Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1233-file

1233-file

Published by ปาริชาติ ปิติพัฒน์, 2021-05-22 04:28:16

Description: 1233-file

Search

Read the Text Version

การดูแลและการศึกษาเดก็ ปฐมวยั สำ�นักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ



คำ�น�ำ สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้ดำ�เนินการศึกษา รวบรวมข้อมูลและจัดพิมพ์เอกสาร “การดูแลและ การศึกษาเด็กปฐมวัย” เพ่ือเผยแพร่ คร้ังที่ 1 ในการประชุมสัมมนาทางวิชาการระหว่างประเทศ เร่ือง “การศึกษาเพ่ือ อนาคตประเทศไทย” ระหวา่ งวนั ที่ 23 – 25 มิถนุ ายน 2556 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชัน่ เซ็นเตอร์ เซน็ ทรลั เวิลด์ กรงุ เทพฯ ทั้งน้ี การประชุมสมั มนาวิชาการระหวา่ งประเทศดังกลา่ ว ไดร้ บั ความสนใจจากผูเ้ ข้าร่วมงานเป็น จำ�นวนมาก สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จึงได้จัดพิมพ์เอกสารเพ่ิมเติม เพ่ือเผยแพร่องค์ความรู้ นวัตกรรมทาง การศกึ ษาในทุกหวั ขอ้ ตลอดจนน�ำ เสนอข้อมูล องค์ความร้ใู นส่อื รูปแบบต่างๆ อยา่ งหลากหลาย อาทิ การจัดพมิ พ์หนังสอื นิทรรศการ การนำ�ข้อมูลเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ให้สามารถศึกษาและดาวน์โหลด (Download) ขอ้ มลู ได้ การจดั ท�ำ นทิ รรศการเคลอ่ื นท่ี รวมทง้ั จดั พมิ พเ์ ปน็ หนงั สอื ทง้ั เอกสารภาษาองั กฤษ เอกสารภาษาไทย ดังเชน่ เอกสาร “การดแู ลและการศึกษาเด็กปฐมวัย” ฉบับน้ี “การดูแลและการศึกษาเด็กปฐมวัย” มีเน้ือหาเกี่ยวกับการดูแลและการศึกษาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย ครอบคลุมต้ังแต่ ความหมายและหลักการจัดการศกึ ษาปฐมวยั ความส�ำ คญั ของการดูแลและพฒั นาเดก็ ปฐมวยั นโยบาย รัฐบาลในการดแู ลและจดั การศกึ ษาและพฒั นาเด็กปฐมวยั รวมถึงโครงการพฒั นาเด็กปฐมวัยทีด่ �ำ เนนิ การในประเทศไทย นอกจากนี้ ยงั มีการนำ�เสนอข้อมลู ตัวช้ีวัดการศกึ ษาเพอื่ ปวงชน เป้าหมายท่ี 1 : การดแู ลและการศึกษาเด็กปฐมวยั (EFA Goal1 : Early Childhood Care and Education) สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา หวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารฉบับน้ีจะประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องและสร้างเสริม ใหก้ ารดูแลเดก็ ปฐมวยั เปน็ ไปได้อยา่ งมคี ณุ ภาพ เกดิ ประโยชนแ์ กเ่ ดก็ ผู้ปกครอง และผูร้ ับผดิ ชอบทุกฝ่ายตอ่ ไป ดร.ศศิธารา พิชยั ชาญณรงค์ เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา

สารบญั หน้า ความหมายและหลกั การจดั การศึกษาปฐมวยั 1 ความส�ำ คญั ของการดแู ลและพัฒนาเดก็ ปฐมวยั 1 สภาพการดำ�เนินงานพฒั นาเด็กปฐมวยั ในประเทศไทย 1 หน่วยงานรบั ผิดชอบด�ำ เนนิ การจัดบรกิ ารเพ่ือดูแลและพัฒนาเดก็ ปฐมวัย 2 การขบั เคล่อื นการพัฒนาเดก็ ปฐมวัยเชงิ นโยบาย 2 ขอ้ มลู เด็กปฐมวัย 0 – 5 ปี 3 โครงการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ที่ดำ�เนนิ การในประเทศไทย 4 แนวทางการขับเคลื่อนงานตอ่ ไป 6 ตวั ช้ีวัด เป้าหมายที่ 1 : การดูแลและการศกึ ษาเดก็ ปฐมวยั 7 (Goal 1 : Early Childhood Care and Education)

การดูแลและการศกึ ษาเด็กปฐมวยั 1 การดแู ลและการศึกษาเด็กปฐมวยั ความหมายและหลกั การจัดการศกึ ษาปฐมวัย เดก็ ปฐมวยั หมายถงึ เดก็ ตง้ั แตป่ ฏสิ นธจิ นถงึ อายุ 5 ปี 11 เดอื น 29 วนั หรอื อายตุ าํ่ กวา่ 6 ปี (นโยบายและยทุ ธศาสตร์ การพฒั นาเด็กปฐมวยั (0 – 5 ป)ี ระยะยาว พ.ศ. 2550 – 2559) การจัดการศึกษาปฐมวัยตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 นน้ั การศกึ ษาปฐมวยั จดั ไดท้ ง้ั 3 รปู แบบ คอื การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั โดยการจดั การศกึ ษาปฐมวยั ตอ้ งเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ ส�ำ คญั และจดั กระบวนการเรยี นรตู้ ามความถนดั และความสนใจของผเู้ รยี น การประเมนิ ผู้เรียนให้พจิ ารณาจากพัฒนาการ ความประพฤติ การรว่ มกจิ กรรม และจากการทดสอบ การจดั การศกึ ษาปฐมวยั ใหจ้ ดั ในสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ครอบคลมุ ศนู ยเ์ ดก็ เลก็ ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ศนู ยพ์ ฒั นา เด็กก่อนเกณฑข์ องสถาบนั ศาสนา ศูนย์บรกิ ารช่วยเหลอื ระยะแรกเรมิ่ ของเดก็ พิการและเดก็ ซ่ึงมีความต้องการพิเศษ หรอื สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีเรยี กช่อื เปน็ อยา่ งอน่ื โรงเรียนรฐั โรงเรียนเอกชน โรงเรยี นสงั กัดสถาบนั พุทธศาสนาหรอื ศาสนา อ่ืน ศูนยก์ ารเรียนหรอื สถานทเ่ี รยี นท่ีหนว่ ยงานจัดการศกึ ษานอกโรงเรยี น บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องคก์ ร ปกครองสว่ นท้องถิน่ องคก์ รเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ โรงพยาบาล สถาบันทางการแพทย์ สถานสงเคราะห์ และสถาบันสังคมอื่น สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยหรือโรงเรียนท่ีจดั การศกึ ษาปฐมวัยต้องมีระบบการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในเพอ่ื น�ำ ไปสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษา ความสำ�คัญของการดแู ลและพัฒนาเด็กปฐมวัย ชว่ งปฐมวยั เปน็ ชว่ งทม่ี พี ฒั นาการดา้ นสมองและการเรยี นรเู้ ปน็ ไปอยา่ งรวดเรว็ ทส่ี ดุ ในทศวรรษทผ่ี า่ นมามกี ารใชศ้ าสตร์ ตา่ งๆ ไปวเิ คราะหส์ มอง ถา่ ยภาพสมองเพอ่ื ศกึ ษาพฒั นาการแตล่ ะขน้ั ตอน ความรใู้ หม่ พบวา่ โอกาสแหง่ การเรยี นรแู้ ละอตั รา การเรยี นรสู้ งู สดุ อยใู่ นชว่ งวยั เดก็ การเตบิ โตและพฒั นาการของสมองเปน็ รากฐานของการเรยี นรแู้ ละเรม่ิ ตง้ั แตท่ ารกอยใู่ นครรภ์ ในชว่ ง 3 – 6 เดอื นในครรภม์ กี ารสรา้ งเซลลส์ มองสงู สดุ การเตบิ โตของสมองสงู สดุ ในชว่ ง 0 – 6 ปี เปน็ การเตบิ โตทางปรมิ าณ ท�ำ ใหส้ มองของเดก็ มขี นาด 90 – 95% และไมไ่ ดห้ ยดุ เตบิ โตเมอ่ื อายุ 6 ปี แตเ่ ตบิ โตจนถงึ อายุ 20 – 25 ปี จากองคค์ วามรนู้ น้ี �ำ ไปสกู่ ารออกแบบการเรยี นรสู้ มยั ใหม่ ใหเ้ ขา้ กบั พฒั นาการของสมอง จงึ ถอื ไดว้ า่ ชว่ งปฐมวยั เปน็ ชว่ งวยั ทต่ี อ้ งการการปลกู ฝงั บม่ เพาะเปน็ พเิ ศษ โดยถอื วา่ การปลกู ฝงั หรอื การบม่ เพาะใดๆ จะเปน็ การสรา้ งฐานรากของชวี ติ ทช่ี ว่ ยลดความเหลอ่ื มลา้ํ และ สรา้ งความเปน็ ธรรมในสงั คม และใหถ้ อื วา่ การลงทนุ ในชว่ งวยั นเ้ี ปน็ การลงทนุ ทค่ี มุ้ คา่ ทส่ี ดุ สภาพการด�ำ เนนิ งานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ในประเทศไทย การด�ำ เนนิ งานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แบง่ เปน็ 2 กลมุ่ อายุ คอื กลมุ่ อายตุ า่ํ กวา่ 3 ปี และกลมุ่ อายุ 3 – 5 ปี 1) กลุ่มอายุตา่ํ กว่า 3 ปี ครอบครวั ต้องเปน็ แกนหลักในการดูแลและส่งเสริมพฒั นาการ ซึ่งบคุ คลส�ำ คัญคือ พ่อแม่ ผปู้ กครอง และสมาชิกในครอบครัว โดยตอ้ งถือว่าเด็กทุกคนมสี ทิ ธิ์ท่จี ะได้รับการดแู ล ช่วยเหลอื ใหม้ ชี วี ิตอยรู่ อดปลอดภยั ได้รบั การคุ้มครองป้องกันและได้รบั การพัฒนาเตม็ ศกั ยภาพ สามารถดำ�เนนิ ชวี ติ อยู่ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข

2 การดแู ลและการศึกษาเด็กปฐมวยั 2) กลุ่มอายุ 3 - 5 ปี ใช้สถานพัฒนาเด็กหรือรูปแบบอื่นทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย โดยให้ครู ผ้เู ลี้ยงดเู ดก็ ผูด้ ูแลเดก็ ร่วมมือกบั พ่อแม่ ผู้ปกครองและครอบครัวในการพัฒนาเด็ก หน่วยงานรับผิดชอบดำ�เนินการจัดบริการเพือ่ ดแู ลและพัฒนาเด็กปฐมวยั กระทรวงสาธารณสขุ : ดูแลเดก็ ตง้ั แต่ในครรภจ์ นอายุ 3 ปี (0 – 3 ป)ี ซ่งึ ในแตล่ ะปมี เี ดก็ เกดิ ประมาณปลี ะ 800,000 คน มีศนู ยเ์ ดก็ เล็กนา่ อยู่ จ�ำ นวน 58 แห่ง มโี ครงการส�ำ คญั คือ โครงการหนงั สือเลม่ แรก โครงการเล้ยี งลกู ดว้ ย นมแม่ และโครงการไอโอดีนในหญิงต้งั ครรภแ์ ละเด็กปฐมวยั กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ : ดูแลเด็กทุกคนที่อยู่ในสภาวะยากลำ�บาก เด็กท่ีถูกทอดท้ิง โดยมีสถานรับเล้ียงเด็กเอกชนท่ีอยู่ในความดูแลของกระทรวงฯ (จดทะเบียน) ประมาณ 1,800 แห่ง สถานสงเคราะหเ์ ดก็ ของกระทรวงฯ 8 แห่ง กระทรวงมหาดไทย : ดูแลเด็กอายุ 3 – 5 ปี ในรูปแบบศนู ย์พัฒนาเดก็ เล็ก มเี ด็กอยู่ในความดูแลจ�ำ นวน 1,078,751 คน กระทรวงศึกษาธิการ : สำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) ดูแลเด็กอายุ 4 – 5 ปี ในรูปแบบของโรงเรยี นอนบุ าล โรงเรยี นเอกชนในสงั กดั ส�ำ นกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน (สช). ดแู ลเดก็ อายุ 3 – 5 ปี มเี ดก็ อยใู่ นความดแู ลจ�ำ นวน 1,101,700 คน กระทรวงแรงงาน : ด�ำ เนนิ การเรอื่ งสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารจดั ตง้ั ศนู ยเ์ ลยี้ งเดก็ ในสถานประกอบการ ปจั จบุ นั มจี �ำ นวน 47 แห่ง มเี ดก็ ใช้บรกิ ารจ�ำ นวน 2,850 คน กระทรวงอตุ สาหกรรม : ดำ�เนินการเรอื่ งการจัดตัง้ ศูนยเ์ ลี้ยงเดก็ ในนคิ มอตุ สาหกรรม จำ�นวน 44 แหง่ มกี าร จัดสถานเลยี้ งเด็ก จำ�นวน 5 แห่ง อยู่ในระหวา่ งส่งเสรมิ ใหม้ ีการจดั เพ่ิมขน้ึ และด�ำ เนนิ การเรือ่ งการควบคมุ ก�ำ กับการเติม สารไอโอดีนในการผลติ เกลืออตุ สาหกรรมและน้ําปลา สำ�นักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ : ไดถ้ า่ ยโอนศนู ยเ์ ด็กจำ�นวนประมาณ 2,000 ศูนย์ ให้องคก์ รปกครองสว่ น ทอ้ งถนิ่ (อปท.) ตาม พรบ.กระจายอ�ำ นาจ และไดร้ บั การรอ้ งเรยี นเรอื่ งปญั หางบประมาณอนั เกดิ จากการถา่ ยโอนท�ำ ใหศ้ นู ย์ เดก็ ประมาณ 900 ศูนย์ มีปัญหาร้องเรียนเร่ืองค่าจ้าง ค่าอาหาร คา่ นม การจดั การ ฯลฯ สำ�นกั พระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ จงึ ไดด้ �ำ เนนิ การจดั ท�ำ ระเบยี บส�ำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาตวิ า่ ดว้ ยศนู ยอ์ บรมเดก็ กอ่ นเกณฑใ์ นวดั ขณะนอี้ ยรู่ ะหวา่ ง พจิ ารณาอนมุ ัตแิ ละประกาศใช้ สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำ�รวจตระเวนชายแดน : ดูแลเด็กอายุ 3 – 5 ปี ในรูปแบบ โรงเรียนตำ�รวจตระเวนชายแดนและศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาเด็กวัยเตาะแตะ โดยมีเด็กในความดูแลจำ�นวน 6,222 คน ครูจ�ำ นวน 333 คน (ครใู นท่นี ี้คือ อาสาสมัคร, ผูด้ ูแลเดก็ โดยท่ไี มร่ วมครูสงั กดั โรงเรยี นตำ�รวจตระเวนชายแดน) การขับเคล่อื นการพัฒนาเด็กปฐมวัยเชิงนโยบาย สำ�นกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกบั กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของ มนษุ ย์ กระทรวงสาธารณสขุ และกระทรวงมหาดไทย จดั ท�ำ นโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาเด็กปฐมวยั (0 – 5 ปี) ระยะยาว พ.ศ. 2550 – 2559 เสนอตอ่ คณะรฐั มนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มมี ติใหค้ วามเห็นชอบนโยบายและยทุ ธศาสตร์ฯ ในคราวประชุม เม่อื วันท่ี 22 พฤษภาคม 2550 และไดม้ อบหมายให้กระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงการพฒั นาสังคมและ ความมน่ั คงของมนษุ ย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงและหนว่ ยงานอนื่ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง รว่ มกนั น�ำ นโยบาย และยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวยั ฯ สู่การปฏบิ ตั ิ

การดูแลและการศกึ ษาเดก็ ปฐมวยั 3 นโยบายและยทุ ธศาสตร์ฯ มีเน้ือหาสาระที่มุ่งพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ช่วงอายุ 0 - 5 ปี ทุกคนให้มคี ณุ ภาพ เต็มศักยภาพ มคี รอบครวั เปน็ แกนหลกั และผมู้ หี นา้ ทด่ี แู ลเดก็ และทกุ ภาคสว่ นของสงั คมไดม้ สี ว่ นรว่ มในการจดั บรกิ ารและสง่ิ แวดลอ้ มทด่ี ี เหมาะสม สอดคล้องกบั สภาพของท้องถิ่นและการพฒั นาเดก็ ตามวัย จากนโยบายและยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีได้มีข้อเสนอว่า ปัจจุบันงานเกี่ยวกับเด็กปฐมวัยมีความ เก่ียวขอ้ งกบั หลายหนว่ ยงาน แต่การดำ�เนนิ การของแต่ละหน่วยงานยงั ขาดความเช่ือมโยงในภาพรวมอย่างชัดเจน ท�ำ ให้ งานด้านเด็กปฐมวัยไม่สามารถพัฒนาได้เท่าท่ีควร จึงเห็นควรท่ีจะให้มีการบูรณาการโดยพิจารณาออกเป็นระเบียบ ส�ำ นักนายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยการพัฒนาเด็กปฐมวัยของชาติ พ.ศ. 2551 และเพอื่ ให้เด็กปฐมวยั ได้รบั การพัฒนาอยา่ ง มีคุณภาพตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในระเบียบสำ�นักนายก รัฐมนตรจี ึงไดก้ �ำ หนดใหแ้ ตง่ ตั้งคณะกรรมการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั แห่งชาติ (ก.พ.ป.) พ.ศ. 2551 ซงึ่ ประกอบด้วยนายก รัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ คณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ (ก.พ.ป.) ได้มีการประชุมและท่ีประชุมมีมติ ให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2551 เพื่อดำ�เนินการขับเคลื่อนการ พัฒนาเดก็ ปฐมวยั อยา่ งเปน็ รปู ธรรม พรอ้ มทง้ั จดั ประชมุ คณะอนกุ รรมการฯ และรายงานผลการด�ำ เนนิ งานใหค้ ณะกรรมการฯ ทราบเปน็ ระยะๆ เมอ่ื วนั ที่ 4 ม.ค. 2555 ทป่ี ระชมุ คณะกรรมการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แหง่ ชาติ (ก.พ.ป.) ซง่ึ มนี ายกรฐั มนตรเี ปน็ ประธาน ได้เห็นชอบในหลักการความสำ�คัญของเด็กปฐมวัย ซ่ึงเป็นช่วงวัยท่ีมีพัฒนาการด้านสมองและการเรียนรู้เป็นไปอย่าง รวดเรว็ ท่ีสดุ เปน็ ช่วงวัยท่ตี อ้ งการการปลูกฝงั บม่ เพาะเปน็ พิเศษ โดยถือว่าการปลกู ฝงั หรอื การบม่ เพาะใดๆ จะเปน็ การ สรา้ งฐานรากของชวี ติ ที่ชว่ ยลดความเหลอื่ มลํ้าและสร้างความเปน็ ธรรมในสังคม และใหถ้ อื วา่ การลงทนุ ในชว่ งวยั นีถ้ อื วา่ เปน็ การลงทนุ ทค่ี ้มุ ค่า จากน้นั นายกรัฐมนตรี (น.ส.ย่ิงลกั ษณ์ ชนิ วัตร) ประธาน ก.พ.ป. ไดป้ ระกาศนโยบายรฐั บาลด้านเดก็ ปฐมวยั กลา่ วคอื เรง่ รดั เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ปฐมวยั (แรกเกดิ ถงึ กอ่ นเขา้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1) ทกุ คน ไดร้ บั การพฒั นารอบดา้ น ตามวยั อย่างมีคุณภาพ และต่อเนื่อง สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษาในฐานะฝ่ายเลขานุการจึงได้จัดทำ�แผนยุทธศาสตร์ ชาตดิ า้ นเด็กปฐมวัย (แรกเกิดถึงกอ่ นเขา้ ประถมศึกษาปที ่ี 1) ตามนโยบายรฐั บาลด้านเดก็ ปฐมวยั พ.ศ. 2555 – 2559 และ จดั ท�ำ แผนปฏบิ ตั กิ ารตามแผนยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นเดก็ ปฐมวยั (แรกเกดิ ถงึ กอ่ นเขา้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1) ตามนโยบาย รัฐบาลดา้ นเดก็ ปฐมวัย พ.ศ. 2555 – 2559 เพอื่ ขับเคลือ่ นนโยบายการพฒั นาเด็กปฐมวยั สู่การปฏบิ ตั อิ ย่างเปน็ รปู ธรรม ขอ้ มลู เด็กปฐมวยั 0 – 5 ปี เด็กปฐมวยั 0 – 5 ปี แบง่ เปน็ สองชว่ งอายุ คือ เด็กอายุ 0 – 3 ปี และ 3 – 5 ปี ทง้ั สองชว่ งอายนุ ี้ ครอบครัวต้องเปน็ แกนหลักในการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการ เด็กทุกคนมีสิทธ์ิที่จะได้รับการดูแล ช่วยเหลือ ให้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย ไดร้ ับการคุม้ ครองป้องกนั และไดร้ บั การพัฒนาเตม็ ศกั ยภาพ สามารถด�ำ เนนิ ชวี ติ อยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ เด็กอายุ 0 – 3 ปี สว่ นใหญอ่ ยใู่ นความดแู ลของพอ่ แม่ ผู้เล้ียงดเู ดก็ ผ้ทู ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั เด็ก ดังนน้ั บคุ คลเหล่าน้ตี ้อง มคี วามรู้ ทักษะในเรอ่ื งการเลีย้ งดู การจัดกิจกรรมเพ่ือพฒั นาเด็ก รวมท้งั การจดั การเรยี นรูท้ ่บี า้ น เนื่องจากเด็กวัยนี้ต้องการ การเลย้ี งดแู ละพฒั นาใหเ้ ปน็ ไปตามพฒั นาการตามวยั จงึ ไมใ่ ชจ่ ดั การศกึ ษาใหเ้ ดก็ ปฐมวยั แตต่ อ้ งใหค้ วามรแู้ กพ่ อ่ แมแ่ ละ ผู้ท่เี กีย่ วข้องกบั เดก็ ใหม้ คี วามร้ใู นเรอ่ื งการเลยี้ งดเู ดก็ และสามารถเลย้ี งดเู ด็ก เข้าใจธรรมชาตแิ ละพัฒนาการตามวัยของ เด็ก ด้วยวธิ ีการทีห่ ลากหลาย เด็กไมจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งไดร้ บั บริการโดยผา่ นสถานศึกษาหรือสถานพฒั นาเด็ก แต่เป็นหน้าท่ีของ รัฐทจ่ี ะตอ้ งใหบ้ ริการไปถงึ เดก็ ทกุ คน โดยสว่ นใหญอ่ ย่ใู นความดแู ลของครอบครัว นอกน้ันเขา้ รับบรกิ ารจากสถานรับเลีย้ ง เดก็ ในรปู แบบตา่ งๆ ท้ังของรฐั และเอกชน เดก็ อายุ 3 – 5 ปี เด็กกลุม่ นีม้ โี อกาสเขา้ รบั บรกิ ารในรปู แบบทีห่ ลากหลาย ซึง่ จัดโดยหนว่ ยงานท้งั ภาครฐั และ

4 การดแู ลและการศึกษาเดก็ ปฐมวัย เอกชน รวมทง้ั องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น โดย 99% ของเด็กกลมุ่ นเ้ี ข้ารบั บรกิ ารในโรงเรยี นอนบุ าลทั้งภาครฐั และเอกชน ดงั ตารางท่ี 1 อยา่ งไรก็ตาม การศกึ ษาปฐมวัยไมใ่ ช่การศกึ ษาภาคบังคับ เด็กทกุ คนไม่จ�ำ เปน็ ตอ้ งเข้ารบั บริการจากสถาน ศึกษาหรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย แต่นโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย มีเป้าหมายที่จะให้เด็กปฐมวัย ทุกคนไดร้ บั การพัฒนาอย่างมีคุณภาพ ตารางที่ 1 จำ�นวนเดก็ อายุ 3-5 ปี ทเี่ ข้ารับบริการในโรงเรยี นอนบุ าลของรัฐและเอกชน ปี พ.ศ. 2554 เด็กอายุ 3-5 ปี ภาครัฐ จำ�นวนเดก็ ท่เี ข้ารับบริการ ท้งั หมด จำ�นวนเดก็ ท่ีไมไ่ ด้ 2,805,537 2,176,869 2,796,233 เขา้ รับบรกิ าร (77.5%) ภาคเอกชน 619,364 (99%) 9,304 (21.5%) (1%) โครงการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ท่ดี ำ�เนนิ การในประเทศไทย 1) โครงการถงุ รับขวญั เดก็ แรกเกิด กระทรวงสาธารณสุขไดจ้ ัดทำ�โครงการถุงรับขวญั สำ�หรบั เดก็ แรกเกิด จ�ำ นวน 1,000,000 ชุด มอบใหแ้ กค่ รอบครวั ที่มีเด็กเกิดใหม่ในระยะเวลา 1 ปี ต้ังแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2548 จนถึงวันท่ี 27 กรกฎาคม 2549 เพ่ือเป็นสัญลักษณ์ ของการท่ีประเทศจะต้องลงทุนเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และเป็นตัวอย่างเครื่องมือชุดแรกสำ�หรับครอบครัวในการกระตุ้น พัฒนาการสมองของเด็ก เช่น การกระตุ้นประสาทสัมผัส การดู การฟัง การสัมผัสต่างๆ การกระตุ้นการใช้กล้ามเนื้อ การเข้าใจรูปทรงมิติต่างๆ การฟัง และการใช้ภาษา เพ่ือสร้างฐานความฉลาด ภายในถุงรับขวัญ ประกอบด้วย หนังสือ นมแม.่ ..ทนุ สมองของลกู รกั เครอ่ื งแขวน (โมบาย) หนงั สอื รอ้ งเลน่ เตน้ เพลนิ หนงั สอื ลอยนา้ํ เทป-ซดี เี พลงกลอ่ มลกู ชาวสยาม ผา้ พฒั นาการ ของเลน่ เขยา่ กดั (rattle) หนงั สอื รบั ขวญั วนั สมองสดใส สตก๊ิ เกอร์ ทงั้ นี้ กระทรวงสาธารณสขุ โดยกรมอนามยั เป็นผู้แจกจา่ ยถงุ รบั ขวัญเดก็ แรกเกดิ และตดิ ตาม ประเมินผล การใช้ถงุ รับขวัญเดก็ แรกเกิด ในปี 2555 สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษาดำ�เนินการศึกษาวิจัย โครงการคัดสรร-พัฒนา ศึกษา-วิเคราะห์ “การจัดทำ�ถุงรับขวัญเด็กแรกเกิด” เพื่อให้ถุงรับขวัญสามารถใช้ได้อย่างต่อเน่ืองต้ังแต่แรกเกิดถึง 2 ปี ภายใน ถงุ รบั ขวญั ประกอบดว้ ย ชดุ หนงั สอื เลม่ แรก 3 เลม่ คอื กกุ๊ ไกป่ วดทอ้ ง ตง้ั ไขล่ ม้ และนอ้ งหมเี ลน่ กบั พอ่ หนงั สอื ลอยนา้ํ 4 เรอื่ ง โดย 2 เรื่อง เป็นเรอื่ งเกยี่ วกับการใชภ้ าษา อีก 2 เรือ่ ง เปน็ เรอื่ งกิจวตั รประจ�ำ วัน ผา้ ห่มพฒั นาการ และเคร่อื งเเขวน 2) โครงการหนงั สือเลม่ แรกส�ำ หรบั เด็กอายุ 6 เดือน – 6 ปี ส�ำ นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษารว่ มกบั มลู นธิ หิ นงั สอื เพอ่ื เดก็ ด�ำ เนนิ งานโครงการหนงั สอื เลม่ แรกส�ำ หรบั เดก็ อายุ 6 เดอื น – 6 ปี อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื น�ำ เสนอแนวคดิ การพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ดว้ ยหนงั สอื และน�ำ เสนอรปู แบบการสง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอา่ นเพอ่ื การพฒั นาเดก็ ใหค้ รู พอ่ แม่ ผปู้ กครอง สามารถน�ำ ไปประยกุ ตใ์ ช้ โดยคดั เลอื กหนงั สอื ภาพ หนงั สอื นทิ านทเ่ี หมาะสมกบั เดก็ เพอ่ื สง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอา่ นของเดก็ ปฐมวยั ตง้ั แตแ่ รกเกดิ ตอ่ เนอ่ื งจนถงึ อายุ 6 ปี พรอ้ ม ทง้ั แนะน�ำ พอ่ แม่ ผเู้ ลย้ี งดเู ดก็ ครู ผดู้ แู ลเดก็ ในการใชห้ นงั สอื เพอ่ื สรา้ งนสิ ยั รกั การอา่ น สรา้ งความสมั พนั ธท์ อ่ี บอนุ่ ภายใน ครอบครวั รวมทง้ั เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธด์ ว้ ยวธิ กี ารและรปู แบบตา่ งๆ เพอ่ื ใหบ้ คุ คล กลมุ่ บคุ คล องคก์ ร สถาบนั ตา่ งๆ ทง้ั ภาครฐั ภาคเอกชน รวมทง้ั ชมุ ชนและสงั คมตระหนกั ในความส�ำ คญั ของการสง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอา่ นหนังสือ

การดแู ลและการศกึ ษาเดก็ ปฐมวัย 5 ชดุ หนงั สอื ทใ่ี ช้ในโครงการหนังสือเลม่ แรก ประกอบด้วย ชดุ หนงั สอื ส�ำ หรบั เดก็ และชุดหนงั สอื ส�ำ หรบั พอ่ แม่ ดงั น้ี • หนงั สอื ส�ำ หรบั พ่อแม่ ประกอบดว้ ย สร้างนิสยั รักการอา่ นให้ลกู นอ้ ย และคู่มือพอ่ แมห่ นชู อบหนงั สอื • ชุดหนังสอื ส�ำ หรบั เด็กอายุตา่ํ กวา่ 1 ปี ประกอบด้วย ตั้งไขล่ ้ม นอ้ งหมเี ล่นกับพอ่ ก๊กุ ไก่ปวดทอ้ ง แมงมุมลาย ร้ไู หมหนูชอบทำ�อะไรกบั พอ่ รูไ้ หมหนูชอบทำ�อะไรกบั แม่ จันทรเ์ จ้าขา 3) โครงการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ โครงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นโครงการท่ีปลุกกระแสสร้างวัฒนธรรมการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ พร้อมทั้งส่งเสริม สนบั สนุนการเลย้ี งดูทารกแรกเกดิ ถงึ 2 ปี ด้วยนมแม่ โดยใหน้ มแมเ่ พยี งอย่างเดียวต้งั แต่แรกเกดิ ถึง 6 เดอื น และให้อาหาร เสริมต้ังแต่ 6 เดือนขึ้นไป เรื่องการเล้ียงดูลูกด้วยนมแม่เป็นการให้ทุนทางสมองแก่ลูก ทารกที่ได้กินนมแม่จะเติบโตทั้ง ร่างกาย จิตใจ และอยใู่ นสงั คมได้อย่างมคี วามสุข นมแมม่ สี ารอาหารชว่ ยเสรมิ สรา้ งเซลลส์ มอง เสน้ ใยประสาทสมองและจอประสาทตาโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ หวั นา้ํ นม หรือ โคลอสตรมั เป็นยอดอาหารทอ่ี ดุ มไปด้วยสารอาหารทใ่ี ห้คารโ์ บไฮเดรต โปรตีน วติ ามิน เกลอื แร่ ครบถว้ น นอกจากน้ัน นมแมย่ งั มีสารอน่ื ๆ อกี กวา่ 200 ชนิด ซงึ่ จะมผี ลดที ้ังทางตรงและทางอ้อมต่อพัฒนาการของสมอง นมแมม่ ภี ูมิตา้ นทาน โรค ท�ำ ใหล้ กู แขง็ แรง ไมเ่ จบ็ ปว่ ย ลดการเสีย่ งต่อการเกดิ โรคภมู แิ พ้ การจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เช่น การประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติ กิจกรรมงาน “อ่ิมอุ่นรัก จากอกแม่” ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในศูนย์อนามัยทั่วประเทศ คลินิกนมแม่เคลื่อนท่ี โปสเตอรอ์ ิ่มอุน่ รักจากอกแม่ โปสเตอร์หนูน้อยนมแม่ เปน็ ต้น 4) โครงการไอโอดนี ในหญงิ ตง้ั ครรภ์และเดก็ ปฐมวยั ไอโอดีนมีส่วนสำ�คัญในการสร้างเซลล์สมอง การควบคุมพัฒนาการเจริญเติบโตของระบบประสาทในเด็กเล็ก โดยเฉพาะตง้ั แต่เดก็ อยูใ่ นครรภ์มารดาชว่ ง 0-3 เดือนแรกของการต้ังครรภ์ การควบคุมเมตาบอลิซึมของรา่ งกายทัง้ หมด การเจริญเติบโตของ Growth Hormone กลุ่มเส่ียงคือ หญิงต้ังครรภ์ หญิงให้นมบุตร ทารก เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ โดยกอ่ นหญงิ ตง้ั ครรภต์ อ้ งมภี าวะโภชนาการไอโอดนี ในระดบั ทเี่ พยี งพอตอ่ การเจรญิ เตบิ โต และพฒั นาการของสมองทารก ในครรภ์ การขาดสารไอโอดนี ในขณะตงั้ ครรภ์ สง่ ผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของสมอง และสตปิ ญั ญาของทารกในครรภ์ อาจเกดิ การแทง้ บตุ ร คลอดออกมาอาจเปน็ โรคเออ๋ แตห่ ากเดก็ แรกคลอดขาดไอโอดนี จะเกดิ ภาวะสตปิ ญั ญาบกพรอ่ ง สมองเจรญิ เตบิ โตไม่เต็มท่ี อาจเกิดภาวะสมองพกิ าร เพราะยงั เป็นชว่ งทีส่ มองเจริญเตบิ โต การศกึ ษาเปรียบเทียบความสามารถดา้ น ต่างๆ ระหว่างเด็กที่ขาดไอโอดีนระดับน้อย กับขาดไอโอดีนระดับรุนแรง พบว่าการเจริญเติบโต และความสามารถด้าน ต่างๆ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำ�คัญ ภาวะขาดสารไอโอดีนนั้น หากร่างกายขาดแล้ว ร่างกายไม่สามารถแก้ไขได้ เองและไม่มีทางแก้ไขให้คนื กลบั ปัจจบุ ันหญงิ ตัง้ ครรภไ์ ดร้ บั ยาเมด็ วิตามินทม่ี ีสารไอโอดีน ในชดุ สทิ ธิประโยชนข์ องหญงิ ต้ังครรภท์ ีม่ าฝากครรภใ์ น สถานบริการ โดยกรมบญั ชกี ลางมขี ้อยกเว้นในกรณีหญงิ ต้งั ครรภ์สามารถเบกิ จ่ายการใช้ยาเมด็ วิตามนิ รวมและแรธ่ าตไุ ด้ การแก้ปญั หาทถี่ าวรควรใชเ้ กลือผสมไอโอดีน โดยการกำ�หนดมาตรการเกลอื เสริมไอโอดีนถว้ นหนา้ หรอื Universal Salt Iodization (USI) ซึง่ เปน็ มาตรการทไ่ี ดผ้ ลที่สุด ครอบคลุมสงู สุดทัง้ คนและสัตว์ โดยใส่ไอโอดนี ลงในเกลอื บรโิ ภคท่ีคนรับ ประทานและเกลอื อุตสาหกรรมทีใ่ ช้เลี้ยงสัตว์

6 การดูแลและการศกึ ษาเดก็ ปฐมวยั 5) โครงการสมรรถนะของเด็กปฐมวยั ในการพฒั นาตามวยั 0 – 5 ปี สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษาร่วมกับองค์กรทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) โดยมีวัตถุประสงค์ เพอ่ื เพม่ิ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับความสามารถในการแสดงออกหรือการแสดงพฤตกิ รรมตามวยั ของเด็กอายุ 0 – 5 ปี ในด้าน ตา่ งๆ ว่าเดก็ สามารถทำ�อะไรได้ (can do) ในแต่ละช่วงอายุ ในกรณที เ่ี ด็กยงั ไมส่ ามารถแสดงพฤตกิ รรมตามวยั ได้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู ผู้ดแู ลเดก็ และผู้ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั เด็ก จะตอ้ งด�ำ เนนิ การจัดกจิ กรรมและท�ำ กิจกรรมกับเดก็ เพ่อื พัฒนาเดก็ ให้มี ความสามารถตามวยั น้นั ๆ โดยกจิ กรรมต่างๆ จะตอ้ งมีความหลากหลาย เพื่อเอ้ือใหเ้ ด็กไดพ้ ฒั นาพฤติกรรมต่างๆ ได้ตาม ธรรมชาติ ตามวยั และตามศักยภาพของเด็ก สมรรถนะของเดก็ ปฐมวยั ในการพัฒนาตามวัย 0 – 3 ปี ประกอบด้วย ตัวชี้วัดเชิงพฤตกิ รรมส่วนหลกั (Domain) 4 ด้าน (สมรรถนะในการเคล่อื นไหวและสขุ ภาวะทางกาย , สมรรถนะในการรับรู้และเรยี นรู้, สมรรถนะดา้ นภาษาและการ ส่อื ความหมาย และสมรรถนะดา้ นอารมณ์และสังคม) และพฤตกิ รรมบ่งชี้ (Indicators) 286 ขอ้ สมรรถนะของเด็กปฐมวยั ในการพัฒนาตามวัย 3 – 5 ปี ประกอบด้วย ตวั ชว้ี ดั เชงิ พฤตกิ รรมสว่ นหลกั (Domain) 7 ดา้ น (ความสามารถในการเคลอื่ นไหวและสขุ ภาวะทางกาย , พฒั นาการดา้ นสงั คม , พฒั นาการดา้ นอารมณ์ , พฒั นาการ ดา้ นการคดิ และสตปิ ัญญา , พัฒนาการดา้ นภาษา , พัฒนาการดา้ นจริยธรรม และพัฒนาการด้านการสรา้ งสรรค)์ และ พฤติกรรมบ่งชี้ (Indicators) 419 ขอ้ สำ�หรับการนำ�ผลการศึกษาวิจัยดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติน้ัน สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้จัดทำ�โครงการ นำ�ร่องทดลองนำ�สมรรถนะของเด็กปฐมวัยในการพัฒนาตามวัย 3 – 5 ปี ไปใช้ในสถานศึกษาจำ�นวน 12 โรง เพื่อสร้าง ความรู้ ความเขา้ ใจเรอื่ งสมรรถนะของเดก็ ปฐมวยั ในการพฒั นาตามวยั ใหก้ บั ครแู ละผดู้ แู ลเดก็ เพอื่ น�ำ ความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปพฒั นา กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้เพื่อพัฒนาเดก็ อายุ 3 – 5 ปี ใหม้ ีความสามารถตามวัยตอ่ ไป แนวทางการขบั เคลอื่ นงานตอ่ ไป 1. ขบั เคลอื่ นแผนยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นเด็กปฐมวัย (0 – 5 ปี) (แรกเกิดถงึ ก่อนเข้าประถมศกึ ษาปีท่ี 1) ตามนโยบาย รัฐบาลด้านเดก็ ปฐมวยั พ.ศ. 2555 – 2559 และแผนปฏิบตั ิการตามแผนยุทธศาสตรช์ าติด้านเด็กปฐมวยั (แรกเกิดถึงกอ่ น เขา้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1) ตามนโยบายรัฐบาลดา้ นเดก็ ปฐมวัย พ.ศ. 2555 – 2559 สู่การปฏิบัตอิ ย่างเปน็ รปู ธรรมด้วยการจดั คาราวานส่งเสริมเดก็ ไทยใหร้ กั การอ่าน 11 จังหวัดทว่ั ประเทศ 2. พัฒนาครู ผดู้ ูแลเดก็ พอ่ แม่ ผู้ปกครอง ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถงึ ความส�ำ คัญในการเล้ยี งดูและ พฒั นาเด็กปฐมวยั 3. สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การวจิ ยั และพฒั นานวตั กรรมทหี่ ลากหลายและเกยี่ วขอ้ งกบั การจดั การเรยี นรเู้ พอ่ื การพฒั นา เด็กปฐมวยั 0 – 5 ปี เพือ่ เตรยี มความพรอ้ มเดก็ ไทยสคู่ วามเป็นสากลในเวทอี าเซยี น เช่น การสง่ เสรมิ พัฒนาการทางภาษา การพัฒนาทกั ษะกระบวนการคดิ ศิลปะ ดนตรี การเล่น เป็นตน้

การดแู ลและการศึกษาเดก็ ปฐมวยั 7

8 การดแู ลและการศกึ ษาเดก็ ปฐมวยั

การดแู ลและการศึกษาเดก็ ปฐมวยั 9

10 การดูแลและการศกึ ษาเด็กปฐมวัย

ทปี่ รกึ ษา เลขาธิการสภาการศึกษา รองเลขาธกิ ารสภาการศึกษา ดร.ศศธิ ารา พชิ ยั ชาญณรงค์ ผอู้ �ำ นวยการส�ำ นกั มาตรฐานการศกึ ษาและพฒั นาการเรยี นรู้ ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน นางทิพย์สดุ า สุเมธเสนยี ์ ผู้เรยี บเรียงเเละจัดทำ�รายงาน นางสาวกรกมล จงึ สำ�ราญ นกั วชิ าการศกึ ษาช�ำ นาญการ นางสาววิภาดา วานชิ นักวชิ าการศกึ ษาปฏบิ ัตกิ าร หน่วยงานท่ีรบั ผิดชอบ กลุม่ พัฒนามาตรฐานการศกึ ษาเเละการเรยี นรู้ นางอรณุ ศรี ละอองแกว้ หัวหน้ากลุม่ พัฒนามาตรฐานการศึกษาและการเรียนรู้ นางประวีณา อสั โย นกั วิชาการศกึ ษาชำ�นาญการพเิ ศษ นางพชั ราพรรณ กฤษฎาจินดารุ่ง นักวิชาการศึกษาชำ�นาญการ นางสาวมณรี ัตน์ กรุงแสนเมอื ง นักวิชาการศกึ ษาปฏบิ ัติการ นายวีระพงษ์ อเู๋ จรญิ นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ

Note


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook