Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 7

หน่วยที่ 7

Published by Thipkesorn Thongkhaek, 2018-08-28 23:31:00

Description: แบบฝึกหัดหน่วยที่ 7

Search

Read the Text Version

1. ใหน้ ักศึกษาอธบิ ายเกีย่ วกบั รูปแบบเครือขา่ ย 2 ประเภท1.1. Client/Server มีลักษณะอยา่ งไร และมีข้อดี-ขอ้ เสยี อย่างไรคอื การทมี่ เี ครอ่ื งผู้ใหบ้ รกิ าร (server) และเคร่ืองผใู้ ชบ้ รกิ าร (client) เชอื่ มตอ่ กันอยู่ และเคร่ืองผใู้ ชบ้ รกิ ารไดม้ กี ารตดิ ต่อรอ้ งขอบริการจากเครอื่ งผู้ให้บรกิ าร เครือ่ งผูใ้ หบ้ รกิ ารกจ็ ะจัดการตามท่เี คร่อื งผู้ขอใชบ้ รกิ ารรอ้ งขอ แล้วสง่ ขอ้ มลู กลับไปใหเ้ ครอื ข่ายแบบ ไคลเอนต/์ เซริ ์ฟเวอร์ เหมาะกับระบบเครอื ขา่ ยทตี่ อ้ งการเชอ่ื มต่อกับเครือ่ งลกู ข่ายจานวนมาก โดยการรองรับจานวนเครอื่ งลูกขา่ ย (Client) อาจเปน็หลักสบิ หลักร้อยหรอื หลักพนั เพราะฉะน้ันเคร่ืองท่จี ะนามาทาหน้าที่ให้บรกิ ารจะต้องเปน็ เครื่องทมี่ ีประสทิ ธิภาพสูง เนื่องจากถูกตอ้ งออกแบบมาเพ่ือทนทานตอ่ ความผดิ พลาด ( Fault Tolerance)และตอ้ งคอยใหบ้ ริการทรัพยากร การให้กบั เครือ่ งลูกขา่ ยตลอดเวลาโดยเคร่อื งที่จะนามาทาเปน็ เซิรฟ์ เวอร์อาจเป็นคอมพิวเตอร์แบบเมนเฟรมมินิคอมพิวเตอร์ หรอื ไมโครคอมพิวเตอร์กไ็ ด้

ข้อดี- ให้ประสิทธภิ าพในการแบง่ ปันการใช้งานทรพั ยากรแกไ่ คลเอนต์ได้ดกี วา่ เนอื่ งจากคอมพวิ เตอร์ที่ถกู นามาใช้ เป็นเซริ ฟ์ เวอรม์ ักเป็นเครอ่ื งที่มีประสทิ ธภิ าพสงู- การรกั ษาความปลอดภัยสามารถทาได้ดีกว่า เนอ่ื งจากการดแู ลความปลอดภยั เปน็ ไปในรปู แบบรวมศูนย์(Centralized) ผู้ใชง้ านท่จี ะเข้ามาสเู่ ครอื ขา่ ยเพื่อใช้งานเซิร์ฟเวอรจ์ ะตอ้ งไดร้ ับอนญุ าตเสียก่อน- งา่ ยต่อการบรหิ ารจัดการหากเครือขา่ ยถูกขยายขนาด รวมทงั้ มีผู้ใชง้ านเพ่ิมขึน้- สามารถตดิ ต้ังแอพพลิเคชนั (Application) ไว้ทเ่ี ซริ ์ฟเวอรเ์ พยี งชุดเดียว และแบง่ ใช้งานแกผ่ ูใ้ ชง้ านเปน็จานวนมาก ทาให้ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยในเรือ่ งซอฟต์แวร์ไดด้ ี- สามารถสารองหรอื ทาสาเนาขอ้ มูลท่ศี ูนย์กลาง ทาให้สะดวกรวดเรว็ขอ้ เสีย- คา่ ใช้จ่ายในการตดิ ต้งั เซิรฟ์ เวอร์ 1 ตวั สงู กวา่ คอมพวิ เตอรท์ ั่วไป อกี ท้งั ผูด้ ูแลจะตอ้ งมคี วามรู้พอสมควร- จะต้องมีผูด้ ูแลและจัดการเซริ ฟ์ เวอรเ์ ป็นการเฉพาะ

1.1.1 Web Server ทาหน้าที่อยา่ งไรทาหน้าทเ่ี ก็บข้อมลู Web site และเม่อื เครื่องคอมพวิ เตอร์อนื่ ตอ้ งการเรยี กดูข้อมลู จาก Web site เหล่านัน้ Webserver จะทาหนา้ ทสี่ ่งขอ้ มลู เหล่าน้นั ไปให้1.1.2 Mail server ทาหน้าทอี่ ย่างไรจะทาหน้าทเี่ ก็บจดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ (electronic mail หรือ e-mail) ทมี่ ีการสง่ ระหวา่ งบุคคลหรือองคก์ ารต่างๆ และจะให้บริการส่งจดหมายเหลา่ นั้นไปยังเจา้ ของจดหมายเมื่อมกี ารเรียกใช้1.1.3 File Server ทาหนา้ ที่อยา่ งไรทาหน้าทีใ่ หบ้ ริการแฟม้ ขอ้ มลู แกเ่ ครอื่ งคอมพวิ เตอรอ์ นื่ ๆ ซงึ่ สามารถเรียกใช้แฟม้ งานต่างๆ จากเซิร์ฟเวอร์ได้1.1.4 Print Server ทาหน้าท่อี ยา่ งไรทาหนา้ ทใ่ี หบ้ รกิ ารเครือ่ งพมิ พ์ ในการพิมพเ์ อกสารตา่ งๆโดยแต่ละเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์อาจมเี คร่ืองพิมพ์เพยี ง 1เคร่ืองทเี่ ชอื่ มต่อเขา้ กับ print server ซงึ่ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์อื่นในเครือข่ายสามารถพิมพเ์ อกสารทีเ่ คร่อื งพิมพน์ ี้ได้

1.2. Peer to Peer มีลกั ษณะอย่างไร และมีขอ้ ดี-ข้อเสียอยา่ งไรเครือข่ายของคอมพิวเตอรก์ าหนดใหไ้ ฟลแ์ ละโฟลเดอรท์ ่ีจะใช้ร่วมกันได้ ระบบเครือข่าย peer-to-peer พบมากบอ่ ยในสานกั งานขนาดเลก็ ทไ่ี มไ่ ด้ใช้ไฟลเ์ ซริ ์ฟเวอร์เฉพาะ เครือขา่ ย peer-to-peerคอมพิวเตอรเ์ ชื่อมตอ่ กันแต่ละคู่ (เชื่อมตอ่ 1 ตอ่ 1) ไม่มี เซริ ์ฟเวอร์(server) เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ทุกเคร่ืองความสามารถเทา่ กันเหมือนเพื่อนกนั ซง่ึ สามารถใชไ้ ด้ทงั้ Windows, Mac and Linux ในระบบเครือข่าย peer-to-peer และสามารถใชข้ ้อมูลร่วมกนั ได้

ข้อดี- ไม่ต้องการระบบปฏิบัติการ (OS) สาหรบั เครือข่าย- ไมจ่ าเปน็ ต้องใช้ Server เพราะแตล่ ะเครอื่ งสามารถเขา้ ถึงข้อมูลได้- ไมต่ อ้ งใชผ้ ู้เชี่ยวชาญเพราะผใู้ ชแ้ ต่ละคนสามารถไฟลท์ ่ตี อ้ งการแบง่ ปนั ไดด้ ว้ ยตนเอง- การตั้งค่าไดง้ า่ ยกวา่ ระบบเครือขา่ ยแบบไคลเอนตเ์ ซิร์ฟเวอร์ (Client/Server Networks)และไมจ่ าเป็นต้องมคี วามรู้เฉพาะทางขอ้ เสีย- คอมพิวเตอรอ์ าจมกี ารเขา้ ถึงโดยบคุ คลอืน่ ซ่ึงอาจทาให้ประสิทธิภาพการใชง้ านลดลง- ไฟลแ์ ละทรัพยากรท่ีไมไ่ ดอ้ ยูใ่ น “พน้ื ทีแ่ บ่งปัน”อาจจะยากต่อการเข้าถงึ หากผใู้ ช้มกี ารจดั เก็บทีไ่ มเ่ ปน็ ระบบ- เปน็ ความรับผดิ ชอบของผใู้ ช้แต่ละคนทีจ่ ะไม่ให้ไวรัสตดิ เข้ามาในระบบเครอื ขา่ ย- ระบบรักษาความปลอดภยั มีนอ้ ยหรือไม่มีเลยซึง่ บ่อยครั้งที่ผใู้ ชไ้ มม่ กี ารระบุตวั ตนในการเขา้ ระบบ(log on)

2. ระบบเครอื ขา่ ยทอ้ งถิ่น (Local Area Network :LAN) ทนี่ ยิ มสงู สุดมีอยู่ 3 ชนิดคอื2.1 อเี ทอร์เนต็ (Ethernet) ใหน้ ักศกึ ษาสรปุ ขอ้ แตกตา่ งรปู แบบการเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยอเี ทอร์เนต็ตามมาตรฐานต่อไปน้ี2.1.1 10Base5 อีเทอรเ์ น็ตโทโปโลยีแบบบสั ซึง่ ใช้สายโคแอกเชียลแบบหน(ThickEthernet) ความยาวของสายในเซกเมนต์หนึง่ ๆ ไมเ่ กิน 500 เมตร2.1.2 10Base2 อีเทอร์เนต็ โทโปโลยีแบบบสั ซึ่งใช้สายโคแอ๊กเชยี ลแบบบาง (Thin Ethernet) ความยาวของสายในเซกเมนต์หน่ึง ๆ ไม่เกิน 185 เมตร2.1.3 10BaseT อีเทอร์เนต็ โทโปโลยีแบบดาวซ่ึงใชฮ้ ับเปน็ ศูนย์กลางสถานแี ละฮบั เชือ่ มดว้ ยสายยูทีพี (Unshield Twisted Pair) ดว้ ยความยาวไม่เกนิ 100 เมตร

2.2 ไอบเี อม็ โทเค็นริง (IBM Token Ring) ใหน้ ักศกึ ษาสรุปกลไกการสง่ ข้อมูลกลไกการทางานของ Token Passing กค็ ือ ในช่วงเลาหนง่ึ จะมีเพยี งโหนดเดยี วที่สามารถส่งขอ้ มูลในขณะนัน้ ได้ นั่นกค็ อื โหนดที่ครอบครองโทเคน็ โดยโทเค็นจะไปพร้อมกบั ขอ้ มูลทีส่ ่งไปยังโหนดภายในวงแหวน หากโหนดใดไดร้ บั ขอ้ มลู พร้อมรหสั โทเค็นแลว้ ตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ขอ้ มลู ทส่ี ่งมายังตน กจ็ ะสง่ ทอดไปยงั โหนดถัดไปภายในวงแหวนไปเร่อื ย ๆ จนกระทัง่ ถงึ โหนดปลายทางที่ต้องการ เมอื่ครบรอบวงแล้วรหสั โทเค็นก็จะเขา้ สูส่ ภาวะว่างอีกครงั้ หนง่ึ ดว้ ยการสง่ ทอดรหัสวา่ งไปตามวงแหวนผ่านโหนดตา่ ง ๆ เปน้ วงรอบและพร้อมทจ่ี ะให้โหนดอืน่ ๆ ครอบครองโทเคน็ เพือ่ การส่งขอ้ มูลในรอบต่อไป

2.3 เอฟดดี ไี อ (Fiber Data Distributed Interface :FDDI) ใหน้ กั ศึกษาสรปุ หน่วยงานใดเปน็ ผู้กาหนดมาตรฐาน และอธบิ ายลักษณะของการสง่ ข้อมูลบนเครือขา่ ย เอฟดดี ไี อ รวมทงั้ อธบิ ายการทางานของวงแหวนทงั้ 2 วงด้วยเอฟดดี ีไอ หรือเรยี กอีกชือ่ เต็มว่า Fiber Distributed Data Interface:FDDI คือ หน่วยงาน ANSI ไดท้ าการกาหนดโปรโตรคลอท่ีใช้งานบนเครือข่ายท้องถิ่น โดยมีการควบคุมแบบโทเคร็ ิง ด้วยการส่งขอ้ มลู ท่ีมีความเรว็ ถงึ 100 เมกะบิตตอ่ วินาทบี นสายเคเบิลใยแก้วนาแสง กลไกการส่งข้อมลู บนเครอื ข่ายเอฟดดี ีไอจะใช้ Token Passing เช่นเดียวกับไอบเี อ็มโทเคน็ ริง แตเ่ อฟดดี ไี อ(FDDI) จะทางานด้วยความเร็วท่ีสูงกวา่ ประกอบกับเครือข่ายเอฟดดี ีไอยงั สามารถทจี่ ะออกแบบเพื่อรอบรับในความเสยี หาของระบบได้ดี ด้วยการเพม่ิ วงแหวนในระบบเครือขา่ ยอกี รวมเปน็ 2 วงแหวนด้วยกนั ซึง่ ประกอบด้วยวงแหวนปฐมภมู ิและวงแหวนทตุ ิยภูมิ

วงแหวนปฐมภมู ิ(Primary Ring) คือ วงแหวนหลกั ด้านนอกซง่ึ ใชเ้ ป็นสายสง่ ขอ้ มลู หลักภายในระบบเครือขา่ ย โดยรหัสโทเคน็ จะว่ิงวนรอบวงแหวนทศิ ทางใดกท็ ศิ ทางหน่ึงวงแหวนทตุ ิยภูมิ(Secondary Ring) คือวงแหวนสารองทอี่ ยูด่ า้ นในสุด โทเคน็ ทอ่ี ยใู่ นวงแหวนดา้ นในจะวง่ิ ในทศิ ทางตรงกันขา้ มกับวงแหวนด้านนอก โดยวงแหวนทุติยภมู ิจะถูกใช้งานกต็ ่อเมอ่ื วงแหวนปฐมภมู ิเกิดปญั หาเทา่ นั้น เชน่ สายเคเบลิ ทว่ี งแหวนในปฐมภมู เิ กิดการขาด และเมื่อเหตุการณเ์ ชน่ น้ีเกดิ ข้ึน วงจรภายในวงแหวนทุติยภมู กิ ็จะเร่มิ ทางานทนั ทดี ว้ ยการเช่อื มต่อเข้ากับวงแหวนปฐมภมู ิ ทาให้สามารถประคบั ประคองระบบให้ยังคงสามารถทางานตอ่ ไปได้ โดยเทเคน็ เองกย็ งั คงสามารถว่ิงภายในรอบวงแหวนได้เชน่ เดมิ ทาให้เครือข่ายสามารถดาเนินการตอ่ ไดต้ ามปกต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook