ศูนยเ์ รียนรูช้ มุ ชนบา้ นดงบงั ต้ังอยู่เลขท่ี 68 หม่ทู ี่ 4 บ้านดงบัง ตาบลคอนฉิม อาเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น การเพาะเหด็ ขอน ในการทาไรน่ าสวนผสม เกษตรกรจะมีการปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น เพื่อสร้างความร่มร่ืน ให้กับพื้นท่ี และมีผลพลอยได้ คือ ได้กินผล ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง ใบที่ร่วงหล่นเป็นปุ๋ย ได้ไม้เพ่ือใช้ สอย ก่อสร้าง และเป็นท่ีพักอาศัยของนก ไก่ โดยเฉพาะมะม่วงเป็นพืชยอดนิยมที่มีการปลูกในทุก สวน เพ่ือกินผลดิบ ผลสุก กิ่งเล็ก ๆ เป็นฟืนเผาถ่าน เม่ือมะม่วงในสวนอายุมากขึ้นเป็น 20-30 ปี ผลผลติ จะลดลงหรือทรดุ โทรมจะแหง้ ตาย นอกจาก จะใชเ้ ป็นฟืนเผาถ่านเป็นเช้ือเพลิงอย่างเดียว เราสามารถนามาเพิ่มมูลค่า โดยการทาให้ขอนไม้กลายเป็นเห็ดขอนขาว เห็ดบด เพื่อเป็นอาหารใน ครวั เรือน ไม้ท่ีนามาทาเห็ดขอนขาว ใช้ไม้มะม่วงได้ทุกชนิด ไม้นุ่น ไม้เหล่ือม ไม้ร่างไทร ทาเป็นเห็ด ขอนดา หรอื เหด็ บด ถา้ ดีให้ใช้ไมแ้ ต้ ไม้ต้ิว ไม้จิก ไมก้ ระยอม วสั ดอุ ปุ กรณ์ (1) ขอนไมท้ ี่มี (ไม้สด ๆ) (2) กอ้ นเช้ือเหด็ ทจ่ี ะทา ที่เช้ือดินเต็มถงุ แลว้ พร้อมเปน็ ดอก (3) เหล็กแป๊บกลวง ขนาด 6-8 หุน ยาวประมาณ 4-6 นว้ิ (4) ค้อนไม้สาหรบั ตอกเหลก็ (5) เหล็กกลมขนาด 3-4 หนุ ยาว 1 คบื วธิ ที า (1) ตัดไม้ท่จี ะนามาเพาะใหย้ าวประมาณ 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้วขนึ้ ไป (2) ใช้เหล็กกลวงตอกให้เป็นรู แต่ละรูห่างกัน 1 คืบ ทุกด้าน ถ้าเป็นท่อนใหญ่หรือ ตอไม้ใหต้ อกสลับกนั (3) การตอกครงั้ แรกใหต้ อกลกึ แค่เปลอื ก เพ่อื เอาเปลือกออก โดยใชเ้ หลก็ กลมดนั ออก (4) ตอกครง้ั ที่ 2 ใหก้ นิ เน้ือไมล้ กึ ประมาณ ½ -1 ข้อมือ นาเช้ือเห็ดถุงท่ีจะเพาะ ยัดลง ในรทู ่ตี อกแลว้ ปิดด้วยเปลือกไมห้ รอื ไม้ท่ีตอกออก ใชค้ ้อนทบุ ให้แนน่ (5) ทาจนหมดไม้ หรือจนพอใจ (6) ถ้าเชื้อเหด็ ไม่หมด ให้บรรจใุ นถงุ พลาสติกปดิ ปากให้สนิท เก็บไว้ในที่ร่ม ไว้ใช้ในวัน ถดั ไป
วิธีการดแู ล (1) นาขอนเห็ดที่อัดเช้ือแล้วมาวางกองไว้ในที่ร่ม โดยใช้ไม้หมอนรองด้านล่าง เรียง เปน็ ช้ัน ๆ คลุมดว้ ยพลาสติกเปดิ รดน้าทกุ สัปดาห์ ถา้ เป็นไมแ้ ห้ง ไมส้ ด ไม่ตอ้ งรดน้า พักไว้ 1 เดอื น (2) เมอ่ื ครบ 1 เดือน เปดิ ผา้ พลาสติกออก เพ่อื ใหข้ อนไมแ้ หง้ พกั ไว้ 1 เดือน (3) เม่ือครบ 1 เดือน นาไปแช่น้า ครั้งละ 7 - 10 วัน แล้วเอาข้ึนไว้ริมสระน้า ตากจน แห้ง แล้วเอาลงแชน่ า้ อกี ทาสลบั อย่างนี้จนเริม่ เห็นดอกเหด็ (4) นาขอนท่ีเริ่มเห็นดอกเห็ดไปต้ังชันไว้ เห็ดจะเกิดเต็มขอน จากขอนไม้กลายเป็น ขอนเหด็ สามารถเก็บเปน็ อาหารได้ตลอด ประมาณ 1 - 2 ปี แล้วแตข่ นาดขอน การเพาะเห็ดฟางแบบกองเต้ยี เห็ดฟาง เป็นเห็ดที่คนไทยนิยมบริโภคมานาน มีรสชาติดี คุณค่าทางอาหารสูงเป็น อาหารพวกผัก แต่มีคุณค่าสูงกว่าผัก พบได้ตามธรรมชาติข้างกองฟางมีความช้ืน ปัจจุบันได้นามา เพาะเพ่อื บริโภคและจาหน่ายเป็นรายได้เสริม เพาะง่าย ใช้เศษวัสดุเหลือการเกษตรมาเพาะได้ เช่น ฟางข้าว กากเปลือกถ่ัว ไส้นุ่น ต้นกล้วย ผักตบชวา ทลายปาล์ม กากเปลือกมันสาปะหลัง มีวิธีการ เพาะหลายแบบ เช่น การเพาะแบบกองสูง การเพาะแบบกองเตี้ยประยุกต์ การเพาะในโรงเรือน การเพาะในเข่ง ในทีน่ ี้ จะแนะนาการเพาะเห็ดฟางแบบกองเต้ีย โดยใช้กากมันสาปะหลัง และใช้ตอ ซงั ฟางข้าว เพ่อื เป็นทางเลือกให้นาไปเพาะเป็นอาหารในครวั เรือน หรือเพื่อเป็นอาชีพเสริมรายได้ใน ครัวเรอื นได้ วสั ดุอุปกรณ์ (1) กากมันสาปะหลงั (กากดนิ ) (2) ไม้แบบขนาด 20x40x20 ซม., 20x50x20 ซม., 20x70x20 ซม. (3) ไมโ้ กรง (ไมไ้ ผผ่ า่ ซีกกว้าง 1 นว้ิ ยาว 1.60 เมตร) (4) บัวรดนา้ (5) นา้ สะอาด ควรเปน็ น้าสระ ไมเ่ ค็มจะดีทส่ี ุด (6) อาหารเสรมิ (มลู สัตว์แห้ง ราละเอยี ด หรอื วสั ดอุ ืน่ ทหี่ าได้ เช่น กากไสน้ ุน่ จอกแห้ง คายขา้ ว) (7) พลาสตกิ สาหรบั คลุมกองเหด็ (8) EM/น้าหมกั ชีวภาพ
(9) ปูนขาว (10) ฟางสาหรบั คลมุ กอง (11) จอบ วธิ ีการเพาะ (1) เตรียมแปลงเพาะโดยขุดตากดินยกแปลง เพ่ือฆ่าเช้ือโรคตากท้ิงไว้ประมาณ 7 วัน ยอ่ ยดนิ ให้ละเอียด ขนาดแปลงกวา้ ง 1 เมตร ยาวตามความตอ้ งการ (2) นากากมัน (กากดิน) มาบรรจุในไม้แบบอัดเป็นแท่งพอแน่น จากน้ันถอดไม้แบบ แล้วอัดแท่ง กากมันเรียงในแปลงที่เตรียมไว้ ห่างกันแต่ละแท่ง 10-15 ซม. ถ้าอากาศเย็นให้ห่างกัน นอ้ ย ถ้าอากาศรอ้ นใหห้ ่างกนั มากขึ้น (3) ขณะอัดแทง่ กากมนั ถา้ แหง้ ใหร้ ดน้าพอชมุ่ ไมใ่ ห้แท่งพังแตก (4) อัดแท่งกากมัน อย่างน้อยแปลงละ 20 แท่ง เพ่ือให้การควบคุมอุณหภูมิ ในแปลง ไม่ใหเ้ ปลย่ี นแปลงมากเกินไป (5) โรยอาหารเสริมระหว่างชอ่ งว่างของแทง่ กากมันบาง ๆ (6) โรยเช้ือเห็ดฟางบนอาหารเสริม โดยเชื้อเห็ดฟางต้องนามาขยารวมกันก่อน อัตรา การใช้ 1 ถุง ต่อ 2 ตารางเมตร (แล้วแต่ขนาดถุง) แล้วรดน้าใหช้ มุ่ ทั่วแปลง (7) คลุมด้วยพลาสติกให้ชดิ กองใช้พลาสตกิ 1 ผนื กลบชายพลาสติกด้วยดินให้สนิท (8) คลมุ ดว้ ยฟางแหง้ (9) ทงิ้ ไวป้ ระมาณ 3-4 วัน (10) เสน้ ใยเห็ดจะเดินขาวฟใู นกอง ใหท้ าการตัดใย โดยใชน้ ้าสะอาดผสม EM และ กากนา้ ตาลรดบาง ๆ พอเสน้ ใยขาด (11) ขนึ้ โครงโดยใช้ไมไ้ ผป่ กั โคง้ ห่างกันพอควร แลว้ คลุมพลาสตกิ แบบเกยทับ 2 ผนื แล้วคลุมดว้ ยฟาง (12) หม่นั ตรวจดูอุณหภมู ใิ นกองเหด็ ถ้ารอ้ นจดั ให้เปิดข้างกองตอนเช้าหรือเยน็ คร้งั ละ 5-10 นาที แลว้ ปิดตามเดิม (13) จากน้นั ประมาณ 5-7 วนั ดอกเหด็ จะโต สามารถเกบ็ มาบริโภคและจาหน่ายได้ (14) การเก็บดอกเห็ด ควรเก็บในชว่ งเชา้ มืดและเกบ็ เมอ่ื เห็ดขนาดดอกตมู หวั แหลม จะไดน้ ้าหนักดี แต่ถา้ จะเก็บเพอื่ ทาปน่ ให้เกบ็ ดอกบานมายา่ งไฟจะอรอ่ ย (15) จะสามารถเกบ็ เหด็ ได้ประมาณ 3-5 วัน จะหมดร่นุ จากนั้นให้เปิดกองรดน้า พอ ชุม่ ปิดไวอ้ กี 5-7 วนั เห็ดจะเกดิ ดอกให้เกบ็ อกี 1 รนุ่ แต่ดอกเหด็ จะเกิดน้อย
(16) หลังเกบ็ ดอกเห็ดหมด นาเศษทีเ่ หลอื ไปหมกั ทาปุย๋ ชีวภาพต่อไป หรอื นาไปใส่ แปลงนา ไมผ้ ลแทนปยุ๋ เคมไี ด้ หรือถา้ เพาะในแปลงนาใหห้ ยอดเมลด็ ผกั แตง ถั่ว จะงอกงามดี (17) ถ้าใช้ฟางเพาะ แนะนาให้ใชต้ อซังฟางข้าวจะให้ผลผลิตดีกวา่ ปลายฟาง โดยใช้ การถอนทัง้ ราก แตฟ่ างทใี่ ชเ้ พาะต้องแหง้ สนทิ ไมเ่ คยผ่านความชืน้ หรือโดนฝนมาก่อน จะเกิดเช้อื รา เพาะเหด็ ไมข่ นึ้ โดยจะใช้ไมแ้ บบขนาดใหญข่ น้ึ ลกั ษณะเปน็ สเ่ี หลย่ี มคางหมู ขนาดฐานกว้าง 35-40 ซม. กว้าง 25-30 ซม. สูง 35-40 ซม. มีความยาว 1-1.5 เมตร ขนั้ ตอนการเพาะ (17.1) แชฟ่ างให้ชุ่มประมาณ 1 ชม. (17.2) นามากองใส่ไมแ้ บบในแปลงทขี่ ุดเตรยี มไว้ โดยวางดา้ นโคลนฟางออกดา้ น นอกสงู 3-4 นว้ิ จากนัน้ โรยอาหารเสริมรอบขอบไมแ้ บบบนฟางหน้ากวา้ ง 2 นวิ้ โรยเชอ้ื เห็ด ที่ขยา ไว้แลว้ บาง ๆ แลว้ วางฟางทาช้ันตอ่ ไปเหมอื นชนั้ ที่ 1 ทา 3-4 ช้นั ชั้นสุดทา้ ยโรยอาหารเสรมิ และเชื้อ เหด็ ให้เตม็ หลงั กอง (17.3) ปิดดา้ นบนด้วยฟางชมุ่ หนา 1-2 น้วิ ยา้ ยไมแ้ บบไปทากองต่อไปห่างจาก กองเดมิ 10-15 ซม. จนเตม็ แปลง ควรทาอยา่ งน้อย 10 กองตอ่ แปลง เพอื่ ใหอ้ ณุ หภูมิพอเหมาะ (17.4) คลมุ ดว้ ยพลาสตกิ คลุมดว้ ยฟางแห้งตรวจดคู วามชื้นในกอง ถ้าแหง้ มากให้ รดน้าบนดนิ รอบแปลง 8-10 วัน จะสามารถเก็บดอกเหด็ ได้ การเพาะดว้ ยฟางไม่ตอ้ งตดั เส้นใบและ ทาโครงไมไ้ ผ่ (17.5) หลงั จากเก็บเห็ดหมด ฟางกองเหด็ สามารถนาไปกองทาปยุ๋ หมักใช้บารุงดนิ ตอ่ ไปหรือนาไปเป็นวสั ดเุ พาะเหด็ ในถุงพลาสตกิ ต่อไป
ภาคใต้ ศูนยป์ ราชญ์ชาวบ้านปิยามมุ ัง ต้ังอยเู่ ลขที่ 111/1 หมู่ 3 บ้านปยิ ามมุ ัง ตาบลปิยามุมัง อาเภอยะหร่ิง จังหวัดปัตตานี การเพาะเหด็ ขอนไม้ วัสดุอปุ กรณ์ 1) เห็ดขอนขาว หรอื เห็ดหหู นบู ด 2) ไม้ที่นิยมใชเ้ พาะเห็ด ไดแ้ ก่ ไม้จิก ไมร้ งั ไมม้ ะมว่ ง เหด็ จะออกดอกได้ดีมาก วธิ กี าร 1) ตดั ไม้จากตน้ ไม้สดๆ หากตัดท้ิงไว้ ไม่ควรเกิน 10 คนื 2) ตัดเป็นท่อน ความยาวท่อนละ 1 เมตร 3) เจาะรูด้วยสว่าน 4 หุน เจาะลึก 2 - 3 เซนติเมตร แต่ละแถวห่างกัน 10 เซนตเิ มตร แตล่ ะรูในแถว ห่างกัน 5 เซนติเมตร 4) ใสเ่ ชอ้ื เห็ดลงไปประมาณครึง่ ของรทู ี่เจาะ 5) ปดิ รดู ว้ ยขผี้ ึง้ เหลอื ง (เอาข้ีผึ้งลนไฟให้อ่อนกอ่ น) 6) นาท่อนไม้พักเก็บไว้ในทรี่ ่วม ปล่อยท้งิ ไว้ 2 เดือน 7) ครบ 2 เดือน นาทอ่ นไมไ้ ปแชน่ า้ 1 คนื 8) เอาจอบหรือคอ้ นเคาะหวั ทา้ ยท่อนไม้ เปน็ การกระตุ้น 9) นาเข้าโรงเปดิ ดอก โดยวา่ งพิงราว ให้ท่อนไม้เอยี งประมาณ 70 องศา 10) เหด็ จะทยอยออกดอกมาเรอื่ ยๆ และเก็บไดน้ านจนขอนไม้ผุ ประมาณ 2 - 3 ปี 11) ถ้าใหด้ ี ควรมีโรงเรอื นทีม่ ุงด้วยผา้ พลาสติก และมีซาแลนคลุมด้านบน แล้วรดน้า ใหข้ อนไม้มคี วามชื้น วนั ละ 1 - 2 ครง้ั 12) ในฤดทู ี่มเี ห็ดออกดอกตามธรรมชาติ เห็ดในขอนจะออกดอกดมี าก วธิ ีใช้ นาเห็ดมาเป็นสว่ นประกอบในการปรุงอาหารรบั ประทาน ประโยชน์ ได้เห็ดทมี่ คี ณุ ภาพปลอดสารพิษรับประทาน
ศูนย์เรียนรูค้ ุณธรรมเพอื่ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ตั้งอยเู่ ลขที่ 77 หมู่ 1 ตาบลบ้านหาร อาเภอบางกลา่ จังหวัดสงขลา การเพาะเห็ดในถุงพลาสตกิ อปุ กรณใ์ นการเพาะเหด็ 1. ถุงพลาสตกิ พบั ขา้ งทนความร้อน ขนาด 7x12 หรอื 6 - 1/2x13 นิ้ว 2. คอพลาสติกสาเร็จรปู ฝาจกุ ประหยดั สาลี และสาลี 3. ยางรดั ,แอลกอฮอลฆ์ า่ เชอื้ และตะเกยี งแอลกอฮอล์ 4. หวั เชอ้ื ในเมลด็ ข้าวฟ่าง 5. โรงเรือนชั้นบอ่ กอ้ นเชื้อ และโรงเปดิ ดอก 6. อุปกรณร์ ดน้า, หวั พน่ ฝอย, บวั รดนา้ , สายยาง 7. พลัว่ , เครือ่ งช่ังน้าหนัก และหมอ้ น่ึงไม่อัดความดัน 1. ขเี้ ลอื่ ยไมย้ างพารา สูตรการเพาะเหด็ 2. รา 100 กิโลกรมั 3. ปูนขาว 6 กโิ ลกรมั 4. แป้งขา้ วเหนียว 1 กโิ ลกรัม 5. ภไู มท์ซัลเฟต 5 ขีด 6. ดีเกลือ 5 ขีด 7. ยิปซม่ั 2 ขดี 8. นา้ 2 ขดี 60 - 70 ลติ ร
วิธกี ารทาก้อนขเ้ี ลือ่ ย 1. ผสมขี้เลื่อย, รา, ปูนขาว, แป้งข้าวเหนียว, ภูไมท์, ยิปซ่ัม ผสมคุกเคล้าเข้าด้วยกัน นาดีเกลือละลายน้าแล้วผสมกับขี้เล่ือยให้ท่ัว เติมน้าลงไปให้เป็นฝอย คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ตรวจสอบให้มีความช้นื ประมาณ 60 - 70 เปอรเ์ ซ็นต์ โดยการบบี ขี้เลือ่ ยให้แน่นแล้วคลายมือออก ขี้ เลอ่ื ยควรจบั ตัวกันอยไู่ ด้ แตไ่ ม่ชน้ื จนมนี า้ ไหลออกมา และไมแ่ หง้ จนข้เี ลื่อยแตกรว่ นเมอื่ คลายมอื 2. บรรจุขี้เลื่อยในถุงพลาสติกประมาณ 900 กรัมต่อถุง แล้วอัดให้แน่นพอประมาณ รวบปากถงุ ใส่คอขวดพลาสติกดงึ ปากถงุ พบลง แล้วปิดด้วยฝาจุกประหยดั สาลี 3. นาถุงอาหารซ่ึงเตรียมเรียบร้อยแล้ว ไปเรียงในหม้อนึ่งหรือถังนึ่ง ไม่อัดความดัน เป็นเวลา 2.5 - 3 ชม. โดยนับเวลาจากน้าเริ่มเดือดและมีไอน้าพุงออกมาจากถังนึ่งท่ีเจาะรูไว้ ครบ ตามเวลาเปดิ ฝาแลว้ ท้งิ ไว้ใหก้ ้อนเย็น (ขณะน่งึ ไฟต้องสม่าเสมอ โดยมีอุณหภูมปิ ระมาณ 90 -100๐C) 4. การหยอดหัวเช้อื (ก่อนจะนามาใช้ 1 คืนควรเขย่าใหเ้ ม็ดข้าวฟา่ งกระจายออก) ล้าง มือด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเช้ือ แล้วดึงจุกออก รนปากขวดหัวเชื้อที่เปลวไฟเพ่ือฆ่าเช้ือโรค เทหัวเชื้อลง ในถงุ อาหารประมาณถุงละ 20 - 30 เมล็ด ปิดทีค่ รอบคอขวดไว้ตามเดิม การหยอดหัวเช้ือต้องทาใน ทส่ี ะอาดและไม่มลี มพัดผ่าน 5. การบ่มก้อนเชื้อ ให้นาก้อนเห็ดว่างบนชั้นในแนวตั้ง หรือถ้าสะดวกจะวางใน แนวนอนกไ็ ด้ จนเส้นใยเดนิ เต็มถงุ ใชเ้ วลาประมาณ 4 - 6 สัปดาห์ 6. การเปิดดอก ดึงฝาครอบคอขวดออกแล้วนาก้อนเห็ดซ่ึงมีเส้นใยเจริญเต็มถุงไปวาง ในโรงเรือนสาหรับเปิดดอกโดยวางซ้อนกัน รดน้าวันละ 3 ครั้ง โดยรดบริเวณด้านบนก้อนเห็ด โดย ให้ละออกน้าถูกดอกเห็ดเพียงเล็กน้อย และระวังน้าเข้าไปขังสนก้อนเห็ดอาจทาให้ก้อนเน่าได้ การ รดนา้ ควรรดบรเิ วณพน้ื และรอบๆ โรงเรือนเพือ่ เพิม่ ความชน้ื ให้กับกอ้ นเหด็ 7. การเก็บดอกเห็ดควรเก็บในช่วงเช้ามืดเพราะเป็นช่วงท่ีเห็ดโตเต็มที่ โดยการดึงช่อ เหด็ ออกมาตรงๆ ถ้ารากเห็ดขาดจะต้องเขย่ี รากออกมาให้หมดเพอื่ ปอ้ งกนั ก้อนเห็ดเน่า
ศนู ยศ์ กึ ษาและพัฒนาชมุ ชนไม้เรยี ง ตัง้ อยู่เลขที่ 141 หมู่ท่ี 2 ตาบลไม้เรียง อาเภอฉวาง จังหวัดนครศรธี รรมราช การเพาะเหด็ หหู นู สว่ นผสม 1. ราแปง้ 20 กิโลกรมั 2. ปนู ขาว 10 กิโลกรมั 3. ดเี กลือ 1 กิโลกรมั วิธที า (ในการเพาะเห็ดหหู นู) 1. จัดเตรยี มขี้เลอ้ื ยให้ไดป้ ระมาณ 1,000 ก้อน 2. ใส่ส่วนผสมดังกลา่ วทร่ี ะบไุ ว้ข้างบน (ราแปง้ ,ปูนขาว,ดเี กลอื ) 3. คลกุ เคลา้ ใหเ้ ข้ากัน พร้อมกบั คนใหเ้ ขา้ กนั อยา่ งนอ้ ย 2 รอบ 4. บรรจุใสถ่ งุ ใสค่ อมดั ยาง เรียงใสต่ ะกรา้ แลว้ อุดดว้ ยสาลี 5. นาตะกร้าทบี่ รรจุกอ้ งเหด็ ใสใ่ นท่อี บไอนา้ (เตา) 6. คอยดูแลเวลานา้ เดือดประมาณ 80 องศา คอยจับเวลาไฟประมาณ 4 - 5 ช่ัวโมง 7. นาตะกร้าที่บรรจุถุงเห็ดออกจากเตา แล้วไปเก็บไว้ในท่ีอากาศถ่ายเท เพราะก้อย เหด็ จะไดเ้ ยน็ เร็วขึน้ 8. เม่ือก้อนเห็ดเย็นได้ที่แล้วจึงทาการหยอดเชื้อเห็ด (คนท่ีหยอดเช้ือเห็ดต้องล้างมือ ดว้ ยแอลกอฮอร์ทกุ ครั้งทงั้ กอ่ นและหลังหยอดเชอ้ื เห็ด) 8. เมื่อก้อนเห็ดเย็นได้ที่แล้วจึงทาการหยอดเช้ือเห็ด (คนท่ีหยอดเชื้อเห็ดต้องล้างมือ ดว้ ยแอลกอฮอร์ทุกครง้ั ทัง้ ก่อนและหลังหยอดเชอ้ื เห็ด) 9. หลังจากการหยอดเชอื้ เห็ดแลว้ ถงุ เหด็ ตอ้ งปิดด้วยกระดาษ 10. ขนเข้าไปเก็บเรียงไว้ในโรงบม่ วธิ ที า ขั้นตอนในการบ่มรกั ษาก้อนเหด็ ทีห่ ยอดเช้อื แล้ว 1. ก้อนเห็ดนาไปเรยี งต้งั ไว้ 2. รอประมาณ 1 เดือน เชื้อจะเดนิ เต็มก้อนเหด็ 3. ในระยะเวลาท่ีเชอ้ื เดนิ ถงึ บ่า หา้ มทาการโยกย้ายอยา่ งเดด็ ขาดเพราะเช้ือจะไม่เดนิ
วธิ ีทา ขัน้ ตอนกรดี เห็ด 1. พอครบ 1 เดอื น ถอดคอถึงสาลแี คะเช้อื ทงิ้ ให้หมด 2. กรีดก้อนมดั เป็นพวงแลว้ แตว่ า่ สงู ประมาณกก่ี อ้ น 3. นาไปแขวนบนราวแขวนทเี่ ตรียมไว้ 4. หลังขากแขวนแล้ว รดนา้ ใสพ่ น้ื ใหท้ ่วั ถึงแต่อย่าให้นา้ โดนกอ้ นเหด็ 5. ระยะเวลาประมาณ 7 - 10 วนั เรมิ่ โปรยละอองน้าขา้ งบน (อยา่ ฉีดน้าใสก่ ้อนเห็ด) 6. สังเกตแผลรอยกรีดวา่ เกดิ ดงิ่ ออกมา แล้วค่อยเพ่ิมน้าข้ึนตามลาดับ 7. หลังกรีดแลว้ ประมาณ 22 - 24 วัน เรมิ่ เก็บดอกเห็ดชดุ แรก 8. ชดุ ต่อไป 1 อาทิตย์เก็บครัง้ 9. หลังจากเก็บดอกเห็ดแล้ว โปรยน้าเบาๆพอให้เห็ดได้น้า ยังไม่ต้องให้มาก จนเกินไป รอจนแผลท่ีเก็บไปชุดแรกเร่ิมออกดอกใหม่ (หมายเหตุแผลท่ีเก็บดอกไปอย่าให้โดนน้า เข้ามากเพราะจะทาให้เป็นราเขยี ว) 10. การให้น้าอย่างน้อยวันละ 3 คร้ัง หรือ 2 ชัว่ โมงตอ่ 1 คร้ัง
Search