Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

Published by panyaponphrandkaew2545, 2021-08-19 15:11:20

Description: การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 1 หลกั การผลติ ส่ือสิ่งพมิ พ์ ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั สื่อส่ิงพมิ พ์ เร่ิมแรกในระบบการพิมพจ์ ะใชช้ ่างศิลป์ ช่างทาํ แม่พิมพท์ ี่มีทกั ษะและความชาํ นาญในการผลิตสื่อส่ิงพมิ พ์ เป็นอยา่ งมาก ซ่ึงสิ่งพมิ พเ์ ร่ิมแรกน้นั เป็นการแกะสลกั ตวั อกั ษรลงหินจากน้นั กเ็ ขียนบนผา้ ไหม หนงั สัตวจ์ ากน้นั พฒั นาการมาเป็นการเขียนบนกระดาษโดยในปัจจุบนั ความกา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ใหก้ ารสร้าง งานส่ิงพมิ พง์ า่ ยข้ึนก่อนท่ีจะเรียนรู้ถึงกระบวนการทาํ จะขอกลา่ วถึงความหมายของสื่อส่ิงพมิ พ์ ประเภทของสื่อ สิ่งพมิ พ์ ประเภทของโประแกรมท่ีใชใ้ นการผลิตสื่อส่ิงพิมพ์ กระบวนการผลิตส่ือส่ิงพมิ พ์ การเตรียมงานพิมพ์ ก่อนสโรงพิมพ์ บทบาทของส่ิงพิมพใ์ นปัจจุบนั 1.1 ความหมายและความสําคัญของสื่อส่ิงพมิ พ์ พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถานไดใ้ หค้ วามหมายคาํ ท่ีเก่ียวกบั “สื่อสิ่งพมิ พ”์ ไวด้ งั น้ี คาํ วา่ “ส่ิงพมิ พ”์ หมายถึงสมดุ แผนกระดาษหรือวตั ถใุ ด ๆ ที่พมิ พข์ ้ึน รวมตลอดท้งั บทเพลง แผนท่ี แผนผงั ภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผน่ เสียง หรือส่ิงอื่นใดอนั มีลกั ษณะเช่นเดียวกนั “สิ่งพมิ พ”์ หมายถึง ขอ้ ความขอ้ เขียนหรือภาพที่เกี่ยวกบั แนวความคิดขอ้ มลู สารคดีบนั เทิง ซ่ึงถา่ ยทอดดว้ ยการ พมิ พล์ งบนกระดาษ ฟิ ลม์ หรือวสั ดุพ้นื เรียบ “สื่อ” หมายถึง การติดตอ่ ใหถ้ ึงกนั ชกั นาํ ใหร้ ู้จกั กนั หรือตวั กลางท่ีทาํ การติดต่อใหถ้ ึงกนั “พิมพ”์ หมายถึง ถ่ายแบบ ใชเ้ คร่ืองจกั รกดตวั หนงั สือหรือภาพ ใหต้ ิดบนวตั ถุ เช่นแผน่ กระดาษ ผา้ ทาํ ใหเ้ ป็น ตวั หนงั สือ หรือรูปรอยอยา่ งใด ๆ โดยการกดหรือการใชพ้ มิ พ์ หินเคร่ืองกลวธิ ีเคมีหรือวธิ ีอื่นใด อนั อาจใหเ้ กิดเป็น สิ่งพิมพข์ ้ึนหลายสาํ เนา รูปร่าง ร่างกาย แบบ ดงั น้นั “ สื่อสิ่งพมิ พ”์ จึงมีความหมายวา่ จะเป็นแผน่ กระดาษหรือวตั ถุใด ๆ ดว้ ยวธิ ีต่าง ๆ อนั เกิดเป็นชิ้นงานที่มี ลกั ษณะเหมือนตน้ ฉบบั ข้ึนหลายสาํ เนา ในปริมาณมากเพ่อื เป็นส่ิงท่ีทาํ การติดต่อหรือชกั นาํ ใหบ้ ุคคลอ่ืนใหเ้ ห็น หรือทราบขอ้ มูลต่าง ๆ”สิ่งพมิ พม์ ีหลายชนิด ไดแ้ ก่ เอกสารหนงั ส่ือเรียน หนงั สือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร บนั ทึก รายงาน ฯลฯ

1.2 ความเป็ นมาของสื่อส่ิงพมิ พ์ ประวัติส่ือส่ิงพมิ พ์ หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ศิลปะไดป้ รากฏบนผนงั ถ้าํ อลั ตามิรา (Altamira) ในสเปนและถ้าํ ลาสควกั ซ์ (Lascaux) ในฝร่ังเศส มีผลงานแกะสลกั หิน แกะสลกั ผนงั ถา้ เป็นรูปสตั วล์ ายเส้นจึงเป็นหลกั ฐานในการแกะพมิ พ์ เป็นคร้ังแรกของมนุษยห์ ลงั จากน้นั ไดม้ ีบคุ คลคิดวิธีการทาํ กระดาษข้ึนมาจนมาเป็นการพิมพใ์ นปัจจุบนั นน่ั คือไช ลนั่ ซ่ึงมีเช้ือสายจีน ชาวจีนไดผ้ ลิตทาํ หมึกแทง่ ซ่ึงเรียกวา่ “บก๊ั ” ประวัติการพมิ พ์ในประเทศไทย ในสมยั สมเด็จพระนารายมหาราช กรุงศรีอยธุ ยา ไดเ้ ร่ิมแต่ง และพิมพห์ นงั สือคาํ สอนทางศาสนาคริสตข์ ้ึน และ หลงั จากน้นั หมอบรัดเลยเ์ ขา้ มาเมืองไทย และไดเ้ ร่ิมดา้ นงานพมิ พจ์ นสนใจเป็นธุรกิจดา้ นการพมิ พ์ ในเมืองไทย พ.ศ. 2382 ไดพ้ มิ พเ์ อกสารทางราชการเป็นชิ้นแรกคือหมายประกาศหา้ มสูบฝิ่น ซ่ึงพระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงโปรดใหจ้ า้ งพมิ พจ์ าํ นวน 9,000 ฉบบั ตอ่ มาเมื่อวนั ที่ 4 ก.ค. 2387 ไดอ้ อกหนงั ส่ือฉบบั แรกข้ึน คือ บางกอกรีคอร์ดเดอร์ (Bangkok Recorder) เป็นจดหมายเหตุอยา่ งส้นั ออกเดือนละ 2 ฉบบั และใน 15 มิ.ย. พ.ศ. 2404 ไดพ้ ิมพห์ นงั สือเล่มออกจาํ หน่ายโดยซ้ือลิขสิทธ์ิจาก หนงั สือนิราศลอนดอนของหมอ่ มราโชทยั และได้ เร่ิมตน้ การซ้ือขายลิขสิทธ์ิจาํ หน่ายในเมืองไทย หมอบรัดเลยไ์ ดถ้ ึงแกก้ รรมในเมืองไทย กิจการการพมิ พข์ องไทยจึง ไดเ้ ร่ิงเป็นตน้ ของไทย หลงั จากน้นั ใน พ.ศ. 2500 ประเทศไทยจึงนาํ เครื่องพิมพแ์ บบโรตารี ออฟเซต (Rotary off set) มาใชเ้ ป็นคร้ังแรก โรงพิมพไ์ ทยวฒั นาพานิชนาํ เคร่ืองหลอ่ เรียงพิมพ์ (Monotype) มาใชก้ บั ตวั พมิ พภ์ าษาไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยไดจ้ ดั โรงพมิ พธ์ นบตั รในเมืองไทข้ึนใชเ้ อง 1.3 ประเภทของส่ือส่ิงพมิ พ์ ในปัจจุบนั สามารถแบ่งประเภทของส่ือสิ่งพมิ พไ์ ดม้ ามายหลายประเภท โดยท้งั ส่ิงพมิ พ์ 2 มิติ และส่ิงพิมพ์ 3 มิติ คือ สิ่งพิมพท์ ่ีมีลกั ษณะเป็ นแผน่ เรียบ ใชว้ สั ดุจาํ พวกกระดาษและมีเป้าหมายเพ่ือนาํ เสนอเน้ือหาขา่ วสารตา่ ง ๆ เช่น หนงั สือ นิตยสาร จุลสาร หนงั สือพมิ พ์ แผน่ พบั โบชวั ร์ ใบปลิว นามบตั ร แมกกาซีน พอ็ กเก็ตบคุ๊ เป็นตน้

รูปภาพส่ิงพมิ พป์ ระเภท 2 มิติ ส่วนสิ่งพมิ พ์ 3 มิติ คือ สิ่งพิมพท์ ี่มีลกั ษณะพเิ ศษท่ีตอ้ งอาศยั ระบบการพิมพแ์ บบพิเศษ และส่วนใหญ่จะเป็นการ พมิ พโ์ ดยตรงลงบนผลิตภณั ฑท์ ี่สร้างรูปทรงมาแลว้ สาํ หรับตวั อยา่ งการพิมพแ์ บบ 3 มิติไดแ้ ก่ การพมิ พส์ กีนบนภา ชนะต่าง ๆ เช่น แกว้ กระป๋ อง พลาสติก การพมิ พร์ ะบบแพดบนภาชนะท่ีมีผิวตา่ งระดบั เช่น เครื่องป้ันดินเผา เครื่องใชไ้ ฟฟ้า การพิมพร์ ะบบพ่นหมึก เช่น การพิมพว์ นั หมดอายขุ องอาหารกระป๋ องตา่ ง ๆ โดยสามารถจาํ แนก ประเภทของส่ือสิ่งพิมพไ์ ด้ ดงั น้ี รูปภาพส่ิงพมิ พ์ 3 มิติ สื่อส่ิงพมิ พ์ประเภทหนงั สือ หนงั สือสารคดีตาํ ราแบบเรียน เป็นหนงั สือส่ิงพิมพท์ ี่แสดงเน้ือหาวิชาการศาสตร์ความรู้ต่าง ๆ เพอ่ื ส่ือใหผ้ อู้ ่าน เขา้ ใจความหมายดา้ นความรู้ท่ีเป็นจริงจึงเป็นส่ือส่ิงพิมพท์ ่ีเนน้ ความรู้อยา่ งถูกตอ้ งหนงั สือบยั นเทิงคดี เป็นส่ือ สิ่งพมิ พท์ ี่ผลิตข้ึนโดยใชเ้ รื่องราวสมมติ เพ่ือใหผ้ อู้ า่ นไดร้ ับความเพลิดเพลิน สนุกสนาน มกั มีขนาดเลก็ เรียกวา่ หนงั สือฉบบั กระเป๋ า หรือ PocketBook ได้ สื่อสิ่งพมิ พ์เพ่ือเผยแพร่ข่าวสาร หนงั สือพมิ พ์ (Newspapers) เป็นสื่อส่ิงพิมพท์ ี่ผลิตข้ึนโดยนาํ เสนอเร่ืองราวข่าวสารภาพ และความคิดเห็น ใน ลกั ษณะของแผน่ พมิ พ์ แผน่ ใหญ่ ท่ีใชว้ ิธีการพบั รวมกบั ซ่ึงสื่อสิ่งพิมพช์ นิดน้ีไดพ้ ิมพอ์ อกเผยแพร่ท้งั ลกั ษณะ หนงั สือพิมพร์ ายวนั รายสัปดาห์ และรายเดือน

วารสาร นิตยสาร เป็นสื่อส่ิงพมิ พท์ ่ีผลิตข้ึนโดยนาํ เสนอสาระข่าว ความบนั เทิง ท่ีมีรูปแบบการนาํ เสนอ ท่ีโดเด่น สะดุดตา และสร้าง ความสนใจใหก้ บั ผอู้ า่ น ท้งั น้ีการผลิตน้นั มีการกาํ หนดระยะเวลาการออกแบบเผยแพร่ที่แน่นอน ท้งั ลกั ษณะ วารสาร นิตยสารรายปักษ์ (15 วนั ) และรายเดือน จุลสาร เป็นส่ือส่ิงพมิ พท์ ่ีผลิตข้ึนแบบไม่มงุ่ หวงั ผลกาํ ไร เป็นแบบ ใหเ้ ปล่าโดยใหผ้ อู้ า่ นศึกษาหาความรู้ ที่กาํ หนดออกแบบเผยแพร่เป็นคร้ัง ๆ หรือลาํ ดบั ตา่ ง ๆ ในวาระพเิ ศษ ส่ิงพมิ พ์โฆษณา โบชัวร์ (Brochure) เป็นสื่อส่ิงพิมพท์ ี่มีลกั ษณะเป็นสมดุ เล่มเลก็ ๆ เยบ็ ติดกนั เป็นเลม่ จาํ นวน 8 หนา้ เป็นอยา่ งนอ้ ย มีปกหนา้ และปกหลงั ซ่ึงในการแสดงเน้ือหาจะเกี่ยวกบั โฆษณาสินคา้

ใบปลวิ (Leaflet, Handbill) เป็นส่ือส่ิงพมิ พใ์ บเดียว ที่เนน้ การประกาศ มกั มีขนาด A4 เพื่อง่ายในการแจกจ่าย ลกั ษณะการแสดงเน้ือหาเป็นขอ้ ความที่ผอู้ ่านแลว้ เขา้ ใจงา่ ย แผ่นพบั (Folder) เป็นส่ือส่ิงพมิ พท์ ่ีเนน้ การผลิตโดยเนน้ การเสนอเน้ือหา ซ่ึงเน้ือหาที่นาํ เสนอน้นั เป็นเน้ือหาท่ีสรุป ใจความสาํ คญั ลกั ษณะเป็นการพบั เป็นรูปเลม่ ต่าง ๆ ใบปิ ด (Poster) เป็นส่ือส่ิงพมิ พโ์ ฆษณา โดยใชป้ ิ ดตามสถานท่ีตา่ ง ๆ มีขนาดใหญเ่ ป็นพิเศษซ่ึงเนน้ การนาํ เสนอ อยา่ งโดเด่นดึงดูดความสนใจ

สิ่งพมิ พ์เพื่อการบรรจภุ ัณฑ์ เป็นส่ิงพิมพท์ ่ีใชใ้ นการห่อหุม้ ผลิตภณั ฑก์ ารคา้ ตา่ ง ๆ แยกเป็นส่ิงพิมพห์ ลกั ไดแ้ ก่สิ่งพมิ พท์ ี่ใชป้ ิ ดรอบขวด หรือ กระป๋ องผลิตภณั ฑก์ ารคา้ สิ่งพิมพร์ อง ไดแ้ ก่ ส่ิงพิมพท์ ี่เป็นกล่องบรรจุหรือลงั ส่ิงพมิ พ์มคี ่า เป็นส่ือส่ิงพิมพท์ ่ีเนน้ การนาํ ไปใชเ้ ป็นหลกั ฐานสาํ คญั ต่าง ๆ ซ่ึงกาํ หนดตามกฎหมาย เช่น ธนาณตั ิ บตั รเครดิต เช็คธนาคาร ตว๋ั แลกเงิน หนงั สือเดินทาง โฉนด เป็นตน้ สิ่งพมิ พ์ลกั ษณะพเิ ศษ เป็ นสื่อส่ิงพมิ พม์ ีการผลิตข้ึนตามลกั ษณะพิเศษแลว้ แต่การใชง้ าน ไดแ้ ก่นามบตั ร บตั รอวย พร ปฏิทิน ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงิน ส่ิงพิมพบ์ นแกว้ สิ่งพมิ พบ์ นผา้ เป็นตน้ สิ่งพมิ พ์อเิ ล็กทรอนิกส์เป็ นสื่อสิ่งพิมพท์ ี่ผลิตข้ึนเม่ือใชง้ านในคอมพวิ เตอร์หรือระบบเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต ไดแ้ ก่ Document Formats, E-book for Palm/PDA เป็นตน้

1.4 ข้อดีและข้อเสียของส่ือส่ิงพมิ พ์ หนงั สือพิมพ์ Newspaper หนงั สือพมิ พเ์ ป็นสื่อท่ีมีความสาํ คญั ไดร้ ับความสนใจและมีอิทธิพลต่อชีวิตประจาํ วนั ของผบู้ ริโภคอยา่ งยง่ิ โดยเฉพาะในชีวติ ประจาํ วนั ของคนเมืองท่ีมีความเจริญแลว้ ยง่ิ จะไดร้ ับความสนใจในการอา่ นกนั อยา่ งแพร่หลาย การเลือกใชส้ ่ือโฆษณาทางหนงั สือพิมพเ์ พื่อนาํ ขา่ วสารโฆษณาไปสู่กลุ่มเป้าหมายเราจึงตอ้ งมีความเขา้ ใจลกั ษณะ ของตวั สื่อหนงั สือพิมพ์ นนั่ กจ็ ะทาํ ใหก้ ารโฆษณาของเรามีประสิทธิภาพ โฆษณาในหนงั สือพิมพแ์ บง่ ออกเป็น 2 ประเภท 1. โฆษณาเดย่ี ว (Display Advertising) เป็นการโฆษณาสินคา้ เตม็ หนา้ หนงั สือพิมพ์ โดยไม่มีโฆษณาอื่นมาปะปน กนั เป็นโฆษณาท่ีสร้างความตื่นเตน้ หรูหรายง่ิ ใหญเ่ ป็นเอกเทศถา้ เป็นสีก็จะทาํ ใหเ้ กิดควาสะดุดตามากยง่ิ ข้ึน 2. โฆษณาหมู่ (Classified Advertising) เป็นการลงโฆษณาสินคา้ ในพ้นื ท่ีที่หนงั สือพมิ พจ์ ดั ไวใ้ หโ้ ดยเฉพาะ จะมี สินคา้ หลากหลายชนิดลงโฆษณาปะปนกนั เช่นโฆษณาขายท่ีดิน รถยนตม์ ือสอง เรียนภาษาองั กฤษ คอมพวิ เตอร์ โปรแกรมหนงั ฯลฯ ข้อดี 1.เขา้ ถึงกล่มุ เป้าหมายไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง 2.เลือกกลุ่มเป้าหมายทางภูมิศาสตร์ได้ 3.ส่งข่าวสารไดร้ วดเร็วทนั สมยั ทนั เวลา 4.ค่าใชจ้ ่ายเฉลี่ยต่อหวั ถกู กวา่ ส่ือชนิดอ่ืนๆ(ในประเภทสื่อส่ิงพิมพ)์

5. เป็นส่ือท่ีมีความน่าเช่ือถือจากคนทว่ั ไป ข้อเสีย 1.ไมส่ ามารถเจาะจงกลมุ่ เป้าหมายแบบเฉพาะกล่มุ ได้ 2.รูปภาพสีสนั และคุณภาพกระดาษคอ่ นขา้ งต่าํ 3. อายขุ องหนงั ส่ือพิมพจ์ ะส้นั ทาํ ใหผ้ า่ นตาผบู้ ริโภคไดน้ อ้ ยคร้ัง นิตยสาร Magazine นิตยสารเป็นสิงพิมพท์ ี่รวมเน้ือหาสาระประเภทตา่ งๆเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ท่ีมีความน่าสนใจหลายๆเร่ืองแตเ่ ป็ นเร่ือง ประเภทเดียวกนั ทาํ ใหส้ ามารถเลือกกล่มุ เป้าหมายเฉพาะไดต้ รงกบั กล่มุ เป้าหมายของสินคา้ และจดั พมิ พอ์ อกมาเป็น เล่มวางตลาดเป็นรายคาบ (Periodical Publication) คือรายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน เป็นตน้ ประเภทนิตยสาร วางจาํ หน่ายทวั่ ไปในทอ้ งตลาด มีจาํ นวนมากกวา่ 15 ประเภทเช่น 1.นิตยสารการเมือง 2.นิตยสารกีฬา 3.นิตยสารสาํ หรับเดก็ 4.นิตยสารทางการถา่ ยภาพและภาพพมิ พ์ 5.นิตยสารการท่องเท่ียว 6.นิตยสารทางธุรกิจและทางการโฆษณา 7.นิตยสารบนั เทิง 8.นิตยสารบา้ น 9.นิตยสารผหู้ ญิง 10.นิตยสารผชู้ าย

11.นิตยสารรถ 12.นิตยสารทางศิลป-วฒั นธรรม 13.นิตยสารเศรษฐกิจ 14.นิตยสารสุขภาพ 15. นิตยสารครอบครัว ข้อดี 1.เป็นส่ือท่ีสามารถเจาะจงกลุม่ เป้าหมายไดง้ ่าย 2. สื่อมีอายยุ าวนาน ทาํ ใหโ้ ฆษณาผา่ นตาผบู้ ริโภคบอ่ ยคร้ัง 3. สื่อมีคุณภาพ เพราะกระดาษมีคุณภาพ และการพมิ พม์ ีคุณภาพสูง 4.มีจาํ นวนผอู้ า่ นต่อฉบบั สูง 5.เขา้ ถึงผบู้ ริโภคไดใ้ นวงกวา้ ง ข้อเสีย สื่อทางไปรษณีย์ Mail-order advertising เอด็ เวริ ์ดเอน็ เมเยอร์(EdwardN. Mayer) นกั โฆษณาทางไปรษณีย์ ของสหรัฐอเมริกาไดใ้ หข้ อ้ คิดเป็นหลกั การของ การดาํ เนินการโฆษณาทางไปรษณียไ์ ว้ \"ถึงแมช้ ิ้นงานโฆษณาทางไปรษณียข์ องคุณจะเลิศสักเพยี งใดก็ตาม ขอ้ ความและคาํ โฆษณายอดเยยี่ ม รูปแบบการจดั ภาพในงานศิลปกรรมของคุณกเ็ ป็นท่ีพึงพอใจ ศิลปการพิมพก์ ็ สามารถชนะการประกวดไดร้ างวลั ยอดเยย่ี มแสตมป์ ของคุณกเ็ ป็นแสตมป์ รุ่นใหม่หายากและเหมาะแก่การเก็บเป็น ของที่ระลึกแตถ่ า้ ช้ินงานโฆษณาทางไปรษณียน์ ้นั ส่งไปยงั บคุ คลท่ีไม่เหมาะสมกบั สินคา้ ของคุณ และเขาไม่ สามารถซ้ือสินคา้ คุณได้ ความพยายามท้งั หมดของคุณก็คือ ความลม้ เหลว ซ่ึงกลบั กลายเป็นการสูญเสียท่ีแพงยง่ิ \"

รูปแบบการโฆษณาทางไปรษณยี ์ 1. จดหมายขาย Sales Letters เป็นรูปแบบการโฆษณาที่ใชข้ อ้ ความตวั อกั ษรเป็นหลกั มีลกั ษณะคลา้ ยจดหมาย สาํ คญั ทางราชการหากมีการเซ็นตช์ ่ือผสู้ ่งดว้ ยลายเซ็นตข์ องตนเองแลว้ ยง่ิ ทาํ ใหผ้ บู้ ริโภคเกิดความรู้สึกที่ดี 2. โปสการ์ด Postcards สามารถใชไ้ ปรษณียบตั รพิมพข์ อ้ ความโฆษณาท่ีเตรียมไว้ หรือใชว้ ธิ ีการพิมพ์ ไปรษณียบตั รข้ึนมาใหม่แลว้ ส่งใหล้ ูกคา้ เป้าหมายขอ้ ความโฆษณาจะเป็นขอ้ ความท่ีส้นั ๆ 3. ใบปลวิ Leaflets เป็นใบโฆษณาเลก็ ๆ แนบมากบั จดหมาย นาํ มาเสริมเพราะใบปลิวสามารถพมิ พร์ ูปแบบการ โฆษณาไดส้ วยงามและมีเน้ือหาที่น่าสนใจ 4. แผ่นพบั Folder or Brochure มีลกั ษณะคลา้ ยใบปลิวผสมจุลสาร บางคร้ังสามารถพบั ใหเ้ ป็นตวั ซองจดหมาย ไดใ้ นตวั 5. จลุ สาร Booklets มีลกั ษณะคลา้ ยหนงั สือเล่มบางๆเลก็ ๆมีเน้ือหาหลายหนา้ กระดาษบรรจุขา่ วสารรายละเอียดได้ อยา่ งครบถว้ นแมจ้ ุลสารจะมีค่าใชจ้ ่ยท่ีสูงแตก่ ใ็ หผ้ ลทางดา้ นความรูสึกท่ีคุม้ ค่า 6. แคต็ ตาลอ็ ก Catalogs เป็นเอกสารหนงั สือท่ีอธิบายรายละเอียดของสินคา้ ท่ีสมบูรณ์ท่ีสุดจะมีภาพสินคา้ ขนาด น้าํ หนกั สีและรหสั สินคา้ เพอื่ ใชอ้ า้ งอิงในการสง่ั ซ้ือไดท้ นั ทีโดยไมจ่ าํ เป็นตอ้ งไปดูสินคา้ จริง ข้อดี 1. สามารถเลือกกลมุ่ เป้าหมายกลุม่ ใดกลมุ่ หน่ึงได้ 2. สามารถส่งขา่ วสารถึงกล่มุ เป้าหมายหลายกล่มุ ไดใ้ นเวลาท่ีพร้อมกนั ได้ 3. เป็นสื่อที่เหมาะกบั การส่งข่าวสารแบบเทศกาลและการส่งเสริมการขายพเิ ศษ 4. สามารถออกแบบรูปแบบสื่อไดเ้ ตม็ ที่เพราะไมม่ ีขอ้ จาํ กดั ดา้ นเน้ือที่ขนาด 5. มีผโู้ ฆษณาเพยี งรายเดียวทาํ ใหผ้ บู้ ริโภคไมส่ ับสน ข้อเสีย 1. คา่ ใชจ้ ่ายตอ่ หวั สูง 2. โฆษณาจะสัมฤทธ์ิผล จะข้ึนอยกู่ บั คุณภาพของรายชื่อลูกคา้ เป็นสาํ คญั

หน่วยท่ี 2 การออกแบบและกระบวนการผลติ ส่ือส่ิงพมิ พ์ การออกแบบมีความสาํ คญั ในการผลิตส่ือส่ิงพิมพเ์ พราะการออกแบบคือการวางแผนในการทาํ งานซ่ึงเป็นข้นั ตอน หน่ึงที่สาํ คญั ของกระบวนการผลิตสื่อส่ิงพมิ พใ์ หป้ ระสบผลสาํ เร็จการอออกแบบในลกั ษณะใดกต็ ามตอ้ งอาศยั ส่วนประกอบงานศิลป์ อนั ไดแ้ ก่ เส้น รูปร่าง สี ลกั ษณะผิว เพอ่ื นาํ มาประกอบกนั เป็นผลงานที่ดีมีความสวยงาม เหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ จึงทาํ ใหเ้ กิดผลงานที่มีรูปแบบท่ีดี สื่อส่ิงพิมพท์ ี่จะสาํ เร็จบรรลจุ ุดม่งุ หมายไดน้ ้นั นอกจากการออกแบบท่ีมีประสิทธิภาพแลว้ กระบวนการผลิตส่ือ สิ่งพมิ พก์ ็มีความสาํ คญั อยา่ งยงิ่ ท้งั ในดา้ นการวางแผน การเตรียมการก่อนพิมพ์ การทาํ ตน้ ฉบบั การเลือกประเภท ของการพิมพเ์ พอื่ ใหเ้ หมาะสมกบั ส่ือสิ่งพมิ พแ์ ละส่งผลใหก้ ารผลิตส่ือส่ิงพิมพส์ าํ เร็จบรรลุจุดม่หุ มาย 2.1การออกแบบสื่อส่ิงพมิ พ์ การอออกแบบเป็นการนาํ องคก์ ารประกอบมลู ฐานมาจดั หรือรวบรวมเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั อยา่ งมีระบบในงานออกแบบ ไม่วา่ จะเป็นตวั อกั ษรภาพหรือพ้ืนท่ีวา่ งๆเพอื่ ใหก้ ารออกแบบส่ือสิ่งพิมพเ์ ป็นไปตามวตั ถุประสงคท์ ี่ตอ้ งการ 2.1.1 วัตถุประสงค์ของการออกแบบส่ือส่ิงพมิ พ์ 1. ใชเ้ ป็นแนวทางในการผลิตสื่อส่ิงพิมพ์ เพือ่ รับรู้รูปแบบ รูปร่าง ลกั ษณะ และส่วนประกอบในการพิมพ์ 2. เพ่อื สร้างความสวยงามทางศิลป์ ของส่ือส่ิงพิมพ์ 3. เพื่อดึงดูดความสนใจของผพู้ บเห็นและผอู้ า่ น 4. เพือ่ เสนอข่าวสารและง่ายตอ่ การจดจาํ เน้ือหา 5. เพือ่ ปิ ดบงั ความดอ้ ยตอ่ คุณภาพสื่อสิ่งพิมพ์ 6. เพอ่ื เพม่ิ ประสิทธิภาพในการสื่อสาร 2.1.2 หลกั การออกแบบส่ือส่ิงพมิ พ์ การออกแบบสื่อสิ่งพิมพใ์ หม้ ีความน่าสนใจและสะดุดตาแก่ผอู้ ่าน สามารถทาํ ไดต้ ามหลกั การออกแบบสื่อส่ิงพิมพ์ ดงั น้ี 1. ออกแบบใหด้ ึงดูดความสนใจของผอู้ า่ นและพบเห็น

2. ออกแบบส่ือส่ิงพมิ พใ์ หเ้ ป็นท่ีสังเกตหรือจดจาํ ไดง้ า่ ย 3. นาํ ข่าวสารไปสู่ผอู้ ่าน ดว้ ยการออกแบบที่มีลกั ษณะของการเสนอเน้ือหาในรูปแบบท่ีสวยงาม และสะดวกต่อการ ทาํ ความเขา้ ใจในเน้ือหา 4. ใชศ้ ิลปะของการออกแบบปิ ดบงั ความดอ้ ยในคุณภาพของวสั ดุพมิ พ์ 5. ใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจเน้ือหาไดง้ ่ายและสะดวกข้ึน 6. เป็นการออกแบบท่ีมีลกั ษณะเหมาะสม ตรงกบั ความมงุ่ หมายตามประโยชน์ใชส้ อยมีความกลมกลืนตาม หลกั เกณฑค์ วามงามของสังคม และสามารถปรับปรุงเปล่ียนแปลงได้ 7. เป็นการออกแบบที่มีลกั ษณะงา่ ย มีจาํ นวนผลิตผลตามความตอ้ งการของสังคมและมีกระบวนการผลิตไมย่ งุ่ ยาก ซบั ซอ้ น รูปที่ 2.1 ส่ือส่ิงพิมพท์ ี่มีลกั ษณะสะดุดตาและน่าสนใจ 8. มีสดั ส่วนที่ดี มีความกลมกลืนกนั ท้งั ส่วนรวม เช่น รูปแบบ ลกั ษณะผิว เส้น สี เป็นตน้ มีสดั ส่วนท่ีเหมาะสมใน การใชง้ าน 9. มีความเหมาะสมกบั วสั ดุและวิธีการ มีคุณภาพ มวี ธิ ีการใชง้ า่ ยสะดวก 10. มีลกั ษณะของการตกแตง่ อยา่ งพอดี ไมร่ กรุงรัง 11. มีโครงสร้างท่ีเหมาะสมกลมกลืนกบั วฒั นธรรมและความตอ้ งการของสงั คม 12. ไม่ควรสิ้นเปลืองเวลามากนกั 2.1.3 หลกั ในการพจิ ารณาออกแบบสื่อส่ิงพมิ พ์

ก่อนที่ผอู้ อกแบบตดั สินใจผลิตสื่อสิ่งพมิ พ์ ผอู้ อกแบบจาํ เป็นจะตอ้ งพิจารณาองคป์ ระกอบของการพมิ พเ์ ป็นขอ้ มลู สาํ คญั ตอ่ การออกแบบองคป์ ระกอบในการพิมพ์ ดงั น้ี 1.วตั ถปุ ระสงค์ของการพมิ พ์ การกาํ หนดเป้าหมายของสื่อส่ิงพิมพว์ า่ เป็นส่ือสิ่งพิมพส์ าํ หรับบคุ คลวยั ใด หนงั สือ สาํ หรับเดก็ หรือผใู้ หญ่ เพศใด สาํ หรับผหู้ ญิงหรือผชู้ าย การศึกษาระดบั ใดลกั ษณะของส่ือส่ิงพมิ พ์ ไดแ้ ก่ หนงั สือ ทางวชิ าการ สารคดี ร้อยแกว้ ร้อยกรอง รูปที่ 2.2 ส่ือส่ิงพมิ พท์ ี่ผลิตจากกระดาษที่ตา่ งกนั 2.รูปร่างของส่ือสิ่งพมิ พ์ ตามปกติมีรูปร่างมาตรฐานเป็นรูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ ตามลกั ษณะของกระดาษขนาด มาตรฐาน ด้งั น้นั การกาํ หนดส่ือส่ิงพิมพใ์ หม้ ีรูปร่างส่ีเหลี่ยมผืนผา้ จึงไมท่ าํ ใหก้ ระดาษเสียเศษ ซ่ึงมีท้งั สี่เหลี่ยมผนื ผา้ แนวต้งั และสี่เหล่ียมผนื ผา้ แนวนอน รูปที่ 2.3 รูปร่างของหนงั สือสาํ หรับเดก็ 3.ตําแหน่งจดุ แห่งความสนใจในส่ือสิ่งพมิ พ์ โดยปกติผอู้ อกแบบส่ือส่ิงพมิ พม์ กั จะใหค้ วามสาํ คญั แก่ปกหนา้ พิเศษ มากกวา่ ส่วนอีก ท้งั น้ีเพราะเป็นจุดดึงดูดสายตาและสามารถสร้างความน่าสนใจแกผดู้ ูในกรณีท่ีมีการแข่งขนั กบั ส่ือ สิ่งพมิ พอ์ ่ืนๆสาํ หรับการจดั หนา้ ภายในหนงั สือน้นั สมยั ก่อนมกั ใหค้ วามสาํ คญั แก่หนา้ ขวามือหรือหนา้ ค่ี ไดแ้ ก่ 1,3,5,7 ไปตามลาํ ดบั

รูปที่ 2.4 จุดรวมสายตาอยสู่ ่วนบนของร่างกายมากกวา่ ส่วนลา่ ง 4.ขนาดของสื่อสิ่งพมิ พ์ ข้นึ อยกู่ บั ขนาดของกระดาษเป็นสาํ คญั จะเห็นไดว้ า่ หนงั สือขนาด 8 หนา้ ยก (7.5 นิ้ว*10.25 นิ้ว) ที่พมิ พใ์ นปัจจุบนั มีขนาดรูปเล่มที่แทจ้ ริงไม่เท่ากนั ท้งั น้ีเนื่องจากขนาดของกระดาษท่ีใชพ้ มิ พไ์ ม่เท่ากนั ไดแ้ ก่ กระดาษขนาด 31 นิ้ว *43 นิ้ว และกระดาษขนาด 24 นิ้ว *35 นิ้ว รูปที่ 2.5 กระดาษชุดเอ 2.1.4 หลกั การออกแบบสิ่งพมิ พ์ สิ่งพมิ พท์ ี่พบเห็นโดยทว่ั ไปประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบสาํ คญั หลายอยา่ งไดแ้ ก่ตวั อกั ษรหรือขอ้ ความภาพประกอบ เน้ือที่วา่ งและส่วนประกอบอื่นการออกแบบสิ่งพิมพท์ ี่ตอ้ งคาํ นึงถึงการจดั วางองคป์ ระกอบต่าง ๆ ดงั กลา่ วเขา้ ดว้ ยกนั โดยใชห้ ลกั การ ดงั น้ี 1. ทศิ ทางและการเคล่ือนไหว (Direction & Movement) เมื่อผรู้ ับสารมองดูสื่อส่ิงพิมพ์ การรับรู้เกิดข้ึนเป็นลาํ ดบั ตามการมองเห็นกล่าวคือเกิดตามการวาดสายตาจากองคป์ ระกอบหน่ึงไปยงั อีกองคป์ ระกอบหน่ึงจึงมีความจาํ เป็น อยา่ งยงิ่ ท่ีจะตอ้ งมีการดาํ เนินการวางแผนกาํ หนดและชกั จูงสายตาผรู้ ับสารใหเ้ คลื่อนไหวในทิศทางที่ถูกตอ้ ง ตามลาํ ดบั ขององคป์ ระกอบท่ีตอ้ งการใหร้ ับรู้ก่อนหลงั โดยทว่ั ไปหากไมม่ ีการสร้างจุดเด่นข้ึนมาสายตาของผรู้ ับ

สารจะมองดูหนา้ กระดาษที่เป็นสื่อส่ิงพิมพใ์ นทิศทางท่ีเป็นตวั อกั ษร(Z) ในภาษาองั กฤษ คือ จะเริ่มท่ีมุมบน ดา้ นขวาตามลาํ ดบั การจดั องคป์ ระกอบท่ีสอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติการมองน้ี เป็ นส่วนช่วยใหเ้ กิดการรับรู้ตามลาํ ดบั ที่ ตอ้ งการ 2. เอกภาพและความกลมกลืน (Unity & Harmony) เอกภาพคือความเป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั ซ่ึงในการจดั ทาํ เลย์ เอาตห์ มายถึงการเอาองคป์ ระกอบท่ีแตกตา่ งกนั มาวางไวใ้ นพ้นื ท่ีหนา้ กระดาษเดียวกนั อยา่ งกลมกลืน ทาํ หนา้ ท่ี สอดคลอ้ งและส่งเสริมกนั และกนั ในการส่ือสารความคิดรวบยอด และบคุ ลิกภาพของสื่อส่ิงพมิ พน์ ้นั ๆ การสร้าง เอกภาพน้ีสามารถทาํ ไดห้ ลายวธิ ีเช่น รูปที่ 2.7 การจดั องคป์ ระกอบตามหลกั การการสร้งความต่อเนื่องกนั ใหอ้ งคป์ ระกอบ – การเลือกใช้องค์ประกอบอย่างสมาํ่ เสมอ เช่น การเลือกใชแ้ บบตวั อกั ษรเดียวกนั การเลือกใชภ้ าพขาว ดาํ ท้งั หมด เป็ นตน้

รูปที่ 2.8 การจดั องคป์ ระกอบตามหลกั การการเลือกชอ้ งคป์ ระกอบอยา่ งสม่าํ เสมอ – การสร้างความต่อเนื่องกนั ให้องค์ประกอบ เช่น การจดั ใหพ้ าดหวั วางทบั ลงบนภาพการใชต้ วั อกั ษรท่ีเป็น ขอ้ ความ ลอ้ ตามทรวดทรงของภาพ เป็นตน้ – การเวน้ พ้นื ท่ีวา่ งรอบองคป์ ระกอบท้งั หมด ซ่ึงจาํ ทาํ ใหพ้ ้นื ที่วา่ งน้นั ทาํ หนา้ ท่ี เหมือนกรอบสีขาวลอ้ มรอบ องคป์ ระกอบท้งั หมดไวภ้ ายใน ช่วยใหอ้ งคป์ ระกอบท้งั ดูเหมือนวา่ อยกู่ นั อยา่ งเป็นกล่มุ เป็นกอ้ น รูปที่ 2.9 การจดั องคป์ ระกอบตามหลกั การการเวน้ พ้ืนท่ีวา่ งรอบองคป์ ระกอบท้งั หมด 3. ความสมดลุ (Balance) หลกั การเรื่องความสมดุลน้ีเป็นการตอบสนองธรรมชาติของผรู้ ับสาร ในเร่ืองของแรง โนม้ ถ่วงโดยการจดั วางองคป์ ระกอบท้งั หมดในพ้นื ที่หนา้ กระดาษ จะตอ้ งไมข่ ดั กบั ความรู้สึกน้ี คือจะตอ้ งไม่ดูเอง เอียงหรือหนกั ไปดา้ นใดดา้ นหน่ึงโดยไมม่ ีองคป์ ระกอบมาถ่วงในอีกดา้ นการจดั องคป์ ระกอบใหเ้ กิดความสมดุลแง ไดเ้ ป็น 3 ลกั ษณะคือ – สมดลุ แบบสมมาตร (Symmetrical Balance) เป็นการจดั วางองคโ์ ดยใหอ้ งคป์ ระกอบในดา้ นซา้ ยและดา้ นขวา พ้นื ที่หนา้ กระดาษมีลกั ษณะเหมือนกนั ท้งั สองขา้ ง ซ่ึงองคป์ ระกอบท่ีเหมือนกนั ในแต่ละดา้ นน้ีจะถว่ งน้าํ หนกั กนั และกนั ใหค้ วามรู้สึกสมดุล

– สมดลุ แบบอสมมาตร (Asymmetrical Balance) เป็นการจกั วางองคป์ ระกอบโดยใหอ้ งคป์ ระกอบในดา้ นซา้ ย และดา้ นขวาพ้นื ที่หนา้ กระดาษมีลกั ษณะไมเ่ หมือนกนั ท้งั สองขา้ ง แมอ้ งคป์ ระกอบจะไมเ่ หมือนกนั ในแตล่ ะดา้ น แต่ก็จะถว่ งน้าํ หนกั กนั และกนั ใหเ้ กิดความสมดุล – สมดุลแบบรัศมี (Radial Balance) เป็นการจดั วางองคป์ ระกอบ โดยใหอ้ งคป์ ระกอบแผไ่ ปทกุ ทิศทางจากจุด ศนู ยก์ ลาง 4. สัดส่วน (Proportion) การกาํ หนดสดั ส่วนน้ีเป็นการกาํ หนดความสัมพนั ธใ์ นเรื่องของขนาดซ่ึงมีความสัมพนั ธ์ โดยเฉพาะในหนา้ กระดาษของส่ือส่ิงพมิ พท์ ี่ตอ้ งการใหม้ ีจุดเด่น เช่น หนา้ ปกหนงั สือเป็นตน้ เพราะองคป์ ระกอบที่ มีสดั ส่วนแตกต่างกนั จะดึงดูดสายตาไดด้ ีกวา่ การใชอ้ งคป์ ระกอบท้งั หมดในสัดส่วนท่ีใกลเ้ คียงกนั ในการกาํ หนด สดั ส่วนจะตอ้ งกาํ หนดองคป์ ระกอบท้งั หมดในพ้นื ที่หนา้ กระดาษไปพร้อมๆ กนั วา่ ควรจะเพิม่ หรือลดองคป์ ระกอบ ใดไมใ่ ช่คอ่ ย ๆ ทาํ ไปทีละองคป์ ระกอบ 5. ความแตกต่าง (Contrast) เป็นวธิ ีที่งา่ ยท่ีสุดโดยการเนน้ ใหอ้ งคป์ ระกอบใดองคป์ ระกอบหน่ึงเด่นข้ึนมาดว้ ยการ เพ่มิ ขนาดใหญก่ วา่ องคป์ ระกอบอื่นๆโดยรอบเช่นพาดหวั ขนาดใหญ่เป็นตน้ ซ่ึงโดยธรรมชาติแลว้ ผดู้ ูจะเลือกดู องคป์ ระกอบใหญก่ ่อน – ความแตกต่างโดยขนาด เป็นวธิ ีการท่ีงา่ ยที่สด โดยการเนน้ ใหอ้ งคป์ ระกอบใดองคป์ ระกอบหน่ึง เด่นข้ึนมาดว้ ย การเพ่มิ ข้ึนมาดว้ ยการเพ่มิ ขนาดใหญก่ วา่ องคป์ ระกอบอื่น ๆ โดยรอบ เช่น พาดหวั ขนาดใหญ่ เป็นตน้ ซ่ึงโดย ธรรมชาติแลว้ ผดู้ ูจะเลือกดูองคป์ ระกอบใหญ่ก่อน – ความแตกต่างโดยรูปร่าง เป็นวิธีที่เนน้ องคป์ ระกอบใดองคป์ ระกอบหน่ึงเด่นข้ึนมาดว้ ยการใชร้ ูปร่างที่แตกต่าง กนั ออกไปจากองคป์ ระกอบอื่นในหนา้ กระดาษ เช่น การไดต้ ดั ภาพคนตามรูปร่างของร่างกายแลว้ นาํ ไปวางที่ หนา้ กระดาษท่ีมีภาพแทรกเลก็ ๆ ท่ีอยใู่ นกรอบสี่เหลี่ยม เป็นตน้ – ความแตกต่างโดยความเข้ม เป็นวธิ ีการท่ีเนน้ ใหอ้ งคป์ ระกอบใดองคป์ ระกอบหน่ึงเด่นข้ึนมาดว้ ยการใชเ้ พิ่มหรือ ลดความเขม้ หรือน้าํ หนกั ขององคป์ ระกอบน้นั ใหเ้ ขม้ หรืออ่อนกวา่ องคป์ ระกอบอ่ืน ๆ ที่อยรู่ วมกนั ในหนา้ กระดาษ เช่น การใชต้ วั อกั ษรท่ีเป็นตวั หนาในยอ่ หนา้ ที่ตอ้ งการเนน้ เพียงยอ่ หนา้ เดียวในหนา้ กระดาษ เป็นตน้ 6. จงั หวะ ลลี า และการซํ้า (Rhythm & Repetition) การจดั วางองคป์ ระกอบหลายๆช้ินโดยกาํ หนดตาํ แหน่งใหเ้ กิด มีมีช่องวา่ เป็นช่วงๆตอนๆอยา่ งมีการวางแผนล่วงหนา้ จะทาํ ใหเ้ กิดลีลาข้ึนและหากวา่ องคป์ ระกอบหลายๆช้ินน้นั มี

ลกั ษณะซ้าํ กนั หรือใกลเ้ คียงกนั กจ็ ะยงิ่ เป็นการเนน้ ใหเ้ กิดจงั หวะลีลาไดช้ ดั เจนยงิ่ ข้ึนลกั ษณ์ตรงขา้ มกบั แบบแรก จงั หวะและลีลาลกั ษณะน้ีจะก่อใหเ้ กิดความรู้สึกที่ต่ืนเตน้ ดูเคลื่อนไหวและมีพลงั 2.2 การผลติ สื่อส่ิงพมิ พ์คอมพวิ เตอร์แบบต้งั โต๊ะ 2.2.1 ความหมายของการผลติ สื่อสิ่งพมิ พ์ด้วยคอมพวิ เตอร์แบบต้งั โต๊ะ “การจดั พมิ พด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์แบบต้งั โตะ๊ ” เป็นศพั ทบ์ ญั ญตั ิตามหนงั สือศพั ทค์ อมพวิ เตอร์ ฉบบั ราชบณั ฑิตยสาร พ.ศ. 2538 มาจากคาํ ภาษาองั กฤษวา่ “Desktop Publishing” หมายถึง การใชค้ อมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (คอมพวิ เตอรฺ แบบต้งั โต๊ะ) ในระบบการผลิตสิ่งพมิ พด์ ว้ ยตน้ ทุนท่ีไมส่ ูงมากนกั เพอื่ การเรียงพิมพข์ อ้ ความและภาพกราฟิ ก กระบวนการของการจดั พิมพด์ ว้ ย คอมพวิ เตอร์แบบต้งั โต๊ะจะประกอบดว้ ยเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ และ โปรแกรมกราฟิ กและเคร่ืองพิมพเ์ ลเซอร์ เพอ่ื ผลิตสื่งพิมพน์ านาประเภทไดอ้ ยา่ งสวยงาม และประหยดั การจดั พิมพ์ ดว้ ยคอมพิวเตอร์แบบต้งั โตะ๊ น้ีจะมีโปรแกรมเฉพาะในการทาํ งาน เช่น โปรแกรมPageMaker และโปรแกรม QuarkXPress เพอ่ื การจดั ขอ้ ความและภาพกราฟิ กใหร้ วมอยหู่ นา้ เดียวกนั ไดอ้ ยา่ งสวยงาม โดยการจดั ส่ิงต่างๆ บน จอภาพใหเ้ รียบร้อยก่อนที่จะพมิ พล์ งกระดาษดว้ ยเครื่องมือพมิ พเ์ ลเซอร์ที่มีความคมชดั สูง สามารถใชโ้ ปรแกรมใน การจดั ทาํ ส่ิงพิมพต์ า่ งๆเช่นจุลสาร จดหมายขา่ ว แผน่ พบั นามบตั รหรือการเตรียมตน้ ฉบบั นิตยสารหรือหนงั สือเพอ่ื ส่งโรงพิมพใ์ หท้ าํ ฟิ ลม์ หรือเพลทไดท้ นั ที การใชก้ ารจดั พมิ พด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์แบบต้งั โต๊ะน้ีจะไดส้ ิ่งพมิ พท์ ี่ผลิต ออกมามีคุณภาพดีประหยดั กาํ ลงั คนและสามารถลดข้นั ตอนการทาํ งานไดเ้ ป็นอยา่ งมาก ทาํ ใหป้ ระหยดั เวลาไดเ้ ป็น อยา่ งดี สามารถลดตน้ ทุนในการผลิต สิ่งพิมพไ์ ดม้ ากถึง 75% โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในเรื่องของความสามารถในการ เปล่ียนแปลงเน้ือหาท่ีพิมพไ์ วแ้ ลว้ ไดท้ ุกโอกาสนบั วา่ เป็นจุดเด่นสาํ คญั ของเทคโนโลยกี ารพิมพป์ ระเภทน้ีและยงั ให้ ผใู้ ชโ้ ปรแกรมทวั่ ไปสามารถผลิตสื่อสิ่งพมิ พบ์ างประเภทไดด้ ว้ ยตนเองโดยไม่ตอ้ งจา้ งโรงพมิ พเ์ หมือนเม่ือก่อน ดว้ ยเหตผุ ลดงั กล่าวแลว้ จึงทาํ ใหก้ ารพมิ พด์ ว้ ยคอมพิวเตอร์แบบต้งั โตะ๊ เป็นที่นิยมใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายในน ปัจจุบนั

2.2.2 ปัจจยั ทาํ ให้การจัดพมิ พ์ด้วยคอมพวิ เตอร์แบบต้งั โต๊ะเป็ นท่นี ยิ ม การจดั พิมพด์ ว้ ยคอมพิวเตอร์แบบต้งั โตะ๊ ไดร้ ับความนิยมอยา่ งแพร่หลายรวดเร็ว เนื่องมาจากวตั กรรมสาํ คญั 4 อยา่ ง ไดแ้ ก่ 1. เครื่องคอมพวิ เตอร์มีราคาถกู ลง และมีประสิทธิภาพในการใชง้ านมากข้ึนโดยเฉพาะดา้ นการพิมพอ์ กั ษรและ ภาพกราฟิ กไดใ้ นเวลาเดียวกนั 2. โปรแกรมสาํ เร็จรูปในการจดั หนา้ เช่น PageMaker, QuarkXPressและ Ventura Publisher ไดร้ ับการพฒั นาใหม้ ี ประสิทธิภาพในการทาํ งานสูงมากข้ึนเร่ือย ๆ 3. พฒั นาการทางดา้ นการพิมพต์ วั อกั ษร เช่น PostScript ทาํ ใหส้ ามารถพมิ พต์ วั อกั ษรไดส้ วยงามชดั เจน 4. เคร่ืองพิมพเ์ ลเซอร์มีราคาถูกลง ทาํ ใหผ้ ใู ชส้ ามารถซ้ือมาใชง้ านไดม้ ากข้ึน 2.2.3 องค์ประกอบของการจัดพมิ พ์ด้วยคอมพวิ เตอร์แบบต้ังโต๊ะ การจดั พมิ พด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์แบบต้งั โตะ๊ ประกอบดว้ ยอุปกรณ์และวสั ดุดงั ต่อไปน้ีคือ 1. เคร่ืองไมโครคอมพวิ เตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใชใ้ นการจดั ดพมิ พด์ ว้ ยคอมพิวเตอร์แบบต้งั โต๊ะสามารถใชไ้ ดท้ ้งั เครื่องในระบบ Macintosh และ PC (Personal Computer) แต่เดิมน้นั การจดั พิมพด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์แบบต้งั โต๊ะจะนิยมใชก้ บั เครื่อง Macintosh มากกวา่ PC เนื่องจากเครื่อง Macintosh มีการทาํ งานท่ีงา่ ยและสะดวกกวา่ ประกอบกบั มีโปรแกรมการพิมพแ์ ละจดั หนา้ ใหเ้ ลือกใชไ้ ดม้ ากกวา่ แตใ่ นปัจจุบนั การใชเ้ ครื่อง PC ในการจดั ดพมิ พด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์แบบต้งั โต๊ะกไ็ ดร้ ับความนิยมมากข้ึน ท้งั น้ีเพราะมีการพฒั นาการทางดา้ น ระบบปฏิบตั ิการ Windows รวมท้งั เคร่ือง PC มีโปรแกรมใหเ้ ลือกมาก ๆ พอ กบั เคร่ือง Macintosh 2. โปรแกรมสําเร็จรูปในการจดั หน้า ในการจดั พิมพด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์แบบต้งั โตะ๊ น้นั ถา้ จะใหส้ ่ิงพมิ พม์ ีคุณภาพดีแลว้ จะตอ้ งอาศยั โปรแกรมสาํ เร็จรูปหลายโปรแกรมประกอบกนั ซ่ึงในปัจจุบนั มีใหเ้ ลือกใชม้ ากมายหลายโปรแกรม แต่ละ โปรแกรมจะมีคุณสมบตั ิที่แตกตา่ งกนั ไป ไดแ้ ก่ โปรแกรมพิมพข์ อ้ ความและวาดภาพกราฟิ กแบบง่าย ๆโปรแกรม วาดภาพ โปรแกรมตกแต่งภาพถา่ ย และโปรแกรมสาํ หรับการจดั หนา้ การใชโ้ ปรแกรมสาํ หรับเคร่ือง

ไมโครคอมพวิ เตอร์จะตอ้ งดูวา่ เป็นโปรแกรมสาํ หรับเคร่ือง PC หรือ Macintosh ดว้ ย ท้งั น้ีเพราะโปรแกรมในช่ือ หน่ึงอาจจะผลิตออกมาสาํ หรับเครื่องท้งั สองระบบ 3. เคร่ืองพมิ พ์เลเซอร์ เครื่องพมิ พเ์ ลเซอร์เป็นเครื่องพมิ พค์ วามเร็วสูงที่ใชล้ าํ แสงเลเซอร์ทาํ ใหต้ วั อกั ษรหรือภาพรวมตวั กนั เป็ นจุดก่อน แลว้ จึงใชก้ ารถ่ายโอนทางไฟฟ้าเพื่อพมิ พล์ งบนกระดาษอีกทีหน่ึง อตั ราความเร็วในการพิมพว์ ดั ไดจ้ ากจาํ นวน หนา้ ที่พมิ พอ์ อกมาในหน่ึงนาที (Page per minute: ppm) คุณภาพของการพิมพด์ ูจากความละเอียดของจาํ นวนจุดใน หน่ึงนิ้ว (dot per inch: dpi) ตามปกติแลว้ งานพมิ พท์ ่ีจะมีคุณภาพจะพิมพด์ ว้ ยเครื่องพมิ พเ์ ลเซอร์ที่มีความคมชดั ใน การพมิ พส์ ูงต้งั แต่ 300-1200 จุดตอ่ นิ้ว หรือมากกวา่ น้นั ซ่ึงจาํ นวนความละเอียดของจุดจะดูไดจ้ ากเครื่องพมิ พแ์ ต่ละ เคร่ืองที่ระบไุ วเ้ ช่น 300และ 600 จุดต่อจุด เป็นตน้ หน่วยท่ี3 การจดั รูปแบบและจดั หน้าส่ือส่ิงพมิ พ์ การจดั รูปแบบการจดั หนา้ ส่ือส่ิงพมิ พ์ เป็นการจดั องคป์ ระกอบต่างๆในหนา้ ที่สื่อส่ิงพมิ พใ์ หม้ ีความสมบูรณ์ตรงกบั วตั ถุประสงคใ์ นการผลิต ไดแ้ ก่ การเลือกรูปแบบตวั อกั ษรสีตวั อกั ษรชนิดของกระดาษ ขนาดกระดาษ การต้งั ค่า หนา้ กระดาษ การกาํ หนดตาํ แหน่งภาพ ตาํ แหน่งขอ้ ความ และวสั ดุในการผลติ ส่ือสิ่งพมิ พ์ รูปแบบของส่ือสิ่งพิมพ์ ที่มีความหลากหลายตามลกั ษณะการใชง้ านส่งผลใหก้ ารเลือกวสั ดุท่ีใชใ้ นการผลิตแตกต่างกนั ออกไป การ จดั รูปแบบและจดั หนา้ ส่ือส่ิงพมิ พจ์ ึงเป็นข้นั ตอนที่สาํ คญั ในการผลิตส่ือสิ่งพิมพ์ 3.1 รูปแบบของสื่อส่ิงพมิ พ์ สื่อส่ิงพมิ พใ์ นปัจจุบนั มีหลากหลายรูปแบบดว้ ยเทคโนโลยแี ละเครื่องมือท่ีใชใ้ นการผลิตส่ือส่ิงพิมพท์ ี่ทนั สมยั การพมิ พจ์ ึงไม่ใช่การพมิ พบ์ นวตั ถทุ ี่เป็นกระดาษเพียงอยา่ งเดียวแต่รวมถึงวตั ถอุ ื่นๆมากมายเพ่อื ตอบสนองต่อความ ตอ้ งการของผทู้ ่ีใชต้ า่ งกนั ในการผลิตสื่อส่ิงพิมพใ์ หไ้ ดต้ ามรูปแบบท่ีตอ้ งการเมาะสมกบั การใชง้ านจะข้ึนอยกู่ บั ข้นั ตอนในการผลิตสื่อสิ่งพิมพใ์ หไ้ ดร้ ูปแบบท่ีตอ้ งการในการผลิตส่ือสิ่งพมิ พต์ ้งั แต่เร่ิมตน้ จนส้ินสุด ไดแ้ ก่ การ กาํ หนดวตั ถปุ ระสงคใ์ นการผลิตสื่อส่ิงพิมพว์ า่ จะผลิตเพอื่ อะไรเหมาะสมกบั ใครวยั ใดคาํ นึงถุงรูปแบบของเลเอาต์ การจดั องคป์ ระกอบในสื่อสิ่งพมิ พก์ ารจดั ตาํ แหน่งขอ้ ความตาํ แหน่งรูปภาพ ประเภทการพมิ พ์ วตั ถทุ ี่ใชใ้ นการพิมพ์ เช่น กระดาษ พลาสติก โลหะ เป็นตน้ ส่ือสิ่งพมิ พจ์ ึงมีรูปแบบที่หลากหลายและแตกต่างดงั น้ี 3.1.1 สื่อส่ิงพมิ พ์เชิงพาณิชย์

ส่ือส่ิงพิมพเ์ ชิงพาณิชยเ์ ป็นสื่อส่ิงพมิ พท์ ี่นิยมใชใ้ นวงการธุรกิจ ทางดา้ นการตลาด การติดตอ่ ซ้ือขาย การ โฆษณาและประชาสมั พนั ธเ์ ช่น หนงั สือ นามบตั ร โบวช์ วั ร์ เป็นตน้ รูปที่ 3.1 ส่ือส่ิงพมิ พร์ ูปแบบ ส่ือส่ิงพมิ พเ์ ชิงพาณิชย์ 3.1.2 ส่ือส่ิงพมิ พ์รูปแบบบัตรพลาสตกิ (Plastic Card) บตั รพลาสติกเป็นส่ือสิ่งพิมพส์ าํ หรับงานท่ีตอ้ งการความแตกตา่ งและป้องกนั การปลอมแปลง รูปที่ 3.2 ส่ือส่ิงพมิ พร์ ูปแบบบตั รพลาสติก 3.1.3 ส่ือส่ิงพมิ พ์รูปแบบเครื่องเขียน (Stationery) สื่อสิ่งพิมพใ์ นรูปแบบของเครื่องเขียนมีท้งั ท่ีเหมาะสมกบั นกั เรียนคนทาํ งาน และคนทว่ั ไปเคร่ืองเขียนที่ผลิตเพื่อ จาํ หน่ายเนน้ ที่การใชป้ ระโยชน์ความสวยงาม และความแปลกใหม่ของสินคา้

สมดุ โน๊ต แผน่ รองเมา้ ส์ รูปที่ 3.3 ส่ือสิ่งพิมพร์ ูปแบบเครื่องเขียน 3.1.4 สื่อส่ิงพมิ พ์รูปแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging) บรรจุภณั ฑเ์ พ่อื สร้างมลู คา่ ใหก้ บั ตวั สินคา้ ดว้ ยรูปแบบท่ีหลากหลาย กล่องพลาสติก กล่องกระดาษ รูปที่ 3.4 ส่ือส่ิงพมิ พร์ ูปแบบของบรรจุภณั ฑ์ 3.1.5 ส่ือสิ่งพมิ พ์รูปแบปฏิทนิ (Calendar) ปฏิทินมีรูปแบบที่เป็นแบบปฏิทินต้งั ต้งั โตะ๊ ปฏิทินแขวน ปฏิทินพกพา และตารางเวลารอบปี ปฎิทินต้งั โตะ๊ ตารางเวลารายปี

ปฎิทินเเขวน ปฎิทินพกพา รูปท่ี 3.5 สื่อส่ิงพมิ พร์ ูปแบบปฏิทิน 3.1.6 สื่อส่ิงพมิ พ์รูปแบบของพรีเมย่ี ม (Premium) ส่ือส่ิงพมิ พร์ ูปแบบของพรีเม่ียมเป็นสื่อส่ิงพมิ พท์ ่ีตอ้ งใชเ้ ทคนิคพเิ ศษและวสั ดุหลากหลายเพ่อื สร้างความน่าสนใจ ใชเ้ ก็บเป็นของสะสมหรือใชใ้ นลกั ษณะส่ือประชาสัมพนั ธ์ ของเลน่ โฟม กระดานเกมส์ รูปที่ 3.6 ส่ือสิ่งพมิ พร์ ูปแบบของพรีเมี่ยม 3.1.7 ส่ือส่ิงพมิ พ์รูปแบบของเล่น (Toye) ส่ือส่ิงพมิ พร์ ูปแบบของเล่นเป็นส่ือส่ิงพิมพท์ ่ีใชค้ วามคิดสร้างสรรคแ์ ละการออกแบบในการสร้างเกมส์เพอ่ื ใหเ้ ดก็ เล่นและเรียนรู้จากสัมผสั ซ่ึงใชว้ สั ดุท่ีปลอดภยั สาํ หรับเด็ก

กระดานเกม สต๊กิ เกอร์แทตทู รูปที่ 3.7 ส่ือส่ิงพิมพร์ ูปแบบของเลน่ 3.1.8 ส่ือส่ิงพมิ พ์รูปแบบป้ายโฆษณา (Display) ป้ายโฆษณาเพือ่ เผยแพร่ทโฆษณาประชาสัมพนั ธข์ า่ วสาร สินคา้ และบริการต่างๆป้ายโฆษณาที่นิยมใชใ้ นปัจจุบนั ไดแ้ ก่ โปสเตอร์ ธงโฆษณาสินคา้ ป้ายชนิดหมนุ ไปมา ท่ีแขวนหมนุ ไปมา โปสเตอร์ รูปที่ 3.8 ส่ือส่ิงพิมพแ์ บบป้ายโฆษณา 3.2 การจดั หน้าส่ือสิ่งพมิ พ์ การจดั หนา้ สื่อส่ิงพิมพ์ เป็ นการกาํ หนดจดั วางตาํ แหน่งของขอ้ ความและรูปภาพใหอ้ ยใู่ นตาํ แหน่งที่เหมาะสมตาม รูปแบบของการจดั หนา้ ส่ือส่ิงพิมพ์ 3.2.1 รูปแบบการจดั หน้าสื่อสิ่งพมิ พ์

1.รูปแบบการจดั หน้าแบบแบ่งออกเป็ นส่วน คือ การแบ่งหนา้ ออกเป็น 4 ส่วนโดยใชเ้ ส้นตามรอยพบั คร่ึงตาม แนวนอนและแนวต้งั แต่ละส่วนมีจุดสาํ คญั ในตวั เอง ใหด้ า้ นซ่ึงอยตู่ รงขา้ มกนั ตามเส้นทแยงมมุ มีความสมดุล รูปที่ 3.9 รูปแบบการจดั หนา้ แบบแบ่งออกเป็นส่วน 2.รูปแบบการจดั หน้าแบบสมดุล เป็นการจดั ส่วนประกอบในหนา้ กระดาษ เช่น หวั เรื่องภาพลอ้ มกรอบ เน้ือเร่ืองจะ ใหอ้ ยใู่ นตาํ แหน่งสมดุล เป็นตน้ ซ่ึงสามารถแบง่ ออกไดด้ งั น้ี (1) รูปแบบสมรูป คือ การสมดุลแบบซา้ ยขวาเท่ากนั รูปที่3.10 รูปแบบการจดั หนา้ แบบสมรูป (2) รูปแบบอสมรูป คือ การสมดุลแบบซา้ ยและขวาไม่เทา่ กนั

รูปที่ 3.11 รูปแบบการจดั หนา้ แบบอสมรูป 3. รูปแบบการจัดหน้าตามแนวนอน (Horizontal) คือการวางหวั เร่ืองหลายๆคอลมั น์ตาม ขวางของหนา้ กระดาษเน้ือหาส่วนใหญ่จะจดั เป็นคอลมั นส์ ้นั ๆเขา้ กนั ภายใตห้ วั เร่ือง 4. รูปแบบการจดั หน้าตามแนวตง่ิ (Vertical) หรือตามความยาวของคอลมั นเ์ น้ือหาเรียงตามเป็นความยาวของ คอลมั น์ภายใตห้ วั ขอ้ น้นั ๆ รูปท่ี 3.13 รูปแบบการจดั หนา้ ตามแนวด่ิง 5. รูปแบบการจัดหน้าตามความนิยม (1) แบบมอนเตรียม (Mondrian) มีจุดเด่นท่ีมีการนาํ รูปทรงเลขาคณิตมาประกอบใหเ้ ป็นสัดส่วน นิยมใชร้ ูปทรง เน้ือที่แบบส่ีเหลี่ยมผืนผา้

รูปที่ 3.14 รูปแบบการจดั หนา้ แบบมอนเดรียม (2) แบบการเน้นภาพ (Picture window Layout) เป็นแบบท่ีนิยมใชก้ นั มากโดยมีจุดเด่นอยทู่ ่ีภาพเพราะเป็นการใช้ ภาพที่มีขนาดใหญเ่ พยี งภาพเดียวโดยกินเน้ือที่เกือบท้งั หมดและมีขอ้ ความเกือบเล็กนอ้ ยอยเู่ บ้ืองล่างซ่ึงคลา้ ยกบั การจอ้ งมองไปท่ีหนา้ ต่างและมองบนภาพ รูปที่ 3.15 รูปแบบการจดั หนา้ แบบการเนน้ ภาพ (3) แบบเนื้อกรอบภาพ เป็ นการนาํ ส่วนประกอบตา่ งๆวางไวภ้ าพใตก้ รอบภาพเพ่อื ใหร้ ู้วา่ เป็นเรื่องราวของชิ้นงาน รูปที่ 3.16 รูปแบบการจดั หนา้ แบบเนน้ กรอบภาพ

(4) แบบตัวอกั ษรใหญ่ (Big Type Layout) จดั หนา้ โดยนาํ ภาพที่ผอู้ ่านสงสัยเพ่ือจะไดแ้ สวงหาคาํ ตอบเก่ียวกบั ส่ิงที่ เสนอ รูปท่ี 3.17 รูปแบบการจดั หนา้ แบบตวั อกั ษรใหญ่ (5) แบบละครสัตว์ (Circus Layout) เป็นการจดั วางหนา้ ส่ิงพิมพต์ ามท่ีผอู้ อกแบบเห็นวา่ มีความสวยงามดว้ ยการ บรรจุสิ่งต่างๆเขา้ ดว้ ยกนั โดยวางกระจดั กระจายระเกะระกะเหมือนละครสัตวท์ ่ีมีสตั วห์ ลายชนิดอยดู่ ว้ ยกนั รูปที่ 3.18 รูปแบบการจดั หนา้ แบบละครสตั ว์ (6) แบบช่องแถบซ้อน (Multipaned Layout) เป็นการวางหนงั สือการ์ตูนท่ีแบ่งเป็นช่องๆ และมีขอ้ ความแทรกไว้ ใตภ้ าพหรือแจง้ เรื่องราวอยา่ งตอ่ เนื่อง รูปที่ 3.19 รูปแบบการจดั หนา้ แบบช่องแถบซอ้ น

(7) แบบเข้าโค้งเงาทบึ (Silhouette Layout) การจดั หนา้ โดยการคาํ นึงถึงเงาเคา้ โครงของภาพวตั ถทุ ่ีตอ้ งนาํ มาวาง บนงานพิมพโ์ ดยมีส่วนประกอบอ่ืนๆ เป็นองคป์ ระกอบ รูปที่ 3.20 รูปแบบการจดั หนา้ แบบเคา้ โครงเงาทึบ 3.2.2 การเตรียมข้อมูลเพ่ือจัดหน้าส่ือส่ิงพมิ พ์ การเตรียมขอ้ มูลเพ่อื จดั หนา้ ส่ือส่ิงพิมพป์ ระกอบดว้ ย 4 ข้นั ตอน ดงั น้ี 1.เตรียมส่วนประกอบต่างๆ ส่ือสิงพิมพจ์ ะมีส่วนประกอบหลายอยา่ งเพ่อื นาํ มาจดั วางในหนา้ กระดาษในข้นั ตอนน้ี จึงเป็นการจดั เตรียมขอ้ มูล เช่น พิมพเ์ น้ือหาเรื่องราวเตรียมภาพและส่วนปรกอบที่หาเพม่ิ เติมหรือจากแฟ้มท่ีมีอยู่ วาดประกอบภาพเตรียมแผนภูมิหรือสถิติตอ้ งใชเ้ ป็ นตน้ สิ่งเหลา่ น้ีจะตอ้ งทาํ งานจดั เตรียมใหเ้ รียบร้อยเสียก่อนที่จะ ทาํ งานกบั โปรแกรม 2. จดั วางข้อความและภาพ จะเป็นการใชโ้ ปรแกรมสาํ เร็จรูปในการผลิตส่ือสิ่งพมิ พโ์ ปรแกรมสาํ เร็จรูปที่นิยมใช้ ไดแ้ ก่โปรแกรมอะโดบีเพจเมกเกอร์โปนแกรมอะโดบีอินดีไซตโ์ ดยอาจจะใชแ้ มแ่ บบ เช่น แผน่ พบั ปกเทป เป็นตน้ เพอ่ื นาํ ส่วนประกอบที่เตรียมไวใ้ ส่ลงในแม่แบบหรือจะสร้างหนา้ กระดาษข้ึนข้ึนใหม่โดยจดั ขอบวา่ งตามขนาดท่ี กาํ หนดไว้ มีเสน้ แนวในการจดั วางขอ้ ความและภาพเม่ือกาํ หนดตาํ แหน่งหนา้ ส่ิงพิมพเ์ รียบร้อยแลว้ จึงทาํ การจดั วาง ขอ้ ความภาพรวมถึงส่วนประกอบอ่ืนๆท่ีเตรียมไวแ้ ร้วลงในหนา้ สื่อสิ่งพิมมพต์ ามกาํ หนด 3.ปรับแต่งส่ือส่ิงพมิ พ์ ไดแ้ ก่ การปรับแต่งรายละเอียดต่างๆเช่นปรับระยะห่างระหวา่ งไมบ้ รรทดั จดั ยอ่ หนา้ ขอ้ ความ จดั แต่งหวั เร่ืองโดยอาจเปลี่ยนแบบอกั ษรหรือขนาดใหมใ่ หเ้ หมาะสมการตกแต่งสีขอ้ ความ เป็นตน้ เพื่อใหไ้ ดส้ ื่อสิ่งพมิ พท์ ่ีสวยงาม 4. จัดทาํ สารบญั และดัชนี ในกรณีที่เน้ือหาจดั การพิมพม์ ีเน้ือหามากควรอาํ นวยสะดวกแก่ผอู้ ่านดว้ ยการทาํ สารบญั และดชั นีเพือ่ ช่วยในการอ่านและบางคร้ังอาจอาจมีรายการตารางและรายการภาพประกอบเพือ่ ความละเอียดยง่ิ ข้ึน และจากที่จดั แตง่ หนา้ กระดาษสื่อส่ิงพิมพเ์ รียบร้อยแลว้ ถา้ ผจู้ ดั ทาํ มีเครื่องพิมพเ์ ลเซอร์หรือเคร่ืองพิมพพ์ น้ หมึกก็

สามารถผลิตส่ือส่ิงพิมพน์ ้นั ไดแ้ ต่ถา้ เป็นการผลิตจาํ นวนมากกจ็ าํ เป็นตอ้ งส่งตน้ ฉบบั ท่ีจดั ทาํ ไปโรงพิมพเ์ พ่อื จดั พมิ พต์ ่อไป หน่วยท่ี 4 การใช้โปรแกรมสําเร็จรูปผลติ ส่ือสิ่งพมิ พ์ สื่อสิ่งพิมพป์ ระเภทตา่ งๆ ท่ีใชก้ นั ทกุ วนั น้ีไดก้ ลายเป็นส่วนหน่ึงของชีวติ ประจาํ วนั จนบางคร้ังผใู้ ชอ้ าจจะไม่สังเกต วา่ ส่ิงน้นั เป็นส่ือส่ิงพมิ พด์ ว้ ยเช่นกนั งานดา้ นส่ือส่ิงพิมพผ์ ลิตข้ึนมาหลากหลายประเภทเพอ่ื สนองตอบกบั ความ ตอ้ งการของผใู้ ช้ เช่น หนงั สือพิมพ์ นิตยาสาร วารสาร โบร์ชวั ร์ แผน่ พบั และหนงั สือประเภทตา่ งๆ โดยท่ีมาของ สื่อสิ่งพมิ พเ์ หลา่ น้ีอาจจะมาจากโรงพิมพข์ นาดใหญ่ท่ีมีอุปกรณ์เคร่ืองมือครบครัน หรือมาจากการผลิตดว้ ยเคร่ือง คอมพิวเตอร์และเคร่ืองพริ้นเตอร์แบบธรรมดา เรียกวา่ เป็นการพมิ พแ์ บบเดสกท์ ๊อปพบั ลิชชิงท่ีมีใชก้ นั โดยทว่ั ไป ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ความตอ้ งการคุณภาพ ขนาด และปริมาณของการใช้ ในงานพมิ พส์ ื่อสิ่งพิมพไ์ ม่วา่ จะผลิตจากโรงพิมพ์ หรือการผลิตแบบเดรกท์ ๊อปลิชชิง ต่างตอ้ งใชโ้ ปรแกรมสาํ เร็จรูป สาํ หรับการผลิตส่ือสิ่งพมิ พ์ เช่น โปรแกรมอะโดบีเพจเมกเกอร์ โปรแกรมอะโดบีดิไซน์ โปรแกรมอะโดบีโปรโตช็ อป และโปนแกรมอะโดบีอิลสั เตรเตอร์ เป็นตน้ 4.1ลกั ษณะโปรแกรมอะโดบีอนิ ดไี ซน์ซีเอส 5.5 โปรแกรมอะโดบีอินดีไซนเ์ ป็นโปรแกรมเพือ่ จดั หนา้ ส่ือส่ิงพิมพแ์ บบมืออาชีพสาํ หรับงานสื่อสิ่งพมิ พใ์ นระบบ ดิจิตอล ใชอ้ อกแบบโครงหนา้ หรือเลเอาตข์ องงานพิมพท์ ่ีตอ้ งการไม่วา่ จะเป็ นงานพมิ พห์ นงั สือ วารสารนิตยาสาร หรือแมก้ ระท้งั สื่อส่ิงพมิ พแ์ บบอินเตอร์เอฟทีฟ ช่วยใหส้ ามารถออกสื่อนาํ เสนอในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร โปรแกรมอะโดบีอินดีไซนส์ ามารถจดั การในเร่ืองการออกแบบเลเอาตท์ ่ียดื หยนุ่ กบั การจดั หนา้ เพ่ือส่งต่อไปยงั สื่อ ต่างๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ช่วยประหยดั เวลา เมื่อสร้างงานพมิ พห์ รือเอกสารดิจิตอลดว้ ยการสามารถส่งแบบออนไลน์ โดยใชโ้ ปรแกรมอะโดบีอินดีไซนไ์ ด้ หากตอ้ งการเปล่ียนตาํ แหน่งในการวางรูปในเฟรมกส็ ามารถทาํ ไดง้ ่าย โดยไม่ ตอ้ งเลื่อนเมาส์ออกจากเลเอาตเ์ ครื่องมือใหม่ของอะโดบีอินดีไซนจ์ ะเอ้ือประโยชนต์ อ่ การใชง้ านแบบอินเตอร์ แอค ทีฟไดใ้ นสามารถอ่านไดท้ ้งั ออนไลน์และออฟไลน์ 4.2 การเข้าสู่โปรแกรมอะโดบีอนิ ดไี ซน์ซีเอส 5.5 การเขา้ สู่โปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ ผใู้ ชส้ ามารถเรียกใชง้ านโปรแกรมไดด้ ว้ ยวิธีการดงั ต่อไปน้ี 4.2.1วิธีท่ี 1

1.ดบั เบิลคลิกที่สญั ญาลกั ษณ์ (ชอร์ตคตั ของโปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ซีเอส5.5)บนหนา้ เดสกท์ อ็ ป (Desktop) ดบั เบิลคลิกชอร์ตคตั ของโปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ซีเอส5.5 2.เขา้ สู่โหมดโปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ซีเอส5.5 จะปรากฏหนา้ จอแรกของโปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ซีเอส5.5 หนา้ ตา่ งเทรมเพลต (Templat) สัญญาลกั ษณ์ท่ีแสดงเม่ือเขา้ สู่โปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ซีเอส5.5

เมื่อเขา้ สู่โปรแกรมอะโดบี อินดีไซน์ 5.5จะปรากฏหนา้ ต่างเทรมเพลต 4.2.2 วธิ ีท่ี 2 1. คลิกป่ ุม ป่ ุมสตาร์ต > โปรแกรม > อะโดบีอินดีไซนซ์ ีเอส 5.5 (Program > Adobe Indesige Cs 5.5) 2. จะเขา้ สู่โปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ซีเอส 5.5

เขา้ สู่โปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ซีเอส 5.5 จะปรากฏหนา้ ต่างเทรมเพลต หนา้ ต่างเทรมเพลตมีไวส้ าํ หรับช่วยในการสร้างไฟลง์ านไดส้ ะดวกมากข้ึนซ่ึงจะใหแ้ สดงหรือไม่แสดงหนา้ ตา่ งก็ ได้ การใชง้ านหนา้ ต่างเทรมเพลตเพื่อจะเขา้ สู่การเร่ิมตน้ การสร้างช้ินงาน มีดงั น้ี เป็นไฟลง์ านเดิมท่ีมีอยแู่ ลว้ (Open) สร้างไฟลง์ านใหม่ (Document) สร้างไฟลง์ านแบบบกุ๊ (Book) เหมาะสาํ หรับเอกสารที่มีหลายๆหนา้ สร้างไฟลแ์ นบไลบรารี (Library) แสดงหรือไม่แสดงหนา้ ตา่ งเรมเพลตในคร้ังต่อไปเมื่อไมต่ อ้ งการใหแ้ สดงหนา้ ต่างเทรมเพลต ใหค้ ลิกท่ีกรอบ สี่เหลี่ยมหนา้ ขอ้ ความ Don’t show again จะปรากฏเครื่องหมาย R เม่ือเขา้ สู่โหมดคร้ังต่อไป จะไมแ่ สดงหนา้ ตา่ งเท รมเลต 4.3 การออกจากโปรแกรมอะโดบีอดิ ไี ซน์ซีเอส 5.5 การออกจากโปรแกรมอะโดบีอิดีไซน์ซีเอส 5.5 ทาํ ไดด้ งั น้ี 4.3.1 วธิ ีที่ 1 1.คลิกท่ีป่ ุม (Close) บริเวณป่ มุ ควบคุมการทาํ งาน (มุมบนดา้ นขวามือ)

2.จะปิ ดช้ินงานและปิ ดโปรแกรม 4.3.2 วิธีที่ 2 1. คลิกคาํ ส่งั แฟ้ม (File) ออกจากโปรแกรม (Exit) 4.4 ส่วนประกอบของหน้าต่างโปรแกรมอะโดบีอนิ ดไี ซน์ซีเอส 5.5 เม่ือเขา้ สู่การทาํ งานของโปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ซีเอส 5.5 จะปรากฏหนา้ จอของโปรแกรม ซ่ึงจะประกอบดว้ ย ส่วนประกอบตา่ งๆท้งั ที่เป็นแถบเครื่องมือ แถบคาํ สง่ั และพ้นื ท่ีในการทาํ งาน 4.4.1 ส่วนประกอบของหน้าต่างโปรแกรมอะโดบอี นิ ดไี ซน์ซีเอส 5.5

ส่วนประกอบบนหนา้ จอสามารถแบ่งไดเ้ ป็น 7 ส่วน ไดแ้ ก่ 1.แถบคาํ สั่ง (Menu Bar) เป็นคาํ ส่งั หลกั และคาํ สั่งยอ่ ยของโปรแกรม 2.แถบคอนโทรลพาเนล (Control Panel) ใชส้ าํ หรับกาํ หนดคุณสมบตั ิของวตั ถุและขอ้ ความ 3.ป่ ุมควบคุมการทาํ งาน ปิ ด ยอ่ /ขยาย หนา้ ตา่ ง 4.ป่ มุ เรียกใชง้ านโปรแกรมอะโดบีบริดจ์ (Adobe Bridge) 5.กลอ่ งเคร่ืองมือ (Toolbox) เกบ็ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการสร้าง ปรับแต่งแกไ้ ขภาพ และขอ้ ความ 6.อาร์คบอร์ด (Artboard) พ้นื ท่ีการทาํ งาน 7.ด็อคพาเนล (Dock Panel) พาเนลตา่ งๆที่รวบรวมคุณสมบตั ิการทาํ งาน 4.4.2 แถบคาํ ส่ัง (Menu Bar) แถบคาํ สั่ง เป็นแถบเมนูที่ใชเ้ กบ็ คาํ ส่งั หลกั ของโปรแกรม ซ่ึงสามารถเรียกใชค้ าํ สัง่ หลกั ไดใ้ นคาํ สัง่ บางคาํ สัง่ จะมี สญั ลกั ษณ์แสดงอยดู่ า้ นขวามือ เม่ือเรียกใชค้ าํ สั่งหลกั น้นั จะมีสง่ั ยอ่ ยเพม่ิ ข้ึนอีก ตารางที่ 8.1 คาํ ส่งั ในแถบคาํ สั่ง (Menu Bar) คาํ สัง่ การใชง้ าน

ไฟล์ (File) เป็นคาํ สั่งที่เกี่ยวกบั การจดั การไฟล์ เช่น การสร้างเอกสารใหม่ (New) การ เปิ ดไฟล์ (Open) การบนั ทึกไฟล์ (Save) การพมิ พเ์ อกสาร (Print) และการ นาํ ไฟลจ์ ากภายนอกเขา้ มาใช้ (Place) เป็นตน้ เอดิต (Edit) เป็นคาํ สง่ั เก่ียวกบั การปรับปรุง ปรับแต่ง แกไ้ ข เช่น การตดั (Cut) การ คดั ลอก (Copy) การวาง (Paste) เป็นตน้ เลเอาต์ (Layout) เป็นคาํ ส่งั เก่ียวกบั การจดั การหนา้ เอกสาร เช่น การเพ่มิ เอกสาร (Add Page) กาํ หนดเลขหนา้ (Numbering & Section options) เป็นตน้ ไทป์ (Type) คาํ สั่งเกี่ยวกบั ตวั อกั ษร เช่น ชนิดตวั อกั ษร (Font) ขนาดตวั อกั ษร (Size) ยอ่ หนา้ (Paragraph) เป็นตน้ ออบเจ็กต์ (Object) เป็นคาํ ส่งั เกี่ยวกบั การจดั การออบเจ็กตท์ ้งั หมด เช่น การ จดั ลาํ ดบั (Arrange) การปรับแต่ง (Transform) เป็นตน้ เทเบิล (Table) เป็นคาํ สง่ั เก่ียวกบั ตาราง เช่น แทรกตาราง (Insert Table) แทรกแถว แทรก แถว แทรกคอลมั น์ (Insert Row , Column) เป็นตน้ วิว (View) เป็นคาํ สัง่ มุมมองแสดงภาพในรูปแบบต่างๆ เช่น ขยายมมุ มอง หนา้ กระดาษ (Zoom Out) แสดงองคป์ ระกอบในการพิมพ์ (Entire Pasteboard) เป็นตน้ วนิ โดว์ (Window) เป็นคาํ สั่งในการจดั การหนา้ ตา่ งท่ีปรากฏบนหนา้ จอของโปรแกรม และ แสดงซ่อนดอ็ คพาเนล (Dock Panel) เฮลป์ (Help) ใหค้ าํ แนะนาํ เกี่ยวกบั วิธีการใชง้ านโปรแกรม 4.4.3 กล่องเครื่องมือ (Tool Box) กลอ่ งเครื่องมือ เป็นส่วนหน่ึงของโปรแกรมอะโดบีอินดีไซน์ซีเอส 5.5 ท่ีรวบรวมเครื่องมือท่ีใชใ้ นการสร้างชิ้นงาน การปรับแต่ง แกไ้ ขขอ้ ความ และรูปภาพ ซ่ึงเคร่ืองมือที่เรียกใชอ้ ยใู่ นรูปแบบเป็นไอคอน ใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถเรียกใช้ งานไดง้ ่ายและสะดวกรวดเร็ว

การปรับเปลี่ยนรูปแบบกลอ่ งเคร่ืองมือสามารถทาํ ไดด้ ว้ ยการคลิกท่ีสัญลกั ษณ์รูปสามเหลี่ยม 2 ตวั ซ่ึงการปรับ รูปแบบของกล่องเครื่องมือข้ึนอยกู่ บั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ ตารางท่ี 8.2 การใชง้ านไอคอนในกล่องเครื่องมือ ไอคอน การใชง้ าน ใชส้ าํ หรับเลือกวตั ถุ (Selection Tool)

ใชส้ าํ หรับจดั การเกี่ยวกบั การปรับแต่งเสน้ ต่างๆ โดยการใชร้ ่วมกบั คียบ์ อร์ด ในการเลือนข้ึน ลง เล่ือนซา้ ย เลื่อนขวา (Direct Selection Tool) ใชง้ านเกี่ยวกบั หนา้ มาสเตอร์ ปรับขนาดเคา้ โครง หนา้ กระดาษ (Page Tool) ใชป้ รับระยะความห่างระหวา่ ง Frame และ Object (Gap Tool) ใชพ้ ิมพข์ อ้ ความธรรมดา (Type Tool) ใชส้ ร้างและแกไขตวั อกั ษรบนเสน้ Path (Type on a Path Tool) ใชส้ ร้างเสน้ ตรง (Line Tool) ใชต้ ดั เส้น Path ในจุดที่ตอ้ งการ (Scissors Tool) ใชว้ าดเส้นอิสระ (Pencil Tool) ใชล้ บมมุ ที่เกินบนเสน้ Path ทาํ ใหม้ ีความโคง้ มากข้ึน (Smooth Tool) ใชล้ บจุดบนเส้น Path (Erase Tool) ใชส้ ร้างกรอบส่ีเหลี่ยมเพ่ือใส่ภาพ หรือขอ้ ความ (Rectangle Frame Tool) ใชส้ ร้างกรอบวงกลมและวงรี เพอื่ ใส่ภาพหรือขอ้ ความ (Ellipse Frame Tool)

ใชส้ ร้างกรอบหลายเหล่ียมเพ่อื ใส่ภาพหรือขอ้ ความ (Polygon Frame Tool) ใชส้ ร้างรูปสามเหล่ียม (Rectangle Tool) ใชส้ ร้างรูปวงกลมหรือวงรี (Ellipse Tool) ใชส้ ร้างรูปหลายเหล่ียม (Polygon Tool) ใชส้ าํ หรับการปรับเปลี่ยนแกไ้ ขในส่วนของขนาดใหใ้ หญห่ รือเลก็ ตามความตอ้ งการ (Free Transform Tool) ใชใ้ นการหมุนวตั ถุ (Rotate Tool) ใชใ้ นการยอ่ ขยายวตั ถุ (Scale Tool) ใชใ้ นการปรับเอนเอียงวตั ถุ (Shear Tool) ใชใ้ นการไล่โทนสีจากสีเขม้ ไปจนถึงสีออ่ น (Gradient Swatch Tool) ใชไ้ ล่น้าํ หนกั สีแบบโปร่งใส (Gradient Feather Tool) สาํ หรับพมิ พข์ อ้ ความในส่วนของคาํ อธิบายหรือความเห็น (Note Tool) ใชส้ าํ หรับดูดสี (สีตน้ แบบ) จากวตั ถหุ น่ึงแลว้ นาํ ไปใชอ้ ีกวตั ถุ หน่ึง (Eyedropper Tool) ใชส้ าํ หรับวดั ระยะห่างระหวา่ งจุดสองจุด (Measure Tool) ใชเ้ คลื่อนยา้ ยวตั ถใุ นมมุ มองของหนา้ ต่างการทาํ งาน (Hand Tool)

ใชเ้ คลื่อนยา้ ยวตั ถใุ นมุมมองของหนา้ ตา่ งการทาํ งาน (Zoom Tool) ใชเ้ ติมสีพ้นื สีเสน้ ใหก้ บั วตั ถแุ ละสีตวั อกั ษร (Default Full and Stroke) การเปลี่ยนสีใหก้ บั วตั ถุ (Apply Color) การไลโ่ ทนสีใหก้ บั วตั ถุ (Apply Gradient) การยกเลิกเสน้ ขอบ (Apply None) เคร่ืองมือช้ินงานในมุมมองต่างๆ 4.4.4 พาเนล (Panel) พาเนลเป็นที่รวบรวมคุณสมบตั ิของเคร่ืองมือตา่ งๆเพ่ือความสะดวกในการเรียกใชง้ านในอะโดบีอินดีไซนซ์ ี เอส5.5 1.รูปแบบของพาเนล (Panel) พาเนลสามารถปรับเปล่ียนรูปแบบได้ 3 รูปแบบคือ (1) แบบพาเนล (2) แบบไอคอนและช่ือพาเนล (3) แบบไอคอน การเปล่ียนรูปแบบของพาเนลสามารถทาํ ไดด้ ว้ ยการคลิกที่สัญญาลกั ษณ์บริเวณแถบดา้ นบนของพาเนล 2.ควบคุมการเปิ ด/ปิ ดพาเนล

(1) วธิ ีท่ี 1 การเปิ ด/ปิ ดพาเนลสามรถทาํ ไดด้ ว้ ยการใชเ้ มนูคาํ สัง่ วินโดว์ (Window)เพ่ือเลือกใหม้ ีการบรริการ/ไม่ แสดงพาเนล ตามช่ือของพาเนล (ก) เมื่อมีการคลิกเมาส์ท่ีเลือกใหแ้ สดงปรากฏเคร่ืองหมาย P หนา้ ชื่อพาเนล (ข) เม่ือตอ้ งการปิ ดหรือยกเลิกพาเนล ใหม้ ีการคลิกเมาส์ซ้าํ ที่ชื่อพาเนลเพ่อื ใชเ้ ครื่องหมาย Pหายไป (2) วธิ ีท่ี 2 สามารถปิ ดพาเนลไดด้ ว้ ยการคลิกเมาส์ในตาํ แหน่ง Q บริเวณมมุ ดา้ นบนของพาเนล เพอ่ื ทาํ การปิ ด พาเนลในกลุม่ ท้งั หมด หรือคลิกเมาส์ในตาํ แหน่ง Q บริเวณหลงั ชื่อพาเนลเพ่อื ทาํ การปิ ดพาเนลที่เลือกเท่าน้นั (3) การแยกและรวมพาเนล ในการใชง้ านพาเนลผใู้ ชส้ ามารถทาํ การแยกและรวมพาเนลไดโ้ ดยการแยกน้นั สามารถ ทาํ ไดท้ ้งั แยกออกพาเนลเดียว หรือแยกออกมาเป็นกลุ่ม สามารถทาํ ไดด้ งั น้นั สามารถทาํ ไดด้ งั น้ี (1) การแยกพาเนลออกพาเนลเดียว (ก) คลิกเมาส์ไวบ้ ริเวณแทบ็ พาเนลที่ตอ้ งการแยก (ข) ลากพาเนลไปวางยงั ตาํ แหน่งที่ตอ้ งการ (2) การแยกพาเนลท้งั กลุม่ (ก) คลิกเมาส์คา้ งไวบ้ ริเวณเสน้ ขอบดา้ นบนของกลมุ่ พาเนลที่ตอ้ งการแยก (ข) ลากกลมุ่ ไปวางยงั ตาํ แหน่งท่ีตอ้ งการ (3) การรวมพาเนลกลบั เขา้ กลุม่ (ก) คลิกเมาส์คา้ งไวบ้ ริเวณแทบ็ พาเนลที่ตอ้ งการเขา้ กลุ่ม (ข) ลากพาเนลไปวางยงั ตาํ แหน่งท่ีตอ้ งการ (4) การรวมพาเนลท้งั กลุม่ ไวใ้ นกรอบพาเนล (ก) คลิกเมาส์คา้ งไวบ้ ริเวณเส้นขอบดา้ นบนของกลุ่มพาเนล หรือบริเวณแถบดา้ นบน (ข) ลากกลุ่มพาเนลไปวางยงั ตาํ แหน่งในแถบพาเนล กลุม่ พาเนลจะกลบั ไปอยใู่ นกรอบพาเนลดงั เดิม 4.4.5 คอนโทรลพาเนล (Control Panel)

คอนโทรลพาเนลเป็นแถบเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการกาํ หนดคา่ ใหก้ บั ขอ้ ความ ตวั อกั ษรและวตั ถโุ ดยเคร่ืองมือจะ เปล่ียนไปตามการทาํ งานในขณะน้นั เป็นขอ้ ความหรือวตั ถุ ถา้ เป็นการกบั ขอ้ ความ ผใู้ ชจ้ ะสามารถกาํ หนดสี ขนาด ตวั อกั ษร การจดั ตาํ แหน่งขอ้ ความ ถา้ เป็นการทาํ งานกบั วตั ถุจะสามารถกาํ หนดคุณสบตั ิต่างๆของวตั ถุ เช่นการจดั วาง การปรับแต่งภาพ เป็นตน้ คอนโทรลพาเนลเป็ นเคร่ืองมือท่ีทาํ ใหก้ ารใชง้ านสะดวกและรวดเร็วยง่ิ ข้ึน เม่ือทาํ งานเก่ียวกบั ตวั หนงั สือหรือขอ้ ความมีการใชเ้ ครื่องมือไทป์ ทูล (Type Tool) หรือไทป์ ออนอะพาธ ทลู (Type on a Path Tool) คอนโทรลพาเนลจะปรากฏดงั น้ี ตารางท่ี 8.3 เครื่องมือในการปรับแต่งตวั อกั ษรจากคอนโทรลพาเนล ไอคอน การใชง้ าน ควบคุมการทาํ งานของตวั อกั ษร (Character Formatting Controls) ควบคุมการทาํ งานของยอ่ หนา้ (Parageaph Formatting Controls) รูปแบบตวั อกั ษร (Font) ลกั ษณะตวั อกั ษร (Type Style)

ขนาดตวั อกั ษร (Font Size) ระยะหางของตวั อกั ษร (Leading) เปลี่ยนเป็นตวั ภาษาองั กฤษพิมพใ์ หญ่ (All Cap) เปล่ียนเป็นตวั ภาษาองั กฤษพิมพใ์ หญข่ นาดเลก็ (Small Caps) ตวั อกั ษรยก (Superscript) ตวั อกั ษรหอ้ ย (Subscript) ขีดเส้นใตต้ วั อกั ษร (Underline) ขีดเส้นคร่อมตวั อกั ษร (Stikethrough) ปรับช่องไฟของตวั อกั ษร (Kerning) ปรับช่องไฟท้งั ขอ้ ความ (Trackpng)

เพ่มิ /ลดความสูงตวั อกั ษร (Vertical Scale) เพิม่ /ลดความกวา้ งตวั อกั ษร (Horizontal Scale) ยก/หอ้ ยตวั อกั ษร (Baseline) อกั ษรตวั เอียง (Skew) สีตวั อกั ษร (Fill) สีเสน้ ขอบตวั อกั ษร (Stroke) การจดั ตาํ แหน่งขอ้ ความ (Alignment) การจดั ยอ่ หนา้ (Indent) เม่ือผใู้ ชเ้ ปล่ียนการทาํ งานจากการทาํ งานกบั ขอ้ ความหรือตวั อกั ษร มาเป็นการทาํ งานกบั วตั ถุ เช่น การเรียกใช้ เคร่ืองมือไลนท์ ูล (Line Tool ) โพลีกอนทลู (Polygon Tool) ซีเลคชนั่ (Selection Tool) เป็นตน้ แถบคอลโทรล พาเนลกเ็ ปล่ียนเป็นการทาํ งานกบั วตั ถุ ดงั น้ี

ตารางท่ี 8.4 เครื่องมือในการปรับแตง่ วตั ถุจากคอลโทรลพาเนล ไอคอน การใชง้ าน จุดอา้ งอิงตาํ แหน่ง (Referent Point) ระบุพกิ ดั วตั ถใุ นแนวนอน (X) (X Location) ระบุพิกดั ในแนวต้งั (Y) (Y Location) ความกวา้ งของวตั ถุ (Width) ความสูงของวตั ถุ (Height) เปอร์เซ็นตว์ ตั ถุดา้ นกวา้ ง เทียบกบั วตั ถุเดิม (Scale X Percentage) เปอร์เซ็นตว์ ตั ถดุ า้ นสูง เทียบกบั วตั ถุเดิม (Scale Y Percentage)

การปรับเอียงวตั ถุ (Rotation Angle) การบิดวตั ถุ (Shear X Angle) การหมุนวตั ถุ (Rotate) การพลิกกลบั ดา้ นวตั ถุในแนวต้งั (Flip Vertical) การพลิกกลบั ดา้ นวตั ถุในแนวนอน (Flip Horizontal) การเลือกวตั ถุ (Select Object) สีพ้นื วตั ถุ (Fill) สีขอบวตั ถุ (Stroke) ขนาดเสน้ ขนาดขอบวตั ถุ (Size) ลกั ษณะเส้น ลกั ษณะเสน้ ขอบวตั ถุ (Type Style) การใส่ลกั ษณะพเิ ศษ (Effect)

การตดั ขอ้ ความ (Wrap) ลกั ษณะมุมของวตั ถุ (Corner) หน่วยท่ี 5 การสร้างและตกแต่งข้อความ ในการสร้างเอกสารนอกจากจะมีการกาํ หนดรูปแบบของเอกสาร การวางแนวกระดาษ ขนาดกระดาษ และการ กาํ หนดค่าหนา้ กระดาษต่างๆแลว้ ต่อมาจะเป็นข้นั ตอนการสร้างขอ้ ความและกาํ หนดรูปแบบเกี่ยวกบั ตวั อกั ษร ขอ้ ความ ไดแ้ ก่ การกาํ หนดลกั ษณะตวั อกั ษร ขนาดตวั อกั ษร ระยะห่างระหวา่ งตวั อกั ษร บรรทดั และอีกหลายคาํ สง่ั เพ่ือช่วยใหผ้ ใู้ ชโ้ ปรแกรมสามารถเลือกใชไ้ ดเ้ หมาะสมกบั งานพิมพข์ องตน 5.1 การสร้างข้อความ การสร้างขอ้ ความโปรแกรมอะโดบีอินดีไซนซ์ ีเอส 5.5 สามารถสร้างขอ้ ความแบ่งได้ 2 ประเภท ดงั น้ี 5.1.1 ข้อความแบบเท็กซ์บลอ็ ก (Text Block) ขอ้ ความแบบเทก็ ซ์บลอ็ กเป็นประเภทขอ้ ความที่สร้างจากเคร่ืองมือไทป์ ทูล (Type Tool) จากกลอ่ งเคร่ืองมือ สาํ หรับพิมพบ์ นพ้นื ที่การทาํ งานบนอาร์ตบอร์ด (Art Boart) และเครื่องมือไทป์ ออนอะพาธทูล (Type on a Path Tool) สาํ หรับสร้างขอ้ ความบนเส้นพาธ (Path)

1.การสร้างขอ้ ความแบบเทก็ ซ์บลอ็ กจากเครื่องมือไทป์ ทูล (1) คลิกเลือกเคร่ืองมือไทป์ ทูล จากกลอ่ งเครื่องมือ (2) นาํ เมาส์คลิกบนพ้นื ท่ีการทาํ งาน (Art Boart) ลากเมาส์ใหไ้ ดค้ วามกวา้ งของพ้นื ท่ีตามตอ้ งการ (3) กรอบขอบเขตการพมิ พจ์ ะปรากฏเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีขนาดตามที่ผใู้ ชล้ ากเมาส์ไว้ (4) พมิ พข์ อ้ ความในกรอบพ้ืนท่ีท่ีสร้างจากเครื่องมือไทป์ ทลู 2.การสร้างขอ้ ความแบบเทก็ ซ์บลอ็ กจากเคร่ืองมือไทป์ ออนอะพาธทลู การสร้างขอ้ ความจากเครื่องมือไทป์ ออนอะพาธทลู ผใู้ ชจ้ ะตอ้ งสร้างเสน้ พาธก่อนเพ่ือใหข้ อ้ ความท่ีสร้างเรียงไป ตามลกั ษณะของเส้นพาธ มีวิธีการสร้างดงั ตอ่ ไปน้ี (1) กลิกเคร่ืองมือเพนซิลทูล (Pencil Tool) เพอื่ สร้างเส้นพาธ (2) คลิกลากเส้นบนอาร์ตบอร์ดใหไ้ ดเ้ สน้ ตามตอ้ งการ (3) คลิกเมาส์ที่เคร่ืองมือไทป์ ออนอะพาธทูล ในกล่องเครื่องมือ

(4) คลิดเมาส์บริเวณจุดที่ตอ้ งการพมิ พบ์ นเสน้ พาธ ปรากฏเคอร์เซอร์ (Cursor) สาํ หรับพมิ พข์ อ้ ความบนเสน้ พาธ (5) พิมพข์ อ้ ความตามตอ้ งการบนเสน้ พาธ (6) คลิกเครื่องมือพรีววิ (Preview) เพ่ือดูผลงานท่ีเสร็จสมบูรณ์ 5.1.2 ข้อความแบบเทก็ ซ์เฟรม (Text Frame) ขอ้ ความแบบเทก็ ซเ์ ฟรมเป็นการสร้างขอ้ ความใหอ้ ยภู่ ายในเฟรม ในการสร้างขอ้ ความประเภทน้ีจะสร้างเฟรมก่อน การสร้างขอ้ ความสามารถสร้างไดจ้ ากเร่ืองมือไทป์ ทลู และไทป์ ออนอะพาธทูล เช่นเดียวกบั เท็กซ์บล็อก 1.รูปแบบเฟรมใหม่ ในการสร้างขอ้ ความแบบเทก็ ซ์เฟรม ผใู้ ชต้ อ้ งสร้างเฟรมข้ึนก่อนพมิ พจ์ ะพมิ พข์ อ้ ความ รูปแบบของเฟรม ดงั น้ี - เรคแทงเกิลเฟรมทลู (Rectangle Frame Tool) เฟรมรูปส่ีเหลี่ยม - อิลลิปส์เฟรมทูล (Ellipse Frame Tool) เฟรมรูปวงกลมหรือวงรี - โพลีกอนเฟรมทูล (PolyGon Frame Tool) เฟรมรูปหลายเหล่ียม 2.ข้นั ตอนการสร้างขอ้ ความจากเทก็ ซเ์ ฟรม ทาํ ไดด้ งั น้ี (1) เมื่อตอ้ งการสร้างเฟรมในรูปวงรี สามารถทาํ ไดด้ ว้ ยการคลิกที่ไอคอนอิลลิปส์เฟรมทูล (2) นาํ เมาส์บนพ้นื ที่การทาํ งานอาร์ตบอร์ด ลากเมาส์ใหไ้ ดค้ วามกวา้ งของพ้นื ที่ตามตอ้ งการ จะไดพ้ ้นื ท่ีเฟรม สาํ หรับพิมพข์ อ้ ความ (3) คลิกเคร่ืองมือไทป์ ทูล แลว้ คลิกเมาส์ในบริเวณพ้ืนที่เฟรมจะมีเคอร์เซอร์เกิดข้ึน ผใู้ ชส้ ามารถพิมพข์ อ้ ความลง ในเฟรมไดต้ ามตอ้ งการ 5.2 การนําไฟล์จากโปรแกรมอ่ืนมาใช้งานในโปรแกรมอะโดบีอนิ ไซน์ซีเอส 5.5 ในการทาํ งานของโปรแกรมอะโดบีอินไซนซ์ ีเอส 5.5 นอกจากผใู้ ชจ้ ะสร้างเอกสารหรือช้ินงานตา่ งๆแลว้ ผใู้ ชย้ งั สามารถนาํ ไฟลท์ ่ีสร้างจากโปรแกรมอื่นๆ เขา้ มาใชใ้ นโปรแกรมอะโดบีอินไซน์ซีเอส 5.5 ไดด้ งั น้ี 1.คลิกเลือกที่เมนูไฟล์ > เพลส (File > Place)

2.จะปรากฏหนา้ ตา่ งเพลส เพอ่ื เปิ ดไฟลง์ านที่ตอ้ งการประกอบดว้ ย (1) ตาํ แหน่งที่เกบ็ ไฟล์ (Look in) (2) จะปรากฏช่ือไฟลง์ าน ผใู้ ชส้ ามารถเลือกไฟลท์ ่ีตอ้ งการ (3) คลิกเปิ ดไฟล์ (Open) 3.บนพ้นื ที่การทาํ งานอาร์ตบอร์ด จะปรากฏตวั ช้ีเมาส์เป็นสัญลกั ษณ์หวั ลูกศรพร้อมขอ้ ความ (4) เมื่อคลิกเพือ่ นาํ ไฟลท์ ี่นาํ เขา้ มา เน้ือหาในไฟลจ์ ะถูกนาํ มาแสดงท้งั หมดบนพ้นื ที่อาร์ตบอร์ด ปรากฏผลลพั ธด์ งั ภาพ 5.3 การไหลของข้อความ การไหลของขอ้ ความ คือ เม่ือมีการนาํ ไฟลง์ านหรือขอ้ ความจากโปรแกรมอื่นเขา้ มาวางในโปรแกรมอะโดบีอิน ไซนซ์ ีเอส 5.5 แลว้ จะปรากฏวา่ ไฟลง์ านหรือขอ้ ความน้นั มีความยาวมากกวา่ หนา้ กระดาษ ทาํ ใหไ้ มส่ ามารถแสดง ขอ้ ความท้งั หมดในหนา้ เดียวได้ มีขอ้ ความบางส่วนท่ีถกู ซ่อนไว้ โดยสังเกตไดจ้ ากเคร่ืองหมาย บนกรอบขอ้ ความ การจดั การไหลของขอ้ ความใหแ้ สดงขอ้ ความท้งั หมด มีข้นั ตอนดงั น้ี 1.คลิกเมาส์ที่เคร่ืองมือซีแลคชน่ั ทูล 2.คลิกท่ีเครื่อง บริเวณมุมลา่ งขวา 3.นาํ เมาส์ไปยงั ตาํ แหน่งหนา้ กระดาษใหม่ที่ตอ้ งการวางขอ้ ความ 4.คลิกเมาส์เพอื่ วางขอ้ ความ 5.4 เครื่องมือปรับแต่งตวั อกั ษรและข้อความ ในการปรับแตง่ ตวั อกั ษรและขอ้ ความ เช่น การกาํ หนดรูปแบบตวั อกั ษร ลกั ษณะตวั อกั ษร ขนาดของตวั อกั ษร ระยะห่างระหวา่ งบรรทดั ตวั อกั ษรตวั บน ตวั หอ้ ย เป็นตน้ ดว้ ยการใชเ้ ครื่องมือที่โปรแกรมอะโดบีอินไซน์ซี เอส 5.5 มใี วเ้ พือ่ อาํ นวยความสะดวกใหแ้ ก่ผใู้ ชง้ านไดง้ ่ายยง่ิ ข้ึน 5.4.1 พาเนลแรคเตอร์ (Panel Character) 1.ส่วนประกอบของพาเนลแรคเตอร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook