Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore _________________________________-_________-1

_________________________________-_________-1

Published by Chonlakan Kongsing, 2020-01-26 20:18:39

Description: _________________________________-_________-1

Search

Read the Text Version

วันสำคัญ ทางพุทธศาสนา

1 วนั มาฆบชู า \"มาฆะ\" เป็นชอื่ ของเดอื น ๓ มาฆบูชาน้ัน ย่อมาจากคำว่า\"มาฆบุรณม\"ี แปลว่าการบูชาพระในวนั เพ็ญ เดอื น ๓ ดงั น้ันวนั มาฆบูชาจงึ ตรงกบั วันข้ึน ๑๕ คำ่ เดือน ๓ แตถ่ า้ ปใี ดมีเดือน อธกิ มาส คือมเี ดือน ๘ สองคร้งั วนั มาฆบชู าก็จะ เล่อื นไปเป็นวันขน้ึ ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ มาฆบูชาคือวนั ทมี่ ีการประชุมสงั ฆสันนบิ าตครั้งใหญ่ในพทุ ธศาสนาที่ เรียกว่า \"จาตรุ งคสันนบิ าต\" และเป็นวันทีพ่ ระสัมมาสัมพุทธเจา้ ไดท้ รงแสดง โอวาทปฎิโมกขแ์ กพ่ ระสงฆ์สาวกเป็นครั้งแรก ณ เวฬุวนั วิหาร กรงุ ราชคฤห์ เพอื่ ให้พระสงฆ์นำไปประพฤตปิ ฏิบัติ เพื่อจะยังพระพุทธศาสนาใหเ้ จริญรงุ่ เรือง ต่อไป

คำว่า \"จาตุรงคสันนิบาต\" มคี วามหมายคอื \"จาตุร\" แปลว่า ๔ \"องค\"์ สว่ น \"สนั นิบาต\" แปลวา่ ประชุม ดังนั้นจาตรุ งคสันนบิ าตจึงหมายความว่า \"การ ประชุมด้วยองค์ ๔\" มเี หตุการณ์พเิ ศษท่ีเกดิ ข้นึ พร้อมกันในวันน้ี คือ ๑. เป็นวันที่ พระสงฆ์สาวกของพระพทุ ธเจ้า จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชมุ พรอ้ ม กันทเี่ วฬุวันวหิ ารในกรุงราชคฤห์ โดยมิไดน้ ดั หมาย ๒. พระภิกษสุ งฆเ์ หล่านีล้ ้วนเปน็ \"เอหภิ กิ ขอุ ุปสัมปทา\" คอื เป็นผ้ทู ่ไี ด้รับการ อปุ สมบทโดยตรงจาก พระพทุ ธเจ้าท้งั ส้ิน ๓. พระภิกษุสงฆ์ทุกองคท์ ่ีได้มาประชมุ ในคร้ังน้ี ลว้ นแต่เป็นผู้ได้บรรลุพระอรหันต์ แล้วทกุ ๆองค์ ๔. เป็นวันทพ่ี ระจันทรเ์ ตม็ ดวงกำลงั เสวยมาฆฤกษ์ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏบิ ัตใิ นวนั มาฆบูชา ๑. ทำบุญใส่บาตร ๒. ไปวัดเพอ่ื ปฏิบัตธิ รรม และฟงั พระธรรมเทศนา ๓. ไปเวยี นเทยี นท่ีวัด ๔. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ

2 วนั วิสาขบชู า คำว่า \"วสิ าขบูชา\" หมายถงึ การบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบชู า ย่อมาจาก \" วิสาขปุรณมีบชู า \" แปลว่า \" การบูชาในวันเพ็ญเดอื นวสิ าขะ \" ถา้ ปีใดมีอธิกมาส คือ มเี ดือน ๘ สองหน ก็เลอื่ นไปเปน็ กลางเดอื น ๗ วันวิสาขบชู าเป็นวันทส่ี ำคัญอยา่ งมากทางพระพทุ ธศาสนาคือ เป็นวนั ท่ี พระพุทธเจ้าประสตู ิ ตรสั รู้ และปรินิพพาน เกิดขนึ้ ตรงกันทง้ั ๓ คราว ๑. ประสูติ ท่ีพระราชอุทยานลมุ พินีวัน ระหวา่ งกรุงกบิลพสั ดกุ์ บั เทวทหะ เม่ือเช้า วนั ศุกร์ ข้ึน ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ ๒. ตรัสรู้ เมอ่ื พระชนมายุ ๓๕ พรรษา ไดต้ รัสรเู้ ป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ใต้ร่มไม้ ศรีมหาโพธิ์ ฝ่ังแม่นำ้ เนรญั ชรา ตำบลอรุ เุ วลาเสนานคิ ม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขน้ึ ๑๕ คำ่ เดือน ๖ ปรี ะกา ๓. ปรินิพพาน เมอ่ื พระชนมายไุ ด้ ๘๐ พรรษา ก็เสดจ็ ดบั ขันธปรนิ ิพพาน เม่ือวนั อังคาร ขึน้ ๑๕ ค่ำ เดอื น ๖ ปีมะเสง็ ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษตั รยิ ์ เมือง กสุ ินารา แควน้ มลั ละ

หลกั ธรรมสำคัญที่ควรนำมาปฏิบัติ ๑. ความกตัญญู ๒. อริยสจั ๔ ๓. ความไม่ประมาท

3 วันอาสาฬหบชู า วันขน้ึ ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ นับเป็นวนั ทสี่ ำคัญในประวตั ศิ าสตร์แห่งพระพุทธศาสนา คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมทที่ รงตรัสรู้เป็นคร้ังแรกแก่ เบญจวคั คยี ท์ ้งั ๕ ณ มฤคทายวัน ตำบลอสิ ปิ ตนะ เมืองพาราณสี โดยธรรมเทศนาที่ทรง แสดงครั้งแรกมชี อื่ ว่า \"ธัมมจักกปั ปวัตตนสตู ร\" แปลว่า พระสตู รแห่งการหมนุ วงล้อ ธรรม หรือพระสูตรแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร

โดยอาสาฬหบชู า ประกอบด้วยคำ ๒ คำ คือ อาสาฬห (เดือน ๘ ทางจันทรคต)ิ กบั บูชา (การบูชา) เม่อื รวมกนั จึงแปลว่า การบูชาในเดือน ๘ หรอื การบูชาเพ่ือระลึก ถงึ เหตกุ ารณ์สำคญั ในเดือน ๘ หรือเรยี กให้เตม็ ว่า อาสาฬหบูรณมีบชู า คอื ๑. เปน็ วันทพี่ ระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา ๒. เป็นวันทพ่ี ระพุทธเจ้าเริ่มประกาศพระศาสนา ๓. เป็นวันที่เกิดอรยิ สงฆค์ รง้ั แรกคอื การทีท่ ่านโกณฑัญญะรู้แจง้ เห็นธรรม เป็น พระโสดาบัน จดั เป็นอรยิ บุคคลท่านแรกในอรยิ สงฆ์ ๔. เป็นวันท่ีเกดิ พระภกิ ษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ การท่ีท่านโกณฑัญญะ ขอบรรพชาและ ได้บวชเปน็ พระภิกษุ หลังจากฟงั ปฐมเทศนาและบรรลุธรรม แล้ว เมอื่ เปรยี บกบั วันสำคัญอน่ื ๆ ในพระพทุ ธศาสนา บางทีเรยี กวัน อาสาฬหบชู าน้ีวา่ วันพระสงฆ์ (คอื วันที่เริ่มเกิดมีพระสงฆ)์ ใจความสำคญั ของปฐมเทศนา มหี ลกั ธรรมสำคัญ ๒ ประการคือ ๑. มัชฌิมาปฏปิ ทาหรอื ทางสายกลาง ๒. อริยสจั ๔ กจิ กรรมต่าง ๆ ท่คี วรปฏบิ ัตใิ นวันมาฆบูชา ทำบุญใส่บาตร รกั ษาศีล ๒. ไปวัดเพอ่ื ปฏิบตั ธิ รรม และฟงั พระธรรมเทศนา (ธมั มจกั กัปปวัตตนสตู ร) ๓. ไปเวียนเทียนท่ีวัด

4 วนั เขา้ พรรษา \"เข้าพรรษา\" แปลว่า \"พกั ฝน\" หมายถึง พระภกิ ษสุ งฆต์ ้องอยูป่ ระจำ ณ วดั ใด วดั หน่ึงระหว่างฤดูฝน โดยเหตุท่ีพระภกิ ษุในสมยั พทุ ธกาลมีหนา้ ทจี่ ะตอ้ งจาริกโปรด สัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำส่ังสอนแกป่ ระชาชนไปในทตี่ า่ ง ๆ ไม่จำเปน็ ตอ้ งมีที่อยู่ ประจำ แม้ในฤดฝู น ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยยี บข้าวกลา้ และพืชอื่น ๆ จนเสยี หาย พระพุทธเจ้าจงึ ทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภกิ ษอุ ยู่ประจำท่ีตลอด 3 เดือน ในฤดฝู น คือ เร่ิมตง้ั แต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุก และออกพรรษาในวันข้ึน 15 คำ่ เดือน 11 เว้นแต่มกี ิจธุระเจ้าจำเปน็ ซ่ึงเมอ่ื เดินทางไปแล้วไมส่ ามารถจะกลับได้ใน เดยี วนน้ั กท็ รงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนงึ่ ไม่เกนิ 7 คืนเรยี กว่า สตั ตาหะ หาก เกนิ กำหนดน้ถี ือว่าไมไ่ ด้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษาจัดว่าพรรษาขาด

ระหว่างเดนิ ทางกอ่ นหยุดเข้าพรรษา หากพระภิกษสุ งฆ์เข้ามาทันในหมบู่ ้านหรือ ในเมืองก็พอจะหาที่พักพงิ ไดต้ ามสมควร แตถ่ า้ มาไมท่ ันก็ต้องพง่ึ โคนไมใ้ หญเ่ ป็นที่พัก แรม ชาวบ้านเหน็ พระได้รับความลำบากเชน่ นี้ จึงช่วยกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศยั พกั ฝน รวมกันหลาย ๆ องค์ ทพี่ กั ดังกล่าวนเี้ รียกว่า \"วหิ าร\" แปลวา่ ที่อยู่สงฆ์ เม่อื หมดแล้ว พระสงฆ์ทา่ นออกจาริกตามกจิ ของท่านคร้ังถงึ หน้าฝนใหม่ท่านก็ กลับมาพักอีกเพราะสะดวกดี แต่บางท่านอยู่ประจำเลย บางทีเศรษฐีมีจิตศัรทธาเล่อื มใส ในพระพุทธศาสนา กเ็ ลอื กหาสถานทสี่ งบเงียบไม่ห่างไกลจากชมุ ชนนัก สร้างท่พี ัก เรียกว่า \"อาราม\" ให้เป็นท่ีอยู่ของสงฆ์ดังเชน่ ปัจจุบันน้ี การปฏิบัติตนในวนั น้ีหรือกอ่ นวนั น้ีหนง่ึ วัน พุทธศาสนกิ ชนมักจะจัดเคร่ือง สักการะเชน่ ดอกไม้ ธูปเทยี น เคร่ืองใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน เปน็ ต้น มาถวายพระภิกษุ สามเณร ทต่ี นเคารพนับถือ ท่สี ำคัญคอื มีประเพณีหลอ่ เทยี นขนาดใหญ่เพอื่ ให้จุดบูชา พระประธานในโบสถอ์ ยู่ไดต้ ลอด 3 เดือน มีการประกวดเทยี นพรรษา โดยจัดเป็น ขบวนแห่ทงั้ ทางบกและทางน้ำ

5 วันออกพรรษา วันออกพรรษา คอื วันส้นิ สุดระยะการจำพรรษา หรอื ออกจากการอยูป่ ระจำที่ ในฤดูฝนซ่ึงตรงกับวันขนึ้ ๑๕ คำ่ เดือน ๑๑ วนั ออกพรรษา เรียกอีกอยา่ งหน่งึ ว่า \"วันมหาปวารณา\" คำว่า \"ปวารณา\" แปลวา่ \"อนุญาต\" หรือ \"ยอมให้\" คอื เป็นวันทเ่ี ปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ดว้ ยกันว่า กล่าวตกั เตือนกนั ได้ ในข้อทผี่ ิดพล้ังล่วงเกินระหวา่ งทีจ่ ำพรรษาอยู่ด้วยกัน

ประเพณีการทำบุญกศุ ลเนอ่ื งในวนั ออกพรรษา ๑. ทำบุญตกั บาตรอุทิศสว่ นกุศลให้แก่ญาติผู้ลว่ งลับ จดั ดอกไม้ ธูป เทียน ไปบชู า พระท่ีวัด ๒. ไปวดั เพอื่ ปฏบิ ัตธิ รรม ฟงั พระธรรมเทศนา ๓. รว่ มกุศลธรรม \"ตักบาตรเทโว\" เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่ พระพทุ ธองคเ์ สด็จ กลับจากการโปรด พระพทุ ธมารดาในเทวโลก ๔. ปัดกวาดบา้ นเรอื นให้สะอาด ประดับธงชาตติ ามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ ราชการและ ประดับธงชาตแิ ละธงธรรมจักรตามวดั และสถานที่สำคัญทาง พระพุทธศาสนา

6 วันธรรมสวนะ วนั พระ หรือ วันธรรมสวนะ หมายถงึ วันประชุมถอื ศลี ฟังธรรมในพุทธศาสนา (ธรรมสวนะ หมายถึง การฟังธรรม) กำหนดเดอื นทางจันทรคตลิ ะ 4 วัน ได้แก่ วันขึ้น 8 ค่ำ วันขน้ึ 15 ค่ำ (วันเพ็ญ) วันแรม 8 ค่ำ วันแรม 15 ค่ำ (หากเดือนใดเปน็ เดือนขาด ถือเอาวันแรม 14 ค่ำ) ในวันพระ พุทธศาสนกิ ชนถือเป็นวันสำคัญ ควรไปวดั เพอ่ื ทำบญุ ถวาย ภัตตาหารแด่พระสงฆ์ และฟังธรรม สำหรบั ผทู้ ี่เคร่งครดั ในศาสนาอาจถอื ศลี 8 ในวนั พระด้วย นอกจากนี้ชาวพุทธยงั ถือว่าวันพระไมค่ วรทำบาปใดๆ การทำบาปหรือไมถ่ อื ศลี หา้ ในวันพระถือว่าเป็นบาปยิ่งในวันอื่น ** วนั โกน เปน็ ภาษาพดู หมายถึง วนั กอ่ นวันพระ ๑ วัน



จัดทำโดย นางสาว พัทธนันท์ กติ ิสกั นางสาว อารยี ์รกั ษ์ ม่วงหงส์ นางสาว กรี มนชรญี า มขุ เพ็ช นางสาว ชลลดา พนาสัมฤทธ์ผล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook