Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ_1559626644

การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ_1559626644

Published by ปาริชาติ ปิติพัฒน์, 2019-10-19 23:23:04

Description: การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ_1559626644

Search

Read the Text Version

การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ (Authentic competency–based assessment) รองศาสตราจารย์ ดร.วชิ ัย วงษ์ใหญ่ รองศาสตราจารย์ ดร.มารตุ พัฒผล บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ

การประเมินตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ (Authentic competency–based assessment) รองศาสตราจารย์ ดร.วชิ ัย วงษ์ใหญ่ รองศาสตราจารย์ ดร.มารุต พฒั ผล บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ

การประเมนิ ตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) รองศาสตราจารย์ ดร.วิชัย วงษใ์ หญ่ รองศาสตราจารย์ ดร.มารตุ พฒั ผล พมิ พเ์ ผยแพร่ออนไลน์ มิถนุ ายน 2562 แหล่งเผยแพร่ ศูนย์ผูน้ านวัตกรรมหลักสตู รและการเรียนรู้ www.curriculumandlearning.com พิมพท์ ี่ ศนู ย์ผู้นานวตั กรรมหลักสูตรและการเรียนรู้, กรุงเทพมหานคร หนังสือเลม่ นี้ไม่มีลขิ สิทธิ์ จัดพิมพ์เพอื่ ส่งเสรมิ สงั คมแหง่ การเรียนรแู้ ละการแบง่ ปัน

คานา หนังสือ “การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ” เล่มน้ี มีวัตถุประสงค์ เพื่อนาเสนอความคิดรวบยอดหลัก (Concept) และแนวทางการปฏิบัติ (Guideline) ของการประเมินสมรรถนะผู้เรียนในลักษณะของการประเมินตามสภาพจริง ท่ีดาเนินการควบคู่ไปกับการจัดการเรียนรู้และช่วยทาให้ผู้สอนสามารถพัฒนา สมรรถนะของผู้เรียนได้อยา่ งตอ่ เนอื่ ง หวังเป็นอย่างย่ิงว่าหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ท่ีเกี่ยวข้อง ไดม้ ากพอสมควร รองศาสตราจารย์ ดร.วิชยั วงษ์ใหญ่ รองศาสตราจารย์ ดร.มารุต พัฒผล

สารบัญ 1 2 1. แนวคดิ การประเมนิ ตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ 3 2. ข้ันตอนการประเมนิ ตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ 5 3. การออกแบบการประเมนิ ตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ 17 4. ตัวอยา่ งการออกแบบการประเมินตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ 18 5. การประเมนิ อย่างต่อเน่ือง (Ongoing assessment) 19 6. การถอดบทเรยี น (Lesson learned) เพอ่ื พัฒนาสมรรถนะผเู้ รยี น บรรณานกุ รม

บัญชแี ผนภาพ 4 5 1 แนวคดิ การออกแบบการประเมนิ ตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ 6 2 กระบวนการนิยามสมรรถนะ 7 3 Competency mapping สมรรถนะการจัดการเรียนรู้ 8 4 การสงั เคราะหป์ ระเด็นย่อยๆ ไปสู่การกาหนดตัวชว้ี ัด 17 5 การสังเคราะห์ key concept เพ่อื กาหนดตวั บ่งชเ้ี ชิงพฤตกิ รรม 6 วงจรการประเมินอย่างต่อเน่อื ง

การประเมินตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 1. แนวคิดการประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ Key concept คาสาคญั ท่ีเปน็ พ้นื ฐานของการศึกษาหนงั สอื เล่มนี้ สามัตถิยะ (Competence) หมายถึง ทักษะ ความสามารถของบุคคล ที่นาความรู้ ความเข้าใจ มาแสดงออกหรือกระทาการอย่างใดอย่างหน่ึงได้ถึงระดับ มาตรฐานท่ีกาหนด (ราชบณั ฑิตยสถาน, 2555) สมรรถนะ (Competency) หมายถึง คุณลักษณะและพฤติกรรมที่บ่งช้ี ถึงความสามารถ ความชานาญในการใช้ความรู้ ความเข้าใจและทักษะท่ีมีอยู่ อยา่ งเชยี่ วชาญ (ราชบัณฑติ ยสถาน, 2555) การประเมิน (Assessment) หมายถึง กระบวนการรวบรวมและ สังเคราะห์ข้อมูลในรูปของตัวบ่งช้ี หรือการจัดกลุ่มข้อมูล เพ่ือการประเมินคุณภาพ และมาตรฐานหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง บางครั้งอาจจะไม่ได้กาหนดเกณฑ์ประเมิน ไว้ล่วงหนา้ (ราชบณั ฑิตยสถาน, 2555) การประเมินตามสภาพจริง (Authentic assessment) การประเมิน การเรียนรู้ของผู้เรียน จากพฤติกรรม กระบวนการทางาน ผลงาน ในบริบทของการ จดั การเรียนรู้ (ราชบณั ฑติ ยสถาน, 2555)

2 การประเมนิ ตามสภาพจรงิ องิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) การป ระเมิน อิงสมรรถน ะ (Competency-based assessment) หมายถึง การรวบรวมและสังเคราะห์ข้อมูลตามตัวบ่งช้ีเพื่อประเมินความสามารถ ของผูเ้ รียนตามมาตรฐานท่กี าหนด ความหมายของการประเมินตามสภาพจริงองิ สมรรถนะ การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ หมายถึง การประเมินทักษะ ความสามารถของผู้เรียน ที่นาความรู้ ความเข้าใจ รวมท้ังทัศนคติ มาแสดงออกหรือ กระทาการอย่างใดอย่างหน่ึงตามระดับมาตรฐานท่ีกาหนด โดยใช้วิธีการประเมิน และแหล่งข้อมูลสาหรับประเมินอย่างหลากหลาย สอดคล้องกับสภาพการจัดการ เรียนรู้เพื่อพัฒนาสมรรถนะท่ีประเมิน มุ่งเน้นการประเมินเพ่ือพัฒนา (assessment for improvement) การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ ช่วยทาให้ผู้สอน ผู้บริหาร ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา มีสารสนเทศเพื่อนาไปปรับปรุงและพัฒนา ผู้เรียนใหม้ ีสมรรถนะตามท่มี าตรฐานหลักสตู รกาหนด 2. ขน้ั ตอนการประเมนิ ตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ 1. ผู้เรียนประเมินสมรรถนะของตนเอง เป็นการสร้างการรับรู้สมรรถนะ ตนเองของผ้เู รยี น เพ่ือสรา้ งแรงจูงใจภายในสาหรับการมุ่งม่ันพยายามพัฒนาสมรรถนะ ของตนเองในอนาคต อีกทั้งเป็นการกระตุ้นทักษะการกาหนดเป้าหมายของตนเอง (self - direction) 2. ผู้สอนประเมินสมรรถนะของผู้เรียน เป็นการตรวจสอบสมรรถนะของ ผู้เรียนท่ีมีอยู่ในปัจจุบันโดยผู้สอน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูล (based line data) สาหรับ การกาหนดเปา้ หมายการพัฒนาสมรรถนะตอ่ ไป

การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 3 3. ร่วมกันกาหนดเป้าหมายสมรรถนะ เป็นการกาหนดเป้าหมายการ พัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนในลักษณะของการเสริมพลังสมรรถนะ (competency empowerment) ของผู้เรียน ผู้เรียนเป็นผู้ท่ีมีบทบาทหลักในการกาหนดเป้าหมาย สมรรถนะทตี่ ้องการบรรลุ ผสู้ อนใหค้ าช้ีแนะแนวทางการกาหนดเป้าหมายให้กับผูเ้ รยี น 4. ร่วมกันพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายสมรรถนะ เป็นการพัฒนาสมรรถนะ ของผู้เรียนในกระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีมีลักษณะเป็นการบูรณาการไปกับกิจกรรม การเรียนรู้ (competency – based learning) ผู้เรียนมีความมุ่งม่ันพยายามและ กระตอื รอื รน้ ในการพัฒนาสมรรถนะของตนเอง ผู้สอนมบี ทบาทเป็นโคช้ 5. ประเมินความก้าวหน้าอย่างต่อเน่ือง เป็นการตรวจสอบความก้าวหน้า ทางสมรรถนะของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินตามสภาพจริง และนาผลการ ประเมินมาปรับปรุงกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้ตอบสนองความต้องการ ธรรมชาติของผ้เู รยี น และระดับสมรรถนะทีม่ อี ยู่ในปัจจบุ นั 3. การออกแบบการประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ การออกแบบการประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ มีขนั้ ตอนดงั ต่อไปนี้ 1. กาหนดสมรรถนะ (ประเมินสมรรถนะอะไร) เป็นการกาหนดสมรรถนะท่ีต้องการประเมิน 2. นยิ ามสมรรถนะ (สมรรถนะท่ตี ้องการประเมนิ คอื อะไร) เปน็ การกาหนดความหมายของสมรรถนะทีต่ ้องการประเมิน 3. กาหนดตัวบ่งชี้สมรรถนะ (มีตัวบง่ ชีส้ าคญั อะไรบา้ ง) เปน็ การกาหนดวา่ ต้องประเมินอะไรบ้างตามสมรรถนะท่ีกาหนด

4 การประเมนิ ตามสภาพจรงิ องิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 4. กาหนดวิธีการประเมนิ (ประเมนิ ไดด้ ว้ ยวิธกี ารใด) เปน็ การกาหนดวิธีการประเมินตัวบ่งชี้สมรรถนะ 5. สรา้ งเครอ่ื งมือประเมนิ (เครอื่ งมือเป็นอยา่ งไร) เปน็ การสร้างเคร่ืองมือประเมินตามตวั ช้วี ดั ท่ีต้องการประเมิน ก า ร อ อ ก แ บ บ ก า ร ป ร ะ เมิ น ต า ม ส ภ า พ จ ริ ง อิ ง ส ม ร ร ถ น ะ แ ส ด ง แ น ว คิ ด ได้ดงั แผนภาพต่อไปนี้ แผนภาพ 1 แนวคดิ การออกแบบการประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ

การประเมินตามสภาพจริงองิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 5 4. ตัวอย่างการออกแบบการประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ 4 ข้ันตอน กรณีศึกษาการประเมิน สมรรถนะการจดั การเรียนรู้ ขั้นที่ 1 กาหนดสมรรถนะท่ตี ้องการประเมนิ คือ การจดั การเรียนรู้ ขน้ั ที่ 2 นิยามสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ มีแนวทางสาคัญคือ การสังเคราะห์ เพื่อกาหนดองค์ประกอบของส่ิงท่ีต้องการประเมิน การจัดกลุ่มประเดน็ ย่อยของสิ่งใดๆ เข้าด้วยกันเป็นองค์ประกอบต่างๆ ท่ีภายในองค์ประกอบเดียวกับมีความเหมือนกัน และระหว่างองค์ประกอบมีความต่างกัน การสังเคราะห์เพ่ือกาหนดนิยาม การบูรณาการคาสาคัญ (Keywords) จากการให้ความหมายของคาใดๆ แล้วกาหนด เปน็ นิยาม (ความหมาย) เพ่ือใชใ้ นการประเมิน การสังเคราะห์เพ่ือกาหนดนยิ าม แสดงแผนภาพประกอบการทาความเข้าใจ ไดด้ ังน้ี แผนภาพ 2 กระบวนการนยิ ามสมรรถนะ

6 การประเมินตามสภาพจริงองิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) Competency mapping เครื่องมือช่วยการนิยามสมรรถนะ แผนภาพแสดงสมรรถนะของผู้เรียนสะท้อนให้เห็นสมรรถนะย่อยด้านต่างๆ ทีส่ ามารถสงั เคราะห์ไปสูส่ มรรถนะของการปฏิบัตหิ นา้ ทตี่ ามมาตรฐานวชิ าชีพ ตัวอย่าง Competency mapping สมรรถนะดา้ นการจัดการเรียนรู้ แผนภาพ 3 Competency mapping สมรรถนะการจดั การเรียนรู้ การนยิ ามปฏิบตั กิ าร (Operational Definition) การสร้างเคร่ืองมือวัดสิ่งที่ต้องทา คือ การนิยามปฏิบัติการซึ่งการนิยาม ปฏิบัติการมีองค์ประกอบท่ีสาคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) ความคิดรวบยอดหลักของส่ิงท่ี ต้องการวัด 2) พฤติกรรมท่แี สดงออกตามสถานการณห์ รือเง่ือนไข 3) วิธกี ารวัด

การประเมนิ ตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 7 ตัวอยา่ งนิยามสมรรถนะการจัดการเรยี นรู้ การจัดการเรียนรู้ หมายถึง ทักษะของผู้เรียนเก่ียวกับการวิเคราะห์ผู้เรียน การออกแบบการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการประเมิน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ประเมินได้จากการตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้ และการสงั เกตพฤติกรรมการจดั การเรียนรู้ตามหัวข้อทน่ี ักศกึ ษาสนใจ ขน้ั ที่ 3 กาหนดตัวบ่งชี้สมรรถนะการจัดการเรียนรู้ เป็นการกาหนดตัวบ่งชี้ เชิงพฤติกรรมท่ีสอดคล้องกับนิยามสมรรถนะและ competency mapping โดยที่ ตัวบ่งช้ีต่างๆ จะถูกสังเคราะห์มาจากข้อมูลที่หลากหลายหรือประเด็นย่อยต่างๆ ดงั แผนภาพต่อไปนี้ แผนภาพ 4 การสงั เคราะหป์ ระเด็นย่อยๆ ไปสู่การกาหนดตัวชี้วดั

8 การประเมนิ ตามสภาพจรงิ องิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) การสังเคราะห์ข้อมูลท่ีหลากหลายเพื่อกาหนดตัวช้ีวัดเชิงพฤติกรรมสาหรับ การนาไปประเมินสมรรรถนะ เป็นข้ันตอนท่ีสาคัญอกี ขั้นตอนหน่ึง ที่จะทาให้ได้ตัวชี้วัด เชิงพฤติกรรมที่ตอบสนองสมรรถนะท่ีต้องการประเมินได้อย่างแท้จริง และไม่ทาให้ ตวั ชี้วดั เชิงพฤติกรรมมีจานวนมากเกินความจาเป็น จนเป็นภาระในการประเมนิ ตาม สภาพจริงอิงสมรรถนะ การสังเคราะห์ key concept เพ่ือกาหนดตัวบ่งชี้เชิง พฤตกิ รรมจากข้อมลู ที่หลากหลาย แสดงได้ดังแผนภาพตอ่ ไปน้ี แผนภาพ 5 การสังเคราะห์ key concept เพ่อื กาหนดตวั บ่งชี้เชิงพฤติกรรม

การประเมินตามสภาพจริงองิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 9 ตัวอยา่ งการกาหนดตวั บง่ ชีส้ มรรถนะด้านการจดั การเรยี นรู้ การวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี น มีตวั ช้วี ดั เชงิ พฤติกรรม 2 รายการดังนี้ 1) ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามหลากหลาย 2) ออกแบบกิจกรรมการเรียนร้สู อดคล้องกบั ระดับพฒั นาการทางสตปิ ัญญาของผูเ้ รียน การออกแบบการจัดการเรียนรู้ มีตัวช้ีวดั เชิงพฤตกิ รรม 2 รายการดงั น้ี 3) กาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด 4) ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรตู้ อบสนองจดุ ประสงค์การเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ มีตวั ชีว้ ัดเชงิ พฤติกรรม 2 รายการดงั นี้ 5) จัดกจิ กรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งกบั แผนการจดั การเรยี นรู้ 6) แสดงบทบาท coaching และ facilitator การประเมนิ เพอื่ พัฒนาการเรียนรู้ มีตัวช้วี ัดเชงิ พฤตกิ รรม 2 รายการดงั นี้ 7) ประเมินผูเ้ รยี นตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 8) ประเมนิ และให้ขอ้ มูลยอ้ นกลับแกผ่ ้เู รียนทันทรี ะหว่างการจัดการเรียนรู้

10 การประเมนิ ตามสภาพจรงิ องิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) ขนั้ ท่ี 4 กาหนดวิธีการประเมนิ การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ สามารถใช้วิธีการประเมิน ได้ อ ย่างห ล าก ห ล าย ต อ บ ส น อ งธ ร รม ช าติ ข อ งตั ว ช้ี วั ด เชิ งพ ฤ ติ ก รรม ต าม แ น ว ท าง ดงั ต่อไปน้ี 1. การประเมินจากการปฏิบัติในสภาพจรงิ ควบคู่กับการจัดการเรียน การสอนและการเรียนรู้ 2. ก ารป ระเมิ น ท่ี ค านึ งถึ งรูป แ บ บ ก ารเรีย น รู้ข อ งผู้ เรีย น ตามความถนดั และความสนใจ 3. การกาหนดเกณฑ์การประเมิน ต้องสามารถยอมรับได้ท้ังผู้เรียน ผู้สอนและผู้เก่ียวข้องรวมทั้งการประเมินแบบมีส่วนร่วมระหว่างเพ่ือน ผู้สอน และผูเ้ กีย่ วข้อง 4. การประเมินตนเองจะช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองด้านทักษะ การเรียนรู้ คุณภาพของผลงาน 5. วิธีการประเมินอาจเลอื กใชว้ ธิ ีการดังต่อไปน้ี 5.1 การสังเกตแบบมีโครงสรา้ งและไมม่ โี ครงสรา้ ง 5.2 การสมั ภาษณ์ 5.3 การรายงานตนเอง 5.4 การบันทกึ จากผูเ้ กี่ยวขอ้ ง 5.5 การใชแ้ บบประเมินการปฏิบตั ิจริง 5.6 การประเมนิ โดยใชแ้ ฟ้มผลงาน 5.7 การทดสอบภาคปฏบิ ตั ิ

การประเมินตามสภาพจรงิ องิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 11 ตัวอย่างการกาหนดวิธกี ารประเมินสมรรถนะการจดั การเรยี นรู้ การวเิ คราะหผ์ ูเ้ รียน มีตวั ชว้ี ดั เชงิ พฤติกรรม 2 รายการดังนี้ 1) ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้มคี วามหลากหลาย 2) ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งกบั ระดบั พัฒนาการทางสตปิ ัญญาของผูเ้ รียน ใช้วธิ กี ารตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ + การสังเกตพฤติกรรมการจดั การเรียนรู้ การออกแบบการจดั การเรียนรู้ มีตัวช้ีวดั เชงิ พฤติกรรม 2 รายการดงั นี้ 3) กาหนดจุดประสงค์การเรียนร้สู อดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชว้ี ดั 4) ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ตอบสนองจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ใชว้ ธิ กี ารตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ มีตัวช้วี ดั เชิงพฤติกรรม 2 รายการดังน้ี 5) จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกับแผนการจัดการเรยี นรู้ 6) แสดงบทบาท coaching และ facilitator ใช้วธิ ีการสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ การประเมนิ เพือ่ พัฒนาการเรียนรู้ มีตวั ชว้ี ัดเชงิ พฤติกรรม 2 รายการดงั นี้ 7) ประเมินผเู้ รยี นตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 8) ประเมินและให้ขอ้ มูลย้อนกลบั แก่ผ้เู รียนทนั ทีระหว่างการจดั การเรียนรู้ ใช้วธิ ีการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ + การสังเกตพฤติกรรมการจดั การเรียนรู้

12 การประเมนิ ตามสภาพจริงองิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) ข้ันที่ 5 สรา้ งเครือ่ งมือประเมนิ การสร้างเครื่องมือประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ ดาเนินการสร้าง ตามขั้นตอนการสร้างเครื่องมือวัดและประเมินผลโดยท่ัวไป ซ่ึงเคร่ืองมือท่ีสร้างจะมี ความหลากหลายและสอดคลอ้ งกบั วธิ ีการประเมินทก่ี าหนดไว้ในขั้นตอนท่ี 4 - แบบสังเกต (มโี ครงสร้าง / ไม่มโี ครงสร้าง) - แบบสัมภาษณ์ (มีโครงสรา้ ง / ไม่มโี ครงสรา้ ง) - แบบรายงานตนเอง - แบบประเมินจากผู้เก่ียวข้อง (ครู เพือ่ น ชมุ ชน) - แบบประเมินแฟ้มพัฒนางาน - แบบประเมินช้นิ งานตา่ งๆ - แบบทดสอบภาคปฏิบัติ - เกณฑ์การใหค้ ะแนน (Scoring rubrics)

การประเมนิ ตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 13 ตวั อย่างเคร่ืองมือที่ใช้ในประเมนิ สมรรถนะการจดั การเรยี นรู้ ด้านที่ 1 การวิเคราะห์ผู้เรียน (ตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ + การสงั เกตพฤติกรรม การจดั การเรียนรู้) คาช้แี จง ให้ผ้สู อนประเมินสมรรถนะการจัดการเรยี นรู้ ด้านการวเิ คราะห์ผ้เู รียน โดย ใช้เกณฑ์การให้คะแนนทกี่ าหนดให้ แลว้ เขียนระดบั คะแนนลงในชอ่ งผลการ ประเมนิ ให้ครบถว้ น ผลการประเมนิ ด้านการวิเคราะห์ผู้เรยี น ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ รวม ลาดับ ชอ่ื – สกุล สอดคลอ้ งกับระดับ คะแนน มีความหลากหลาย พฒั นาการทางสตปิ ญั ญา ของผเู้ รยี น เกณฑ์การให้คะแนนสมรรถนะการจัดการเรยี นรู้ดา้ นการวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี น ให้ 1 คะแนน เม่อื ปฏบิ ตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ งเมอ่ื ไดร้ บั การดแู ลอย่างใกลช้ ดิ ให้ 2 คะแนน เม่ือ ปฏบิ ตั ไิ ด้ถูกต้องเมื่อได้รบั คาแนะนา ให้ 3 คะแนน เม่อื ปฏิบัติได้ถูกต้องด้วยตนเอง ให้ 4 คะแนน เมอ่ื ปฏิบตั ิได้ถูกต้องและมีความตั้งใจในการปฏิบตั ิ ให้ 5 คะแนน เมื่อ ปฏิบัติได้ถกู ต้อง มคี วามตั้งใจในการปฏบิ ตั ิ และพยายามพฒั นาความสามารถของตนเองให้ดยี ่งิ ข้ึน

14 การประเมนิ ตามสภาพจริงองิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) ดา้ นท่ี 2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้ (ตรวจแผนการจดั การเรียนร)ู้ คาชีแ้ จง ให้ผู้สอนประเมินสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ ด้านการออกแบบการจัดการ เรียนรู้ โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนท่ีกาหนดให้ แล้วเขียนระดับคะแนน ลงในชอ่ งผลการประเมนิ ให้ครบถ้วน ผลการประเมิน ด้านการออกแบบการจัดการเรยี นรู้ รวม คะแนน ลาดบั ชอื่ – สกลุ กาหนดจดุ ประสงค์ ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ การเรียนรสู้ อดคลอ้ งกบั ตอบสนองจุดประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้ การเรียนรู้ และตัวชีว้ ัด เกณฑ์การให้คะแนนสมรรถนะการจดั การเรียนรู้ดา้ นการออกแบบการจัดการเรยี นรู้ ให้ 1 คะแนน เมอ่ื ปฏบิ ัติได้ถูกตอ้ งเมอื่ ได้รบั การดูแลอยา่ งใกล้ชดิ ให้ 2 คะแนน เม่อื ปฏิบัตไิ ด้ถูกตอ้ งเมอ่ื ได้รบั คาแนะนา ให้ 3 คะแนน เมอื่ ปฏิบัติได้ถูกต้องด้วยตนเอง ให้ 4 คะแนน เมื่อ ปฏบิ ัติได้ถกู ต้องและมีความตั้งใจในการปฏิบตั ิ ให้ 5 คะแนน เมอ่ื ปฏบิ ัตไิ ดถ้ กู ต้อง มีความต้งั ใจในการปฏิบัติ และพยายามพัฒนาความสามารถของตนเองให้ดีย่งิ ขน้ึ

การประเมนิ ตามสภาพจรงิ องิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 15 ด้านที่ 3 การจดั กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ (สังเกตพฤตกิ รรมการจัดการเรียนรู)้ คาช้แี จง ใหผ้ ู้สอนประเมนิ สมรรถนะการจัดการเรียนรู้ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เกณ ฑ์การให้คะแนนท่ีกาหนดให้ แล้วเขียนระดับคะแนน ลงในชอ่ งผลการประเมนิ ใหค้ รบถ้วน ผลการประเมิน ลาดบั ชอ่ื – สกลุ ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ รวม คะแนน จดั กิจกรรมการเรียนรู้ แสดงบทบาท coaching สอดคล้องกับ และ facilitator แผนการจดั การเรียนรู้ เกณฑ์การให้คะแนนสมรรถนะการจดั การเรยี นรู้ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้ 1 คะแนน เมือ่ ปฏิบตั ิไดถ้ ูกต้องเมื่อไดร้ ับการดแู ลอย่างใกล้ชิด ให้ 2 คะแนน เมื่อ ปฏิบตั ิได้ถูกตอ้ งเม่อื ไดร้ ับคาแนะนา ให้ 3 คะแนน เมื่อ ปฏิบตั ิได้ถูกตอ้ งดว้ ยตนเอง ให้ 4 คะแนน เมอ่ื ปฏิบตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ งและมีความต้ังใจในการปฏิบัติ ให้ 5 คะแนน เมอ่ื ปฏบิ ัติได้ถูกตอ้ ง มคี วามต้ังใจในการปฏิบัติ และพยายามพัฒนาความสามารถของตนเองให้ดยี ง่ิ ข้ึน

16 การประเมนิ ตามสภาพจรงิ องิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) ด้านที่ 4 การประเมนิ เพื่อพฒั นาการเรียนรู้ (สังเกตพฤตกิ รรมการจัดการเรียนร)ู้ คาชแี้ จง ให้ผู้สอนประเมนิ สมรรถนะการจัดการเรียนรู้ ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เกณ ฑ์การให้คะแนนที่กาหนดให้ แล้วเขียนระดับคะแนน ลงในช่องผลการประเมนิ ใหค้ รบถว้ น ผลการประเมิน ลาดับ ช่ือ – สกลุ ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ รวม คะแนน ประเมินผูเ้ รียน ประเมินและให้ขอ้ มูล ตรงตามจดุ ประสงค์ ยอ้ นกลับแก่ผเู้ รยี นทันที การเรียนรู้ ระหว่างการจัดการเรยี นรู้ เกณฑ์การให้คะแนนสมรรถนะการจัดการเรยี นรู้ด้านการประเมนิ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ให้ 1 คะแนน เมอ่ื ปฏบิ ตั ิไดถ้ ูกต้องเม่ือไดร้ บั การดูแลอย่างใกลช้ ิด ให้ 2 คะแนน เมื่อ ปฏบิ ัตไิ ดถ้ กู ตอ้ งเมอ่ื ได้รับคาแนะนา ให้ 3 คะแนน เม่ือ ปฏิบตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ งด้วยตนเอง ให้ 4 คะแนน เมื่อ ปฏบิ ัตไิ ดถ้ กู ต้องและมีความต้ังใจในการปฏิบตั ิ ให้ 5 คะแนน เมอ่ื ปฏิบตั ไิ ดถ้ กู ต้อง มคี วามต้งั ใจในการปฏบิ ัติ และพยายามพฒั นาความสามารถของตนเองให้ดีย่งิ ข้ึน หมายเหตุ เกณฑ์การให้คะแนนมีหลายชนิดหลายลักษณะ สามารถออกแบบ ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพบริบทการจัดการเรียนรู้ไดต้ ามความเหมาะสม

การประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 17 5. การประเมนิ อย่างตอ่ เนื่อง (Ongoing assessment) จากการท่ีการประเมินตามสถาพจริงอิงสมรรถนะ มีแนวคิดหลักคือ มุ่งประเมินเพ่ือพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียน ไม่เน้นการประเมินเพื่อตัดสินว่าผู้เรียน มีสมรรถนะตามมาตรฐานที่กาหนดหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องประเมินอย่างต่อเน่ือง ควบคู่ ไปกับการจัดการเรียนรู้ปกติ ไม่แยกการประเมินออกจากการจัดการเรียนรู้ และนาผลการประเมินมาพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะสูงขึ้น โดยท่ีการประเมิน อย่างต่อเนื่องมีลักษณะเป็นวงจรที่ต่อเนื่องกัน 4 ประการ ได้แก่ การวางแผน (Plan) การปฏิบัติ (Do) การตรวจสอบ (Check) และการถอดบทเรียน (Lesson learned) แสดงไดด้ งั แผนภาพต่อไปนี้ แผนภาพ 6 วงจรการประเมนิ อย่างต่อเนอ่ื ง

18 การประเมินตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 6. การถอดบทเรยี น (Lesson learned) เพอ่ื พฒั นาสมรรถนะผเู้ รยี น การถอดบทเรียน หมายถึง กระบวนการวิเคราะห์หลังการปฏิบัติหรือการ ทากิจกรรมเพื่อการจัดการความรู้ เป็นการให้ข้อมูลป้อนกลับอย่างเป็นระบบ ต่อคณะทางานเกี่ยวกับผลการปฏิบัติกิจกรรมท่ีดาเนินการแล้ว เป็นการกระตุ้น ให้คณะทางานเกิดความต่ืนตัวและมีความรู้สึกผูกพัน (involve) อยู่กับงานที่ทา ช่วยใหม้ ีสติรู้ตวั และมปี ญั ญารคู้ ดิ ในการปรบั ปรุงและพัฒนางาน การถอดบทเรียนมีแนวทางดงั ต่อไปนี้ 1. ต้องตอบโจทยว์ า่ การถอดบทเรยี นอะไร เพื่ออะไร 2. ใครคือบุคคลท่ีจะถอดบทเรียน การถอดบทเรียนของคนอ่ืน หรอื การถอดบทเรยี นตวั เอง 3. วิธีการถอดบทเรียนควรเลอื กวธิ ีการให้เหมาะสม 4. บทเรียนที่ดี (Best Practice) อาจจะมีประเด็นที่คล้ายกัน แตแ่ ตกตา่ งบรบิ ท การหาบทเรียนที่ดีถอื ว่าได้ความร้ทู ่ีมคี ณุ ค่า มีพลงั 5. สุน ท รียสน ท น า (Dialogue) จะเป็ นกลไกสาคัญ ใน การ ถอดบทเรยี นที่มากกว่าการตั้งคาถาม 6. บทเรียนมิใช่ความแตกต่างที่เกิดข้ึนจากส่ิงท่ีคาดหวังกับส่ิงท่ี เกิดข้ึนจริงตามนัยของการตั้งสมมติฐานการวิจัย อะไรท่ีทาให้เกิดความแตกต่างน้ัน เป็นปัจจัยก่อใหเ้ กิดพฤตกิ รรมอยา่ งไร ส่งิ น้ีคอื บทเรียน การถอดบทเรียนผลการประเมินตามสภาพจริงอิงสมรรถนะ ช่วยทาให้ ผู้ ส อ น ท ร า บ ว่ า มี ปั จ จั ย อ ะ ไ ร ที่ ส่ ง เส ริ ม ใ ห้ ผู้ เรี ย น มี พั ฒ น า ก า ร ข อ ง ส ม ร ร ถ น ะ จากน้ันผู้สอนนาปัจจัยเหล่าน้ันมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ ปัจจัยใดท่ีไม่ส่งเสริม ให้ผ้เู รยี นมพี ัฒนาการของสมรรรถนะ ผูส้ อนนาปัจจยั นั้นออกจากการจัดการเรยี นรู้

การประเมนิ ตามสภาพจริงองิ สมรรถนะ (Authentic competency – based assessment) 19 บรรณานกุ รม มารุต พัฒผล. (2561). การพฒั นารูปแบบการประเมนิ เพอื่ พัฒนาการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น ระดับบัณฑิตศึกษา. วารสาร Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 11(3), กนั ยายน–ธันวาคม, 3413–3432. ราชบัณฑิตยสถาน. (2555). พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. (พมิ พค์ ร้ังท่ี 1). กรงุ เทพฯ: อรณุ การพิมพ์. วิชัย วงษ์ใหญ่, และมารุต พัฒผล. (2562). การโค้ชเพ่ือพัฒนาศักยภาพผู้เรียน. กรงุ เทพฯ: จรัลสนทิ วงศ์การพมิ พ์. วิชยั วงษ์ใหญ่, และมารุต พัฒผล. (2561). ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรสู้ ู่การสร้างสรรค์ อนาคต. กรุงเทพฯ: จรลั สนทิ วงศ์การพมิ พ์. Colby, R. (2017). Competency – based Education: A New Architecture for K-12 Schooling. MA: Harvard Education Press. Goodyear, T. (2016). Competency-Based Education and Assessment: The Excelsior Experience. NY: Excelsior College.

การประเมนิ ตามสภาพจรงิ อิงสมรรถนะ ม่งุ เนน้ การประเมนิ เพือ่ พฒั นาผู้เรียนอยา่ งต่อเน่ือง (assessment for improvement)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook