Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานของบุคคล

การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานของบุคคล

Description: ในการบริหารงานไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชน ผู้บริหารทุกคนล้วนมีความต้องการให้บุคลากรของตนได้รับการพัฒนา และต้องการให้บุคลากรของตนมีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบุคคลที่มีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลานั้นจะมีความพร้อมต่อการแข่งขัน และจะเป็นบุคคลที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หน่วยงานหรือองค์กรใดก็ตามที่บุคลากรมีการพัฒนาตนเอง ย่อมก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานและนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าขององค์กร

Search

Read the Text Version

การพฒั นาประสทิ ธิภาพในการทำงานของบุคคล ดร.พจน์ พจนพาณชิ ยก์ ุล วนั ที่ 11 มกราคม 2556 ในการบริหารงานไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชน ผู้บริหารทุกคนล้วนมีความ ต้องการให้บุคลากรของตนได้รับการพัฒนา และต้องการให้บุคลากรของตนมี การพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบุคคลที่มีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาน้ัน จะมีความพร้อมต่อการแข่งขัน และจะเป็นบุคคลที่พร้อมรับมือกับการ เปลย่ี นแปลงอยูต่ ลอดเวลา หน่วยงานหรอื องค์กรใดกต็ ามท่ีบคุ ลากรมีการพัฒนา ตนเอง ย่อมก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานและนำมาซึ่งความ เจริญก้าวหนา้ ขององคก์ ร นอกเหนือจากการพัฒนาบุคลากรเพื่อองค์กรแล้ว การพัฒนาตนเองของ บุคลากรยังส่งผลต่อความสำเร็จหรือเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพอีกด้วย การ พัฒนาตนเองนั้นถือเปน็ การแข่งขนั กับตัวเองเพื่อเป็นบันไดไปสู่ความก้าวหนา้ ใน อนาคต และเป็นการเตรยี มความพร้อมในการที่จะตอ้ งแข่งขันกบั คนอืน่ ในโลก ของการทำงานที่มีการแข่งขันสูงเวทีการทำงานจะเปิดโอกาสให้กับคนที่มี ประสิทธิภาพในการทำงานเสมอ และเช่นเดียวกัน “คนที่มีประสทิ ธิภาพในการ ทำงานสูงจากการพัฒนาตัวเองอยา่ งต่อเนื่องในเรื่องต่าง ๆ มักจะพร้อมอยู่เสมอ สำหรับการแข่งขันไม่วา่ ในเวทีหรือสถานการณ์ใดกต็ าม” การพฒั นา (Development) คือ การทำใหด้ ีขน้ึ หรอื เปน็ การเปลย่ี นแปลง เพื่อสิ่งที่ดีกว่า (Change for the better) ส่วนประสิทธิภาพในการทำงานน้ัน หมายถึง การทำงานที่ให้ผลผลิต (Out Put) สูงเมื่อเทียบกับปัจจัยนำเข้า (In Put) หรือพูดให้ง่ายขึ้นก็คือ การประหยัดทรัพยากร (4 M) และเวลา

2 ซึ่งมีความเกี่ยวพันธ์กับต้นทุนนั้นเอง ดังนั้นการพัฒนาประสิทธิภาพในการ ทำงาน จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตที่เพิม่ ขึ้น หรือสามารถลด ต้นทุนได้เพิ่มขึ้น ถ้าจะว่าไปแล้วการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน ถือเป็น การพฒั นาศักยภาพของบุคคลใหม้ ีขดี ความสามารถเพิม่ มากข้นึ นัน่ เอง มงุ่ มนั่ ทนั สมัย การ ตอ่ เน่ือง พฒั นา เปลี่ยน แปลง การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานของบุคคลนั้น สามารถกระทำได้ หลากหลายรูปแบบ ในที่นี้ผู้เขียนขอแนะนำเทคนิคที่ใช้ในการพัฒนา ประสิทธิภาพในการทำงานของบุคคล ซึ่งทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อการ พัฒนาตนเองได้ดังน้ี

3 1. วิเคราะห์ตนเอง กอ่ นท่เี ราจะเปล่ียนแปลงหรอื ปรับเปลีย่ นตัวเอง สงิ่ แรกที่ควรต้อง ทำคอื การวเิ คราะห์ตนเอง คนเรานน้ั ถา้ ร้วู ่าตนเองมคี วามสามารถ ความชำนาญ หรือมีศักยภาพพิเศษในด้านใด ก็ควรที่จะต้องเสริมศักยภาพของตนในด้านน้ัน และควรที่จะต้องทำในสิ่งที่ตนเองมีความถนัดหรือมีความชำนาญ และสำหรับ ความสามารถในด้านที่ยังขาดทักษะและความชำนาญก็ควรที่จะ หาความรู้ เพม่ิ เติมเพื่อเปน็ การพัฒนาตนเองให้มีศกั ยภาพเพ่มิ มากขน้ึ ในอนาคต 2. ม่งุ มั่นทจี่ ะเปลีย่ นแปลง การที่จะพัฒนาตนเองได้ ต้องมีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และต้องมี ความมุ่งมั่นมากกว่าแค่ความตั้งใจ ต้องมีความเชื่อว่า ศักยภาพของตนเองนั้น สามารถพัฒนาขึ้นได้ และทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการที่จะเปลี่ยนแปลง ตนเองให้เปน็ คนใหมท่ ่ีมศี ักยภาพเพ่ิมมากขนึ้ และต้องเชอื่ วา่ การเปลย่ี นแปลงจะ นำมาซง่ึ ส่งิ ดี ๆ ในชีวิตวนั ขา้ งหนา้ 3. มองโลกในแง่ดี (คดิ บวก) “พรุ่งนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน”..... “ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ และมีทางออก ของปัญหาเสมอ” หลายคนคงเคยได้ยิน 2 ประโยคนี้มาแล้ว แต่ใครจะสามารถทำใจให้คิด และยอมรับกับความรู้สึกเหล่านี้ได้ตลอดเวลา ในการพัฒนาประสทิ ธิภาพในการ ทำงานของบุคคลนั้น ใช่ว่าจะเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพในงานแต่เพียงอย่าง เดียวเทา่ นั้น แต่การพัฒนาทางความคิดและทัศนคติในการทำงานก็จะเป็นปัจจัย เสริมตอ่ การพฒั นาประสทิ ธิภาพในการทำงานให้เพิ่มข้นึ ดงั น้นั การมองโลกในแง่

4 ดี หรือการคิดบวกนั้น เป็นพฤติกรรมของบุคคลที่ควรปฏิบัติ และสำคัญเป็น อย่างยิ่งที่จะต้องให้เกิดเป็นนิสัย การมองโลกในแง่ดี และการคิดบวกจะช่วยใน การเสริมกำลังใจและสามารถช่วยลดปัญหาในเร่ืองของความขดั แยง้ ได้เป็นอย่าง ดี ทั้งความขดั แย้งที่เกิดขน้ึ กบั บุคคลอื่น และความขัดแยง้ ในตัวตนของตนเอง 4. ใฝ่หาความรเู้ พ่ิมเตมิ อยเู่ สมอ การหาความรู้เพิ่มเติมจะช่วยให้สมองได้รับการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง การหาความรู้เพิ่มเติมไม่จำเป็นจะต้องเป็นความรู้ที่เกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ใน ขณะนั้นเพียงเท่านั้น แต่เราสามารถหาความรู้ในด้านอื่น ๆ ที่เรายังไม่รู้เพื่อ เรยี นรู้เพิ่มเติม อาทิเชน่ ความรทู้ างดา้ นการตลาด เศรษฐกจิ การเมือง กฎหมาย โดยความรู้เหล่านี้เราสามารถหาได้จากการสัมมนา ฝึกอบรม อ่านหนังสือ หรือ สอบถาม พูดคุย ปรึกษากับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญก็ได้เช่นกัน ดังคำกล่าวที่ว่า “ความรู้ไม่มีวันเรียนจบ และไม่มีใครแก่เกินเรียน” อีกทั้งคนที่มีความรู้มากก็จะ สามารถแก้ปัญหาได้ง่าย หาทางออกของปญั หาไดม้ ากข้นึ แน่นอนว่าผลตอบแทนสูงสุดที่เราได้จากการพัฒนาประสิทธิภาพในก าร ทำงานนั้น ไม่ได้อยู่ที่ผลงานของเราแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อยู่ที่ศักยภาพ ทางสมองของเราได้มีการพัฒนามากขึ้น พร้อมกับประสบการณ์และทักษะของ การทำงานที่เฉยี บคมมากข้ึนกว่าเดมิ 5. ตง้ั เป้าหมายในการทำงาน เป้าหมาย เป็นปลายทางที่ต้องให้ไปถึง ไม่ว่าจะในชีวิตการทำการหรือใน ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายในการทำงานนั้น ถือเป็นหัวใจ สำคัญของการทำงาน เพราะในการบริหารงานใด ๆ ก็ตาม มักจะเน้นที่ ความสำเร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้หรือกำหนดไว้ ไม่ว่าจะกำหนดเอาไว้ในรูปแบบใดก็

5 ตาม ถ้าทำงานแบบมีเป้าหมายว่างานแต่ละอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบมี เป้าหมายของความสำเร็จอยู่ ณ จุดใด ภายในเวลาเท่าใด ความชัดเจนของงาน หรือการกำหนดแผนการปฏิบัติงานย่อมอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ กว่า การที่จะปฏิบัติงานไปวัน ๆ หรือทำงานไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีจุดหมายปลายทาง ของความสำเร็จ หากเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานของบุคคล การตงั้ เป้าหมาย ในการทำงานควรเปน็ การตั้งเป้าหมายให้อยู่ในระดบั ท่ีสูงกว่า ศักยภาพปกติของ ตนจะดำเนินการได้เพื่อให้เกิดการพัฒนาในการที่จะให้บรรลุผลสำเร็จตาม เปา้ หมาย ดังคำกล่าวทว่ี า่ “ฝนั ให้ไกล ไปใหถ้ งึ ” น่นั เอง 6. วางแผนกอ่ นลงมือทำ ในการทำงานนั้นนอกจากการกำหนดวัตถุประสงค์ในการทำงานแล้ว การ วางแผนช่วยให้งานบรรลุผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดเวลา และการใชท้ รพั ยากรในการทำงาน การทำงานทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพน้นั เกดิ ขน้ึ ได้ด้วย เงื่อนไขของการวางแผนงานท่ดี ี การวางแผนที่ดเี กดิ จากความคดิ ที่รอบคอบ คิด จากมุมมองที่หลากหลาย การวางแผนเป็นการสร้างข้อเสนอของการดำเนินงาน ที่เป็นไปได้หลายทางเลือก โดยเปรียบเทียบข้อดขี ้อเสียของแต่ละทางเลือก และ ยังเป็นการประเมินสถานการณ์ความเป็นไปได้ในการทำงานเพื่อเป็นการลด ความเสี่ยงในการทำงานได้อีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นการวางแผนถือองค์ประกอบ หนึ่งทีม่ ีความสำคญั ต่อการทำงานใหม้ ีประสทิ ธิภาพ มากยง่ิ ขนึ้ 7. มกี ารส่อื สารทีด่ ี การสื่อสารมีความสำคัญกับมนุษย์มาตั้งแต่กำเนิด เนื่องจากการสื่อสาร เป็นเครื่องมือในการบอกความต้องการของตนเองต่อผู้อื่น นอกจากนี้การสือ่ สาร

6 ยังเป็นความสามารถหรือทักษะที่ทุกคนมีมาตั้งแต่กำเนิดแม้แต่เด็กทารกที่ยังไม่ สามารถที่จะพูดก็ยังมีทักษะในการสื่อสารเพื่อให้ได้ตามที่ตนต้องการ อาทิเช่น เมอื่ เด็กทารกหวิ ก็จะส่งเสยี งร้องเพื่อสอื่ สารให้ผเู้ ปน็ แมไ่ ดร้ ับรู้ว่าตนต้องการที่จะ กนิ (ดื่ม) นมแม่ เป็นต้น เนื่องจากการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสดงความต้องการ ระหว่างบุคคล โดยเฉพาะในการปฏิบัติงานนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะในการ สื่อสารทั้ง การพูด การอ่าน การเขียน และการฟัง รวมไปถึงการแสดงออกด้วย ท่าทาง โดยมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น เพื่อให้ข้อมูล เพื่อชักจูงหรือโน้ม น้าวใจ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อให้เกิดการยอมรับและได้รับความร่วมมือ จากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้ ผู้ปฏิบัติงานควรมีการฝึกเพื่อเพิ่มทักษะในการ สื่อสารให้เหมาะสมกับกาลเทศะสามารถเลือกใช้ทั้งวัจนภาษา และอวัจนภาษา ในการส่อื ความหมายใหช้ ัดเจน เหมาะสมและมปี ระสทิ ธภิ าพ อนั จะสง่ ผลต่อการ เพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการทำงานไดต้ อ่ ไป 8. มีบุคลิกภาพดี สุภาษิตที่ว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” ยังคงใช้ได้ดีเสมอ บุคลิกและการแต่งกาย เป็นองค์ประกอบอย่างหน่ึงที่จะช่วยเสรมิ ความสำเร็จใน การทำงาน การแต่งกายนั้นมีหลักการง่าย ๆ คือ อย่าพยายามแต่งกายมาก เกนิ ไป หรอื น้อยเกนิ ไป และท่สี ำคญั การแต่งกายตอ้ งใหเ้ หมาะสมกบั รูปรา่ ง และ บุคลิกของตนเอง อย่าแต่งกายแบบที่ไม่ใช่ตัวตนของตัวเอง การแต่งการตาม แบบอย่างดารา นางแบบ นั้นต้องคิดเสมอว่า ผู้ผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นเมื่อผลิตออก มาแล้วก็มีความต้องการที่จะจำหน่ายให้มาก จึงต้องหาดารา นางแบบมาใส่โชว์ ดังนั้นการที่ดารา นางแบบคนหนึ่งใส่เสื้อตัวหนึ่งสวย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเมื่อเราใส่แลว้

7 จะสวยเหมือนนางแบบ การแต่งกายที่ดีสำหรับการทำงานก็คือ สะอาด สุภาพ และโชวบ์ คุ ลกิ เฉพาะของคณุ ออกมา 9. สมาธเิ พ่ิมพลงั ในการคดิ สมาธิ คือ การที่มีใจตั้งมั่นในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งอย่างแน่วแน่ กล่าวใน ภาษาชาวบ้านก็คือ การมีใจจดจ่ออยู่ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ฟุ้งซ่านนั่นเอง การ ฝึกสมาธิมิใช่ด้วยเหตุผลของการเข้าถึงนิพานแต่เพียงเท่านั้น แต่การฝึกสมาธิ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน เพราะการฝึกสมาธินั้นทำ ให้ผู้ปฏิบัติมีจิตใจผ่องใส ประกอบกิจการงานได้ราบรื่นและคิดอะไรก็รวดเร็ว ทะลุปรุโปร่ง เพราะว่าระดับจิตใจได้ถูกฝึกมาให้มีความนิ่งดีแล้ว เมื่อมีความนิ่ง เป็นสมาธดิ ีแล้ว ย่อมมพี ลงั แรงกวา่ ใจท่ีไม่มีสมาธิ ดงั นีเ้ ม่ือจะคดิ ทำอะไร ก็จะทำ ไดด้ ี และไดเ้ รว็ กว่าคนปกติ ที่ไมไ่ ดผ้ า่ นการฝกึ สมาธมิ ากอ่ น การฝึกสมาธิจะช่วยในด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ ทำให้เป็นผู้มีบุคลิกภาพ ดี กระฉับกระเฉง กระปร้ีกระเปร่า มคี วามองอาจสง่าผ่าเผย มผี ิวพรรณผ่องใส มี ความมั่นคงทางอารมณ์ หนักแน่น เยือกเย็น และเชื่อมั่นในตนเอง มีมนุษย์ สัมพันธ์ดี วางตัวได้เหมาะสมกับกาลเทศะ เป็นผู้มีเสน่ห์ เพราะไม่มักโกรธ มี ความเมตตากรุณาต่อบุคคลทั่วไป การฝึกสมาธิบ่อย ๆ ทำให้เกิดปัญญาในการ ทำสิ่งใด ๆ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น นอกจากนี้การฝึกสมาธิยัง ช่วยคลายเครยี ด และลดความเครยี ดท่จี ะเข้ามากระทบจิตใจได้ เมอื่ เราไม่เครียด ร่างกายก็จะหลั่งสารทำให้เกิดความสุข ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะมี ภูมิต้านทานทั้งภูมิต้านทานทางจิตใจ และภูมิต้านทานเชื้อโรค และยังทำให้ดู ออ่ นกวา่ วัยชว่ ยชะลอความแกไ่ ดด้ ว้ ย

8 10.สขุ ภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง สุขภาพร่างกายมีส่วนสำคัญต่อการปฏิบัติงาน งานทุกอย่างจะไม่สามารถ สำเร็จลุล่วงไปได้หากผู้ปฏิบัติงานเกิดการเจ็บป่วย ผู้มีสุขภาพดีย่อมทำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นควรดูแลสุขภาพให้ดี และออกกำลังกายสม่ำเสมอ การมีสุขภาพท่ดี เี ป็นสภาวะท่ีร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีความ พิการใด ๆ ร่างกายสามารถทำงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งลักษณะ สุขภาพที่ดีทางกายนั้น ควรประกอบด้วย ร่างกายที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง ระบบต่าง ๆ และอวัยวะทุกส่วนทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ ร่างกายมีการ เจริญเติบโตของอวัยวะต่าง ๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมกับวัย รวมทั้งภาวะทาง สมองด้วย การทีจ่ ะมีสุขภาพร่างกายที่ดไี ดน้ ั้นรา่ งกายต้องไดร้ ับการพักผ่อนอย่าง เพียงพอ และการพักผ่อนที่สุดคือ การได้นอนหลับอย่างพอเพียง ภายหลังจาก การนอนหลับและพักผ่อนแล้ว ร่างกายจะคืนสู่สภาพปกติสดชื่น พร้อมรับกับ การปฏบิ ัติหน้าท่ี หรอื ภารกจิ ในวันตอ่ ไป จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการปฏิบัติเพื่อการพัฒนา ประสิทธิภาพในการทำงานของบุคคล ที่ผู้เขียนได้นำเสนอเพียงหวังให้ผู้อ่านได้ นำไปปฏิบัติเพื่อการพัฒนาตนเอง ซึ่งนอกจากแนวทางปฏิบัติดังกล่าวแล้วยังมี แนวทางปฏิบัติอื่น ๆ ที่สามารถกระทำได้อีกหลากหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่สำคัญ ท่ีสุดของการพฒั นาตนเอง คอื การมจี ติ ใจที่มุง่ ม่นั ในการที่จะเปล่ียนแปลงตนเอง ไปในทศิ ทางที่ดขี ้ึนน่นั เอง

9 สำหรับท่านที่ต้องการศึกษาความรู้ด้านการบริหารจัดการ การ บริหารงานบุคคล และการตลาด เพิ่มเติมสามารถเลือกติดตามได้จาก ชอ่ งทางตอ่ ไปน้ี • ช่องยูทปู คน้ หาคำว่า “พจน์ พจนพาณิชยก์ ลุ ” • เว็บไซต์ https://sites.google.com/view/drpotpage1