแสดงพน้ื เมืองโดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการคิดสรา้ งสรรค์ กระบวนการปฏิบตั ิ เพอ่ื ใหเ้ กิดความรคู้ วาม เขา้ ใจ เกิดทักษะและสามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ด้วยความชนื่ ชม เพอ่ื ใหม้ ีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคใ์ นด้านมวี นิ ยั ด้านใฝ่เรยี นรู้ มุง่ ม่ันในการทางาน รักความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ

1. ดำ้ นควำมรู้ - อธบิ ายความสาคญั และความเป็นมาของนาฏศลิ ป์พื้นเมืองได้ 2. ดำ้ นทกั ษะ/กระบวนกำร - ทักษะกระบวนการกลมุ่ 3. ด้ำนคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - มวี ินยั - ใฝเ่ รียนรู้ - มุ่งมั่นในการทางาน - รกั ความเป็นไทย - มีจติ สาธารณะ

ใบควำมรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง ควำมรทู้ ่ัวไปเก่ียวนำฏศิลป์พื้นเมอื ง ควำมหมำยของนำฎศลิ ปพ์ ้นื เมือง นาฏศลิ ปพ์ ้นื เมือง หมายถงึ การแสดงทเ่ี น้นความเปน็ เอกลกั ษณ์ เฉพาะถิ่น ท่ารา ลีลา ดนตรี ได้รบั การสั่งสมสบื ทอดต่อกนั มาจากบรรพบุรุษทไี่ ด้คิดประดิษฐท์ า่ ราข้ึนจากพืน้ ฐานของชาวบา้ น ตาม สภาพความเป็นอยู่ การแต่งกายจะแต่งตามลักษณะทอ้ งถิ่น และพัฒนามาเป็นนาฏศลิ ปพ์ ืน้ เมือง ควำมเปน็ มำของนำฏศลิ ปพ์ ืน้ เมือง สังคมชาวบา้ นเปน็ สงั คมเกษตรกรรม อาศยั ธรรมชาตเิ ล้ียงชีพ จึงมีพิธีกรรมและการละเลน่ เพอื่ ขอพรเพอื่ ใหพ้ ืชผลอุดมสมบรู ณ์ ชาวบ้านมีชีวติ เรยี บงา่ ยสะท้อนออกมาเป็นศลิ ปะพนื้ เมอื ง เช่น ภาคเหนอื ลักษณะการแสดงออกจะเชอ่ื งชา้ เปิดเผย ก้าวอยา่ งเนบิ ๆ ได้แก่ ฟ้อนต่างๆภาคกลาง จะเนน้ ทล่ี านา การขบั กลอน ภาคอสี านจะมีจังหวะคกึ คกั กระฉับกระเฉง แสดงใหเ้ ห็นความรา่ เริง สว่ นภาคใตเ้ นน้ ทจี่ ังหวะเดน่ ชัด เป็นต้น วัฒนธรรมพืน้ เมอื งท่ีเปน็ ความบนั เทงิ เกดิ ขึ้นเพ่อื ผ่องคลายความเครียดเร่ิมจากการใชภ้ าษา ทคี่ ลอ้ งจองและพัฒนาเปน็ เพลงชาวบา้ น ร้องถา่ ยทอดกนั มา โดยวธิ จี าปากต่อปาก มีการร้องรา ทาท่าเพลง จึงเกดิ เปน็ ระบาชาวบ้าน และพัฒนาไปส่กู ารแสดงท่ีใชล้ ลี าทา่ รา มดี นตรพี ื้นเมอื ง ประกอบการแสดง แตง่ กายใหง้ ดงามแต่ยงั คงรักษาเอกลกั ษณข์ องท้องถนิ่ ไว้ นาฏศิลปพ์ ืน้ เมอื งแตล่ ะภาคจะมีทม่ี าจากสภาพสังคม ความเช่อื พิธกี รรม และความศรัทธา ในพระพทุ ธศาสนา ซง่ึ สภาพสังคมไมว่ ่าจะเปน็ สังคมเมอื งหรอื สังคมชนบทย่อมต่างกต็ ้องแสวงหา ความบันเทงิ เพ่อื เป็นการพักผ่อนหยอ่ ยใจ เช่นสังคมเกษตรจะมีการเล่นเพลงเกย่ี วข้าว เต้นการาเคียว มกี ารเกีย้ วพาราสีของหนมุ่ สาว การแสดงนาฏศลิ ป์พ้นื เมอื งจงึ เกิดขึน้ สว่ นความเช่ือและพธิ กี รรม เนือ่ งจากชาวบา้ นมีความเชือ่ ในเร่ืองเคลด็ ลาง นับถอื ภูตผวี ิญญาณ จงึ เกิดมบี วงสรวงประกอบ พธิ กี รรม จึงทาใหเ้ กิดนาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมอื ง ความศรัทธาในพระพทุ ธศาสนา กเ็ ปน็ อีกเหตผุ ลหน่ึงท่ีทาใหเ้ กดิ นาฏศิลปพ์ ้ืนเมืองขน้ึ เชน่ เม่อื ถึงเทศกาลงานบญุ ซงึ่ เป็นประเพณีของชาวบ้าน กจ็ ะมกี ารจดั งานบันเทงิ เพื่อให้ชาวบา้ นมารวม ตวั กันเพอ่ื ทาบญุ เปน็ ต้น

ปัจจัยที่มีอทิ ธพิ ลตอ่ กำรแสดงนำฏศลิ ปพ์ ้ืนเมือง ปัจจัยที่มอี ทิ ธิพลต่อการสร้างสรรคศ์ ลิ ปะการแสดงนาฏศลิ ปพ์ นื้ เมืองของแต่ละภาค มีหลายประการ ดังนี้ -การทามาหากินเล้ียงชพี -สภาพภูมิศาสตร์ -คติความเช่ือ -ขนบธรรมเนียมประเพณี -วัฒนธรรมต่างชาติ การแสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองของไทยในแต่ละท้องถนิ่ จะแฝงไว้ซ่ึงศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี เอกลกั ษณ์ประจาทอ้ งถน่ิ และจิตใจของประชาชนในแต่ละท้องถิน่ วา่ เป็นอย่างไร การแสดงพน้ื เมอื งในแต่ละภาคหรอื แต่ละท้องถ่ินจงึ มลี ลี าการแสดงท่ีแตกตา่ งกนั ออกไป

ลักษณะกำรแสดงของแตล่ ะภำค ในรปู แบบต่ำง ๆ กำรแสดงนำฏศลิ ปพ์ น้ื เมืองภำคเหนือ การแสดงนาฏศิลปพ์ ืน้ เมอื งภาคเหนือ เรยี กว่า ฟ้อน ภาคเหนอื มกี านฟ้อนทแี่ บ่งได้ 2 กลมุ่ คอื กลมุ่ ฟอ้ นแบบด่งั เดมิ ทมี่ ีชา่ งฟอ้ นเปน็ ชาวบ้าน ทาหนา้ ท่ีสบื ทอดภมู ิปญั ญาของบรรพบุรุษมาหลาย ช่วั อายุ คน ลีลาทา่ ฟ้อนไม่เคร่งครัดต่อระเบียบแบบแผนมากนัก เป็นการเลียนแบบ การเคล่อื นไหว ของ มนษุ ยแ์ ตกตา่ งกันไปตามเผา่ พันธแุ์ ละความเช่อื ของกลุ่มชนนั้นๆ เชน่ ฟอ้ นเงยี้ ว ของไทยใหญ่ ฟอ้ น มา่ นของพม่า ลีลาท่าฟ้อนของชาวพื้นเมืองจะสะทอ้ นถงึ สภาพความเป็นอยู่ ทเี่ รยี บงา่ ยและกลุ่มฟอ้ น ทไ่ี ด้รับอิทธิพลจากวฒั นธรรมหลวง ลักษณะลีลาทา่ ฟ้อน จะมรี ะเบียบแบบแผนประณีตงดงาม ถา่ ยทอดมาจากราชสานกั สยาม ผ้ฟู ้อนเป็นเจา้ นายเชือ้ พระวงศฝ์ ่ายใน จะฟ้อนเฉพาะงานทีส่ าคญั ในเขตพระราชฐาน เชน่ การตอนรบั แขกบา้ น แขกเมอื งในขมุ เจ้าหลวงเป็นตน้ ในทนี ้ีจะให้นกั เรยี น ไดศ้ ึกษาพอเปน็ พนื้ ฐานความรู้ ของการแสดงฟ้อนเทียน กำรแสดงชุดฟอ้ นเทียน ฟ้อนเทียนเป็นศลิ ปะการฟ้อนเชน่ เดยี วกบั การฟ้อนเล็บ การฟอ้ นมักจะก้าว เท้าเรยี งตามกนั ชา้ ๆ ผฟู้ อ้ นจะถอื เทยี นจดุ ไฟ จึงนยิ มใช้ในเวลากลางคนื ความงาม ของการ ฟอ้ นเทยี นอยู่ท่คี วามพร้อมเพรียง และ ความเป็นระเบยี บของผูแ้ สดง แสงเทยี นทส่ี อ่ งสว่างวับแวมใน ยามคา่ คนื ทาใหก้ ารฟ้อนน่าดูยิง่ นกั ทม่ี าของภาพ : https://www.vsotour.com/th/blog-th/185

กำรแสดงนำฏศิลปพ์ ้ืนเมอื งภำคกลำง ศลิ ปะการแสดงหรือการละเล่นพ้ืนเมอื งของภาคกลางมหี ลายประเภท แต่ละประเภท จะเล่นกนั ในหน้าเทศกาลบา้ ง เลน่ กันท่วั ๆไปบ้าง บางประเภทเปน็ การร้องโตต้ อบกัน บางประเภท กร็ อ้ งดาเนินเรอื่ งเรอ่ื ยไปจนจบ เชน่ เพลงเรอื เพลงหน้าใย นิยมเล่นกันในเทศกาลกฐิน ผา้ ป่า เพลงเก่ียวข้าว เพลงสงฟาง เพลงสงคอลาพวน เพลงชกั ดาบ และเพลงเตน้ การาเคยี ว นยิ มเล่นในฤดู เก่ยี วขา้ ว เพลงเหย่ย เพลงพวงมาลยั เพลงระบาบา้ นไร่ นิยมเล่นในเทศกาลตรุษสงกรานต์เพลง ปรบไก่ เพลงเทพทอง เพลงระบาบา้ นนา เพลงอแี ซว เพลงลาตดั เพลงฉอ่ ย ไมจ่ ากัดเวลา ในที่นี้ จะกลา่ วถึงศลิ ปะการแสดงหรอื การละเลน่ พ้ืนเมอื งบางชนิดเพอื่ จะไดท้ ราบไว้เป็นแนวทางการศกึ ษา คอื กำรแสดงชดุ รำเถดิ เทงิ -เทิ่งบองกลองยำว มีเขา้ มาในสมยั รชั กาลท่ี 4 สันนิษฐานว่า เปน็ การละเล่นของทหารพมา่ ท่ีเขา้ มาในสมยั กรงุ ศรีอยธุ ยาคนไทยนามาปรับปรงุ ให้มีทา่ รา และ การแต่งกายแบบไทย รากลองยาวนี้บางที่เรียกว่า “เท่งิ บอง” ตามเสียงกลองที่ตี เป็นการละเลน่ ทีส่ นุกสนาน ของชาวภาคกลาง ปรบั ปรุงท่าราใหง้ ดงาม การแสดงฝ่ายชายจะสะพายกลองยาวราค่กู ับฝ่ายหญงิ ในการรา่ ยรามีการตกี ลองยาวสลับกันไป จะมีผตู้ เี คร่อื งประกอบจังหวะไดแ้ ก่ ฉงิ่ ฉาบ กรับ โหม่ง และกองยาว เพ่ือใหเ้ กิดความสนกุ ย่งิ ขึ้น นิยมเลน่ ในงานประเพณตี า่ งๆ ที่มาของภาพ : https://2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G9131190/G9131190.html

กำรแสดงนำฏศิลปพ์ ้นื เมืองภำคอีสำน การแสดงพื้นเมอื งภาคอีสานมีหลายชนิดแตกต่างกนั ไปตามวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ โดยหลักใหญ่ๆ จาแนกไดเ้ ป็น 2 กลุม่ คือ กล่มุ อสี านเหนอื ได้แก่ จงั หวดั ต่างๆ ในภาคอีสานยกเว้น 3 จงั หวดั ในกลุ่ม อสี านใต้ คอื จังหวัดสรุ ินทร์ บรุ รี มั ย์ และศรีสะเกษ กลุ่มอีสานเหนอื มกี ารแสดงพืน้ เมอื ง เชน่ เซงิ้ บงั้ ไฟ หมอลา เปน็ ตน้ กลุ่มอสี านใตม้ ีการแสดงพน้ื เมอื ง คือ เรอื มอนั เร กนั ตรมึ กโนบ้ ติงตอง เปน็ ตน้ การแสดงชุดเรือมอนั เร เรอื มอนั เรหรอื กระทบสาก มชี ่ือเสยี งในกลุม่ วัฒนธรรมไทย-เขมร เรม่ิ เล่น ตามลานบ้าน หลังจากตาข้าวเสร็จจะมีหนุ่มมาแสดงความสามารถเอาสากมากระทบแลว้ กระโดดขา้ ม สากเข้า-ออก ต่อมานยิ มเลน่ ในเทศกาลตรุษตา่ งๆ เช่น ตรุษสงกรานต์ เป็นตน้ ผู้แสดงท้งั หญิงและชาย มีผู้กระทบสากเปน็ ชาย 2 คน อยู่คนละขา้ ง การแตง่ กายหญิงจะนุง่ ผ้าซ่ิน หรือโจงกระเบน สวมเสื้อ แขนสามสว่ นหรอื แขนยาว คล้องผ้าเฉียงบา่ สว่ นชายนุ่งโจงกระเบน เสอื้ คอกลมแขนสน้ั มผี า้ คล้อง ไหลแ่ ละผ้าคาดพุง การแสดงเรือมอันเรจะเรม่ิ ต้นตามขน้ั ตอน ดังต่อไปน้ี จังหวะถวายครู เปน็ จังหวะเร่มิ มจี งั หวะเร็วผู้เตน้ เขา้ สาก จงั หวะเจงิ มุย เปน็ จงั หวะช้า ผ้เู ต้นเข้าสากขาเดยี ว จังหวะเจงิ ปริ เป็นจงั หวะเร็ว ผู้เต้นจะเตน้ และราเข้าสากสองขา จังหวะมะลบโดง (ร่มมะพร้าว) เป็นจงั หวะช้า เนน้ การราที่อ่อนช้อยสวยงาม ต่อจากน้จี ะเปน็ จงั หวะเรว็ เต้นทา่ พลกิ แพลง เปน็ ท่ากายกรรมและเปน็ จงั หวะชา้ อาลา ผเู้ ต้นถอื พานดอกไม้หรือขันน้าประพรมผ้ชู ม ทีม่ าของภาพ : http://www.taklong.com/pictpost/show-pictpost.php?No=559285

กำรแสดงนำฏศิลปพ์ น้ื เมืองภำคใต้ การแสดงนาฏศลิ ปพ์ น้ื เมืองภาคใตเ้ ปน็ ภาคทม่ี ีอาณาเขตติดต่อกบั ประเทศมาลาเชีย และเปน็ ดนิ แดนที่ตดิ ทะเล ทาใหเ้ กดิ การผสมผสานทัง้ ทางศาสนา วัฒนธรรม และอารยธรรม จากกลมุ่ ชนหลายเชอื้ ชาติ เกี่ยวโยงถงึ ศาสนาและพธิ กี รรม จนทาใหน้ าฏศลิ ป์ และดนตรีในภาคใต้ มี ลกั ษณะทเ่ี ป็นเครอื่ งบันเทงิ ทงั้ ในพธิ กี รรม และพิธีชาวบ้าน รวมท้ังงานรื่นเรงิ โดยมีลกั ษณะการแสดง ท่ีเปน็ เอกลักษณ์เฉพาะ คือมจี ังหวะท่เี ร่งเรา้ กระฉับกระเฉง ผดิ จากภาคอน่ื ๆ และเน้นจังหวะมากกวา่ ทว่ งทานอง โดยมีลักษณะท่เี ด่นชดั ของเครื่องดนตรปี ระเภทเครอื่ งตีใหจ้ ังหวะเปน็ สาคัญ ส่วนลลี าทา่ ราจะมคี วามคลอ่ งแคล่ววอ่ งไว สนุกสนาน โนรา เปน็ นาฏศลิ ป์ทีไ่ ด้รบั ความนยิ มมากที่สุด ในบรรดาศลิ ปะการแสดงของภาคใต้ มคี วาม ยั่งยนื มานับเป็นเวลาหลายร้อยปี การแสดงโนราเนน้ ท่าราเปน็ สาคญั ตอ่ มาได้นาเร่อื งราว จาก วรรณคดีหรือนิทานทอ้ งถนิ่ มาใช้ในการแสดงเร่อื ง พระสุธนมโนหร์ าเป็นเรอื่ งท่ีมีอทิ ธพิ ล ต่อ การแสดงมากทีส่ ดุ จนเปน็ เหตใุ ห้เรยี กการแสดงนีว้ ่า มโนห์รา ตามตานานของชาวใต้เกยี่ วกบั กาเนดิ ของโนรา มีความเป็นมาหลายตานาน เชน่ ตานาน โนรา จังหวัดตรัง จงั หวดั นครศรีธรรมราช จงั หวดั สงขลาและจงั หวดั พทั ลุง มคี วามแตกต่างกันทั้งชอื่ ที่ปรากฏในเรื่องและเนื้อเรื่องบางตอน ท้งั นี้อาจสืบเนื่องมาจาก ความคิด ความเช่ือ ตลอดจน วิธีสบื ทอดท่ีได้มาจากความประทบั ใจท่ีมีตอ่ ธรรมชาติ เช่น ทา่ ลลี าของสตั วบ์ างชนดิ มที ่ามัจฉา ทา่ กวางเดินดง ทา่ นกแขกเตา้ เข้ารัง ท่าหงสบ์ นิ ท่ายูงฟอ้ นหาง ฯลฯ ทา่ เก่ยี วกับปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติ เชน่ ท่าพระจนั ทร์ทรงกลด ท่ากระต่ายชมจนั ทร์ ตอ่ มาเม่ือได้รับวฒั นธรรม จากอินเดยี เข้ามากม็ ี ท่าพระลักษมณ์แผลงศร พระรามน้าวศิลป์ และท่าพระพทุ ธเจา้ ห้ามมาร ทา่ ราและศิลปะการราตา่ งๆ ของโนรา ท่านผูร้ ู้หลายท่านเชอ่ื ว่าเป็นตน้ แบบของละครชาตรี และการราแม่บทของราไทยด้วย ทม่ี าของภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=5xrSrvGul20

ใบงำนท่ี 1 เร่อื ง ควำมรู้ท่วั ไปเก่ียวกบั นำฏศิลป์พ้ืนเมอื ง คำชี้แจง ตอบคาถามต่อไปนใี้ หถ้ ูกตอ้ ง 1. นาฏศิลป์พืน้ เมอื งหมายถงึ อะไร _____________________________________________________________________ _____________________________________________________________________ _____________________________________________________________________ _____________________________________________________________________ 2. ปจั จยั ทมี่ อี ทิ ธพิ ลต่อการแสดงนาฏศิลปพ์ ้นื เมอื งมีอะไรบ้าง _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ 3. ลกั ษณะการแสดงนาฏศิลปพ์ ื้นเมืองของภาคเหนอื แตกตา่ งจากการแสดงนาฏศลิ ป์พ้ืนเมืองภาคใต้ อย่างไร _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ 4. รากลองยาวเปน็ การแสดงนาฏศิลป์พนื้ เมืองของภาคใด มลี กั ษณะการแสดงอย่างไร _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ 5. นาฏศิลป์พืน้ เมอื งภาคอสี านจาแนกไดก้ ่กี ลุ่ม แต่ละกลุ่มมีการแสดงอะไรบ้าง _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________

เฉลยใบงำนที่ 1 เรอ่ื ง ควำมรู้ท่วั ไปเกี่ยวกับนำฏศลิ ปพ์ ้ืนเมอื ง คำชี้แจง ตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ ูกต้อง 1. นาฏศิลป์พ้นื เมอื งหมายถึงอะไร ____ก_า_ร_แ_ส_ด_ง_ท__เี่ น_้น_ค_ว__าม_เ_ป_็น_เ_อ_ก_ล_กั _ษ_ณ__์ _เ_ฉ_พ_า_ะ_ถ_่ิน__ท_่า_ร_า_ล_ลี_า__ด_น_ต_ร_ี_ไ_ด_้ร_บั _ก_า_ร_ส_งั่ _ส_ม_ส_ืบ_ท_อ_ด_ต_อ่____ ____ก_ัน__ม_า_จ_า_ก_บ_ร_ร_พ_บ_ุร_ุษ_ท__ไ่ี ด_ค้_ดิ_ป__ระ_ด_ิษ__ฐ_์ท_า่ _ร_า_ข_นึ้ _จ_า_ก_พ_ืน้ _ฐ_า_น_ข_อ_ง_ช_า_ว_บ_า้_น__ต_า_ม_ส_ภ_า_พ_ค_ว_า_ม_เ_ป_น็ _อ_ย_ู่__ ____ก_า_ร_แ_ต_ง่_ก_า_ย_จ_ะ_แ_ต_ง่_ต_า_ม_ล_กั_ษ__ณ_ะ_ท_อ้_ง_ถ_ิ่น___แ_ล_ะ_พ_ัฒ_น__าม__าเ_ป_็น_น__า_ฏ_ศ_ิล_ป_์พ_ื้น__เม_อื _ง_______________ 2. ปัจจยั ท่ีมอี ทิ ธพิ ลต่อการแสดงนาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมืองมีอะไรบา้ ง ____-ก_า_ร_ท__า_ม_า_ห_า_ก_นิ _เล__้ยี _งช_ีพ_____________________________________________________ ________-ส__ภ____า__พ__ภ__มู __ิศ__า__ส__ต__ร__์__________________________________________________________________________________________________________________ ________-ค__ต____ิค__ว__า__ม__เช__ื่อ__________________________________________________________________________________________________________________________ 3. ล-ักขษนณบะธกรรามรแเนสยี ดมงปนราะฏเศพิลณปี พ์ นื้ เมืองของภาคเหนอื แตกต่างจากการแสดงนาฏศิลป์พืน้ เมืองภาคใต้ อ_ย_่า_-ง_วไ_ัฒร_นก_ธา_ร_รแ_มส_ตด_่าง_งนช_าา_ฏต_ศิ _ลิ _ป_์พ_ืน้_เ_ม_อื _ง_ภ_า_ค_เห_น_อื__:__ม_กี _าร_ร_า่ _ย_ร_า_ใน__แ_บ_บ_ท_ชี่ _้า_อ_่อ_น_ช_อ้_ย__เ_น_น้ _ก_า_ร_เด_นิ _____ _______เ_ท_้า_แ_ต_ก_ต_า่_ง_จ_า_ก_ก_า_ร_แ_ส_ด_ง_น_า_ฏ_ศ_ิล_ป__์พ_นื้ _เ_ม_อื _ง_ภ_า_ค_ใต_้__: _จ_ะ_ม_ีก_า_ร_แ_ส_ด_ง_จ_งั _ห_ว_ะ_ท_ีเ่ ร_ง่_เ_ร_า้ _______ _______ก_ร_ะ_ฉ_บั__ก_ร_ะ_เฉ_ง__ผ_ดิ _จ_า_ก_ภ_า_ค_อ_นื่_ๆ__แ_ล_ะ_เ_น_้น_จ_งั_ห_ว_ะ_ม_า_ก_ก_ว_่า_ท_ว่_ง_ท_า_น_อ_ง__________________ 4. รากลองยาวเปน็ การแสดงนาฏศิลปพ์ ้นื เมืองของภาคใด มีลักษณะการแสดงอยา่ งไร __ก_า_ร_แ_ส_ด_ง_น_า_ฏ_ศ_ลิ _ป_์พ_ื้น_เม_อื_ง_ภ_า_ค_ก_ล_า_ง_: _เป_น็__ก_า_ร_ล_ะ_เล_น่ _ท_ส่ี__น_กุ _ส_น_า_น_ข_อ_ง_ช_า_ว_ภ_า_ค_ก_ล_า_ง__ป_ร_ับ_ป__ร_ุงท__่าร_า___ __ใ_ห_้ง_ด_ง_า_ม__ก_า_ร_แ_ส_ด_ง_ฝ_า่ _ย_ช_า_ย_จ_ะ_ส_ะ_พ_า_ย_ก_ล_อ_ง_ย_า_ว_ร_า_ค_กู่ _ับ_ฝ_า่_ย_ห__ญ_งิ __ใ_น_ก_า_ร_ร_่า_ย_ร_าม__กี _า_รต__ีก_ล_อ_ง_ย_า_ว__ __ส_ล__บั _ก_ัน_ไ_ป__จ_ะ_ม_ผี _ูต้ _ีเ_ค_ร_อื่ _ง_ป_ร_ะ_ก_อ_บ_จ_งั _ห_ว_ะ_ไ_ด_้แ_ก_่ _ฉ_ง่ิ _ฉ__าบ__ก_ร_ับ__โ_ห_ม_ง่ __แ_ล_ะ_ก_อ_ง_ย_า_ว_เ_พ_่อื _ใ_ห_เ้ _ก_ิด_____ _5_.ค_นว_าา_ฏม_ศส_ลิ_น_ปุก_พ์ย_งิ่้นื _ขเ_มึ้น_อื _นง_ภิย_าม_คเ_ลอ_น่ีส_ใา_นน_งจ_าา_นแ_ปน_รก_ะไ_เดพ_ก้ _ณ่กี_ีตล_่าุ่ม_ง_ๆ_แ_ต_ล่ _ะ_ก_ล_ุ่ม_ม_กี _า_ร_แ_ส_ด_ง_อ_ะ_ไ_ร_บ_้า_ง________________ ____จ_า_แ_น__ก_ได_้_2__ก_ล_ุม่ _ค_อื ______ก_ล_ุม่ _อ_ีส_า_น_เ_ห_น_ือ_ม_ีก_า_ร_แ_ส_ด_ง_พ_ื้น_เ_ม_อื _ง__เ_ช_น่ __เซ_ิ้ง_บ_ั้ง_ไ_ฟ__ห_ม_อ_ล_า________ _________________________________________________________________________ ____ก_ล_่มุ__อ_ีส_า_น_ใ_ต_้ม_ีก_า_ร_แ_ส_ด_ง_พ_นื้ _เ_ม_ือ_ง__ค_ือ__เร_ือ_ม_อ_นั _เ_ร__ก_นั _ต_ร_มึ __ก_โน__้บ_ต_ิง_ต_อ_ง___________________

แบบทดสอบยอ่ ย เรอ่ื ง ควำมรู้เท่ียวไปเกย่ี วนำฏศิลป์พืน้ เมือง 1. ขอ้ ใดไม่ใชป่ ัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่ นาฎศิลปพ์ น้ื เมอื ง 6. “ราเถิดเทิง-เทง่ิ บองกลองยาว” เกิดสมัยใด ก. สภาพภมู ิศาสตร์ ก. รชั กาลที่ 3 ข. การทามาหาเล้ียงชพี ข. รชั กาลท่ี 4 ค. คา่ นิยมและความเชอื่ ค. รัชกาลท่ี 5 ง. เงินในการดาเนนิ งาน ง. รชั กาลท่ี 6 2. “เซิ๊ง” เปน็ การแสดงพ้นื เมอื งภาคใด 7. การแสดงร่ายราแบบชา้ เป็นการราในแบบ ก. ภาคเหนอื ใด ข. ภาคกลาง ค. ภาคอีสาน ก. การรา ง. ภาคใต้ ข. การระบา ค. การฟอ้ น 3. ดนตรีพื้นเมอื งของอสี านคืออะไร ง. การละคร ก. กลองโทน ข. โปงลาง 8. ขอ้ ใดมคี วามสัมพนั ธ์กนั ค. ฆ้องวง ก. ฟ้อนสาวไหม-ภาคอสี าน ง. ระนาด ข. เซ้ิงสวิง-ภาคกลาง ค. รากลองยาว-ภาคเหนอื 4. คนตรีของภาคใตท้ ่ีถือว่าสาคัญท่ีสดุ คือขอ้ ใด ง. ราโนราห์-ภาคใต้ ก. กลองแขกและรามะนา ข. ระนาดเหล็กและรามะนา 9. การแสดพืน้ เมอื งหมายถงึ อะไร ค. กลองแขกและโหมง ก. การแสดงของท้องถนิ่ ง. ปชี่ วาและฆอ้ งโหม่ง ข. การแสดงผสมหลายอย่าง ค. การแสดงตั้งแตด่ ึกดาบรรพ์ 5. ภาคใดเป็นภาคทร่ี วมวฒั นธรรมทกุ ภาค ง. การแสดงของชาติตา่ งๆ ก. ภาคเหนือ ข. ภาคกลาง 10. เรอ่ื งอันเร เป็นการแสดงของภาคใด ค. ภาคใต้ ก. ภาคเหนอื ง. ภาคอสี าน ข. ภาคกลาง ค. ภาคอสี าน ง. ภาคใต้

เฉลยแบบทดสอบย่อย เรื่อง ควำมรทู้ ่วั ไปเกย่ี วกบั นำฏศิลป์พน้ื เมือง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 งคขกขข ค ง ก ค

แบบบนั ทกึ คะแนนสอบยอ่ ย เรอื่ ง ควำมรูท้ ่วั ไปเกี่ยวกับนำฏศลิ ป์พืน้ เมอื ง รำยวชิ ำนำฏศิลป์พนื้ เมืองสร้ำงสรรค์ ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 5 เลขท่ี คะแนน เลขท่ี คะแนน เลขท่ี คะแนน 1 16 31 2 17 32 3 18 33 4 19 34 5 20 35 6 21 36 7 22 37 8 23 38 9 24 39 10 25 40 11 26 41 12 27 42 13 28 43 14 29 44 15 30 45 ระดับคุณภำพ เทา่ กับ 9 - 10 ดมี าก เท่ากบั 7 - 8 ดี เทา่ กับ 5 - 6 พอใช้ เทา่ กบั 1 - 4 ปรับปรุง

แบบสังเกตพฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม รำยวชิ ำนำฏศิลป์พนื้ เมอื งสรำ้ งสรรค์ รหสั วชิ ำ ศ30234 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 5 โรงเรยี นขุนหำญวิทยำสรรค์ อำเภอขุนหำญ จงั หวัดศรสี ะเกษ ชอ่ื กลุ่ม...............................................................ประกอบด้วยสมำชิก จำนวน ............... คน คอื 1.........................................2.................................................3............................................................. 4.........................................5.................................................6............................................................. 7.........................................8.................................................9............................................................. ผสู้ งั เกต นางผกามาศ ไชยสวาสดิ์ ครผู ูส้ อน คาชี้แจง ให้ทาเคร่อื งหมาย  ในช่องท่ีตรงกบั ความเปน็ จรงิ พฤตกิ รรมกำรร่วมกิจกรรม เกณฑ์กำรประเมิน 1 ความร่วมมอื 432 1 2.ข้ันตอนการทางาน 3.การแสดงความคิดเหน็ 4.ความรบั ผิดชอบ รวม เกณฑ์กำรประเมิน ระดบั 4 คะแนน ดมี าก เทา่ กับ ระดับ 3 คะแนน ดี เท่ากบั ระดับ 2 คะแนน ระดับ 1 คะแนน พอใช้ เท่ากับ ปรบั ปรงุ เทา่ กับ 14-16 10-13 ระดับคุณภำพ เท่ากบั 7-9 ดีมาก เทา่ กบั 4-6 ดี เทา่ กบั พอใช้ เท่ากับ ปรับปรุง

เกณฑ์กำรประเมินกำรทำงำนกลุม่ ประเดน็ กำร ระดบั คะแนน ประเมิน 4 3 21 ความรว่ มมอื สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกลุ่มทุก สมาชกิ ในกลุ่ม สมาชกิ ในกลุ่ม ข้ันตอน ทกุ คนร่วมมอื กัน คนรว่ มมอื กัน ทุกคนทางานที่ บางคนไม่ การทางาน ทางาน มีการ ทางานสว่ นใหญ่มี ไดร้ บั มอบหมายแต่ ทางานกล่มุ ประสานงานทด่ี ี การประสานงาน ยังขาดการ ขาดการ การแสดง เปิดโอกาสให้ ทด่ี ี เปดิ โอกาสให้ ประสานงานใน ประสานงาน ความคิดเหน็ สมาชิกกลุ่มอ่นื มี สมาชกิ กล่มุ อ่ืนมี กลมุ่ เปิดโอกาสให้ สมาชิกกลุ่มอน่ื ความ ส่วนรว่ มใน สว่ นร่วมใน สมาชกิ กลุม่ อืน่ มี ไม่มโี อกาสเขา้ รบั ผิดชอบ กจิ กรรม กจิ กรรมบางช่วง สว่ นร่วมนอ้ ยมาก รว่ มกจิ กรรม ตลอดเวลาการ ของการนาเสนอ ในชว่ งของการ ในชว่ งของการ นาเสนอ นาเสนอ นาเสนอ มีการกาหนด มกี ารกาหนด มีการกาหนด มกี ารกาหนด ขนั้ ตอนการทางาน ขนั้ ตอนการ ขนั้ ตอนการทางาน ขนั้ ตอนการ ท่ชี ดั เจนตัง้ แต่เริ่ม ทางานคอ่ นข้าง แตย่ งั มีความสาเรจ็ ทางานไม่ ทางานจนกระทั่ง ชดั เจนต้ังแตเ่ ริ่ม ของงานไมค่ ่อย ชดั เจนทาให้ เห็นผลงานสมบรู ณ์ การทางาน สมบูรณ์ ผลงานไม่ จนกระทง่ั เหน็ สมบูรณ์ สมาชิกทกุ คนรว่ ม ผลงานสมบูรณ์ สมาชกิ มากกวา่ แสดงความคิดเหน็ สมาชิกสว่ นใหญ่ ครึง่ ร่วมแสดง สมาชกิ ไมใ่ ห้ รว่ มแสดงความ ความคดิ เห็น ความรว่ มมือใน สมาชกิ ทุกคน คดิ เหน็ การแสดงความ ทางานท่ไี ด้รบั สมาชกิ บางคน คดิ เห็น มอบหมายจนงาน สมาชกิ สว่ นใหญ่ เล่ยี งงาน ไม่ทา สมาชิกไม่มี เสร็จสมบูรณ์ ทางานท่ไี ด้รับ หน้าทีต่ ามที่ได้รับ ความ ทันเวลา มอบหมายจน มอบหมาย งาน รับผิดชอบทา เสรจ็ ส้ินสมบรู ณ์ เสร็จแตไ่ มค่ อ่ ย ใหง้ านไม่บรรลุ ทันเวลา สมบูรณ์ทันเวลา เป้าหมาย

แบบสรุปกำรประเมนิ พฤติกรรมกำรทำงำนกลมุ่ รำยวิชำนำฏศิลปพ์ ้ืนเมอื งสรำ้ งสรรค์ รหสั วิชำ ศ30234 ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 5 โรงเรียนขนุ หำญวทิ ยำสรรค์ อำเภอขุนหำญ จังหวัดศรสี ะเกษ เลขที่ คะแนนรวม เลขที่ คะแนนรวม 1 24 2 25 3 26 4 27 5 28 6 29 7 30 8 31 9 32 10 33 11 34 12 35 13 36 14 37 15 38 16 39 17 40 18 41 19 42 20 43 21 44 22 45 23

แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รำยวชิ ำนำฏศลิ ปพ์ นื้ เมอื งสร้ำงสรรค์ รหสั วิชำ ศ30234 ชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี 5 โรงเรยี นขนุ หำญวทิ ยำสรรค์ อำเภอขุนหำญ จังหวดั ศรีสะเกษ ชอื่ .......................................................นำมสกลุ ...............................เลขท่.ี ................ชั้น. ............ ผสู้ ังเกต นางผกามาศ ไชยสวาสดิ์ ครูผสู้ อน คาชีแ้ จง ให้ทาเคร่อื งหมาย  ในช่องที่ตรงกบั ความเปน็ จริง คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์กำรประเมนิ 432 1 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน 4. รักความเป็นไทย 5. มจี ิตสาธารณะ รวม เกณฑก์ ำรประเมนิ ระดบั 4 คะแนน ดมี าก เทา่ กบั ระดับ 3 คะแนน ดี เท่ากับ ระดบั 2 คะแนน พอใช้ เทา่ กับ ระดับ 1 คะแนน ปรับปรุง เท่ากับ ระดบั คณุ ภำพ 17-20 ดีมาก เท่ากับ 13-16 ดี เท่ากับ 9-12 พอใช้ เท่ากับ 5-8 ปรบั ปรงุ เทา่ กบั

เกณฑ์กำรประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รำยกำรประเมิน 43 2 1 1.มีวินัย ปฏิบัติตามระเบยี บ ปฏิบตั ติ ามระเบียบ ปฏิบัตติ ามระเบยี บ วนิ ัยของห้องเรียน ไม่ปฏิบตั ติ าม 2.ใฝ่เรยี นรู้ และรกั ษาความ ระเบยี บวนิ ัยของ วนิ ัยของห้องเรยี น วินัยของหอ้ งเรียน สะอาดบางครัง้ หอ้ งเรยี นและไม่ 3.มุ่งมน่ั ในการ รกั ษาความ ทางาน และรกั ษาความ และรกั ษาความ ตงั้ ใจเรยี นบางคร้งั สะอาด 4.รกั ความเปน็ ไทย 5.มจี ิตสาธารณะ สะอาดอย่าง สะอาดดี ไม่ตั้งใจเรยี น สม่าเสมอ ตัง้ ใจเรียนทุกชั่วโมง ตง้ั ใจเรยี น และใฝ่หาความรู้ใหม่ ทุกชวั่ โมง มาแลกเปลี่ยนกับครู และเพอ่ื นใน ห้องเรียน ปฏิบตั งิ าน ปฏบิ ัตงิ าน ปฏบิ ตั ิงาน ไม่ปฏิบตั ิงาน ในหน้าทด่ี ้วย ในหน้าทด่ี ว้ ย ในหนา้ ที่ด้วย ในหน้าที่ ความสาเรจ็ และ ความสาเร็จ ความสาเร็จบางคร้งั มีประสทิ ธิภาพ มารยาทดี ภมู ิใจ มารยาทดี ภูมิใจ มารยาทดี ภูมิใจ ใน ไม่มีมารยาท ในความเปน็ ไทย ในความเป็นไทย ความเป็นไทย ไมภ่ มู ใิ จใน อยา่ งสม่าเสมอ บางครง้ั ความเปน็ ไทย ให้ความชว่ ยเหลือ ให้ความชว่ ยเหลือ ใหค้ วามช่วยเหลือ ไมใ่ ห้ความ เพอื่ นด้วยความเต็ม เพื่อนด้วยความเตม็ เพ่อื นบางคร้งั ช่วยเหลือเพือ่ น ใจอย่างสม่าเสมอ ใจ

แบบสรปุ คะแนนประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รำยวชิ ำนำฏศิลป์พื้นเมอื ง รหัสวิชำ ศ30234 ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 5 โรงเรียนขนุ หำญวิทยำสรรค์ อำเภอขนุ หำญ จงั หวดั ศรสี ะเกษ เลขท่ี คะแนนรวม เลขท่ี คะแนนรวม 1 24 2 25 3 26 4 27 5 28 6 29 7 30 8 31 9 32 10 33 11 34 12 35 13 36 14 37 15 38 16 39 17 40 18 41 19 42 20 43 21 44 22 45 23

บรรณำนกุ รม ดษุ ฎี มีปอ้ ม และคณะ. หนังสอื เรยี น รำยวชิ ำพื้นฐำนดนตรี-นำฏศลิ ป์ ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 5 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พว์ ัฒนาพานชิ , 2558 ดร.พรเทพ บุญจนั ทรเ์ พ็ชร.์ ประวัตนิ ำฏศิลปไ์ ทยภำคตะวันออกเฉยี งเหนือ. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์ โอเดยี นสโตร์, 2558 ศนู ยว์ ฒั นธรรมเชยี งใหม่. https://www.vsotour.com/th/blog-th/185 สบื คน้ เมอื่ วันท่ี 24 เมษายน 2558 วัฒนธรรมไทย 4ภาค. https://2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G9131190/G9131190 สบื ค้นเมื่อ วนั ท่ี 24 เมษายน 2558 มโนรา เมอื งนครศรธี รรมราช. https://www.youtube.com/watch?v=5xrSrvGul20 สบื คน้ เมอ่ื วนั ที่ 24 เมษายน 2558


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook